Tag: ปลอดภัย
-
20 ภาพของคนที่ “ดวงดี” รอดตายจากอุบัติเหตุน่าสะพรึงได้อย่างหวุดหวิด
อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้เสมอ โดยที่ไม่มีการแจ้งเตือนเราก่อน หลายครั้งผู้คนต้องบาดเจ็บ และพบกับความสูญเสียเนื่องจากอุบัติเหตุ ขณะเดียวกัน หลายคนก็เรียกได้ว่า “โชคเข้าข้าง” สามารถรอดจากอุบัติเหตุรุนแรงได้อย่างหวุดหวิด แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะโชคดีรอดตายได้ในทุกสถานการณ์ วันนี้ เราจะพาทุกท่านไปชม 20 ภาพของ คนดวงดี รอดตายจากอุบัติเหตุอันน่าสะพรึง และภาพเหล่านี้ก็เป็นอุทาหรณ์ให้กับผู้ที่ใช้ชีวิตเสี่ยงอันตรายได้อย่างดี คนพวกนี้โชคดีขนาดไหนไปชมกันเลย… 1. แบบนี้เรียกว่าดวงดีได้รึยัง? ภาพจาก youandmeandrainbows 2. เสียบทะลุกระจก ทะลุเบาะนั่งขนาดนี้ ถ้าดวงไม่ดีจริงไม่รอดแหงมๆ ภาพจาก youandmeandrainbows 3. ในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีอยู่สินะ ภาพจาก unknown 4. รถตำรวจที่ผ่านการถูกปืนยิง โชคดีจริงๆ ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้รับบาดเจ็บ ภาพจาก imediatrooper 5. เกือบไปแล้ววววว ภาพจาก jamesdawade 6. โชคดีที่ยังไม่ร่วงลงไปนะเนี่ย! ภาพจาก acidcow.com 7. มันมาอยู่ในลักษณะนี้ได้ไงกันเนี่ย!? แต่ก็โชคดีแล้วล่ะที่ไม่หล่นลงไปข้างล่าง ภาพจาก allhailhydra4279 8. ชายคนหนึ่งขับมอเตอร์ไซค์แล้วประสบอุบัติเหตุ ดูสภาพหมวกสิ ไม่อยากนึกภาพเลยว่า…
-
พนักงานสาวพูดแค่ว่า “ไม่รู้ว่าคุณพูดอะไรอยู่” โจรก็ถึงกับงง หยุดปล้นและเดินออกจากร้านไป
การปล้นนั้นแท้จริงแล้วต้องใช้ความกล้ามากกว่าที่คิด นั่นจึงเป็นเหตุผลที่โจรบางคนที่ใจไม่นิ่งพอ ทำพลาดในการปล้นร้านค้าอยู่บ่อยๆ บางครั้งก็กลับตัวกลับใจล้มเลิกการปล้น และบางครั้งก็เผลอสร้างช่องโหว่ จนทำให้การปล้นนั้นพังไม่เป็นท่า… เรื่องราวในครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2018 ที่ผ่านมา เมื่อนาย Itsuo Kushida วัย 64 ปี ได้พกพาอาวุธมีดเดินเข้าไปในร้านสะดวกซื้อ ในบริเวณแขวง Edogawa กรุงโตเกียว ซึ่งในขณะนั้น ที่ส่วนหน้าของร้านมีพนักงานสาววัย 24 ปี ประจำอยู่เพียงคนเดียวเท่านั้น Kushida เดินไปยังแคชเชียร์ที่หญิงสาวประจำอยู่ ชี้มีดในมือใส่และบอกเธอด้วยความตื่นเต้นว่า “ส่งเงินมา 30,000 เยน (9,000 บาท)” แม้ว่าจะเป็นการลั่นเปิดฉากปล้นที่สั้นและห้วนไปบ้าง แต่ก็ยังคงไว้ด้วยเจตนาที่ชัดเจน แต่อย่างไรก็ตาม การที่เขาใส่จำนวนเงินที่ต้องการลงไปเลยนั้น ทำให้การกระทำของเขานั้นเหมือนสั่งกดเงินกับตู้ ATM อัตโนมัติ ก็คงมีผิดนัก… แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม การปฎิบัติตัวของเขานั้นแปลกเกินไป (เพราะมีการระบุจำนวนเงินในการปล้น) จนทำให้พนักงานหญิงเข้าใจผิดว่า นาย Kushida นั้นกำลังทำการแกล้งเธอขำๆ อยู่เท่านั้น… แทนที่จะส่งเงินให้ เธอจึงตอบเขากลับไปว่า “知らないです” (Shiranai desu)…
-
หญิงสาวเอ๋อรับประทาน สั่งเข็มขัดมาเส้นเดียว แต่ Amazon เล่นแพ็กใส่กล่องมาซะใหญ่เชียว
เวลาที่เราสั่งของออนไลน์ เราก็อาจจะรู้สึกกังวลว่าของที่เราสั่งจะส่งมาถึงมือได้อย่างปลอดภัยหรือไม่ กลัวว่ามันอาจจะมีการตกแตกหรือเสียหายระหว่างการเดินทาง แต่ถ้าคุณได้เจอเหมือนหญิงสาวคนนี้ เราเชื่อว่าคุณจะไม่รู้สึกกังวลอะไรแบบนั้นเลยแม้แต่น้อย เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2018 ทวิตเตอร์ที่ชื่อว่า Urban Pictures UK ได้ทำการแชร์ภาพที่ทำให้หลายๆ คนถึงกับต้องสงสัย เพราะมันคือภาพของกล่องพัสดุขนาดยักษ์ที่ถูกส่งมาให้กับหญิงสาวคนหนึ่ง ซึ่งภายในมีเพียงแค่เข็มขัดหนึ่งเส้นเท่านั้นเอง โพสต์ของหญิงสาวคนหนึ่งที่ได้เจอกับกล่องพัสดุขนาดยักษ์ เราจะเห็นเลยว่าเจ้ากล่องพัสดุชิ้นนี้มีขนาดเกือบเท่ากับความสูงของเธอเลยทีเดียว โดยเธอได้เขียนอธิบายในแคปชันภาพไว้ว่า “ใครก็ได้จาก Amazon ช่วยอธิบายถึงความจำเป็นที่ต้องห่ออะไรมามากขนาดนี้ เพียงเพื่อเข็มขัดเส้นเดียวของลูกพี่ลูกน้องฉัน?! ต้องสูญเสียต้นไม้ไปกี่ต้นแล้วล่ะเนี่ย” ถึงกับงงไปทุกฝ่าย ไม่คิดเลยว่าการสั่งของจากเว็บไซต์ Amazon มันจะยิ่งใหญ่อะไรขนาดนี้ ดูเหมือนว่าพวกเขาคงจะเป็นห่วงเข็มขัดเส้นนี้มากจริงๆ ถึงกับใส่กระดาษม้วนมาให้ตั้ง 6 ม้วน เพื่อป้องกันไม่ให้บุบสลาย นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ลูกค้าออนไลน์ต้องเจอกับการห่อพัสดุแบบเวอร์วังอลังการเกินความจำเป็น เพราะก่อนหน้านี้ Deanne Walker หญิงสาวในเมือง Parkstone ประเทศอังกฤษ ได้สั่งแผ่นกั้นในรถยนต์ความยาวประมาณ 90 เซนจากเว็บไซต์ Amazon เพื่อใช้สำหรับกั้นไม่ให้น้องหมาของเธอวิ่งมาด้านหน้ารถในตอนที่เธอกำลังขับอยู่ สิ่งที่เธอได้รับก็คือกล่องขนาดใหญ่ยักษ์ที่บรรจุกระดาษน้ำตาลความยาวกว่า 9 เมตรเอาไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้พัสดุเสียหาย เรียกว่าทำเธออึ้งไปเลยจริงๆ…
-
อังกฤษประดิษฐ์อุปกรณ์ต่อต้านอาชญากรไว้บนไหล่ทาง ใครขับหนีตำรวจเจอดีแน่!!
ปกติที่เวลาเราดูหนังที่มีการไล่ล่าของผู้ร้ายและตำรวจ เรามักจะเห็นอุปกรณ์ชิ้นหนึ่งที่มีลักษณะคล้ายตะปูเรือใบ โดยพวกเขาจะวางไว้บนถนนเพื่อใช้เจาะยางรถของคนร้าย แต่พอใช้งานจริงๆ โจรก็หลบไอ้เจ้าอุปกรณ์นี้ได้ไปเสียทุกที โดยเฉพาะการหนีออกไหล่ทาง ด้วยเหตุนี้ Yannick Read จากสถานบัน Environmental Transport Association (ETA) จึงคิดค้นอุปกรณ์ที่เรียกว่า CatClaw ขึ้นมา เพื่อหวังว่าจะช่วยแก้ปัญหาดังกล่าวได้ไม่มากก็น้อย CatClaw นั้นมีรูปแบบที่ง่ายมาก โดยมันจะมีหน้าตาเป็นลูกบอลทรงกลมที่มีแท่งแหลมคมซ่อนอยู่ โดยเจ้าหน้าที่จะทำการติดตั้งมันให้ทั่วฟุตบาทในอังกฤษ ในส่วนของการทำงานนั้นถ้าจะให้ยกตัวอย่างการทำงานจริงๆ มันก็ง่ายมาก สมมุติว่ามีรถผู้ร้ายหรือใครก็ตามที่ขี่รถเลยถนนเข้ามายังไหล่ทางจนเหยียบเข้ากับ CatClaw ลูกบอลทรงกลมที่ได้รับน้ำหนักจากยางรถก็จะยุบตัวลงโดยมีท่อเหล็กแหลมอยู่ข้างใน ฉะนั้นถ้าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นยางรถคันดังกล่าวถูกปล่อยลมจนแบนทันที!! การป้องกันดังกล่าวยังไม่ได้ป้องแค่รถผู้ร้ายที่หนีตำรวจด้วย แต่มันยังสามารถป้องกันรถที่จะพุ่งเข้าหาผู้คนเช่นกัน ส่วนถ้าใครที่กลัวว่าคนจะเผลอไปเหยียบเข้าและเป็นอันตรายนั้น Yannick ก็ยืนยันว่าน้ำหนักของคนไม่พอที่จะทำให้เจ้า CatClaw นั้นทำงาน ฉะนั้นปลอดภัยหายห่วงได้ Yannick ยังบอกอีกว่าวัสดุของเจ้า CatClaw นั้นมีราคาถูก ฉะนั้นงบที่รัฐจะต้องใช้เพื่อผลิตเจ้าอุปกรณ์ตัวนี้จึงถือว่าไม่แพงนักเมื่อเทียบกับความคุ้มค่าของมันนั่นเอง ที่มา metro
-
แมวน้อยซุกซน วิ่งเล่นจนหัวไปติดอยู่ใน “ล้อรถ” สัตวแพทย์เร่งช่วยกันวุ่นวาย…
นอกจากโลกใบนี้จะเต็มไปด้วยสถานที่ที่น่าสนใจแล้ว มันยังเป็นเหมือนกับสนามเด็กเล่นของลูกแมวตัวน้อย ที่พร้อมจะเริ่มต้นชีวิตในโลกอันแสนกว้างใหญ่ที่เต็มไปด้วยกลิ่น และวัตถุแปลกประหลาดมากมาย เพื่อให้พวกมันได้ทำการออกสำรวจ แต่น่าเสียดายที่เจ้าเหมียวตัวน้อยชื่อ Cookie กลับได้พบกับอุปสรรคครั้งใหญ่ นั่นเป็นเพราะความอยากรู้อยากเห็นมากเกินไป เลยทำให้มันต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก เมื่อไม่นานมานี้ Cookie ลูกแมววัยเพียง 4 เดือน ได้ออกมาเล่นอยู่ภายในโรงจอดรถของครอบครัว จนได้พบกับล้อรถยนต์สำรองที่ถูกจัดเก็บเอาไว้ในนั้น และนั่นก็ทำให้มันเริ่มเกิดความสนใจในสิ่งที่พบเจอทันที เจ้าเหมียวได้เข้าไปตรวจสอบวัตถุประหลาดที่มันไม่เคยพบเห็นอย่างละเอียด แถมยังตัดสินใจเอาหัวมุดเข้าไปบริเวณรูตรงกลางของล้อรถ โดยที่ไม่รู้เลยว่าผลลัพธ์ที่ตามมาจะเป็นอย่างไร และในที่สุดปัญหาก็เกิดขึ้นกับเจ้า Cookie จนได้ เพราะหัวของมันดันไปติดที่รูตรงกลางของล้อรถยนต์จนได้ งานนี้ทำให้มันถึงกับตกใจเพราะไม่ว่าจะทำอย่างไรหัวก็ไม่สามารถหลุดออกจากล้อรถได้เลย ทางด้านผู้เป็นเจ้าของก็พยายามตามหาแมวแสนรักที่หายตัวไป จนสุดท้ายพวกเขาก็สามารถค้นหาตัวของมันพบ พร้อมกับรีบนำตัว Cookie ไปยังคลินิกสัตวแพทย์ Pieper Memorial Middletown ในรัฐคอนเนตทิคัต สหรัฐฯ ทันที “เรารู้ว่ามีแมวติดอยู่ในล้อรถยนต์ แต่เราไม่รู้ว่ามันเข้าไปติดได้อย่างไร ล้อมีขนาดใหญ่แค่ไหน มันเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจมากเมื่อพวกเขาเดินเข้าไปในล็อบบี้พร้อมกับถือยางรถยนต์ขนาดใหญ่มาด้วย และเมื่อได้เห็นหัวของเจ้าเหมียวติดอยู่ที่ยาง ฉันก็ได้บอกพวกเขาว่ามันไม่ได้น่ากลัวอะไรเลย เจ้าเหมียวไม่ได้เจ็บปวด เพราะหัวของมันก็แค่ติดอยู่ในล้อรถเท่านั้น” Jesse Ferguson ผู้จัดการฝ่ายการตลาดกล่าว …
-
11 ความลับแปลกๆ เกี่ยวกับเครื่องบิน ที่ผู้โดยสารหลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อน
การเดินทางด้วยเครื่องบินถือว่าเป็นหนึ่งในวิธีกาารเดินทางที่สะดวกสบายที่สุดในปัจจุบัน เพราะมีความปลอดภัยค่อนข้างสูงและสามารถพาเราไปถึงจุดหมายได้อย่างรวดเร็ว แต่คุณเคยสังเกตกันบ้างไหมว่าเราที่ใช้บริการอยู่หลายต่อหลายครั้งยังคงไม่รู้จักเครื่องบินกันดีพอเลย ซึ่งความจริงมันเต็มไปด้วยเรื่องที่น่าสนใจและความลับเล็กๆ น้อยๆ ที่เราอาจไม่เคยรู้มาก่อน สิ่งเหล่านั้นจะมีอะไรกันบ้างเราลองไปดูกันเลย 1. เครื่องบินถูกออกแบบให้เผชิญหน้ากับฟ้าฝ่าได้ เครื่องบินนั้นต้องถูกออกแบบให้ทนกับฟ้าผ่า ตามข้อมูลระบุว่าเครื่องบินแต่ละลำจะโดนฟ้าผ่าแน่ๆ ปีละ 1 ครั้ง หรือไม่ก็ทุกๆ 1,000 ชั่วโมงบินก็จะโดนผ่า 1 ครั้ง ซึ่งทุกลำนั้นจะออกแบบให้เมื่อเกิดฟ้าผ่าแล้วกระแสไฟฟ้าจะวิ่งผ่านตัวเครื่องบินไปจนออกนอกเครื่อง โดยไม่เกิดความเสียหายต่ออุปกรณ์เด็ดขาด 2. ไม่มีที่นั่งที่ปลอดภัยที่สุดบนเครื่องบิน แม้ก่อนหน้านี้จะมีผลการศึกษาออกมาบอกว่าสามแถวด้านหลังสุดคือที่นั่งที่ปลอดภัยมากที่สุดบนเครื่องบิน เมื่อเครื่องบินชนกับอะไรเข้า แต่สิ่งนั้นแทบไม่มีทางเกิดขึ้นและ สำนักงานบริหารการบินแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา(FAA) ได้ออกมาบอกว่าไม่มีที่นั่งตรงไหนเลยที่จะปลอดภัยที่สุด เพราะว่ามันขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยของอุบัติเหตุ 3. เครื่องบินบางลำจะมีห้องนอนลับสำหรับลูกเรือ เครื่องบินบางลำอย่างเช่น Boeing 777 หรือ 787 จะมีที่นอนให้กับลูกเรือเพราะการต้องทำงานอยู่บนเครื่องเป็นเวลานานในการเดินทางระยะไกลจะต้องพบกับความเหนื่อยล้าเป็นธรรมดา โดยบันไดขึ้นไปบนห้องจะถูกซ่อนเอาไว้และภายในนั้นประกอบด้วยเตียง ห้องน้ำ หรือบางครั้งก็จะมีสิ่งให้ความบันเทิงอยู่บ้าง 4. ยางตรงล้อถูกออกแบบมาให้มีความคงทนเป็นพิเศษ ยางสำหรับล้อเครื่องบินสามารถรับน้ำหนักได้มากถึง 38 ตันและทนกับการลงจอดด้วยความเร็ว 270 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้มากกว่า 500 ครั้ง นอกจากนั้นแรงดันที่ต้องเติมเข้าไปจะอยู่ที่…
-
แม่แมวไม่ยอมนอนหลับพักผ่อน เพราะอยากปกป้องลูกน้อย จนกว่าทุกตัวจะปลอดภัย!!
ไม่ว่าจะคนหรือสัตว์ หากขึ้นชื่อได้ว่าเป็น “แม่” แล้ว ก็ย่อมรักลูกของตัวเองสุดหัวใจ เหมือนดังเช่นเรื่องราวของแม่แมวจรจัดตัวหนึ่งที่ได้ให้กำเนิดลูกแมวตัวเล็กๆ ถึง 5 ตัวในโรงเก็บของ มันเป็นสุดยอดแม่แมวที่จะขอปกป้องลูกน้อยสุดชีวิตจนกว่าจะปลอดภัย ถึงแม้ว่าตัวเองจะเจ็บป่วย และอ่อนเพลียจากการที่ไม่ได้นอนหลับเลยก็ตาม ย้อนกลับไปเมื่อเดือนสิงหาคม ชายคนหนึ่งได้พบกับครอบครัวแมว และได้พาพวกมันไปที่ Purrfect Pets กลุ่มช่วยเหลือสัตว์ในโอเวอร์แลนด์พาร์ค รัฐแคนซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อขอความช่วยเหลือ Holly ผู้รับเลี้ยงแมวกล่าวว่า “แม่แมวได้รับการติดเชื้อผิวหนังอย่างรุนแรงบริเวณท้อง ซึ่งทำให้ลูกน้อยของมันไม่สามารถกินนมได้เลย มันกำลังลำบาก และจะส่งเสียงร้องเมื่อได้รับการรักษา” แม้ว่ามันจะเจ็บปวดมากแค่ไหน แต่แม่แมวตัวนี้ก็พยายามทุกทางเพื่อที่จะสามารถให้ลูกน้อยของมันได้ดื่มนม Holly ได้รับครอบครัวแมวเหมียวผู้น่าสงสารไปเลี้ยงดู และนั่นคือครั้งแรกที่แม่แมวรู้สึกสบายใจ แถมยังช่วยทำให้มันได้หลับพักผ่อนขึ้นมาบ้าง “มันนอนนานเป็นชั่วโมง หลังจากที่รู้ว่าลูกน้อยของมันปลอดภัย” Holly กล่าว สำหรับลูกแมวน้อยเหล่านี้ มันมีน้ำหนักตัวที่น้อยมาก และอยู่ในสภาพไม่ค่อยสู้ดีนัก เนื่องจากมีหมัดอยู่เต็มตัว ด้วยเหตุนี้ ทาง Holly จึงได้แยกพวกมันออกจากแม่ชั่วคราว เพื่อที่จะได้ให้แม่เหมียวได้มีโอกาสฟื้นตัว ซึ่งภายหลังจากที่ได้รับการดูแลเอาใจใส่ ทั้งการอาบน้ำ และกินอาหารเป็นอย่างดี…
-
ใส่ใจสุดๆ เมื่อ ‘แก๊งไก่ในสกอตแลนด์’ ต้องสวมเสื้อสะท้อนแสง หวังลดปัญหาอุบัติเหตุ
นับว่าเป็นอีกเรื่องราวน่ารักๆ ที่เกิดขึ้นในชุมชนเล็กๆ แห่งหนึ่งในประเทศสกอตแลนด์ ซึ่งก่อนหน้านี้เหล่าแก๊งไก่ทั้งหลายต้องเผชิญปัญหาอุบัติเหตุระหว่างข้ามถนน ด้วยเหตุนี้เอง ทางเจ้าหน้าที่จากบ้านพักตากอากาศ Glenshieling House ในเมือง Blairgowrie ประเทศสกอตแลนด์ จึงได้ริเริ่มทำเสื้อสะท้อนแสงให้พวกมันสวมซะเลย ทีนี้ล่ะจะได้ไปผจญภัยแบบไม่เป็นปัญหาซักที ดูน่ารักมั้ยล่ะ กระต๊ากๆๆ Louise Lennox เจ้าของบ้านพักตากอากาศแห่งนี้ ได้อธิบายว่า ก่อนหน้านี้เคยมีแม่ไก่ของเขาประสบปัญหาออกไปเดินเล่นแล้วถูกรถชนจนเสียชีวิต ซึ่งเขาก็มองว่ามันเป็นความผิดของเขาเองด้วย ที่ไม่มีสัญลักษณ์หรือเครื่องหมายอะไรบอกให้ผู้ใช้ถนนระมัดระวังเหล่าแม่ไก่เหล่านี้ และเจ้าตัวก็คิดขึ้นมาได้ว่า.. เขาสามารถทำเสื้อสะท้อนแสงให้เหล่าแก๊งไก่ได้นี่หว่า อ้างอิงจากสำนักข่าว STV News ที่บ้านพักแห่งนี้มีแม่ไก่ทั้งหมด 14 ตัว และทุกๆ วันพวกมันมักจะเดินเตร็ดเตร่ไปทั่ว ซึ่งทางเจ้าของก็ค่อนข้างมั่นใจว่าสีสะท้อนแสงของเสื้อที่ไก่สวม จะช่วยให้ผู้ใช้ถนนสังเกตเห็นพวกมันได้ง่ายขึ้น “ฉันคิดว่ามันคงเป็นภาพที่น่ารัก และก็ปลอดภัยสำหรับพวกมันด้วย เพราะบางทีพวกมันก็ซนกันเหลือเกิน” เจ้าของให้สัมภาษณ์ ลองไปชมคลิปวิดีโอน่ารักๆ จากเหล่าแม่ไก่กันเลยจ้า เป็นไอเดียที่ดีนะเนี่ย ปลอดภัยทั้งคนและไก่ เอาไปเลย 5 ดาวจ้า ที่มา: Metro
-
สุดยอดกระเป๋าตังค์ เสริมฟังก์ชั่นความปลอดภัยสูงสุด ทั้งแจ้งเตือน ทั้งกล้องยัดไว้หมด!!
เคยทำกระเป๋าตังค์หายเพราะลืมเอาไว้หรือถูกขโมยบ้างหรือเปล่า ? หาไม่เจอหรือจับไม่ได้ก็ต้องมานั่งทำบัตรใหม่เยอะแยะมากมายวุ่นวายไปหมด สิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้เนี่ยแหละที่จะมาช่วยแก้ปัญหาเหล่านั้นให้หมดไปอย่างง่ายดาย เมื่อบริษัทในประเทศอาร์มีเนียได้คิดค้นกระเป๋าตังค์ที่ปลอดภัยที่สุดในโลกที่มีชื่อว่า Volterman Smart Wallet ขึ้น ซึ่งมีฟังก์ชันหลากหลายมากมาย ทำให้คุณไม่ต้องกังวลกับปัญหาขี้หลงขี้ลืม หรือถูกขโมยอีกต่อไป มันไม่ใช่แค่ไว้ใช้เก็บเงินหรือบัตรเครดิตทั่วไปแต่ไฮเทคกว่านั่นเยอะ ใครจะไปคิดว่ากระเป๋าตังค์จะมีระบบปฏิบัติการ RAM 512MB ระบบติดตาม GPS ระบบแจ้งเตือน กล้องในตัว หรือแม้แต่ระบบป้องกัน RFID และยังสามารถเป็นแบตสำรองให้คุณได้อีกด้วย บ้าไปแล้ว!! โดยฟังก์ชั่นหลักนั้นคุณสามารถเชื่อมต่อกระเป๋าตังค์เข้ากับสมาร์ทโฟนไว้ด้วยกัน ถ้าหากคุณลืมกระเป๋าตังค์เอาไว้ หรือเมื่อคุณเริ่มออกห่างจากกระเป๋าตังค์มากเกินไป ก็จะมีการแจ้งเตือนขึ้นที่มือถือให้คุณได้รู้ตัวทันที นอกจากนั้นยังสามารถตามหากระเป๋าตังค์ได้ง่ายๆ ไม่ว่าจะเป็นไหนของโลก ผ่านระบบติดตาม GPS และตัดปัญหาการถูกโจรกรรมข้อมูลข้อมูลบัตรเครดิต หรือหนังสือเดินทางที่อยู่ในกระเป๋า ด้วยระบบการป้องกัน RFID ในตัว และยังสามารถถ่ายรูปของโจรที่ขโมยกระเป๋าเงินคุณได้ผ่านกล้องหน้าเล็กจิ๋วเมื่อเปิด “Lost Mode” หากกระเป๋าเงินถูกเปิดปุ๊บ ก็จะถ่ายหน้าของโจรปั๊ป และส่งรูปเข้ามือถือที่เชื่อมต่อไว้ทันที นอกเหนือจากความปลอดภัยก็ยังสามารถเป็นแบตสำรองให้กับมือถือของคุณโดยความจุจะอยู่ที่ 2,000 – 5,000mAh ซึ่งเพียงพอให้สามารถชาร์จเต็มได้ครั้งถึงสองครั้ง และสามารถเปิดโรมมิ่งสัญญาณอินเทอร์เน็ตได้ถึง…
-
สุดยอดคัมภีร์เลือกที่นั่ง ในการโดยสาร “ขนส่งมวลชน” ให้มีโอกาสรอดชีวิตมากที่สุด!!
การเดินทางไม่ว่าจะมีวิธีไหนก็ล้วนเกิดความเสี่ยงต่อภัยอันตรายต่างๆ ได้เสมอ ไม่ว่าจะด้วยตัวเอง หรือแม้แต่การเดินทางด้วยระบบขนส่งอื่นๆ อย่างเครื่องบินหรือรถไฟก็ตาม ฉะนั้นวันนี้ #เหมียวมู่ทู่ ก็เลยจะมานำเสนอคัมภีร์ลับสำหรับการเลือกที่นังยังไง ให้เซฟมากที่สุดถ้าต้องเกิดอุบัติเหตุ ว่าแต่จะมีวิธีไหนบ้าง แล้วใช้ได้กับระบบขนส่งชนิดไหนบ้างมาดูกันเลย 1. รถเก๋ง รถแท็กซี่ จุดปลอดภัย: เบาะหลังคนขับและเบาะหลังตรงกลางจะเป็นจุดที่ปลอดภัยที่สุดเพราะถ้ารถต้องชนจุดนี้จะได้รับผลกระทบน้อยที่สุดนั่นเอง จุดอันตราย: ที่นั่งข้างๆ คนขับจะอันตรายมากที่สุดเพราะในรถบางรุ่นจะไม่มีถุงลมนิรภัยสำหรับที่นั่งจุดนี้ ทำให้เวลาชนมีโอกาสที่จะหัวฟาดอย่างรุนแรงไม่ก็ทะลุออกจากรถไปได้ 2. รถตู้ จุดปลอดภัย: บางรุ่นจะมีจุดที่นั่งสวนทางกับทางที่รถเคลื่อน ที่จุดนี้ปลอดภัยที่สุดก็เพราะสามารถเข้าออกจากรถได้ง่าย และแรงกระแทกจะไม่ทำให้หน้าต้องพุุ่งไปทิศทางเดียวกับจังหวะที่ชน จุดอันตราย: เช่นเดียวกับรถเก๋ง ที่นั่งข้างคนขับเป็นอะไรที่อันตรายมากที่สุด ยิ่งกับรถตู้ด้วยแล้วกระจกที่แตกสามารถทำอันตรายกับตัวเราได้ง่ายมากๆ แถมยังสามารถนั่งได้ถึงสองคน คนที่อยู่ตรงกลางจะหนีออกมาได้ยากมากๆ 3. รถเมล์ จุดปลอดภัย: ควรจะนั่งในจุดที่จุดตรงข้ามกับทางขึ้นลงและโล่งเพื่อสะดวกในการหนีออกจากตัวรถ ที่สำคัญควรนั่งให้ห่างจากระจกเพื่อลดอัตราได้รับบาดเจ็บในจังหวะที่กระจกแตก จุดอันตราย: จุดที่อันตรายที่สุดก็จะเป็นที่นั่งข้างหลังสุดของตัวรถ เพราะว่ารถเมล์มีตัวป้องกันส่วนหลังที่ต่ำมากๆ ส่วนที่นั่งติดกระจกและทางออกก็ถือว่าอันตรายเช่นกัน 4. รถไฟ จุดปลอดภัย: ควรจะเลือกนั่งตรงกลางโบกี้และนั่งในโบกี้ที่จะกลางขบวนมากที่สุด เพราะในยามที่มีปัญหาจุดนี้จะเป็นจุดที่รับรู้ทุกอย่างได้รวดเร็วรวมถึงอันตรายต่างๆ จะเข้ามาถึงยาก จุดอันตราย: นั่งทิศทางเดียวกับตัวรถ จะเป็นจุดที่อันตรายที่สุด เพราะจะมีโอกาสที่กระเด็นไปข้างหน้ามากที่สุด ส่วนโบกี้ที่อันตรายก็จะเป็นโบกี้หัวและท้ายขบวน 5.…
-
สื่อนอกยกให้ “เชียงใหม่” ติด 1 ใน 14 สถานที่ที่ควรไป ถ้าหากว่าวันสิ้นโลกมาถึง…
ด้วยเทคโนโลยีทางการทหารที่พัฒนาขึ้นทุกวันๆ รวมทั้งหุ่นยนต์ที่กำลังจะกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของมนุษย์ และสภาพภูมิอากาสที่เลวร้ายลงในทุกๆ ปี ทำให้หลายๆ คนกังวลว่า อาจเกิดเหตุการณ์วันเสิ้นโลกเหมือนในหนังที่เราเคยดูกัน ล่าสุดทางเว็บไซต์ Business Insider ได้นำเสนอ 14 สถานที่ที่ควรไป หากเกิดวันสิ้นโลกขึ้นจริงๆ ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่ของประเทศไทยของเรา ก็ติดอันดับกับเขาด้วยนะ!! สถานที่ทั้ง 14 แห่งประกอบไปด้วย ประเทศไอซ์แลนด์, เกาะกวม, เกาะทริสตอง ดา คุนย่า, จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย, เมืองเดนเวอร์ ประเทศสหรัฐอเมริกา, ทวีปแอนตาร์กติกา, เกาะปุนจักจายา ประเทศอินโดนีเซีย, เมืองเคปทาวน์ ประเทศแอฟริกาใต้ เมืองเบิร์น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์, เกาะเน็กเกอร์ ของ ริชาร์ด แบรนสัน เจ้าของกลุ่มเวอร์จิ้น, หมู่เกาะเตียร์ราเดลฟวยโก ในทวีปอเมริกาใต้, รัฐยูคอน ประเทศแคนาดา, เมืองแคนซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา, และเกาะลูอิส ประเทศสก็อตแลนด์ โดยทางบทความได้ให้เหตุผลว่า Marc Faber นักลงทุนขาจรและเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการหลบภัยในวันสิ้นโลก…
-
พลังสามัคคี!! ชาวบ้านจับมือเป็น “โซ่มนุษย์” เพื่อช่วยเหลือชีวิตคนกำลังจะจมน้ำ
เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2560 ทางสำนักข่าวเดลีเมล์มีรายงานว่า กลุ่มนักท่อง 3 คน ที่กำลังเล่นน้ำบนชายหาด Monte Hermoso ประเทศอาร์เจนตินา ได้ถูกคลื่นลูกใหญ่ซัดออกไปไกลจากฝั่ง และถ้าปล่อยไว้พวกเขาจะต้องจมน้ำเสียชีวิต ทางด้านผู้เห็นเหตุการณ์ได้เผยว่า เขามองเห็นคน 3 คน กำลังจมน้ำ และมีผู้คนได้รีบลงเข้าไปช่วยเหลือ แต่ทว่าด้วยความแรงของคลื่นยักษ์ ทำให้เป็นเรื่องยากที่จะสามารถช่วยเหลือได้ แต่เคราะห์ดีที่ผู้คนในบริเวณนั้นบังเอิญเห็นเข้า จึงได้ช่วยกันเข้าไปให้ความช่วยเหลือ โดยพากันจับมือเป็นห่วงโซ่มนุษย์ ทำให้ผู้โชคร้ายทั้ง 3 คน สามารถรอดชีวิตมาได้ในที่สุด หลังจากที่ได้ขึ้นมาจากน้ำ บรรดาผู้คนที่อยู่ในพื้นที่บริเวณนั้นต่างก็พากันปรบมือแสดงความดีใจ ที่ทุกคนสามารถกลับขึ้นมาบนฝั่งได้อย่างปลอดภัย คลิปการช่วยเหลือ ที่ถูกบันทึกโดยชาวบ้านในแถบนั้น… ทางด้านหน่วยกู้ภัย Lifeguard Carolina Uriarte ได้เขียนแสดงข้อความลงในเฟสบุ๊คว่า “ในทะเลที่แสนอันตราย ทั้งสามคนติดอยู่ในคลื่น ซึ่งหลังจาก 8 นาทีของการช่วยเหลือ มันทำให้พวกเขาปลอดภัย ขอบคุณทุกคนมากจริงๆ” และที่สำคัญเมื่อคลิปวีดีโอดังกล่าวได้ถูกนำไปเผยแพร่ลงในโลกออนไลน์ ชาวเน็ตต่างก็เข้าไปรับชม และแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมาย จนในตอนนี้มียอดวิวสูงกว่า 104,000…
-
วิศวกรเสนอ 4 วิธีการเอาตัวรอด หากอยู่ในสถานการณ์ “ลิฟท์ตก” ที่อาจเกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ได้…
หลายๆ คนคงจะเคยกังวล และรู้สึกไม่ค่อยปลอดภัยขณะขึ้นลิฟต์ เพราะบ่อยครั้งเราจะเห็นสื่อต่างๆ ไม่ว่าจะทั้งไทย และต่างประเทศ นำเสนอข่าวที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นภายในลิฟต์ ซึ่งเอาจริงๆ อุบัติเหตุจากลิฟท์มักจะเกิดขึ้นได้ยาก และค่อนข้างที่จะเป็นเรื่องไกลตัว แต่เรื่องแบบนี้มันเป็นอะไรที่ไม่แน่นอน เพราะถ้าหากมันเกิดขึ้นกับเราจริงๆ จะทำอย่างไร เพราะฉะนั้นเราควรมองหาวิธีแก้ไข และเอาตัวรอดจากมันกันหน่อยดีไหม ด้วยเหตุนี้ ทาง Eliot H. Frank วิศวกรวิจัย จากสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (Massachusetts Institute of Technology) จึงได้ออกมาเผย 4 วิธีการเอาตัวรอดจากลิฟต์ที่กำลังตก ว่าแล้วก็มาดูกันเลยดีกว่า 1.ภายใต้สถานการณ์ที่ลิฟต์กำลังตก อย่ากระโดดเป็นอันขาด เอาจริงๆ แล้วมันค่อนข้างเป็นเรื่องที่ยากมากหากคุณพยายามกระโดดขณะลิฟต์ตกอยู่กลางอากาศ และการกระโดดอาจทำให้ความเร็วในการตกเท่ากับความเร็วในการตกของลิฟต์ในตอนนั้น อีกทั้งเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าร่างกายส่วนไหนจะตกลงพื้นก่อน ดังนั้น หากอยู่ในสถานการณ์ที่ลิฟต์กำลังตก อย่ากระโดดเป็นอันขาด เพราะมีการพิสูจน์ออกมาแล้วว่ามันเป็นอันตราย และไม่ควรทำอย่างมาก ลองชมคลิปด้านล่างได้เลย… 2.อย่ายืนตัวตรง การยืนตัวตรงไม่ได้เป็นความคิดที่ดีสักเท่าไหร่ เพราะในขณะลิฟต์ตกจะทำให้น้ำหนักลงไปบนเข่าถึง 10 เท่าของน้ำหนักตัวเลยนะ นั่นก็อาจจะนำไปสู่อันตราย และการบาดเจ็บที่ร้ายแรง 3.นอนราบอยู่บนพื้นลิฟท์…
-
หนุ่มรีบวิ่งออกจากรถ เพื่อช่วยลูกแมวจรจัดตัวน้อย เฉียดรถเหยียบไปเพียงแค่นิดเดียว!!
ในช่วงที่การจราจรของเมืองแห่งหนึ่งในประเทศรัสเซียกำลังวุ่นวาย มีลูกแมวจรจัดตัวเล็กๆ ตัวหนึ่ง ได้ปรากฏตัวอยู่ข้างถนน และขณะที่รถยนต์กำลังหยุดอยู่ตรงสัญญาไฟแดง เจ้าเหมียวตัวน้อยตัวนั้น ก็ได้ตัดสินใจที่จะข้ามถนนทันที แต่ทว่ายังไม่ทันไร สัญญาณไฟแดงได้เปลี่ยนเป็นไฟเขียว ทำให้รถยนต์ได้เริ่มเคลื่อนที่ไปทีละคันอย่างช้าๆ โดยในตอนนั้นเจ้าเหมียวได้เดินข้ามไปอยู่กลางถนนแล้ว และมันก็ได้หยุดอยู่ตรงรถยนต์คนหนึ่งที่กำลังจะเคลื่อนที่ ในที่สุดก็มีชายคนหนึ่งได้ตะโกนขึ้นมาว่า “หยุด” นั่นทำให้เจ้าแมวหยุดเดิน แต่รถยนต์คันดังกล่าวกลับเคลื่อนที่ออกไปซะแล้ว… โชคดีที่รถคันนั้นไม่ได้ทับร่างเจ้าเหมียว เพียงแต่บางรถเฉี่ยวที่ใบหน้าของมันเท่านั้น หลังจากนั้น ชายคนที่ตะโกน ก็ได้ออกจากรถของเขาพร้อมกับเข้าไปอุ้มเจ้าเหมียวขึ้นมา และถอนหายใจด้วยความโล่งอก…ตอนนี้เจ้าเหมียวไม่เป็นอะไรแล้ว มันคงอยากบอกชายคนนั้นว่า “ขอบคุณนะมนุษย์ที่ช่วยเราเอาไว้” ไม่นานก็มีรถยนต์คันสีขาวได้ขับมาจอดอยู่ ณ ที่เกิดเหตุ และปรากฏให้เห็นเป็นภาพของผู้หญิงรายหนึ่ง เธอได้ลงมาจากรถ พร้อมกับขอเสนอที่จะรับเจ้าเหมียวไปดูแล มันโชคดีมากเลยนะเนี่ย และนี่คือคลิปวีดีโอของเหตุการณ์ดังกล่าว ที่ถูกนำไปโพสต์ลงในเว็บไซต์ YouTube ซึ่งก็ทำให้มีผู้คนเข้าไปรับชมกันอย่างมากมาย อีกทั้งยังมีชายคนหนึ่งที่ชื่อ Alexey Mikhailenko ได้เข้ามาแสดงความเห็นด้านล่างวีดีโอว่า ผู้หญิงคนนั้นเป็นภรรยาของเขาเอง และในตอนนี้ลูกแมวน้อยก็อยู่ในความรู้แลของพวกเขา แถมยังได้ตั้งชื่อให้มันว่า Mail อีกด้วย หลังจากได้ดูคลิปก็ลุ้นมาตลอดเลยว่าเจ้าเหมียวจะรอดหรือเปล่า สุดท้ายมันก็มีคนมาช่วยไว้ทัน แถมยังโชคดีกว่าเดิมที่มีคนใจดีมารับไปเลี้ยง…
-
ศูนย์ประชุม “Javits Center” จ้างแมวเหมียวเร่ร่อน มาช่วยกำจัดหนู ให้ที่พัก-อาหารฟรี!!
เมื่อหนู เริ่มทำการก่อกวนมนุษย์ ทำให้เหล่าแมวเหมียวทั้งหลาย ขอทำหน้าที่เป็นผู้พิทักษ์ลงมากำจัดหนูด้วยตัวเองซะเลย เห็นทีมนุษย์จะได้อยู่อย่างเป็นสุขก็คราวนี้แหละ เพราะมีแมวมาช่วยจับหนูแล้ว รายงานข่าวนี้ถูกเปิดเผยเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2559 ที่ผ่านมา ทางเว็บไซต์ dnainfo มีรายงานว่า หลังจากที่ Rebecca Marshall ผู้จัดการด้านการบริการสิ่งแวดล้อมของศูนย์ประชุม “Javits Center” ได้รับการร้องเรียนเกี่ยวกับหนูในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาอย่างมาก ทางศูนย์จึงต้องคิดหาวิธีแก้ปัญหา และกำจัดหนูให้หมดไป แต่ด้วยความที่ราคาของบริษัทกำจัดหนูได้พุ่งสูงขึ้น ประกอบกับจะต้องการหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีเพื่อฆ่าหนู ด้วยเหตุนี้ เธอจึงได้หันไปขอความช่วยเหลือจากบรรดา “แมวเหมียว” เพื่อมากำจัดหนูแทน อื้มมมม เป็นไอเดียที่ดีไม่น้อย!! สำหรับแมวเหมียว ที่มารับหน้าที่ในการล่าหนูนั้น ถูกส่งมาจากองค์กรช่วยเหลือแมวเร่ร่อน ซึ่งมีด้วยกันทั้งหมด 4 ตัว ได้แก่ เจ้า Sylvester, Alfreda, Mama Cat และ Ginger และก่อนที่จะเข้ารับปฏิบัติหน้าที่ในการจับหนูรอบๆ ศูนย์ประชุม พวกมันได้ผ่านการฝึก พร้อมกับฉีดวัคซีน…
-
ซ่านักต้องเจอนี่!! ชายปริศนาสวมชุด Batman ออกมาจัดการ ‘กลุ่มตัวตลก’ ที่ทำให้ทุกคนตื่นกลัว
ก็อย่างที่รู้ว่าช่วงนี้เทรนด์แต่งเป็นตัวตลกออกมาป่วนเมืองกำลังระบาดในต่างประเทศ อย่างเช่นที่ประเทศสหรัฐอเมริกาก็มีกลุ่มคนที่ออกมาแต่งเป็นตัวตลกแล้วออกมาไล่ทำร้ายพร้อมปล้นชิงทรัพย์ในทางเปลี่ยวๆ บ้างก็แต่งออกมาแกล้งหลอกประชาชนให้เกิดการตื่นตระหนก จนไม่กล้าออกไปไหนมาไหนตอนกลางคืน นั่นเป็นเพราะว่าในช่วงสิ้นเดือนตุลาคมจะเป็นวันปล่อยผีหรือวัน Halloween จึงทำให้มีวัยรุ่นพากันออกมาเล่นพิเรนทร์ๆ ให้เข้ากับกระแสกันอย่างที่เห็น และล่าสุดมันก็ได้ลามไปถึงที่ประเทศอังกฤษเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเหล่าตัวตลกทั้งหลายนั้นจะสร้างความหวาดกลัวให้กับเหล่าเด็กๆ จนถึงขั้นทำให้บางคนนอนฝันร้าย และไม่กล้าไปโรงเรียนกันเลยทีเดียว แต่สำหรับเด็กๆ ที่อยู่ในเมือง Whiteheaven เขต Crumbria ประเทศอังกฤษ คงไม่ต้องผจญกับความหวาดกลัวต่อเหล่าตัวตลกที่แสนชั่วร้ายอีกต่อไปแล้วล่ะ เพราะทางแฟนเพจเฟซบุ๊คของสำนักข่าวท้องถิ่นของเขต Cumbria BBC Cumbria ได้ทำการแชร์รูปภาพของชายหนุ่มปริศนาที่แต่งตัวเป็น ‘Batman’ มาไล่ปราบเหล่าตัวตลก เพื่อช่วยให้เหล่าเด็กๆ และชาวเมืองให้พ้นจากความหวาดกลัว ภายหลังทราบว่าเป็นผลงานของบริษัท Cumbria Superheroes ที่ทำเครื่องแต่งกายชุดซุปเปอร์ฮีโร่ที่ตั้งอยู่ในเขต Cumbria เป็นคนส่งซุปเปอร์ฮีโร่นี้ออกมาไล่จัดการกับเหล่าตัวตลกป่วนเมือง คนที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่าในคืนนั้น Batman ได้ออกมาเดินตรวจตราตามถนน และตรอกซอยต่างๆ ในเมือง Whiteheaven และพอได้พบกับเจ้าตัวตลกเขาก็รีบวิ่งไล่จับทันที และตัวตลกเห็นดังนั้นแล้วก็วิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต ในวันต่อมาพอเด็กๆ ได้ทราบข่าวก็ได้ทักไปหาแฟนเพจชุดซุปเปอร์ฮีโร่เพื่อทำการขอบคุณซุปเปอร์ฮีโร่ที่ออกมาไล่เหล่าตัวตลกชั่วร้ายออกไปด้วยข้อความสุดน่ารัก “สวัสดี Batman ผมชื่อว่า… ผมก็เริ่มรู้สึกกลัวเหตุการณ์ตัวตลกป่วนเมืองอยู่เหมือนกัน…
-
อเมริกาออกกฎ ห้ามขับรถคนเดียวบนถนนเลนพิเศษ ตุ๊กตาหน้ารถจึงถือกำเนิดขึ้นมา!!
กฎจราจร เป็นสิ่งที่ผู้ใช้รถใช้ถนนควรปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เพราะถ้าหากคุณฝ่าฝืนกฎ หรือไม่ทำตาม ก็อาจจะส่งผลให้คุณ หรือผู้ร่วมทางคนอื่นๆ เดือดร้อนได้ และเมื่อ Carpool lane หรือ HOV lane ถนนเลนพิเศษที่อยู่ทางซ้ายสุดของทางด่วน ในสหรัฐอเมริกา ได้ทำการออกกฎว่า จะอนุญาตให้เฉพาะรถที่มีผู้โดยสารตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป วิ่งอยู่บนถนนได้ ซึ่งถ้าหากฝ่าฝืน และไม่ทำตาม จะก็ต้องจ่ายค่าปรับกันไปตามระเบียบ แน่นอนว่า การตั้งกฎดังกล่าวขึ้นมา จะต้องมีผู้ที่ทำตาม และผู้ที่ฝ่าฝืน โดยผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามก็เกิดปิ๊งไอเดียสุดประหลาดขึ้นมา โดยการแกล้งเอาหุ่นมาใส่เสื้อผ้าทำเหมือนมีคนมานั่งในรถด้วย หรือเอาตุ๊กตามานั่งข้างๆ แบบนี้… แต่ทว่าดูเหมือนวิธีที่ใช้มันอาจจะไม่ค่อยเนียนสักเท่าไหร่ เพราะผู้คนหัวสุดครีเอท ดั๊นนนนนถูกตำรวจจับได้ซะอย่างนั้น ว่าแล้วก็มาดูกันเลยว่าสิ่งที่พวกเขาแกล้งทำเป็นคนมานั่งข้างๆ จะออกมาในรูปแบบไหนบ้าง โถ่วววว เกือบจะเนียน แต่สุดท้ายก็ไม่รอด บางคนก็ดูเนียน แต่เห็นแบบนี้แล้วจบกัน ใครกันละใส่หมวกในรถ งานหลอนก็มา ผมยุ่งไปหน่อยนะ ก็ออกกฎห้ามขับรถคนเดียว…
-
ภารกิจช่วยแมวเหมียวจากบ้านไฟไหม้ แม้มันจะหยุดหายใจ… แต่ก็รอดมาได้ราวปาฏิหาริย์!!!
ชีวิตทุกชีวิตบนโลกใบนี้ต่างก็มีค่าเหมือนกันทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็นสัตว์หรือมนุษย์ก็ตาม และหลายๆ คนก็เลือกที่จะไม่มองข้ามและคอยมอบความช่วยเหลือให้กับพวกมันในยามที่ทุกข์ยาก สำนักข่าว ABC News ได้นำเสนอเรื่องราวสุดประทับใจเมื่อเจ้าหน้าที่นักผจญเพลิงได้ทำการช่วยเหลือเจ้าเหมียวที่ติดอยู่ในชั้นใต้ดินของบ้านหลังหนึ่งที่กำลังถูกไฟไหม้ ในเมือง Ames รัฐไอโอวา ประเทศสหรัฐอเมริกา นักผจญเพลิงได้บุกตะลุยเพลิงเพื่อเข้าไปช่วยเหลือเจ้าเหมียวที่กำลังจะขาดอากาศหายใจตาย และพวกเขาก็ช่วยพวกมันไว้ไม่ทัน ถึงอย่างนั้นเหล่านักผจญเพลิงก็ยังไม่ยอมแพ้ พาร่างของเจ้าเหมียวที่นอนนิ่งไม่ไหวติงออกมาด้วย มันหยุดหายใจไปแล้ว แต่พวกเขาก็พยายามทั้งปั๊มหัวใจ พร้อมกับใส่เครื่องให้ออกซิเจนสำหรับสัตว์ที่พวกเขามักจะพกไปไหนมาไหนด้วยตลอดเวลาขณะที่ออกไปปฏิบัติหน้าที่ นั่นเพราะว่าสัตว์เลี้ยงเองก็เป็นหนึ่งในสมาชิกของครอบครัวของใครหลายๆ คน เพราะฉะนั้นหากบ้านของผู้เดือดร้อนคนไหนเลี้ยงสัตว์ไว้ด้วย พวกเขาก็จะสามารถช่วยเหลือมันได้อย่างทันท่วงที เหล่านักผจญเพลิงใช้เวลานานกว่าครึ่งชั่วโมง ตั้งแต่มันหยุดหายใจ มันค่อยๆ ฟื้นขึ้น จนในที่สุดมันก็กลับมาหายใจได้ตามปกติอีกครั้งหนึ่ง เจ้าเหมียวตัวนี้มีชื่อว่า Cleo หลังจากที่ฟื้นขึ้นมาจากความตาย มันก็ค่อยๆ หายใจ แล้วก็สามารถร้องเหมียวๆ ได้อีกครั้งหนึ่ง หลังจากนั้นก็ขยับหัวแล้วก็มองไปมา เพื่อเช็คถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และด้วยความเป็นห่วงกลัวว่ามันจะตกใจ เจ้าหน้าที่คนหนึ่งก็ได้เข้ามาปลอบใจมัน จนมันสงบลง และตอนนี้พวกเขาก็ได้นำตัวของมันส่งไปยังโรงพยาบาลสัตว์เรียบร้อยแล้ว เจ้าเหมียว Cleo จะได้รับการดูแลและการรักษาเป็นอย่างดี และเชื่อว่ามันคงจะหายกลับมาเป็นปกติในเร็ววันนี้อย่างแน่นอน เอาล่ะ ลองไปชมคลิปเหตุการณ์แบบเต็มๆ…
-
มนุษย์ใจดี ไปพบแมวพี่น้อง 3 ตัว นอนกอดกันอย่างหนาวเหน็บ… เห็นทีต้องช่วยเหลือแล้ว!!
เค้าว่ากันว่าสาเหตุที่คนเป็นพี่เกิดก่อนนั้น ก็เพื่อดูแลน้องๆ ที่จะเกิดตามมาทีหลัง เหล่าสัตว์โลกเองก็เช่นกัน… เรื่องราวของ 3 มิ้วน้อยที่มีคนพบเห็นว่ามันกำลังกอดกันกลม เหมือนกับว่ามิ้วผู้พี่ทั้งสอง กำลังกอดน้องสาวคนเดียวเพื่อปกป้องจากภัยอันตราย คุณ Megan Sorbara ได้ออกไปข้างนอกเพื่อซื้อไอศกรีม ในระหว่างทางนั้นเธอก็ยินยิ้นเสียงร้องขอความช่วยเหลือของเจ้าเหมียวตัวน้อย และเธอก็ได้พบกับเจ้ามิ้วน้อย 3 ตัว และเธอก็รู้ได้ทันทีว่าต้องช่วยพวกมันแล้วล่ะ ซึ่งภาพที่เธอเห็นในตอนนั้นก็คือเจ้าเหมียว 2 ตัวกำลังนอนกอดเจ้าตัวเล็กที่มีสีแปลกไปจากเพื่อน “ฉันรู้สึกเหมือนกับว่าพวกมันกำลังพยายามที่จะปกป้องเจ้าตัวเล็กที่อยู่ตรงกลางอยู่เลย” คุณ Sorbara ที่เป็นประธานของมูลนิธิ Naples Cat Alliance เล่า และหลังจากนั้นไม่นานก็ก็รู้ได้เลยว่าเจ้าเหมียวตัวสีขาวนั้นยังเดินด้วยตัวเองไม่ค่อยได้ และพี่ๆ ของมันอีกสองตัวนั้นก็คอยอยู่ใกล้ๆ เพื่อดูแลมอบความอบอุ่นให้ไม่ห่าง เธอพาเหล่ามิ้วน้อยทั้งสามตัวกลับไปที่ Naples Cat Alliance และนั่นก็ทำให้พวกมันได้รับการดูแลได้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะเจ้าตัวสีขาว ที่ดูเหมือนจะมีปัญหาเกี่ยวกับการทรงตัว “ดูเหมือนว่ามันจะเอียงหัวไปด้านซ้ายซะส่วนใหญ่ แต่มันก็ดูสุขภาพแข็งแรงดี และเมื่อมันจะเดินไปไหนมันก็จะใช้วิธีกลิ้งตัวเพื่อไปถึงที่หมาย” คุณ Megan เล่า พวกเขาตั้งชื่อให้กับเจ้าเหมียวตัวพี่สองตัวว่า Praline และ Pistachio ส่วนเจ้าตัวสีขาวนั้นชื่อว่า Coconut คุณ Megan ได้ทำการป้อนอาหารพวกมันอย่างใกล้ชิด…
-
นี่คือ Gionee M6 มือถือที่เคลมว่า ระบบรักษาความปลอดภัยเจ๋งที่สุดในโลกแล้ว!!
ไม่ว่าจะ iPhone หรือ Samsung ก็ต้องหลบทางให้กับมือถือจากจีนเจ้านี้ ที่ว่ากันว่ามีระบบรักษาความปลอดภัยที่่ดีที่สุดในโลก เราต่างต้องเคยเจอเหตุการณ์โดนแฮ็คมือถือบ้าง ขโมยรูปถ่าย หรือไฟล์สำคัญที่เป็นความลับระดับท็อปซีเคร็ต จากมือถือเราไปบ้าง แต่คราวนี้หมดห่วงได้เลย เพราะ Gionee M6 จะทำให้ปัญหาเหล่านี้หมดไป ทางบริษัทเจ้าของผลิตภัณฑ์โปรโมทด้วยคุณสมบัติที่มีหน้าจอขนาดใหญ่ 5.5 นิ้ว ตัวบอดี้ก็ทำมาจากเหล็กจึงมีความแข็งแรงเป็นพิเศษ และที่สำคัญแบตเตอรี่มีขนาด 5,020 mAH ซึ่งเทียบกับมือถือทั่วๆไปแล้วจะมีเพียง 2,800 – 3,200 mAH เท่านั้น (รับรองว่าเล่นโปเกม่อนโก กันได้ไม่ต้องห่วงแบตหมดเลยทีเดียว) ทางผู้ผลิตต้องการที่จะเอาใจกลุ่มลูกค้านักธุรกิจ ด้วยคุณสมบัติของแบตเตอรี่ที่ทนนาน และแน่นอนว่าต้องมีระบบรักษาความปลอดภัย เพื่อป้องกันการแฮ็คข้อมูลอย่างดีสุดๆ ด้วยชิปรักษาความปลอดภัยข้อมูล ซึ่งต้องเข้ารหัสถึง 10 ชั้น เพื่อปลดล็อกข้อมูลดังกล่าว ในตัวมือถือมีแอพฯ ที่ชื่อว่า ‘Privte Vault’ ซึ่งเป็นทางเลือกสำหรับการเก็บรูปภาพ ข้อความ หรือข้อมูลทั้งหลายที่เราต้องการ โดยที่เมื่อเราโยนไฟล์เข้าไปแล้วข้อมูลทั้งหมดจะหายไปจากมือถือเราทันที โดยมีระบบเซ็นเซอร์ลายนิ้วมือ และพาสเวิร์ด ของเจ้าของเครื่องเท่านั้นที่จะเข้าถึงข้อมูลส่วนนี้ได้ และด้วยความที่มันสามารถจุแบตเตอรี่ไว้ได้มาก…
-
เด็ก 7 ขวบ ทำไฟอุปกรณ์เสริม ให้คนเล่น Pokémon Go ปลอดภัยในยามกลางคืน!!!
ช่วงนี้เรียกได้ว่ากระแสเกม Pokémon Go มาแรงมากๆ หันไปที่ไหนก็มีแต่คนเล่น แต่น่าเสียดายที่ว่าบ้านเรามันยังไม่มาน่ะสิ ทำได้แค่ รอ รอ รอ ในระหว่างที่บ้านเรากำลังรอ ที่เมืองนอกก็ไปไกลมากๆ แล้ว ทั้งมีการจัดตั้งกลุ่ม รวมไปถึงบางคนก็ทำเรื่องไม่ดีอย่างดักปล้นคนที่ออกตามหาโปเกม่อนตอนดึกอีกด้วย จนมีเด็กชายคนหนึ่งเห็นว่าต้องทำอะไรซักอย่างเพื่อให้คนเล่นเกมโปเกม่อนได้อย่างปลอดภัย นี่คือ Athen หนูน้อยวัย 7 ขวบ ผู้อยู่เบื้องหลังอุปกรณ์ที่ชื่อว่า Poke Glo ที่จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยขณะที่ออกไปจับโปเกม่อนตอนดึกๆ โดยหน้าที่ของ Poke Glo ก็คือเอาไว้สะท้อนแสงเวลามีแสงจากรถยนต์ส่องมา เหมือนไฟท้ายสะท้อนแสงรถจักรยาน แต่เขาก็ทำออกมาเป็นรูปโปเกบอล เพื่อให้เข้ากับธีมเกม จุดเริ่มต้นของการทำสิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้ก็คือพ่อกับแม่กำลังคุยกันเรื่องความปลอดภัยในการเล่น Pokémon Go ลูกจึงปิ๊งไอเดียขึ้นมา ก็เลยหาตัวสะท้อนแสงมาลองทำ เพราะก่อนหน้านี้ลูกไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไปเล่นโดยลำพัง เกรงว่าจะเกิดอันตราย จนสุดท้ายก็ออกมาเป็น Poke Glo อย่างที่เราเห็นกัน ตอนนี้ถือว่า Athen มาไกลมากๆ แต่ยังมีการกังวลว่าทำเป็นรูปโปเกบอลแล้วจะติดเรื่องลิขสิทธิ์ ขณะที่เจ้าหนูก็คิดเรื่องต่อไปแล้วว่าจะทำเป็นแบบริสแบนด์แทน พร้อมกับทำเป็นแบบของจริงไปเลย อย่างน้อยอายุ 7 ขวบ มีแนวคิดแบบนี้ เชื่อว่าต้องสามารถพัฒนาตนเองขึ้นได้อีกมากในอนาคต…
-
ชายหนุ่มลองขโมย ‘ถาดใส่ของ’ ที่ใช้ในสนามบิน เพื่อทดสอบความหละหลวมของเจ้าหน้าที่..!!!
ที่สหรัฐฯ นั้นในสนามบินจะมี TSA หรือ (Transportation Security Administration) ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านความปลอดภัยของประเทศสหรัฐอเมริกา ระหว่างจะขึ้นเครื่องหรือเข้าไปในสนามบินก็จะเจอพวกเขาตรวจสัมภาระอยู่ แต่เอาจริงๆ คนก็ไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่ เพราะว่าตรวจไม่ค่อยจริงจัง บางครั้งก็เคยปล่อยให้คนเอาปืนโหลดเข้าไปได้ จนหลายคนบ่นว่ามันไม่มีประสิทธิภาพเอาซะเลย ขึ้นชื่อว่าเครื่องบินแล้ว การตรวจสัมภาระจึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด จึงมีชายหนุ่มคนหนึ่ง พยายามลองของด้วยการขโมยถาดใส่ของตอนเข้าเครื่องสแกนมาเลย ดูซิว่าพนักงานจะจับได้รึเปล่า ผ่านขั้นแรกมาแล้ว ไม่มีใครเห็น เขาหยิบมาอย่างสบายใจ มาด่านสองก็ผ่านฉลุย เขาสามารถเอาขึ้นเครื่องมาได้เลย สถานีต่อไปคือชิคาโก้ ขนาดว่านักบินก็ยังถามถึงเรื่องนี้ และได้ถ่ายรูปด้วยอีก ลงเครื่องมาเรียบร้อย เดินออกมาอย่างสบายใจ ถึงบ้าน ถาดก็ยังอยู่.. อืม… ปลอดภัยจริงๆ แหม่ รู้เลยว่าการรักษาความปลอดภัยมันแน่นหนาจริงๆนะเนี่ยยย ที่มา distractify
-
10 เมืองเที่ยวน่าสนใจ ที่ ‘ผู้หญิง’ ก็ไปคนเดียวได้อย่างสบายใจ (คูลมากๆเลยน่ะ)
ถ้าพูดถึงการไปเที่ยวต่างประเทศด้วยตัวเองขอแนะนำเลยว่าเป็นอะไรที่เราจะได้รับประสบการณ์รูปแบบใหม่ที่ไม่เหมือนไปกับกลุ่มเพื่อนฝูงแน่นอน และสำหรับผู้หญิงที่อยากจะลุยเดี่ยวมันก็ต้องคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัยกันบ้างใช่มั้ยล่ะ ก็แหมมมเราเล่นไปต่างบ้านต่างเมืองก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างเนาะ เว็บไซต์ Escapehere เค้าเลยจัดอันดับเมืองที่ขึ้นชื่อว่าปลอดภัยที่สุดสำหรับสาวๆที่จะไปคนเดียว มีที่ไหนกันบ้างเราไปดูกันเล้ยยยยยยย 10. Marseille ฝรั่งเศส อีกหนึ่งเมืองชิคๆคูลๆจากดินแดนน้ำหอม เมืองนี้มีอ่าวที่ติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียนที่ทั้งสวยงามและอาหารซีฟู๊ดก็โคตรจะสดเช่นเดียวกัน ถึงแม้เราจะได้ยินเรื่องการฉกกระเป๋าเกิดใน ฝรั่งเศส มาบ้างแต่รับรองเลยว่าที่ มาร์แซย์ จะได้พบกับความสงบที่แตกต่างออกไปแน่นอน . . 9. Malmö สวีเดน เป็นอันทราบกันดีว่า สวีเดน เป็นประเทศที่มีผู้คนที่น่ารักและเฟรนด์ลี่สุดๆ มัลโม เป็นเมืองทางตอนใต้ของประเทศนี้ที่เต็มไปด้วยความสงบสุขและอากาศดีๆ แถมยังมีกิจกรรมให้ทำอีกมากมายไม่ว่าจะขึ้นเขาหรือลงห้วย แถมเมืองนี้ยังให้ความสำคัญกับอะไรๆที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยนะ ได้เดินสูดอากาศเย็นๆในเมืองคงชิลมากๆน่าดูเลย . . 8. Setubal โปรตุเกส ถ้าอยากจะพักผ่อนแบบสงบๆชิลๆเราขอแนะนำให้ไปที่เมืองนี้เลย เมืองเล็กๆแห่งนี้เป็นที่ขึ้นชื่อมากในเรื่องของเหล้าองุ่นและของอาหารสดๆจากทะเล ถ้าอยู่จนเบื่อบรรยากาศในเมืองแล้วจะเดินทางไปต่อยังอุทยานแห่งชาติ Serra da Arrabida ก็ใช้เวลาไม่นานมากแบบนี้มาทีเดียวคุ้มแน่นอน . . 7. Oslo นอร์เวย์ อีกหนึ่งประเทศที่น่าไปสุดๆในแถบยุโรป ก็บ้านเมืองพี่แกเล่นสวยงามแถมความปลอดภัยในเมืองก็สูงขนาดนี้ แถมยังเต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอีก เมืองนี้เลยเป็นอีกที่ ที่อยากจะแนะนำให้สาวๆที่ชอบเที่ยวคนเดียวลองได้ไปดูซักครั้ง . . 6. Perth ออสเตรเลีย…
-
เหมียวขอแนะนำเทคนิค 3 ข้อ ที่จะช่วยให้เพื่อนๆ รอดจากการจมน้ำได้แน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์!!
เมื่อพูดถึงการว่ายน้ำ เพื่อนๆ หลายคนอาจจะยังว่ายน้ำไม่เป็น เพราะฉะนั้นจึงทำให้เกิดอาการกลัวเมื่ออยู่ใกล้กับแหล่งน้ำต่างๆ เพราะถ้าหากพลัดตกลงไปนี่โอกาสรอดมีน้อยมากเลยทีเดียว ยิ่งเป็นที่น้ำลึกๆ ด้วยแล้วยิ่งอันตราย วันนี้ #เหมียวหง่าว มีวิธีการง่ายๆ ในการป้องกันการจมน้ำสำหรับเพื่อนๆ ที่ว่ายน้ำไม่เป็นมาฝากกัน จะมีอะไรบ้างนั้นไปชมพร้อมๆ กันได้เลยจ้า… 1. ตั้งสติไว้ให้ดี หากเกิดอาการตกใจ จะทำให้สติของเราเตลิดเปิดเปิงจนทำให้ใช้แรงไปอย่างสิ้นเปลืองจนหมด จนไม่สามารถประคองตัวเข้าหาฝั่งได้ 2. ใช้ทักษะในการลอยตัวเหนือน้ำ หลังจากที่ตั้งสติดีแล้วต่อไปก็มาถึงวิธีการในการพยุงตัวให้ลอยอยู่เหนือน้ำ โดยร่างกายของเราจะมีจุดศูนย์ถ่วงอยู่ที่ท้องน้อย ถ้าเราไม่ทำอะไรเลยก็จะทำให้เราจม แต่การยกมือขึ้นหรือกางแขนกางขาออกไปจะทำให้เราลอยตัวอยู่เหนือน้ำได้ และอีกส่วนที่ทำให้ร่างกายของเราลอยน้ำได้ก็คืออากาศที่อยู่ภายในปอดของเรายังไงล่ะ หลังจากที่จัดท่าทางได้แล้วก็อย่าลืมสูดหายใจเข้าลึกๆ แต่จังหวะที่หายใจออกอากาศที่อยู่ในปอดก็จะลดลงจนทำให้รับน้ำหนักของร่างกายไม่ไหวและจมลงไป เพราะฉะนั้นจะต้องกะจังหวะตอนหายใจให้ดีด้วย 3. ถอดเสื้อผ้าที่สามารถดูดซับน้ำได้ดีและโยนสัมภาระที่มีน้ำหนักเยอะทิ้งไปก่อน เพราะสิ่งของพวกนี้จะถ่วงน้ำหนักของเพื่อนๆ ให้มากขึ้น และทำให้ขยับตัวลำบาก โดยเฉพาะเสื้อยีนส์ กางเกงยีนส์ แต่ถ้าเป็นผ้ายืดธรรมดาๆ ก็ไม่เป็นไร ส่วนรองเท้านั้นถ้าเป็นประเภทรองเท้าบูธหรือรองเท้าหนังก็จะทำให้มีน้ำหนักมากจนทำให้เป็นภาระได้ เพราะฉะนั้นถอดออกดีกว่า แต่ถ้าเป็นพวกรองเท้าแตะ หรือรองเท้าวิ่งที่มีโฟมหรือฟองน้ำเป็นส่วนประกอบก็ไม่จำเป็นต้องถอด เพราะมันจะช่วยให้ลอยน้ำได้ #เหมียวหง่าว หวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความนี้คงจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ เป็นอย่างยิ่งเลยนะจ๊ะ แต่ทางที่ดีถ้าไม่มีอุปกรณ์ชูชีพก็ควรหลีกเลี่ยงในจุดที่มีน้ำลึกดีกว่าเนอะ ^^ เรียบเรียงโดย #เหมียวหง่าว
-
ล้ำไปอีก!! จรวด SpaceX ประสบความสำเร็จในการลงจอดบนฐานในมหาสมุทร!!
ความฝันในการเดินทางไปในอวกาศอย่างง่ายดายกำลังจะเป็นจริงแล้ว หลังจากจรวดในโครงงาน SpaceX ของนักธุรกิจชื่อก้องโลก Elon Musk เจ้าของบริษัทรถยนต์ไฟฟ้า Tesla สามารถ”ลงจอด” บนฐานยิงในมหาสมุทรแอตแลนติกได้อย่างงดงาม โดยยานลำดังกล่าวชื่อว่า Falcon 9 ถูกปล่อยขึ้นจากฐานยิงจรวดในรัฐฟลอริด้าเพื่อนำสัมภาระไปส่งยังสถานีอวกาศนานาชาติ (ISS) หลังจากนั้นจรวด Falcon 9 ก็กลับมาลงจอดได้อย่างปลอดภัยบนฐานในมหาสมุทธแอตแลนติก ซึ่งการลงจอดครั้งนี้ ถือว่าเป็นก้าวที่สำคัญในการเดินทางไปในอวกาศเลยทีเดียว เพราะจะสามารถลดต้นทุนของการผลิตจรวดที่ใช้แล้วทิ้งไปได้เป็นจำนวน ฉะนั้นความฝันที่ทุกคนจะสามารถเดินทางไปอวกาศได้ ก็ไม่ใช่เรื่องที่ล้อเล่นอีกต่อไปแล้ว เมื่อเกือบ 60 ปีก่อน เคยมีหนังเรื่องหนึ่งชื่อ The Sky Call ซึ่งมีฉากจรวดลงจอดแบบนี้เช่นกัน ใครจะเชื่อว่าไม่ถึงร้อยปี เราจะสามารถทำแบบในหนังได้แล้ว?! ลองชมคลิปที่ทาง SpaceX ทำออกมาดู อื้อหือ Elon Musk นี่สุดยอดจริงๆ คราว Tesla ก็ทีหนึ่งแล้ว ต้องรอดูต่อไปว่าชายคนนี้ จะทำอะไรที่พลิกโฉมหน้าโลกอีกบ้าง #เหมียวอ๊อดโด้…
-
อินโฟกราฟฟิคสำหรับผู้ชื่นชอบซูชิ ทานซูชิอย่างไรให้ปลอดภัยและส่งผลดีต่อสุขภาพ!!
อาหารประจำชาติญี่ปุ่นคงปฏิเสธไม่ได้ว่ามันต้องเป็น ‘ซูชิ’ ที่มีเอกลักษณ์แบบหาจากที่ไหนไม่ได้อีกแล้วบนโลกใบนี้ อีกทั้งยังโด่งดังไปทั่วโลก ทั้งฝรั่งและคนเอเชียต่างก็ชื่นชอบซูชิกันทั้งนั้น มีหลากหลายหน้าให้เลือก ยิ่งทำโดยฝีมือของชาวญี่ปุ่นด้วยแล้ว ยิ่งมั่นใจได้ว่าสะอาด อร่อยและดีต่อสุขภาพแน่นอน!! แต่อย่ามัวชะล่าใจกับซูชิจานหรูล่ะ ถึงแม้ว่าวัตถุดิบอันสดใหม่ทำให้หน้าตาของซูชิดูดี น่าทาน ก็อย่าให้มันมาหลอกคุณได้ เพราะภายในนั้นมันซ่อนปริมาณแคลอรี่อันมากมายมหาศาลเลยล่ะ ทาง Cleveland Clinic จึงได้จัดทำอินโฟกราฟฟิคฉบับย่อเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับซูชิกันซักนิด ต้องยอมรับเลยว่าทั่วโลกตอนนี้ ได้รับอิทธิพลของซูชิญี่ปุ่นไปแล้ว แต่ทว่าหากใครที่รักสุขภาพแล้วดันชอบทานซูชิด้วย งานนี้ต้องศึกษากันหน่อย ถ้าหากไม่อยากรับปริมาณแคลอรี่ในจำนวนที่มากเกินไปจากซูชิ ซูชิ – อาหารญี่ปุ่นที่ประกอบไปด้วยข้าวปั้นและวัตถุดิบที่โปะเป็นหน้า โนริ – สาหร่ายญี่ปุ่น ส่วนประกอบไว้ใช้ห่อข้าวปั้น เท็มปุระ – อาหารญี่ปุ่นชนิดชุบแป้งทอด ซาชิมิ – ปลาดิบ มิโซะ – ผลิตภัณฑ์อาหารญี่ปุ่น ส่วนมากจะทำมาจากถั่วเหลือง Roe หรือ 卵 (Tamago) – ไข่ปลา (ส่วนมากจะเป็นปลาแซลมอน) ประเภทของซูชิ Nigiri…
-
สภาเมืองอังกฤษไฟเขียวเปิดย่านให้ ‘โสเภณี’ ทำงานได้อย่างถูกกฏหมายและได้รับคุ้มครอง
ตามที่เรารู้ๆ กันอยู่ว่าการค้ากามหรือการค้าประเวณีเป็นสิ่งที่ผิดกฏหมาย ไม่ได้รับการยอมรับว่ามันคืองานประเภทหนึ่งของกลุ่มคนที่เรียกกันว่า ‘โสเภณี’ ซึ่งมันทำให้บ้านเมืองดูไม่ดีในสายตาทั้งคนในและนอกประเทศ แต่ทว่ามันก็เป็นสิ่งที่ไม่สามารถขจัดออกไปได้หมดจด ธุรกิจการค้ากามก็ยังคงผุดขึ้นเรื่อยๆ แถมมีเงินหมุนเวียนมากมายมหาศาล ทางสภาเทศบาลเมืองลีดส์ ประเทศอังกฤษเล็งเห็นว่าหากปล่อยให้เป็นแบบนี้ ก็จะส่งผลอันตรายต่อผู้ที่ทำงานในด้านนี้เมื่อต้องมายืนเสนอตัวอยู่ข้างถนน สำหรับการทำให้เป็นสิ่งที่ถูกกฏหมายก็จะต้องควบคุมให้อยู่ในพื้นที่ที่จัดไว้ให้ โดยที่ผู้ขายบริการทางเพศจะสามารถทำงานได้ตั้งแต่เวลาหนึ่งทุ่มไปจนถึงเจ็ดโมงเช้า และเป็นพื้นที่ที่มีความปลอดภัยสูง หากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่ดี สามารถรายงานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบได้ทันที สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดพื้นที่ค้าประเวณีแบบถูกกฏหมายขึ้นมานั้น เกิดขึ้นหลังจากที่มีเหตุการณ์หญิงขายบริการรายหนึ่งถูกฆาตกรรมภายในเมืองลีดส์ ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการรับผิดชอบความปลอดภัยของประชาชน แต่อย่างไรก็ตามประชาชนบางส่วนก็มองว่าเป็นการเพิ่มอัตราอาชญากรรมให้มากขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากสภาพของงานที่เสี่ยงอันตรายอยู่แล้ว รวมไปถึงเป็นการกระจายโรคติดต่ออีกต่างหาก ที่มา : unilad, dailymail
-
เหมียวพารู้จัก ‘ระบบ Safety Check’ จาก Facebook ที่จะทำให้คุณรู้ว่าคนที่คุณรัก ปลอดภัยดีรึเปล่า!!?
สำหรับเรื่องราวที่เป็นกระแสไปทั่วโลกมากที่สุดตอนนี้ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องการก่อการร้ายใจกลางกรุงปารีส ที่มีผู้เสียชีวิตไปแล้วกว่า 149 คนซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่น่าสลดใจอย่างยิ่ง และถ้าเกิดว่าคนที่เรารัก หรือครอบครัวของเราเกิดอยู่ในโซนเกิดเหตุล่ะ ยิ่งติดต่อไม่ได้ยิ่งทำให้เรากระวนกระวายใจไม่น้อย ซึ่ง Facebook ก็ได้มีระบบเพื่อให้เหล่าญาติและผองเพื่อนได้สบายใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยระบบ Safety Check ระบบ Safety Check ซึ่งหลักการของระบบนั้นก็ง่ายๆ กล่าวคือ ผู้ที่อยู่ในละแวกที่เกิดเหตุการณ์ ทั้งแผ่นดินไหว ก่อการร้าย หรือภัยพิบัติต่างๆ สามารถเข้าระเบบ Safety Check ในเหตุการณ์นั้นๆ และตั้งบอกว่าตนเองโอเคแล้ว เพื่อให้เหล่าผู้ที่เป็นห่วงเรา สบายใจนั่นเอง เพราะบางทีเราก็ไม่ได้อยู่ออนตลอด หรือพักรักษาตัวจากเหตุการณ์อยู่แต่ปลอดภัยแล้ว ซึ่งระยะเวลาที่คนเป็นห่วงเราแล้วติดต่อเราไม่ได้นั้น คงกระวนกระวายมากๆ นั่นเอง เลยเกิดระบบนี้ขึ้นมา ระบบ Safety Check จากเฟซบุ๊ค ระบบนี้เกิดขึ้นเมื่อมีเหตุการณ์สึนามิในประเทศญี่ปุ่น ปี 2011 ซึ่ง Mark Zuckerberg ก็ได้ตระหนักขึ้นมาว่า มีผู้คนมากมายที่ประกาศตามหาคนที่ตนเองรักไปทั่วอินเตอร์เน็ท เขาจึงคิดระบบนี้ขึ้นมาเพื่อบรรเทาและผ่อนคลายความกระวนกระวายของผู้คนที่ประสบเหตุและญาติๆ นั่นเอง ซึ่งระบบนี้เป็นที่รู้จักกันมากขึ้นหลังจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งรุนแรงในประเทศเนปาลครั้งที่ผ่านมา ซึ่งถ้าเพื่อนๆ อยากเข้าไปเช็คดูว่าคนที่คุณรักโอเครึเปล่านั้น…
-
เหล่าแท๊กซี่ในกรุงปารีส พร้อมใจส่งผู้โดยสารฟรีและชาวบ้านเปิดที่พักรับผู้คนเพื่อหลบภัย!!
จากเหตุการณ์อันสะเทือนใจกับการลอบโจมตีกลางกรุงปารีสส่งผลทำให้ทางรัฐบาลฝรั่งเศสประกาศปิดพรมแดน จากเหตุความไม่สงบภายที่เกิดขึ้นภายในประเทศ ทั้งนี้ประชาชนและนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากต่างต้องหนีออกจากจุดอันตรายให้เร็วที่สุด และด้วยเหตุนี้เอง บรรดาแท๊กซี่ในกรุงปารีสต่างพร้อมใจกันปิดมิเตอร์ พาผู้คนหลบหนีออกจากที่เกิดเหตุไปส่งยังจุดที่ปลอดภัย โดยไม่คิดค่าโดยสารแต่อย่างใด เพราะเนื่องจากหากต้องปล่อยให้ผู้คนเดินและวิ่งหนีไปตามท้องถนนอาจจะทำให้เกิดอันตรายได้ นอกจากนี้ชาวบ้านชาวเมืองในกรุงปารีส (เขต 10 และ 11) ต่างพร้อมใจกันเปิดบ้านต้อนรับผู้คนที่ยังไม่สามารถกลับบ้านของตนเองได้ รวมไปถึงการใช้ #PorteOuverte ในทวิตเตอร์สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการบ้านพักชั่วคราวในกรุงปารีสอีกด้วย ขอให้ทุกท่านปลอดภัยนะ ที่มา : abc, jalopnik
-
อิตาลีเตรียมออกกฎให้เหล่า ‘คุณตัว’ สวมเสื้อผ้าสะท้อนแสงเหมือนคนงานถนน เพื่อความปลอดภัย!!!
อาจจะฟังดูเป็นเรื่องที่ตลกและเฮฮากันไป แต่คิดดูดีๆ แล้วนี่มันความปลอดภัยในอาชีพและชีวิตล้วนๆ เลยนะเนี่ย ไม่ตลกนะ ไม่ตลก มาฟังดีๆ เมื่อล่าสุดทางประเทศอิตาลี ได้ออกมาประกาศให้เหล่า ‘คุณตัว’ หรือโสเภณีภายในประเทศ ที่ขายบริการทางเพศโดยการยืนอยู่ตามจุดต่างๆ สวมเสื้อกั๊กสะท้อนแสง และนั่นคือกฎ!!! ลองจินตนาการ… อาจจะดูตลกและขำขันกันเล็กน้อย ทั้งนี้เพราะว่าเทศมนตรีแห่งเมือง Spino d’Adda ได้จัดให้พวกเธอเป็นพนักงานที่ทำงานตามท้องถนน Luciano Sinigaglia นายกเทศมนตรีได้กล่าวว่า ‘เหล่าผู้ให้บริการทางเพศ ควรถูกจัดหมวดหมู่ไว้กับคนที่ทำงานตามท้องถนน เช่น คนงานทำถนน หรือแรงงานต่างๆ และนั่นทำให้พวกเธอต้องสวมเสื้อผ้าที่สะท้อนแสง สามารถเห็นได้ชัด เพราะเป็นระเบียบการของการทำงานโซนนี้’ ‘…และตอนนี้เราก็ได้ดำเนินการทางด้านเอกสารจนเกือบสมบูรณ์แล้วล่ะ และการยื่นเรื่องสำหรับใช้ข้อบังคับน้ จะเริ่มราวๆ เดือนกันยายนที่จะถึงนี้’ เขากล่าวเสริม แถมถ้าไม่ปฏิบัติตามกฎล่ะก็ จะมีค่าปรับด้วยล่ะถึง 360 ยูโรเลยทีเดียว คูณราวๆ 40 เข้าไปนะจ๊ะ >< เอาเป็นว่าเหล่าผู้ชายที่ไปซื้อบริการ อย่าไปจอดมั่วซื้อคนงานทำถนนที่เขากำลังทำงานอยู่ล่ะ ฮ่าๆๆๆ ไม่งั้นมีกินถั่วกันบ้างแหล่ะ อิอิ ที่มา: Metro
-
เจ้าหน้าที่ตำรวจอำนวยความสะดวกให้กับครอบครัวเป็ด พาไปส่งถึงที่อย่างปลอดภัย
เวลาที่เราเห็นสัตว์ต่างๆ หลุดออกมาอยู่บนท้องถนนจะต้องระมัดระวังให้มากๆ เลยล่ะ เพราะพวกมันไม่รู้เลยว่าจะเกิดอันตรายกับพวกมันเมื่อไหร่ และแน่นอนว่าพวกมันต้องการความช่วยเหลืออย่างด่วนจี๋เลย เจ้าหน้าที่ตำรวจจาก St. Andrews ก็ได้ทำในสิ่งที่น่ารักมากๆ เลยล่ะ เจ้าหน้าที่ตำรวจสองนายได้ทำหน้าที่สุดน่ารัก อำนวยความสะดวกให้กับครอบครัวเป็ด ที่มีแม่เป็ดและลูกน้อยอีก 9 ตัว พลัดหลงมาอยู่ข้างถนนแบบนี้ เจ้าหน้าที่ก็ค่อยๆ ไล่ต้อนไปสู่ที่ๆ ปลอดภัยกว่า จนในที่สุดภารกิจคุ้มครองครอบครัวเป็ดก็ประสบความสำเร็จ ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บเลยแม้แต่รายเดียว มีความสุขทั้งคนทั้งเป็ดเลยล่ะ อิอิ ที่มา : lifebuzz
-
รัสเซียออกแคมเปญรณรงค์ “เซลฟี่ปลอดภัย” ที่แปลกและแหวกแนวยิ่งกว่าใคร!?
ยุคปัจจุบันนี้กล้องมีอยู่ทุกหนทุกแห่ง มีติดสมาร์ทโฟนทุกเครื่อง แถมยังสะดวกต่อการเก็บภาพถ่ายของตัวเองที่เรียกว่าเซลฟี่ซะเหลือเกิน ทำให้มนุษย์ทั้งหลายนั้นเสพติดการเซลฟี่จนลืมถึงอันตรายที่จะตามมา ทางการรัสเซียก็เล็งเห็นถึงปัญหานี้เลยทำการออกแคมเปญรณรงค์เซลฟี่อย่างไรให้ปลอดภัย ทำโปสเตอร์ห้ามเซลฟี่ในสถานที่และช่วงเวลาที่อาจจะเกิดอันตรายได้ อย่างเช่นห้ามเซลฟี่บนรางรถไฟเป็นต้น หรือแม้แต่การไปเซลฟี่บนรถไฟก็ตาม มีความอันตรายสูงมาก รวมไปถึงการเซลฟี่กลางถนน หรือแม้แต่การเซลฟี่บนเรือและบนบันได ซึ่งก็สมเหตุสมผลที่ควรจะรณรงค์ดีนะเนี่ย จะได้ท่องเที่ยวได้อย่างปลอดภัย ไร้กังวล (ถ้าทำตามนะ) แต่การรณรงค์นี้ไม่ธรรมดา เพราะมันมีมากยิ่งกว่าการเซลฟี่ทั่วไปเสียอีก อย่างเช่นห้ามเซลฟี่พร้อมกับอาวุธ (อันนี้น่าจะปกติที่รัสเซีย) ห้ามเซลฟี่บนเสารับสัญญาณโทรทัศน์ ที่หนักยิ่งกว่าก็คือห้ามไปเซลฟี่บนเสาไฟฟ้าแรงสูง และห้ามเซลฟี่ในช่วงเวลาหิมะถล่ม โอ้วววว นี่ถึงกับต้องห้ามกันขนาดนี้เลยเหรอ คือมันมีคนคิดจะทำแบบนี้จริงๆ เร๊อะ? จากข้อห้ามทั้งหมดทั้งปวงสรุปได้ก็คือ “อย่าเซลฟี่ จะเป็นการดีที่สุด ที่จะทำให้ชีวิตปลอดภัย” แหม่!! เป็นการออกแคมเปญที่ทำให้เรื่องเซลฟี่กลายเป็นเรื่องที่ร้ายแรงสุดๆ (แต่บางกรณีก็จริงเหมือนกันนะ) ที่มา : thechive