Tag: ประวัติ
-
เบื้องหลัง 11 แบรนด์ดังระดับโลก กว่าจะมาถึงทุกวันนี้ได้ พวกเขามีอดีตอย่างไรกันบ้าง!?
แบรนด์ดังระดับโลกทั้งหลาย แน่นอนว่ากว่าจะมีชื่อเสียงอย่างที่เห็นกันทุกวันนี้ได้ พวกเขาย่อมมีเคยมีประวัติทั้งดีและแย่กันมาทั้งนั้น บางแบรนด์ก็มีอดีตอันขมขื่น ขณะเดียวกันบางแบรนด์ก็อาจจะมีอดีตที่ทำให้เราต้องตกใจก็เป็นได้ ฉะนั้นวันนี้เราจึงขอนำเสนอ เบื้องหลัง 11 แบรนด์ดังระดับโลก ที่อาจทำให้คุณต้องตกใจก็เป็นได้… 1. Häagen-Dazs ที่จริงแล้วเป็นบริษัทสัญชาติอเมริกันแท้ๆ ส่วนชื่อของแบรนด์ที่ดูไม่เหมือนภาษาอังกฤษนั้น เป็นคำพูดลอยๆ ที่ทำให้ฟังดูเหมือนเป็นบริษัทของประเทศฝั่งยุโรปเท่านั้นเอง 2. Corn Flakes นั้นถูกผลิตมาเพื่อหยุดยั้งการช่วยตัวเองและการมีเซ็กส์ที่มากเกินไป John Harvey Kellogg นายแพทย์ที่ต่อต้านการมีเซ็กส์และการช่วยตัวเอง ได้พยายามช่วยเหลือ “ผู้ป่วย” ที่เสพย์ติดเซ็กส์ด้วยการใช้โภชนาการบำรุงสุขภาพ เขาจึงสร้างธัญญาหารที่ทำจากข้าวโพดมาช่วยยับยั้งอาการเหล่านี้ 3. Coca Cola ปัจจุบันก็ยังคงผลิตมาจากใบโคคาใช้แล้วที่มีสารโคเคน บริษัทนี้เป็นเพียงบริษัทเดียวในอเมริกาที่ได้รับอนุญาตให้สกัดโคเคนออกมาจากใบโคคาได้ สารโคเคนนั้นจะถูกจำหน่ายให้กับวงการแพทย์ ส่วนใบโคคาที่ใช้แล้วก็ถูกจำหน่ายให้กับบริษัท Coca Cola นั่นเอง 4. Puma และ Adidas ถูกก่อตั้งขึ้นโดยสองพี่น้องท้องเดียวกัน ทั้งคู่เริ่มก่อตั้งบริษัทผลิตรองเท้าด้วยกันแต่สุดท้ายก็แตกหักกันกลายเป็น 2 แบรนด์นี้นั่นเอง 5. เครือ Marriott กว่าจะมาเป็นโรงแรมหรูยักษ์ใหญ่นั้นเริ่มจากการเป็นแบรนด์แผงตั้งขายเบียร์มาก่อน …
-
เปิดประวัติศาสตร์ “ขันที” พวกเขาเป็นใครมาจากไหน ไม่ใช่แค่ต่างประเทศ ในไทยก็มี!?
ขันที คือชื่อเรียกที่เรานิยมใช้เรียกชายที่มีการตอนอวัยวะเพศ ซึ่งมักมีการนำไปทำงานในวังใน ว่ากันว่ามีที่มามาจากคำว่า Eunuch ซึ่งมีรากศัพท์มาจากภาษากรีกที่ว่า Eunouchos แปลว่าผู้ดูแลรักษาเตียง ประวัติของขันที ประวัติที่เก่าแก่ที่สุดของขันทีนั้นย้อนไปได้ในช่วงราวๆ ช่วง 2000 ปีก่อนคริสตกาลที่เมืองละกาสช์ ของชาวสุเมเรียน ในเมโสโปเตเมีย ขันทีในสมัยนั้นมีหน้าที่หลากหลายภายในราชวังตั้งแต่ข้าราชบริพาร นักร้องเสียงแหลม ผู้เชี่ยวชาญทางศาสนา ทหาร ผู้คุ้มกันเจ้าหน้าที่ ผู้พิทักษ์สตรี หรือคนรับใช้ในฮาเร็ม ขันทีในยุคแรกๆ นั้นมักที่จะมาจากคนรับใช้หรือทาสที่ถูกนำมาตอน และออกแบบมาไม่ให้มีความสัมพันธ์กับทหาร ขุนนาง หรือแม้แต่ครอบครัวของตนเอง (อย่างน้อยๆ ก็ไม่มีทายาท) เนื่องจากสภาพร่างกายสถานะทางสังคมของพวกเขาต่ำ และสามารถหาคนมาแทนที่ได้อย่างง่ายดาย หรือถูกฆ่าได้โดยไม่มีผลกระทบมากนัก วัฒนธรรมการใช้ขันทีแตกแขนงออกไปสู่จีน เอเชียตะวันตก เอเชียใต้ เปอร์เซียโบราณ และจักรวรรดิโรมันตะวันออก และในเวลาต่อมา ออตโตมาน ซาฟาวี และโมกุล การที่พวกเข้ามาสู่จีนนั่นเองซึ่งทำให้ขันทีกลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกในปัจจุบัน และพวกเขาก็กลายเป็นชายถูกตอนที่ได้รับความไว้วางใจให้ทำงานในพื้นที่ใกล้เคียงกับเบื้องสูงได้ โดยไม่ต้องกังวลถึงความสัมพันธ์ชู้สาวมากนัก ขันทีในไทย ดร. วินัย พงศ์ศรีเพียร ได้สันนิษฐานว่า “ขันที” น่าจะมาจากคำว่า ขณฺฑ ในภาษาสันสกฤต…
-
13 สิ่งที่คุณอาจเคยคิดว่า ชนชาติอเมริกาเป็นผู้ให้กำเนิด แต่ความจริงแล้วไม่ใช่นะจ๊ะ!?
เมื่อพูดถึงดินแดนเสรี ดินแดนแห่งโอกาสที่ผู้คนมักจะเข้าไปแสวงโชคให้กับตน จนเกิดเป็นชาติที่ยิ่งใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของโลกได้ #เหมียวเลเซอร์ กำลังกล่าวถึง สหรัฐอเมริกา ดินแดนที่เต็มไปด้วยความฝัน และความหวังในการประดิษฐ์สิ่งใหม่ๆ ให้กับโลก (เป็นส่วนใหญ่) ทั้งนี้ เราอาจจะเห็นได้ว่าประเทศนี้มักจะมีนวัตกรรมใหม่มาป้อนให้มนุษยชาติเสมอ ทั้งอาหารการกิน ผลิตภัณฑ์ข้าวของเครื่องใช้ รถยนต์และนวัตกรรมเทคโนโลยีต่างๆ แต่หารู้ไม่ว่า บางสิ่งที่เคยเกิดขึ้นนั้นไม่ได้มีต้นกำเนิดมาจากสหรัฐอเมริกานะจ๊ะ อันเป็นข้อมูลเปิดเผยจากทางเว็บไซต์ Insider ถ้าอยากจะรู้ว่ามีอะไรบ้าง เอาล่ะ… เลื่อนลงมาอ่านกันได้เลย พายแอปเปิล วลีเปรียบเปรยของหวานชิ้นนี้ ที่เป็นเหมือนดั่งเมนูตำรับของชนชาติอเมริกัน กลับไม่ได้มีต้นกำเนิดมาจากที่นี่ เพราะในอดีตโบราณ ชนชาติกรีกเป็นผู้ให้กำเนิดพายแอปเปิลมาก่อน จนกระทั่งยุคกลางของอังกฤษ เมนูนี้ได้รับความนิยมสูงมากๆ จนมาสู่การตั้งถิ่นฐานในอเมริกา (อ้างอิง) เพลงชาติอเมริการ้องด้วยน้ำเสียงโทนเดียวกันกับเพลงขี้เมาชาวอังกฤษ เมื่อ Francis Scott Key นักกฎหมายชาวอเมริกันเขียนกลอนขึ้นมา จนถูกนำมาใช้เป็นเนื้อเพลงชาติ Star-Spangled Banner เขามีทำนองอยู่ในหัวแล้วแต่มันไม่สละสลวยเท่าไหร่นัก จนกระทั่งได้นำโทนเสียงจากเพลง To Anacreon in Heaven ของอังกฤษมาใช้ ด้วยเนื้อหาที่เชิดชูความเมามายมากกว่าความรักชาติ แต่ก็ถูกนำมาใช้ประกอบกับเพลงชาติอเมริกันจนถึงปัจจุบัน…
-
เปิดประวัติ Stephen Hawking หนึ่งในนักคิดผู้ทรงคุณค่า ความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของโลก
เรียกได้ว่าเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่สำหรับวงการนักวิทยาศาสตร์ของโลกกับข่าวเสียชีวิตของยอดอัจฉริยะอย่าง Stephen Hawking หลายๆ คนอาจจะยังไม่รู้จักเขาเท่าไหร่นัก แต่จริงๆ แล้วเขาเป็นนักวิทยาศาสตร์ผู้ทรงคุณค่าที่ฝากแนวคิดและทฤษฎีสำคัญๆ ไว้กับโลกของเรามากมาย และในวันนี้ #เหมียวหง่าว จะมาเล่าประวัติของ Stephen Hawking ให้เพื่อนๆ ฟังแบบคร่าวๆ เพื่อให้ทุกคนได้รู้จักกับชายคนนี้มากยิ่งขี้น Stephen Hawking Stephen Hawking เกิดเมื่อวันที่ 8 มกราคมปี 1942 ในเมืองออกซ์ฟอร์ดไชร์ ประเทศอังกฤษ ในวัยเด็กเขาเริ่มต้นเข้าเรียนที่โรงเรียน Byron House ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ จากนั้นเรียนต่อระดับมัธยมที่ St Albans High School เมื่อเข้าเรียนได้ไม่กี่เดือนก็ต้องเปลี่ยนโรงเรียน เพราะคุณพ่อของเขาต้องการให้ลูกได้รับการศึกษาที่ดีกว่า เลยส่งให้ไปเรียนที่โรงเรียน Westminster School แทน เมื่อเขาเรียนจบมัธยมและเตรียมเข้ารับการศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย ในตอนแรกพ่อของเขาต้องการให้เขาเรียนเกี่ยวกับหมอ แต่ Stephen มีความสนใจทางด้านคณิศาสตร์และวิทยาศาสตร์มากกว่า ทำให้เขาตัดสินใจเข้าเรียนในเรียนต่อทางด้านฟิสิกส์และเคมีที่มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดในปี 1959 หลังจากที่เรียนจบระดับปริญญาตรีในปี 1962 เขาตัดสินใจเรียนต่อในสาขาจักรวาลวิทยา…
-
ทำความรู้จักกับ “นินจา” พวกเขาเป็นใคร? มีคาถาจริงหรือไม่? เชิญชมการทดลองและคำอธิบายเชิงจิตวิทยา
นักลอบสังหารแห่งดินแดนอาทิตย์อุทัย ผู้ที่มีความว่องไวและเชี่ยวชาญการต่อสู้หลายรูปแบบ คือคำนิยามที่ผู้เขียนให้กับ “นินจา” นอกจากนินจาจะมีความสามารถด้านการต่อสู้แล้ว ว่ากันว่าพวกเขายังมีคาถาอาคมอีกด้วย แต่ว่าอย่าเพิ่งตื่นเต้นไป วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับ “นินจา” ให้มากขึ้น ด้วยประวัติของพวกเขา และคำอธิบายเชิงจิตวิทยา ว่าที่จริงแล้วนินจาคืออะไรและมีความเป็นมาอย่างไรบ้าง ต้นกำเนิดของนินจา นินจา (Ninja) หรือ ชิโนะบิ (Shinobi) แปลว่า “ทำอย่างลับๆ” เป็นคำที่สามารถบ่งบอกคุณลักษณะของพวกเขาได้อย่างดี เนื่องจากนินจาเป็นกองกำลังสายลับในสมัยเซ็งโงะคุช่วงศตวรรษที่ 15 พวกเขามีทักษะขั้นสูงในด้านการจารกรรม วินาศกรรม การแฝงตัว การลอบสังหาร และการสู้เป็นกลุ่ม อาวุธที่เหล่านินจาใช้ก็จะเป็นอาวุธที่พกพาง่าย ใช้สะดวก น้ำหนักเบา และสามารถใช้ได้ในระยะไกล เช่น มีดสั้น และดาวกระจาย ทว่ามีสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจยิ่งกว่า ก็คือ “การทำสัญลักษณ์มือโบราณเก้ารูปแบบ” ที่เชื่อว่าเป็นคาถาอาคมของเหล่านักฆ่ากลุ่มนี้ ในช่วงความไม่สงบทางสังคมช่วงศตวรรษที่ 15-17 เหล่านินจานั้นมีบทบาทมากในจังหวัดอิกะ โดยเฉพาะรอบหมู่บ้านโคะกะซึ่งเป็นหมู่บ้านฝึกฝนนินจาด้วยตำราชิโนะบิที่มาจากปรัชญาสงครามของจีน โดยในช่วงปี 1868 สมัยฟื้นฟูเมจิ คำว่า “นินจา” ก็ได้กลายเป็นเพียงเรื่องเล่าขานและตำนานตั้งแต่นั้นมา และในช่วงเวลาเดียวกันนี้เองที่เรื่องราวของเหล่านินจาถูกนำมาแต่งเติม เช่นที่ว่า…
-
ตำนานของชาวอารยัน ตัวตนที่แท้จริง กับการถูกลบเลือนหายไปจากหน้าประวัติศาสตร์
หากพูดถึงชาว “อารยัน” แล้วล่ะก็ หลายท่านอาจะเคยได้ยินชื่อ แต่ก็อาจไม่ทราบว่าแท้จริงแล้วชาวอารยันเป็นใครกันแน่ เพราะปัจจุบันประวัติและจุดกำเนิดของชาวอารยันนั้นถูกบิดเบือนไปมากเหลือเกิน ที่หลายคนเข้าใจก็คือ ชาวอารยันคือชนกลุ่มคนผิวขาว ผมสีอ่อน ตาสีฟ้า และเป็นชนที่อยู่บนวรรณะสูงของอินเดีย ความเชื่อนี้คาดว่าเป็นเพราะจักรวรรดินาซี ที่ได้แพร่ขยายความคิดนี้ออกไปเพื่อใช้เป็นเครื่องมือโฆษณาชวนเชื่อ มีเพียงช่วงศตวรรษที่ 19 และต้นศตวรรษที่ 20 เท่านั้นที่ชาวอารยันมีความเท่าเทียบกันกับชาวเยอรมันและชาวนอร์ดิก และก่อนหน้าที่ความเข้าใจเกียวกับชาวอารยันจะถูกบิดเบือน คำว่า “อารยัน” ถูกกล่าวถึงว่าเป็นภาษาโบราณที่ได้เผยแพร่ออกสู่แผ่นดินย่อยของอินเดีย อารยันที่แท้จริง แรกเริ่มเดิมทีชาวอารยันเป็นเผ่าพันธุ์ที่มีชีวิตอยู่ใน อิหร่าน ช่วงก่อนประวัติศาสตร์ และน่าจะอพยพเข้ามาสู่ตอนเหนือของอินเดียช่วง 1,500 ปีก่อนคริสตกาล ชาวอินเดียในทวีปย่อยเรียกผู้ที่อพยพเข้ามาใหม่ว่า “อารยา” และคำว่า อารยัน หรือ “Aryan” นั้นไปคล้ายกับภาษาเปอร์เซีย “ērān” ที่หมายถึงประเทศอิหร่านอีกด้วย ก่อนชาวอารยันอพยพเข้ามา อารยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุนั้นรุ่งเรืองมากในประเทศอินเดีย มีศาสนาเกิดขึ้นตั้งแต่ 5,500 ปีก่อนคริสตกาล มีการทำการเกษตรตั้งแต่ 4,000 ปีก่อนคริสตกาล และมีสังคมเมืองตั้งแต่ 2,500 ปีก่อนคริสตกาล และมีช่วงเวลาที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดประมาณ 2,000 ปีก่อนคริสตกาล…
-
เรื่องราวของ Blind Tom ชายผู้เกิดเป็นทาส สู่นักเปียโนที่มีค่าจ้างสูงที่สุดในยุคศตวรรษที่ 19
ชีวิตของคนเรามักเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา และบางครั้งการเปลี่ยนแปลงที่ว่าอาจจะยิ่งใหญ่จนเปลี่ยนชีวิตจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยก็เป็นได้ ดั่งเช่นเรื่องราวของชายคนนี้ ‘Blind Tom’ หรือ Thomas Wiggins ชายผู้เกิดเป็นทาส สู่หนทางการเป็นนักเปียโน “Blind Tom” (อันนี้คือฉายาใช่มั้ย ชื่อจริงๆ เขาคือ Thomas Wiggins ใช่ไหม) เป็นนักดนตรีที่เกิดมาเป็นทาสในปี 1850 ในรัฐจอร์เจีย เขาเป็นอัจฉริยะที่อยู่ร่วมในสมัยของ Liszt กับ Rubinstein สุดยอดนักดนตรีทั้งสอง แต่เขากลับไม่สามารถรับรู้ได้ถึงทั้งชื่อเสียง สีผิว หรือแม้แต่ความสำเร็จของเขาเลยแม้แต่อย่างเดียว สิ่งที่เขาสามารถรับรู้นั้นมีเพียงแค่บทเพลงของเขาเท่านั้น เขาอาจทิ้งบทเพลงไว้น้อยมาก แต่ Thomas Wiggins คนนี้ก็เป็นหนึ่งในสุดยอดของสุดยอดแห่งศตวรรษที่ 19 เขาคือชายปริศนาผู้ได้เล่นดนตรีต่อหน้าประธานาธิบดี James Buchanan ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคนที่ 15 ในธรรมเนียบขาวมาแล้ว ตอนที่ Thomas เกิด เขาถูกขายให้นายพล James Neil Bethune ผู้เป็นทนายจากจอร์เจีย และบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ในทันที เด็กชายคนนี้ตาบอดและมีพฤติกรรมที่แปลกประหลาด เขาสนใจในเสียง พิสมัยในเสียงเพลง และต้องการที่จะแยกแยะมันให้เข้าใจ เขาสามารถแยกเสียงสัตว์อย่างแม่นยำและสามารถจำบทสนทนาที่ยาวถึงสิบนาทีได้ จากแหล่งที่มาบางส่วน เมื่อ Thomas จับเปียโนเป็นครั้งแรกเขาสามารถเล่นเพลงที่เขาเคยได้ฟังจากลูกสาวของ Bethune…
-
เปิดประวัติ “อุลตร้าแมน” ซุปเปอร์ฮีโร่ ที่ไม่ได้มีแค่ตัวโต ปล่อยแสงจิ้วๆ แล้วจากไป
เชื่อว่าคงไม่มีใครไม่รู้จักซุปเปอร์ฮีโร่ชื่อดังจากประเทศญี่ปุ่นอย่าง “อุลตร้าแมน” ที่ครองใจเด็กๆ มากว่าครึ่งศตวรรษ ซึ่งจุดเด่นของอุนตร้าแมนที่คนจำได้ ก็คงจะหนีไม่พ้นท่าปล่อยสำแสงสุดเฟี้ยว และไฟกระพริบตรงหน้าออกที่คอยบอกว่า “รีบๆ จัดการสัตว์ประหลาดได้แล้วนะ ก่อนจะหมดเวลา” แต่รู้หรือไม่ จริงๆ แล้ว “อุลตร้าแมน” มีเรื่องราวและประวัติมากกว่าการที่แปลงร่าง ยิงแสง แล้วก็บินกลับดาวเมื่อพลังใกล้จะหมด จุดเริ่มต้นของพวกเขาเป็นอย่างไร แล้วทำไมต้องเดินทางมายังโลก เราไปติดตามพร้อมๆ กันเลยดีกว่า ย้อนกลับเมื่อสองแสนปีก่อน ในจักรววาลอันแสนกว้างใหญ่ มีกาแล็กซี่ M78 ที่ประกอบไปด้วยดวงดาวกว่า 69 ล้านดวง และที่ใจกลางกาแล็คซี่แห่งนั้น มีดวงดาวดวงหนึ่งชื่อว่า “ดินแดนแห่งแสงสว่าง” หรือ “ดาวอุลตร้า” โดยดวงดาวดวงนี้มีขนาดใหญ่กว่าโลก 60 เท่าและมีประชากร “เผ่าพันธุ์อุลตร้า” อาศัยอยู่กว่า 180,000 ล้านคน ในตอนนั้นประชากรของดาวอุลตร้ายังมีลักษณะไม่แตกต่างจากมนุษย์บนโลก อยู่มาวันหนึ่ง ดวงอาทิตย์ที่คอยให้มอบแสงกว่างและเป็นแหล่งพลังงานให้กับดาวอุลตร้า เกิดระเบิดและสูญสลายไปในพริบตา ทำให้ทั้งดาวตกอยู่ในความมืดมิด ประชากรของดาวอุลตร้าจำนวนครึ่งหนึ่ง ค่อยๆ ล้มตายลง ด้วยความหนาวเย็นและความอดอยาก …
-
เปิดประวัติ “คลองคอรินธ์” เชื่อมทะเลกรีีซทั้งสองฝั่ง กับ 2,000 ปี ที่กว่าความฝันจะเป็นจริง..!!
อีกหนึ่งเรื่องราวทางประวัติศาสตร์อันน่าสนใจเกี่ยวกับการทำเส้นทางเชื่อมระหว่างอ่าวซาโรนิค และอ่าวคอรินทร์ ที่ซึ่งต้องใช้ระยะเวลานานกว่า 2,000 ปี ถึงจะแล้วเสร็จ..!! ย้อนกลับไปในช่วง 602 ปี ก่อนคริสตกาล ผู้ปกครองเมืองคอรินทร์ตอนนั้นนามว่า ‘Periander’ มีความใฝ่ฝันที่อยากจะเอาชนะธรรมชาติด้วยการเชื่อมเส้นทางจากทั้ง 2 อ่าวเข้าด้วยกัน ทว่าด้วยยุคสมัยที่ไม่มีเทคโนโลยี หรือเครื่องมืออำนวยความสะดวกอะไรเท่าสมัยนี้ ทำให้โปรเจคดังกล่าวดูจะใหญ่เกินความสามารถของมนุษย์ และถูกล้มเลิกไปในที่สุด… บริเวณช่องคลองคอรินธ์ จนกระทั่งเมื่อ 300 ปีก่อนคริสตกาล กษัตริย์ Dimitrios Poliorkitis แห่งมาซีโดเนีย ก็ได้ริเริ่มโครงการที่ถูกทิ้งร้างมานานหลายร้อยปีอีกครั้ง ทว่าท้ายที่สุดก็กลับไม่สำเร็จด้วยเหตุผลความเชื่อทางศาสนาของผู้คนที่เชื่อว่าการทำให้ทะเลทั้งสองฝั่งเชื่อมกัน อาจทำให้เทพโพไซดอนโกรธได้ แผนการณ์ทุกอย่างถูกล้มเลิก จนกระทั่งมาถึงยุคการปกครองของจักรพรรดิแนโรแห่งโรมัน ที่มีการสั่งให้สร้างจุดเชื่อมต่อดังกล่าวขึ้นอีกครั้ง ทว่าน่าเสียดายที่ในที่สุดกษัตริย์แนโรได้ถูกลอบปลงพระชนม์ และคำสั่งการสร้างทางเชื่อมก็ถูกยกเลิกตามไปด้วย ดูเหมือนว่าเรื่องราวทุกอย่างจะถูกลืมและไม่ได้มีการเล่าต่อ กระทั่งเมื่อปี 1830 ผู้ว่าการรัฐคนแรกของกรีซ ได้ริเริ่มโครงการขุดคลองคอรินธ์อีกครั้ง ทว่าด้วยปัญหาด้านการเงินทำให้ในที่สุดโครงการนี้ก็ตกเป็นของบริษัทเอกชนอย่าง Austrian General Etiene Tyrr ในปี 1869 ใช่ว่าเมื่อได้เป็นบริษัทเอกชนเข้ามารับช่วงต่อแล้ว เมกะโปรเจคต่างๆ จะสามารถเสร็จสิ้นได้โดยง่าย เพราะต่อมาในช่วงปี 1890…
-
‘Leo Fender’ ชายผู้สร้างแบรนด์กีต้าร์อันดับหนึ่งตลอดกาล แต่เล่นเขากีต้าร์ไม่เป็น..!?
สำหรับนักดนตรีแล้วคงไม่มีใครไม่รู้จักแบรนด์ ‘Fender’ ซึ่งถ้าว่ากันด้วยเรื่องของเนื้อเสียงแล้ว นับว่าเป็นอีกแบรนด์ที่สร้างสรรค์ออกมาได้อย่างลงตัวมากที่สุด แต่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าเบื้องหลังของ Leo Fender ชายผู้สร้างงานศิลปะเป็นกีต้าร์ที่ต่อมาได้รับความนิยมสูงที่สุด กลับเล่นกีต้าร์ไม่เป็นเลยแม้แต่นิดเดียว..!? เอาเป็นว่าเรารู้จักกับเรื่องราวของเขาพร้อมๆ กันเลย จริงอยู่ที่ Fender ไม่ใช่บริษัทผลิตกีต้าร์ตัวแรกของโลก หากแต่เป็นบริษัทที่เขามาพลิกโฉมวงการดนตรีนับตั้งแต่เปิดตัวกีต้าร์รุ่น Fender Telecaster ในปี 1951 แม้ว่าจะมีบริษัทกีต้าร์ยักษ์ใหญ่มากมายคุมตลาดอยู่แล้วในช่วง 20 ปีก่อนที่จะประสบความสำเร็จ แต่นั่นก็ไม่สามารถหยุดความใฝ่ฝันของเขาได้ ย้อนกลับไปตอนอายุ 13 ปี เฟนเดอร์ได้รับกล่องเศษซากชิ้นส่วนวิทยุที่ใช้งานไม่ได้แล้ว พร้อมกับแบตเตอรี่อีกหนึ่งก้อนที่คุณลุงให้มา จากนั้นเขาก็รู้ตัวทันทีว่าตนเองหลงใหลในกลไกการทำงานของสิ่งเหล่านี้มากขนาดไหน จนไม่กี่ปีต่อมาเขาก็ได้เริ่มธุรกิจเล็กๆ ครั้งแรกในชีวิต… การเป็นพนักงานรับซ่อมวิทยุให้เพื่อนบ้านในละแวกนั้น ในช่วงปี 1928 เป็นช่วงเดียวกับที่ Leo Fender เพิ่งเรียนจบชั้นมัธยมปลาย ก่อนจะเข้าไปศึกษาต่อในระดับชั้นมหาวิทยาลัยในสาขาวิชาเศรษฐศาสตร์บัญชี แต่ในระหว่างเรียนเขาก็ไม่ลืมที่จะศึกษาระบบวงจรไฟฟ้าใหม่ๆ อยู่เสมอ จนวันหนึ่งงานแรกสุดในชีวิตที่เกี่ยวกับเครื่องเสียงก็ได้เริ่มขึ้น เขาได้รับการจ้างวานจากเพื่อนให้ช่วยติดตั้งเครื่องกระจายเสียงภายในงานคอนเสิร์ต ซึ่งอันที่จริงตอนนั้นเขายังรับงานประจำเป็นพนักงานขับรถส่งของอยู่ หลังเรียนจบเขาใช้ชีวิตระหกระเหินไปเรื่อยๆ เหมือนเด็กรุ่นใหม่ที่กำลังแสวงหาความหมายของชีวิตในยุคนั้น เขาเข้าออกการเป็นพนักงานประจำเป็นว่าเล่น ก่อนจะแต่งงานกับ Esther…
-
เปิดตำนานประวัติศาสตร์ ตัวละครสำคัญแห่ง Game of Thrones แฟนคลับทุกคนควรได้อ่าน…
เนื้อหาอาจจะมีการเปิดเผยเนื้อเรื่องในบางส่วน… คนส่วนใหญ่ที่ตามติดซีรีส์ Game of Thrones จนมาถึงซีซั่นปัจจุบัน ก็คงจะรู้กันแล้วว่า พี่จอน สโนว์ผู้ไม่รู้อะไรเลยของเราเนี่ย ไม่ได้เป็นสตาร์คดั่งที่วาดไว้ แต่เขาเป็นลูกครึ่งกับทาแกเรี่ยนต่างหาก แน่นอนว่าก็ยังเป็นอาหลานกับแม่มังกรอีก… ถึงแม้เราจะรู้แบบนั้น และคนก็พากันพูดถึงคนที่ชื่อ “เรกาห์ ทาแกเรี่ยน” เรกาห์อย่างนั้น เรกาห์อย่างนี้ จนปัจจุบันเราก็ยังไม่เห็นหน้าอีตาคนนี้สักที และหลายคนก็คงจะยังไม่รู้ด้วยซ้ำ ว่าจริงๆ ชายที่คนทั้งซีรีส์ต่างพูดถึงเขาเป็นใครมาจากไหนกันแน่? ฉะนั้นเราก็เลยจะมาย้อนดูข้อมูลในประวัติศาสตร์สำคัญๆ ที่บางคนอาจจะยังไม่ได้รับทราบ อย่างแรก เราต้องย้อนกลับไปที่จุดเริ่มต้นของชายนามว่า เรกาห์ ทาแกเรี่ยนกันซะก่อน ซึ่งชายคนนี้นั้นเดิมเป็นลูกของกษัตริย์ แอรีส ที่ 2 หรือที่เรารู้จักกันในนาม แมดคิง ซึ่งอีตาแมดคิงเนี่ยมีลูกด้วยกันสามคน นั่นก็คือ เรกาห์, วิเซเรี่ยน และแดเนรีส โฉมหน้าของสามพี่น้อง ภาพเรกาห์นี่เป็นภาพการมโนจากแฟนๆ ล้วนๆ ตัวเรกาห์นั้น แก่กว่าพี่น้องของเขาทั้งสองเยอะมากๆ มากขนาดที่เขาโตมาโดยน้องสองคนยังไม่เกิดเลย และในตอนแรกเรกาห์ก็ได้ไปแต่งงานกับอีเลีย น้องสาวของเจ้าชายโอเบรียน พร้อมกับมีลูกด้วยกันถึงสองคน ในขณะเดียวกัน ลิอานน่า…
-
อีกแง่มุมของ “Marilyn Monroe” เส้นทางชีวิตของเธอ ก่อนจะกลายมาเป็นดาวเด่นแห่งยุค…
หลายคนคงจำภาพของหญิงสาวที่ชื่อ “Marilyn Monroe” ในภาพของสาวผมบลอนด์ ทาลิปสติกสีแดง มาพร้อมกับชุดเดรสหวานแหวว ที่ชวนให้รู้สึกถึงความเซ็กส์ซี่แบบยุควินเทจ เชื่อว่าหลายคนอาจจะเกิดไม่ทันยุคที่เธอโด่งดังสุดๆ และวันนี้เราจะพาไปรู้จักกับอีกแง่มุมในเส้นทางชีวิตของเธอ ก่อนที่เธอจะกลายมาเป็นดาวเฉิดฉายอยู่ในวงการ หนึ่งในภาพถ่ายของ Marilyn Monroe ที่โด่งดังไปทั่วโลก เดิมทีเธอมีชื่อว่า Norma Jeane Mortenson เกิดเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 1926 ในวัยเด็กช่วงแรกเธออาศัยอยู่กับคุณแม่ผู้ให้กำเนิด Gladys Baker หนูน้อย Norma Jeane Mortenson ในวัย 5 ขวบ ช่วงที่เธอกำลังจะโตเป็นสาว เธอย้ายมาอาศัยอยู่กับป้า Ana ในฐานะลูกบุญธรรม พออายุได้ 14 ปี คุณป้า Ana ป่วยหนัก ทำให้เธอต้องย้ายไปอาศัยอยู่กับครอบครัว Goddard ที่ๆ เธอจากมาในวัย 11 ขวบ เพราะถูก Erwin พ่อบุญธรรมลวนลามทางเพศ…
-
มนุษย์ใจดีทำป้าย ‘โปรไฟล์แมว’ บอกสิ่งที่ชอบและไม่ชอบ เพิ่มโอกาสให้แมวได้รับไปเลี้ยง!!
ปัญหาของแมวถูกทิ้งให้กลายเป็นแมวจรจัดยังคงไม่หมดไป เพราะฉะนั้นแล้วตามสถานสงเคราะห์สัตว์ ก็จะเต็มไปด้วยเหล่าแมวเหมียวที่รอคอยทาสมารับไปเลี้ยง ซึ่งส่วนใหญ่แล้วพวกมันก็คงต้องรอคอยอยู่อย่างนั้นเรื่อยไป เพราะไม่ค่อยมีใครสนใจเลย ด้วยเหตุนี้เองทางพ่อหนุ่ม Jeff Wysaski เจ้าของโปรเจคสุดเกรียนจาก Obvious Plant ที่ทำป้ายตลกๆ มาแล้วหลากหลายครั้ง ก็เลยอยากจะช่วยสถานสงเคราะห์สัตว์ท้องถิ่น Sante D’Or Adoption Center ในเมือง Los Angeles บ้าง โปรไฟล์แมว ชื่ออะไร ชอบอะไร ไม่ชอบอะไรบ้าง!! เขาแอบทำป้ายโปรไฟล์แมวแต่ละตัวไปติดหน้ากระจกสถานสงเคราะห์ บอกทั้งชื่อ สิ่งที่ชอบและไม่ชอบเอาไว้ด้วย ที่ออกจะติดตลกไปซักหน่อย แต่ทว่าแมวเหล่านี้มีตัวตนอยู่จริง อย่างน้อยๆ ก็อยากจะให้ผู้คนสนใจและรับพวกมันไปเลี้ยง ถ้าอย่างนั้นเรามาดูกันดีกว่าว่าแต่ละตัวจะเป็นยังไงบ้าง เหมียว Dinky ชอบ: นอนหลับ ไม่ชอบ: คุยด้วยน้ำเสียงเด็กน้อย – ‘กรูอายุ 36 ปีแมวแล้วนะ หยุดทำแบบนั้นเหอะ’ เหมียว Honey ชอบ: แคทนิป ไม่ชอบ: นก…
-
ประวัติศาสตร์ความเป็นมาของ ‘รองเท้าส้นสูง’ ไอเท็มสำคัญของสาวๆ ที่ขาดไม่ได้!!
จะว่าไปแล้วรองเท้าส้นสูงเนี่ย มันช่างเป็นรองเท้าที่ช่วยทำให้หญิงสาวผู้สวมใส่ดูขาเรียวยาวขึ้น และยังดูเซ็กส์ซี่ขึ้นมากอีกหลายเท่า เรียกได้ว่ากลายเป็นหนึ่งในไอเท็มชิ้นสำคัญของหญิงสาวเกือบทุกคนทั่วโลก อย่างน้อยก็ต้องมีติดไว้ซัก 1 คู่แหละจริงไหม? แล้วรู้ไหมว่าก่อนจะมาเป็นแฟชั่นรองเท้าส้นสูงสุดชิคให้กับคุณผู้หญิง ย้อนกลับไปในอดีตกาลเทรนด์นี้มันเกิดขึ้นโดยผู้ชายนะย่ะหล่อน เอาเป็นว่าตามไปดูประวัติศาสตร์พร้อมกันเลยจ๊ะพวกเธอทั้งหลาย ย้อนกลับไปอดีตกาลมีการค้นพบหลักฐานทางประวัติศาสตร์ว่าเทรนด์การสวมใส่รองเท้าส้นสูงในยุโรป มาจากกลุ่มคนขี่ม้า ที่เดินทางจากเปอร์เซีย เข้ามายังดินแดนยุโรป เป็นครั้งแรก Elizabeth Semmelhack ผู้เชี่ยวชาญจากพิพิธภัณฑ์รองเท้าได้กล่าวว่า ‘บริเวณส้นรองเท้าที่ถูกเสริมขึ้นในยุคแรกนั้น ช่วยทำให้เท้าของคนขี่ม้าพอดีกับโกลนมากขึ้น และยังช่วยทำให้พวกเขายิงธนูได้ดีกว่าเดิมอีกด้วย’ ต่อมาในช่วงศตวรรษที่ 16 รองเท้าส้นสูงถูกทำให้กลายเป็นสัญลักษณ์เครื่องแต่งกายอย่างหนึ่งของคนชนชั้นสูงในยุคนั้น โดยมาจากพื้นฐานแนวคิดที่ว่า ยิ่งใส่รองเท้าที่ไม่เหมาะกับการทำกิจกรรม ยิ่งแสดงให้เห็นว่าคนนั้นมีฐานะมั่งคั่งพอที่จะไม่ต้องทำงานอะไรเลย ภาพวาดของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 กับการสวมใส่รองเท้าส้นสูง ทว่าต่อมาในช่วงศตวรรษที่ 17 รองเท้าส้นสูงกลับได้รับความนิยมอย่างสูงในกลุ่มผู้หญิงที่ขายบริการ ในยุคนั้นผู้หญิงเริ่มที่จะปรับเปลี่ยนเทรนด์การแต่งตัวให้ดูเข้ากับผู้ชายมากยิ่งขึ้น เช่นการตัดผม การเอาหมวกของผู้ชายมาสวมใส่ และการสวมรองเท้าส้นสูง หลังจากที่เทรนด์รองเท้าส้นสูงเริ่มเป็นที่นิยมในกลุ่มประชากรชนชั้นล่าง ทางฝั่งของกลุ่มชนชั้นสูงก็ได้มีการสร้างความแตกต่างโดยเลือกที่จะทำส้นของรองเท้าให้สูงมากกว่าเดิม เพื่อแสดงถึงอำนาจทางการเงินที่มั่งคั่งกว่า ต่อมามีการแบ่งประเภทของส้นสูงไว้อย่างชัดเจน โดยรองเท้าที่มีส้นเล็กเรียวจะเป็นสำหรับผู้หญิง ส่วนรองเท้าที่มีส้นหนากว่าจะถูกใช้สำหรับผู้ชาย ฝั่งซ้ายของผู้หญิง ฝั่งขวาของผู้ชาย เมื่อกาลเวลาผ่านไปสิ่งต่างๆ…
-
เรื่องราวชีวิต Gabe Newell ศาสดาเกมเมอร์ ผู้หักหลังคนซื้อเกมราคาเต็ม ได้อย่างโหดเหี้ยม
ปีใหม่ถือเป็นช่วงเวลาแห่งการพักผ่อน หลายคนก็คงมีความสุขกับการได้สังสรรค์รื่นเริงกับเพื่อนๆ แต่สำหรับเหล่าเกมเมอร์แล้ว การได้เล่นเกมข้ามปีก็กลายเป็นเรื่องปกติไปเลย ในทุกๆ สิ้นปี เกมเมอร์ทั้งหลายคงจะทราบกันดีว่าเราต้องเก็บเงินไว้ส่วนหนึ่งเพื่อที่จะเอามาซื้อเกมในช่วงลดราคา เพราะแต่ละค่ายนั้นก็จะเอาดีลต่างๆ มาล่อตาล่อใจเรา และที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้ก็คงเป็นแพลตฟอร์มเจ้าใหญ่อย่าง Steam นั่นเอง Steam ถือเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มการจัดจำหน่ายเกม PC ซึ่งตอนนี้พัฒนาไปได้ไกลมากๆ และผู้ใช้ Steam ส่วนใหญ่ก็คงรู้จัก Gabe Newell หรือที่เราเรียกกันติดปากว่า “ลอร์ดเกบ” ศาสดาผู้ที่ทำให้เราเจ็บตัวและหลังหักมากที่สุด ว่าแต่ลอร์ดเกบเขามาถึงจุดนี้ได้ยังไง วันนี้ #เหมียวสามสี จะพาทุกท่านมาชมการเดินทางของเขา กว่าจะมาเป็นศาสดาของเหล่าเกมเมอร์ได้นั้น เขาต้องผ่านอะไรมาบ้าง… Gabe Newell ผู้ก่อตั้งบริษัท Valve และแพลตฟอร์ม Steam ชีวิตของเขาเหมือนกับ CEO ชื่อดังหลายๆ คนอย่าง Bill Gates หรือ Steve Jobs โดยเริ่มจากการเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด และได้ตัดสินใจลาออกหลังจากได้คุยกับ Steve Ballmer ผู้เป็นประธานบริหารของบริษัทไมโครซอฟต์ในเวลานั้น หลังจากนั้นก็เข้าทำงานที่บริษัทไมโครซอฟต์ โดยเขาเป็นพนักงานคนที่ 271 ซึ่งถือเป็นรุ่นแรกๆ…
-
เปิดประวัติ “เนียส” โปเกมอนแมวพูดได้แห่งแก๊งร็อคเก็ต จอมวายร้ายอันดับหนึ่งของโลก!!
สำหรับแฟนๆ โปเกมอนแล้ว เชื่อว่าคงไม่มีใครไม่รู้จัก “เนียส” แห่งแก๊งร็อคเก็ต โปเกมอนแมวสุดแปลกที่สามารถเดินสองขา แถมยังพูดได้เหมือนมนุษย์ คู่หูคนสำคัญของมูซาชิและโคจิโร่ จอมวายร้ายอันดับหนึ่งของเรื่อง (เหรอ) แต่เชื่อว่าน้อยคนนักจะรู้ว่าประวัติความเป็นมาของ “เนียส” นั้นเป็นอย่างไร ทำไมมันจึงเป็นโปเกมอนไม่กี่ตัวในเรื่องที่สามารถพูดภาษามนุษย์ได้ และมันกลายมาเป็นสมาชิกคนสำคัญของแก๊งร็อคเก็ตได้อย่างไร เราไปติดตามกันเลย!! (ดูคลิปไม่ได้กดตรงนี้) เนียสของแก๊งร็อคเก็ต ความทรงจำที่แสนขมขื่น ปริศนาของเนียส…เนียสที่เดิน2ขา..เนียสพูดได้ !? ใครยังไม่เคยดู แนะนำเลย !!! โพสต์โดย Pokemon:GO Thailand Community บน 17 กรกฎาคม 2016 ตั้งแต่จำความได้ เนียสเป็นโปเกมอนแมวสุดอาภัพที่อาศัยอยู่ตัวคนเดียวข้างถนน ทุกๆ วันเนียสต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบากและหิวโหย ซึ่งในตอนนั้น เขาก็ยังเป็นเหมือนเนียสตัวอื่นๆ ที่เดินสี่ขาและพูดไม่ได้ จนกระทั่งวันหนึ่ง เนียสหิวมากจนเข้าไปป่วนในสนานเบสบอล ทำให้โค้ชเบสบอลจับเนียสแขวนกับต้นไม้ และตอนนั้นเอง เนียสก็ได้รู้จักกับ “ฮอลลีวูด” ดินแดนแห่งความฝันและความสำเร็จ หลังจากนั้นเนียสจึงตัดสินใจไปไขว่คว้าความมั่งคั่งที่นั่น เมื่อไปถึงฮอลลีวูด ชีวิตของเนียสกลับไม่ได้ง่ายอย่างที่เขาฝันไว้ เขาจึงจับผลัดจับพลูเข้าไปอยู่ในแก๊งเนียสเจ้าถิ่น…
-
พาไปรู้จักกับทีมทั้ง 3 ใน Pokemon GO จะเลือกอยู่ทีมไหน ถามใจตัวเองดู!!!
หลายคนคงได้สนุกับการจับโปเกม่อนมาแล้ว อย่าง #เหมียวสามสี นี่ก็ได้เพื่อนใหม่ๆ มาเพียบ จากการเดินไปหาโปเกม่อนตามสวนสาธารณะ ถ้าพูดถึงแง่ดี มันอาจจะเป็นเกมที่ทำให้คนได้หันมาคุยกันมากกว่าก้มหน้าก้มตาเล่นนะ สำหรับคนที่เล่นมาประมาณหนึ่งแล้วก็คงจะทราบว่าเมื่อเราถึงเลเวล 5 ก็จะถึงเวลาที่เราต้องเลือกทีม ว่าแต่จะเลือกทีมอะไรดีล่ะ วันนี้เราจะพาไปรู้จักทีมทั้ง 3 พร้อมกับเรื่องราวมากมาย อย่างที่เรารู้กันว่ามันแบ่งออกเป็น Valor (ทีมแดง), Instinct (ทีมเหลือง), Mystic (ทีมน้ำเงิน) ทีม Valor (ทีมแดง) ผู้นำก็คือ Candela มีสัญลักษณ์เป็นโปเกม่อนนกไฟในตำนาน “ไฟเออร์” หรือ Moltres “โปเกม่อนแข็งแรงกว่ามนุษย์ และพวกมันก็มีหัวใจที่อบอุ่นด้วยเช่นกัน ฉันได้ทำการศึกษาเพื่อที่จะเพิ่งขอบเขตพลังให้กับเหล่าโปเกม่อนเพื่อที่จะนำไปสู่พลังที่แท้จริงของพวกมัน ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพลังของโปเกม่อนในทีมเราทำไมถึงแข็งแกร่งได้ถึงเพียงนี้” ทีม Instinct (ทีมเหลือง) ผู้นำก็คือ Spark มีสัญลักษณ์เป็นโปเกม่อนนกไฟฟ้าในตำนาน “ธันเดอร์” หรือ Zapdos “โปเกม่อนคือสิ่งมีชีวิตที่มีความฉลาดหยั่งรู้ ฉันคิดว่าความลับของการพัฒนาความรู้ของมันก็คือการเลี้ยงดูฟูมฟักมัน คุณจะไม่แพ้ถ้าคุณเชื่อในสัญชาตญาณ” ทีม Mystic (ทีมน้ำเงิน) ผู้นำก็คือ Blanche มีสัญลักษณ์เป็นโปเกม่อนนกน้ำแข็งในตำนาน “ฟรีซเซอร์” หรือ Articuno “สติปัญญาของโปเกม่อนคือสิ่งที่ไม่สามารถวัดค่าอย่างลึกซึ้งได้ ฉันกำลังศึกษาว่าทำไมมันถึงวิวัฒนาการ…
-
เปิดตัว “โรงเรียนแม่มดพ่อมดอิลเวอร์เมอร์นี” แห่งอเมริกา พร้อมประวัติอันยาวนาน!!
สำหรับคนที่เป็นแฟนๆ แฮร์รี่แล้ว ก็คงรอคอยการกลับมาของภาพยนตร์ Fantastic Beasts ที่กำลังจะเข้าโรงในปลายปีนี้ ซึ่งในภาคนี้จะเป็นการเล่าย้อนไปในอีกยุค โดยเล่าเรื่องราวของตัวละคร “นิวท์” ผู้เขียนหนังสือสัตว์มหัศจรรย์และถิ่นที่อยู่ ถ้าใครติดตามโลกเวทมนตร์ตลอดก็คงจะรู้ว่าโรงเรียนพ่อมดแม่มดนั้นไม่ได้มีแค่ฮอกวอตส์ เพราะในภาคถ้วยอัคนี เราได้เห็นโรงเรียนเพื่อนบ้านที่มาจากต่างประเทศด้วยอย่าง เดิร์มสแตรงก์ (เหมือนจะยังไม่เปิดเผยสถานที่ แต่คาดว่าตั้งอยู่แถวไซบีเรียหรือบัลแกเรียหรือทางเหนือของยุโรป) โบซ์บาตงของฝรั่งเศส และยังมีของญี่ปุ่นชื่อว่ามาโฮโทะโคะโระ แต่เมื่อเรื่องราว Fantastic Beasts เกิดขึ้นที่อเมริกา ก็ต้องมีเรื่องราวของโรงเรียนพ่อมดแม่มดที่นั่นเช่นกัน ซึ่งวันนี้ก็เปิดตัวไปแล้วกับโรงเรียน “อิลเวอร์เมอร์นี” ทางเว็บไซต์ Pottermore ได้ลงเรื่องราวเกี่ยวกับโรงเรียนแห่งนี้ไว้แล้ว คาดว่าน่าจะมีส่วนสำคัญในภาพยนตร์ด้วย เราไปชมคลิปกันก่อนเลย โรงเรียนเวทมนตร์แห่งอเมริกาเหนืออันยิ่งใหญ่แห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในศตวรรษที่สิบเจ็ด ตั้งอยู่ที่จุดสูงสุดของภูเขาเกรย์ล็อค และซ่อนตัวจากการมองเห็นของคนธรรมดาด้วยเวทมนตร์อันทรงพลังหลากหลายแบบ ที่บางครั้ง ก็ปรากฏออกมาในรูปของวงเมฆหมอก แน่นอนว่าใน “โรงเรียนพ่อมดแม่มดอิลเวอร์เมอร์นี” ก็มีการคัดสรรบ้านเช่นเดียวกันกับฮอกวอตส์ แต่จะมีบางกฎที่แตกต่างกันไปบ้าง โดยเฉพาะเรื่อง “ไม้กายสิทธิ์” โดยมีการอธิบายไว้ว่า… “โรงเรียนจะไม่อนุญาตให้เด็กนักเรียนถือไม้กายสิทธิ์จนกว่าจะเดินทางถึงอิลเวอร์เมอร์นี ยิ่งไปกว่านั้น จะต้องฝากไม้กายสิทธิ์ไว้ที่โรงเรียนอิลเวอร์เมอร์นีระหว่างช่วงปิดภาคเรียน และกฎหมายจะอนุญาตให้ถือไม้กายสิทธิ์นอกบริเวณโรงเรียนได้ก็ต่อเมื่อพ่อมดหรือแม่มดมีอายุครบสิบเจ็ดปีแล้ว” และบ้านก็จะแบ่งเป็น 4 บ้านเหมือนกับฮอกวอตส์ ได้แก่ แวมปัส เป็นตัวแทนของร่างกาย ซึ่งหลายคนมองว่าเป็นนักรบ งูยักษ์ เป็นตัวแทนของจิตใจ…
-
รวม 13 เรื่องที่คุณอาจไม่เคยรู้เกี่ยวกับ “ยาคูลท์” เครื่องดื่มยอดนิยมสุดแสนอร่อย!!
เชื่อว่าน้อยคนนักที่จะไม่เคยลิ้มลองเครื่องดื่มแสนอร่อยยี่ห้อ “ยาคูลท์” ด้วยรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่มีใครเหมือน ทำให้เครื่องดื่มยี่ห้อนี้ได้รับความนิยมมากว่า 70 ปีทั่วโลก และวันนี้ #เหมียวอ๊อดโด้ จะพาเพื่อนๆ ไปชมกัน 13 เรื่องที่คุณอาจไม่เคยรู้เกี่ยวกับ “ยาคูลท์” ที่รวบรวมมาโดยเพจ MANILA BULLETIN ลองไปชมกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง ไปชมกันเลย!! The world-famous probiotics drink started in Japan in 1935. Here are a few things you may not know about Yakult! โพสต์โดย MANILA BULLETIN บน 31 พฤษภาคม 2016 1. ยาคูลท์ถูกผลิตขึ้นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2478 ในประเทศญี่ปุ่น ตอนนั้นมีเด็กญี่ปุ่นจำนวนมากเสียชีวิตจากแบคทีเรียอันตราย รวมถึงโรคในกระเพาะอาหาร แถมประเทศญี่ปุ่นยังประสบภาวะทางเศรษฐกิจอย่างหนักอีกด้วย 2. แบคทีเรียแลคโตบาซิลัสถูกค้นพบโดย ดร.ชิโรตะ จากมหาวิทยาลัยการแพทย์เกียวโต…
-
ซอมบี้มาได้ยังไง!? ตำนานผีดิบกินมนุษย์ ศพเดินได้ มันมีที่มาจากไหน มีตัวตนจริงหรือไม่
กระแสของซอมบี้นั้นมีจุดกำเนิดมาตั้งแต่ตอนไหน ยังไม่มีใครทราบแน่ชัด รู้เพียงแค่ว่าในปัจจุบันก็พบได้ตามสื่อบันเทิงต่างๆ ทั้งภาพยนตร์และวีดีโอเกม ที่มักจะขนแนวซอมบี้ออกมาให้พวกเราได้เสพกันอยู่บ่อยๆ อย่างซีรีย์ที่ดัง ณ ขณะนี้ก็ The Walking Dead นั่นแหละ ซีรีย์ The Walking Dead บริบทของซอมบี้นั้นมักจะเป็นศพที่เดินได้ หิวโหยเนื้อมนุษย์ หวังจะรับประทานสมอง เปรียบได้เหมือนกับตัวแทนของปีศาจในยุคใหม่ ตัวแทนของวันสิ้นโลก จนกระทั่งกลายมาเป็นความเชื่อและส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมไปแล้ว ภาพยนตร์สยองขวัญต้นทุนต่ำเกี่ยวกับซอมบี้ Night of The Living Dead (1968) ตัวตนของผีดิบหรือซอมบี้นั้นอาจจะเริ่มต้นมาจากหนังต้นทุนต่ำในยุคสมัยก่อน ที่นำผีดิบมาเป็นตัวร้ายตัวแทนความสยดสยองที่ไม่เหมือนกับผีหรือปีศาจตัวอื่นๆ ส่วนใหญ่พวกมันจะมีลักษณะที่เชื่องช้า แต่อดทน ไม่สนภัยอันตราย จ้องที่จะกัดกินเนื้อมนุษย์เพียงอย่างเดียว แถมยังแพร่เชื้อต่อไปเรื่อยๆ ผ่านการกัดเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย ทว่าในโลกแห่งความเป็นจริงนั้นผีดิบมีตัวตนอยู่หรือไม่ ถ้าเป็นเมื่อก่อนอาจจะเชื่อกันในเรื่องของชีวิตหลังความตาย การแก้แค้น การถูกผีหรือปีศาจร้ายเข้าสิง รวมไปถึงมนต์ดำต่างๆ ซอมบี้ในสื่อวิดีโอเกม Dying Light ซึ่งในปัจจุบันอาจจะฟังดูเป็นเรื่องที่ไร้สาระ แต่ถ้าให้เทียบกับโรคระบาดร้ายแรงแล้ว…
-
เปิดประวัติ ‘Eric Barone’ ผู้พัฒนา Stardew Valley เพียงคนเดียวจนกำเนิดเป็นปลูกผักยุคใหม่
ช่วงเวลานี้คงจะไม่มีเกมไหนที่โด่งดังเป็นพลุแตกและโดนใจเกมเมอร์ทั้งยุคเก่ากับยุคใหม่ อันเนื่องมาจากเกมปลูกผักทำสวนทำไร่ Stardew Valley ที่มีกระแสตอบรับดีถึงดีมาก ถึงกับขนาดที่ว่าคนเล่นเถื่อนถึงกับรู้สึกผิดจนมาซื้อของแท้กันรัวๆ แต่รู้กันหรือไม่ว่าแต่ก่อนที่ Stardew Valley จะดัง ไม่ได้มีการโปรโมตรอะไรมากมาย เป็นเกมอินดี้ที่ไม่ได้สร้างหรือพัฒนาโดยค่ายเกมยักษ์ใหญ่ใดๆ วางจำหน่ายแบบเงียบๆ แต่พอถึงเวลาขายปุ๊บ กลับดังระเบิดระเบ้อ เกิดเป็นกระแสปากต่อปากในด้านบวกอย่างสุดโต่ง แง่ของคุณภาพเนื้อหาในเกม อีกทั้งยังได้สัมผัสกับบรรยากาศเกมปลูกผักที่คล้ายคลึงอย่าง Harvest Moon ด้วย ทั้งนี้คุณภาพเกมที่ดีหรืออาจจะบอกได้ว่ายอดเยี่ยมนั้น ถูกสร้างสรรค์และพัฒนาขึ้นมาโดยคนเพียงคนเดียวเท่านั้น!? ห๊ะ!? ว่าไงนะ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อแล้วล่ะ เขามีชื่อว่า Eric Barone ผู้ให้กำเนิด Stardew Valley ปลูกผักยุคใหม่!! Eric Barone Eric Barone วัย 28 ปี จากเมือง Seattle รัฐ Washington ประเทศสหรัฐอเมริกา นักพัฒนาเกมอินดี้ผู้ให้กำเนิด Stardew Valley เพียงคนเดียว จบการศึกษาจาก University…
-
ร่วมรำลึกวัยเด็กไปกับ “วิวัฒนาการของเกมโปเกม่อน” ทุกเวอร์ชั่น รวมไว้ในคลิปเดียว!!
สำหรับเด็กยุค 90 ลงไป คงมีสิ่งหนึ่งที่อยู่ในใจเราเสมอมา นั่นก็คือเหล่าโปเกม่อนที่เราอยากจะให้มันมีอยู่จริงๆ บนโลกนี้ และสิ่งที่จะสานฝันของเราได้ก็คือเกมโปเกม่อนที่ได้พัฒนาออกมา เราอาจจะคุ้นกับเกมโปเกม่อนแบบ RPG ที่มีเนื้อเรื่องมามาก เพราะส่วนมากเด็กๆก็จะเล่นจากเกมบอยกัน (เกิดทันไหมเอ่ย) แล้วก็พัฒนามาเรื่อยๆ จนตอนนี้ก็ไปอยู่ในนินเทนโด 3DS แล้ว แต่รู้หรือไม่ว่าเกมโปเกม่อนมันก็มีในรูปแบบอื่นๆ ด้วยนะ ไม่ว่าจะเป็นเกมแนวปริศนา เกมต่อสู่ เกมตู้ และอีกมากมายที่เราไม่เคยได้สัมผัส วันนี้เหมียวก็เลยจะพาทุกท่านไปชมประวัติศาสตร์เกมโปเกม่อนเกมแรกตั้งแต่ปี 1996 (Pokemon Red,Green,Blue) มาจนถึงยุคปัจจุบัน เราจะผ่านมากี่เกมบ้างนะ ไปดูกันเลย ที่มา Digg, The Official Pokémon Channel
-
เรื่องราวอันน่าประทับใจของ “Chandra Bahadur Dangi” ชายที่ตัวเล็กที่สุดในโลก
ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา Chandra Bahadur Dangi ชายผู้มีความสูงน้อยที่สุดในโลกเพียง 55 เซนติเมตร ได้เสียชีวิตลงด้วยโรคปอดบวมด้วยวัย 75 ปี เขาคือผู้ครองสถิตินี้เมื่อปี 2012 และไม่เคยทิ้งบ้านเกิดที่หมู่บ้าน Reemkholi ประเทศเนปาลเลย แต่เมื่อชื่อของเขาได้มาอยู่ใน Guinness World Records แล้ว นั่นทำให้ชีวิตการเดินทางของเขาเริ่มต้นขึ้น ในปี 2014 เขาได้กล่าวกับสำนักข่าว Telegraph ว่า “มันเหมือนฝันที่ยาวไกลมากๆ สำหรับการได้เดินทาง แต่การได้มาอยู่ใน Guinness World Records แล้ว ทำให้ผมได้ทำตามความฝันนั้น” และนี่คือเรื่องราวการเดินทางของเขา… Dangi เกิดเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน ปี 1939 ในหมู่บ้าน Reemkholi ประเทศเนปาล เขาถูกวินัจฉัยว่าเป็นบุคคลที่เป็นโรคแคระ และมีความสูงเพียงแค่ 55 เซนติเมตร อีกทั้งยังมีน้ำหนักแค่ 14 กิโลกรัม ก่อนที่ชื่อของเขาจะถูกบันทึกลงใน Guinness World Records เขาได้ใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆในหมู่บ้าน และนี่คือภาพของเขาที่กำลังเล่นเครื่องดนตรีพื้นบ้านของเนปาล …
-
“ซึเนโกะ ซาซาโมโต้” ช่างภาพหญิงคนแรกของญี่ปุ่น ถึงตอนนี้ก็ยังจับกล้องด้วยวัย 101 ปี
นี่คือเรื่องราวของหญิงชราชาวญี่ปุ่นที่ชื่อว่า ซึเนโกะ ซาซาโมโต้ วัย 101 ปี เธอเกิดเมื่อวันที่ 1 กันยายนปี 1914 และเธอยังเป็นช่างภาพนักข่าวหญิงคนแรกของประเทศญี่ปุ่นและช่างภาพที่แก่ที่สุด แต่เมื่อปีที่แล้วเธอเกิดอุบัติเหตุทำให้มือและขาของเธอหัก แต่เธอก็ยังถ่ายรูปมาเรื่อยๆ เพราะกำลังอยู่ในช่วงพักฟื้นจากบาดแผลที่เธอเคยได้รับมา และตอนนี้เธอก็มีโปรเจกต์ภาพดอกไม้ที่ชื่อว่า “ฮานะ อาคาริ” หรือดอกไม้เรืองแสงเพื่ออุทิศให้กับเพื่อนที่จากไป คุณยายซึเนโกะกลายเป็นช่างภาพมืออาชีพเมื่ออายุได้ 25 ปี และได้รวบรวมผลงานภาพของเธอทั้งก่อนและหลังสงครามโลกที่ญี่ปุ่นไว้ด้วย สำนักข่าว Zaikeinews ได้รายงานว่า คุณยายซึเนโกะมีความอยากรู้อยากเห็นมาตั้งแต่เกิด ซึ่งนั่นเป็นแรงผลักดันที่สำคัญต่อผลงานของเธอ “ถึงจะกลัว แต่ก็อยากรู้ ไม่ค่อยชอบ แต่อยากเห็น ฉันต้องออกไปเผชิญกับโลกและให้ผู้คนรู้ว่าฉันเห็นอะไร แค่อยากจะถ่ายรูป..” “ที่สำคัญมากๆเลยคือต้องมองชีวิตในแง่ดีเข้าไว้และอย่ายอมแพ้” “และอย่าขี้เกียจด้วย” “คุณต้องผลักดันตัวเองแล้วตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา นั่นจะทำให้คุณก้าวไปข้างหน้า” และนี่ก็คืองานภาพถ่ายของเธอในอดีต โดมในเมืองฮิโรชิม่าหลังโดนระเบิดในปี 1953 โรงเรียนเกอิชาในปี 1951 โทคุโทมิ โซโฮ นักข่าวและนักประวัติศาสตร์สมัยเมจิ ปี 1957 เรือโซยะ เรือตัดน้ำแข็งที่โด่งดังในญี่ปุ่น ปี…
-
ชมภาพถ่ายโบราณจาก Disney ใช้คนจริงมาเป็นต้นแบบของการ์ตูน Alice In Wonderland
Kathryn Beaumont เป็นนักแสดงที่เคยให้เสียงพากย์ตัวละคร อลิซ ในภาพยนตร์ Alice in Wonderland ในปี 1951 และพากย์ตัวละคร เวนดี้ จากเรื่อง Peter Pan ในปี 1953 ซึ่งทั้งสองเรื่องเป็นหนังจากดิสนีย์ เรารู้จักเธอในฐานะนักพากย์ แต่รู้หรือไม่ว่า เธอคือต้นแบบสำหรับนักวาดภาพการ์ตูนสมัยนั้นด้วย ภาพเหล่านี้เป็นหลักฐานอันงดงามเกี่ยวกับผลงานของเธอที่ได้เกิดขึ้นในสตูดิโอของ Disney ซึ่งเป็นเป็นที่ที่เหล่านักวาดการ์ตูนจะสามารถสร้างภาพเคลื่อนไหวได้เพียงประมาณ 23-24 วินาทีต่อสัปดาห์เท่านั้น คุณ Walt Disney ผู้ก่อตั้ง ได้เลือกเธอให้มาเป็นผู้พากย์เสียงอลิซเมื่อเธออายุเพียง 10 ขวบ โดยที่ Walt รู้สึกประทับใจในบุคลิกของเธอและได้เลือกเธอให้มาเป็นต้นแบบของตัวละครที่ชื่อว่าอลิซด้วย หลังจากที่ Kathryn จบการศึกษาแล้ว เธอก็ได้ไปเป็นครูและประกอบอาชีพนี้นานกว่า 30 ปี จนสุดท้ายในปี 1998 บริษัท Walt Disney ก็ได้ใส่ชื่อเธอให้เป็น “Disney Legend” เพื่อจารึกไว้ว่าเธอคนคนสำคัญคนหนึ่งในโลกของ Disney . . . . . . .…
-
เจ.เค. โรว์ลิ่ง เผย 16 สิ่งที่เกี่ยวกับครอบครัว “แฮร์รี่ พอตเตอร์” ที่ไม่เคยปรากฏในหนังสือ
ถ้าคุณเป็นแฟนคลับของหนังสือชุด แฮร์รี่ พอตเตอร์ ก็คงหลงใหลในโลกเวทมนตร์ ท่องคาถาได้ทุกคาถา รู้หมดว่าใครเป็นอะไรที่ไหนเมื่อไหร่ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ล้วนอยู่ในหนังสือที่เราอ่านกันจนจำขึ้นใจไปแล้ว แต่สำหรับแฟนพันธุ์แท้ขั้นกว่า ก็คงเข้าไปเล่นในเว็บ Pottermore ที่ J.K. Rowling ได้เปิดให้เหล่าพ่อมดแม่มดหน้าใหม่เข้าไปผจญภัยในโลกเวทมนตร์ พร้อมทั้งยังซ่อนความลับต่างๆมากมายไว้ในนั้นด้วย ตอนนี้ J.K. Rowling ยังได้เปิดเผยถึงภูมิหลังของครอบครัว Potter ย้อนไปถึงศตวรรษที่ 12 กันเลยทีเดียว ถือว่าได้ใจแฟนๆแฮร์รี่ได้อย่างสุดยอด ซึ่งวันนี้เหมียวก็เอาความลับเหล่านั้นมาเปิดเผยให้กับทุกคนได้รู้ จะมีอะไรบ้าง เราไปดูกันเลย เริ่มท้าวความกันก่อนว่าครอบครัว Potter ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งในรายชื่อ “ยี่สิบแปดสกุลศักดิ์สิทธิ์” ซึ่งเป็นรายชื่อครอบครัวที่มีเลือกบริสุทธิ์ถูกสร้างขึ้นอย่างลับๆ เมื่อยุค 1930 ครอบครัวที่อยู่ในรายชื่อนี้มีทั้งหมด 28 ตระกูล อย่างเช่น แบล็ก และ มัลฟอย ที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดี เจ.เค. ได้กล่าวว่า “คนที่สร้างรายชื่อสกุลศักดิ์สิทธิ์นี้ที่ประกอบไปด้วยตระกูลเลือดบริสุทธิ์ ซึ่งพวกเขาได้เอารายชื่อของครอบครัวพอตเตอร์ออกไป เพราะพวกเขาได้ตั้งข้อสันนิษฐานไว้ว่ามีสายเลือดเสียเจือปนอยู่” อีกทั้งประวัติศาสตร์ของครอบครัวพอตเตอร์ยังคง “รุ่งโรจน์” อย่งต่อเนื่อง เพราะได้ไปเกี่ยวข้องกับ “เครื่องรางยมทูต” สามสิ่งของเวทมนตร์ที่ใครได้ครอบครองแล้วจะเป็นนายเหนือความตาย จากข้อมูลที่ลึกที่สุด สมาชิกรุ่นแรกๆในครอบครัวพอตเตอร์คือ “ลินเฟรดแห่งสตินช์คอมบ์” ซึ่งเจ.เค.…