Tag: ประธานาธิบดีสหรัฐ
-
ศิลปินเปลี่ยนเหล่า “ประธานาธิบดีอเมริกา” ให้กลายเป็น “ฮีโร่” ราวกับหลุดมาจากในเกม…
หากพูดถึงผู้นำประเทศที่เป็นมหาอำนาจในโลก หลายๆ คนคงจะนึกถึงประธานาธิบดีประเทศสหรัฐอเมริกาอย่างแน่นอน ว่ากันว่าพวกเขาคือคนที่สามารถชี้นำทิศทางและอนาคตของโลกได้เลยทีเดียว จนบางคน มองพวกเขาเป็นเหมือนตัวละครในหนังซุปเปอร์ฮีโร่สักเรื่อง และ Jason Heuser ก็คงมองพวกเขาเป็นฮีโร่เช่นกัน เขาจึงได้ทำการสร้างสรรค์ผลงานสุดอลังการที่เปลี่ยนประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาที่ผ่านมาให้กลายเป็นฮีโร่สุดเจ๋ง ซึ่งจะผลงานของเขาจะสุดยอดขนาดไหน เราไปรับชมกันเลยครับ!! Barack Obama กับสิงโตที่น่าเกรงขาม George Washington นักฆ่าซอมบี้ Abraham Lincoln ผู้ควบคุมหมีกริซลี Teddy Roosevelt ปะทะกับไอ้ตีนโต Ronald Reagan กับไดโนเสาร์ Velociraptor คู่ใจ Ronald Reagan ผู้กอบกู้อิสระภาพ George Warshington ยอดนักรบ John F. Kennedy นักท่องอวกาศกับม้าเหล็กคู่ใจ Thomas Jefferson ดวลหมัดกับกอริลลา Richard Nixon กับการต่อสู้แสนดุเดือดกับเสือเขี้ยวดาบ Franklin D. Roosevelt นักรบผู้เก่งกาจ Andrew Jackson นักล่าเอเลี่ยนมือฉมัง George DUBYA Bush กับฉลามเหินฟ้า และปิดท้ายกับประธานาธิบดีคนล่าสุดของอเมริกา…
-
Donald Trump เอาอีกแล้ว มาคราวนี้บอกว่า สหรัฐอเมริกาน่าจะมีผู้นำตลอดชั่วอายุขัยบ้างนะ
เมื่อพูดถึงประธานาธิบดีอเมริกาคนปัจจุบันอย่าง Donald Trump เมื่อไหร่ เราก็มักจะนึกถึงเร่ื่องราวกับคำพูดสุดโต่งของเขาเสมอๆ อย่างเช่น ‘grabbing ’em by the p*ssy’ หรือคำพูดที่บอกว่าปุ่มกดนิวเคลียร์ของเขาเจ๋งกว่าเกาหลีเหนืออะไรทำนองนี้ ซึ่งแม้ว่าเวลาจะผ่านไปจนเข้าสู่ปีที่ 2 ของการเป็นผู้นำของเขา นิสัยการพูดทีเล่นทีจริงของเขาก็ยังคงไม่จางหายไป ซึ่งล่าสุดเขาได้ออกมาพูดว่าสหรัฐอเมริกาน่าจะเอาอย่าง Xi Jinping ผู้นำประเทศจีนที่กำลังวางแผนจะทำให้วาระการอยู่บนอำนาจไม่มีจำกัดบ้าง และนี่ก็คือคำพูดของ Donald Trump ที่กำลังตกเป็นประเด็นร้อน “ตอนนี้เขาเป็นประธานาธิบดีตลอดชั่วอายุขัยแล้ว และด้วยความที่เขาเป็นคนสุดยอดเขาจึงสามารถทำมันได้ ซึ่งผมก็คิดว่ามันเจ๋ง บางทีพวกเราน่าจะทำแบบนั้นบางในสักวันหนึ่ง” งานนี้่นักข่าวหลากหลายสำนักก็พากันออกมาแซะกันยกใหญ่ว่า ถ้าเกิด Donald Trump คิดว่าจะทำแบบนั้นจริงๆ ตามแบบผู้นำที่เขามีความสามารถแบบชาติอื่นๆ พี่แกก็คงจะคิดผิดแล้ว เพราะตัวเขาเองไม่ได้เยี่ยมเท่าคนที่เขาอ้างถึงนั่นเอง อย่างไรก็ตามด้านพรรค Republicans ซึ่งเป็นต้นสังกัดของ Donald Trump ก็ได้ออกมาบอกว่า คำพูดดังกล่าวนั้นเป็นแค่คำล้อเล่น และต่อให้มันเป็นจริงก็มีคนมากมายไม่เห็นด้วยหรอก ยิ่งไปกว่านั้นทางพรรคก็บอกว่าตัว Donald Trump เองก็ประกาศจะลงเลือกตั้งอีกครั้งในปี 2020 แล้วด้วย ฉะนั้นขอให้ทุกอย่าตื่นตระหนกไป…
-
มาดูความเห็นชาวเน็ตต่างชาติ กับการที่ทรัมป์ถือร่มให้ตัวเอง แต่ไม่ถือให้ภรรยาและลูก…
เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2018 สำนักข่าว Daily Mail ได้เผยภาพของประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา Donald Trump ที่กำลังจะขึ้นเครื่องบินเดินทางไปพร้อมๆ กับครอบครัวของเขา ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมา ภาพของ Trump ถือร่มกันฝนขณะที่กำลังเดินขึ้นเครื่องบิน ภาพที่ได้เห็นอาจจะดูไม่แปลกอะไร แต่มันกลับทำให้ชาวเน็ตจำนวนมากวิพากษ์วิจารณ์กับการที่ Trump ถือร่มกันฝนเดินนำหน้าไปเพียงคนเดียว ในขณะที่ Melanie ภรรยาของเขา และลูกชาย Barron เดินตากฝนตามหลังเขามา สิ่งที่ชาวเน็ตพูดเกี่ยวกับพฤติกรรมของเขาในครั้งนี้คือ ทำไม Trump ถึงใช้ร่มกันฝนให้ตัวเองเพียงคนเดียว ไม่ยอมกันฝนให้ภรรยาที่เดินตามมาข้างหลัง ทั้งๆ ที่ร่มคันนั้นมีขนาดใหญ่มากพอสำหรับคน 2 คนอย่างแน่นอน การแสดงความคิดเห็นของชาวเน็ตทั้งหลายถูกแบ่งออกเป็นสองฝั่ง ฝั่งหนึ่งคือความคิดเห็นของชาวอังกฤษที่พูดถึงเรื่องความเป็นสุภาพบุรุษและมองว่าผู้นำคนนี้ทำสิ่งที่แย่มากๆ ส่วนอีกฝั่งคือชาวอเมริกันที่มองว่าชายและหญิงก็เท่าเทียมกัน Trump ไม่เห็นจำเป็นต้องไปกางร่มให้ภรรยาซักหน่อย ความคิดเห็นจากฝั่งอังกฤษส่วนใหญ่ที่พูดถึงเรื่องการไม่เป็นสุภาพบุรุษ Jollyboy “ถ้าพูดจริงๆ มันคงจะน่าตกใจกว่านี้ถ้าเราเห็น Trump กางร่มให้ภรรยาและลูกชาย เพราะเขาคือคนที่ไร้มารยาท เติบโตมาด้วยเงินเพียงอย่างเดียว และยังทำตัวหยาบคายราวกับสัตว์เดรัจฉาน”…
-
สื่อนอกรายงานเรื่องทรัมป์ใช้เงินกว่า 4 ล้านบาทปิดปากดาวโป๊ ในช่วงที่กำลังมีการเลือกตั้ง
เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2018 วารสาร Wall Street ได้รายงานเกี่ยวกับความอื้อฉาวของประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา Donald Trump โดยเนื้อข่าวบอกเอาไว้ว่า ชายคนนี้เคยมีความสัมพันธ์ทางเพศกับดาราหนังผู้ใหญ่ที่ชื่อว่า Stephanie Clifford (หรือรู้จักกันในชื่อ Stormy Daniels) ไม่ใช่เพียงแค่นั้น เพราะตามรายงานยังบอกอีกว่า Trump ยอมจ่ายเงินให้กับเธอเป็นจำนวนกว่า 4 ล้านบาท เก็บเรื่องที่เกิดขึ้นเอาไว้เป็นความลับในช่วงที่กำลังมีการเลือกตั้ง ภาพของผู้นำคนปัจจุบันที่ถ่ายคู่กับดาราสาว Stephanie เมื่อปี 2006 เรื่องราวอื้อฉาวของทั้งคู่ถูกพูดถึงครั้งแรกในการพิจารณาคดีเมื่อปี 2016 ตอนที่ดาราหนังผู้ใหญ่อีกคนที่ชื่อว่า Jessica Drake ออกมากล่าวหา Trump ว่าเคยจูบเธอโดยที่เธอไม่เต็มใจ และยังตามตื้อจนถึงขนาดเสนอกับเธอว่าจะจ่ายเงินให้เธอกว่า 300,000 บาท พร้อมทั้งให้หญิงสาวนั่งเครื่องบินส่วนตัวของเขามาหาที่ห้อง ในตอนนั้น Jessica บอกว่า เธอรับข้อตกลงและบินไปหา Trump แต่ไม่ได้มีอะไรกับเขาเลย เพราะเธอพาเพื่อนไปด้วยอีกสองคน เพราะเธอรู้สึกไม่สบายใจที่ต้องไปคนเดียว ในเมื่อตอนนั้น Melanie ภรรยาของผู้นำคนปัจจุบันกำลังตั้งท้องอยู่ Jessica…
-
รัสเซียออกโรงเหน็บ “ทรัมป์” ทะเลาะ “คิม จ็อง-อึน” เหมือนเด็กอนุบาลตีกันในสนามเด็กเล่น!!
จากสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐ-เกาหลีเหนือ และเรื่องที่เกาหลีเหนือออกมาพูดถึงการทดสอบขีปนาวุธของตนเอง ทำให้ทั่วโลกไม่สามารถอยู่เฉยได้ และ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ถึงกับออกมาบอกว่า อาจต้องมีสงครามกันเลยทีเดียว ล่าสุดเมื่อเขาได้ขึ้นพูดที่องค์การสหประชาชาติเอาไว้ว่า พร้อมจะทำลายเกาหลีเหนือทั้งหมด หากตกอยู่ในสถานการณ์บังคับที่ต้องปกป้องตัวเองและพันธมิตรของตน ยิ่งไปกว่านั้นเขายังล้อเลียนผู้นำเกาหลีเหนือเอาไว้ว่า เป็น “คนปล่อยจรวดที่กำลังอยู่ในภารกิจฆ่าตัวตาย” นับว่าเป็นการดูถูกและแสดงถึงความไม่เกรงกลัวใดๆ โดนัลด์ จอห์น ทรัมป์ ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา คลิปวิดีโอการออกมาพูดของเขา ที่องค์การสหประชาชาติ สิ่งนั้นทำให้ผู้นำเกาหลีเหนือ คิม จ็อง-อึน ออกมาตราหน้าว่าทรัมป์คือ “ผู้วิกลจริต” และมีสติเลอะเลือน และกล่าวสุนทรพจน์ในเชิงว่า เกาหลีเหนือมีสิทธิ์ที่จะพัฒนาอาวุธอยู่แล้ว เขาบอกว่าประธานาธิบดีสหรัฐออกมาดูถูกประเทศของตนต่อหน้าสายตาของทุกคนทั่วโลก และพยายามบีบให้ทุกคนเชื่อไปตามสิ่งที่ตัวเองพูด ยัง ยังไม่จบ.. คิมยังเสริมอีกว่าทรัมป์จะต้องเจอกับบทเรียนราคาแพงอย่างที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน ซึ่งเป็นผลลัพธ์มาจากคำพูดของตัวทรัมป์เองที่บอกว่า “เป็นความรุนแรงที่ไร้สาระในประวัติการณ์” และนี่คือการออกมาพูดต่อหน้าสื่อมวลชนต่างชาติโดยตรงเป็นครั้งแรกของชายคนนี้ เรื่องที่เขาพูดจึงควรเก็บไปคิดและพิจารณาอย่างมาก เพราะการตัดสินใจในวันข้างหน้าอาจตามมาด้วยความรุนแรงที่เกินคาดอย่างที่เขาบอกไว้ ไม่ได้มีเพียงแค่ผู้นำประเทศเท่านั้น เพราะรัฐมนตรีต่างประเทศของเกาหลีเหนือก็ได้ออกมาเตือนอีกว่า พวกเขาสามารถที่จะทดสอบระเบิดไฮโดรเจน ในมหาสมุทรแปซิฟิกก็ได้ เพื่อตอบโต้การถูกคุกคามจากผู้นำสหรัฐ ภาพในวันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา ของผู้นำเกาหลีเหนือตอบโต้กับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่……
-
น่าทึ่ง!! NASA จับภาพ “สถานีอวกาศนานาชาติ” แล่นผ่านตอนปรากฎการณ์สุริยุปราคา
บางคนอาจได้ทราบกันไปแล้วว่าได้เกิดปรากฎการณ์สุริยุปราคาที่สามารถมองเห็นได้ในประเทศอเมริกาที่ผ่านมาไม่กี่วันนี้ แต่ความเจ๋งที่เกิดขึ้นไม่ได้มีเพียงปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ เพราะมันยังคงมีสิ่งที่เราไม่ได้พบเห็นกันง่ายๆ อยู่ เมื่อช่างภาพที่มีชื่อว่า Joel Kowsky ในรัฐไวโอมิง ถ่ายภาพปรากฎการณ์ดังกล่าวและพบว่ามันได้มีบางอย่างเคลื่อนไหวอยู่บริเวณของเสี้ยวดวงอาทิตย์ที่กำลังถูกบดบัง และสิ่งนั้นคือสถานีอวกาศนานาชาตินั่นเอง เขาได้ใช้เพียงกล้องทั่วไปถ่ายไฮสปีดชัตเตอร์ด้วยความเร็ว 1,500 ภาพต่อวินาที ด้วยเลนส์ที่มีความเร็วสูงเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับการถ่ายเจ้าสิ่งที่เคลื่อนไหวด้วยความเร็วกว่า 28,000 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หมายความว่าสถานีดังกล่าวนั้นจะเดินทางรอบโลกในทุก 90 นาที นอกจากนั้น NASA ก็ได้ทำการนำแต่ละภาพหลากหลายมุมเข้ามาประกอบกันจนเห็นเป็นสถานีอวกาศขนาดจิ๋วมากมายแล่นผ่านดวงอาทิตย์ ทว่าจากการทำอย่างนั้นจึงทำให้หลายคนคิดว่าภาพนี้คือภาพปลอมที่ถูกทำขึ้น ได้มีความคิดเห็นว่าสิ่งนี้นั้นไม่ใช่เรื่องจริงบ้างก็บอกว่าเป็นการถ่ายทำหนังฮอลลีวู้ดและมองว่าเป็นเรื่องตลก แต่ก็ยังมีคนที่ประทับใจกับภาพดังกล่าวจากความเห็นที่ว่า “ปรากฎการณ์ธรรมชาติในระยะที่ไกลขนาดนี้ ด้วยการเข้าถึงผ่านเทคโนโลยีของมนุษย์ เป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมมาก” ในภาพสถานีอวกาศดังกล่าวดูไม่ใหญ่มากนักแต่ความจริงแล้วมันมีความยาวอยู่ที่ 109 เมตร และมีขนาดใหญ่กว่าสถานีอวกาศที่อเมริกาเป็นเจ้าของอยู่ถึง 5 เท่าเลยทีเดียว และสถานีอวกาศนานาชาตินี้ได้เกิดการลงทุนของ 16 ประเทศ รวมมูลค่ามากกว่า 3 ล้านล้านบาท ถ้าเอาไปขายได้ก็คงจะรวยไปอีกหลายชีวิตเลยล่ะ หรือว่าใครคิดว่าภาพดังกล่าวนั้นยังไม่เจ๋งพอหรือว่าคอมเม้นท์แคปชั่นยังไม่โดนใจ งั้นเราลองมาดูภาพของ Donald Trump ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐ มองไปยังสุริยุปราคาด้วยตาเปล่าทั้งๆ ที่นักวิทยาศาสตร์ได้ออกมากล่าวเตือนแล้วว่าไม่ควรมองสิ่งนี้โดยไม่มีการป้องกัน เยี่ยมไปเลยมั้ยละ ที่มา: ladbible
-
เดอะร็อคเปรย อยากเป็นปธน. สหรัฐฯ ในปี 2020 เพราะ “ผู้คนอยากได้ผู้นำที่ดีกว่า”
หลายๆ คนคงจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีกับพ่อหนุ่มกล้ามโตอดีตนักมวปล้ำชื่อดังอย่าง Dwayne Johnson หรือ The Rock ที่ตอนนี้ได้ผันตัวเข้าสู่วงการภาพยนต์แบบเต็มตัวแล้ว และล่าสุดเขาได้ให้สัมภาษณ์ว่ามีแผนที่จะลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิปดีของสหรัฐอเมริกาอีกด้วย!! เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาในรายการ The Tonight Show ของ Jimmy Fallon เดอะร็อคก็ได้พูดถึงกระแสการตอบรับของข่าวการลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิปดีของเขาไว้ด้วย The Rock บอกว่า “ผู้คนให้ความสนใจกับเรื่องนี้อย่างมาก คุณรู้ไหมว่าเพราะอะไร ก็เพราะว่าพวกเขาต้องการที่จะเห็นความแตกต่างของความเป็นผู้นำ ซึ่งอันที่จริงไม่ใช่ความแตกต่างหรอก แต่คือต้องการบุคคลที่มีความเป็นผู้นำที่ดีกว่าต่างหากล่ะ” เมื่อถูกถามว่าอะไรคือสิ่งที่ทำให้เขามั่นใจในการลงสมัครนี้ อดีตนักมวยปล้ำก็ตอบกลับไปว่า “ผมมีความใจเย็นและไม่ค่อยมีเรื่องเสียหายซักเท่าไหร่ ผมคิดมานานแล้วว่าอยากจะเป็นคนที่มีผู้คนล้อมรอบ ผมอยากจะตื่นขึ้นมาตอนเช้าและออกไปทำงานร่วมกับผู้คนของผม และผมชอบที่จะดูแลคนอื่นๆ อีกด้วย” นอกจากนี้ Johnson ก็ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการลงแข่งขันในสมัครชิงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ ในนิตยสาร GQ เมื่อช่วงสัปหาห์ที่ผ่านมา เขาเชื่อว่าจะสามารถบริหารประเทศได้และตอนนี้กำลังวางแผนอย่างจริงจังเกี่ยวกับการลงสมัครชิงตำแหน่งนี้ “โดยส่วนตัวแล้วผมคิดว่าการเป็นประธานาธิปดีเป็นเรื่องที่สำคัญ และการมีภาวะผู้นำก็เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งในการรับผิดชอบต่อผู้คน ผมจะไม่ปิดกั้นความเห็นที่แตกต่าง แต่จะนำมาใช้ในการตัดสินใจด้วย เรายังมีอีกหลายสิ่งที่จะต้องทำและเพื่อกำจัดเรื่องแย่ๆ ออกจากประเทศของเรา ผมคิดว่าหนึ่งในคุณสมบัติของผู้นำที่ดี คือการรับฟังความเห็นอย่างรอบด้าน” นักแสดงหนุ่มวัย 45 ปียังได้บอกอีกว่าถ้าหากเขาได้เป็นผู้นำของสหรัฐฯ เขาจะไม่มีวันทอดทิ้งประชาชนอย่างแน่นอน แบบนี้ในการแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิปดีสหรัฐอเมริกาครั้งหน้า เราคงจะเห็น The Rock ลงสมัครกับเขาด้วยแน่ๆ…
-
ความลับอันทรงพลังของ Football กระเป๋าหนังใบจิ๋ว ซึ่งติดตามประธานาธิบดีสหรัฐฯ ไปทุกๆ ที่!!?
สำหรับวันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปรู้จักกับกระเป๋า ที่ติดตามประธานาธิบดีแห่งประเทศสหรัฐอเมริกาไปแทบจะทุกๆ ที่ กระเป๋าหนังสีดำที่เรียกกันว่า “Football” ที่มีดีมากกว่าที่คุณรู้!!! ถ้าจะให้ลองยกตัวอย่างเจ๋งๆ ที่กระเป๋านี้สามารถทำได้ก็คือ อุปกรณ์ลับที่สามารถให้ท่านประธานาธิบดีสั่งการยิงอาวุธนิวเคลียร์จากที่ไหนก็ได้…ยกตัวอย่างเช่น จากบังเกอร์หลบภัยในทำเนียบขาว!!! Football เก่าๆ ทุกใบที่เกษียณแล้วจะถูกเก็บและจัดแสดงที่ Smithsonian National Museum of American History หลักๆ แล้วมันคือกระเป๋าลับฉุกเฉินของท่านประธานาธิบดี ด้วยรูปร่างลักษณะที่ไม่เตะตาเอาเสียเลย เหมือนกระเป๋าถูกๆ แต่มันจะถูกถือโดย 1 ใน 5 ของที่ปรึกษาทางการทหารของประธานาธิบดีสหรัฐฯ อยู่เสมอ และไม่เคยจะอยู่ไกลตัวพวกเขา เผื่อพบเข้ากับสถานการณ์ฉุกเฉินเข้าจริงๆ จากคำบอกเล่าของ Bill Gulley อดีตเจ้าหน้าที่ทางการทหารระดับสูงของทำเนียบขาว ในกระเป๋าฟุตบอลที่เราพูดถึงกันนั้นไม่ได้มีปุ่มสีแดงที่กดแล้วโลกาจะวินาศแต่อย่างใด แต่บรรจุของ 4 อย่างไว้ คือ… 1. เอกสาร Black Book ที่มีรายละเอียดเกี่ยวกับเป้าหมายและทางเลือกในการยิงหัวรบนิวเคลียร์ 75 หน้า ที่ปริ้นไว้ด้วยหมึกสีแดงและดำ 2. เอกสาร Black Book อีกชุด ที่ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับพื้นที่ลับต่างๆ และสถานที่หลบภัยสำหรับประธานาธิบดี…