Tag: ประโยค
-
10 ประโยคช่วยเหลือ “คนที่คิดจะฆ่าตัวตาย” พูดอย่างไรให้ถูก ให้พวกเขาอยากมีชีวิตต่อ
ปัจจุบันโรคภัยที่มาแบบเงียบๆ แต่แฝงความอันตรายเอาไว้คือ โรคทางจิต เพราะเราไม่สามารถสังเกตเห็นได้ชัดเจนเหมือนกันโรคทางกายที่เพียงปวดศีรษะหรือปวดท้องก็ไปพบแพทย์ได้ แต่อาการทางจิต บางครั้งคนเราไม่รู้ว่าแบบไหนที่เรียกว่าผิดปกติหรือเข้าข่ายมีอาการทางจิต ประกอบกับบางคนก็กลัวว่าสังคมจะไม่ยอมรับหากเข้าพบจิตแพทย์ จึงทำให้ผู้ที่มีเพียง “อาการทางจิต” หลายคนอาจพัฒนาจนเป็น “โรคทางจิต” ได้ ปัจจุบัน โรคทางจิตที่แพร่หลายและค่อนข้างใกล้ตัวผู้คนกว่าโรคอื่นก็คือ โรคซึมเศร้า ซึ่งเกิดจากความผิดปกติของสารเคมีในสมอง รวมทั้งอาจเกิดจากการประสบกับเหตุการณ์สะเทือนใจอย่างรุนแรง ผู้ป่วยอาจมีอาการเซื่องซึม เบื่อหน่าย ไม่สามารถทำกิจกรรมที่เคยชอบหรือเคยทำได้ กินน้อยหรือมากผิดปกติ นอนไม่หลับ รู้สึกไร้ค่า โทษตัวเอง ซึ่งหากอาการรุนแรงก็จะเกิดความคิดอยาก ฆ่าตัวตาย ขึ้นมาด้วย อาการซึมเศร้า โรคซึมเศร้า และความคิดที่จะฆ่าตัวตายที่ไม่ว่าจะเกิดจากสาเหตุใดก็ตาม ย่อมเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิดกับตนเองหรือคนใกล้ชิด ฉะนั้นหากใครที่ต้องรับมือกับคนที่กำลังอยาก “ฆ่าตัวตาย” ก็ควรรู้วิธีช่วยเหลือพวกเขาเอาไว้สักนิดก็ยังดี วันนี้เราจึงขอเสนอ 10 ประโยคที่ควรพูด กับคนที่กำลังคิดจะฆ่าตัวตาย ให้พวกเขาได้คิดดีๆ อีกครั้ง 1. “ดีใจนะที่คุณบอกฉันว่าคุณกำลังคิดจะฆ่าตัวตาย” (หรือประโยคที่ความหมายใกล้เคียง) แทนที่จะพูดด้วยอารมณ์รุนแรงหรือพูดแบบไม่ใส่ใจ หันมาพูดกับเขาอย่างเปิดใจและยอมรับความคิดของเขาดีกว่า 2. “ฉันรู้สึกไม่ดีเลยที่เห็นคุณต้องเจ็บปวดแบบนี้” ประโยคทำนองนี้นอกจากจะแสดงความใส่ใจแล้วยังช่วยให้ผู้ฟังรู้สึกคลายเหงาได้ด้วย อย่าพยายามปฏิเสธความคิดของเขาหรือทำให้ความเจ็บปวดของเขาดูเล็กน้อย เช่น “ไม่ขนาดนั้นหรอกมั้ง” หรือ “อย่าลืมว่าคุณมีอะไรต้องทำอีกเยอะ”…
-
โมเมนต์บอกลาครั้งสุดท้าย “ผมรู้คุณไม่ได้ยินผมแล้ว แต่ผมรักคุณนะ” ปิดฉากรัก 60 ปี
“รักแท้” มีรูปร่างหน้าตาและความรู้สึกเป็นอย่างไร หากจะให้นิยามเป็นรูปแบบที่ตายตัวคงจะไม่ได้ เพราะทุกคนต่างผ่านเส้นทางความรักที่แตกต่างกันไป ยกตัวอย่างจากเรื่องราวของคุณตา Bobby Moore โดยบอกเล่าผ่านภาพถ่ายของช่างภาพสายข่าว April Yurcevic Shepperd ด้วยการเป็นพยานประจักษ์ถึงตำนานความรักแท้ในครั้งนี้ “ในวันนี้ฉันได้เจอกับชายคนหนึ่ง ชายผู้แหลกสลาย ยืนอยู่ตรงหน้าสิ่งที่ล้ำค่าที่สุดในชีวิต และนี่ก็คือความรักที่มีตัวตนของเขา เมื่อเขาเดินเข้ามาในห้อง การย่างเท้าของเขาไม่มั่นคง แต่ความตั้งใจของเขายังแน่วแน่ ดวงตาจ้องมองมาที่ปลายทางใจกลางห้อง โลงศพเหล็กสีเทาวางอยู่ตรงนั้นภายใต้แสงสีนวลตา ครึ่งหนึ่งของโลกถูกเปิดเอาไว้ ตกแต่งไปด้วยโบและดอกไม้หลากสีสัน พร้อมกับเขียนคำว่า “ภรรยา” และ “แม่” เมื่อมาถึงปลายทางที่เขาตั้งใจ เขาก้มตัวและจูบริมฝีปากของเธอ ร่างกายอันอ่อนแอก็ยิ่งสั่นคลอน จนกระทั่งคำพูดอันสุภาพและอ่อนน้อมได้หลุดออกมาจากปากของเขา เขาพูดเพื่อให้เธอได้ยินเพียงคนเดียว และถูกพูดนับครั้งไม่ถ้วนในห้วงเวลาอันแสนสั้น แต่ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาจะได้พูดกับเธอ… “ผมรู้ว่าคุณไม่ได้ยินผมอีกแล้ว แต่ผมรักคุณนะ” สิ้นสุดคำพูดของคุณตา น้ำตาก็เอ่อล้นไหลรินออกมา ตลอด 60 ปีที่ผ่านมา คุณยายอยู่เคียงข้างคุณตามาโดยตลอด แต่มันก็ยังไม่เพียงพอ ยังไม่ใกล้เคียงเสียด้วยซ้ำ คุณตาจึงคว้าเก้าอี้มานั่งอยู่ข้างๆ โลง ในขณะที่ไม้ค้ำอยู่ทางด้านขวา และร่างของภรรยาอยู่ทางด้านซ้าย เขานั่งอยู่ตรงนั้นเป็นเวลานานเกือบชั่วโมง เขาคว้ามือของภรรยาและลูบเบาๆ คล้ายกับว่าเขากำลังปลอบโยนเธออยู่…
-
ถ้าคุณพูด 5 ประโยคแบบนี้บ่อยๆ คุณอาจจะมีความเป็นคนโรคจิตอยู่ในตัวก็เป็นไปได้
Psychopath หรือที่เราเข้าใจกันง่ายๆ ด้วยคำว่าโรคจิตหรือคนบ้า หมายถึงคนที่ขาดความสามารถในการเข้าใจผู้อื่น ไม่มีความสำนึกผิด และเห็นแก่ตัว และที่สำคัญ ประมาณ 1% ของประชากรบนโลก ป่วยด้วยโรคทางจิตเหล่านี้อยู่ ซึ่งไม่แน่ว่าพวกเราเองก็อาจเป็นหนึ่งในนั้นโดยที่ไม่รู้ตัวมาก่อน Jackson MacKenzie ผู้เขียนหนังสือวิธีการรับมือกับอาการดังกล่าว ได้ออกมาแชร์ข้อสังเกตง่ายๆ ในการสำรวจตัวเอง โดยดูจากคำพูดของเรา ถ้าหากเราพูดประโยคเหล่านี้บ่อยๆ นั่นอาจหมายความว่าคุณกำลังเข้าข่ายเป็นโรคจิตแล้วก็ได้นะ มีประโยคอะไรบ้างไปดูกันเลย “เธอคอยจับผิดทุกเรื่องอยู่เรื่อยเลย” หากคุณพูดแบบนี้อาจหมายความว่าคุณกำลังโดนจับผิดเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อยู่ แต่หากคิดให้มากกว่านั้นคุณอาจกำลังทำให้อีกฝ่ายรู้สึกผิดและไม่ยอมรับในสิ่งที่ตัวเองทำลงไป วิธีการดังกล่าวเหมือนกับคนโรคจิตที่ชอบสร้างจุดกระตุ้นเล็กๆ ให้คนอื่นสังเกตเห็น และหากมีคนพูดถึงจุดนั้นขึ้นมา คนคนนั้นก็จะถูกต่อว่ากลับไปจนต้องรู้สึกผิด “ฉันเกลียดการดราม่า” คุณอาจถูกคนที่มีอิทธิพลมากกว่าทำเรื่องไม่ดีให้ชีวิตตกต่ำหรือแย่ลง แต่สุดท้ายคุณเลือกที่จะไม่ยกความจริงขึ้นมาพูดถึงเพราะไม่อยากให้มันกลายเป็นการดราม่า แต่ในความเป็นจริงคุณอาจกำลังสร้างเรื่องดราม่ามากกว่าคนอื่นอยู่ก็ได้ “เธอเข้าใจฉันผิดไป” สมมุติว่าเจ้านายของคุณมาพูดอย่างนี้และคุณทำงานออกมาผิดจริง นั่นอาจไม่ได้หมายความว่าเขาเป็นโรคจิตก็ได้ แต่สำหรับคนที่มีอาการนั้นจริงๆ พวกเขาจะทำหรือพูดบางอย่างให้คุณได้เห็นหรือรับรู้ ก่อนที่จะต่อว่าคุณกลับมาว่าคุณตีความสิ่งที่เขาต้องการจะสื่อผิดไป หรืออาจบอกว่าสิ่งที่คุณพูดมามันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน “เธอเป็นคนอ่อนไหวมากจริงๆ” ผู้มีอาการ Psychopath จะทำให้คุณต้องเจอกับจุดที่อารมณ์ของคุณอ่อนไหวมากที่สุดและเขาก็จะตอกย้ำให้คุณต้องรู้สึกอย่างนั้น เหมือนกับว่าพวกเขาสามารถควบคุมความรู้สึกของคนอื่นได้ “เธอ บ้าหรือเปล่า / เป็นไบโพลาร์หรือไง…
-
15 คำพูดธรรมดาๆ แต่ไม่ควรนำพูดกับผู้ป่วย “โรคซึมเศร้า” เพราะมันอาจจะทำให้แย่ลงกว่าเดิม
“โรคซึมเศร้า” เป็นสิ่งที่หลายๆ คนมักจะมองข้ามไป แต่ที่จริงแล้วใครจะรู้ละว่าโรคนี้ใกล้ตัวกว่าที่เราคิด เนื่องจากเป็นเรื่องเกี่ยวกับสุขภาพทางจิตใจ อารมณ์ ความรู้สึก และความคิด ดังนั้น หากใครที่มีเพื่อน หรือคนในครอบครัวที่ป่วยเป็นโรคดังกล่าว ควรพยายามที่จะเข้าใจคนเหล่านี้ให้มากขึ้น เพราะพวกเขาเป็นผู้ป่วยที่ต้องได้รับการดูแลการฟื้นฟูจิตใจ ไม่ให้รู้สึกเศร้า หม่นหมอง หงุดหงิด หรือกังวลใจ แต่ถ้าหากไม่ได้รับการรักษา อาการก็จะเริ่มรุนแรงขึ้น จนเป็นเหตุให้ผู้ป่วยถึงขั้นพยายามฆ่าตัวตายขึ้นมาก็เป็นได้ วันนี้ #เหมียวขี้อ้อน แปลบทความรวบรวม 15 ประโยคที่ไม่ควรพูดกับผู้ป่วยโรคซึมเศร้า ที่บางคนอาจคิดว่ามันจะช่วยรักษาพวกเขาได้ แต่จริงๆ แล้วมันกลับเป็นคำพูดที่ฟังใจแทงใจยิ่งกว่าเดิม และเน้นไปที่คำพูดซึ่งช่วยพวกเขาได้มากกว่า 1.มีคนที่แย่กว่าคุณเยอะ สิ่งที่คุณควรจะพูดแทนคำว่ามีคนที่แย่กว่าคุณเยอะ ก็คือ “ฉันขอโทษที่ทำร้ายคุณ ฉันจะช่วยคุณได้อย่างไร” มันน่าจะช่วยให้พวกเขาได้ระบายความรู้สึกมากกว่า 2.พรุ่งนี้คุณจะรู้สึกดีขึ้น แม้คำพูดนี้อาจจะทำให้หลายๆ คนรู้สึกดีขึ้น แต่สำหรับผู้ป่วยโรคซึมเศร้าแล้ว มันไม่ได้ทำให้พวกเขารู้สึกดีขึ้นเลย ในทางกลับกันหากลองพูดว่า “คุณต้องใช้เวลาหนึ่งวันให้เต็มที่ และผมก็จะอยู่กับคุณจนกว่าจะผ่านวันนั้นไป” 3.ชีวิตมันไม่ยุติธรรมเลย นี่เป็นอีกประโยคหนึ่งที่ไม่ควรพูดกับผู้ป่วยโรคซึมเศร้าเป็นอย่างมาก เพราะหากคุณบอกว่าชีวิตมันไม่ยุติธรรมเอาซะเลย นั่นอาจทำให้พวกเขารู้สึกแย่กว่าเดิม ดังนั้นคุณอาจจะต้องพูดว่า “ฉันขอโทษในสิ่งที่เกิดขึ้นกับคุณ แต่เราสามารถที่จะผ่านมันไปได้” 4.เพียงแค่คุณจัดการกับมัน แม้อาจจะเป็นคำธรรมดาๆ…
-
ญี่ปุ่นเผยผลสำรวจ 10 ประโยคที่เหล่า ‘พ่อบ้าน’ ไม่อยากได้ยินจากเมียมากที่ซู๊ด!!!
คงจะจริงอย่างที่เค้าว่า “เมื่อแรกรัก น้ำต้มผักยังว่าหวาน” ก็แหมตอนคบกันใหม่ๆสมัยวัยรุ่น ไม่ว่าอีกฝ่ายจะทำอะไรมันก็ดูน่ารัก ดูดีไปซะหมด แต่พอนานเข้าๆ จนเริ่มตกลงปลงใจแต่งงานกัน สร้างครอบครัวกันเป็นที่เรียบร้อย ความเคยชินและความเบื่อหน่ายจะค่อยๆคืบคลานเข้ามา สุดท้ายจากคู่รักแสนหวาน เมื่อผ่านไป 10 ปี กลายเป็น อีแก่&ไอ้แก่ ที่กลายเป็นไม้เบื่อไม้เมา ทะเลาะกันให้ลั่นบ้าน ยังไงซะ แก๊งแมวเหมียว เราก็ไม่สนับสนุนให้ครอบครัวแตกแยก เพราะฉะนั้นเราไปดูผลสำรวจจากเว็บไซต์ Rocketnews24 ที่ได้ไปสำรวจจากเหล่าพ่อบ้านในญี่ปุ่นทั้งหลาย ว่าประโยคอะไรบ้างจากแม่บ้านที่พวกเขาได้ยินมันทุกวัน ซ้ำไปซ้ำมา แถมได้ยินทีไรละเกิดอาการเบื่อหน่ายยยทู๊กกกที 10. “หยุดเสียเงินไปกับของไร้สาระซักทีเถอะ” เพราะผู้หญิงและผู้ชายมักจะมองโลกต่างกัน และในสังคมประเทศญี่ปุ่นส่วนใหญ่ พ่อบ้านมักจะนำเงินเดือนทั้งหมดให้แม่บ้านเป็นคนจัดสรร (ไทยเราก็เป็นกันแหละ) แต่พอทำงานเหนื่อยๆมาทั้งที จะขอซื้อเครื่องเกมส์ หนังสือการ์ตูน เหล้ารสชาดดีๆ ทำม๊ายยถึงได้กลายเป็นโดนด่าทุกทีละเนี่ย 9. “หยุดทำตัวเป็นไอ้อ้วนจอมขี้เกียจได้แล้ว!!” ช่างเป็นคำพูดที่แสนจะโหดร้าย และเย็นชา ก็แหมเหล่าพ่อบ้านอย่างเราๆ พอลงหลักปักฐานกับแม่บ้านคนไหน ก็มักจะลืมดูแลตัวเอง เอาแต่กินอาหาร(ที่แม่บ้านทำ) หรือออกไปฉลองเบียร์กับเพื่อนร่วมงานบ่อยๆ ก็ไม่แปลกหรอกที่คนเราพุงมันจะใหญ่ขึ้น แถมยังโดนด่าว่าขี้เกียจอีก แบบนี้มันเจ็บจี๊ดๆๆ 8. “ฉันไม่อยากจะแชร์หลุมศพกับเธอหรอกนะจะบอกให้!!” ในวัฒนธรรมของญี่ปุ่น…
-
รวม 8 ประโยคปริศนา ที่แฟนพูดขึ้นมา โปรดเลือกคำตอบให้ดีๆ ไม่งั้นมีดราม่าแน่!!
สำหรับคนมีแฟนแล้ว การที่จะคบกันไปเรื่อยๆ ให้ความสัมพันธ์ยังคงแฮปปี้ตลอดเวลา โดยไม่มีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันเลยนี่ มันช่างเหมือนกับการถูกหวยรางวัลที่หนึ่งเลยนะ เพราะแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่เราจะเห็นพ้องต้องกันไปซะหมด มันจะต้องมีบางเรื่องที่เรากับเขาเห็นต่างกัน ด้วยเหตุนี้เอง#เหมียวฟิ้นก็เลยลองมาคิดเล่นๆ ว่ามีประโยคหรือคำพูดแบบไหนบ้าง ที่อาจก่อให้เกิดการทะเลาะกัน? หรือคำถามใดบ้างที่คุณควรระมัดระวังคำตอบเป็นพิเศษ เราลองมาดูกัน 1. “ตัวเองว่าเค้าแต่งชุดนี้สวยไหม?” หากคุณเป็นคนไม่ค่อยมีความรู้เรื่องแฟชั่นเท่าไหร่ คำถามนี้อาจจะยากสำหรับคุณ แต่ลองสักตั้ง ใช้สีสันเข้ามาช่วยประกอบการตัดสินใจ ถ้าสีที่เธอใส่ไม่เลวร้ายจนเกินไป ให้บอกไปว่า “สีนี้ดูเข้ากับเธอมากเลย 2. “กินอะไรก็ได้” หากเธอพูดประโยคนี้ออกมา นั่นไม่ได้หมายความว่าเธออยากกินอะไรก็ได้จริงๆ แต่เธออยากจะกินอะไรก็ได้ที่เธออยากกิน ไม่ว่าคุณจะพูดชื่อเมนูอะไรก็ตาม ถ้าเธอปฏิเสธและหงุดหงิดมาอย่าเพิ่งท้อ ให้ลองทะล่อมถามเธอว่ามีอะไรที่เธออยากกินไหม? นั่นแหละทางแก้ปัญหาของคุณ 3. “ไปไหนก็ได้” นี่ก็เหมือนกับประโยคบน คือพวกเธอไม่ได้อยากไปไหนก็ได้ แต่อยากไปที่ไหนสักที่ที่เธออยากไป ลองใช้สมองเล็กๆ ของพวกเราประมวลผลดูซิว่าเธอเคยไปที่ไหนแล้วถูกใจเป็นพิเศษ นั่นอาจจะเป็นคำตอบที่ถูกต้องก็ได้นะ 4. “เค้าแต่งหน้าดียังตัวเอง?” แน่นอนว่าตัวผู้แบบพวกเรามันจะไปเข้าใจศาสตร์การแต่งหน้าแบบพวกเธอได้อย่างไร แต่ก็ลองสังเกตดูตาของเธอว่าเลอะไปไหม ลิปสีเหมือนกับที่เคยทาหรือเปล่า เท่านี้ก็น่าจะช่วยให้คุณเอาตัวรอดจากการโดนด่าว่าไม่เอาใจใส่ได้แล้ว 5. “แล้วแต่” ถ้าคุณบอกเธอว่าจะออกไปไหนสักที่ หรือทำอะไรสักอย่าง แล้วเธอตอบเป็นประโยคนี้กลับมา…
-
ไปฟังประโยคเด็ด “I am your father” จาก Star Wars ทั้ง 20 ประเทศ อันไหนโหดที่สุด!!?
สาวกภาพยนตร์มหากาพย์อย่าง Star Wars หรือไม่ใช่สาวกก็ตามก็คงจะรู้จักประโยคเด็ดในหนังซึ่งปรากฏออกมาใน Episode ที่ 5 ซึ่งเป็นฉากที่ Darth Vader เปิดเผยตัวอย่างว่าเป็นพ่อของ Luke Skywalker หลังจากนั้นไม่นาน เสียงของ James Earl Jones ผู้ให้เสียง Darth Vader ก็เป็นที่โด่งดังขึ้นมาทันที เมื่อไหร่ที่ได้ยินประโยคนี้ หลายคนก็คงนึกถึงฉากนี้เสมอ แต่จะเกิดอะไรขึ้นล่ะ ถ้าประโยคนี้มันไม่ได้เป็นภาษาอังกฤษหรือภาษาไทยเหมือนที่เราคุ้นเคยกัน วันนี้เหมียวเลยพาทุกท่านมาดูฉากเด็ดพร้อมกับประโยคดังทั้ง 20 ภาษาจากทั่วโลกมาให้ทุกคนตัดสินกันว่าประเทศไหนน่ากลัวที่สุด มีของไทยด้วยนะจ๊ะ ไปฟังกันเลย!! ความคลาสสิกเหมียวยกให้อังกฤษกับไทยเลย แต่ถ้าเป็นสายโหดจะให้เยอรมัน แต่ความแบ๊วนี่ต้องยกให้ฮิบบรูเลย โดดเด่นมากกก ปิดท้ายด้วยรูปคลาสสิกอีกเช่นกัน ที่มา Matteo Di pastena
-
20 ประโยคที่ไม่ควรพูดกับคุณแฟนในตอนที่เธออยู่ในช่วง “วันนั้นของเดือน”
ถึงคุณผู้ชายที่มีแฟนแล้ว ท่านคงรู้ว่าผู้หญิงจะมีช่วงเวลาหนึ่งที่อ่อนไหวต่อความรู้สึกเป็นอย่างมาก นั่นก็คือช่วงเวลาก่อนประจำเดือน เรียกได้ว่าเป็น 7 วันอันตราย (หรือบางคนก็อาจจะนานกว่านั้น) ในช่วงนี้คุณผู้หญิงจะมีอารมณ์ที่แปรปรวนผิดปกติ เสมือท้องฟ้าวิปริตแปรปรวนทันใด และอาจกลายร่างเป็นอังกอร์มาขย้ำคุณเลยก็ได้ วันนี้เหมียวเลยจะมาแนะนำชายทุกท่านที่กำลังประสบปัญหานี้ ให้หลีกเลี่ยงการกระทำบางอย่างที่อาจส่งผลให้ชีวิตของท่านอาจถึงแก่ชีวิตได้ เราไปดูกันเลยว่าประโยคไหนคือประโยคต้องห้าม 1. นี่แกจะสวาปามทั้งวันเลยเหรอ ? ในความคิดผู้หญิง: (ทำไม นี่เธอว่าเค้าอ้วนเหรออออ) 2. เราไปทะเลกันดีมั้ย ? ในความคิดผู้หญิง: (ชวนตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้วละเพิ่งมาบอกจะไปตอนนี้เนี่ยนะ) 3. อื้ม … ชุดนี้ก็โอเคแล้วนี่ ในความคิดผู้หญิง: (เหรอ !? เค้ารู้สึกตัวจะแตกอยู่แล้ว ดูสิ พองออกมาเชียว นี่เธอว่ามันโอเคจริงๆเหรอ) 4. ไม่อยากกินอะไรหนักๆตอนมื้อเย็นอ่ะ ในความคิดผู้หญิง: (นี่แกกล้าจะให้ฉันกินข้าวจานเดียวตอนเย็นเนี่ยนะ หรือแงะ?) 5. ประจำเดือนนี่มันมาทุกเดือนเลยเหรอ? ในความคิดผู้หญิง: (เอ๊าาาา!! ถามโง่ๆ ไปไหนก็ไป๊) 6. ทำไมผ้าอนามัยต้องมีปีกด้วยอ่ะ ในความคิดผู้หญิง:…