Tag: บิน
-
เผยเทคนิคถ่ายภาพ ‘อาหารบินได้’ ไม่ยากอย่างที่คิด แค่มีสลิงบางๆ และเวลาว่าง!!
เวลาที่เราเห็นภาพโฆษณาอาหารอันน่าตื่นเต้น ที่แยกส่วนประกอบของอาหารออกมาทีละส่วน และนำเข้ามาประกบกันในช่วงเวลาเพียงเสี้ยววินาที แถมจัดเรียงตัวกันได้อย่างสวยงาม หลายคนคงสงสัยในแง่ความเป็นจริงแล้วมันจะเป็นไปได้ขนาดนั้นเชียวหรือ!? แน่นอนว่าทั้งหมดนี้ คือการจัดองค์ประกอบภาพถ่าย ฉะนั้นแล้วจะต้องมีการวางแผนองค์ประกอบแต่ละส่วนมาเป็นอย่างดี ถ้าให้เป็นภาพนิ่งก็จะสบายหน่อย เพราะคุณจะใช้อุปกรณ์เพียงไม่กี่อย่าง บวกกับทักษะการตัดต่อและเวลาอีกเล็กน้อย… เทคนิคอาหารบินได้ ลอยกลางอากาศนั้น ถูกเปิดเผยโดยช่างภาพ Skyler Burt เขาได้อัดวิดีโอคลิปสอนถ่ายภาพความยาวประมาณ 5 นาที โดยยกตัวอย่างโฆษณาเบอร์เกอร์ ที่เผยให้เห็นส่วนประกอบทั้งหมดของอาหารที่แยกออกจากกัน ทั้งนี้การเริ่มต้นถ่ายภาพที่สมบูรณ์จะต้องวางแผนไว้ 3 ขั้นตอน คือ ภาพของส่วนอาหาร จะต้องขึงกับสลิงบางใส นำแต่ละชิ้นส่วนมาวางบนสลิง แล้วถ่ายภาพเก็บเอาไว้ ส่วนขั้นที่ 2 คือการถ่ายภาพ บุคคลนำจานมาวางรองอาหาร แสดงลักษณะเหมือนรออาหารตกลงสู่จาน และขั้นตอนที่ 3 ก็คือการถ่ายภาพพื้นหลังเพียงอย่างเดียว เมื่อได้ภาพทั้ง 3 แบบแล้ว จึงนำมาเข้าสู่กระบวนการตัดต่อ ลบเส้นสลิงออก และนำภาพถือจานและภาพพื้นหลังมาผสานกัน จึงจะได้ออกมาเป็นภาพถ่ายอาหารบินได้อย่างสมบูรณ์ ภาพสุดท้ายที่ผ่านกระบวนการตัดต่อเสร็จเรียบร้อยแล้ว…
-
กระทะฟ้าประทาน หล่นใส่หัวคุณตาเข้าอย่างจัง แต่โชคดีที่ไม่ถึงกับสลบและรอดมาได้!!
เคยมีความรู้สึกระแวงในระหว่างการเดินกลางแจ้งหรือไม่ เป็นกังวลในใจว่าจะมีอะไรตกมาใส่หัวเรารึเปล่า ที่เคยคิดในแง่ร้ายมากที่สุด และมีโอกาสเกิดขึ้นมากที่สุดก็คงจะเป็น ‘ขี้นก’ จากเสาไฟฟ้ากระมัง? สำหรับคุณตาวัย 81 ปี จากมณฑลเสฉวน กลับเจออะไรที่หนักยิ่งกว่านั้น เพราะในระหว่างที่คุณตากำลังเดินเนิบๆ กลับบ้าน ก็โดนของแข็งตกใส่หัวเข้าอย่างจัง!! เหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2018 ณ เล่อซาน มณฑลเสฉวน ในขณะที่คุณตา Wang Juqing กำลังจะเดินกลับบ้านเพื่อไปให้ทันมื้อเย็น เขากลับไปไม่ถึงบ้านแต่ต้องไปโรงพยาบาลแทน ภายในเวลาเสี้ยววินาทีเดียว จู่ๆ กระทะหล่นใส่หัวคุณตาแบบไม่ทันตั้งตัว ซึ่งคาดว่าน่าจะตกมาจากอาคารที่พักอาศัยในบริเวณใกล้เคียงกัน… คุณตาเองก็ยังเกิดอาการงง แต่เจ็บปวดที่บริเวณศีรษะอย่างรุนแรง ประชาชนที่ผ่านไปมาจึงรีบเข้ามาให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นพร้อมกับเรียกรถพยาบาลให้ โชคดีที่คุณตาเข้ารับการรักษาได้ทันเวลา ได้รับการเย็บรักษาไปทั้งหมด 17 เข็ม แต่ก็เป็นโชคร้ายของบรรดาญาติๆ ที่ต้องเจอกับค่ารักษาอันแพงหูฉี่ ‘ผมกำลังเดินกลับบ้านไปกินข้าวเย็น แล้วโดนกระทะตกใส่หัวจังๆ’ คุณตาให้สัมภาษณ์กับสื่อ ในเบื้องต้น ยังไม่มีใครแสดงตัวออกมารับผิดชอบกับกระทะลอยฟ้าชิ้นนี้ และไม่มีใครให้ข้อมูลเบาะแสใดๆ เลย…
-
นกกระสาหนุ่มบินไกลกว่า 14,000 กิโลเมตรทุกปี เพื่อกลับไปหาคู่รักที่ปีกหักบินไม่ได้
ความรักระยะไกลเป็นสิ่งที่รักษาเอาไว้ได้ยาก ด้วยระยะทางที่ห่างกันทำให้แต่ละฝ่ายต่างก็รู้สึกเหงา แถมยังมีโอกาสให้พบเจอคนอื่นอีกมากมายโดยที่อีกฝ่ายแทบไม่มีทางรู้เลย ก็เลยเป็นรูปแบบความสัมพันธ์ที่เปราะบาง แต่สำหรับนกกระสา Klepetan กับ Malena พวกมันยังรักกันมั่นคงกว่า 20 ปีแม้จะอยู่ห่างกัน Malena เป็นนกกระสาสาวในหมู่บ้าน Brodski Varos ซึ่งอยู่ในประเทศโครเอเชีย มันมีนกกระสาหนุ่มคู่ใจแล้วซึ่งก็คือ Klepetan แต่ว่า Malena ถูกยิงที่ปีกจนทำให้มันไม่สามารถบินได้อีก ตั้งแต่นัั้นเป็นต้นมามันก็ได้รับความเมตตาจาก Stjepan Vokic ชายหนุ่มที่อาศัยอยู่ในแถบนั้น เขาสงสารมันก็เลยเก็บเอามันมาเลี้ยงไว้ โดยสร้างรังให้มันบนหลังคา และทำบ่อน้ำไว้ให้มันเล่นด้วยเพื่อให้มันรู้สึกเหมือนอยู่ตามธรรมชาติมากที่สุด Malena นกกระสาปีกหัก ถึง Malena จะได้ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในความดูแลของชายหนุ่ม แต่มันก็ไม่สามารถบินไปไหนมาไหนกับ Klepetan ได้อีก มันก็เลยถูกทิ้งไว้ที่นี่โดยลำพัง ในขณะที่นกกระสาหนุ่มรวมทั้งฝูงของมันบินอพยพไปยังทวีปแอฟริกาในฤดูหนาว อย่างไรก็ตาม Klepetan ไม่ได้ตั้งใจทิ้งแฟนของมันไว้ตลอดกาล ในฤดูใบไม้ผลิของทุกปีมันจะบินไกลกว่า 14,000 กิโลเมตรกลับมาที่ประเทศโครเอเชีย แล้วมาอยู่กับ Malena จนกว่าจะถึงเวลาบินอพยพอีกครั้งหนึ่ง Klepetan จะบินกลับมาหาแฟนของมันทุุกฤดูใบไม้ผลิ พวกมันทำแบบนี้มานานกว่า 24 ปีแล้ว ดูท่าว่า Klepetan จะรักแฟนของมันมากเลย…
-
อวกาศเปลี่ยน DNA ของนักบินอวกาศ เป็นเหตุให้ทั้งคู่ไม่ใช่ฝาแฝดกันอีกต่อไป
นอกโลกยังมีสิ่งแปลกๆ ที่เรายังไม่ได้ค้นพบอีกมากมาย ไม่ใช่เฉพาะการสำรวจเท่านั้น ยังมีสิ่งที่เปลี่ยนแปลงในตัวเรา ในตอนที่เราออกไปนอกโลกอีกด้วย ซึ่งน้อยคนนักที่จะเคยมีประสบการณ์แบบนี้ เรื่องราวที่น่าสนใจนี้เกิดขึ้นกับนักบินอวกาศนามว่า Scott Kelly ที่ได้กลับมาสู่พื้นโลกหลังจากออกไปทำงานที่สถานีอวกาศนานาชาตินานหนึ่งปี และเขาพบว่า DNA ของเขาเปลี่ยนไปแล้ว Scott มีแฝดชื่อว่า Mark ซึ่งทั้งคู่เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาของนาซ่าเกี่ยวกับฝาแฝด โดยมีภารกิจให้ Scott ออกไปทำภารกิจนอกโลก ส่วน Mark ซึ่งเป็นนักบินอวกาศเหมือนกัน แต่ปฏิบัติงานอยู่บนโลก เพื่อดูการเปลี่ยนแปลงของร่างกายและจิตใจ ซึ่งจากการศึกษามาตั้งแต่ปี 2015 ตอนนี้ก็ได้ผลออกมาแล้วว่ามียีนส์ประมาณ 7% ของ Scott ที่เปลี่ยนไปหลังจากกลับมาที่พื้นโลก นั่นหมายความว่าเขานั้นไม่ได้เป็นฝาแฝดกับ Mark อีกต่อไป ยีนส์บางส่วนของเขานั้นก็กลับมาเป็นปกติเมื่อกลับมาถึงโลก บางส่วนก็ใช้เวลากว่า 6 เดือนกว่าที่จะกลับมา และบางส่วนก็ไม่กลับมาเลย Scott ได้ขึ้นไปสถานีอวกาศนานาชาติถึงสองครั้งเพื่อทำการศึกษา โดยระยะเวลาการอยู่อาศัยต่างกัน แล้วรอดูว่าระยะเวลาจะมีผลต่อความสามารถและการทำงานของเขาหรือไม่เมื่อเทียบกับอีกคนที่ทำงานอยู่บนโลก พวกเขาพบว่าการเพิ่มระยะเวลาปฏิบัติภารกิจจากปกติ 6 เดือน มาเป็น 1 ปี ไม่ได้ส่งผลให้การทำงานลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญระหว่างที่อยู่บนยาน เมื่อเทียบกับอีกคนที่อยู่บนพื้นโลก แต่อย่างไรก็ตามก็มีรายงานว่าความเร็วและความถูกต้องในการทำงานลดลงหลังจากลงจากยานแล้ว ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าเป็นเพราะแรงโน้มถ่วงของพื้นโลกเลยทำให้ต้องปรับตัว รวมถึงตารางงานอันยุ่งเหยิงของ Scott…
-
10 เรื่องที่คนเข้าใจผิดเกี่ยวกับประเทศ “เยอรมนี” อ่านเพิ่มเติมความรู้ ไปเล่าให้เพื่อนฟังได้อีก!!
ต้องบอกตามตรงว่า นอกจากเทศกาลเบียร์ระดับโลกอย่าง Oktoberfest ในเมืองมิวนิคแล้ว เราก็ไม่รู้อะไรอีกเลยเกี่ยวกับประเทศนี้… แต่บ่อยครั้งที่เรามักจะได้ยินเสียงลือเสียงเล่าอ้างเกี่ยวกับประเทศเยอรมนีกันมาบ้าง ไม่ว่าจะเป็น.. ความไร้อารมณ์ขันของผู้คน หรือความจริงจังขึงขังในการใช้ชีวิต เอาเป็นว่าเราไปทำความรู้จักกับประเทศนี้ที่มีอะไรมากกว่าเรื่องราวของฮิตเลอร์ กันเลยดีกว่า 1. ภาษาเยอรมันดูรุนแรง ในความเป็นจริงแล้วภาษาเยอรมันที่ผู้คนใช้กัน ไม่ได้มีท่าทีที่ดูจริงจังเหมือนคนโมโหร้ายตลอดเวลา เพราะพฤติกรรมแบบนั้นก็คงมีแต่คนหัวรุนแรงเท่านั้นเอง ในส่วนของความเป็นจริงนั้นผู้คนก็ยังใช้ภาษาพูดกันอย่างสุภาพนุ่มนวล 2. เยอรมนีมีทางหลวงพิเศษ (autobahn) ที่ไม่จำกัดความเร็ว ที่ประเทศเยอรมนีจะมีทางหลวงพิเศษที่เรียกว่า autobahn ซึ่งตามกฎหมายแล้วบนทางหลวงเส้นนี้จะไม่มีการจำกัดความเร็วแทบทั้งหมด คนจึงคิดว่าไม่จำกัดความเร็วเลย แต่ที่จริงแล้วจะมีเพียงประมาณ 40% ของเส้นทางหลวงพิเศษเท่านั้น ที่จำกัดความเร็วอยู่ที่ประมาณ 90 – 120 กม./ชั่วโมง 3. คนเยอรมนีดูหยาบคายและดุร้าย แม้ว่าภายนอกคนเยอรมันอาจจะดูเหมือนคนหน้าบึ้ง แต่เอาจริงๆ แล้วพวกเขาไม่ใช่คนหยาบคาย กลับกันนั่นคือสิ่งที่เรียกว่าความจริงใจ ความตรงไปตรงมาไม่อ้อมค้อม และความนับถือเชื่อใจกัน พวกเขาแค่ยิ้มยากกว่าคนไทยเท่านั้นเอง 4. คนเยอรมันชอบใส่ชุด Dirndl and Lederhosen (แบบที่เห็นในโฆษณาเบียร์นั่นแหละ) ก็คงอารมณ์คล้ายๆ กับเวลามีฝรั่งมาถามคนไทยว่า.. ‘ยูใส่ชุดไทยตลอดเลยรึเปล่า?’ เพราะเอาจริงๆ แล้วชุดดังกล่าวมาจากวัฒนธรรมฝั่งแคว้นบาวาเรีย และหากเทียบตามจำนวนประชากรแล้ว คนบาวาเรียนจะมีอยู่แค่…
-
เจ้านกพยายามโผบิน แต่โดนเส้นขนพันขารั้งเอาไว้ จนต้องแลนด์ดิ้งลงบนมือมนุษย์…
ดูเหมือนว่าธรรมชาติจะออกแบบมาให้มนุษย์ คอยทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยเหลือเหล่าสัตว์โลกแน่ๆ เพราะนี่ก็เป็นอีกครั้งที่พวกมันมาร้องขอให้มนุษย์อย่างเราๆ ช่วย เรื่องราวนี้ถูกบอกเล่าผ่านเว็บไซต์ TheDodo ซึ่งเป็นเรื่องราวของเจ้านกน้อยสีน้ำเงิน ที่ไม่รู้ไปบินอีท่าไหนเข้าถึงต้องวิ่งแจ้มาให้มนุษย์ช่วย นี่คือเจ้านกสีน้ำเงินจิ๋วผู้น่ารัก เป็นวันอากาศดีๆ ที่ Paige Herriott ออกไปเดินเล่นในสวนหลังบ้านของเธอ ในขณะที่เธอกำลังยืนชื่นชมต้นไม้และใบหญ้าอยู่นั้น จู่ๆ ก็มีเสียงหล่นลงมาดังตุ๊บบบ..!! ทันทีที่เธอเหลือบสายตาข้างซ้ายหันเฉียงไปมองทางขวา เธอก็สังเกตเห็นนกน้อยสีน้ำเงินที่พยายามจะกระพรือปีกบินราวกับวัยรุ่นที่เพิ่งรู้จักคำว่า ‘ปลีกกล้าขาแข็ง’ ยังไงยังงั้น “ฉันตกใจมากๆ เลยค่ะ ตอนแรกที่มันตกลงมาเรานึกว่ามันจะไม่รอดแล้วซะอีก แต่พออุ้มมันขึ้นมาก็เห็นว่ามันยังปลอดภัยดี แต่แค่บินไม่ได้เพราะมีเส้นขนบางอย่างติดอยู่” Paige Herriott หลังจากนั้นเจ้านกน้อยก็ได้รับการช่วยเหลือ ตอนนี้ไม่มีขนอะไรมารั้งตัวมันไว้อีกแล้ว ซึ่งเธอก็คาดหวังจะให้มันบินกลับไปยังถิ่นที่มันจากมา แต่กลับไม่เป็นอย่างนั้น “ฉันปล่อยแล้วเขาก็ไม่ยอมไปค่ะ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะทำยังไงดี แต่พอได้เอาอาหารเม็ดมาซื้อให้มันแล้ว ฉันก็รู้ทันทีเลยว่ามันต้องหิวมากแน่ๆ” Herriott กล่าว ดูเหมือนว่าตามธรรมชาติของเจ้านกนั้น มันอาจจะต้องใช้เวลาในการจูนหาคลื่นสัญญาณเพื่อติดตามฝูงบินของมัน และหลังจากที่มันได้ทานอาหารอันโอชะจากมนุษย์ผู้ใจบุญ มันก็ทำหน้าเชิ่ดใส่ให้ถ่ายภาพ 1 ครั้ง ก่อนจะบินจากไปแบบสวยๆ…. และสุดท้ายมันก็ได้ทิ้งคำพูดสุดซึ้งไว้ว่า… “อย่าลืมกดแชร์ด้วยนะ!!” ที่มา:…
-
น่าร๊าก..ชูการ์ไกรเดอร์น้อย โชว์โผบินและแลนดิ้งบนมือมนุษย์ ได้พอดิบพอดี!!
ไม่มีอะไรมากหรอก แค่วันนี้ #จ่าสิบเหมียว ก็แค่อยากจะพาเพื่อนๆ ไปดูโมเม้นท์สุดน่ารักของเจ้าชูการ์ไกรเดอร์ตัวน้อยที่บินแลนดิ้งใส่มือของเจ้าของๆ มันได้พอดิบพอดีแบบไม่มีที่ติ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะเนี่ยกว่าจะทำได้แบบนี้!! เกร็ดความรู้… Sugar Glider หรือเจ้าชูการ์ไกรเดอร์นั้น ไม่ใช่บ่าง ค่าง หรือกระรอกบินอย่างที่ใครๆ คิด แต่เป็นสัตว์สายพันธุ์มาซูเปียว (Marsupial) ที่เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดหนึ่ง ตัวเมียจะมีกระเป๋าหน้าท้อง เหมือนจิงโจ้หรือหมีโคอาล่านั่นเอง ส่วนสาเหตุที่ได้ชื่อว่า ‘ชูการ์ไกรเดอร์’ นั้น มาจากพฤติกรรมการกินที่ชอบทานอาหารรสหวาน และชอบร่อนจากยอดไม้หนึ่งสู่อีกยอดหนึ่งจึงได้ชื่อมาแบบนี้ และที่สำคัญที่สุด พวกมันไม่ใช่กระรอกบินนะจ๊ะ!!! ในคลิปวิดีโอจะเห็นว่าเจ้าชูการ์ไกรเดอร์ตัวนี้กำลังเตรียมร่อนมาใส่มือเจ้านายของมัน แลนดิ้งได้แบบเพอร์เฟ็คต์!! รับชมกันแบบเต็มๆ ได้ที่นี่เลย และถ้ายังไม่จุใจละก็ มาดูการฝึกบินของเจ้าตัวนี้กันด้วยดีกว่า น่ารักมว๊ากกก >< และถ้าชูการ์ไกรเดอร์เจอเข้ากับเจ้าเหมียวล่ะ!? เหมือนเจ้าเหมียวจะไม่ค่อยชอบและเกร็งๆ นะเนี่ย ต้องไปปรับความเข้าใจกันภายหลังซะหน่อยแล้วล่ะ >< ข่าวดีก็คือ น่ารักแบบนี้มีขายในไทยนะเออ แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าราคาตอนนี้อยู่ที่ประมาณเท่าไหร่ ใครที่มีคลิป มีภาพน่ารักๆ ก็แชร์อวดเพื่อนๆ กันได้เลยน้าาา ที่มา: Dailymail, sugargliderthais
-
นักบินเก็บภาพ “พายุฝนฟ้าคะนอง” สุดอลังการ บนความสูง 37,000 ฟุต!!!
ปกติแล้วเวลาฝนตกหนักตอนอยู่บนเครื่องบินมันเป็นอะไรที่หวั่นใจนิดๆ ถึงแม้ว่าเราจะเชื่อใจกัปตันมากแค่ไหนก็ตาม แต่เวลาเครื่องสั่นๆ มันก็น่ากลัวอยู่ไม่น้อยเลย และครั้งนี้นักบินจาก Ecuador Airlines และช่างภาพ Santiago Borja ก็ได้บินไปด้วยกัน พร้อมกับทำภารกิจที่ใครๆ ก็ไม่กล้า นั่นก็คือตามถ่ายภาพพายุฝนฟ้าคะนองจากมุมสูงเหนือเมฆกว่า 37,000 ฟุต เหนือมหาสมุทรแปซิฟิกทางตอนใต้ของปานามา ภาพที่เราจะได้เห็นนั้นถือว่าหาดูยากมากๆ เลย เพราะว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะบินขึ้นไปได้สูงขนาดนั้นท่ามกลางพายุ อีกทั้งช็อตที่ฟ้าผ่ามันก็เร็วมากๆ พวกเขาไม่มีขาตั้งกล้องด้วย และนี่ก็คือภาพที่เขาได้ถ่าย เป็นอะไรที่สวยงามอลังการมากๆ นอกจากนี้เมื่อปีที่แล้ว Santiago ก็เคยไปถ่ายภาพแบบนี้มาเหมือนกัน ภาพนี้ถ่ายที่เวเนซูเอล่า บอกเลยว่ามันสวยซะจนพูดไม่ออกจริงๆ ถ้าชอบผลงานของเขาก็ไปติดตามต่อได้ที่ santiagoborja.com | Instagram และก่อนหน้านี้ เว็บเราเคยนำเสนอเกี่ยวกับนักบินอวกาศ Scott Kelly จากนาซ่าถ่ายภาพมุมมองจากนอกโลกอันงดงามมาอีกด้วย ตามไปดูบทความเต็มๆได้ที่นี่ . . . ที่มา washingtonpost
-
หญิงสาวพลาดทำ “เครื่องตัดหญ้าโดนกบ” ขึ้นเครื่องบินกว่า 1,000 กม. เพื่อหาหมอเฉพาะทาง!!
หลายคนที่เคยใช้เครื่องตัดหญ้า ก็คงเคยมีประสบการณ์ตัดโดนสิ่งมีชีวิตโดยไม่ได้ตั้งใจ วินาทีนั้นเป็นอะไรที่รู้สึกผิดเป็นอย่างมาก Min Tims จากเมืองควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลียก็เพิ่งประสบกับเหตุการณ์นี้มาเลย เธอได้เผลอทำเครื่องตัดหญ้าไปโดนใส่กบ จนต้องพามันไปหาหมอ โดยต้องเดินทางไกลถึง 1,000 กิโลเมตรเลยทีเดียว ทั้งหมดนี้เป็นอุบัติเหตุที่เธอไม่ได้ตั้งใจและเธอรู้สึกผิดเป็นอย่างมาก อีกทั้งกบตัวนี้เป็นกบที่ค่อนข้างหายากในประเทศออสเตรเลียด้วย และดูจากบาดแผลของมันแล้วค่อนข้างหนักพอสมควร เธอจึงตัดสินใจพาไปโรงพยาบาลที่ชื่อว่า Safe Frog ทันที เมื่อคุณหมอดูอาการแล้ว บอกเลยว่าหนัก เพราะเนื้อเยื่อฉีกขาดเยอะมาก และมีการติดเชื้อ โชคยังดีที่ได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด ทำให้มันอาการดีขึ้น เหตุการณ์นี้ทำให้หลายคนถึงกับงงเลยว่ากบตัวแค่นี้ถึงกับต้องลงทุนบินมาไกลเพื่อเอามารักษาเลยเหรอ!? แต่เธอก็ได้ตอบไปอย่างสวยๆ ว่า “ความเมตตาและความเห็นอกเห็นใจทุกสิ่งทุกอย่าง คืออนาคตของโลกใบนี้ ถ้าเรายังเมินเฉยต่อสิ่งที่ต้องการความช่วยเหลือ แม้กระทั่งสัตว์ตัวเล็กๆ สุดท้ายแล้ว เรานี่แหละจะเป็นสายพันธุ์ที่ไม่ควรได้รับการช่วยเหลือ” ที่มา boredpanda
-
นกฮูกที่บาดเจ็บเกือบตาย จำได้ว่า ‘ชายคนนี้แหละ’ ช่วยชีวิตมัน บินโผกอดอย่างอบอุ่น!!
วันนี้ #เหมียวสามสีจะพาทุกท่านมาพบกับอีกหนึ่งสัตว์โลกที่เราไม่ค่อยได้เห็นกันบ่อยนัก นั่นก็คือนกฮูกนั่นเอง แต่ตัวนี้มันต่างไปจากตัวอื่น เพราะว่ามันมีความน่ารักสูงมาก นี่คือเจ้า GiGi นกฮูกที่เคยเกือบตาย จากการถูกรถชนและมีบาดแผลที่น่ากลัวมาก จนกระทั่งได้มีหน่อยช่วยชีวิตจาก Wild at Heart Rescue ในมิสซิซิปปี้ ได้เข้ามาช่วยและรักษามันจนหายดี ผู้ก่อตั้ง Missy Dubuisson เล่าว่า “นกตัวนี้ถือว่าอาการหนักที่สุดเท่าที่เคยทำมาเลย” แต่อย่างไรก็ตาม ทุกคนช่วยเหลือมันอย่างสุดความสามารถจนมันกลับมาแข็งแรงได้อีกครั้งหนึ่ง งานนี้จะไม่สำเร็จ ถ้าไม่ได้ชายหนุ่มที่ชื่อว่า Douglas “Doug” Pojeky ที่คอยดูแลนกฮูกตัวอย่างอย่างดี จนได้รับฉายาว่า “ผู้รู้ใจนก” ผู้ก่อตั้ง Missy ยังเล่าอีกว่า “ตั้งแต่ที่ได้ทำงานกับนกผู้ล่าเหล่านี้ ฉันไม่เคยเจอใครที่สามารถเข้ากับพวกมันได้ดีเท่าเขาอีกแล้ว” นั่นเป็นสาเหตุที่ว่าทำไม GiGi ถึงเข้ากันได้ดีกับ Pojeky ในช่วงเวลาที่เขาไม่อยู่ GiGi ก็จะคิดถึงเขามาก แล้วตอนที่เขากลับมา มันก็จะบินเข้าไปกอด “มันทำให้น้ำตาฉันไหลตลอดเลยเวลาเจอภาพตอนที่เขาเล่นกับนก เหมือนนกจะเชื่อใจเขา เป็นความเชื่อใจที่สามารถมองเห็นได้จากใบหน้า” . ดูคลิปไม่ได้ จิ้มเบาๆ ที่นี่เลยจ้า ที่มา thedodo
-
ดิสนีย์เตรียมเปิดตัวเครื่องเล่นใหม่ ให้คุณสามารถ “ท่องโลก” ได้แบบนกบินอยู่!!
ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ชอบดิสนีย์ และต้องไปพิชิตดิสนีย์ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นที่เอเชียหรืออเมริกา ตอนนี้ทางดิสนีย์เตรียมเปิดตัวเครื่องเล่นใหม่ที่จะเปิดประสบการณ์ให้คุณได้ท่องไปในโลกกว้าง ไม่ว่าจะเป็นกำแพงเมืองจีน อ่าวซิดนีย์ที่ออสเตรเลีย หรือ Matterhorn ในสวิสเซอร์แลนด์ ทั้งหมดที่ว่ามา คุณจะได้บินผ่านเหมือนเป็นซุปเปอร์แมนบินไปทั่วเมืองได้ด้วยเครื่องเล่น “Soarin’ Around the World” เครื่องเล่นนี้จะเปิดให้เล่นใน Disney California Adventure Park ที่ Disneyland Resort และใน Epcot ที่ Walt Disney World Resort อเมริกา เราไปชมตัวอย่างเรียกน้ำย่อยกันเลย สำหรับใครที่วางแผนจะไปดิสนีย์แลนด์แล้วล่ะก็ อย่างลืมไปเล่นนะจ๊ะ จะเปิดให้เล่นในวันที่ 17 มิถุนายนนี้แล้ว ที่มา Disney Parks
-
ไม่เคยเห็นมาก่อน!! ชมภาพอันงดงามหาดูยากของ “นกยูง” ในช่วงที่มันสยายปีกบิน!!
ปกติแล้ว เวลาที่เราไปสวนสัตว์ เราก็มักจะเห็นนกยูงในตอนที่มันกำลังเดินไปเดินมา เหมือนกับกำลังเดินแฟนชั่นอยู่ เพราะว่ามีมีสีสันที่สวยงามมากๆ รวมทั้งทางเดินและบุคลิกของมัน ทำให้มันกลายเป็นสัตว์ที่งดงามชนิดหนึ่งเลข ว่ากันว่านกยูงนั้นมีสีบนขนกว่า 200 สีเลยทีเดียว เหตุผลที่มันต้องสวยงามขนาดนี้ก็เพราะว่าเป็นการล่อตัวเมียให้มาชอบนั่นเอง อีกทั้งยังล่อคนให้ไปดูได้ด้วยนะ อิอิ แต่ละมีสักกี่ครั้งในชีวิตเราที่ได้เห็นช่วงเวลาที่มันกำลังบินอยู่กลางอากาศ ถือเป็นเรื่องที่หาดูได้ยากมากๆ เพราะมันไม่ค่อยบินนั่นเอง นกยูงจะบินก็ต่อเมื่อมันรู้ว่ากำลังมีอันตราย และใช้การบินเพื่อหนีจากสถานการณ์นั้นๆ และไม่น่าเชื่อว่าถึงแม้มันจะมีหางที่ยาวกว่านกชนิดอื่น แต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการบินแต่อย่างใด วันนี้ #เหมียวสามสี ก็เลยมีภาพอันงดงามของนกยูงในช่วงเวลากำลังบินอยู่กลางอากาศมาฝากเพื่อนๆทุกคน เราไปชมกันเลย!! ดูไม่คุ้นตากันเลยใช่มั้ยล่ะ เหมียวก็เหมือนกันนั่นแหละ ไม่น่าเชื่อเลยว่ามันจะสวยงามทั้งตอนเดินและบิน เป็นสัตว์ที่เกิดมาเพื่อสิ่งนี้โดยเฉพาะเลย!! ที่มา boredpanda
-
สุดซึ้ง!! นกน้อยบินชนกระจกจนแน่นิ่ง แต่เพื่อนไม่ยอมทิ้ง ช่วยจนกลับมาฟื้นได้!!
เพื่อนกันย่อมไม่ทิ้งกันอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นคนหรือสัตว์ ต่างก็มีความรักเพื่อนพ้อง รักกลุ่มอยู่เหมือนกัน เหมือนอย่างคลิปที่ #เหมียวสามสี นำมาให้ดูในวันนี้ บอกได้เลยว่าประทับใจเอามากๆ ในคลิปนี้มีนกกางเขนตัวหนึ่งบินชนกระจกอย่างจัง ทำให้มันร่วงลงมาแล้วแน่นิ่ง เหมือนกับว่าตายไปแล้ว เจ้าของคลิปก็เลยหยิบมือถือมาถ่ายคลิปบันทึกไว้ เนื่องจากนกอีกตัวหนึ่งพยายามที่จะช่วยชีวิตมันขึ้นมา ด้วยความไม่ทิ้งเพื่อน นกตัวที่สองพยายามกระตุ้นให้นกตัวที่บินชนตื่น แต่จนแล้วจนเล่า มันก็นิ่งจริงๆ คนทั่วไปดูก็คิดว่ามันตายแล้วแน่ๆ แต่ด้วยความที่มันมีความพยายามมาก จนสุดท้าย นกตัวที่บินชนก็กลับได้คืนสติมา พร้อมกับบินต่อไปพร้อมกับเพื่อนของมัน เห็นแล้วน่าประทับใจยิ่งนัก เราไปชมการช่วยชีวิตของนักกางเขนทั้ง 2 ตัวนี้กันเลย เห็นแล้วรู้เลยว่ามิตรภาพนั้นสามารถทำให้เราได้พบเจอกับสิ่งดีๆ ได้ ถ้าเราไม่ทิ้งกันซะอย่าง ที่มา Awad Zidane
-
ยาธาตุกระต่ายบิน!! เจ้ากระต่ายน้อยโดนลมพัดสูงจนถึงขั้นไปติดอยู่บนหลังคา โชคดีที่รอดมาได้
ภัยธรรมชาติเป็นอะไรที่น่ากลัวมากๆ เลยนะ อย่างในเมือง Omagh ทางตอนเหนือของประเทศ Ireland ประสบกับพายุ Gertrude อย่างรุนแรงในคืนก่อน ซึ่งหลังจากที่พายุซาลงไปแล้ว จู่ๆ ชาวบ้านก็ต้องตกใจกันอีกรอบเมื่อเจอกับเจ้ากระต่ายน้อย ไปติดอยู่บนหลังคาแบบงงๆ เจ้ากระต่ายตัวนี้มีชื่อว่า Bumper ใครๆ คิดไม่ออกว่าเจ้ากระต่ายน้อยติดดินตัวนี้มันจะปีนขึ้นไปอยู่บนนั้นได้ยังไงกัน จนในที่สุดก็ต้องเรียกเจ้าหน้าที่ดับเพลิงพาตัวมันลงมา กว่าจะช่วยมันลงมาได้ต้องใช้ ‘แครอทอร่อยๆ’ มาล่อมัน ถึงจะยอมมาด้วย โชคดีตรงที่ Bumper ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด สุขภาพดี และกลับไปสู่อ้อมกอดของเจ้าของเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนสาเหตุที่แท้จริงทางเจ้าหน้าที่ก็ยังนึกไม่ออกว่าเจ้ากระต่ายขึ้นไปอยู่บนหลังคาได้อย่างไร สงสัยคงจะโดนพายุพัดแรงจนบินขึ้นไปอยู่บนนั้นแน่ๆ ที่มา : theladbible
-
ชายหนุ่มประดิษฐ์ “เจ็ตแพ็ค” บินรอบเทพีเสรีภาพ ไฮเทคอย่างกับหนัง 007!!
เทคโนโลยี “เจ็ตแพ็ค” นั้นถือเป็นเรื่องที่ไกลตัวเอามากๆ เราคงเคยเห็นมันจากในหนังมากมายหรือจะเป็นในเกม แต่ในชีวิตจริงนั้นเหมียวยังไม่เคยเห็นใครสร้างมันได้แล้วก็สามารถบินได้จริงๆเลย ในเว็บไซต์ JetPack Aviation เขาได้พัฒนาเครื่องเจ็ตแพ็คมานานกว่า 40 ปี แล้ว ซึ่งก็คือเมื่อปี 1970 ซึ่งเป็นตอนที่เทคโนโลยียังไม่ก้าวไกลมาจนถึงตอนนี้ และเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เขาก็ได้ปล่อยคลิปการทดลองใช้เครื่องเจ็ตแพ็ค โดยบินอยู่รอบเทพีเสรีภาพ ถือเป็นเจ็ตแพ็คอันแรกของโลกเลยก็ว่าได้ที่สามารถพามนุษญืบินขึ้นสูงได้เพียงนี้ จากเมื่อก่อนที่เคยมีเจ็ตแพ็ตออกมาก่อนหน้านี้แล้วซึ่งใช้พลังงานเหมือนจรวดและเป็นแบบไอน้ำ แต่ครั้งนี้จะใช้พลังงานจากเครื่องยนต์ไอพ่นของแท้ ซึ่งทำความเร็วได้ 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อีกทั้งยังบินได้สูงถึง 3 กิโลเมตรได้เลย เราไปชมคลิปการบินของเครื่องเจ็ตนี้กันเลยดีกว่า อนาคตเราอาจจะได้เห็นคนขี่เจ็ตแพ็คบินว่อนเต็มท้องฟ้าเลยก็เป็นได้นะ ที่มา lifebuzz
-
อย่างกับในหนัง!! Jetman โชว์บินตีคู่ Airbus A380 เหนือน่านฟ้าเมืองดูไบ !!
นับตั้งแต่ Jet Pack หรือเครื่องบินเจ็ทแบบพกพาปรากฎตัวครั้งแรกในหนัง 007 : Thunderball เมื่อปี 1965 เหล่าผู้คลั่งไคล้ในเทคโนโลยีและภาพยนต์ ต่างเฝ้าฝันวันที่เจ้า Jet Pack ของจริงจะปรากฎขึ้นมาบนโลกมนุษย์แห่งนี้ และวันนี้ดูเหมือนความฝันของพวกเราจะไปไกลขึ้นอีกขั้นแล้ว เมื่อทีม Jetman Dubai ได้โชว์การใช้ Jet Pack บินคู่กับเครื่องบิน Airbus A380 ของสายการบิน Emirate Airline ชนิดที่ว่าเห็นแล้วต้องปรบมือให้ดังๆเลยทีเดียว จะเจ๋งขนาดไหน ไปชมกันเลย นอกจากบินตีคู่กับเครื่องบินแล้ว พวกเขายังเคยบินโฉบภูเขาไฟฟูจิกันด้วยนะ ว้าว เจ๋งสุดๆไปเลย อีกไม่นานแล้วสินะ ที่เราจะได้ใช้ Jet Pack ในชีวิตประจำวัน เหมียวละอยากให้วันนั้นมาถึงเร็วๆจริงๆ ใช่มั้ยละเพื่อนๆ อิอิ ที่มา Joy Williams
-
ฝรั่งจุดเฟี้ยว สร้าง “โดรนผี” บินหลอกหลอนผู้คนในค่ำคืนวันฮาโลวีน
ยุคนี้มันเป็นยุคแห่งโดรนจริงๆ เพราะไม่ว่าอยากบันทึกภาพอะไรสวยๆ คนส่วนมากก็เลือกโดรนนี่แหละที่เป็นคนถ่ายภาพให้ นอกจากจะถ่ายในมุมที่เราไปถ่ายไม่ได้แล้ว มันยังให้มุมมองใหม่ๆที่เราไม่ค่อยได้เห็น แต่นอกจากการบันทึกภาพแล้ว หลายคนก็ประยุกต์เอาโดรนมาใช้ทำอย่างอื่นด้วย อย่างเช่นที่ฝรั่งคนนี้ ได้นำเอาผีผ้าคลุมมาติดที่โดรน และบินขึ้นท้องฟ้า ความจริงแล้วสิ่งนี้เขาเรียกกันว่า Quadcopter หรือ ค็อปเตอร์บังคับแบบ 4 ใบพัด ลองคิดดูสิว่าถ้ามีเจ้านี่ลอยตอนกลางคืนจะเป็นยังไง อีกทั้งเขายังทำเวอร์ชั่นโครงกระดูเรื่องแสงออกมาด้วยนะ อันนี้ออกแนวแฟนตาซีไปหน่อย ถ้าคนไปเจออาจจะกระโดดเก็บได้ 5555 ทางที่ดีอย่างลองไปเอาหลอกคนนอกเทศกาลล่ะ เดี๋ยวคนไม่รู้นึกว่าของจริงจะหัวใจวายเอาได้ อิอิ ที่มา AZChopperCam
-
การเดินทางของชาวหนุ่มชาวรัสเซียไปยังภูเก็ต โดยไม่มีเงินติดตัวเลย เขาทำได้อย่างไร!?
จากที่เคยมีกระแสของการเดินทางแบบไม่มีเงินติดตัวเลย ของพ่อหนุ่มรายหนึ่งที่โดนชาวเน็ตสวนกลับไปแบบยับเยินนั้น คราวนี้เราลองมาดูอีกรูปแบบหนึ่งของการเดินทางบ้าง เช่นเดียวกันกับพ่อหนุ่มภูทับเบิก Hard Way เมื่อบล๊อกเกอร์ชาวรัสเซียถูกเชิญมาที่ประเทศไทย ณ จังหวัดภูเก็ต โดยที่ไม่มีเงิน และไม่ทำการโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือ เขาจะทำได้หรือไม่? เขาเริ่มต้นเดินทางจากประเทศรัสเซียโดยทิ้งเงินก้อนสุดท้ายที่มีไว้ที่สนามบินรัสเซีย และบินลัดฟ้ามายังสนามบินสุวรรณภูมิ และหนทางต่อจากนี้เขาก็ไม่อาจรู้ได้เลยว่าจะทำอย่างไรต่อไป เพื่อจะไปให้ถึงจังหวัดภูเก็ต สิ่งเดียวที่พอจะทำได้ก็คือ ‘การเดิน’ ในระหว่างทางการเดินเพื่อเข้าในตัวเมืองกรุงเทพฯ ของเขานั้นก็ได้พบกับหลายสิ่งมากมายที่เขาไม่เคยเจอมาก่อน ไม่ว่าะเป็นแท๊กซี่หลากสี น้ำใจของแอร์ฯ ที่พาเข้าไปส่งในเมือง และสภาพความเป็นอยู่อันแท้จริงภายในเมืองกรุงเทพฯ สะท้อนให้เราเห็นอะไรหลายๆ อย่าง การหาที่นอนของเขานั้น ก็ต้องอาศัยตามสถานที่สาธารณะต่างๆ และเพื่อความอยู่รอดก็ต้องขออาหารจากคนทั่วไปเพื่อมาประทังชีวิตให้พออยู่ท้อง แม้ว่าบางคนจะไม่เต็มใจให้ที่โดนขอ แต่บางคนก็ยินดีมอบให้ด้วยน้ำใจโดยที่เขาไม่ต้องขอเลย แล้วการเดินทางของเขาจะสำเร็จหรือไม่ อุตส่าห์บากบั่นบินข้ามฟ้าจากรัสเซียมาลงกรุงเทพฯ แล้วจะต้องหาหนทางไปจังหวัดภูเก็ตที่อยู่ห่างออกไปกว่า 800 กิโลเมตรได้สำเร็จหรือไม่ ร่วมมาลุ้นการเดินทางอันแสนทรหดกันได้เลยจ้า ที่มา : JetRadar Thailand
-
Vito นกแก้วมาคอว์ที่รักการบนผาดโผนพร้อมกับเจ้านายที่ขับมอเตอร์ไซค์
โดยปกติแล้ว เราจะรู้จักนกแก้วมาคอว์ในฐานะนกที่สามารถพูดได้เหมือนกับเรา มันจะพยายามเลียนแบบคำพูดของเรา ทำให้รู้สึกเหมือนกับว่ามันเป็นเพื่อนของเราคนหนึ่ง แต่สำหรับเจ้า Vito นกแก้วมาคอว์ตัวนี้จะพิเศษออกไป เพราะมันชอบการบินออกไปข้างนอกพร้อมกับเจ้านายที่กำลังขับมอเตอร์ไซค์ตามหาด Kolimbithres เกาะ Paros ประเทศกรีซ เราไปดูความร่างเริงของมันกันเลย เหมียวสงสัยอยู่อย่างหนึ่งคือในคลิปที่มีเสียง “ฮาโล” นี่เป็นเสียงของคนขับรถหรือเป็นของนกแก้วกันแน่ ที่มา waterskizone
-
มาถึงขั้นนี้แล้ว!! ชม “โดรนยักษ์” ที่ต้องใช้คนบังคับที่สามารถบินได้จริง
ยุคนี้มันยุคแห่งโดรนจริงๆ เพราะมันสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับอะไรก็ได้ โดยเฉพาะทำในสิ่งที่เกินขีดจำกัดคนเราไปมากๆ อย่างการใช้แทนยานพาหนะที่บินได้ ปกติเราก็จะเห็นโดรนใช้ในการถ่ายภาพมุมสูง แต่ครั้งนี้เราจะได้เจอกับอภิมหาโดรนหลายใบพัดที่สามารถพาคนคนหนึ่งลอยสูงขึ้นจากพื้นดินได้ เจ้าสิ่งนี้ผู้ประดิษฐ์ตั้งชื่อให้มันว่า The Swarm ประกอบไปด้วยใบพัด 54 ตัว สามารถรับน้ำหนักได้ประมาณ 148 – 164 กิโลกรัม และสามารถบินได้ 10 นาที แน่นอนว่ามันเป็นเพียงการทดลองเล่นๆ แต่มันก็สามารถนำไปประยุกต์และทำออกมาเป็นเครื่องบินขนาดย่อมได้เลยนะเนี่ย เราไปชมคลิปการบินกันเลยดีกว่า ถ้ามันสามารถบินสูงได้จริงๆนี่เหมียวขอซื้อเป้นคนแรกเลยนะ จะได้ไม่ต้องรอรถติดตอนเช้าๆ ที่มา gasturbine101
-
รวม 10 เทคนิคในการนอนหลับบนเครื่องบิน รู้แล้วหลับสบายขึ้นมากเลยทีเดียว!!!
เคยนั่งเครื่องบินแล้วประสบปัญหานอนไม่หลับหรือไม่ (หมายถึงไฟลท์ที่ต้องเดินทางไกลๆเป็นสิบๆชั่วโมงนะ พวกเชียงใหม่-กรุงเทพ ภูเก็ต-กรุงเทพ อะไรงี้ไม่นับ) บางทีเราง่วงมาก แต่นอนยังไงก็ไม่หลับ และยิ่งถ้าเราไม่ได้นอนเลย พอไปถึงจุดหมายที่เราจะไป ความสนุกอาจจะลดลงถึง 90% ได้ วันนี้เหมียวไปเจอเทคนิคช่วยให้การนอนหลับบนเครื่องบินเป็นเรื่องง่ายขึ้นจาก Work the World ไปชมกันเลยว่ามีอะไรบ้าง 10 วิธีที่จะนอนหลับบนเครื่องบินได้อย่างสบายใจ อะไรที่ต้องเตรียมไปบ้างก็มี หนังสือซักเล่ม ผ้าปิดตา หมอนรองคอ น้ำเปล่า เครื่องเล่นเพลง ผ้าห่ม จุกอุดหูกันเสียง แล้วก็หูฟังที่มีระบบตัดเสียงรบกวนจากภายนอก ( Noise-Cancelling) ก่อนจะขึ้นเครื่องต้องทำไงบ้าง 1. พยายามจองเที่ยวบินที่ตรงกับเวลานอน เช่นไฟลท์ดึกๆ 2. แต่งตัวให้สบายๆ เช่นเสื้อแจ็คเก็ตกีฬา แล้วก็ใส่ถุงเท้าซักหน่อยเพื่อให้เท้าอุ่น 3. เลือกที่นั่งให้เหมาะกับพฤติกรรมการนอน เช่นถ้าชอบเอียงหัวไปทางซ้าย ก็จองที่นั่งฝั่งซ้าย แต่เขาบอกว่า แถวตรงกลางจะมีพื้นที่ให้นอนมากกว่านะ 4. คืนก่อนบิน พยายามนอนให้น้อย จะได้ไปง่วงบนเครื่องบิน 5. ผ่อนคลายร่างกายก่อนขึ้นเครื่อง ไปเล่นโยคะก็ดีนะ …
-
ชมการทำลายสถิติขับรถบรรทุกเหินฟ้ากว่า 50 เมตร ใจไม่ถึงจริงทำไม่ได้นะเนี่ย!!!
คุณเคยเห็นรถบรรทุกหนักว่า 5 ตันลอยฟิ้วกว่า 50 เมตรหรือเปล่า (ไม่นับในเกมนะ) ถ้าไม่เคย คุณจะได้เห็นวันนี้แหละ ว่ามันน่าทึ่งขนาดไหน นักขับที่จะมาเสี่ยงชีวิตขับรถผาดโผนให้เราวันนี้ มีชื่อว่า Gregg Godfrey เขามีอาชีพเป็นนักแสดงแทน ปกติการที่รถต้องพุ่งลอยซัก 4-5 เมตรนี่ก็นับว่าอันตรายละ แต่ชายคนนี้จะขับรถให้เหินฟ้าด้วยระยะทางกว่า 50 เมตร!! จะน่าทึ่งน่าหวาดเสียวขนาดไหน ไปชมกันเลย สู่ความเวิ้งว้างอันไกลโพ้น อื้อหือ น่าหวาดเสียวจริงๆ ตอนลงมายางหน้าแตก แถมรถเสียการควบคุมด้วย ดีนะไม่พุ่งใส่คนดูข้างๆ แต่ก็นับว่าประสบความสำเร็จอย่างงดงามนะ เพื่อนๆอย่าไปลองเองที่บ้านล่ะ เพราะมันอันตรายสุดๆไปเลย ผลลัพธ์ที่ออกมาอาจไม่เจ๋งเหมือนในคลิปก็ได้ ที่มา Colton Moore