Tag: ปรัชญา
-
11 คำคมจากนักปราชญ์แห่งทวิตเตอร์ เรื่องน่าคิดที่ตรงกับชีวิตอย่างไม่น่าเชื่อ
สื่อสังคมออนไลน์เป็นเวทีที่ยอดเยี่ยมสำหรับนักปรัชญาสมัครเล่น ความคิดที่น่าสนใจมักจะโผล่เข้ามาในหัวของคุณเสมอๆ แต่การจะอัดความคิดเหล่านั้นลงไปไม่ให้เกิน 280 คำ นั้นเป็นความสามารถเฉพาะคนอยู่ดี นักปราชญ์แห่งโซเชียลมีเดียนั้นต้องสามารถถ่ายทอดทุกสิ่งทุกอย่างออกมาในคำสั้นๆ เฉกเช่นเหล่านักปราชญ์แห่งทวิตเตอร์เหล่านี้ ผู้ซึ่งให้คำพูดแห่งปัญญาที่ตรงกับชีวิตอย่างไม่น่าเชื่อแก่พวกเราได้ โดยที่แทบจะไม่ต้องพูดอะไรให้มากความเสียด้วยซ้ำ ผมล่ะไม่เข้าใจเลยว่าทำไมคนเป็นแฟนกันต้องโพสต์ฉลองวันครบรอบสามเดือนอะไรพวกนั้น ผมมีแก้วที่วางอยู่ในห้องนานกว่านั้นอีก ถ้าคุณกำลังมองใครอยู่แล้วคนๆ นั้นดันรู้ตัวขึ้นมา แทนที่จะอึดอัดเคอะเขิน ส่งจูบให้พวกเขาไปเลยพวกเขาจะได้เป็นฝ่ายอึดอัดเคอะเขินแทน จะเกิดอะไรขึ้นถ้าที่สุนัขวิ่งไปเก็บบอลกลับมา เป็นเพราะมันคิดว่าคุณสนุกกับการโยนบอล อย่าให้ผู้คนที่มีชีวิตที่เลวร้ายเข้ามาหาคุณ พวกเขารักษาไม่ได้หรอก แถมยังเป็นตัวแพร่เชื้อด้วยด้วย บอกใครสักคนว่าคุณรักพวกเขาในวันนี้ เพราะชีวิตคนเรามันสั้นนัก แต่ให้ตะโกนใส่เป็นภาษาเยอรมันเพราะชีวิตมันก็โหดร้าย และสับสนเช่นกัน ในโลกใบนี้มีคนกว่า 7 พันล้านคนเชียวนะ คุณคิดเหรอว่าฉันจะวิ่งตามคนที่ไม่ได้สนใจฉันด้วยซ้ำ… ฮ่า.. ฮ่า.. ฮ่า… นั่นล่ะคือสิ่งที่ฉันจะทำ จะมีประจำเดือนไว้ทำไม ทำไมไม่เอาคนแคระถือเค้กมาบอกฉันทุกเดือนๆ ว่า “เธอไม่ได้ท้อง ขอให้วันนี้เป็นวันที่ดีนะ” แทนล่ะ สักวันคนเราก็จะพบกับความเศร้าตามฤดูกาล โชคดีของฉันที่ความเศร้าที่ว่ามันยังไม่หายไปตั้งแต่ปีที่แล้ว สามีเป็นคนที่ดีที่สุดที่จะเล่าความลับของคุณ พวกเขาจะไม่เอาความลับไปพูดกับใคร เพราะพวกเขาไม่ได้ฟังมันด้วยซ้ำ ถ้าอยากมีหน้าท้องแบนราบ ก็ต้องทานอาหารที่แบนราบ พิซซ่า…
-
หญิงสาวป่วยมะเร็งวัย 27 ปีเขียนจดหมายล้ำค่า บอกเล่าบทเรียนของชีวิต ก่อนเธอจะจากไป…
ช่วงอายุ 20-30 ปี คงถือได้ว่าเป็นช่วงที่เราใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการเล่าเรียนหนังสือ เริ่มต้นงานที่ตนเองสนใจ ไต่เต้าตำแหน่งในสายงาน ออกไปท่องเที่ยวและใช้ชีวิต หรือสังสรรค์กับหมู่เพื่อน ซึ่งในวัยนี้เราจะทำอะไรก็ได้ที่ใจนึกเพราะคิดว่ายังมีเวลาอีกมากในชีวิต แต่แท้จริงแล้ว การที่เราอายุยังน้อย ไม่ได้หมายความว่าเรายังเหลือเวลาในชีวิตอีกมาก มีคนหลายคนที่ต้องจากโลกนี้ไปทั้งที่อายุยังน้อยอยู่ Holly Butcher เองก็เป็นคนหนึ่งในนั้นเช่นกัน เธอจึงอยากบอกให้ทุกคนใช้ชีวิตให้คุ้มค่าไม่ว่าคุณจะมีอายุเท่าไรก็ตาม Holly Butcher Butcher เป็นหญิงสาวที่อาศัยอยู่ในเมืองกราฟตัน รัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย เธอป่วยเป็นโรค Ewing’s sacroma ซึ่งเป็นมะเร็งกระดูกชนิดหนึ่งที่มักพบในคนอายุน้อย เมื่อต้นปีที่ผ่านมานี้ เธอก็เสียชีวิตไปด้วยวัยเพียง 27 ปีเท่านั้น ก่อนหน้าที่เธอจะเสียชีวิต เธอใช้เวลาหลายเดือนเพื่อนั่งทบทวนสิ่งต่างๆ ในชีวิต และเตรียมพร้อมรับความตายที่กำลังจะมาถึง ในวันที่ 3 มกราคมที่ผ่านมา เธอจึงได้เขียนบทเรียนในชีวิตที่เธอได้เรียนรู็ โพสต์ลงในเฟสบุ๊กของเธอ เพื่อเป็นข้อคิดเตือนใจให้หลายๆ คนได้นำไปปรับใช้กับชีวิตของตน จะได้มองเห็นคุณค่าของสิ่งต่างๆ ในชีวิตมากขึ้น โดยมีใจความบางส่วนดังนี้ “ฉันอยากให้ทุกคนหยุดกังวลกับเรื่องยิบย่อยในชีวิต และคิดให้ได้ว่าเราทุกคนล้วนมีจุดจบเหมือนกันหมด ทุกคนจะได้ใช้เวลาทุกวินาทีอย่างมีค่า ถ้ามองข้ามเรื่องแย่ๆ ในชีวิตไป” “ในเวลาที่คุณชอบบ่นถึงเรื่องเล็กๆ…
-
เปิด 5 สำนักทางปรัชญา ที่จะทำให้คุณเข้าใจโลกแห่ง ‘ปราชญ์’ มากยิ่งขึ้นอีกนิสสส
หากพูดถึงปรัชญาในบ้านเรา หลายคนอาจจะคิดว่าเป็นเรื่องไกลตัว แต่จริงๆ แล้วปรัชญามันแฝงอยู่ในชีวิตประจำวันของเรานี่แหละ เพียงแค่เราไม่รู้เท่านั้นเอง เพื่อทำความเข้าใจความเป็นปรัชญามากขึ้น #เหมียวขี้ส่อง ขอพาเพื่อนๆ ไปรู้จักกับปรัชญาจาก 5 สำนัก ที่จะทำให้เห็นว่าโลกของปรัชญานั้นเป็นอย่างไรกันบ้าง? 1. สุญนิยม แนวคิดหลักของสำนักสุญนิยมคือ การไม่เชื่อหรือไม่ยอมรับระบบคุณค่าใดๆ ในทางปรัชญา ยกตัวอย่างเช่น ไม่เชื่อว่าระบบทางจริยศาสตร์นั้นมีอยู่จริง ไม่เชื่อว่าชีวิตนี้จะมีความหมายหรือคุณค่าอะไร เป็นต้น ด้วยเหตุนี้ แนวคิดสุญนิยมจึงถูกยกให้เป็นแนวคิดแห่งการทำลายล้าง เพราะคนที่เชื่อในแนวคิดนี้มักจะทำลายชีวิตอื่นเพราะเห็นว่าไม่มีค่า อย่างการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวในรัสเซียก็มีแนวคิดนี้หนุนหลังอยู่ 2. อัตถิภาวนิยม นักปรัชญาที่เป็นผู้ริเริ่มแนวคิดนี้คือ เซอเรน เคียร์เคอกอร์ โดยตั้งคำถามว่าจุดประสงค์ของชีวิตคืออะไรหากไม่มีจุดมุ่งหมาย? เราจะหาคุณค่าจากไหน หลังจากที่พระเจ้าตายแล้ว? และเราจะเผชิญหน้ากับความตายที่หลีกเลี่ยงไม่ได้นี้ได้อย่างไร? สำหรับคำตอบของคำถามนั้นขึ้นอยู่กับปัจเจกบุคคล เพราะอัตถิภาวนิยมเชื่อว่ามนุษย์ไม่ใช่วัตถุแต่มีชีวิตจิตใจ มีความรู้สึก มีความต้องการ ดังนั้นแนวคิดสำคัญของแนวคิดนี้ก็คือ ความมีเสรีภาพ ความรู้สึกรับผิดชอบและการเลือกตัดสินใจ 3. สุขนิยม ลัทธินี้ถือว่าความสุขสบายเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่มนุษย์ควรแสวงหา ไม่มีอะไรอีกนอกจากความสุขสบายของชีวิตที่มนุษย์ต้องการ การกระทำทุกอย่างในชีวิตประจำวันก็เพื่อความสุขสบาย นักปรัชญาสุขนิยมส่วนใหญ่บอกว่า คุณควรจะอ่านหนังสือมากกว่าดื่มเหล้า เพราะผลจากการอ่านหนังสือให้ความสุขมากกว่าการเมา เพราะความสุขในที่นี้ต้องไม่สร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่น 4. ลัทธิมาร์กซ์ ลัทธินี้เป็นการรวบรวมแนวคิดของนักปรัชญา คาร์ล…
-
มองชีวิตผ่านเครื่องบิน ซีรีส์ภาพถ่ายทางอากาศ ที่เผยให้เห็น ‘การเกิดดับ’ ของสรรพสิ่ง
ตามธรรมชาติของทุกสรรพสิ่งบนโลกนั้น ล้วนมีเกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไปทั้งสิ้น และภาพของสนามบินจากผลงานชุด Life Cycles ของช่างภาพชื่อดังอย่างคุณ Mike Kelley เองก็ได้เผยให้เห็นถึงหลักของสัจธรรมข้อนี้ได้อย่างชัดเจน “ภาพถ่ายชุดนี้ทำให้เราได้เข้าใจถึงหลักการที่แท้จริงของการเดินทางด้วยเครื่องบิน และการถ่ายภาพของเครื่องบินจากบนท้องฟ้า มันเผยให้เห็นถึงอาคารผู้โดยสารที่แออัดและจำนวนเครื่องบินที่จอดกันอยู่อย่างหนาแน่น” ช่างภาพหนุ่มกล่าว “ภาพมุมมองที่แตกทำให้ผู้คนได้เห็นมุมมองของการเดินทางด้วยเครื่องบินที่ไม่เหมือนเดิม และเผยให้เห็นถึงความพยายามของมนุษย์ที่จะเอาชนะอุปสรรคในการเดินทาง” ช่างภาพหนุ่มอธิบาย ภาพถ่ายชุดดังกล่าวได้เผยให้เห็นถึงช่วงการใช้งานของสนามบินแต่ละแห่งใน 3 ช่วงเพื่อให้เห็นถึงการเปลื่ยนแปลง คุณ Kelley นั้นได้ใช้เฮลิคอปเตอร์ในการบินถ่ายภาพและบันทึกเรื่องราวเอาไว้ ภาพของเครื่องบินโบอิ้งและรันเวย์ในเมืองซีแอตเทิล เผยให้เห็นในช่วงแรกของการเริ่มต้นประกอบเครื่องบินในสนามบิน . การเริ่มต้นของเครื่องบินนั้นก็เปรียบเหมือนกับชีวิตของคนที่กำลังเริ่มต้นขึ้น และการเดินทางออกจากรันเวย์ก็เปรียบเหมือนกับชีวิตของเราที่กำลังเดินทางผ่านวันและเวลาต่างๆ นั่นเอง . ภาพถ่ายจากท่าอากาศยานนานาชาติลอสแอนเจลิส ก็ได้แสดงให้เห็นถึงการใช้งานเครื่องบิน และการลำเลียงสินค้าต่างๆ มากมาย . สินค้าและสัมภาระมากมายที่กำลังจะเตรียมเดินทางไปพร้อมกับเครื่องบิน เปรียบเหมือนกับภาระหน้าที่ที่เราต้องทำ และเมื่อชีวิตได้เริ่มต้นขึ้นมันก็เป็นไปไม่ได้เลยที่เราจะปฏิเสธภาระหน้าที่เหล่านั้น . . . และสุดท้ายภาพของซากสนามบินในสุสานเครื่องบินในแถบทะเลทรายทางตอนใต้ของสหรัฐอเมริกา ที่เผยให้เห็นถึงเครื่องบินที่ถูกปลดประจำการและซากปรักหักพังของสนามบินที่ถูกทิ้งร้าง . ซากเครื่องบินที่ถูกทิ้งไว้ในสุสานเครื่องบินทางตอนใต้ของประเทศ . เศษซากปรักหักพังเหล่านี้ ได้แสดงให้เราได้เห็นว่าสุดท้ายแล้วชีวิตนั้นก็จะต้องเดินทางมาถึงจุดสิ้นสุดในซักวันหนึ่ง และสุดท้ายแล้วทุกอย่างล้วนต้องกลับคืนสู่จุดเริ่มต้น มีเกิดก็ต้องมีดับ นับเป็นความจริงของจักรวาลที่ไม่ว่าใครก็ไม่อาจปฏิเสธได้ ที่มา petapixel
-
‘เหมียวบูชิโด’ โชว์สเต็ปการนอนหลับแบบวิถี ‘เซน’ เล่นเอาชาวญี่ปุ่นอึ้งไปตามๆ กัน!!
เอาจริงๆ เราก็ไม่รู้หรอกว่า ‘วิถีเซน’ จริงๆ เป็นยังไง… แต่เท่าที่อ่านมาเผินๆ ก็จะประมาณว่า เป็นหลักความเชื่อทางปรัชญาในการใช้ชีวิตอย่างหนึ่ง ที่มีอิทธิพลต่อวัฒนธรรมหรือขนบธรรมเนียมประเพณีของชาวญี่ปุ่น แต่ใครเล่าจะรู้ว่า เฒ่าคงแก่เรียนตัวจริงที่สามารถบรรลุวิชาเซนไปถึงขั้นพระอรหันต์ได้นั้นกลับไม่ใช่คน แต่มันเป็นแมวเหมียว!! เรียกได้ว่างานนี้ชาวบูชิโดถึงกับอึ้งไปตามๆ กันเลยครับคุณผู้ชม เรื่องมันก็มีอยู่ว่า ชาวเน็ตผู้ใช้ทวิตเตอร์ @jinjahan0817 ได้โพสต์ภาพของเจ้าเหมียวนิรนามจากศาสนสถาน Shonai ในจังหวัดยะมะงะตะ ยิ่งเห็นพฤติกรรมของพวกมันยิ่งทำให้เราสงสัยถึงตัวตนที่แท้จริง เพราะชาวเน็ตคนดังกล่าวได้ถ่ายภาพพร้อมนั่งสังเกตพฤติกรรมเจ้าเหมียวอยู่ซักพัก และเขาก็ได้ค้นพบความจริงที่ว่า ‘เหมียวเซน’ ที่เดินไปเดินมาด้วยท่าทางเชื่องช้าอย่างสำรวม แท้จริงแล้วมันเป็นแมวที่ได้รับการปลูกฝังวิถีแห่งเซนมาตั้งแต่กำเนิด ถึงขนาดที่นักบวชหลายๆ คนอาจซึ้งในรสพระธรรมได้ไม่เท่ามันเลยด้วยซ้ำ ด้อมๆ มองๆ เหมือนจะตามหาอะไรซักอย่าง… เพียงแค่เสี้ยวมิลลิวินาทีที่เจ้าของทวิตเตอร์ละสายตา เมื่อหันมามองอีกครั้งเขาก็พบว่าเจ้าเหมียวสามารถหายตัว… และไปโผล่อยู่กลางสวนหย่อมแห่งวิถีเซนได้โดยไม่มีใครรู้ ไม่มีแม้กระทั่งรอยเท้าบนลานหินกรวด ไม่มีแม้กระทั่งเสียงอุ้งเท้าอันปุ้มปุ้ยเหยียบกดลงไปบนก้อนกรวดนับล้านชิ้น มีเพียงความปราดเปรี่ยว ว่องไว และไร้ซึ่งการคาดคะเนเท่านั้นที่เจ้าเหมียวนี้ได้ฝากไว้กับเรา (ตกลงเป็นเซนหรือนินจาฟร๊ะ!?) และนี่คือภาพที่เจ้าตัวได้เจอ… นายไปโผล่อยู่ตรงนั้นได้ไงไอ้เหมียว!! ใครจะไปเชื่อละว่าเรื่องวุ่นๆ ของเจ้าเหมียวเซน จะกลายเป็นกระแสไวรัลโด่งดังไปทั่วเกาะญี่ปุ่น ถึงกับมีชาวเน็ตออกมาบอกว่าอยากจะเดินทางไปร่ำเรียนวิถีเซนด้วยตัวเองเลยก็มี “แมวเป็นตัวแทนของสิ่งที่เรียกว่า ‘พระเจ้า’ หากความงามของมนุษย์คือการสร้างสวนหย่อมธรรมชาติ สุนทรียศาสตร์ของพระเจ้าก็คือการสร้างแมวเหมียวนั่นเอง”…
-
เรื่องราวของ CEO Japan Airline ผู้สมถะ นั่งรถเมล์ไปทำงาน รับเงินเดือนน้อย แต่งตัวธรรมดา!!
คำว่า CEO (ซีอีโอ) มักจะเป็นคำเรียกของตำแหน่งอันใหญ่โตในบริษัททั้งหลาย ภาพลักษณ์ที่ติดตาเลยก็คือจะต้องเป็นผู้ที่ดูดีเนื่องจากเป็นถึงผู้บริหาร มีฐานะร่ำรวย และจะต้องเป็นผู้ที่ใช้ชีวิตสวยหรูอย่างที่หลายคนเฝ้าฝันถึง แต่กับ CEO ของสายการบิน Japan Airline กลับเป็นสิ่งตรงกันข้าม เขามีชื่อว่าคุณ Haruka Nishimatsu ได้ใช้ชีวิตภายใต้ปรัชญาอันเรียบง่าย เขาไม่ได้ทำตัวเป็นเจ้านายผู้เคร่งขรึม แต่ทำตัวเป็นผู้นำบริษัทที่ดี ยอมเสียสละเพื่อส่วนรวมของบริษัทก็เพื่ออนาคตที่แข็งแกร่งของสายการบิน ‘หากการบริหารจัดการเป็นเรื่องยุ่งยากและไกลตัว คล้ายกับว่าผู้คนเบื้องล่างกำลังรอป้อนคำสั่งมาจากฟ้าเบื้องบน ผมอยากจะให้พนักงานของผมได้หัดคิดด้วยตัวเองบ้าง’ ส่วนหนึ่งที่เขาได้ให้สัมภาษณ์กับ CBS News เขาเลือกที่จะนั่งรถเมล์ไปทำงาน แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าที่มีราคาไม่แพง ในระดับที่พนักงานของเขาเองก็มีสิทธิ์ซื้อมาใส่ อีกทั้งเลือกที่จะรับเงินเดือนน้อยกว่าในอัตราเงินเดือนของผู้บริหารทั่วไปด้วย มีครั้งหนึ่งเขาเคยตัดเงินเดือนตัวเองเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาไล่พนักงานออก เนื่องจากผลกำไรที่ได้น้อยเกินกว่าที่คาดเอาไว้ เขาจึงนำเงินเดือนตัวเองไปเฉลี่ยแจกจ่ายเป็นเงินเดือนให้กับพนักงานแทน ภายใต้ความกดดันของพนักงานผู้น้อยในวัฒนธรรมของบริษัทส่วนมาก มักจะถูกกดขี่และใช้งานอย่างหนัก แต่กลับไม่ได้รับการตอบแทนเท่าที่ควรจะได้ ซึ่งทางด้านเหล่าผู้บริหารส่วนมากก็มักจะมีเงินเหลือกินเหลือใช้ มีของหรูหรามากมาย ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้คุณ Nishimatsu สร้างบรรยากาศและกำลังใจให้กับลูกน้องร่วมฝ่าฟันไปด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นร่วมรับประทานอาหารกับพนักงานในโรงอาหารเป็นประจำ ลงตรวจพื้นที่การทำงานด้วยตนเอง แบบชนิดที่ว่าเป็นเรื่องที่ยากมากๆ กับการที่จะได้เห็นผู้บริหารลงมาใกล้ชิดกับพนักงานขนาดนี้ อีกทั้งยังส่งผลดีในระยะยาวให้กับบริษัทด้วย …