Tag: บุกรุก
-
หนุ่มหื่นตกงานชาวอังกฤษ บุกเข้าห้องเก็บศพ “ข่มขืน” เหยื่อคาโลง สุดท้ายถูกจับ
ชายหนุ่มชาวอังกฤษวัย 23 ปี ถูกจับกุมหลังจากบุกรุกห้องเก็บศพอย่างผิดกฎหมาย แถมยังกระทำชำเรา “ศพ” ที่อยู่ในโลงอีกด้วย Khurum Shazada หนุ่มชาวอังกฤษได้บุกเข้าไปยังห้องเก็บศพของบริษัทจัดงานศพแห่งหนึ่งในย่าน Great Barr เมืองเบอร์มิงแฮม ประเทศอังกฤษ จากรายงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่านาย Khurum นอกจากจะบุกรุกเข้าเคหสถานแล้วยังมีการ สอดใส่ทางเพศ กับศพที่ถูกบรรจุอยู่ในโลงอีกด้วย เนื่องจากผลการตรวจสอบร่องรอย DNA ที่อยู่บนศพได้ตรงกับ DNA ของ Khurum ซึ่งเป็นผู้อาศัยอยู่ในโรงแรมเล็กๆ ย่าน Aston ที่ไม่ไกลจากที่เกิดเหตุนัก ตัวแทนเจ้าหน้าที่ตำรวจของ West Midlands ก็ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า Khurum นั้นเป็นหนุ่มที่ตกงาน ที่อาศัยอยู่ไม่ไกลจากบริษัทจัดงานศพนี้นัก โดยในการขึ้นศาลเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2018 Khurum ก็ถูกควบคุมตัวเพื่อรอการพิจารณาจากศาลปกครอง อย่างไรก็ตามยังไม่มีการเผยรายละเอียดเพิ่มเติมจากทั้งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและทางบริษัทจัดงานศพให้ทราบ ที่มา: thesun และ kapook
-
เน็ตไอดอลสาวพักไลฟ์สด แต่ “ลืมปิดกล้อง” ทำให้ผู้ชมพบคนน่าสงสัย บุกเข้าห้องของเธอ!!
การไลฟ์สด นับวันยิ่งเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ สำหรับเน็ตไอดอลหรือคนดังทั้งหลายที่มีผู้รอติดตามจำนวนมาก แค่ออกมาปรากฏกายทำอะไรก็ได้ พูดคุยนิดหน่อย แฟนๆ ก็มีความสุขกันน่าดูชมแล้ว แต่การไลฟ์สดมันก็มีข้อดีของมันเหมือนกันอย่างเหตุการณ์ล่าสุดที่เน็ตไอดอลสาวชาวจีนแผ่นดินใหญ่คนหนึ่ง ได้ออกมาไลฟ์สดพบปะแฟนๆ ที่รอคอยกันอยู่ในโลกอินเทอร์เน็ต เริ่มการไลฟ์ได้ไม่นาน เธอก็ต้องขอตัวไปรับโทรศัพท์ แล้วเดินออกจากห้องไปโดยไม่แน่ใจว่าลืมปิดกล้องหรือว่าตั้งใจเปิดไว้กันแน่ การไลฟ์สดของเธอยังคงดำเนินต่อไปแม้ว่าตัวเธอจะไม่ได้อยู่หน้ากล้องก็ตาม ซึ่งนั่นก็ไม่ได้ทำให้แฟนๆ เลิกดูไลฟ์ของเธอเลย กลับกัน ด้วยความที่เธอเปิดกล้องไลฟ์สดทิ้งไว้ ทำให้แฟนๆ ที่จ้องหน้าจออยู่พบว่า หญิงผิวสีคนหนึ่งแอบย่องเข้ามาให้ห้อง ของเน็ตไอดอลคนนี้ หญิงปริศนาแอบเข้ามาพร้อมท่าทางเร่งค้นหาอะไรบางอย่าง ชาวเน็ตเห็นก็รู้สึกได้ทันทีว่านี่เป็นบุคคลที่ไม่น่าไว้วางใจ ท่ามกลางความงุนงงของเหล่าแฟนๆ ที่รอดูการไลฟ์สด ชาวเน็คคนหนึ่งก็ได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาช่วยเหลือเน็ตไอดอลสาว และจับกุมตัวหญิงปริศนาเอาไว้ได้อย่างรวดเร็ว ถือว่าเป็นความโชคดีที่เปิดกล้องทิ้งไว้ให้ชาวเน็ตคอยเป็นหูเป็นตา แต่ว่าอย่าเปิดทิ้งไว้จนลืมล่ะ เดี๋ยวจะมีภาพฉาวข่าวหลุดเอาได้นะ… ที่มา: ck101
-
หญิงชาวโรฮิงญาเผยประสบการณ์ชีวิตอันขมขื่น ลูกชายถูกฆ่า ตัวเองโดนรุมข่มขืน
เรื่องราวสุดรันทดที่ถูกเล่าจากปากของหญิงสาวชาวโรฮิงญาที่ถูกทารุณกรรมทางกายและทางเพศ ด้วยเงื้อมมือ ของกองกำลังรักษาความปลอดภัยของพม่า ผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญากว่า 600,000 ชีวิตได้อพยพไปสู่ประเทศบังกลาเทศ เพื่อหนีให้พ้นการคุกคามจากทหารพม่า ที่ว่ากันว่าเป็น “ตัวอย่างของการชำระล้างทางชาติพันธุ์” ตามที่องค์การสหประชาชาติได้กล่าวไว้ Sunuara ชาวโรงฮิงญาวัย 25 ปี เล่าว่าเธอต้องอพยพไปยังบังกลาเทศหลังจากหมู่บ้านของเธอถูกโจมตีเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2017 เธอบอกว่าก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุการณ์ เธอมีชีวิตที่ดี มีวัว รถ และที่นา เป็นของตัวเอง จนกระทั่งวันหนึ่งมีเจ้าหน้าที่ทหารมาเยือนบ้านของเธอซึ่งขณะนั้นสามีของเธออาศัยอยู่ ณ อีกหมู่บ้านหนึ่งกับญาติ ส่วนลูกคนอื่นๆ ของเธอก็ไปอยู่กับพ่อแม่ของเธอ เธอเล่าว่า เจ้าหน้าที่ทหารได้ประหารลูกชายของเธอด้วยการยิงเขาเข้าที่ท้องต่อหน้าต่อตา ขณะนั้น Sunuara ซึ่งกำลังตั้งครรภ์ได้ 8 เดือน ถูกตรึงไว้กับเตียงและถูกข่มขืนโดยชาย 9 คน เป็นเวลารวม 6 ชั่วโมง เธอฟื้นขึ้นอย่างไร้สติ เมื่อสามีและพี่ชายของเธอเข้ามาพบ จากนั้นพวกเขาก็พาเธอออกจากที่นั่นไปยังชายแดนบังกลาเทศ เธอคลอดลูกของเธอที่นั่น แต่หนึ่งวันหลังจากนั้น ทารกที่เธอคลอดออกมาก็ไม่อาจรอดชีวิตได้ ในขณะเดียวกัน Roshida Begum วัย 22 ปี…
-
ตำรวจมหาวิทยาลัย รวบ ‘หนุ่มหื่น’ ที่บุกเข้าไปในบ้านหญิงสาวเพื่อข่มขืนพวกเธอ
การช่วยตัวเองไม่ใช่เรื่องผิดกฎหมาย ถ้าหากว่าคุณทำร้ายตัวเองอย่างเงียบๆ อยู่ในห้องน้ำหรือห้องนอน แต่เมื่อไหร่ที่ทะลึ่งเข้าไปตำในที่สาธารณะหรือบุกเข้าไปในบ้านคนอื่นล่ะก็คงจะไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ เมื่อเวลาประมาณ 5 ทุ่ม ในระหว่างที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังตรวจดูความเรียบร้อยในมหาวิทยาลัย Ohio State University อยู่นั้น จู่ๆ เขาก็ได้รับแจ้งว่ามีชายหนุ่มผู้หนึ่งได้บุกเข้าบ้านของหญิงสาวสองคน และพยายามจะข่มขืนพวกเธอ ภาพจากคลิปวิดีโอเผยให้เห็นวินาทีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เข้าบุกเข้าจับกุมไอ่หนุ่มหื่นที่กำลังช่วยตัวเองอย่างเมามันอยู่บนโซฟาในบ้านพักของหญิงสาวสองคน นายตำรวจท่านหนึ่งได้ส่องไฟฉายไปยังชายหนุ่มที่กำลังเพลิดเพลินกับน้องชายของตัวเอง และเผยให้เห็ยชายอีกคนหนึ่งที่ไม่สวมเสื้อและกำลังนอนอยู่บนโซฟาในบ้านหลังดังกล่าว และแล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่รอช้ารีบบุกเข้าไปในบ้าน และจับกุมหนุ่มหื่นที่ช่วยตัวเองอยู่ แล้วจับเขากดลงกับพื้นพร้อมกับถามว่า “มีใครอยู่ในบ้านนอกจากนายอีกไหม??” คลิปวิดีโอที่เผยให้เห็นการบุกจำหนุ่มหื่นรายนี้ จากข้อมูลบัตรประชาชนของชายคนดังกล่าวพบว่า เขาคือนาย Calvin Bishop Lynn หนุ่มวัย 22 ปีที่อาศัยอยู่ในเมือง Lexington รัฐเคนทักกี ที่อยู่ห่างจากที่เกิดเหตุถึง 3 ชั่วโมง สื่อท้องถิ่นได้รายงานว่า ชายหนุ่มคนดังกล่าวถูกตั้งข้อหาบุกรุก และกระทำอนาจารในที่สาธารณะ และหญิงสาวเจ้าของบ้านทั้งสองคนก็ไม่ได้รับอันตรายแต่อย่างใด วินาทีที่เจ้าหน้าที่บุกรวบชายหนุ่ม เจ้าหน้าที่ Jennifer Knight ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่นว่า “ฝ่ายหญิงทั้งสองคนไม่รู้จักชายคนนี้มาก่อน เขาได้บุกเข้ามาในบ้านและพยายามที่จะข่มขืนพวกเธอ พวกเรามีเจ้าหน้าที่กว่า 12 คนที่ตรวจตราและดูแลนักศึกษาอยู่ สิ่งเหล่านี้จะทำให้นักศึกษามั่นใจในความปลอดภัยของพวกเขาได้แน่นอน” …
-
คนแปลกหน้าเข้ามาในบ้าน มาเล่นเกม ดูทีวี กินเหล้าเจ้าของบ้าน ยังไม่พอ.. ชิกวิ้ว ทิ้งคราบน้ำไว้อีก!!
หลายคนอาจจะเคยมีประสบการณ์ขโมยขึ้นบ้านกันมาแล้ว และแน่นอนว่าจุดประสงค์ของโจรเหล่านั้นก็คือ การเข้ามาขโมยสิ่งของมีค่าภายในบ้านของเราไป แต่สำหรับเรื่องราวของขโมยที่เราจะมานำเสนอในครั้งนี้ บอกเลยว่ามันอาจทำให้หลายๆ คนถึงกับแอบขำ เพราะหัวขโมยรายนี้ ไม่ได้เอาของอะไรออกไป แต่มาทำให้บ้านเละตุ้มเป๊ะซะอย่างนั้น วันที่ 23 มิถุนายน 2560 ทางสำนักข่าวต่างประเทศมีรายงานว่า ในช่วงเช้าของวันพุธที่ผ่านมา Jeff Holbrook เจ้าของบ้านที่อาศัยอยู่ใน Cranbourne ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ได้เผยแพร่คลิปวีดีโอเหตุการณ์ขณะหัวขโมยขึ้นบ้านลงบนโลกออนไลน์ หลังจากที่เขาพบจากกล้องวงจรปิดว่า มีชายนิรนามรายหนึ่งได้แอบบุกรุกเข้ามาในบ้านของเขา Jeff บอกว่าหัวขโมยรายดังกล่าวได้แอบเข้ามาอาศัยอยู่ในบ้านเป็นเวลานานกว่า 5 ชั่วโมง แถมยังแอบเข้ามาอาบน้ำ ดูทีวี เล่นเกม ทำอาหาร ดื่มเหล้าจนเมาแอ๋ พร้อมกับทำลายข้าวของภายในบ้าน ยังนะ.. แค่นั้นยังไม่พอ เขายังแอบช่วยตัวเองบนโซฟาจนสำเร็จความใครอีกด้วย “มีใครบางคนกำลังนอนหลับอยู่บนเตียงในห้องนอนของฉัน ฉันไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร” Jeff พูดขณะแอบถ่ายวีดีโออีก จากนั้นไม่นาน Jeff ก็รีบเดินลงไปชั้นล่าง พร้อมกับกล่าวว่าตำรวจกำลังจะมาถึงในไม่ช้า และเขาจะไม่หยุดถ่าย และสั่งไม่ให้พ่อหนุ่มหัวขโมยแตะต้องอะไรเลยจนกว่าตำรวจจะมาถึงที่นี่ หลังจากที่มาถึง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็รีบเข้าจับกุมตัวชายรายดังกล่าวทันที โดยขณะนั้นเขามีท่าทางที่ดูสับสน หลังจากที่เพิ่งตื่นนอน …
-
รวม 8 อุปกรณ์ป้องกันการบุกรุก สาวไทยทุกคนควรซื้อติดห้องไว้ ปลอดภัยแน่นอน!!
จากเหตุการณ์สุดสลดที่คนร้ายบุกเข้าไปข่มขืนคุณครูสาวถึงห้องพร้อมกับฆ่าทิ้งอย่างไม่ไยดี ทำให้สาวๆ หลายคนที่อาศัยอยู่ในอพาร์ทเม้นท์ บ้านเช่า หรือหอพัก ด้วยตัวคนเดียว หรือเป็นหญิงล้วนต่างก็รู้สึกกลัวและกังวลไปตามๆ กัน สมาชิกเว็บไซต์พันทิปชื่อว่า Wildstocks ได้ทำการตั้งกระทู้ “[กระทู้รวมอุปกรณ์] ถึงน้องๆ พี่ๆ ผู้หญิงที่ต้องอยู่ลำพังทุกคน เรามาป้องกันตัวเองกันดีกว่า” ซึ่งเจ้าตัวอนุญาตให้ทางเราเอามาเผยแพร่เป็นประโยชน์กับสาวๆ ทุกคน แถมอุปกรณ์แต่ละชิ้นก็สามารถหาซื้อได้ และมีราคาไม่สูงมาก เพราะฉะนั้นก็ควรหาซื้อมาใช้ป้องกันตัวเองเอาไว้ก่อนดีกว่าที่ปล่อยให้จะเกิดอันตรายกันดีกว่าเนอะ 1. อุปกรณ์ป้องกันประตูหน้าในกรณีที่เป็นประตูห้องธรรมดา ไม่ว่าจะเป็นประตูไม้ หรือประตู PVC ให้ลองหาซื้อที่กั้นประตูที่เป็นไม้ลักษณะเป็นลิ่มแบบนี้ หรือจะทำเองก็ได้เอาเสียบไว้ที่ประตูขณะนอนหลับซัก 2 อัน เพราะโซ่คล้องประตูหรือขอเกี่ยวประตูไม่ได้ปลอดภัยอย่างที่คิด 2. เจ้า Hotel Alarm ที่จะช่วยส่งเสียงแจ้งเตือนเมื่อมีคนพยายามเปิดประตูเข้ามายามวิกาล ติดตั้งง่ายแถมราคายังไม่สูงอีกด้วย 3. หากอยู่ในคอนโดหรืออาคารชุดทั้งหลายที่ทางเข้าตรงระเบียงจะเป็นกระจก ให้ติดฟิล์ม Safety เพื่อป้องกันการกรีดกระจกหรือทุบกระจกเข้ามาในห้อง มีหลากหลายราคาตามกำลังทรัพย์ของแต่ละคน (แต่แนะนำให้ซื้อมาติดเถอะนะ เพื่อความปลอดภัย) 4. นอกจากจะติดสัญญาณเตือนที่ประตูหน้าแล้ว ก็อย่าลืมติดที่หน้าต่างด้วยล่ะ 5. อุปกรณ์ช่วยเหลือแบบพกติดตัวอย่างเช่นนกหวีดแบบนี้ เวลาเกิดเหตุอะไรขึ้นก็เป่าเอาไว้ก่อนเพื่อเรียกให้คนมาช่วย…
-
20 ภาพฮาๆมันส์ๆ ที่จะไม่เกิดขึ้นในเวลาปกติ แต่คุณต้องออกไป ‘ตั้งแคมป์’ เท่านั้น ถึงจะได้ฟีลลิ่ง
ในวันหยุดหลายคนอาจต้องการพักผ่อนแบบชิวๆ อยู่ที่บ้าน บางคนก็ออกไปช้อปปิ้ง หรือหาอะไรๆ สนุกทำ เรียกได้ว่าแต่ละคนก็ใช้ชีวิตในวันหยุดที่แตกต่างกันออกไป แต่สำหรับบางคนแล้ว ส่วนใหญ่ในวันหยุดพวกเขาเลือกที่จะออกไปแคมป์ปิ้งกับครอบครัว หรือเพื่อนๆ ซะมากกว่า เพื่อสัมผัสกับความสนุก และประสบการณ์ใหม่ๆ ที่กำลังจะไปเผชิญ ซึ่งก็มีทั้งความฮา ความสนุก และความน่าตื่นเต้นปะปนกันไป และหากใครที่ได้รับชมภาพวิถีชีวิตการแคมป์ปิ้งของพวกเขาเหล่านี้ รับรองว่าคุณอาจจะอยากลองไปเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ แบบนี้ดูบ้างแน่ๆ ต้องยอมพวกเขาจริงๆ บางทีก็โดนเพื่อนแกล้ง มาผจญภัยทั้งที ไม่ว่าจะเจออะไรก็ต้องลุย ลุย ลุย ดูน่าสนุกเหมือนกันนะเหมียว วอ 1 เรียกวอ 2 พบสิ่งแปลกประหลาดเข้ามาบุกรุกพื้นที่ เอิบ!! สงสัยพี่แกคงดื่มมาเยอะจริงๆ ถ้ามันหนาวก็อย่าฝืนเลยลวกเพี่ย เจอแบบนี้ก็เผ่นสิครัชรออะไร จะไปตั้งแคมป์ทั้งที ต้องเอาให้พร้อม เห็นแล้วก็อยากไปเที่ยวแบบนี้บ้างจัง ดูน่าสนุกฝุดๆ ลองเปลี่ยนจากการเดินช้อปปิ้งในห้าง มาตั้งแคมป์อยู่กินกลางธรรมชาติบ้างดีมั้ย เพราะบางทีคุณอาจจะได้เจอกับสิ่งต่างๆ…
-
ลุ้นระทึก!! คุณหมอถูกยากูซ่ามาบุกรีดไถ่เงินถึงหน้าห้องพักโรงแรมในญี่ปุ่น โชคดีที่ยั้งไว้ทัน
การออกไปยังต่างแดนยิ่งต้องระมัดระวังตัวเป็นพิเศษ เพราะไม่ว่าจะที่ไหนก็ตาม อันตรายนั้นรายล้อมเราอยู่ทุกที่ อย่างประเทศที่มีความปลอดภัยสูงอย่างญี่ปุ่น ก็ยังคงมีผู้มีอิทธิพลอยู่ แถมยังน่ากลัวมากๆ ซะด้วย!! เรื่องราวสุดระทึกนี้ เปิดเผยโดยคุณหมอ Shane Cardio ผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัว เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการถูกบุกรุกเพื่อรีดไถเงินจากยากูซ่าญี่ปุ่น อุกอาจถึงขั้นมาเคาะถึงประตูห้องพักในโรงแรม Meriken Oriental Hotel กันเลยทีเดียว ซึ่งก่อนหน้าที่จะมียากูซ่ามาถึงหน้าห้อง เขาได้รับโทรศัพท์จากโอเปอเรเตอร์โรงแรม พูดแต่ภาษาญี่ปุ่นรัวๆ ซึ่งก็ไม่อาจเข้าใจได้ทั้งหมด ก็เลยวางหูไป จนกระทั่งมีชายใส่สูท ผูกไทด์ มากดกริ่งหน้าห้องพัก ซึ่งเขาก็เข้าใจว่าน่าจะเป็นพนักงานของโรงแรม มีสมุดจดบันทึกมาด้วย ก็เลยแง้มประตูนิดหน่อยเพื่อพูดคุยด้วย แต่ก็คุยกันไม่รู้เรื่องเพราะอีกฝ่ายซัดมาเป็นภาษาญี่ปุ่นรัวๆ สภาพของประตูที่ยื้อกันไว้นานแสนนาน พอจะปิดประตูปุ๊บ ชายผู้นั้นก็ใช้เท้ากั้นประตูเอาไว้ไม่ให้ปิด แถมตะคอกเสียงใส่ จับใจความได้ว่าเกี่ยวกับหนังสือเดินทาง และเปิดสมุดเล่มดังกล่าวให้อ่าน เต็มไปด้วยภาษาญี่ปุ่น แต่ที่เห็นชัดๆ ก็คือจำนวนเงิน 38,000 เยน คราวนี้ก็แน่ใจแล้วล่ะว่าเขาต้องโดนยากูซ่ามารีดไถเงินอย่างแน่นอน!! หากปล่อยให้เข้ามาได้ต้องมีอันตราย ซึ่งทั้งสองก็ได้ยื้อกันอยู่หน้าประตูซักพักใหญ่ ในที่สุดก็กระทืบเท้ายากูซ่าออกไปได้ ใช้แรงดันเพื่อปิดประตูและล็อคได้สำเร็จ จากนั้นเขาก็รีบโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือจากทางโรงแรมและส่งไลน์ขอความช่วยเหลือจากกลุ่มหมอที่มาประชุมที่ประเทศญี่ปุ่นด้วยทันที…