Tag: ประสบความสำเร็จ
-
นักวิทยาศาสตร์ชี้.. คนชอบมาสายจะ ‘ประสบความสำเร็จ’ และ ‘อายุยืน’ กว่าชาวบ้านเขา!!
ในช่วงชีวิตของเราอาจต้องเจอกับเพื่อนสนิทหรือเพื่อนร่วมงานที่ชอบมาสาย นัด 10 โมง มา 10.30 ไม่เคยจะตรงเวลา หรืออาจเป็นตัวเราเองที่ชอบทำอย่างนั้น แต่พฤติกรรมที่ทำให้หลายๆ คนไม่ค่อยชอบนี้ ใครจะไปคิดว่ามันเป็นสิ่งที่สามารถช่วยให้เราประสบความสำเร็จและมีอายุยืนได้ นักพูดเกี่ยวกับเรื่องของการบริหารเวลา Diana Delonzor บอกเอาไว้ในหนังสือ Never be Late Again ของเธอว่า “คนมาสายส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่จะมองโลกในแง่บวกและรับรู้สิ่งที่ต่างออกไปจากความเป็นจริง โดยเฉพาะเรื่องของเวลา” “พวกเขาเชื่อว่าตัวเองสามารถออกไปทำธุระ แวะส่งผ้าร้านซักรีด ซื้อข้าวของ และพาลูกไปโรงเรียนได้ในเวลาแค่ 1 ชั่วโมง” เธอกล่าว อธิบายให้เห็นภาพคือคนที่ชอบมาสายจะมองเห็นว่าตัวเองมีเวลามากกว่าคนอื่น โดยจากการศึกษาของ Jeff Conte ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยาในมหาวิทยาลัย San Diego State สหรัฐอเมริกา จัดว่าคนเหล่านั้นคือบุคคลที่มีบุคลิกภาพแบบ Type B การทดลองของเขาแบ่งบุคลิกภาพออกเป็น 2 แบบ ได้แก่ Type A และ Type B ซึ่งทั้งสองกลุ่มนี้จะประมาณการถึงเวลา 1 นาทีแตกต่างกันออกไป…
-
งานวิจัยเผย ‘การแต่งกายดูดี’ ไม่ไช่แค่ความเหมาะสม แต่ช่วยให้ประสบความสำเร็จได้
ตั้งแต่เด็กจนโตเรามักจะได้ยินคำพูดที่ว่า “ควรแต่งกายให้เหมาะสมกับสถานที่” หรือ “ต้องแต่งกายให้ดูดี” ซึ่งเรื่องของการเลือกเสื้อผ้าใส่ในแต่ละวันนั้นแท้จริงแล้วไม่ได้มีผลแค่กับเรื่องของรูปลักษณ์ภายนอก แต่มันยังสามารถส่งผลกับการประสบความสำเร็จของคุณได้อีกด้วย นั่นคือผลจากการศึกษาของบริษัท Yale สหรัฐอเมริกา เมื่อปี 2014 พวกเขาใช้ผู้เข้าร่วมเพศชายจำนวน 128 คน มีอายุตั้งแต่ 18-32 ปี โดยแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่แต่งตัวค่อนข้างมอมแมม (กางเกงวอร์มขายาว รองเท้าแตะ) กลุ่มที่แต่งตัวแบบทั่วไป และกลุ่มที่แต่งตัวดี จากนั้นผู้เข้าร่วมทุกคนจะต้องทำหน้าที่มีส่วนร่วมในการเจรจาการซื้อขายสินค้า เพื่อดูว่าคนจากแต่ละกลุ่มนั้นจะมีความแตกต่างกันในเรื่องของการสร้างรายได้มากน้อยเพียงใด ผลออกมาว่าคนจากกลุ่มแต่งตัวมอมแมมนั้นคำนวณกำไรได้อยู่ที่ประมาณ 21 ล้านบาท คนจากกลุ่มทั่วไปทำได้ประมาณ 49 ล้านบาท และกลุ่มแต่งตัวดีสามารถทำได้สูงถึง 65 ล้านบาท ผู้ช่วยในการศึกษาครั้งนี้จึงบอกว่ามันเป็นการแสดงให้เห็นถึงเรื่องของการแต่งตัว สำหรับคนที่แต่งตัวมอมแมมมักจะถูกคนอื่นๆ มองข้าม ในขณะที่คนที่แต่งตัวดีจะสามารถรับรู้ได้ถึงการได้รับความเคารพจากคนรอบข้างที่มากกว่า ส่วนอีกหนึ่งการศึกษาก็บอกว่าการแต่งตัวดีช่วยเสริมสร้างลักษณะความเป็นนามธรรมของความคิดได้อีกด้วย โดยจะเกิดความคิดแบบมองภาพรวมเหมือนกับคนที่มีความเป็นผู้นำระดับเจ้าของบริษัท ส่วนคนที่แต่งตัวมอมแมมนั้นจะมัวกังวลในเรื่องรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ของตัวเอง Michael L. Slepian ผู้ช่วยการศึกษาในเรื่องนี้ และเป็นผู้ช่วยศาสตราจารย์แห่งสถาบัน…
-
8 เหล่าคนดังที่ครั้งหนึ่งเคย ‘ใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก’ ต่อสู้ฝ่าฟัน จนประสบความสำเร็จ!!
จุดเริ่มต้นเส้นทางชีวิตของแต่ละคนย่อมไม่เหมือนกัน บางคนที่มีชีวิตสวยหรู มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะไม่ต้องพยายามไขว่คว้าอะไรเลย เช่นเดียวกันกับเหล่านักแสดงที่มีชื่อเสียงเหล่านี้ ที่ในอดีตนั้นไม่ได้สวยงามอย่างที่ใครๆ คิด เพราะพวกเขาน่ะเคยเป็น ‘โฮมเลส’ นอนอยู่ที่ข้างถนนมาก่อน…แต่พวกเขาก็พยายามและต่อสู้จนในที่สุดก็ได้มานอนในแมนชั่นสุดหรูจนได้ 1. Jim Carrey สมัยที่พี่แกยังเรียนอยู่นั้น ครอบครัวของเขาประสบปัญหาอย่างหนักเกี่ยวกับเรื่องการเงิน คุณพ่อเสียงาน ส่วน Jim กับพี่สาว น้องสาว และน้องชาย ต้องไปรับจ้างทำความสะอาดที่โรงเรียน ทั้งถูพื้น ทำความสะอาดห้องน้ำ มีช่วงหนึ่งที่ทั้งครอบครัวต้องไปนอนอัดกันในรถตู้คันเล็กๆ เปรียบเสมือนเป็นบ้านของพวกเขา หลังจากที่ Jim จบจากโรงเรียนเขาไปทำงานในโรงงานเหล็ก จนก้าวเข้ามาสู่วงการบันเทิงและมีชื่อเสียงโด่งดัง ในปี 2007 เขาให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า “ถ้าไม่ได้เข้าวงการบันเทิงก็คงจะทำงานอยู่ที่โรงงานเหล็กนั้นมาจนถึงปัจจุบันนี่แหละ” 2. Halle Berry . ย้อนกลับไปสมัยเรียนจบใหม่ๆ Halle ได้ย้ายเข้ามาอยู่ที่ New York โดยที่ไม่มีงานทำ เงินของเธอค่อยๆ ร่อยหรอลงเรื่อยๆ จนในที่สุดก็หมดลง ทำให้เธอต้องไปอาศัยอยู่ในเชลเตอร์ของเหล่าโฮมเลส แต่เธอก็ไม่ย่อท้อทำงานเป็นพนักงานเสิรฟ และบาร์เทนเดอร์ จนมีแมวมองเข้ามาทาบทามและกับบทบาทเรื่องแรกในเรื่อง…
-
19 บุคคลกับความพยายามที่ตอบแทนด้วยผลสำเร็จ ไม่มีอะไรยากเกิน หากเราไม่ลงมือทำ!!
มีหลายคนที่อยากจะประสบความสำเร็จในสิ่งที่กำลังทำอยู่ แต่ก็แน่นอนว่าการจะทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งให้ออกมาเหมือนดั่งใจเรานั้น เป็นเรื่องที่ยาก และบางทีมันก็มีอุปสรรคที่เหมือนกับภูเขามาขวางกั้นเราอยู่ ซึ่งก็อยู่ที่ว่าเราจะสามารถข้ามผ่านมัน และไปถึงจุดหมายได้หรือไม่ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วถ้าหากไม่ใช่พรสวรรค์ที่เกิดมาเพื่อสิ่งนั้นจริงๆ ใครหลายคนก็ใช้พรแสวงที่เกิดขึ้นจากความพยายาม ความตั้งใจอย่างแน่วแน่ที่จะทำสิ่งนั้นให้เกิดขึ้นจริงให้จงได้ เหมือนกับรูปภาพเหล่านี้ที่จะมาเป็นเครื่องยืนยันว่า ผลลัพธ์จากความพยายามและไม่ย่อท้อต่อโชคชะตานั้น มันมักหอมหวานเสมอ ซึ่งบางทีเราอาจจะใช้กำลังใจจากรูปภาพเหล่านี้ เป็นแรงขับเคลื่อนให้กับตัวเราเองในการใช้ชีวิตในทุกๆ วันก็เป็นไปได้นะ 1. ผลจากการตั้งใจเรียนอย่างหนักจนสามารถเลือกเข้า 11 มหาวิทยาลัยใน 5 รัฐได้ แถมยังได้ทุนการศึกษาอีก 2 ทุนด้วยนะ 2. “2 ปีกับการประหยัดอดออม 6 เดือนกับการทำงาน 2 กะเป็นเวลา 15 ชั่วโมงต่อวัน ในที่สุดแล้วฉันก็สามารถมีเงินพอที่จะไปเรียนภาษา ในอีกซีกหนึ่งของโลกได้” 3. “บางคนอาจจะไม่เห็นว่ามันเป็นรางวัลที่ยิ่งใหญ่อะไร แต่สำหรับทีมของผมแล้วนี่มันคือรางวัลจากการฝึกซ้อมอย่างหนักมาถึง 5 ปีเต็ม” 4. ฉันใช้เวลากว่า 6 เดือนในการทำงาน ในที่สุดชุดไอรอนแมนที่ผลิตขึ้นจากเครื่องปริ้นท์ 3 มิติก็ออกมาสวยงาม 5. รางวัลสำหรับการอดทนรอคอย …
-
อาจารย์ชาวอินเดียวัย 56 ผู้ไม่เคยหยุดเรียนรู้ คว้าใบปริญญามาได้ถึง 145 ใบ ในเวลา 30 ปี
ความรู้เป็นสิ่งที่ไม่มีวันสิ้นสุดและการเรียนรู้ก็เป็นสิ่งที่ไม่มีคำว่าสิ้นสุดเช่นเดียวกัน เพราะหากคุณยังมีลมหายใจ คุณสามารถเรียนรู้ในสิ่งที่สนใจไปได้ตลอดชีวิต เหมือนดังเช่น ศาสตราจารย์ วีเอน. พาร์ติบัน (VN Parthiban) อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในประเทศอินเดีย ผู้ที่เรียนรู้มาตลอดชีวิตจนสามารถคว้าใบปริญญามาได้นับร้อยใบ!! เมื่อไม่นานมานี้เว็บไซต์ Odditycentral ได้ยกเรื่องราวที่น่าสนใจของศาสตราจารย์ วีเอน. พาร์ติบัน วัย 56 มาเผยแพร่ลงบนโลกออนไลน์ โดยมีระบุว่าภายในระยะเวลา 30 ปี ศาสตราจารย์พาร์ติบันสามารถคว้าใบปริญญาตรีและโทมาได้ถึง 145 ใบ และถึงแม้ว่าในตอนนี้ อายุของเขาจะมากขึ้นและความจำก็เริ่มเลอะเลือน โดยมีปัญหาในการจดจำใบหน้าและลืมเส้นทาง แต่อย่างไรก็ตามเขาก็ไม่เคยคิดที่จะหยุดเรียนเลยแม้แต่น้อย ทางด้านศาสตราจารย์ได้ออกมาเผยว่าใบปริญญาใบแรกของเขานั้นได้มาด้วยความยากลำบาก เพราะในอดีตเขาเป็นคนที่ไม่ใส่ใจการเรียนเลยแม้แต่สอบผิดวิชาก็เคยทำมาแล้ว จึงทำให้ผลการเรียนของเขาค่อนข้างแย่ แต่ภายหลังจากที่เรียนจบเขาก็ได้เข้าทำงานในแผนกตุลาการที่กระทรวงยุติธรรม และแล้วเข้าก็รู้สึกว่าอยากจะเรียนหนังสืออีกครั้งเพราะเห็นมหาวิทยาลัยเปิดสอนวิชาที่น่าสนใจมากมาย นั่นทำให้เขาได้ตัดสินใจกลับไปเรียนปริญญาโทต่อพร้อมกับเรียนหลักสูตรอื่นๆ ที่สนใจไปเรื่อยๆ จนสามารถคว้าใบปริญญาครั้งที่ 1 2 3 มาจนถึงครั้งที่ 142 ได้สำเร็จ “หลังจากที่ได้รับใบปริญญาตรีใบแรก ผมก็เริ่มสมัครเรียนหลักสูตรอื่นๆ ที่ไม่จำเป็นต้องมีใบรับรองการโอนย้าย เพื่อเรียนหลายๆ หลักสูตรในช่วงเวลาเดียวกันได้ และในช่วงเวลา…
-
นักวิจัย Oxford เผยวิธีที่ดีที่สุด สำหรับการ “เลิกบุหรี่” จากการทดสอบกับคน 700 คน
หลายคนที่อยากเลิกบุหรี่ อาจกำลังคิดไม่ออกว่าจะใช้วิธีไหนดี ที่จะทำให้ตัวเองไม่กลับมาติดเหมือนตอนแรกอีกครั้ง ซึ่งตอนนี้วิธีการทางวิทยาศาสตร์ได้หาคำตอบมาให้คุณเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากงานวิจัยของ Nicola Lindson-Hawley ผู้วิจัยแห่งมหาวิทยาลัย Oxford ได้บอกไว้ว่า วิธีการเลิกบุหรี่ที่ดีที่สุด คือให้เลิกแบบทันทีทันใด หรือที่เรียกว่าหักดิบไปเลย แม้ว่ามันจะฟังดูเหมือนไม่มีอะไร แต่จากผลลัพธ์ของการศึกษาที่เขาได้รับ บอกได้เลยว่าวิธีการนี้จะทำให้คุณสามารถหายขาดจากอาการติดบุหรี่ได้ดีกว่าการค่อยๆ ลดจำนวนบุหรี่ที่สูบ โดยเธอทำการศึกษากับสิงห์อมควันจำนวน 700 คน ซึ่งพวกเขาเหล่านั้นเป็นคนที่สูบอย่างต่ำ 15 มวนต่อวัน และเธอได้ท้าให้พวกเขาลองเลิกสูบบุหรี่ดู จึงมีการกำหนดวันสุดท้ายที่จะสูบเอาไว้ในสองสัปดาห์ข้างหน้า และได้มีการแบ่งออกเป็นสองกลุ่มเท่ากันอย่างชัดเจน คือกลุ่มหนึ่งที่จะสูบตามปกติแล้วค่อยไปหักดิบเอาทีเดียว กับอีกกลุ่มที่จะค่อยๆ ลดจำนวนลงในแต่ละวัน ก่อนที่จะไปหยุดตอนวันสุดท้าย หลังจากนั้นจึงทำการเก็บข้อมูลของทั้งสองกลุ่มพบว่า เมื่อผ่านไป 4 สัปดาห์ที่พวกเขาเลิกบุหรี่ กลุ่มที่หักดิบมีผลลัพธ์ที่ดีกว่ากลุ่มที่ค่อยๆ เลิก เมื่อดูจากสถิติ 49 เปอร์เซนต์ของคนในกลุ่มแรก สามารถหยุดสูบบุหรี่ได้สำเร็จ ในขณะที่กลุ่มสองทำได้เพียง 39 เปอร์เซนต์ และเมื่อผ่านไป 6 เดือน เหล่าผู้ที่หักดิบ 22 เปอร์เซนต์จากทั้งหมดไม่กลับมาสูบอีก ส่วนกลุ่มที่ค่อยๆ ลดจำนวนลง…
-
นี่คือเหตุผลและแนวทางว่าทำไม “คนโรคจิต” ถึงประสบความสำเร็จในการทำสิ่งต่างๆ
คำว่าโรคจิตคงเป็นคำที่เกือบทุกคนเข้าใจตรงกัน กับพฤติกรรมที่ดูแล้วจะต่อต้านกับสิ่งที่สังคมเป็นอยู่ ซึ่งไม่มีใครชอบเรื่องแบบนั้นซักเท่าไหร่ แต่มันมีความจริงที่น่าเหลือเชื่อจากสิ่งที่เป็นนั้นอยู่ ในประชากรทั้งหมดบนโลกของเรานั้นจะมี 1 เปอร์เซ็นต์ที่มีแนวโน้มจะมีอาการดังกล่าว เกิดจากการพัฒนาที่ผิดปกติของสมอง แต่เรื่องที่น่าตกใจจริงกลับไม่ใช่เรื่องนี้ มันคือเรื่องที่ว่าคนเหล่านั้นมีโอกาสสูงที่จะประสบความสำเร็จ อย่างน้อยก็คือการมีชื่อเสียง ทำเงินได้มากมาย หรือได้อยู่ในตำแหน่งสูงๆ ของบริษัท สิ่งที่พอบอกเราได้ว่านั่นอาจหมายถึงการสะท้อนให้เห็นสถานะของมนุษย์ ไม่ได้เป็นเรื่องที่สำคัญอะไร แต่เรามาลองทำความเข้าใจกันดีกว่าว่าทำไมพวกเขาถึงประสบความสำเร็จ และนำมาพัฒนาตัวเราเองกันเถอะ อย่างแรกขอให้ทุกคนเข้าใจก่อนว่าคนโรคจิตนั้นหมายถึงคนที่บกพร่องในการทำความเข้าใจกับบางสิ่งบางอย่าง ดังนั้นจึงไม่ได้หมายความว่าคนที่เป็นโรคจิตจะต้องเป็นฆาตกรต่อเนื่อง หรือคนบ้าเหมือนที่เราเห็นกันในหนัง อาการโดยสรุปที่สามารถเข้าใจได้ง่ายคือ ไม่มีความรู้สึกผิดกับสิ่งที่ตัวเองทำ ขาดความเห็นใจผู้อื่น มีแนวโน้มชอบที่จะชักใยและใช้ประโยชน์จากคนรอบข้าง มีความมั่นใจและมั่นหน้าที่สูง รักตัวเองมองว่าตัวเองมีคุณค่า ขาดความรู้สึกและอารมณ์ของตัวเอง จึงอาจมีทักษะในการเลียนแบบความรู้สึกและอารมณ์ของผู้อื่นที่สูงมาก ยิ่งไปกว่านั้นคือมีแนวโน้มที่จะเป็นคนหุนหันพลันแล่นและมองว่ากฎเกณฑ์ บรรทัดฐานของสังคมเป็นเรื่องที่ไร้สาระ เมื่อเราพอเข้าใจอาการของโรคดังกล่าวแบบคร่าวๆ แล้ว ก็มาดูเหตุผลที่พวกเขามักจะประสบความสำเร็จกันเลย ความมั่นใจคือทุกสิ่ง คนกลุ่มนี้จะมีความมั่นใจที่สูงมาก ด้วยสิ่งนั้นจะทำให้ผู้คนรู้สึกไว้ใจและเชื่อใจพวกเขาได้ง่าย อีกทั้งยังสามารถพูดจูงใจผู้อื่นในการเจรจาต่อรองได้ดี แน่นอนว่ามันจะทำให้พวกเขาดูฉลาดและมีความสามารถมากกว่าผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาหรือผู้อยู่เบื้องล่าง การพัฒนาเรื่องนี้นั้นไม่ยาก เราเพียงแค่แสดงความมั่นใจออกมาเวลาที่อยู่ข้างนอก ก็จะสามารถสร้างความเคารพจากเพื่อนร่วมงานได้เป็นอย่างดี และหากกลัวว่าจะดูมั่นใจในตัวเองมากเกินไปก็ไม่ต้องกังวล เพราะความมั่นใจยังคงแตกต่างกับความเย่อหยิ่งอย่างเห็นได้ชัด รู้วิธีการเข้าหาผู้อื่น คนประเภทนี้จะมีทักษะในการชักใยผู้อื่น โดยการแสร้งทำเป็นเข้าใจและเห็นอกเห็นใจ…
-
10 ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ ที่ต้องแลกมาด้วย “ความล้มเหลวนับครั้งไม่ถ้วน” ของเหล่าคนดัง…
ใช่ว่าชีวิตของคนเรานั้นจะเกิดมาพร้อมกับความสำเร็จตั้งแต่ต้น เพราะต้องเจอกับอุปสรรคและความยากลำบากมากมาย กว่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่เราต้องการ ไม่ต่างไปจากเหล่าคนที่ประสบความสำเร็จ จนมีชื่อเสียงโด่งดังหลากหลายท่าน กับเบื้องหน้าที่เราได้รู้ว่าชีวิตของพวกเขานั้นถึงจุดสูงสุดของชีวิตแล้ว แต่ทว่าในระหว่างทางกลับต้องแลกหลายสิ่งหลายอย่างมา กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้… ดั่งเช่นเรื่องราวของ 10 ผู้โด่งดังกับความล้มเหลวที่ต้องเจอเพื่อสิ่งที่เรียกว่า ‘ความสำเร็จ’ 1.Elvis Presley ราชาเพลงร็อคแอนด์โรลคนนี้คงเป็นที่รู้จักของใครหลายคน การแสดงครั้งแรกที่ทำให้ผู้คนได้เห็นท่าทางการสะบัดเอวของเขาในปี 1954 นั้นไม่ได้เป็นที่ชื่นชอบซักเท่าไหร่ และเขาถูกโห่ใส่อย่างหนักหลังจากที่ได้ทำการร้องเพลงที่มีชื่อเสียงในอดีตอย่าง Blue Moon of Kentucky นั่นจึงทำให้เขาสัญญากับตัวเองว่าจะไม่กลับไปที่นั่นอีก จนกระทั่งเขาได้เข้าร่วมการแข่งขันร้องเพลงที่ใหญ่ที่สุดของดนตรีแนวนี้ หลังจากการแสดงครั้งนั้นเขาจึงได้เซ็นสัญญาการแสดงถึง 52 แห่ง และได้รับการยอมรับเพื่อเข้าสู่วงการดนตรีในที่สุด 2.Vincent Van Gogh ผลงานของจิตรกรชื่อดังคนนี้สามารถหาชมได้ตามพิพิธภัณฑ์ แต่แท้จริงแล้วในตอนที่ยังมีชีวิตเขาได้ขายภาพเพียงแค่ภาพเดียว ก่อนที่ภรรยาของน้องชายเขา จะนำรูปทั้งหมดออกมาเผยแพร่ให้ทั่วโลกได้เห็น ในตอนที่เขาเสียชีวิตลงไปแล้ว จึงทำให้เขาไม่มีโอกาสได้รู้เลยว่า ผลงานของเขานั้นมีคุณค่ากับทุกคนมากแค่ไหน 3.Harland David Sanders ผู้พันแซนเดอร์ที่เรารู้จักกันดีนั้นได้ใช้เวลา 50 ปี ในการทำงานหลายๆ อย่าง และประสบกับความล้มเหลวมาหลายร้อยพันครั้ง จนเมื่ออายุได้…
-
13 แบรนด์ดัง ที่มีจุดเริ่มต้นมาจาก ‘โรงจอดรถ’ จนประสบความสำเร็จไปทั่วโลก!!!
ก็อย่างที่รู้กันอยู่ว่าการทำธุรกิจนั้นมันไม่ได้เริ่มต้นมาแล้วประสบความสำเร็จเลย ซึ่งแบรนด์ดังหลายๆ แบรนด์จากทั่วโลกต่างก็มีจุดเริ่มต้นมาจากสิ่งเล็กๆ เช่นเดียวกัน แต่ด้วยความพยายาม และความุมานะ พร้อมกับวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล ก็เลยทำให้พวกเขากลายมาเป็นอย่างที่เห็นในทุกวันนี้ วันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปชมภาพโรงงานในอดีตของเหล่าแบรนด์ดังทั้งหลายจากทั่วโลก ให้ทุกคนรู้ไว้ว่าก่อนที่พวกเขาจะประสบความสำเร็จก็เริ่มต้นจากสิ่งเล็กๆ อย่างบ้านหลังเก่าๆ เช่นเดียวกัน 1. Amazon ย้อนกลับไปในปี 1994 ที่เป็นยุคบุกเบิกของการใช้อินเตอร์เน็ต คุณ Jeff Bezos ได้ทำการจัดตั้งร้านเช่าหนังสือออนไลน์เล็กๆ ซึ่งในขณะนั้นออฟฟิศของเขายังอยู่ในโรงรถเล็กๆ และใช้ประตูหน้าต่างเก่าๆ มาทำเป็นโต๊ะทำงานอยู่เลย.. แต่ในวันนี้ Amazon กลายเป็นหนึ่งในร้านค้าปลีกออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และตอนนี้ผู้ก่อตั้งซึ่งก็คือคุณ Jeff Bezos ก็กำลังซุ่มทำบริษัทเกี่ยวกับการบินและยานอวกาศ ที่ชื่อว่า Blue Origin โดยใช้พื้นที่ของตัวเองที่ซื้อมาใน Texas ทำเป็นฐานปล่อยจรวดอีกด้วย 2. Apple Steve Jobbs และ Steve Wozniak ได้ร่วมลงมือกันประกอบคอมพิวเตอร์เครื่องแรกด้วยมือ อยู่ในโรงรถเล็กๆ ที่บ้านของ Steve Jobbs…
-
ข้อคิดดีๆ จากการปราศัยของ แจ๊ค หม่า “ถ้าหากอยากจะมีชีวิตที่เรียบง่าย ก็จงอย่าเป็นผู้นำ”
หลายๆ คนคงจะรู้จักและคุ้นเคยกับ Jack Ma กันเป็นอย่างดี จากผู้ที่ไม่มีอะไรเลย สามารถพาบริษัท Alibaba พุ่งทะยานสู่ความสำเร็จและความรุ่งเรืองได้ คงไม่มีใครสงสัยในความเก่งของนักธุรกิจชาวจีนท่านนี้อย่างแน่นอน และเมื่อไม่นานมานี้ เขาเพิ่งได้กล่าวคำปราศัยที่สำคัญมากอีกครั้งหนึ่ง Alexa von Tobel ผู้ก่อตั้งและ CEO ของบริษัท LearnVest ผู้ที่เข้าใจถึงความหมายของคำปราศัยนี้อย่างสุดซึ้ง และเธอจะมาให้คำแนะนำเพิ่มเติมสำหรับผู้ที่ต้องการจะเติบโตและประสบความสำเร็จในชีวิต เธอบอกว่า “บางครั้งการที่อยู่ในบทบาทของผู้นำอาจทำให้การพัฒนาตัวเองของคุณหยุดลง ในบางวันคุณอาจจะทำได้ดีมาก แต่บางวันมันก็อาจจะไม่เป็นเช่นนั้น ดังนั้นคุณต้องพัฒนาตัวคุณเองและพร้อมจะเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา” และนี่ก็คือ 3 ข้อสำคัญที่จะช่วยคุณในการพัฒนาตนเอง จากทัศนคติของแจ๊ค หม่า เอง 1.คุณต้องมีความรัก เธอบอกว่าในการปราศัยนั้น แจ๊ค หม่า กล่าวถึง IQ 3 แบบที่ผู้นำควรจะมี ซึ่งประกอบไปด้วย IQ, EQ และ LQ สำหรับสองอย่างแรกนั้น หมายถึงความฉลาดทางด้านสติปัญญาและความฉลาดทางด้านอารมณ์ แต่สิ่งที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ผู้นำควรจะมีก็คือ ความฉลาดทางด้านความรัก หรือ LQ (Love Quotient)…
-
10 บุคคลผู้ประสบความสำเร็จ กับข้อพิสูจน์ที่ว่า “ความเรียบง่ายคือพลังอันยิ่งใหญ่”
เคยคิดกันมั้ยว่าคนที่เค้าสามารถพาตัวเองไต่เต้าไปจนถึงจุดที่เรียกว่า ‘ประสบความสำเร็จในชีวิต’ พวกเขาจะมีวิถีชีวิตไลฟ์สไตล์เป็นอย่างไรกันบ้าง และเชื่อว่าหลายคนก็คงเคยได้ยินประโยคที่ว่า ‘Simply is the best’ ผ่านหูผ่านตากันมาบ้างแล้ว ซึ่งคนดังระโลกทั้ง 10 คนนี้ จะมาพิสูจน์ให้เราเห็นว่า สำหรับพวกเขาแล้วความเรียบง่ายคือพลังอันยิ่งใหญ่ 1. Coco Chanel หนึ่งในผู้ปฏิวัติวงการแฟชั่นระดับโลก ในยุคที่ผู้หญิงต้องใส่หมวกขนาดใหญ่เทอะทะติดขนนก พร้อมกับชุดเดรสหลากสีสัน เธอได้สร้างสรรค์สิ่งที่เรียกว่า ชุดเดรสดำ และเสื้อคลุมสำหรับผู้ชายที่ดูเรียบง่ายแต่หรูหรา ซึ่งผลงานความเรียบง่ายทั้งหมดเธอก็ได้ฝากไว้ภายใต้แบรนด์ดังที่เป็นชื่อของเธอเอง 2. Mark Zuckerberg พี่มาร์กของเราค่อนข้างจะโด่งดังในเรื่องการใส่เสื้อผ้าสไตล์เดิมๆ ทุกครั้งเราจะเห็นเขาใส่เสื้อยืดสีเทาตลอด ซึ่งเจ้าตัวก็ให้เหตุผลว่า การที่ต้องตื่นมาเลือกเสื้อผ้าในแต่ละวันเป็นอะไรที่เสียเวลา และเปลืองความคิดโดยใช่เหตุ (ประมาณว่าเอาเวลาไปคิดเรื่องอื่นจะดีกว่า) 3. Ingvar Kamprad เขาคือผู้ก่อตั้งบริษัทเฟอร์นิเจอร์ยักษ์ใหญ่ IKEA ถึงแม้ว่าเจ้าตัวจะรวยติดอันดับต้นๆ ของโลก แต่ทุกวันนี้เขาก็ยังซื้อแต่เสื้อผ้าราคาถูก ขับรถ Volvo คันเก่ามาตลอด 15 ปี และเวลาเดินทางก็มักจะจองตั๋วสายการบินชั้นประหยัดเสมอ 4. Boris Johnson อดีตเขาเคยเป็นนายกเทศมนตรีแห่งกรุงลอนดอน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ…
-
ผลการศึกษาชี้ว่าเด็กที่ ‘ทำงานบ้าน’ เป็น… มีแนวโน้มประสบความสำเร็จในชีวิตมากกว่า!!
สำหรับพ่อแม่ทั้งหลายแล้ว การได้เห็นลูกๆ ประสบความสำเร็จนั้นก็ถือเป็นการเติมเต็มความฝันอย่างหนึ่งเลยทีเดียวล่ะ แน่นอนว่าการจะทำให้ลูกๆ ประสบความสำเร็จได้นั้น พ่อแม่เองก็ถือเป็นส่วนหนึ่งที่คอยสนับสนุน และให้การช่วยเหลืออย่างเต็มกำลังเท่าที่จะสามารถทำได้ สำหรับวันนี้ #เหมียวหง่าว ก็จะขอมาแนะนำวิธีในการที่จะช่วยให้ลูกๆ ประสบความสำเร็จในอนาคต เผื่อว่าจะเกิดประโยชน์กับคุณพ่อคุณแม่ทั้งหลายไม่มากก็น้อย เป็นคำแนะนำของ Julie Lythcott-Haims นักเขียน และอดีตผู้นำนักศึกษาจากมหาวิทยาลัย Stanford University ที่ได้มากล่าวบนเวที TED Talk ในหัวข้อ “วิธีการเลี้ยงลูกให้เขาประสบความสำเร็จ โดยไม่บงการมากจนเกินพอดี” จากการศึกษาพบว่าเด็กที่ทำงานบ้านมาตั้งแต่ยังอายุน้อยๆ จะเติบโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่ที่พร้อมจะให้ความช่วยเหลือกับผู้อื่นมากกว่า และจะช่วยให้พวกเขามีความรู้สึกเห็นอกเห็นใจผู้อื่นเพราะว่าตัวเองเคยผ่านความยากลำบากมาแล้ว ซึ่งการทำงานบ้านในตอนเด็กๆ ถือว่าเป็นเรื่องที่ยากลำบากสำหรับพวกเขา และจะช่วยให้พวกเขาสามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วและตรงตามต้องการ เพราะคนที่ทำงานบ้านเป็นมักจะคอยฟังคำแนะนำอย่างใจจดใจจ่อ นอกจากนี้จากการศึกษายังได้ผลอีกว่าเด็กที่ทำงานบ้านมาตั้งแต่เด็กๆ และยิ่งทำมากเท่าไหร่ ก็จะทำให้พวกเขามีความสุขกับชีวิตครอบครัวมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการทิ้งขยะ การซักผ้า การล้างจาน ทุกอย่างล้วนแล้วแต่เป็นส่วนหนึ่งของ ‘ครอบครัว’ และหากพวกเขาได้ทำงานบ้าน ก็เท่ากับว่าเขาได้ใกล้ชิดและเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว ทำให้พวกเขามองเห็นความสำคัญของมักมากยิ่งขึ้นไปอีก ที่มา : distractify
-
สาว ‘ดาวน์ซินโดรม’ ไม่มีใครรับเข้าทำงาน หันมาเปิดร้านขายเบเกอรี่เอง จนประสบความสำเร็จ!!
เรื่องราวของ Colette Divitto หญิงสาววัย 26 ที่ป่วยเป็นดาวน์ซินโดรม ด้วยอาการป่วยของเธอจึงทำให้ต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างยากลำบาก เพราะต้องหาเลี้ยงชีพตัวเองแต่ก็ไม่บริษัทไหนรับเธอเข้าทำงานเลยแม้แต่ที่เดียว แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตาหันมาเปิดร้านเบเกอรี่เป็นของตัวเองซะเลย และกว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ต้องขอบอกเลยว่ามันไม่ได้ง่ายดายอย่างที่คิด Colette Divitto ขณะนี้เป็นเจ้าของร้านเบเกอรี่ชื่อว่า Collettey ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเมือง Boston รัฐ Massachusetts ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งแสดงให้เห็นถึงคติสำคัญในชีวิตของเธอที่ไม่เคยยอมแพ้ง่ายๆ ให้กับความยากลำบากของชีวิต จนกลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้ป่วยเป็นดาวน์ซินโดรมนับล้านคนในอเมริกา และเรื่องราวความสำเร็จของเธอก็กลายเป็นเชื้อไฟเล็กๆ ที่จุดประกายความหวังอันริบหรี่ให้กับผู้ป่วยเป็นดาวน์ซินโดรม ให้เห็นอนาคตที่แสนสดใสของพวกเขา แต่กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย Rosemary Alfredo คุณแม่ของ Collette ได้เล่าให้ฟังว่าลูกสาวของเธอนั้นใช้เวลาไปกับการไล่สมัครงานตามบริษัทต่างๆ แต่ก็ถูกปฎิเสธทุกครั้ง แน่นอนว่าทำให้ Collette ผิดหวังเป็นอย่างมาก เพราะในสังคมปัจจุบันการที่จะหางานที่มีค่าจ้างดีๆ ให้กับบุคคลที่มีความพิเศษแบบนี้เป็นอะไรที่ยากมากๆ แต่ก็ยังโชคดีที่ Collette นั้นไม่ยอมแพ้ไปซะก่อน เพราะเมื่อเธอได้ตัดสินใจสู้ต่อด้วยการเปิดร้านเบเกอรี่เป็นของตัวเอง ผลการตอบรับมันก็ช่างดีซะเหลือเกิน!! ไม่ว่าจะถูกปฏิเสธไปซักกี่ครั้งแต่ Collette ก็ยังคงไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตาของตัวเอง อยู่มาวันหนึ่งเธอได้ตัดสินใจที่จะทำธุรกิจเป็นของตัวเอง ด้วยการช่วยเหลือจากคุณแม่และพี่สาว…
-
งานวิจัยกว่า 5 ปีเต็มชี้ว่า เหล่าคนรวยและประสบความสำเร็จมักจะหลีกเลี่ยงคนที่ ‘มองโลกในแง่ร้าย’ เสมอ!!?
จะว่าไปแล้วการเลือกเพื่อนๆ ที่คบหานั้น มีผลต่อชีวิตมากกว่าที่คุณรู้อีกนะเออ เพราะอาจเป็นตัวชี้วัดความสำเร็จและตัวเลขทรัพย์สินที่จะเกิดขึ้นในชีวิตของคุณเลยทีเดียว!!!? Thomas C. Corley ศาสตราจารย์ผู้ศึกษาพฤติกรรมของเหล่าคนรวยและประสบความสำเร็จมากว่า 5 ปีเต็ม ได้ออกมาเผยว่า พวกเขามักจะหลีกเลี่ยงบุคคลที่ ‘มองโลกในแง่ร้าย’ เป็นอันดับแรก… เหล่าคนรวยและประสบความสำเร็จจะหลีกเลี่ยงคนที่มองโลกในแง่ร้าย!? ‘โดยเฉพาะเหล่าเศรษฐีที่สร้างเนื้อสร้างตัวขึ้นมาเอง ไม่ได้พึ่งพามรดกนั้นจะพิถีพิถันมากในการเลือกคบคน’ Thomas C. Corley กล่าวไว้ในหนังสือของเขา “Change Your Habits, Change Your Life.” ‘ผู้คนที่อยู่รอบๆ ตัวคุณจะเป็นตัวชี้วัดได้เลยล่ะว่าคุณจะประสบความสำเร็จในระดับไหน คนที่รวยและประสบความสำเร็จนั้นก็มักจะเลือกคบหาคนที่มีเป้าหมายชัดเจน มองโลกในแง่ดี กระตือรือร้น และมีบุคลิกภาพลักษณ์ภายนอกโดยรวมแล้วดูดี’ เขากล่าวเสริม โดยกว่าร้อยละ 86 ของคนรวยและประสบความสำเร็จที่เขาศึกษามาพบว่าพวกเขามักจะสุงสิงอยู่กับผู้ที่ประสบความสำเร็จคนอื่นๆ และในทิศทางเดียวกัน เลือกที่จะหลีกเลี่ยงผู้คนที่เป็นปัญหา โดยเฉพาะคนที่มองโลกในแง่ร้ายและมีความคิดด้านลบ หลีกเลี่ยงผู้มองโลกในแง่ร้าย จากงานวิจัยพบว่าสาเหตุที่พวกเขาหลีกเลี่ยงคนที่มองโลกในแง่ร้าย และคลุกคลีคนที่ประสบความสำเร็จด้วยกันนั้น ก็เพราะว่า ‘เราจะถูกดึงดูดและกลมกลืน’ ไปกับสังคมนั้นๆ กล่าวคือ ถ้าคบหรือเกี่ยวข้องกับผู้ที่มีความคิดเชิงลบอยู่บ่อยๆ เราก็จะมีความคิดแบบนั้นติดตัวมานั่นเอง ‘ความสำเร็จนั้นจะสามารถเกิดขึ้นได้โดยความคิดด้านบวกเท่านั้น’ ศาสตราจารย์ Corley กล่าว…
-
รวม 10 เรื่องจริงระหว่าง “ผู้ประสบความสำเร็จ” กับ “ผู้ไม่ประสบความสำเร็จ”
ความสำเร็จบางครั้งกว่าจะได้มาต้องแลกด้วยความพยายาม ความทุ่มเท และความอดทนมากมายขนาดไหน หลายคนอาจสงสัยว่า คนที่ประสบความสำเร็จ กับคนที่ล้มเหลวในชีวิต มีความต่างกันอย่างไร วันนี้ #เหมียวอ๊อดโด้ จะพาเพื่อนๆ ไปชมภาพวาดแสดงความแตกต่างระหว่าง “ผู้ประสบความสำเร็จ” กับ “ผู้ไม่ประสบความสำเร็จ” จากเว็บไซต์ Bright Side จะจริงขนาดไหน ไปชมกันเลย คนที่ไม่ประสบความสำเร็จจะเก็บความแค้นไว้ ส่วนคนที่ประสบความสำเร็จมักรู้จักคำว่าให้อภัย คนที่ไม่ประสบความสำเร็จจะหวังให้ทุกคนล้มเหลว ส่วนคนที่ประสบความสำเร็จจะหวังให้ทุกคนประสบความสำเร็จไปด้วยกัน คนที่ไม่ประสบความสำเร็จไม่ชอบตั้งเป้าหมาย ส่วนคนที่ประสบความสำเร็จจะตั้งเป้าหมายไว้เสมอ คนที่ไม่ประสบความสำเร็จจะทำให้คนรอบข้างอึดอัด ส่วนคนที่ประสบความสำเร็จจะทำให้คนรอบข้างมีความสุขไปด้วย คนที่ไม่ประสบความสำเร็จจะเก็บงำความรู้เอาไว้ ส่วนคนที่ประสบความสำเร็จจะพยายามเผยแพร่ความรู้ของตนเอง คนที่ไม่ประสบความสำเร็จชอบดูทีวี ส่วนคนที่ประสบความสำเร็จชอบอ่านหนังสือ คนที่ไม่ประสบความสำเร็จชอบยึดติดกับอดีต ส่วนคนที่ประสบความสำเร็จจะใช้ชีวิตในปัจจุบัน คนที่ไม่ประสบความสำเร็จมักไม่รู้ว่าตนเองต้องการอะไร ส่วนคนที่ประสบความสำเร็จจะรู้เสมอว่าตนเองต้องการอะไร คนที่ไม่ประสบความสำเร็จคิดว่าตัวเองรู้ทุกอย่างแล้ว ส่วนคนที่ประสบความสำเร็จจะพยายามหาความรู้ใหม่ๆ เสมอ คนที่ไม่ประสบความสำเร็จมักจะโทษคนอื่นเวลาตัวเองทำผิด ส่วนคนที่ประสบความสำเร็จจะรับผิดชอบทุกสิ่งที่ตัวเองกระทำ ก็ถือว่าเป็นอีกมุมมองที่น่าสนใจ แล้วเพื่อนๆ คิดว่าเรื่องจริงเป็นอย่างในภาพที่เขาวาดหรือเปล่า ลองแสดงความคิดเห็นกันเข้ามาได้นะเหมียว ที่มา Brightside
-
คู่รักอังกฤษ ประสบความสำเร็จในการโคลนนิ่งสุนัขแสนรักที่ตายไปแล้ว หลังพยายามมานาน!!!
คำถามของเรื่องนี้ก็คงจะเป็นเรื่องที่ว่า…คุณยอมทำขนาดไหนเพื่อรักษาเสี้ยวหนึ่งของความทรงจำดีๆ เอาไว้?? โดยเฉพาะเหล่าสัตว์เลี้ยงของเรา ที่จะต้องจากเราไปสักวันหนึ่งในอนาคต Laura และ Richard สูญเสียสุนัขของพวกเขา Dylan ไปเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2558 ที่ผ่านมา ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติที่จะเศร้าเสียใจกันเพราะการจากไปของเหล่าสัตว์เลี้ยงแสนรัก แต่พวกเขาก็มีแผนการบางอย่างที่จะรักษาความทรงจำดีๆ เกี่ยวกับเจ้า Dylan ไว้ พอพวกเขาได้ข่าวคราวว่ามีครอบครัวหนึ่งในอังกฤษ เคยโคลนสุนัขของพวกเขาไว้เพราะกลัวการสูญเสีย พวกเขาจึงเกิดไอเดียนี้ขึ้นทันที ตอนนั้นพวกเขาติดต่อไปยัง Sooam Biotech บริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านการโคลนนิ่งจากเกาหลี ซึ่งทางบริษัทได้ขอให้พวกเขาจัดเก็บเซลล์ของเจ้า Dylan ไว้ และส่งไปให้กับบริษัท พวกเขาก็เก็บเซลล์ของเจ้า Dylan ไว้ ตามที่บริษัทแนะนำ และจัดส่งไป แต่ปัญหาก็คือการขนส่งที่ล่าช้ากว่ากำหนด ทำให้ทางแล็ปพบเจอปัญหาเกี่ยวกับการเจริญเติบโตของเซลล์ ทำให้ Richard และ Laura รู้สึกหวั่นใจมากๆ เพราะโอกาสที่มันจะไม่สำเร็จนั้นมีสูงมาก แต่สุดท้ายหลังจากผ่านไปหลายสัปดาห์ เซลล์เหล่านั้นก็เริ่มเจริญเติบโต และ 31 วันให้หลัง ทางบริษัทก็แจ้งข่าวดีให้กับพวกเขาว่า ตอนนี้ตัวอ่อนของเจ้า Dylan กำลังฟักตัวแล้วล่ะ แถมได้ถึง 2…
-
Jessica Cruz สาวพิการผู้ไม่ย่อท้อ ฝันอยากเป็นเมคอัพอาร์ตติสชื่อดัง ในที่สุดก็ประสบความสำเร็จ
คนเราทุกคนมีความฝัน บางคนฝันว่าอยากจะประสบความสำเร็จในชีวิต บางคนก็ฝันอยากมีอาชีพที่ตัวเองรัก ก็เหมือนกับ Jessica Cruz สาวผู้ที่มีความใฝ่ฝันว่าสักวันหนึ่งเธออยากจะเป็นเมคอัพอาร์ตติสชื่อดัง แต่ดูเหมือนว่ามีบางสิ่งที่ทำให้ฝันของ Jessica กลับต้องสลายลง และอาจจะทำให้เธอไม่ได้เป็นเมคอัพอาร์ตติสชื่อดังเหมือนที่เธอฝันไว้ ก็คือเธอเป็นอัพพาตแขนสองข้างยกไม่ได้ตั้งแต่กำเนิดนั่นเอง ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้เกิดมาปกติเหมือนคนทั่วๆ ไป แต่นั่นก็ไม่ใช่อุปสรรค และทำให้เธอท้อเลยสักนิด เพราะเธอได้เดินตามความฝันของตัวเอง และประสบความสำเร็จในด้านการแต่งหน้า สุดยอดดดดด!! จนในที่สุด Jessica ก็ได้กลายเป็นเมคอัพอาร์ตติสชื่อดังตามที่เธอได้ฝันเอาไว้ยังไงละเหมียว และนี่ก็คือผลงานการแต่งหน้าส่วนหนึ่งของเธอ สวยงามมากๆ เลยใช่ไหมละ ก็แน่ละสิ…เพราะตอนนี้เธอได้กลายเป็นเมคอัพอาร์ตติสชื่อดังไปแล้ว เรียกได้ว่าเธอคนนี้เป็นคนที่มีความพยายาม ไม่ย่อท้อกับชีวิตจริงๆ เพราะแม้จะพิการ แต่เธอก็สู้ไม่ถอย แถมยังประสบความสำเร็จในชีวิตอีกด้วย ที่มา : kapook, ptt01
-
15 นักแสดง และคนดังแห่งวงการแฟชั่น ที่แม้จะเรียนไม่จบ แต่ก็ประสบความสำเร็จในชีวิต
หลายคนอาจจะคิดว่าในโลกของแฟชั่น คนที่จะสามารถเป็นเจ้าของแบรนด์ดังระดับโลกได้นั้น จะต้องเป็นคนที่ฉลาด มีการศึกษาระดับสูงใช่ไหมละ แต่ในความเป็นจริงแล้วคนดังบางคน ที่เป็นเจ้าแบรนด์ดังระดับโลกนั้น บ้างก็เรียนไม่จบ บ้างก็ไม่เคยเรียนหนังสือเลยด้วยซ้ำไป และนี่คือ 14 คนดังแห่งวงการแฟชั่นที่เรียนหนังสือไม่จบ แต่พวกเขาก็ประสบความสำเร็จในชีวิตนะเออ!! 1.Anna Wintour Anna Wintour บรรณาธิการบริหาร ของนิตยสารโว้ก เคยลาออกจากโรงเรียนเพื่อย้ายมาอยู่ในกรุงลอนดอน 2.Mary-Kate และ Ashley Olsen สองพี่น้องฝาแฝดสาวตระกูล Olsen คู่นี้ เริ่มเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยนิวยอร์กเมื่อปี 2004 แต่พวกเธอต้องลาออกด้วยเหตุผลส่วนตัว 3.Alexander Wang Alexander Wang เคยเรียนที่สถาบันสอนการออกแบบพาร์สันส์ แต่หลังจากที่เรียนไปได้แค่ 2 ปี เขาก็ได้ลาออกเพื่อไปเป็นพนักงานฝึกหัด 4.Blake Lively เมื่อจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 Blake Lively ก็เริ่มเข้าสู่วงการนักแสดงทันที โดยที่เธอไม่ได้เข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัย 5.Donna Karan ดีไซเนอร์สาวชาวอเมริกัน เจ้าของสินค้า DKNY…