Tag: ประหาร
-
หนุ่มทำโทษประหาร ‘แมลงสาบ’ บินเข้าบ้าน ป้องกันเรียกพรรคพวก จับนั่งเก้าอี้ไฟฟ้า!!
หนึ่งในสายพันธุ์ที่มีคนรู้สึกยี้มากที่สุดในโลก ต้องพูดถึงชื่อ ‘แมลงสาบ’ เป็นอันดับแรก แค่เห็นวิ่งโผล่ออกมาในบ้านก็ว่าแย่แล้ว ถ้าเจอมันกระพือปีกเมื่อไหร่ล่ะก็ เตรียมตัววิ่งหนีความสยองได้เลย อันที่แท้จริงแล้ว หากพบเห็นแมลงสาบปุ๊บ ต้องหาหนทางรีบกำจัดอย่างโดยเร็ว อาจจะกวาดทิ้ง ตีให้เละ หรือ พ่นยาฆ่าแมลงเสียให้สิ้นชีวา แต่พ่อหนุ่มชาวฟิลิปปินส์เล่นใหญ่กว่านั้น เพราะการถูกบุกรุกบ้านเป็นสิ่งที่เขายอมไม่ได้!! นาย Gabriel Co Tuazon พบกับเหตุการณ์สยองขวัญในขณะที่กำลังเปิดหน้าต่าง เพื่อสูดอากาศอันสดใสข้างนอก แต่แล้วเจ้าแมลงสาบผู้โชคร้าย ก็บินเข้ามาพักพิงอิงอาศัยโดยไม่ได้รับอนุญาต เขาจึงทำการจับกุมแมลงสาบตัวนี้ พร้อมกับตัดสินโทษประหารชีวิตให้กับมัน ด้วยวิธีการจับนั่งเก้าอี้ไฟฟ้าที่จัดทำขึ้นพิเศษสำหรับมันโดยเฉพาะ “เผ่าพันธ์ุของพวกเอ็งช่างโสมมนัก อันตัวข้าต้องแปดเปื้อนก็เป็นเพราะเอ็ง เพราะฉะนั้นเอ็งสมควรได้รับโทษประหารด้วยเก้าอี้ไฟฟ้า” คำตัดสินจากโพสต์ของชายหนุ่ม พร้อมกับประกาศศึกกับทั้งเผ่าพันธุ์แมลงสาบ เหตุที่ต้องทำแบบนี้ เนื่องจากเขาไม่อยากจะตีมันให้ตาย หากใช้วิธีนี้จะทำให้เกิดความสกปรกเลอะเทอะ ก็เลยเลือกใช้วิธีนี้แทน จะได้เก็บกวาดสะดวกกว่า . ในระหว่างพิธีประหาร บทเพลงสุดท้ายแห่งชีวิตจึงเริ่มบรรเลงไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเขาตัดสินใจกดปุ่มปล่อยกระแสไฟฟ้าให้กับเพื่อนร่วมโลกที่เพิ่งจะเจอกันได้ไม่นาน และดวงไฟด้านหลังเก้าอี้ก็ส่องสว่าง อันเป็นสัญญาณว่ากระแสไฟฟ้าได้เข้าสู่ร่างกายนักโทษแล้ว คลิปวินาทีประหารชีวิตแมลงสาบผู้บุกรุก . …
-
สื่อนอกเผย หัวหน้า ISIS ระดับสูง ผู้สั่งประหารเผานักบินในกรงทั้งเป็น ถูกจับกุมตัวได้แล้ว!!
ความวุ่นวายบนผืนแผ่นดินซีเรียยังไม่มีทีท่าว่าจะสงบลงในเร็ววัน มันยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ เปรียบเสมือนดั่งนรกบนดิน มีผู้คนบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก… อีกทั้งยังมีการแสดงเจตนาอันร้ายแรง ประกาศศักดาให้โลกได้รับรู้ของความเหี้ยมโหดเกินมนุษย์ของกลุ่ม ISIS ที่มักจะมีการปล่อยภาพคลิปวิดีโอประหารตัวประกันผ่านอินเทอร์เน็ต ซึ่งเบื้องหลังเหล่านั้นมีผู้บัญชาการกลุ่ม ISIS ระดับสูงคอยบงการอยู่ และครั้งหนึ่งที่โลกได้จดจำความโหดร้ายจากการกระทำอันโหดเหี้ยม เผานักบินเชลยชาวจอร์แดนทั้งเป็นในกรง จากปี 2015 บัดนี้ 1 ใน 4 ผู้บัญชาการระดับสูง ถูกจับกุมตัวในอิรักแล้ว… Saddam al-Jamal หนึ่งในผู้นำระดับสูงของกลุ่ม ISIS ถูกจับกุมตัวได้แล้ว (ภาพจากการแถลงข่าวผ่านฝั่งรัฐบาลอิรัก) เว็บไซต์เดลี่เมลเปิดเผยข้อมูลจากแหล่งข่าวเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2018 Saddam al-Jamal หนึ่งในผู้บัญชาการระดับสูงของกลุ่ม ISIS ถูกจับกุมตัวและคุมขังจากการกระทำที่เชิดชูลัทธิแห่งความตาย นิยมความโหดเหี้ยมด้วยการตัดหัวนักโทษและเชลยศึก ทางด้านหน่วยความมั่นคงประเทศจอร์แดน เชื่อว่าเขาเป็นผู้ชักใยการฆ่าอันโหดเหี้ยมที่เกิดขึ้นกับนักบิน Muath al-Kasasbeh ในปี 2015 ของกองทัพอากาศจอร์แดน ที่ถูกยิงเครื่องตกในเมืองอัรร็อกเกาะฮ์ ประเทศซีเรีย Muath al-Kasasbeh นักบินชาวจอร์แดนที่ถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยม ซึ่งภายหลังจากที่ถูกยิงตกไม่กี่สัปดาห์ ISIS ได้ปล่อยวิดีโอคลิปที่เผยให้เห็นนักบินวัย…
-
คดีสุดอลม่าน เมื่อนักโทษถูกตัดสินประหารชีวิต แต่ความจำเลือนลางจำการก่อเหตุไม่ได้…
ในการตัดสินคดีความร้ายแรงต่างๆ นั้น ผู้ต้องหาจะรู้อยู่แก่ใจตนเองว่าได้กระทำการอันใดลงไป และหลังจากศาลได้ทำการพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้ว ก็จะทำการพิพากษาโทษแก่ผู้ก่อคดีตามสมควร ซึ่งในคดีความของนาย Vernon Madison วัย 67 ปี กลับไม่ได้เป็นไปตามนั้น เขาถูกพิพากษารับโทษประหารชีวิตไปเมื่อ 30 ปีก่อน และจะถูกประหารในปี 2016 แต่ด้วยเหตุที่เขาถูกลบความจำจากอาการช็อกหลายต่อหลายครั้ง ทางทนายความจึงขอเลื่อนวันประหารชีวิตมาจนถึงทุกวันนี้!? Vernon Madison นาย Madison จะได้รับการประหารในเดือนพฤษภาคม 2016 จากการก่อคดีฆาตกรรมเจ้าหน้าที่ตำรวจในปี 1985 ภายหลังไม่นานก่อนที่สำนวนคดีจะถูกสรุป ทนายความของเขาได้ทำการยื่นอุทธรณ์ไว้ว่า… ลูกความของเขาประสบกับโรคหลอดเลือดสมอง มีอาการช็อกหลายครั้ง ส่งผลทำให้ระบบประสาทเสียหาย และจำอะไรไม่ได้เลยเกี่ยวกับอาชญากรรมในครั้งนั้น ภาพของนาย Madison ในปี 1985 ศาลจึงทำการเลื่อนการประหารออกไป เนื่องจากสภาพจิตใจของนักโทษนั้นยังไม่สามารถประหารได้ จนกว่าตัวนักโทษจะมีความเข้าใจในบทลงโทษ และเหตุผลที่พวกเขาต้องได้รับโทษ และหลังจากนั้นการประหารนาย Madison ก็ประสบกับโรคเลื่อนแล้วเลื่อนอีกตลอด 2 ปี ที่ถูกตัดสิน โดยครั้งแรกที่นาย Madison มีอาการช็อกนั้นเกิดขึ้นในปี 2015…
-
บทสัมภาษณ์ความรู้สึกของ “นักโทษประหาร” ในชั่วโมงสุดท้ายที่ยังมีชีวิตอยู่
หลายคงคิดว่าช่วงเวลาที่เราจะต้องตายจากโลกนี้ไปนั้นไม่สามารถรับรู้ได้เลยว่าเมื่อไหร่ แต่ทว่านั่นก็ไม่แน่เสมอไปเพราะยังมีคนกลุ่มหนึ่งจะรู้ได้ก่อนว่าวันไหนที่พวกเขาต้องพบเจอกับความตายโดยแท้จริง คนเหล่านั้นคือนักโทษประหารที่ทำคดีร้ายแรงเอาไว้ อย่างเช่นการพรากชีวิตผู้อื่นไปหรือก็คือการเป็นฆาตกร ซึ่งแน่นอนว่าคนเหล่านั้นก็จะถูกแจ้งให้รู้ว่าจะต้องถูกฆ่าเพื่อชดใช้ความผิดที่ก่อขึ้นในวันไหน ไม่มีทางเลือกใดให้สำหรับสิ่งที่พวกเขาต้องเจอ ไม่มีใครสามารถรู้ได้ว่าในช่วงเวลาที่ต้องก้าวข้ามประตูไปสู่ความตาย คนเหล่านั้นจะคิดอะไรกันอยู่และจะแสดงออกมากันอย่างไร จนเมื่อได้มีการสัมภาษณ์นักโทษประหารคนหนึ่งชื่อว่า Mark Asay ที่ทำความผิดในข้อหาฆาตกรรมชายผิวดำ 2 คน แรงจูงใจมาจากการเหยียดเชื้อชาติ โดยชั่วโมงสุดท้ายก่อนที่จะถูกประหารก็ได้มีการพูดคุยกับเขาเล็กน้อย การฆาตกรรมของเขานั้นเกิดขึ้นเมื่อได้ยิงชายคนแรกที่มีชื่อว่า Robert Booker เพียงเพราะเรื่องความต่างของเชื้อชาติ หลังจากนั้นก็ให้ Robert McDowell ลูกครึ่งที่เป็นเหยื่ออีกคนทำการสำเร็จความใครjให้กับตัวเองด้วยปาก ก่อนจะฆ่าชายคนนั้นเมื่อรู้ว่าจริงๆ แล้วนั่นเป็นผู้ชายที่แต่งเป็นผู้หญิง คลิปวิดีโอข่าวการสัมภาษณ์นักโทษประหารคนดังกล่าว เหตุการณ์ทั้งหมดนั้นเกิดขึ้นในปี 1987 จนมาถึงวันที่เขาจะต้องถูกประหารก็ได้ให้สัมภาษณ์ครั้งสุดท้ายเอาไว้ว่า “ผมไม่เคยคิดว่าคนผิวขาวอยู่เหนือกว่าคนอื่น ผมยังคงมีเพื่อนที่เป็นเชื้อชาติอื่นอยู่อีก” อีกทั้งรอยสักสวัสดิกะที่แสดงถึงการแบ่งแยกและเหยียดหยาม เขาก็อธิบายว่าสักเพราะให้สามารถอยู่ในคุกได้ ตอนที่ถูกจับในวัย 19 ปี ประโยคสุดท้ายที่เขาได้พูดทั้งน้ำตาก็คือ “ผมเพียงแค่ต้องการที่จะขอโทษและสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นมันอยู่นอกเหนือการควบคุมของผมเอง” ชายคนนี้เป็นคนผิวขาวคนแรกที่ถูกประหารเพราะว่าฆ่าคนผิวสีในรัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา การประหารจะให้เขากินน้ำค็อกเทลที่มียาพิษผสมเอาไว้ ตัวยาที่ถูกผสมในเครื่องดื่มดังกล่าวมีฤทธิ์ในการระงับความรู้สึกที่เปรียบได้กับยาชา ถูกนำมาใช้เพื่อการประหารเป็นครั้งแรก และได้มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าผลของยาไม่สามารถพิสูจน์ได้จริง และทางผู้ผลิตรู้สึกไม่พอใจกับเหตุผลที่นำตัวยาไปใช้ พี่ชายของผู้ตายที่ตกเป็นเหยื่อคนแรกได้ตอบคำถามเกี่ยวกับการตายของน้องเอาไว้ว่า “อะไรคือเหตุผล? เพียงเพราะเรื่องสีผิวของน้องผมเหรอ? มันไม่มีเหตุผลใดเลยให้เขาต้องทำกับน้องผมอย่างนั้น…
-
อย่างโหด!! ผู้ต้องหาคดี ‘ฆ่าข่มขืนเด็ก’ ในประเทศเยเมน ถูกประหารพร้อมห้อยศพประจาน
นับว่าคดีข่มขืนกระทำชำเรา ยังคงเป็นปัญหาใหญ่ของหลายๆ ประเทศทั่วโลก และเมื่อไม่นานมานี้ก็ได้เกิดเหตุการณ์ทำนองนี้ขึ้นที่ประเทศเยเมน เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2017 เว็บไซต์ Metroได้รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมนาย Hussein al-Saket วัย 22 ปี ข้อหาฆ่าข่มขืนเด็กสาววัย 4 ขวบ ผู้ต้องหา Hussein al-Saket เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นที่ประเทศเยเมน โดยก่อนหน้านี้ผู้ต้องหาได้ทำการลวงเด็กสาววัย 4 ขวบ ผู้เป็นหลานสาวของ Ali Ayedh ไปข่มขืนพร้อมกับฆาตกรรมอย่างโหดร้าย ซึ่งหลังจากเกิดเหตุได้ไม่นาน ก็ได้มีการออกตามหาเด็กสาวโดยที่ผู้ก่อเหตุทำทีท่าออกตามหาด้วย จนกระทั่ง Saket ก็ถูกกระชากหน้ากากออก และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้ในที่สุด แต่ทว่าการลงโทษในครั้งนี้ได้กลายเป็นข่าวดังไปทั่วโลก ตามกฎหมายของประเทศเยเมน ผู้กระทำผิดฐานข่มขืนจะต้องถูกประหารชีวิต การประหารชีวิตของเจ้าหน้าที่ในครั้งนี้กลับสร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์ให้แก่นักสิทธิมนุษยชนทั่วโลก โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้บังคับให้ผู้ต้องหาหมอบราบลงกับพื้นใจกลางเมือง Sanaa ท่ามกลางสายตาของประชาชนนับหมื่นคน เจ้าหน้าที่ได้ประหารชีวิตผู้กระทำผิดด้วยการยิงอัดกับพื้นกลางถนนจำนวน 5 นัด โดยเชื่อว่าวิธีดังกล่าวจะทำให้ประชาชนไม่กล้าทำผิด และช่วยลดปัญหาดังกล่าวได้ “จู่ๆ หลานสาวเราก็หายไปจากบ้าน พอไปแจ้งความเจ้าหน้าที่ก็สืบจนพบศพของหลานสาวและผู้กระทำ เราเชื่อว่าวิธีนี้จะทำให้คนไม่กล้าทำผิดอีก” ญาติผู้เสียหายกล่าว…
-
จีนสั่งตัดสินโทษประหารชีวิต 13 พ่อค้ายา ต่อหน้าผู้คนนับหมื่น หวังกวาดล้างอย่างจริงจัง!!
อีกหนึ่งข่าวที่กำลังโด่งดังและถูกวิพากษ์วิจารณ์จากเหล่านักสิทธิมนุษยชนทั่วโลก เมื่อรัฐบาลจีนประกาศกวาดล้วงกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดอย่างจริงจัง และหนึ่งในวิธีการนั้นก็ต้องมีการ ‘เชือดไก่ให้ลิงดู’ Beijing News รายงานว่าเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2017 ได้มีการนำตัวนักโทษคดีค้ายาเสพติดจำนวน 18 คนมาตัดสินโทษต่อหน้าประชาชนนับหมื่นชีวิต ที่เมืองซานเหว่ย มณฑลกวางตุ้ง ก่อนเริ่มการตัดสินมีการนำตัวนักโทษทั้ง 18 คนมาเดินขบวนท่ามกลางฝูงชนเพื่อเป็นแบบอย่างไม่ให้ประชาชนทำตาม ศาลตัดสินให้มีนักโทษ 13 คนต้องถูกส่งตัวไปประหารชีวิตทันที!! ทางด้านของสื่อท้องถิ่นจีนได้รายงานว่า ปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาที่ทางการจีนต้องการจะกวาดล้างมาโดยตลอด และไม่นานมานี้ได้มีการออกมาตรการปราบกลุ่มพ่อค้ายาอย่างจริงจัง ทว่าการตัดสินต่อหน้าฝูงชนนับหมื่นของทางการ ถูกนักสิทธิมนุษยชนและกลุ่มแอคทิวิสต์จากทั่วโลกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก William Nee จากองค์กรนิรโทษกรรมนานาชาติได้ให้สัมภาษณ์ว่า “การนำผู้กระทำผิดมาตัดสินต่อหน้าผู้คนแบบนี้ นับว่าเป็นการกระทำที่โหดร้ายและป่าเถื่อนที่สุด” การตัดสินในครั้งนี้คาดว่ามีประชาชนมาเข้าชมมากกว่า 10,000 ชีวิต จากผลงานการกวาดล้างในปี 2014 อ้างอิงโดย Daily Telegraph พบว่าภายในหนึ่งวันมีเจ้าหน้าที่กว่า 3,000 นายของจีนสามารถกวาดล้างแล็ปทำยาเสพติดในบริเวณเมืองหลูเฟิ่งได้ถึง 77 แห่ง เช่นเดียวกับเมื่อต้นเดือนเมษายนที่ทางการจีนสามารถสกัดจับการขนส่งยาเสพติดกว่า 640 กิโลกรัม ก่อนจะมุ่งหน้าเข้าสู่มาเลเซียได้สำเร็จ นักโทษที่ถูกตัดสินในวันนั้น…
-
สุดโหด อิหร่านประหารประชากรชายทั้งหมู่บ้าน เหตุมีส่วนพัวพันเกี่ยวกับการค้ายาเสพติด!!!
จะว่าไปแล้วก็ต้องยอมรับว่าเป็นข่าวคราวที่โหดเหี้ยมและสะเทือนใจมากจริงๆ สำหรับการประหารประชากรชายทั้งหมู่บ้าน ในแถบตอนใต้ของประเทศอิหร่าน หลังจากหน่วยงานในพื้นที่ตรวจสอบพบว่าพวกเขามีส่วนพัวพันกับการค้ายาเสพติด!!? Shahindokht Molaverdi รองประธานด้านสตรีและครอบครัวได้ออกมากล่าวว่า ‘ประชากรชายในหมู่บ้านแห่งนั้นทั้งหมด (ไม่ได้พูดชื่อหมู่บ้าน) ถูกตัดสินลงโทษประหารชีวิต แม้กระทั่งเด็กๆ เพราะพวกเขามีแนวโน้มที่จะเติบโตมาเป็นผู้ค้ายาเช่นกัน และจะหาช่องทางแก้แค้นให้กับครอบครัวพวกเขาอย่างแน่นอน เราจะไม่สนับสนุนผู้คนแบบนี้ ให้ก่อเหตุการณ์เช่นนี้อีก’ สำหรับประเทศอิหร่านก็ถือว่าเป็นอันดับ 2 ในด้านการประหารนักโทษ รองจากประเทศจีนเพียงประเทศเดียวเท่านั้น จากรายงานในปี 2015 ที่เพียงไม่ถึงครึ่งปีแรก ประเทศอิหร่านได้ประหารนักโทษด้วยการแขวนคอไปถึง 700 คนด้วยกัน!!! Shahindokht Molaverdi Molaverdi ยังกล่าวต่ออีกว่า แต่ภายใต้การบริหารของประธานาธิบดี Hassan Rouhani พวกเราได้นำเอาครอบครัวของเหล่านักโทษที่ถูกประหารมาเข้าโปรแกรมสนับสนุน เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในแผนงานพัฒนาประเทศ ‘เราเชื่อว่าถ้าเราไม่สนับสนุนผู้คนเหล่านี้ พวกเขาก็จะกลับไปกระทำความผิดอีก และนี่คือเหตุผลที่สังคมต้องร่วมรับผิดชอบความเป็นอยู่ของครอบครัวผู้ถูกประหาร’ สำหรับการกระทำนี้ก็เรียกได้ว่ามีผู้ไม่เห็นด้วยอย่างมาก โดยเฉพาะ Maya Foa หนึ่งในสมาชิกของแคมเปญต่อต้านการประหารชีวิต กล่าวว่า ‘เราเห็นได้ชัดเลยล่ะว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมอัตราการประหารชีวิตของประเทศอิหร่านถึงพุ่งขึ้นสูงมากๆ นั่นก็เพราะพวกเขาเล่นประหารชีวิตประชากรชายไปทั้งหมู่บ้านนี่เอง แถมเชื่อสิว่าการประหารเหล่านี้น่ะไม่ได้ผ่านการไต่สวน สืบสวนอย่างเป็นธรรม และผู้ถูกประหารก็ยังถูกทารุณต่างๆ นานาด้วยล่ะ’ และเหตุผลดังกล่าวนั้นเป็นหนึ่งที่ทำให้นักเคลื่อนไหวทางสังคมหลายคนออกมาร้องขอให้ UN เลิกสนับสนุนทางการเงินให้กับประเทศอิหร่าน เพื่อไปใช้ในการปราบปรามการค้ายาเสพติด…
-
โป๊ปฟรานซิสออกมาเรียกร้อง เชิญชวนเหล่าผู้นำประเทศทั่วโลกยกเลิก ‘การประหารชีวิต’ เสีย
การมีกฎมีระเบียบ มีข้อบังคับ ก็แน่นอนว่ามีไว้เพื่อให้มนุษย์ได้อยู่ร่วมกันแบบมีความสุข ไม่เบียดเบียนผู้อื่น แต่กระนั้นคนที่ทำผิดกฎ จนบางครั้งบางทีมีโทษหนักถึงต้องประหารชีวิตนั้น…เขาจะไม่มีโอกาสกลับตัวได้แล้วจริงหรือ?? และนี่ก็อาจจะเป็นหนึ่งในแนวคิดของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส “Pope Francis” ผู้นำแห่งโลกคริสจักรที่ได้ออกมาเรียกร้องให้ประเทศคริสเตียนยกเลิกโทษประหารชีวิตเหล่านักโทษเสีย!!? โป๊ปได้ออกมาเรียกร้องให้เหล่าผู้นำของประเทศคริสเตียนละเว้นการประหารชีวิตตลอดปีนี้ ‘ตามพระบัญญัติแล้วกล่าวว่า ‘เจ้าอย่าฆ่าคน’ นั้นครอบคลุมทั้งเหล่าคนดีและคนที่ทำความผิดไม่ต่างกัน’ นี่คือคำกล่าวของเขาที่ประกาศต่อผู้คน ณ จตุรัส St.Peter’s ‘ฉันขอเชิญช่วนให้เหล่าผู้นำประเทศโลกคริสเตียนทั้งหลายยกเลิกโทษประหารเสีย เพื่อแสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญและเป็นแบบอย่างต่อผู้นำประเทศอื่นๆ ขอให้ปีศักดิ์สิทธิ์แห่งความเมตตานี้ไม่มีการประหารด้วยเทอญ’ พระสันตะปาปากล่าว สำหรับปีศักดิ์สิทธิ์แห่งความเมตตานี้ ตามที่พระสันตะปาปาประกาศเริ่มั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่แล้ว จนถึงวันที่ 20 พฤศจิกายน 2559 ที่จะถึงนี้ ช่วงนี้ก็ถือว่าโป๊ปฟรานซิสได้เริ่มออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองบ่อยครั้งขึ้น เพราะไม่กี่สัปดาห์ก่อนเขาก็ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์นโยบายของผู้สมัครประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัล ทรัมป์ เกี่ยวกับเรื่องการสร้างกำแพงระหว่างชายแดนสหรัฐฯ – เม็กซิโก ของเขาว่าเป็นการกระทำที่ไม่มีน้ำจิตน้ำใจของชาวคริสต์เอาซะเลย “A World without the Death Penalty,” สำหรับสถิติการประหารนักโทษที่สูงที่สุดในโลกตกเป็นของประเทศจีน อิหร่าน อิรัก ซาอุดิอาระเบีย และสหรัฐอเมริกาตามลำดับ และถ้าพิจารณาเฉพาะในส่วนของโลกตะวันตกแล้วล่ะก็ สหรัฐฯ…
-
สลดใจ!! หนึ่งในกลุ่มผู้เข้าร่วม ISIS ลงมือประหารชีวิตแม่ตัวเองท่ามกลางฝูงชนในใจกลางเมือง
เป็นที่รู้กันดีว่าความโหดเหี้ยมอำมหิตของกลุ่มรัฐอิสลามนั้นเป็นเช่นไร ตั้งแต่การสังหารตัวประกันทั้งแบบทารุณ ทรมาน และแบบม้วนเดียวจบ ทำให้กระฉ่อนไปทั่วโลก ซึ่งในคราวนี้ก็เกิดเรื่องอื้อฉาวขึ้นอีกครั้งหลังจากที่มีหนึ่งในกลุ่มผู้เข้าร่วมอุดมการณ์ของ ISIS ลงมือประหารชีวิตแม่แท้ๆ ของตัวเอง จากการรายงานของ The Independent และบัญชีทวิตเตอร์ الرقة تذبح بصمت (@Raqqa_SL) กล่าวเอาไว้ว่า Ali Saqr al-Qasem วัย 20 ปี ผู้เข้าร่วมกลุ่ม ISIS ได้ทำการยิงแม่ของเขา Lena วัย 45 ปี ด้วยปืนไรเฟิลจู่โจมท่ามกลางฝูงชนที่ภายในเมืองอัรร็อกเกาะฮ์ ประเทศซีเรีย Ali Saqr al-Qasem วัย 20 ปี หนึ่งในผู้เข้าร่วมกลุ่ม ISIS ต้นเหตุของความสลดใจเกิดขึ้นมาจากแม่ของเขานั้นได้พยายามให้ลูกชายออกมาจากกลุ่มรัฐอิสลามและอยากจะให้หนีออกไปด้วยกัน ซึ่งกลับไม่ได้เป็นไปแบบนั้น ทางกลุ่มรัฐอิสลามเห็นว่าใครก็ตามที่ขัดขวางหรือไม่สนับสนุนกลุ่มก็จะถูกฆ่าทิ้ง จากเหตุการณ์ดังกล่าวเชื่อกันว่า Ali Saqr al-Qasem ถูกสั่งการมาจากเบื้องบนของกลุ่มอีกที ตัดสินให้ลงมือประหารชีวิตแม่ของเขาด้วยตัวเขาเอง…
-
จุดเริ่มต้นของการ ‘แขวนคอ’ จนนำไปสู่วิธีการฆ่าตัวตายอันเป็นอันดับต้นๆ ของโลก!!
เรื่องของการนำเชือกหรือผ้ามาเป็นอุปกรณ์ในการปลิดชีวิตนั้นมีมาเนิ่นนานแล้วล่ะ การแขวนคอ หรือ การผูกคอ ตามแต่จะเรียกจุดประสงค์ของการใช้งาน ไม่มีความซับซ้อนอะไรมากมาย เพียงแค่นำมามัดเป็นห่วงที่สามารถคล้องคอได้ จากนั้นก็ปล่อยให้กลไกของแรงโน้มถ่วงโลกทำงาน ทั้งนี้การแขวนคอนั้นถูกนำมาใช้เป็นวิธีการประหารชีวิตเริ่มต้นขึ้นในช่วงยุคกลางของประเทศอังกฤษ นำเสนอวิธีการโดยชนเผ่าดั้งเดิมแซ็กซอนในช่วงศตวรรษที่ห้า เป็นวิธีการง่ายๆ และใช้งานได้จริง จึงได้รับความนิยมไปอย่างแพร่หลายทุกสารทิศ จากวิธีการประหารชีวิตก็กลายมาเป็นวิธีการฆ่าตัวตายที่ได้รับเลือกมากที่สุดในโลก เพราะเจ็บน้อยที่สุด ไวและง่าย อย่างไรก็ตามไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดว่าใครนำมันมาใช้เป็นคนแรกและเหตุใดถึงเลือกกระทำ ซึ่งอัตราการฆ่าตัวตายด้วยการผูกคอที่สูงที่สุดอยู่ในช่วงยุคก่อนปฏิวัติอุตสาหกรรม มีอัตราสูงในหลายประเทศ นอกจากนี้การแขวนคอหรือการผูกคอ ในวัฒนธรรมของชาวไวกิ้งเชื่อว่าเป็นวิธีการบูชายัญชีวิตให้แก่เทพโอดิน ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการเชิดชูเทพโอดินจากการที่เทพได้ทำการแขวนคอตัวเองเพื่อสละชีวิตนั่นเอง จากทั้งหมดทั้งมวลนี้ก็เพื่อเป็นความรู้ อย่าได้คิดนำไปใช้งานจริงเชียวล่ะ เพราะทุกชีวิตมีคุณค่าอยู่ในตัวนะจ๊ะ ที่มา : historic-uk, wikipedia