Tag: ประเทศแคนาดา
-
นายกฯ แคนาดายืนยันไม่ซ่อมบ้านพักตัวเอง เนื่องจากเกรงใจภาษีของประชาชน
ในขณะมีบางประเทศพยายามนำเงินภาษีของประชาชนไปสร้างบ้านพักบนภูเขาสูง นำเงินไปซื้อเครื่องเก็บเงินอัตโนมัติบนรถเมล์ (ที่ใช้การไม่ได้) และอีกสารพัดการจับจ่าย อีกมุมหนึ่งของโลกกลับมีประเทศหนึ่งที่ไม่กล้านำเงินภาษีของประชาชนมาใช้จ่ายแม้แต่การซ่อมบ้านพักประจำตำแหน่งของตัวเอง ประเทศที่เรากำลังพูดถึงอยู่นี้คือประเทศแคนาดาที่มี Justin Trudeau เป็นผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน และตามธรรมเนียมของแคนาดา ไม่ว่าใครขึ้นมาเป็นนายกจะต้องย้ายไปอยู่บ้านพักประจำตำแหน่งอย่างบ้านเลขที่ 24 Sussex Drive ตั้งอยู่ในเมืองออตตาวา บ้านหลังนี้แต่เดิมมีชื่อว่า Gorffwysfa (กอร์ฟวิสฟา) ถูกสร้างโดย Joseph Merrill Currier เมื่อราวๆ ปี 1866 – 1868 มีห้องนอนทั้งหมด 34 ห้อง ต่อมาในปี 1950 ได้มีการเข้าไปซ่อมบำรุงเพื่อปรับปรุงให้กลายเป็นบ้านพักสำหรับนายกรัฐมนตรี มีการจดบันทึกไว้ว่าต้องใช้เงินกว่า 5 แสนดอลลาร์สหรัฐหรือราวๆ 15 ล้านบาทในการซ่อมบำรุงเลยทีเดียว จากนั้นในปี 1951 อาคารแห่งนี้ก็ถูกใช้เป็นบ้านพักสำหรับนายกรัฐมนตรีคนแรก นั่นก็หมายความว่าบ้านหลังนี้มีอายุอานามกว่า 150 ปีแล้วนั่นเอง ตัวอาคารนั้นถูกใช้เป็นบ้านพักเพียงอย่างเดียวไม่ได้มีไว้เพื่อการว่าราชการ แต่หากมีการประท้วงใดๆ เกิดขึ้น ที่นี่ก็มักกลุ่มคนมาชุมนุมเป็นที่แรกๆ และด้วยความเก่าขนาดนี้จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่วัสดุก่อสร้างหรือสิ่งของตกแต่งภายในจะผุพังไปตามกาลเวลา และแม้จะอยากซ่อมแซมมันขนาดไหนก็ตาม แต่ Justin…
-
อดีตคุณพ่อทิ้งเมียและลูกทั้ง 7 เพื่อไปใช้ชีวิตเป็นเด็กหญิงวัย 6 ขวบตามที่ฝัน!!
หลายคนอาจจะรู้สึกเบื่อหน่ายกับชีวิตการเป็นผู้ใหญ่ จนในบางครั้งก็คิดถึงวันวานและอยากจะกลับเข้าไปสู่วัยเด็กอีกครั้ง แต่นั่นอาจจะเป็นเพียงแค่ความคิดลมๆ แล้งๆ เพราะคงไม่มีใครสามารถกลับไปเป็นเด็กได้จริงๆ หรอกว่าไหม? แต่นั่นไม่ใช่สำหรับ Stefonknee Wolschtt อดีตคุณพ่อวัย 46 ปีจากโตรอนโต ประเทศแคนาดา ที่ยอมทิ้งภรรยาและลูกทั้ง 7 คนของตัวเองไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ในฐานะ “เด็กผู้หญิงอายุ 6 ขวบ” ก่อนหน้านี้ Stefonknee ได้แต่งงานและอยู่กินกับอดีตภรรยามาเป็นเวลานานกว่า 23 ปี แต่หลังจากนั้นเขาก็รู้ได้ว่าไม่ต้องการที่จะเป็นผู้ใหญ่อีกต่อไป และอยากจะกลับไปใช้ชีวิตแบบเด็กๆ อีกครั้ง “ฉันปฏิเสธไม่ได้ว่าฉันไม่ได้แต่งงาน ฉันปฏิเสธไม่ได้ว่าฉันไม่ได้มีลูก แต่ตอนนี้ฉันแค่ต้องการก้าวไปข้างหน้า และกลับไปเป็นเด็กเท่านั้น ภรรยาของฉันไม่สามารถยอมรับได้เมื่อฉันได้ผ่าตัดแปลงเพศ เธอบอกให้ฉันหยุดทั้งเรื่องแปลงเพศ และเรื่องที่ฉันจะไป แต่ฉันไม่สามารถทำได้จริงๆ” Stefonknee กล่าว อย่างไรก็ตามเมื่อ Stefonknee ไม่ได้รับการยอมรับจากครอบครัว นั่นทำให้เขาต้องไปอาศัยอยู่กับครอบครัวบุญธรรม ซึ่งทาง Stefonknee ได้ออกมาเผยว่า “ฉันสบายดี ฉันเป็นเด็กผู้หญิงตัวน้อย” นอกจากนี้เขายังได้บอกอีกว่า หลานสาวคนเล็กของพ่อแม่คนใหม่ต้องการน้องสาวคนเล็ก และได้ตัดสินใจให้เขาเป็นน้องสาวของเธอ …
-
Dr. Kitty หมอเถื่อนวัย 19 ถูกตำรวจจับ หลังแอบเปิดคลินิกศัลยกรรมโดยไม่มีใบอนุญาต
ทุกวันนี้ใครที่รู้สึกไม่พอใจในรูปลักษณ์หรือหน้าตาของตนเอง ก็สามารถเดินเข้าคลินิกความงามเพื่อแต่งเติมส่วนที่เหลือที่ขาดได้ แต่ก่อนจะลงมือทำอะไร โปรดตรวจสอบคลินิกเหล่านั้นให้ดีเสียก่อน ไม่อย่างนั้นท่านอาจจ๊ะเอ๋กับหมอเถื่อนก็เป็นได้ เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2560 ทางสำนักข่าวต่างประเทศได้ออกมาตีแผ่เรื่องราวสุดฉาวของวงการศัลยกรรมเถื่อน เมื่อ Jingyi Wang หรือ Dr. Kitty (นามแฝง) หญิงสาววัย 19 ปี จากโตรอนโต ประเทศแคนาดา ถูกทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมในวันศุกร์ที่ 13 ตุลาคม 2560 หลังจากที่เธอถูกกล่าวหาว่าเป็นหมอเถื่อน แอบเปิดคลินิกศัลยกรรมโดยไม่มีใบอนุญาต… จากการรายงานระบุว่า ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา Dr. Kitty ได้อ้างว่าเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านความงามทั้งที่ไม่ได้เป็นแพทย์จริง โดยเธอได้ทำการเปิดคลินิกเสริมความงามที่ชั้นใต้ดินภายในบ้าน และที่น่าตกใจก็คือมีเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายได้หลงเข้ามาทำศัลยกรรมที่คลินิกเถื่อนแห่งนี้ ซึ่งเหยื่อส่วนใหญ่มักจะมีอายุที่ใกล้เคียงกับเธอ อย่างไรก็ตาม Dr. Kitty ได้ทำการฉีดฟิลเลอร์บนใบหน้าให้กับหญิงสาวรายหนึ่ง แต่หลังจากนั้นเพียงไม่กี่สัปดาห์ ใบหน้าของหญิงรายดังกล่าวก็ได้รับการติดเชื้ออย่างรุนแรง และจำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือจากศัลยแพทย์ตกแต่งตัวจริงที่มีใบอนุญาตอย่างเร่งด่วน ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกมาเผยว่า อาจมีผู้ตกเป็นเหยื่ออีกหลายรายที่ได้เข้ามาใช้บริการเสริมความงามจากคลินิกเถื่อนแห่งนี้ ทั้งนี้ Dr. Kitty ได้ออกมาปรากฏตัวต่อศาลในวันเสาร์ที่ผ่านมา ภายหลังจากที่ถูกทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมในวันวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งเธอก็มีกำหนดให้ขึ้นศาลอีกครั้งในเดือนหน้า ที่มา…
-
20 โมเม้นต์สุดฮา…เมื่อเหล่าผู้คนไปเล่น “บ้านผีสิง” และนี่คือภาพของพวกเขาตอนถูกผีหลอก
“บ้านผีสิง” เป็นหนึ่งในสถานที่ชวนขวัญผวาสำหรับผู้กล้าที่ชื่นชอบความตื่นเต้น และความท้าทาย ซึ่งถ้าหากใครที่เคยเข้าไปเที่ยวบ้านผีสิงตามสวนสนุกต่างๆ สิ่งที่คุณจะได้พบก็คือ ประการณ์ความหลอนที่ทำให้ติดตาไปนานหลายวัน เพราะบางที่ก็สร้างความหลอนให้แบบจัดเต็มเหลือเกิน เช่น ให้ผีโผล่ออกมาจนคนตกใจ หรือผีวิ่งไล่ ผีเขย่ากรง แถมยังใส่เสียงซาวด์หลอนๆ เพิ่มเข้ามาด้วย และในครั้งนี้ #เหมียวขี้อ้อน ไม่ได้จะพาเพื่อนๆ มาทัวร์บ้านผีสิงหรอกแต่ แต่จะพามาดูภาพวินาทีชวนขวัญผวาของผู้คนหลังจากถูก “ผีหลอก” เมื่อเข้าเล่น Nightmares Fear Factory ที่ประเทศแคนาดา 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 …
-
เจ้ากวางป่ากลับมาเยี่ยมมนุษย์ ที่เคยช่วยชีวิตมันเอาไว้ แถมพาลูกแฝดมาอวดโฉมด้วย…
ถ้าหากว่าเราได้เจอเรื่องราวดีๆ ที่น่าจดจำในสถานที่แห่งหนึ่ง เชื่อว่าหากย้อนกลับไปได้ คุณคงอยากจะกลับไปเยือนสถานที่แห่งนั้นอีกสักครั้ง เหมือนดังเช่น เจ้ากวางตัวนี้ ที่ได้กลับมายังสถานที่ที่เคยช่วยเหลือมันไว้เมื่อตอนเป็นเด็ก แถมคราวนี้ยังได้พาลูกๆ ของมันมาด้วย ย้อนกลับไปเมื่อปี 2008 ทางเจ้าหน้าที่ของ Northern Lights Wildlife Society (NLWS) จากประเทศแคนาดา ได้ทำการช่วยชีวิตลูกกวาง 2 ตัวเอาไว้ เนื่องจากแม่ของมันถูกรถชนตาย โดยพวกเขาได้ตั้งชื่อให้พวกมันว่า Ping และ Pong แต่เคราะห์ร้ายที่กวางน้อย Pong ได้ตายจากไปในเวลาต่อมา ทำให้เหลือลูกกวางเพียงแค่เจ้า Ping เพียงตัวเดียว แต่เจ้าหน้าที่ก็พยายามดูแลมันเป็นอย่างดี เพื่อรอวันที่จะได้กลับไปใช้ชีวิตในป่าอีกครั้ง วันเวลาผ่านไป จากกวางน้อยผู้น่าสงสาร ก็ได้เติบโตขึ้นเป็นกวางที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้เห็นว่าเจ้า Ping คงจะสามารถดูแลตัวเองได้แล้ว ดังนั้น จึงทำให้พวกเขาได้ส่งมันกลับคืนสู่ป่าดังเดิม ต่อมาในปี 2012 ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้พบว่า เจ้า Ping ได้กลับมายังสถานที่ที่เคยช่วยเหลือมันเอาไว้ตอนเด็กอีกครั้ง แต่รอบนี้มันไม่ได้กลับมาเพียงตัวเดียว…
-
ความจริงที่น่าเศร้าของม้ากว่า 30,000 ตัว ที่ถูกส่งไปฆ่ายังประเทศแคนาดา
นี่คือเรื่องราวอันน่าเศร้าของม้ากว่า 30,000 ตัวในสหรัฐอเมริกา ที่อาจจะทำให้คนรักสัตว์ทั้งหลายถึงกับน้ำตาไหล เพราะเจ้าม้าที่น่าสงสารเหล่านี้ แทนที่จะได้ใช้ชีวิตอย่างอิสระอย่างที่มันควรจะเป็น แต่ในทุกๆ ปี พวกมันมักจะถูกมนุษย์ส่งไปขายในต่างประเทศ และถูกฆ่าตายอยู่เสมอ เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2560 ทางเว็บไซต์ Thedodo ได้เผยว่า ชาวอเมริกันจำนวนมากอาจไม่คิดว่าม้ากว่า 100,000 ตัวจากสหรัฐฯ ถูกส่งไปยังประเทศอื่นๆ ในแต่ละปี เพื่อฆ่านำไปทำเป็นเนื้อบริโภค แต่ทว่าในปีที่ผ่านมา มีการค้นพบว่า นับตั้งแต่ที่โรงฆ่าม้าในสหรัฐอเมริกาปิดตัวลงในปี 2007 ม้ากว่า 30,000 ตัวในสหรัฐฯ ที่ถูกส่งไป ณ โรงฆ่าสัตว์ในประเทศแคนาดา ไม่ได้เพียงแต่ถูกฆ่าเท่านั้น แต่พวกมันยังถูกนำไปประมูลขาย และถูกนำไปใช้ในการขนส่งอีกด้วย จากการรายงานระบุว่า เนื้อของพวกมันถูกส่งออกไปยังยุโรป สำหรับใช้ในการบริโภค แต่ในปี 2015 ยุโรปกลับสั่งห้ามนำเนื้อม้าจากเม็กกิโกเข้ามา เพราะพบว่าม้ามีอาการป่วย และได้รับสารอันตรายเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งพวกเขาคาดว่า หากนำเนื้อของพวกมันมาบริโภคอาจจะเป็นอันตรายต่อผู้คนได้ ปัจจุบันการลักลอบขนส่งม้าไปยังประเทศแคนาดาได้รับการเปิดเผยมากยิ่งขึ้น ซึ่งทางกลุ่มอนุรักษ์สัตว์ ได้ใช้เวลาสองปีที่ผ่านมาในการตรวจสอบโรงฆ่าม้าในประเทศแคนาดา และพบว่าในสถานที่แห่งนั้นมีทั้งม้าตาบอด ป่วย พิการ…
-
หนูน้อยรถเข็นวัย 1 ขวบ แม้จะเป็นอัมพาต แต่ก็ใช้ชีวิตได้แฮปปี้ ไม่แพ้เด็กคนอื่นๆ
เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2559 ทางเว็บไซต์ Huffingtonpost ได้เผยภาพพร้อมเรื่องราวของ Evelyn Moore หนูน้อยที่อาศัยอยู่ในเมืองเอดมันตัน ประเทศแคนาดา ที่เกิดมามีน่ารักตาน่ารักน่าเอ็นดู และร่าเริงสดใสเหมือนกับเด็กทั่วๆ ไป แต่ถึงกระนั้น เธอก็ไม่ได้เหมือนกับเด็กคนอื่นๆ ไปซะหมด เพราะมีบางสิ่งที่ทำให้ Evelyn ดูแตกต่างออกไป แต่นั่นไม่ใช่ปมด้อยของเธอหรอกนะ เป็นเพราะว่าเธอมีความผิดปกติทางร่างกายต่างหากละ ขอเล่าย้อนเวลากลับไปตอนที่หนูน้อย Evelyn มีอายุได้เพียง 4 เดือน แพทย์ได้ทำการวินิจฉัยพบว่าเธอเป็นโรคเนื้องอกในกระดูกสันหลัง เธอได้รับการเปลี่ยนยาเคมีบำบัดถึง 8 รอบด้วยกัน และที่เลวร้ายไปกว่านั้นคือหนูน้อยได้กลายเป็นอัมพาตครึ่งซีก อย่างไรก็ตาม แม้ว่าแพทย์จะบอกว่าเธอสามารถใช้รถเข็นได้ในภายหลัง แต่ Kimberly Moore ผู้เป็นแม่ก็อยากจะให้ลูกสาวของตัวเอง มีสภาวะปกติมากที่สุดเท่าที่จะเป็นได้ “เมื่อรู้ว่า Evelyn โรคเนื้องอกในกระดูกสันหลัง เราก็รู้สึกกังวลเกี่ยวกับการรักษาของเธอ พวกเขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะต้องทำประกันภัยสำหรับรถเข็นคนพิการ… แต่ Brad สามีของฉันได้บอกว่าเขาสามารถสร้างรถเข็นเองได้ภายในหนึ่ง ถึงสองวัน และแน่นอนว่าเขาก็สามารถสร้างเสร็จจริงๆ” Kimberly ได้เผยกับทางสำนักข่าว…
-
คู่สามีภรรยาชาวอังกฤษ นำหมียักษ์ที่หนักถึง 450 กิโล มาเลี้ยงเป็นลูกชายนานถึง 26 ปี
เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2558 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศได้เผยเรื่องราวของ Andy และ Maggie Robin คู่สามีภรรยาชาวอังกฤษ กับ Hercules เจ้าหมียักษ์ที่พวกเขาได้เลี้ยงเอาไว้ หลายคนอาจจะคิดว่าเรื่องราวของสามีภรรยาที่เลี้ยงหมียักษ์ มันก็เป็นเรื่องธรรมดาๆ ทั่วไปใช่ไหมละ แต่จริงๆ แล้วพวกเขาไม่ได้เลี้ยงมันเป็นสัตว์เลี้ยงแต่อย่างใด แต่พวกเขาเลี้ยงมันเป็นเหมือนลูกชายต่างหากละ ซึ่งก่อนที่พวกเขาจะนำเจ้าหมียักษ์มาเลี้ยงเป็นลูกชายนั้น ในปี 2510 Andy ที่มีอาชีพเป็นนักมวยปล้ำ ได้ถูกเชิญให้ขึ้นเวทีเพื่อสู้กับหมี ที่เมืองโตรอนโต ประเทศแคนาดา แต่หลังจากที่เขากับหมีได้ลองใช้ชีวิตหลังฉากด้วยกัน Andy ก็รู้สึกผูกพันกับมันเป็นอย่างมาก ดังนั้นจึงทำให้เขาได้ตัดสินใจซื้อเจ้าหมีตัวนี้มาในราคาเพียงแค่ 2,500 บาท แถมยังตั้งชื่อให้มันว่า Hercules อีกด้วย แม้ว่าผู้เชี่ยวชาญสัตว์ป่าจะโทรศัพท์มาเตือน ว่าเจ้าหมีตัวนี้อาจจะสังหาร และทำร้ายพวกเขา แต่ทั้งคู่ก็ยังพาเจ้า Hercules มาอยู่ที่บ้าน ซึ่งพวกเขาก็ได้สอนให้มันสุภาพ ใจเย็น และไม่น่าเชื่อเลยว่ามันจะสามารถกลายเป็นหมีที่สุภาพมากๆ เลยละ หลายคนที่ได้เห็นจะบอกว่ามันน่ากลัวมาก แต่…