Tag: ปนเปื้อน
-
ผู้คนเจอหงส์ดำ ก่อนจะรู้ว่าที่แท้มันไม่ใช่หงส์ดำโดยธรรมชาติ แต่โดนเคลือบสีมา
หงส์ส่วนใหญ่ที่เรารู้จักกันจะมีขนสีขาว แต่ก็ยังมีหงส์ที่มีสีดำโดยธรรมชาติด้วยเช่นกัน ตอนที่กลุ่มช่วยเหลือสัตว์ RSPCA ได้รับรายงานว่าเจอ ‘หงส์ดำ’ ท่าทางประหลาด พวกเขาก็เลยคิดว่าหงส์ตัวนั้นป่วย แต่จริงๆ แล้วมันไม่ได้ป่วยเลย เมื่อ RSPCA ออกไปช่วยเหลือหงส์ดำที่ทะเลสาบในเมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ พวกเขาก็พบว่ามันสบายดี แต่เจ้าหงส์ตัวนี้เป็น ‘หงส์ขาว’ ที่ตัวกลายเป็นสีดำหมดต่างหาก เจ้าหงส์ขาวขนกลายเป็นสีดำหมดเลย Lynsey Cale ผู้ช่วยสัตว์ป่าบอกว่า “เราได้ช่วยสัตว์ปีกที่ขนสกปรกจากสารปนเปื้อนจำพวกน้ำมันประกอบอาหาร หรือน้ำมันรถมามาก แต่เจ้าตัวนี้เป็นสัตว์ที่เปื้อนน้ำมันหนักที่สุดเท่าที่ฉันเคยเจอเลย” ตัวของเจ้าห่านมีสีดำตั้งแต่หัวจรดท้ายตัว มันเปื้อนเยอะมากจนสัตวแพทย์กังวลว่ามันอาจจะซึมซับน้ำมันเข้าไปข้างในร่างกายด้วยก็ได้ พวกเขาก็เลยรีบทำการอาบน้ำขัดตัวให้มันกลับมาขาวสะอาดโดยไม่รอช้า แต่กว่ามันจะตัวสะอาดก็เล่นเอาคนช่วยเหนื่อยกันเลยทีเดียว อาบน้ำแล้ว แต่สียังไม่หลุดเลย ติดแน่นอะไรขนาดน๊าน หลังจากมนุษย์ช่วยกันขัดสีฉวีวรรณมันอยู่นาน ในที่สุดมันก็กลับมาขาวสะอาดแล้ว! หลังจากอาบน้ำให้มันซ้ำแล้วซ้ำอีก เจ้าหงส์ก็กลับมามีสีขาวสะอาดตามธรรมชาติเหมือนเดิม ถึงอาสาสมัครที่ช่วยมันจะเหนื่อยแต่ก็โล่งใจที่เห็นตัวของมันกลับมาสะอาดอีกครั้ง พอมันปลอดภัยจากน้ำมันที่ปนเปื้อนบนขนแล้ว อาสาสมัครก็พามันกลับไปปล่อยลงทะเลสาบที่มันจากมา หวังว่ามันจะไม่ไปเปื้อนน้ำมันกลับมาอีกนะ อาบน้ำแล้วสบายตัวจุง ขอบใจนะมนุษย์ บ๊ายบาย ที่มา: the dodo
-
งดจำหน่ายอาหารสุนัขทั้งประเทศ หลัง อย. สหรัฐฯ พบการปนเปื้อนของสารเคมีรุนแรง
กลายเป็นเรื่องฮือฮาที่สหรัฐอเมริกาอีกครั้ง หลังจากที่ร้านค้าชื่อดังได้ยกเลิกการจำหน่ายอาหารสุนัขมากกว่า 31 ชนิดภายใต้ผู้ผลิต Smucker หลังจากที่พบว่าอาหารของพวกเขานั้นมีการปนเปื้อนสาร Pentobarbital ยาที่ใช้ในการฆ่าสัตว์ชนิดต่างๆ อย่างเช่นสุนัข แมว และม้า โดยผลิตภัณฑ์ที่อยู่ภายใต้การดูแลของ Smucker นั้นประกอบไปด้วย Gravy Train, Kibbles ‘N Bits, Skippy, and Ol’ Roy ซึ่งหลังจากที่มีการตรวจสอบพบการปนเปื้อนดังกล่าว ทำให้มีการยกเลิกจำหน่ายผลิตภัณฑ์เหล่านี้ ขณะนี้ทางร้านค้าปลีกชื่อดังอย่าง Walmart ได้ยกเลิกการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของ Smucker จากร้านค้ากว่า 4,000 แห่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจุดเริ่มต้นของการสืบสวนข้อเท็จจริงครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่คุณ Nikki Mael หญิงสาวจากรัฐวอร์ชิงตัน พบว่าสุนัขตัวโปรดทั้ง 3 ตัวของเธอมีอาการผิดปรกติหลังจากที่มันทานผลิตภัณฑ์ Evanger’s Hunk of Beef เข้าไปเมื่อช่วงวันขึ้นไปใหม่ปี 2016 ที่ผ่านมา “ฉันให้อาหารมันไปแค่ 1 กระป๋อง แต่หลังจากนั้นแค่ 15 นาที มันก็มีอาการผิดปรกติ มันเดินเหมือนกับคนเมาก่อนที่จะล้มลงกับพื้น ฉันรีบพามันไปห้องฉุกเฉินอย่างเร่งด่วน” หญิงสาวให้สัมภาษณ์ถึงอาการสุนัขของเธอ น่าเสียดายที่เจ้าแพทย์ไม่สามารถยื้อชีวิตของเจ้า Talula หนึ่งในน้องหมาทั้ง 3 ไว้ได้ และคุณ Nikki…
-
ภาพถ่ายมุมสูงของงานอุตสาหกรรม กับรอยแผลเป็นที่ฝากไว้บนผืนแผ่นดินธรรมชาติ…
ก็อย่างที่รู้กันดีว่าโรงงานอุตสาหกรรมนั้นเป็นตัวการที่ทำให้สภาพแวดล้อมบนโลกเลวร้ายลง ทุกที่ที่มีการทำโรงงานอุตสาหกรรมเกี่ยวกับสารเคมี จะทำให้สภาพแวดล้อมเสียหายอย่างหนัก และไม่สามารถฟื้นฟูให้กลับมาเป็นปกติได้ สำหรับวันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปชมร่องรอยความโหดร้ายของโรงงานอุตสาหกรรมที่ทำลายสภาพแวดล้อมและทิ้งรอยแผลเป็นเอาไว้ ผ่านมุมกล้องแบบ Bird Eye View ว่ามันส่งผลร้ายแรงแค่ไหน เป็นผลงานภาพถ่ายจากช่างภาพ J Henry Fair ใช้ชื่อผลงานว่า Industrial Scars โดยมีเป้าหมายเพื่อทำให้มนุษย์หันมาให้ความสนใจกับผลกระทบที่น่าเศร้าที่ตัวเองเป็นคนสร้างให้กับโลกใบนี้ เอาล่ะถ้าพร้อมแล้วก็ลองไปชมผลงานของเขาไปพร้อมๆ กันเลยดีกว่า… 1. อุตสาหกรรมอลูมิเนียม ในเมือง Gramercy รัฐ Louisiana ประเทศสหรัฐอเมริกา โคลนสีแดงที่เห็นนี้เป็นของเสียที่เกิดขึ้นจากการทำอุตสาหกรรมอลูมิเนียม ถูกปั๊มขึ้นมาบนพื้นผิวโลกจนกลายเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 2. อุตสาหกรรมอาหาร ในเมือง Luling รัฐ Louisiana ประเทศสหรัฐอเมริกา ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ว่าสารเคมี Glyphosate ที่เป็นผลพลอยมาจากการทำอุตสาหกรรมอาหารปลอดภัยต่อมนุษย์หรือไม่ แต่ที่แน่ๆ สารตกค้างเหล่านี้ทำให้เกิดปรากฏการณ์อย่างที่เราเห็นในภาพ 3. อุตสาหกรรมน้ำมัน ในเมือง Fort Mcmurray ประเทศแคนาดา นี่เป็นภาพมุมสูงบนแท้งค์น้ำมันที่บรรจุน้ำมันดิบกว่า 400,000…
-
เจ้าหน้าที่ตำรวจไอร์แลนด์เหนือ เร่งสืบหาที่มาของ “อุจจาระมนุษย์” หลังถูกพบในกระป๋องโค้ก…
น้อยครั้งมากที่เราจะได้พบเจอสิ่งแปลกปลอม หรือเศษซากบางอย่างในผลิตภัณฑ์อาหารที่เรารับประทานกันในแต่ละวัน แต่ถ้าหากได้เจอครั้งหนึ่งละก็ เรียกได้ว่าทำเอาหลายคนถึงกับร้องยี้ขึ้นมาทันทีเลยใช่ไหมละ ล่าสุด เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2560 ทางสำนักข่าวต่างประเทศมีรายงานว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไอร์แลนด์เหนือ กำลังเร่งสืบหาสาเหตุที่มาของกระป๋องที่ถูกส่งไปยังโรงงานผลิตน้ำอัดลมโคคา-โคล่า หลังพบว่ามีอุจจาระของมนุษย์ปนเปื้อนอยู่ จากการรายงานระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าว ได้เกิดขึ้นในขณะที่ทางโรงงานผลิตน้ำอัดลม Hellenic Bottling Company ในเมือง Lisburn, Co Antrim ประเทศไอร์แลนด์ กำลังผลิตน้ำอัดลมตามปกติอยู่ แต่จู่ๆ เครื่องผลิตก็ดันเกิดขัดข้องเนื่องจากพบว่า ภายในเครื่องผลิตมีบางสิ่งบางอย่างเข้ามาอุดต้น ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ทางพนักงานได้รุดเข้าไปตรวจสอบ และพบว่ากระป๋องน้ำอัดลมได้รับการปนเปื้อนจากอุจจาระของมนุษย์เป็นจำนวนมาก “โดยปกติแล้วกระป๋องน้ำอัดลม จะถูกส่งมาจากประเทศอังกฤษ แต่ในครั้งนี้มันถูกส่งมาจากประเทศเยอรมนี” ซึ่งในระหว่างการขนส่งกระป๋องมายังโรงงานบรรจุ ก็พบว่าฝากระป๋องในล็อตนี้ไม่ได้ทำการปิดมาตั้งแต่แรก นอกจากนี้ ยังมีการคาดเดาอีกว่า อาจมีผู้อพยพที่พยายามหลบหนีเข้าเมืองมาลอบขึ้นรถขนส่งกระป๋อง ซึ่งการเดินทางในครั้งนั้นอาจจะต้องใช้เวลาที่ยาวนาน และเมื่อต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก จึงทำให้พวกเขาต้องตัดสินใจใช้กระป๋องน้ำอดลมแทนการเข้าห้องน้ำนั่นเอง ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจไอร์แลนด์เหนือ ได้ออกมาเผยว่า “การสืบหาสาเหตุที่เกิดขึ้นกำลังอยู่ในระยะเริ่มต้น ซึ่งขณะนี้ทางเรายังไม่มีรายละเอียดใดๆ ที่จะมาขี้แจงให้ทราบ” …
-
ชาวเมืองตระหนก!! จู่ๆ น้ำประปาก็กลายเป็น “สีชมพู” เพราะมีด่างทับทิมมากเกินไป
โดยปกติแล้วหากพบว่ามีสิ่งแปลกปลอมเกิดขึ้นกับเหตุการณ์หรือชีวิตประจำวัน หลายๆ คนก็คงจะเกิดอาการแปลกใจ และตั้งคำถามกับสิ่งที่เกิดขึ้นนั้น จากนั้นก็หาวิธีการแก้ปัญหา อาจจะเป็นการแจ้งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เข้ามาแก้ไข เป็นต้น เช่นเดียวกันกับเหตุการณ์นี้ เมื่อชาวเมืองเล็กๆ ที่อยู่ในรัฐ Alberta ได้พบกับเหตุการณ์แปลกๆ เมื่อจู่ๆ น้ำประปากลายเป็นสีชมพูขึ้นมา!? ชาวเมือง Onoway ที่มีประชากรประมาณ 1,000 คน ได้สังเกตเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงเมื่อช่วงเย็นของวันจันทร์ที่ผ่านมา ชาวเมืองที่ได้พบเห็นกับเหตุการณ์ต่างก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่ามันดูน่ากลัวสุดๆ “น้ำเสียซะแล้ว ขอบคุณเมืองของฉันมาก ให้มันได้อย่างนี้สิ!!” ผู้ใช้เฟซบุ๊กที่เป็นหนึ่งในชาวเมืองผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้กล่าวในแคปชั่นของวิดีโอที่เขาโพสต์ หลายๆ คนต่างก็สงสัยว่าเหตุการณ์แปลกประหลาดนี้มันเกิดขึ้นได้อย่างไร เนื่องจากมันส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตชองชาวเมืองมากๆ เพราะน้ำประปาที่ต่างประเทศนั้นไม่ได้มีไว้ใช้อาบ หรือซักล้างเพียงอย่างเดียว แต่ยังสามารถใช้ดื่มกินได้อีกด้วย ซึ่งในเช้าวันต่อมาทางนายกเทศมนตรีของเมือง Onoway ก็ออกมาประกาศแจ้งให้ชาวเมืองทราบถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่าเป็นความผิดพลาดของระบบบำบัดน้ำของโรงงานบำบัดน้ำเสีย “พวกเรากำลังดำเนินการหาข้อผิดพลาดที่แน่ชัดอยู่ และก็พบว่าวาล์วของท่ออาจจะเสีย เลยทำให้สารโพแทสเซียมเปอร์แมงกาเนต (ด่างทับทิม) ไหลเข้าไปในอ่างเก็บน้ำจนมากเกินไป จึงทำให้น้ำที่ถูกส่งไปตามบ้านเรือนต่างๆ กลายเป็นสีชมพู” ท่านนายกเทศมนตรีกล่าว ด่างทับทิมนั้นถูกใช้เพื่อดับกลิ่น และรสชาติอันไม่พึงประสงค์ที่อยู่ในน้ำประปา และกระบวนการผลิตน้ำดื่ม อย่างแพร่หลาย ซึ่งหากใช้มันในปริมาณที่มากเกินไปอาจทำให้น้ำกลายเป็นสีชมพูได้ แต่ถึงอย่างไรก็ตามทางเทศบาลก็กำลังดำเนินการชำระล้างน้ำที่ปนเปื้อนกับด่างทับทิมที่มากเกินไปอย่างเร่งด่วน เพราะถ้าหากชาวเมืองเกิดบริโภคเข้าไปล่ะก็มีความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายต่อร่างกายได้เช่นกัน…
-
สภาพของเมือง ‘ฟูกุชิมะ’ 5 ปีผ่านไป สถานที่กาลเวลาหยุดนิ่ง ทุกอย่างยังคงอยู่ตรงนั้น…
จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิที่เมืองฟุกุชิมะเมื่อช่วงเดือนมีนาคม ปี 2011 ที่ผ่านมา หรือเมื่อราวๆ 6 ปีก่อน จนเกิดเป็นภัยพิบัตินิวเคลียร์ที่เรียกได้ว่าสร้างความเสียหายยิ่งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เหตุการณ์เชอร์โนบิลเลยทีเดียว แม้จะไม่มีรายงานว่ามีการเสียชีวิตที่เชื่อมโยงกับการสัมผัสกับสารกัมมันตรังสีในระยะสั้นที่มากเกินไป แต่ก็มีผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหว และสึนามิมากกว่า 18,500 คน เลยทีเดียว จากความเสียหายครั้งใหญ่ในคราวนั้น ก็ผ่านแล้วเป็นเวลา 5 ปี เมืองที่เคยคึกคักกลับถูกทิ้งร้างให้ว่างเปล่า แต่ในวันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปชมบรรยากาศภายในเมืองฟุกุชิมะกัน จะเป็นอย่างไรบ้างนั้น ลองไปชมผลงานของช่างภาพ Arkadiusz Podniesinski ชาวโปแลนด์ ที่เข้าไปเก็บภาพในเมืองมาให้พวกเราได้ชมกัน 1. เจ้าหน้าที่ทำการตรวจผู้มาเยือน เพื่อเช็คการปนเปื้อนแม้จะผ่านไปแล้ว 5 ปีก็ตาม 2. ร้านขายแผ่นเสียงที่เงียบงัน ไม่มีชีวิตชีวาแม้แต่น้อย 3. มีแต่แมงมุมที่เข้ามาสร้างรังอาศัยอยู่ 4. ไปทางไหนก็มีแต่ต้นหญ้าขึ้นสูงเต็มไปหมด 5. ถนนตอนกลางคืนที่ยังคงส่องสว่าง แม้จะไม่มีใครอยู่อาศัยแล้วก็ตาม 6. แหล่งทิ้งขยะเรียงรายนับล้านถุง 7. ขบวนรถที่จอดอยู่มากมาย ทำให้เราเห็นว่าในอดีตก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์นั้นบนท้องถนนเคยคึกคักมากแค่ไหน …