Tag: ปางตาย
-
หนุ่มซ่า เจออุบัติเหตุ ‘ปางตาย’ ยังไม่ทันออกจาก รพ. เลย เล่น Tinder ล่อสาวซะแล้วเฮ้ย!!!
ปกติแล้วคนที่เจ็บป่วยปางตายและกำลังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลนั้นมักจะมุ่งความสนใจไปยังครอบครัวและคนรอบข้าง …แต่ไม่ใช่สำหรับหนุ่มที่ชื่อว่า Joe คนนี้ Joe ชายหนุ่มจากรัฐเวอร์จิเนีย หลังประสบอุบัติเหตุถูกก้อนฟางน้ำหนักรวม 3,000 ปอนด์ (1,360 กิโลกรัม) ทับร่างจนสภาพปางตาย ทำให้เขาต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลเนื่องจากมีกระดูกหักหลายส่วน แต่โชคดีที่เขายังรอดชีวิต แถมยังกลับมาซ่าบนโลกออนไลน์ได้อีกต่างหาก Joe ผู้ถูกทับด้วยกองฟางหนัก 680 กิโลกรัม 2 ก้อนทับร่างจนสาหัส “ผมน่าจะตายไปแล้ว ตอนนี้ผมยังงงอยู่เลยว่าผมรอดได้อย่างไร โชคดีจริงๆ” Joe บอกว่าการรักษาตัวของเขาใช้เวลายาวนาน ซึ่งผ่านความเจ็บปวดมาแล้วหลายครั้ง แต่ก็ยังถือว่าโชคดีที่รอดชีวิต “ถึงจะเจ็บก็ไม่เป็นไร เพราะความเจ็บคือความรู้สึก การที่ผมได้รู้สึกอีกครั้งแปลว่าผม ยังไม่ตาย!!” ที่พีกที่สุดก็คือ ยังไม่ทันออกจากโรงพยาบาลเลย Joe ก็เปิดแอปฯ Tinder ซะแล้ว!! ปล. Tinder คือแอปพลิเคชันสำหรับหาเพื่อนคุยและออกเดต (หรืออาจมากกว่านั้น) แถม Joe ยังเขียนบรรยายโปรไฟล์ Tinder ของตัวเองแบบโคตร “เรียล” ว่า……
-
“ปล่อยเถอะ เธอน่าจะตายแล้ว” เพราะคำพูดนี้ ‘หญิงสาวออทิสติก’ รอดการรุมทำร้าย มาเล่าให้เราฟัง!?
หญิงสาวคนหนึ่งได้เหล่าถึงเหตุการณ์ปางตาย ที่สุดท้ายเธอก็รอดมาได้เพราะมีคนตรงนั้นบังเอิญตะโกนขึ้นมาว่า “หยุดได้แล้ว เธอตายแล้ว!!!” เหตการณ์นี้เกิดขึ้นกับ Emily O’Reilly วัยรุ่นสาวชาวอังกฤษซึ่งเป็นเด็กที่มีอาการของออทิสติกอยู่ เธอถูกทำร้ายขณะที่กำลังเดินทางไปที่บ้านเพื่อน เธอถูกดึงผมและผลักลงกับพื้นและโดนทำร้ายสารพัด ทั้งต่อยทั้งเตะจนมีสภาพที่ยับเยิน นอกจากนี้เธอยังถูกขโมยโทรศัพมือถือและกำไลไปอีกด้วย เธอเล่าว่า “ฉันหันไปเจอกับผู้หญิงคนหนึ่งที่ฉันเคยรู้จัก เธอเข้ามาข่มขู่และบอกว่าต้องการโทรศัพของฉัน ซึ่งเมื่อฉันปฏิเสธเธอก็่ต่อยเข้าที่หน้าของฉันทันที พร้อมกับล้วงเข้าไปในกางเกงฉันเพื่อที่จะเอาโทรศัพของฉันไป แต่แค่นั้นยังไม่พอเธอยังถอดกำไลของฉันออกไปด้วย ฉันจำอะไรไม่ค่อยได้เลยฉันรู้แค่ว่าถูกเตะและต่อยนับครั้งไม่ถ้วนเลย” หลังจากเหตุการณ์นั้นเธอก็ได้พยายามที่จะไปขอความช่วยเหลือจากผับใกล้ๆ แต่เธอก็ยังเจอผู้หญิงคนเดิมทว่าคราวนี้เธอมาพร้อมกับเพื่อนของเธอหลายคนเลยทีเดียว ผู้หญิงคนนั้นตั้งใจจะทำร้ายเธออีกครั้งเพียงแต่ว่าในกลุ่มเพื่อนของผู้หญิงคนนั้นได้บอกว่า “เธอตายแล้ว” จึงทำให้ผู้หญิงคนนั้นหันหลังกลับไป ทิ้งไว้แต่ความกลัวในใจของ Emily จนทำให้เธอไม่กล้าที่จะออกไปไหนอีกแล้ว “ฉันพยายามวิ่งไปที่ผับเพื่อขอความช่วยเหลือ ถึงอย่างนั้นฉันก็ยังเจอเธอพร้อมกับคนจำนวนมาก เพื่อตามหาตัวฉัน” “ถึงแม้เพื่อนของเธอจะบอกว่าฉันตายไปแล้ว เธอก็ยังคงกลับมาเพื่อเช็คฉันให้แน่นอนจริงๆ เหตุการณ์นี้ได้ทิ้งความกลัวไว้ให้ฉัน ฉันเจ็บปวดมากๆ มันทำให้ฉันไม่กล้าแม้แต่จะออกไปข้างนอกอีกต่อไป” จากผลกระทบในครั้งนี้ทำให้เธอได้รับบาดเจ็บสาหัสและไม่สามารถเปิดตาข้างขวาได้เลย ซึ่งแม่ของเธอบอกว่า “ตอนแรกที่ฉันไปที่โรงพยาบาลฉันจำหน้าของเธอไม่ได้เลยด้วยซ้ำ มันย่ำแย่มากๆ เธอได้แต่ร้องไห้ไม่หยุด แถมเธอยังลืมตาข้างขวาไม่ได้อีกตะหาก” นอกจากนี้แม่ของเธอยังบอกอีกว่าลูกของเธอเป็นโรคแอสเพอร์เกอร์ ซินโดรม จึงทำให้การตอบโต้ของเธอช้ากว่าปกติและไม่สามารถสู้กลับสาวคนนั้นได้ และนั่นอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เด็กกลุ่มดังกล่าวไม่ค่อยชอบเธอด้วยก็ได้ สุดท้ายแล้วเธอก็อยากแค่ให้ลูกสาวของเธอใช้ชีวิตแบบวัยรุ่นทั่วไป แต่ว่าจากเหตุการณ์นี้มันคงจะเป็นไปได้ยากอีกต่อไป ตราบที่เหตุการณ์ร้ายแรงยังเกิดขึ้นเรื่อยๆ แบบนี้ …
-
เตือนใจคนเลี้ยงสัตว์ทุกคน..หมาชิวาวาเข้าไปกัดเป็ดในเล้า เจ้าของเป็ดตีจนบาดเจ็บหนัก ใครเล่าเป็นคนผิด??
การจะเลี้ยงสัตว์ เจ้าของจะต้องดูแลสัตว์เลี้ยงของตนเองเป็นอย่างดี และต้องป้องกันไม่ให้สัตว์เลี้ยงของตนเองนั้น ไปทำอันตรายหรือสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่น ไม่เช่นนั้นอาจเกิดเหตุการณ์แบบกลืนไม่เข้าคายไม่ออกแบบนี้ เรื่องมีอยู่ว่า มีหมาชิวาวาตัวหนึ่ง เข้าไปกัดเป็ดในเล้าเป็ดของชายคนหนึ่งซึ่งเป็นเพื่อนบ้าน เมื่อชายคนนั้นเห็น เขากล่าวว่า เขาได้โยนไม้กวาดใส่หมาชิวาวาตัวนั้น และได้ไปเรียกเจ้าของให้มารับตัวไป พอเจ้าของมารับตัวเจ้าหมาชิวาวากลับ เธอพบว่าหมาชิวาวาของเธออยู่ในสภาพบาดเจ็บสาหัส อ่านให้จบนะคะอย่าพึ่งด่าใครเลยขอชี้แจงเกี่ยวกับ..#น้องแตงหมาในหมู่บ้านของข้าพเจ้าเอง(หมาของน้องป๊อก)..#ที่ไปกัดเป็ดเพื่… Posted by คีตะวัน เจิมสุวรรณ นามวงค์ อาจหาญ on 16 สิงหาคม 2015 “อ่านให้จบนะคะอย่าพึ่งด่าใครเลย ขอชี้แจงเกี่ยวกับน้องแตงหมาในหมู่บ้านของข้าพเจ้าเองที่ไปกัดเป็ดเพื่อนบ้านแล้วสภาพเป็นดั่งในภาพ คือเรื่องหมาชิวาว่าไปกัดเป็ดนั้นตามที่น้องป๊อกบอก(เป็นเจ้าของหมา)คือหมาเข้าไปกัดเป็ดในเล้าเป็ด แล้วเจ้าของเป็ดได้ใช้ไม้กวาดโยนใส่แล้วหมาก็ล้มลง แล้วก็มาบอกให้น้องป๊อกซึ่งเป็นเจ้าของหมาไปเอาหมากลับมา สภาพตอนที่ไปเห็นหมา(ตามที่เจ้าของหมากล่าวอ้างคือ) หมานอนแน่นิ่งเลือดออกจมูกออกปาก หายใจโรยริน เค้าก็อุ้มหมากลับมาบ้านและเช็ดเลือดพร้อมกับป้อนยาแก้อักเสบที่ได้ละลายน้ำแต่หมาสำลักออกมา น้องที่เป็นเจ้าของหมายังไม่ได้พาไปหาหมอ ซึ่งเรื่องได้เกิดขึ้นเมื่อวันที่15สิงหาที่ผ่านมา เวลาประมาณ6โมงเย็นซึ่งข้าพเจ้าพึ่งได้เห็นโพสที่เจ้าของหมาโพสเลยได้ออกไปดูอาการก็หนักพอสมควร หมาไม่ตอบสนองเสียงเรียก ตัวเริ่มแข็ง ขาแข็งทื่อไม่สามารถงอหรือพับได้ ลิ้นห้อย ตาซ้ายปูดบวม หัวฝั่งซ้ายเหนือจากตาขึ้นไปก็บวม ตอนนั้นที่บ้านมีแค่คุณยายเจ้าของบ้านที่อยู่บ้าน ส่วนน้องป๊อกได้ออกไปธุระข้างนอก ข้าพเจ้าเลยเดินกลับมาขับเอารถที่บ้านพาน้องหมาไปหาหมอที่ในอำเภอซึ่งไม่มีเครื่องมือเอื้ออำนวยต่อการรักษา คุณหมอได้แต่ฉีดยาแก้ปวด ลดบวม และแก้อักเสบให้ ข้าพเจ้าทักแชทบอกเจ้าของหมาว่าตอนนี้พาหมามาหาหมอให้แล้ว ตายก็ตายถ้าไม่ตายก็เลี้ยงต่อ ไม่นานเจ้าของหมาก็ขับรถเครื่องตามมาติดๆที่คลินิคหมอ ก็รักษาไปดูอาการไปเท่าที่ทำได้ เพราะน้องเค้าไม่ได้มีเงินมากพอที่จะพาไปรักษาที่โรงพยาบาลใหญ่ๆ ก็ได้แต่หวังว่าอาการน้องหมาจะดีขึ้น ส่วนค่ารักษาระหว่างนี้ข้าพเจ้ายินดีออกเอง…