Tag: บังเกอร์
-
สองคู่รักเปลี่ยนบังเกอร์นิวเคลียร์ในยุคสงครามเย็น ให้กลายเป็นห้องเช่า Airbnb สุดหรู!!
Ed และ Dianna Peden สองสามีภรรยาผู้มีหลุมหลบภัยภายในบริเวณบ้าน ได้ตัดสินใจเปลี่ยนบังเกอร์หลบภัยให้กลายเป็นห้องเช่า Airbnb สุดหรู จนใครเห็นก็ต้องไม่เชื่อสายตาตัวเองว่า เฮ้ย!! ที่นี่เคยเป็นบังเกอร์มาก่อนอย่างนั้นเหรอ… Subterra Airbnb ของพวกเขานั้นตั้งอยู่ที่รัฐแคนซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเดิมที่บังเกอร์ดังกล่าวนั้นถูกสร้างไว้หลบภัยจากระเบิดนิวเคลียร์เมื่อ 60 ปีก่อน แต่ปัจจุบันมันก็ถูกคู่รักเปลี่ยนให้มันกลายเป็นห้องเช่า Airbnb สุดหรูในราคา 133 ดอลลาร์สหรัฐต่อคืน หรือตีเป็นเงินไทยก็ราวๆ 4,335 บาทนั่นเอง สภาพภายนอกของ Subterra Airbnb Mathew Fulkerson และ Leigh Ann สองสามีภรรยาผู้ที่จะมารับหน้าที่พาเราไปชมห้องพักสุดเจ๋งนี้กัน ด้วยพื้นที่ใช้สอยกว่า 133,546 ตารางเมตร พร้อมกับห้องหลบภัยมากมาย การตกแต่งแต่ละห้องให้เป็นห้องพักสวยๆ จึงไม่ยากเลยที่จะเปลี่ยนมันให้กลายเป็นห้องเช่า แต่ใช่ว่าพวกเขาจะทำการตกแต่งมันใหม่จนหมดซะทีเดียว เพราะหลายส่วนก็ยังหลงเหลือความเป็นที่หลบภัยแบบยุคเก่าอยู่นั่นเอง จากตรงนี้เราจะเห็นว่ามันคือหลุมหลบภัยจริงๆ นะดูสิ แต่พอเข้ามาข้างในแล้วต้องร้อง โอ้โห่ววววว ห้องนอนก็ดูหรูหราไม่ธรรมดาเลย ทุกอย่างยังมีความคลาสสิกของมันอยู่ นอกจากตัวหลุมหลบภัยที่กลายเป็นห้องพักแล้ว ข้างบนก็ยังมีพื้นที่ใช้สอยเยอะแยะรวมถึงสามารถรับชมวิวรอบได้ด้วย แค่นี้ก็ฟังดูน่าสนใจแล้วใช่ไหมล่ะ? ด้านบนก็มีพื้นที่ให้นั่งจิบชาชิวๆ ไม่ต้องอยู่แต่ในหลุมหลบภัยเพียงอย่างเดียว ห้องรับรองข้างบนก็ตกแต่งได้สวยงาม …
-
หากกลัวสงครามโลกครั้งที่ 3 ต้องรีบซื้อบังเกอร์หลบภัย แม้แต่นิวเคลียร์ก็ยังทำอะไรไม่ได้
เป็นข่าวหนาหูกันมากๆ กับสถานการณ์ความตึงเครียดระดับโลกในตอนนี้ ระหว่างอเมริกาและเกาหลีเหนือ ที่อาจจะปะทุเกิดเป็นสงครามโลกขึ้นมาได้ทุกเมื่อ แต่สิ่งที่เราจะพูดถึงไม่เกี่ยวกับเรื่องเหตุการณ์ดังกล่าวโดยตรงหรอก เพราะเราจะมาดูบังเกอร์ที่ใช้หลบภัย ถ้าหากเกิดสงครามโลกขึ้นมาจริงๆ ต่างหาก บังเกอร์หลบภัยสุดหรูที่เราจะได้ดูกันนี้ แรกเริ่มเดิมทีมันเป็นหลุมหลบภัยของทางกองทัพทหารอเมริกา ซึ่งอยู่ในรัฐจอร์เจีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ตัวบ้านที่ว่าประกอบด้วยกำแพงที่หนาเกือบ 1 เมตร ระบบระบายอากาศ ห้องปฐมพยาบาล ระบบกล้องวงจรปิดชั้นดี รวมถึงระบบน้ำที่สะอาดก็มีเช่นกัน ในปี 2015 ตัวบังเกอร์หลบภัยนี้ได้เปิดขายในตลาดด้วยราคา 17.5 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราวๆ 600 ร้อยล้านบาท) แถมนอกจากตัวฟังก์ชั่นดังที่กล่าวไปแล้ว ตัวบังเกอร์นี้ยังมีคุณสมบัติสามารถกันระเบิดนิวเคลียร์ขนาด 20 กิโลตันได้ด้วย ไม่หมดแค่นั้น ตัวบังเกอร์ยังสามารถต้านทานได้ทุกภัยภิบัติ ทั้งแผ่นดินไหว สภาพอากาศหนาวและอื่นๆ อีกมากมาย ตัวบังเกอร์ยังมีพื้นที่ใช้สอยถึง 1,300 ตารางเมตรและมีสองชั้นด้วยกัน และเมื่อปี 2012 บังเกอร์แห่งนี้ก็ได้ถูกปรับแต่งใหม่ด้วยเฟอร์นิเจอร์สวยหรูมากมาย แบ่งส่วนต่างๆ เป็นห้องนอน ห้องน้ำ ห้องครัวและอื่นๆ ที่จำเป็นอย่างครบครัน เรียกได้ว่าถ้าซื้อไปก็อยู่อย่างสบายไม่ต้องกลัวภัยอะไรมาทำร้ายเราได้เลยทีเดียว ก็เอาเป็นว่าถ้าใครมีเงินมากพอและสนใจอยากจะใช้ชีวิตอย่างปลอดภัยแล้วล่ะก็…
-
แก๊งชายหกเปลี่ยน “หลุมหลบภัยนิวเคลียร์” เป็นทุ่งกัญชา 50 ล้าน ตำรวจอึ้งเอ็งทำกันได้ (-*-!!)
ไม่รู้จะเรียกว่าหัวการค้าหรืออะไรดี สำหรับแก๊งชายฉกรรจ์หกคนได้เปลี่ยนหลุมหลบภัยระเบิดนิวเคลียร์สมัยสงครามเย็นให้กลายเป็นแปลงเพาะกัญชาในร่มสุดไฮเทคมูลค่ากว่า 50 ล้านบาท ก่อนจะถูกตำรวจจับกุมในเวลาต่อมา เรื่องราวเกิดขึ้นที่เมืองชิลมาร์ก มณฑลวิลต์เชียร์ ประเทศอังกฤษ เมื่อทางตำรวจได้สืบทราบว่ามีการลักลอบปลูกกัญชาในหลุมหลบภัยสมัยสงครามเย็น พวกเขาจึงระดมกำลังเข้าไปล้อมจับกุมหลุมหลบภัยแห่งนั้น พวกเขาสามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้ทั้งหมดหกราย ประกอบไปด้วยชายฉจรรย์หกคนอายุตั้งแต่ 15 ปี ถึง 45 ปี เมื่อตำรวจเข้าไปสำรวจภายในหลุมหลบภัย พวกเขาก็พบว่าแทบทุกบริเวณ ถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นแปลงปลูกต้นกัญชา พร้อมทั้งมีการติดตั้งระบบน้ำและหลอดไฟแสงอัลตร้าไวโอเลตเพื่อให้ต้นกัญชาสามารถเจริญเติบโตได้แม้อยู่ใต้ดิน “ภายในบังเกอร์หลบภัยนี้มีห้องอยู่ประมาณ 20 ห้อง แบ่งเป็นสองชั้น กว้าง 70 ฟุต ยาว 200 ฟุต แทบทุกห้องกลายเป็นแปลงปลูกต้นกัญชา มันเป็นจำนวนที่มหาศาลมากๆ ” “ตอนนี้เรายังไม่รู้ว่ามันมีจำนวนทั้งหมดกี่ต้น และเรายังไม่สามารถตรวจสอบตอนนี้ได้ แต่ดูแล้วน่าจะมีมูลค่าประมาณ 1 ล้านปอนด์ (50 ล้านบาท)” “ถือว่าเป็นแหล่งผลิตกัญชาที่ใหญ่ที่สุดในมณฑลวิลต์เชียร์เท่าที่เคยมีการตรวจพบมาเลย” Paul Franklin หนึ่งในเจ้าหน้าที่สืบสวนกล่าว สภาพด้านใน . โดยบังเกอร์ดังกล่าวถูกสร้างขึ้นช่วงปี 1980 เพื่อให้รัฐบาลท้องถิ่นใช้ในการหลบภัยระเบิดนิวเคลียร์ ภายหลังหลุมหลบภัยดังกล่าวถูกทิ้งร้าง จนมีการลักลอบเข้าไปปลูกกัญชาในท้ายที่สุด..…