Tag: ประเทศจีน
-
“ถังข่าหนังมนุษย์” งานศิลปะที่แสนทารุณ ซึ่งต้องแลกมาด้วยชีวิตของทาสชาวทิเบต
((บทความต่อไปนี้อาจมีภาพและเนื้อหาที่ทำให้คุณไม่สบายใจ และอาจกินหมูจุ่มไม่อร่อย)) “ถังข่า” งานพุทธศิลป์อันมีเอกลักษณ์ของชาวทิเบต ซึ่งเป็นการวาดภาพของพระโพธิสัตว์หรือสถานที่ต่างๆ ตามความเชื่อของพุทธศาสนานิกายวัชรยาน และถูกนำประดับตกแต่งอยู่ทั่วไปตามศาสนสถานนั่นเอง งานศิลปะนี้ได้รับความนิยมอย่างมากในดินแดนหลังคาโลก และไม่น่าเชื่อว่าในอดีตความสวยงามแบบนี้ไม่ได้ถูกวาดเอาไว้บนผืนผ้าใบเท่านั้น แต่มันยังถูกวาดเขาไว้บนผิวหนังมนุษย์ด้วยเช่นกัน… นี่อาจจะเป็นเพียงแค่งานศิลปะธรรมดาๆ คล้ายกับรอยสักถ้าหากว่ามันไม่ได้ถูกเขียนเอาไว้บนตัวของทาส ก่อนที่เจ้าของทาสรายนั้นจะใช้วิธีถลกหนังออกมาอย่างทารุน ถังข่าหนังมนุษย์ คืองานศิลปะที่สะท้อนให้เห็นถึงสังคมและความโหดร้ายของทาสเกษตรกรรมของทิเบตในสมัยก่อน ซึ่งพวกเขามีฐานะเป็นหนึ่งในสมบัติของนายจ้าง . ว่ากันว่างานทาสเกษตรในทิเบตนั้นขึ้นชื่อเรื่องความโหดร้ายและทารุณไม่น้อยเลยทีเดียว โดยกรรมวิธีให้ได้มาซึ่งถังข่าหนังมนุษย์นี้ นายจ้างจะนำทาสที่ถูกคัดเลือกแล้วมาวาดลวดลายต่างๆ ลงไป . จากนั้นพวกเขาจะทำการเจาะรูที่ผิวหนังลึกประมาณ 2 เซนติเมตร และค่อยๆ หยอดปรอทลงไปทีละนิดเพื่อให้ผิวหนังกับร่างกายแยกออกจากกัน และถลกหนังออกมากลายเป็นถังข่าหนังมนุษย์อย่างที่เราได้เห็นกัน ปัจจุบันถังข่าหนังมนุษย์ที่มีอายุมากกว่า 2,000 ปี ผืนหนึ่งได้ถูกเก็บรักษาไว้อย่างดีที่พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์แห่งเหอหนาน ในประเทศจีน นับว่าเป็นงานศิลปะที่แลกมาด้วยความโหดร้ายทารุณจริงๆ ที่มา blog.sina, Thangka
-
เดี๋ยวพี่เดี๋ยว!? หนุ่มแบกปลาโลมาจากชายหาด เดินกลับบ้านชิลๆ ตำรวจออกตามจับให้วุ่น
ในเวลานี้ที่ประเทศจีนมีคลิปเหตุการณ์อันหนึ่งกำลังกลายเป็นกระแสไปทั่วอินเตอร์เน็ตจีนอยู่ มันเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2018 ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับการโพสต์ลงบน Miaopai เว็บไซต์แบ่งปันวิดีโอของจีน และได้รับยอดชมกว่าหกล้านครั้ง ในวิดีโอนั้น มีภาพของชายคนหนึ่งกำลังอุ้มปลาโลมาพาดไหล่ที่ชายหาดชื่อดังแห่งหนึ่งในมณฑลกวางตุ้งซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศจีน และทำให้เจ้าหน้าตำรวจของจีนในต้องออกตามหาชายคนที่ว่าเป็นการเร่งด่วน พยานผู้เห็นเหตุการณ์กล่าวว่าปลาโลมาที่ว่าได้ถูกพบเกยตื้นอยู่บนชายหาดที่เกาะ Hailing และดูเหมือนจะกำลังจะตาย ก่อนที่ชายคนหนึ่งจะเดินเข้ามาแบกมันขึ้นหลัง และเอามันขึ้นรถของเขาก่อนจะขับออกไป วิดีโอเหตุการณ์ในครั้งนี้จาก Shanghaiist ชาวเน็ตของประเทศจีนได้ออกมาแสดงความเห็นต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกันมากมาย ไม่ว่าจะเป็น “ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคนที่ทำแบบนี้ ควรจะโดนลงโทษแบบไหน” หรือ “ถ้าคุณจะสามารถขนาดนั้น ก็ไปขโมยฉลามจากทะเลดีกว่าไหม? ดูซิจะเป็นยังไง? ไม่ต้องมายุ่งกับโลมาก็ได้” จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้อธิบายว่าปลาโลมาจัดเป็นสัตว์คุ้มครองของจีน ไม่ว่ามันจะยังมีชีวิต หรือตายไปแล้ว การกระทำที่ถูกต้องก็น่าจะเป็นการแจ้งเรื่องต่อตำรวจ ไม่ใช่การแบกมันกลับไปเช่นนี้ ทางตำรวจยังกล่าวอีกว่าชายคนนี้จะต้องรับโทษความผิดทางอาญาหากหาตัวพบ และในตอนนี้ได้มีการแถลงการณ์จากฝ่ายความมั่นคงสาธารณะของจีนว่าจะมีการสืบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยเร่งด่วนแล้ว ส่วนจะหาตัวชายคนดังกล่าวพบไหม และโลมาจะเป็นอย่างไรต่อไปนั้น ยังเป็นเรื่องที่ต้องติดตามกันต่อไปอย่างใกล้ชิด ที่มา bbc, medium
-
เปิดตัวเที่ยวบินธีม Toy Story เอาใจแฟนคลับ แถมสร้างบรรยากาศสนุกๆ ให้ผู้โดยสาร
หากใครเป็นแฟนการ์ตูนชุด Toy Story แล้วล่ะก็ นี่อาจจะทำให้คุณกรี๊ดแบบสุดๆ เลยก็ได้ เพราะนี่คือเครื่องบินที่ถูกตกแต่งเป็นลวดลายตัวละคร Buzz Lightyear เท่านั้นยังไม่พอ ข้างในก็ยังถูกตกแต่งให้มีธีมเดียวกัน ราวกับว่าคุณได้หลุดเข้าไปอยู่ในการ์ตูนเรื่องนี้เลย เครื่องบินที่คุณได้เห็นนี้เป็นเครื่องบินของสายการบิน China Eastern Airlines โดยได้เริ่มเที่ยวบินแรกจากเซี่ยงไฮ้ไปยังปักกิ่งเมื่อวันที่ 28 เมษายน 2018 ที่ผ่านมา การตกแต่งในธีม Toy Story นั้น แทบจะครอบคลุมทั้งลำ ตั้งแต่ด้านนอกตัวเครื่อง เบาะบนที่นั่ง ถาดอาหาร ช่องเก็บของเหนือศีรษะ นี่ถือได้ว่าเป็นครั้งแรกที่มีการตกแต่งเครื่องบินให้มีธีมในจีนแผ่นดินใหญ่ ท้ายลำมีนายอำเภอ Woody ด้วยนะ ด้านในตัวเครื่องถูกตกแต่งในธีม Toy Story ตั้งแต่เก้าอี้ยันเพดานเลยทีเดียว . . และก่อนที่คุณจะขึ้นเครื่อง บริเวณเคาน์เตอร์เช็กอินก็ถูกตกแต่งด้วยลวดลาย Toy Story ด้วยนะ ดูจากภายนอกแล้วสวยงามน่ารักมาก ช่วยสร้างบรรยากาศสนุกสนานให้กับผู้โดยสารได้ดีจริงๆ . สำหรับใครที่เป็นแฟนแอนิเมชันเรื่องนี้ก็อดใจรอกันอีกนิดเดียวเท่านั้น เพราะ…
-
นักเรียนจีนถูกมีดแทงกว่า 7 คน ผู้ก่อเหตุอ้าง เพราะถูกกลั่นแกล้งในวัยเด็กเลยเป็นปมฝังใจ
ในขณะที่อเมริกาต้องรับมือกับเหตุกราดยิงในโรงเรียนบ่อยครั้ง ในจีนเองก็เกิดเหตุทำนองเดียวกัน แต่เปลี่ยนจากการใช้ปืนเป็นมีดแทน เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2018 เกิดเหตุระทึกขวัญขึ้นที่เมืองมี่จี มณฑลซานซี ทางตอนเหนือของประเทศจีน เมื่อชายหนุ่มใช้มีดเข้าทำร้ายร่างกายเด็กๆ ในโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก สำนักข่าว BBC ได้รายงานว่าจากเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในระหว่างเวลา 18.10 นาฬิกา ซึ่งเป็นเวลาที่เด็กๆ เลิกเรียนแล้วและกำลังมุ่งหน้ากลับบ้าน เจ้าหน้าที่เผยว่าชายหนุ่มรายนี้แซ่เสี่ยว วัย 28 ปี เป็นศิษย์เก่าของโรงเรียนมัธยมแห่งนี้ จากการสอบสวนเบื้องต้นพบว่าแรงจูงใจของเขาคือการแก้แค้น เพราะเมื่อครั้งที่เขายังเป็นนักเรียนมัธยต้น เขาเคยถูกเพื่อนๆ กลั่นแกล้งมาก่อน ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 7 คน เป็นเด็กผู้หญิง 5 คน และเด็กผู้ชาย 2 คน และบาดเจ็บอีกกว่า 12 คน โดยเด็กๆ ที่ได้รับบาดเจ็บถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในทันที แต่ไม่มีการระบุเลขอายุที่แน่ชัด คาดว่าอยู่ในระหว่าง 12-15 ปี ในขณะนี้ผู้ลงมือก่อเหตุได้อยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว ภาพของผู้ก่อนเหตุในครั้งนี้ขณะถูกควบคุมตัวไปสอบสวน ภาพจากสื่อสังคมออนไลน์เผยให้เห็นภาพของเด็กนักเรียนที่นอนอยู่บนพื้น โดยมีผู้คนยืนตกตะลึงอยู่รายรอบ …
-
สาวจีนผงะ!! เจอ “หางหนู” โผล่อยู่ในไอติม เรียกร้องค่าเสียหายกว่า 2 แสนบาท
หญิงสาวชาวจีนถึงกับช็อค หลังจากพบว่ามีหางหนูโผล่ออกมาจากไอติมไส้ถั่วแดงที่เธอเพิ่งซื้อมาจากร้านค้า!? สื่อท้องถิ่นในจีนได้รายงานว่าหญิงสาวแซ่หยาง จากมณฑลเจียงซู เมืองหวายอัน ได้ออกไปซื้อไอติมแท่งไส้ถั่วแดงที่ร้านค้าเมื่อวันอังคารที่ 24 เมษายน 2018 ที่ผ่านมา หลังจากที่เธอกินเข้าไป 2-3 คำ เธอก็พบว่าในไอติมมีส่วนผสมแปลกๆ นอกจากถั่วแดง ส่วนผสมที่ว่านี้มีลักษณะเป็นแท่งยาวและมีขน เธอคิดว่ามันอาจจะเป็นหนอนผีเสื้อหรืออะไรสักอย่าง จึงได้เรียกเพื่อนๆ มาช่วยดูและถ่ายคลิปเอาไว้ เมื่อเพื่อนของเธอเห็นวัตถุแปลกปลอมชิ้นนี้ จึงพยายามดึงมันออกจากไอติมแล้วก็พบว่ามันไม่ใช่หนอนแต่เป็นหางของหนูตัวหนึ่ง แม้ว่านางสาวแซ่หยางจะรู้สึกสะอิดสะเอียนในตอนแรก แต่หลังจากนั้นเธอก็เริ่มมองเห็นโอกาสในไอติมแท่งนั้น เธอกลับไปที่ซูเปอร์มาร์เก็ตที่เธอซื้อไอติมแท่งนั้นมา และนำเอาไปติมแท่งนั้นกลับไปด้วยและเรียกร้องค่าชดเชย ในทีแรกทางร้านได้ยื่นข้อเสนอเป็นไอติมแท่งจำนวนมากให้กับเธอเพื่อเป็นการขอโทษ แต่เมื่อไม่ได้ผลทางร้านจึงพยายามเสนอเงินชดเชยให้กับเธอเป็นจำนวน 800 หยวน (ราวๆ 4 พันบาท) แต่เมื่อไม่ได้ผลอีก เขาเลยเพิ่มเป็น 2,000 หยวน (เกือบ 10,000 บาท) แต่ดูเหมือนหยางจะยังไม่พอใจกับเงินจำนวนดังกล่าว เธอจึงยื่นคำขาดว่าขอเป็นค่าชดเชย 50,000 หยวน (เกือบ 250,000 บาท) ให้สมกับที่เธอได้กินไอติมรสหนูไป แต่ดูเหมือนทางร้านจะไม่ยอมตกลงด้วยจึงต้องให้เจ้าหน้าที่รัฐเข้ามาช่วยไกล่เกลี่ย เป็นที่น่าเสียดายที่เธอจะไม่ได้เงินมากขนาดนั้น เพราะหลังจากการไกล่เกลี่ยแล้ว นางสาวแซ่หยางจะได้เงินชดเชยไปเพียง 1,000 หยวน…
-
ประเทศจีนดำเนินติดตั้งเสากั้นตามทางเท้า เพื่อลดปัญหาคนไร้บ้านชอบมานอนกองรวมกัน
ทุกประเทศย่อมมีปัญหาอยู่เสมอ แต่หนึ่งในปัญหาที่หลายๆ ประเทศไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ก็คือปัญหาความยากจนและคนไร้บ้าน แม้แต่ในประเทศที่เจริญไปด้วยเทคโนโลยีและวัฒนธรรมอย่างสหรัฐอเมริกาหรือประเทศญี่ปุ่นก็ยังมีคนจรจัดหรือคนไร้บ้านให้เห็นกัน ซึ่งบางทีพวกเขาก็ไม่ได้ก่อความเดือดร้อนให้แก่ผู้อื่นแต่อย่างใด แต่ดูเหมือนจะไม่ใช่กับคนไร้บ้านของจีน ถึงแม้ว่าไม่รู้ว่าพวกเขาทำความเดือดร้อนให้กับคนอื่นหรือไม่ แต่ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้มีมาตรการจัดการกับปัญหาคนไร้บ้านที่มักจะมาหลับนอนอยู่บนทางเท้า เจ้าหน้าที่ประจำเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้างได้พัฒนานวัตกรรมใหม่ที่จะช่วยจัดการกับปัญหาคนไร้บ้านที่ชอบมานอนบนทางเท้าในเมือง โดยที่วิธีการจัดการไม่ใช่นวัตกรรมที่ทันสมัยหรืออย่างใด เพียงแค่ได้ทำการติดตั้งเสาไปบนทางเท้าหลายๆ อันเพื่อที่จะไม่ให้เหลือพื้นที่ที่จะพอให้คนไร้บ้านมาหลับนอนได้ อ้างอิงตามรายงานของสำนักข่าวท้องถิ่น มีคนไร้บ้านประมาณ 10 คนที่ได้เริ่มตั้งรกรากอยู่บนทางเท้ามาตั้งแต่ปี 2016 พวกเขาได้ทำการปูเสื่อและฟูกพร้อมสำหรับการหลับนอน เจ้าหน้าที่ยังได้รายงานอีกว่าคนไร้บ้านเหล่านี้เป็นสาเหตุของปัญหาสุขภาพและความปลอดภัย จนในที่สุดจึงต้องตัดสินใจที่จะจัดการแก้ปัญหาในที่สุด ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว (2017) คนไร้บ้านโดยส่วนมากที่ได้ตั้งรกรากอยู่ในบริเวณทางเท้าได้ถูกย้ายให้ไปอาศัยอยู่ในอาคารที่ไม่มีคนอาศัย เสาที่เจ้าหน้าที่ได้ทำการติดตั้งในครั้งนี้ พวกเขาได้บอกว่าเป็นเพียงแค่ทางออกชั่วคราวเท่านั้น และในขณะนี้ เจ้าหน้าที่ได้คิดหาทางแก้ปัญหาคนไร้บ้านในระยะยาวอยู่ โดยอาจจะเป็นการเพิ่มการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์หรือการเพิ่มเติมอุปกรณ์ออกกำลังกายกลางแจ้งขึ้นมาแทน อย่างไรก็ตามถึงแม้จะมีเสาตั้งเต็มไปหมดตามทางเท้า แต่ก็ยังเหลือคนไร้บ้านอยู่จำนวนหนึ่งหรือสองคนที่ยังคงตั้งหลักปักฐานอยู่ในที่เดิมของพวกเขา ถือว่าเป็นไอเดียที่แปลกจริงๆ หรือบางทีแล้วคนออกแบบวิธีแก้ไขปัญหานี้อาจได้รับแรงบันดาลใจจากเจ้าหน้าที่จากเมืองฉางชุนในปี 2014 ที่ใช้ที่ล็อกรถเพื่อมาระงับกิจกรรมเต้นที่รบกวนคนอื่นไปทั่วของเหล่าป้าๆ ในจีนก็เป็นไปได้นะ ที่มา Medium
-
ดีไซเนอร์จีนออกแบบแฟชั่นชุดดำน้ำ ให้มี “ถุงน่อง” ช่วยเพิ่มความอบอุ่นขณะอยู่ใต้น้ำ
แฟชั่นเป็นสิ่งที่มีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา เพื่อความสวยงาม เพื่อการใช้งานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น และเจ้าคำว่าแฟชั่นนี่เองมันก็ไม่ได้จำกัดอยู่แค่เฉพาะเสื้อผ้าที่เราใส่กันอยู่ทุกวี่ทุกวันหรอกนะ เพราะแม้จะเป็นชุดดำน้ำที่ไม่น่าจะผสมผสานแฟชั่นลงไปได้ ก็ยังสามารถปรับเปลี่ยนให้เข้ากับยุคสมัยที่เปลี่ยนไปได้เช่นกัน เมื่อราวๆ ปีสองปีก่อนได้มีช่างภาพชาวญี่ปุ่นที่ชื่อว่า Manabu Koga คิดค้นถุงน่องใต้น้ำขึ้นมา เพื่อให้สาวๆ ได้สวมใส่มันในใต้น้ำแล้วถ่ายออกมาเป็นภาพสวยๆ เพื่อนำไปจัดแสดงในนิทรรศการภาพถ่ายของเขา ต่อมาไอเดียถุงน่องใต้น้ำของช่างภาพชาวญี่ปุ่นก็ได้ถูกดีไซเนอร์ชาวจีนหยิบยืมไปเพื่อดัดแปลงมันให้กลายเป็นถุงน่องสำหรับการดำน้ำจริงๆ ในชื่อแบรนด์ Bestdive และใช้วัสดุแบบพิเศษที่ช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้กับผู้สวมใส่อีกด้วย ต่อมา Manabu Koga ก็ได้ไปเจอเข้ากับถุงน่องดำน้ำนี้เข้า เขารู้สึกชื่นชอบสินค้าชิ้นนี้มากจนแชร์มันลงในทวิตเตอร์ของตัวเอง ถุงเท้าดำน้ำชิ้นนี้ถูกทำมาจากยางและผ้ายืดที่มีความหนา 2 มิลลิเมตร ให้ความยืดหยุ่นและทนทาน เหมาะกับการเคลื่อนไหวเช่นการดำน้ำ และยังให้ความอบอุ่นกับผู้สวมใส่ แฟนๆ บางส่วนของ Manabu Koga มองว่าถุงเท้าดำน้ำชิ้นนี้เป็นเพียงสินค้าก็อปเท่านั้น แต่แฟนๆ บางส่วนกลับมองว่ามันคือสิ่งที่น่าสนใจมาก และยังสนใจในวัสดุที่นำเอามาทำอีกด้วย หากใครสนใจลองไปชมสินค้าได้ที่เว็บไซต์ taobao.com เลย สนนราคาอยู่ที่ 1,490 ต่อ 1 คู่ เมื่อชุดดำน้ำสุดเซ็กซี่และแหวกแนวชิ้นนี้ถูกพูดถึงมากขึ้น ชาวเน็ตก็ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นต่างๆ นานา “มันเยี่ยมมากที่เขาใช้วัสดุแบบชุดดำน้ำ” “ฉันชอบความหนาของมันนะ และก็ยังอยากได้ดีไซน์แบบ Koga…
-
หนุ่มจีนเมาหนัก ปีนขึ้นตึกสูงหวังฆ่าตัวตาย แต่เผลอหลับเลยรอดมาได้
การดื่มแอลกอฮอล์จนเมาอาจเป็นสาเหตุให้คุณประสบอุบัติเหตุหรือทำอะไรไปโดยขาดสติ แล้วยิ่งคุณได้อ่านข่าวต่อไปนี้ล่ะก็คุณจะยิ่งอึ้งกิมกี่เข้าไปใหญ่ เมื่อวันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมา สำนักข่าวท้องถิ่นในจีนได้รายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พบชายหนุ่มรายหนึ่ง นอนหมดสติ งีบหลับอยู่บริเวณดาดฟ้าของตึกที่สูง 29 ชั้น ในเมืองซีอาน ตามรายงานบอกว่าตึกนี้มีความสูงอยู่ที่ 100 เมตร หากชายหนุ่มขยับแม้แต่นิดเดียวนั่นอาจหมายถึงความเป็นความตายของเขาเลยก็ได้ โชคดีที่ตลอดระยะเวลาตั้งแต่ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจพบจนเข้าไปช่วยเหลือ ชายหนุ่มไม่ได้มีทีท่าจะขยับหรือพลิกตัวไปทางไหนเลย ทำให้การช่วยเหลือเขาผ่านไปได้อย่างหวุดหวิด หลังจากเข้าช่วยเหลือแล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวชายหนุ่มมาสอบถาม จึงทราบว่าเจ้าตัวมีปัญหาเกี่ยวกับชีวิตซึ่งทำให้สภาพจิตใจไม่มั่นคง เขาเล่าต่อว่าหลังจากที่ดื่มเบียร์ไป 2-3 กระป๋อง เขาก็พยายามหาทางปีนขึ้นไปยังดาดฟ้าของตึกและตั้งใจจะกระโดดลงมา แต่โชคดีที่ระหว่างกำลังนั่งอยู่บนดาดฟ้านั้น เขาเผลอหลับไป ทำให้กระโดดตึกฆ่าตัวตายไม่สำเร็จ กินเหล้าอย่าให้เหล้ากินเรา มีสติอย่าเกินลิมิตนะทุกคน แล้วก็อย่าขึ้นที่สูงกันด้วย ที่มา medium
-
ชมตัวอย่าง Shiki Oriori เรื่องใหม่ฝีมือ สตูดิโอผู้สร้าง Your Name คราวนี้เนื้อเรื่องเกิดขึ้นที่จีน!?
ต้องขอบอกเลยว่าในปี 2016 นั้นนับได้ว่าเป็นปีทองของเรื่อง Your Name หลับตาฝันถึงชื่อเธอ ที่ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม ทำรายได้ถล่มทลาย แถมยังสร้างความประทับใจให้กับแฟนอนิเมะทั่วโลก หลังจากนั้นอาจารย์ชินไคก็หายหน้าหายตาไป…เพราะกำลังทำโปรเจกต์ใหม่อยู่นั่นเอง จนเมื่อช่วงฤดูใบไม้ร่วงปีที่ผ่านมาโผล่มาสร้างผลงานโปรโมตการท่องเที่ยวให้กับแคนาดา และล่าสุดทางสตูดิโอ CoMix Wave Films จากกรุงโตเกียว ที่เคยร่วมงานกับอาจารย์ชินไค สร้างผลงานเรื่อง Your Name จนมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก กำลังจะปล่อยผลงานใหม่ในชื่อว่า Shiki Oriori (บทกลอนแห่งฤดูกาล) ให้แฟนอนิเมชั่นได้รับชมกัน ก็อย่างที่รู้กันดีว่าเรื่องก่อนๆ มากมายหลายเรื่องนั้นจะดำเนินเรื่องในประเทศญี่ปุ่น แต่ในครั้งนี้จะเป็นการเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในประเทศจีน ทั้งเมืองกว่างโจว, มณฑลหูหนาน, และนครเซี่ยงไฮ้ นอกจากนี้ก็ได้มีการร่วมมือกันกับอนิเมชั่นสตูดิโอสัญชาติจีนอย่าง Haoliners ที่เคยมีผลงานในการสร้างอนิเมะชื่อดังมาแล้วมากมายอย่าง To Be Hero, Evil or Live, และ A Centaur’s Life เรื่องราวของ Shiki Oriori นั้นจะถูกแบ่งออกเป็นสามส่วน ซึ่งจะมีตัวละครที่แตกต่างกันออกไป และ 2…
-
โอกาส 1 ใน 500,000… เด็กน้อยผู้เกิดมาพร้อม ‘แฝดปรสิต’ มีส่วนขางอกมาเป็นขาที่สาม!!
ทุกๆ นาทีบนโลกใบนี้ จะมีประชากรเกิดใหม่อยู่ตลอดเวลา โดยสถิติทั่วโลกจะเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 360,000 คนต่อวันและด้วยจำนวนคนเกิดที่มากขนาดนี้ ทำให้เด็กบางคนอาจจะประสบกับโรคประหลาดซึ่งหาได้ยาก… เหมือนอย่างเด็กผู้ชายผู้น่าสงสารคนนี้ Xiao Fei เด็กอายุ 11 เดือนที่เกิดมามีร่างกายพิการ มีขาที่สามโผล่ออกมาจากช่วงหว่างขาของเขา ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ยากมากๆ โดยอาการที่หนูน้อย Xiao Fei ต้องเผชิญนั้นเรียกว่า “แฝดปรสิต” (Fetus in Fetu) ซึ่งมีโอกาสพบเจอได้เพียง 1 ใน 500,000 คนเท่านั้น แฝดปรสติเป็นอาการจากความผิดปกติทางด้านพัฒนาการของตัวอ่อนขณะที่อยู่ในครรภ์ ที่มีตัวอ่อนของแฝดคนหนึ่งเข้ามาฝังอยู่ในตัวอ่อนของแฝดอีกคนหนึ่ง และหากแฝดปรสิตที่เข้าไปอาศัยอยู่ในร่างแฝดอีกคน จะเจริญเติบโตที่ช้ากว่าร่างที่อาศัยอยู่ และเมื่อโตขึ้นก็จะกลายมาเป็นอวัยวะส่วนเกินอย่างที่เห็นบนร่างเด็กชายคนนี้ เมื่อตอนยังตั้งครรภ์แม่ของ Xiao Fei ไม่ได้ไปตรวจครรภ์ ทำให้ไม่มีใครทราบถึงอาการผิดปกติดังกล่าว จนกระทั่งเขาเกิดมาในเขตปกครองตนเองซินเจียง และขณะนี้ได้ย้ายไปอยู่ที่เมืองเซี่ยงไฮ้เพื่อรักษาอาการผิดปกติ ขาที่สามของเขาสร้างปัญหาอย่างมากให้กับระบบทางเดินอาหารและระบบปัสสาวะ ไม่เพียงเท่านั้น เด็กน้อยต้องพบเจอกับปัญหาอย่างอื่นอีกเช่น เท้าข้างขวาของเขามีรูปร่างที่ผิดปกติเหมือนมือ ทำให้ไม่สามารถใช้งานได้อย่างที่ควรจะเป็น ในวันที่ 19 มีนาคม 2018 ศัลยแพทย์ต้องใช้เวลาผ่าตัดประมาณ 10 ชั่วโมง…
-
สลด… นักท่องเที่ยวถูกเสือขย้ำตาย หลังปีนเข้ากรงเสือ เพื่อหลีกเลี่ยงการจ่ายค่าตั๋ว
ขึ้นชื่อของฟรี เป็นที่รู้กันว่าใครๆ ก็ชอบ ถึงขั้นที่หลายๆ คนยอมจะทำทุกวิิถีทางเพื่อที่จะไม่ต้องจ่ายเงินในสิ่งที่ตัวเองอยากได้มา แต่การทำแบบนั้นควรขึ้นอยู่กับศีลธรรมและสถานการณ์ด้วย ไม่งั้นจะเป็นแบบในเหตุการณ์ที่เราจะเล่าถึงนี้ โดยที่ในเหตุการณ์มีนักท่องเที่ยวที่พยายามจะหลบหนีไม่จ่ายเงินค่าเข้าสวนสัตว์มูลค่า 650 บาท โดยการปีนอ้อมทางเข้าผ่านไปในกรงเสือ แต่ก็เกิดอุบัติเหตุขึ้น เขาได้ร่วงลงมาและถูกเหล่าเสือรุมขย้ำตายต่อหน้าภรรยาและลูกๆ ของเขา สำหรับผู้ตายเรารู้เพียงว่านามสกุลของเขาคือ Zhang ชายอายุ 40 คนนี้ได้ไปเที่ยวสวนสัตว์ Youngor ในเมืองหนิงป่อ ซึ่งอยู่ทางตะวันออกของมณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน ด้วยกันกับครอบครัวและเพื่อนๆ จากในวิดีโอที่ถูกถ่ายไว้ในโทรศัพท์ ที่ได้เป็นกระแสไปทั่วโลกออนไลน์จีน ซึ่งภายหลังถูกลบออก ได้แสดงให้เห็นว่า Zhang ถูกลากไปลากมาโดยเหล่าเสือไซบีเรีย เหล่าเสือทั้งหลายได้เข้ารุม Zhang ในขณะที่เขาก็พยายามจะต่อสู้กลับโดยการเตะมันด้วยขาของเขา แต่มันก็ไม่ได้ระแคะระคายเจ้าแมวยักษ์สักเท่าไหร่ สุดท้ายก็มีเสือตัวหนึ่งได้เข้าไปกัดที่คอของเขา ในตอนสุดท้ายของวิดีโอ Zhang ถูกลากไปเอาไว้ในบริเวณใต้ต้นไม้ ขณะที่พนักงานของสวนสัตว์ก็พยายามจะช่วยเขา โดยการจุดประทัดเพื่อให้เจ้าเสือตกใจและหนีไป จากการบอกเล่าของเจ้าหน้าที่กล่าวว่าในเหตุการณ์นั้นต้องใช้เวลาเป็นชั่วโมงถึงจะนำเอาร่างของ Zhang ออกมาได้ แต่สุดท้ายเขาก็ได้ไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลในเวลาต่อมา และจากเหตุการณ์ดังกล่าวเสือไซบีเรียได้ถูกยิงและตายลงหนึ่งตัว แต่นักข่าวไม่ยืนยันว่าเจ้าตัวที่ตายนั้นเป็นตัวเดียวกับที่กัดคอ Zhang รึเปล่า สวนสัตว์ Youngor Zoo ได้ถูกปิดลงเป็นเวลาหนึ่งวันหลังจากที่เกิดเหตุการณ์นี้ และงานศพของ…
-
หากคุณเบื่อกับแฟชั่นโชว์แบบเดิมๆ เชิญพบกับความแปลกใหม่ ‘แฟชั่นโชว์ปูก้ามขน’
งานแฟชั่นโชว์คือเวทีที่เหล่านางแบบหุ่นแซ่บๆ หน้าตาสวยๆ จะออกมาเดินแบบแสดงแฟชั่นใหม่ๆ ให้ผู้คนได้ประจักษ์ ซึ่งแต่ละเวทีก็มีรางวัลไม่เหมือนกัน แต่ถ้าเป็นเวทีที่เราจะกล่าวถึงนี้ รางวัลน่าจะเป็นการที่ไม่ถูกทำเป็นอาหารเย็นแหงๆ เพราะว่าแฟชั่นโชว์ที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ดูนี้คือแฟชั่นโชว์ของ “ปูก้ามขน” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงาน Hongze Lake Harvest Festival ที่จะขึ้นในเมืองหวยอัน เมืองที่อยู่ทางตะวันออกของมณฑลเจียงซู ประเทศจีน การจัดงานเทศกาลแบบนี้ขึ้นมาถือเป็นการเฉลิมฉลองฤดูเก็บเกี่ยวปูก้ามขน ถึงแม้ว่าช่วงปีที่ผ่านมาปูจะมีราคาแพงและมีจำนวนลดน้อยลงมาก แต่ชาวบ้านก็ยังสามารถเก็บปูได้มากถึงปีละประมาณ 6 ล้านกิโลกรัมและเมื่อปี 2559 ที่ผ่านมาหน่วยราชการท้องถิ่นได้ตัดสินใจใช้แฟชั่นโชว์เพื่อดึงดูดลูกค้าเข้ามาในพื้นที่ โดยการแฟชั่นโชว์ของปูก้ามขนได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของเมืองมาเป็นเวลามากกว่า 70 ปีและสำหรับปูก้ามขนตัวที่ได้เข้าร่วมแฟชั่นโชว์ครั้งนี้ อย่างน้อยๆ ก็จะมีชีวิตยืนยาวขึ้นอีกปี เนื่องจากชาวบ้านในพื้นที่เชื่อว่าจะโชคร้ายหากทานปูตัวที่เข้าร่วมการเดินแบบ ผู้เข้าร่วมแฟชั่นโชว์โดยปกติจะมีประมาณ 150 คนและจะต้องแต่งตัวปูของพวกเขาให้สวยงาม โดดเด่น บางคนก็เลือกที่จะให้ปูของตัวเองใส่ชุดดั้งเดิมของจีน บ้างก็ประดับปูด้วยเพชรระยิบระยับ บ้างก็มีการผูกริบบิ้นให้ปูของพวกเขาเป็นต้น สำหรับคนที่สงสัยว่าจะให้ปูเดินแบบยังไง จัดเวทีให้มันหรืออย่างไร ถ้าเป็นเมื่อก่อนอาจจะใช่ แต่ว่าตอนนี้ยุคโลกาภิวัตน์แล้ว ทุกๆ อย่างต้องปรับตัวเข้าหาเทคโนโลยีไม่เว้นแม้แต่ประเพณีเก่าแก่ ซึ่งตอนนี้ประเพณีแฟชั่นโชว์นี้ก็ได้ใช้โดรนเข้ามาพาปูบินโชว์ตัวเสมือนกับเดินแบบกลางอากาศอย่างไงอย่างงั้น . . แบบนี้ก็มีด้วย!? ถือว่าเป็นประเพณีที่เราไม่เคยได้เห็นมาก่อนเลยนะเนี่ย ที่มา Weirdasianews,…
-
บรรยากาศหัวเมืองในจีนอันแสนวุ่นวาย กลายเป็นเมืองร้าง เมื่อผู้คนแห่กลับบ้านช่วงเทศกาล…
กรุงเทพฯ ถือว่าเป็นมหานครที่เรียกได้ว่าการจราจรติดขัดเอามากๆ แต่เพื่อนๆ ไม่ต้องน้อยใจไป เพราะหัวเมืองใหญ่ๆ ในอีกหลายประเทศก็มีการจราจรติดขัดติดขัดเช่นกัน เช่นเดียวกับปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กว่างโจว และเซินเจิ้น ที่เป็นมหานครในประเทศจีน ประเทศที่มีประชากรเยอะที่สุดในโลก จึงไม่แปลกนักที่การจราจรจะติดขัด แต่ประเด็นมันอยู่ที่มีคนถ่ายภาพบรรยากาศของเมืองเหล่านี้มาให้เราได้ชม กลับเห็นว่าแทบไม่มีคนอยู่เลย อย่างกับเราดูรูปของเมืองร้างอย่างไรอย่างนั้น แต่ว่าไม่ต้องแปลกใจที่เราเห็นเมืองที่มีประชากรเป็นล้านๆ คนหายไป เพราะว่าพวกเขาเดินทางกลับบ้านไปใช้เวลากับครอบครัว เนื่องจากเทศกาลหยุดยาวช่วงปีใหม่จีนนั่นเอง พูดมาขนาดนี้แล้วเพื่อนๆ หลายๆ คน คงอยากจะเห็นภาพบรรยากาศของหัวเมืองใหญ่ในประเทศจีนที่เหมือนเมืองร้างแล้วใช่รึเปล่า เราไปชมกันเลยครับ เมืองเซินเจิ้น มณฑลกวางตุ้ง เมืองเจิ้งโจว มณฑลเหอหนาน เมืองกว่างโจว มณฑลกวางตุ้ง เมืองจี่หนาน มณฑลซานตง กรุงปักกิ่ง กรุงปักกิ่ง กรุงปักกิ่ง กรุงปักกิ่ง เมืองกว่างโจว มณฑลกวางตุ้ง กรุงปักกิ่ง กรุงปักกิ่ง รถไฟฟ้าในปักกิ่ง…
-
หมู่บ้านในจีน ต้องประสบภาวะการจราจรติดขัด เพราะนักท่องเที่ยวเดินทางไปเยอะเกิ๊น
เมื่อถึงหน้าเทศกาลสำคัญ ก็อาจจะเป็นช่วงเวลาที่ใครหลายคนกลับไปหาพ่อแม่ที่อยู่ต่างจังหวัด หรือบางคนก็อาศัยจังหวะหยุดยาวนี้เดินทางไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ทว่าก็เป็นที่รู้กันดีว่าเมื่อเทศกาลมาถึง ปัญหาที่จะเกิดขึ้นอย่างหนึ่งอย่างแน่นอนก็ปัญหาเรื่องการจราจรหรือรถติดนั่นเอง ซึ่งปัญหานี้ไม่ได้เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นแต่เฉพาะกับประเทศไทยเพียงอย่างเดียว แต่กับประเทศใหญ่ๆ อย่างประเทศจีน ก็ต้องประสบปัญหานี้เช่นเดียวกัน โดยเฉพาะเทศกาลตรุษจีนที่ส่วนใหญ่จะเป็นวันพักผ่อนใหญ่ของปี สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมต่างๆ จึงมีนักท่องเที่ยวเดินทางกันไปอย่างล้นหลาม จนรถติดเหมือนกับตังเมเลยก็ว่าได้!! โดยนี่คือภาพของหมู่บ้านแห่งหนึ่งในมณฑลส่านซี ที่มีนักท่องเที่ยวนับพันไปกระจุกกันอยู่ที่นั่นจนทำให้ไม่สามารถขยับเขยื้อนไปทางไหนได้เลย ซึ่งเหตุที่เป็นเช่นนี้ก็เนื่องมาจากว่าหมู่บ้านแห่งนี้ มีวิวทิวทัศน์อันสวยงามแถมยังเป็นสถานที่ยอดนิยมของนักท่องเที่ยว จึงทำให้เกิดการจราจรติดขัดอย่างหนักขึ้นเมื่อ 1-2 วันที่ผ่านมาตั้งแต่มีการเริ่มเทศกาลตรุษจีนขึ้น นอกจากนี้ยังมีภาพจากมุมสูงที่ได้แพร่หลายเป็นอย่างมากในสังคมอินเทอร์เน็ตในประเทศจีน โดยภาพที่ว่านี้จะแสดงให้เห็นว่าจำนวนรถที่อยู่ในหมู่บ้านชื่อว่า Yuanjia นั้นมันมากซะจนนับกันไม่หวาดไม่ไหว สำนักข่าวท้องถิ่นได้รายงานว่าในวันนั้นมีรถที่กำลังต่อคิวกันตามท้องถนนยาวถึง 4 กิโลเมตร และบริเวณทางแยกก็ได้กลายเป็นลานจอดรถไปโดยปริยาย เพราะว่ามันไม่สามารถสวนทางกันได้เหมือนกับที่ควรจะเป็นนั่นเอง เห็นภาพอย่างนี้แล้ว นอนตีพุงอยู่บ้านน่าจะดีกว่า สำหรับหมู่บ้าน Yuanjia เป็นจุดชมวิวที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามภายในประเทศจีน ซึ่งหมู่บ้านนี้ได้ตั้งอยู่บริเวณใกล้กับเมืองซีอานกับเมืองเสียนหยาง โดยตำนานเล่าเอาไว้ว่าบริเวณเชิงเขาของหมู่บ้านแห่งนี้ได้เป็นที่กำเนิดของ จักรพรรดิถังไท่จงแห่งราชวงศ์ถัง นอกจากนี้หมู่บ้านแห่งนี้ ยังมีชื่อเสียงในเรื่องของอาหารและสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมอีกด้วย สภาพนี้ ถ้าเป็นเราคงจะหัวร้อนน่าดูเลย ที่มา: medium
-
เจดีย์วัด Gan-Ying โบราณสถานที่ถูกแผ่นไหว จนกลายเป็นสองซีก
ภัยธรรมชาติอย่างแผ่นดินไหว ทุกๆ คนทราบกันดีอยู่แล้วว่ามันอันตรายเพียงใด และที่สำคัญ มันไม่อาจคาดการณ์ได้ล่วงหน้า จึงทำให้เราไม่รู้ว่ามันจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ การรับมือมันทำได้ยาก เราทำได้เพียงแต่ป้องกันเท่านั้น และตลอดเวลาที่ผ่านมา แผ่นดินไหวได้ทำความเสียหายอย่างใหญ่หลวงให้กับหลายๆ พื้นที่ในโลก แต่ว่าในความเสียหายที่มันได้เกิดขึ้น บางทีมันทำให้สถานที่บางที่กลายเป็นที่ที่แปลกตา สวยงาม น่าดูชมเลยทีเดียว อย่างเช่นเจดีย์ที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมในวันนี้ “เจดีย์วัด Gan-Ying” เป็นเจดีย์ที่อยู่ในเขต Quwo มณฑลซานซี ประเทศจีน มันถูกสร้างขึ้นในช่วงราชวงศ์ซ่ง ค.ศ. 1165 โดยที่เอกลักษณ์ของเจดีย์คือมันถูกแบ่งเป็นสองฝั่ง เพราะตรงกลางของเจดีย์นั้นได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหวในปี ค.ศ. 1303 เจดีย์วัด Gan-Ying มีรูปทรงแปดเหลี่ยม และตามรูปร่างเดิมของมันแล้วจะมีทั้งหมด 12 ชั้น แต่ว่าเนื่องจากแผ่นดินไหว ได้ทำให้ห้าชั้นข้างบนรวมถึงช่วงกลางของเจดีย์พังทลายลง ดังนั้นตอนนี้มันจึงเหลือเพียงแค่เจ็ดชั้นเท่านั้น หลังจากที่เกินแผ่นดินไหว ชั้นบนๆ และส่วนกลางของเจดีย์ได้พังลง แต่ว่าส่วนที่เหลือก็ยังทนทานถึงแม้ว่าจะผ่านมาแล้วถึง 700 ปี และเมื่อเวลาผ่านไปแน่นอนว่าพื้นที่รอบๆ ก็ได้เปลี่ยนไปตาม ตอนนี้มันกลายเป็นย่านที่พักอาศัยของชาวเมือง ซึ่งทำให้เกิดปัญหาทิ้งขยะเรี่ยราด ซึ่งเป็นปัญหาที่น่าเป็นห่วงอย่างมาก…
-
สาวจีนขอแต่งงานกับตัวเอง เพราะเกรงว่าอยู่ได้ไม่นานพอ ก่อนที่มะเร็งจะทำให้ฝันสลายไป…
เค้าว่าการแต่งงาน การได้เป็นเจ้าสาวนั้นเป็นความฝันสูงสุดของผู้หญิงหลายๆ คน และก็มีผู้หญิงหลายคนที่ไม่สามารถทำตามความฝันนี้ได้สำเร็จ แม้จะเพราะเหตุผลใดๆ ก็เป็นเรื่องน่าเศร้าด้วยกันทั้งสิ้น ซึ่งในข่าวนี้เป็นเรื่องของคุณ Yang Chaunyan ผู้หญิงชาวจีนที่ป่วยเป็นมะเร็งนั้นขอเลือกที่จะทำตามความฝันโดยการแต่งงานแบบไม่มีเจ้าบ่าว หรือพูดง่ายๆ คือแต่งงานกับตัวเองนั่นเองเพราะเธอกลัวเธออาจจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่ถึงวันที่เหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นจริงก็เป็นไปได้ คุณ Yang เป็นคนพื้นที่ Wulong ได้ถูกวินิจฉันว่าเป็นโรคลูคีเมีย ในเดือนที่ผ่านมา หลังจากที่เธอเป็นลมอยู่ในห้องของโรงแรมใกล้ๆ เมือง Panzhihua เธอมาจากครอบครัวที่ฐานะไม่ค่อยดี และพยายามที่จะหางานในเมือง Panzhihua และเพราะว่าเธอมีปัญหาเรื่องการเงิน ทำให้เธอไม่คิดว่าจะสามารถรักษาอาการป่วยของเธอได้ คุณ Yang อายุ 21 ปีได้แสดงบอกปรารถนาของเธอขณะที่เธอนอนอยู่ในเตียงคนไข้กับพี่ชายของเธอ ผู้ซึ่งจัดงานวิวาห์เพื่อเธอด้วยความช่วยเหลือจากหมอ พยาบาลและองค์กรการกุศล โดยงานพิธีวิวาห์ครั้งนี้จะจัดที่โรงพยาบาล Wulong ใน Chongqing ซึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีนในวันที่ 20 มกราคม คุณ Yang ผู้ซึ่งกำลังอยู่ในขั้นการทำคีโม เปิดตัวในงานแต่งแบบพิเศษด้วยการสวมวิกผมยาวสีดำออกมา และแต่งหน้าโดยกลุ่มอาสาสมัครในพื้นที่ โดยมี Zhen Shan Mei องค์กรการกุศลที่ช่วยจัดการชุดเจ้าสาวและเค้กงานแต่งให้กับหญิงสาวคนนี้ Yang นั้นถือช่อดอกไม้ละเดินผ่านพรมสีชมพูขึ้นมาเป็นเวที โดยที่มีหมอ พยาบาล อาสาสมัครและผู้หวังดีท่านอื่นๆ ร่วมเป็นสักขีพยาน เธอเดินมาพร้อมกับผู้จัดงาน และผู้จัดงานก็ได้กล่าว “Chuanyan พวกเราจะส่งคุณให้ได้ทำตามคำขอที่คุณรอมาตลอดชีวิต” เจ้าสาวนั้นยิ้มพร้อมตัดเค้กแต่งงานร่วมกับอาสาสมัคร …
-
นักกิจกรรมเข้าช่วยเหลือสุนัขกว่า 600 ชีวิตก่อนถูกนำไปฆ่าเพื่อไปเป็นอาหาร
เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2018 สำนักข่าวจีนได้รายงานว่า มีอาสาสมัครด้านการปกป้องสิทธิและเสรีภาพในสัตว์ได้รวมตัวกันเพื่อหยุดรถบรรทุกที่กำลังจะนำเหล่าสุนัขจำนวนกว่า 600 ตัวส่งไปที่โรงฆ่าสัตว์ในเมืองหางโจว ประเทศจีน เหล่าอาสาสมัครได้เจรจากับคนขับรถบรรทุกและขอช่วยเหลือสุนัขเหล่านั้นไว้ คนขับรถบรรทุกบอกว่า เขาทำหน้าที่ขับรถบรรทุกเพื่อนำสุนัขเหล่านี้ไปส่งยังโรงฆ่าสัตว์เท่านั้น และเขาจะได้รับเงินประมาณ 1 ล้านบาทสำหรับค่าตัวสุนัขเหล่านี้ สุนัขทั้งหมดถูกนำตัวมาจากเมือง Linyi ในมณฑลซานตง เป็นระยะทางกว่า 600 กิโลเมตรที่มันต้องอยู่ด้วยกันอย่างแออัด บางตัวเริ่มอ่อนแรง บางตัวก็พยายามตะกุยตะกายเพื่อเอาชีวิตรอด ส่วนบางตัวก็เสียชีวิตไปขณะขนส่ง สุนัขทั้งหมดได้รับการช่วยเหลือในการฉีดวัคซีนและย้ายไปยังที่พักพิงชั่วคราว อาสาสมัครทั้งหลายร่วมกันประสานงานจัดการหาเงินทุนมาช่วยเหลือสัตว์เหล่านี้ ถึงแม้ว่าการช่วยเหลือสัตว์ในครั้งนี้จะประสบความสำเร็จ แต่ยังมีสุนัขอีกมากมายที่ไม่ได้รับการช่วยเหลือ ยังมีรายงานอีีกหลายฉบับที่บอกไว้ว่าสุนัขที่ถูกช่วยเหลือจากโรงฆ่าสัตว์บางตัวก็ต้องขาดสารอาหารตายเนื่องจากว่าไม่มีงบประมาณและการจัดการดูแลอย่างเหมาะสม . . อย่างเช่นกรณีของการช่วยเหลือสุนัขในเมืองหางโจวเมื่อเดือนมิถุนายน 2017 ที่ได้มีการช่วยเหลือสุนัขมากกว่า 1,000 ตัว ที่จะถูกฆ่าในเทศกาลกินเนื้อหมา แต่ 2 เดือนต่อมาพบว่ามีสุนัขเหลือเพียง 400 ตัว นอกนั้นคือเสียชีวิตจากการจขาดสารอาหารและมีสภาพความเป็นอยู่ที่ย่ำแย่ สุนัขขึ้นชื่อว่าเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเรา แต่เราก็ยังสงสัยว่า ทำไมถึงต้องมีความนิยมบริโภคเนื้อสุนัข ในแต่ละปี…
-
เกิดอุบัติเหตุใหญ่กลางเมืองเซี่ยงไฮ้ หลังรถตู้พุ่งชนร้านกาแฟ เป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บ 18 ราย
จากการรายงานของสื่อต่างประเทศ เมื่อประมาณช่วงเช้าวันที่ 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุสะเทือนขวัญขึ้นที่เมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน หลังรถตู้ที่กำลังลุกไหม้คันหนึ่งได้พุ่งเข้าชนร้าน Starbucks ทางด้านตะวันตกของถนน Nanjing เป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บถึง 18 ราย เว็บไซต์ต่างประเทศได้เผยว่านาย Chen คนขับรถตู้วัย 40 ปีได้สูบบุหรี่ระหว่างที่กำลังขับรถตู้คันดังกล่าว ซึ่งคาดว่าน่าจะมีการบรรทุกวัตถุไวไฟที่ผิดกฎหมาย สภาพของรถตู้ที่กำลังลุกไหม้ จากการตรวจสอบขั้นต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่านาย Chen พยายามที่จะจุดบุหรี่สูบ ซึ่งทำให้เขาเสียการควบคุมรถก่อนที่มันจะไถลข้ามทางเท้าเข้าไปชนร้านกาแฟชื่อดังเมื่อประมาณ 9 นาฬิกา การพุ่งเข้าชนร้านกาแฟดังกล่าวเป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บสาหัส 3 ราย และหลังจากนั้นไม่นานไฟในรถตู้คันดังกล่าวก็เกิดการปะทุออกมาอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ตำรวจ และพนักงานดับเพลิงกำลังช่วยกันระงับเหตุร้ายที่เกิดขึ้น หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ได้มีผู้บันทึกคลิปวิดีโอไว้ได้ ซึ่งภายในคลิปเผยให้เห็นพนักงานดับเพลิงที่กำลังช่วยชีวิตของผู้เคราะห์ร้ายจากเหตุการณ์ และดับเพลิงในรถตู้ที่กำลังลุกไหม้ มีรายงานว่าเหตุการณ์รถตู้พุ่งชนในย่านกลางเมืองครั้งนี้ไม่ใช่ฝีมือกลุ่มก่อการร้ายแต่อย่างใด และขณะนี้สื่อต่างประเทศกำลังติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด ซึ่งถ้าหากมีความคืบหน้าทางเราจะรายงานให้ทราบต่อไป วินาทีที่เจ้าหน้าที่กำลังช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่มา medium
-
คุณพระ!! สวนสัตว์ในจีนสุดโหดเหี้ยม นำลูกสุนัขไปเป็นอาหารสำหรับงูเหลือมซะได้
(บทความนี้อาจมีภาพที่มีเนื้อหารุนแรง โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม) สำหรับสถานที่อย่าง “สวนสัตว์” นั้น นอกจากจะเป็นสถานที่ที่เอาไว้เก็บรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแล้ว ยังเป็นสถานที่ที่เปิดให้ผู้คนเข้าชมเพื่อให้เราได้รู้จักกับสัตว์น้อยใหญ่นานาชนิด แต่ว่าอาจจะเกิดเรื่องที่ทำให้นักท่องเที่ยวอึ้งเหมือนกับเหตุการณ์นี้ เพราะว่ามีสวนสัตว์แห่งหนึ่งในประเทศจีนที่ให้อาหารงูด้วยลูกหมาเป็นๆ ซะอย่างงั้น โดยเหตุการณ์ดังกล่าวได้รับการเปิดเผยเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาและเกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ เมื่อมีกลุ่มผู้คนกลุ่มหนึ่งไปเที่ยวที่สวนสาธารณะในมณฑลเหอหนาน ซึ่งภายในสวนแห่งนี้ก็มีสวนสัตว์ขนาดเล็กรวมอยู่ด้วย และแล้วนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ก็ถึงกับต้องผงะ เมื่อพวกเขาเข้าไปในบ้านงูแล้วพบว่าทางสวนสัตว์แห่งนี้ให้กำลังให้อาหารงูเหลือมขนาดยักษ์ด้วยลูกหมาน้อยแสนน่ารัก ซึ่งนี่ไม่ใช่เรื่องปกติที่พบเห็นกันได้บ่อยๆ พวกเขาจึงถ่ายคลิปวิดีโอนี้เก็บไว้ พร้อมกับอัปโหลดขึ้นสู่โลกออนไลน์ในเวลาต่อมา โดยภายในคลิปวิดีโอเราจะสามาถเห็นได้ว่ามีงูเหลือมตัวหนึ่ง กำลังเข้ารัดลูกหมาสีขาวที่กำลังหมดสติด้วยาสลบหรือว่าเสียชีวิตไปแล้วก็ไม่อาจทราบได้ ขณะที่อีกคลิปหนึ่งก็มีลูกหมาตัวสีน้ำตาลกำลังนั่งอยู่บนพื้นใกล้ๆ กับบ่องูเหมือนกับว่ากำลังนั่งรอชะตากรรมการตายอยู่ วิดีโอของหมาที่ถูกจับไปไว้ในกรงงูเหลือม หลังจากคลิปวิดีโอนี้ได้ถูกเผยแพร่สู่โลกออนไลน์ ก็มีพนักงานของสวนสาธารณะ Pingdingshan Riverside ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า สวนสัตว์ที่ตั้งอยู่ในสวนสัตว์สาธารณะแห่งนี้ เป็นสวนสัตว์ขนาดเล็กที่มีเอกชนเป็นเจ้าของรวมถึงบริหารงาน การกระทำต่างๆ ของสวนสัตว์แห่งนั้นจึงไม่เกี่ยวข้องกับสวนสาธารณะแต่อย่างใด แต่อย่างไรก็ตาม พนักงานคนดังกล่าวก็ได้บอกเพิ่มว่าในขณะนี้ สวนสัตว์แห่งนั้นได้เลิกให้อาหารงูด้วยลูกหมาแล้ว แต่ก็ยังไม่แน่ชัดว่าพวกเขาให้อะไรแก่งูเหลือมเป็นการทดแทน ซึ่งก็มีการสันนิษฐานว่าอาจจะเป็นลิงหรือว่าลูกหมูก็อาจเป็นไปได้ อนุสาวรีย์ลาที่ตั้งอยู่หน้ากรงเสือ เพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์คล้ายกันในอดีต ซึ่งนี่ไม่ใช่กรณีแรกที่มีเหตุการณ์คล้ายๆ กันเกิดขึ้น เพราะเมื่อปีที่แล้วสวนสัตว์แห่งหนึ่งในนครฉางชา ก็มีการให้อาหารเสือด้วยลาที่ยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งในภายหลังสวนสัตว์ดังกล่าวก็ได้ออกมาอธิบายว่า เหตุการณ์ที่ลาถูกจับเข้าไปอยู่ในกรงเสือนั้น เป็นการแก้แค้นโดยผู้ถือหุ้นที่ไม่พอใจคนหนึ่งของสวนสัตว์ และด้วยความทรงจำเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่ไม่น่าเกิดขึ้นนี้ ทางสวนสัตว์แห่งจึงได้สร้างอนุสาวรีย์ลาขึ้นมาตั้งอยู่บริเวณกรงเสือ…
-
สายเปย์ที่แท้ทรู เหล่าสาวๆ ชาวจีนจ่ายเงินให้แฟน AI รวมกันมากกว่า 1,000 ล้านบาท!?
กลายเป็นเรื่องฮือฮากันอย่างมากในประเทศจีน เมื่อมีการเปิดเผยว่าสาวๆ เกมเมอร์ชาวจีนจำนวนมากได้เติมเงินในเกมในมือถือที่ชื่อว่า Love and Producer ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในขณะนี้ ซึ่งเกมดังกล่าวนั้น จะทำให้ผู้เล่นได้มีโอกาสเป็นแฟนกับตัวเอกหนุ่มสุดฮอต และไม่เพียงแค่นั้นเกมที่ว่านี้ยังมาพร้อมกับมุมมองของบุคคลที่ 1 อีกด้วย เกม Love and Producer ที่กำลังโด่งดังอย่างมากในประเทศจีน จากรายงานของสื่อต่างประเทศระบุว่าเกมดังกล่าวมีจำนวนผู้ออนไลน์มากกว่า 2 ล้านคนต่อวันเลยทีเดียว โดยมันเพิ่งเปิดตัวเมื่อเดือนธันวาคม 2017 และได้รับความนิยมอย่างมากในแอปสโตร์ของประเทศจีน โดยผู้เล่นจะต้องซื้อไอเทมต่างๆ ภายในเกมเพื่อสานความสัมพันธ์และพิชิตใจของพระเอกหนุ่ม จากผลสำรวจพบว่า ผู้เล่นส่วนใหญ่นั้นเป็นสาวจีนอายุประมาณ 20 ปี และเพียงแค่เดือนมกราคมที่ผ่านมา พวกเธอจ่ายเงินเพื่อเปย์ AI หนุ่มรวมกันไปแล้วมากว่า 200 ล้านหยวน หรือประมาณ 1,000 ล้านบาท!! เกม Love and Producer จะให้ผู้เล่นสวมบทบาทเป็นโปรดิวเซอร์รายการทีวีสาว ที่จะต้องรับหน้าที่ช่วยให้รายการของบริษัทคุณพ่อกลับมาฮิตอีกครั้ง และพวกเธอก็มีโอกาสพัฒนาความสัมพันธ์กับเทพบุตรหนุ่มสุดหล่อทั้ง 4 คนได้แก่ Li Zeyan ผู้บริหารบริษัทคอมพิวเตอร์หนุ่มผู้เข้มแข็ง แต่ลึกๆ ข้างในเป็นคนอ่อนไหว, Bai Qi เจ้าหน้าที่จากหน่วยปฏิบัติการพิเศษที่พร้อมจะปกป้องคนรักของเขา, Xu Mo หนุ่มนักวิทย์ผู้เพียบพร้อมไปด้วย IQ และ…
-
หัวใจดั่งเพชร!! คุณแม่ยอมขายน้ำนมของตัวเอง เพื่อนำเงินไปรักษาลูกน้อยที่กำลังป่วยอยู่
ความรักของแม่ที่มีต่อลูกนั้น เป็นความรักสุดแสนที่ยิ่งใหญ่ที่ใครๆ ต่างก็รู้กันดี เป็นความรักที่ไม่ต้องการอะไรตอบแทนและยังเป็นสิ่งที่แสนจะบริสุทธิ์อีกด้วย มีหรือที่ถ้าหากลูกเกิดป่วยขึ้นแล้วคนเป็นแม่จะทนดูอยู่เฉยๆ ได้ เหมือนกับแม่คนนี้ที่ถึงจะไม่มีเงินไว้ใช้รักษาลูกที่นอนป่วยอยู่ที่โรงยาบาล แต่เธอก็พยายามดั้นด้นทุกวิถีทางเพื่อให้ลูกของเธอได้รับการรักษาอย่างดีที่สุด แม้ว่าจะต้องขายน้ำนมอยู่ริมถนนก็ตาม!! เรื่องราวของคุณแม่หัวใจยิ่งใหญ่คนนี้ได้รับการเปิดเผยเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2018 ที่ผ่านมา โดยเกิดขึ้นที่ถนนแห่งหนึ่งในเมืองเซินเจิ้น ประเทศจีน มีภาพถ่ายภาพหนึ่งเผยให้เห็นถึงคุณแม่ที่นั่งคุกเข่าให้นมเด็กทารกอยู่บริเวณริมถนน พร้อมกับสามีของเธอที่ถือป้ายโฆษณาว่า “น้ำนมเพื่อช่วยเหลือลูกสาวของเรา ราคาเพียงแค่ 10 หยวน(ประมาณ 50 บาท) ต่อ 1 นาทีเท่านั้น” นอกจากนี้ในป้ายโฆษณาดังกล่าว ยังอธิบายถึงความจำเป็นของทั้งคู่ที่ต้องทำอย่างนี้อีกด้วย ซึ่งในป้ายมีข้อความดังต่อไปนี้ “สวัสดีค่ะ ฉันเป็นคุณแม่สุขภาพดีวัย 24 ปี ที่เพิ่งให้กำเนิดลูกสาวฝาแฝดสองคน ในตอนนี้ฉันต้องการเงินอย่างเร่งด่วนเพื่อจะไปจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้กับลูกสาวที่กำลังป่วยอย่างหนัก ฉันสามารถให้น้ำนมนอกสถานที่ได้ และยังเปิดรับคนทุกช่วงอายุอีกด้วย ขอบคุณมากจริงๆ สำหรับการช่วยเหลือของทุกคนค่ะ” ซึ่งในส่วนท้ายของป้ายนี้ ทั้งคู่ก็ได้ติดรูปของลูกสาวของพวกเขาเอาไว้ รวมทั้งยังมีค่ารักษาพยาบาลที่ผ่านมา และใบรับรองความช่วยเหลือความยากจนที่ออกให้โดยทางการอีกด้วย หลังจากภาพนี้ได้แพร่กระจายออกไปในโลกออนไลน์ ก็ทำให้สื่อ Southern Metropolis Daily เข้าไปสัมภาษณ์คนแม่วัย 24…
-
คุณลุงยอมเดิน 40 กิโลเมตรกลับบ้าน ในวันที่หิมะตกหนัก เพื่อเก็บเงินซื้อชุดใหม่ให้ภรรยา
ค่าของเงินในแต่ละคนนั้นล้วนมีไม่เท่ากัน บางคนเลือกจะใช้โดยที่ไม่ได้คิดอะไรมากนัก บางคนอาจจะคิดถึงอนาคตและเก็บสะสมเงิน หรือบางคนที่รายได้น้อยอย่างคุณลุงเจ้าของเรื่องนี้ก็เลือกที่จะประหยัดเงินเพื่อเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ของเขา Zhao Fangzi คุณลุงวัย 60 ปี จากมณฑลเหอหนาน ได้ตัดสินใจจะเก็บเงินเพื่อซื้อเสื้อผ้าให้กับภรรยาของเขาเป็นของขวัญในปีใหม่จีน ด้วยการเดินเท้ากลับบ้าน แถมยังเป็นที่หิมะตกหนักด้วย!! คุณลุงเล่าว่าเขาตัดสินใจจะเดินเท้ากลับบ้านเพราะว่าหลังจากที่เขานั่งรถไฟจากเซี่ยงไฮ้มาลงที่สถานีลั่วหยาง ระบบขนส่งส่วนใหญ่นั้นปิดให้บริการแล้ว นอกจากนั้นต้องนั่งแท็กซี่หรือรอให้หิมะหยุดโดยการเปิดโรงแรมพักเขาก็จะไม่มีเงินเหลือไปซื้อเสื้อผ้าให้กับภรรยาของเขา ฉะนั้นเขาจึงเลือกเดินทาง 40 กิโลเมตรจากสถานีดังกล่าวไปยังบ้านของเขา Zhao ได้บอกกับสื่อจีนว่า “เงินนั้นหายาก ผมทำงานให้กับบริษัทก่อสร้างแห่งหนึ่งในเซี่ยงไฮ้ ซึ่งผมได้เงิน 2,000 หยวน (ประมาณ 10,000 บาท) ต่อเดือน ถ้าผมไม่ประหยัดค่าเดินทางหรือใช้ให้ดีผมก็จะไม่มีเงินเก็บเลย “ ยังไม่หมดเท่านั้นคุณลุง Zhao ยังบอกว่าเขารู้สึกเสียใจที่เจ้านายของเขาไม่ได้จ่ายค่าจ้างที่ค้างเขาไว้ 10,000 หยวน (ประมาณ 50,000 บาท) ก่อนปีใหม่จีน ซึ่งนั่นทำให้เขารู้สึกผิดหวังมากๆ ทั้งที่นายจ้างได้ให้คำมั่นสัญญาไว้แล้ว อย่างไรก็ตามคุณลุงก็บอกว่า การเดินทางนี้เหมือนจะยากลำบากแต่มันก็เป็นการเดินทางเที่ยวเดียว เพราะเขาบอกว่าเขาอาจจะไม่กลับไปทำงานที่เซี่ยงไฮ้อีกแล้ว เพราะด้วยอายุที่มากขึ้นการทำงานก็ยากขึ้น ฉะนั้นเขาจะตัดสินใจอยู่ที่บ้านกับภรรยาของเขานั่นเอง จากรายล่าสุดของสื่อจีน คุณลุง Zhao…
-
น้องหมาเนียนขึ้นรถไฟใต้ดิน ตามจับวุ่นวาย เจ้าของแฉ นิสัยเปลี่ยนตั้งแต่คบ “ไซบีเรียน”!?
มันจะไม่ผิดอะไรเลยถ้าสัตว์เลี้ยงทำตัวเหมือนสัตว์ทั่วไป แต่บางตัวเนี่ยสิอยู่กับมนุษย์จนเคยชิน เห็นมนุษย์ทำอะไรก็อยากทำกับเค้าหมด แบบนี้ก็วุ่นวายสิหนู นี่ไม่ได้ว่าสัตว์เลี้ยงทุกตัวหรอกนะ กำลังบ่นเจ้าสุนัขจอมซนที่แอบขึ้นรถไฟใต้ดิน ทำเอาเจ้าหน้าที่ต้องตามจับวุ่นวายกันไปหมด เรื่องนี้เกิดเมื่อวันที่ 22 มกราคมที่ผ่านมา ในเมืองต้าเหลียน ประเทศจีน โดยมีสุนัขพันธุ์ซามอยด์ตัวหนึ่ง แอบหนีออกจากบ้านโดยที่เจ้าของไม่รู้ และมันก็แอบเข้ามาในสถานีรถไฟใต้ดินแบบเนียนๆ ไม่ใช่แค่เข้ามาในสถานี แต่มันยังรอดสายตาเจ้าหน้าที่ไปได้อย่างง่ายดายก่อนจะลงบันไดผ่านด่านและเข้าไปนั่งในรถไฟจนได้ เรื่องตั๋วนะหรอ อย่าถามเลย ไม่มี ไม่ซื้อ ไม่สนด้วย กระทั่งรถไฟออกจากชานชาลา น้องหมาคงคิดว่ารอดแล้วมั้ง ที่ไหนได้ หลังจากนั่งไปได้แค่สองป้าย มันก็ถูกเจ้าหน้าที่เข้ามารวบตัวไว้ได้สำเร็จ ส่วนเจ้าของน้องหมานั้นกว่าจะรู้ว่ามันหายไปจากบ้านเวลาก็ล่วงเลยไปถึง 2 ชั่วโมงแล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงติดต่อมายังเจ้าหน้าที่ในสถานีรถไฟทันที เจ้าของบอกว่าปกติแล้วเจ้าซามอยด์ตัวนี้มันไม่ได้มีนิสัยหนีเที่ยวแบบนี้หรอก แต่ช่วงนี้มันสนิทกับไซบีเรียนฮัสกี้อีกตัวที่เลี้ยงไว้ นิสัยเลยเปลี่ยนไป เผลอไม่ได้ชอบแอบออกไปเที่ยวเป็นประจำ นี่ถ้าเจ้าไซบีเรียตัวนี้ได้ยิน มันคงจะพูดว่า ‘ตรูเป็นเด็กดีอยู่บ้าน ก็หาความผิดมาโยนให้จนได้’ ขนาดชาวเน็ตจีนยังมาแซวเลยว่าโยนความผิดให้ไซบีเรียนแบบนี้ก็ได้เหรอ บางคนบอกว่ามันอาจจะเป็นแผนของเจ้าหมาไซบีเรียที่อยากครอบครองเจ้าของไว้คนเดียว มันเลยสอนให้ซามอยด์หนีออกจากบ้าน แหม๊ มันร้ายจริงๆ แต่ก็มีอีกหลายคนคอมเมนท์บอกว่าใครที่เลี้ยงสุนัขซามอยด์จะรู้ว่ามันเป็นหมาที่เอ๋อมากจริงๆ นะ มันเลยหนีออกมาแบบไม่กลัวอะไรแบบนี้ไง…
-
ชาวเน็ตวิจารณ์ยับ!! หนุ่มยอมแต่งงานกับสาวใหญ่รุ่นแม่ เป็นเพราะรักกันจริงหรือหวังเงินทอง
พิธีแต่งงานเป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่ง เพราะว่าเป็นพิธีการที่แสดงออกถึงความรักที่ทั้งสองคนมีต่อกัน ทว่าก็ได้มีงานแต่งงานงานหนึ่งได้กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของชาวเน็ตเป็นอย่างมาก เนื่องมาจากว่าฝ่ายหญิงมีอายุแก่กว่าฝ่ายชายราวกับรุ่นแม่ จึงได้เกิดคำถามขึ้นมาว่าการแต่งงานครั้งนี้เกิดจากความรักหรือเงินกับแน่?? การแต่งงานกับข้ามรุ่น โดยการแต่งงานที่ว่านี้เกิดขึ้นที่มณฑลไหหลำประเทศจีน ในวันที่ 9 มกราคมที่ผ่านมา เมื่อมีหนุ่มอายุ 23 ปีคนหนึ่งเข้าพิธีแต่งงานกับหญิงคนหนึ่งที่มีอายุมากกว่าเขาจนแทบจะข้ามรุ่น ซึ่งมีอายุถึง 38 ปีเลยทีเดียว และเหตุการณ์นี้ก็ได้ทำให้ชาวเน็ตในประเทศจีน ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ถึงเรื่องดังกล่าวอย่างดุเด็ดเผ็ดมัน เกี่ยวกับความเหมาะสมของการแต่งงานที่เกิดขึ้น… หน้าตาของเจ้าบ่าวคนดังกล่าว จากการรายงานของสื่อ ETtoday ระบุว่า ที่เขาตัดสินใจแต่งงานกับเธอนั้น ได้อ้างว่าต้องการจะรับผิดชอบที่ทำให้เธอตั้งครรภ์ ทั้งๆ ที่เจ้าสาวของเขามีอายุน้อยกว่าแม่ของเขาเพียงปีเดียวเท่านั้น แถมยังมีลูกชายวัย 14 ติดมาอีกต่างหาก… ซึ่งก็แน่นอนว่าพ่อแม่ของฝ่ายชายก็ย่อมจะต้องคัดค้านการแต่งงานนี้ไม่ให้เกิดขึ้นอย่างแน่นอน แต่ในที่สุดแล้วทั้งคู่ก็ต้องยอมใจอ่อน เมื่อเจ้าสาวได้เสนอเงินสดให้ถึง 660,000 หยวน (ประมาณ 3.2 ล้านบาท) พร้อมทั้งรถหรูยี่ห้อเฟอร์รารี่ที่มีราคาอยู่ที่ 5,000,000 หยวน (ประมาณ 24 ล้านบาท) เพื่อให้การแต่งงานครั้งนี้เกิดขึ้นในที่สุด วิดีโอระหว่างที่ทั้งคู่นั่งอยู่บนรถสปอร์ตคันหรู ทักทายแขกเหรื่อภายในงานแต่งดังกล่าว โดนในการแต่งงานครั้งนี้ ฝ่ายสาวก็ได้แสดงออกถึงความมีฐานะที่ค่อนข้างมั่งคั่ง…
-
ช่างก่อสร้างกว่า 1,500 คน ร่วมสร้างทางรถไฟจนเสร็จ ภายในเวลาเพียง 9 ชั่วโมงเท่านั้น!!
โดยปกติเรามักจะได้ยินข่าวเกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่นในแง่ของการก่อสร้างที่รวดเร็ว เพราะเนื่องจากเป็นประเทศที่ผู้คนค่อนข้างมีวินัย เมื่อลงมือทำอะไรสักอย่างแบบพร้อมเพรียงก็จะเกิดเป็นปรากฏการณ์ให้ชาวโลกได้ฮือฮาในความว่องไวของพวกเขา แต่ความไวเหล่านั้นไม่ได้สงวนไว้แค่ชาวญี่ปุ่นเท่านั้น เพราะที่ประเทศจีนเองก็มีเหตุการณ์ทำนองนี้เช่นเดียวกัน และพวกเขาก็แสดงให้เห็นว่าการสร้างอะไรภายในชั่วข้ามคืน ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับพวกเขาเช่นกัน เหตุการณ์ที่คุณจะได้ชมต่อไปนี้ถือเป็นอีเวนต์ใหญ่ของการก่อสร้างในมณฑลฝูเจี้ยน ทางตอนใต้ของประเทศจีน ที่รวบรวมเอาช่างก่อสร้างกว่า 1,500 คนและรถขุดอีก 23 คันมาช่วยกันสร้างรางรถไฟให้เสร็จภายในคืนเดียว ตามรายงานของ Xinhua News Agency บอกว่าคนงานทั้งหมดเริ่มงานในคืนวันที่ 19 มกราคม และเสร็จสิ้นภารกิจในช่วงเช้าของวันที่ 20 มกราคม หน้าที่ของคนงานทั้งหมดคือการเชื่อมรางรถไฟทั้ง 3 สายเข้าด้วยกัน ทั้ง Ganlong Railway, Ganruilong Railway และ Zhanglong Railway และพวกเขายังติดตั้งเสาสัญญาณจราจรพร้อมกับชุดของอุปกรณ์ตรวจสอบการจราจรด้วย แม้ว่าจะดูเป็นเรื่องยาก แต่ถ้าพวกเขาสามารถรักษาระดับความเร็วเอาไว้ได้และสื่อสารกันอย่างมีคุณภาพ งานทั้งหมดก็จะเป็นเรื่องง่ายเลยทีเดียว Zhan Daosong รองผู้จัดการของ China Tiesiju Civil Engineering Group ซึ่งเป็นผู้ผลิตทางรถไฟรายใหญ่ของประเทศได้กล่าวว่าที่พวกเขาทำงานได้เร็วขนาดนี้ก็เพราะว่ามีการเตรียมงานมาอย่างดี และคนงานทั้งหมดถูกแบ่งออกเป็น 7…
-
จากภาพ “เด็กชายผู้ฝ่าหิมะไปเรียน” ล่าสุดมีคนใจดีมอบเงินเพื่อให้ไปทัศนศึกษาในปักกิ่งด้วย
เมื่อราวๆ เดือนธันวาคม 2017 ที่ผ่านมา ได้มีภาพๆ หนึ่งถูกพูดถึงในโลกออนไลน์อย่างกว้างขวาง เป็นภาพของเด็กชายชาวจีนที่ชื่อ Wang Fuman วัย 8 ขวบ ที่อาศัยอยู่ในมณฑล Zhaotong เขต Yunnan เขาต้องฝ่าอากาศอันหนาวเย็น -8 องศาเพื่อไปโรงเรียนประถม Zhuanshanbao Primary School ที่อยู่บนเขาที่ห่างจากบ้านไปราวๆ 4.5 กิโลเมตร แต่เนื่องจากอากาศอันหนาวเย็นสุดขั้ว ทำให้เส้นผมของเขาและขนตาของเขามีแต่เกล็ดหิมะเกาะเต็มไปหมด คุณครูจึงอดไม่ได้ที่จะถ่ายภาพของเขาไปลงในโซเชียลเน็ตเวิร์กและกลายเป็นภาพไวรัลที่มีผู้คนแชร์กันออกไปอย่างรวดเร็วจนได้รับฉายา “Ice Boy” จากความโด่งดังของเขาทำให้เด็กชาย Wang ถูกสื่อหลายแห่งเชิญไปสัมภาษณ์ เด็กชาย Wang บอกว่าเมื่อโตขึ้น เขาอยากจะเป็นตำรวจเพื่อจะได้จับคนร้าย และปณิธานในปีใหม่นี้ เขาตั้งใจจะเรียนหนังสือให้มากขึ้นและหาเงินมาเพื่อรักษาคุณยายที่ป่วยของเขา เด็กชาย Wang บอกว่าเขาเองไม่เคยทิ้งบ้านแล้วเดินทางไปไหนเลย เขาอาศัยอยู่ในบ้านโทรมๆ กับน้องสาวและคุณยาย ส่วนแม่ได้ทิ้งครอบครัวไปครอบครัวใหม่ และพ่อต้องไปทำงานในต่างถิ่น จะได้กลับบ้านเพียงปีละครั้งหรือสองเท่านั้น แต่เขาก็หวังว่าสักวันจะได้ไปปักกิ่ง เพราะจะได้รู้ว่าเด็กๆ ที่นั่นเขาเรียนหนังสือกันยังไง และเพราะความโด่งดังของภาพนั้น มันได้ช่วยเปลี่ยนให้ชีวิตของเขาไปในทางที่ดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะเมื่อราวๆ สัปดาห์ที่ผ่านมา พ่อของเด็กชายได้กลับมาที่บ้านอีกครั้งและถูกเสนอให้ทำงานใกล้ๆ กับบ้านของตัวเอง แถมทั้งครอบครัวยังได้รับเงินบริจาคกว่า…
-
ชายผู้ถูกขนานนามว่า ‘ราชาแห่งขนมหวาน’ ในประเทศจีน ปั้นน้ำตาลได้สวยราวกับตุ๊กตาตั้งโชว์
ขนมเค้กถือเป็นขนมที่หลายๆ คนโปรดปราน ด้วยความที่มันมีหลากหลายชนิด และมีรสชาติอร่อยจึงสามารถมัดใจคนจำนวนมากไว้ได้ อีกสิ่งที่สำคัญสำหรับเค้กก็คือความสวยงาม เพราะมันคือสิ่งแรกที่ดึงดูดให้คนสนใจมาลิ้มลองชิมรสชาตินั่นเอง ในประเทศเพื่อนบ้านอย่างจีนของเราก็มีผู้เชี่ยวชาญด้านการตกแต่งเค้กอยู่ด้วย ฝีมือดีจนเป็นที่ยอมรับในระดับโลกเชียวนะ ลองไปดูการตกแต่งเค้กของเขากัน Zhou Yi ราชาแห่งการปั้นน้ำตาล เชฟขนมหวานคนนี้ชื่อว่า Zhou Yi มีฉายาที่เป็นที่รู้จักกันดีในประเทศจีนคือ Sugar King (ราชาแห่งการปั้นน้ำตาล) เขาสามารถปั้นน้ำตาลฟองดูให้กลายเป็นรูปอะไรก็ได้ และตุ๊กตาน้ำตาลที่เขาปั้นเป็นรูปมนุษย์ก็มีความละเอียดละออจนเราเห็นแล้วคิดว่าเป็นตุ๊กตาเลยทีเดียว ชายคนนี้มีชื่อเสียงในประเทศจีนมานานแล้ว เขาได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในคนที่เก่งที่สุดในการตกแต่งเค้ก แต่พอเขาชนะ การแข่งทำเค้กระดับนานาชาติ (International Cake Competition) เมื่อปี 2017 ด้วยรางวัล 3 เหรียญทอง 2 เหรียญทองแดง ก็ทำให้เขามีชื่อเสียงโด่งดังในระดับโลก เขาชอบผสมผสานวัฒนธรรมของประเทศจีนเข้ากับศิลปะโบราณ จึงทำให้ผลงานส่วนหนึ่งของเขาเป็นรูปเลียนแบบบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์หรือตัวละครในวรรณกรรมด้วย ผลงานชิ้นหนึ่งที่โด่งดังของเขาก็คือตุ๊กตาน้ำตาลที่ปั้นเป็น Wu Zetian จักรพรรดิณีคนแรกและคนเดียวของประเทศจีน โดยมีรายละเอียดสูงทั้งรูปร่าง เสื้อผ้า หน้า ผม จนไปถึงขนตาเลย ในตอนเด็กเขาใช้เวลาส่วนมากไปกับการศึกษาศิลปะเฉพาะตัวของจีน การตกแต่งอาหาร และการปั้นรูปแป้ง…
-
แม่เพิ่งบอกลูกวัย 27 ว่าเธอเป็นคนลักพาตัวลูกมา ตอนที่ทำงานเป็นพี่เลี้ยงเด็ก
การเลี้ยงดูใครซักคนให้เติบโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่ได้นั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่ว่าการพรากลูกมาจากครอบครัวของเขามาดูแลราวกับเป็นลูกของตัวเองไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม ก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่ดีเลยซักนิด เรื่องราวที่พูดถึงก็คือเรื่องของอดีตพี่เลี้ยงเด็กชาวจีนในเขตเทศบาลนครฉงชิ่งนามว่า He Xiaoping อายุ 48 ปีจากเมืองหนานชง ที่รับสารภาพกับตำรวจในพื้นที่ว่าได้ลักพาตัวลูกชายของผู้ว่าจ้างของเธอและนำมาเลี้ยงดูราวกับว่าเป็นลูกชายของตนเป็นเวลากว่า 26 ปี Xiaoping ได้ให้ปากคำว่าในปี 1992 เธอสูญเสียลูกทั้ง 2 คนของเธอตั้งแต่ยังเป็นทารก และได้ไปปรึกษากับผู้ใหญ่ในหมู่บ้านและได้รับคำแนะนำว่า ทางเดียวที่จะมีลูกเป็นของตัวเองได้คือการเลี้ยงลูกของคนอื่น หลังจากนั้นเธอก็ได้เดินทางไปยังเทศบาลนครฉงชิ่งด้วยบัตรประชาชนปลอมและได้งานเป็นพี่เลี้ยงเด็กวัย 1 ขวบ หลังจากที่ได้ทำงานเป็นเวลา 3 วัน เธอก็ได้ลักพาตัวเด็กชายกลับมาที่เมืองหนานชง และตั้งชื่อเด็กคนนั้นว่า Liu Jinxin ตามลูกชายคนสุดท้องของเธอ ตอนนี้ Liu Jinxin มีอายุ 27 ปีแล้ว แต่ตลอดเวลา 26 ปีที่ผ่านมา ไม่มีใครตามหาเขาเลย ในปี 1995 หลังจากที่ Xiaoping ได้คลอดลูกสาวของเธอ เธอคิดถึงเรื่องที่จะนำเด็กชายคนนี้คืนให้กับครอบครัวของเขาแต่เธอกลัวความผิด ก็เลยเก็บเขาไว้และเลี้ยงดูเป็นลูกชายของเธอแทน เธอได้ให้สัมภาษณ์กับรายการข่าวเย็นของเทศบาลนครฉงชิ่งว่า “ฉันรู้ว่าฉันได้ทำเรื่องที่ไม่ดีลงไป แต่ฉันก็ปฏิบัติราวกับเขาเป็นลูกชายของฉัน และเขาก็ปฏิบัติกับฉันราวกับว่าเป็นแม่แท้ๆ ของเขา”…
-
สาวจีนซวยเพราะโมหน้ามาใหม่ เครื่องสแกนไม่ให้ผ่าน กลายเป็นว่าตกเครื่องไปโดยปริยาย
ในปัจจุบันนี้ การทำศัลยกรรมพลาสติกถือว่าเป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวาง มีหลายคนที่ได้ไปศัลยกรรมมา ไม่ว่าจะเป็นคนธรรมดา หรือดาราก็ตาม ซึ่งก็จะมีเหตุการณ์แบบที่ว่า ไม่สามารถขึ้นเครื่องบินได้เนื่องจากใบหน้าที่ทำศัลยกรรมมา ไม่เหมือนในบัตรประชาชน เจ้าหน้าที่เลยไม่ให้ผ่าน ในกรณีนี้ก็เช่นกัน สิ่งที่เกิดขึ้นกับหญิงสาวชาวจีนวัย 28 ปี แซ่ Zhang โดยเธอนั้นได้จองตั๋วเครื่องบินจาก เฉิงตูไปยังเซี่ยงไฮ้ในวันอาทิตย์ แต่พอเธอไปถึงสนามบินเธอกลับไม่ผ่านจุดตรวจสอบเพราะว่าระบบจดจำใบหน้านั้นไม่สามารถระบุว่าเธอเป็นใครได้ เนื่องจากเธอไปทำศัลยกรรมมา Zhang นั้นได้ให้สัมภาษณ์ว่าเธอพยายามที่จะอธิบายเจ้าหน้าที่แล้วว่าเธอไปทำศัลยกรรมมา แต่ว่าไม่ได้ผล พวกเขานั้นเชิญเธอไปที่สถานีตำรวจเพื่อระบุตัวตน ในตอนหลังเธอต้องวิ่งเต้นไปมาตามสำนักงานราชการต่างๆ เพื่อพิสูจน์ว่าเธอคือ Zhang อยูุ่ถึง 4 ชั่วโมง แต่ว่า ณ ตอนนั้น เครื่องบินรอบของเธอก็ได้ออกไปเสียแล้ว ไม่ว่าจะร้องเรียนกับเจ้าหน้าที่และผู้จัดการที่เธอได้พบไปกี่ครั้ง เธอไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว นอกจากยกเลิกตั๋วเครื่องบินราคา 6,000 บาทของเธอ และสุดท้ายเธอก็ต้องเดินทางไปเซี่ยงไฮ้ด้วยรถไฟแทน ภายหลังตำรวจได้กล่าวว่าในทุกวันนี้มีผู้คนที่ได้ทำการศัลยกรรมมากขึ้นเรื่อยๆ หากคุณต้องการที่จะหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแบบนี้ ขอแนะนำให้คุณไปอัปเดทบัตรที่สามารถระบุตัวตนของคุณได้ เมื่อไหร่ที่หน้าของคุณนั้นเปลี่ยนไปมากๆ ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ก็มีภาพเหตุการณ์คล้ายๆ กันที่กลายเป็นกระแสไปทั่วสังคมออนไลน์ ซึ่งก็คือภาพของ หญิงสาวชาวจีน 3 คน ที่หน้าบวมซึ่งติดอยู่ที่สนามบินเกาหลีใต้ เนื่องจากไม่สามารถระบุตัวตนของพวกเธอได้หลังจากที่ไปศัลยกรรมมา…
-
พาชมเมือง “ปารีสปลอม” ในประเทศจีน เทียบกันให้เห็นชัดๆ กับของจริง คล้ายกันมากๆ
Paris นั้นเป็นเมืองหลวงของประเทศฝรั่งเศส และมีสถานที่สำคัญอย่างหอไอเฟล ซึ่งมักจะมีคู่รักหลายๆ คู่เลือกที่จะไปถ่าย Pre-Wedding กันที่ Paris เนื่องจากตัวเมืองนั้นให้บรรยากาศแห่งความโรแมนติก ทำให้รูปที่ออกมามีกลิ่นอายของความรักอยู่เต็มไปหมด แต่วันนี้มีข่าวดีรึเปล่าก็ไม่รู้สำหรับคนเอเชียที่อยากได้บรรยากาศใน Paris แต่ไม่อยากเดินทางไปไกล โดยที่พี่จีนของเราได้จำลองเมือง Paris มาไว้ในเมืิองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง เรียบร้อยแล้ว ซึ่งมันถูกเรียกว่า Tianducheng โดยที่มีช่างภาพได้ไปถ่ายเปรียบเทียบกันภาพต่อภาพ ในอัลบั้มภาพที่ถ่ายมาจะแสดงให้เห็นว่า Tianducheng นั้นมีทั้งหอไอเฟล ตึกรามบ้านช่อง สถาปัตยกรรม ได้แรงบันดาลใจมาจาก Paris ทั้งสิ้น โดยที่ในละแวกนั้นผู้คนที่อาศัยอยู่จะเป็นชนชั้นกลาง ซึ่งประชากรเพิ่มขึ้นเป็น 30,000 คนในปี 2017 และยังคงเพิ่มขึ้นอยู่ เมื่อรู้ข้อมูลพอสังเขปแล้ว เราลองไปชมภาพเปรียบเทียบกันเลยดีกว่า Tianducheng (ซ้าย) vs Paris (ขวา) . . . . . . . . . . . . .…
-
พบกับ Shang Wuyi ชายผู้พิการที่กวาดถนนมากว่า 12 ปี โดยไม่มีวันหยุดแม้แต่วันเดียว!!
เรื่องของความพิการ เป็นสิ่งที่ไม่ว่าใครๆ ต่างก็ไม่อยากจะให้เกิดขึ้นกับตัวเองหรือคนในครอบครัว เพราะว่าสิ่งนี้มันอาจจะทำให้การดำเนินชีวิตในแต่ละวันเต็มไปด้วยความยากลำบาก และอาจจะทำให้คนๆ นั้นหมดกำลังใจในการใช้ชีวิตอยู่ต่อไปเลยก็อาจเป็นไปได้ แม้ว่าจะมีร่างกายที่ไม่ครบ 32 ประการเหมือนกับคนอื่นเขา แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ชายคนหนึ่งย่อท้อต่อโชคชะตาที่เขาต้องประสบ มากไปกว่านั้นเขาอาจจะทำได้ดีกว่าคนปกติเสียด้วยซ้ำ เพราะว่าเขาคนนี้ สามารถทำงานที่ได้รับมอบหมายได้เป็นอย่างดี และที่สำคัญก็คือตลอดระยะเวลากว่า 12 ปีในการทำงาน เขาไม่เคยหยุดแม้แต่วันเดียว!! ถึงจะมีขาเพียงข้างเดียว แต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคแต่อย่างใด ชายคนดังกล่าวมีชื่อว่า Shang Wuyi ชายผู้พิการวัย 46 ปีที่อาศัยอยู่ในเมืองซีอาน ประเทศจีน เขาเป็นผู้ที่มีอาการหูหนวกและเป็นใบ้มาตั้งแต่กำเนิด หนำซ้ำด้วยความเคราะห์ร้ายก็ทำให้เขาต้องสูญเสียขาข้างหนึ่งไปด้วยอุบัติเหตุในวัยเพียง 7 ปีเท่านั้น แม้ว่าจะมีร่างการที่ค่อนข้างไม่สมประกอบ แต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคสำหรับงานที่เขาทำ และงานที่เขาใช้เลี้ยงชีพมาโดยตลอดก็คือ การกวาดถนน ซึ่งเพื่อร่วมงานเขาได้บอกเอาไว้ว่า ตลอด 12 ปีในการทำงานที่ผ่านมา เขาไม่เคยเห็น Shang หยุดพักจากการทำงานเลยแม้แต่วันเดียว มักจะมาทำงานก่อนเวลาเสมอ และไม่เคยหยุดพักแม้แต่วันเดียว โดยเพื่อนร่วมงานของเขาชื่อว่า Yao ได้เล่าว่า ในทุกๆ วัน กะการทำงานจะเริ่มขึ้นในเวลาตีสี่ แต่ว่า Shang มักจะมาทำงานก่อนเสมอ และหากวันใดที่ภรรยาของเขาเกิดป่วยขึ้นมา…
-
สาวจีนขอเงินเพื่อแลกกับการคืนหมาแก่เจ้าของ แต่เงินไม่มากพอ เธอเลยโยนหมาลงมาจากตึกชั้น 6
บางครั้งหมุษย์เเราก็สามารถทำเรื่องโหดร้ายได้อย่างไม่น่าเชื่อ ไม่ว่าจะกับเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเอง หรือว่ากับสัตว์ร่วมโลกของพวกเรา และในบางครั้งความโหดร้ายนั้นก็เกิดขึ้นกับทั้งคนและสัตว์ในเวลาเดียวกัน Xiao Wu หญิงสาววัย 21 ปี ผู้อยู่ในเมืองเฉิงตู เขต Longquanyi ได้พบกับสุนัขที่หายไปของเธออีกครั้งก่อนที่มันจะสิ้นลมหายใจหลังจากที่ถูกโยนลงมาจากหน้าต่างชั้น 6 ของอาคารบริเวณนั้น ภาพอันน่าเศร้าของเด็กสาวผู้ได้พบกับสุนัขอีกครั้ง… เพียงแค่ชั่วอึดใจ หกเดือนก่อนหน้านี้ Xiao Wu ได้รับเลี้ยงสุนัขพันธุ์ Corgi ตัวหนึ่งโดยตั้งชื่อให้แก่มันว่า Ryan เธอรักมันมาก ดังนั้นตอนที่เจ้า Ryan หายตัวไปเมื่อหนึ่งเดือนก่อนเกิดเหตุเธอจึงเสียขวัญอย่างมาก Xiao Wu และครอบครัวออกตามหา Ryan ทั่วทั้งเมือง จนกระทั่งเธอรู้จากยามในระแวกใกล้เคียงว่าเขาพบสุนัขตัวหนึ่ง แต่คิดว่าเป็นสุนัขจรจัดเลยยกมันให้แก่ชายคู่หนึ่งไป เมื่อเธอพบชายคู่นั้นเธอก็ได้ทราบว่าพวกเขาส่งต่อสุนัขตัวนั้นให้หญิงวัยประมาณ 30 คนหนึ่งที่อยู่บ้านใกล้ๆ ไป ด้วยเหตุผลว่าสุนัขตัวนั้นเห่าน่ารำคาญ Xiao Wu สามารถหาทางติดต่อหญิงสาวคนที่ว่าได้สำเร็จและการ “ต่อรอง” ก็เริ่มขึ้น ผู้หญิงคนนั้นใช้ชื่อแฝงว่า He Li ในขณะที่คุยกันบนสื่อออนไลน์หญิงรายนี้่ข่มขู่ Xiao Wu ทำให้เธอหวาดกลัวเป็นอย่างมาก เธอถึงกับถาม Xiao Wu ว่า “เธอมีเงินเยอะไหม” ในการสนทนาครั้งนั้นด้วย เธอต่อด้วยการขู่ว่าจะทำร้าย Ryan “ฉันเคยถามลูกสาวของฉันว่าเธออยากให้หมาอยู่หรือตาย ถ้าเธอไม่ชอบมัน…
-
ชาวจีนร่วมใจผสานตัวยาวกว่า 20 เมตร เพื่อช่วยเหลือครอบครัวที่ตกลงไปในทะเลสาบน้ำแข็ง
มีคำกล่าวว่าคนเรานั้นโดยเนื้อแท้แล้วเป็นคนดีเสมอ ซึ่งสำหรับเหล่าผู้กล้าในเหตุการณ์ต่อไปนี้แล้ว คำพูดพวกนั้น ไม่ได้เกินจริงไปเลยแม้แต่นิดเดียว ท่ามกลางฤดูหนาวในประเทศจีน กลุ่มคนผู้กล้าหาญได้ช่วยชีวิตครอบครัวหนึ่งด้วยการต่อโซ่มนุษย์ดึงขึ้นมาจากทะเลสาบที่เป็นน้ำแข็ง เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ทะเลสาบที่สวนสาธารณะ Caoxueqin ในเมืองถังซาน มณฑลเหอเป่ย ประเทศจีนเมื่อวันที่ 7 มกราคม 2018 มีครอบครัวหนึ่งซึ่งประกอบไปด้วยคุณแม่และลูกสองคนที่คาดว่าอายุ 3 และ 4 ขวบ เหยียบลงไปบนธารน้ำแข็งบางๆ และตกลงไปในทะเลสาบที่เย็นเฉียบ ในวันที่อุณหภูมิติดลบ 13 องศาเซลเซียส โชคดีที่คนที่เดินผ่านไปมาเห็นเข้าจึงได้ต่อแถวกันเป็นโซ่มนุษย์เพื่อช่วยกันดึงทั้งสามขึ้นมาได้ทันเวลา ต้นแถวและปลายแถวของโซ่มนุษย์ที่ช่วยเหลือครอบครัวที่ตกลงไปในทะเลสาบ เหล่าชายหญิงประมาณ 17 คนจับมือกันเป็นแถวยาวเพื่อช่วยครอบครัวที่ตกลงไปในน้ำ โดยบอกให้แม่ที่กอดลูกทั้งสองไว้แน่นให้จับไม้และเชือกจูงสุนัขเอาไว้ พวกเขาใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 3 นาทีในการช่วยเหลือแม่ลูกทั้ง 3 โดยที่ล่าสุดทั้งสามอยู่ในสภาพปลอดภัยแล้ว ส่วนเหตุผลที่ว่าทำไมทั้งสามจึงลงไปเหยียบธารน้ำแข็งนั้นยังเป็นปริศนา เด็กหญิงและเด็กชายหลังจากได้รับการช่วยเหลือ วิดีโอที่บันทึกเหตุการณ์ครั้งนี้โดยช่อง Daily Videos โชคดีจริงๆ ที่มีคนมาเห็นแล้วช่วยเหลือเอาไว้ ที่มา Dailymail
-
ค้าขายซื่อตรง… เมื่อลูกค้าอยากเห็นภาพสินค้าจริง พ่อค้าจีนก็จัดให้ แต่งเองถ่ายเองได้ใจไปเลย
เวลาเพื่อนๆ จะซื้อของออนไลน์ แต่การซื้อของออนไลน์เนี่ยมันมีข้อเสียคือเราจะไม่ได้เห็นสินค้าตัวจริง ได้แต่เห็นรูปสินค้าที่นายแบบ หรือนางแบบใส่เพื่อโฆษณาสินค้าของตัวเอง ก็เลยมีลูกค้าหลายๆ คนที่ชอบถามพ่อค้า แม่ค้าขอให้เอารูปสินค้าจริงๆ มาให้พวกเค้าดู เช่นเดียวกับในกรณีนี้ มีสาวคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในประเทศอังกฤษ ไปเจอชุดที่ถูกใจในเว็บซื้อขายของออนไลน์ AliExpress เธอเลยขอรูปสินค้าตัวจริงจากพ่อค้าดู ซึ่งรูปที่ได้มาต้องบอกว่าพ่อค้าทุ่มเทจริงๆ และเธอก็ได้โพสต์รูปนี้ลงใน Reddit โดยที่เธออธิบายกระทู้ว่า “ฉันเจอร้านที่ขายชุดพรอมและชุดแต่งงาน พอฉันถามถึงรูปสินค้าจริงเท่านั้นแหล่ะ คนขายก็ส่งรูปพวกนี้มาให้ฉันเลย” เธอถึงกับตกใจเมื่อคนที่มาลองชุดให้นั้นเป็นผู้ชาย หรือเจ้าของร้าน Shop739960 Store มาเป็นนายแบบให้กับชุดเดรสที่ประดับไปด้วยเพชรพลอย และมี 5 สี แถมยังพยายามที่จะเปลี่ยนท่าโพสในแต่ละรูปซะด้วย เขากลายเป็นหัวข้อที่พูดถึงในชั่วข้ามคืน หลังจากที่ทำให้ลูกค้าประทับใจในการรีวิวสินค้า โดยที่ตอนนี้มีคนคอมเมนต์ไปมากกว่า 500 คอมเมนต์ และเหล่าผู้ใช้ Reddit ก็ยกย่องในความทุ่มเทของเขา และถึงขั้นเปรียบเทียบเขากับเจ้าหญิง Disney เลยทีเดียว . มีความเห็นหนึ่งได้กล่าวว่า “บางทีเขาอาจจะทุ่มเทจริงๆ หรือบางทีก็เขาชอบใส่ชุดนั่นอยู่แล้ว (ฉันก็ไม่สามารถตัดสินใจได้)” และอีกความเห็นหนึ่งได้กล่าวว่า “เฮ้ นี่ปี 2018 แล้วนะ ปล่อยให้เขาลองชุดไปเถอะ และเขายิ้มในชุดสีส้มนั่น ชุดอะไรก็ตามที่ทำให้เขายิ้มได้ นั่นแสดงว่าชุดนั้นมันดีที่สุด” .…
-
ปี 2018 จีนวางแผนปลูกป่าเพิ่ม 41 ล้านไร่ เนื้อที่เท่า “ภาคใต้ของไทย” เพื่อแก้ไขปัญหาหมอกควัน
ประเทศจีนเป็นประเทศที่มีประชาชนจำนวนมากอาศัยอยู่ อีกทั้งยังมีการพัฒนาทางด้านต่างๆ ขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ในตอนนี้ประเทศจีนได้ก้าวมาเป็นประเทศมหาอำนาจประเทศหนึ่งของโลก ถึงแม้ว่าจะมีการพัฒนาในด้านต่างๆ อย่างมากมาย ทว่าในเรื่องสภาพอากาศในประเทศจีนนั้นต้องถือว่าเลวร้ายเลยทีเดียว เพราะเมื่อไม่นานมานี้ก็ได้มีข่าวเรื่องวิกฤตหมอกควันเกิดขึ้น ซึ่งได้สร้างความเดือดร้อนไปยังประชาชนทั้งหลายที่อยู่ในเมืองต่างๆ แต่ในตอนนี้ประเทศจีน ก็ได้ประกาศว่าจะแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้หมดไป โดยพวกเขาได้วางแผนว่าจะปลูกป่าแห่งใหม่ขึ้นในปี 2018 นี้โดยมันจะปกคลุมพื้นที่กว่า 41 ล้านไร่ ซึ่งจะมีขนาดเกือบเท่ากับประเทศเกาหลีใต้ หรือนับเป็นพื้นที่ราว 1 ใน 6 ของประเทศไทยเลยทีเดียว การเคลื่อนไหวล่าสุดของประเทศจีนนี้ ก็เพื่อต้องการที่จะสลัดภาพเมืองแห่งมลพิษทิ้งไป และคาดหวังเอาไว้ว่าจะกลายมาเป็นประเทศผู้นำโลกในด้านการรักษาสิ่งแวดล้อม แทนที่ประเทศสหรัฐ ที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมพ์ เลือกที่จะถอดถอนประเทศสหรัฐอมเริกา ออกจากข้อตกลงด้านสภาพภูมิอากาศกรุงปารีสเมื่อปีที่แล้ว โดยทางกรมจัดการป่าไม้ของประเทศจีน ได้ตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่าจะเพิ่มจำนวนป่าไม้ภายในประเทศให้มีมากถึง 23 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ประเทศทั้งหมด ให้ได้ภายในปี 2020 ซึ่งตัวเลขในปัจจุบันอยู่ที่ 21.7 เปอร์เซ็นต์จากพื้นที่ทั้งหมด และในปี 2035 ก็จะพยายามทำให้พื้นที่ป่าไม้ครอบคลุมถึง 26 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ประเทศทั้งหมด จากคำบอกกล่าวของ Zhang Jianlong หัวหน้ากรมจัดการป่าไม้ของประเทศจีน ในปี 2014 ที่ผ่านมานั้น เมืองต่างๆ ในประเทศจีนถูกมองว่าเป็นเมืองที่มีปัญหามลพิษทางอากาศเรื้อรังมาโดยตลอด เนื่องมาจากการขยายตัวทางอุตสาหกรรมอย่างรวดเร็วในช่วง 2-3…
-
ทางการจีนเปิดตัวทางหลวงติดแผงโซลาร์เซลล์ที่แรกของโลก เปิดตัวได้ 5 วันถูกขโมยเรียบร้อย
หลังจากที่ก่อนหน้านี้เราได้รายงานเกี่ยวกับทางหลวงแห่งพลังงานในประเทศจีนที่กำลังจะเปิดให้บริการในเร็วๆ นี้ (อ่านข่าวเก่า จีนดำเนินการสร้าง ‘ถนนหลวงแห่งพลังงาน’ ช่วยผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ปริมาณมหาศาล) ล่าสุดหลังจากที่เปิดให้ใช้เพียงแค่ 5 วันก็เกิดเรื่องน่าเศร้าขึ้นกับทางหลวงแห่งนี้เสียแล้ว!! จากการรายงานของเว็บไซต์ Shanghaiist ระบุว่าเมื่อวันที่ 2 มกราคมที่ผ่านมาหลังจากที่เปิดใช้งานได้เพียงแค่ 5 วัน เจ้าหน้าที่ซ่อมบำรุงก็พบว่าแผ่นโซล่าเซลล์ขนาดกว้าง 10-15 เซนติเมตร ยาว 1.85 เมตร ได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย จากรายงานระบุว่าแผ่นโซล่าเซลล์ดังกล่าวถูกตัดและขโมยไปโดยหัวขโมยที่มีการเตรียมการมาอย่างดี แต่อย่างไรก็ตามพวกเขากล่าวว่ามูลค่าของแผ่นโซล่าเซลล์ที่ถูกขโมยไปนั้นไม่ได้มีราคาสูงแต่อย่างใด และวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของการขโมยครั้งนี้ก็ยังคงเป็นที่สงสัยของทางเจ้าหน้าที่ นอกจากการถูกขโมยแล้ว ถนนเส้นนี้ยังได้รับความเสียหายจากการใช้งานอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตามขณะนี้หน่วยซ่อมบำรุงกำลังทำงานของพวกเขาอย่างเต็มที่เพื่อให้ถนนสายนี้กลับมาใช้งานได้อีกครั้ง ร่องรอยความเสียหายบนพื้นถนน ถนนสายดังกล่าวได้รับการขนานนามว่าเป็นทางหลวงพลังงานแสงอาทิตย์แห่งแรกของโลก และมันประกอบด้วยกัน 3 ชั้นคือ ชั้นผิวถนนด้านบนสุด ชั้นแผงโซล่าเซล์ตรงกลาง และฉนวนกันความร้อนชั้นสุดท้าย โดยถนนพลังงานแสงอาทิตย์ในมณฑลชานตง แห่งนี้สามารถสร้างพลังงานไฟฟ้าได้มากถึง 1 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมงต่อปี หรือเพียงพอสำหรับบ้านกว่า 800 หลังคาเรือนเลยทีเดียว ที่มา medium
-
ชายจีนคนนี้เรียนรู้การ “กู้ระเบิด” ด้วยตัวเอง ไล่ปลดกับระเบิดตั้งแต่สงครามเวียดนามกว่าหมื่นลูก
สงครามจีน-เวียดนาม เป็นสงครามสั้นๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างสาธารณรัฐประชาชนจีนกับสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ซึ่งเกิดในช่วง 17 กุมภาพันธ์ – 16 มีนาคม พ.ศ. 2522 ซึ่งถึงสงครามที่เกิดขึ้นไปจะจบลงไปแล้วก็ตาม แต่สิ่งที่สงครามเหลือทิ้งไว้ก็คือกับระเบิด มีชาวจีนคนหนึ่งชื่อ Wang Kaixue อายุ 48 ปี เป็นชาวบ้านจากมณฑลยูนนาน ทางตอนใต้ของประเทศจีน ได้ทุ่มเททั้งชีวิตในการค้นหาและเก็บกู้กับระเบิดที่ยังหลงเหลืออยู่จากสงครามจีน-เวียดนามที่เกิดขึ้นเมื่อ 40 ปีที่แล้ว ซึ่งนาย Wang ได้เริ่มทำการเก็บกู้กับระเบิดที่ยังหลงเหลือมาแล้วกว่า 20 ปี โดยเขาเก็บกู้กับระเบิดออกไปมากมายกว่า 10,000 ลูกที่พรมแดนระหว่างจีน-เวียดนาม เขาบอกว่าเขาเริ่มศึกษาเกี่ยวกับกับระเบิดสองปีก่อนที่เขาจะลงมือกู้ระเบิดเมื่อปี พ.ศ. 2533 แต่ละวันเขาจะลงมือทำการกู้ระเบิดกว่า 8 ชั่วโมง . มีกับระเบิดนับหมื่นลูกถูกทิ้งไว้หลังสงคราม Wang เชื่อว่าอย่างน้อยกับระเบิด 200 ลูก ถูกกระจายอยู่ทุกๆ 1,300 ตารางเมตร แต่เขาตั้งใจที่จะกู้กับระเบิดให้ได้ 166,000 ตารางเมตร ก่อนที่เขาจะเกษียณตัวเองตอนอายุ 55 ปี ภารกิจการกู้ระเบิดของเขาเป็นยังไง ไปชมได้ในคลิปข้างล่างเลย…
-
นักโบราณคดีจีนพบฟอสซิลไข่ไดโนเสาร์ที่จีน อายุกว่า 130 ล้านปี ในพื้นที่ของโรงเรียนมัธยม
กลายเป็นข่าวฮือฮาวงการวิทยาศาสตร์กันเลยทีเดียว เมื่อมีรายงานว่านักโบราณคดีชาวจีนกำลังทำการขุดซากฟอสซิลไข่ของไดโนเสาร์ อายุกว่า 130 ล้านปีในสถาพที่สมบูรณ์สุดๆ ที่ถูกพบในเมืองกันเซา ทางตอนใต้ของมณฑลเจียงซี ประเทศจีน การค้นพบครั้งนี้เกิดขึ้นโดยบังเอิญเมื่อวันที่ 25 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยคนงานในเขตก่อสร้างของโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในเมือง ซึ่งเมืองกันเซานั้นถือเป็นหนึ่งในสถานที่ที่มักจะมีการค้นพบซากไดโนเสาร์อยู่บ่อยๆ จากรายงานระบุว่าคนงานได้ค้นพบเจ้าไข่ชนิดนี้โดยบังเอิญในขณะที่กำลังจะทำการระเบิดดิน แต่โชคดีที่หนึ่งในคนงานสังเกตเห็นซากสีดำที่มีความหนามากกว่า 2 มิลลิเมตรที่ติดอยู่ในหิน ก่อนที่จะทำการติดต่อไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบวัตถุดังกล่าว จากการตรวจสอบของผู้เชี่ยวชาญพบว่าซากสีดำดังกล่าวนั้นคือชิ้นส่วนของเปลือกไข่ไดโนเสาร์ที่มีอายุอยู่ในช่วงยุค Cretaceous ซึ่งเป็นยุคสุดท้ายก่อนที่ไดโนเสาร์จะสูญพันธุ์ ขณะนี้ไข่ใบดังกล่าวอยู่ในมือของผู้เชี่ยวชาญจากพิพิธภัณฑ์ Dayu และพวกเขากำลังทำการตรวจสอบเพื่อหาความลับของยุคโบราณที่ซ่อนอยู่ภายในไข่ใบนี้ เมืองกันเซาและพื้นที่รอบๆ นั้นเป็นมักจะมีการขุดไข่ของไดโนเสาร์อย่าง Oviraptors อยู่บ่อยๆ เจ้าไดโนเสาร์สายพันธุ์นี้จะมีลักษณะคล้ายกับนกแก้ว นอกจากนี้พวกมันยังมีลักษณะในการฟักไข่คล้ายกับพวกไก่อีกด้วยเช่นกัน ถิ่นกำเนิดของไดโนเสาร์สายพันธุ์นี้อยู่ในแถบมองโกเลียและประเทศจีน ก่อนหน้านี้พวกไดโนเสาร์สายพันธุ์ดังกล่าวที่ถูกค้นพบในเมืองกันเซา ยังมีชื่อเรียกอีกชื่อว่า Ganzhousaurus หรือ Ganzhou Lizard ตามสถานที่ค้นพบอีกด้วย ไดโนเสาร์สายพันธุ์ Oviraptors หวังว่าการค้นพบครั้งนี้คงจะทำให้เราได้รู้เกี่ยวกับความลับของโลกยุคโบราณที่ซ่อนอยู่ก็ได้นะ!! ที่มา unilad
-
โรงแรมบังเอิญได้กำแพงน้ำแข็งสุดสวยมาประดับ เพราะท่อน้ำรั่วแล้วอากาศก็เย๊นนเย็น
ในหน้าหนาวแบบนี้ พวกเราก็หวังจะได้เห็นหิมะหรือถนนที่ปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งละลานตา แต่ในเมื่อเราอาศัยอยู่ในแถบเมืองร้อน อย่างดีเราก็คงจะได้เห็นแค่ทะเลหมอกหรือว่าแม่คะนิ้งนี่แหละนะ แต่ว่าโรงแรมแห่งหนึ่งในประเทศจีนที่ตั้งอยู่ในเขตที่ไม่มีหิมะ กลับมีกำแพงหิมะปกคลุมยาวตั้งแต่ช่วงบนของโรงแรม และยาวลงมาถึงฐานเลยทีเดียว เหมือนมีแค่บริเวณโรมแรมเท่านั้นที่เป็นเขตเมืองหนาว น่าเหลือเชื่อจริงๆ อ้าวเฮ้ย มีน้ำแข็งแบบนี้ได้ยังไง โดยกำแพงน้ำแข็งของโรงแรมนี้ เกิดจากท่อน้ำรั่วจากบริเวณด้านบนของโรงแรม ถึงแม้ว่าปกติจะไม่มีหิมะ แต่อากาศในบริเวณนั้นก็เย็นพอสมควร เมื่อน้ำรั่วลงมาเยอะๆ จึงเยือกแข็งกลายเป็นกำแพงน้ำแข็งขนาดมหึมาแบบนี้ กลายเป็นว่าโรงแรมแห่งนี้เป็นเขตหน้าหนาวเพียงแห่งเดียวในแถบนั้นไปซะอย่างนั้น คนที่เดินผ่านไปมาก็หยุดดูกันเป็นจำนวนมาก และมีคนเข้าไปเล่นหิมะในนั้นด้วยนะ รู้สึกเป็นเอลซ่ามากเลยค่ะ กำแพงน้ำแข็งนี้ก็ไม่ใช่กำแพงเตี้ยๆ เอาไว้แค่เพียงถ่ายรูปได้บรรยากาศแต่อย่างใด ถ้านับความสูงของกำแพงน้ำแข็งนี้จากยอดลงมาถึงพื้นแล้ว มันมีความสูงกว่า 10 เมตรทีเดียว ดูแล้วยิ่งใหญ่มากเหลือเกิน ใหญ่เกิ๊น นอกจากกำแพงน้ำแข็งนี้แล้ว ต้นไม้ที่อยู่ใต้โรงแรมนี้ก็กลายเป็นน้ำแข็งด้วยเช่นกัน เสริมสร้างบรรยากาศหน้าหนาวในเมืองนอกได้ดีสุดๆ ไปเลย บอกได้เลยว่า ความบังเอิญน้ำรั่วครั้งนี้ได้สร้างสีสันให้โรงแรมแบบไม่มีใครซ้ำเลยล่ะ ต้นไม้ยังแข็งไปด้วยเลย บรู๊ววว คลิปวิดีโอรายงานข่าวจาก China Xinhua News เห็นแล้วอย่าได้ลอกเลียนแบบเชียวนะ ถ้าทำในประเทศไทย คงไม่ได้กำแพงน้ำแข็งหรอก ที่มา: China Xinhua…
-
พบกับเรื่องราวของจิ๋นซีฮ่องเต้ กษัตริย์ผู้สั่งให้ประชาชนทุกคนออกตามหา ‘ความเป็นอมตะ’
หากจะกล่าวถึงธรรมชาติของโลก ก็จะมีคำพูดหนึ่งที่กล่าวเอาไว้ว่า ทุกชีวิตต้องมีการ ‘เกิดขึ้น-ตั้งอยู่-ดับไป’ ทั้งนั้น เพราะด้วยกาลเวลาที่ไม่เคยหยุดรอใคร ทำให้เราก็ต้องแก่ชราขึ้นในทุกวันๆ และนั่นอาจจะทำให้บางคนสรรหาวิธีเพื่อที่จะเอามาขัดขวางกฎแห่งธรรมชาติอันนี้ ให้เกิดขึ้นได้ช้าที่สุดหรืออาจจะไม่เกิดขึ้นเลย… ตามความเชื่อของบางศาสนาหรือเฉพาะบางคน บนโลกนี้จะมีสิ่งที่เรียกว่า ‘ความเป็นอมตะ’ ซึ่งหมายถึงการไม่เจ็บไม่ป่วย ไม่แก่ชราและที่สำคัญคือ ไม่เสียชีวิต!! ซึ่งความเป็นอมตะนี้เคยทำให้ใครบางคนต้องออกเดินทางเพื่อสรรหาวิธีต่างๆ เพื่อจะได้มันมาครอบครองซึ่งในปัจจุบันก็ยังไม่มีใครที่สามารถหาวิธีนั้นพบแม้แต่คนเดียว จิ๋นซีฮ่องเต้กับการหายาอายุวัฒนะ นอกจากนี้รู้หรือไม่ว่า ความเชื่อเรื่องความเป็นอมตะเกิดขึ้นบนโลกตั้งแต่สมัยโบราณกาลแล้ว และก็มีกษัตริย์องค์หนึ่งที่อยากได้สิ่งที่ว่านี้มาครอบครอง จนถึงขั้นใช้อำนาจในมือบังคับให้คนทุกคนที่อยู่ภายใต้การควบคุมของเขา เสาะหาสิ่งที่ว่านี้และนำมามอบให้แก่เขาให้ได้ และชื่อของกษัตริย์องค์ที่ว่านี้ก็คือ จิ๋นซีฮ่องเต้ จักรพรรดิองค์แรกแห่งประเทศจีน โดยพระองค์ได้รับสั่งให้ประชาชนทุกคนในประเทศเสาะหาความเป็นอมตะมาให้ได้ ตามงานวิจัยชิ้นใหม่ของนักโบราณคดีที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อเร็วๆ มานี้ แผ่นไม้ที่บอกเรื่องราวต่างๆ ในอดีต สำหรับหลักฐานที่มายืนยันในเรื่องนี้ก็คือ การค้นพบไม้โบราณที่มีการเขียนเอาไว้ถึงคำสั่งของพระองค์ ซึ่งแผ่นไม้ที่ว่านี้ถูกค้นพบเป็นครั้งแรกในปี 2002 ที่ใต้บ่อน้ำแห่งหนึ่งในมณฑลหูหนาน ซึ่งมันได้เขียนเรื่องราวต่างๆ ของประเทศจีนในขณะนั้นเอาไว้ทั้งเรื่อง วัฒนธรรม เศรษฐกิจ กฎหมาย รวมถึงเรื่องยาอายุวัฒนะที่ให้ทุกคนออกตามหาด้วย มีการค้นพบใหม่เมื่อไม่นานมานี้ที่เปิดเผยว่า จากคำสั่งของจิ๋นซีฮ่องเต้ ทำให้รัฐบาลท้องถิ่นหลายแห่งพยายามค้นหายาอายุวัฒนะสำหรับพระองค์ให้จนได้ ยกตัวอย่างเช่นหมู่บ้าน Duxiang ก็มีการเขียนรายงานถึงความล้มเหลวในการเสาะหายาสุดพิเศษนี้ และอีกหมู่บ้านหนึ่งชื่อว่า Langya ซึ่งในปัจจุบันอยู่ในมณฑลซานตง ก็ได้ลองนำเสนอสมุนไพรที่มาจากภูเขาศักดิ์สิทธิ์ประจำหมู่บ้านให้แก่พระองค์ลองใช้ดู …
-
นักโบราณคดีจีนสร้างแบบจำลองโบราณวัตถุขนาดมหึมา จากเครื่องพิมพ์ 3 มิติกว่า 20 เครื่อง
หลายๆ คนอาจจะรู้จักและเคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับนวัตกรรมเครื่องพิมพ์ 3 มิติกันมาบ้างแล้ว อย่างที่เราพอจะทราบกันเจ้าเครื่องพิมพ์ที่ว่านี้สามารถที่สร้างวัตถุต่างๆ ขึ้นมาได้ง่ายๆ เพียงแค่เราใส่ข้อมูลลงไปในโปรแกมเท่านั้น และเมื่อไม่นานมานี้นักโบราณคดีของจีนก็ได้เตรียมใช้เจ้าเทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติในสร้างแบบจำลองของโบราณวัตถุจากถ้ำยฺหวินกังจึ้นมาใหม่ ถ้ำแห่งนี้ได้รับการบันทึกโดยองกร UNESCO ให้เป็นมรดกของโลก โดยถ้ำอายุกว่า 1,500 ปีแห่งนี้มีห้องอยู่ภายในมากถึง 252 แห่งและเทวรูปอีก 51,000 ชิ้นเลยทีเดียว ผู้เชี่ยวชาญได้ทำการสร้างแบบจำลองของเทวรูปในห้องโถงทางด้านตะวันตกขึ้นมาใหม่จากเครื่องพิมพ์สามมิติ และเทคโนโลยีการสแกน เทวรูปในห้องโถงทางฝั่งตะวันตกที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ในถ้ำแห่งนี้ที่ถูกลอกแบบไปสร้างใหม่โดยเครื่องพิมพ์ 3 มิติ ถ้ำยฺหวินกังจึ้น โบราณสถานมรดกโลก ที่มีห้องมากกว่า 252 ห้องและโบราณวัตถุอีกมากกว่า 50,000 ชิ้น เทวรูปที่นักโบราณคดีจะทำการสร้างจากเครื่องพิมพ์ 3 มิตินั้นถูกสร้างขึ้นเมื่อประมาณศตวรรษที่ 5 และ 6 ในสมัยราชวงศ์หวงหวาง ซึ่งเป็นช่วงที่ศาสนากำลังเฟื่องฟูในประเทศจีน แบบจำลองที่ถูกสร้างขึ้นมานั้นมีขนาดความยาว 17.9 เมตร กว้าง 13.6 เมตร และสูงอีก 10 เมตร ภาพถ่ายมากกว่า…
-
เตียงหนูชินชิล่าจากจีน แต่เอ…ดูไปดูมาทำไมมันคล้าย Totoro จังเลยว้าาาา
เมื่อพูดถึงชื่อ Totoro ออกมา เราเชื่อว่าหลายๆ คนจะต้องรู้จักตัวการ์ตูนอ้วนกลมตัวนี้อย่างแน่นอน ซึ่ง Totoro เป็นอะนิเมะที่ได้รับความนิยมอย่างสูงเรื่องหนึ่ง ภายใต้การผลิตของสตูดิโอ Ghibli ค่ายผลิตภาพยนตร์การ์ตูนคุณภาพของโลกค่ายหนึ่งในประเทศญี่ปุ่นนั่นเอง และถ้าหากคุณได้เห็นเตียงนอนขนาดใหญ่แสนน่ารักที่เราได้นำมาให้ชมนี้ หากได้มองครั้งแรกคุณจะต้องนึกถึงเจ้า Totoro อย่างแน่นอน แต่จริงๆ แล้วคุณคิดผิดเพราะนี่มันคือ “เตียงหนูชินชิล่า” ต่างหากล่ะ หืมมมม!! สำหรับเตียงนอนดังกล่าวถูกนำมาจำหน่ายในเว็บไซต์ Taobao และ Ali Express ของจีน มันเป็นเตียงหนูชินชิล่าไซส์ใหญ่กว่า 2 เมตร แถมยังมาในราคาที่ถูกจนน่าทึ่ง เพราะจากราคาเดิม 650 หยวน หรือราวๆ 3,200 บาท ตอนนี้เหลือเพียงแค่ 552 หยวน หรือราวๆ 2,700 บาทเท่านั้น เรียกได้ว่ามันเป็นเตียงที่มีราคาถูกกว่าของเล่น Totoro บางอย่างเสียอีก เตียงนอนชินชิล่าถูกออกแบบขึ้นมาให้ดูมีความน่ารัก โดยใน 1 ชุดจะประกอบไปด้วยหมอนชินชิล่า รวมถึงทำหมอนข้างที่เป็นหางแถมมาให้ด้วย …
-
แบบนี้ก็มี… “โรงเรียนสอนให้เมียเชื่อฟังผัว” เปิดสอนในจีน สร้างค่านิยมกดขี่ผู้หญิง-โดนสั่งปิด!!
วัฒนธรรมการเหยียดเพศในประเทศจีนยังคงมีอยู่มาจนถึงปัจจุบัน ด้วยความที่คนบางกลุ่มยึดติดกับการให้ผู้หญิงตกเป็นเบี้ยล่างของผู้ชาย และพวกเขาก็ถึงกับเปิดโรงเรียนขึ้นมาสอนเรื่องแบบนั้นเลยทีเดียว โรงเรียนแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตฟุชุน มณฑลเหลียวหนิง ก่อตั้งเป็นโรงเรียนสอนวัฒนธรรมของจีน และเน้นไปในเรื่องของการให้ผู้หญิงยอมทำตามผู้ชายทุกอย่าง ไม่ว่าสามีของเธอจะบอกว่าอะไร พวกเธอตอบได้แค่ “ค่ะ” เท่านั้นและต้องลงมือทำทันที ในคลิปวิดีโอที่ถูกถ่ายระหว่างการเรียนการสอนภายในสถาบันแห่งนี้ เผยให้เห็นฉากหนึ่งที่ผู้สอนย้ำกับนักเรียนหญิงทุกคนในนั้นว่าการอยู่ร่วมกันกับสามีของพวกเธอคือ “จงพูดให้น้อย แต่ทำงานให้มากกว่าเดิม” นักเรียนทุกคนถูกบังคับให้ฝึกตื่นตั้งแต่ตี 4 ครึ่ง เพื่อมาทำงานบ้าน ทำอาหารให้กับสามีและครอบครัว โดยจะมีครูฝึกคอยกำกับดูแลอยู่ข้างๆ คลิปการเรียนการสอนให้ผู้หญิงตกเป็นเบี้ยล่างของผู้ชาย ทุกคนถูกขัดเกลาด้วยความเชื่อหลายๆ อย่าง เช่นห้ามสู้กลับเวลาที่โดนสามีทุบตี การมีเซ็กซ์กับผู้ชายมากกว่า 3 คนในชีวิตจะทำให้พวกเธอตาย หรือแม้แต่การซื้ออาหารจากข้างนอกมาแทนการทำอาหารให้สามีตัวเองเป็นสิ่งที่ผิดหลักคุณธรรม นอกจากนั้นการเสพสื่อทางเพศก็นับเป็นสิ่งที่ผิดมหันต์สำหรับพวกเธอ ในคลิปวิดีโอแสดงให้เห็นถึงหญิงสาวคนหนึ่งที่คุกเข่าก้มลงกับพื้นเพื่อขอโทษที่เคยดูหนัง 20+ มาก่อน และบอกว่าเธอจะกลับบ้านไปลบให้หมด ซึ่งทุกคนในคลาสเรียนต่างเห็นด้วยและปรบมือให้กับสิ่งที่เธอทำ โรงเรียนแห่งนี้เปิดมาตั้งแต่ปี 2011 จนกระทั่งวันที่ 3 ธันวาคม 2017 ทางการของจีนได้สั่งปิดสถาบันดังกล่าว เนื่องจากขัดกับนโยบายคำสอนปัจจุบันในเรื่องของ “หลักคุณค่าของคนในสังคม” เพราะการเรียนการสอนของที่นี่แสดงให้เห็นถึงการบังคับให้ผู้หญิงตกเป็นเบี้ยล่างของผู้ชายอย่างชัดเจน นับว่าเป็นการเหยียดเพศที่รุนแรงมาก วัฒนธรรมที่สืบทอดต่อกันมาย่อมเกิดการเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย…
-
‘สี จี้ผิง’ ลั่นสั่งปฏิวัติห้องน้ำสาธารณะทั่วแผ่นดินจีน เพื่อความสะอาดและสุขภาพเข่าของประชาชน
หนึ่งในปัญหาที่นักท่องเที่ยวมักพูดถึงเวลาไปเที่ยวประเทศจีน ก็คือห้องน้ำที่ดูสกแรกและไม่น่าใช้บริการ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ผู้นำประเทศจีน สี จี้ผิง ได้ตั้งเป้าหมายในการปฏิวัติห้องน้ำภายในประเทศให้ดียิ่งขึ้น แท้จริงแล้วการปฏิวัติห้องน้ำในจีนเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ปี 2015 เนื่องจากปัญหาในเรื่องของนักท่องเที่ยวที่ไม่อยากใช้บริการห้องน้ำที่มีให้ตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ รัฐบาลจึงได้ติดตั้งและอัปเกรดห้องน้ำใหม่กว่า 68,000 ห้องให้กับจุดชมวิวต่างๆ สี จี้ผิง ผู้นำของประเทศจีนคนปัจจุบัน หลังจากนั้นสำนักงานบริหารการท่องเที่ยวแห่งชาติของประเทศจีนได้ออกมาประกาศเมื่อเดือนธันวาคม 2016 ว่าได้มีการวางแผนใช้งบประมาณจำนวนกว่า 9 ล้านล้านบาทในการพัฒนาและติดตั้งห้องน้ำกว่า 100,000 แห่งทั่วประเทศ ภายในระยะเวลา 4 ปี และผู้นำคนปัจจุบันก็ตั้งใจที่จะมุ่งเป้าไปที่แหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ เพิ่มเติม รวมถึงตามพื้นที่ชนบททั่วประเทศ เพราะเขาเล็งเห็นว่าการมีห้องน้ำที่ดีก็คือการเพิ่มคุณภาพชีวิตให้กับประชาชน เป็นการวางแผนเพื่อพัฒนาทั้งการใช้ชีวิตของคนในประเทศและการเข้ามาท่องเที่ยวของคนนอกประเทศ ห้องน้ำในประเทศจีนที่เราเคยเห็น ดูไม่ค่อยถูกสุขอนามัยและเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรคต่างๆ วันที่ 19 พฤศจิกายน 2017 ประเทศจีนก็ได้เปลี่ยนให้ “วันห้องน้ำโลก” กลายเป็น “วันห้องน้ำโลกและวันแห่งการปฏิวัติห้องน้ำของประเทศจีน” เพื่อทำให้ทุกคนได้รับรู้ถึงการเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ของพวกเขา ในวันเดียวกันนั้นเอง แอพ WeChat ของประเทศจีนก็ได้ออกฟังก์ชั่นใหม่ที่ช่วยหาห้องน้ำใกล้ตัวให้กับคุณได้อีกด้วย ซึ่งจะมีห้องน้ำกว่า 330,000 แห่งใน 2,288 ประเทศรวมอยู่ในนั้น …
-
หญิงสาวพยายามจะโดดน้ำฆ่าตัวตาย แต่เสื้อกันหนาวพองๆ ช่วยทำให้ลอยน้ำ และรอดมาได้…
เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่ขึ้นในมณฑลอานฮุย ประเทศจีน หลังจากที่หญิงสาวรายหนึ่งกระโดดลงมาจากสะพานเพื่อหวังที่จะจบชีวิตของตัวเอง แต่ทว่าความตั้งใจของเธอนั้นกลับไม่เป็นไปอย่างที่เธอตั้งใจ คลิปวิดีโอจากประเทศจีนได้เผยให้เห็นร่างของหญิงสาวคนดังกล่าวที่กระโดลงไปในแม่น้ำ หลังจากที่เธอมีปัญหากับทางบ้านจากการรายงานของสื่อประเทศจีน เธอพยายามที่จะฆ่าตัวตายด้วยการกระโดดน้ำ แต่เดชะบุญเสื้อขนเป็ดที่เธอใส่นั้นกลับทำให้เธอลอยขึ้นเหนือผิวน้ำ และทำให้เธอรอดตายได้ในที่สุด หญิงสาวนิรนามลอยเคว้งคว้างอยู่ท่ามกลางแม่น้ำก่อนที่ทีมช่วยเหลือจะมาถึง ทีมช่วยเหลือทำการเกลี้ยกล่อมอยู่นานก่อนที่หญิงสาวจะยอมขึ้นมาจากน้ำแต่โดยดี เนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเหน็บและร่างกายที่เปียกน้ำ ทำให้ทีมช่วยเหลือเป็นห่วงในความปลอดภัยของเธอ พวกเขาจึงรีบพาหญิงสาวคนดังกล่าวไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ๆ นั้นทันที วินาทีที่ทีมช่วยเหลือกำลังนำตัวของเธอขึ้นมาจากน้ำ ไปชมวินาทีช่วยชีวิตหญิงสาวท่านนี้จากคลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย… ปัญหาการฆ่าตัวตายกำลังเป็นปัญหาใหญ่ในประเทศจีนขณะนี้ และสาเหตุหลักๆ ที่เจ้าหน้าที่พบก็คือความขัดแย้งภายในครอบครัวนั่นเอง เมื่อประมาณหนึ่งเดือนที่ผ่านมาก็ได้เกิดเหตุการณ์คล้ายๆ กันนี้เช่นกัน เมื่อคุณแม่วัย 47 ปีจากมณฑลเหอหนาน ได้พยายามกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย หลังจากที่เธอมีปัญหากับลูกสะใภ้ ที่มา shanghaiist
-
ปักกิ่งสั่งปรับพื้นที่อยู่อาศัยของคนงานต่างถิ่น โดยไม่มีที่พักรองรับให้ สภาพอยู่ตามมีตามเกิด
เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2017 ได้เกิดเหตุการณ์เพลิงไหม้ในย่านที่อยู่อาศัยในกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปถึง 19 คน และเหตุการณ์ดังกล่าวก็ได้เป็นเหตุผลที่ทำให้ทางรัฐบาลได้จัดการไล่ผู้อยู่อาศัยที่เป็นแรงงานต่างถิ่นทั้งหมดออกไปจากเมือง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ได้ทำให้แรงงานกว่าพันคนต้องรีบย้ายข้าวย้ายของออกจากบ้านของตัวเอง เนื่องจากทางการได้สั่งทุบบ้านของพวกเขาหลังจากที่ได้ประกาศออกไปเพียงเวลาไม่นาน บางคนถึงกับมีเวลาเก็บของทั้งหมดเพียงแค่ 15 นาทีเท่านั้นเอง คนจำนวนมากต้องออกมาเผชิญความหนาวเย็น ตึกรามบ้านช่องในบริเวณนั้นถูกทำลายทิ้งทั้งหมด ของมีค่าของพวกเขาต้องถูกเก็บและย้ายออกไปให้เร็วที่สุด ผู้คนจำนวนมากต้องออกมาเผชิญความหนาวเพราะไม่มีบ้านให้อยู่อีกต่อไป รัฐบาลเองก็ไม่มีการจัดที่อยู่รองรับใดๆ ให้พวกเขาเลยแม้แต่น้อย ทางการได้ออกมาอธิบายว่า ที่ต้องทำอย่างนี้ก็เพื่อเช็คความปลอดภัยและมาตรฐานของสิ่งก่อสร้างทั้งหมดในบริเวณนั้น หลังจากที่ได้มีเหตุเพลิงไหม้ พวกเขาไม่ได้ต้องการที่จะลดจำนวนประชากรในกรุงปักกิ่งอย่างที่หลายๆ คนคิดกัน แต่ถึงแม้ว่าทางการจะพูดออกมาแบบนั้น แต่ประชากรชาวจีนจำนวนมากก็ยังคงเชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการขับไล่คนต่างถิ่นให้ออกไปจากเมืองหลวงเพื่อลดจำนวนประชากรที่เพิ่มสูงขึ้นเท่านั้นเอง ของจำนวนมากที่ต้องเก็บออกไปให้ได้ในเวลาอันสั้น รัฐบาลบอกว่านี่ไม่ได้ทำเพื่อลดจำนวนประชากรในเมือง แรงงานจากมณฑลเหอหนานคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในปักกิ่งได้พูดกับทางสำนักข่าว Financial Times ว่า “รัฐบาลต้องการกวาดล้างพวกเราออกเมืองหลวงไปเท่านั้นเอง พวกเขาไม่เคยต้องการพวกเราและแค่ได้เหตุผลใหม่ในการไล่เราออกไปแค่นั้นเอง” ป้ายประกาศที่นำมาติดไว้ให้เข้าใจตรงกัน ที่ที่เคยเป็นบ้านกลับว่างเปล่าไปในพริบตา หลายๆ อย่างที่ไม่จำเป็นก็ถูกทิ้งไป การไม่มีที่อยู่ของคนจำนวนมากได้ทำให้คนชนชั้นกลางในจีนออกมาช่วยเหลือพวกเขาในหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นอาหาร เครื่องนุ่งห่ม…
-
น้ำใจงาม!! ชมเหตุการณ์อันน่าประทับใจบนท้องถนน ที่หยุดรถเพื่อให้คนแก่ได้ข้ามถนน
สังคมเราทุกวันนี้เต็มไปด้วยความวุ่นวาย และการแข่งขันที่สูง ทำให้ชีวิตประจำวันของเราก็จำเป็นต้องเร่งรีบตามไปด้วย แน่นอนว่าการขับรถบนท้องถนนก็ต้องเต็มไปด้วยการแก่งแย่งชิงดีกัน ซึ่งสิ่งนั้นได้ทำให้มารยาทการใช้พื้นที่ร่วมนั้นหายไป และบางทีเราก็ได้เห็นข่าวความไร้น้ำใจบนท้องถนนจนเกิดเรื่องชกต่อยกันก็มีมาแล้ว แต่ถึงกระนั้นก็ยังคงมีคนมีน้ำใจในสังคมอันเร่งรีบของเราอยู่ โดยพวกเขานั้นเปรียบเสมือนฮีโร่เลยก็ว่าได้ และนี่คือ 2 เหตุการณ์ที่จะแสดงให้เห็นว่าสังคมในโลกปัจจุบันยังคงมีน้ำใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ให้แก่กันอยู่ รถคันหนึ่งพยายามกั้นรถคนอื่นเพื่อให้หญิงชราภาพคนหนึ่งข้ามถนนไปได้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในประเทศจีน เมื่อมีหญิงแก่คนหนึ่งรอข้ามถนนอยู่นานสองนาน ก็ไม่มีรถคันไหนจอดให้ข้ามเลยสักคัน ทว่ามีรถสีเหลืองอยู่คันหนึ่งที่ไม่เพียงแค่จอดให้เท่านั้น แต่ยังพยายามที่จะนำรถของตัวเองไปบังรถคันอื่นให้จอด เพื่อให้หญิงสูงวัยคนนี้ข้ามถนนไปได้อย่างปลอดภัย หลังจากหญิงแก่คนนั้นกำลังข้ามถนนใกล้จะถึงอีกฝั่งหนึ่งแล้ว ความมีน้ำใจของคนขับรถคันนี้ยังไม่หมดลงเพียงแค่นั้น เพราะว่าเขายังได้เอารถบังให้เด็กอ่อนที่อยู่ในเปลสามารถข้ามถนนได้อย่างปลอดภัย เหมือนกับหญิงชราภาพคนก่อนหน้าอีกด้วย วิดีโอการทำความดีอันแสนน่าประทับใจ รถคันหนึ่งจอดให้คนแก่ที่อยู่บนเกาะกลางถนนข้าม ส่วนเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในประเทศจีนอีกเช่นกัน เมื่อมีคนแก่อยู่คนหนึ่งได้ยืนอยู่ระหว่างถนนทั้งสองเลน และพยายามที่จะข้ามถนนไปยังอีกฝั่ง แต่ด้วยความชราภาพบวกกับการต้องใช้ไม่เท้าในการช่วยเดินทำให้ ชายชราคนนี้เคลื่อนที่ไปได้ค่อนข้างช้าทำให้ไม่มีรถคันไหนยอมจอดให้ข้ามสักที ทว่าวิดีโอจากรถคันนี้ได้แสดงให้เห็นถึงความมีน้ำใจของคนขับ ที่ได้เสียสละเวลาเพียงน้อยนิดเพื่อให้คนแก่คนนี้ข้ามถนนไปได้ ซึ่งเขาก็ได้ถอดหมวกและก้มหัวลงให้เพื่อเป็นการตอบแทนน้ำใจของคนขับรถคันนี้ ซึ่งเรียกได้ว่ามีน้ำใจทั้งผู้ให้และผู้รับเลยก็ว่าได้ จอดให้คนแก่ข้ามถนน ทั้งๆ ที่ไม่มีคันไหนยอมจอด ถ้ามีคนเช่นนี้ในสังคมเยอะๆ รับรองได้ว่าบ้านเมืองเราจะน่าอยู่ขึ้นอีกเยอะเลยทีเดียว ที่มา: shanghaiist
-
หนีห่าวว!! “Hu Yi Tian” ดาราจีนแต่หน้าเกาหลี๊เกาหลี พอยิ้มทีคือหล่อมากกกก
เอาจริงๆ นะ!! รู้สึกว่าช่วงนี้คือต้องกรี๊ดหนักมาก แถมหัวจิตหัวใจก็ไม่เคยจะได้หยุดพักสักที เพราะช่วงนี้มีแต่การปรากฏตัวของหนุ่มหล่อเต็มไปหมดตั้งแต่เด็กยันแก่ ซึ่งแต่ละคนก็งานดีงานละเอียดทั้งน้านนนนนน และในที่สุดวาระสามีแห่งชาติก็ได้กลับมาอีกครั้ง เพราะในวันนี้เราจะพาสาวๆ มาแนะนำนักแสดงหนุ่มรูปงามส่งตรงจากประเทศจีน กับดีกรีความหล่อที่ไม่เป็นสองรองใคร ซึ่งเขาคนนั้นก็คือ Hu Yi Tian คนนี้เลยจ้า… หูววววววว Hu Yi Tian เขาเป็นทั้งนักแสดงและนายแบบหนุ่มวัย 24 ปี ที่ในตอนนี้กำลังมีผลงานซีรีส์เรื่อง A Love So Beautiful ที่เพิ่งจะออกอากาศไปเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2560 และด้วยความที่มีใบหน้าหล่อเหลาคล้ายๆ หนุ่มเกาหลี Hu Yi Tian คนนี้ก็เลยกลายเป็นหนุ่มคนใหม่ที่ได้เข้าไปครองในหัวใจสาวๆ หลายคนเป็นที่เรียบร้อยแล้วจ้า ปังไหมถาม? ที่สำคัญสาวๆ ตัวเล็กเตรียมใจกันเอาไว้ให้ดี เพราะ Hu Yi Tian เขาได้ออกมาเผยถึงสเปคสาวที่ชื่นชอบว่า เขาชอบผู้หญิงที่สูงประมาณ 158 เซนติเมตร ผมยาว…
-
คู่รักชาวจีนหัวใสเปิดโรงสกัดแร่ทองจากซากมือถือ แต่ถูกจับหลังทิ้งสารเคมีลงในดินและห้วย
คุณจะทำอย่างไรกับโทรศัพท์มือถือเครื่องเก่าที่ไม่ใช้แล้ว บางคนคงเก็บเอาไว้ในตู้โชว์บางคนก็เอาไปทิ้งถังขยะ แต่รู้ไหมว่าคุณกำลังมองข้ามขุมทองไปซะแล้ว เมื่อไม่นานมานี้ตำรวจเซี่ยงไฮ้ ได้เข้าจับกุมโรงงานผิดกฎหมายแห่งหนึ่งบริเวณชานเมืองซึ่งเต็มไปด้วยถังสารเคมีต่างๆ ที่ส่งกลิ่นเหม็นออกมานอกโรงงาน โดยโรงงานแห่งนี้เป็นของสองผัวเมียคู่หนึ่งที่ดำเนินธุรกิจรับซื้อของเก่า แร่ทองที่อยู่ในโทรศัพท์เก่าต่างๆ ซึ่งพวกเขาได้มาเช่าที่แห่งนี้เมื่อเดือนเมษายนในปีนี้เพื่อใช้เป็นที่สำหรับสกัดแร่ทองที่อยู่ภายในโทรศัพท์มือถือที่ใช้แล้ว และนำไปผ่านกระบวนการต่างๆ เมื่อเสร็จสิ้นแล้วจะสามารถทำเงินได้มากถึง 20,000 หยวน (99,000 บาท) เลยทีเดียว นอกจากนี้ผู้เชี่ยวชาญยังบอกอีกว่า เราสามารถทำสกัดแร่ทองจนทำแหวนใส่ได้เลย โดยจะต้องใช้โทรศัพท์มือถือราวๆ 100 เครื่อง จึงจะได้แหวนทอง 1 วง สภาพของโรงงานแห่งนี้ อย่างไรก็ตาม โรงงานของคู่รักที่สกัดทองคู่นี้ไม่เคยได้รับใบอนุญาตจากทางการท้องถิ่นเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจของพวกเขา อีกทั้งยังไม่มีอุปกรณ์ใดๆ สำหรับการกำจัดสารเคมีที่ใช้ในการสกัดทองโดยวิธีที่พวกเขาใช้กำจัดสารเคมีก็คือ พวกเขาใช้การขุดหลุมเพื่อที่จะเทสารเคมีลงดิน และยังเทลงในห้วยด้านหลังโรงงานอีกด้วย และนั่นก็คือสิ่งที่ทำให้ทั้งคู่โดนจับ โดยทั้งคู่โดนจับในข้อหาทิ้งสารเคมีอันตรายโดยผิดกฎหมายและสร้างมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมนั่นเอง รีบกลับไปแกะโทรศัพท์มั่งดีกว่า เผื่อจะรวยเหมือนเค้า ที่มา: shanghaiist
-
ชาวบ้านคริสเตียนในจีนปลดภาพพระเยซูแล้วติดภาพท่านผู้นำแทน เพื่อรับประโยชน์จากรัฐบาล!!!
เป็นที่รู้กันว่าประเทศจีนเป็นประเทศคอมมิวนิสต์ แต่ว่าในตอนนี้ประเทศมหาอำนาจนี้กลับมีนโยบายสุดแปลกคือให้ปลดสัญลักษณ์ประจำศาสนาออกแล้วให้ติดรูปของประธานาธิบดี สีจิ้นผิง แทนหากอยากได้รับการช่วยเหลือจากมาตรการแก้จนของรัฐบาลอย่างเต็มที่ ชาวคริสต์หลายพันคนในเขตพื้นที่ยากจนทางตอนตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศจีนได้เปลี่ยนรูปพระเยซู และสัญลักษณ์ประจำศาสนาอย่างไม้กางเขนออก แล้วเป็นภาพวาดของประธานาธิบดีของพวกเขาแทนเพื่อที่จะได้รับความช่วยเหลือของโครงการบรรเทาความยากจน ซึ่งเป็นโครงการของรัฐบาลท้องถิ่นที่พยายามจะเปลี่ยนแปลงให้ผู้ที่ศรัทธาในศาสนามาศรัทธาในรัฐบาลแทน ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณทะเลสาบผอหยาง ซึ่งเป็นแหล่งน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน ในมณฑลเจียงซี เป็นที่รู้จักกันว่าประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณเหล่านี้ ส่วนมากจะมีฐานะที่ไม่ค่อยดีนักและนับถือศาสนาคริสต์ โดยประชาชนประมาณ 11 เปอร์เซ็นที่อาศัยอยู่บริเวณดังกล่าว มีรายได้ต่ำกว่ามาตรฐานความยากจนที่รัฐบาลจีนได้จัดทำขึ้นและมีประชากรอีกเกือบ 10 เปอร์เซ็นที่นับถือศาสนาคริสต์ที่นั่นตามข้อมูลจากทางการของประเทศจีน แต่ว่าในตอนนี้รัฐบาลท้องถิ่นของประเทศจีนได้นำมาตรการบรรเทาความยากจนมาเป็นข้ออ้างให้ ผู้ที่นับถือศาสนาคริสต์นำรูปภาพของพระเยซูที่อยู่กลางบ้านของพวกเขาออกรวมทั้งให้เลิกเชื่อต่อคำสอนต่างๆ โดยให้ติดรูปของประธานาธิบดีสีจิ้นผิงแทน เพื่อฝึกให้ประชาชนเคารพเชื่อฟังรัฐบาลมากกว่าคำสอนของศาสนา เหมือนกับในสมัยของท่านผู้นำคนก่อนอย่าง เหมาเจ๋อตุง ที่บางบ้านของประเทศจีนในตอนนี้ยังมีรูปของเขาติดอยู่ที่บ้านอยู่เลย ภายใต้การนำของท่านผู้นำสี ได้ตั้งเป้าไว้ว่าจะกำจัดความยากจนให้หมดไปภายในปี 2020 ซึ่งเป็นเป้าหมายอันดับหนึ่งของรัฐบาลในตอนนี้ แคมเปญนี้ไม่เพียงแต่สำคัญต่อมรดกทางด้านการเมืองที่รับช่วงต่อมาจากประธานาธิบดีเหมาเจ๋อตุง แต่ยังทำให้ผู้คนระดับรากหญ้าเชื่อฟังรัฐบาลมากขึ้น ซึ่งนั่นจะทำให้รัฐบาลมั่นคงตามไปด้วยนั่นเอง โดยในเมืองยู่กัง ผู้นำที่ไม่เชื่อในศาสนากำลังต่อสู้กับอิทธิพลของศาสนาคริสต์ซึ่งแพร่กระจายอย่างรวดเร็วในหมู่บ้านชนบทยากจนและในเมืองที่เจริญรุ่งเรืองบางเมือง ซึ่งเป็นผลมาจากการปฏิวัติวัฒนธรรมเมื่อ 40 ปีก่อน ในตอนนี้คาดว่ามีคนที่นับถือศาสนาคริสต์ในประเทศจีนแล้วกว่า 90 ล้านคนเลยทีเดียว ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้จากโครงการนี้ก็คือในตอนนี้มีชาวบ้านกว่า 600 คนที่ “สมัครใจ” กำจัดภาพเขียนที่เกี่ยวข้องกับศาสนาที่มีอยู่ในบ้านของพวกเขาออกไปและแทนที่ด้วยภาพของท่านผู้นำสี ซึ่งนี่เป็นตัวเลขจากวันที่ 13 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ขณะที่ในตอนนี้โครงการนี้กำลังเดินหน้าต่อไปอย่างเรื่อยๆ ในจังหวัดอื่นๆ …
-
บ้าน ‘ประกอบ’ แนวโมเดิร์นจากจีน ใช้เวลาสร้างไม่ถึง 24 ชั่วโมง ในงบแค่ 330,000 บาท!!
สำหรับในประเทศจีน การจะมีบ้านดีๆ ซักหลังเป็นเรื่องยาก เพราะราคาของมันนั้นแพงเกินกว่าที่คนทั่วไปจะจ่ายไหว โดยเฉพาะในกรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของประเทศยิ่งแทบเป็นไปไม่ได้ นั่นจึงทำให้ Fan และลูกของเธอต้องอาศัยอยู่ในบ้านเก่าๆ โทรมๆ อยู่ตรงลานหน้าบ้านพ่อแม่ของเธอด้านนอกตัวเมือง แม้ว่าเธอได้อยู่ใกล้ๆ กับครอบครัวอย่างที่เธอต้องการ แต่เธอก็ยังคงมีความฝันที่จะได้มีบ้านสไตล์โมเดิร์นซักหลังและด้วยปัญหาเรื่องของงบประมาณ เธอจึงไปขอความช่วยเหลือจากบริษัทดีไซน์ People’s Architecture Office (หรือ PAO) ที่ช่วยทำให้ฝันของเธอกลายเป็นจริงในที่สุด บ้านที่ Fan ได้รับ ช่วยเติมเต็มความฝันของเธอ นักออกแบบของบริษัทจึงได้ออกแบบผลงานบ้านที่มีชื่อว่า Plug-in House ในเดือนธันวาคม 2016 ก่อนที่จะนำมันมาสร้างให้กับหญิงสาวและลูกชาย บ้านหลังนี้มีความพิเศษตรงที่วัสดุอุปกรณ์ทั้งหมดใช้งบประมาณเพียงแค่ 330,000 บาทเท่านั้น อีกทั้งยังสามารถนำมาประกอบสร้างโดยใช้เวลาแค่ไม่ถึง 1 วัน!! จากตอนแรกบ้านมีลักษณะเก่าและทรุดโทรม แต่ก็เปลี่ยนไปได้ในเวลาแค่ไม่ถึง 1 วัน ไม่ใช่เพียงแค่ภายนอกที่ดูเปลี่ยนแตกต่างกันมาก เพราะภายในนี่คือมันยิ่งกว่าคำว่าบ้านคนละหลังแต่นี่มันคือคนละโลกชัดๆ โครงสร้างแต่ละส่วนสามารถนำมาประกอบเข้ากันได้อย่างง่ายดาย ทางทีมออกแบบถึงกับบอกเลยว่า “บ้านหลังนี้ไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องจักรใดๆ และไม่ต้องใช้ช่างฝีมือเฉพาะทางเลย” ประมาณว่าขอแค่มีแรงคนก็เกินพอแล้วว่างั้น การก่อสร้างที่ใช้เวลาไม่ถึง…
-
ล้ำไปอีก “รถรางพลังไฮโดรเจน” ไร้มลพิษขบวนแรกของโลก เริ่มใช้งานในจีนแล้ว
วันที่ 31 ตุลาคม 2560 เว็บไซต์ Shanghaiist มีรายงานว่า รถรางไฮบริดที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฮโดรเจนคันแรกของโลก ได้ถูกนำมาใช้งานในเมืองถังซาน มณฑลเหอเป่ย์ ประเทศจีนแล้ว เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 26 ตุลาคม ที่ผ่านมา จากการรายงานระบุว่า รถรางแบบไฮบริดคันนี้ เป็นรถรางเชิงพาณิชย์ที่ใช้พลังงานจากไฮโดรเจน ได้รับการพัฒนาขึ้นโดยบริษัท Tangshan Railway Vehicle (TRC) ภายใต้การแนะนำของบริษัทผลิตรถไฟชั้นนำของจีนอย่าง China Railway Rolling Stock Corporation (CRRC) สำหรับรถรางไฮบริดคันนี้ สามารถเดินทางได้ไกลถึง 40 กิโลเมตร ด้วยความเร็ว 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมงต่อการเติมเชื้อเพลิงหนึ่งครั้ง และบรรทุกผู้โดยสารได้ถึง 336 คน และที่สำคัญ ยังใช้เวลาเติมเชื้อเพลิงไฮโดรเจนให้เต็มเพียง 15 นาทีเท่านั้น และแน่นอนว่าสิ่งที่น่าประทับใจที่สุดเกี่ยวกับรถรางไฮบริดคันนี้ก็คือ ไม่มีการปล่อยมลพิษใดๆ ออกมาทั้งสิ้น ยกเว้นแต่ไอน้ำเท่านั้น ทั้งนี้ การสร้างรถรางไฮบริดดังกล่าว…
-
เด็กชายชาวจีนจ้างสาวผ่านแอพเดท เพื่อให้ไปเป็น “แม่ปลอม” ในวันประชุมผู้ปกครอง
ในปัจจุบันคุณสามารถเช่าทุกสิ่งทุกอย่างได้ในประเทศจีน ตั้งแต่การเช่าตุ๊กตายาง เช่าแฟนหลอกๆ ไปจนถึงจ้างผู้ปกครองปลอมก็มีแล้วเช่นกัน และเมื่อเร็วๆ นี้ บนสื่อโซเชียลในจีนได้มีกระแสฮอตที่ชาวเน็ตกำลังถกเถียงกันอย่างหนัก ภายหลังจากที่เด็กนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษารายหนึ่ง ได้เสนอเงินให้กับหญิงสาวเพื่อจ้างวานให้เธอมาเข้าร่วมการประชุมผู้ปกครองแทนพ่อแม่ของเขาที่โรงเรียน วันที่ 30 ตุลาคม 2560 เว็บไซต์ต่างประเทศมีรายงานว่า หญิงสาวรายนี้ได้ออกมาโพสต์ข้อความลงบนโลกออนไลน์ว่า โดยปกติแล้วเธอจะรับค่าใช้จ่ายสำหรับผู้ที่มาจ้างให้เธอไปเป็นเพื่อนกิน เพื่อนเที่ยวผ่านแอปจ้างแฟนตัวปลอม แต่เมื่อเร็วๆ นี้เธอได้พบว่าลูกค้าคนล่าสุดของเธอเป็นเพียงแค่เด็กนักเรียนชั้นประถมเท่านั้น โดยเขาได้จ่ายเงินให้เธอจำนวน 500 หยวน (หรือราวๆ 2,500 บาท) เพื่อจ้างให้เธอปลอมเป็นแม่ของเขาในการไปเข้าร่วมประชุมผู้ปกครองกับทางโรงเรียนเป็นเวลา 2 ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม เด็กชายรายดังกล่าวได้เผยว่า พ่อแม่ของเขามักจะเดินทางไปทำธุระอยู่บ่อยครั้ง และไม่สามารถมาร่วมประชุมผู้ปกครองได้ ดังนั้นเขาเลยตัดสินใจที่จะจ้างผู้หญิงคนนี้ไปประชุมผู้ปกครองกับคุณครูแทนแม่ของตัวเอง ทั้งนี้ ในรายงานไม่ได้ระบุชัดเจนว่าหญิงรายดังกล่าวได้ตกลงที่จะไปเข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้หรือไม่ ภายหลังจากที่เรื่องราวนี้ได้ถูกเผยแพร่ลงในสื่อออนไลน์ ก็มีชาวเน็ตหลายๆ คนได้พากันเข้าแสดงความเห็นกันอย่างมากมาย โดยมีชาวเน็ตรายหนึ่งได้เล่าเรื่องราวของเขาว่า… เขาเองก็เคยจ้างผู้หญิงที่ขายไอศกรีมอยู่นอกโรงเรียน ให้มาเข้าร่วมการประชุมผู้ปกครองแทนพ่อแม่ของเขาเช่นกัน แต่ทว่าเขากลับพลาดเพราะครูดันไปรู้จักกับคนขายไอศกรีมซะอย่างนั้น ในขณะที่ชาวเน็ตส่วนใหญ่ต่างก็พากันกังวลเกี่ยวกับเด็กที่ถูกพ่อแม่ละเลย ซึ่งมันสะท้อนให้เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าพวกเขาไม่เคยสนใจเรื่องการศึกษาของลูกเลย …
-
เผยโฉม “ห้องสมุดเทียนจิน” สถานที่อ่านหนังสือแห่งอนาคต ยิ่งใหญ่และอลังการที่สุดในโลก
นี่อาจจะเป็นหอสมุดที่หนอนหนังสือทั้งหลายตามหามาทั้งชีวิต เพราะสถานที่แห่งนี้เรียกได้ว่านอกจากจะถูกออกแบบขึ้นมาได้อย่างอลังการงานสร้าง และงดงามสะดุดตาแล้ว ยังเป็นแหล่งการเรียนรู้ชั้นดีที่เต็มไปด้วยหนังสือมากถึง 1.2 ล้านเล่ม!! เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2560 ทางเว็บไซต์ Shanghaiist ได้เผยภาพของหอสมุดสุดเลอโฉม ในเมืองเทียนจิน ประเทศจีน ที่รายล้อมไปด้วยชั้นวางหนังสือมากมาย และมันกำลังจะกลายเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ ที่พร้อมจะมาช่วยเติมเต็มความสุข และความรู้ให้กับประชาชนชาวจีนในแบบที่ครบทุกองค์ประกอบ สำหรับหอสมุดดังกล่าวได้รับการออกแบบโดยบริษัท MVRDV จากประเทศเนเธอร์แลนด์ และได้เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการแก่ประชาชนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ภาพภายในตัวอาคารที่ถูกสร้างขึ้นมาให้มีลักษณะโดดเด่นสวยงามสะดุดตา ซึ่งมีจำนวนทั้งหมดถึง 5 ชั้น และครอบครองพื้นที่ทั้งหมดถึง 33,700 ตารางเมตรเลยทีเดียว ที่สำคัญหอสมุดแห่งนี้ไม่เพียงแต่จะเป็นสถานที่ให้ความรู้อย่างเดียวเท่านั้น แต่มันยังเต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการเรียนรู้อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น พื้นที่ในการอ่านหนังสือ ห้องสื่อมัลติมีเดีย รวมถึงมีสวนสาธารณะที่ให้ประชาชนได้พักผ่อนหย่อนใจอีกด้วย เรียกได้ว่ามันเป็นสถานที่ที่ยอดเยี่ยมที่สุดสำหรับผู้ที่อยากจะมาอ่านหนังสือ หรือค้นคว้าหาความรู้ในประเทศจีนเลยก็ว่าได้ ช่องที่ถูกเจาะทะลุเข้าไปกลางอาคารที่มีรูปทรงเว้าขนาดใหญ่ และรายล้อมไปด้วยหนังสือมากมาย ถือเป็นสิ่งที่ทำให้หอสมุดแห่งนี้มีความโดดเด่นเป็นอย่างมาก มีความล้ำสมัยสุดๆ ดูแล้วเหมือนหลุดเข้าไปในโลกแห่งอนาคตของภาพยนตร์แนววิทยาศาสตร์ยังไงยังงั้นเลย …
-
ล้ำไปอีก!! จีนผุด “รถบัสอัจฉริยะ” ไร้คนขับ ที่ดูเหมือนรถไฟวิ่งบนรางเป็นครั้งแรกของโลก
วันที่ 24 ตุลาคม 2560 สำนักข่าวเดลีเมล์มีรายงานว่า ผู้ผลิตรถไฟของจีนได้พัฒนารถบัสอัจฉริยะเออาร์ที (ART – Autonomous Rail Rapid Transit) แบบไม่จำเป็นต้องพึ่งคนขับเป็นครั้งแรกของโลก และเมื่อไม่นานมานี้ก็ได้มีการนำออกมาทดสอบบนถนนในนครจูโจว มณฑลหูหนานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากการรายงานระบุว่า รถโดยสารดังกล่าวถูกพัฒนาโดยหน่วยวิจัยของบริษัท CRRC Zhuzhou Locomotive ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถไฟที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดย ART เป็นรถโดยสารพลังงานไฟฟ้ารุ่นมาตรฐานที่มีความยาวราว 30 เมตร มีขนาดกว้าง 3.75 เมตร เดินทางด้วยความเร็ว 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และสามารถจุผู้โดยสารได้มากถึง 300 คนเลยทีเดียว นอกจากนี้ ART ยังมาในรูปลักษณ์ที่ผสมผสานระหว่างรสบัสและรถไฟแบบดั้งเดิมเข้าไว้ด้วยกัน พร้อมถูกติดตั้งระบบเซ็นเซอร์ที่สามารถวัดขนาดถนน และวางแผนเส้นทางได้ด้วยตัวเอง สุดยอดดด!! ด้าน Feng Jianghua หัวหน้าวิศวกรรถไฟได้ออกมากล่าวว่า “การสร้างรถบัส ART ขึ้นมาจะสามารถช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากเมื่อเทียบกับการสร้างระบบรถไฟใต้ดิน ซึ่งมีค่าใช้จ่าย 150-200…
-
อย่างเจ๋ง! นักวิทยาศาสตร์จีนพัฒนาสายพันธุ์ข้าว ให้สามารถปลูกในน้ำเค็มได้แล้ว!?
ข้าวเป็นอาหารหลักของผู้คนในหลายๆ ประเทศ เมื่อมีผู้บริโภคจำนวนมากก็ทำให้ต้องหาแหล่งที่ใช้ปลูกจำนวนมากตามไปด้วย แต่ปัญหานี้จะหมดไปเพราะว่านักวิทยาศาสตร์จากประเทศจีนได้พัฒนาให้สามารถปลูกในน้ำเค็มได้แล้ว!! ในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ผ่านมา มีข้าวมากกว่า 200 ชนิดได้ปลูกที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาข้าวแห่งเมือง Qingdao ซึ่งเป็นเมืองติดชายฝั่งแห่งหนึ่งในมณฑล Shandong ประเทศจีน โดยพวกเขาได้สูบน้ำจากทะเลเหลืองขึ้นมาทำให้เจือจางและใช้ในการทดลองปลูกข้าวจากน้ำทะเลนี้ การเจือจางสำหรับการปลูกข้าวได้นั้นจะเจือจางโดยการผสมน้ำจืดธรรมดาเพื่อลดความเค็มของน้ำทะเลลงให้เหลือ 6 กรัมต่อ 1 ลิตร ซึ่งจริงๆ แล้วน้ำทะเลมีความเค็มกว่าเกลือถึง 5 เท่า Yuan Longping ผู้นำการวิจัยในครั้งนี้กล่าวว่า การปลูกข้าวสายพันธุ์นี้จะสามารถช่วยให้ผู้คนได้มีข้าวกินได้ถึง 200 ล้านคน โดยการปลูกข้าวในน้ำเค็มนี้มีการทดลองมาแล้วหลายครั้งในประเทศจีน และในตอนนี้ข้าวที่ปลูกในน้ำเค็มเหล่านี้ก็ได้ออกสู่ตลาดให้ผู้คนได้ทดลองชิมแล้วโดยพวกเขาใช้ชื่อว่า “ํYuan Mi” ซึ่งนี่เป็นความภาคภูมิใจของนักวิทยาศาสตร์ที่ได้พัฒนามันขึ้นมาอีกด้วย สำหรับข้าวที่พวกเขานำมาขายนี้เป็นการปลูกจากปีที่แล้ว และในปีนี้ข้าวที่ปลูกไว้ก็พร้อมให้เก็บเกี่ยวในเดือนพฤศจิกายนที่จะมาถึง โดยราคาของข้าวชนิดนี้จะมีราคาที่แพงกว่าข้าวปกติถึง 8 เท่าโดยราคาขายต่อ 1 กิโลกรัมจะอยู่ที่ 250 บาท แต่ว่าข้าวชนิดนี้จะมีแคลเซียมและธาตุอาหารที่มีอยู่มากมายจากน้ำทะเลเข้ามาเสริมด้วย นอกจากนั้นเกลือจากน้ำทะเลสามารถที่จะฆ่าเชื้อแบคทีเรียบางชนิดที่อยู่ในเม็ดข้าวได้ ทำให้ข้าวชนิดนี้จึงเหมาะสำหรับผู้ที่รักสุขภาพนั่นเอง ที่มา: nextshark , scmp
-
รวม 12 ภาพสะพานยักษ์ใหญ่ของจีน เชื่อมการขนส่งสู่พื้นที่ห่างไกล จนความเจริญไปทั่วถึง
ประเทศจีน หนึ่งในยักษ์ใหญ่จากทวีปเอเชียที่ก้าวขึ้นมามีบทบาทในด้านต่างๆ ของโลก ไม่ว่าจะเป็นในด้านเศรษฐกิจ สังคม หรือแม้แต่ในด้านเทคโนโลยีในการก่อสร้างเองก็ตาม แน่นอนว่านอกจากรถไฟความเร็วสูงแล้ว ในแดนมังกรแห่งนี้เองก็เต็มไปด้วยสิ่งก่อสร้างขนาดยักษ์ต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นอาคารพาณิชย์ สนามกีฬา เขื่อน และรวมถึงสะพานด้วยเช่นกัน และในวันนี้เราก็ได้รวบรวม 12 สะพานยักษ์ใหญ่จากประเทศจีน ที่แสดงให้เห็นว่าถึงความก้าวหน้าทางด้านวิศวกรรมของที่นี่… 1. สะพานซื่อตู้เหอในเมืองเอินซือ มณฑลหูเป่ย ท่ามกลางไอหมอก 2. สะพานข้ามอ่าวเจียวโจวในเมืองชิงเต่า มณฑลซานตง สะพานที่มีระยะทางยาวกว่า 40 กิโลเมตร และใช้เงินในการก่อสร้างมากถึง 16,000 ล้านเหรียญสหรัฐ 3. สะพานจาหนาง ข้ามแม่น้ำยาลุงซังโปร์ ในอำเภอจาหนาง เขตซานหนาน เขตปกครองตนเองทิเบต ที่มีความยาวทั้งหมด 5.7 กิโลเมตร 4. สะพานข้ามแม่น้ำเป่ยผานเจียงที่เชื่อมมณฑลกุ้ยโจวกับมณฑลยูนนานเข้าไว้ด้วยกันมีความยาวทั้งหมด 1.24 กิโลเมตร 5. สะพานข้ามแม่น้ำต้าตู้ในเสฉวน 6. ไซต์ก่อสร้างส่วนหนึ่งของสะพานข้ามทะเลเชื่อมฮ่องกง จูไห่ มาเก๊า…
-
รวม 20 ภาพบรรยากาศ “โกลเด้นวีค” ในประเทศจีน วันหยุดยาวผู้คนเดินทางเพียบ!!
วันสงกรานต์หรือวันปีใหม่ไทยจะเป็นช่วงที่ทำให้เราได้หยุดกันแบบยาวๆ ที่อย่างต่ำก็ต้อง 3 วันขึ้นไป ในช่วงนั้นเราก็จะได้เห็นผู้คนเดินทางกลับบ้านหรือไปเที่ยวต่างจังหวัดกันอย่างล้มหลาม แต่ไม่ได้มีเพียงแค่บ้านเราหรอกนะที่จะมีช่วงวันหยุดยาวกันอย่างนั้นเพราะในประเทศจีน พวกเขาก็มีวันหยุดยาวที่ได้พักกันนานกว่าของเราซะอีก เพราะทุกคนในประเทศจะได้หยุดกันไปนานถึง 1 สัปดาห์หรือก็คือ 7 วันนั่นเอง ในจีนจะมีช่วงที่เรียกว่า “โกลเด้นวีค” เป็นสัปดาห์แห่งวันหยุดโดยในหนึ่งปีจะมีสองครั้งคือตอนวันปีใหม่จีนและวันชาติ ซึ่งเป็นวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมานี่เอง ผู้คนตามสถานีขนส่งในวันสงกรานต์บ้านเรานี่เทียบไม่ติดเลยจริงๆ ด้วยเหตุนี้ ช่วงดังกล่าวจึงเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวชาวจีนกว่า 710 ล้านคนได้ออกไปในสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ยิ่งไปกว่านั้นในช่วงวันชาตินี้ก็จะมีการจัดงานเทศกาลหรือคอนเสิร์ตอยู่เยอะแยะทั่วประเทศไปหมด จึงไม่แปลกที่ช่วงนี้ชาวจีนจะขยันไปใช้บริการการคมนาคมสาธารณะต่างๆ อย่างเช่นรถไฟหรือรถประจำทางไม่อย่างนั้นก็ขับรถไปเองบนทางด่วน จนทำให้ทุกที่ที่กล่าวมานั้นแน่นขนัดไปกันหมด ผู้ปกครองคงต้องล่ามโซ่กับบุตรหลานเอาไว้ ไม่อย่างนั้นหายชัวร์ ตอนนี้บางคนอาจเริ่มคิดว่าคนจีนเยอะขนาดไหนจะแห่กันมาไทยกันหมดเลยหรือเปล่า เราขอบอกเลยว่าไม่เพราะด้วยเรื่องของค่าใช้จ่ายและกังวลในความปลอดภัยจึงทำให้พวกเขาเกือบทั้งหมดตัดสินใจที่จะเที่ยวกันแต่ภายในประเทศ จึงเป็นที่น่าเสียดายที่นักท่องเที่ยวเหล่านี้ไม่ได้เข้ามาจับจ่ายในไทย แต่เอ๊ะ หรือว่าเราควรจะดีใจที่คนจำนวนมากขนาดนี้ไม่มากระจุกอยู่ในประเทศเรา… เดินชนกันจนไหล่ถลอกหมดแล้วมั้งเนี่ย เด็กน้อยได้มีโอกาสออกมาดูโลกกว้าง.. หรือว่าความวุ่นวายกันแน่นะ พื้นที่จริงๆ มันก็กว้างนะ แต่ทำไมรู้สึกว่ามันแค๊บบบแคบ ตั๋วรถบ้านเขานี่ไม่มีวันหมดหรอ? ไม่ว่าจะเป็นการคมนาคมแบบไหนก็เต็มไปด้วยผู้คนที่ล้นหลาม ขยายทางหน่อยมั้ย.. มันน่าจะดีขึ้นนะ …
-
ทัวร์จีน 6 ล้านคน เตรียมเที่ยว “ไทย” เป้าหมายอันดับหนึ่งในช่วงสัปดาห์ทองนี้!!
นี่อาจจะเป็นข่าวดีสำหรับใครที่มีกิจการที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว เพราะอีกไม่กี่เดือนที่จะถึงนี้จะเป็นช่วงสัปดาห์ทองของประเทศจีน ซึ่งจะมีวันหยุดติดกันนานถึง 8 วันเลยทีเดียว!! โดยในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ เรียกได้ว่าเป็นสัปดาห์ทองของชาวจีนเลยก็ว่าได้ เพราะทางการได้ออกมาประกาศให้เป็นวันหยุดยาว เนื่องจากเป็นงานเทศกาลไหว้พระจันทร์และวันชาติของพวกเขานั่นเอง จากการรายงานมีการคาดการกันว่าในช่วงหยุดยาวนี้จะมีชาวจีนออกมาเที่ยวภายในประเทศมากถึง 650 ล้านคน และอีกกว่า 6 ล้านคนที่จะเดินทางไปเที่ยวยังต่างประเทศอีกด้วย โดยปกติแล้วชาวจีนจะนิยมวางแผนเที่ยววันหยุดยาวในต่างประเทศประมาณ 4-6 วัน แต่อย่างไรก็ตามในช่วงปีหลังๆ ระยะเวลาในการท่องเที่ยวในต่างประเทศนั้นกลับมีตัวเลขเพิ่มสูงถึง 10 วันต่อทริปเลยทีเดียว ส่วนจากการสำรวจพบว่า 3 ประเทศที่นักท่องเที่ยวจีนนิยมไปมากที่สุดในปีนี้ได้แก่ ประเทศไทย ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา แน่นอนว่าประเทศไทยนั้นเป็นเป้าหมายหลักในฝันของชาวจีนหลายๆ คนเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีการคาดการณ์ว่า ตัวเลขของนักท่องเที่ยวในประเทศ ญี่ปุ่น ไทย อินโดนีเซีย และกัมพูชา จะมีการเพิ่มสูงขึ้นอีก หลังจากที่มีการปรับให้การขอวีซ่านั้นง่ายขึ้น และนอกจากความนิยมในการท่องเที่ยวแล้ว บางพื้นที่ในประเทศจีนเองก็เป็นสถานที่ยอดนิยมไม่แพ้กัน อย่างเช่นจังหวัดต่างๆ ในมลฑลกานซู่ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศจีน ประเทศมองโกเลีย เนื่องจากมีความสะดวกในการเดินทางนั่นเอง แบบนี้ใครที่กำลังมีแผนที่จะเดินทางไปเที่ยวประเทศจีนในช่วงเดือนตุลาคม ก็คงจะต้องวางแผนกันดีๆ ล่ะนะ แต่สำหรับใครที่ทำธุรกิจท่องเที่ยวหรือค้าขายล่ะก็อาจจะเป็นข่าวดีก็ได้นะ!!ที่มา chinadaily
-
9 เมืองชื่อดังจากรอบโลก ที่คุณสามารถไปเที่ยวได้ใน “ประเทศจีน” แบบว่าเนียนสุดๆ
เมื่อพูดถึงเรื่องการก๊อปปี้ หลายคนคงจะนึกถึงประเทศจีน เพราะเป็นประเทศที่ก๊อปได้ทุกอย่าง ตั้งแต่ของใช้ ของกิน รวมไปถึงการก๊อปเมืองชื่อดังจากรอบโลกด้วย และนี่คือ 9 เมืองสุดอลังการชื่อดังจากรอบโลก ที่คุณสามารถไปเที่ยวได้ครบทุกที่ภายใน “ประเทศจีน” แหม่ ก็อปซะเนียนเลยนะ 1. Florentia Village หมู่บ้าน Florentia Village ตั้งอยู่ใกล้กับเมืองพอร์ตของเทียนจิน ซึ่งถูกออกแบบมาให้คล้ายกับหมู่บ้านหมู่ในอิตาลี เรียกได้ว่าเป็นการก๊อปได้เนียนมากๆ ไม่ว่าจะเป็นน้ำพุ ลำคลอง กระเบื้องโมเสค แถมยังมีร้านชื่อดังอย่าง Gucci และ Prada ด้วย ที่นี่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่อิตาลี และไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น เพราะมันถูกสร้างขึ้นมาโดยนักพัฒนาชาวอิตาลีนั่นเอง 2. เมืองปารีส เมื่อออกไปทางนอกเมืองหางโจวประมาณ 2-3 ชั่วโมง คุณพบกับเถียนตู้เฉิง ซึ่งเป็นการจำลองเมืองปารีสที่มาพร้อมกับหอไอเฟลสุดอลังการ ที่นี่ถูกตั้งให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่รองรับนักท่องเที่ยวได้ถึง 10,000 คน แต่ภาพที่เห็นส่วนใหญ่คือ มันมักจะถูกปล่อยให้โล่งอยู่เสมอ 3. Hallstatt ท่ามกลางมณฑลกวางตุ้งของจีน เป็นที่ตั้งการจำลอง Hallstatt ซึ่งเป็นหมู่บ้านอัลไพน์ที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ในออสเตรีย นอกจากนี้ จีนยังได้ทุ่มงบกว่า 30,000 ล้านบาทในการก๊อปปี้ UNESCO World Heritage…
-
ชีวิตสุดรันทดยายวัย 71 ต้องสวมมาสคอตพิกะจู เพื่อหาเลี้ยงคนในครอบครัวที่กำลังป่วย…
เบื้องหลังการแต่งเป็นมาสคอต เราไม่รู้หรอกว่าคนที่สวมใส่ชุดเหล่านั้นหน้าตาเป็นอย่างไร เพศไหน อายุเท่าไหร่ ซึ่งหลายๆ คนอาจจะคิดว่าผู้ที่มาสวมใส่ชุดหนักๆ แบบนี้ จะต้องเป็นหนุ่มสาววัยรุ่นร่างกายแข็งแรง แต่นั่นอาจจะไม่ใช่ความคิดที่ถูกต้องไปซะทั้งหมด เพราะในบางครั้งตัวการ์ตูนมาสคอตที่แสนน่ารักอาจจะถูกสวมใส่โดยคุณยายวัย 71 ปี ก็เป็นได้ เว็บไซต์ Shanghaiist ได้เผยเรื่องราวชีวิตสุดรันทดของ Han คุณยายวัย 71 ปีรายหนึ่ง ที่สวมชุดมาสคอตพิกะจูเปิดการแสดงอยู่ข้างถนนในมณฑลซานตง ประเทศจีน โดยเหตุผลที่คุณยายต้องออกทำงานเป็นเพราะว่า เธอต้องการหาเงินไปรักษาคนในครอบครัวที่กำลังป่วยถึง 3 คนนั่นเอง ย้อนกลับไปในปี 2007 คุณยาย Han ได้รู้ว่าลูกสาวของเธอได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นเนื้องอกในสมอง หลังจากนั้น เธอก็ใช้เวลาทั้งชีวิตในการดูแลรักษาลูกสาวของเธอ แต่น่าเศร้าที่ภายหลังลูกสาวของคุณยายกลับต้องมาสูญเสียดวงตาไปอีก และอีก 1 ปีต่อมา สามีของคุณยายที่ทำอาชีพเป็นคนงานก่อสร้าง ก็ได้ตกลงมาจากอาคาร และทำให้ขาของเขาหัก ซึ่งก็เป็นเรื่องที่น่าเศร้าเกิดขึ้นซ้ำครั้งที่สอง และคุณยายก็ไม่ได้มีเงินมากพอที่จะนำมาใช้ในการผ่าตัดสามีในครั้งนี้ด้วย แต่ทว่าความโชคร้ายที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของคุณยาย Han ยังไม่จบเพียงเท่านั้น เพราะเมื่อปีที่ผ่านมา ลูกเขยซึ่งเป็นเสาหลักของครอบครัวก็ต้องมาเป็นอัมพาตเพราะเกิดอุบัติเหตุ และความหวังเดียวที่เหลืออยู่สำหรับครอบครัวก็คือ คุณยาย Han ที่จะต้องมาเลี้ยงดูทั้งลูกสาว…
-
ยอดดาราตัวจริง ‘โจว เหวินฟะ’ ออกมาช่วยเก็บกิ่งไม้บนถนน หลังไต้ฝุ่นฮาโตะสงบลง…
เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางตอนใต้ของประเทศจีนจีน มาเก๊า และฮ่องกง ต่างโดนถล่มอย่างหนักจากไต้ฝุ่นฮาโตะ จนเกิดเป็นความเสียหายที่มากที่สุดในรอบหลายปีเลยก็ว่าได้ หลังจากพายุฮาโตะพัดผ่านไป ก็ทิ้งไว้แต่เศษซากความเสียหายที่คิดเป็นเงินมูลค่ามหาศาล แถมยังสร้างรอยแผลให้กับผู้คนมากมาย แต่ยังไงผู้คนก็ยังต้องมาช่วยกันจัดการกับเศษซากความเสียหายกันต่อไป ทว่าชายคนหนึ่งกลับสังเกตเห็น ‘โจวเหวินฟะ’ ดาราพระเอกคนดังของฮ่องกงออกมาช่วยเก็บเศษซากความเสียหายเช่นกัน แถมมาเองในชุดลำลองด้วย!! เหตุการณ์ดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นที่ฮ่องกง บริเวณเกาลูน ซึ่งเจ้าตัวก็ออกมายืนยันว่าตนออกมาช่วยเก็บกวาดท้องถนนจริง เพื่อให้ผู้คนได้กลับมาใช้ถนนได้อย่างปลอดภัยอีกครั้ง รวมถึงจัดการเก็บกวาดต้นไม้ที่พังลงมาด้วย ปกติแล้วการจะเห็นดาราในสถานการณ์แบบนี้ได้ ส่วนใหญ่มักจะเกิดจากการจัดอีเว้นท์หรือออกงานรวมตัวช่วยเหลือผู้ประสบภัย ดาราผู้มีชื่อเสียงถึงจะออกมาทำอะไรแบบนี้ แต่สำหรับโจวเหวินฟะแล้วกลับไม่เป็นแบบนั้น… ส่วนถ้าใครที่คิดว่าเขามาสร้างภาพหรือเปล่า ก็ต้องบอกว่าเรื่องนี้ยืนยันได้ว่าเขาเป็นคนนิสัยแบบนี้จริงๆ เพราะขนาดไปดูหนังที่ตัวเองแสดงเขายังต่อคิวซื้อตั๋วเหมือนคนปกติเลย นี่ขนาดเป็นถึงดาราระดับท็อปของฮ่องกงเลยนะเนี่ย!! นอกจากนั้นย้อนกลับไปเมื่อปี 2014 เขายังได้ประกาศว่าถ้าเขาเสียชีวิตเมื่อไหร่ เขาจะบริจาคสมบัติมูลค่ารวมกว่า 5 พันล้านบาทให้กับการกุศลอีกด้วย นับว่าเป็นดาราดังที่ใช้ชีวิตแบบคนธรรมดา มีแนวคิดการใช้ชีวิตดีๆ ไม่ถือตนยกสูง แม้ตัวเองจะมีชื่อเสียงโด่งดังมากแค่ไหนก็ตาม ที่มา weixin
-
พิซซ่าจีนออกเมนูใหม่ “พิซซ่าหน้าทุเรียน” แถมฮิตสุดๆ แบบว่าคอทุเรียนตัวจริงไม่พลาด
หากคุณเป็นคนที่ชอบพิซซ่า และทุเรียน คุณจะรักพิซซ่าหน้าทุเรียนด้วยหรือไม่? ใช่แล้ว!! ฟังไม่ผิดแน่ๆ เพราะในตอนนี้พิซซ่าฮัทในประเทศจีน ได้ออกเมนูใหม่ล่าสุดนั่นคือ การนำทุเรียนมาเป็นส่วนผสมหลักในการทำพิซซ่า จนกลายเป็น “พิซซ่าหน้าทุเรียน” นั่นเอง เมื่อพูดถึงทุเรียน ถือเป็นราชาแห่งผลไม้ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีความโดดเด่นในเรื่องของกลิ่น รวมรูปร่างหน้าตา และรสชาติอันชวนลิ้มลอง (แต่สำหรับบางคนนี้ถึงกับเบือนหน้าหนี ฮ่า) ถึงบางคนจะไม่ชอบ แต่ทุเรียนก็ถือเป็นผลไม้ที่ได้รับความนิยมอย่างมากโดยเฉพาะในบ้านเรา แถมยังถูกนำมาสร้างสรรค์เป็นเมนูอาหารมากมาย เช่น ข้าวเหนียวทุเรียน ไอศกรีมรสทุเรียน เป็นต้น และในตอนนี้ ราชาผลไม้อย่างทุเรียนก็ถูกนำมาผสมผสานกับอาหารของชาติตะวันตก ที่ทางพิซซ่าฮัทของจีนได้ทำการสร้างสรรค์เมนูใหม่ในชื่อ “พิซซ่าหน้าทุเรียน” ซึ่งเมนูนี้กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศจีน แม้ว่าเราอาจจะคาดเดารสชาติไม่ออกในตอนนี้ แต่ทางบรรดาผู้สื่อข่าวจากหนังสือพิมพ์ Wall Street Journal จำนวน 10 คน ได้ทำการทดสอบรสชาติของเมนูพิซซ่านี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งผลที่ได้ปรากฏว่า ผู้ทดลอง 4 คน บอกว่ามันทั้งหอม และน่ากิน และอีก 3 คนที่เหลือบอกว่ามันน่าสนใจมาก ส่วน 3 คนรู้สึกไม่ประทับใจ ทางด้านโฆษกของ Yum…
-
หนุ่มชาวจีน เนียนปะปนผู้คนก่อนงัด “กระปู๋” ออกมาสาดน้ำกามใส่สาว ตามสถานีรถไฟใต้ดิน…
วันที่ 4 สิงหาคม 2017 ทางเว็บไซต์ Shanghaiist มีรายงานว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัวชายวัย 28 ปีรายหนึ่ง จากเมืองไท่โจว ประเทศจีน ภายหลังจากที่กล้องวงจรปิดได้จับภาพในขณะที่เขากำลังก่อเหตุอนาจารในที่สาธารณะ โดยการพ่นน้ำอสุจิใส่หญิงสาวบริเวณสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินในเมืองอู๋ซี มณฑลเจียงซู จากการรายงานระบุว่า เวลาที่ชายคนดังกล่าวจะทำการก่อเหตุในแต่ละครั้ง เขามักเลือกเหยื่อที่เป็นผู้หญิง จากนั้นก็อาศัยจังหวะในการล้วงอวัยวะเพศของตัวเองออกมา แล้วพ่นน้ำอสุจิใส่ข้างหลังของเหยื่อสาว และเมื่อเดือนที่แล้ว มีหญิงรายหนึ่งกำลังเดินขึ้นบันได้เลื่อนในสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินในเมืองอู๋ซี โดยในขณะนั้นเธอมีความรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างมาโดนข้างหลัง อีกทั้งยังรู้สึกเหมือนมีใครบางคนมาสัมผัสบริเวณต้นขาของเธอ จนในที่สุด เธอก็พบรอยเปื้อนปริศนาบนกระโปรง ก่อนจะรู้ภายหลังว่ามันคือคราบอสุจิ และทันทีที่เธอรู้ว่ามีคนทำอนาจารใส่ เธอก็ได้โทรไปแจ้งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที . เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจสอบก็พบว่า ผู้ต้องหารายนี้เป็นพนักงานโรงงาน และไม่เคยมีแฟนสาวมาก่อน อีกทั้งเขายังเคยก่อเหตุในลักษณะเช่นนี้มาแล้วกว่า 3 ครั้งที่สถานีรถไฟใต้ดินที่เดียวกัน เพียงแต่ก่อเหตุคนละจุด อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้ชายวัย 28 ปีคนดังกล่าว ก็ได้ถูกทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจับตัวไปคุมขังเป็นระยะเวลานาน 10 วันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ได้แต่หวังว่าจะไม่มีคนคิดวิกลจริตแบบนี้อีกเลยนะ… ที่มา : shanghaiist
-
คลิปเผยการถ่ายแบบแฟชั่นจากจีน ที่ต้องเปลี่ยนชุด 150 ตัว โพสต์ท่า 700 ครั้งในวันเดียว…
ถ้าหากคุณได้ไปเป็นนางแบบแฟชั่นเสื้อผ้า หรือสินค้าของ Taobao จากประเทศจีน บอกเลยว่าการโพสต์ท่าถ่ายภาพต่อเนื่อง อาจจะเป็นเรื่องที่คุณต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เนื่องจากนางแบบจะต้องมีความสามารถในการโพสต์ท่าให้รวดเร็วที่สุด บางคนสามารถโพสต์ได้ 30 ท่า โดยใช้เวลาเพียงแค่ 15 วินาทีเท่านั้น เพราะในบางวันพวกเธอจะต้องเปลี่ยนชุดมากกว่า 150-200 ชุดเลยทีเดียว และเมื่อไม่นานมานี้ มีคลิปวีดีโอของนางแบบ Taobao จากจีนรายหนึ่ง ที่ได้ถูกนำมาเผยแพร่ลงสู่เฟสบุ๊ค รวมสื่อโซเชียลมีเดียอื่นๆ ซึ่งคลิปดังกล่าวก็ทำให้หลายคนถึงกับตะลึงกับความรวดเร็วในการโพสต์ท่ารัวๆ แบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ขณะถ่ายแบบแฟชั่นของเธอเป็นอย่างมาก และคุณรู้หรือไม่ว่าการถ่ายแบบแฟชั่นเหล่านี้ เหล่านางแบบจะต้องมีความเป็นมืออาชีพสุดๆ แถมยังต้องทำเวลาให้รวดเร็วมาก เพราะในแต่ละวันพวกเธอจะต้องเปลี่ยนชุดมากถึง 150 ชุด แถมยังต้องโพสต์ท่ามากกว่า 700 ท่า และมีเวลาพักรับประทานอาหารเพียง 10 นาทีเท่านั้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ถึงแม้ว่ามันจะเป็นการทำงานที่เหน็ดเหนื่อย แต่มันก็สามารถทำรายได้ดีมากๆ เช่นกัน เพราะเพียงแค่ 1 วัน นางแบบบางคนสามารถทำเงินได้ถึง 10,000 หยวน หรือประมาณ 50,000 บาทกันเลยทีเดียว และทั้งหมดนี้ก็เป็นคลิปวีดีโอของเหล่านางแบบที่แสดงการโพสต์ท่าถ่ายแบบอย่างรวดเร็ว ว่าแล้วก็มารับชมกันเลย…
-
คุณปู่วัย 80 ลงทุนเดินเท้าไกลกว่า 60 กิโลเมตร เพื่อนำ ‘ไข่’ ไปให้หลานชายถึงที่ทำงาน
วันที่ 20 กรกฎาคม 2017 ทางเว็บไซต์ Shanghaiist ได้เผยภาพพร้อมเรื่องราวของ คุณปู่วัย 80 ปีรายหนึ่ง ที่แบกตะกร้าเอาไว้บนหลัง กำลังเดินช้าๆ อยู่บนถนนในเมืองจุนอี้ มณฑลกุ้ยโจว ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีน ซึ่งภายหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าไปสอบถาม ก็พบว่า คุณปู่ท่านนี้ กำลังเดินทางไปหาหลานชายของเขา เนื่องจากเขาเป็นห่วงหลานชายที่ทำงานหนัก และกลัวว่าจะกินไม่อิ่ม ด้วยเหตุนี้ คุณปู่จึงได้แบกตะกร้าที่ใส่ไข่ไก่หลายสิบฟองไปหาเขา โดยได้เดินทางออกจากบ้านตั้งแต่ 7 โมงเช้าของวันจันทร์ไปยังเมืองจุนอี้ โดยมีระยะทางไกลถึง 60 กิโลเมตร ซึ่งก็ใช้เวลานานกว่า 12 ชั่วโมงเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม คุณปู่ได้เผยกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า เหตุที่เขาเลือกที่จะไม่นั่งรถยนต์นั้น ก็เพราะว่าต้องการที่จะประหยัดเงิน แต่เขาก็ยอมรับว่าในขณะที่เดินทางเป็นเวลานาน มีไข่แตกไปแล้วหลายใบ ภายหลังจากที่พบหลานชายของคุณปู่ เขาก็ได้ออกมาเผยว่า เขาไม่รู้เลยว่าคุณปู่จะเดินทางมาหาเขาพร้อมกับนำไข่มาให้ ซึ่งเขาก็ได้บอกว่าจะพาคุณปู่ออกไปทานอาหารอร่อยๆ หลังจากเดินทางมานานหลายชั่วโมง ขณะที่ภาพการเดินทางของคุณปู่วัย 80 ได้ถูกนำไปแชร์บนโลกออนไลน์ ก็ได้รับความสนใจจากชาวเน็ตจีนเป็นอย่างมาก ซึ่งพวกเขาก็ได้ออกมาแบ่งปันเรื่องราวน่ารักๆ ระหว่างพวกเขากับปู่ย่าตายายที่พวกเขารัก ทั้งนี้ มีชาวเน็ตอีกหลายๆ…
-
นี่คือ “อุโมงค์สีเขียว” ในประเทศจีน ที่เต็มไปด้วยความงดงาม และยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
นครเฉิงตู มณฑลเสฉวน ประเทศจีน นอกจากจะเป็นที่ตั้งของสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมายแล้ว ยังเป็นที่ตั้งของ “อุโมงค์สีเขียวขจี” ที่ทั้งสวยงาม และน่าอัศจรรย์ใจอีกด้วย ในครั้งนี้ #เหมียวขี้อ้อน จะขอพาเพื่อนๆ ทุกคนมารับชม และรู้จักอุโมงค์ดังกล่าว ที่บอกเลยว่าหากใครได้มีโอกาสไปเยือนนครเฉิงตู คุณจะต้องแวะไปถ่ายรูปสวยๆ ให้ได้เลยนะ สำหรับอุโมงค์สีเขียวแห่งนี้ ความจริงแล้วเป็นสะพานวงแหวนแห่งเฉิงตู ที่สร้างขึ้นในปี 2556 นอกจากนี้ ยังได้เพิ่มความน่าดึงดูด และน่าสนใจเข้าไปด้วยการปลูกไม้เลื้อยเอาไว้ตลอดระยะทาง 28 กิโลเมตร จึงทำให้มันกลายเป็นสะพานสีเขียวอันงดงามแบบนี้… เมื่อเวลาผ่านไป ไม้เลื้อยเหล่านี้ก็ได้เติบโตขึ้น และค่อยๆ งอกงามจนกลายเป็นเป็นซุ้มสีเขียวหนา ที่ช่วยสร้างร่มเงา และสร้างความสบายตาให้แก่ผู้เดินทางเป็นอย่างมาก นอกจากความงดงามแล้ว อุโมงค์แห่งนี้ยังเป็นแหล่งช่วยสร้างออกซิเจน และช่วยลดมลพิษทางอากาศได้อีกทางด้วย เรียกได้ว่ามีทั้งความสวยงามที่น่าอัศจรรย์ใจ แถมยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เห็นแล้วอยากจะไปสัมผัสความเขียวขจีแบบนี้เต็มๆ ตาสักครั้งจัง ที่มา : photovide, cgtn
-
พาไปดูทางหลวงในประเทศจีน ที่ถูกยกสูงเหนือพื้นถึง 72 เมตร ดูยังไงก็รางรถไฟเหาะชัดๆ…
ต่อไปนี้การเดินทางของพี่น้องชาวจีนอาจจะมีความตื่นเต้นมากขึ้น พวกเขาอาจจะรู้สึกเหมือนกับว่ากำลังขับรถไฟเหาะอยู่แน่ๆ เพราะล่าสุดทางการจีนได้เปิดใช้ทางหลวงที่ยกสูงถึง 72 เมตรแล้ว!! ทางการของเขตฉงชิ่ง ผู้รับผิดชอบทางหลวงที่สูงและตั้งตระหง่าอยู่กลางเมืองแห่งนี้ดูเผินๆ อาจจะคล้ายกับรางรถไฟเหาะขนาดใหญ่ และนี่คือทางหลวงที่ว่านี้ เป็นไงล่ะดูเหมือนรางรถไฟเหาะเลยใช่มั้ย?? เส้นทางขนาดยักษ์นี้ ตั้งอยู่เหนือพื้นดินถึง 72 เมตร ซึ่งมันถูกพยุงไว้ด้วยเสาปูนขนาดใหญ่ และมีเส้นทางที่คดเคี้ยวดูคล้ายกับรางรถไฟในสวนสนุกเลยทีเดียว ซึ่งแน่นอนว่าถ้าหากใครที่เป็นโรคกลัวความสูงอาจจะต้องคิดกันหนักหน่อยล่ะ ถ้าหากว่าจำเป็นจะต้องขับรถผ่านเส้นทางนี้ แต่ถ้าหากใครที่ชอบความตื่นเต้นก็ดูน่าสนุกไม่น้อยเลยทีเดียวนะ… ไม่ว่าจะสูงงงง แค่ไหนก็ไปถึงงงง!! ทางหลวงนี้ไม่ใช่สิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ชิ้นแรกของเขตฉงชิ่ง ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีสิ่งก่อสร้างหลากหลายอย่างที่ทำให้ชาวเน็ตต่างตกตะลึงกันมานักต่อนักแล้ว และการสร้างสิ่งปลูกสร้างขนาดใหญ่เหล่านี้ ก็กลายเป็นเอกลักษณ์ของเมืองไปแล้ว เพราะพวกเขามองว่าตึกและถนนขนาดใหญ่จะช่วยเพิ่มจุดเด่นให้กับเมืองได้ บรรยากาศการขับรถบนทางหลวงยกสูงสายนี้ หวาดเสียวพอตัวเลยนะ!! แหม่… ถ้าใครใจไม่แข็งอาจเป็นลมได้เลยนะเนี่ย ฮ่าๆ ที่มา shanghaiist
-
เจ้าหมาโกลเด้นยอดคุณธรรม กระโดดลงแม่น้ำซูโจว คอยเก็บขวดที่ถูกทิ้งขว้างมานานสิบปี
ในขณะที่มนุษย์มุ่งแต่จะทำให้สภาพแวดล้อมสกปรกลงเรื่อยๆ เจ้าสุนัขโกลเด้นรีทรีฟเวอร์ตัวหนึ่งในเมืองซูโจวก็ไม่ยอมแพ้ พยายามทำให้เมืองอันเป็นที่รักของมันสะอาดตลอดเวลา… เจ้าตูบตัวนี้ไม่มีการเปิดเผยชื่อ แต่มันเป็นสุนัขที่พยายามเก็บขวดในแม่น้ำเมืองซูโจวมาเป็นเวลาหลายสิบปีแล้ว โดยความพยายามของมันเรียกว่าน่ายกย่องมากๆ เพราะมันจะต้องกระโดดลงไปในแม่น้ำ พร้อมกับคาบกลับขึ้นมาทีละขวดๆ หลังจากคาบขวดมาแล้วมันก็จะนำขวดดังกล่าวไปทิ้งลงถังขยะ ทางด้านเจ้าของบอกว่า ทุกครั้งที่เขาและสุนัขของเขาออกมาที่สวนสาธารณะใกล้แม้น้ำแห่งนี้ สุนัขของเขาก็จะลงแม่น้ำไปเก็บขวดได้มากถึงวันละ 20 ขวดเลยทีเดียว เจ้าของยังบอกเสริมอีกว่า ถ้านับตั้งแต่ครั้งแรกๆ ที่เจ้าโกลเด้นไปเก็บขวดจนถึงปัจจุบัน จนป่านนี้ก็ผ่านมาร่วมสิบกว่าปีแล้ว ก็น่าจะรวมขวดที่คนทิ้งเรี่ยราดได้มากกว่า 2,000 ขวดเข้าไปแล้วล่ะ สู้ๆ เจ้าโกลเด้น ภาพนี้จะเห็นว่า แม่น้ำที่มันต้องว่ายไปเก็บขวด กว้างพอสมควรขนาดที่เรือใหญ่ผ่านได้เลยนะ สุดท้ายพออ่านเรื่องราวของมันก็ต้องชื่นชมจริงๆ ว่ามันเป็นสุนัขที่นิสัยดีมากๆ ซึ่งมันก็คงทำให้เราย้อนกลับมาดูที่ตัวเองว่า ขนาดสุนัขยังรักษาความสะอาดไม่อยากให้เมืองของมันสกปรก แล้วพวกเราล่ะ ทำไมถึงยังคงทิ้งขยะเรี่ยราดกันแบบนี้อยู่? ถ้าเราช่วยกันรักษาความสะอาดแล้วทิ้งขยะลงถัง รับรองว่าเมืองของพวกเราจะน่าอยู่มากๆ อย่างแน่นอน ฉะนั้นก็อย่ายอมแพ้เจ้าโกลเด้นเข้าล่ะ เดี๋ยวจะโดนล้อว่านิสัยแย่กว่าสุนัขจะหาว่าไม่เตือน… ฮร่าาาาา ที่มา shanghaiist
-
แพนด้ายักษ์จากจีน กลายเป็นดาวเด่นชั่วข้ามคืน หลังมี “ภาพหลุด” ตอนถูกโกนขาหลัง!!
หลังจากที่มีภาพของเจ้าแพนด้ายักษ์ตัวหนึ่ง ได้ถูกนำไปเผยแพร่ลงบนอินเตอร์เน็ตในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็ทำให้มันได้รับความสนใจจากบรรดาชาวเน็ตเป็นอย่างมาก จนทำให้เจ้าแพนด้าอ้วนตัวนี้ได้กลายเป็นดาวเด่นไปชั่วข้ามคืน เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2560 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศได้เผยภาพของ Yuanxiao แพนด้ายักษ์จากศูนย์วิจัยแพนด้าในเมืองเฉิงตู ประเทศจีน ขณะที่มันกำลังนอนชิวๆ อย่างสบายใจ แต่ที่น่าสนใจมากกว่านั้นก็คือ เจ้าแพนด้าตัวนี้จะมีความแตกต่างจากแพนด้าตัวอื่นๆ ตรงที่บริเวณขาด้านหลังของมันได้ถูกโกนออกจนขนหมดเกลี้ยง งานนี้จึงทำให้บรรดาชาวเน็ตที่ได้เห็นภาพของมัน ได้มาแสดงความเห็นกันแบบขำๆ ว่า เหมือนมันไม่ได้ใส่กางเกงเลย สำหรับภาพดังกล่าว ไม่ใช่ภาพในปัจจุบันของเจ้า Yuanxiao แต่เป็นภาพที่ถูกถ่ายขึ้นเมื่อปี 2008 ซึ่งในขณะนั้นเจ้า Yuanxiao กำลังได้รับบาดเจ็บที่ขาของมันหลังจากที่ได้ต่อสู้กับแพนด้าตัวอื่น และนั่นจึงทำให้ทางเจ้าหน้าที่จากศูนย์วิจัย ได้ทำการโกนขนบริเวณที่ขามันออก เพราะจะได้สะดวกต่อการทำแผลยังไงละ หลังจากที่ผ่านเหตุการณ์ในครั้งนั้นมาได้ ตอนนี้เจ้า Yuanxiao ได้เติบโตขึ้น และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข อีกทั้งขาของมันก็หายเป็นปกติดีแล้วจ้า ที่มา : shanghaiist
-
สุดยอดฮีโร่!! หนุ่มจีนกระโดดลงจากรถไฟแบบไม่คิดชีวิต เพื่อช่วยหญิงชราจนถูกทับขาขาด
การข้ามทางรถไฟ ถือเป็นสิ่งที่ต้องพึงระวัง ยิ่งถ้าเป็นผู้สูงอายุที่หูตาไม่ดี พวกเขาอาจไม่ได้ยินเสียงเตือน หรือไม่ได้สังเกตเห็นสัญญาณไฟ เหมือนดังเช่นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับหญิงชรารายนี้ เธอเกือบได้รับอันตรายจากการข้ามรางรถไฟ แต่โชคดีที่รอดมาได้เพราะมีฮีโร่หนุ่มมาช่วยเอาไว้ได้ทัน เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2560 ทางเว็บไซต์ Shanghaiist มีรายงานว่า ในบ่ายของวันพฤหัสบดีที่ 6 กรกฎาคม 2017 Xu Qiankai หนุ่มวัย 29 ปี หนึ่งในผู้ควบคุมรถไฟกำลังขับรถไฟอยู่ในเส้นทางชานเมืองฉงชิ่ง โดยในขณะนั้น เขาได้เห็นหญิงชราคนหนึ่งกำลังเดินข้ามทางรถไฟ ด้วยเหตุนี้เขาต้องรีบดึงเบรกฉุกเฉินและส่งเสียงแตรเตือน แต่แทนที่หญิงรายนั้นจะรู้ตัว เธอกลับยังยืนนิ่งอยู่บนรางรถไฟ ทางด้าน Xu หลังจากที่เขาเห็นว่าเธอไม่ขยับตัว และกำลังจะถูกรถไฟพุ่งเข้าบดขยี้ร่าง จึงทำให้เขารีบกระโดดลงจากรถไฟ พร้อมกับวิ่งเข้าไปหาเธอ และผลักเธอให้พ้นออกไปจากที่เกิดเหตุทันที แม้ว่าเขาจะสามารถช่วยเหลือหญิงรายดังกล่าวได้ทันเวลา แต่ตัวเขาเองกลับเคราะห์ร้ายถูกรถไฟทับบริเวณขาจนได้รับบาดเจ็บสาหัส และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลโดยด่วน อย่างไรก็ตาม นาย Xu สามารถรอดชีวิตจากเหตุการณ์ในครั้งนี้มาได้ แต่ก็น่าเศร้าก็คือ เขาต้องถูกแพทย์ตัดขาด้านขวาออกหลังจากที่ถูกรถไฟบดขยี้ “ถึงแม้ว่าผมจะสูญเสียขาไป แต่ผมก็สามารถช่วยชีวิตคนๆ หนึ่งเอาไว้ได้…
-
มาไทยบ้างสิ!! KFC เปิดสาขาใหม่ในจีน รูปแบบสายเขียวเพื่อสุขภาพ เมนูเน้นผักล้วนๆ
เมื่อพูดถึง KFC หลายคนคงจะนึกถึงเมนูไก่ทอดกรอบชิ้นโตๆ พร้อมกับเมนูของทอดแสนอร่อยอื่นๆ อีกมากมาย แต่สำหรับ KFC ที่ประเทศจีน บอกเลยว่าเรื่องของทอดของมันต้องหลบไป เพราะที่นี่เขาเน้นบริการอาหารคลีนๆ สำหรับคนรักสุขภาพโดยเฉพาะ เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2017 ทางเว็บไซต์ Shanghaiist มีรายงานว่า ในขณะนี้ KFC ที่ประเทศจีน ได้เปิดบริการเมนูอาหารเพื่อสุขภาพเป็นหลัก โดยมาในแบรนด์ใหม่ที่ชื่อ “K Pro” เป็นสาขาแรกที่เมืองหางโจว สำหรับ K Pro นั้นจะแต่งต่างจาก KFC ตรงที่ทางร้านจะไม่เน้นขายของทอดของมัน แต่รายการอาหารจะเน้นไปที่อาหารเพื่อสุขภาพทั้งหมด โดยเมนูก็จะมีทั้งผักสลัดหน้าอกไก่ย่าง กุ้งและแซลมอนรมควัน มาพร้อมกับเครื่องดื่มแสนอร่อยอย่างน้ำผลไม้ นอกจากนี้ยังมีเบียร์สดสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการดื่มเบียร์อีกด้วย ในส่วนของการออกแบบและตกแต่งภายในร้านก็น่าสนใจไม่น้อย เพราะภายในร้านได้ถูกออกแบบขึ้นมาให้บรรยากาศดูผ่อนคลาย เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงการมีสุขภาพที่ดี ขณะที่ชุดของพนักงานจะไม่ใช่ชุดเหมือนกับของแบรนด์ KFC ทั่วไป แต่จะถูกเปลี่ยนเป็นชุดสีเขียวแทน . . อย่างไรก็ตาม ในช่วง 2-3…
-
จอมยุทธ์ว่าไง!? เส้นทาง Parkour ยาวที่สุดในโลกที่บันได 999 ขั้น แห่งภูเขาเทียนเหมินซาน
Parkour เป็นกีฬาประเภทหนึ่งที่ผสมผสานความคล่องตัวและความรวดเร็วเข้าด้วยกันเพื่อเอาชนะอุปสรรคต่างๆ ในเส้นทางด้วยท่าทางตามธรรมชาติ เป็นการข้ามผ่านอุปสรรคในเส้นทางอย่างเป็นศิลปะและมีประสิทธิภาพมากที่สุด และสำหรับใครที่ชอบกีฬาประเภทเอ็กซ์ตรียมแบบนี้ล่ะก็ #เหมียวปั๊ก ขอเชิญไปพบกับเส้นทาง Pakour ที่ยาวที่สุดในโลก ซึ่งตั้งอยู่ที่ภูเขาเทียนเหมินซาน มณฑลหูหนานประเทศจีน บรรยากาศจากจุด Start เส้นทางดังกล่าวถูกจัดทำขึ้นเป็นพิเศษเพื่อรองรับกิจกรรมโดยเฉพาะ เป็นอุปสรรคและสิ่งกีดขวางตั้งแต่บันไดชั้นบนสุดเรื่อยมาจนถึงชั้นล่าง แห่งภูเขาที่ขึ้นชื่อว่ามีบันได 999 ขั้นท้าทายคนให้เดินขึ้นไป Calen Chan นักกีฬา Parkour นั้นได้ติดตั้งกล้องไว้ที่ศีรษะก่อนที่จะเริ่มทำการวิ่ง กระโดด ปีนป่ายลงมาตามเส้นทาง วู้วววว โอ้วเย่! แม้จะมีอุปสรรคอยู่บ้าง แต่ Celen ก็ไม่หวั่น สไลด์ก็ได้ กระโดดก็ดี หลังจากที่เข้าถึงเส้นชัยเขากฌได้แสดงความรู้สึกว่า “แม้นี่จะเป็นการ Parkour ที่น่าปวดหัวอยู่บ้างเนื่องมาจากนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เข้ามาแทรกตัวตามเส้นทาง แต่มันก็เป็นประสบการณ์ที่ท้าทายและตื่นเต้นไปอีกแบบ” เพื่อความสมจริง เชิญชมเส้นทาง “บันไดสู่ประตูสวรรค์ 999 ขั้น” ได้เลย ทั้งท้าทาย ทั้งน่าสนุกในเวลาเดียวกัน #เหมียวปั๊ก ได้ยินมาว่า หัวใจสำคัญของ…
-
สุนัขที่กำลังจะถูกฆ่า ได้เริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง หลังจากที่ชายหนุ่มจ่ายเพื่อไถ่ชีวิตมันไว้…
เรื่องจริงของเจ้าหมาน้อยผู้น่าสงสารตัวหนึ่ง ที่เกิดมาพร้อมกับชะตากรรมที่น่าเศร้า มันไม่เคยได้รับความรักและความอบอุ่นจากเจ้าของมาก่อน แต่เมื่อได้พบกับคุณ Xingyi Danielle ชีวิตของมันก็เปลี่ยนไป คุณ Xingyi Danielle หญิงชาวสิงค์โปร์ที่ทำงานอยู่ในประเทศจีน ได้บังเอิญพบกับเจ้าหมาผู้น่าสงสารตัวนี้เข้าระหว่างที่เธอและคุณพ่อกำลังเดินซื้อของอยู่ในตลาดสดแห่งหนึ่ง เจ้าหมาถูกใส่ถุงเอาไว้เพื่อเตรียมชำแหละสำหรับจำหน่ายเป็นเนื้อสด คุณพ่อของเธอจ่ายเงินประมาณ 3,000 บาทเพื่อช่วยชีวิตของเจ้าหมาตัวนั้นไว้ คุณ Danielle บอกว่า “สภาพของที่นั่นไม่เหมาะกับสุนัขอย่างมาก ดังนั้นผมจึงต้องช่วยเหลือมัน” เมื่อกลับมาถึงบ้าน พ่อของเธอได้ทำการถ่ายภาพของเจ้าหมาที่พวกเขาเพิ่งช่วยชีวิตเอาไว้ได้ เพื่อแสดงให้เห็นว่าเจ้าหมานั้นถูกใส่เอาไว้ในกระสอบราวกับว่ามันไม่ใช่สิ่งมีชีวิต และนี่คือสภาพของเจ้าหมาที่พวกเขาช่วยออกมาได้ สภาพของเจ้าหมาในตอนแรกที่พบกับคุณ Danielle และพ่อของเธอ ตอนนี้เจ้าหมาปลอดภัยดีแล้ว และพวกเขาตั้งชื่อให้กับมันว่า Doggo แต่ทว่าอาร์พาทเม้นต์ที่ครอบครัวของคุณ Danielle อาศัยอยู่นั้นไม่อนุญาตให้นำสุนัขขึ้นไปเลี้ยง ดังนั้นพวกเขาจึงเลี้ยงมันไว้ทำงานของพ่อเธอก่อน “เพื่อนร่วมงานของคุณพ่อก็บ่นเกี่ยวกับเจ้าหมาอยู่เหมือนกัน แต่ว่าพวกเราก็ยังคงพยายามที่จะหาที่ปลอดภัยให้กับมันอยู่” คุณ Danielle กล่าว หลังจากที่ได้รับความอบอุ่นและการดูแลอย่างดี เจ้าตูบก็กลับมาสดใสร่าเริงได้อีกครั้ง Doggo เป็นหมาที่ร่าเริงและดูมีความสุขมากขึ้นกว่าตอนแรกมาก ต้องขอบคุณครอบครัวของคุณ Danielle จริงๆ ที่ตัดสินใจช่วยเหลือมันออกมา ถึงแม้ว่าการบริโภคเนื้อสุนัขจะไม่เป็นที่นิยมมากในประเทศจีน แต่ทว่าก็ยังคงมีการซื้อขายเนื้อสุนัขจำนวนมากสำหรับพิธีกินเนื้อสุนัขในเมืองยู่หลิน แต่ข่าวดีก็คือตอนนี้ทางการได้ออกกฎหมายเกี่ยวกับการบริโภคเนื้อสุนัขใหม่แล้ว ซึ่งเป็นผลให้ความต้องการเนื้อสุนัขลดลงด้วย …
-
เปิดตัวหมู่บ้านดีไซน์ล้ำ เพราะสถาปัตยกรรมเกือบทั้งหมด มีส่วนประกอบหลักเป็นไม้ไผ่!!
เป็นที่รู้กันดีว่าไม้ไผ่ ถือเป็นไม้ที่มีความยืดยุ่นมาก สามารถนำมาใช้เป็นวัสดุในการสร้างก่อสิ่งต่างๆ ได้เป็นอย่างดี และเป็นไม้ขึ้นชื่อของประเทศจีน อีกทั้งยังเป็นอาหารหลักของหมีแพนด้าอีกต่างหาก!! ด้วยเหตุนี้ศิลปินชาวจีนนามว่า Ge Qiantao จึงร่วมมือกับ George Kunihiro สถาปนิกผู้มีชื่อเสียง ได้จัดตั้งงาน International Bamboo Architecture Biennale ขึ้นมา โดยร่วมมือกันสร้างหมู่บ้านที่มีไม้ไผ่เป็นองค์ประกอบหลัก ซึ่งตั้งรวมกับหมู่บ้าน Baoxi ของประเทศจีน ส่วนสิ่งก่อสร้างต่างๆ ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นที่พักรับรองและพิพิธภัณฑ์เซรามิก โดยใช้วัสดุธรรมชาติดั้งเดิมอย่างไม้ไผ่ผนวกเข้ากับการออกแบบสมัยใหม่ ส่วนทางด้านหมู่บ้าน Baoxi ก็ออกมาสนับสนุนอย่างเต็มที่ พร้อมกับหวังว่าโปรเจคดังกล่าวจะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวชมอาคารบ้านเรือน โรงแรม รวมถึงศูนย์การเรียนรู้ด้วย ดีไซน์สวยงามและลงตัวมากๆ แม้แต่ตัวสะพานในหมู่บ้านก็ยังมีส่วนผสมประกอบของไม้ไผ่ การออกแบบก็ดูดีเช่นกัน ภายในของศูนย์วิจัยและออกแบบผลิตภัณฑ์ไม้ไผ่ เรียบแต่หรู!! ต้องยอมรับเลยว่าพวกเขาทำออกมาได้เยี่ยมจริงๆ แม้จะบอกว่าเป็นบ้านไม้ไผ่ แต่ก็ไม่ได้ใช้แต่ไม้ไผ่อย่างเดียว เพราะยังต้องการความแข็งแรงและทนทาน ตัวพิพิธภัณฑ์เซรามิก มีการวางกำลังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเป็นอย่างดี ภายในพิพิธภัณฑ์เซรามิก ก็มีดีไซน์สวยงามไม่แพ้อาคารหลังอื่นเลย อีกมุมหนึ่งของศูนย์วิจัยและออกแบบผลิตภัณฑ์ไม้ไผ่ ส่วนนี่ก็เป็นทางเดินของศูนย์ฯ มุมมองจากภายในของตัวสะพานที่เราเห็นข้างนอกกันไปแล้ว…
-
เฮ้ยยยยยย… ร้านเคบับเนื้อจระเข้ในจีน พาจระเข้ออกมาเดินโชว์ หวังช่วยโปรโมทการขาย!!
ไม่นานมานี้ในเมืองเสิ่นหยาง มณฑลเหลียวหนิง ได้มีกระแสโซเชียลเกี่ยวกับร้านเคบับแห่งหนึ่ง ที่ได้พาจระเข้ออกมาเดินตามท้องถนนเพื่อเป็นการโปรโมทร้าน หวังเรียกลูกค้าให้มากขึ้น? เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นเป็นกระแสดังหลังจากที่มีชาวเน็ตได้ถ่ายภาพพนักงานของร้านเคบับพาจระเข้ออกมาเดินไปตามท้องถนน ซึ่งดูเหมือนทางร้านพึ่งจะเปิดตัวเนื้อชนิดใหม่ซึ่งก็คือเนื้อจระเข้นั่นเอง แน่นอนว่าย่อมตามมาด้วยเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากมาย ภาพดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงผู้คนที่มารุมล้อมร้านดังกล่าว และเหมือนแผนการตลาดนี้ก็จะได้ผล เพราะผู้คนมากมายต่างพากันเข้ามาที่ร้านเคบับแห่งนี้ นอกจากเนื้อจระเข้เสียบไม้แล้ว ทางร้านดังกล่าวยังขายอาหารจำพวกแมลงต่างๆ อีกด้วย นอกจากเนื้อจระเข้ก็ยังแมงป่อง ตะขาบและอื่นๆ อีเพียบ บอกตรงๆ #เหมียวมู่ทู่ ไม่เคยกินเนื้อจระเข้หรอกนะ แต่จากในภาพมันก็ดูเหมือนเนื้อหมูติดมันหน่อยๆ เลยแฮะ หลายคนก็บอกว่ามันมีรสชาติไม่ต่างจากเนื้อไก่สักเท่าไร ส่วนถ้าใครกำลังคิดว่าแล้วเนื้อจระเข้จะผิดกฏหมายไหม ก็ต้องบอกเลยว่าในประเทศจีนนั้นการค้าเนื้อจระเข้ถือเป็นเรื่องที่ถูกกฏหมายและไม่มีอะไรที่ผิดแต่อย่างใด ใส่สายจูงซะเหมือนพาสุนัขมาเดินเล่นเลย เทียบไซส์กับสุนัขข้างหลังนี่ขนาดพอๆ กัน ทางด้านชาวเน็ตหลายคนที่ได้อ่านข่าวดังกล่าว ก็มีเสียงสะท้อนออกมาในรูปแบบที่แตกต่างกัน บ้างก็บอกว่า “มันไม่ได้เจ๋งเลย และฉันก็ไม่สนด้วยว่าพวกคุณจะเป็นใคร” หรือบางคนบอกว่า “ฉันหวังว่าพวกมันจะทำกับเจ้าของแบบนี้บ้าง หรือกับใครก็ตามที่ทำแบบนี้กับมัน ” และ “นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน!!?” ขณะที่บางคนก็ดูจะเฉยๆ และออกไปในแนวชื่นชอบการโปรโมทแบบนี้ พร้อมคอมเม้นท์ติดตลก “ทำแซนวิชเนื้อจระเข้มาให้ที ขอด่วนๆ เลยนะ!” …
-
ชมสถานีรถไฟใต้ดินสุดแปลกในจีน หรูหราแต่ไร้ผู้คน โผล่เหนือดินมาอยู่กลางป่าที่ไหนเนี่ย!?
อันที่จริงต้องบอกว่า ระบบการขนส่งสาธารณะของประเทศเค้าอาจจะดีมากซะจนมันครอบคลุมไปทุกพื้นที่ แม้แต่ในพื้นที่ที่ไม่มีผู้โดยสารเลยก็ตาม วันนี้เราจะพาไปดูสถานีรถไฟฟ้าสุดแปลกจากเมืองจีน ความแปลกของมันคือดูภายนอกเหมือนจะไม่มีอะไร ตั้งอยู่กลางป่ารกชัฏ แถมยังดูรกร้างผู้คน แต่พอเข้าไปข้างใต้เท่านั้นแหละ.. ทำไมมันดูดีจังว้าา ชื่อสถานีว่า Caojiawan เป็นหนึ่งในสถานีเส้นทางสาย 6 ของรถไฟฟ้า Chongqing Metro ด้วยความที่มันมาตั้งกลางโพรงหญ้า แถมดูอ้างว้างไร้ผู้คนแบบนี้ ทำให้มันกลายเป็นสถานีที่ได้ชื่อว่าแปลกที่สุด ถึงแม้จะมีทางออกจากสถานีทั้งหมด 3 ทาง แต่ด้วยความที่มันไร้ซึ่งผู้คน ทำให้ต้องเปิดบริการเพียงแค่ช่องทางเดียวเท่านั้น นอกจากจะตั้งอยู่ห่างไกลจากถนนใหญ่แล้ว ยังซ่อนตัวอยู่ตามโพรงหญ้าต่างๆ ทำให้เป็นสถานีที่หาเจอได้ยากมาก ‘เป็นปกติครับที่สถานีนี้จะไม่มีคน นานๆ ครั้งเราถึงจะเห็นผู้โดยสารมาลงที่สถานีนี้’ พนักงานสถานีรถไฟฟ้าให้สัมภาษณ์ ถึงข้างบนจะดูรกร้างว่างเปล่า แต่ข้างใต้กลับเป็นสถานีที่ดูดีใช้ได้เลยแหละ อิจฉาชาวเมืองที่มีระบบขนส่งครอบคลุมแบบนี้จัง เมื่อไหร่จะมีกับเค้าบ้างน๊าา ที่มา: Designyoutrust
-
สาวจีนใจกล้า พาครอบครัวเดินทางไปช่วยประเทศเดนมาร์ก ด้วยการจับหอยนางรม 200 กิโลมากิน
กลายเป็นเรื่องที่ชวนให้ชาวเดนมาร์กปวดหัวจริงๆ เพราะเมื่อช่วงต้นเดือนพฤษภาคม 2017 ที่ผ่านมามีข่าวว่าประเทศเดนมาร์กกำลังประสบกับปัญหาที่มีหอยนางรมเพิ่มจำนวนขึ้นมากจนทำให้ระบบนิเวศไม่สมดุล และดูเหมือนกับชาวเดนมาร์กจะไม่ชอบกินหอยชนิดนี้มากมายอย่างไรก็ไม่ทราบ แต่ในขณะที่อาหารดังกล่าวเป็นที่ชื่นชอบของชาวจีนหลายคนเลยทีเดียว ต่อมาได้มีข่าวว่าเว็บไซต์ Alibaba ได้หารือกับนักการทูตชาวเดนมาร์กเพื่อที่จะขนเอาหอยนางรมจำนวนมากไปขายในประเทศจีน ในขณะที่บริษัททัวร์บางแห่งเล็งที่จะจัดทัวร์เพื่อให้ชาวจีนได้เดินทางไปจับหอยนางรมกินกันถึงที่ประเทศเดนมาร์กโดยเฉพาะเลย แต่ดูเหมือนจะมีสาวชาวจีนใจกล้ารายหนึ่งที่ไม่อยากจะรอให้มีการจัดทัวร์ หรือสั่งซื้อหอยมานั่งกินที่บ้าน เพราะเธอได้พาครอบครัวเดินทางไปกินหอยนางรมกันถึงที่เดนมาร์กเลยทีเดียว!! เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่านาง Bian Miaomiao ได้เดินทางจากประเทศจีนไปอาศัยอยู่ที่ประเทศเดนมาร์กพร้อมกับสามีของเธอเมื่อราวๆ 7 ปีก่อน หลังจากที่นาง Bian Miaomiao ได้รับทราบข่าวว่าตอนนี้เดนมาร์กกำลังประสบปัญหากับการเพิ่มจำนวนของหอยนางรม เธอเลยตัดสินใจที่จะทำบางอย่างเพื่อช่วยเหลือประเทศนี้ เธอได้รวบรวมกลุ่มเพื่อนฝูงและครอบครัวแล้วเดินทางไปยังประเทศเดนมาร์ก สืบเสาะหาสถานที่ซึ่งเกิดปัญหาแพร่ระบาด ลงไปที่ชายหาดพร้อมกับเครื่องมือแงะหอยและอุปกรณ์ปิ้งอย่างครบมือ ตามรายงานของเว็บ Chengdu Business Daily บอกว่าเพียง 4 ชั่วโมง นาง Bian และมิตรสหายก็สามารถจับหอยมาได้มากกว่า 150-200 กิโลกรัมเลยทีเดียว พวกเขาจับเอาหอยนางรมมาปรุงอาหารในรูปแบบต่างๆ ทั้งปิ้งย่างแบบธรรมดา ผัดเผ็ดเสฉวน หรือไข่เจียวหอยนางรม …
-
ชาวเน็ตยกย่อง “คุณป้าชาวจีน” ตักเตือนชายหนุ่ม หลังจากถุยน้ำลายลงในขบวนรถไฟใต้ดิน!!
เชื่อว่าหลายคนคงจะมีนิสัยที่ชอบถุยน้ำลายลงพื้นกันใช่ไหมล่ะ แต่ว่าการถุยเรี่ยราดลงบนที่สาธารณะถือว่าเป็นเรื่องที่แย่พอสมควรเลยทีเดียว ยิ่งบนรถโดยสารหรือบนรถไฟที่มีคนอยู่เยอะแล้ว การทำพฤติกรรมดังกล่าวคนอื่นๆ ลงต่อหน้าย่อมสร้างความรังเกียจได้ไม่น้อยเลยทีเดียวล่ะ ทว่าล่าสุดก็ในประเทศจีนก็ได้มีกระแสไวรัลอย่างหนึ่งที่โชว์วีรกรรมอันน่ายกย่องของคุณป้าในเมืองเซี่ยงไฮ้ เธอพูดคุยว่ากล่าวกับชายหนุ่มคนหนึ่งบนรถไฟใต้ดิน หลังจากที่ชายคนดังกล่าวได้ถุยน้ำลายลงบนพื้นรถไฟ คุณป้าแกได้บอกกับชายคนดังกล่าวว่า “ถ้าฉันเป็นเจ้านาย ฉันจะไม่จ้างลูกจ้างแบบแกอย่างแน่นอน ลูกจ้างประเภทที่ไม่มีมารยาท” ทว่าเมื่อคุณไปพูดแบบนี้กับคนไร้มารยาท มีหรือที่คนประเภทนี้จะฟังง่ายๆ ชายคนดังกล่าวจึงจัดการถุยน้ำลายลงบนพื้นอีกรอบให้ทุกคนเห็นกันไปเลยว่าเขาไม่แคร์ หลังจากคุณป้าแกเห็นแบบนั้นจึงไม่รอช้าจัดการสวนหนุ่มคนดังกล่าวไปอีกหมัดว่า “นี่มันจะเกินไปแล้วนะคุณ คุณจะทำแบบนั้นที่นี้ไม่ได้ เพราะนี่ไม่ใช่บ้านของคุณ!!” หลังจากคุณป้าแกสวนกลับไป ทีนี้แหละผู้คนรอบๆ เริ่มจะเห็นด้วยกับป้าแกและส่งเสียงไล่ให้ชายคนดังกล่าวลงจากรถไปซะ เมื่อชายคนดังกล่าวทนไม่ไหว เขาจึงตัดสินใจลงจากรถไฟไปในที่สุด และคุณป้าก็ทำหน้าที่เอาทิชชู่ไปวางไว้ตามจุดที่ชายคนดังกล่าวถุยน้ำลายไว้ เพื่อไม่ให้คนอื่นมาเหยียบนั่นเอง ด้านชาวเน็ตก็ต่างออกมาแสดงความคิดเห็นต่างๆ นาๆ มากมายเลยทีเดียวเอาเป็นว่าลองมาดูกันดีกว่าชาวเน็ตมีความคิดเห็นยังไงบ้าง รัฐบาลจีนควรจะทำอะไรสักอย่างกับคนไร้มารยาทพวกนี้สักทีนะ ไม่ลองให้พวกเขาเอาลิ้นเลียพื้นที่ตัวเองทำสกปรกดูบ้างล่ะ!? ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคนจีนพวกนั้นจะยังทนอยู่กันได้ คุณป้าคนนี้เป็นฮีโร่ของจริงเลยล่ะ ไม่คิดมาก่อนเลยว่า หลายคนยังทำแบบนี้ในที่สาธารณะ มันน่ารังเกียจสุดๆ คุณป้าคนนี้สุดยอดจริงๆ ก็ต้องขอชื่นชมคุณป้าแกเลยที่กล้าจะเข้าไปตักเตือนชายคนดังกล่าว ส่วนถ้าใครที่ชอบทำอะไรแบบนี้ในที่สาธารณะ ก็พยามลดละเลิกได้แล้ว เพราะมันทำให้พื้นที่สกปรก และคนอื่นก็จะดูเราไม่ดีเอาซะเลยนะ!! ที่มา: shanghaiist
-
เปลี่ยนภาพลักษณ์ ‘ห้องน้ำสาธารณะจีน’ หรูหราดั่งโรงแรม ทุ่มเงินสร้างกว่า 4 ล้านบาท!!
ถ้าหากพูดถึงห้องน้ำสาธารณะในประเทศจีน หลายๆ คนอาจจะไม่อยากนึกภาพซักเท่าไหร่ เพราะจากคำบอกเล่าของพี่โน๊ต อุดม หรือคนอื่นๆ ที่เคยไปเยือนประเทศจีนมาแล้วนั้นก็พอจะรู้สรรพคุณกันดี แต่เมื่อไม่นานมานี้ได้มีการเปิดตัวห้องน้ำสาธารณะสุดหรูในจีนที่ใช้เงินในการก่อสร้างมากถึง 800,000 หยวน (4 ล้านบาท) เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราไปชมความอลังการของห้องน้ำที่ว่านี้กันเลย… รับรองคุณจะลืมภาพห้องน้ำสาธารณะแบบเดิมๆ อย่างแน่นอน ห้องน้ำสุดหรูแห่งนี้เปิดให้ใช้บริการเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายนในปี 2016 ที่ผ่านมาในย่าน Bishan ของเขตเทศบาลนครฉงชิ่ง ภายในของห้องน้ำแห่งนี้ถูกประดับตกแต่งด้วยหินอ่อนและไม้ พร้อมด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอีกมากมาย นอกจากนี้ยังมีการควบคุมอุณหภูมิภายในห้องน้ำให้อบอุ่นตลอดเวลาอีกด้วย และนี่คือภาพของห้องน้ำราคากว่า 4 ล้านบาทที่ว่านี้ ในส่วนของห้องน้ำสำหรับผู้พิการ ก็กว้างซะเหลือเกิน!! วัสดุที่นำมาตกแต่งแทบไม่น่าเชื่อเลยว่านี่คือห้องน้ำสาธารณะ และนี่คือภาพจากด้านนอกของห้องน้ำแห่งนี้ . . ระหว่างที่ทำธระส่วนตัว เราก็สามารถที่จะมองเห็นวิวด้านนอกได้ด้วยนะ ส่วนนี่คือบรรยากาศภายใน . . ห้องน้ำหรูแห่งนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ทำให้เห็นว่าย่าน Bishan เป็นผู้นำในการสร้างและพัฒนาห้องน้ำสาธารณะ โดยเมื่อปีที่ 2014 พวกเขาได้เปิดให้บริการห้องน้ำสาธารณที่มีความเป็นสาธารณะแบบสุดๆ ซึ่งตั้งอยู่ในตัวเมือง หรือห้องน้ำสาธารณะที่มีไวไฟฟรีที่มีความเร็วสูงด้วย …
-
อยากดังต้องจ้างปั้ม!! แง้มชมโรงงานเรียกเรตติ้งในจีน กระหน่ำถูกใจและแชร์นับหมื่นเครื่อง
ในยุคที่กระแสโซเชียล สามารถจะใช้เป็นตัววัดหลายๆ อย่างได้ ยอดไลค์กลายเป็นตัววัดความนิยมหรือสามารถใช้ตีเป็นมูลค่าได้จริงๆ จึงทำให้กิจการสีเทาปั๊มยอดไลค์เกิดขึ้นมา… ทว่าความต้องการยอดไลค์ในแต่ละครั้งนั้นเรียกว่าไม่น้อยเลย การจะมานั่งปั๊มกดไลค์ทีละครั้ง ถือว่าเป็นเรืองที่เสียเวลาและเป็นสิ่งที่มือสมัครเล่นเขาทำกัน วันนี้เราลองมาดูมืออาชีพในการปั๊มไลค์หน่อยเป็นไง กับโรงงานปั๊มไลค์เรียกเรตติ้งปลอมในจีน!! สำหรับสถานที่ตั้งของโรงงานปั๊มไลค์ในจีนแห่งนี้อยู่ที่ไหนนั้น ทางสำนักข่าวรัสเซียผู้เป็นต้นทางก็ไม่สามารถที่จะระบุได้เช่นกัน เพราะด้วยตัวกิจการที่เป็นสีเทา การจะเปิดเผยที่ตั้งก็คงจะไม่เป็นผลอันดีนั่นเอง ซึ่งภายในโรงงานจะมีพนักงานอยู่เพียงแค่ 2 คนเท่านั้น แต่พวกเขาสามารถที่จะปั๊มยอดไลค์ในคราวได้เดียวเป็นหมื่นๆ ไลค์ เพราะภายในโรงงานนอกจากคนทั้งสองแล้ว ยังมีแผงโทรศัพท์มือถืออีกจำนวนมากเรียงรายอยู่เต็มไปหมด สิ่งที่คนงานทั้งสองต้องทำก็แค่สั่งการมือถือทั้งหมดกว่า 10,000 เครื่องนั้นให้ไปปั๊มเรตติ้งต่างๆ ตามคำขอของลูกค้า ซึ่งการเรียกเรตติ้งนั้นก็แล้วแต่คำขอว่าจะเป็นการแชร์ การไลค์ หรือการคอมเมต์พวกเขาก็สามารถที่จะสั่งการให้โปรแกรมทำงานได้อย่างรวดเร็ว ผู้เชี่ยวชาญได้บอกว่าธุรกิจแนวนี้เป็นที่แพร่หลายและมีคนทำอยู่เยอะมากๆ โดยฐานหลักจะอยู่ในจีนและรัสเซีย ส่วนลูกค้าของพวกเขานั้นมีอยู่ทั่วโลกเลยทีเดียว นอกจากนี้ทางด้าน USC และ Indiana University ยังทำการสำรวจแล้วพบว่ามากกว่า 15% ของผู้ใช้ในทวิตเตอร์ล้วนเป็นแอคเคาท์ปลอมๆ ที่เหล่าธุรกิจพวกนี้สร้างขึ้นมาอีกด้วย ซึ่งจากสถิติทั้งหมดของทวิตเตอร์นั้นมียอดผู้ใช้งานมากถึง 319 ล้านต่อเดือน และถ้าคิดปริมาณเทียบตามจำนวนดังกล่าวก็เท่ากับว่าประมาณ 48 ล้านแอคเคาท์จากทั้งหมดเป็นของปลอมนั่นเอง อย่างไรก็ตาม ตราบเท่าที่ไลค์ หรือเรตติ้งยังเป็นตัววัดค่าต่างๆ…
-
บริษัทจีนจูงใจพนักงานให้ลดน้ำหนัก มอบโบนัสเงินสด 500 บาทต่อการลด 1 กิโลกรัม!?
ถ้าคุณกำลังหาถึงบริษัทสักที่ ที่จะให้โบนัสตอบแทนคุณอย่างดีในฐานะที่ทำงานมีประสิทธิภาพ ขยัน อดทน แล้วล่ะก็ คุณสามารถที่หาบริษัทแบบนี้ได้ทั่วไป แต่มีอยู่บริษัทหนึ่งในประเทศจีนที่ให้โบนัสกับพนักงานที่สามารถลดน้ำหนักได้ คุณฟังไม่ผิดหรอกบริษัทนี้เขาให้เงินกับพนักงานที่ลดน้ำหนัก เพราะต้องการให้พนักงานนั้นมีคุณภาพชีวิตและสุขภาพร่างกายที่ดี แค่แนวคิดขึ้นมาแบบนี้ก็น่าสนใจแล้วว่าแต่มันจะมีจริงๆ เร๊อะ!? ไอเดียการให้โบนัสสำหรับพนักงานที่ลดน้ำหนักได้นี้ เป็นโครงการของบริษัทด้านการปรึกษาแห่งหนึ่งในเมืองซีอาน ประเทศจีน ที่มีการให้โบนัสพนักงานทุก 100 หยวนหรือ 500 บาท ต่อการลดน้ำได้ 1 กิโลกรัม แต่พนักงานจะได้เงินโบนัสเงินสดนี้ก็ต่อเมื่อลดได้ 3 กิโลกรัมขึ้นไปเท่านั้น เพราะฉะนั้นแล้วจะได้ 300 หยวนหรือ 1,500 บาทต่อการเบิกโบนัสหนึ่งครั้ง ซึ่งในตอนนี้พนักงานกว่าครึ่งบริษัทก็ได้ใช้ประโยชน์จากโครงการนี้แล้ว!! โครงการนี้มีขึ้นมาก็เพื่อเป็นการส่งเสริมให้พนักงานทุกคนนั้น มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง กระตือรือร้นและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งมันจะส่งผลดีต่อบริษัทโดยตรงนั้นเอง โครงการนี้ได้สร้างแรงจูงใจให้แก่พนักงานสาวคนหนึ่งที่มีชื่อว่า Zhou Wei ซึ่งเธอได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมาเธอสามารถเก็บเงินโบนัสได้ถึง 2,000 หยวนหรือประมาณ 10,000 บาท แลกกับน้ำหนักที่เธอลดไปได้มากถึง 20 กิโลกรัม โดยในอดีตนั้นเธอมักจะทานเนื้อสัตว์เป็นประจำทุกมื้อ แต่สำหรับอาหารมื้อกลางวันในปัจจุบัน เธอก็เลือกที่จะกินเห็ดและไข่แทน ทางเจ้าของบริษัทก็ได้บอกว่าโครงการนี้ประสบความสำเร็จเหนือความคาดหมายมากๆ…
-
ชายชาวจีนสร้างสุสานอันเงียบสงบเพื่อตัวเอง และใช้บั้นปลายชีวิตที่เหลือ ณ ที่แห่งนี้…
หลังจากสูญเสียครอบครัวทั้งหมดไปเมื่อนานมาแล้ว คุณหมอชาวจีนท่านหนึ่ง ได้ตัดสินใจสร้างสุสานให้กับตัวเองไว้ในภูเขาที่มณฑลหูหนาน ประเทศจีน และก็ตัดสินใจที่จะอาศัยอยู่ที่แห่งนั้นจนวาระสุดท้ายของเขา Liang Fusheng คุณหมอชาวจีนวัย 92 ปี ก็คือชายผู้เป็นเจ้าของเรื่องทั้งหมด เขาบอกว่าก่อนหน้านี้เคยมีครอบครัวที่ดีเหมือนกับคนอื่นๆ แต่แล้วเขาก็ต้องสูญเสียภรรยาและลูกอีกสามคนไปเพราะโรคร้ายเมื่อหลายปีก่อน พร้อมกับอายุที่มากขึ้น จึงทำให้ไม่มีใครมาอยู่ดูแลเขาอีกต่อไป ด้วยเหตุนั้นทำให้เขาเริ่มที่จะมองหาสถานที่สำหรับบั้นปลายชีวิตของตัวเอง จนมาหยุดอยู่ที่หมู่บ้านในภูเขามณฑลหูหนาน เขาเริ่มสร้างสุสานให้กับตัวเองในราวๆ ปี 1990 โดยการจ้างชาวบ้านให้มาช่วยขนวัสดุและช่วยกันสร้างสถานที่ดังกล่าว เขาใช้เงินมากถึงประมาณ 1.3 ล้านบาท และเวลาอีก 14 ปี กว่าจะสร้างได้สำเร็จ และในที่สุดแล้วเขาก็เรียกที่แห่งนี้ว่าบ้านหลังสุดท้าย ส่วนการกินการนอนของเขาก็จะอยู่อย่างสงบสุขไม่ได้หรูหราอะไร ที่นอนของเขาก็จะเป็นโลงศพที่เตรียมพร้อมไว้ เผื่อว่าเขาต้องตายไปจริงๆ จะได้ไม่ต้องลำบาก นอกจากนั้นเขาไม่ต้องการให้ใครมารบกวนสุสานอันสงบสุขของเขา เขาจึงทำการติดตั้งกับดักรั้วหนามและป้ายเตือนไว้รอบๆ แถมตัวสุสานยังมีการปิดกั้นอย่างแน่นหนาด้วยล็อค 5 ชั้น พร้อมกับบอกกับชาวบ้านว่าไม่ให้ใครย่างกรายเข้ามาใกล้ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ได้เป็นคนใจจืดใจดำอะไร เขาได้บอกกับชาวบ้านว่าถ้ามีใครต้องการความช่วยเหลือหรือป่วย เขาก็จะเดินทางไปช่วยชาวบ้านในทันที สุดท้ายเขาก็ได้บอกลากับชาวบ้านไปเมื่อราวๆ ปีก่อน และร่วมรับประทานอาหารมื้อสุดท้ายกับชาวบ้านพร้อมบอกว่าเขาคงจะต้องจากไปในอีกไม่นานอย่างแน่นอน… ที่มา odditycentral
-
ชาวเน็ตรุมสาปส่ง เมื่อเห็นคลิปวิดีโอที่คุณครูใช้วิธีสุดโหด จัดการกับเด็กน้อยที่กำลังร้องไห้
การลงโทษที่รุนแรงเกินกว่าเหตุ นอกจากจะไม่ก่อให้เกิดประโยชน์แล้วยังเป็นผลเสียกับตัวเด็กอีกด้วย บางครั้งการทุบตีพวกเขาอย่างรุนแรงแทนที่จะทำให้พฤติกรรมดีขึ้น อาจจะกลายเป็นการสร้างบาดแผลในใจให้พวกเขาแทน และเมื่อไม่นานมานี้ในประเทศจีนได้มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอ การลงโทษนักเรียนอย่างโหดร้ายทารุณอย่างมาก เมื่อคุณครูได้ทำการลากเด็กไปกับพื้น หลังจากที่เธอไม่ยอมเข้าห้องเรียน คลิปวิดีโอดังกล่าวถูกเผยแพร่เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคมที่ผ่านมา จากการรายงานของเว็บไซต์ Peoples Daily ภายในคลิปเผยให้เห็นเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในโรงเรียนสอนภาษาต่างประเทศ Huachen ที่มลฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน โดยหลังจากที่เด็กน้อยร้องไห้งอแงไม่ยอมเข้าห้องเรียน คุณครูประจำชั้นของเธอจึงได้ใช้วิธีการที่รุนแรงในการพาตัวสาวน้อยกลับเข้าห้องเรียน โดยเขาจับที่ผมของเด็กน้อยและลากเธอไปกับพื้น สร้างความสลดใจให้กับผู้ที่เห็นเหตุการณ์อย่างมาก และนี่คือคลิปวิดีโอดังกล่าว เด็กน้อยร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด เธอเอาแต่ร้องว่า “หนูอยากกลับบ้าน” ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ได้ตะโกนถามครูสาวว่า “คุณทำอย่างนั้นกับเธอไม่ได้นะ” และได้คำตอบกลับจากคุณครูว่า “มันไม่ใช่เรื่องของคุณ เธอเป็นลูกสาวฉันทำไมจะทำไม่ได้” ซึ่งเรื่องนี้ทางเจ้าหน้าที่ของโรงเรียนได้ออกมาอธิบายถึงเหตุการณ์ในครั้งนี้ว่า สาวน้อยได้ออกไปทานข้าวเที่ยงกับแม่ของเธอด้านนอก แต่เมื่อถึงเวลาเรียนเธอกลับไม่อยากเข้าห้องเรียนและร้องไห้อยู่นาน จนทำให้คุณแม่ต้องจัดการกับลูกสาวตามที่เราได้เห็นในคลิปวีดีโอ หลังจากนั้นชาวเน็ตก็ได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นต่อการกระทำของคุณแม่ท่านนี้อย่างมาก ซึ่งส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยและบอกว่าการกระทำของเธอนั้นไม่เหมาะสม หลังจากนั้นสาวน้อยถูกส่งตัวไปตรวจร่างกายยังโรงพยาบาลและไม่พบอาการบาดเจ็บใดๆ และทางโรงเรียนก็ได้ออกมาขอโทษต่อการกระทำที่ไม่เหมาะสมนี้ อา.. โชคดีจริงๆ นะเนี่ยที่เด็กน้อยไม่เป็นอะไร แต่ #เหมียวเวจจี้ คิดว่าคุณครูน่าจะมีการแก้ปัญหาที่ดีกว่านี้นะ ที่มา dailymail
-
สาวหันไปตบหน้าชายโรคจิตทันที หลังถูกลวนลามบนบันไดเลื่อน พร้อมลากตัวไปให้ตำรวจ!!
การล่วงละเมิดทางเพศหรือการกระทำอนาจารในที่สาธารณะ นอกจากจะเป็นเรื่องที่ผิดศีลธรรมแล้วยังเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายอีกด้วย หลายครั้งผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของการล่วงละเมิดทางเพศหรือลวนลามมักจะไม่ตอบโต้และปล่อยให้เรื่องเลวร้ายนั้นผ่านไป แต่หญิงสาวผู้นี้กลับทำในสิ่งที่แตกต่าง เมื่อเธอรวบรวมสติและความกล้าจัดการกับผู้ชายหื่นที่มาลวนลามเธอ… หญิงสาวจากเมืองหนานหนิง ได้รับกำลังใจจากผู้คนในประเทศจีนจำนวนมาก หลังจากที่มีการเผยแพร่คลิปวีดีโอที่เธอถูกชายโรคจิตลวนลามขณะอยู่บนบันไดเลื่อน เมื่อวันอังคารที่ 2 พฤษภาคม 2017 ที่ผ่านมา คลิปวีดีโอจากกล้องวงจรปิดในสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินของเมืองหนานหนิง ได้เผยให้เห็นถึงจังหวะที่ชายหนุ่มโรคจิตได้เอามือไปจับก้นของหญิงสาวผู้หนึ่งที่ยืนอยู่หน้าเขา หลังจากนั้นแทนที่หญิงสาวจะปล่อยให้หนุ่มโรคจิตลวนลาม เธอกลับหันมาตบเข้าที่หน้าของชายผู้นั้นอย่างรุนแรง และลากตัวเขาไปส่งตำรวจทันที เธอเล่าเรื่องเหตุการที่เกิดขึ้นให้ตำรวจฟัง และหลังจากนั้นชายหนุ่มก็ถูกควบคุมตัวเพื่อทำการสอบสวนเพิ่มเติม ไปชมคลิปวีดีโอดังกล่าวได้ข้างล่างนี้เลย… การกระทำของเธอนั้นได้รับการชื่นชมจากชาวเน็ตอย่างมาก หลังจากที่พวกเขาได้เห็นคลิปวีดีโอดังกล่าวผ่านทางเว็บไซต์ Weibo สื่อออนไลน์ชื่อดังของจีน หลายๆ คนบอกว่าเธอสามารถตั้งสติได้อย่างดีและมอบบทเรียนราคาแพงให้กับชายหนุ่มโรคจิตผู้นั้น ก่อนหน้านี้ก็เคยเกิดเหตุการณ์ที่มีลักษณะอนาจารในสถานีรถไฟใต้ดินแห่งนี้มาแล้ว ซึ่งเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาได้มีข่าวเกี่ยวกับชายหนุ่มผู้หนึ่งที่เปลือยกายและพยายามจะซื้อตั๋วขึ้นรถไฟใต้ดิน ชายหนุ่มถูกคุมตัวไปสอบสวนหลังจากที่หญิงสาวสเข้าแจ้งความกับตำรวจ ต้องขอชื่นขมในความมีสติและการแก้ปัญหาของผู้หญิงคนนี้จริงๆ สุดยอดมากๆเลยนะเนี่ย ที่มา shanghaiist
-
จีนติดตั้ง “เครื่องกั้นทางม้าลาย” ป้องกันปัญหาคนเดินข้ามก่อนสัญญาณ จนทำให้เกิดอุบัติเหตุ
ปัญหาใหญ่ในหัวเมืองต่างๆ ของจีนที่มีคนพลุกพล่าน มักจะเกิดขึ้นจากการจราจรเป็นส่วนใหญ่ และหนึ่งในปัญหาดังกล่าวนั้นก็เกิดมาจากคนเดินข้ามทางม้าลายก่อนสัญญานไฟ ทำให้ไปตัดหน้ารถที่วิ่งมาจนเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ด้วยเหตุนี้ทางเมืองอู่ฮั่น จึงทำการติดตั้งเครื่องกั้นตรงทางม้าลายในจุดที่มีผู้คนพลุกพล่าน โดยเครื่องกั้นจะเปิดให้คนข้ามทางม้าลายก็ต่อเมื่อสัญญานไฟข้ามถนนเป็นสีเขียวแล้วเท่านั้น วิธีดังกล่าวทางการคาดว่าจะช่วยลดปัญหาของคนเห็นแก่ตัวที่ชอบก่อปัญหาและข้ามถนนไม่ดูไฟสัญญานได้ในระดับหนึ่ง หลังจากที่ก่อนหน้านี้พวกเขาเคยหาทางแก้ปัญหาด้วยวิธีแปลกๆ มาแล้วเช่น การให้คนเหล่านั้นสวมชุดและหมวกสีเขียว การทาสีแดงลงบนตัวพวกเขา หรือแม้แต่เอาหุ่นลองเสื้อไปวางไว้บนถนนข้างๆ กับป้ายหลุมศพ . การทำแบบนั้นก็เพื่อที่จะเตือนสติของเหล่าคนที่เห็นแก่ตัว แต่เหมือนว่าคนพวกนี้ก็จะไม่แคร์สักเท่าไหร่นัก และด้วยวิธีล่าสุดก็ต้องดูกันต่อไปว่าปัญหาดังกล่าวจะสามารถลดปัญหาได้มากน้อยแค่ไหน ถ้าหากว่าวิธีการกั้นทางม้าลายนี้ได้ผลจริงๆ ทางการจะดำเนินการติดตั้งให้ทั่วทุกจุดในเมือง แต่ก็ต้องบอกว่าปัญหานี้ไม่ได้เกิดจากคนเห็นแก่ตัวที่ข้ามถนนเพียงเท่านั้น เพราะคนเห็นแก่ตัวที่ขับรถก็มีเช่นกัน และในบางครั้งคนเหล่านี้ก็จะไม่หยุดรถให้คนข้ามถนน แม้สัญญาณไฟข้ามถนนจะเป็นสีเขียวแล้วก็ตาม . แต่ก็มีบางกระแสตามมาเกี่ยวกับเรื่องนี้ในเชิงขบขันว่า “วัสดุและชิ้นส่วนของเจ้าที่กั้นเนี่ย มันแพงพอสมควรเลยนะ ถ้าไม่เฝ้าให้ดีระวังจะโดนแกะชิ้นส่วนเอาไปขายเป็นเศษเหล็กเอานะ” สุดท้ายคนจะเห็นแก่ตัวมันก็เห็นแก่ตัวล่ะนะ คงต้องลงโทษคนพวกนี้ให้เป็นเรื่องเป็นราวแทนคงจะเห็นผลที่สุด ทีมา odditycentral
-
“Lane Robot” หุ่นยนต์สุดเจ๋งในจีน ที่สามารถย้ายเลนบนถนน เพื่อช่วยแก้ปัญหารถติดได้
ในขณะที่เรากำลังนั่งทำงาน นั่งเรียน ไปเที่ยวรอบโลก เราอาจจะไม่รู้เลยว่าตอนนี้เทคโนโลยีที่มนุษย์สร้างขึ้น ได้ก้าวหน้าไปไกล และเกิดขึ้นมากมายเหลือเกิน อย่างเช่น การสร้างหุ่นยนต์ ที่นับวันจะยิ่งแปลกตา และน่าทึ่งมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะนอกจากมันจะทำงานร่วมกับมนุษย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ตอนนี้หุ่นยนต์ยังพัฒนาไปไกลสุดๆ เพราะมันได้ถูกสร้างขึ้นมาใช้จัดระเบียบในเรื่องการจราจรติดขัดแล้วจ้า วันที่ 24 เมษายน 2560 ทางเว็บไซต์ต่าวประเทศมีรายงานว่า ตำรวจจราจรในเสินเจิ้น ประเทศจีน ได้นำ Lane Robot ซึ่งเป็นรางบนถนนที่เคลื่อนที่ได้เองแบบอัตโนมัติ มาช่วยในการจัดระเบียบการจราจรที่ติดขัดบนถนน Shennan (ถนนที่มีชื่อเสียงในเรื่องรถติด) เป็นครั้งแรกในประเทศ สำหรับ Lane Robot เป็นรางที่นอกจากจะสามารถจัดระเบียบบนถนนได้แล้ว ยังช่วยเปลี่ยนเลนถนนในช่วงเวลาที่เร่งด่วนได้ นอกจากนี้ ยังสามารถปรับเปลี่ยนเส้นทางเดินรถบนถนน ไปยังช่องทางที่แตกต่างกันได้อีกด้วย เท่านั้นยังไม่พอ Lane Robot ยังเป็นหุ่นยนต์อัจฉริยะที่ช่วยลดภาระการทำงานของตำรวจจีนได้เป็นอย่างดี โดยในขณะที่อยู่ระหว่างการทดสอบนั้น พบว่า มันสามารถช่วยลดการจราจรติดขัดได้ในระยะเวลาเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น ทั้งนี้ ทางตำรวจได้ออกมาเผยว่า Lane Robot…
-
โลกออนไลน์ร่วมสดุดี แจกฟักชายหนุ่มผู้ “ขว้างหินใส่จิงโจ้” เพราะอยากเห็นมันกระโดดเต็มตา
คงจะมีหลายคนที่ชอบไปเที่ยวสวนสัตว์เพื่อชมความน่ารักของพวกสัตว์ต่างๆ หรือเพื่อเป็นการพักผ่อนยามว่างกับครอบครัวกันบ้างแน่นอน และส่วนมากที่กรงของพวกมันก็จะมีคำเตือนติดอยู่gl,v เช่นห้ามเอามือยื่นเข้าไป หรือห้ามให้อาหารมัน เมื่อมีคนทำตามกฎ ก็มีคนบางส่วนที่ฝ่าฝืนคำเตือนพวกนั้นอยู่บ้างแน่ๆ แต่ถึงจะฝ่าฝืนกันขนาดไหน ก็คงไม่มีใครคิดพิเรนทร์ๆ ถึงขั้นทำร้ายพวกมันอย่างชายคนนี้แน่ เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2560 ที่ผ่านมาบนโลกอินเตอร์เน็ตได้มีการเผยแพร่คลิปชายหนุ่มผู้หนึ่งได้โยนก้อนหินใส่จิงโจที่อยู่ในกรงขณะที่มันหลับอยู่ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่สวนสัตว์ Yangzhou Zoo ในประเทศจีน เมื่อชายหนุ่มคนหนึ่งโยนก้อนหินขนาดใหญ่ใส่กลุ่มจิงโจ้ที่กำลังนอนหลับอยู่ เพื่อให้พวกมันเต้นไปรอบๆ กรงและถ่ายรูปพวกมัน เมื่อคลิปวิดีโอนี้ ถูกเผยแพร่ออกไปมีหลายคนได้เข้ามาต่อว่าและวิพากษ์วิจารณ์การกระทำของชายหนุ่มผู้นี้เป็นจำนวนมาก คลิปวีดีโอในขณะที่เขาโยนก้อนหินก่อนใส่พวกจิงโจ้ กลุ่มผู้รักสัตว์ Humane Society International (HSI) ได้ออกมาประณามการกระทำครั้งนี้ว่า เป็นการกระทำที่น่าอับอายมาก พวกเขาจะติดต่อไปยังองค์กรที่ดูแลเกี่ยวกับสวนสัตว์ในประเทศจีน ให้มีมาตรการจัดการกับการกระทำของชายคนนี้ HSI ยังกล่าวอีกว่า “เราขอขอบคุณผู้คนที่อยู่ในเหตุการณ์ที่ช่วยกันตำหนิการกระทำของเขา และสื่อจีนที่ได้นำเสนอเรื่องราวของเขา ตอนนี้รายละเอียดเกี่ยวกับการกระทำของเขายังไม่ชัดเจน เราไม่ทราบว่าเขาได้ทำร้ายสัตว์ตัวอื่นๆ ด้วยหรือไม่” ภาพบางส่วนจากคลิปวีดีโอแสดงให้เห็นถึงขนาดของก้อนหินที่เขาขว้างใส่จิงโจ้ สวนสัตว์ในประเทศจีนมักมีเรื่องฉาวเกี่ยวกับการทรมานสัตว์อยู่แล้ว บางที่มีรายงานเรื่องการช็อตไฟฟ้าหรือขว้างปาสิ่งของใส่พวกสัตว์เพื่อให้มันแสดงหรือทำกิจกรรมในผู้ชมได้ชม ตอนนี้กฎหมายเกี่ยวกับการทารุณสัตว์ในประเทศจีนยังมีไม่มากเท่าที่ควร แต่ขณะนี้กำลังมีการรณรงค์ให้มีการร่างกฎหมายฉบับใหม่อยู่ และเมื่อคลิปวีดีโอนี้ถูกเผยแพร่ออกไปก็มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมาย เช่น “อีสึส ชายคนนี้น่าจะถูกจับขังในคุก และถูกปาก้อนหินใส่แทนนะ” “พวกจิงโจ้น่าจะเก็บก้อนหินไว้ในกระเป๋าเพื่อปาใส่คนพวกนี้บ้างนะ”…
-
บริษัทออกแบบในจีน วางแผนสร้างบ้านจากโครงไม้ไผ่ ไม่ใช้น็อตและตะปูแม้แต่ตัวเดียว!?
กว่าจะออกมาเป็นบ้านต้นไม้ที่สวยงามแต่ละหลังนั้น มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย เพราะไหนเราจะต้องใช้ทั้งวัสดุอุปกรณ์มากมาย ไม่ว่าจะเป็น ไม้ น็อต ตะปู ฯลฯ แต่สำหรับที่บริษัทออกแบบชื่อ Penda จากประเทศจีนแห่งนี้ บอกเลยว่าพวกเขาสามารถเนรมิตบ้านสุดหรู ที่สร้างขึ้นมาจากไม้ไผ่ โดยจะไม่ใช้น็อตและตะปูเลยแม้แต่ตัวเดียว เฮ้ยยยย!! แบบนี้ก็ได้เหรอเนี่ย ในปี 2015 ที่ผ่านมา ทางบริษัท Penda ได้ทำโมเดลจำลองโครงสร้างของบ้านแห่งนี้ออกมา จนได้รับรางวัลชนะเลิศอันดับสองในหมวดการออกแบบสถาปัตยกรรม (Architecture Design) ในงาน 2016 A’Design Awards พร้อมตั้งชื่อให้ว่า “Rising Canes” อีกด้วย แม้ว่าจะไม่ได้รับรางวัลชนะเลิศอันดับที่ 1 แต่ต้องบอกเลยว่ามันเป็นผลงานการออกแบบที่ยอดเยี่ยม และน่าประทับใจมาก สำหรับไอเดียในการสร้างบ้านนี้ ทางบริษัทมีจุดประสงค์เพื่อต้องการสร้างขึ้นมาให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยจะใช้ไม้ไผ่มาเรียงต่อกันจนกลายเป็นชั้นๆ โดยแต่ละชั้นจะมีการวางซ้อนทับกันให้มีความพอดี นอกจากนี้ ยังมีการนำเชือกมาผูกให้แน่นติดกับจุดรอยต่อระหว่างไม้ไผ่ ซึ่งจะผูกยึดติดกันถึง 8 ท่อน และมัดให้มีช่องตรงกลาง ซึ่งจะสามารถเสียบไม้ไผ่ท่อนอื่นเข้าด้วยกัน …
-
หนุ่มวิศวกรตัดสินใจแต่งงาน “หุ่นยนต์สาว” ที่สร้างขึ้นเอง หลังไม่สามารถหาหญิงในอุดมคติได้
Zheng Jiajia วิศวกรหนุ่มชาวจีนวัย 31 ปี ผู้ที่เชี่ยวชาญในด้านปัญญาประดิษฐ์ การออกแบบ และการเขียนโปรแกรม ล่าสุดเขาได้ตัดสินใจสร้างหุ่นยนต์สาวสวยที่ชื่อว่า Yingying ขึ้นมา พร้อมทั้งได้แต่งงานกับตุ๊กตาตัวดังกล่าว หลังจากที่เขาไม่สามารถตามหาหญิงสาวในอุดมคติได้ เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2560 เว็บไซต์ Metro มีรายงานว่า Zheng ได้สร้างหุ่นยนต์สาวที่มีน้ำหนักตัวประมาณ 30 กิโลกรัมขึ้นมาตามแบบฉบับหญิงสาวที่เขาต้องการ และหลังจากที่ได้สร้างหุ่นยนต์สาวตัวนี้เสร็จเป็นที่เรียบร้อย เขาก็ได้จัดงานพิธีสมรสกับเธอในเมืองหังโจว ในมณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน โดยมีครอบครัวและคนใกล้ชิดของเขามาเข้าร่วมพิธี เป็นสักขีพยานอย่างอบอุ่น จากภาพปรากฏให้เห็นว่า วิศวกรหนุ่มรายดังกล่าวมาในชุดสูทสีดำ พร้อมกับกำลังอุ้มเจ้าสาวแสนสวยที่มาในชุดดำ และผ้าคลุมศีรษะสีแดง ถึงแม้ว่าเจ้าสาวของเขาจะไม่สามารถเคลื่อนที่ได้ แต่ถึงกระนั้น นาย Zheng ก็หวังว่าในอนาคตเขาจะพัฒนาให้เธอสามารถช่วยเหลือตัวเองได้อย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ การทำงานบ้าน และหน้าที่ในการรับผิดชอบต่างๆ ทางด้านเพื่อนคนหนึ่งของฝ่ายผู้เป็นเจ้าบ่าว ได้ออกมาเผยว่า “หนุ่ม Zheng พยายามหาแฟนมานานแล้ว แต่เขาก็คว้าน้ำเหลวทุกที จนในที่สุดเขาก็เกิดความเบื่อหน่าย”…
-
แพ้ 4 ตารวด!! เกมเมอร์จีนหัวร้อนสุดขีด เซ็งเพื่อนพาแพ้ เอาหัวโขกทะลุจอจนติดแหงก
League of Legend หรือที่รู้จักกันในชื่อ LoL เกมออนไลน์แนว MOBA อันดับต้นๆ ของโลกมีผู้โลกทั่วโลกมากกว่า 100 ล้านคนทั่วโลก และแน่นอนว่ากลุ่มผู้เล่นจำนวส่วนหนึ่งจะต้องมาจากประเทศจีนอย่างไม่ต้องสงสัย แถมพวกเขายังเล่นกันแบบจริงจังสุดๆ อีกต่างหาก ล่าสุดก็มีเรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้นที่อินเตอร์เน็ตคาเฟ่ในเมืองหลานโจวประเทศจีน เมื่อผู้เล่น LoL คนหนึ่งกำลังอยู่ในเกมจัดอันดับแถมยังอยู่อันดับสูง แล้วสุดท้ายผลออกมาคือเขาแพ้ จนอันดับของเขาร่วงลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเหตุผลที่เขาแพ้ก็เพราะว่าเขาได้สุ่มไปเจอกับผู้เล่นไม่ทราบชื่อคนหนึ่งที่มีอาการหน่วง และสร้างความลำบากให้กับทีมจนชายคนนั้นแพ้ติดกันถึง 4 เกม (แล้วทำไมมันสุ่มมาเจอกันได้ถึง 4 เกมล่ะเนี่ย) และแล้วจากอาการแพ้จนหัวร้อนสุดขีด เลยอยากหาที่ระบายความอัดอั้นในใจ จู่ๆ พี่แกก็เล่นเอาหัวโขกจอคอมพิวเตอร์กลางร้านอินเตอร์เน็ตค่าเฟ่ จนกระทั่งหัวติดคาจออยู่อย่างงั้นเลย!! จากรายงานบอกว่า ชายที่ได้รับบาดเจ็บถูกหามส่งโรงพยาบาลทันที และได้รับการรักษาเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งเขาก็ไม่เป็นอะไรมาก แต่คาดว่าเขาอาจจะใช้งานส่วนคอได้น้อยลงจากผลกระทบของการกระแทกกับหน้าจออย่างรุนแรง ท้ายที่สุดร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่แห่งนั้นก็จำเป็นจะต้องจ่ายเงินเพื่อซื้อจอมินิเตอร์อันใหม่ เพื่อมาแทนที่จออันเก่าที่ถูกพ่อหนุ่มคนนั้นทำพังไป แต่ก็ไม่มีการยืนยันว่าพ่อหนุ่มคนนั้นเป็นคนชดใช้ค่าเสียหายหรือเปล่า มันต้องแรงขนาดไหนกันนะ ถึงทำขนาดนี้ได้เนี่ย!? ที่มา chinapress, craveonline
-
ยังไหวอยู่!! คุณยายชาวจีนวัย 69 โชว์เล่นกิจกรรมโปรด กระโดดร่มเหาะเหินบนฟากฟ้า
ผู้สูงอายุส่วนใหญ่มักจะเลือกกิจกรรมยามว่างที่ช่วยให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลาย เช่น การฟังวิทยุ ดูหนัง ฟังเพลง อ่านหนังสือพิมพ์ แต่น้อยคนนักที่จะชื่นชอบการทำกิจกรรมสุดโลดโผนอย่าง “การกระโดดร่ม” แม้หลายๆ คนอาจจะคิดว่าคงไม่มีผู้สูงอายุคนไหนหรอกที่จะมาทำกิจกรรมดังกล่าว แต่สำหรับ Li Jiaxin วัย 69 ปี จากประเทศจีนคนนี้ กลับเลือกใช้เวลาว่างในบั้นท้ายของชีวิต เพื่อสนุกไปกับกิจกรรมกระโดดร่มที่ตนเองชื่นชอบยังไงละ สำหรับ คุณยาย Li เธอได้เริ่มการฝึกกระโดดร่มมาตั้งแต่ปี 2551 ซึ่งก็ทำให้เธอรู้สึกชื่นชอบเป็นอย่างมาก ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้คุณยายขอทุ่มเทเวลาทั้งหมดให้กับการกระโดดล่ม จนทำให้เธอเริ่มเก่ง และสามารถทรงตัวลอยอยู่บนอากาศได้อย่างชิวๆ อย่างที่เห็น… แม้ว่าคุณยายจะกลายไปเป็นเทพในเรื่องการกระโดดร่มไปแล้ว แต่เนื่องด้วยอายุที่มากของเธอ จึงทำให้คุณยาย Li ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมการแข่งขันกระโดดร่ม หรือกิจกรรมต่างๆ ได้ ซึ่งก็นับว่าเป็นข่าวดีสำหรับคู่แข่งที่อายุน้อยกว่าเธอเป็นอย่างมากเลยละ ฮร่าๆ ทางด้านคุณยาย Li ได้ออกมาเผยว่า “ถึงจะห้ามไม่ให้ลงแข่ง แต่อย่างน้อยเธอก็จะใช้มันเป็นกิจกรรมผ่อนคลายในยามว่าง และจะเล่นมันด้วยความระมัดระวัง เพื่อความปลอดภัยของตนเอง” เท่ฝุดๆ …
-
บริษัทอาหารเสริมจีนตามหา ‘นักนอนมืออาชีพ’ ให้ค่าจ้างสูง เพียงแค่กินแล้วก็นอน!?
นอนเฉยๆ ก็เป็นอาชีพได้ สนใจปะล่ะ? ถือว่าเป็นการสานฝันสำหรับคนชอบนอน นอนเหมือนซ้อมตาย หรือนอนจนมีความเชี่ยญชาญเป็นพิเศษ เพราะโอกาสของคุณมาถึงแล้ว เมื่อทางบริษัทอาหารเสริมในเซี่ยงไฮ้ประกาศรับสมัครผู้ที่เชียญชาญด้านการนอนเข้าร่วมโครงการวิจัยของพวกเขา โดยมีค่าจ้างอยู่ที่ประมาณ 500,000 บาทต่อปี แค่นี้ก็สนใจจะไปนอนให้แล้วใช่มั้ยเอ่ย? ตามรายงานของ Beijing Morning Post บอกว่าเจ้าของธุรกิจอาหารเสริมต้องการหาคนที่ต้องการทดลองผลิตภัณฑ์ของเขา ด้วยการกินผลิตภัณฑ์ภายในเครือจากนั้นก็นอน เพื่อทำการวิจัยส่งรายงานผลให้กับทางบริษัท มันฟังเหมือนจะง่าย แต่ก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้นทีเดียว เพราะว่าคนที่เข้ารับการทดลองจะต้องเข้าทดสอบตามโปรแกรมที่เจ้าของผลิตภัณฑ์กำหนดอย่างเคร่งครัดเพื่อที่จะได้เห็นถึงผลที่เกิดขึ้นในรูปแบบต่างๆ ส่วนคุณสมบัตินอกจากต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญการนอนแล้วก็ไม่มีอย่างอื่นเลย แต่เอาเข้าจริงแล้ว อาชีพที่ใช้ทักษะการนอนเพียงอย่างเดียวในตอนนี้มีอยู่เต็มไปหมด อย่างประเทศสหรัฐอเมริกานั้นก็มีคนที่มีรายได้สูงถึง 10,000,000 บาท จากวิธีการทำงานผ่านการนอน ซึ่งงานนั้นก็คือการวิจัยว่าทำไมหนึ่งในสามของชาวสหรัฐอเมริกาถึงมีชั่วโมงการนอนที่ไม่เพียงพอในแต่ละวัน นอกจากนี้รายงานยังบอกว่า อาชีพทำนองนี้อาจจะมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น หลังจากที่ผู้คนในประเทศจีนเริ่มที่จะกังวลเรื่องการนอนมากขึ้นเรื่อยๆ ส่วนใครสนใจอยากจะกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนี้แต่ไม่รู้จะทำยังไงดี เรามีสถานที่ฝึกวิชามาแนะนำกัน ห้องเรียน รับรองว่าถ้าได้เข้าไปนั่งเรียนสักแปป หลับชัว!! ถ้ายังไม่ได้ผล ได้ไปประชุมในรัฐสภา รับรองว่าหลัวชัวร์ หรือจะลองไปทดสอบเฟอร์นิเจอร์ที่ IKEA แต่ถ้าอยากแอดวานซ์ขึ้นมาก็ต้องแบบนี้ แต่ที่ได้ผลสุดก็คงจะนอนหลับคางานที่ค้างอยู่นี่แหละ!!…
-
“ปรมาจารย์ตวัดเส้นหมี่” ลาออกจากร้านแล้ว เพราะเรียกเงินเดือนสูง เกินกว่าร้านจะจ่ายไหว!!
ถ้าใครยังพอจะจำกันได้เมื่อราวๆ ปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้มีคลิปคลิปหนึ่งที่โด่งดังมากในโลกอินเตอร์เน็ต เป็นคลิปของหนุ่มจีนรายหนึ่งในร้านขายบะหมี่ ที่โชว์ลีลาการตวัดเส้นบะหมี่ลงหม้ออย่างเมามันและพริ้วไหวยิ่งกว่าสายลม จากคลิปนั้นทำให้เขากลายเป็นซุป’ตาร์ในโลกอินเตอร์เน็ตไปพักหนึ่งเล ย สำนักข่าวท้องถิ่นจึงพากันไปทำข่าวของเขาถึงได้รู้ว่าเขาชื่อนาย Tian Bo วัย 31 ปี ที่หลงใหลในการทำเส้นบะหมี่มาก (ข่าวเก่า) แต่กลายเป็นว่าความโด่งดังของเขาดันสร้างความอึดอัดใจให้กับเขาเอง นาย Tian Bo จึงขอลาออกจากการทำงานที่ร้านก๋วยเตี๋ยวแห่งนั้นเนื่องจากเขาคิดว่าความโด่งดังของตัวเองน่าจะสามารถทำเงินได้มากกว่าที่ร้านจะจ่ายให้เขาได้ (จากตอนแรกที่ตั้งใจว่าจะทำอยู่ที่เดิม) ด้านนายจ้างของนาย Tian Bo บอกกับสื่อว่าหลังจากที่เขาโด่งดังขึ้นเรื่อยๆ เขาก็มาขอขึ้นค่าแรงแบบสูงมาก นายจ้างจึงตกลงเพิ่มเงินเดือนให้เขาจาก 9,000 หยวน (ประมาณ 45,000 บาท) เป็น 10,000 หยวน (ประมาณ 50,000 บาท) แต่จำนวนเงินเหล่านั้นกลับยังไม่พอต่อความต้องการของนาย Tian Bo เพราะจำนวนเงินที่เขาต้องการคือ 150,000 หยวนต่อปี (ประมาณ 752,000 บาท) ซึ่งเป็นจำนวนที่มากเกินกว่าที่นายจ้างจะสามารถจ่ายได้ จึงต้องปล่องให้นาย Tian Bo ลาออกแล้วไปหางานที่เหมาะสมกับเขาแทน นายจ้างของเขาได้กล่าวว่า “เมื่อเขากลายเป็นซุปเปอร์สตาร์ในอินเตอร์เน็ต เขาก็เริ่มเกิดความคิดว่าเขาไม่ใช่…
-
คนงานก่อสร้างขุดค้นเจอ “พีระมิดขนาดเล็ก” อายุ 2,000 ปี อยู่ใต้ไซส์งานซะอย่างนั้น!?
นักโบราณคดีถึงกับทึ่ง เมื่อพวกเขาเจอเข้ากับพีระมิดโบราณอายุนับพันปี แถมยังอยู่ใต้ไซต์ก่อสร้างซะด้วย!! พีระมิดที่ว่านี้ ถึงจะมีรูปร่างหน้าตาคล้ายกับพีระมิดของกษัตริย์ในอียิปต์ก็จริง แต่ก็ไม่ได้ยิ่งใหญ่อลังการขนาดนั้น พราะพีระมิดที่นักโบรานคดีขุดเจอมีความสูงเพียงแค่ 1.8 เมตรเท่านั้น โดยมันตั้งอยู่ในกรุที่มีความกว้าง 30 เมตร และยาวเพียงแค่ 8 เมตรเท่านั้น แต่ถึงอย่างไรก็ตาม แม้มันจะมีขนาดเล็ก แต่มันก็จัดว่าเป็นโบราณสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์เช่นกัน เนื่องจากอายุอันเก่า่แก่ และอาจจะโยงไปสู่เรื่องราวของคนในยุคนั้น จากการวิเคราะห์พบว่าแม้ว่าจะต้องมีการวิเคราะห์เพิ่มเติมเพื่อระบุอย่างเป็นทางการว่าอายุของพีระมิดที่ขุดเจอ มีอายุเป๊ะๆ เท่าไหร่กันแน่ รวมถึงว่าเป็นพิระมิดของใครแล้วมีเหตุผลอะไรถึงสร้างมันขึ้นมา แต่เบื้องต้นพวกเขาวิเคราะห์ว่าพิระมิดนี่มีอายุตั้งแต่สมัยราชวงศ์ฮั่นแล้ว เพราะตัวพีระมิดถูกสร้างด้วยอิฐ แต่ไม่ใช่แค่พีระมิดเท่านั้นที่ถูกขุดเจอ เพราะข้างๆ ก็มีหลุมศพที่เป็นทรงครึ่งกระบอกอยู่ด้วย ซึ่งคาดการณ์ว่าน่าจะถูกสร้างและนำมาเก็บไว้พร้อมๆ กับพีระมิดนั่นเอง ดูจากมุมนี้มันก็เหมือนจะใหญ่นะ พอดูแบบนี้เล็กนิดเดียว แต่ก็มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์มากเช่นกัน สังเกตุว่ารอบๆ จะเป็นไซต์ก่อสร้าง ซึ่งถ้าไม่มีการก่อสร้าง เราอาจจะไม่ทราบว่ามีสิ่งนี้ซ่อนอยู่ ห้องนี้ถูกสร้างขึ้นในทิศตะวันออกเฉียงเหนือโดยทางเข้าหันหน้าไปทางทิศตะวันออก คาดว่าอีกสักพักพีระมิดนี้ น่าจะถูกย้ายออกไป เพื่อที่พื้นที่แห่งนี้จะได้ถูกสร้างเป็นที่พักอาศัย ยังไงซะมันก้ถือเป็นการค้นพบใหม่ ที่จะช่วยให้ความรู้ทางประวัติศาสตร์เราอีกมากทีเดียว ที่มา metro
-
งงเลยเด้!! สถานีรถไฟฟ้าสุดเท่จากจีน ถูกสร้างให้อยู่ภายในตึกสูง 19 ชั้น วิ่งทะลุสบาย
หากใครที่คิดว่ารถไฟฟ้า หรือรถไฟใต้ดินที่คุณเคยเจอมามันเจ๋งที่สุดแล้วละก็ ลองมาดูรถไฟในประเทศจีนที่เราจะมาแนะนำให้คุณได้รู้จักซะก่อน เพราะมันเป็นรถไฟฟ้าที่มีความแปลกไม่เหมือนใคร เนื่องจากถูกสร้างขึ้นมาให้ลอดผ่านอาคารต่างๆ ได้โดยไม่ต้องทุบตึกทิ้ง เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2560 ทางเว็บไซต์เดลีเมล์ได้เผยภาพพร้อมคลิปวีดีโอของรถไฟฟ้าดังกล่าว โดยระบุว่า รถไฟทะลุตึกสายนี้เรียกว่า Mountain City ตั้งอยู่ในเมืองฉงชิ่ง มณฑลเหอเป่ย ประเทศจีน เป็นรถไฟชนิดพิเศษที่ถูกสร้างขึ้นบนตึกสูงถึง 19 ชั้นเลยทีเดียว โดยนักวางแผนได้ทำการสร้างสถานี Liziba Station ในอาคารที่มีประชาชนพักอาศัยอยู่อย่างหนาแน่น ตั้งแต่ตึกชั้นที่ 6 ไปจนถึงชั้นที่ 8 โดยให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่บริเวณนั้นสามารถใช้บริการรถไฟจากสถานีดังกล่าวได้อย่างสะดวกสบาย แม้ว่าประชาชนในพื้นที่บริเวณดังกล่าว จะอาศัยอยู่ในบริเวณที่ใกล้เคียงกับสถานีรถไฟที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่รถไฟได้เข้าสู่ชานชาลา ทางเจ้าหน้าที่จะปิดเสียงลงด้วยอุปกรณ์ชนิดพิเศษ ซึ่งจะทำให้เสียงของรถไฟดังไม่ต่างจากการเปิดเครื่องล้างจานเลย นอกจากนี้ ทางโฆษกฝ่ายการขนส่งยังได้ออกมาเผยว่า “เมืองของเราเต็มไปด้วยตึก ดังนั้น หากจะสามารถช่วยหาช่องว่างสำหรับถนนได้ การทางรถไฟฟ้าบนจะถือเป็นความท้าทายอย่างมาก” สามารถรับชมคลิปวีดีโอได้ที่นี่… ที่มา : dailymail
-
วิชาจมูกเหล็ก!! ชาวจีนโชว์ “เป่ายางรถยนต์” จนเต็ม ได้ด้วยจมูกเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
เป่าลูกโป่งด้วยจมูกหลบไป เป่ายางรถด้วยจมูกเทพกว่าเยอะ!! Tong Junhai หนุ่มชาวจีนวัย 44 ปี ได้ประสบความสำเร็จในการสร้างชื่อเสียง โดยเขาสามารถเป่ายางรถได้ด้วยจมูกของเขาเอง เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาที่เมืองซีอานประเทศจีน และกลายเป็นกระแสพอสมควรบนโลกอินเตอร์เน็ต เมื่อเขาคนนี้ได้อัพคลิปวีดีโอที่เขาแต่งชุดกังฟูพร้อมกับโชว์เปายางรถด้วยจมูกเพียงอย่างเดียว เขายังพิสูจน์ว่ามันเป็นความสามารถที่ใช่ว่าใครจะทำได้ โดยการให้ชาวบ้านรอบๆ ลองใช้ปากเป่าลมดู แต่แน่นอนว่ามันคือยางรถเส้นบะเริ่มเทิ่ม ที่ต้องใช้เครื่องสูบ หรือไม่ก็เครื่องเติมลมเท่านั้นแหละ สุดท้ายก็ไม่มีใครสามารถทำให้ยางรถเต็มได้… ส่วนวิธีการที่เขาใช้ในการเป่าก็คือการอุดรูจมูกไว้ข้างหนึ่ง เพื่อเร่งแรงดันในการเป่า แต่ทว่าเราจะสังเกตุเห็นได้จากเส้นเลือดที่ปูดขึ้นบนหน้าผากของเขาว่ามันดูจะไม่ใช่เรื่องที่ดีเลยล่ะ คลิปแสดงการเป่าลมยางด้วยจมูก จมูกอย่างเดียวเท่านั้น… ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ใช่ชายคนคนเดียวในประเทศจีนที่สามารถเป่ายางรถได้ด้วยจมูกหรอกนะ เพราะว่าก่อนหน้านี้ 4 ปีก่อน Xie Quanguo จากมณฑลเฉิงตูก็สามารถทำได้เช่นกัน แถมชายคนนี้เป่ายางรถได้ด้วยการเป่าเพียงแค่ 15 ครั้งเท่านั้น ไม่ใช่แค่นั้น เพราะเมื่อ 3 ปีก่อนมีชายที่ชื่อว่า Nie Yongbing โชว์ในการเป่ายางรถเช่นกันแต่สำหรับนายคนนี้เขายางวงใหญ่กว่า Tong และ Xie เสียอีกแถมใช้เวลาแค่ 20 นาทีในการเป่าเท่านั้น…
-
หนุ่มจีนโคตรทุ่ม ซื้อหินที่คิดว่าเป็นอุกกาบาต 33 ตัน ราคากว่า 5 ล้านบาท เพื่อขอแฟนแต่งงาน
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เราได้เห็นการขอแต่งงานที่แปลกสุดขั้วจากประเทศจีนกันมาแล้วมากมาย แต่สำหรับเรื่องราวที่เราจะมานำเสนอให้คุณได้รับชมในครั้งนี้ บอกมันจะยิ่งทำให้คุณอึ้งยิ่งกว่า แถมคุณยังจะได้เห็นว่า ไม่มีอะไรที่จะแปลกไปกว่าประเทศจีนเลยจริงๆ ล่าสุด วันที่ 15 มีนาคม 2560 ทางสำนักข่าว Shanghaiist ได้เผยภาพของนาย Liu Fei พร้อมกับแฟนสาว Wang Fangfang สองคู่รักชาวจีน ที่กำลังยืนกอดกันอยู่บริเวณที่สาธารณะแห่งหนึ่ง ในเมืองอุรุมชี ประเทศจีน ท่ามกลางผู้คนที่เดินผ่านไปมาบริเวณนั้น หลังจากที่เขาเพิ่งจะขอแฟนสาวแต่งงาน แต่ที่น่าสนไปมากกว่านั้นก็คือ หนุ่ม Liu ไม่ได้ขอแฟนสาวของเขาแต่งงานในแบบธรรมดาๆ ทั่วไป แต่เขายังมาพร้อมกับอุกกาบาตรขนาดยักษ์ที่หนักกว่า 33 ตัน พร้อมคลุมด้วยผ้าสีแดงวางโอ่อ่าอยู่ท่ามกลางที่สาธารณะ สร้างความสนอกสนใจให้กับผู้คนบริเวณนั้นเป็นอย่างมาก สำหรับ Liu Fei และแฟนสาวของเขา ทั้งคู่ได้พบกันเมื่อ 4 ปีก่อน โดยทั้งสองได้เริ่มต้นความสัมพันธ์กันอย่างรวดเร็ว และในปีที่ผ่านมา ทั้งคู่ก็ได้พากันเดินทางไปที่เมือง Kashgar ซึ่งเพื่อนของนาย Liu ก็ได้เล่าเรื่องถิ่นที่อยู่ของนักเก็บสะสมอุกกาบาตจากนอกโลกให้เขาฟัง นั่นทำให้นาย Liu ได้ถามแฟนสาวของเขาว่า เธอชื่นชอบอุกกาบาตรหรือไม่…
-
เยี่ยมชมหมู่บ้านนักกายกรรมในชนบทจีน ฝึกฝนกันตั้งแต่เด็ก แต่ก็แลกมาด้วยความเจ็บปวด!!
เวลาที่เราดูการแสดงกายกรรม แน่นอนว่าหนึ่งในประเทศที่จะต้องนึกถึงเลยก็คือ ประเทศจีน ซึ่งถ้าหากใครที่มีความใฝ่ฝันว่าอยากจะเป็นนักกายกรรมที่เก่งระดับมืออาชีพละก็… ง่ายนิดเดียว!! เพียงแค่คุณเดินทางไปเยือนที่หมู่บ้าน Konglou ในฤดูร้อนนี้ ความฝันในการเป็นนักกายกรรมมืออาชีพของคุณก็จะกลายเป็นความจริงขึ้นมาแล้ววววว และนี่คือภาพของผู้คนใน Konglou หมู่บ้านเล็กๆ ในมณฑลซานตง ประเทศจีน ที่ขึ้นชื่อ และรู้จักกันดีในเรื่องของการเรียนการแสดงกายกรรม จากการรายงานของทางเว็บไซต์ Shanghaiist ระบุว่า ในแต่ละปี มีผู้คนจากหลายๆ ประเทศทั่วโลก ได้เดินทางมายังหมู่บ้านแห่งนี้ เพื่อฝึกฝนทักษะความแข็งแรง และความคล่องแคล่ว ในขณะที่ผู้คนบางส่วนที่ได้เข้ามาฝึกฝนการเรียนกายกรรม มักจะมีอุดมคติว่ามันจะสามารถทำให้ชีวิตของพวกเขาดีขึ้นได้ . สำหรับหมู่บ้านกายกรรมแห่งนี้ จะมีการฝึกสอนตั้งแต่เด็กอายุ 6 ขวบ โดยจะฝึกฝนในช่วงระยะเวลาสอง หรือสามเดือน ก่อนที่จะให้เด็กๆ กลับไปยังบ้านเกิดของตน จากนั่นก็ให้เข้าร่วมคณะแสดงกายกรรมท้องถิ่น ซึ่งในการแสดงแต่ละครั้งพวกเขาจะสามารถทำเงินได้ 100 หยวน (500 บาท) ถึง 300 หยวน (1,500 บาท) เลยทีเดียว และนี่คือภาพส่วนหนึ่งจากหมู่บ้าน…
-
สุดประทับใจ!! คุณตาวัย 74 ลุกขึ้นมาแต่งตัวเป็นผู้หญิง เพียงเพราะอยากให้แม่มีความสุข
เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2560 ทางเว็บไซต์ Odditycentral ได้เผยภาพพร้อมเรื่องราวสุดประทับใจของ Li Yinglai คุณตาชาวจีนวัย 74 ปี ที่ได้ลุกขึ้นมาแต่งองค์ทรงเครื่องผู้หญิง เพื่อมอบความสุข และสร้างสีสันให้แก่ผู้คนที่มาเยือนสวนสาธารณะ Green Lake Park ในเมืองคุณหมิง ทุกๆ วันหยุดสุดสัปดาห์ จากการรายงานระบุว่า สาเหตุที่คุณตาท่านนี้ได้ลุกขึ้นมาแต่งตัวใส่เสื้อผ้าเป็นผู้หญิงนั้น ไม่เพียงแต่เป็นการสร้างสีสัน และอยากให้ผู้คนสนใจอย่างเดียว แต่ลึกๆ แล้วเขาทำไปเพราะอยากให้แม่ในวัย 96 ปีได้มีความสุข ทางด้าน คุณตา Li ได้ออกมาเผยว่า แม่ของเขานั้นอยากได้ลูกสาว แต่ทว่าลูกของเธอทั้ง 2 คน กลับเป็นลูกชาย และเมื่อเขาอายุได้ 60 ปี คุณตาก็ได้ตัดสินใจที่จะทำความฝันของแม่ให้เป็นจริงขึ้นมา โดยเขาได้เริ่มใส่เสื้อผ้าผู้หญิง ใส่ชุดกี่เพ้า สวมรองเท้าส้นสูง แต่งหน้า-แต่งตาให้ดูมีสีสัน แล้วเดินออกไปยังสวนสาธารณะ พร้อมกับโชว์ท่าเต้นตลกๆ ให้ผู้คนได้รับชม แน่นอนว่าสิ่งที่ได้รับกลับมาคือ ผู้คนเหล่านั้นรู้สึกประทับใจกับการแสดงโชว์ของเขาเป็นอย่างมาก “ฉันทำอย่างนี้ให้กับแม่ของฉัน แม่ของฉันไม่มีลูกสาว…
-
นักศึกษาสาวจีนขี้เกียจเดินลงหอ ใช้ผ้าปูที่นอนทำเป็นเชือก ดึงกล่องอาหารขึ้นไปบนห้อง!!
เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2560 ทางเว็บไซต์ Shanghaiist มีรายงานว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นักศึกษาสาวจากมหาวิทยาลัย Henan University of Technology ใน ขี้เกียจที่จะลงมารับประทานอาหารที่ชั้นล่างของหอพัก ด้วยเหตุนี้ เธอจึงได้ปิ๊งไอเดียสุดบรรเจิด โดยการตัดปัญหาจากการเดินลงหอพักชั้น 6 และใช้ผ้าปูที่นอนมาผูกเป็นเชือก เพื่อให้คนขายสามารถผูกกล่องอาหารเอาไว้ที่ปลายผ้า แล้วค่อยๆ ดึงกลับขึ้นไปยังห้องของเธอ หลังจากที่ภาพดังกล่าวได้ถูกนำไปเผยแพร่ลงบนโลกออนไลน์ ชาวเน็ตต่างก็เข้ามาแสดงความเห็นกันเป็นจำนวนมาก บ้างก็บอกว่า “ไม่มีลิฟท์ในหอพักเลยหรอ” “เธอเป็นคนที่ขี้เกียจมาก” “คนที่อยู่ใต้ตึก น่าจะตัดเชือกเพื่อที่จะได้ขโมยอาหารของหล่อนมาซะเลย” ขณะเดียวกัน ดูเหมือนไอเดียของแม่นักศึกษาสาวจีนคนนี้จะได้รับความสนใจจากนักศึกษาคนอื่นๆ ไม่น้อย แถมยังทำให้พวกเขาได้พากันทำตามบ้าง ซึ่งบางคนก็เปลี่ยนจากการใช้ผ้าปูที่นอนเป็นเชือกแทน ส่วนนี่เป็นแผนภาพจำลองการส่งของ ไอเดียบรรเจิดเกิ๊นนน จนทำให้เพื่อนนักศึกษาคนอื่นๆ ขอทำบ้าง ก็เป็นไอเดียที่ชวนขำไม่น้อย เฮ้อ…คิดได้ยังไงกันเนี่ย ฮ่าๆ ที่มา : shanghaiist
-
ชีวิตอันปรับตัวยาก ของ “เปาเปา” แพนด้าที่เกิดในอเมริกา แต่ต้องย้ายมาอยู่ในเมืองจีน!?
เป็นที่รู้กันว่าสำหรับใครที่เติบโตในสถานที่หนึ่งมาเป็นเวลานาน แต่ทว่าจู่ๆ ก็ต้องย้ายที่อยู่ไปยังสถานที่ใหม่ ภาษาใหม่ อาหารใหม่ วัฒนธรรมใหม่ๆ ทุกอย่างล้วนเป็นสิ่งใหม่และไม่คุ้นเคยเอาซะเลย ทำให้เรารู้สึกไม่มีความสุขกับช่วงปรับตัวเท่าไหร่นัก แน่นอนว่าเรื่องนี้ไม่ได้เป็นกับเฉพาะคนหรอกนะ เพราะว่าล่าสุดมันเกิดขึ้นกับหมีแพนด้าตัวหนึ่งที่ชื่อว่า เปาเปา มันเป็นแพนด้าที่เกิดและโตที่สวนสัตว์ในวอชิงตัน ดีซี ประเทศสหรัฐอเมริกา แต่ล่าสุดมันถูกส่งกลับไปอยู่ไปประเทศจีนตามข้อตกลงของรัฐบาลจีน และสหรัฐอเมริกา ที่ตกลงกันไว้ว่าจะต้องส่งมอบคืน เนื่องจากลูกแพนด้าที่เกิดนี้ถือเป็นสมบัติของทางจีน เจ้าเปาเปา ถูกส่งมายังสถานีอนุรักษ์แพนด้าตูเจียงเอี้ยนในเฉิงตู และจะถูกกักบริเวณไว้ที่แห่งนี้เป็นเวลาราวๆ 1 สัปดาห์ เพื่อปรับตัวให้เข้ากับสภาพที่นี้ ในช่วงนี้เจ้าเปาเปา ยังปรับตัวได้ไม่ค่อยดีนัก เพราะว่าช่วงเวลา 3 ปีที่มันโตในอเมริกา มันถูกเลี้ยงดูโดยผู้แลที่พูดภาษาอังกฤษ รวมถึงยังให้กินคุกกี้แบบอเมริกา แต่พอต้องมาอยู่ที่นี้ผู้ดูแลพูดเพียงแค่ภาษาจีนเท่านั้น แถมยังให้มันกินเป็นขนมปังข้าวโพดแทนที่จะเป็นคุกกี้ ผู้คุมบอกว่า มันไม่มีการตอบสนองอะไรกับภาษาจีนเลย สิ่งที่มันเข้าใจเพียงอย่างเดียวก็คือชื่อของมันเท่านั้น แถมอาหารที่ให้มันกินมันก็ปัดทิ้งหมดทุกอย่าง จะมีก็แต่เพียงไผ่เท่านั้นที่มันยอมกินแต่โดยดี คลิปข่าวจาก CCTV เรื่องการปรับตัวของเจ้าเปาเปา ที่ชาวเน็ตต้องส่งใจช่วยหน่อยล่ะ!! ยังไงซะก็คงต้องให้เวลามันสักหน่อยล่ะนะ เพื่อที่มันจะได้ปรับตัวให้เข้ากับบ้านใหม่ของมัน ที่มา shanghaiist
-
“ขนาดบ้านของแก ยังไม่มีห้องน้ำเลย!!” สาวจีนปฏิเสธคำขอแต่งงานแฟนหนุ่ม เพราะฐานะแย่เกินไป!?
ในขณะนี้ต้องบอกเลยว่าประเทศจีนเป็นประเทศที่พัฒนาและเติบโตเร็วมาก ทำให้ผู้คนของพวกเขาพยายามขวนขวายหาความมั่นคงให้กับชีวิตตัวเอง โดยการเข้าไปทำงานตามหัวเมืองใหญ่ๆ และหากเป็นไปได้ การมีแฟนที่มีอันจะกิน ก็ยิ่งทำให้พวกเขารู้สึกมั่นคงไปด้วยนั่นเอง แต่หากคุณไม่ได้ร่ำรวยเงินทองเท่าไหร่ หรือคุณยากจนขนาดหนักจริงๆ ก็อาจจะต้องเตรียมพร้อมรับความเจ็บปวดแบบชายคนนี้ เมื่อวันที่ 6 มีนาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanhaiist ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอสุดสะบั้นอารมณ์ของคู่หนุ่มสาวชาวจีน ในขณะที่ฝ่ายชายพยายามขอฝ่ายหญิงแต่งงานในที่สาธารณะ แต่ฝ่ายหญิงกลับปฏิเสธคำขอของเขา โดยฝ่ายหญิงได้ตะโกนลั่นกลางถนนว่า “ที่ห้องของนายยังไม่แม้แต่ห้องส้วมหรือห้องอาบน้ำเลย นายยังจะมาขอให้ฉันแต่งงานกับนายอีกเหรอ!? ตลกสิ้นดี” หลังจากที่ฝ่ายชายถูกต่อว่าอย่างหนักโดยไม่ปริปากพูดใดๆ ออกไป ก่อนจะเก็บกระเป๋าและเดินจากไปแบบเงียบๆ สร้างความสะเทือนใจให้แก่ผู้คนโดยรอบและชาวเน็ตอย่างมาก กดชมคลิปสุดสะเทือนใจได้ที่นี่เลย เมื่อราวๆ สัปดาห์ที่ผ่านมา มีสื่อในจีนอย่าง People’s Daily ได้รายงานค่าเฉลี่ยของสินสอดและค่าใช้จ่ายในการที่ผู้ชายจะไปขอผู้หญิง อยู่ที่ราวๆ 200,000 หยวน หรือประมาณ 1 ล้านบาท จำนวนดังกล่าวเป็นเงินที่สูงมากทีเดียว โดยเฉพาะกับครอบครัวชนบทที่แทบจะไม่มีอะไร แม้กระทั่งห้องน้ำ ซึ่งบางบ้านในชนบทอาจจะยังใช้ส้วมรวมสาธารณะ หรือการไปปล่อยตามท้องทุ่งอยู่นั่นเอง ตัวเลขนี้แสดงให้เห็นว่าหากผู้ชายจะขอผู้หญิงสักคนแต่งงาน พวกเขาจะต้องมีความพร้อมในด้านการเงินมากแค่ไหน ที่มา shanghaiist , Lieselotte Young
-
หมดกัน… ฟาร์มเสือจีนปล่อย “โดรน” บินว่อนพาเสือออกกำลังกาย แต่ก็โดนตะปบจนพัง!?
ในช่วงต้นปีแบบนี้ยังคงเป็นช่วงฤดูหนาวของประเทศจีน ทำให้มีสภาพอากาศที่หนาวเย็นและมีหิมะตกในหลายๆ แห่ง นอกจากมนุษย์อย่างเราๆ ที่ใช้ชีวิตลำบากแล้ว พวกสัตว์เองก็เช่นกันนะ อย่างข่าวที่#เหมียวฟิ้นหยิบมารายงานในวันนี้ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในฟาร์มเสือไซบีเรีย China’s Harbin Siberian Tiger Park ที่เมืองฮาร์บิน มณฑลเฮย์หลงเจียง ประเทศจีนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ที่นั่นเมื่อเข้าสู่ฤดูหนาว เสือแต่ละตัวก็จะมีร่างกายที่อ้วนท้วมสมบูรณ์ป้องกันอากาศหนาว เนื่องจากอากาศหนาวมากจนพวกมันไม่อยากออกไปไหน ทางฟาร์มเสือจึงออกไอเดียนำเอาโดรนมาบินล่อให้พวกมันวิ่งตาม เพื่อเป็นการกระตุ้นให้พวกมันได้ออกกำลังกายบ้าง แต่ด้วยสัญชาตญาณของเสือ เมื่อพวกมันเห็นอะไรที่บินได้มันก็จะคิดว่าว่าเป็นนก พวกมันจึงวิ่งไล่ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งโดรนลำที่ว่านี้บินต่ำลงมาถึงระดับที่พวกเสือจะกระโดดได้พอดี มันจึงเอื้อมไปตะปบจนโดรนหล่นลงมากับพื้นและพังในที่สุด เมื่อพวกเสือเดินเข้าไปดูกับเหยื่อของตัวเองก็พบว่านั่นไม่ใช่นกแต่เป็นสิ่งของหน้าตาประหลาดที่ตัวเองไม่เคยเห็นมาก่อน และไม่น่าจะกินได้ด้วย… ชมการไล่ล่าโดรนได้ที่นี่เลย ด้าน Ben Pearson เจ้าหน้าที่จากสมาคมพิทักษ์สัตว์โลกได้ออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับคลิปวิดีโอดังกล่าวว่าแม้มันจะดูเป็นเรื่องตลกๆ แต่นี่เป็นชะตากรรมของเหล่าเสือในประเทศจีนเพราะพวกมันถูกเลี้ยงไว้เพื่อสร้างความบันเทิงแก่นักท่องเที่ยวเท่านั้น และโดยธรรมชาติแล้วเสือเองเป็นสัตว์ที่รักความสันโดด การที่ได้เห็นพวกมันมาอยู่รวมกลุ่มกันแบบนี้จึงไม่ใช่ธรรมชาติของพวกมันเลย และเมื่อพวกมันตายไปบางส่วนของร่างกายพวกมันก็ยังถูกนำเอาไปเป็นเครื่องประดับหรือทำยาสมุนไพรด้วย เห็นฮาๆ แบบนี้มีเบื้องหลังให้ดราม่าด้วยนะ ที่มา Shanghaiist , abc
-
ชมคอนเซปต์ “ป่าแนวตั้ง” อพาร์ทเม้นที่ปกคลุมไปด้วยต้นไม้ เตรียมเปิดตัวในจีนปี 2018 นี้
ในโลกยุคใหม่ไม่ว่าจะมองไปทางไหน เราก็มักจะเห็นแต่ตึกรามบ้านช่องสูงเสียดฟ้าเต็มไปหมด ต่างจากในอดีตที่บ้านเมืองของเราเต็มไปด้วยสีเขียวสดใสของต้นไม้ ขณะเดียวกันถ้ามองในโลกของความเป็นจริง สิ่งต่างๆ รอบตัวของเราก็มักจะเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา หลายสิ่งหลายอย่างต้องเจริญเติบโตขึ้น ถ้าอย่างนั้นเราจะทำอย่างไรดีละให้บ้านเมืองได้รับการพัฒนาไปด้วย และมีธรรมชาติแวดล้อมอันงดงามให้เราได้สุดอากาศบริสุทธิ์ไปด้วย คอนเซปต์อพาร์ทเม้น “ป่าแนวตั้ง” แห่งหนานจิง ประเทศจีน ด้วยเหตุนี้ทาง Stefano Boeri สถาปนิกชาวอิตาลี จึงปิ๊งไอเดียสุดบรรเจิดโดยการเนรมิตอาคารธรรมดาๆ ในนครหนานจิง ประเทศจีน ให้ผสมผสานกับความเขียวขจีของต้นไม้ ผลงานออกแบบตึกก่อนหน้านี้ – Bosco Verticale ณ เมืองมิลาน อิตาลี . . สำหรับ Stefano เขาเป็นสถาปนิกที่เคยได้รับรางวัลการออกแบบตึก “Bosco Verticale” ซึ่งเป็นตึกป่าแนวตั้งอีกแห่งที่คล้ายกับป่าแนวตั้งในเมืองหนานจิง แต่ตั้งอยู่ที่เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี โดยตึกดังกล่าวเต็มไปด้วยพันธุ์พืชกว่า 2,000 ชนิด และถูกปกคลุมไปด้วยต้นไม้กว่า 900 ต้น และในตอนนี้ เขาก็ได้กลายเป็นสถาปนิกที่จะได้มาออกแบบอาคาร “ป่าแนวตั้ง” ในเมืองหนานจิงเป็นคนแรกของเอเชียแล้ว …
-
ชายชาวจีนซื้อ “ลูกหมาดำ” มาเลี้ยง แต่เติบโตกลายเป็นหมีตัวใหญ่ อ่าวเฮ้ย!?
หลายคนอาจจะแยกความแตกต่างระหว่างลูกหมากับลูกหมีออกได้อย่างชัดเจน แต่สำหรับบางคนการแยกลูกหมากับลูกหมีนั้น ดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ยากสำหรับเขาซะเหลือเกิน และนี่คือเรื่องราวของชายชาวจีนรายหนึ่ง ที่ถึงกับตกใจแร๊งงงงง หลังจากที่พบว่าเจ้าหมาน้อยที่เคยซื้อมาจากชาวเวียดนามในวันก่อนนั้น ตอนนี้มันกลับแปลงร่างกลายเป็นมีควายยักษ์ไปซะแล้ว โถๆๆ น่าเห็นใจจริงๆ ทางด้านชายชาวจีนคนดังกล่าวได้เผยว่า ตนได้ซื้อลูกหมา 2 ตัว มาจากชาวเวียดนาม ระหว่างเดินทางไปทำธุระแถบพรมแดนจีน เวียดนาม ซึ่งตนก็เชื่อสนิทใจว่ามันคือลูกหมา พวกมันทั้งสองเติบโตอย่างรวดเร็ว แถมยังชื่นชอบการจับไก่สดๆ ของเพื่อนบ้านมากินอยู่บ่อยครั้ง อีกทั้งพวกมันยังมีนิสัยที่แตกต่างจากสุนัขทั่วๆ ไปด้วย จนในที่สุดความจริงก็ถูกเปิดเผย หลังจากที่เขาได้ไปเห็นโปสเตอร์เกี่ยวกับสัตว์ป่าคุ้มครอง ที่งานแสดงนิทรรศการคุ้มครองสัตว์ป่า และก็ต้องตกใจเมื่อเห็นเจ้าหมีสีดำในภาพ ดูหน้าตาคล้ายกับใบหน้าของสัตว์เลี้ยงแสนรักที่บ้านเหลือเกิน ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้เขาติดต่อยังหน่วยงานท้องถิ่น และได้รับการยืนยันว่าพวกมันไม่ใช่หมา แต่เป็นหมีนั่นเอง ทั้งนี้ กฎหมายคุ้มครองสัตว์ป่าของเมืองจีน ระบุว่าการเลี้ยงหมีในบ้านเรือนเป็นความผิด งานนี้จึงทำให้เขาตัดสินใจ ส่งสัตว์เลี้ยงแสนรักไปให้ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าดูแล เพื่อให้พวกมันได้อยู่ในสถานที่ที่เหมาะสมต่อไป งานนี้คงต้องยอมรับกันไปนะ หวังว่าบ้านเราจะไม่มีกรณีแบบนี้ขึ้นมาล่ะ เพราะคิดแล้วคงจะปวดหัวน่าดู…!! ที่มา : thedodo
-
หนุ่มชาวจีนปีนเข้าไปในกรงเสือ สุดท้ายเจ้าหน้าที่ต้องจำใจ ปลิดชีพเสือเพื่อช่วยคน…
คำเตือน: เนื้อหานี้มีรูปภาพที่รุนแรง อาจจะไม่เหมาะสำหรับผู้อ่านบางท่าน ควรหลีกเลี่ยง เหตุการณ์ที่มีคนกระโดดหรือพลัดตกเข้าไปในกรงสัตว์นั้น มีให้เห็นกันอยู่บ่อยครั้งเลยทีเดียว และจุดจบส่วนมากของเหตุการณ์เหล่านี้ มักจะจบลงที่สัตว์ถูกยิงตาย (ยกตัวอย่างได้ง่ายๆ ในกรณีของ Harambe เจ้ากอลิล่าที่เป็นข่าวดังนั่นเอง) ซึ่งในครั้งนี้เป็นคราวของสวนสัตว์หย่าเกอเอ่อ ที่อยู่ในเมืองจีน เมื่อมีรายงานว่าในวันที่ 29 มกราคมที่ผ่านมา ได้มีชายหนุ่มคนหนึ่งที่จู่ๆ ก็ได้เดินเข้าไปในกรงเสือโคร่ง ที่มีเสือสามตัวอยู่ใกล้ๆ ก็ได้เจ้าโจมตีเขาทันที รายงานข่าวระบุว่า หนุ่มแซ่จาง ไปเที่ยวสวนสัตว์กับนายลี่ และภรรยาของนายลี่ แต่ในขณะที่นางลี่และลูกๆ ซื้อตั๋วอย่างถูกต้อง นายจางกลับนายลี่ กลับพยายามปีนลักลอบเข้าสวนสัตว์ ทั้งสองอาจจะทราบหรือไม่ทราบก็ตามว่านั่นคือกรงเสือ แต่มีป้ายเดือนอยู่และกำแพงสูงกว่า 3 เมตร นายจางปีนเข้าไปแต่นายลี่ไม่ยอมตามเพื่อนของเขาเข้าไปด้วย และเขาก็เจอเสือจู่โจมเข้า ถึงแม้ว่าเจ้าหน้าที่จะทำการไล่เสือโคร่งทั้งสามด้วยประทัดแล้วก็ตาม แต่ก็ยังมีเสือโคร่งตัวหนึ่งที่ยังขย้ำชายคนนั้นไม่ปล่อย จนท้ายที่สุดเจ้าหน้าที่ของส่วนสัตว์ก็ได้ทำการยิงปลิดชีวิตของเสือตัวนั้นลง ท้ายที่สุดทีมแพทย์ก็ได้นำตัวชายคนนี้ไปส่งโรงพยาบาล แต่ว่าด้วยบาดแผลที่มีมากจนเกินไปทำให้เขาเสียชีวิตลงในที่สุด นอกจากนี้ ยังมีคำสัมภาษณ์จากพยานที่อยู่ในเหตุการณ์ ซึ่งบอกกับทางสำนักข่าว South China Morning Post ว่า “ฉันเห็นเสือขย้ำคนๆ นั้นอยู่ หน้าของเขาเต็มไปด้วยเลือด…
-
นักบินจีนช่วยชีวิตผู้โดยสาร 439 คน จากเหตุเครื่องบิน (เกือบ) ชนบนรันเวย์ รับเงินรางวัล 16 ล้านบาท
ไม่บ่อยนักที่เราจะได้เห็นข่าวการรอดชีวิตจากอุบัติเหตุทางอากาศ เพราะเนื่องจากมีปัจจัยหลายๆ อย่างที่ยากต่อการควบคุม และหากคุณเคยได้ดูหนังที่เกี่ยวกับอุบัติเหตุของเครื่องบินมาหลายเรื่องก็คงพอจะนึกภาพกันออกว่ามันเลวร้ายขนาดไหน แต่คุณเชื่อหรือไม่ว่ายังมีนักบินฝีมือดี ที่สามารถควบคุมเครื่องบินจนสามารถช่วยชีวิตผู้โดยสารนับร้อยชีวิตจนรอดตายได้อย่างปาฏิหาริย์!! เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้รายงานว่านักบินชาวจีนรายหนึ่ง ได้ช่วยชีวิตผู้โดยสารกว่า 439 คนให้รอดตาย จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนรันเวย์ในสนามบินเซี่ยงไฮ้ ตามรายงานบอกว่าเหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นในสนามบิน Shanghai Hongqiao International Airport ประเทศจีน เวลา 12.04 นาฬิกา เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2016 ในขณะที่เครื่องบินของสายการบิน China Eastern Airlines เครื่อง Airbus A320 กำลังเทคออฟขึ้นสู่อากาศ ในขณะนั้นมีเครื่อง Airbus A330 ที่อยู่บนรันเวย์และกำลังเลี้ยวเข้าไปขวางเส้นทางของ Airbus A320 พอดิบพอดี นักบินชาวจีนที่ชื่อนาย He Chao ที่บังคับเครื่อง Airbus A320 จึงตัดสินใจเร่งเครื่องเต็มกำลังเพื่อไม่ให้เครื่องบินที่เขาขับอยู่ไปชนเข้ากับเครื่องบินบนรันเวย์ ที่เฉียดกันไปเพียง 19 เมตรเท่านั้น หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น ทางสายการบินก็ได้มอบเงินรางวัลให้กับเขาเป็นจำนวน 3 ล้านหยวน…
-
หนุ่มจีนโชว์เท่ แอบบุกเข้ากรงแพนดายักษ์อวดสาว สุดท้ายถูกเล่นงานกลับ หนีตายแทบไม่ทัน
เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2559 ทางสำนักข่าวเดลีเมล์ ได้เผยภาพพร้อมคลิปวีดีโอจากสวนสัตว์แห่งหนึ่ง ในเมืองหนานชาง มณฑลเจียงซีทางตะวันออกเฉียงใต้ของจีน โดยในคลิปได้ปรากฏให้เห็นเป็นภาพของหนุ่มชาวจีน วัย 20 ปี นามว่า Chen ผู้เดินทางมาเที่ยวชมแพนดา ณ สวนสัตว์แห่งนี้ ได้กระโดดลงไปในกรงซึ่งเป็นที่อยู่ของแพนดายักษ์ชื่อว่า “Mei Ling” ซึ่งในขณะนั้นมันกำลังนอนหลับอยู่ โดยไม่รู้ว่ามีคนแอบบุกรุกเข้ามาในบ้าน… หลังจากที่กระโดดเข้าไปในกรงของ Mei Ling พ่อหนุ่มสุดซ่าส์ก็ได้เอื้อมมือไปแหย่เจ้าแพนดายักษ์ จนเป็นเหตุให้มันตื่นขึ้นมาทันที เมื่อเห็นว่ามีมีคนแปลกหน้าบุกเข้ามาถึงถิ่น มีหรอที่เจ้าแพนดาจะปล่อยไปง่ายๆ เพราะหลังจากที่ตื่นขึ้นมา มันก็รีบคว้าขาของเขาเอาไว้แน่น ฮร่าๆ โดนเจ้าแพนดาเล่นงานเข้าอย่างจังซะแล้ว ชายหนุ่มพยายามดิ้นสุดแรงเกิดเพื่อให้ตัวเองหลุดออกจากเจ้าแพนดา จนทำให้ทั้งเขาและมันกลิ้งทับกันบนพื้นหญ้าอยู่นานหลายนาที สุดท้ายเขาก็อาศัยจังหวะรีบพุ่งตัวออกมา แล้ววิ่งหลบหนีออกมาได้ จากการรายงานระบุว่า สาเหตุที่ชายหนุ่มคนดังกล่าว ได้กระโดดลงไปในกรงแพนดานั้น เป็นเพราะว่า เขาต้องการอวดเพื่อนสาว 2 คนที่เขาได้พาเธอมาเที่ยวสวนสัตว์ยังไงละ ทางด้านเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ได้ออกมาเผยว่า “แม้แพนดาจะเป็นสัตว์ที่ขี้อาย แต่ถ้าหากว่าพวกมันรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาเมื่อไหร่ เขาอาจจะถูกมันทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัสจากกรงเล็บและฟันของมันได้” ชมคลิปไม่ได้…
-
ยอมใจ!! เด็กจีนวัย 13 ปี ติดในลิฟท์นาน 5 ชั่วโมง ไม่รู้ทำไง เลยหยิบการบ้านมาทำจนเสร็จ
นี่เป็นข่าวที่#เหมียวฟิ้นไม่รู้ว่าจะอึ้ง หรือขำ หรือรู้สึกยินดีกันแน่ เพราะความรู้สึกแต่ละอย่างมันปนกันไปหมดเลย… เมื่อวันที่ 20 ตุลาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Rocketnews24 ได้รายงานว่าเด็กนักเรียนหนุ่มชาวจีนนามว่า ซุน ยี่เสี่ยว วัย 13 ปี ได้ติดอยู่ในลิฟท์ระหว่างที่เขากำลังเดินทางกลับบ้าน อันที่จริงแล้วเขาสามารถกรีดร้องหรือพยายามทุบประตูเพื่อขอความช่วยเหลือจากผู้คนภายนอกได้ แต่ดูเหมือนว่าเขาจะใจเย็นมากกว่าเด็กวัยรุ่นคนอื่นๆ เด็กชายซุนจึงกดปุ่มไปยังชั้นต่างๆ เพราะเชื่อว่าเป็นการป้องกันไม่ให้ลิฟท์ตกลงไปข้างล่าง จากนั้นเขาก็พยายามที่จะใช้ระบบอินเตอร์คอมเพื่อสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ภายนอก แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้ผลอะไรเลย ไม่มีเสียงใครตอบรับกลับมา เป็นคุณจะทำยังไงต่อ!? เขาก็เลยหยิบเอากระดาษออกมาจากกระเป๋าแล้วเริ่มเขียนข้อความร้องขอความช่วยเหลือจากหน่วยกู้ภัย โดยมีข้อความว่า “มีคนอยู่ในลิฟท์ ขอร้องช่วยติดต่อคนดูแลตึกนี้หน่อย” จากนั้นก็พยายามหย่อนมันเข้าไปในช่องระหว่างประตูลิฟท์ และหวังว่าจะมีคนมาเห็นเข้อ แล้วเมื่อไม่มีอะไรให้ทำนอกจากการนั่งรอคอยความช่วยเหลือแล้ว เด็กชายซุนก็หยิบเอาการบ้านออกมา แล้วนำกระเป๋านักเรียนมาวางไว้ที่ตักเพื่อทำเป็นโตะ ก่อนจะลงมือทำการบ้านที่คุณครูสั่งอย่างใจเย็น ตั้งแต่วิชาคณิต ต่อด้วยวิชาวิทยาศาสตร์ และวิชาภาษาจีน เวลาล่วงเลยผ่านไปได้สักพักจนเด็กชายซุนทำการบ้านได้เสร็จหมดทั้ง 3 วิชาแล้ว แต่ก็ยังไม่มีใครมาช่วยเหลือเขาสักที หลังจากที่ผ่านไป 5 ชั่วโมง ก็มีนักดับเพลิงเปิดประตูเข้ามาพาเขาออกไปจนได้ แถมยังทึ่งที่พบว่าเขาทำการบ้านอย่างใจเย็นจนเสร็จหมดทุกวิชา เมื่อข่าวนี้แพร่สะพัดออกไปในโรงเรียน เด็กชายซุนก็ได้รับสมญาจากเพื่อนๆ ว่า “นักเรียนหัวเย็น” น้องทำใจเย็นอยู่ได้ไงเนี้ยะ!! ที่มา rocketnews24
-
ดีต่อผู้สูงอายุ!! รัฐบาลจีนแจก “สายรัดข้อมืออัจฉริยะ” ช่วยลดปัญหาผู้ป่วยอัลไซเมอร์หลงทาง
ปัญหาของผู้ป่วยอัลไซเมอร์นั้นค่อนข้างที่จะเป็นปัญหาที่แก้ได้ยากทีเดียว ในหลายๆ ประเทศกำลังประสบกับปัญหาที่ผู้ป่วยอัลไซเมอร์สูญหาอยู่จำนวนไม่น้อย หนึ่งในนั้นคือประเทศจีน ตามรายงานจากเพจอ้ายจง เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม บอกว่าประเทศจีนมีผู้ป่วยอัลไซเมอร์มากถึง 9.5 ล้านคน ซึ่งอย่างที่เรารู้กันว่าการป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์นั้นไม่ใช่เรื่องที่ดีเลย เพราะมันทำให้ความจำของเราแย่ลง จำบุคคลหรือเส้นทางต่างๆ ไม่ได้ สำหรับประเทศจีน.มีจำนวนผู้สูงอายุที่ป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์ประมาณ 9.5ล้านคน.หรือคิดเป็น4.75%ของผู้สูงอายุทั้งหมดในจีน ซึ่ง… โพสต์โดย อ้ายจง บน 9 ตุลาคม 2016 นั่นจึงส่งผลให้มีผู้ป่วยอัลไซเมอร์หลายๆ คนหลงทางหรือหายตัวออกไปจากบ้าน และที่ประเทศจีนเองก็มีผู้สูงอายุหายตัวไปถึง 1,370 คนต่อปี ทำให้หน่วยงานภาครัฐและเอกชนร่วมมือกันหาทางแก้ไขกันอย่างจริงจัง ทั้งนี้ทางรัฐบาลจีนได้เริ่มต้นโครงการผลิตสายรัดข้อมืออัจฉริยะมาตั้งแต่ปี 2012 เพื่อแจกจ่ายมันให้กับผู้ป่วยอัลไซเมอร์นำไปใช้กันแบบฟรีๆ โดยในสายรัดข้อมือจะมีข้อมูลเช่นชื่อ ที่อยู่ หรือเบอร์ติดต่อญาติๆ ให้มารับกลับบ้าน โครงการที่ว่านี้มีการพัฒนารุ่นใหม่ออกมาตลอด จนล่าสุดในปี 2016 ก็ได้มีการนำเอาเทคโนโลยี QRcode มาใช้ เพื่อให้ผู้ใช้สมาร์ทโฟนหลายคนสามารถสแกนแล้วโทรหาญาติได้ทันที ลดระยะเวลาในการโทรแจ้งตำรวจหรือประกาศหาคนหาย นอกจากหน่วยงานรัฐแล้ว ก็ยังมีบริษัทเอกชนหลายแห่งผลิตสายรัดข้อมือแบบนี้ เช่น องค์กรอาสาสมัครยุวชนกวางโจว (Guangzhou Young Volunteers Association) องค์กรที่ว่า…
-
แบบนี้ก็มีเหรอ? หัวหน้างานบริษัทในปักกิ่ง บังคับพนักงานสาวทุกคนเข้าแถวจูบตัวเองทุกเช้า
ในหลายๆ บริษัทมักมีวัฒนธรรมองค์กรที่แตกต่างกัน เมื่อเราต้องเข้าไปเป็นพนักงานเราก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับกฎเกณฑ์ที่นั่น แต่…กฎเกณฑ์หรือวัฒนธรรมบางที่มันก็ดูแปลกเกินกว่าที่บางคนจะรับได้จริงๆ… เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม เว็บไซต์ Shanghaiist ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอที่ถูกถ่ายได้โดยพนักงานออฟฟิศในบริษัทขายเครื่องชงกาแฟแห่งหนึ่งในกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เพื่อตีแผ่เรื่องราวในที่ทำงานของเขาว่ามีกิจกรรมที่แปลกประหลาดขนาดไหน ตามรายงานบอกว่าในทุกๆ เช้า เวลา 9 โมงถึง 9 โมงครึ่ง หัวหน้างานจะเรียกให้พนักงานสาวทั้งแผนกมายืนเรียงแถวกัน จากนั้นก็บอกให้พวกเธอเหล่านั้นจูบเขาทีละคนๆ โดยอ้างว่าเพื่อเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีภายในที่ทำงานเหมือนปลากับน้ำ หัวหน้างานรายนี้บอกว่าพนักงานบางคนจะรู้สึกคิดถึงเขาเมื่อแยกย้ายกันกลับบ้าน บางคนถึงขั้นส่งข้อความไปหาเขาผ่าน WeChat เลย แถมยังบอกอีกว่าเขาได้ไอเดียนี้มาจากตอนที่เดินทางไปดูงานที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ทั้งนี้มีรายงานเพิ่มเติมว่ามีพนักงานสาวหลายคนยอมทำตามคำสั่งของหัวหน้ารายนี้ แต่ก็มีบางรายที่ทนไม่ได้และเซ็นลาออกในที่สุด (เพราะวัฒนธรรมการจูบแบบนี้ไม่ใช่เรื่องปกติในเอเชีย) ชมคลิป หลังจากที่ภาพและคลิปวิดีโอดังกล่าวถูกเผยแพร่ลงในสื่อสังคมออนไลน์ของจีนอย่างเว็บไซต์ Weibo ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆ นานา เช่น “พนักงานสาวทั้งหมดนี้ยอมรับได้ยังไง? พวกแฟนๆ หรือสามีของพวกเธอรู้เรื่องกันบ้างหรือเปล่า?” “ฉันอยากจะถามพนักงานสาวพวกนี้มากว่า พวกคุณไม่มีเงินกันเหรอ? คุณจะอดตายไหมถ้าต้องเปลี่ยนงาน?” “ไอ้หัวหน้าคนนี้มันโรคจิตมาก แต่พนักงานพวกนี้โง่เง่ายิ่งกว่า” แบบนี้ก็ได้เหรออออ ที่มา shanghaiist
-
สตรองมาก!! สาวจีนใช้เวลา 17 ปี ในการตามล่าแก๊งคนร้ายที่ฆ่าสามีของเธอทีละคนๆ จนครบ
เวลาเราดูหนังที่ตัวละครหลักใช้เวลานานๆ ในการตามล่าคนร้ายหลายปีกว่าจะเจอ เช่น (Old Boy หรือหนังสืบสวนสอบสวนหลายๆ เรื่อง) เราอาจจะคิดว่ามันมีแค่ในหนัง แต่เรื่องที่ว่านั่นได้เกิดขึ้นในโลกแห่งความเป็นจริงแล้ว!! เมื่อวันที่ 5 ตุลาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้เปิดเผยเรื่องราวของคุณแม่ชาวจีนแผ่นดินใหญ่สุดสตรองหลี กุ้ยอิง วัย 59 ปี ที่ถูกแก๊งเพื่อนบ้าน 5 คนรุมทำร้ายและฆ่าสามีของเธอไปเมื่อ 17 ปีก่อน เธอจึงสาบานกับตนเองว่าจะออกตามล่าแก๊งคนชั่วมาลงโทษให้จงได้ ย้อนกลับไปเมื่อปี 1998 หลี กุ้ยอิงมีอาชีพเป็นครูอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่งในมณฑลเหอหนานร่วมกับสามีฉี หยวนเตอ ถูกเพื่อนบ้านฉี เซวซาน กล่าวหาว่าพวกเขาเป็นคนเอาเรื่องที่เซวซานมีลูกเกิน 1 คน ไปฟ้องทางการ (จีนมีนโยบายให้มีลูกแค่คนเดียว) เซวซานเริ่มทำร้ายนางกุ้ยอิงด้วยก้อนอิฐก่อนที่จะเรียกพรรคพวกอีก 4 คนมาช่วยกระทืบสามีของเธอ ก่อนที่จะพยายามใช้ปังตอฟันนางกุ้ยอิงแต่เธอก็รอดมาได้และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ส่วนสามีของเธอกลับไม่ได้โชคดีแบบเธอ เขาถูกแทงด้วยมีดจนเสียชีวิต จากนั้นผู้ก่อเหตุทั้ง 5 คนก็หนีไปอย่างลอยนวล ต่อมาเมื่อนางกุ้ยอิงออกจากโรงพยาบาล เธอก็ปฏิญาณตนว่าจะตามหาคนร้ายให้ได้และจะขอทวงคืนความยุติธรรมให้กับสามีของเธอ…
-
ด้านน่ารักก็มีนะ ชาวจีนรวมตัวกันเก็บขยะบนหาดพัทยา สร้างภาพลักษณ์ที่ดีแก่คนจีน
หากจะว่ากันตามตรง ที่ผ่านๆ มา#เหมียวฟิ้นเองก็ได้นำเสนอเรื่องราวด้านลบเกี่ยวกับนักท่องเที่ยวจีนอยู่ไม่น้อย ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่าประเทศจีนมีคนจำนวนมหาศาลเกินกว่าที่จะควบคุมให้พวกเขามีระเบียบวินัยเหมือนกันได้ แต่ก็ใช่ว่าพวกเขาจะเป็นแบบนั้นไปซะหมด เพราะอย่างเมื่อต้นเดือนสิงหาคม 2559 ที่ผ่านมาก็มีข่าวเกี่ยวกับคุณป้าไกด์ชาวจีนที่ออกมาตักเตือนนักท่องเที่ยวจีนที่ทำตัวแย่ๆ เหมือนกัน ล่าสุดเราได้ไปเจอเรื่องราวดีๆ เกี่ยวกับคนจีนมาบอกกันอีกแล้วล่ะ เป็นเรื่องเกี่ยวกับคนจีนที่รวมตัวกันไปเก็บขยะที่บริเวณหาดพัทยาและหาดจอมเทียน เพื่อสร้างภาพพจน์ที่ดีให้กับนักท่องเที่ยวจีนและทำให้สถานที่ท่องเที่ยวดูสะอาดตามากขึ้น เรื่องนี้ถูกบอกเล่าผ่านเฟซบุ๊กเพจ อ้ายจง โดยมีการระบุว่ากิจกรรมทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในวันที่ 25 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งชาวจีนที่เห็นในภาพนี้เป็นการรวมตัวกันของนักธุรกิจจีนและชาวจีนที่ทำงานในประเทศไทย โดยมีจุดประสงค์เพื่อสร้างภาพพจน์ที่ดีให้กับนักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาเที่ยวที่ประเทศไทย นอกจากนี้ยังเป็นการกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวจีนรักษาความสะอาดเมื่อไปเยือนในที่ต่างๆ ด้วย เป็นภาพที่น่าชื่นชมจริงๆ แน่นอนว่าเรื่องนี้ทำให้ชาวไทยหลายๆ คนรู้สึกดีไปตามๆ กัน และมีความเห็นในเชิงชื่นชมมากมาย เช่น Dr-Boss Permsuwan “เคยไปพักรีสอร์ทราคาแพงในหัวหิน วันนั้นมีทัวจีนมาพักตึกข้างเคียงด้วย เค้าไม่เสียงดัง พูดภาษาอังกฤษก็สำเนียงอย่างกับเจ้าของภาษาเลยครับ” Siwarporn Ruangsri “ดีค่ะ ชื่นใจ ดิฉันเคยเบื่อ รำคาญ ถึงขั้นเกลียดนักท่องเที่ยวจีนมากๆ แต่มีระยะหลัง เวลานั่งพักกับลูกทัวร์ (ฝรั่ง) ในวัดพระแก้ว แล้วพิจารณาดูพวกเขา เห็นบางคนทิ้งขยะบนพื้นหน้าตาเฉย บางคนใส่รองเท้าขึ้นมาบนศาลารายแล้ววิ่งลงแทบไม่ทันเพราะเจอเพื่อนมาด้วยกันตวาดให้ลง บางคนนอนแผ่บนศาลา ไกด์จีนรีบวิ่งมาตวาดให้ลุก…
-
ห้างจีนขายอากาศบริสุทธิ์อัดถุง ให้ลูกค้าได้สูดกันอย่างเต็มปอด เอ่อ…แบบนี้ก็ขายได้เหรอ?
เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2559 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศได้เผยภาพของประชาชนชาวจีน ณ ห้างห้างสรรพสินค้าในเมืองซีอาน มณฑลส่านซี ที่กำลังพากันแห่ซื้อ “อากาศบริสุทธิ์” มาสูดดม หลังจากที่มีรายงานว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ประเทศจีนต้องประสบกับปัญหามลภาวะทางอากาศมาโดยตลอด ซึ่งซีอานนั้นก็เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศจีน ประชาชนต้องทนทุกข์ทรมานจากปัญหาหมอกควัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูหนาว ดังนั้น ทางห้างสรรพสินค้าดังกล่าว จึงได้ทำการนำอากาศบริสุทธิ์อัดถุงมาขาย เพื่อเป็นการสะท้อนปัญหามลภาวะที่กำลังวิกฤต แถมยังมีราคาถูกมากเพียงแค่ถุงละ 5 บาทเท่านั้น (1 หยวน) ซึ่งสามารถดึงดูดให้บรรดาลูกค้าพากันแห่มาซื้อได้เป็นอย่างดี แม้ว่าทางผู้ขายจะไม่ได้เปิดแหล่งที่มาของอากาศบริสุทธิ์อัดถุงอย่างชัดเจน แต่คาดว่ามันอาจจะมาจากสถานที่ที่มีอากาศดีกว่าซีอานแน่นอน แต่ถ้าหากว่าอยากได้อากาศบริสุทธิ์จากต่างประเทศอย่าง แคนาดา และ ออสเตรเลีย ก็มีจำหน่ายในราคาที่สูงกว่าด้วยนะ อย่างไรก็ตาม ผลการวิจัยล่าสุดยังพบว่า การหายใจสูดเอาหมอกควันที่ทำให้เกิดปัญหามลพิษในอากาศเข้าไปเป็นเวลานาน จะทำให้อายุสั้นลงได้อย่างน้อย 25 เดือน อีกทั้งงานวิจัยอื่นๆ ในปี 2015 ยังพบว่า ประชากรกว่า 4 ล้านคนที่อาศัยอยู่ในประเทศจีนป่วยเป็นมะเร็งระบบทางเดินหายใจ ในขณะที่ประชากรกว่า 3 ล้านคน ก็เสียชีวิตด้วยโรคนี้เช่นกัน…
-
16 ภาพที่แสดงให้เห็นถึง ‘ความหนาแน่น’ ของคนจีน ประเทศประชากรมากที่สุดในโลก..!!
ไม่ว่าเราจะไปส่วนไหนของโลก ตะวันตก ตะวันออก หรือจะขึ้นเหนือแล้วลงใต้ เชื่อว่ายังไงเราก็ต้องได้เจอกับคนที่มีเชื้อสายจีนอยู่แน่นอน แม้แต่ในประเทศไทยของเราเอง ก็มีคนที่สืบเชื้อสายจีน อาศัยอยู่เป็นจำนวนมากเช่นกัน เหตุผลก็ไม่น่าแปลกใจนัก ก็เพราะประเทศจีนยักษ์ใหญ่ มีประชากรมากถึง 1.4 พันล้านคน!!! (เฉพาะในประเทศเท่านั้น และคาดว่ามีคนจีนอาศัยอยู่ในประเทศต่างๆ รวมกันอีกกว่า 50 ล้านคน) และถ้าหากคุณคิดว่าวันยุ่งๆใน กรุงเทพฯ แออัดมากแล้ว เราขอพาไปดูที่จีนกันบ้างเพราะที่นี่ก็ไม่แพ้กัน.. ภาพงานวันตรุษจีน ในเซี่ยงไฮ้ เมืองที่มีประชากรแน่นหนามากที่สุดในประเทศ ผู้ว่างงานจำนวนมากต่างพากันมาหางานทำ ที่งานนัดพบแรงงาน ในเทศบาลเมืองฉงชิ่ง (คนเยอะมาก!!!) ด้วยอากาศที่ร้อนสุดๆ ทำให้ชาวเมืองต่างพากันออกมาเล่นน้ำที่สวนน้ำแห่งหนึ่ง ในมณฑลเสฉวน ดูคลิปประกอบ แล้วจะรู้ว่า…คนเยอะได้ขนาดไหน แท็กซี่จำนวนมากจอดรอผู้โดยสาร ที่สนามบินในเมืองปักกิ่ง จักรยานที่จอดอยู่นอกสถานีรถไฟใต้ดินของปักกิ่งจำนวนมาก สะท้อนให้เห็นถึงความหนาแน่นของประชากร นักเรียนจากโรงเรียนแห่งหนึ่งในเมือง Yichuan มณฑลส่านซี ต้องสอบกลางแจ้ง เพราะไม่มีห้องที่ใหญ่พอจะรองรับจำนวนนักเรียนได้ เสื้อผ้าที่ตากอยู่จำนวนมากในหอพักนักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเ่ป่ย์ วันธรรมดาๆ…
-
เข้าท่ามั้ย? หนุ่มจีนใช้เศษขวดเบียร์ มาเจียระไนทำเป็นแหวนทุนต่ำ… สวยแทบไม่ต่างจากเพชร
ชาวจีนเป็นชนชาติหนึ่งที่ชอบมีพิธีหรือความเอิกเกริกคล้ายๆ คนไทยเหมือนกันนะ ซึ่งเราจะเห็นได้จากการเปิดงานต่างๆ หรือพิธีแต่งงาน ที่ต้องทำให้ดูหรูหรายิ่งใหญ่ไว้ก่อน แต่เมื่อถึงเวลาที่พวกเขาต้องประหยัดหรือทำอะไรเล็กๆ ขอบอกเลยว่าพวกเขาเองก็ไม่แพ้ใครเหมือนกัน เช่นชายหนุ่มคนนี้ที่พยายามจะทำแหวนแต่งงานให้กับแฟนสาวด้วยการนำเอาขวดเบียร์มาแปลงร่าง… เอ๊ะ ยังไงกันแน่? เมื่อวันที่ 14 กันยายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่ามีชายหนุ่มชาวจีนรายหนึ่งได้โชว์วิธีการแปรรูปขวดเบียร์ที่ไม่ใช้แล้วให้กลายเป็นแหวนเพชรผ่านเว็บไซต์ Weibo จนมีคนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก ภาพที่ทุกคนได้เห็นต่อไปนี้บางคนอาจจะมองว่ามันคือขวดเบียร์แบบธรรมดาๆ แต่หากเรามองให้ลึกลงไปอีกจะเห็นว่ามันก็มีความใสแวววาวไม่ต่างอะไรจากเพชรมรกตที่ยังไม่ได้เจียระไนเลย คุณจะเห็นได้ว่ากระบวนการทั้งหมดเริ่มขึ้นตั้งแต่นำเอาขวดเปล่า มาทำให้กลายเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วนำไปเจียระไน และนำมาประกอบกับแหวน ซึ่งดูเผินๆ แล้วเหมือนเพชรมรกตจริงๆ ชิ้นหนึ่งเลยก็ว่าได้ หลังจากที่ภาพชุดนี้ถูกแชร์ออกไปในเครือข่ายสังคมออนไลน์ของจีน ก็ทำให้หนุ่มๆ หลายคนถึงกับตื่นตะลึงในวิธีการทำแหวนแต่งงานแบบทุนต่ำ จนมีความเห็นต่างๆ ตามมากมายเช่น “ดูเหมือนว่าสาวๆ นอกจากจะต้องสวยแล้ว พวกเขาจะต้องดูอัญมณีให้เป็นด้วยนะ” “เฮ้ ทำไมแหวนฉันกลิ่นคล้ายๆ เบียร์เลยล่ะ!?” “ถ้าสามีของฉันมาขอแต่งงานด้วยแหวนทำเองแบบนี้ แม้จะไม่มีเพชรฉันก็ยังจะแต่งงานกับเขาอยู่ดี ฉันคิดว่าบางอย่างที่คุณแสดงออกมันทำให้คุณดูมีค่ามากกว่าเพชรซะอีก” . ได้แล้ว เพชรจากขวดเบียร์!! . . หนุ่มๆ คนไหนอยากลองทำแหวนทุนต่ำให้แฟนก็ลองดูได้ แต่ไม่รับประกันว่าถ้ารู้ความจริงแล้ว พวกเธอจะชอบหรือเปล่านะ…
-
พ่อเฒ่าแม่เฒ่าจีน อาศัยอยู่ในถ้ำมานานกว่า 54 ปี แม้ไม่มีชีวิตหรูหราขอแค่มีกันและกันก็สุขใจแล้ว…
จริงอยู่ที่ว่าเงินสามารถซื้อความสุขให้กับชีวิตของเราได้หลายๆ อย่าง (หรืออาจจะเกือบทุกอย่าง) แต่ก็ยังมีคู่รักบางคู่เหมือนกันที่แม้แต่เงินก็ไม่สามารถสร้างความสุขให้กับพวกเขาได้ เพราะขอเพียงมีกันและกันก็มีความสุขพอแล้ว นี่คือเรื่องราวชีวิตรักของนาง Li Suying วัย 77 ปี และสามีของเธอ Liang Zifu วัย 54 ปี คู่รักสองตายายที่โด่งดังไปทั่วโลก เพราะพวกเขาใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายภายในถ้ำแห่งหนึ่ง ในเมืองหนานชง มณฑลเสฉวน ประเทศจีน แม้จะดูเป็น 2 บุคคลที่ใช้ชีวิตแบบมนุษย์โบราณ แต่ภายในถ้ำก็ถูกตกแต่งให้คล้ายกับบ้านหลังหนึ่งเพียงแต่วัสดุทั้งหมดเป็นสิ่งของจากธรรมชาติ อันที่จริงแล้วทั้งคู่ไม่ได้ตั้งใจที่จะอาศัยอยู่ในถ้ำตั้งแต่แรก แต่เพราะว่าในตอนที่ทั้งคู่แต่งงานกัน พวกเขามีฐานะที่ค่อนข้างยากจนมากจึงไม่สามารถซื้อบ้านอยู่ในหมู่บ้านแบบปกติได้ พวกเขาก็เลยเลือกที่จะสร้างบ้านอยู่ภายในถ้ำเพราะใช้เงินน้อยกว่าหลายเท่าตัว สองตายายค่อยๆ นำไม้และก้อนอิฐมาก่อเป็นห้องต่างๆ ภายในถ้ำ จนตอนนี้มีห้องนอนแล้ว 3 ห้อง มีห้องครัวและห้องนั่งเล่นครบครัน เรื่องของสองตายายเริ่มเป็นที่พูดถึงมากขึ้นจนเจ้าหน้าที่รัฐเริ่มเป็นกังวลและพยายามจะเข้าไปช่วยเหลือด้วยการเสนอให้พวกเขาย้ายไปอยู่ในสถานที่ที่ดีและสะดวกสบายกว่านี้ แต่พวกเขาก็ปฏิเสธและให้เหตุผลว่าพวกเขาเติบโตและคุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้ พวกเขาคิดว่ามันมีข้อดีอยู่มากทีเดียว เช่นอากาศภายในถ้ำเย็นสบายในหน้าร้อนและอบอุ่นเมื่อถึงหน้าหนาว แถมยังมีน้ำพุสะอาดๆ ผุดขึ้นมาอยู่ใกล้ๆ กับถ้ำของพวกเขาด้วย และที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใดก็คือพวกเขามีกันและกัน ยังจะมีอะไรที่พวกเขาต้องการอีกล่ะ? #เหมียวฟิ้นล่ะอิจฉาความรักของพวกเขามากเลยนะ แม้ภายนอกจะไม่ได้มีเงินทองมากมาย…
-
มหาวิทยาลัยจีนเอาใจ “พ่อแม่ห่วงลูก” กางเต๊นท์ให้นอนในมหาลัย 3 วัน 3 คืน ให้หายคิดถึง…
ว่ากันว่าเด็กๆ จะอยู่ในการปกครองดูแลของคนเป็นพ่อเป็นแม่ได้ถึงอายุแค่ 18 ปี หลังจากนั้นเมื่อเมื่อพวกเขาต้องก้าวเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยและความอิสระ คนเป็นพ่อเป็นแม่ก็ทำได้เพียงแนะแนวทางลูกเท่านั้นเอง แต่ก็มีพ่อแม่บางคนเหมือนกันที่ไม่ยอมปล่อยวาง แม้ว่าลูกๆ ของพวกเขาจะต้องไปเริ่มต้นใช้ชีวิตด้วยตัวเองแล้ว แต่พวกเขาก็ยังตามติดมาคอยดูแลกำกับชีวิตของลุกๆ เสมอ… เมื่อวานนี้มีรายงานจากสำนักข่าวในจีนอีกหลายแห่งได้รายงานว่าทางมหาวิทยาลัย Tianjin University และ Shantou University ได้ตั้งเต๊นท์จำนวนมากไว้ในโรงยิม เพื่อให้ผู้ปกครองที่เป็นห่วงลูกแบบสุดๆ ได้เข้ามานอนพักเป็นการชั่วคราว ตามรายงานบอกว่าทางมหาวิทยาลัยได้เตรียมทั้งเต๊นท์ ผ้าเช็ดตัว น้ำดื่ม เครื่องนุ่งห่มและอุปกรณ์อาบน้ำไว้ให้อย่างครบครัน แต่ก็ใช่ว่าพวกเขาจะสามารถกินนอนดูลูกๆ เรียนหนังสือได้ตลอดไป เพราะทางมหาลัยจำกัดเวลาให้พวกเขาเพียง 3 วันเท่านั้น บางคนอาจมองว่าการที่เหล่าผู้ปกครองเป็นห่วงลูกๆ เกินเหตุแบบนี้น่าจะเป็นเรื่องน่าอายสำหรับวัยรุ่น แต่เมื่อมีสื่อเข้าไปสัมภาษณ์ พวกเขากลับรู้สึกยินดีที่มีพ่อแม่มาเฝ้าพวกเขาถึงที่ พวกเขาบอกว่ามันช่วยให้ผู้ปกครองได้เห็นความเป็นอยู่ที่มหาลัย ส่วนหนึ่งอาจจะจากกฎบังคับให้ทุกๆ ครอบครัวมีลูกได้เพียงคนเดียว เลยทำให้พวกเขารู้สึกว่าลูกของพวกเขาคือแก้วตาดวงใจที่ต้องคอยดูแลตลอดเวลา แม้ว่ามันจะทำให้คนเป็นพ่อเป็นแม่รู้สึกดีที่ได้เฝ้ามองลูกๆ เติบโตก็ตาม แต่มันก็อาจสร้างความอึดอัดให้กับพวกเขาได้ และอาจกลายเป็นการปลูกฝังให้พวกเขารู้สึกปลอดภัยเกินเหตุ ไม่ว่าจะเจอกับปัญหาอะไรก็ตามก็จะหันมาพึ่งพ่อและแม่เสมอไป . . . #เหมียวฟิ้นคิดว่าการที่พ่อแม่จะทำแบบนี้ก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไรนะ และคิดว่าพ่อแม่คนไทยบางคนก็ยังเป็นแบบนี้อยู่เหมือนกัน แต่เชื่อเราเถอะว่าสักวันหนึ่งพวกเขาก็ต้องโตและเราเองก็ไม่สามารถมีชีวิตเพื่ออยู่ดูแลพวกเขาตลอดไปได้ ทางที่ดีเราควรจะสอนให้พวกเขารู้จักดูแลตัวเองและเอาตัวรอดในสังคมให้ได้มากกว่านะ…
-
สวยจนแทบหยุดหายใจ…เปิด 17 ภาพอีกมุมมองหนึ่งของประเทศจีน ที่คุณอาจไม่เคยเห็นมาก่อน
หากคนทั่วไปพูดถึงประเทศจีนล่ะก็ หลายๆ คนน่าจะนึกถึงสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังอย่างกำแพงเมืองจีน พระราชวังต้องห้าม ตระเวนกินในกรุงปักกิ่ง ชื่นชมความงามของมหานครเซี่ยงไฮ้ หรือดูวัฒนธรรมบ้านเมืองในหางโจว แต่คุณรู้ไหมว่าในประเทศจีนยังมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามอื่นๆ ราวกับในหนังแฟนตาซีที่เรายังไม่เคยเห็นอีกมากมายเลยล่ะ ในบทความนี้#เหมียวฟิ้น จะพาเพื่อนๆ ไปชมภาพสวยๆ จากหลายๆ ที่ เช่นโอเอซิสในเมืองตุนหวง ภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีน หรือป่าเขียวชอุ่มในจิ่วไจ้โก มณฑลเสฉวน ลองดูกันว่าแต่ละภาพสวยงามอย่างที่เราโม้หรือเปล่า? 1. นาข้าวใน Yuanyang 2. ทะเลทรายในเมือง Dunhuang มณฑลกานซู 3. เต็นท์แบบดั้งเดิมริมทะเลสาบในมณฑล Xinjiang 4. ล่องแพไม้ไผ่ในเม่น้ำ Li ทางใต้ของจีน 5. ทางเดินไม้ริมเขาสุดหวาดเสียวบนภูเขา Huangshan 6. ภาพน่าทึ่งจาก Kuitun Grand Canyon ตีนเขาเทียนชาน 7. หุบเขาในมณฑลอิสระ Shilin Yi 8. ภาพพระอาทิตย์ตกดินจากเมือง Xiapu มณฑลฝูเจี้ยน 9. ภาพในฤดูใบไม้ร่วงในช่วงพระอาทิตย์ตกดินจากเมือง Xiapu…
-
ใครหนอ? ชาวเน็ตตามหาบอดี้การ์ดสาวน่ารักในงานประชุม G20 ยิ้มทีใจละลายเลย
นอกจากที่สาวๆ จะชื่นชอบผู้ชายในเครื่องแบบแล้ว หารู้ไม่ว่าผู้ชายแบบเราๆ เองก็ชื่นชอบสาวๆ ที่อยู่ในเครื่องแบบเหมือนกันนะ… เมื่อช่วงวันที่ 4-5 กันยายนที่ผ่านมา ได้มีการจัดการประชุม G20 ขึ้นที่ประเทศจีน ซึ่งภายในงานนี้มีการรวมตัวกันของผู้นำประเทศจากหลากหลายที่ จึงต้องมีบอดี้การ์ดคอยยืนรักษาความปลอดภัยในแต่ละจุด แต่ดูเหมือนความสนใจของคนในโลกออนไลน์ทั้งหมดจะพุ่งไปที่บอดี้การ์ดสาวคนหนึ่งที่ยืนทำหน้าที่อารักขานายกรัฐมนตรีของอิตาลี เพราะเธอมีหน้าตาน่ารักจนหลายๆ คนสงสัยกันว่าเธอคือใคร? หลังจากนั้นไม่นานภาพของเธอก็ถูกส่งต่อกันไปในโลกออนไลน์ ชาวเน็ตก็พยายามสืบหาว่าเธอเป็นใคร จนทราบว่าเธอชื่อ Shu Xin วัย 25 ปี จากมณฑลกุ้ยโจว ประเทศจีน เธอเข้ารับราชการทหารกับกองทัพของสาธารณรัฐประชาชนจีนเพื่อรับใช้ชาติ ทั้งนี้เมื่อปี 2013 เธอเคยได้รับการขนานนามว่าเป็น “10 สาวทรงเสน่ห์แห่งกองทัพจีน” ด้วย นอกจากนี้ยังมีความสามารถทางด้านการร้องเพลงและเต้นรำด้วย ยิ้มกว้างตาหยี แค่นี้ก็ทำเอาหนุ่มๆ ถึงกับใจละลายแล้ว . ร้องเพลงนี่ของถนัดเลย . . น่ารักแบบนี้ใครจะกล้าหือล่ะ ที่มา shanghaiist , dailymail
-
ฮร่าฮร่า นักร้องจีนคัฟเวอร์ Rolling in The Deep ในสไตล์ “โอเปร่าท้องถิ่น” ฮาสุดในสามโลก!!
ไม่ว่าคุณจะชอบ Adele หรือไม่ก็ตาม แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเพลงของเธอนั้นโด่งดังและขายดิบขายดีไปทั่วโลก จนมีคนเอาไปร้องคัฟเวอร์ไม่รู้กี่หมื่นกี่แสนคลิปในยูทูบ… ซึ่งก็มีทั้งคนที่ปังและปังปินาศมาให้ชมแล้วนักต่อนัก อย่างเช่นคลิปของชายชาวจีน Liao Jialin นักร้องเพลงโอเปร่า ที่เมื่อไม่นานมานี้เขาถูกเชิญไปออกรายการโชว์เพื่อร้องเพลง Rolling in the Deep ในแบบของเขาเพื่อสร้างความตื่นตะลึงและรอยยิ้มให้กับผู้ชม ในฐานะที่เขาเรียนจบจากวิทยาลัยดนตรีในมณฑลกวางตุ้ง จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าสิ่งที่นาย Liao Jialin กำลังทำอยู่นั้นคือการร้องเพลงคลาสสิคในสไตล์จีนโอเปร่าผสมสำเนียงแบบท้องถิ่น จนอาจกลายเป็นเพลงใหม่ไปเลย… ตอนนี้คลิปร้องเพลงของนาย Liao Jialin มีคนกดเข้าไปชมแล้วกว่า 6 ล้านครั้ง มีการส่งต่อกันในแอพสื่อสังคมออนไลน์ของจีนมาก . ถ้าใครอยากรู้ว่าเพลงที่เขาร้องมันแตกต่างจากเวอร์ชั่นอื่นๆ ยังไง ลองไปดูกัน… เผื่อใครไม่เคยฟังเพลงเวอร์ชั่นต้นฉบับ งั้นลองไปฟังกันได้ที่นี่นะ จะว่าไปแล้ว Adele น่าจะลองฝึกร้องเพลง Rolling in the Deep แบบพ่อหนุ่มคนนี้ดูบ้างนะ . ที่มา rocketnews24 , Gavin Don
-
“หวังเต๋อซุน” นายแบบวัย 80 ปีให้แรงบันดาลใจ “ผมใช้เวลาเตรียมตัว 60 ปี กว่าจะได้เป็นนายแบบ”
หากใครยังจำกันได้ เมื่อปีที่แล้วเราได้เคยนำเสนอเกี่ยวกับเรื่องราวของนายแบบจีนรุ่นเก๋าที่มีนามว่าคุณลุงหวัง เต๋อซุน ในตอนนั้นเขากลายเป็นที่โด่งดังในโลกอินเตอร์เน็ตเพราะมีการเผยแพร่ภาพการเดินแบบเปลือยท่อนบนในงาน China Fashion Week 2015 และที่ดูจะฮือฮาที่สุดก็คงจะเป็นอายุที่ปาเข้าไปกว่า 79 ปีแล้ว แต่ยังมีรูปร่างที่ฟิตปั๋งยิ่งกว่าวัยรุ่นหลายๆ คนเสียอีก ล่าสุดเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา คุณลุงหวังเต๋อซุนได้ปล่อยคลิปวิดีโอให้แรงบันดาลใจของตัวเองออกมาให้ชาวโลกได้รับชมกัน โดยเล่าว่ากว่าที่เขาจะกลายมาเป็นนายแบบอย่างทุกวันนี้นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เชื่อว่าหลายคนที่ได้ดูคลิปของเขาแล้วจะต้องได้รับข้อคิดดีๆ กลับไปแน่นอน “ผมชื่อหวังเต๋อซุน เกิดและเติบโตในเสิ่นหยาง ประเทศจีน ผู้คนเริ่มรู้จักผมหลังจากแคทวอล์คโชว์ในครั้งนั้น บางคนเรียกผมว่า “คุณตาที่ฮอตที่สุด” บางคนยังบอกว่าผมเป็นที่ถูกใจชาวเน็ตในชั่วข้ามคืน (หัวเราะ) แต่คุณรู้อะไรไหม เพื่อเตรียมตัวให้เป็นนายแบบทุกวันนี้ ผมต้องใช้เวลาเตรียมพร้อมกว่า 60 ปี” “ตอนผมอายุ 24 ผมเป็นนักแสดงละครเวที อายุ 44 ผมเริ่มเรียนภาษาอังกฤษ อายุ 49 ผมสร้างคณะละครใบ้ขึ้นมาและเดินทางไปปักกิ่ง กลายเป็นคนเร่ร่อนไป ผมไม่มีอะไรเป็นชื่อของตัวเองเลย เริ่มต้นทุกอย่างจากไม่มีอะไร อายุ 50 ผมเริ่มเข้ายิมเป็นครั้งแรก เริ่มออกกำลังกาย” “อายุ 57…
-
อะไรจะดีปานนั้น!? สาวจีนลงทุนคุกเข่า ซื้อมอเตอร์ไซค์ฮาร์เลย์ ขอแฟนหนุ่มแต่งงาน
ตามขนบธรรมเนียมประเพณีของไทยเรา การขอแต่งงานถือเป็นเรื่องที่ผู้ชายต้องให้ความสำคัญ เพราะต้องเก็บหอมรอมริบเพื่อนำเงินไปสู่ขอแฟนสาว ไหนจะแหวน ไหนจะเงิน ไหนจะชุด ไหนจะพิธีแต่ง แต่กับชายหนุ่มชาวจีนรายนี้กลับไม่ต้องลำบากอะไรขนาดนั้น เพราะแฟนสาวที่มีพร้อมทุกอย่างลงทุนขอเขาแต่งงานด้วยตัวเองเลย!! เมื่อวันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่าหญิงสาวชาวจีนจากมณฑลเฉินตู ได้แต่งชุดเจ้าสาวพร้อมกับเอามอเตอร์ไซค์ Harley Davidson ไปเซอร์ไพรส์แฟนหนุ่ม เท่านั้นยังไม่พอเธอยังคุกเข่าและขอแฟนหนุ่มแต่งงาน ท่ามกลางสายตาของผู้ผ่านไปผ่านมาแถวนั้น ทำเอาหนุ่มๆ ทั่วอินเตอร์เน็ตถึงกับกรีดร้องด้วยความอิจฉาเลยทีเดียว ตามรายงานบอกว่าก่อนที่เธอจะขอแฟนแต่งงาน เธอตะโกนออกมาว่า “ในที่สุดฉันก็ได้เงินมากพอสำหรับซื้อฮาร์เลย์ที่คุณรักแล้ว แต่งงานกับฉันเถอะ ฉันจะใส่ชื่อของคุณลงไปในโฉนดที่ดินของฉันด้วย” นั่นทำให้ฝ่ายชายถึงกับตกตะลึงและพยักหน้าเบาเป็นการตอบตกลงแต่งงาน หลังจากนั้นไม่นานก็มีสื่อตามไปขอสัมภาษณ์ถึงการขอแต่งงานสุดโด่งดังนี้ เธอเลยตอบว่า “การขอแต่งงานไม่ใช่หน้าที่ของผู้ชายสักหน่อย ทำไมผู้หญิงต้องรอไปเรื่อยๆ เพื่อให้ผู้ชายมาขอแต่งงานล่ะ? ฉันต้องก้าวหน้ามากกว่านั้น ถ้าคุณชอบใครสักคน ก็จงไปตามทาง เวลามันไม่ใช่ประเด็นใช้ชีวิตให้เต็มที่” แน่นอนว่าการแหวกขนบธรรมเนียมประเพณีขนาดนี้ย่อมมีความเห็นต่างๆ ตามมาแน่นอน โโยชาวเน็ยบางคนให้ความเห็นว่า “ฉันคงเห็นด้วยที่ผู้หญิงควรมีสิทธิ์แทนที่จะรอให้ผู้ชายมาขอ แต่การเสนอโฉนดที่ดินให้แบบนี้ก็ดูจะเยอะเกินไปหน่อย” “เธอสวย และเขาก็หล่อ เธอซื้อมอเตอร์ไซค์ให้เขาและมีบ้านให้ด้วย? ฉันคิดว่ามันยอดเยี่ยมมาก โชคดีมากเพื่อน”…
-
หวาดเสียว!! คุณตาชาวจีนนำ “ตะกร้าผลไม้” ทำเป็นที่นั่งบนมอเตอร์ไซค์ สุดท้ายโดนตำรวจจับ
ตามกฎหมายแล้ว ไม่ว่าจะในไทยหรือในต่างประเทศ จะอนุญาตให้ผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์มีผู้โดยสารได้ไม่เกิน 1 คน แต่ก็ยังมีบางคนแอบซ้อน 3 ซ้อน 4 (ซ้อน 5 คน #เหมียวฟิ้น ก็เคยเห็นมาแล้ว) อาจจะเพราะเอาความสะดวกเข้าว่าหรืออะไรก็ตาม แต่ถือเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายและอาจก่อให้เกิดความอันตรายได้นะ เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 18 สิงหาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ CCTVNews ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอของคุณตารายหนึ่งในมณฑลกุ้ยโจว ประเทศจีน ขณะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ เนื่องจากต่อเติมมอเตอร์ไซค์ด้วยการนำเอาตะกร้าผลไม้มาไว้ที่ด้านข้าง เพื่อให้หลานๆ ทั้ง 3 คนสามารถนั่งไปกับเขาได้ ตามรายงานบอกว่าคุณตาได้ขี่มอเตอร์ไซค์มาตามทาง แต่ก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจโบกให้จอด เพื่อเข้าไปตักเตือนว่าเขาไม่ได้รับอนุญาตให้พาเด็กขึ้นรถไปด้วยมากขนาดนี้ และถูกสั่งให้ถอดตะกร้าออกทันที . ชมคลิปได้ที่นี่เลยนะ หลังจากที่คลิปนี้ถูกแชร์ออกไปในสื่อสังคมออนไลน์ของจีน ทำให้ชาวเน็ตต่างพากันแสดงความชื่นชมการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจในท้องถิ่นอย่างมาก Yohana Andrew “เจ้าหน้าที่ตำรวจรู้หน้าที่ของตัวเองดี เพราะว่านี่มันเป็นสิ่งที่ส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุบนทางหลวง อย่างการขับรถเร็วหรือการโดยสารเกินกว่ากำหนด” Michelle Yung “ตำรวจทำสิ่งที่ถูกต้องแล้ว มันทำให้ฉันรู้สึกหวาดกลัวเมื่อครอบครัวของฉันในจีนและฮ่องกงไม่ใช้เข็มขัดนิรภัยกับเด็กๆ (หรือวัยรุ่น) ฉันเคยถูกหัวเราะเยาะจากคนขับแท็กซี่เมื่อใช้เข็มขัดนิรภัยด้วย” Tommy Gonzo…
-
เจ็บตัวฟรี!? หนุ่มจีนยืนลุ้นรอภรรยาคลอดลูก จู่ๆ โดนหมอจับไปผ่าตัดริดสีดวงแบบงงๆ ซะงั้น…
หมอเป็นอาชีพหนึ่งที่ต้องอาศัยความเข้มงวดและรอบคอบมากที่สุดอาชีพหนึ่งเลยก็ว่าได้ เพราะพวกเขาทำงานที่เกี่ยวข้องกับชีวิตคน ความเป็นความตาย ผิดพลาดนิดเดียวอาจหมายถึงชีวิตคนๆ หนึ่งเลย แต่เนื่องจากเป็นมนุษย์ ความผิดพลาดก็เกิดขึ้นได้บ้างเป็นครั้งเป็นคราว อย่างเช่นเรื่องที่ #เหมียวฟิ้น กำลังจะนำเสนอต่อไปนี้ เว็บไซต์ Dailymail ได้รายงานว่า หนุ่มจีนแซ่หวัง วัย 29 ปีกำลังยืนรอภรรยาคลอดลูกอยู่ภายในโรงพยาบาลเสิ่นหยาง ประเทศจีน เมื่อวันจันทร์ที่ 8 สิงหาคมที่ผ่านมา แต่ในระหว่างที่เขากำลังรอภรรยาคลอดลูกน้อยอย่างใจจดใจจ่อ จู่ๆ ก็มีคุณหมอเข้ามาเรียกตัวเขาไปในห้องผ่าตัด เนื่องจากโรงพยาบาลมีห้องผ่าตัดเพียง 2 ห้องเท่านั้น นายหวังจึงเขาใจว่าเขาถูกนำตัวไปยังห้องผ่าตัดของภรรยาและคิดว่าหมออาจจะต้องการให้เขาช่วยเหลือในการทำคลอดของภรรยา แต่หมอกลับสั่งให้เขาถอดกางเกงออกโดยไม่ทันได้พูดคุยหรืออธิบายอะไรเลย แม้จะพยายามถามหมอแล้วว่าทำไมเขาถึงต้องถอดกางเกง หมอก็เอาแต่บอกให้เขาทำตามคำสั่งเท่านั้น “มันรู้สึกแปลกมาก และผมเลยถามเขาว่าทำไม? พวกเขาเลยตอบว่า ‘แค่ทำตามที่เราบอกก็พอ’” นายหวังกล่าว ต่อมาคุณหมอก็ทำการวางยาสลบแก่นายหวังและทำการผ่าตัดริดสีดวงให้กับเขา ในระหว่างการผ่าตัดนั้น นายหวังได้ยินเสียงเด็กร้องไห้ไปด้วย เจ้าตัวบอกว่าในขณะนั้นเขารู้สึกมีความสุขมาก นายหวังบอกว่า “ผมไม่เคยรู้ว่าผมมีริดสีดวงทวารด้วย เมื่อผมขึ้นเตียงผ่าตัด ผมได้ยินเสียงเด็กร้องไห้ ผมมีความสุขมาก และผมอยากจะกอดเขาสุดๆ แต่ผมเคลื่อนไหวไม่ได้ เพราะผมรู้สึกเจ็บอยู่” หลังจากที่เขาผ่านการผ่าตัดริดสีดวงแบบงงๆ แล้ว ทางโรงพยาบาลก็ได้มีการออกมาขอโทษแก่เขาและบอกว่าทั้งหมดเป็นความผิดพลาดของทีมแพทย์เอง โดยพวกเขาอธิบายว่าก่อนที่จะผ่าตัดริดสีดวงให้เขานั้น จริงๆ แล้วควรจะเป็นคนไข้อีกคน แต่นายหวังดันมายืนอยู่ที่หน้าห้องผ่าตัดตอนนั้นพอดี ทำให้ทีมแพทย์นึกว่าเขาคือคนไข้ที่รอคิวผ่าตัด…
-
คุณป้าไกด์จีนโพสต์เตือนอีก หลังคู่รักพากันนอนบนเตียงในห้าง บอก “กลับบ้านไปดีไหม?”
กลายเป็นคนดังไปชั่วข้ามคืนเลยทีเดียว สำหรับหัวหน้าไกด์จีนอย่างคุณป้า Bin Bin Ji (ออกเสียงว่าจี่ ปินปิน) ที่เมื่อวันที่ 8 สิงหาคมที่ผ่านมา เจ้าตัวได้โพสต์คลิปวิดีโอต่อว่านักท่องเที่ยวชาวจีน ที่พยายามจะขโมยขอนไม้กลับไปยังประเทศของตัวเอง (อ่านข่าวเก่าได้ที่นี่) จนทำให้ชาวเน็ตในไทยต่างพากันแสดงความชื่นชมถึงมารยาทอันดีงามของคุณป้า ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 9 สิงหาคม คุณป้าก็ได้โพสต์รูปภาพเตือนนักท่องเที่ยวชาวจีนอีกครั้ง คราวนี้เป็นคู่รักที่พากันขึ้นไปนอนบนเตียงซึ่งเป็นสินค้าโชว์ในงานจัดแสดงสินค้าหมอนยางพาราที่จังหวัดภูเก็ต จนทำเอาคนที่ผ่านไปผ่านมาถึงกับเอือมเลยทีเดียว พร้อมกันนี้คุณป้าจี่ยังโพสต์ข้อความอีกว่า “ไม่อยากจะพูดแล้ว พวกเธอกลับบ้านไปดีไหม…” หลังจากที่#เหมียวฟิ้นได้มีโอกาสคุยกับแอดมินเพจอ้ายจง ที่สามารถติดต่อสื่อสารกับคุณป้าได้ ก็ทราบว่าภาพของนักท่องเที่ยว 2 คนนี้ไม่ใช่ลูกทัวร์ของคุณป้าจี่ แต่เป็นนักท่องเที่ยวของอีกทัวร์หนึ่งที่หัวหน้าทัวร์ไม่รู้จะทำยังไง จึงถ่ายภาพมาปรึกษากับคุณป้า แกก็เลยจัดประโยคเบาๆ ไปให้หนึ่งประโยค คุณป้าจี่นั้นรักเมืองไทยมาก จึงตั้งบริษัททัวร์มาเที่ยวไทย แต่เนื่องจากเห็นว่าคนจีนนั้นมีพฤติกรรมที่ไม่ค่อยจะน่ารักเท่าไหร่ จึงเขียนหนังสือกฎข้อปฏิบัติต่างๆ และเปิดคอร์สอบรมไกด์ทัวร์จีนขึ้น เพื่อไปอธิบายให้นักท่องเที่ยวคนอื่นๆ เข้าใจถึงวัฒนธรรมและการวางตัวในไทยนั่นเอง ที่มา Bin Bin Ji , อ้ายจง
-
ปรบมือรัวๆ!! ไกด์จีนเตือนชาวจีนด้วยกัน หลังพยายามหยิบ ‘ขอนไม้ไทย’ ติดมือกลับบ้านเกิด
แม้เราจะเคยเห็นเรื่องราวแย่ๆ เกี่ยวกับกรุ๊ปทัวร์ชาวจีนมาหลายครั้งหลายครา แต่ก็ต้องยอมรับว่าคนดีๆ ที่มีความคิดดีๆ ยังคงมีอยุ่นะ เช่นคุณป้าหัวหน้ากรุ๊ปทัวร์รายนี้ เมื่อช่วงดึกของวันที่ 7 สิงหาคมที่ผ่านมา เฟซบุ๊กเพจ Bin Bin Ji ได้โพสต์คลิปวิดีโอของตัวเอง ขณะทำหน้าที่เป็นหัวหน้าไกด์ทัวร์อยู่บริเวณชายหาดแห่งหนึ่งของประเทศไทย แต่ในระหว่างนั้นกลับมีลูกทัวร์คนจีนพยายามจะหยิบเอาขอนไม้อันหนึ่งกลับไปยังประเทศของตัวเอง หัวหน้าไกด์จึงเตือนนักท่องเที่ยวไม่ให้นำเอาสิ่งใดติดตัวกลับไปด้วย แต่นักท่องเที่ยวยังคงต่อเถียงกับเธอไม่หยุดหย่อน เธอจึงท้าให้ชาวจีนรายนั้นนำท่อนไม้กลับไปด้วย หากคิดว่าตัวเองสามารถผ่านสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองได้ แต่นักท่องเที่ยวยังคงเถียงกับหัวหน้าไกด์แบบไม่หยุด และอ้างว่าทำแบบนี้มานานกว่า 20 ประเทศแล้ว แต่ไม่เคยถูกดำเนินคดีเลยแม้แต่ครั้งเดียว จะเอาอะไรกลับประเทศก็ไม่เคยมีปัญหา เมื่อหัวหน้าไกด์จีนได้ยินแบบนั้นจึงต่อว่านักท่องเที่ยวจีนชุดใหญ่และบอกว่าชาวไทยนั้นกลัวนักท่องเที่ยวจีนกันหมดแล้ว สาเหตุที่ชาวไทยไม่ชอบคนจีนเพราะมีนักท่องเที่ยวแบบนี้เอง นอกจากนี้ยังมีข้อความประกอบคลิปด้วยว่า “ทำไมไม่เก็บชายหาดใส่กระเป๋าขึ้นเครื่องกลับจีนไปด้วยเลยละ ไอ้โง่” ลองชมคลิปตัวเต็มแบบซับไทยจากเพจ China Social Media by Johny ได้ที่ด้านล่างเลย (ใครมองไม่เห็น กดที่นี่ได้เลยนะ) มนุษย์ป้าจีน ผู้พิทักษ์ความยุติธรรมซับไทย ด่าหนักมาก! ด่าจีนด้วยกันเองประจาน! คนไทยด่าไม่ได้งี้ 555 เป็นประเด็นในโซเชียลจีนคลิปนี้ลงวันเดียว ยอดวิว 30 กว่าล้านแล้ว ป้าลูกทัวรฺ์ออกมาช่วยเมืองไทยพิทักษ์ธรรมชาติ น่าชื่นชม ยังคงต้องใช้เวลาปรับ เชื่อว่าเค้าพยายามกันอย่างหนักอยู่ ถ้าชอบไลค์เพจด้วยนะครับ สามชั่วโมงแรกยอดวิวแตะสี่หมื่น แอดมินอินไวท์เพิ่มไม่ได้แล้ววันนี้ 555 #เรายินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวที่มีวัฒนธรรม…
-
มิตรภาพของนักวิ่งและหมาน้อยจรจัดที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญ ระหว่างแข่งมาราธอนกลางทะเลทราย…
Dion Leonard นักกรีฑาวัย 41 ปี ได้เดินทางไปเข้าร่วมการแข่งขัน Gobi March เป็นรายการแข่งขันวิ่งมาราธอนฝ่าทะเลทรายที่จัดขึ้น 1 สัปาดาห์เต็มๆ ณ ประเทศจีน แต่สิ่งที่ไม่คาดฝันสุดๆ ก็ได้เกิดขึ้นกับเขาคนนี้ ก่อนที่การแข่งขันจะเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ Leonard สังเกตุเห็นลูกสุนัขเรร่อนตัวหนึ่งอาศัยอยู่ใกล้ๆ กับแคมป์นักกีฬา ซึ่งมันทำให้เขาแปลกใจอย่างมาก เพราะเมื่อการแข่งขันเริ่มขึ้นในวันถัดมา เจ้าสุนัขจรจัดตัวนี้ก็ออกสตาร์ทวิ่งกับนักวิ่งคนอื่นๆ ด้วย เจ้าสุนัขเรร่อนอายุ 18 เดือนตัวนี้ จึงกลายเป็นมาเป็นที่สนใจของนักวิ่งที่เข้าแข่งขัน จนถูกกลุ่มนักวิ่งอเมริกันตั้งชื่อให้ว่า Tinto และถูกเปลี่ยนมาเป็นชื่อ Gobi ในเวลาต่อมา ในขณะที่การแข่งขันกำลังดำเนินต่อไปเรื่อยๆ เจ้า Gobi ก็เริ่มติดใจ และวิ่งไปพร้อมๆ กับ Leonard จนทั้งคู่กลายเป็นคู่หูประจำการแข่งขันครั้งนี้ การแข่งขันที่ทรหด และเต็มไปด้วยอุปสรรคมากมายที่เหล่านักวิ่งต้องฟันฟ่า ทั้งอากาศอันร้อนระอุ และภูมิเทศที่ค่อนข้างเป็นอุปสรรค ทำให้มีหลายครั้งที่ Leonard ต้องคอยอุ้มมันเอาไว้ในอ้อมอก และนั่นทำให้เขาเริ่มรู้สึกถึงสายสัมพันธ์บางอย่างที่เขามีต่อเจ้า Gobi เจ้า Gobi…
-
มาให้เห็นจริงแล้ว!! จีนเปิดตัว “รถบัสไฮเทค” วิ่งคร่อมถนน ไม่แคร์ทุกปัญหารถติด
หากใครจำกันได้ เมื่อช่วงปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ทีมงานเหมียวได้เคยรายงานเกี่ยวกับคอนเซ็ปต์รถบัสไฮเทคที่สามารถวิ่งคร่อมถนนได้ แม้จะมีการจราจรที่หนาแน่น แต่เจ้ารถบัสคันนี้ก็จะสามารถขับผ่านไปได้อย่างสบายๆ หากใครนึกไม่ออกลองไปย้อนดูคลิปคอนเซ็ปต์ของเจ้ารถคันนี้กันดูเลย หลังจากนั้นเวลาก็ผ่านไปประมาณ 2 เดือนเศษ เจ้ารถบัสที่เป็นเพียงคอนเซ็ปต์คันนี้ก็สำเร็จกลายเป็นรูปเป็นร่างแล้วเรียบร้อย!! อันที่จริงแล้วโปรเจ็คนี้ไม่ได้คิดค้นและสร้างเสร็จภายในเวลาสั้นๆ หรอกนะ แต่ทางทีมวิศวกรเขาเริ่มทำกันมาเป็นปีแล้ว แต่เพิ่งจะเป็นที่สนใจของสื่อเอาเมื่อช่วงพฤษภาคมที่ผ่านมา ตามรายงานของเว็บไซค์ Shanghaiist เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม บอกว่ารถไฮเทคคันนี้พร้อมที่จะออกวิ่งทดสอบในมณฑลเหอเป่ย ประเทศจีนแล้ว ในการทดสอบครั้งนี้ไม่ได้เป็นการนำรถบัสออกไปวิ่งทั่วเมืองแบบเต็มประสิทธิภาพ แต่เป็นการเดินทางในระยะเพียง 300 เมตรเท่านั้น แต่นั่นก็ทำให้นักข่าวและผู้ที่เข้าร่วมการทดสอบในครั้งนี้ทราบว่ามันสุดยอดขนาดไหน จากคำบอกเล่าของวิศวกรบอกว่าเจ้ารถบัสคร่อมถนนคันนี้จะสามารถบรรทุกผู้โดยสารได้มากถึง 1,200 คนได้ในเวลาเดียวกัน สามารถเดินทางด้วยความเร็วสูงสุดได้ 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แม้จะดูไม่เร็วเท่าไหร่ แต่หากคุณจินตนาการถึงการจราจรอันติดขัดในเมืองจีนล่ะก็ ความเร็วเท่านี้ก็ถือว่าเร็วมากแล้วล่ะ ทั้งนี้ไม่มีการเปิดเผยว่าเจ้ารถบัสคันนี้จะเปิดให้บริการจริงๆ เมื่อไหร่ แต่คาดว่าน่าจะภายในเร็ววันนี้แน่นอน แน่นอนว่านี่เป็นเพียงการลองนำมาวิ่งเป็นครั้งแรกเท่านั้น ยังคงมีหลายฝ่ายพูดถึงปัญหาที่จะตามมา ทั้งมารยาทให้การขับรถของคนจีนทั่วไปจะก่อให้เกิดปัญหาหรือไม่ รวมไปถึงอุปสรรคอีกต่างๆ นานาเมื่อใช้งานจริง เราคงต้องรอดูกันต่อไปล่ะครับ…!! ที่มา shanghaiist
-
ผู้หญิงชาวจีน วัย 53 ปี ยอมลาออกจากงาน เพื่อดูแลหมาจรจัด 250 ชีวิต ที่บ้านเธอ!!
ทุกๆ ปี เมื่อมาถึงเทศกาลกินเนื้อสุนัขประจำปีที่ประเทศจีน จะต้องมีสุนัขถูกฆ่าตายมากกว่า 10,000 ตัว เพื่อเสิร์ฟในงานเลี้ยง แต่อย่างไรก็ตาม ประเทศจีนก็ยังมีคนบางกลุ่มที่ยอมอุทิศชีวิตทั้งกายและใจของเขา เพื่อช่วยเหล่าสุนัขที่น่าสงสารเอาไว้ เหมือนกับผู้หญิง วัย 53 ปี คนนี้… Wen Li คุณครูโรงเรียนมัธยมจากมณฑลกานซู ที่ยอมลาออกจากงาน เพื่อมาดูแลบ้านสงเคราะห์สุนัขในโรงนาของเธอตั้งแต่ปี 2011 มาแล้ว ระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา เธอรับสุนัขมาเลี้ยงแล้วทั้งหมด 220 ตัว โดยมีทั้งผู้ที่นำมาปล่อยและเธอรับมาเอง เธอเรียกตัวเองว่าเป็น ‘คุณยาย’ และปฏิบัติกับหมาๆ ดั่งเป็นลูกหลานของเธอ แต่ก็แน่นอนว่า เมื่อจำนวนสุนัขเร่ร่อนมีมากขึ้น ค่าใช้จ่ายต่างๆ ก็มากขึ้นตามไปด้วย และนอกจากเธอจะต้องเก็บหอมรอมริบเพื่อเช่าบ้าน เธอก็ยังต้องใช้เวลาทั้งวันดูแลมันด้วย ในทุกๆ วัน เธอจะซื้อขนมปังกรอบจำนวน 80 ชิ้น อาหารสุนัข 7.5 กก. และเนื้อตับ 2.5 กก. มาเลี้ยงสุนัข…
-
อาตี๋น้อยเก็บขวดขาย 160,000 ใบ นาน 2 ปี เพื่อนำเงินบริจาคให้เด็กกำพร้าโรคเอดส์
นี่เป็นเรื่องราวดีๆ ของหนุ่มน้อยชาวจีนรายหนึ่งที่ชื่อว่า Sun Huixi เขาใช้เวลาหลังเลิกเรียนประมาณ 2 ชั่วโมงทุกๆ วัน เพื่อเก็บขวดพลาสติกไปขาย จากนั้นพอผ่านเวลาไป 2 ปี เขาก็สามารถเก็บขวดได้มากถึง 160,000 ขวด คิดเป็นเงินราวๆ 1 แสนบาท จากนั้นเขาก็นำเงินไปบริจาคให้กับเด็กๆ ในหมู่บ้าน Red Ribbon Home ในมณฑลเหอหนาน ประเทศจีน ที่มีแต่เด็กๆ กำพร้าและป่วยเป็นโรคเอดส์มากมาย แม้ Sun จะอายุยังน้อย แต่เขาก็ตระหนักถึงความยากลำบากในการใช้ชีวิตโดยไม่มีพ่อแม่ เขาจึงคิดอยากจะช่วยเหลือคนอื่นๆ บ้าง ตามรายงานบอกว่าหนุ่มน้อยรายนี้อาศัยอยู่ในเมืองฮาร์บิน เมืองที่สำคัญในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศจีน หมู่บ้าน Red Ribbon Home ถูกก่อตั้งโดยองค์กรการกุศลแห่งหนึ่ง เพื่อเปิดรับเด็กๆ ผู้ป่วยเข้ามาอยู่ในความดูแลของพวกเขา ในตอนแรกที่ Sun ยังไม่ได้เก็บขวดขาย เขาได้บริจาคเงินส่วนตัวให้กับองค์กรเป็นจำนวน 1,000 บาท แต่แล้วเขาก็คิดได้ว่าควรจะหาเงินมาช่วยเหลือเด็กๆ ให้มากกว่านี้ จึงเริ่มเก็บขวดขายนั่นเอง ในขณะที่พ่อแม่ของเขามีรายได้ต่อเดือนรวมกันได้เพียง 9,430 บาท เท่านั้น ถือเป็นความเฉลียวฉลาดในการหาเงินพอสมควร…
-
พลาดไม่ได้แล้ว!! จีนจัดประกวดสาว “หน้าอกสวย” จากทั่วโลก หนุ่มๆ แห่เข้างานกันรึ่ม!!
นี่ถือเป็นงานประกวดที่น่าจะถูกใจหนุ่มๆ และมีผู้เข้ามาร่วมงานแบบแน่นกองประกวดเลยทีเดียว เพราะนี่คืองานประกวดสาวผู้มี “หน้าอกสวย” ที่สุดในโลก!! เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่ามีการจัดงานประกวดตามหาสาว “หน้าอกสวย” จากทั่วโลก ขึ้นที่มณฑลอันหุย ประเทศจีน ตามรายงานบอกว่าการจัดงานครั้งนี้ถูกจัดมาเป็นครั้งที่ 6 แล้ว และดูเหมือนว่าปีนี้จะดูดีงามขึ้นกว่าปีก่อนๆ ที่เคยจัดกันมา จุดประสงค์ของการจัดงานนี้ก็คือ การตามหาหญิงที่มีความมั่นใจ มีหน้าอกที่สวยงามได้รูปและสุขภาพดี . แต่ในปีนี้ดูจะฮือฮาสักหน่อย เพราะมีคุณแม่สาวสวยเข้าประกวดกับเขาด้วย แถมยังได้รับคำวิจารณ์ไปในแง่บวก บอกว่าเธอนั้นดูสวยสง่ากว่าผู้ชนะปี 2015 เสียอีก หลังจากที่เรื่องราวนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ก็ดูจะได้รับความสนใจจากชาวเน็ต โดยเฉพาะหนุ่มๆ มากพอสมควร มีทั้งความเห็นในแง่บวกและลบ เช่น “ผมไม่เห็นหน้าอกแม้แต่ข้างเดียว ผมว่ามันเป็นงานโกหกทั้งเพ!!” “สำหรับผมแล้ว พวกเธอคือผู้ชนะ” “ใครจะสนล่ะ เพราะสุดท้ายแล้วมันก็จะหย่อนยานอยู่ดี” . . หรือถ้าใครคิดว่ายังไม่จุใจ เราลองย้อนกลับไปชมภาพงานประกวดหาสาวอกสวยจากปี 2015 กันดูไหมล่ะ? . .…
-
ชื่นชมเด็กชาวจีน ทำภารกิจเพิ่มน้ำหนัก 16 กิโลกรัม เพื่อปลูกถ่ายไขกระดูกให้คุณพ่อ
การทดแทนบุญคุณในความหมายของคนทั่วๆ ไป อาจจะนึกถึงการเลี้ยงดูพวกเขา การพาพวกเขาไปพักผ่อน พาไปกินอาหารดีๆ การพาพวกเขาไปเที่ยวในที่ที่อยากไป แต่สำหรับคนบางคนแล้ว ดูจะเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่กว่านั้นมากเลยล่ะ เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 15 กรกฎาคมที่ผ่านมา สำนักข่าว CCTVNews ได้เปิดเผยเรื่องราวภารกิจอันยิ่งใหญ่ของหนุ่มน้อยชาวจีนวัย 8 ขวบที่ชื่อว่าเช่า หยินเผิง จากมณฑลเจียงซู ประเทศจีน ที่ต้องช่วยคุณพ่อที่กำลังป่วยเป็นโรคลูคีเมียในการปลูกถ่ายไขกระดูก ตามรายงานบอกว่าเช่า เหล่ย ผู้เป็นพ่อ ได้ตรวจพบว่าเป็นโรคมะเร็งในเม็ดเลือดขาว(หรือลูคีเมีย) ทำให้เขาต้องเข้ารับการปลูกถ่ายไขกระดูกใหม่ และคนเดียวที่จะช่วยเขาได้ก็คือลูกชายแท้ๆ ของเขา แต่ดันมีปัญหานิดหน่อยตรงที่เช่า เหล่ย เหลือเวลาอีกเพียง 2 เดือนก่อนที่อาการจะทรุดหนักไปกว่านี้ บวกกับลูกชายของเขามีน้ำหนักเพียง 30 กิโลกรัมเท่านั้น ซึ่งถือว่าน้อยเกินไป หากทำการปลูกถ่ายไขกระดูกอาจจะเป็นอันตรายแก่เขาได้ เมื่อทราบเงื่อนไขดังกล่าวแล้วเช่า หยินเผิงจึงพยายามขุนตัวเอง กินอาหารเพิ่มน้ำหนักอย่างหนัก แต่ในขณะเดียวกันเขาก็พยายามออกกำลังกายไปด้วย เพื่อให้มีสุขภาพแข็งแรงควบคู่กันไป ในที่สุดเช่า หยินเผิงก็ทำสำเร็จ เขาสามารถเพิ่มน้ำหนักจาก 30 กิโลกรัมเป็น 46.5 กิโลกรัมได้ภายใน 2 เดือน การปลูกถ่ายไขกระดูกของทั้งคู่เป็นไปอย่างราบรื่นตั้งแต่เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคมที่ผ่านมา ทางด้านจาง หลิน ภรรยาของนายเช่า…
-
เสียววาบ!! นักท่องเที่ยวจีนเผยที่พักแรมแบบใหม่ กางเต๊นท์นอนริมหน้าผาสุดเร้าใจ
หากคุณต้องเดินทางไปท่องเที่ยวตามป่าเขา แต่รู้สึกว่าคุณยังเร้าใจพอล่ะก็ คุณอาจจะอยากลองมาพักแรมในสถานที่แบบนี้ก็ได้นะ… เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคมที่ผ่านมา สำนักข่าว CCTV ได้เผยแพร่ภาพสุดหวาดเสียว ของกลุ่มคนที่ขึ้นไปตั้งเต๊นท์กว่า 100 หลัง บริเวณริมหน้าผาของภูเขาเล่าจุ่น ในมณฑลเหอหนาน ประเทศจีน ที่มีความสูงจากระดับพื้นดินถึง 1,000 เมตร ตามรายงานของสื่อท้องถิ่นกล่าวว่ากลุ่มนักเดินทางได้ขึ้นไปตั้งแคมป์ เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองเทศกาลตั้งแคมป์ของชุมชนในท้องถิ่นเมื่อช่วงวันเสาร์ที่ผ่านมา มีคนจำนวนไม่น้อยได้พิจารณาถึงความคิดนี้แล้วตัดสินใจขึ้นไปตั้งแคมป์อยู่ตรงพื้นที่เสี่ยงตายแบบนั้น แต่พวกเขาก็ถือว่านี่เป็นโอกาสอันดีที่จะได้ทดสอบความกล้าของตัวเองและดื่มด่ำไปกับทิวทัศน์ของธรรมชาติไปพร้อมๆ กัน แต่การขึ้นไปนอนอยู่ที่ริมหน้าผาของพวกเขานั้นไม่ใช่เพราะต้องการความตื่นเต้นหรือหวาดเสียวเพียงอย่างเดียว พวกเขาจะได้สิทธิพิเศษในการชมท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวนับล้านยามค่ำคืน และสูดอากาศบริสุทธิ์ที่หาได้ยากจากในตัวเมือง . แม้จะดูหวาดเสียวไปหน่อย แต่พวกเขาก็ได้ชื่นชมกับธรรมชาติ ในแบบที่น้อยคนจะได้ทำแบบพวกเขาล่ะนะ ที่มา CCTVNews
-
หนุ่มจีนทำหน้าที่ลูกกตัญญู แอบภรรยาออกจากบ้าน มาดูแลแม่แท้ๆ ตลอด 9 ปี
ปัญหาเกี่ยวกับแม่สามีลูกสะไภ้นั้นมีให้เห็นได้ในทุกสังคมจริงๆ นะ บางคู่ถึงขั้นเลิกรากันเพราะแม่สามีกับลูกสะไภ้ไม่ถูกกันก็มี และคนที่อึดอัดใจที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้นลูกชายหรือสามีเอง เพราะไม่สามารถเลือกข้างได้นั่นเอง เรื่องที่#เหมียวฟิ้นจะเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องราวของของนายหลิว เสี่ยงลี่ และนางจ้าว จ่องกุ้ย ทั้งคู่แต่งงานกันเมื่อปี 2004 และได้รับมรดกมาจากครอบครัวฝ่ายหญิง แต่ก็ต้องแลกมาด้วยความรับผิดชอบที่สูงพอสมควร หลังจากที่ทั้งคู่แต่งงานกันแล้ว พวกเขาก็ได้วางแผนจะซื้อบ้านราคา 6 แสนกว่าบาท และหวังว่าจะชวนแม่ของฝ่ายชายมาอยู่ในบ้านด้วย แต่ภรรยาของเขาไม่เห็นด้วยกับไอเดียนี้ ต่อมาในปี 2007 ทั้งคู่ได้ซื้อบ้านแล้วเรียบร้อย นายหลิวจึงไปรับแม่ของเขามาเที่ยวที่บ้านใหม่บ่อยๆ แต่ดูเหมือนความสัมพันธ์ระหว่างแม่และภรรยาของเขาจะไปได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ จนมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันหนักขึ้นเรื่อยๆ จนภรรยาขู่ว่าจะฆ่าตัวตายหากแม่่สามียังไม่ออกไปจากบ้านของเธอ เพื่อเป็นการรักษาบรรยากาศความสงบภายในบ้าน นายหลิวจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากประนีประนอมตามคำขู่ของภรรยา แต่เขาเองก็ไม่อยากจะเป็นลูกชายที่อักตัญญู เพราะแทนที่จะส่งแม่กลับไปอยู่บ้านหลังเดิม เขากลับเช่าบ้านให้แม่อยู่นาน 9 ปี ตามรายงานบอกว่าบ้านหลังนี้อยู่ไม่ไกลจากบ้านของเขาเท่าไหร่ เพื่อที่นายหลิวจะได้แอบภรรยาของเขามาดูแลแม่บ่อยๆ แต่ความลับนั้นไม่มีในโลก วันหนึ่งแม่และภรรยาของเขาดันไปเจอกันในซุปเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งโดยบังเอิญ นางจ้าวรู้สึกช็อคและโกรธเคืองมากที่สามีปิดบังเรื่องนี้ไม่ให้เธอรู้มาเกือบ 10 ปี เธอให้สัมภาษณ์กับสื่อเรื่องที่เธอไม่อยากจะอยู่กับแม่ของสามีก็เพราะว่าพวกเขาเข้ากันไม่ได้ และกล่าวว่าแม่สามีควรจะหยุดยุ่งเรื่องครอบครัวของพวกเขาได้แล้ว แม้ว่าสถานการณ์ของครอบครัวนี้จะดำเนินไปแบบอึดอัด แต่ชาวเน็ตก็ได้แสดงความชื่นชมต่อการกระทำของลูกกตตัญญูรายนี้กันอย่างมากมาย เช่น “ฉันรู้สึกแย่กับภรรยาคนนี้มาก คาดหวังให้เธอดูแลแม่สามีไม่ได้เลย” “เราไม่รู้ว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับครอบครัวนี้จริงๆ แล้วเป็นยังไงกันแน่ ฉันหวังแค่ว่าพวกเขาจะสามารถใช้ชีวิตร่วมกันได้อย่างมีความสุข” ลองคิดเล่นๆ ว่าถ้าเราเป็นหนุ่มคนนี้เราคงจะอึดอัดใจไม่น้อย เพราะทั้งสองคนเป็นคนที่เรารัก และไม่ควรจะต้องมาเลือกเลยว่าควรจะให้ความสำคัญคนไหนมากกว่ากัน…
-
สาวจีนฮิตไอเดียแปลก สวม “หน้ากากไอ้โม่ง” ลงทะเล หวังกันรังสี UV และแมงกะพรุน!?
ในทุกๆ ปี สาวๆ จะต้องแห่กันไปเที่ยวที่ชายหาดชิงเต่า ในมณฑลซานตง ประเทศจีน เพื่อพักผ่อนหย่อนใจ และนอนอาบแดดให้สบายผิวของพวกเธอ ซึ่งในความเข้าใจของคนทั่วไปแล้ว การอาบแดดก็คงจะมีอุปกรณ์อยู่ไม่กี่อย่าง เช่นแว่นตากันแดด หรือหมวกใบใหญ่ๆ เพื่อบังแดดสักหน่อย แต่กับสาวๆ ชาวจีน พวกเธอมีอุปกรณ์ที่แปลกประหลาดกว่านั้น เพราะพวกเธอสวมใส่ “หมวกไอ้โม่ง” แล้วลงไปเล่นน้ำทะเลและอาบแดด เพื่อป้องกันรังสี UV ที่จะกระทบกับใบหน้าของพวกเธอ และมันยังเป็นอุปกรณ์ที่ได้รับความนิยมเอามากๆ ในปีที่ผ่านมาด้วย ในขณะที่แฟชั่นบางอย่างผ่านมาแล้วก็ผ่านไป แต่เจ้าหน้ากากไอ้โม่งชิ้นนี้กลับอยู่คู่กับชายหาดของจีนมานานตั้งแต่เมื่อปี 2004 แล้ว และยังคงได้รับความนิยมจากสาวๆ ที่เกรงกลัวรังสี UV เรื่อยมา เจ้าหน้ากากแบบนี้จะครอบคลุมทุกพื้นที่บนใบหน้าของคุณ ไม่ว่าจะเป็นหน้าผาก จมูก แก้ม คาง มันดูจะมีประสิทธิภาพในการกันความร้อนของจีนมากทีเดียว เพราะตอนนี้พุ่งสูงถึง 35 องศาแล้ว ตามรายงานบอกอีกว่าหน้ากากไอ้โม่งแบบนี้ มันเป็นทั้งหน้ากากและหมวกสำหรับว่ายน้ำที่มีคุณสมบัติในการกันน้ำ และยังช่วยป้องกันอันตรายจากแมงกะพรุนที่เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็วอีกด้วย …
-
ทุ่มสุดตัว!! ทหารจีน 16 นาย ใช้ตัวเองเป็น “มนุษย์เขื่อนกั้นน้ำ” ไม่ให้ทะลักเข้าเมือง
นี่ถือเป็นข่าวของซุปเปอร์ฮีโร่ในชีวิตจริงเลยก็ว่าได้ เพราะเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้เผยแพร่เรื่องราวของทหารจีน 16 นาย ทำการเกาะกลุ่มกันเพื่อสร้าง “มนุษย์เขื่อนกั้นน้ำ” กันน้ำจากทะเลสาบโปยาง ไม่ให้ไหลเข้าสู่มณฑลเจียงซี ประเทศจีน อย่างที่หลายๆ คนทราบ ในช่วงนี้ประเทศจีนต้องประสบกับปัญหาน้ำท่วมในหลายพื้นที่ ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เช่นเดียวกับชาวนาและชาวบ้านในเมืองจิ่วเจียง มณฑลเจียงซี ประเทศจีน ที่เกือบจะถูกบังคับให้อพยพออกจากเมือง เนื่องจากเขื่อนกั้นน้ำจากทะเลสาบโปยางนั้นพังทลายลง ตามรายงานบอกว่าเนื่องจากระดับน้ำในแม่น้ำแยงซีเกียงเพิ่มสู่งขึ้นอย่างฉับพลัน บวกกับฝนที่ตกลงมาอย่างหนักหน่วง ทำให้น้ำยังคงไหลทะลักเข้าสู่เมืองอย่างต่อเนื่อง เหล่าทหารจึงจำเป็นต้องแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าด้วยการรวมกำลังกัน 16 นาย มายืนกั้นบริเวณเขื่อนกั้นน้ำแทน เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดกับอาคารบ้านเรือนและชาวบ้าน เหล่าทหารหาญต้องยืนอยู่ในน้ำเป็นเวลานานกว่า 6 ชั่วโมง กว่าที่เพื่อนทหารคนอื่นๆ จะนำกระสอบทรายมากั้นและซ่อมแซมเขื่อนที่พังลงไปให้กลับมาใช้งานได้อีกครั้ง ชาวนาในท้องถิ่นกล่าวชื่นชมทหารว่าหากไม่มีพวกเขา นาข้าวก็อาจเสียหายไปหมดแล้ว “ทหารอยู่ที่นี่แล้ว นาข้าวหลายแห่งปลอดภัยแล้ว” นอกจากนาข้าวแล้วยังมีชาวบ้านอีกกว่า 6,000 หลังคาเรือนที่ปลอดภัยจากภัยน้ำท่วมครั้งนี้ด้วย . . และนี่คือวีรกรรมของเหล่าซุปเปอร์ฮีโร่ในชีวิตจริง ที่ไม่ต้องมีพลังวิเศษหรือแต่งชุดเท่ๆ แบบในหนังหรือการ์ตูน แต่ก็สามารถช่วยเหลือคนอื่นๆ ให้รอดปลอดภัยได้เช่นกันนะ…
-
จีนเปิดตัวอนุสาวรีย์ ‘เทพเจ้ากวนอู’ สุดแสนอลังการขนาด 48 เมตร หนัก 1,300 ตัน
ช่วงนี้มักมีข่าวคราวมาให้เราเห็นบ่อยๆเกี่ยวกับสถานที่ หรือไม่ก็สิ่งประดิษฐ์ที่พี่ใหญ่อย่างจีนขยันปล่อยออกมาเรื่อยๆ คราวนี้ก็เช่นกัน.. อนุสรณ์สถานของคนที่ศรัทธาในเทพแห่งความซื่อสัตย์ กวนอู ที่เพิ่งสร้างเสร็จไปหมาดๆตั้งอยู่ที่เมือง JingZhou ในมณฑลหูเป่ย์ เราไปชมกันเลยดีกว่าว่าจะยิ่งใหญ่ขนาดไหน…. สวนอนุเสาวรีย์เทพเจ้ากวนอูถูกออกแบบมาภายใต้คอนเซ็ปท์ ‘ความชอบธรรม’ ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของเทพเจ้ากวนอู รูปปั้นที่ตั้งคระหง่านอยู่นี้มีความสูงถึง 48 เมตร บนแท่นความสูง 10 เมตร ถูกสร้างโดยแผ่นโลหะทองสำริดกว่า 4,000 แผ่น และเชื่อมติดกับง้าวประจำตัวที่รวมแล้วมีน้ำหนักมากถึง 1,320 ตัน เลยทีเดียว!! ในส่วนของแท่นถูกออกแบบมาให้เหมือนกับเรือรบในสมัยโบราณ โดยเทพเจ้ากวนอูยังมีความหมายถึงนักรบผู้ไร้ความกลัวที่กำลังจะเผชิญหน้ากับกองทหารข้าศึกนับพันอีกด้วย นักท่องเที่ยวยังสามารถเดินเข้าไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์เทพเจ้ากวนอูขนาด 8,000 สแควร์เมตร ที่ตั้งอยู่ภายในได้อีกด้วย ดูสง่างามและยิ่งใหญ่มากเลยจริงๆ ถึงแม้ว่าอนุสรณ์สถานแห่งนี้จะถูกสร้างเสร็จเรียบร้อย แต่ก็ยังมีชาวเน็ตผู้เห็นต่างที่ได้โพสต์ข้อความลงบนเว็บไซต์ชื่อดังของจีนอย่าง Weibo อยู่ด้วยทั้งฝ่ายที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย “ผมคิดว่ามันเปลืองทั้งงบประมาณและเวลา ทำไมถึงต้องทำให้ใหญ่ขนาดนี้ด้วย” ความเห็นจากชาวเน็ตนิรนามคนหนึ่ง “อนุสรณ์สถานแห่งนี้เป็นภาพสะท้อนให้เราเห็นว่ารัฐบาลมักจะเสียเงินจำนวนมากไปกับสิ่งก่อสร้าง แทนที่เราจะนำมาใช้สำหรับสนับสนุนความยุติธรรมในสั่งคมไม่ดีกว่าหรือ?” แต่บางฝ่ายก็เห็นด้วยกับประโยชน์ของการสร้างสถานที่นี้ เช่นความเห็นของ user รายหนึ่งกล่าวไว้ว่า “อันที่จริงมันก็นำมาซึ่งประโยชน์มากมายทั้งด้านเศรษฐกิจและการโปรโมทวัฒนธรรมจีนให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น” อย่างไรก็ตามสถานที่แห่งนี้ก็ได้เปิดต้อนรับให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเยี่ยมชมได้แล้ว แต่อยากรู้เหมือนกันเนาะว่าเค้าจะใช้งบประมาณทั้งหมดไปเท่าไหร่ อาจจะตรวจสอบไม่ได้เหมือนประเทศแถวนี้ก็ได้นะ…^ ^…
-
ชาวเน็ตต่างชื่นชม… แม้พายุเข้าจนไม่มีคนมางานแต่ง แต่เจ้าสาวก็ยังสตรอง ทำให้มันดีที่สุด
ในช่วงที่ผ่านมาประเทศจีนต้องประสบกับมรสุมลูกใหญ่ เกิดเหตุอุทกภัยขึ้นในหลายๆ พื้นที่ ส่งผลให้กิจกรรมต่างๆ ต้องหยุดหรือยกเลิกไปก่อน แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้คู่รักชาวจีนคู่นี้ย่อท้อและล้มเลิกงานของพวกเขาเลย เมื่อวันที่ 11 กรกฎดาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ BBC ได้เปิดเผยเรื่องราวของคู่รักคู่หนึ่ง ในเมืองซินเซียง มณฑลเหอนาน ประเทศจีน ที่ตั้งใจแน่วแน่ว่าจะจัดงานแต่ง แม้สภาพอากาศโดยรอบจะไม่ค่อยเอื้ออำนวยก็ตาม กำหนดการวันแต่งของพวกเขาคือช่วงเช้าของวันที่ 9 กรกฎาคม พวกเขาส่งการ์ดเชิญไปยังญาติๆ เพื่อนๆ และแขกทั้งหมด 300 คน แต่พอถึงวันงานกลับมีพายุถาโถมเข้ามาจนทำให้แขกเหรื่อส่วนใหญ่ไม่สามารถเดินทางมางานเนื่องจากอาจเกิดอันตรายกับพวกเขา จึงมีแขกเพียง 10 คนเท่านั้นที่สามารถมาร่วมงานได้ แม้จะมีแขกมาร่วมงานน้อยขนาดนี้ นางโจว เถียน ว่าที่เจ้าสาวของเราก็ไม่ได้รู้สึกเสียใจเลย เธอพูดกับเจ้าบ่าวของเธอว่า “แม้ว่าพวกเราจะไม่มีแขกมาร่วมงาน ไม่มีดอกไม้ไฟฉลองให้ ไม่มีรถลีมูซีนหรูๆ หรือไม่มีเพลง นั่นก็ไม่สำคัญเท่ากับที่ฉันมีเธอ ฉันมีความสุขมากค่ะ” เรื่องราวนี้น่าประทับใจมากจนทำให้ข้อความของเธอถูกส่งต่อกันในเครือข่ายสังคมออนไลน์ของจีนเป็นจำนวนเป็นพันๆ ครั้ง และมีข้อความชื่นชมพวกเขาอีกมากมาย เช่น “นี่คือรักแท้ หัวใจสองดวงที่มีรักให้กันและกัน นอกเหนือจากนั้นก็เป็นเพียงความว่างเปล่าแล้วล่ะ” “การจัดงานแต่งงานมันไม่ได้ทำขึ้นเพื่อคนอื่นๆ แต่มันคือความสุขของคนสองคน นั่นแหละคือสิ่งที่สำคัญที่สุด” “ไม่มีเพื่อนและครอบครัวมาเลยเหรอ?…
-
คุณแม่ชาวจีน ให้กำเนิดแฝดแท้ 4 คน แพทย์เผย…โอกาสเกิด 1 ใน 500,000 คนเท่านั้น!!
การที่ผู้เป็นแม่ได้คลอดลูกแฝด เรียกได้ว่ามันเป็นเรื่องที่มหัศจรรย์ที่สุดในชีวิตเลยก็ว่าได้ เหมือนดังเช่นเรื่องราวของคุณแม่ชาวจีนแซ่ Wu ที่ได้ให้กำเนิดลูกสาวฝาแฝด ซึ่งเป็นแฝดแท้ถึง 4 คนกันเลยทีเดียว งานนี้บอกเลยว่าสร้างความตะลึงให้กับทางครอบครัวของเธอเป็นอย่างมากเลยละ วันที่ 10 กรกฎาคม 2559 ทางสำนักข่าวต่างประเทศ ได้เผยว่า หลังจากที่ทีมแพทย์จากโรงพยาบาลสูติ-นรีเวช ในเครือมหาวิทยาลัยฟู่ตัน เมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ได้ตรวจพบว่าครรภ์ของนาง Wu มีปัญหา เนื่องจากมีเลือดไหลเข้าไปในสายสะดือของเธอ ดังนั้น จากกำหนดคลอดเดิมคือ 37 สัปดาห์ ทางแพทย์ต้องทำการเลื่อนการคลอดเข้ามาอีกในสัปดาห์ที่ 31 เพราะเกรงว่าจะส่งอันตรายต่อตัวทารกนั่นเอง แม้ว่าการคลอดก่อนกำหนดถึง 6 สัปดาห์จะผ่านไปได้ด้วยดี แต่ทารกที่เป็นแฝดทั้ง 4 นั้นตัวเล็กมาก ซึ่งมีน้ำหนักตัวตั้งแต่ 780 ไปจนถึง 1,120 กรัมเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้แฝดทั้ง 4 ก็ได้รับการดูแลจากคุณหมออย่างใกล้ชิดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้านทีมแพทย์ได้ออกมาเผยว่า “การให้กำเนิดลูกแฝด 4 เรียกได้ว่าเป็นเรื่องที่ยากมาก เนื่องจากโอกาสเกิดมีเพียงแค่ 1…
-
เกษตรกรยิ้มได้ หมูที่โดนน้ำท่วมกว่า 6,000 ตัวรอดตาย เพราะกู้ภัยและอาสาสมัครเข้าช่วยเหลือ!!
เนื่องจากเกิดฝนตกหนักและทำให้น้ำท่วมในประเทศจีน จนส่งผลให้เกษตรกรในมณฑลอานฮุย อาจจะต้องทิ้งหมูที่เลี้ยงไว้กว่า 6,000 ตัว เพราะติดอยู่ในคอก และสถานการณ์น้ำท่วมทำให้ไม่สามารถนำมันออกมาได้ ในขณะเดียวกันมีภาพ นายหลี่ เสี่ยวป๋อ ผู้จัดการฟาร์มสุกรที่กำลังร้องไห้เพราะอาจจะต้องสูญเสียสุกรทั้งหมด หลังจากน้ำท่วมถึงระดับคอของพวกมัน… เมื่อเรื่องราวดังสู่โลกออนไลน์ ชาวเน็ตนับพันร่วมกดดันให้มีเจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยเหลือมันสักหน่อย เพราะชีวิตนับพันนั้นไม่ควรต้องมาตายอย่างสูญเปล่าเช่นนี้เลย หลังจากมันติดอยู่ในน้ำนานกว่า 20 ชั่วโมง ทีมเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าไปยังบริเวณที่ถูกน้ำท่วม และพยายามช่วยเหลือพวกมันออกมาโดยใช้รถแทรกเตอร์และรถบรรทุก แต่ไม่มีรายงานว่าพวกมันได้รับการช่วยเหลือมากน้อยเพียงใด อย่างน้อยก็ยังดีกว่าที่พวกมันทั้งหมดต้องตายไปแน่นอน บรรยากาศการช่วยเหลือเหล่าหมูในครั้งนี้ . . . . . เราไปชมวิดีโอการช่วยเหลือ เจ้าหมูพวกนี่กันดีกว่าครับ!!! ภาพสุดท้ายนี่คงจะสามารถสื่อออกมาได้ว่า เกษตรกรดีใจแค่ไหนเมื่อทีมกู้ภัยและอาสาสมัครมาช่วยเหลือเจ้าหมูของเขา #เหมียวฟูๆ ขอเป็นกำลังใจให้ผ่านเรื่องร้ายๆ เหล่านี่ไปได้โดยเร็วนะครับ สู้ สู้!! ที่มา : Metro , Telegraph , Shanghaiist
-
สภาพเมืองอู่ฮั่น หลังรัฐบาลจีนประกาศเตือนภัยน้ำท่วมขั้น “สีแดง” เสียชีวิตนับร้อย!!!
เกิดฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องในประเทศจีนจนทำให้เกิดน้ำท่วมอย่างรุนแรงในเมืองอู่ฮั่น ซึ่งอยู่ตามแนวแม่น้ำแยงซี เผชิญฝนตกหนักตลอดทั้งสัปดาห์ ได้รับปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยสูงถึง 56 เซนติเมตร มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของเมือง ถนนและสถานีรถไฟใต้ดินหลายแห่งถูกน้ำท่วม ขณะที่บริการรถไฟก็ถูกยกเลิกด้วย ไฟฟ้า ประปา ก็ได้รับผลกระทบอย่างหนักไปด้วยเช่นกัน เกิดความเดือดร้อนต่อประชาชนในบริเวณนั้นเกือบ 10 ล้านคน และสำนักงานอุตุนิยมวิทยาหวู่ฮั่นออกแจ้งเตือนภัยขั้นสีแดง นั้นคือ “ระบบเตือนภัยสูงที่สุด” นี่คือสภาพของสถานีรถไฟใต้ดิน . . บริเวณบางส่วนของเมืองที่ท่วมไม่มาก . แต่บางส่วนนั้นก็ต้องถือว่าท่วมหนักมากจริงๆ . . สภาพภายนอก . . . ภาพถ่ายจากทางอากาศ . . บางรายถึงกับต้องนำม้าออกมาลุยน้ำท่วม เห็นเป็นภาพเคลื่อนไหวแล้วเราจะรู้สึกถึงความรุนแรงชัดเจน . . . ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรี หลี่ เค่อเฉียง แห่งประเทศจีน เดินทางลงพื้นที่ในมณฑลหูเป่ย เพื่อควบคุมดูแลและทำการช่วยเหลือประชาชน…. นอกจากนั้น ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ออกคำสั่งให้กองทัพยกระดับความช่วยเหลือออกไปทั่วประเทศ!!! …
-
จำได้ไหม?? น้องหมาแต่งตัวสวยไปขายผัก วันนี้น่ารักเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือความสวย!!
เมื่อไม่นานมานี้ หากใครที่ยังจำได้ เราเคยนำเสนอภาพของน้องหมาตัวหนึ่งจากประเทศจีน ที่แต่งตัวสวยทู๊กกกวัน เพื่อไปเป็นแม่ค้าขายของในตลาด และในวันนี้เราได้กลับมาอัพเดทภาพของมันให้ได้ชมกันอีกครั้ง เพราะหลังจากที่เราได้นำเสนอภาพของมันไปครั้งแรก ต่างก็มีบรรดาชาวเน็ตชื่นชอบกันมากซะเหลือเกิน ว่าแต่ชีวิตในช่วงนี้ของน้องหมาจะเป็นอย่างไรบ้าง ยังขายของเหมือนเดิมอยู่หรือเปล่า ตามมาดูเลย…. หลังจากที่เคยเป็นพรีเซนเตอร์ขายผัก ในตอนนี้เปลี่ยนมารับจ๊อบขายผลไม้แล้วจ้า ที่สำคัญความน่ารักยังคงเดิม เพิ่มเติมคือความโด่งดัง ที่ไม่ว่าตอนนี้จะกระดิกตัวไปที่ไหน ก็มีแต่คนให้ความสนใจอยู่เสมอ เรียกได้ว่าชีวิตมีแต่ขาขึ้นเลยนะเนี่ย… งานถ่ายแบบก็มีเข้ามาเรื่อยๆ ดังแล้วนะเรา วันพักผ่อนชิวๆ ในวันหยุด ชีวิตค่อนข้างดีเลยทีเดียว และแน่นอนว่าสิ่งที่สร้างความเป็นเอกลักษณ์ให้กับตัวของมันก็คือ แฟชั่นการแต่งตัวสุดชิค ที่ใส่ไม่ซ้ำกันเลยสักวัน วันนี้มาแนวเซ็กซี่ พี่ๆ จำเราได้ไหมคะ หรือจะออกเป็นแนวแฟชั่นหลุดโลก ที่มีเลดี้ กาก้า เป็นแรงบันดาลใจ สาวโลกสวย อยู่ท่ามกลางดงดอกไม้ เดี๋ยวนี้ไม่ธรรมดาเลยนะจ๊ะ หลังจากที่เป็นแม่ค้าขายผักอยู่ดีๆ ตอนนี้ได้ลงนิตยสารของจีนอีกด้วย รับสักชุดไหมจ๊ะ ชุดนี้หลายคนอาจจะพอคุ้นหน้าคุ้นตากันไปบ้างแล้ว แต่ที่เพิ่มเติมมาก็คือ…
-
คุณตาเขียนจดหมายถึง ‘ภรรยาที่ล่วงลับ’ ทุกวันนานกว่า 4 ปี เผยมีเรื่องอีกมากที่ยังไม่เคยบอก
“ความรัก” นั้นถือเป็นสิ่งที่เป็นนามธรรมเอามากๆ เลยนะ เราไม่สามารถจะหยิบความรักออกมาให้ดูแล้วบอกว่ารักมากหรือน้อยได้ แต่ในเมื่อความรู้สึกแบบนี้เกิดขึ้นกับคนๆ หนึ่งแล้ว มันก็จะฝังรากลึกลงไปในความทรงจำ แม้ว่าร่ายกายจะจากโลกใบนี้ไปแล้วก็ตาม แต่เสี้ยวของห้วงคำนึงยังคงอยู่กับคนรอบข้างเสมอ เหมือนกับเรื่องราวของคุณตารายนี้ล่ะ เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม เว็บไซต์ Shanghaiist ได้เปิดเผยเรื่องราวซึ้งๆ ของคุณตาเฉิน ซิวกัง วัย 70 ปี จากเมืองหนิงปัว มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน ที่พยายามเขียนจดหมายถึงภรรยาผู้ล่วงลับทุกวันๆ เป็นเวลา 4 ปี แม้ว่าเธอจะจากโลกนี้ไปแล้วก็ตาม ตามรายงานบอกว่าคุณตาเฉินได้เขียนจดหมายจำนวนหลายร้อยหลายพันฉบับถึงภรรยาที่เสียชีวิตไปตั้งแต่เมื่อปี 2012 นับรวมกันแล้วมีตัวอักษรจีนกว่า 1.5 ล้านตัว โดยในจดหมายฉบับแรกๆ มีความยาวตัวอักษรอยู่ที่ประมาณ 1,000 ตัวต่อ 1 ฉบับ แต่นั่นก็ไม่อาจจะบรรยายถึงเรื่องราวในแต่ละวันและความรู้สึกที่คุณตามีต่อคนรักได้ จดหมายของเขาจึงค่อยๆ เพิ่มความยาวออกไปเรื่อยๆ จนตอนนี้มีความยาวอยู่ที่ 2,000 ตัวอักษรต่อ 1 ฉบับแล้ว คุณตาบอกว่าเขาได้แต่งงานกับภรรยาตั้งแต่เมื่อปี 1967 แต่ก่อนที่พวกเขาจะแต่งงานกันนั้น พวกเขามีโอกาสได้เจอกันเพียงแค่ 3…
-
ร่วมสรรเสริญคุณครู บริจาคร่างกายก่อนตาย ช่วยผู้ป่วย 6 คนรอดชีวิตด้วยอวัยวะของเขา…
การให้นับเป็นสิ่งที่ประเสริฐ Mark Osbone ชายชาวอังกฤษ เสียชีวิตลงด้วยวัยเพียง 49 ปี ที่ประเทศจีนเมื่อวันพุธที่ผ่านมา และของขวัญชิ้นสุดท้ายที่เขาจะสามารถมอบให้ประเทศอันเป็นที่รักของเขา ก็คือร่างกายเขาเอง… ในวันครบวันแต่งงาน 6 ปีของพวกเขา Mark Osbone และคุณนาย Wong ภรรยาของเขาจึงได้จัดงานฉลองขึ้นในหอผู้ป่วยไอซียูโรงพยาบาลหางโจว นกกระดาษกว่า 30 ตัวที่พยาบาลพากันทำขึ้น เรียงรายอยู่ที่ปลายเตียง พร้อมกับภรรยาในชุดกี่เพ้าสีม่วงตัวโปรดของเขา Mark ได้ใช้โอกาสนี้ในการกล่าวคำร่ำลาครอบครัวและผองเพื่อนของเขา Mark Osbone ได้เป็นครู และอยู่กินกับภรรยาในหางโจวมากว่า 6 ปีแล้ว เขาถือได้ว่าเป็นคนที่มีความสุขกับชีวิต และชีวิตคู่ของเขากำลังเป็นไปด้วยดี แต่เมื่อวันที่ 3 มีนาคม ทุกอย่างก็ล่มสลาย จากรายงานข่าวระบุว่า Mark ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเพราะจู่ๆ เขาก็หมดสติ แพทย์ที่ทำการตรวจวินิจฉัยได้ว่า Mark เป็นโรคเส้นเลือดในสมองแตกเฉียบพลัน ซึ่งถือว่าโชคดีมากที่ยังมีชีวิตอยู่ แพทย์ได้คาดการณ์ว่า สุขภาพของ Mark จะแย่ลงไปอีกเรื่อยๆ โดยที่ไม่สามารถช่วยยื้ออะไรได้อีก Mark สนใจที่จะบริจาคร่างกายของเขา…
-
ชาวเน็ตจีนคลั่งไคล้ ‘ตำรวจจราจร’ หนุ่มหล่อมาดเข้ม เอาซะอยากจะโดนใบสั่งจังเลย…
บางคิดอาจจะมองตำรวจจราจรด้วยภาพพจน์ที่ไม่ดีสักเท่าไหร่ แย่ไปกว่านั้น บางคนถึงกับมีอคติร้ายๆ ต่อตำรวจจราจรมาโดยตลอด แต่วันนี้ #เหมียวขาสั้นจะพาไปดูอีกหนึ่งมุมมองของพวกเขาเหล่านี้กัน… นี่เป็นแคมเปญที่ประเทศจีนเพิ่งริเริ่มเพื่อกระตุ้นให้ผู้คนมีวินัยในการใช้ถนนมากขึ้น เป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีพร้อมๆ กับการสร้างความเห็นอกเห็นใจให้แก่นายตำรวจจราจรที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความมุมานะ ตัวอย่างเช่น เจ้าหน้าที่ Weifang ผู้ไม่เคยละทิ้งหน้าที่หรือขัดขืนข้อปฏิบัติใดๆ . . เจ้าหน้าที่ Chen Xiaojun จราจรหนุ่มมาดเข้มจากเซินเจิ้น เสน่ห์เหลือล้นบาดใจสาวๆ ผู้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความยืดหยุ่น และประนีประนอม นอกจากนี้ เขายังเคยผ่านภารกิจเสี่ยงตายในการไล่ล่าผู้ร้ายบนท้องถนนในระยะทางต่อเนื่องถึง 12 กม. จนสามารถจับคนร้ายได้ในที่สุด . จราจรรูปหล่อที่เมืองอู่ฮั่น ที่เมืองเจิ้งโจว ที่เมืองจี่หนาน จากรายงานข่าวของเว็บไซต์ NetEase ระบุว่า สาวๆ นับพันที่หลงเสน่ห์จราจรรูปหล่อเหล่านี้ ต่างพากันตามหาว่าเจ้าตัวว่าแต่ละคนประจำการอยู่ที่ใด (แม้แต่ผู้ชายก็ด้วย) บางคนถึงกับแนะนำให้ทางการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้จัดวันสำหรับจราจรโดยเฉพาะไปเลย เจ้าหน้าที่หลายๆ คนพากันเขินอายเวลาที่มีคนมาขอถ่ายรูป แต่ก็เลี่ยงที่จะบริการประชาชนไม่ได้ พวกเขาไม่ลืมที่จะคอยย้ำเตือนประชากรให้ปฏิบัติตามกฎจราจรและมีวินัยในการใช้ถนน เมื่อปีที่แล้ว ก็มีรายงานข่าวเกี่ยวกับจราจรหนุ่มอีกคน ซึ่งเป็นที่ฮือฮาเพราะเขาสามารถใช้หน้าตาอันหล่อเหลาของเขาหยุดการจราจรได้ . แต่ยังไงก็ตาม อย่าให้หน้าตาอันหล่อเหลาทำให้คุณหน้ามืดตามัว แม้แต่อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยหนานชาง Zhou…
-
ยกย่องครู 6 คน เสี่ยงชีวิตปกป้องเด็ก 120 คน ระหว่างพายุทอร์นาโดถล่มโรงเรียน
ว่ากันว่าคุณครูบางคนนั้นมีจิตวิญาณของความเป็นครูมากกว่าคนอื่นๆ เพราะนอกจากพวกเขาจะให้ความรู้แล้ว คุณครูบางคนยังสั่งสอนเราในสิ่งที่ถูกหรือผิดเหมือนกับพ่อแม่ บางคนสอนการใช้ชีวิตให้กับเรา บางคนก็ยอมเอาตัวเข้าแลกเพื่อให้พวกเรารู้สึกปลอดภัยก็มี เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่าเมื่อช่วงวันพฤหัสที่ผ่านมา มีพายุทอร์นาโดลูกยักษ์เข้าถล่มที่มณฑลเจียงสู ประเทศจีน ซึ่งในบริเวณนั้นเองมีโรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่งตั้งอยู่ ภายในโรงเรียนมีเด็กๆ กว่า 120 ชีวิต และคุณครูผู้ดูแลเด็กๆ อีก 6 คน ตามรายงานบอกว่าพายุลูกใหญ่พร้อมลูกเห็บได้เข้าถล่มโรงเรียนเมื่อช่วงบ่าย 2 ครึ่ง จนเกิดความเสียหายหนัก มีลมแรงและฝ้าผ่าลงมาอย่างต่อเนื่อง คุณครู 6 คนจึงพาเด็กๆ เข้าไปหลบอยู่ในห้องเรียน เนื่องจากอาคารค่อนข้างเก่า และพายุรุนแรงมาก มันอาจจะพัดให้ประตูหน้าต่างหลุดปลิวได้ทุกเมื่อ ครูทั้ง 6 คนจึงช่วยกันค้ำยันเอาไว้จากลมพายุด้านนอก หวังเพียงให้เด็กๆทุกคนปลอดภัย หลังจากที่พายุสงบลง มีเด็กๆ 5 คนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย และอีก 2 คนได้รับบาดเจ็บสาหัส คุณครูจีงรีบพาเด็กๆ ทั้งหมดไปส่งโรงพยาบาล โดยที่ไม่ทันได้คำนึงถึงบาดแผลของตัวเอง หลังจากที่เรื่องนี้ถูกแชร์ออกไปก็ได้รับเสียงชื่นชมจากชาวเน็ตอย่างมากเช่น “ของคุณคุณครูทั้ง 6 คนที่กล้าหาญและเสียสละช่วยเหลือเด็กๆ ให้ปลอดภัย” และ “พวกเขาคือฮีโร่ตัวจริงสำหรับเด็กๆ เลย” …
-
นี่คนจริงๆ ใช่ไหม? รวม 8 สาวๆ ที่ถูกยกให้เป็น “ตุ๊กตาบาร์บี้” แบบมีชีวิตจริง
ตุ๊กตาบาร์บี้กลายเป็นตุ๊กตาสาวสวยในอุดมคติของหญิงสาวไปทั่วโลก เพราะด้วยหุ่นที่ผอมเพรียวบาง หน้าตาเรียวยาว ริมฝีปากที่อวบอิ่ม และตาโตสีฟ้า จนขนาดที่ว่าสาวๆ บางคนอยากจะกลายเป็นตุ๊กตาบาร์บี้จริงๆ เลย และเมื่อพวกเธอเติบโตขึ้น มีเงินมีทอง ก็เลือกที่จะทำศัลยกรรมเพื่อให้ตัวเองมีความคล้ายกับบาร์บี้ให้มากที่สุด (แต่บางคนก็อาจจะไม่ได้ทำ) วันนี้#เหมียวฟิ้นเลยจะพาเพื่อนๆ ไปดูกันว่ามีใครบ้างที่มีหน้าเหมือนบาร์บี้กันบ้าง? 1. Dakota Rose ปัจจุบัน Dakota Rose มีอายุ 19 ปี เธอโด่งดังมากในประเทศญี่ปุ่นและประเทศจีน เธอมักจะชอบถ่ายภาพคอสเพลย์เป็นตุ๊กตาบาร์บี้ แม้เธอจะถูกคนมองว่าเป็นเรื่องตลกขบขัน แต่เธอก็ไม่ใส่ใจอะไร 2. Venus Palermo Venus Palermo วัย 15 ปี เธออาศัยอยู่ในเมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษ มีความหลงใหลในตุ๊กตาบาร์บี้มาตั้งแต่เด็กๆ จนนำเอาความชอบมาเป็นงานอย่างเช่นการสอนแต่งหน้าผ่านเว็บไซต์ Youtube 3. Lily Cole นักแสดงชาวอังกฤษวัย 28 ปี เคยผ่านงานแสดงมาแล้วมากมาย และสิ่งที่ดูจะเป็นจุดเด่นของเธอก็คือใบหน้าที่คล้ายกับตุ๊กตานี่แหละ 4. Lin Ke Tong Lin…
-
รวยเหลือเกิ๊น!! เด็กสาวถ่ายคลิปอวดรวย โชว์กระเป๋า นาฬิกา สารพัด ชาวเน็ตจีนรุมจวกเพียบ!!
ในยุคที่ใครๆ ก็มีสื่ออยู่ในมือ ทุกคนก็อยากจะแสดงออกถึงความคิด ความรู้สึกของตัวเองออกไปให้คนอื่นๆ ได้รู้ อยากจะแชร์ภาพถ่ายการท่องเที่ยว หรือแม้แต่โชว์ข้าวของใหม่ๆ ที่เพิ่งซื้อมาให้คนอื่นได้ชื่นชมกัน แต่คงจะไม่มีใคร “อวด” ได้เก่งเท่ากับเด็กสาวชาวจีนคนนี้แน่นอน… เมื่อวันที่ 26 มิถุนายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอของเด็กสาวชาวจีนรายหนึ่ง ที่พยายามตั้งกล้องแล้วอวดข้าวของหรูๆ ที่ครอบครัวซื้อมาให้เธอ พร้อมกับล้อเลียนผู้ชมว่าเป็นคนจน จากคลิปวิดีโอ เด็กสาวได้โชว์ตั้งแต่ กระเป๋าที่แม่ของเธอซื้อมาให้จากเกาหลี นาฬิกา Hello Kitty ที่พ่อซื้อมาให้จากเกาหลี พัดลมทรงลูกขนไก่จากสหรัฐ สร้อยคอจากประเทศไทยที่เธออ้างว่ามีมูลค่าถึง 52,990 บาท และแหวนจากญี่ปุ่น ลองไปดูการโชว์รวยของเด็กสาวคนนี้ได้ที่ด้านล่างเลย… แม้บางคนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่คลิปนี้ก็โด่งดังไปทั่วประเทศจีนจนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ถึงการอวดร่ำอวดรวยโดยใช่เหตุของเธอ และยังมีความเห็นจากชาวเน็ตบอกอีกว่า “เห็นได้ชัดว่าพ่อแม่ของเด็กคนนี้เดินทางไปทั่วโลกโดยที่ไม่ได้พาเธอไปไหนมาไหนด้วย” , “เด็กคนนี้มีการบ้านจากโรงเรียนน้อยเกินไปจนทำให้เธอมีเวลาว่างขนาดนี้” , “ฉันคงจะตบหน้าเธอไปแล้วถ้าฉันเป็นพ่อแม่ของเธอ” อันที่จริงแล้ว การอวดข้าวของต่อโลกออนไลน์นั้นไม่ใช่เรื่องผิดอะไรนะ แต่อย่างแรกมันจะทำให้คนรอบข้างของคุณวิจารณ์คุณไปต่างๆ นานา และอาจถูกหมั่นไส้ได้ อย่างที่สองมันอาจจะทำให้คุณเป็นอันตรายจากมิจฉาชีพได้ หากพวกเขารู้ว่าคุณมีทรัพย์สินอะไรบ้าง แถมการใช้สื่อสังคมออนไลน์เพื่อตามหาเลขที่บ้านของคุณก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปแล้วด้วย ที่มา shanghaiist
-
แซ่บมาก!! ยลโฉมคุณป้าวัย 50 ปี ที่ออกกำลังกายจนมีหุ่นสวยเช้งยิ่งกว่าสาวๆ ซะอีก!!
คนเราเมื่อแก่ตัวลงไป ร่างกายของเราก็จะเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลา ผิวหนังที่เคยเต่งตึงก็จะเริ่มหย่อนยาน กล้ามเนื้อที่เคยสวยก็จะค่อยๆมีริ้วรอยมากขึ้นเรื่อยๆ แต่นั่นคงไม่ใช่กับคุณป้ารายนี้… ภาพที่ทุกๆ คนจะได้ดูต่อไปนี้ เป็นภาพของคุณป้าสวยที่ชื่อยี่ เหวิน เธออาศัยอยู่ในมณฑลเหอหนาน ประเทศจีน แต่สิ่งที่ทำให้เธอเป็นที่โด่งดังในโลกออนไลน์ในขณะนี้ก็คืออายุของเธอ เพราะปัจจุบันยี่ เหวินมีอายุปาเข้าไป 50 ปีแล้ว!! นี่ใกล้จะเป็นรุ่นยายแล้วนะเนี๊ยะ ยี่ เหวินเริ่มเข้ายิมแบบจริงๆ จังๆ ตั้งแต่ตอนที่เธออายุได้ 30 ปี ตอนนั้นเธอออกกำลังกายด้วยการว่ายน้ำทุกๆ วัน ทำให้กล้ามเนื้อทั่วร่างกายของเธอกระชับอยู่เสมอ และเมื่อช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมาก็มีข่าวว่าเธอว่ายน้ำผ่านช่องแคบมะละกา (ช่องแคบระหว่างคาบสมุทรมลายูและเกาะสุมาตรา) และเป้าหมายต่อไปของยี่ เหวิน คือว่ายน้ำข้ามแม่น้ำฮั่นในประเทศเกาหลีใต้!? นอกจากนี้เธอยังมีวินัยกับตัวเอง ในเรื่องการออกกำลังกายในยิมด้วย ซึ่งเธอบอกว่าเธอจะเข้ายิมประมาณ 2-3 วันต่อ 1 สัปดาห์ ใช้เวลาแต่ละครั้งประมาณ 2 ชั่วโมง ยี่ เหวินบอกว่าเธอมีร่างกายที่เพรียวบางและสง่างามเมื่อตอนที่อายุ 30 ปี ก่อนที่เธอจะเริ่มออกกำลังกายจริงจังซะอีก และความฝันของเธอคือได้ใส่ชุดบิกินี่ได้สวยๆ ตอนที่เธอมีอายุได้ 80 ปีล่ะ นี่คือภาพเปรียบเทียมเมือสมัยที่เธออายุ 30 และตอน 50…
-
คลิปเมืองจีนเจอวิกฤติน้ำท่วมหนัก ทะลุเข้าห้างราวกับในหนัง เสียหายไปแล้ว 4 หมื่นล้าน..!!
ในช่วงนี้ประเทศจีนกำลังประสบกับปัญหาน้ำท่วมในหลายๆ พื้นที่ เนื่องจากมีฝนตกลงมาอย่างหนักติดต่อกัน 3 วันที่ผ่านมา ล่าสุดมีรายงานจากสำนักข่าว Reuter ว่ามีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้กว่า 22 คนแล้ว ตามรายงานบอกว่าระดับแม่น้ำต่างๆ ได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้น้ำเอ่อท่วมไปยังพื้นที่ทางการเกษตรและบ้านเรือนต่างๆ กว่า 10,500 หลังคาเรือน รวมมูลค่าความเสียหายแล้วอยู่ที่ประมาณ 3 หมื่น 9 พันล้านบาท ล่าสุดเมื่อวันที่ 23 เว็บไซต์ Shanghaiist ได้เปิดเผยคลิปวิดีโอเพิ่มเติมเกี่ยวกับอุทกภัยในครั้งนี้ เป็นเหตุการณ์น้ำทะลักเข้าไปยังห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในจีน คล้ายกับฉากในหนังภัยพิบัติที่เรามักจะได้เห็นกันบ่อยๆ ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลย (ใครดูไม่ได้ให้กดที่นี่นะ) Intense rain brought on by the El Niño effect has wrecked havoc across southern China over the last few days, including at this one…
-
13 เหตุการณ์ที่สอนว่า… อย่าจอดรถแบบ ‘งี่เง่า’ มิฉะนั้น อาจจะโดนเอาคืนแบบเจ็บแสบ!!!
การขับรถขับรา นอกจากคุณจะต้องมีใบขับขี่แล้ว คุณก็ควรจะมีสามัญสำนึกในการขับขี่ด้วยนะ ไม่งั้นคุณอาจจะโดนแก้แค้นแบบเจ้าของรถคันนี้ได้ เมื่อวันที่ 23 มิถุนายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้เปิดเผยภาพของรถเก๋งสีขาวคันหนึ่งในประเทศจีน ที่เจ้าของรถดันขับไปจอดบนบาทวิถีทั้งที่บริเวณนั้นมีที่จอดเยอะแยะ เมื่อคนงานแถวนั้นมาเห็นเข้าจึงสั่งสอนโดยการจะเอาถังขยะกว่า 16 ถังมาวางล้อมรถคันนั้นเอาไว้เพื่อเป็นการสั่งสอนให้หลาบจำ ก่อนที่ในเวลาต่อมาเจ้าของรถจะกลับมาเอาถังขยะออกและขับรถออกไปในที่สุด จอดรถไม่เป็นที่ก็ต้องเจอแบบนี้ บางคนอาจจะมองว่านี่เป็นเพียงการกลั่นแกล้งกันที่เกินเลย แต่#เหมียวฟิ้นจะบอกว่าก่อนหน้านี้ในต่างประเทศมีการกลั่นแกล้งคนที่จอดรถไม่ได้เรื่องได้ราวแบบนี้มาแล้วหลายครั้ง และเจ็บแสบยิ่งกว่าการนำถังขยับมาวางล้อมรอบซะอีก เราลองไปชมกันเลยว่ามีอะไรบ้าง? 1. เจอรถเข็นห้างหน่อยเป็นไง? 2. จอดรถเอียง งั้นขีดเส้นให้ใหม่เลยละกัน 3. ก็บอกว่าห้ามจอดยังไงล่ะเฮ้ย 4. จอดรถไม่ดูเอง ดันไปจอดตรงกับท่อน้ำสำหรับดับเพลิงพอดี 5. นี่ก็อุตส่าห์ตีเส้นให้ 6. ห่อแผ่นยางไปทั่วรถ เอาให้ขึ้นกันลำบากไปเลย 7. จัดปาร์ตี้ให้สักหน่อย 8. จอดรถขวางหน้าบ้านคนอื่น เป็นไงล่ะ… 9. ก็เผื่ออยากทำอาหาร เลยเอาส่วนผสมมาให้ฟรีๆ 10. จอดรถได้น่าเกลียดมาก…
-
เจ้าหมาแต่งตัวสวยทู๊กกกวัน เพื่อไปเป็นแม่ค้าขายของในตลาด น่ารักแบบนี้ อยากอุดหนุนเหลือเกิน
ความดีของน้องหมามีมากมายจนเอ่ยแทบไม่หมด ไม่ว่าจะเป็น มีความอดทน น่ารัก คอยเป็นเพื่อนเล่นยามเหงา หรือแม้กระทั่งมาช่วยงานเจ้านายโดยการเป็นพรีเซนเตอร์ขายของที่ตลาด หืมมมมม หลายคนสงสัย ว่าหมาที่ไหนจะเป็นพรีเซนเตอร์ขายของ แต่เชื่อหรือไม่ว่ามันมีอยู่จริงๆ นะ และนี่ก็คือโฉมหน้าของน้องหมาสุดเก่งส่งตรงจากประเทศจีน ที่ใครผ่านมาเห็นก็ต้องอดยิ้มไม่ได้ทู๊กกกกกที เพราะเจ้าหมาตัวนี้มันไม่ธรรมดา ว่างๆ ก็มาช่วยงานเจ้านายโดยการขายของ ไม่ว่าจะเป็น…ขายผักเอย ขายดอกไม้เอย จนบังเกิดเป็นภาพฮาผสมน่ารักแบบนี้… และที่สำคัญหากใครเป็นคนช่างสังเกตุ คุณจะเห็นว่าในทุกๆ ครั้งที่เจ้าหมาตัวนี้มานั่งขายของ มันมักจะแต่งตัวสวยๆ ไม่ซ้ำกันเลยสักวัน แหมๆๆๆๆ นี่มันเป็นกลยุทธ์อย่างหนึ่งในการเรียกลูกค้าใช่ไหมเจ้าหมา น่ารักไหมละ เร่เข้ามา เร่เข้ามา วันนี้มีผลไม้อร่อยๆ เพียบ รู้งานดีจริงๆ ด้วยความน่ารักน่าชังของเจ้าหมา วันนี้เราก็เลยขอนำภาพของมันมาให้ได้ชมกันสักหน่อย บอกเลยว่าใครที่ได้ชมแล้ว คุณจะต้องหลงรักเจ้าหมาตัวนี้มากขึ้นอย่างแน่นอน ดูท่าโพสต์…ธรรมดาที่ไหนกัน ลูกประคำใหญ่ไปไหมมมม หน่อไม้ถูกๆ จ้า โลละ 100 …
-
อรู๋ววว…สาวจีนในชุดบิกินี แห่สมัครเป็นไลฟ์การ์ดในจีน โดยมีพระเส้าหลินเป็นผู้ฝึกสอน!?
หากพูดถึงพระ คนส่วนใหญ่ก็น่าจะนึกถึงนักบุญที่ถือศีล 200 กว่าข้อ มีบุคลิกวาจาที่สำรวม ออกบิณฑบาต ให้ศีลให้พรแก่ญาติโยม แต่ถ้าพูดถึงพระวัดเส้าหลิน หลายคนก็จะนึกถึงภาพของพระที่มีความเก่งกาจในการฝึกวิชา สมาธิและความแข็งแกร่งของร่างกาย แต่วันนี้#เหมียวฟิ้นจะขอชวนทุกคนไปเปิดมุมมองใหม่เกี่ยวกับพระกันบ้าง เพราะกลุ่มพระจากวัดเส้าหลินทางตอนใต้ของประเทศจีน ได้กลายมาเป็นอาจารย์สอนกังฟูให้กับเหล่าหญิงสาวที่สมัครงานเป็นเจ้าหน้าที่ไลฟ์การ์ดในแพล่องแก่งแห่งหนึ่ง ตามรานงานบอกว่ากลุ่มหญิงสาวจำนวนหนึ่งได้สมัครงานเข้ามาทำหน้าที่เป็นไลฟ์การ์ดในสถานที่ล่องแก่งในกู่หลงเจีย มณฑลกว่างตง ทางตอนใต้ของประเทศจีน แต่การสมัครครั้งนี้มีเงื่อนไขว่าพวกเธอจะต้องมีทักษะการต่อสู้เช่นกังฟู จึงเป็นหน้าที่ของพระจากวัดเส้าหลินที่ต้องเข้ามาสอนพวกเธอ ในการสมัครครั้งนี้มีผู้เข้าคัดเลือกกว่า 30 คน โดยจะมีการฝึกยาวนานกว่าสัปดาห์ พวกเธอจะมีพระเส้าหลินมาเป็นโคชให้ 2 รูป ซึ่งพวกเธอจะได้เรียนรู้รูปแบบการต่อสู้จากสัตว์ 5 ชนิด ทั้ง เสือ, นกกระเรียน, เสือดาว, งู และมังกร ผู้สมัครจะต้องเรียนรู้และเชี่ยวชาญในการต่อสู้อย่างน้อย 2 แบบ ก่อนที่พวกเธอจะเข้ารับการประเมินขั้นสุดท้ายและได้รับการเซ็นสัญญาว่าจ้างอย่างเป็นทางการ หญิงสาวส่วนใหญ่ที่เข้ามาสมัครงานที่นี่ล้วนจบการศึกษามาจากมหาวิทยาลัยด้านการกีฬา พวกเธอจะต้องมีความรู้พื้นฐานของมวยปล้ำระหว่างการฝึกฝนร่างกายตลอดทั้งสัปดาห์ โฆษกจากบริษัทนำเที่ยวแห่งนี้กล่าวว่าศิลปะการต่อสู้อย่างเช่นมวยปล้ำนั้นสามารถช่วยเพิ่มสมรรถภาพความแข็งแกร่งและการทำงานร่วมกันเพื่อช่วยชีวิตคนได้ แถมยังเป็นการทดสอบความอึดและกำลังใจได้ด้วย เมื่อพวกเธอผ่านขั้นตอนการทดสอบทั้งหมดแล้ว พวกเธอก็จะได้รับมอบหมายให้คอยสอดส่องดูและความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวสาวๆ ที่มาใช้บริการล่องแก่งแห่งนี้ พวกเธอจะได้ทำหน้าที่เป็นผู้ให้ความรู้เกี่ยวกับโครงสร้างการล่องแก่ง การใช้อุปกรณ์และความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว ก่อนที่พวกเขาจะไปทำกิจกรรมกัน นอกจากนี้พวกเธอยังทำหน้าที่เป็นเพื่อนร่วมทางให้กับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาคนเดียวอีกด้วย…
-
อาจารย์สาวสวมชุดวิวาห์ ขอแฟนหนุ่มนักศึกษาแต่งงานกลางมหาลัย ปิดท้ายด้วยจุ๊ฟเบาๆ..!!
ไม่บ่อยนักที่เราจะได้เห็นภาพของหญิงสาวลงทุนขอแต่งงานกับฝ่ายชายด้วยตัวเอง และล่าสุดมันได้เกิดขึ้นที่ประเทศจีนแล้วล่ะ… . เมื่อวันที่ 20 มิถุนายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่าศาสตราจารย์สาวแห่งมหาวิทยาลัยศิลปะและวิทยาศาสตร์หูหนาน ประเทศจีน ได้แต่งชุดเจ้าสาวพร้อมกับสวมหน้ากาก เพื่อมาดักรอและขอนักศึกษาชายคนหนึ่งแต่งงาน . ตามคำบอกเล่าของเหล่านักศึกษาที่อยู่ในเหตุการณ์ยืนยันว่าทั้งสองคนรู้จักกันมาได้สักพักแล้ว และดูเหมือนว่าการขอแต่งงานครั้งนี้เป็นเป็นการเตรียมการที่ใช้เวลานานพอสมควรแถมยังเป็นเรื่องใหญ่สำหรับนักศึกษาภายในมหาวิทยาลัยด้วย . หลังจากที่เกิดเหตุการณ์นี้ได้ไม่นาน ภาพของพวกเขาก็ถูกแชร์ออกไปในสื่อสังคมออนไลน์อย่างรวดเร็ว จนมีความเห็นจากชาวเน็ตบอกว่า “ฉันสามารถหาคุณครูดีๆ แบบนี้ได้ที่ไหนบ้างเนี๊ยะ?” และ “สิ่งที่เราเคยได้ดูในหนังผู้ใหญ่ได้กลายเป็นจริงแล้ว พี่ชายผมล่ะอิจฉาคุณจัง” อย่างไรก็ตาม เมื่อมีคนชอบก็ต้องมีคนไม่ชอบ บางความเห็นกล่าวว่า “เรื่องดังกล่าวนั้นดูไม่เหมาะสมเสียเลย” ก็เป็นความเห็นที่โต้แย้งแลกเปลี่ยนความคิดกันไป ว่าแต่ชาวเหมียวล่ะ คิดว่าเรื่องแบบนี้เหมาะสม หรือไม่เหมาะสมกันอย่างไร คิดเหมือนชาวเน็ตจีนเค้ารึเปล่า…!? . . แหม่ เป็นโชคดีของพ่อหนุ่มคนนี้จริงๆ ได้ทั้งความรู้ได้ทั้งภรรยา ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวเลยนะเนี๊ยะ ที่มา shanghaiist
-
หนุ่มจีนเกิดอาการปวดท้องรุนแรง เอ็กซเรย์แล้วแพทย์ตกใจ เพราะพบไตถึง 4 ข้าง!?
เมื่อวันที่ 19 มิถุนายนที่ผ่านมาเว็บไซต์ Shanhaiist ได้รายงานว่า นายหวัง ไคเหลียงวัย 28 ปี จากมณฑลกุ้ยโจว ประเทศจีน ได้เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง หลังจากตรวจพบว่ามีไตเจริญเติบโตในท้องของเขาอีก 2 ข้าง!? ตามรายงานบอกว่าเขามีอาการเจ็บที่ในช่องท้องอย่างรุนแรงจนไม่สามารถยืนขึ้นได้ ทีมแพทย์จึงนำเขาไปเอ็กซ์เรย์ พบว่ามีไตงอกออกมาอีก 2 ข้าง หลายคนได้ยินคงทำหน้าตกใจล่ะซิ!? แต่นั่นไม่ใช่ผลดีต่อนายหวัง เพราะมีเนื้อไตชิ้นหนึ่งเกิดอาการติดเชื้อ จึงต้องทำการผ่าตัดออกโดยด่วน หลังจากที่ใช้เวลาในการผ่าตัดอยู่นานหลายชั่วโมง ทีมแพทย์ก็สามารถนำเอาไตที่ว่านี้ออกมาได้และนายหวังก็พ้นขีดอันตราย ส่วนคุณหมอที่ดูแลอาการของนายหวังบอกว่า ตลอดระยะเวลาในการเป็นหมอกว่า 20 ปีของเขา ไม่เคยเจอเคสไหนที่แปลกเท่ากับนายหวังมาก่อนเลย โอกาสที่จะเกิดการเจริญเติบโตของอวัยวะแบบนี้มีเพียง 1% จากจำนวนประชากรทั้งหมดเท่านั้น (และโอกาสที่จะพัฒนาเป็นไตสมบูรณ์แบบกรณีนี้ แทบจะเป็น 1 ในล้านกันเลยทีเดียว) ทางด้านครอบครัวของนายหวังบอกว่าเขารู้สึกสุขภาพดีขึ้นมาก ทั้งกินอาหารและดื่มเครื่องดื่มได้มากกว่าที่เคย นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวยังรายงานว่าครอบครัวของนายหวังนั้นมีความผิดปกติทางร่างกายอยู่แล้ว ทั้งคุณพ่อที่มีนิ้วก้อยเล็กผิดปกติทั้งสองข้าง และน้องสาวของนายหวังเองก็มีชิ้นเนื้อเล็กๆ งอกออกมาจากโคนนิ้วก้อย นี่อาจเป็นไปได้ว่ามันคือการส่งต่อของความผิดปกติทางพันธุกรรรมจากรุ่นสู่รุ่นนั่นเอง ถ้าจู่ๆ มีอวัยวะชิ้นใหม่งอกออกมาจากร่างกายของเรา คงจะเป็นอะไรที่สยองมากเลยนะเนี๊ยะ ที่มา shanghaiist , gzdsw
-
หมูปิ้งมันเด็กๆ!! ที่จีนต้องนี่ ‘จระเข้ปิ้ง’ แถมมีตัวจริงหน้าร้าน ยืนยัน… นี่เนื้อแท้ไม่ผสมนะจ๊ะ
เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2559 ที่ผ่านมา ทางเว็บไซต์ต่างประเทศ ได้เผยภาพที่สร้างความตะลึงให้กับบรรดาผู้คนทั้งในโลกโซเชียลจีน รวมไปถึงผู้ที่ไปช้อปปิ้งบริเวณถนนในเมืองเสิ่นหยาง มณฑลเหลียวหนิง ประเทศจีนเป็นอย่างมาก เพราะจากภาพปรากฏให้เห็นว่า มีร้านค้าของพ่อค้ารายหนึ่ง ที่ได้นำจระเข้ตัวเป็นๆ มาวางโชว์ไว้ที่หน้าร้าน เพื่อทำการโปรโมตเนื้อจระเข้ ส่วนเนื้อของมันก็นำมาเสียไม้ และปิ้งขาย ให้ผู้ที่สนใจลิ้มลองรสชาติของเจ้าสัตว์เลื้อยคลานชนิดนี้โดยเฉพาะ เรียกได้ว่าหลังจากที่ได้เห็นเจ้าจระเข้ทั้งตัววางอยู่หน้าร้าน ทำเอาบรรดานักท่องเที่ยว และผู้คนในบริเวณนั้นถึงกับอึ้งไปตามๆ กัน นอกจากนี้ทางพ่อค้ายังได้มีการนำจระเข้ตัวเป็นๆ มาให้ลูกค้าได้ลองอุ้ม และได้ลองสัมผัส ก่อนที่จะนำมันมาแปรสภาพให้กลายเป็นเนื้อจระเข้เสียบไม้ย่างอันแสนโอชะอีกด้วย แต่เห็นแบบนี้บอกก่อนเลยนะว่าราคาของมันไม่ได้ถูกๆ นะจ๊ะ เพราะเนื่องจากมันเป็นเนื้อจระเข้ ดังนั้นมันจึงมีราคาค่อนข้างแพง โดยทางพ่อค้าได้ขายไม้ละประมาณ 100 บาทเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม สำหรับในประเทศจีน ตราบใดที่พ่อค้าแม่ค้ามีใบอนุญาตจากทางการให้เพาะพันธุ์และขายเนื้อจระเข้ได้ ถือว่าเป็นเรื่องที่ถูกต้องตามกฎหมาย ที่มา : shanghaiist
-
เผยบทสัมภาษณ์ “แจ็ค หม่า” บอกสินค้าปลอมในจีน คุณภาพสูงมาก และราคาแสนถูก!!
อย่างที่ทราบกันดีว่าสินค้าปลอมหลายๆ ชิ้นที่เราเห็นกันวางขายกันเกลื่อนตามท้องตลาดทุกวันนี้ บางส่วนนั้นนำเข้าจากจีน และปฏิเสธไม่ได้เลยว่าที่ผู้คนบางกลุ่มยังคงซื้อสินค้าเหล่านี้มาใช้นั้นก็เป็นเพราะเรื่องราคาที่ไม่แพงจนสามารถจับต้องได้ และบางชิ้นมีคุณภาพดีในระดับที่ดีเกือบจะเท่ากับของแท้ ล่าสุดเมื่อวันที่ 14 มิถุนายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ CNN ได้เปิดเผยบทสัมภาษณ์ของแจ๊ค หม่า ผู้ก่อตั้งและผู้บริหารของเว็บไซต์ขายของออนไลน์อลีบาบา ได้ออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับความนิยมในสินค้าปลอม โดยเจ้าตัวบอกว่าเรื่องจากที่ผ่านมาจีนถูกเลือกให้เป็นที่ตั้งของโรงงานผลิตสินค้าแบรนด์ต่างๆ มากมาย ทำให้ชาวจีนที่ทำงานในโรงงานเหล่านั้นมีทักษะในการทำสินค้าและรู้จักวัสดุเป็นอย่างดี พวกเขาจึงผลิตสินค้าออกมาขายผ่านเว็บไซต์ขายของออนไลน์ “ปัญหาก็คือว่า ของปลอมในทุกวันนี้มีคุณภาพสูงขึ้น ราคาถูกกว่าสินค้าจริง ใช้โรงงานผลิตเดียวกัน ใช้วัสดุเดียวกัน พวกเขาแค่ไม่ได้ใช้แบรนด์สินค้าเฉยๆ” เจ้าพ่อเว็บไซต์ขายของออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในจีนกล่าว แต่ถึงจะพูดแบบนั้น แจ็ค หม่า ก็ยืนยันว่าตนเองไม่ได้มีแนวคิดในการสนับสนุนการซื้อขายสินค้าปลอม และได้มีการร่วมมือกับแบรนด์สินค้าดังๆ ระดับโลกเพื่อหาแนวทางในการป้องกันปัญหาสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ต่างๆ แม้ว่าที่ผ่านมาเว็บไซต์อลีบาบาของเขาจะมีสินค้าปลอมมาวางขายกันแบบโจ่งแจ้ง แต่เขาก็ให้คำมั่นสัญญาว่าจะนำเอาสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ออกจาเว็บไซต์ของเขาให้หมด และกลายเป็นเว็บที่ขายแต่สินค้าที่มีลิขสิทธิ์ถูกต้อง ที่มา cnn
-
ความมหัศจรรย์ในยามราตรีของ “อุทยานหิ่งห้อย” แห่งแรกของโลก จากประเทศจีน
ถ้าเป็นสมัยก่อน หลายๆ คนคงเคยนั่งชมความสวยงามของหิ่งห้อยในยามค่ำคืนกันมาแล้วใช่ไหมละ ยิ่งนึกก็ยิ่งทำให้เราคิดถึงช่วงเวลาในตอนนั้นมากจริงๆ เพราะการที่ได้เห็นหิ่งห้อยส่องแสงระยิบระยับ มันช่างงดงามเหลือเกิน แต่ในปัจจุบัน ปริมาณของหิ่งห้อยได้ลดลงไปเป็นจำนวนมาก เนื่องจากโลกของเรามีมลพิษเพิ่มขึ้น ดังนั้นสิ่งเหล่านี้จึงไปกระทบกับแหล่งที่อยู่อาศัยของพวกมัน จึงทำให้หิ่งห้อยตัวน้อยๆ ปริมาณลดลงนั่นเอง แต่โชคดีที่เรายังมีโอกาสได้เห็นเจ้าหิ่งห้อยเหล่านี้อยู่ เนื่องจากทางศูนย์เพาะพันธุ์อุทยานหิ่งห้อย East Lake Peony ในมณฑลหูเป่ย ประเทศจีน และศูนย์ใกล้เคียงในมณฑลเจียงซี… ได้ส่งเสริมการเพาะพันธุ์ และขยายพันธุ์เจ้าหิ่งห้อยตัวจิ๋ว โดยการนำมาปล่อยไว้ในสวนธรรมชาติที่สร้างขึ้น แถมยังเปิดให้นักท่องเที่ยว ได้เข้ามารับชมความสวยงามของบรรดาหิ่งห้อยในยามค่ำคืนอีกด้วย เมื่อได้เข้ามาสัมผัสความสวยงามของอุทยานแห่งนี้ คุณจะได้พบกับหิ่งห้อยที่ส่องแสงระยิบระยับแวววาวตามทาง เป็นจำนวนนับ 10,000 ตัวเลยทีเดียว แต่น่าเสียดายที่เราจะไม่มีโอกาสได้เข้าไปชมความสวยงามของหิ่งห้อยได้ตลอดทั้งปี เพราะอุทยานหิ่งห้อยแห่งนี้ จะมีการปิดทำการในบางช่วง เพื่อปล่อยให้หิ่งห้อยได้รับการขยายพันธุ์ตามธรรมชาตินั่นเอง โดยจะเริ่มเปิดทำการในปลายเดือนพฤษภาคม และปิดในเดือนตุลาคม . นอกจากนี้ยังทำการขยายพันธุ์หิ่งห้อยเองอีกด้วย… . สำหรับในปีนี้ เพียงแค่วันแรกมีนักท่องเที่ยวได้เดินทางเข้ามาเที่ยวชมอุทยานหิ่งห้อยมากถึง 10,000 คน และคาดว่าในปีต่อๆ ไป จะต้องมีผู้คนเดินทางเข้ามาชื่นชมความสวยงามของเจ้าหิ่งห้อยเหล่านี้เพิ่มมากขึ้นแน่นอน ถือเป็นสถานที่ชมหิ่งห้อยที่งดงาม และหายากมากๆ แล้ว…
-
แชร์คลิปหนุ่มจีน ‘ตบสาว ยัดใส่ท้ายรถ’ กลางปั๊มน้ำมัน คนมุงเยอะ แต่ช่วยอะไรไม่ได้ด้วย…
เมื่อวันที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanhaiist ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอของชายหนุ่มวัยกลางคนรายหนึ่ง ขณะที่กำลังตบตีหญิงสาวที่อยู่ในกระโปรงท้ายรถเก๋ง แม้จะมีคนยืนดูอยู่หลายคนก็ไม่ทำให้เจ้าตัวหยุดการกระทำสุดโหดร้ายได้เลย ตามรายงานบอกว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในมณฑลเหอเป่ย ประเทศจีน โดยชายหนุ่มเชื่อว่าหญิงสาวได้นอกใจตนเอง จึงได้ลงมือทำร้ายเธอกลางปั๊มน้ำมัน แม้จะมีคนในบริเวณนั้นตะโกนว่า “อย่าตีเธอ” แต่ชายหนุ่มก็ยังไม่ฟัง แม้ชายหนุ่มจะไม่หยุดลงมือกับเธอ แต่ก็ไม่มีใครเข้าไปห้ามปรามใดๆ จนสุดท้ายชายหนุ่มได้ผลักหญิงสาวลงไปในกระโปรงท้ายรถและปิดล็อคไม่ให้เธอออกมาได้ จากนั้นก็ขับรถออกไปจากปั๊มน้ำมันหน้าตาเฉย รองกรรมการจากสำนักรักษาความปลอดภัยสาธารณะของมณฑลเหอเป่ย ได้ออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับกรณีนี้ว่าหลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เห็นคลิปดังกล่าว พวกเขาก็ออกสืบสวนเรื่องนี้ทันที ภายหลังพวกเขาพบตัวหญิงสาวในเมืองฉางโจว เธอยืนยันว่าชายหนุ่มที่ปรากฏในคลิปนั้นเป็นสามีของเธอ แต่ไม่ได้รับบาดแผลจากการทำร้ายร่างกายในครั้งนั้น และแทนที่จะแจ้งดำเนินคดีกับสามี เธอกลับนิ่งเฉยและยังบอกอีกว่าเธอพยายามจะแกไขความสัมพันธ์ของพวกเขาอยู่ หลังจากที่เรื่องนี้ถูกเผยแพร่ในเครือข่ายสังคมออนไลน์ของจีน ก็มีความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นนี้จากชาวเน็ตในจีนผุดขึ้นมามากมาย เช่น “ดูเหมือนหญิงสาวจะไม่ได้ความเคารพเลยในประเทศจีน ผู้ชายคนนั้นตบเธออย่างแรงมาก แม้เธอจะมีภรรยาของเขาแต่ก็ไม่มีสิทธิ์ไปทำแบบนั้น” “ทำไมพวกเขามีเวลามาถ่ายวิดีโอ แต่ไม่มีเวลาที่จะไปหยุดผู้ชายคนนั้นหรือโทรศัพท์หาตำรวจล่ะ? ใครก็ตามที่ถ่านคลิปนี้มันช่างน่ารังเกียจเหลือเกิน” “มันน่ากลัวมาก ไม่มีใครแสดงตัวที่จะปกป้องเธอเลยเหรอ?? ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลย (ใครดูไม่ได้กดที่นี่นะ) This video showing a woman being slapped and stuffed inside the…
-
หนุ่มจีนชอบ ‘เครื่องบิน’ ตั้งแต่เด็ก แม้จะไม่ได้เรียนโดยตรง แต่ศึกษาและสร้างมันได้ในที่สุด!!!
ชาวจีนถือได้ว่าเป็นชนชาติหนึ่งที่มีความมุมานะมากที่สุดชาติหนึ่งเลยก็ว่าได้ อย่างเช่นที่เรามักจะได้เห็นชาวจีนประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจอะไรหลายๆ อย่าง หรือเป็นคนดังมีชื่อเสียงในต่างประเทศก็มีให้เห็นมาแล้วมากมาย และหากพวกเขาอยากจะมีเครื่องบินเป็นของตัวเอง โดยไม่ต้องไปเสียงเงินเป็นล้านล่ะ? พวกเขาก็สามารถประดิษฐ์ขึ้นมาได้เองเช่นกัน วันนี้#เหมียวฟิ้นจะพาเพื่อนๆ ไปรู้จักกับหนุ่มจีนคนหนึ่งที่ชื่อว่านายเซี๊ยะ บาวกัง ผู้ชื่นชอบเครื่องบินเป็นชีวิตจิตใจ นายเซี๊ยะอาศัยอยู่ในเมืองเฮงชุ่ย มณฑลเหอเป่ย ประเทศจีน ในตอนที่ยังเป็นเด็ก เขาฝันมาตลอดว่าจะได้ออกบินไปพร้อมกับเครื่องบิน แต่เมื่อเขาอายุได้ 18 ปี ด้วยความจำเป็นในชีวิต เขาไม่ได้เรียนต่อในสาขาที่เขาใฝ่ฝัน จึงก็เริ่มหันหน้าเขาสู่วงการธุรกิจและเปิดร้านขายของเป็นของตัวเอง หลายคนคิดว่า ฝันเรื่องการสร้างเครื่องบินถูกทิ้งลงถังขยะไปแล้ว… แต่ถึงแม้เวลาจะผ่านไปนาน เขาก็ไม่เคยลืมความฝันในวัยเด็กของตัวเอง เขาจึงตัดสินใจทิ้งธุรกิจของตัวเอง แล้วอุทิศเวลาทั้งหมดให้กับการศึกษาเรื่องการบิน การประกอบเครื่องบิน และอีกหลายๆ อย่างเกี่ยวกับการบิน จนในปี 2009 นายเซี๊ยะก็ได้สร้างเครื่องบินประกอบด้วยตัวของเขาเอง และนำมันออกทดสอบ แต่ปรากฏว่าเจ้าเครื่องบินนั่นยังไม่สมบูรณ์ดีพอ ทำให้ไม่สามารถขึ้นบินได้แบบที่เขาตั้งใจไว้ แต่เขาก็ยังไม่ลดละความพยายาม จึงได้ศึกษาการประกอบเครื่องบินไปเรื่อยๆ ลำที่ 2 ที่ 3 และอีกมากมาย จนเมื่อเดือนที่ผ่านมา เขาได้ออกแบบเครื่องบิน (ซึ่งน่าจะเรียกว่าเฮลิคอปเตอร์มากกว่า) และประกอบมันเองเป็นลำที่ 8 (ที่ทุกคนกำลังเห็นอยู่นี้) ปรากฏว่ามันสามารถนำขึ้นบินได้จริงๆ มันสามารถทำความเร็วได้สูงสุดถึง 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และบินได้ไกลถึง 400 กิโลเมตรเลยทีเดียว แม้การประดิษฐ์เครื่องบินจะดูไม่ใช่เรื่องยากอะไร แต่ต้องบอกเลยว่าการจะทำให้มันสมบูรณ์จนบินได้นั้น ต้องได้รับการออกแบบที่ถูกหลักวิศวกรรมด้วย เพราะอย่างชายคนนี้เองก็พยายามจะสร้างเครื่องบินเช่นกัน…
-
คุณพระ!! สาวปล่อย ‘งู’ กลับเข้าป่ากว่า 900 ตัว เชื่อยิ่งปล่อยมากยิ่งได้บุญมาก!?
การที่เรามีจิตใจเมตตา ชอบทุำบุญ ถือเป็นเรื่องที่ดีนะ แต่คงจะต้องพิจารณากันหน่อยว่าบุญที่ทำนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้องหรือเป็นที่ยอมรับของสังคมหรือไม่ เพราะหากบุญที่ทำนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง คุณก็อาจโดนประณามแบบหญิงสาวคนนี้ก็ได้ เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 5 มิถุนายนที่ผ่านมา สำนักข่าว CCTVNews ได้รายงานว่าหญิงสาวรายหนึ่งจากเมืองนานกิง มณฑลเจียงซู ประเทศจีน ได้ทำบุญโดยการปล่อยงูกว่า 900 ตัว กลับเข้าไปในป่า โดยเธอเชื่อว่ายิ่งปล่อยไปมากเท่าไหร่ก็จะได้บุญมากเท่านั้น หลังจากที่หญิงสาวชาวจีนรายนี้ได้ปล่อยงูออกไปแล้ว เธอก็ได้ถ่ายภาพมาแชร์ลงในเครือข่ายสังคมออนไลน์อย่างเว่ยป๋อ แต่ปรากฏว่าเธอกลับถูกชาวเน็ตรุมจวกอย่างรุนแรง โดยบอกว่าการกระทำของเธอเป็นการเห็นแก่ตัวเกินไป ไม่นึกถึงสัตว์ตัวเล็กตัวน้อยบริเวณนั้นที่จะกลายเป็นอาหารของเหล่างู จนเกิดความเสียหายต่อระบบนิเวศน์ตามมา นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่หญิงสาวคนนี้ได้ปล่อยสัตว์กลับสู่ป่า เพราะก่อนหน้านี้เธอได้เข้าร่วมกับกลุ่มที่มีชื่อว่า “Fang Sheng” และกลุ่มปล่อยสัตว์อีก 2-3 กลุ่ม เพื่อช่วยกันปล่อยสัตว์กลับสู่ผืนป่า เธอทำแบบนี้มานานกว่า 10 ปีแล้ว กลุ่มเหล่านี้มักจะพากันปลดปล่อยสัตว์ที่ถูกขังไว้ในกรง ตั้งแต่เต่าไปจนถึงตัวเม่นแคระ ในทุกๆ 200 วัน ตามรายงานไม่ได้บอกว่าหญิงสาวและกลุ่มของเธอนำงูไปปล่อยที่ไหนกันแน่ แต่จากการคาดคะเนน่าจะเป็นเขตตูเจียงเอี้ยน มณฑลเสฉวน แต่เธออ้างว่านำงูเหล่านี้ไปปล่อยในพื้นที่รกร้างแถวมณฑลเจียงซูกับมณฑลอานฮุย ซึ่งตอนนี้ทางเทศบาลของเมืองนานกิงได้เร่งตรวจสอบเพื่อหาสถานที่ที่แท้จริงแล้ว . ปล่อยอะไรก็ไม่ปล่อย ดันมาปล่อยงูเนี๊ยะนะ!? ที่มา l8gp , CCTVNews
-
รองเท้า Nike ในจีนโดนกว้านซื้อเรียบ เหตุคนจีนเชื่อว่าสัญลักษณ์ของแบรนด์ช่วยให้โชคดี!?
ประเทศจีนเป็นประเทศหนึ่งที่เชื่อเรื่องโชคเรื่องดวงมาก ไม่ว่าจะเป็นหวงจุ้ย โหงวเฮ้ง และการกระทำต่างๆ ที่พวกเขาทำแล้วเชื่อกันว่าโชคดี (อันที่จริงก็ไม่ได้ต่างจากของไทยเท่าไหร่) ล่าสุดดูเหมือนตอนนี้พวกเขาจะแห่กันไปซื้อรองเท้าบางยี่ห้อ เพื่อช่วยเสริมสร้างความโชคดีให้กับพวกเขาด้วย… เมื่อวันที่ 3 มิถุนายนที่ผ่านมา สำนักข่าวท้องถิ่นของประเทศจีนได้รายงานว่าตอนนี้ร้านค้าแบรนด์ Nike ทางตอนเหนือของประเทศจีน กำลังถูกชาวบ้านรุมกันแย่งซื้อรองเท้า เพราะว่าพวกเขามีความเชื่อกันว่าสัญลักษณ์ “ถูกต้อง” บนรองเท้าจะช่วยเสริมสร้างความโชคดี ตามรายงานบอกว่าร้าน Nike แห่งหนึ่งในมณฑลจี๋หลิน ประเทศจีน ได้ติดป้ายโฆษณาว่า “สวม Nike โชคดีกับการสอบ” ซึ่งสัญลักษณ์ “สวูช” ดันไปคล้ายกับสัญลักษณ์ถูกต้องพอดี ทำให้เหล่านักศึกษาเชื่อว่าจะทำข้อสอบได้ถูกต้อง ทั้งนี้ทางสำนักงานใหญ่ของ Nike ได้ออกมาปฏิเสธว่านี่ไม่ได้เป็นแคมเปญที่พวกเขาคิดขึ้น แต่เป็นแคมเปญที่สาขาย่อยคิดขึ้นมาเอง ทางผู้ช่วยฝ่ายขายของสาขานี้ก็ได้ออกมาเปิดเผยว่าหลังจากที่ติดป้ายโฆษณาที่ว่านี้แล้ว ทำให้ยอดขายพุ่งกระฉูดสุดๆ มีเหล่านักศึกษาแห่กันมาซื้อรองเท้ามากมาย นอกจากเรื่องของสัญลักษณ์ “สวูช” แล้ว เหล่านักศึกษายังใส่ใจเรื่องสีสันของผลิตภัณฑ์ด้วย อย่างเช่นสีแดงจะหมายถึงการทำข้อสอบได้คะแนนสูงสุด ส่วนสีเขียวหมายถึงสอบผ่าน และสีน้ำเงินหมายถึงทำคะแนนได้มากกว่าเพื่อนๆ ทั้งหมดทั้งมวลนี้ก็เป็นเพียงความเชื่อล่ะนะ ส่วนจะทำได้มากหรือน้อย #เหมียวฟิ้นคิดว่าคงเป็นผลมาจากการอ่านหนังสือมากกว่า ที่มา chinadailyasia
-
มาเฟียจีนถูกปล่อยจากคุก ลูกน้องตั้งแถวรับเพียบ จัดเลี้ยงยิ่งใหญ่…. 3 วันต่อมาโดนจับเข้าคุกอีก -*-!!
แม้ว่าเรือนจำจะเป็นสถานที่ที่เอาไว้กักขังเหล่าคนไม่ดี ที่กระทำความผิดต่างๆ นานา แต่ที่นั่นก็ยังเป็นโอกาสให้คนบางคนสามารถกลับตัวกลับใจแล้วออกมาใช้ชีวิตในสังคมได้ไหมอีกครั้ง แต่ถึงกระนั้นบางคนก็ยังออกมาก่อเหตุซ้ำๆ ซากๆ อยู่ดี… เมื่อวันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanhaiist ได้รายงานว่า เฉิง โยวเจ๋อ เจ้าพ่อแก๊งมาเฟียวัย 52 ปีในมณฑลซานซี ประเทศจีน ได้ถูกปล่อยตัวออกจากเรือนจำจิ๋นเชง โดยในวันปล่อยตัวนั้นมีลูกน้องมายืนรอต้อนรับเขามากมาย และเพื่อให้เป็นเกียรติและศักดิศรีเจ้าพ่อผู้ยิ่งใหญ่ เหล่าลูกน้องจึงได้เตรียมขบวนเพื่อต้อนรับอย่างอลังการที่หน้าเรือนจำ มีรถยนต์หรูมาจอดรับทั้ง แลนด์โรเวอร์ 20 คัน เบ๊นซ์ 30 คัน และรถฮัมเมอร์หุ้มเกาะอีก 6 คัน มีการจุดพลุอย่างเอิกเกริก รวมไปถึงจัดงานเลี้ยง 100 โต๊ะที่โรงแรม 5 ดาวให้เขาด้วย แต่การเฉลิมฉลองให้กับเจ้าพ่อผู้ยิ่งใหญ่ก็มีได้ไม่นานนัก เพราะหลังจากนั้น 3 วัน เขาก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมอีกครั้งในข้อหา “สร้างความรบกวนให้กับสังคม” และถูกโยนเข้าเรือนจำพร้อมกับลูกสมุนอีก 9 คน นี่ไม่ใช่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งแรกๆ เพราะก่อนหน้านี้นายเฉิงมีประวัติมาแล้วโชกโชน ย้อนกลับไปในปี…
-
สาวจีนปิ๊งไอเดีย เปิดร้านอาหารในคอนเซ็ปต์ [อาหาร+เซ็กส์] จนเกิดเป็นร้านแนวๆ แบบนี้..!!
ว่ากันว่ามีอยู่ 2 สิ่งที่คนเกือบทั้งโลกชอบเหมือนๆ กันก็คือ อาหารและเซ็กส์ แต่ก็ยังไม่เคยมีใครนำเอา 2 สิ่งนี้มารวมกันสักที หญิงสาวชาวจีนรายหนึ่งจึงปิ๊งไอเดีย ทำเป็นร้านอาหารในธีม S&M (ซาดิซม์และมาโซคิสม์) ขึ้นมาซะเลย ร้านอาหารที่#เหมียวฟิ้นจะพาไปชมมีชื่อว่าร้าน Ke’er (ในภาษาจีนแปลว่า “หอย”) ร้านนี้เป็นไอเดียของหญิงสาวที่ชื่อว่าลูลู่ วัย 27 ปี ตั้งอยู่ในกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ร้านนี้โด่งดังเพราะว่ามีการนำเอาสัญลักษณ์ทางเพศมาประดับตกแต่งร้าน ตั้งแต่ผ้ากันเปื้อนของเด็กเสิร์ฟที่มีหน้าปกปลอมแปะอยู่ แก้วน้ำรูปหน่มหน๊ม หรือหุ่นเปลือยของหญิงสาวที่แปะไว้ที่กำแพง ในขณะที่ลูลู่จัดการกับธุรกิจหน้าร้าน ทางด้านพ่อของเธอก็ช่วยกิจการของลูกด้วยการทำอาหารอยู่ในครัว แม้ว่าตอนแรกจะมีการถกเถียงกันเล็กน้อย ถือแนวทางในการตกแต่งร้านอาหาร แต่คุณพ่อของเธอก็เริ่มชินและตินนี้ก็แฮปปี้กับการตกแต่งร้านแนว “หื่นๆ” แบบนี้ไปแล้ว ลูลู่ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า “‘อาหารและเซ็กส์คือความต้องการพื้นฐานของมนุษย์’ คำพูดเหล่านี้ยังคงไม่เคยเปลี่ยนแปลงตลอด 5,000 ปี ‘ปลดปล่อยสัญชาตญานของคุณออกมา’ และ ‘ปลดปล่อยพันธนาการของคุณ’ คือ 2 คอนเซ็ปต์ที่เราตั้งไว้สำหรับร้านอาหารแห่งนี้” . . . . . มีอุปกรณ์ให้ลูกค้าได้ลองเล่น? .…
-
หลักฐานยืนยันว่าคนจีนสามารถทำได้ทุกอย่างจริงๆ แม้กระทั่งตั้งวงกินข้าวในรถฟใต้ดิน
มีวิธีมากมายหลายร้อยรูปแบบ ที่จะทำให้คุณกลายเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในประเทศจีน แค่กินข้าวโพดโดยใส่สว่านแล้วปล่อยให้ผมของคุณไปพันเข้ากับข้าวโพดจนผมหลุดออกไปเป็นกระจุกก็ดังได้ หรือจะโชว์กินเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จนไฟลุกท่วมตัวคุณก็สามารถดังได้เช่นกัน ล่าสุดดูเหมือนจะมีดารา (ออนไลน์) โผล่ขึ้นมาเจิดจรัสอีกคนแล้วล่ะ แต่รายนี้ดูจะเล่นยากไปไหน เพราะพวกเขาถึงกับตั้งโต๊ะกินข้าวในรถไฟใต้ดินเลยทีเดียว!? เมื่อวันเสาร์ที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา ในสื่อสังคมออนไลน์ของจีนได้มีการส่งต่อภาพของกลุ่มคนในรถไฟฟ้าใต้ดินในมณฑลกวางซู ประเทศจีน ที่พากันไปตั้งโต๊ะกินข้าว พร้อมหยิบอาหารหลายอย่างมานั่งกินอย่างเอร็ดอร่อย ในชั่วโมงที่สุดจะเร่งรีบ เท่านั้นยังไม่พอ พวกเขาได้ถ่ายคลิปวิดีโอแล้วถ่ายทอดสดให้เพื่อนๆ ในโลกออนไลน์ได้ดูกัน จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ด้านลบต่างๆ มากมาย ถึงความเหมาะสมในการเล่นแผลงๆ แบบนี้ หนึ่งในความเห็นจากเว็บไซต์ Weibo ได้แสดงความคิดเห็นว่า “ช่างเป็นการกระทำของคนที่เห็นแก่ตัวอะไรขนาดนี้ ในการแสดงของพวกคุณ คุณแสดงให้เห็นเลยว่าคุณไม่ได้ห่วงใยคนอื่นๆ ในรถไฟเลย” และ “ไม่ว่ามันจะน่ารังเกียจขนาดไหน แต่บางคนก็พยายามจะทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองโด่งดังให้ได้” อย่างไรก็ตาม กลุ่มคนทั้งหมดได้ถูกไล่ออกจากรถไฟโดยเจ้าหน้าที่ประจำสถานีทันที เพราะมีกฎอยู่ว่าห้ามนำของกินขึ้นมารับประทานบนรถไฟฟ้า ที่มา shanghaiist
-
จีนทำที่จอดรถกว้างพิเศษให้ ‘หญิงสาว’ ใช้บริการ ชาวเน็ตชี้เป็นที่จอด “เหยียดเพศ”
ตามห้างสรรพสินค้าใหม่ๆ เริ่มจะมีที่จอดรถสำหรับผู้หญิงไว้คอยบริการ นั่นก็เพื่อคอยให้บริการให้สาวๆ โดยทางห้างจะมีข้อกำหนดว่ารถคันนั้นจะต้องมีผู้หญิงเป็นคนขับมาจอด อาจจะขับมาคนเดียวหรือมีผู้โดยสารก็ได้ (แต่ควรจะเป็นผู้หญิง) หรือหากเป็นเด็กชายก็ควรจะมีอายุไม่เกิน 12 ปี ทั้งนี้ก็เพื่อช่วยเพิ่มการดูแลสอดส่องให้กับสาวๆ ให้รู้สึกปลอดภัยมากยิ่งขึ้น และล่าสุดที่ประเทศจีนก็เริ่มทำที่จอดรถแบบนี้แล้วเหมือนกัน แต่จุดประสงค์อาจจะแตกต่างไปสักเล็กน้อย เพราะที่นั่นเขามีไว้สำหรับหญิงสาวที่ขับรถไม่คล่องและไม่ถนัดในการเข้าเกียร์ถอยนั่นเอง เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่าปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งในมณฑลหางโจว ประเทศจีน ได้ทำที่จอดรถสำหรับหญิงสาว ที่มีขนาดความกว้างกว่า 1.5 เท่าของช่องจอดรถขนาดปกติ โดยทาสีบนพื้นเป็นสีชมพูพร้อมกับสัญลักษณ์ผู้หญิง เพื่อให้สังเกตเห็นได้ง่ายๆ ทางผู้จัดการของปั๊มน้ำมันกล่าวว่าที่จอดรถนี้มีไว้สำหรับหญิงสาวที่ขับรถไม่คล่อง ตอนนี้มีการจัดทำขึ้นมาเพียง 8 ช่องจากพื้นทั้งหมด 370 ช่อง แต่หากการทำที่จอดรถแบบนี้ไปได้สวยพวกเขาก็จะทำมันเพิ่มขึ้นไปอีก จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้หลายคนเข้าใจไปว่า หรือนี่จะเป็นเพราะหญิงสาวชาวจีนขับรถได้แย่มากจนต้องเพิ่มขนาดของที่จอดรถเลยหรือ? โครงการทั้งหมดนี้ถูกชาวเน็ตในจีนวิพากษ์วิจารณ์กันไปว่ามันดูเหมือนเป็นการเหยียดเพศไม่มีผิด ความเห็นในโลกออนไลน์พากันวิจารณ์เกี่ยวกับที่จอดรถของหญิงสาวไปหลากหลายมาก อย่างเช่น @潘大官人啊 “พวกปกป้องสิทธิสตรีอยู่ที่ไหนกันหมด? นี่มันคือการเลือกปฏิบัติทางเพศชัดๆ” @一生顽主 “ถ้าพวกคุณจะเลือกปฏิบัติกันขนาดนี้ ทำไมเราไม่หาที่จอดกว้างๆ มาให้พวกเขาจอดตั้งแต่ตอนสอบใบขับขี่เลยล่ะงั้น?” แต่ในขณะเดียวกันก็มีบางความเห็นพยายามแย้งว่านี่ไม่ใช่การเลือกปฏิบัติ เป็นเพียงข้อเสนอที่จะทำตามหรือไม่ก็ได้ อย่างเช่น @吖兴快跑 “พวกเขาไม่ได้บอกให้ผู้หญิงไปจอดรถตรงนั้น พวกเขาแค่ยื่นข้อเสนอให้กับผู้หญิงที่จอดรถไม่เก่งเท่านั้น…
-
นวัตกรรมใหม่จากจีน “หุ่นจอดรถ”!? หมดปัญหาวนหาที่จอดไม่ได้!!
หลายครั้งหลายคราที่เหล่านักช็อปมักจะต้องเสียเวลาไปกับการวนรถในห้างสรรพสินค้าเพื่อหาที่จอดรถเหมาะๆ จนสิ้นเปลืองน้ำมันโดยใช่เหตุ จนบางครั้งบางคนเลือกที่จะจอดรถซ้อนคัน ทำให้รถที่จอดอยู่ก่อนแล้วเข้าออกลำบาก แต่ปัญหาเหล่านั้นกำลังจะหมดไปในเร็ววันนี้ล่ะ เพราะเมื่อไม่นานมานี้บริษัท ยี่เฟิง จากเมืองเซินเจิ้น ประเทศจีน ได้เปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ที่ชื่อว่า Automated Car Parking (ที่จอดรถอัตโนมัติ) เป็นหุ่นยนต์ที่จะช่วยให้คุณสามารถหาที่จอดรถได้อย่างสะดวกสบาย โดยหลักการทำงานของหุ่นยนต์ที่จอดรถก็คือ มันจะทำงานหลังจากที่ผู้ใช้เสียบการ์ดและกดปุ่มล็อครถเข้ากับหุ่นยนต์ที่จอดรถ จากนั้นหุ่นยนต์ก็จะนำรถของคุณไปจอดในซองที่ว่าง และเมื่อคุณกลับมาที่ลานจอดรถ เจ้าหุ่นยนต์ตัวนี้ก็จะนำรถของคุณมาส่งให้ถึงที่ ภายในเวลาไม่ถึง 2 นาทีเลยด้วย . ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลยจ้า อัจฉริยะ++บริษัทยี่ เฟิง เทคโลโนยี ในเมืองเซินเจิ้น ประเทศจีน ประสบความสำเร็จในการทดสอบใช้หุ่นจอดรถ ทำให้กลายเป็นหนึ่งในอาคารจอดรถที่มีความทันสมัยที่สุดในโลก โดยหุ่นยนต์ที่เป็นแผ่นรองรับรถยนต์จะนำรถไปจอดหลังจากที่ผู้ใช้รเสียบการ์ดและกดปุ่มล็อคตัวรถเข้ากับแท่นจอด และหุ่นยนต์จะนำมารถส่งคืนหลังจากที่ได้รับคำสั่งภายใน 2 นาที คาดสามารถเปิดให้ใช้งานจริงได้ในเดือนตุลาคมนี้ #ข่าวต่างประเทศช่อง8 โพสต์โดย ข่าวช่อง8 บน 26 พฤษภาคม 2016 ทั้งนี้ทางผู้ผลิตคาดการณ์กันว่าจะเริ่มใช้งานเจ้าหุ่นยนต์จอดรถอัตโนมัติจริงๆ ในเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ล่ะ หวังว่ามันจะประสบความสำเร็จและเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ช่วยอำนวยความสะดวกแก่พวกเราได้นะ ที่มา ข่าวช่อง8
-
สาวจีนระดมทุนค่ารักษาโรคมะเร็งให้น้องสาว โดยการยืนเป็นเป้าให้ทุกคนยิงธนูใส่เธอ!?
บางครั้งเรื่องจริงมันก็น่าเศร้ายิ่งกว่านิยายซะอีกแหนะ… เมื่อวันจันทร์ที่ 23 พฤษภาคมที่ผ่านมา สำนักข่าวในประเทศจีนได้รายงานว่าหญิงสาวชาวจีนได้ออกมายืนกลางถนนในมณฑลหางโจว ประเทศจีน ได้ยื่นข้อเสนอให้กับคนที่เดินผ่านไปผ่านมายิงธนูโดยมีตัวเธอเป็นเป็นเป้า เพื่อแลกกับเงินเพียง 10 หยวนต่อการปา 1 ครั้ง!? แต่หลังจากที่ยืนอยู่ได้ไม่ถึงชั่วโมง ก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามารวบตัวเธอและนำไปสอบสวนที่สถานี จึงได้ความว่าที่เธอทำแบบนี้ก็เพราะเธอพยายามจะระดมทุนเพื่อนำเงินไปรักษา Ji Jiayan น้องสาวของเธอที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลัน น้องสาวของเธอนั้นต้องเข้ารับการรักษาที่มีค่าใช้จ่ายสูงมาก ครั้งหนึ่ง Jiayan เคยพยายามจะหนีออกจากบ้าน โดยทิ้งกระดาษข้อความไว้ให้กับแม่ของเธอ ในเนื้อหาเป็นการแสดงความเสียใจที่เธอไม่สามารถอยู่ดูแลแม่ของเธอได้เมื่อแก่ตัวไป แต่ที่พูดไปแบบนั้นก็เพราะเธอคิดว่านี่คือสิ่งที่ดีที่สุดแล้วสำหรับพวกเขา ทั้งนี้อาการป่วยไข้ของ Jiayan จำเป็นจะต้องใช้เงินในการรักษาสูงถึง 5 แสนหยวน หรือประมาณ 2,700,000 บาท เลยทีเดียว หลังจากเรื่องนี้เป็นประเด็นดัง ทางครอบครัวได้ทำการระดมทุนผ่านโลกออนไลน์และได้เงินค่ารักษามามากพอจนพี่สาวของเธอไม่ต้องไปทำอะไรเสี่ยงๆ แบบนั้นอีกแล้วล่ะ เมื่อถึงคราวจนตรอก สถานการณ์มันก็บีบบังคับให้คนทำได้ถึงขนาดนี้เลยนะเนี๊ยะ ที่มา shanghaiist
-
ยลโฉม “Lele” แมวเหมียวหน้ายิ้ม ที่ไม่ว่าจะนั่ง นอน หรือทำอะไร มันก็ปั้นหน้ายิ้มได้ทั้งวัน….
ลองถามใจตัวเองดูว่าเพราะอะไรคุณถึงชอบแมวเหมียว? ซึ่งคำตอบที่ได้ก็คงจะเป็นเพราะความน่ารัก ผสมผสานกับความเกรียนปนฮา ที่ทำให้ผู้คนชื่นชอบและหลงรักพวกมันได้โดยง่าย และในวันนี้เราก็จะขอมาแนะนำเจ้าเหมียวแสนน่ารัก ที่มีชื่อว่า Lele มันเป็นแมวพันธุ์เปอร์เซียนชินชิล่า วัย 10 เดือน ส่งตรงมาจากประเทศจีน ที่มาพร้อมกับรอยยิ้มที่ช่วยเสริมสร้างเสน่ห์ให้กับใบหน้า งานนี้ใครที่เห็นภาพของมันจะต้องตกหลุมรักเจ้า Lele เข้าอย่างจังแน่นอน สวัสดี เราชื่อ Lele ฝากเนื้อฝากตัวด้วยน้า นอกจากความน่ารักแล้ว สิ่งที่สร้างความเป็นเอกลักษณ์ที่น่าจดจำของมันก็คือ มันมีดวงตาสีเขียวกลมโต และมีขอบตาสีดำเหมือนกรีดอายไลเนอร์นั่นเอง และนอกจากความน่ารักแล้ว เจ้า Lele ยังเป็นแมวที่ฉลาดมากๆ อีกด้วย เพราะมันเป็นแมวที่เชื่อฟังเจ้านาย ไม่สร้างความเสียหายให้กับข้าวของภายในบ้านเหมือนแมวเหมียวตัวอื่นๆ เช่น ไม่ขีดข่วนผนัง หรือเฟอร์นิเจอร์ รอยยิ้มหวานๆ ที่ช่วยสร้างเสน่ห์บนใบหน้า มันติดตราตรึงใจพวกทาสที่เข้ามาชมมากๆ เลยละ และเพื่อเป็นการเอาใจพวกทาสทั้งหลาย เราจึงได้จัดเซทภาพฉบับเต็มของ Lele มาให้ได้ชมกัน บอกเลยว่ายิ่งได้เห็นภาพของมัน ก็ยิ่งทำให้รู้สึกว่าหลงรักเจ้าเหมียวตัวนี้เข้าอย่างจัง ว่าแล้วก็ไปชมภาพของมันกันเลย Lele ฉายแววความน่ารักตั้งแต่ตอนเป็นเบบี๋เลยนะเนี่ย…
-
อาเมซิ่งเจงๆ!! ปรากฏการณ์ ‘สายรุ้ง 2 เส้น’ ความงามทางธรรมชาติ ที่ได้มีให้เห็นทุกวัน…
แม้ว่าประเทศจีนจะมีเรื่องแปลกๆ (ด้านลบ) มาให้เราเห็นอยู่บ่อยครั้ง แต่ประเทศเดียวกันนี้ก็ชอบมีเรื่องน่าประหลาดใจมากให้เราตื่นตาตื่นใจตลอด อย่างล่าสุดมีชาวเมืองในกรุงปักกิ่งกว่าค่อนเมืองพบเห็นสายรุ้ง 2 เส้นพาดผ่านอยู่บนท้องฟ้า ทำให้เกิดเป็นปรากฏการณ์สุดอัศจรรย์ทีเดียว เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่าเกิดภาพสายรุ้งซ้อนกัน 2 เส้น ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ก่อเกิดภาพสวยงามคล้ายกับในหนังแฟนตาซี ตามรายงานบอกว่าหลังจากที่เกิดปรากฏการณ์ดังกล่าวทำให้ชาวเมืองจำนวนมากพากันถ่ายภาพสายรุ้งและโพสต์ลงไปในเครือข่ายสังคมออนไลน์เต็มไปหมด ทั้งนี้การเกิดปรากฏการณ์สายรุ้งนั้นเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมีฝนหยุดตกหมาดๆ โดยแสงจากดวงอาทิตย์จะตกลงมากระทบกับละอองน้ำในอากาศ ทำให้เกิดการหักเหของแสงและกลายเป็นแถบแสงสีต่างๆ อยู่บนท้องฟ้า ซึ่งปรากฏการณ์สายรุ้ง 2 เส้นแบบนี้จะเกิดจากการสะท้อนแสงซ้ำภายในเม็ดฝน จนเกิดเป็นสายรุ้งอีกเส้นที่มีสีซีดกว่าเส้นหลัก อย่างไรก็ตามปรากฏการณ์รุ้งกินน้ำ 2 เส้นแบบนี้ไม่ได้มีแค่ในต่างประเทศเพียงอย่างเดียว แต่ในไทยเราก็เกิดขึ้นอยู่หลายครั้งนะ แต่ชาวบ้านบางส่วนมักจะมองว่าเป็นเรื่องเหนือธรรมชาติซะมากกว่า …
-
พาส่องงานแต่งเศรษฐีจีน เดี๋ยวนี้ไม่ใช้รถบ่าวสาวแล้ว ระดับนี้ต้องใช้ ‘เครื่องบินเจ็ท’ !!!
หลายครั้งที่เรามักจะได้เห็นการจัดงานแต่งงานของชาวจีน ที่มักจะมีงานแต่งงานที่เอิกเกริก บางคนมีขบวนรถหรูแห่ไปทั่ว และมีญาติๆ มาร่วมงานกันคับคั่ง จนบางครั้งดูเหมือนเป็นการจัดงานที่สิ้นเปลืองเกินไป แต่วันนี้#เหมียวฟิ้นจะพาเพื่อนๆ ไปชมการจัดงานแต่งที่เรียบหรูดูแพงของคู่บ่าวสาวในมณฑลหางโจว ประเทศจีน ที่ลงทุนจัดงานแต่งบนเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวเลยทีเดียว!? ตามรายงานบอกว่าฝ่ายเจ้าสาวเป็นทายาทของผู้ถือหุ่นบริษัท Sany บริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องจักรกลรายใหญ่ของจีน ร่ำรวยถึงขั้นที่ติด 1 ใน 500 บริษัทที่มีทรัพย์สินมากที่สุดในจีนเลยทีเดียว จึงไม่น่าแปลกใจล่ะนะที่งานของพวกเขาจะออกมาเลิศหรูอลังการเหมือนกับการถ่ายทำมิวสิควิดีโอของศิลปินสักวงหนึ่ง . ในงานนี้มีการจัดโต๊ะเพื่อรองรับแขกประมาร 130 โต๊ะด้วยกัน และในงานยังประดับประดาไปด้วยดอกไม้เป็นพันๆ ดอก สวยงามราวกับในหนังเลย แหม่ ถ้ามีแบบนี้บ้างสักครั้งคงจะดีมากเลยนะเนี๊ยะ ที่มา shanghaiist
-
พาทัวร์ “หุบเขาแอปริคอท” หุบเขาสีชมพูในประเทศจีนที่สวยงามหาได้ยากยิ่ง
ขึ้นชื่อว่าประเทศจีน แม้ว่าจะมีข่าวเสียๆ หายๆ ของผู้คนมาให้เราเห็นแบบรายวัน (นั่นก็เพราะว่าบ้านเมืองของพวกเขาเต็มไปด้วยผู้คนที่หลากหลายและยากต่อการควบคุม) แต่ที่นั่นก็ยังมีภูมิประเทศสวยๆ งามๆ รอให้นักเดินทางไปสัมผัสอยู่อีกไม่น้อยเลยนะ วันนี้#เหมียวฟิ้นจะพาเพื่อนๆ เดินทางไปยังทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศจีน ในมณฑลซินเจียง พื้นที่ที่อยู่ห่างไกลตัวเมือง ที่นั่นเป็นที่ตั้งของหุบเขาแอปริคอทที่ปลูกเต็มภูเขา จนเมื่อดอกของมันเบ่งบานทำให้เกิดเป็นภาพสุดวิจิตรราวกับในเทพนิยายก็ว่าได้ เว็บไซต์ Boredpanda ได้ให้ข้อมูลไว้ว่าสถานที่แห่งนี้อยู่ในเขตการปกครองเต้อเจียน ติดกับชายแดนของคาซัคสถาน หุบเขาแอปริคอทแห่งนี้มีมานานหลายปีแล้ว มันดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางไปชมภูเขาสีชมภูด้วยตาของพวกเขาเอง หากคุณได้เห็นภาพเหล่านี้แล้วอยากจะขอเดินทางไปชมด้วยตัวเองล่ะก็ เหมียวฟิ้นจะบอกให้ว่าดอกไม้เหล่านี้จะผลิบานในช่วงต้นเดือนมิถุนายนไปจนถึงช่วงปลายเดือนกันยายน รู้งี้แล้วก็รีบจองตั๋วเครื่องบินแล้วแพ็คกระเป๋ารอเลยดีไหมล่ะ? . . . . . . . . . โห!! ไม่น่าเชื่อว่าจะมีสถานที่แบบนี้อยู่ด้วยนะเนี๊ยะ ที่มา boredpanda
-
เจ้าสาวจีนถูกเจ้าบ่าวยกเลิกงานแต่งกลางคัน เลยนำเงินทั้งหมดมาเลี้ยงอาหารแก่เด็กๆ แทน
แม้ว่าสาวๆ จะหวังให้งานแต่งงานออกมาสวยหรูและเป็นจุดหมายปลายทางระหว่างเธอและว่าที่สามีในอนาคต แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะสมหวังนะ แม้ว่าเธอคนนั้นได้วางแผนงานแต่งมาแล้วเรียบร้อยก็ตาม… เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Mirror ได้เปิดเผยเรื่องราวเศร้าๆ ปนความสุขของ Yiru Sun ว่าที่เจ้าสาวชาวจีนที่เตรียมจะแต่งงานกับคู่หมั้นหนุ่มในอีกไม่นาน แต่งานแต่งก็ตั้งถูกยกเลิกไปซะก่อน Yiru เผยว่าเธอได้วางแผนกับคู่หมั้นของเธอไว้ว่าพวกเขาจะทำงานแต่งงานให้ออกมาหรูหราแฟนซี ซึ่งทั้งหมดนี้เธอต้องเสียเงินกว่า 279,000 บาท แต่สุดท้ายเธอกลับมีปัญหาเรื่องสินสมรสก่อนแต่งงานกับคู่หมั้น ทำให้ทั้งคู่ต้องยกเลิกงานแต่งไปอย่างน่าเสียดาย แทนที่จะยกเลิกงานไป Yiru กลับตัดสินใจที่จะไม่ทำให้อาหาร เครื่องดื่มและดีเจที่จ้างมาต้องเสียเปล่า เธอเลยเปลี่ยนงานแต่งให้กลายเป็นงานเลี้ยงปาร์ตี้แก่เด็กๆ ผู้ยากไร้แทนซะเลย เธอได้เชิญคุณแม่วัยรุ่น เด็กๆ จากครอบครัวรายได้ต่ำ และครอบครัวอุปถัมภ์ต่างๆ เข้ามาในงานของเธอ “มันดีมากๆ เลยค่ะ ฉันสามารถนั่งอยู่ที่บ้าน เศร้าโศกเสียใจ และเอาแต่คิดว่า ‘นี่ควรจะเป็นงานแต่งงานของฉัน’ ก็ได้” แต่สุดท้ายเธอก็ไม่ได้เอาแต่เสียใจอย่างที่บอก ปัจจุบัน Yiru ทำงานเป็นรองประธานและนักวิเคราะห์ของบริษัทประกันชีวิตนิวยอร์คไลฟ์ เธอได้เอ่ยปากขอความช่วยเหลือจากเพื่อนร่วมงานของเธอ เพื่อให้งานปาร์ตี้เด็กๆ กลายเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา ลองชมคลิปนางฟ้าใจบุญได้ที่ด้านล่างเลย ภายในงานปาร์ตี้ของเธอมีทั้งกิจกรรมการเพ้นท์หน้า การดัดลูกโป่ง…
-
แพนด้าน้อยวัย 1 ขวบจากจีน เห่อหมวกใบใหม่ พอใส่แล้วแอบคล้าย “อาโป” จากกังฟูแพนด้าไม่มีผิด
วันที่ 16 เมษายน 2559 ทางสำนักข่าว Chinadaily ได้เผยภาพของเจ้าแพนด้าน้อยวัยเพียง 1 ขวบตัวหนึ่ง ในเขตอนุรักษ์แพนด้า Bifengxia มณฑลเสฉวน ประเทศจีน ซึ่งเจ้าแพนด้าตัวนี้ ก็มีลักษณะเหมือนแพนด้าทั่วๆ ไป นั่นแหละ แต่ที่ต้องมาพูดถึงก็เพราะว่า มันแอบมีความพิเศษอยู่ในตัว นั่นจึงเป็นเหตุที่ทำให้เราอดใจไม่ไหวที่จะนำภาพมาให้คุณได้รับชม นั่นก็คือ… การที่มันได้ของเล่นชิ้นใหม่อย่างหมวกฟาง แล้วเมื่อนำมาสวมใส่ จึงทำให้แพนด้าน้อยมีลักษณะคล้ายอาโป จากภาพยนตร์เรื่อง “กังฟูแพนด้า” นั่นเอง อยากเห็นภาพมันแล้วใช่ไหม แต่ก่อนอื่นเรามาชมภาพของอาโปจากในภาพยนตร์กันก่อนดีกว่า และนี่ก็คือเจ้า อาโปฉบับชีวิตจริงๆ บอกเลยว่าอย่างเหมือน โดยเฉพาะความดุ๊กดิ๊ก ยิ่งเอามาเทียบกับอาโปในเวอร์ชั่นเด็ก มันจะเป๊ะอะไรขนาดนี้ มุมเดียวกัน มีหลบกล้องซะด้วย จากภาพปรากฏให้เห็นถึงความน่ารักของน้องหนูแพนด้า ที่กำลังเล่นอยู่กับหมวกใบใหม่ แถมใบหน้า และลักษณะของมันก็ดูไม่ต่างไปจากอาโปเลย น่ารักมุ้งมิ้งขนาดไหน ถามใจตัวเองดู เอิ่ม….. …
-
อายุไม่ใช่ปัญหา คุณตาชาวจีนฝึกเต้นรูดเสากว่า 3 ปี แม้อายุจะปาไป 67 แล้วก็ตาม!?
ในปัจจุบันเราเริ่มเห็นสาวๆ หันมาเต้นรูดเสากันมากขึ้นเพราะเห็นแล้วว่ามันไม่ใช่กิจกรรมโป๊เปลือยที่ทำกันในที่อโคจรเพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นกีฬาที่เสริมสร้างสุขภาพที่ดีได้ด้วย แต่ก็มีผู้ชาย (สูงอายุ) บางคนที่อยากจะลองเต้นรูดเสากับเขาดูบ้าง…แล้วก็ทำได้ดีซะด้วยนะ เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 15 พฤษภาคม สำนักข่าว CCTVNews ได้เผยแพร่ภาพของ Zhang Xida คุณตาชาวจีนวัย 67 ปีที่หลงไหลในการเต้นรูดเสามากๆ ย้อนกลับไปเมื่อปี 2013 เขาเริ่มสนใจการเต้นรูดเสา เลยฝึกฝนร่างกายตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ต่อมาคุณตา Zhang ก็เริ่มเชี่ยวชาญการรูดเสาจนได้ฉายาว่า “ปะป๊ารูดเสา” คุณตาเผยเคล็ดลับว่าเขาต้องฝึกฝนร่างกายวันละ 6 ชั่วโมงตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา จนตอนนี้เขากลายเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องการรูดเสาไปแล้ว คุณตาสามารถเอาชนะร่างกายและวัยของตัวเองได้ด้วยการเคลื่อนไหวที่ท้าทาย แม้ว่าตอนนี้จะมีอายุปาเข้าไป 60 กว่าแล้ว แต่ในหัวใจของเขาก็ยังคงเป็นวัยรุ่นอยู่เสมอ “ไม่มีคำว่าสายไปที่จะเริ่มต้นฝึกฝนตราบเท่าที่คุณยังมีฝัน” คุณตากล่าว เรื่องวัย เรื่องเพศ หรืออะไรก็ตาม ไม่ได้เป็นตัวกำหนดความชอบและสิ่งที่เราอยากทำนะ ฉะนั้นชอบอะไร…
-
ตำรวจสาวเจอไล่ออก หลังถ่ายเซลฟี่สุดสยิวในเครื่องแบบ ให้สื่อสังคมออนไลน์ได้ชมกัน
ตั้งแต่มีสื่อโซเชียลเน็ตเวิร์คมา ดูจะทำให้เกิดเรื่องวุ่นๆ อยู่ตลอดเวลา (ส่วนใหญ่ก็เกิดมาจากการใช้มันแบบผิดๆ นี่แหละ) ล่าสุดมีตำรวจสาวถ่ายภาพเซลฟี่สุดสยิวมาแชร์ให้โลกออนไลน์ดู จากนั้นเธอกลับถูกไล่ออกทันที เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้รายงานว่า ตำรวจหญิงไม่ทราบชื่อวัย 21 ปีในมณฑลเหลียวหนิง ประเทศจีน ที่ทำหน้าที่เป็นตำรวจกองกำลังเสริม ได้ถ่ายภาพเซลฟี่วับๆ แวมๆ ในชุดเจ้าหน้าที่ตำรวจลงในเว็บไซต์ Weibo จากนั้นภาพของเธอก็กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในสังคมว่าการแต่งตัวของเธอดูจะเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม เช่นความเห็นของคุณที่ใช้นามแฝง Uche Echi บอกว่า “นี่เป็นเรื่องที่ไม่ค่อยฉลาดเท่าไหร่เลยสำหรับเธอ เธอเอาหน้าที่การบังคับใช้กฎหมายมาเรียกชื่อเสียงให้กับเธอ” แต่ความเห็นอีกฝั่งหนึ่งกลับมองว่านี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรเช่นความเห็นของคุณ Morgane Borrel บอกว่า “นี่มันคือความเซ็กซี่ที่บริสุทธิ์ หากภาพที่เธอนั่งอยู่บนพื้นแล้วเซลฟี่เป็นความไม่เหมาะสม คนส่วนมากก็ถ่ายภาพที่ไม่เหมาะสมทั้งนั้นแหละ” สุดท้ายเธอถูกทางต้นสังกัดของเธอไล่ออกจากการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อให้เป็นบทเรียนแก่คนอื่นๆ ถึงการแสดงออกอย่างเหมาะสม แต่ถึงเธอจะลบรูปเหล่านี้ออกไปแล้ว กลับมีคนเซฟภาพของเธอไปโพสต์ต่อแบบไม่จบไม่สิ้นอยู่ดี ที่มา dailymail
-
สาวจีนออกมาชูป้าย ‘ต้องการสามี’ หลังป่วยเป็นมะเร็ง โดนผัวทิ้งพร้อมหอบลูกและเงินก้อนสุดท้ายไปด้วย
ขอบอกเลยว่าเรื่องที่#เหมียวฟิ้นจะเล่าต่อไปนี้มันดราม่าซะยิ่งกว่าละครหลังข่าวอีก เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับหญิงสาวคนหนึ่งที่ป่วยเป็นมะเร็ง แต่แทนที่สามีจะอยู่เป็นกำลังใจและสู้ไปพร้อมๆ กัน กลับทิ้งเธอไปดื้อๆ ซะงั้น!? เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้เปิดเผยเรื่องราวของนาง Ding Zhen วัย 28 ปี จากมณฑลซานตง ประเทศจีน หญิงสาวผู้ป่วยเป็นโรคมะเร็งในเม็ดเลือดขาวและต้องเข้ารับการรักษาด้วยการปลูกถ่ายไขกระดูก แต่ที่น่าเจ็บใจไปกว่านั้นก็คือ สามีของเธอได้ทิ้งเธอไปแถมยังกระเตงลูกชายของเธอพร้อมกับหอบเงินทั้งหมดที่มีไปด้วย สาเหตุที่สามีของเธอทำแบบนี้ก็เพราะคิดว่าการรักษาโรคมะเร็งต้องใช้เงินอีกมาก จึงเลือกที่จะแก้ปัญหาโดยการหนีไปคนเดียว เมื่อนาง Ding ทราบเรื่องก็ไม่รู้จะทำยังไง เพราะโรคร้ายคงไม่รอให้เธอตามสามีเจอ เธอจึงแต่งชุดเจ้าสาวออกมายืนกลางถนนแล้วชูป้ายตามหาสามีที่หายไป หวังให้กลายเป็นที่สนใจของคนที่ผ่านไปผ่านมาและช่วยเธอตามหาสามีของเธอ นอกจากนี้เธอยังบอกอีกว่าสามีของเธอพยายามจะขอหย่ากับเธอถึง 3 ครั้ง หลังจากที่รู้ว่าเธอป่วยเป็นมะเร็ง “หลังจากที่ฉันป่วย สามีของฉันก็ไม่ได้ให้เงินฉันค่ารักษาพยาบาลฉันเลย” เธอกล่าว นอกจากนี้สามีของเธอยังเอาเงินก้อนสุดท้ายของครอบครัว จำนวน 15,000 หยวน หรือประมาณ 83,730 บาท ไปด้วย ทำให้ตอนนี้เธอมีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายและค่ารักษามาก เธอหวังแค่ว่าจะได้เจอกับลูกชายตัวน้อยของเธออีกครั้ง เพราะเขาเปรียบเสมือนพลังที่ทำให้เธออยากต่อสู้กับโรคนี้ต่อไป ขอให้เจอสามีและลูกเร็วๆ…
-
ใครอยากไปเที่ยวจีนต้องอ่าน!! ชมการรีวิวอาหารจีนที่เข้าใจง่ายและกวนโอ๊ยที่สุดในปฐพี!!
หากในเร็วๆ นี้คุณมีคิวที่จะต้องเดินทางไปยังประเทศจีน ไม่ว่าจะไปทำธุรกิจ ไปเที่ยว ไปศึกษาต่อ หรืออะไรก็แล้วแต่ แล้วกังวลว่าคุณอาจจะกินอาหารที่นั่นไม่ได้แล้วล่ะก็ ลองมาดูรีวิวอาหารเหล่านี้หน่อย น่าจะพอช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้นนะ ล่าสุด #เหมียวฟิ้น ได้ไปเจอกับการรีวิวสุดฮา (และกวนบาทา) จากผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อว่า สมหมาย นอนหงายหลัง (แค่ชื่อก็กินขาดแล้ว) เขาได้เดินทางไปยังมณฑลเสฉวน ประเทศจีน แล้วถ่ายภาพอาหารมากว่า 29 เมนู แล้วมาเขียนรีวิวแบบเข้าใจง๊ายง่าย… . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . อ่านไปก็ขำไป อะไรมันจะแย่ปานนั้น 555+…
-
หนูน้อยแฝด 3 ชาวจีนออกเดินทางไปทั่วจีน แจกใบปลิวตามหาแม่ที่ทอดทิ้งพวกเขา
เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้รางานว่า เด็กน้อยแฝด 3 ชาวจีนวัย 5 ขวบ ได้ออกเดินทางไปทั่วประเทศจีนเพื่อแจกใบปลิวตามหาแม่บังเกิดเกล้าที่ทอดทิ้งพวกเขาตั้งแต่ยังเล็ก ตามรายงานบอกว่าเด็กๆ ทั้ง 3 คนถูกพบเห็นที่บริเวณ ข้างถนนในเมืองเซินเจิ้น ประเทศจีน กำลังยืนแจกใบปลิวตามหานาง ฮัน ซินหัว แม่วัย 27 ปีของพวกเขา ที่ทิ้งพวกเขาไปแบบไม่ทราบสาเหตุ พร้อมทั้งกระเตงลูกสาวคนเล็กวัย 2 ขวบที่ชื่อหานไปด้วยอีก 1 คน มีรายงานเพิ่มเติมว่าเด็กทั้ง 3 คนนี้เป็นลูกของนางฮันกับนายหวง วันหนึ่งนางฮันได้ทิ้งนายหวงไปและแต่งงานกับแฟนคนใหม่และมีลูกสาวที่ชื่อหาน แต่ดูเหมือนว่าชีวิตคู่กับสามีคนใหม่จะไปไม่รุ่งเท่าไหร่ เธอจึงวกกลับมาหานายหวง แต่ก็หายไปอีกรอบ สุดท้ายนายหวงเกือบจะล้มเลิกการตามหานางฮันแล้ว แต่ดันไปได้ยินข่าวมาว่ามีคนพบเห็นนางฮันอยู่แถวเซินเจิ้น นายหวงเลยพาลูกๆ ทั้ง 3 มาออกตามหาแม่ของเขาที่นี่ตั้งแต่เมื่อช่วงเดือนธันวาคมปีที่แล้ว และนี่คือหน้าตาคุณแม่ของเด็กๆ ล่ะ ไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้วเด็กๆ ทั้ง 3…
-
งี้ก็ได้เหรอ!? ยายปล่อยหลานฉี่บนพื้นในห้องโดยสารเครื่องบิน ผู้โดยสารคนอื่นสุดจะทน
คงจะไม่มีอะไรที่ทำให้เหล่าคนเดินทางจะสยดสยองได้เท่ากับการเดินทางร่วมกับชาวจีนอีกแล้วล่ะ เพราะพวกเขามักจะมีพฤติกรรมแปลกๆ โดยเฉพาะเรื่องการรักษาความสะอาด เพราะล่าสุดมีคุณยายคนหนึ่ง ปล่อยให้หลานตัวน้อยนั่งฉี่ในห้องโดยสารบนเครื่องบิน ทำเอาผู้โดยสารคนอื่นๆ ถึงกับอึ้งไปเลย เมื่อวันที่ 2 เมษายน เว็บไซต์ Shanghaiist ได้เผยแพร่ภาพเที่ยวบินจากเมืองเจิ้งโจวไปยังกรุงปักกิ่ง เป็นภาพของหนูน้อยชาวจีนคนหนึ่ง กำลังนั่งยองๆ บนพื้นในห้องโดยสารของเครื่องบิน จากนั้นก็ปลดทุกข์อย่างสบายใจโดยมีคุณยายคอยดูแลอยู่ใกล้ๆ ตามรายงานบอกว่ามีผู้โดยสารที่นั่งเบาะข้างๆ กับคู่ยายหลานสังเกตเด็กหญิงพูดกับยายว่าเธอปวดฉี่และต้องการกระโถน แต่แทนที่คุณยายจะพาเธอเดินไปเข้าห้องน้ำ กลับอุ้มหลานมานั่งตรงหน้าและถอดกางเกงเธอออก จากนั้นก็ปล่อยให้หลานฉี่ไปแบบสบายใจ หลังจากที่เรื่องนี้เริ่มโด่งดังในจีน ก็เกิดข้อถกเถียงกันของชาวเน็ต โดยบางคนแสดงความเห็นเชิงประชดประชันว่า “สำหรับทุกๆ คนในชาติของฉันแล้ว ที่ไหนๆ ก็คือห้องน้ำทั้งนั้น” อีกความเห็นบอกว่า “ขอบคุณการศึกษามาก เมื่อเด็กคนนี้โตขึ้นคงจะเป็นแบบเดียวกันนี่แหละ” ไม่รู้ว่าเที่ยวบินนี้จะยาวนานแค่ไหนนะเนี๊ยะ แค่จินตนาการถึงกลิ่นก็สยองแล้ว ที่มา shanghaiist
-
แซ่บค่ะขุ่นแม่!! ชมภาพ “ปอย ตรีชฎา” รับบทบาทสุดสยองในหนังจีนเรื่อง Witch Doctor
เรียกได้ว่าโกอินเตอร์แบบสุดๆ เลย สำหรับ ปอย ตรีชฎา เพราะในระยะหลังๆ มานี้แทบจะไม่เห็นเธอรับงานบันเทิงในไทยเลย แต่ไปโด่งดังอยู่ที่ประเทศจีนแทน แถมยังมีงานแสดงที่นั่นเข้ามาแบบไม่ขาดสาย ล่าสุดสาวปอย ตรีชฎา กำลังจะมีผลงานภาพยนตร์จีนเรื่องใหม่ที่ชื่อว่า Witch Doctor เป็นภาพยนตร์แนวสยองขวัญที่เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความรัก การฆาตกรรมและปีศาจ ที่มีการยกกองถ่ายมาถ่ายทำในประเทศไทยด้วย แต่สิ่งที่เด็ดดวงและทำให้หนุ่มๆ ถึงกับตาลุกวาวเห็นจะเป็นภาพโปรโมทและตัวอย่างหนังที่ปล่อยออกมานี่แหละ เพราะในหนังเรื่องนี้จะมีฉากที่ปอย ตรีชฎา เปลือยแผ่นหลังให้ได้เห็นกัน โดยเธอบอกว่าไม่มีการใช้สแตนอินหรือนักแสดงแทนนะ งานนี้ถอดเองเลยจ้า ชมตัวอย่างได้ที่ด้านล่างเลย ใบปิดหนังอย่างเป็นทางการ ภาพยนตร์เรื่อง Witch Doctor มีกำหนดฉายในประเทศจีนวันที่ 27 พฤษภาคมนี้นะ ส่วนในประเทศไทยอาจจะต้องรอดูว่าจะประกาศวันไหนกันแน่ ที่มา china
-
อะเมซิ่ง!! ชาวจีนสร้างเรือดำน้ำทุนต่ำ ด้วยเงินเพียง 2 หมื่นกว่าบาท!?
แม้ว่าประเทศจีนจะไม่ได้เป็นประเทศเจ้าแห่งไอเดียและการประดิษฐ์สิ่งแปลกๆ เหมือนกับญี่ปุ่น แต่พวกเขาก็สร้างข้าวของเครื่องใช้ได้เองแบบไม่น้อยหน้าใครเลย ล่าสุดเว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่าชายหนุ่มจากมณฑลอันหุย ประเทศจีน ได้ประดิษฐ์เรือดำน้ำขึ้นมาใช้เอง ด้วยงบเพียง 5,000 หยวน หรือประมาณ 26,980 บาทเท่านั้น!? ตามรายงานบอกว่าชายหนุ่มรายนี้มีชื่อว่านายจาง เฉินวู เป็นชาวนาอยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง เขาได้ใช้เงินประมาน 5,000 หยวนในการสร้างเรือดำน้ำ โดยเจ้าตัวบอกว่าใช้เวลาเพียงแค่ 2 เดือนก็สามารถสร้างได้แล้ว นายจางใช้เวลาเป็นชั่วโมงหลังเลิกงานตอนเย็นมานั่งต่อเรือดำน้ำ ซึ่งเขาได้รับแรงบันดาลใจมาจากเรือดำน้ำจริงๆ ที่มีขนาดประมาณ 2 ตัน และแล้วมันก็เสร็จสมบูรณ์และใช้งานได้จริงๆ นายจางบอกว่ามันสามารถดำลงไปในน้ำได้มากกว่า 1 เมตรเลยทีเดียว อยากรู้จริงๆ เลยว่ามันจะใช้การได้มากน้อยแค่ไหนนะเนี๊ยะ ถ้าอีกหน้าทำออกมาขายจริงคงจะเจ๋งไม่หยอกเลยทีเดียว ที่มา shanghaiist
-
สะเทือนอารมณ์ หนุ่มจีนผลักคนรักออกจากรถขณะมีไฟลุกไหม้ จนตัวเองถูกไฟคลอกตาย
กลายเป็นเรื่องราวที่ชวนให้สลดใจจริงๆ สำหรับความรักของชายหนุ่มที่มีให้กับหญิงสาว แม้วินาทีสุดท้ายของชีวิตก็เลือกที่จะปกป้องคนรักมากกว่าตนเอง… เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 27 เมษายนที่ผ่านมา สำนักข่าว CCTVNews ได้รายงานว่าคู่สามีภรรยาได้ขับรถมาตามทางในเมืองอู๋ซี มณฑลเจียงซู ประเทศจีน แต่กลับเกิดอุบัติเหตุพุ่งชนเข้ากับรถอีกคันหนึ่งกลางถนน ทำให้รถของเขาเสียหายหนักและเกิดเพลิงลุกไหม้ในทันที ตามรายงานของสำนักข่าวท้องถิ่นบอกว่าชายหนุ่มที่น่าจะมีอายุราวๆ 50 ปี ได้พยายามช่วยผลักหญิงสาวออกไปจากตัวรถ ในขณะที่เขายังติดอยู่ด้านในเนื่องจากเก้าอี้กที่เขานั่งได้รับความเสียหายจนไม่สามารถออกมาได้ แม้ว่าเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจะรีบมายังที่เกิดเหตุด้วยความเร็วแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่สามารถช่วยชีวิตของชายคนนี้ไว้ได้ทัน จากนั้นสำนักข่าวก็ได้นำภาพเหล่านี้มาเผยแพร่ในโลกออนไลน์ จนชาวเน็ตต่างสลดใจไปกับเรื่องราวความรักอันยิ่งใหญ่ของพวกเขาและแสดงความคิดเห็นเข้ามามากมาย “นี่คือรักแท้ ขอให้ไปสู้สุขตินะเพื่อน” โดย @Xiangjianhebiyouhenwan “ตอนนี้ผู้คนควรจะเห็นถึงความสำคัญของอุปกรณ์ดับเพลิงในรถได้แล้ว” โดย @Ershixiongyaodiaogan “ฉันหวังว่าเธอจะหายเศร้าโศก และใช้ชีวิตไปกับความรักที่สามีให้เธอมา” โดย @Zuoshouzhongdeyilian การซื้อถังดับเพลิงเล็กๆ ติดรถยนต์ไว้ก็ดูจะไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไรนะ เพราะเราไม่รู้ว่าอุบัติเหตุจะเกิดขึ้นกับเราเมื่อไหร่ เตรียมพร้อมไว้เป็นดีที่สุดนะ ที่มา CCTVNews
-
แหวกแนวไม่หยอก คู่รักชาวจีนชวนกันไปปีนเขา แต่จู่ๆ ฝ่ายชายเซอร์ไพรซ์ขอแต่งงานซะงั้น
การขอแต่งงานถือเป็นหนึ่งในความทรงจำที่น่าจดจำมาก ไม่ว่ามันจะออกมารูปแบบไหน หนุ่มสาวก็จะจดจำมันไปตลอดกาล และแม้ว่ามันจะออกดีหรือแย่ยังไงคุณก็ย้อนเวลากลับไปแก้ไขมันไม่ได้ ฉะนั้นจะทำทั้งทีต้องเอาให้เริ่ดไปเลย เมื่อวันที่ 25 เมษายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่า คู่รักหนุ่มสาว ได้ชวนกันไปปีนเขาในอุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย ในมณฑลหูหนาน ประเทศจีน แต่ในระหว่างที่พวกเขากำลังปีนขึ้นไปได้ครึ่งทางนั้นเอง จู่ๆ ชายหนุ่มก็หยิบเอาแหวนออกมาและขอเธอแต่งงานแบบเซอร์ไพรซ์สุดๆ จากนั้นชายหนุ่มก็ถามคำถามสุดคลาสสิกกับเธอว่าจะแต่งงานกับเขาไหม ทั้งๆ ที่ทั้งคู่ยังห้องต่องแต่งอยู่ และหญิงสาวก็ตอบตกลงอย่างไม่ลังเล แต่การขอแต่งงานนี้ดูจะไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมายสักเท่าไหร่ เพราะเนื่องจากพวกเขามีตากล้องมืออาชีพคอยตามถ่ายภาพ แถมยังมีการเตรียมชุดเจ้าสาวขึ้นไปด้วย ฝ่ายหญิงสาวเองก็น่าจะพอเดาได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ไม่ว่าการขอแต่งงานนี้จะเกิดขึ้นโดยการเตี๊ยมกันมาก่อนหรือมาแบบเซอร์ไพรซ์ แต่ก็ต้องยอมรับเลยว่าภาพถ่ายของพวกเขาสวยงามแตกต่างจากการขอแต่งงานทั่วๆ ไปจริงๆ จะขอแต่งงานให้แปลกแหวกแนวยังไงก็ดูเรื่องความปลอดภัยกันด้วยนะจ๊ะ ที่มา shanghaiist
-
สยอง!! หนุ่มจีนป่วยมีเนื้องอกยักษ์ในช่องท้อง ใหญ่ยิ่งกว่าหญิงตั้งครรภ์!?
เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคมทีผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่าชายชาวจีนวัย 33 ปีรายหนึ่ง ได้เข้าไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลทหารในมณฑลเฉินตู ประเทศจีน เนื่องจากมีหน้าท้องที่ขยายใหญ่ออกมา คล้ายกับหญิงตั้งครรภ์ เมื่อเห็นดังนั้นทางโรงพยาบาลจึงได้ทำตรวจร่างกายอย่างละเอียดและพบว่าชายคนนี้มีก้อนเนื้องอกขนาดใหญ่เจริญเติบโตอยู่ภายในช่องท้องของเขา แถมยังมีน้ำหนักมากถึง 15 กิโลกรัมเลยทีเดียว ตามรายงานบอกว่าชายชาวจีนรายนี้ได้สังเกตเห็นว่าหน้าท้องของเขาใหญ่ขึ้นตั้งแต่เมื่อปี 2004 แต่ไม่ได้ไปพบแพทย์ในทันที และปล่อยให้เวลาล่วงเลยจนเนื้องอกใหญ่ถึงขนาดนี้ ศัลยแพทย์ของทางโรงพยาบาลเห็นดังนั้นจึงตัดสินใจพาเขาเข้ารับการผ่าตัดเป็นเวลาทั้งสิ้น 6 ชั่วโมง หลังจากผ่าตัดเสร็จแล้ว ทางทีมแพทย์จะต้องเฝ้าสังเกตอาการของชายหนุ่มอย่างใกล้ชิดต่อไป หนุ่มๆ คนไหนที่มีหน้าท้องโตผิดปกติก็อย่าเพิ่งคิดว่าตัวเองเป็นโรคอ้วนเพียงอย่างเดียว ลองหาเวลาไปตรวจเช็คร่างกายและออกกำลังกายบ้างนะจ๊ะ ที่มา shanghaiist
-
ร้านหนังสือเปิดใหม่ในจีน อลังการงานสร้างที่สุด จนขึ้นชื่อว่าเป็นร้านหนังสือที่สวยที่สุดในโลก
ภาพของ Zongshuge ร้านหนังสือแห่งใหม่ จากเมืองหางโจว ทางตะวันของประเทศจีน ที่เพิ่งเปิดให้บริการไปเมื่อวันที่ 23 เมษายนที่ผ่านมา เนื่องในวันอ่านหนังสือโลก บอกได้คำเดียวเลยว่า มันอลังการงานสร้างมากจริงๆ เพราะนอกจากมันจะถูกออกแบบขึ้นมาให้มีความสวยงามตระการตาแล้ว ร้านหนังสือแห่งนี้ยังถูกขนานนามว่าเป็นร้านหนังสือที่สวยที่สุดในโลกด้วยนะ และในครั้งนี้เราก็จะขอพาเพื่อนๆ ทุกคนมาชมความอลังการงานสร้างของ ร้านหนังสือ Zongshuge แล้วคุณจะไม่ผิดหวังเลยว่า ทำไมร้านหนังสือแห่งนี้ถึงถูกยกให้เป็นร้านหนังสือที่สวยที่สุดในโลก อลังการมาก ร้านหนังสือ Zongshuge ถูกออกแบบขึ้นมาให้มีความโดดเด่นไม่เหมือนใคร ซึ่งภายในร้านถูกตกแต่ง และสร้างสรรค์ออกมาได้อย่างงดงาม ในส่วนของเพดานก็สร้างขึ้นมาจากกระจกอีกด้วย สำหรับร้านหนังสือ Zongshuge มีด้วยกันทั้งหมดถึง 2 สาขา โดยสาขาใหญ่ได้ตั้งอยู่ที่จุดศูนย์กลางเศรษฐกิจในนครเซี่ยงไฮ้ อีกทั้งภายในร้าน ยังถูกออกแบบให้เป็นห้องโถงหนังสือที่มีเป็นกำแพงม่านรูปทรงวงแหวน โดยหนังสือจะถูกแบ่งออกเป็นโซนต่างๆ ที่สำคัญในร้านหนังสือแห่งนี้ ยังมีโซนหนังสือที่จัดไว้เป็นที่สันทนาการสำหรับเด็กๆ อีกด้วย สุดยอดเลย!! ใครที่เป็นหนอนหนังสือจะต้องถูกใจร้านหนังสือแห่งนี้แน่นอน ที่มา : people, cctvnewschina
-
ชาวเน็ตจีนรุมประณามยับ หลังเห็นคลิปชายโชว์ถ่อย ตบตีภรรยาต่อหน้าต่อตาลูกสาว
เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2559 ทางสำนักข่างต่างประเทศได้เผยคลิปวีดีโอเหตุการณ์สุดสะเทือนใจ ที่เกิดขึ้นกลางย่านการค้า เมืองเฉิงตู มณฑลเสฉวน และกำลังกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ในโลกออนไลน์ของจีน ณ ขณะนี้ จากภาพได้ปรากฏให้เห็นเป็นภาพของสามีและภรรยาคู่หนึ่ง กำลังทะเลาะวิวาทกันอย่างรุนแรง โดยฝ่ายชายได้ทำร้ายร่างกายของภรรยาอย่างรุนแรงจนทรุดลงไปนอนกับพื้น ต่อหน้าต่อตาของลูกสาวตัวน้อยที่ร้องไห้ออกมาด้วยความตกใจ แม้ว่าเด็กหญิงตัวน้อยจะร้องไห้ และอ้อนวอนให้ผู้เป็นพ่อหยุดทำร้ายร่างกายของแม่ แต่เขาก็ไม่ยอมหยุด และยังคงทำร้ายเธอต่อไป ด้านผู้เห็นเหตุการณ์ที่อยู่ ณ บริเวณนั้น ต่างก็พากันเข้ามาห้ามปรามการกระทำของชายคนดังกล่าว แต่สุดท้ายไม่เป็นผลเช่นกัน และเมื่อคลิปวีดีโอดังกล่าว ถูกนำไปเผยแพร่ลงในโลกออนไลน์ ชาวเน็ตจีนต่างก็พากันเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์ถึงการกระทำสุดถ่อยของชายคนดังกล่าว โดยมีการแสดงความเห็นว่า ชายผู้นี้สมควรถูกจับ ในข้อหาใช้ความรุนแรงในครอบครัว ขณะที่ชาวเน็ตบางส่วนต่างแสดงความชื่นชม ที่ผู้เห็นเหตุการณ์พยายามเข้ามาช่วยเหลือหญิงผู้เคราะห์ร้าย ที่มา : cctvnewschina
-
มันไม่จริง!! ชมภาพสาวสวยคอสเพลย์สุดน่ารักจากจีน ที่แท้เป็นชายหนุ่มทั้งแท่ง!?
ทุกวันนี้เทรนด์การแต่งตัวคอสเพลย์เป็นตัวการ์ตูนต่างๆ เริ่มได้รับความนิยมในวงกว้างมากขึ้น และในช่วงหลังๆ มานี้ก็เริ่มมีการคอสเพลย์แนวใหม่จากญี่ปุ่น ที่เหล่าหนุ่มๆ หน้าใสจะแต่งตัวเป็นหญิงสาว หรือคอสเพลย์เป็นตัวการ์ตูนสาวๆ ล่าสุด#เหมียวฟิ้นไปเจอเข้ากับเฟซบุ๊กเพจของนักคอสเพลย์ชาวจีนรายหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า 豪歌 – Haoge ซึ่งเพจนี้มักจะลงรูปคอสเพลย์เป็นหญิงสาวผิวขาว หน้าตาน่ารัก มีแต่งชุดเมดบ้าง แต่งเลียนแบบตามแอนิเมะบ้าง หรือแม้แต่ถ่ายพอร์ทเทรตก็มี แต่ความพีคของสาวนักคอสเพลย์รายนี้มันอยู่ตรงที่…เธอไม่ใช่ผู้หญิง!! หากคุณไม่อยากจะเชื่อล่ะก็ ลองมาดูกันไปทีละรูปๆ เลย แต่งเป็นเซเบอร์จากการ์ตูนเรื่อง Fate Stay Night แต่งเป็นอาซึนะจากเรื่อง Sword Art Online แต่งเป็นเซเลอร์วีนัสจากการ์ตูน Sailor Moon มีออกงานแจกลายเซ็นเหมือนไอดอลทั่วๆ ไปด้วยนะ และนี่คือใบหน้าที่แท้จริงของเธอ . . . . . . . . ทำใจแล้วก็ไปดูกันเลย!! ชายแท้ๆ เลยนะขอบอก!! มันช่างทำร้ายจิตใจกันซะเหลือเกิน ที่รู้ว่าเธอ…
-
น่ารักอะไรขนาดนี้? นักเรียนจีนโดนครูทำโทษให้เขียน Emoji กว่า 1 พันตัวลงกระดาษ
เชื่อว่าในสมัยเรียน แต่ละคนน่าจะมีวีรกรรมเล็กๆ น้อยๆ ในโรงเรียนจนโดนคุณครูทำโทษด้วยวิธีต่างๆ มาแล้วมากมาย แต่กับมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในประเทศจีนกลับไม่ได้ใช้วิธีทั่วๆ ไปแบบที่เราเจอกัน เพราะพวกเขามีวิธีที่น่าร๊ากน่ารักไว้ใช้ลงโทษนักเรียนของพวกเขาล่ะ เมื่อวันที่ 22 เมษายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้เปิดเผยวิธีการลงโทษนักศึกษาที่มาเรียนสายในมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ในมณฑลเฉิงตู ประเทศจีน ของศาสตราจารย์รายหนึ่ง ที่สั่งให้นักศึกษาไปวาดภาพอีโมจิ (สัญลักษณ์ที่แสดงอารมณ์ต่างๆ) ด้วยมือกว่า 1 พันภาพ!! ตามรายงานบอกว่านักศึกษารายนี้มาเข้าเรียนสาย ทำให้ผู้สอนต้องทำโทษ แต่แทนที่จะสั่งให้คัดลายมือ ทำการบ้านหรือหักคะแนน เขากลับสั่งให้นักศึกษาไปวาดภาพอีโมจิมาส่ง ซึ่งนักศึกษาก็สามารถวาดภาพทั้งหมดมาส่งได้ครบอย่างเหลือเชื่อเลย หลังจากนั้นไม่นานภาพวาดอีโมจิของเหล่านักศึกษาก็ถูกเผยแพร่ออกไปในโลกอินเตอร์เน็ต ก็ทำให้ชาวจีนถึงกับฮาท้องแข็งเลยทีเดียว ในขณะเดียวกันบางความเห็นกลับบอกว่านี่เป็นการลงโทษที่ไม่ถูกจุด ทำให้นักศึกษาเสียเวลาเปล่านั่นเอง ทีหลังอย่ามาเรียนสายอีกล่ะนักศึกษา ที่มา shanghaiist
-
อ้างว้างเหลือเกิน หมู่บ้านจีนสุดวังเวง เหลือผู้อยู่อาศัยเพียงคนเดียวมานานกว่า 10 ปี!?
หลายๆ คนมันจะเข้าใจไปว่าประเทศจีนเป็นประเทศที่แออัด แถมยังมีประชากรอยู่หนาแน่นถึง 1.3 พันล้านคน แต่ใช่ว่ามันจะเป็นแบบนั้นเสมอไป เพราะยังมีพื้นที่อีกมากที่ไม่มีคนอาศัยอยู่นะ เมื่อวันที่ 22 เมษายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้เปิดเผยเรื่องราวของหลิว เชงเจี๋ย ที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้าน เฉินชานเชอ มณฑลกานซู ประเทศจีน แต่เนื่องจากเพื่อนบ้านของเขาได้ทยอยเสียชีวิตลงไปเรื่อยๆ และบางคนก็ย้ายออกไปอยู่ที่อื่น ทำให้เขากลายเป็นชาวบ้านเพียงคนเดียวที่อาศัยอยู่ที่นี่ ตามรายงานบอกว่านายหลิวอาศัยอยู่คนเดียวที่หมู่บ้านแห่งนี้มานานกว่า 10 ปี ในขณะที่ชาวบ้านคนอื่นๆ ได้ย้ายออกไปกันจนหมด เนื่องจากมีทรัพยากรไม่เพียงพอต่อความต้องการ แต่เขาก็เลือกที่จะอยู่ที่หมู่บ้านแห่งนี้ต่อไปเพราะต้องดูแลแม่ที่แก่เฒ่าของเขา แต่แล้ววันหนึ่งแม่ของเขาก็จากไป ทำให้เขาต้องอยู่เพียงลำพังกับแกะอีก 2-3 ตัว นายหลิวบอกว่าเขาใช้เวลาส่วนใหญ่หมดไปกับการให้อาหารแกะและออกไปตักน้ำกลับมาเก็บไว้ที่บ้าน หากเขาอยากจะออกไปซื้ออาหาร ที่นั่นก็มีร้านอาหารที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 1.6 กิโลเมตร นายหลิวเลยพยายามอยู่อย่างพอเพียงเท่าที่จะทำได้ . . . ถ้า#เหมียวฟิ้นต้องอยู่ในหมู่บ้านที่ไม่มีใครเหลืออยู่เลย เราคงจะทนไม่ได้แหงๆ ที่มา shanghaiist
-
น่ากลัวมาก!! สื่อนอกรายงาน เด็กนักเรียนจีนถูกพายุหมุนพัดขึ้นไปในอากาศกว่า 4.5 เมตร!!
เคยเห็นพายุทอร์นาโดในหนังมาก็หลายเรื่อง แต่ไม่คิดว่าจะน่ากลัวได้ขนาดนี้เลยนะเนี๊ยะ!! เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่าเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 20 เมษายนที่ผ่านมาได้ มีพายุหมุนขนาดเล็กปรากฏขึ้นที่โรงเรียนประถมแห่งหนึ่งในมณฑลกานซู ประเทศจีน ทำให้ข้าวของของเด็กนักเรียนปลิวว่อนกระจัดกระจายไปทั่วทั้งบริเวณ แต่ดูเหมือนสถานการณ์จะยิ่งเลวร้ายกว่าที่คิด เพราะว่าพายุหมุนได้ทวีความรุนแรงจนทำให้เด็กนักเรียนคนหนึ่งปลิวขึ้นไปในอากาศกว่า 4.5 เมตร และตกลงมากระแทกกับพื้นด้านล่าง เมื่อเห็นดังนั้นเหล่าคุณครูก็รีบพาเจ้าตัวไปส่งยังโรงพยาบาลเป็นการด่วน โชคดีที่เมื่อตรวจสอบร่างกายแล้วพบว่าเจ้าตัวมีบาดแผลที่บริเวณศีรษะเล็กน้อยเท่านั้น ชมภาพเคลื่อนไหวของเจ้าพายุกันได้ที่ด้านล่างเลย น่าสยองมากเลยนะเนี๊ยะ เป็นภัยธรรมชาติที่เราต่อกรด้วยไม่ได้จริงๆ ที่มา shanghaiist
-
เมื่อ 2 บริษัทรับเหมาก่อสร้างมีอันขัดแย้ง งานนี้ก็เลยเกิดศึก “รถตักดิน” ปะทะดุเดือดกลางถนน
วันนี้ (19 เมษายน 2559) ทางเว็บไซต์ Shanghaiist มีรายงานว่า เกิดเหตุรถตักดินของบริษัทรับเหมาก่อสร้าง 2 แห่งในประเทศจีน ทำการเปิดศึกต่อสู้ปะทะกันอย่างดุเดือด กลางถนนแห่งหนึ่ง ในย่านเซียงถัง ของมณฑลเหอเป่ย โดยมีสาเหตุมาจากความขัดแย้งกันภายในบริษัท จึงทำให้คนงานตัดสินใจนำรถตักดิน ออกมาเปิดศึกดวลกันกลางถนนในแบบที่ไม่มีใครยอมใคร แล้วงานนี้ใครจะเป็นฝ่ายชนะมาดูกัน จากภาพเราจะเห็นได้ว่า รถตักดิน 2 คันดังกล่าว ได้เคลื่อนตัวออกจากที่จอด จากนั้นก็พุ่งเข้าปะทะกันอย่างจัง จนทำให้ฝ่ายหนึ่งเกิดเสียเปรียบ เพราะถูกงัดจากด้านข้าง ในที่สุดก็ทำให้รถเสียหลักคว่ำลงไปกับถนน และเมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งพ่ายแพ้ ศึกในครั้งนี้ก็ต้องเป็นอันจบ แต่เหตุการณ์มันกลับไม่เช่นนั้นนะสิ…เพราะจู่ๆ ก็มีรถแทรกเตอร์อีก 3 คัน เดินกำลังมาเสริมทัพ แถมยังเข้าไปช่วยงัดตัวรถคันที่ล้มขึ้น จึงทำให้คนขับสามารถหนีออกมาได้ น่าเสียดายที่คลิปวีดีโอถูกไปตัดเสียก่อน มิเช่นนั้นก็คงจะรู้แล้วละว่าใครจะเป็นฝ่ายชนะ เรียกได้ว่าศึกปะทะกันครั้งนี้ดุเดือดจริงๆ เห็นแล้วก็ทำให้นึกถึงภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เรื่อง Transformer เลยละเมี๊ยว ที่มา : shanghaiist
-
อย่างกับทรานส์ฟอร์มเมอร์ส!! คนงานจีนขับรถตักดินเข้าห้ำหั่นกันอย่างดุเดือดกลางถนน!?
คงจะเป็นเรื่องยากหากจะบอกเพื่อนๆ ว่ามีรถตักดินกำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือดกลางถนนประหนึ่งฉากแอ็คชั่นในหนังเรื่อง Transformers แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อล่ะว่าเหตุการณ์แบบนั้นมันเกิดขึ้นแล้วที่ประเทศจีน… เมื่อวันที่ 19 เมษายน เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่าเกิดเหตุรถตักดิน 2 คันพุ่งเข้าต่อสู้กันบนถนนแห่งหนึ่งในมณฑลเหอเป่ย ประเทศจีน โดยเหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นจากความขัดแย้งกันระหว่างบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้าง 2 แห่งที่มีความเห็นไม่ตรงกัน ตามรายงานบอกว่าในการต่อสู้อย่างดุเดือดของรถตักดินทั้ง 2 คัน จู่ๆ รถคันหนึ่งก็เกิดเสียจังหวะจนถูกรถอีกคันงัดและพลิกคว่ำลงไป แต่ในขณะนั้นเองกลับมีขบวนรถตักดินอีก 3 คันพุ่งเข้ามาช่วยงัดรถที่คว่ำอยู่ให้คนขับที่ติดอยู่ด้านล่างสามารถมุดหนีออกไปได้ ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลย เป็นที่น่าเสียดายมากเพราะคลิปวิดีโอดันตัดจบไปเสียก่อน ทำให้เราไม่รู้ผลว่าตกลงใครแพ้หรือชนะกันแน่ และไม่ได้เห็นสีหน้าของเจ้าหน้าที่ตำรวจตอนเดินทางมาถึงที่เกิดเหตุด้วย ที่มา Shanghai Expat , shanghaiist
-
หนุ่มจีนก้มเก็บมือถือระหว่างขับรถ สุดท้ายพุ่งลงแม่น้ำข้างทาง ตกน้ำป๋อมแป๋ม
ไม่ว่าจะภาครัฐ ภาคเอกชน หรือภาคไหนๆ ก็ออกมาพูดออกมาย้ำอยู่บ่อยๆ ว่าการเล่นมือถือขณะขับรถเป็นเรื่องที่อันตรายมาก เพราะมันทำให้คุณสนใจสิ่งที่อยู่ในมือมากกว่าสิ่งที่อยู่บนท้องถนน ซึ่งเป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายๆ เลย ลองดูกรณีศึกษาจากข่าวที่#เหมียวฟิ้นจะเล่าต่อไปนี้ เมื่อวันที่ 18 เมษายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่าชายหนุ่มคนหนึ่งจากเมืองเหวินโจว มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน ประสบอุบัติเหตุขับรถตกลงไปในแม่น้ำ ขณะก้มเก็บมือถือที่ตกลงไปยังใต้เบาะ ตามรายงานบอกว่าชายหนุ่มคนนี้ได้ขับรถเลียบแม่น้ำมาเรื่อยๆ แต่ในระหว่างนั้นเจ้าตัวได้ทำมือถือตกลงไปยังด้านใต้เบาะคนขับ แต่แทนที่จะจอดเจ้าตัวกลับขับต่อไปเรื่อยๆ และก้มไปเก็บพร้อมๆ กัน ทำให้เขาเผลอไปเหยียบใส่คันเร่งโดยไม่ได้ตั้งใจ จากนั้นรถยนต์ของเขาเสียหลักพุ่งลงไปในแม่น้ำทันที โชคดีที่เจ้าตัวไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรมาก ทำให้เขาสามารถออกมาจากรถและขึ้นไปยืนตะโกนขอความช่วยเหลืออยู่บนหลังคารถแบบที่เห็นในภาพ จนในที่สุดเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ทราบเรื่องและนำรถเครนมาดึงรถของเขาขึ้นมาจากน้ำได้ในที่สุด การขับรถบนท้องถนนมันไม่เหมือนกับการขับรถในเกมนะ ที่จะได้ลุกไปเข้าห้องน้ำหรือหยิบของที่ตกระหว่างขับรถได้น่ะ ที่มา shanghaiist
-
แซ่บมาก!! คุณตาชาวจีนวัย 61 ฟิตร่างกายจนมีกล้ามบึ้ก ชาวเน็ตงง ทำได้ไง?
ใครว่าคนเราแก่แล้วแก่เลย? #เหมียวฟิ้นขอเถียงขาดใจ เพราะว่าหากเราดูแลตัวเองดีๆ แล้ว ไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไหร่คุณก็สามารถเป็นคนที่ดูดีได้เช่นกันนะ เมื่อวันที่ 14 เมษายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้เปิดเผยเรื่องราวของคุณตาที่มีชื่อว่า เหลียง ยู่เซี่ยง วัย 61 ปี จากมณฑลเฉินตู ประเทศจีน ผู้ที่ชื่นชอบการขับรถแรลลี่และแม้ว่าจะมีอายุปูนนี้แล้ว เขาก็ยังคงเรียกตัวเองว่าเป็น “นักแข่งที่อายุน้อยที่สุด” คุณตายู่เซี่ยงเคยขับรถแรลลี่ไปยังหลายพื้นที่มาแล้ว ทั้งกรุงโรม หรือรอบประเทศไต้หวัน แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผู้คนสนใจเขานอกเหนือจากอายุก็คือเรื่องของรูปร่างนี่แหละ เพราะคุณตาแกชอบออกกำลังกายมาก จนตอนนี้มีกล้ามขึ้นไปทุกสัดส่วน ทั้งไบเซ็ปไตรเซ็ป กล้ามท้องและหน้าอก ตอนนี้มีนิตยสารมาขอถ่ายภาพแฟชั่นของคุณตา ซึ่งตอนนี้มันก็ถูกเผยแพร่ออกไปในสื่อสังคมออนไลน์ของจีนอย่างแพร่หลาย จนเขากลายเป็นคนดังในเวลาไม่นาน ซึ่งคุณตาก็ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า “ผมไม่เคยคิดเลยว่าจะมีชื่อเสียงในอินเตอร์เน็ต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวัยนี้” นอกจากนี้คุณตายู่เซี่ยงยังได้เล่าว่าเขามีกิจกรรมยามว่างคือ ช็อปปิ้ง เขียนบล็อก ขับรถดริฟท์ แถมยังให้ข้อคิดดีๆ อีกว่า “คนแก่น่ะ ไม่ควรจะใช้เวลาหมดไปกับการดูแลหลานๆ และการเต้นรำหรอกนะ” เมื่อเราแก่ตัวไป เราจะยังมีไฟแบบคุณตาคนนี้ไหมนะ? ที่มา shanghaiist
-
วุ่นหนัก ฝาแฝดสาวแต่งงานกับฝาแฝดหนุ่ม แต่ดันจำผิดจำถูก จนต้องศัลยกรรมเพื่อแก้ปัญหา!?
นอกจากการเป็นคู่แฝดจะสามารถสร้างความสับสนงุนงงให้แก่ผู้คนรอบข้างได้ในระดังหนึ่งแล้ว แต่ยิ่งไปกว่านั้นหากคู่แฝดดันมาตกหลุมรักเข้ากับคู่แฝดอีกคู่เข้ามันคงจะสร้างความวุ่นวายยิ่งกว่าเดิมแน่ๆ เมื่อวันที่ 10 เมษายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Thesun ได้เปิดเผยเรื่องราวของ หยุ่น เฟย และ หยุ่น หยาง ฝาแฝดชาวจีนวัย 22 ปี จากมณฑลส่านซี ประเทศจีน พวกเธอได้รู้จักกับคู่แฝดหนุ่ม จ้าว ซิน กับ จ้าว ซวน ผ่านการแนะนำของแม่สื่อ ทำให้ หยุ่น เฟย คบหากับ จ้าว ซิน และ หยุ่น หยาง คบกับ จ้าว ซวน หลังจากที่ทั้ง 4 เริ่มคบหากันได้ประมาณ 1 เดือน ทางด้านพ่อของฝ่ายชายก็เริ่มมีการแนะนำให้หมั้นหมายกับฝ่ายหญิงและจัดงานแต่งในที่สุด แต่เนื่องจากทั้ง 2 คู่มีใบหน้าที่เหมือนกันมาก ทำให้การแยกแยะว่าใครเป็นใครทำได้ยากพอสมควร แต่ปรากฏว่าหลังจากที่เสร็จพิธีแล้วหนึ่งในเจ้าบ่าวกลับจูงมือเจ้าสาวผิดคนซะงั้น แถมตอนที่ทั้ง 4 ไปฮันนีมูนด้วยกัน หยุ่น หยาง ยังไปคุยเล่นกับ จ้าว ซิน ที่เป็นพี่เขย เพราะคิดว่าเขาคือ จ้าว ซวน…
-
ไม่เนียน!! หนุ่มจีนแก้ผ้าแกล้งล้มให้โดนรถชน ตำรวจเผยเคยทำแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว
เมื่อวันที่ 12 เมษายน เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่าชายหนุ่มในเมืองเว่นหลิง มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน ได้ถอดเสื้อผ้าจนล่อนจ้อน และแกล้งนอนอยู่หน้ารถเมอร์ซิเดซเบ๊นซ์คันหนึ่งเพื่อทำทีว่าตนเองถูกรถชน!? ตามรายงานบอกว่าชายหนุ่มได้ขี่จักรยานไปตามท้องถนนด้วยสภาพเปลือยเปล่า และล้มลงตรงหน้ารถยนต์ด้วยความรวดเร็ว จากนั้นเจ้าตัวก็เหยียดตัวและนอนลงบนพื้นยางมะตอยแบบสบายใจ โชคดีที่เจ้าของรถเมอร์ซิเดซสามารถเบรคไว้ได้ทัน ทำให้ชายหนุ่มไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ เจ้าของรถจึงรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มารับตัวชายคนนี้ไปสอบสวน จึงทราบว่าชายคนนี้มาจากมณฑลเหอหนาน วัย 31 ปี และเคยทำแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว แถมยังเคยเข้าไปนอนในห้องขังมาแล้วด้วย แหม่ จะทำอะไรก็ให้มันเนียนๆ หน่อยซิพ่อหนุ่ม 555+ ที่มา shanghaiist
-
ขอร้องละครับ!! ยามห้างเมืองจีนลงทุน ‘คุกเข่า’ ขอร้องให้ลูกค้าย้ายรถ หลังจอดในที่ห้ามจอด
เรื่องของการใช้รถใช้ถนนนี่ถือเป็นเรื่องของสามัญสำนึกส่วนบุคคลจริงๆ นะ สำหรับบางคนอาจจะเคารพกฎเกณฑ์กันบ้างก็จะทำตามป้ายหรือสัญญาณจราจรต่างๆ แต่กับบางคนก็ดูจะเป็นเรื่องที่ยากเย็นซะเหลือเกิน… เมื่อวันที่ 10 เมษายนที่ผ่านมา สำนักข่าว People’s Daily, China ได้รายงานว่าเมื่อวันที่ 8 เมษายน มีหยิงสาวขับรถยนต์เข้าไปจอดรถในลานจอดรถของห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในเมืองเต๋อโจว มณฑลซานตง ทางทิศตะวันออกของประเทศจีน แต่หญิงสาวชาวจีนรายนี้ดันไปจอดรถในที่ห้ามจอด ทางยามรักษาความปลอดภัยจึงต้องเข้ามาเตือนเธอด้วยคำพูด แต่ดูจะไม่เป็นผล เขาจึงตัดสินใจลงไปนั่งคุกเข่ากับพื้นและขอร้องให้หญิงสาวช่วยขยับรถออกจากบริเวณนั้นด้วย เพราะไม่สามรถใช้กำลังบังคับเธอได้ จากนั้นเธอก็ยอมขยับรถแต่โดยดี หลังจากที่ภาพนี้ถูกแชร์ออกไปก็ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสมในการแก้ไข้ปัญหาด้วยวิธีดังกล่าว โดยบางความเห็นบอกว่าวิธีดังกล่าวอาจจะไม่ใช่วิธีที่ถูกนัก แต่เนื่องจากยามรักษาความปลอดภัยไม่มีทางเลือก การกระทำแบบนี้ก็พอจะทำได้ แต่ถ้าจะให้ดีควรจะมีไม้กั้น เพื่อให้ผู้มาใช้บริการได้เห็นแบบชัดเจนและรู้ว่าไม่สามารถจอดบริเวณนั้นได้ ยังไงแล้ว#เหมี่ยวฟิ้นขอฝากไปยังเพื่อนๆที่ต้องใช้บริการของห้างต่างๆ ด้วยนะ หากเขาไม่ให้จอดก็อย่าไปจอดเลย เห็นใจพี่ยามเขาด้วยนะ ที่มา People’s Daily, China
-
ใจเย็นแม่สาวน้อย!! สาวจีนวัย 20 ปี ขู่จะกระโดดน้ำตาย หลังตกหลุมรักชายวัย 69 แต่เจ้าตัวไม่ยอมมาพบ
เรื่องความรักนี่มันไม่เข้าใครออกใครจริงๆ นะ แม้จะเป็นความรักระหว่างหนุ่มสาว ชาย-ชาย หญิง-หญิง ความรักต่างวัยก็มีให้เห็นอยู่บ่อยๆ เมื่อวันที่ 8 เมษายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่า มีชาวบ้านในเมืองเซียงหยาง ประเทศจีนได้พบเห็นหญิงสาวท่าทางเศร้าโศก กำลังนั่งอยู่บริเวณแม่น้ำหาน และดูเหมือนเธอกำลังพยายามจะกระโดดลงไปในแม่น้ำ แต่โชคดีที่ชาวบ้านและผู้ที่ผ่านไปผ่านมาแถวนั้นสามารถช่วยเธอขึ้นมาได้ทันและพาเธอไปส่งยังโรงพัก เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พูดคุยกับหญิงสาวถึงได้ทราบว่าเธอมีชื่อว่า Xiao Yun วัย 20 ปี เธอบอกถึงสาเหตุที่นั่งอยู่ริมแม่น้ำว่าเป็นเพราะเธอเสียใจที่แฟนของเธอเปลี่ยนไปและไม่ยอมมาพบกับเธอ Xiao Yun เล่าว่าแฟนของเธอชื่อ Liu วัยประมาน 50 ปี ทั้งสองได้พบกันที่ตลาดแห่งหนึ่งที่ Xiao Yun ทำงานอยู่ ทั้งสองจึงทำความรู้จักกันมาเรื่อยๆ และแม้ว่าวัยของนาย Liu จะมากขนาดที่เป็นพ่อของเธอได้ แต่เธอก็ไม่ได้สนใจว่าสังคมจะมองอย่างไร เธอคิดว่านาย Liu เข้ากันได้ดีกับเธอและทำให้เธอสบายใจเหมือนอยู่บ้าน อย่างไรก็ตาม นาย Liu ได้หย่ากับภรรยาเมื่อปีก่อน ทำให้ทั้งคู่สามารถมีความสัมพันธ์กันได้โดยไม่ติดข้องอะไร …
-
สยิวกิ้ว!! นักศึกษาจีนปิ๊งไอเดีย นำคนแปลกหน้าสองคนมาจูบกันโดยไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร
เมื่อวันที่ 8 เมษายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่านักศึกษารายหนึ่งในมณฑลนานกิง ประเทศจีน ได้เกิดไอเดียอยากจะทำการทดลองกับกลุ่มนักศึกษาในมหาวิทยาลัย ให้พวกเขามาปิดตาแล้วจูบคนแปลกหน้า เพื่อดูว่าพวกเขาจะมีปฏิกิริยายังไงกันบ้าง? โปรเจ็คสุดแปลกนี้เป็นของนาย Liu Ke นักศึกษาระดับป.ตรีวัย 20 ปี จากมหาวิทยาลัยการบินนานกิง เขาได้เชิญชวนนักศึกษาในมหาวิทยาลัยตั้งแต่วัย 18 ถึง 20 ปี ให้เข้ามาร่วมกิจกรรม “Hello Stranger” โปรเจ็คนี้จะเชิญชวนให้คนที่ไม่รู้จักกันมาจูบกันโดยที่จะปิดตาพวกเขาไว้ และมีกล้องวิดีโอคอยบันทึกภาพพวกเขา โดยในตอนแรก Liu จะเเป็นคนสัมภาษณ์พวกเขาก่อนว่าทำไมพวกเขาถึงอยากจะเข้าร่วมกิจกรรมการจูบกับเขา? หนึ่งในผู้เข้าร่วมการทดลองบอกว่า “ผมคิดว่ามันเหมือนกับในนิยายดีนะ และผมอยากจะมีประสบการณ์แบบนั้นในระหว่างที่ยังเป็นวัยรุ่นอยู่ มันคงเป็นอะไรที่น่าสนใจมาก” ผู้เข้าร่วมกิจกรรมอีกคนบอกว่า “ฉันคิดว่าถ้าฉันแก่ตัวไปคงต้องเสียใจแน่ๆ ที่ไม่ได้ทำมันตอนนี้” จากนั้นพวกเขาก็จูบกัน หลังจากที่ภาพและคลิปกิจกรรมของนาย Liu ถูกเผยแพร่ออกไป ผู้ชมบางส่วนก็ได้แสดงความชื่นชมต่อไอเดียนี้ และคิดว่ามันมีความหมายบางอย่างแฝงอยู่ ซึ่งมันสามารถช่วยให้คนแปลกหน้าสองคนสามารถไว้วางใจซึ่งกันและกันได้ แต่ในขณะเดียวกัน กลับมีกลุ่มคนที่ไม่เห็นด้วยและมองว่าเป็นเรื่องไร้สาระด้วย แถมบางคนยัแสดงความเป็นกังวลเกี่ยวกับความสะอาดในระหว่างที่จูบคนแปลกหน้าด้วย…
-
จีนทุ่มงบกว่างบกว่า 13,000 ล้านบาท สร้างโรงแรมสุดหรูในหลุมลึกของเหมืองร้าง อลังการงานสร้างสุดๆ
นี่คือภาพของ “The InterContinental Shimao” โรงแรมสุดหรู ที่ตั้งอยู่ที่เขตเมือง ซงเจียง ในเซี่ยงไฮ้ ทางภาคตะวันออกของประเทศจีน โดยโรงแรมแห่งนี้มีเอกลักษณ์ และความพิเศษที่ไม่เหมือนกับโรงแรมโดยทั่วๆ ไปนั่นก็คือ มันเป็นโรงแรมที่ถูกสร้างขึ้นในหลุมลึกนั่นเอง เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งโรงแรม ที่ทั้งหรูหรา มีเอกลักษณ์ และมีความโดดเด่นทั้งในเรื่องของการออกแบบ รวมถึงสถานที่ตั้งของโรงแรมแห่งนี้ ซึ่งก่อนที่จะกลายมาเป็นโรงแรมสุดหรูหราขนาดนี้ เพื่อนๆ รู้หรือไม่ว่า? สถานที่แห่งนี้เคยเป็นเหมืองร้างที่เก่าแก่ของจีนมาก่อนนะ โหววว ไม่อยากจะเชื่อว่าปัจจุบันเหมืองร้างแห่งนี้ จะถูกเนรมิตขึ้นใหม่ให้กลายเป็นโรงแรมที่หรูหรา และอลังการงานสร้างมากแห่งหนึ่งของประเทศจีน “The InterContinental Shimao” เริ่มก่อสร้างขึ้นในปี 2013 และกำลังอยู่ระหว่างก่อสร้าง ซึ่งคาดว่าน่าจะสร้างเสร็จภายในปี 2017 แน่นอน และอีกไม่นานเราก็จะได้เห็นโฉมหน้าแบบเต็มตัวของโรงแรมสุดอลังการกันสักที ส่วนภายในโรงแรมนั้น เรียกได้ว่ามีสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้ามากมาย ไม่ว่าจะเป็น ร้านอาหาร, ห้องพักอีกกว่า 370 ห้อง, ชั้นใต้ดินที่ลึกกว่า 17 ชั้น, ชั้นบนดินอีก…
-
โอ้โห!! นักศึกษาในจีนบ่นอุบ มหาวิทยาลัยทิ้งขยะกองยักษ์ไว้นอกหอพัก ส่งกลิ่นคละคลุ้งไปทั่ว
มหาวิทยาลัยหลายๆ แห่งมักจะสร้างหอพักไว้ภายในมหาวิทยาลัย เพื่ออำนวยความสะดวกสบายแก่นักศึกษาและให้พวกเขาเดินทางไปเรียนได้ในเวลาอันรวดเร็ว แต่หากหอพักขาดการดูแลเอาใจใส่จนสกปรกเลอะเทอะไปทั่ว มันคงจะเป็นเรื่องที่น่าลำบากใจสุดๆ เลยจริงไหม? เมื่อวันที่ 6 เมษายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shaghaiist ได้รายงานว่ามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในมณฑลเจียงซี ประเทศจีน ได้ทิ้งขยะไว้ด้านนอกของหอพักนักศึกษาเป็นจำนวนมากและไม่ยอมส่งเจ้าหน้าที่มาเก็บกวาด ทำให้ส่งกลิ่นคละคลุ้งไปทั่วจนนักศึกษาแทบทนไม่ไหว ตามรายงานบอกว่าเหล่านักศึกษาเริ่มจะทนไม่ได้กับทางมหาวิทยาลัย ที่ทิ้งเศษขยะเอาไว้ใกล้ๆ กับหอพักพวกเขา เพราะมันส่งกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ และทำให้สภาพความเป็นอยู่โดยรอบดูแย่ไปด้วย จนพวกเขาต้องถ่ายภาพเอามาแฉในโลกออนไลน์เพื่อประท้วงและตีแผ่ให้ชาวเน็ตได้เห็นภาพดังกล่าว ไม่รู้ว่าหลังจากที่ข่าวนี้โด่งดังไปทั่วโลกทางมหาวิทยาลัยจะมีการแก้ไขปัญหานี้ไหมนะ แต่ยังไงขยะเหล่านี้ก็ยังดีกว่ามันอยู่ในห้องนอนแบบสาวคนนี้ล่ะนะ ที่มา shanghaiist
-
รถเมล์จีนไอเดียเก๋ ติดผ้าม่านให้เหล่าคุณแม่สามารถให้นมลูกได้ในระหว่างเดินทาง
การเป็นแม่คนว่าลำบากแล้ว แต่การเป็นแม่คนที่ต้องกระเตงลูกน้อยไปไหนมาไหนยิ่งลำบากกว่านะ เพราะเด็กๆ มักจะงอแงเสียงดัง เมื่อแม่ๆ เห็นแบบนั้นก็ต้องป้อนนมลูกน้อยเพื่อให้พวกเขาสงบลง แต่บางครั้งหากคุณเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะล่ะ จะแก้ปัญหาเหล่านี้ยังไง? ด้วยเหตุนี้รถเมล์ในจีนก็เลยผุดไอเดียแจ่มๆ ในการให้บริการแก่เหล่าคุณแม่แล้วล่ะ เพราะเมื่อวันที่ 6 เมษายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่าเมืองผิงเซียง มณฑลเจียงซี ประเทศจีน ได้ติดตั้งเก้าอี้แบบพิเศษบนรถโดยสาร ที่มีผ้าม่านปิดรอบ เพื่อให้เหล่าคุณแม่สามารถให้นมลูกๆ ได้ตามต้องการ ตามรายงานบอกว่าเจ้าที่นั่งพิเศษนี้จะถูกติดตั้งไว้ใกล้ๆ กับทางเดิน โดยจะมีผ้าม่านสีชมพูถูกติดตั้งไว้กับราว เพื่อให้คุณแม่ได้มีความเป็นส่วนตัวเมื่อต้องให้นมลูก ซึ่งเจ้าที่นั่งนี้เองหากไม่มีคุณแม่พร้อมกับลูกขึ้นมาบนรถ เหล่าผู้โดยสารทั่วๆ ไปก็สามารถนั่งได้เช่นกัน แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่คนขับรถเห็นว่ามีคุณแม่ขึ้นมา คนขับรถจะทำหน้าที่ขอความกรุณาให้ผู้โดยสารย้ายไปนั่งที่อื่น เพื่อสงวนสิทธิ์ให้แก่คุณแม่เท่านั้น เมื่อช่วงปี 2013 ที่ผ่านมา ทางองค์การอนามัยโลกได้มีการทำผลสำรวจ พบว่ามีเพียง 28% ของคุณแม่ชาวจีนที่ให้นมลูก ในขณะที่ตัวเลขโดยเฉลี่ยทั่วโลกอยู่ที่ 40% ฉะนั้นทางคณะรัฐบาลของจีนจึงต้องหาวิธีแก้ปัญหาดังกล่าว ทั้งนี้ทางรัฐบาลได้ตั้งเป้าเอาไว้ว่าภายในปี 2020 จะเพิ่มเปอร์เซ็นการให้นมลูกของคุณแม่เป็น 50%…
-
25 ภาพถ่ายที่จะทำให้เห็นถึงความ ‘เป๊ะ’ ของคนจีน ชาตินี้เขาก็มีระเบียบวินัยได้เหมือนกัน!!
แม้ว่าเราจะเคยได้ยินเรื่องราวพฤติกรรมแปลกๆ ของชาวจีนกันมามากมาย แต่ถ้ามองอีกมุมหนึ่ง ประเทศจีน ถือได้ว่าเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยเรื่องราวที่น่าสนใจมากมาย และในวันนี้เราจะพาคุณมารับชม 25 ภาพถ่ายที่จะทำให้เห็นถึงความเป๊ะของคนจีน ที่ดูสมบูรณ์แบบที่สุด งานนี้บอกเลยว่าคุณจะต้องยกนิ้วให้กับความเป๊ะของคนจีนอย่างแน่นอน 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 …
-
เทคโนโลยีใหม่ทำพิษ นักบินหนุ่มถูกสายการบินสั่งพักงาน หลังแพร่คลิปวิดีโอขณะขับเครื่องบิน!?
ตอนนี้โซเชียลมีเดียหลายๆ ตัวเริ่มจะมีฟังก์ชั่นการทำงานที่ให้ผู้ใช้สามารถเผยแพร่คลิปวิดีโอแบบสดๆ ให้กับผู้ติดตามหรือแฟนๆ ไดชมกันได้แบบเรียลไทม์ แต่ไม่ว่าคุณจะใช้งานมันเพื่ออะไรก็ขอให้ระวังนิดนึงล่ะ เพราะมันอาจส่งผลต่อหน้าที่การงานของคุณได้เลยทีเดียว เมื่อวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่ากัปตันหนุ่มหล่อบนสายการบินแห่งหนึ่งในประเทศจีน ได้ทำการเผยแพร่คลิปวิดีโอสดๆ ขณะปฏิบัติหน้าที่อยู่ในห้องบังคับ ให้แก่เหล่าแฟนๆ ผู้ติดตามเขาบนเว็บไซต์ Weibo กว่า 64,000 คนได้ชมกัน แต่หลังจากที่คลิปนี้ถูกเผยแพร่ออกไป มีชาวเน็ตคนหนึ่งโพสต์ข้อความว่า “ทำไมผู้โดยสารบนเครื่องถึงได้รับการเตือนตลอดว่าต้องปิดอุปกรณ์สื่อสารทุกชนิด แต่นักบินกลับไม่ทำตามกฎข้อนี้ไปได้ล่ะ?” ทำให้กลายเป็นประเด็นถกเถียงกันระหว่างที่นักบินกำลังแพร่ภาพอยู่ เพียงชั่วข้ามคืนเท่านั้น นักบินหนุ่มไฟแรงก็ถูกทางสายการบินสั่งพักงานทันที เพราะคลิปดังกล่าวกลายเป็นเรื่องที่ผู้คนส่งต่อกันอย่างรวดเร็วราวกับไวรัสทางสายการบินจึงต้องมีมาตรการในการลงโทษอย่างรุนแรงกับนักบินรายนี้ สำหรับการกระทำที่ขาดการยั้งคิดนั่นเอง ก่อนหน้านี้ก็เหมือนจะมีข่าวว่ามีคู่เกย์ถ่ายคลิปวิดีโอสดๆ ขณะที่กำลังเล่นจ้ำจี้กันอยู่ด้วย ยังไงแล้วขอให้ใช้กันแบบที่ถูกที่ควรด้วยนะจ๊ะ ที่มา shanghaiist
-
หวาดเสียวเกิ๊น!! หนุ่มจีนขับรถออกจากบ้านไกล 15 กิโลเมตร โดยมีพ่อและพี่ชายเกาะอยู่ที่กระโปรงหน้ารถ!?
บางครั้งการทะเลาะเบาะแว้งกันภายในครอบครัวก็เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ ทางเดียวที่พอจะแก้ไขปัญหาได้ก็คือการให้อภัยกัน และทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน ไม่ใช่การหนีปัญหานะ เพราะมันอาจจะทำให้อะไรๆ แย่ลงกว่าเดิมก็ได้… เมื่อวันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจในมณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีนได้เรียกให้รถเก๋งคันหนึ่งจอด เพราะเนื่องจากที่กระโปรงหน้ารถมีชายสองคนนอนเกาะอยู่ ทำให้อาจเกิดอันตรายแก่ทั้งสองคนรวมถึงผู้ใช้รถใช้ถนนคนอื่นๆ ด้วย จากการสอบถามพบว่าชายทั้งสองคน เป็นพ่อและพี่ชายของคนขับรถ โดยก่อนหน้าที่พวกเขาทั้งสองจะมาเกาะอยู่แบบนี้ พวกเขาได้ทะเลาะและมีปากเสียงกันตอนอยู่ที่บ้าน ทำให้น้องชายเกิดความไม่พอใจจึงขับรถหนีออกมาจากบ้าน แต่คุณพ่อและพี่ชายพยายามตามมาขอโทษขอโพย และกระโดดขึ้นไปเกาะอยู่บนกระโปรงหน้ารถ แต่ถึงแม้จะเห็นแบบนั้นน้องชายผู้เป็นคนขับก็ไม่มีท่าทีว่าจะจอดรถ และยังขับออกไปยังเมืองดงยาง ที่อยู่ไกลออกไปถึง 15 กิโลเมตรเลยทีเดียว แต่เขาก็พยายามขับรถด้วยความเร็วเพียง 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเท่านั้น เพื่อให้พ่อและพี่ชายของเขาหาจังหวะกระโดดออกไปได้ แต่ทั้งคู่ก็ยังคงเกาะหนึบไม่ยอมไปไหนเลย แต่สุดท้ายการตามตื้อของพวกเขาก็จบลงเมื่อเจ้าหน้าที่โบกรถให้พวกเขาจอด ทีหน้าทีหลังมีอะไรก็เคลียร์ๆ ให้จบกันที่บ้านไปเลยนะ จะได้ไม่ต้องเป็นภาระของคนบนท้องถนน ที่มา shanghaiist
-
สาวจีนป่วยเป็นมะเร็ง ขอถ่ายภาพพรีเวดดิ้งกับแฟนก่อนตาย แถมอยากกลับมาเกิดเป็นลูกสาวของเขาด้วย
บางทีความรักก็ชอบเล่นตลกกับคน บางคนมีสิ่งดีๆ อยู่ในมือแล้วแท้ๆ แต่ไม่ดูแลรักษาไว้ดีๆ บางคนดูแลกันแทบตาย ยังไงก็ไม่ได้คู่กัน เหมือนกับเรื่องราวของคู่รักชาวจีนที่#เหมียวฟิ้นจะหยิบมาเล่าต่อไปนี้ เมื่อวันที่ 30 มีนาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้บอกเล่าเรื่องราวของ เสี่ยว ยี่ หญิงสาววัย 21 ปี จากมณฑลกุ้ยโจว ประเทศจีน เธอได้รับการวินิจฉัยว่าป่วยเป็นโรคมะเร็วกระดูกตั้งแต่อายุได้เพียง 14 ปี เสี่ยว ยี่จึงต้องเข้ารับการรักษานานถึง 6 ปี แต่ดูเหมือนอาการของเธอจะค่อยๆ แย่ลงเรื่อยๆ ทีมแพทย์จึงตัดสินใจผ่าตัดเอาขาซ้ายของเธอออก โชคดีที่เธอมี เสี่ยว ฟู่ แฟนหนุ่มที่คบกันมา 2 ปีคอยเป็นกำลังใจให้เธอ แต่ดูเหมือนทุกอย่างจะเลวร้ายลงเพราะเมื่อเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา คุณหมอได้บอกกับเสี่ยว ยี่ว่า มะเร็งกระดูกของเธอได้ลุกลามไปทั่ว และเธอจำเป็นที่จะต้องหยุดการรักษา ในระหว่างที่เธอป่วยและมีอาการที่ทรุดลงเรื่อยๆ เสี่ยว ฟู่ก็ไม่ได้หายไปไหน แต่คอยอยู่เคียงข้างเธอและดูแลเธออยู่ข้างๆ เตียงตลอดเวลา เมื่อช่วงเดือนที่ผ่านมา ทั้งคู่ได้มีโอกาสไปถ่ายภาพพรีเวดดิ้งด้วยกัน เพื่อเติมเต็มให้กับความฝันของเสี่ยว ยี่ ก่อนที่เธอจะลาโลกนี้ไป…
-
18 ภาพเปรียบเทียบอดีต-ปัจจุบันของดาราจีน พวกเขาจะเปลี่ยนไปมากแค่ไหนนะ
กาลเวลาเมื่อผ่านไปแล้ว ก็ไม่มีวันที่จะย้อนกลับ สังขารคนเราก็เช่นกัน เมื่อกาลเวลาผ่านไป ร่างกาย ใบหน้า ผิวพรรณของเราก็ย่อมเปลี่ยนแปลงไปด้วย บางคนก็ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ บางคนที่ยังไม่อยากแก่ ก็เสาะหาวิธีที่จะทำให้ตัวเองดูเยาว์วัยอยู่เสมอ เหมือนดังเช่นภาพของบรรดานักแสดงดังจากประเทศจีนเหล่านี้ ในอดีตพวกเขาเป็นหนุ่มสาวที่สวยหล่อมากๆ แต่พอมาถึงปัจจุบันเมื่ออายุมากขึ้น ทุกสิ่งทุกอย่างก็ย่อมเปลี่ยนแปลงไป ในขณะที่บางคนก็ดูเด็ก ดูสวยหล่อขึ้นกว่าเดิมเยอะ ไปดูสิ…ว่ามีใครบ้าง 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 แต่ละคนดูเปลี่ยนไปเยอะมากจริงๆ…
-
ความรักจะคงอยู่ตลอดไป…หนุ่มจีนขอแฟนสาวแต่งงาน หลังจากที่เธอป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย
นี่คือเรื่องราวความรักของคนสองคน ที่แม้จะรู้ว่าพวกเขามีเวลาเหลือไม่มากแล้ว แต่ความรักของพวกเขาก็ไม่ได้ถดถอยลงไปเลย เมื่อวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้เผยแพร่เรื่องราวของนาย เผิง ซิน ย้อนกลับไปเมื่อ 8 ปีที่แล้วเขาเป็นเพียงหนุ่มช่างซ่อมแอร์ในเมืองหวู่ฮั่น ประเทศจีน เขามีรายได้ต่อเดือนประมาณ 1,500 หยวน หรือประมาณ 8 พันกว่าบาทเท่านั้น ในตอนนั้นเองเขาก็ได้พบรักกับหญิงสาวที่ชื่อ หยาง หลิว เธอถูกเลี้ยงดูมาโดยคุณยายของเธอหลังจากที่พ่อแม่ของเธอหย่าจากกัน แต่เมื่อคุณยายของเธอได้พบเข้ากับนายเผิงเธอกลับรู้สึกไม่ถูกชะตากับเขาอย่างแรง และบอกด้วยว่าหลานสาวของเธอสมควรมีแฟนที่ดีกว่านี้ ต่อมาในปี 2010 พ่อของนางหยางและคุณยายของเธอก็จากไป แถมคุณแม่ของเธอเองก็ยังป่วยเป็นโรคมะเร็งเต้านมด้วย เธอจึงย้ายออกไปใช้ชีวิตอยู่ในอพาร์ทเม้นกับนายเผิง ซึ่งเขาเองก็วางแผนเอาไว้ว่าหากเก็บเงินได้มากกว่านี้เขาจะซื้อบ้านในเมืองสักหลังและขอแฟนสาวแต่งงาน แต่ความฝันก็ต้องสลายไปในพริบตา เมื่อนางหยางถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็งเต้านมระยะสุดท้ายเมื่อเดือนที่ผ่านมา และไม่สามารถผ่าตัดได้แล้ว นายเผิงจึงลาออกจากงานมาดูแฟนสาวของเขาตั้งแต่เช้าจนค่ำ เมื่ออาการของนางหยางเริ่มคงที่ นายเผิงก็เข้าไปคุยกับคุณหมอเพื่อเตรียมแผนการขอแฟนสาวแต่งงาน นายเผิงเล่าว่า “ผมจะเป็นสามีของเธอ ไม่ว่าเธอจะมีชีวิตได้นานแค่ไหนก็ตาม” แม้ว่าชีวิตรักของพวกเขาจะมีอุปสรรคมากมายแค่ไหนก็ตาม แต่นายเผิงก็ไม่คิดถอดใจ เพราะแม้ว่าเขาจะไม่ได้ร่ำรวยเงินทองหรือดีกว่าผู้ชายคนอื่นๆ แต่แฟนสาวก็เลือกเขา ฉะนั้นเขาจึงต้องอยู่เคียงข้างเธอในเวลาที่เธอต้องการเขามากที่สุด จากนั้นนายเผิงก็ได้ขอนางหยางแต่งงาน…
-
อยู่เข้าไปได้ไงเนี๊ยะ!? พาไปชมหอพักของนักศึกษาสาวในจีน ที่ได้ชื่อว่า “รกที่สุด!!”
โดยทั่วไปแล้วผู้คนมักจะเข้าใจกันว่าหญิงสาวนั้นเป็นพวกที่รักความสะอาดมากกว่าผู้ชายใช่ไหมล่ะ แต่#เหมียวฟิ้นอยากบอกว่าไม่เสมอไป… เมื่อวันที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอจากห้องพักของนักศึกษาสาวชาวจีนรายหนึ่ง ที่เศษขยะกองเรี่ยราดอยู่บนพื้น และข้าวของเครื่องใช้ที่วางแบบระเกะระกะ จนรกแบบสุดๆ และแทบไม่เหลือทางเดินให้เดินเข้าไปเลย ตามรายงานไม่ได้บอกว่าคลิปนี้ถูกถ่ายโดยใครและถ่ายขึ้นที่ไหน แต่หลังจากที่คลิปนี้เริ่มโด่งดัง สื่อต่างๆ ในจีนก็เริ่มตั้งฉายาให้กับห้องพักของหญิงสาวรายนี้ว่าเป็น “ห้องพักที่รกที่สุดตลอดกาล” และเกิดคำถามขึ้นว่าทำไมหญิงสาวถึงไม่มีเวลาเก็บกวาดห้อง? สมาชิกในโลกออนไลน์ที่ใช้ชื่อว่า @金属杯盖 ได้กล่าวไว้ว่า “อ่าฮ่า กลายเป็นว่าห้องนี้เป็นของผู้หญิง มีขยะเยอะกว่าหอพักชายอีกนะเนี๊ยะ ในที่สุดผู้ชายก็มีข้อโต้แย้งสักที” และ @风葬秋暝 บอกว่า “หลังจากที่คุณจบการศึกษาแล้ว คุณสามารถหางานได้ทันทีที่กองขยะเลยนะ” ลองชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลย โอย เหมียวเห็นแล้วจะเป็นลมแทน หนุ่มๆ คนไหนได้เธอไปเป็นแฟนล่ะก็…ขอให้โชคดีนะ ที่มา shanghaiist
-
เหมียวนี่ยอมใจ!! เด็กขายดอกไม้ในจีนตื้อจะขายของแก่คนผ่านไปผ่านมา ทั้งเกาะแขน ทั้งทิ้งตัว!?
หลายๆ คนน่าจะเห็นเห็นเทคนิคการขายของอันแพรวพราวของพ่อค้าตามสี่แยกมาแล้วมากมาย บางคนอาจจะมีเทคนิคในการส่งสายตา มีลูกอ้อน ลดแลกแจกแถมอะไรก็ว่ากันไป เพื่อให้คุณยอมควักเงินในกระเป๋าให้พวกเขา แต่ขอบอกเลยว่าวิธีที่คุณจะได้เห็นต่อไปนี้ มันเป็นอะไรที่ชวนเหวอมาก!! เมื่อวันที่ 27 มีนาคม เว็บไซต์ Overseas.weibo ได้เผยแพร่ภาพของแม่ค้าสาวชาวจีนตัวเล็กคนหนึ่ง ที่พยายามขายดอกไม้ให้แก่ชายหนุ่มคนหนึ่ง แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สนใจเท่าไหร่ จึงเดินผ่านแม่ค้าสาวไปเฉยๆ แต่ด้วยจิตวิญญาณอันแรงกล้าของแม่ค้าสาว เธอจึงพยายามเกาะที่แขนเสื้อของชายหนุ่มและตื้อให้เขาซื้อดอกไม้ของเธอ แต่ก็ยังไม่สำเร็จ!! แม่ค้าสาวจึงทิ้งตัวลงกับพื้น ไม่ยอมปล่อยให้ชายหนุ่มเดินผ่านเธอไปง่ายๆ โดยที่ไม่ได้ซื้อดอกไม้จากเธอ โอ้วคุณพระ!! หลังจากที่ภาพนี้ถูกเผยแพร่ออกไปในสื่อสังคมออนไลน์ของจีน ชาวเน็ตต่างก็วิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นาน เช่นผู้ที่ใช้นามแฝงว่า @我命已定盘 กล่าวว่า “การเป็นคนขายดอกไม้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เราควรจะเห็นใจและซื้อคนละดอก” หรือคุณ @M_sir98 บอกว่า “สาวน้อยคนนี้ควรจะมีศักดิ์ศรีบ้าง” เทคนิคการขายแบบนี้ต้องบอกเลยว่าทุ่มทุนสร้างมากๆ #เหมียวฟิ้นเองยังไงเคยทำ เดี๋ยวไว้ต้องกลับไปลองทำบ้างแล้ว ที่มา overseas.weibo
-
นักวิ่งชาวจีนปวดท้องนับพันคน หลังกินสบู่องุ่นเข้าไประหว่างวิ่ง เพราะคิดว่าเป็นอาหาร!?
ในงานแข่งขันวิ่งมาราธอนแต่ละที่มักจะมีการแจกอาหาร แจกน้ำ และผลไม้บำรุงร่างกายต่างๆ ให้แก่เหล่านักวิ่ง แต่คุณอาจจะต้องสังเกตฉลากดีๆ หน่อยนะ เพราะหากคุณกินโดยไม่ทันดูล่ะก็ คุณอาจจะถูกหามส่งโรงหมอก่อนที่จะเข้าเส้นชัยก็เป็นได้… เมื่อวันที่ 25 มีนาคม ปี 2016 สำนักข่าว Qingyuan Daily ได้รายงานว่ามีนักวิ่งนับพันคนมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรงระหว่างการแข่งขันวิ่งมาราธอนในเมืองชิงหย่วน ทางตอนใต้ของประเทศจีน ตามรายงานบอกว่าทางทีมแพทย์และพยาบาลในงานแข่งขันมาราธอนต้องรีบเข้ามาช่วยปฐมพยาบาลแก่นักวิ่งกันอย่างวุ่นวายเกือบ 12,000 ครั้ง ทั้งนี้มีการโทรเรียกรถพยาบาลกว่า 23 ครั้ง มีคนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล 17 คน และมีผู้ที่อยู่ในอาการปวดท้องขั้นรุนแรงอีก 5 คน เมื่อสอบถามไปยังผู้จัดงานถึงสาเหตุที่เหล่านักวิ่งเกิดอาการปวดท้องก็เป็นเพราะว่าทางผู้จัดงานได้มอบถุงของขวัญแก่นักวิ่ง โดยหนึ่งในของขวัญที่อยู่ในถุงนั้นเป็นสบู่กลิ่นองุ่น ซึ่งผู้เข้าร่วมงานจำนวนมากเข้าใจผิดคิดว่านั่นคือขนมเพิ่มพลังงานและกินเข้าไปนั่นเอง . จะกินอะไรก็ดูกันดีๆ หน่อยซิพวกมนุษย์ ไม่ใช่ได้มาแล้วยัดเข้าปากเลย ที่มา blogs.wsj
-
สาวจีนถูกรถตู้ชนจนกลิ้งเข้าไปอยู่ใต้ท้องรถ แต่ดันรอดแถมบาดเจ็บเล็กน้อยเท่านั้น!?
[บทความต่อไปนี้อาจมีภาพและเนื้อหาที่ต้องใช้วิจารณญาณในการรับชม] เมื่อวันที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Rocketnews24 ได้เผยแพร่คลิปวิดีโออุบัติเหตุสุดอึ้งของหญิงสาวรายหนึ่งขณะเดินข้ามถนนที่การจราจรแออัดในเมืองอันฮุย ประเทศจีน เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 18 มีนาคม ในระหว่างที่เธอเดินข้ามถนนอยู่นั้นเอง กลับมีรถตู้เลี้ยวมาจากถนนอีกเส้นและชนเข้ากับเธอจากด้านหลังจนเจ้าตัวล้มลงและกลิ้งไปอยู่ใต้ล้อรถอย่างสยดสยอง แถมเธอยังถูกรถตู้ลากต่อไปอีกประมาณเมตรกว่าๆ จากนั้นชาวบ้านที่อยู่แถวนั้นก็รีบเข้ามาในที่เกิดเหตุเพื่อดูอาการหญิงสาว ต่อมาคนขับรถตู้ก็ลงมาช่วยยกรถตู้เพื่อดึงเอาตัวหญิงสาวออกมา และตะโกนขอความช่วยเหลือจากคนที่ผ่านไปผ่านมาแถวๆ นั้น จนในที่สุดก็สามารถดึงตัวหญิงสาวออกมาจากใต้ท้องรถได้ในที่สุด ทั้งนี้มีรายงานเพิ่มเติมจากสำนักข่าว CCTV บอกว่าหญิงสาวปลอดภัยดี แถมยังได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น สาเหตุที่อุบัติเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นอาจจะเป็นเพราะว่าคนขับรถตู้นั้นขับด้านซ้าย และคนเดินข้ามถนนเองก็อยู่ด้านซ้ายของรถตู้เช่นกัน ทำให้คนขับมองไม่เห็นคนข้ามถนน ในขณะที่น้ำหนักของรถตู้ถูกเทไปทางด้านขวา ทำให้ไม่สามารถหักหลบได้ทันนั่นเอง ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลย โชคดีมากเลยนะเนี๊ยะที่รอดมาได้ แต่ไม่ใช่ทุกคนหรอกนะที่จะโชคดีแบบนี้ คราวหน้าคราวหลังก็ระวังกันไว้ด้วยนะจ๊ะ ที่มา rocketnews24
-
เล๊ะตุ้มเป๊ะ!! หนุ่มจีนจอดรถหรูขวางทางเข้าออกหมู่บ้าน ชาวบ้านทนไม่ไหวเอาไข่และน้ำหมึกมาปากันมันส์มือ!!
แม้ว่าคนบางคนจะขับหรู ราคาเป็นล้านๆ แต่ก็ใช่ว่าคุณภาพการขับขี่รถของคนบางคนจะเพิ่มสูงตามราคารถไปด้วยนะ และหากคุณไปทำนิสัยแย่ๆ ไว้มากเข้าล่ะก็ อาจจะถูกผู้ใช้รถใช้ถนนรายอื่นๆ รุมเละแบบเจ้าของรถคันนี้ก็ได้นะ… เมื่อวันที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่าเจ้าของรถพอร์เช่รายหนึ่งในกรุงเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ได้จอดรถขวางทางเข้าออกของเพื่อนบ้านเป็นเวลานานกว่า 14 ชั่วโมง ทำให้พวกเขาหมดความอดทน จึงหยิบเอาไข่และน้ำหมึกมาสาดใส่รถหรูสะเละเทะเลยทีเดียว ตามรายงานบอกว่าเรื่องราวทั้งหมดเริ่มต้นมาจากช่วงเช้าของวันอังคารที่ผ่านมา เกิดเหตุการณ์ถกเถียงกันระหว่างเจ้าของรถพอร์เช่แซ่หวาง และยามรักษาความปลอดภัยในละแวกนั้น โดยฝ่ายยามรักษาความปลอดภัยพยายามจะคิดค่าที่จอดรถแก่นายหวาง เนื่องจากเขาจอดรถนานเกิน 7 วัน เป็นจำนวน 70 หยวน หรือประมาณ 380 บาท แต่เจ้าของรถกลับโกรธจัด เพราะนายหวางบอกว่าเขาเองก็เป็นหนึ่งในสมาชิกของคนในละแวกนั้นเช่นกัน จึงไม่ควรที่จะถูกปรับเป็นจำนวนเงินที่มากขนาดนี้ แถมรถคันนี้ก็ยังไม่ได้จดทะเบียนด้วย เขาจึงควรลดค่าปรับลงเหลือเพียง 10 หยวน หรือประมาณ 54 บาทเท่านั้น นอกจากนี้นายหวางยังบอกอีกว่ายามรักษาความปลอดภัยพูดจาดูถูกเขา เขาเลยอยากจะแก้แค้นโดยการจอดรถขวางทางเข้าออกของหมู่บ้าน แต่เห็นได้ชัดเลยว่านายหวางไม่ได้คิดถึงผลกระทบเกี่ยวกับเพื่อนบ้านเลย เพื่อนบ้านของเขาจึงต้องเปลี่ยนไปใช้เส้นทางฉุกเฉินแทน และนั่นก็ยิ่งทำให้ชาวบ้านโกรธแค้นและต้องลงไม้ลงมือในที่สุด …
-
“สะพานข้ามหุบเขา” ในจีน แหล่งท่องเที่ยวสำหรับคนชอบความท้าทาย แค่ก้าวเดียวขาก็สั่นแล้ว
ณ จุดจุดนี้ ต้องขอบอกไว้ก่อนเลยว่า หากใครที่กลัวความสูง คุณไม่ควรไปยุ่งกับสะพานแห่งนี้เด็ดขาด เพราะนี่คือ ‘สะพานข้ามหุบเขา’ สุดหวานเสียว ตั้งอยู่ในมณฑลยูนนาน ประเทศจีน ซึ่งสะพานแห่งนี้ มีความสูงเหนือพื้นน้ำกว่า 120 เมตร อีกทั้งตัวสะพานได้สร้างขึ้นมาจากไม้ และเชือกที่มีความยาวกว่า 80 เมตรเลยทีเดียว เห็นแบบนี้แล้วยังจะกล้าข้ามกันมั้ย? เหตุที่ได้ทำการสร้างสะพานแห่งนี้ขึ้นมา ก็เพื่อให้ชาวบ้านในเขตปกครองตนเองชนชาติจ้วงและม้ง เหวินซาน ได้ใช้ในการเดินทางข้ามไปมายังไงละ ดูแล้วน่าหวาดเสียวเหมือนกันเนาะ เพราะมันถูกสร้างขึ้นมาจากเชือก และไม่เท่านั้น!! และด้วยความที่มันเป็นสะพานสุดหวาดเสียว ก็ยิ่งทำให้นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบความท้าทาย และอยากเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ได้เดินทางเข้ามาเที่ยว ณ สถานที่แห่งนี้กันอย่างไม่ขาดสาย แม้หลายคนอาจจะไม่กล้าเดินข้ามสะพานแห่งนี้ แต่สำหรับนักผจญภัยบางคน บอกเลยว่าจะต้องถูกใจแน่ๆ แต่สำหรับแมวอย่างเหมียว คงจะไม่ขอข้ามไปแน่ๆ ละ ก็ไม่ใช่เพราะอะไรหรอก เก๊าแค่กลัวความสูงเฉยๆ ที่มา : สำรวจโลก
-
ทำไมโหดกันอย่างนี้!? กลุ่มนักเรียนจีนดักทำร้ายร่างกายอาจาร์ย เพียงเพราะโดนต่อว่าในห้องเรียน!?
ถือเป็นเรื่องราวชวนอึ้งไปเลย สำหรับกรณีของกลุ่มเด็กนักเรียนชาวจีน ที่แค้นอาจารย์ผู้สอนเพียงเพราะถูกตำหนิในห้องเรียน เลยพากันยกพวกไปดักทำร้ายร่างกายเขาซะอย่างงั้น!? เมื่อวันที่ 22 มีนาคม เว็บไซต์ Shanghaiist ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอของ 2 เด็กนักเรียนชายชั้นมัธยมจากโรงเรียน มัธยมเป่าจี๊ ในมณฑลส่านซี ประเทศจีน ที่กำลังรุมทำร้ายร่างกายคุณครูภายในตรอกเล็กๆ แห่งหนึ่ง ตามรายงานบอกว่านักเรียนทั้ง 2 คนได้เข้าทำร้ายร่างกายคุณครูสอนวิชาดนตรี ทั้งต่อยและเตะอย่างรุนแรง ในระหว่างนั้นมีชาวบ้านที่อยู่ใกล้ๆ พบเห็นเหตุการณ์เข้าพอดี จึงเข้าไปห้ามปราม แต่เด็กนักเรียนพยายามกันไม่ให้พวกเขาเข้าไปได้ จึงแอบถ่ายคลิปวิดีโอไว้และนำไปส่งให้ตำรวจท้องถิ่น เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งก็รีบเดินทางมาที่เกิดเหตุและนำตัวคุณครูส่งโรงพยาบาลทันที และโทรเรียกให้พ่อแม่ของเด็กๆ มารับตัวพวกเขากลับบ้านหลังจากที่ได้ตำหนิและสั่งสอนทั้งสองคนเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ยังมีข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่าสาเหตุน่าจะเกิดจากเด็กๆ ถูกคุณครูตำหนิในชั้นเรียนจนเกิดความแค้นส่วนตัว และเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคมที่ผ่านมาแล้ว แต่เด็กนักเรียนทั้งสองกลับไม่ได้ถูกลงโทษร้านแรงอะไร มีเพียงการกล่าวตักเตือนเท่านั้น ส่วนคุณครูเมื่อทำการรักษาพยาบาลเสร็จก็กลับมาทำงานตามปกติ ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลยจ้า มีอะไรก็ค่อยๆ พูดค่อยๆ จากันดีกว่านะนักเรียน ที่คุณครูเขาตำหนิหรือตักเตือนก็เพราะว่าพวกเขาพายามสอนให้เราเป็นคนดีนั่นเอง หากไม่มีคุณครู ไม่มีกฎระเบียบ นักเรียนจะเติบโตไปเป็นคนที่มีระเบียบวินัยได้ยังไงล่ะจริงไหม? ที่มา shanghaiist
-
พ่อค้าหนุ่ม เปิดศึกต่อยกับเจ้าหน้าที่หลังถูกยึดโต๊ะอาหาร แต่จู่ๆ ดันไปจุ๊บปากเขาซะงั้น สุดท้ายโดนยำเละ!!
นี่เราไม่ได้ฟังผิดไปใช่ไหม!! เมื่อมีหนุ่มวัย 26 รายหนึ่ง ได้ทำการเปิดศึกปะทะกันอย่างดุเดือดกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนถึงขั้นลงไม้ลงมือต่อยกันซะอย่างนั้น แต่จู่ๆ เรื่องราวแสนอลหม่านกลับพลิกผัน พ่อหนุ่มคนนั้นดันไปจูบปากเจ้าหน้าที่เสียนี่ ตายๆ แล้วเรื่องมันเป็นมาอย่างไร มาฟังกันเลย เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2559 มีรายงานเหตุการณ์ชวนขำปนอึ้งนิดๆ ของหนุ่มคนดังกล่าวที่เราได้เอ่ยไปข้างต้น หนุ่มคนนี้เขาเป็นเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวริมถนน ในเมืองหลิ่วโจว เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ประเทศจีน แต่จู่ๆ ร้านของเขาก็ถูกประชาชนร้องเรียงผ่านทางเจ้าหน้าที่ว่า ร้านแห่งนี้ได้นำโต๊ะอาหารมาวางขวางทางเท้า งานนี้จึงทำให้เจ้าหน้าที่ได้เข้ามาตักเตือน พร้อมบอกให้เขานำโต๊ะออกจากบริเวณทางเท้าให้หมด เมื่อโดนเตือนขนาดนี้ เราก็ต้องทำตามกฎระเบียบ แต่ทว่าเมื่อเจ้าหน้าที่ได้กลับมาตรวจความเรียบร้อยอีกครั้ง ก็พบว่าชายเจ้าของร้านยังปล่อยให้โต๊ะวางอยู่ที่เดิม แล้วเป็นไงละทีนี้!! ก็งานเข้าสิครัช โดนเจ้าหน้าที่ยึดโต๊ะไปตามระเบียบ แต่ยัง!! เรื่องราวมันยังมีต่อ เพราะดูเหมือนชายคนดังกล่าว ไม่ยอมง่ายๆ เสียด้วยสิ เขากลับเล่นเปิดศึกคว้าเก้าอี้มาไล่ทุบเจ้าหน้าที่ซะงั้น ก่อนที่จะเกิดเป็นเรื่องราววุ่นวายขึ้นแบบไม่มีท่าทีว่าจะจบลงง่ายๆ ในขณะที่หนุ่มเจ้าของร้านคนดังกล่าว กำลังจ้องหน้ากับเจ้าหน้าที่อย่างดุเดือด จู่ๆ อะไรก็ไม่รู้มาดลใจ ทำให้เขาจูจุ๊บเข้าที่ริมฝีปากของเจ้าหน้าที่ไปซะอย่างนั้น งานนี้ก็โดนเจ้าหน้าที่รายอื่นรุมสกรัม…
-
ชาวบ้านจีนหัวใส ขาย “อากาศบริสุทธิ์” ใส่ถุง สำหรับคนที่อยากหลบหนีจากอากาศในเมือง?!?!
ประเทศจีนนี่มีอะไรมาให้เราได้แปลกใจอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาเรื่องการ “ขาย” ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่า ประเทศจีนนั้นเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องการ “ขาย” ทุกสรรพสิ่งตั้งแต่ไข่ปลอม ยันเด็กทารก และวันนี้พวกเขาพัฒนาไปอีกขั้นด้วยการขายอากาศ!! เรื่องราวมีอยู่ว่า ชาวบ้านจากเมืองซิงหยวน จากมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีนได้ตั้งแผงขาย “อากาศบริสุทธิ์” ให้กับเหล่านักท่องเที่ยวที่หลบหนีความวุ่นวายของเมืองมายังเทือกเขาแห่งนี้ โดยราคาของ “อากาศ” เหล่านี้มีตั้งแต่ถุงละ 10 หยวนหรือราว 60 บาท ไปจนถึง 30 หยวนหรือราว 180 บาทขึ้นอยู่กับขนาดความใหญ่ของถุง ผู้ที่ขายกล่าวว่า นี่คือโอกาสของเหล่าชาวเมืองอันจอแจที่สามารถนำอากาศอันสดชื่นของธรรมชาติ กลับไปสูดในเมืองได้ แต่ก็เป็นที่น่าสังเกตว่า การขายอากาศเช่นนี้ถือว่าผิดกฎหมายหรือไม่ เพราะหนึ่งในกฎหมายการค้าขายขั้นพื้นฐาน “อากาศ” เป็นสิ่งที่ไม่สามารถค้าขายได้ ดั่งเช่นที่ภัตตาคารจีนแห่งหนึ่ง แอบเก็บเงินแค่อากาศบริสุทธิ์ในร้าน จนกรมการค้าภายในของจีน ต้องเข้ามาจัดการ และลงโทษปรับในที่สุด แบบนี้ก็มีด้วย ขายอากาศกันดื้อๆ งี้เลย…
-
สะเทือนอารมณ์ หนุ่มจีนถูกจ้างให้ปลอมตัวเป็นหลานชายที่ตายไปแล้ว เพื่อให้คุณยายสบายใจ
นี่เป็นหนึ่งในเรื่องราวชวนให้#เหมียวฟิ้นสะเทือนใจ ที่ก้ำกึ่งระหว่างความความรัก ความถูกต้องและศีลธรรมเลยทีเดียว เมื่อวันที่ 19 มีนาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่าชายชาวจีน Huang Xiaoyong ว่าจ้างชายหนึ่มคนหนึ่งให้ปลอมตัวเป็นลูกชายของตัวเอง เพื่อไม่ให้คุณยายของเขาจับได้ว่าหลานชายเสียชีวิตไปแล้วตั้งแต่ปี 2009 ตามรายงานบอกว่านาย Huang Ge ลูกชายของ Huang Xiaoyong ได้ป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้อเสื่อมพันธุกรรม และเสียชีวิตไปตั้งแต่เมื่อปี 2009 แต่เขากลับปกปิดเรื่องนี้ไม่ให้คุณแม่ของเรารู้ แถมหูตาของเธอก็เริ่มฟ่าฟาง ทำให้เธอแทบจะไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าหลานชายของเธอได้จากไปแล้ว นาย Huang Xiaoyong ได้บอกกับแม่ของเขาว่าหลานชายกำลังอยู่ในช่วงทำกายภาพบำบัดเพื่อกลับมาเดินได้อีกครั้ง แต่เนื่องจากลูกชายเสียชีวิตไปนานแล้ว เขาจึงจำเป็นที่จะต้องหลอกแม่ของเขาไปเรื่อยๆ เป็นเวลาหลายปี จนกระทั่งวันหนึ่งแม่ของเขาก็เริ่มเฝ้าถามถึงหลานชายสุดที่รักของเธอ นาย Huang Xiaoyong จึงจำเป็นที่จำต้องพาลูกชายมาเจอกับเธอ แต่ในเมื่อเรื่องทุกอย่างเป็นเรื่องโกหก เขาก็เลยต้องตามหาคนที่มีลักษณะคล้ายกับลูกชายของเขา เพื่อปลอมตัวให้แม่ของเขาได้หาสงสัย จนวันหนึ่งเขาก็ได้พบกับชายที่ชื่อ Wang Feng นาย Huang เลยให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า “ผมต้องการชายหนุ่มอายุระหว่าง 25-28 ปี…
-
ออสเตรเลียขยายเวลาวีซ่าสำหรับชาวจีนเป็นเวลา 10 ปี หวังดึงเม็ดเงินจากนักท่องเที่ยว!!
ประเทศออสเตรเลียถือเป็นประเทศที่ใครๆ ก็อยากไปเที่ยวนะ เพราะเป็นประเทศที่สวยงาม มีความสงบ แถมเด็กๆ ชาวไทยก็เดินทางไปศึกษาต่อที่นั่นมากมายทีเดียว ล่าสุดพวกเขาได้เตรียมส่งเสริมการท่องเที่ยวให้กับชาวจีนโดยเฉพาะเลย เมื่อวันที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายว่า ประเทศออสเตรเลียเสนอวีซ่าให้ชาวจีนเข้ามาในประเทศได้นานถึง 10 ปี เพื่อดึงเอานักท่องเที่ยวและเม็ดเงินจำนวนมากเข้าสู่ประเทศ จากที่ก่อนหน้านี้จะสามารถขอวีซ่าท่องเที่ยวได้ไม่เกิน 1 ปี ตามรายงานบอกว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ Julie Bishop ได่กล่าวนโยบายดังกล่าว ถือเป็น “ตัวเปลี่ยนเกม” เลย เพราะเป็นการให้อิสระแก่นักท่องเที่ยวจีน ด้านนาย Zhang Chuanbo ผู้เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกล่าวว่า “ในหลายๆ ประเทศได้มีการผ่อนปรนเรื่องระยะเวลาวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวชาวจีนลง ยกตัวอย่างเช่นบางประเทศอย่างเกาหลีใต้ ออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกา และสิงคโปร์ ได้ยืดระยะเวลาจากเดิม 5 ปี เป็น 10 ปี” แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นนักวิเคราะห์มองกันว่าการขยายระยะเวลาวีซ่าดังกล่าวจะยังคงมีขอบเขตอยู่ เพื่อป้องกันไม่ให้ชาวจีนแอบมาทำงานในออสเตรเลียนั่นเอง #เหมียวฟิ้นมั่นใจเลยว่าหลังจากนี้ออสเตรเลียจะได้รับเม็ดเงิน จากนักท่องเที่ยวชาวจีนจนโกลาหลแน่นอน…
-
ขนลุกขนพอง!! สาวจีนอัดคลิปขณะเปิบแมงป่องเสียบไม้เป็นๆ อย่างเอร็ดอร่อย!?
ขึ้นชื่อว่าเปิบพิสดาร หลายๆ คนก็คงจะนึกถึงเมนูแปลกๆ อย่างการกินอาหารดิบๆ เมนูสารพัดสัตว์ที่คนทั่วไปเขาไม่กินกัน…แต่บางคนกลับชอบกินซะงั้น เมื่อวันที่ 18 มีนาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Liveleak ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอสุดอึ้งของสาวจีนรายหนึ่ง ที่กำลังถือแมงป่องเสียบไม้ตัวเป็นๆ จากนั้นเธอก็งับเข้าปากไปอย่างเอร็ดอร่อย ประหนึ่งเป็นอาหารโปรดที่เธอโหยหามานาน!? แม้ว่าแมงป่องจะเป็นสัตว์มีพิษที่คนส่วนใหญ่หวาดกลัว แต่สำหรับชาวจีนแล้ว พวกเขาเชื่อว่าการรับประทานแมงป่องแบบเป็นๆ จะช่วยให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง คล้ายกับการดื่มยายาอายุวัฒนะยังไงยังงั้นเลย ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลย สำหรับ#เหมียวฟิ้นแล้ว แค่กินยำกุ้งเต้นก็ถือเป็นที่สุดของความแปลกแล้วล่ะ เห็นแบบนี้แล้วถึงกับจุกในลำคอเลยทีเดียว ที่มา liveleak
-
สาวจีนสั่งซื้อ Apple iPhone 6s ผ่านเน็ตเพราะราคาถูก ปรากฏว่าดันได้ Pear Phone มา 2 เครื่องซะงั้น!?
การสั่งซื้อของออนไลน์ในปัจจุบันนี้ถือเป็นสิ่งที่ได้รับความนิยมมากเลยนะ เพราะไม่ต้องเสียเวลายืนเลือกของ กว่าจะเดินทาง กว่าจะไปถงห้าง กว่าจะกลับอีก แต่มันก็ยังคงมีความเสี่ยงอยู่บ้างนะ เพราะหากคุณไม่เจอของที่ราคาถูก “ผิดปกติ” คุณอาจจะกลายเป็นเหยื่อของพวกมิจฉาชีพก็เป็นได้ เมื่อวันที่ 18 มีนาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่าหญิงสาวชาวจีนแซ่เฉาได้ทำการสั่งซื้อมือถือ iPhone 6s ผ่านเว็บไซต์ออนไลน์แห่งหนึ่ง เนื่องจากเห็นว่ามีราคาถูกเพียง 3,400 หยวน หรือประมาณ 18,317 บาทเท่านั้น แต่หลังจากที่เธอโอนเงินให้กับพ่อค้าแล้ว กลับได้รับแจ้งว่า ตอนนี้มือถือของเธอถูกศุลกากรยึดเอาไว้ เธอจำเป็นจะต้องโอนเงินให้กับพ่อค้าอีกราวๆ 5,000 หยวน หรือประมาณ 26,937 บาท และเมื่อเธอได้รับของแล้วพ่อค้าจะโอนเงินคืนให้กับเธอเอง ซึ่งเธอก็ตอบตกลงแต่โดยดี แต่แน่นอนว่ามีพิรุธแบบนี้เธอคงจะไม่ได้มือถือ Apple iPhone6s แบบปกติแน่นอน และเมื่อพัสดุมาส่งถึงบ้านเธอก็แทบลมจับ เพราะภายในนั้นคือ Pear Phone ที่มีสัญลักษณ์ด้านหลังเป็นลูกแพร์!! เมื่อเธอพยายามจะติดต่อพ่อค้าเพื่อขอคืนเงินก็สายไปซะแล้ว เพราะเขาปิดมือถือและเปิดแน่บไปแล้วเรียบร้อย จำไว้ว่าของถูกและดีไม่มีในโลกนะ อาจจะมีบ้างแต่ถ้าถูกจนเกินจริง ให้สันนิษฐานก่อนว่าอาจจะไม่จริงนะจ๊ะ ที่มา shanghaiist
-
พ่อลูกชาวจีนใจบุญ รับเลี้ยงหมาจรจัดกว่า 300 ตัว ตลอดเวลา 13 ปีที่ผ่านมา!!
เรื่องที่ #เหมียวฟิ้น จะนำมาเล่าต่อไปนี้ เป็นเรื่องราวของสองพ่อลูกสุดใจบุญคู่หนึ่งในมณฑลหูเป่ย ประเทศจีน ที่รับเลี้ยงสุนัขจนจัดมานานกว่า 13 ปี จนพวกเขาเปลี่ยนชีวิตของพวกมันให้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา พ่อลูกคู่นี้ได้รับสุนัขมาเลี้ยงแล้วกว่า 300 ตัว ซึ่งแต่ละตัวนั้นมีอาการป่วย พิกลพิการ ถูกทารุณกรรม หรือได้รับบาดเจ็บอะไรสักอย่าง โดยตัวลูกสาวอย่าง A Zi ได้เผยว่า พวกเขาเคยแม้กระทั่งไปช่วยสุนัขให้รอดพ้นจากโรงฆ่าสัตว์เลยทีเดียว ในขณะที่พวกเขาต้องพบกับความยากลำบากและสัตว์มากมายหลายรูปแบบตลอดหลายปีที่ผ่านมา พวกเขาก็ไม่เคยคิดเลยว่าจะล้มเลิกการรับเลี้ยงสัตว์ แถมยังวางแผนที่จะช่วยเหลือสัตว์ให้ได้มากกว่านี้ซะอีก ตามรายงานไม่ได้ระบุจำนวนตัวเลขที่สองพ่อลูกต้องจ่ายเพื่อดูแลสุนัขกว่า 300 ตัว (แต่คาดว่าน่าจะเป็นแสนทีเดียว) คนใจบุญนี่ก็ใจบุญเหลือล้นจริงๆ ส่วนคนใจร้ายก็ร้ายได้แบบจินตนาการไม่ถึงทีเดียว ที่มา shanghaiist
-
ชายจีนพิการแขนขาดไม่ยอมแพ้โชคชะตา ประดิษฐ์แขนกลใช้เองจนสามารถใช้ชีวิตได้เหมือนคนปกติ
แม้ชีวิตของคนเราจะสูญเสียกำลังใจและอะไรหลายๆ อย่างไป แต่ก็อย่างได้ยอมแพ้ต่อโชคชะตาเด็ดขาด เพราะหากคุณลุกขึ้นสู้แบบชายชาวจีนรายนี้ จะต้องมีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นกับคุณอย่างแน่นอน เรื่องราวที่#เหมียวฟิ้นจะหยิบมาเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องราวของนาย ซัน จีฟ่า วัย 63 ปี จากจังหวัดจี๋หลิน ประเทศจีน เขาได้สูญเสียแขนไปทั้ง 2 ข้าง แต่ด้วยความไม่ย่อท้อ ทำให้เขาประดิษฐ์แขนเหล็กขึ้นมาใช้ด้วยตนเอง จนได้รับฉายาว่า “ซันแขนเหล็ก” นายซันเล่าว่าเขาได้เข้าร่วมกับกองทัพเมื่อปี 1974 เข้ามีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับระเบิดเป็นพิเศษ หลังจากรับใช้ชาติเสร็จแล้วเขาก็ถูกปลดประจำการกลับมาอยู่ที่บ้านและแต่งงานมีครอบครัว วันหนึ่งในเดือนกันยายนปี 1980 เขาได้ออกไปจับปลานอกบ้านเพื่อนำมาทำอาหารให้กับภรรยาของเขา แต่แทนที่จะใช้เบ็ตตกปลาแบบทั่วๆ ไป เขากลับใช้ตัวจุดระเบิดเพื่อระเบิดให้ปลาลอยขึ้นมาเหนือน้ำ แต่โชคร้ายที่ระเบิดดันระเบิดใส่มือของเขาก่อนที่จะระเบิดลงในแอ่งน้ำ ทำให้เขาสูญเสียแขนตั้งแต่ช่วงข้อศอกลงไป ในตอนนั้นนายซันรู้สึกท้อแท้กับชีวิตถึงขั้นอยากจะฆ่าตัวตายเลยทีเดียว โชคดีที่เขาได้กำลังใจจากภรรยา คนรอบๆ ตัว ทำให้นายซันฮึดสู้อีกครั้ง วันหนึ่งในปี 1934 นายซันได้ประดิษฐ์แขนกลขึ้นมาใช้กับแขนที่ขาดไปของเขา มันทำมาจากพลาสติก, ยาง และเหล็ก แต่นั่นยังไม่เป็นที่พอใจสำหรับเขา เลยมีการนำเอาแชนกลมาพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ …
-
แจ่มทุกสมัย!! มหาวิทยาลัยในจีน ทำอัลบั้มภาพเปรียบเทียบอดีต-ปัจจุบัน เพื่อฉลองการก่อตั้งครบ 120 ปี
ในตอนที่เรียนมหาวิทยาลัย เพื่อนๆ เคยลองนำภาพถ่ายในอดีต มาเปรียบเทียบกับภาพปัจจุบัน ในสมัยที่เรากำลังเรียนอยู่ เพื่อดูความเปลี่ยนแปลงของมหาวิทยาลัยหรือไม่ เชื่อว่าน้อยคนนักที่จะมีไอเดียแบบนี้ แต่สำหรับมหาวิทยาลัย Shanghai Jiaotong มหาวิทยาลัยที่เรียกได้ว่าเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศจีน ได้ปิ๊งไอเดียสุดบรรเจิด จัดทำอัลบั้มภาพสุดเก๋ไก๋ เพื่อฉลองการก่อตั้งสถาบันครบ 120 ปี โดยนำภาพถ่ายจากสถานที่ต่างๆ ในมุมเดียวกัน แล้วให้บรรดานักศึกษาได้เข้าไปถ่ายภาพให้เหมือนกับภาพถ่ายของนักศึกษาในอดีต ไม่ว่าจะเป็นท่าทางการโพสต์ รวมไปถึงท่ายืน ให้ออกมาเหมือนกันเป๊ะๆ จึงเกิดเป็นภาพที่แสนประทับใจเหล่านี้ยังไงละเหมียว ภาพของนักศึกษาในสมัยก่อน และภาพของนักศึกษาในปัจจุบัน แต่ละคนต่างก็สวยหล่อกันตามยุคตามสมัย เรียกได้ว่าเป็นไอเดียที่ยอดเยี่ยมมาก ไม่ว่าจะในอดีตหรือปัจจุบัน เหล่านักศึกษาดูสดใส และเต็มไปด้วยรอยยิ้มทั้งนั้นเลย แม้ว่าจะผ่านไปกี่ยุคกี่สมัย มหาวิทยาลัยก็ไม่เคยเปลี่ยน ไม่ว่ารุ่นไหนๆ ก็แจ่มทั้งนั้นเลย ถือเป็นไอเดียฉลองการก่อตั้งสถาบันที่เจ๋งมากจริงๆ เพราะไม่ต้องลงทุนลงแรงจัดงานใหญ่โตอะไรมากมาย แต่กลับทำให้เหล่านักศึกษาได้เห็นค่า และภาคภูมิใจที่ได้เรียนในสถาบันแห่งนี้ ช่างเป็นภาพความทรงจำดีๆ ที่น่าประทับใจมากจริงๆ ที่มา : shanghaiist
-
ทารกน้อยพลัดตกตึกชั้น 5 หลังคุณยายปล่อยเล่นริมระเบียงคนเดียวจนประตูล็อค
อย่างที่ #เหมียวฟิ้น มักจะบอกกับเพื่อนๆ เสมอว่าไม่ควรปล่อยลูกน้อยไว้ในห้องนอนคนเดียว เพราะเด็กๆ มักอยากรู้อยากเห็นและซนยิ่งกว่าอะไรดี พวกเขาอาจได้รับอันตรายถึงแก่ชีวิตได้เลยนะ เมื่อวันที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่าเมื่อช่วงบ่าย 3 ของวันที่ 10 มีนาคม หนูน้อยชาวจีนวัย 1 ขวบ ได้พลัดตกลงมาจากระเบียงชั้น 5 ที่อพาร์ทเม้นต์แห่งหนึ่งในเมืองดองกวน ประเทศจีน แต่โชคดีที่มีคนมาช่วยชีวิตไว้ได้ทัน นางสาวซู หนึ่งในผู้ที่อยู่ในที่เกิดเหตุให้สัมภาษณ์ว่า “ฉันกำลังนั่งพักผ่อนอยู่ที่ชั้นหนึ่งของอาคาร ตอนนั้นฉันได้ยินเสียงร้องของเด็กพอดี ฉันเลยเงยหน้าไปมอง เห็นเด็กนั่งอยู่ที่ริมระเบียงชั้น 5 โดยมีขาข้างหนึ่งยื่นออกมาจากระเบียง” จากนั้นเธอก็รีบเข้าไปที่บ้านของตัวเองเพื่อดึงเอาเตียงออกมารองรับร่างของเด็กน้อยที่กำลังจะตกลงมา แถมยังมีเพื่อนบ้านที่อยู่แถวๆ นั้นเข้ามาช่วยเธอกันยกใหญ่ ในขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจก็พยายามพังประตูเข้าไปช่วยเหลือเด็กน้อยออกมาจากระเบียง แต่เด็กน้อยดันร่วงลงมาซะก่อน แต่มีคนจำนวนมากช่วยถือที่นอนไว้ด้านล่าง ทำให้เด็กน้อยไม่ได้รับบาดเจ็บร้ายแรง ตามรายงานบอกว่าสาเหตุที่เด็กน้อยตกลงมาจากระเบียงเป็นเพราะว่า ยายอุ้มหลานออกไปเล่นที่ระเบียง เล่นกันไปมาซักพัก คุณยายก็เข้าไปอยู่ฝั่งข้างในแล้วประตูดันล็อค ก็เลยทำให้เข้าไปที่ระเบียงไม่ได้ ซึ่งคุณยายเองสัญญาว่าจากนี้จะจะไม่ละสายตาจากหลานอีกเด็ดขาด ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลยจ้า…
-
มันต้องไปได้ซิ!! คนขับแท็กซี่ในจีนหัวรั้น ขับรถลงพื้นซีเมนต์ที่ยังไม่แห้ง สุดท้ายติดแหงกจ้า
ทุกครั้งที่หน่วยงานของรัฐมีการปิดถนนเพื่อซ่อมบำรุง พวกเขาก็จำมีการนำเอาป้ายสัญลักษณ์หรืออุปกรณ์ต่างๆ มาวางกั้นไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ใช้รถใช้ถนนได้รับความเดือดร้อน แต่ก็ยังมีคนขับรถบางคนที่ดื้อรั้นไม่ฟังใครเหมือนกันนะ… เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ถนนเส้นหนึ่งในเมืองฉงฉิ่ง ประเทศจีน ได้มีการซ่อมบำรุงและเทปูนซีเมนต์ลงไปใหม่ โดยนำเอาที่กั้นมาวางไว้อย่างชัดเจน แต่ในขณะนั้นมีแท็กซี่ขับผ่านมาด้วยความเร่งรีบ เลยคิดว่าคงจะไม่เป็นอะไรหากขับผ่านไปด้วยความเร็ว จากนั้นแท็กซี่คันนี้ก็พุ่งลงไปยังพื้นซีเมนต์ที่ยังไม่แห้งดี ผลปรากฏว่าแหง็กซิครับ แท็กซี่คันนี้ไม่สามารถขับต่อไปได้ นอกจากนี้ยังมีพยานที่เห็นเหตุการณ์บอกว่า รถแท็กซี่คันนี้ไม่ได้มีการชะลอแต่อย่างใด แถมยังขับทะลุสิ่งกีดขวางไปหน้าตาเฉย หลังจากที่คนขับแท็กซี่แหงกอยู่กับถนนได้ไม่นาน เขาก็ตัดสินใจได้เดินไปขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาเอารถของเขาออกไป ก่อนที่รถของเขาจะติดอยู่กับถนนไปตลอดกาล อยากจะขอเตือนเพื่อนๆ เลยนะว่าหากเจอถนนซีเมนต์ที่ยังไม่แห้งแถวไหน อย่าขับรถไปเหยียบเด็ดขาด (ปกติก็ไม่มีใครเขาขับไปเหยียบอยู่แล้วแหละ) ที่มา shanghaiist
-
เป็นไปได้ไง!? จีนเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ 4 คันชนกันแบบครึ่งวงกลม ตำรวจคาดเกิดจากไม่ให้ทางกัน
อุบัติเหตุนั้นเกิดขึ้นได้ทุกวัน แต่คงจะมีเพียงไม่กี่ครั้งหรอก ที่ทุกๆ คนจะต้องอึ้งและอุทานว่า “มันเกิดขึ้นได้ไงเนี๊ยะ!?” เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้รายงานว่าวันที่ 9 มีนาคม ได้เกิดอุบัติเหตุขึ้นบนถนน Yizhou ในมณฑลเสชวน ประเทศจีน ระหว่างรถยนต์ 4 คัน แต่ภาพที่เห็นไม่ใช่อุบัติเหตุธรรมดาๆ แต่เป็นภาพที่รถทั้ง 4 คันกำลังคันชนกันเป็นรูปครึ่งวงกลม ทำให้เกิดคำถามว่าพวกเขาขับรถยังไงถึงชนกันแบบนั้น!? เมื่อเข้ามาดูให้ชัดๆ จะเห็นว่ามีรถ 3 คันชนกันจากซ้ายไปขวา ส่วนรถสีขาวที่อยู่ขวาสุดถูกชนที่ด้านท้าย หลังจากที่เกิดอุบัติเหตุดังกล่าวเข้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ทำการสอบสวนโดยด่วน จากอุบัติเหตุครั้งนี้ ทำให้รถบัสที่วิ่งตามมาจากด้านหลังต้องหยุดชะงักลง และส่งผลให้การจราจรติดขัดเป็นอย่างมาก ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่าตอนนี้ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดว่าอุบัติเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นได้ยังไง ใครถูกหรือใครผิด แต่โชคดีที่คนขับรถทั้ง 4 คันไม่ได้รับบาดเจ็บร้ายแรง นี่อาจเกิดจากการที่คนขับรถทั้ง 4 คนไม่ยอมให้ทางแก่รถคันอื่นก็เป็นได้นะ เลยเกิดเป็นอุบัติเหตุที่ไม่มีใครยอมใครแบบนี้ยังไงล่ะ ที่มา dailymail
-
ตำรวจจีนน่ารัก โบกรถมอบดอกไม้ให้สาวๆ ที่ใส่ส้นสูงขับรถ พร้อมกับเตือนว่า “มันอันตรายนะครับ”
แม้ว่าทุกวันนี้จะมีข่าวแปลกๆ และข่าวลบๆ เกี่ยวกับประเทศจีนหรือชาวจีนออกมาอยู่บ่อยครั้ง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเรื่องราวดีๆ น่ารักๆ ของพวกเขาก็มีอยู่เช่นกัน มีรายงานว่าเมื่อวันที่ 8 มีนาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรในมณฑลฉงชิ่งที่ออกมายืนตั้งด่านและโบกให้รถยนต์ที่สาวๆ เป็นคนขับจอด เพื่อตรวจดูว่าพวกเธอใส่รองเท้าส้นสูงในการขับรถหรือไม่ จากนั้นพวกเขาก็มอบดอกไม้และกระดาษข้อความน่ารักๆ ให้กับพวกเธอเนื่องในวันสตรีสากล ด้านนางสาวเฉิน หนึ่งในหญิงสาวที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกให้จอด ให้สัมภาษณ์ว่า เธอรู้สึกตื่นกลัวมากที่ถูกเรียกให้จอด เธอคิดว่าตัวเองต้องทำอะไรผิดไปสักอย่างแน่ๆ แต่เธอก็ต้องประหลาดใจเพราะตำรวจได้มอบดอกกุหลาบสีแดงมาให้เธอดอกหนึ่ง แทนที่จะเป็นการแจกใบสั่ง ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้อธิบายกับสื่อท้องถิ่นว่า “เราได้เตรียมดอกไม้ถึง 200 ดอกเพื่อจะแจกมันให้กับสาวๆ ที่ทำตามกฎจราจร เราต้องการแสดงออกถึงความปรารถนาดีถึงสาวๆ ทุกคน เราก็เลยใช้โอกาสนี้ในการบอกคนขับรถ โดยเฉพาะสาวๆ ให้เลิกนิสัยแบบนั้นเสียที เพื่อความปลอดภัยของพวกเขาเอง” พร้อมกันนี้ ในดอกไม้ยังมีกระดาษข้อความที่เขียนเองไว้ว่า “เคล็ดลับการขับรถ: อย่าสวมใส่รองเท้าส้นสูงขณะขับรถ เว้นที่นั่งของคุณให้ห่างจากพวงมาลัย และอย่ารับโทรศัพท์หรือถ่ายเซลฟี่หรือแชทระหว่างขับรถนะครับ” สาเหตุที่พวกเขาต้องทำแบบนั้นก็เพราะว่าสาวๆ ในประเทศจีนมักจะใส่ส้นสูงขับรถ ทำให้เกิดอุบัติเหตุอยู่บ่อยครั้งนั่นเอง แหม่ น่ารักจริงๆ เลยนะเนี๊ยะ ที่มา shanghaiist
-
ผู้โดยสารจีนเปิดประตูเครื่องบินระหว่างรอเทคออฟ อ้าง “ผมจะสูดอากาศบริสุทธิ์” !?
กลายเป็นเรื่องราววุ่นๆ ที่เกิดขึ้นในประเทศจีนอีกแล้วล่ะ เพราะเมื่อผู้โดยสารเครื่องบินรายหนึ่งดันไปเปิดประตูฉุกเฉินระหว่างรอเครื่องเทคออฟ เพียงเพราะอยากจะสูดอากาศบริสุทธิ์เท่านั้น!? เมื่อวันที่ 10 มีนาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่าในระหว่างที่เครื่องบินจากสายการบิน China Southern กำลังเตรียมตัวที่จะเทคออฟออกจากสนามบิน จู่ๆ กลับมีผู้โดยสารรายหนึ่งเดินไปเปิดประตูฉุกเฉินแง้มๆ ไว้ เพื่อจะได้รับอากาศบริสุทธิ์ ตามรายงานบอกว่าสายการบินดังกล่าวกำลังจะออกจากมณฑลเฉินตู ไปยังเมืองอุรุมชี ต้องออกเดินทางช้ากว่ากำหนดเกือบ 1 ชั่วโมง ในขณะที่เจ้าหน้าที่สนามบินต้องวิ่งกันวุ่นเพื่อมาปิดประตู และแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นว่ามันเกิดจากอะไรกันแน่ สุดท้ายเจ้าหน้าที่บนเครื่องก็พบตัวชายผู้เปิดประตูฉุกเฉินบนเครื่องได้ โดยเจ้าตัวอธิบายว่าตนเองนึกว่าคันโยกของประตูฉุกเฉินคือคันโยกสำหรับเลื่อนหน้าต่างเครื่องบินให้เปิดออก นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ชาวจีนมีความเข้าใจผิดๆ เกี่ยวกับประตูฉุกเฉิน เพราะมีรายงานกันว่าในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2015 มีผู้โดยสารจีนเปิดประตูฉุกเฉินไปแล้วกว่า 15 ครั้งทีเดียว!! โชคดีที่เครื่องยังคงจอดอยู่กับที่ เพราะหากเปิดประตูฉุกเฉินในระหว่างที่เครื่องกำลังบินอยู่นั้นอาจทำให้ความดันเครื่องต่ำจนผู้โดยสารหายใจไม่ออกและเสียชีวิตได้เลยทีเดียว เล่นเอาตกอกตกใจหมดเลยนะเนี๊ยะ ทีหน้าทีหลังไปสูดอากาศให้ฉ่ำปอดแล้วค่อยขึ้นเครื่องน้า ที่มา shanghaiist
-
อกอีแป้นจะแตก!! จีนจัดกิจกรรมให้คนแข่งกัน “ปลดตะขอบรา” นางแบบกลางห้างสรรพสินค้า!?
วันที่ 8 มีนาคมของทุกๆ ปี จะถือเป็นวันสตรีสากล เพื่อละลึกถึงคุณงามความดีต่อหญิงสาวใรด้านเศรษฐกิจการเมือง และบรบททางสังคมทั่วๆ ไป แต่ที่ประเทศจีนเขามีการเฉลิมฉลองวันดังกล่าวท่ “แตกต่าง” ไปจากภูมิภาคอื่นมากทีเดียว… เมื่อวันที่ 9 มีนาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้รายงานว่า ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในเมืองหลิ่วโจว ประเทศจีน ได้มีการจัดกิจกรรมเพื่อเฉลิมฉลองวันสตรีสากลโดยการให้นางแบบ 6 คนมายืนสวมชุดชั้นในกลางห้าง และให้เหล่าอาสาสมัครปลดตะขอที่บราของพวกเธอออกให้เร็วที่สุด!? ตามรายงานบอกว่ากิจกรรมนี้มีผู้เข้าร่วม 8 คนด้วยกัน โดยหนึ่งในนั้นเป็นผู้ชาย โดยกติกามีอยู่ว่า ผู้เข้าแข่งขันจะต้องใช้มือเพียงข้างเดียวในการปลดตะขอให้เร็วที่สุด ซึ่งผู้ชนะได้แก่หนึ่งในหญิงสาวผู้เข้าแข่งขัน โดยใช้เวลาในการปลดตะขอไปทั้งสิ้นเพียง 14 วินาทีเท่านั้น อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าผู้จัดงานและคนออกไอเดียดังกล่าวดูจะยังไม่เข้าใจถึงแก่นแท้ของวันสตรีสากลเท่าไหร่นัก เพราะแทนที่พวกเขาจะสร้างความเท่าเทียมทางเพศกลับนำเอามาเป็นกิจกรรมสนุกสนาน แถมยังสร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในด้านลบออกมาเสียเป็นส่วนใหญ่ เหมียวนี่อึ้งไปเลย ที่มา dailymail
-
เจ้าของฟาร์มเลี้ยงไก่ในจีน พบไก่ประหลาดมี 4 ขา ทำเอาชาวบ้านพากันแห่มาถ่ายรูปเพียบ!!
เรามาพูดถึงไก่กันบ้างดีกว่า? โดยปกติแล้ว ไก่เป็นสัตว์ปีก ที่มีขา 2 ขา งอกออกมาให้เห็นได้อย่างชัดเจน แต่จะมีไก่สักกี่ตัวบนโลกใบนี้กันละ ที่จะมีขางอกเพิ่มออกมาอีก 2 ขา รวมๆ แล้วก็เป็น 4 ขา หลายคนอาจจะคิดไม่ถึงว่ามันมีอยู่จริง แต่วันนี้เราได้นำภาพมายืนยันให้เห็นกับตาแล้ว เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2559 ทางสำนักข่าวต่างประเทศ ได้เผยภาพของเจ้าไก่ จากฟาร์มเลี้ยงไก่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งในเมืองเหอเจอ มณฑลซานตง ประเทศจีน ซึ่งเจ้าไก่ตัวนี้ หากมองรวมๆ มันก็เหมือนกับไก่ทั่วๆ ไปนั่นแหละ แต่ความพิเศษของมันอยู่ที่ขายังไงละ จากภาพเราจะเห็นได้ว่าเจ้าไก่ตัวนี้ ก็มี 2 ขาเช่นเดียวกับไก่ปกติทั่วไป แต่ทว่ามันยังมีอีก 2 ขางอกออกมาตรงใต้ท้องอีกด้วย เย้ยยยยย ดูแปลกประหลาดดีเหมือนกันนะเนี่ย โดยเจ้าของฟาร์มเลี้ยงไก่แห่งนี้ได้เผยว่า เจ้าไก่ประหลาดเป็น 1 ในไก่ 10,000 ตัว ในฟาร์มของพวกเขา ที่มีรูปร่างประหลาดแตกต่างจากบรรดาไก่ตัวอื่นๆ และเมื่อชาวบ้านได้ทราบข่าว พวกเขาต่างก็พากันแห่มาชม และถ่ายรูปเจ้าไก่ตัวนี้…
-
สายการบินจีน เทรนแอร์โฮสเตสสาวฝึกกังฟู พาเรียนวิชาตัวเบาบนยอดเขา ที่มีความสูงถึง 2 พันเมตร
อย่างที่สาวๆ หลายๆ คนรู้กันอยู่ว่าการเป็น แอร์โฮสเตส นั้นไม่ใช่ง่ายๆ เพราะนอกจากคุณจะต้องการผ่านการสอบในหลายๆ ขั้นตอนแล้ว คุณจะต้องมีใจรักในงานบริการอย่างแท้จริงอีกด้วย แต่ที่ยากไปกว่านั้นก็คือ หากคุณได้ไปเรียนเป็นแอร์โฮสเตส ของโรงเรียนฝึกสอนในประเทศจีน รับรองว่าคุณจะต้องทึ่ง ว่าการเป็นแอร์ต้องทำถึงขนาดนี้เลยหรอ ใช่แล้ว!! เพราะสายการบินแห่งนี้ มีการเทรนแอร์โฮสเตสสาวฝึกกังฟู เรียนวิชาตัวเบายังไงละ เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2559 ทางเพจเฟสบุ๊คของจีน ได้เผยภาพแอร์โฮสเตสสาวจำนวน 3 คน ที่มาในเครื่องแบบอย่างเต็มยศ พร้อมกับอาจารย์ผู้ฝึกสอนในชุดกังฟูสีดำ โดยทั้งหมดกำลังทำท่าฝึกวิชากังฟูบนยอดเขาชื่อดังของเมืองลกเอี๋ยง ในมณฑลเหอหนาน ประเทศจีน ที่มีความสูงถึง 2 พันเมตรกันเลยทีเดียว ดูแล้วหวาดเสียวเหมือนกันนะ แต่เดี๋ยวก่อน…ความจริงแล้วพวกเธอไม่ได้ทำการฝึกกังฟูจริงๆ หรอกนะ แต่มันเป็นเพียงการโฆษณาสถานที่ท่องเที่ยวของประเทศ ที่คาดว่าอาจจะช่วยกระตุ้นความสนใจ ของผู้ที่มีความฝันอยากเป็นแอร์เท่านั้นเอง แหมๆๆ นี่ถ้ามีการเทรนด์ฝึกวิชากังฟูจริง งานนี้สาวๆ คงไม่กล้ามาสมัครเป็นแอร์กันแน่ๆ เล่นเอาซะตกอกตกใจหมด ที่มา : PeoplesDaily
-
ร้านอาหารข้างถนนในจีนไอเดียแหวก จ้างพริตตี้มายืนหน้าร้านหวังเรียกความสนใจจากคนผ่านไปผ่านมา!?
หากคุณทำธุรกิจค้าขายอาหารตามข้างทาง แล้วอยากจะเรียกความสนใจจากลูกค้าให้ได้มากๆ พวกคุ้ณอาจจะทำโปรโมชั่นลดแลกแจกแถมหรือสร้างเมนูใหม่ๆ มาให้ลูกค้าได้ลิ้มลองใช่ไหมล่ะ แต่ร้านอาหารที่จีนร้านนี้มีไอเดียที่แปลกแหวกแนวยิ่งกว่านั้น… เมื่อวันที่ 8 มีนาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่าร้านอาหารตามข้างทางในเมืองเว่ยฟาง มณฑลซานตง ประเทศจีน ได้จ้างนางแบบเอวบางร่างน้อย (แถมยังนุ่งน้อยห่มน้อย) ให้มายืนประจำอยู่ที่หน้าร้าน เพื่อเรียกความสนใจของผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาแถวนั้น ทั้งนี้ไม่มีการรานงานว่าร้านค้าร้านไหนที่เป็นคนเริ่มการจัดกิจกรรมแบบนี้เป็นร้านแรก แต่หลังจากที่มันเริ่มโด่งดัง ร้านค้าอื่นๆ เช่น ร้านขายซุป ขนมปังนึ่ง และอีกมากมาย ก็หันมาจ้างนางแบบพริตตี้สวยๆ มายืนหน้าร้านกับเขาด้วย และแน่นอนว่าการจัดกิจกรรมแบบนี้จะต้องมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมาอย่างแน่นอน หนึ่งในสมากชิกของโลกออนไลน์ที่ใช้นามแฝงว่า Kuaibao กล่าวว่า “นี่มันเป็นภาพโกหกที่บ่อนทำลายมณฑลซานตงชัดๆ” ส่วนอีกความเห็นหนึ่งบอกว่า “แม่สาวคนนี้ดูน่าเกลียดมาก ฉันแทบจะกลืนอาหารไม่ได้เลย” มีร้านอาหารในไทยร้านไหนสนใจอยากทำแบบนี้บ้างไหม” จ้าง#เหมียวฟิ้นได้นะ ไม่งอแง ยืนนานเท่าไหร่ก็ได้ ที่มา shanghaiist
-
เฉินหลงมาเอง!! หนุ่มจีนแอบเป็นชู้กับแฟนคนอื่น โดดหนีออกระเบียง หลังสามีของเธอกลับมาไม่ทันตั้งตัว
การที่เรารักเดียวใจเดียวนี่ถือเป็นสิ่งที่ดีนะ เพราะมันทำให้ความรักของคนสองคนยั่งยืน ปัญหาอะไรๆ ก็สามารถจัดการได้ง่าย (เมื่อมีน้อยคน) แต่เมื่อใดก็ตามที่คุณมีอีกคน (หรือที่เราชอบเรียกว่ากิ๊ก) ปัญหาอีนุงตังนังก็จะตามมาแบบนี้แหละ เมื่อวันที่ 7 มีนาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Mirror ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอวุ่นๆ ของชายนิรนามชาวจีนที่แอบไปโจ๊ะพรึมๆ กับหญิงสาว ในอพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่ง แต่ระหว่างนั้นเองดูเหมือนว่าสามีของฝ่ายหญิงจะกลับมาโดยไม่ทันตั้งตัว เขาจึงรีบโดดออกจากห้องของเธอด้วยความเร็วแสง หนุ่มจีนรายนี้รีบวิ่งออกไปยังอีกห้องหนึ่งที่ไม่ได้ล็อคเอาไว้ และเปิดออกไปยังระเบียงด้านหลังในสภาพที่กำลังนุ่งกางเกงในสีแดงเพียงตัวเดียว จากนั้นเขาก็รีบสวมเสื้อผ้าอย่างว่องไวและห้อยเชือกกับระเบียงเพื่อโรยตัวลงมายังชั้นล่าง คลิปเหตุการณ์ทั้งหมดถูกถ่ายไว้ได้โดยนายหลิวและนายเฉา ทั้งสองพักอาศัยอยู่ในอาคารแห่งนี้เช่นเดียวกัน แต่เมื่อเขาเห็นชายคนหนึ่งโดดออกมาที่ระเบียงเขาก็รีบหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายคลิปวิดีโอไว้ และเพิ่งจะรู้ตัวว่าห้องที่ชายชู้โดดออกมานั้นเป็นห้องนอนของพวกเขาเอง!? นายหลิวให้สัมภาษณ์กับนักข่าวภายหลังว่าห้องนั้นคือห้องของเขา ซึ่งอาจจะลืมล็อคห้องเอาไว้ ทำให้ชายชู้เข้าไปในห้องนั้นได้นั่นเอง ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลย แหม่ ความกลัวนี่มันทำให้เราทำได้ทุกอย่างจริงๆ ที่มา mirror , 中大电视新闻频道
-
สาวจีนกว่า 2,000 คน เข้าร่วมการแข่งขัน เพื่อเป็นผู้ชนะได้ไปออกเดทกับเศรษฐีดูไบ!?
ปัจจุบันการที่สาวๆ ในจีนจะได้พบกับผู้ชายดีๆ ฐานะร่ำรวยสักคนจะไม่ใช่เรื่องที่ยากเย็นอีกต่อไป เพราะตอนนี้ได้มีการจัดการแข่งขันเพื่อเป็นผู้ชนะและได้ไปเดทกับเศรษฐีในดูไบด้วย!? เมื่อวันที่ 6 มีนาคมที่ผ่านมา สำนักข่าว CCTVNews ได้รายงานว่า มีหญิงสาวชาวจีนกว่าเกือบ 2,000 คนเข้ามาสมัครการแข่งขันที่เมืองเฉินตู มณฑลเสชวน ประเทศจีน เพื่อที่จะได้เป็นหนึ่งในสาวผู้โชคดีไปเดทกับเศรษฐีดูไบ หญิงสาวแต่ละคนจะได้ไปเดทกับหนุ่มดูไบ ซึ่งมีการการันตีเลยว่าแต่ละคนจะมีทรัพย์สินไม่ต่ำกว่า 20 ล้านหยวน หรือประมาณ 250 ล้านบาท ทั้งนี้มีการคัดเลือกสาวงามเหลือเพียง 280 คน โดยจะมีอายุระหว่าง 19 ถึง 48 ปี โดยแต่ละคนมีประวัติที่แตกต่างกันไป บางคนเป็นคุณครูสอนเด็กอนุบาล พนักงานออฟฟิศไปจนถึงนางงามเลยก็มี สาวๆ จะต้องผ่านการคัดเลือกด้วยกันถึง 3 ด่าน พวกเขาถึงจะชนะการแข่งขัน รอบแรกจะเป็นการแข่งขันด้านบุคคลิกภาพ รอบที่สองจะเป็นคุณสมบัติด้านอาชีพการงาน และสุดท้ายจะเป็นการตรวจสอบความสัมพันธ์ในอดีต นอกจากนี้สาวๆ ยังจะต้องเปิดเผยรายชื่อเพื่อนๆ ในแอพฯ WeChat ให้คณะกรรมการดูด้วย โดยพวกเขาจะตรวจสอบว่าคุณมองโลกในแง่ร้ายหรือเปล่า หรือเป็นคนหยาบคายหรือเปล่า คณะกรรมการจะคัดเลือกสาวงามทั้งหมดอีกครั้งให้เหลือเพียง 50 คนจากทั่วประเทศ…
-
แก๊งสาวสุดแค้น บุกรุมแก้ผ้าหญิงสาวกลางห้าง เหตุเพราะไปแอบนอนกับแฟนหนุ่มของตัวเอง
เป็นที่ปฏิเสธไม่ได้แล้วว่าอีกหนึ่งเหตุการณ์ ที่สามารถสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาความรุนแรงภายในสังคมปัจจุบันได้อย่างชัดเจน แน่นอนว่าคงหนีไม่พ้นพฤติกรรมการตบตีกันของผู้หญิง เหตุเพราะหึงหวงอีกฝ่าย ที่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับผู้ชายของตนอย่างแน่นอน โดยล่าสุด เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2559 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศ ก็ได้เผยคลิปเหตุการณ์ของสาวกลุ่มหนึ่ง ซึ่งคาดว่าน่าจะเกิดที่ประเทศจีน ได้รุมทำร้ายหญิงสาวในชุดกระโปรงสีน้ำเงิน พร้อมพยายามแก้เสื้อผ้าของสาวรายนี้ออก แถมยังตะโกนต่อว่าเธอจนเสียงดังลั่นห้างอีกด้วย โดยสาเหตุหลักที่พวกเธอได้มารุมทำร้ายแม่สาวผู้เคราะห์รายนี้ก็เพราะว่า เธอได้แอบไปหลับนอนกับแฟนหนุ่มของผู้หญิงหนึ่งในผู้ที่ร่วมกันก่อเหตุยังไงละเหมียว อ๋อ!! มันเป็นอย่างนี้นี่เอง เมื่อทางเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้เห็นดังนั้น พวกเขาก็รีบวิ่งเข้ามายุติเหตุการณ์ลง ก่อนที่เรื่องราวจะปานปลายไปมากกว่านี้ ลองไปชมคลิปกันเลย ที่มา : mirror
-
จีนสร้างชุมชนใหม่ๆ กว่า 100 แห่งเพื่อรองรับแรงงานต่างจังหวัดกว่า 250 ล้านคนที่กรูกันไปทำงานในเมือง
อย่างที่ทราบกันดีว่าประเทศจีนนั้นกำลังอยู่ในช่วงพัฒนาเศรษฐกิจให้เจริญรุ่งเรือง พวกเขาก็เลยวางแผนที่จะสร้างชุมชนใหญ่ๆ ขึ้นอีก 100 แห่ง เพื่อรองรับชาวเมืองกว่า 250 ล้านคน ที่จะย้ายจากชนบทหรือต่างจังหวัดเข้ามาอยู่ในตัวเมืองเพื่อทำงาน เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้รายงานทางรัฐบาลของจีนได้มีแผนจะเคลื่อนย้ายประชาชนจากชนบทเข้าไปอยู่ในเมือง จึงวางแผนสร้างเขตชุมชนใหม่ๆ ขึ้นถึง 100 แห่งด้วยกัน โดยคาดว่าโครงการทั้งหมดนี้จะสำเร็จลุล่วงภายในปี 2026 แต่ในระหว่างนี้เอง อาคารบ้านเมืองที่ถูกสร้างขึ้นอย่างสวยหรู กลับยังไม่มีคนเข้ามาอาศัยอยู่แม้แต่คนเดียว อาจจะเพราะว่ายังไม่ถึงกำหนดการที่จะอนุญาตให้ชาวจีนย้ายเข้าที่พักนั่นเอง ทำให้ชุมชนและอาคารจำนวนมากกลายเป็นอาคารร้างคล้ายกับหมูบ้านผีสิงเลยก็ว่าได้ แม้อาคารเหล่านี้จะยังไม่มีคนอยู่อาศัย แต่เนื่องด้วยการออกแบบที่ล้ำสมัยประหนึ่งภาพยนตร์โลกอนาคต ทำให้อาคารเหล่านี้ดูสวยงามแปลกตาจนช่างภาพชาวอเมริกันอย่างนาย Kai Caemmerer จากรัฐชิคาโกหลงไหลในความงาม จนต้องออกเดินทางไปถ่ายภาพอาคารเหล่านั้นในปี 2015 และตั้งชื่อผลงานว่า ‘Unborn Cities’ ตามรายงานบอกว่านาย Caemmerer เดินทางไปถ่ายภาพตึกรามบ้านช่องเหล่านี้ภายในระยะเวลา 80 วัน โดยจะถ่ายเฉพาะช่วง ก่อนพระอาทิตย์ขึ้นและช่วงหลังพระอาทิตย์ตกเท่านั้น ลองไปชมผลงานภาพถ่ายเขาดูเลย …
-
หนุ่มจีนปิ๊งไอเดียประดิษฐ์รถประหลาด นำออกมาขับบนถนนแบบไม่สนใจกฎจราจร สุดท้ายก็โดนจับสิครัช!!
สำหรับในบ้านเรา น้อยครั้งมากจริงๆ ที่จะได้เห็นรถหน้าตาแปลกประหลาดออกมาโลดแล่นอยู่บนท้องถนน แต่ถ้าเป็นพี่จีนละก็ เรียกได้ว่าภาพแบบนี้มักจะมีให้เห็นได้บ่อยๆ กันเลยละ และล่าสุด เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2559 ทางสำนักข่าวต่างประเทศได้เผยภาพของหนุ่มรายหนึ่ง ที่มาพร้อมกับรถคันจิ๋วรูปร่างคล้ายกระสุนขับซิ่งอยู่ในเมืองหนานชาง มณฑลเสฉวน ประเทศจีน ทำเอาผู้ใช้รถใช้ถนนต่างก็พากันงงว่านี่มันคือรถอะไรกันละเนี่ย จากภาพเราจะเห็นได้ว่า โครงสร้างภายในของรถจิ๋วคันนี้ น่าจะเป็นรถถีบคล้ายจักรยาน โดยภายนอกรถจะใช้พลาสติกหุ้มอีกทีหนึ่ง แต่ทว่ารถประหลาดคันนี้ ดูเหมือนจะไม่ได้นำออกมาโลดแล่นอยู่บนถนนอีกแล้วละสิ เพราะเมื่อตำรวจจราจรเมืองหนานชางบังเอิญมาพบเข้า จึงรีบจัดการบอกให้ชายหนุ่มลงมาจากรถทันที แถมยังสั่งห้ามไม่ให้นำรถลักษณะนี้ออกมาขับบนถนนอีก และนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกซะด้วยสิ ที่นักประดิษฐ์ชาวจีนทั้งหลาย นำรถประหลาดที่พวกเขาได้สร้างกับมือออกมาวิ่งอยู่บนถนน เพราะจากที่ผ่านมา เราจะเห็นได้ว่ามีรถแปลกๆ ถูกนำเอาออกมาโชว์เก๋มากมาย ไม่ว่าจะเป็น… รถเครื่องบิน D.I.Y รถที่ทำจากไม้ทั้งคัน หรือจะเป็นรถไม้แบบโบร๊าณโบราณก็มีมาแล้วนะจ๊ะๆ แหมๆ เรื่องไอเดียออกแบบรถต้องขอยกให้พี่จีนเค้าละ หน้าตาแต่ละคันสร้างสรรค์เกิ๊น ที่มา : shanghaiist
-
อั้วไม่จ่าย!! นักท่องเที่ยวจีนโวยร้านอาหาร ทำไม่อร่อย ให้น้อย ประท้วงไม่จ่ายเงิน!?
แม้ว่าประเทศไทยจะได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวชาวจีน จนมีกรุ๊ปทัวร์พากันมาเที่ยวที่นี่อย่างไม่ขาดสาย แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้มีแต่เรื่องดีๆ เสมอไปล่ะ เพราะมีข่าวคราวว่านักท่องเที่ยวจีนพากันขับรถชนชาวไทยมาแล้วหลายต่อหลายครั้งเนื่องจากไม่เข้าใจกฎหมายจราจรบ้านเรา ล่าสุดมีเรื่องราววุ่นๆ ของนักท่องเที่ยวจีนมาให้เราได้เห็นอีกแล้ว เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนกลุ่มหนึ่งที่เดินทางไปแวะทานอาหารที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ แต่กลับโวยวายขอไม่จ่ายเงิน เพราะอ้างว่าอาหารไม่อร่อยแถมยังได้น้อยอีกต่างหาก ลองชมคลิปเต็มๆ ได้ที่ด้านล่างเลย แก๊งจีนโวยลั่น! ขอไม่จ่าย..เพราะอาหารไม่อร่อย::–> แก๊งจีนโวยลั่น! กินไม่จ่าย..เพราะอาหารไม่อร่อย <–:: โดย@รักฟ้า เภตรา_[ได้โพสต์ไว้ว่า]: แดกแล้วไม่ยอมจ่ายคะ !! บอกอาหารไม่อร่อย ได้น้อย แพง งู้นงี้ แต่..แดกหมด !! ปล. #โปรดใช้วิจารณญาณ ~ CREDIT: @รักฟ้า เภตรา |https://goo.gl/DyBnIG ************************* ขอบคุณคลิปแนะนำจาก––@Ruttanarut Chaikaew Posted by YouLike (คลิปเด็ด) on 28 กุมภาพันธ์ 2016 หลังจากที่คลิปนี้ถูกเผยแพร่ออกไป คุณรักฟ้า เภตรา ก็ได้ออกมาแสดงตัวว่าเป็นเจ้าของคลิปนี้เองพร้อมทั้งให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า “หนูเป็นคนถ่ายคลิปค่ะ แย่มาก! ดูเมนูทั้งที่รู้ว่ามันแพง แต่ก็ยังสั่ง!…
-
เก่งเกินไปแล้ว!! หนุ่มจีนเล่นตู้คีบตุ๊กตาได้มากถึง 3,000 ตัวใน 6 เดือน จนเจ้าของขอร้องให้หยุดเล่น!?
เพื่อนๆ คงจะเคยเห็นตู้คีบตุ๊กตาถูกวางไว้ตามห้างสรรพสินค้าต่างๆ ใช่ไหมล่ะ บางคนอาจจะเคยคีบตุ๊กตามาได้บ้าง แต่บางคน (เช่นเหมียว) ขอบอกเลยว่ามันเป็นเรื่องยากมาก เพราะมือหุ่นยนต์มันช่างอ่อนปวกเปียกสุดๆ คีบไม่เคยจะได้ แต่นั่นไม่เป็นปัญหาสำหรับหนุ่มจีนรายนี้ เมื่อไม่นานมานี้เว็บไซต์ Dailymail รายงานว่าชายหนุ่มนามว่า Chen Zhitong ทำงานอยู่ในบริษัทไอทีแห่งหนึ่ง ในมณฑลฝูเจี้ยน ประเทศจีน ได้รับการขนานนามว่าเป็น “ราชาแห่งตู้คีบตุ๊กตา” เพราะเขาคีบตุ๊กตามาแล้วกว่า 3,000 ตัว!! ตามรายงานบอกว่านาย Chen เล่นตู้คีบตุ๊กตามาแล้วมากมาย ภายในเวลาเพียง 6 เดือนเท่านั้น จนเจ้าของตู้คีบตุ๊กตาต้องขอร้องให้เขาหยุดเล่นตู้คีบตุ๊กตาของพวกเขา แต่นาย Chen กลับไม่สนใจคำขอร้อง และยังจะเล่นตู้คีบตุ๊กตาต่อไป นอกจากนี้ตามรายงานยังบอกอีกว่าเจ้าของตู้คีบตุ๊กตาในแถบฝูเจี้ยนนั้น รู้จักนาย Chen กันเป็นอย่างดี และพวกเขาพยายามจะติดสินบนแก่เขาเพื่อขอร้องให้หยุดเล่นตู้คีบตุ๊กตาของพวกเขาซะ เพราะสูญเงินและกำไรกับนาย Chen ไปเยอะทีเดียว นาย Chen ให้สัมภาษณ์ว่า “พวกเขามักจะเลี้ยงข้าวผมและขอให้ผมหยุดเล่นตู้คีบตุ๊กตา พวกเขาไม่อยากจะขาดทุนไปมากกว่านี้แล้ว” ดูจากสถานการณ์แล้ว การจะหยุดนาย Chen ได้มีวิธีเดียว…ปิดตู้คีบตุ๊กตาซะ…
-
เหงาน่าดู…โรงเรียนประถมในจีน เหลือนักเรียนเพียงคนเดียว เพราะผู้ปกครองพาลูกๆ ไปเรียนในเมืองกันหมด
เชื่อว่าในสมัยเรียน เพื่อนๆ คงเคยผ่านประสบการณ์สุดอ้างว้างอย่างเช่นเพื่อนสนิทไม่มาโรงเรียน หรือเพื่อนในห้องต้องแยกย้ายกันไปเรียนต่อ จนทำให้รู้สึกเหงาๆ กันบ้างใช่ไหมล่ะ แต่เชื่อเถอะว่าไม่มีใครเหงาเท่าเด็กชายคนนี้อีกแล้ว เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ เว็บไซต์ Shanghaiist ได้เปิดเผยภาพสุดว้าเหว่ของเด็กชายหลิว เจียนคัง เด็กนักเรียนในโรงเรียนประถม Taohuagou ในมณฑลหูเป่ย ประเทศจีน ที่นักเรียนอยู่ภายในห้องเรียนเพียงคนเดียว หนำซ้ำทั้งโรงเรียนยังมีนักเรียนเพียงแค่เขาคนเดียวอีกด้วย ทางด้านคุณครู หลิว เซาหมิง ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า โรงเรียนแห่งนี้เคยมีนักเรียนมากถึง 300 คน และคุณครูอีกกว่า 30 คนทีเดียว แต่เนื่องจากเหล่าผู้ปกครองต้องการให้ลูกๆ ได้เรียนในเมืองเพื่อสร้างโอกาสทางหน้าที่การงานที่ดีกว่า พวกเขาจึงทยอยพาลูกหลานออกไปจากที่นี่กันจนหมด ทั้งนี้ตามรายงานยังบอกอีกว่าสาเหตุที่เด็กชายหลิวยังคงเรียนที่นี่เพียงคนเดียวก็เพราะว่าพ่อแม่ของพวกเขาต้องปล่อยให้ลูกชายเรียนอยู่ที่ต่างจังหวัดแทนที่จะเข้าไปเรียนในเมืองกับพวกเขา เนื่องจากการเดินทางไปอยู่ในเมืองนั้นมีค่าใช้จ่ายที่มากกว่า และพ่อแม่ของพวกเขาก็ต้องทำงานเพื่อหาเงินเลยไม่สะดวกที่จะพาลูดชายไปกับพวกเขาด้วย นี่เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงความล้มเหลวของการขับเคลื่อนเศษฐกิจในจีน ที่ผลักดันให้คนเข้าไปทำงานในเมืองมากกว่าที่ชนบท ทำให้เหล่าพ่อแม่หลายๆ คนต้องทิ้งให้ลูกๆ เติบโตโดยที่ไม่มีพวกเขา (หรือเพื่อนร่วมชั้น) อยู่เคียงข้างนั่นเอง น่าสงสารน้องเขาจัง หวังว่าจะมีเพื่อนใหม่มานั่งเรียนด้วยนะ ที่มา shanghaiist
-
ชายคนนี้ รีบปีนออกจากหน้าต่างในสภาพล่อนจ้อน ก่อนพลัดตกเบื้องล่าง หลังแอบเล่นชู้กับภรรยาคนอื่น
เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2559 ทางสำนักข่าวต่างประเทศได้เผยคลิปวีดีโอของชายชาวจีนรายหนึ่ง ที่กำลังปีนหน้าต่างแฟลตออกมาในสภาพเปลือยเปล่า ท่ามกลางสายตาของผู้คนที่อยู่ภายในบริเวณนั้นเป็นจำนวนมาก เอ…ว่าแต่หนุ่มคนนี้จะทำไปเพื่ออะไรกันนะ ความจริงแล้วที่หนุ่มคนนี้ปีนออกมาจากหน้าต่างในสภาพล่อนจ้อนก็ไม่ใช่เรื่องอะไรหรอก เพราะเขาดันไปเล่นชู้กับเมียชาวบ้าน จนสามีตัวจริงโผล่มา งานนี้ก็เลยกลายมาอยู่ในสภาพอย่างที่เห็นนี้ยังไงละเหมียว ซึ่งจากคลิปวีดีโอเราจะเห็นได้ว่า ชายคนดังกล่าวรีบปีนออกมาจากหน้าต่างของห้องชั้น 3 โดยที่ยังไม่ได้ใส่เสื้อผ้า แถมยังโหนตัวอยู่ตรงท่อภายนอกอาคารเป็นเวลานานสองนาน ก่อนตัดสินใจเริ่มไต่ลงมาด้านล้าง ในขณะที่เขาเริ่มไต่ลงมา เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เพราะเขาเกิดพลาดท่าตกลงมากับพื้นซะงั้น งานนี้เล่นเอาผู้เห็นเหตุการณ์ต่างก็พากันตกอกตกใจ ก่อนที่จะรีบเข้าไปให้ความช่วยเหลือ นับว่าเป็นโชคดีของชายรายนี้ ที่สามารถรอดชีวิตจากเหตุการณ์อันน่าละอายนี้มาได้ หวังว่าเขาคงจะเข็ดไปอีกนานเลยละ ที่มา : mirror
-
ชาวเน็ตเอารูปถ่ายวิวพาโนราม่าในประเทศจีนไปขยาย กลายเป็นความฮาไวรัลทั่วโลกออนไลน์
ภาพถ่ายพาโนรามา ที่คุณกำลังได้รับชมกันนี้ ถ้าหากดูแบบปกติ มันก็คือภาพถ่ายวิวทิวทัศน์ ที่เต็มไปด้วยความสวยงามของประเทศจีนใช่ไหมละ แต่ทว่ามันเกือบจะเป็นภาพที่สวยงามซะแล้วสิ ถ้าหากไม่มีคนตาทิพย์เอาไปขยาย และก่อให้เกิดเป็นภาพความฮาเข้ามาแทนที่ งานนี้เล่นเอาคนดูถึงกับไปไม่เป็นกันเลยทีเดียว ด้วยภาพที่คมชัดถึง 24.9 ล้านพิกเซล ก็ต้องลองความละเอียดกันซะหน่อย โดยการซูมภาพเข้าไปเรื่อยๆ จนในที่พบเราก็ได้พบกับความจริงบางอย่างที่ตึก Shagri-La ชัดนักใช่ไหม ถ้าอย่างนั้นต้องซูม ซูม ซูม แล้วก็ซูมเข้าไป โปรดสังเกตที่หน้าต่างเอาไว้ให้ดีๆ เป็นไงละ!! ชัดเว่อร์ แสดงให้เห็นเป็นภาพของหนุ่มรายหนึ่ง กำลังโทรศัพท์อยู่ริมหน้าต่าง ในสภาพเปลือยกายล่อนจ้อน ภาพก่อนหน้าที่เล่นเอาสะพรึงจนติดตาไปแล้ว ก็ขอขยายออกมาจากตึกก่อนก็แล้วกัน ในภาพเป็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามจริงๆ งานนี้ก็เลยลองซูมเข้าไปที่ทางเดินริมแม่น้ำ ในเมืองเซียงไฮ้ เอ๊ะนั่นใครกัน!! เฮือกกกกกก พอซูมเข้าไปใกล้ถึงกับผงะ เพราะภาพเบื้องหน้าคือภาพของคุณลุงที่กำลังเผชิญปัญหากับกางเกงหย่อนหยานอยู่นะ เป็นภาพวิวธรรมดาๆ ก็ดีอยู่แล้ว จะซูมเข้าไปทำไม๊ งานนี้ก็เลยทำให้ภาพถ่ายชอตเด็ด กลายเป็นกระแสไวรัลสุดฮาสนั่นลั่นโซเชียลกันเลยทีเดียว ที่มา : shanghaiist
-
บันไดเลื่อนในจีน จู่ๆ ก็เปลี่ยนทิศกะทันหันซะงั้น เล่นเอาคนที่กำลังใช้งาน ร่วงลงไปกองทับกันนับสิบราย
ถ้าจะพูดถึงอุบัติเหตุบันใดเลื่อน หลายคนก็คงจะนึกถึงประเทศจีนเป็นอันดับแรก เพราะประเทศนี้เรียกได้ว่าเกิดอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับบันใดเลื่อนบ่อยที่สุดเลยก็ว่าได้ และล่าสุดเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2559 ทางเว็บไซต์ Mirror ก็ได้เผยคลิปวีดีโอจากเฟซบุ๊ก CCTVNews ซึ่งในคลิปได้แสดงภาพของผู้คน ในเมืองหนองโป มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน กำลังใช้งานบันไดเลื่อนกันอย่างเนืองแน่น แต่แล้วจู่ๆ บันไดเลื่อนเจ้ากรรม เกิดเปลี่ยนทิศกะทันหันซะงั้น เพราะจากที่เลื่อนขึ้น ก็กลายเป็นเลื่อนลงอย่างรวดเร็ว จนทำให้บรรดาผู้คนที่ยืนอยู่บนบันใด พากันเลื่อนถอยหลังล้มกองทับกันระเนระนาดดังภาพที่เพื่อนๆ เห็นกันอยู่นี้… เรียกได้ว่าเป็นเหตุการณ์ที่สร้างความตื่นตระหนกให้กับผู้คนที่ใช้บันใดเลื่อนในขณะนั้นมากจริงๆ ทั้งนี้ บันไดเลื่อนที่จุดดังกล่าวได้ถูกปิดใช้บริการแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังทำการตรวจสอบ เพื่อหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่พบผู้เสียชีวิตแต่อย่างใด มีเพียงผู้ได้บาดเจ็บอย่างน้อย 5 รายเท่านั้น ที่มา : mirror
-
เผยภาพสะเทือนใจ เด็กจีนร้องไห้โฮ รั้งแม่ไม่ให้ไปทำงานไกลบ้าน เพราะทนคิดถึงไม่ไหว
ในช่วงเทศกาล Spring Festival หรือช่วงวันหยุดตรุษจีนที่ผ่านมา ในประเทศจีนได้มีการจัดงานเฉลิมฉลองกันอย่างคึกคัก และเป็นโอกาสให้เหล่าลูกจ้างทั้งหลายได้กลับไปเยี่ยมญาติๆ ตามต่างจังหวัดอีกด้วย แต่งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกราฉันใด วันหยุดก็ย่อมมีวันหมดฉันนั้น เมื่อสิ้นสุดช่วงวันหยุดยาว เหล่าชาวจีนจำนวนมากก็พากันขนข้าวขนของกลับเข้าเมืองไปทำงานตามปกติ แต่ดูเหมือนว่าเด็กชายคนนี้จะไม่ยอมให้แม่ของเขากลับไปทำงานง่ายๆ แถมยังเหนี่ยวรั้งคุณแม่ของเขาไว้สุดชีวิต กลายเป็นภาพที่น่าสะเทือนใจทีเดียว เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanhaiist ได้เปิดเผยภาพสุดสะเทือนใจของเฟงเฟง เด็กชายวัย 7 ขวบ ในเมืองเควียงหลาย ประเทศจีน ที่ร้องไห้จ้า และดึงรั้งคุณแม่ของเขาไม่ให้กลับไปทำงานในเมืองใหญ่ จนกลายเป็นภาพที่ชาวจีนส่งต่อกันมากที่สุดในโลกออนไลน์ขณะนี้เลย ตามรายงานบอกว่าเด็กชายเอาแต่ตะโกนด้วยคำพูดซ้ำๆ ว่า “แม่ทำแบบนี้กับผมไม่ได้นะ” พร้อมกับร้องไห้สะอื้นและถีบประตูรถยนต์อย่างรุนแรง เพราะกว่าจะได้เจอหน้าแม่ของเขาอีกครั้งก็ต้องรอให้ถึงเทศกาลตรุษจีนในปีหน้าเลยทีเดียว เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่กำลังเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ทำให้ชาวบ้านกว่า 61 ล้านคน จากทั่วประเทศต้องย้ายเข้าไปทำงานในเมืองใหญ่ๆ เพื่อหางานดีๆ ทำ พวกเขาเลยต้องฝากลูกๆ ไว้กับคนที่บ้านอย่างคุณตาคุณยาย เพื่อให้เลี้ยงลูกแทนพวกเขานั่นเอง น่าสงสารคนที่ต้องอยู่ห่างไกลกันแบบนี้มากเลยนะเนี๊ยะ แต่มันทำให้เราเห็นคุณค่าของการอยู่ร่วมกันมากขึ้นนั่นเอง ที่มา shanghaiist
-
หนูน้อยคลานเล่นในห้องจนหัวติดลูกกรงห้อยต่องแต่ง!! หลังคุณแม่ทิ้งไว้ในห้องคนเดียว
สำหรับพ่อแม่คนไหนที่ชอบปล่อยลูกให้เล่นคนเดียวอยู่ในห้องอาจจะต้องดูไว้เป็นตัวอย่างหน่อยแล้วล่ะ เพราะสิ่งที่#เหมียวฟิ้นจะเล่าต่อไปนี้อาจทำให้พวกคุณหวาดกลัวจนไม่อยากปล่อยเขาไว้ตามลำพังเลย เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้รายงานว่าคุณพ่อคุณแม่ชาวจีน ปล่อยลูกน้อยให้เล่นอยู่ในอพาร์ทเม้นท์ชั้น 3 ตามลำพัง แต่โชคร้ายที่หนูน้อยดันพลัดตกไปที่ลูกกรงตรงระเบียง ทำให้ร่างของเขาห้อยต่องแต่งจนน่าหวาดเสียว ตามรายงานบอกว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่เมืองหม่าเจียง มณฑลเจียงซูของจีน เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โชคดีที่ศีรษะของหนูน้อยไปติดเข้ากับลูกกรงทำให้ยังไม่ตกลงมา เมื่อเห็นดังนั้นชายหนุ่ม 3 คนที่อยู่แถวนั้นจึงรีบปีนขึ้นไปช่วยเด็กน้อยเพราะเกรงว่าจะตกลงมาซะก่อน เมื่อทราบเรื่อง นางหยางผู้เป็นแม่ก็ได้รีบออกตามหาชาย 3 คนที่ช่วยลูกน้อยของเธอไว้และกล่าวขอบคุณ พร้อมกับให้สัมภาษณ์ว่าในช่วงก่อนเกิดเหตุ เธอกล่อมลูกน้อยจนนอนหลับและไม่คิดว่าจะตื่นขึ้นมากลางคัน เธอจึงออกไปข้างนอกเพื่อทำธุระ ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลย พ่อแม่คนไหนชอบปล่อยลูกไว้ที่ห้องหรือที่บ้านแบบนี้คงต้องระวังกันหน่อยแล้วล่ะ หากลูกน้อยเป็นอะไรขึ้นมา#เหมียวฟิ้นว่ามันไม่คุ้มกันแน่นอน ที่มา GlobalNewsAZ , dailymail
-
สาวจีนขับรถไม่คล่อง ใส่เกียร์ถอยระหว่างจอด ทำรถ Volkswagen ตกลานจอดรถสูง 4 เมตร!!
นี่อาจเป็นอุทาหรณ์สอนใจสาว (หรือหนุ่มบางคนที่ขับรถไม่คล่อง) ว่าเวลาจะจอดรถ ควรจะเช็คเกียร์ของคุณให้ดีๆ ซะก่อน เพราะหากเข้าเกียร์ผิดอาจทำให้รถของคุณเจ๊งไม่มีชิ้นดีแบบนี้ เมื่อวันที 19 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่าหญิงสาววัย 38 ปี จากเมืองฉงชิ่งประเทศจีน ที่ไม่ได้ขับรถมาเป็นเวลานาน ได้พยายามจอดรถบนลานจอดรถที่ด้านหลังมีถนนต่างระดับถึง 4 เมตร และใครๆ ก็คงรู้ดีว่าเวลาจะจอดรถนั้นควรจะเข้าเกียร์ว่างและดึงเบรคมือ แต่สาวจีนรายนี้กลับใส่เกียร์ถอย ทำให้รถ Volkswagen คันงามของเธอถอยหลังและร่วงลงไปยังถนนด้านล่างจนพังยับเยินเหมือนรถของเล่น แต่โชคดีที่เจ้าตัวปลอดภัยไร้รอยขีดข่วน และนี่คือสภาพรถของเธอที่ไม่ต่างอะไรกับรถของเล่นเด็กเลย ทีหน้าทีหลังเวลาจะจอดรถที่ไหนก็ตาม ลองเช็คดูนะว่ารถของคุณอยู่ในเกียร์ว่างหรือเปล่า หรือถ้าเป็นเกียร์ออโต้ ลองเช็คดูว่าอยู่ในเกียร์ P ไหม แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นหากจอดในห้างหรือจอดซ้อนคันก็ไม่ควรดึงเบรคมือเอาไว้นะจ๊ะ ที่มา shanghaiist