Tag: ปีนเขา
-
เหมียวนักปีนป่ายผู้ไม่เกรงกลัวสิ่งใด เข้ากับครอบครัวใหม่ที่รักการปีนเขาได้เป็นอย่างดี
คุณแม่ Sandra Samman ที่รักการผจญภัยเป็นชีวิตจิตใจจากรัฐโคโลราโด ประเทศสหรัฐอเมริกา กำลังมองหาสัตว์เลี้ยงคู่ใจสักตัวที่พร้อมจะผจญภัยไปกับเธอ และใช้ชีวิตนอกบ้านกับเธอเป็นประจำได้ ตอนนั้นเองที่เธอได้พบกับเจ้า Denali แมวเหมียวที่อยู่ในศูนย์พักพิง Foothills Animal Shelter มันเป็นแมวอายุ 2 เดือนที่ดูไม่กลัวอะไรเลย มันชอบสำรวจสถานที่ใหม่และเล่นกับคนแปลกหน้าอยู่เสมอ เธอก็เลยคิดว่ามันน่าจะเข้ากับเธอได้ดี Sandra Samman กับเจ้าแมว Denali เธอก็เลยรับเจ้าเหมียวเข้ามาเป็นสมาชิกคนใหม่ของครอบครัว มันเข้ากับครอบครัวใหม่ได้อย่างรวดเร็ว แถมยังติดหนึบไม่ยอมห่างจากคุณแม่เลยด้วย เวลาไปข้างนอกเธอก็เลยต้องพามันไปด้วยเกือบตลอดเวลา สถานที่หนึ่งที่เธอมักไปเป็นประจำก็คือหน้าผาจำลองที่อยู่ในยิมใกล้บ้าน เธอรักการปีนเขามากก็เลยมาที่นี่ค่อนข้างบ่อย แล้วเธอก็พาเจ้าเหมียวมาด้วยโดยไม่ได้คาดหวังให้มันปีนเขาได้เลยสักนิด มันติดเธอมาก เธอเลยพามันมาเฝ้าตอนปีนหน้าผาจำลองด้วย แต่สิ่งที่เธอไม่รู้ก็คือเจ้าเหมียวปีนเขาได้ค่อนข้างเก่งเลยล่ะ บางครั้งมันจะปีนหน้าผาจำลองตามเธอขึ้นมาถึงจุดที่สูงพอสมควรเลย แล้วมันยังแสดงออกอย่างชัดเจนด้วยว่ามันกำลังสนุกกับสิ่งที่ทำอยู่ บางครั้งมันก็จะปีนเขาไปด้วยกันกับเธอ และเมื่อมันเหนื่อยแล้วมันก็ชอบกระโดดเข้าไปในกระเป๋าของเธอ แล้วให้เธอพามันปีนเขาโดยที่มันโผล่หน้าออกมาจากกระเป๋าเพื่อชมวิวจากที่สูงด้วย ไม่นานเจ้าเหมียวก็กลายเป็นที่รักของทุกคนในยิม ไม่ว่าเมื่อไหร่ที่เด็กๆ ได้เห็นเจ้าเหมียวมาปีนเขาก็จะมีคนกรี๊ดกร๊าดไปกับความน่ารักและความเก่งกาจของมัน กลายเป็นว่าเจ้าเหมียวชอบปีนเขาซะอย่างงั้น แถมยังเก่งอีกต่างหาก สุดยอด ขนาดปีนเขาจนเหนื่อยแล้วยังให้คนพาปีนขึ้นไปต่อเลย สงสัยจะชอบวิวจากที่สูง ถ้าคุณคิดว่าการปีนหน้าผาจำลองเป็นกิจกรรมที่ Denali โปรดปรานแล้ว แสดงว่าคุณยังไม่ได้เห็นตอนมันไปปีนหน้าผาของจริง เวลามันไปปีนหน้าผาของจริงกับแม่ของมัน เจ้าเหมียวจะดูมีชีวิตชีวามากเป็นพิเศษ …
-
เรื่องราวการผจญภัยของ ‘แมวดำสุดซ่า’ และเจ้าของคู่หูที่ทุ่มเทความรักให้มันหมดใจ
มันเป็นแมวที่โชคดี ส่วนผมก็คงจะเป็นคนโชคดีที่สุดที่มีมันอยู่ข้างๆ … หนุ่ม JJ Yosh จากเมืองบาวเดอร์ รัฐโคโลราโด ประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นคนที่รักแมวมาก เขาช่วยแมวดำตัวหนึ่งมาแล้วตั้งชื่อให้มันว่า Simon ในตอนต้นเขาตั้งใจว่าจะเอามันไปให้กลุ่มช่วยเหลือสัตว์หาบ้านให้มัน ช่วงแรกที่มันมาอยู่กับเขา มันเข้ากับเขาไม่ได้เลย เจ้าเหมียวไม่ยอมให้เข้าใกล้หรือจับตัว แถมมันยังร้องตลอดเวลาด้วยความหวาดระแวงจนเขาไม่ได้หลับทั้งคืน Simon เจ้าแมวตัวแสบ อีกวันหลังจากที่เก็บ Simon มา มันก็วิ่งหนีเขาออกไปนอกบ้านแล้วไปหลบอยู่ใต้ก้อนหินใหญ่ใกล้ๆ เขาเลยวิ่งตามไปแล้วพยายามเรียกมันให้ออกมา แต่มันก็ไม่ยอมออกมาสักที จนถึงเวลาที่เขาต้องทำงานก็เลยจำเป็นต้องทิ้งมันเอาไว้แบบนั้น ทันทีที่เลิกงานแล้ว Yosh ก็พุ่งตรงกลับมาบ้านเพื่อช่วยเจ้าแมวดำอีกครั้ง โชคดีที่มันยังหลบอยู่ที่เดิมไม่ไปไหน พอเขาเรียกมันในครั้งนี้มันก็ยอมออกมาให้เขาอุ้มอย่างง่ายดาย อาจจะเป็นเพราะมันเห็นความรักที่เขาทุ่มเทให้กับมันก็ได้ ถึงตอนแรกจะเข้ากันไม่ได้ แต่รู้ตัวอีกทีก็สนิทกันสุดๆ หลังจากนั้นความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ดีมากขึ้นเรื่อยๆ จากเดิมที่เขาตั้งใจจะเอามันไปให้ศูนย์พักพิง เขาก็เลยตัดใจจากมันไม่ได้ แล้วรับเลี้ยงไว้เองซะเลย หลังจากสนิทกันมากแล้ว ด้วยความที่เขาเป็นคนชอบทำกิจกรรมนอกบ้านมาก เขาก็เลยอยากลองพาเจ้าเหมียวไปด้วย เผื่อมันจะชอบในสิ่งที่เขารัก และกิจกรรมแรกที่มันได้ท้าทายก็คือการเดินป่า ไปไต่เขาเป็นเพื่อนพี่ Yosh หน่อยนะ เขาเล่าว่า “ผมไม่ได้ใส่สายจูงให้มัน ก็เลยกลัวว่ามันจะหนีไปอยู่เหมือนกัน แต่มันก็ตามผมมาไต่เขาอย่างว่าง่าย … มันไต่เขาครั้งแรกไปด้วยระยะทางแค่ครึ่งไมล์…
-
‘เอเวอเรสต์’ ยอดเขามรณะพิชิตนักปีนเขา ดั่งสุสานลอยฟ้าที่ทิ้งร่างของผู้พ่ายแพ้
เมื่อพูดถึงภูเขาที่สูงที่สุดในโลกแล้วละก็ คงจะไม่มีสถานที่ใดมาเทียบเคียงกับ ‘ยอดเขาเอเวอเรสต์‘ ได้อีกแล้ว ด้วยระดับความสูงที่ 8,848 เมตร จึงทำให้นักปืนเขามากมายจากทั่วโลกรู้สึกตื่นเต้นและอยากจะพิชิตมันให้ได้ อย่างไรก็ตาม แม้ว่ายอดเขาแห่งนี้จะมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามเพียงใด แต่มันก็ลบความเป็นจริงที่ว่ามันเป็นดั่งสุสานลอยฟ้าของเหล่านักปีนเขาออกไปไม่ได้เสียที ด้วยความที่สภาพอากาศระหว่างไปยอดเขานั้นมันโหดร้ายมากๆ ทั้งหนาวเย็นและออกซิเจนก็น้อยนิด มันจึงคร่าชีวิตผู้คนมากมายมานับตั้งแต่อดีต ทิ้งไว้ก็แต่ร่างไร้วิญญาณมากมายบนกองหิมะอันหนาวเน็บ บ้างก็รู้ว่าเป็นใครมาจากไหน บ้างก็ไม่อาจจะทราบได้ว่าพวกเขาเป็นใคร ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อมีคนเสียชีวิตการจะพาพวกเขากลับมาด้วยก็เป็นเรื่องที่ยากเมื่อคุณขึ้นไปถึงระดับที่สูงขึ้น เพราะถ้าคุณมัวกู้ร่างของผู้เสียชีวิต ก็เท่ากับว่าคุณก็พร้อมจะเอาชีวิตไปเสี่ยงด้วยเช่นกัน… ในปัจจุบันภูเขาแห่งนี้ได้กลายเป็นสุสานแก่นักปีนเขาจำนวนเกือบ 300 คน ซึ่งในแต่ละการตายก็มีเรื่องเล่าที่สืบต่อกันมาหลากหลายเรื่องเลยทีเดียว . อย่างเช่นเรื่อง ‘Green Boots’ ที่เล่าถึง Tsewang Paljor นักปีนเขาจากอินเดียที่เสียชีวิตในปี 1996 ส่วนสาเหตุที่ต้นเหตุของเรื่องเล่าก็มาจากรองเท้าที่เขาใส่ไปปีนมันเป็นสีเขียว และนักปีนเขาคนอื่นๆ ในช่วงนั้นก็จะต้องเจอกับศพของเขาระหว่างทางนั่นเอง หรือจะเป็นเรื่อง ‘Sleeping Beauty’ ที่เล่าถึงสองสามีภรรยา Francys และ Sergei Arsentiev ที่ได้ไปพิชิตยอดเขาในปี 1998 ซึ่งทำให้ Francys นั้นยังเป็นหญิงชาวอเมริกันคนแรกที่สามารถพิชิตยอดเขาได้ แต่โชคร้ายที่ทั้งคู่ได้เสียชีวิตระหว่างทางกลับลงมานั่นเอง…
-
นักปีนเขาถูกชาวเน็ตถล่มหนัก หลังตัดสินใจทิ้งหมาไว้กลางทาง เนื่องจากพายุเข้ากะทันหัน!?
นักปีนเขาคนหนึ่งถูกชาวเน็ตโจมตีอย่างหนักหน่วง เนื่องจากเขาทิ้งสัตว์เลี้ยงของตัวเองเอาไว้ท่ามกลางพายุหิมะบนภูเขาในประเทศสก๊อตแลนด์ แล้วหนีไปหลบพายุหิมะคนเดียว ภายหลังก็พบว่ามันตายเสียแล้ว ในวันที่ 14 มกราคมที่ผ่านมา นาย Paul Finnegan นักปีนเขาจากเมืองช็อตส์ เขตนอร์ธลานาร์คชายร์ ประเทศสก๊อตแลนด์ ตัดสินไปขึ้นไปปีนเขา Beinn Sgulaird ซึ่งสูงถึง 3074 ฟุต (ประมาณ 930 เมตร) กับ Meg สุนัขพันธุ์บอร์เดอร์คอลลี่ของเขา ทว่าเจ้าสุนัขวัย 12 ปีเกิดหมดแรงขึ้นมากลางทาง ซ้ำร้ายตอนนั้นยังมีพายุหิมะเข้าหนักอีก หลังจากเขาและเพื่อนพยายามแบกมันลงจากเขาสักพัก เขาก็ต้องตัดใจลงไปหลบพายุหิมะแล้วทิ้งมันไว้แล้วกลางทาง Meg สุนัขของ Paul Finnegan ญาติของเขาบอกว่าเขาไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว เพราะว่าอากาศก็เลวร้ายลงเรื่อยๆ จึงต้องทิ้งมันเอาไว้ก่อนอย่างช่วยไม่ได้ แล้วออกตามหามันเมื่อพายุหิมะสงบลงอีกที นักปีนเขาที่เชี่ยวชาญเองก็ไม่โทษเขาเหมือนกัน กลับรู้สึกเห็นใจเขาด้วย เพราะแม้ว่าเขาจะตัดสินใจทิ้งสุนัขแสนรักเอาไว้กลางภูเขาหิมะแบบนั้น แต่มันก็เป็นการตัดสินใจในสถานการณ์ฉุกเฉินอย่างหนึ่งที่ช่วยชีวิตเขาไว้ได้ โพสต์ของครอบครัวนาย Paul Finnegan ที่ขอความช่วยเหลือตามหาสุนัข เมื่อพายุหิมะสงบลงเขากับเพื่อนก็กลับไปหาสุนัขทันที แต่เนื่องจากจำไม่ได้ว่ามันหายไปตรงไหน จึงทำให้การค้นหาเป็นไปอย่างลำบาก สุดท้ายเขาก็หามันไม่เจอ คนในครอบครัวของเขาจึงโพสต์ในเฟซบุ๊กเพื่อขอความช่วยเหลือว่า “ฉันอยากขอคำแนะนำหน่อยค่ะ เมื่อวานคนในครอบครัวไปปีนเขา Beinn…
-
หนุ่มปีนเขา ดันเจอ ‘แพะภูเขา’ ติดในซอกเขา งานนี้ต้องช่วยจากเขา แพะบอก ‘อย่าจับเขา!!’
ชีวิตคนเรานั้นมักจะเจอเรื่องไม่คาดคิดเสมอ อย่างเช่นการออกไปเที่ยวยังสถานที่ต่างๆ แล้วเจอเข้ากับคนหรีอสัตว์ที่กำลังเดือดร้อน แน่นอนว่าด้วยจิตวิญญานแห่งคนดี คนเราก็มักจะยืนมือเข้าไปช่วยอยู่เสมอ เช่นเดียวกับผองเพื่อนกลุ่มนี้ พวกเขานั้นชื่นชอบการเดินป่าและปีนเขากันมากๆ โดยล่าสุดพวกเขาได้ตัดสินใจไปปีนเขากันที่ทิวเขา Sierra de Guadarrama ใกล้ๆ เมืองมาดริด ประเทศสเปน แต่ระหว่างที่ทั้งหมดกำลังเดินชี่นกชมไม้อยู่นั้น พวกเขาก็ได้บังเอิญเจอแพะภูเขาตัวหนึ่ง ซึ่งมันดั๊นนน บังเอิญเอาตัวเองไปติดอยู่ในซอกเขาพอดี มันที่ไม่สามารถขยับไปไหนได้ แถมดูจะอารมณ์เสียมากๆ ที่ต้องมาติดอยู่แบบนี้ งานนี้กลุ่มนักเดินเขาของเราจึงต้องเริ่มภารกิจช่วยเหลือมันออกมา… ดูสิติดแหงกเลย แต่จะว่าไปถ้ามันไม่ติด มันก็จะตกลงไปยังพื้นข้างล่างที่ไม่รู้ว่าสูงแค่ไหน.. จะเรียกว่าโชคดีหรือร้ายดีนะ ดูสายตาของมันราวกับกำลังคิดว่า “อย่ามายุ่งเจ้ามนุษย์ อย่าจับเขาตรูด้วย!!” อะไรทำนองนี้เลย แต่สุดท้ายพวกเขาก็สามารถช่วยเจ้าแพะออกมาจนสำเร็จ ดีใจด้วยนะ แบ๊ะๆ เอ้า ปลอดภัยแล้วเจ้าแพะ ตอนนี้นายเป็นอิสระแล้ว อย่าพลาดอีกนะ!! ที่มา boredpanda
-
หนุ่มผจญภัยในเส้นทางป่าดงดิบ สู่ยอดเขาเมรูในแทนซาเนีย โชคดีได้เพื่อนกลับมาบ้าน
เรื่องราวอันน่าประทับใจนี้เกิดขึ้นที่ยอดเขา Meru ภูเขาไฟแห่งหนึ่งของประเทศแทนซาเนีย ในป่าอันเขียวชอุ่มในทวีปแอฟริกา ซึ่งพื้นที่ห่างไกลแห่งนี้แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยว่าคุณจะสามารถพบสุนัขหลงทางได้!! แต่ทว่าเมื่อไม่นานมานี้มีชาวเน็ตท่านหนึ่ง ได้อัพเดทเรื่องราวการพบกันระหว่างเขาและเจ้าหมาน้อยหลงทางในระหว่างที่เขากำลังเดินป่าอยู่โดยบังเอิญ ผืนป่าอันกว้างใหญ่และยอดเขา Meru ในประเทศแทนซาเนีย เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อคุณ Mtumrefu ผู้เชี่ยวชาญทางด้านสัตว์ป่าและพันธุ์พืชชาวสวีเดนคนนี้ ได้เข้าไปเดินป่าใกล้ๆ กับภูเขาไฟ Meru และในระหว่างที่เดินอยู่ในป่าใหญ่นั้น เขากลับพบสุนัขที่หลงทางตัวหนึ่งในสภาพอิดโรย “เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ผมพบมันในสภาพที่ตัวสั่นและเปียกฝน เจ้าหมาน้อยผอมจนเหลือแต่ซี่โครง “ “ผมอุ้มมันเดินผ่านลำธารเพื่อนำมันมาดูแลที่ด้านล่าง เราให้ความอบอุ่นแก่มัน และหลังจากนั้นจึงพาเจ้าตัวเล็กไปพบกับสัตวแพทย์ ตอนนั้นเจ้าตูบมีน้ำหนักเพียงแค่ 2.5 กิโลกรัมเท่านั้น” สภาพของเจ้าตูบที่ถูกช่วยมาจากป่าฝนในวันนั้น และหลังจากที่ผ่านไปไม่กี่สัปดาห์ เจ้าตูบผู้โชคดีก็เริ่มกลับมาแข็งแรงและมีร่างกายที่สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ด้วยความผูกพัน เขาจึงรับเจ้าหมาน้อยตัวนี้มาเลี้ยงในทันที ชายหนุ่มตั้งชื่อให้เจ้าหมาน้อยเพศเมียตัวนี้ว่า Koda ซึ่งเป็นชื่อย่อของ Kodama จากภาพยนตร์อนิเมะแฟนตาซีอิงประวัติศาสตร์เรื่อง Princess Mononoke “หลังจากที่ผ่านไปประมาณหนึ่งสัปดาห์ Koda เพื่อนใหม่ของผม เริ่มมีน้ำหนักเพิ่มมากขึ้น เธอแข็งแรงขึ้นเรื่อยๆ และเริ่มออกวิ่งได้แล้ว” Mtumrefu กล่าว สวัสดีจ้าา หนู Koda เองค๊าาา!! “ตอนที่ผมอุ้มเธอขึ้นมาตอนที่อยู่ในป่า เธอพยายามเข้ามาซุกในอ้อมอกของผม ตอนนั้นผมรู้ในทันทีว่าผมไม่สามารถทิ้งเธอไปได้เลย” ชายหนุ่มกล่าว …
-
คู่รักจ้างช่างภาพไปปีนเขาใช้เวลาขึ้นลงภูเขากว่า 14 ชั่วโมง เพื่อถ่ายพรีเวดดิ้งแสนงดงาม
Trolltunga หรือที่เรียกว่า Troll Tongue คือแนวหินที่ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศนอร์เวย์ หากใครได้ไปเห็นทิวทัศน์ด้านบนนั้นแล้วก็อาจหยุดหายใจกันไปเลยเพราะมันสวยงามเอามากๆ จนทำให้คู่บ่าวสาวคู่หนึ่งต้องการขึ้นไปถ่ายรูปแต่งงานในสถานที่แห่งนั้น วิวทิวทัศน์ด้านบนแนวหิน Trolltunga พวกเธอจึงไปร้องขอให้ช่างภาพสาว Priscila Valentina ตามขึ้นไปเก็บภาพของพวกเธอ กลายเป็นจุดเริ่มต้นของซีรีส์ภาพชุดนี้ที่แสดงให้เห็นเลยว่าการเดินทางอันยากลำบากและผลลัพธ์ที่คุ้มค่านั้นมันออกมาเป็นอย่างไร เรื่องราวนี้ถูกแชร์ในเว็บไซต์ Petapixel เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2017 พวกเขาทั้งสามจำเป็นต้องเดินทางกันตั้งแต่เวลา 5.25 นาฬิกา หรือเช้าตรู่ของวันนั้น เพราะต้องเผื่อเวลาสำหรับการเดินขึ้นลงแนวโขดหิน . เมื่อมาถึงที่จอดรถด้านล่างโขดหิน พวกเขาต้องเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเดินขึ้นไป เจ้าบ่าวเจ้าสาวคอยดูแลกันและกันไม่ห่าง . ความน่ารักที่มากมายขนาดนี้ทำให้ช่างภาพต้องคอยเก็บภาพบรรยากาศต่างๆ เอาไว้อยู่เสมอ การเดินทางอันแสนเหน็ดเหนื่อยและยากลำบากของทั้งคู่ รวมถึง Priscilla ที่ต้องแบกอุปกรณ์ถ่ายภาพทุกอย่างหนักเกือบ 16 กิโลกรัม ในที่สุดทั้งสามก็ขึ้นมาถึงด้านบนเป็นที่เรียบร้อย กางเต้นท์ไว้สำหรับเปลี่ยนชุด ชายหนุ่มในมาดเจ้าบ่าวแบบเต็มตัว และเจ้าสาวที่สวยสง่า เข้ากับบรรยากาศด้านหลังสุดๆ .…
-
โรงน้ำชากับเส้นทางสุด “หฤโหด” บนยอดเขาหัวซาน ที่คุณต้องลงแรงขึ้นไปด้วยตัวเอง
หลายคนเวลาปีนเขาหรือขัยรถขึ้นดอยก็มักจะแวะจิบชากาแฟ สูดบรรยากาศอันแสนสดชื่นแบบสบายๆ แต่ถ้าหากว่ากลับกันบ้างเมื่อคุณต้องลงทุนลงแรงปีนขึ้นเขาไปเพื่อการกินชาเพียงถ้วยเดียว เพราะว่าร้านน้ำชาที่ประเทศจีนนั้นมีความไม่ธรรมดา ตรงที่ดันไปตั้งร้านอยู่บนยอดเขาอันสูงชัน โดยใช้พื้นที่ของวัดลัทธิเต๋าในสมัยก่อน อันห้อมล้อมไปด้วยหมู่มวลดอกไม้ หากว่าคุณต้องการจะไปจิบชาที่โรงน้ำชาแห่งยอดเขาหัวซาน มันจะไม่เป็นเรื่องง่ายเหมือนที่เราเจอกันทั่วไป อย่างที่บอกว่าที่ตั้งไปอยู่ซะสูงขนาดนั้น คุณก็ต้องออกแรงปีนขึ้นไปด้วยความยากลำบาก อย่าลืมว่ามีความเสี่ยงว่าอาจตกลงไปกลางทางก็ได้อีกนะ ในตอนแรกคุณก็จะได้ชมบรรยากาศโดยรอบอยู่ในกระเช้าลอยฟ้าที่จะพาคุณไปปล่อยเอาไว้ หลังจากนั้นที่เหลือคุณก็ต้องหาทางไปต่อกันเอง แต่เขาก็ยังมีอุปกรณ์ช่วยมากมาย ไม่ว่าจะเป็นโซ่เหล็กเส้นไม่ใหญ่มากบวกกับไม้แผ่นเล็กๆ แถมรูเอาไว้สำหรับให้เท้าเหยียบ ถ้ากลัวความสูงก็คงไม่ได้ลิ้มลองรสน้ำชาแล้วล่ะ… และถ้าโชคยังเข้าข้างคุณอยู่ในที่สุดคุณก็จะได้มาเดินขึ้นบันไดซักที แต่หากคิดว่ามันชิลล์ละก็ บอกเลยว่าไม่เพราะบันไดที่ว่านี้มีความลาดชันมากที่สุดในโลก แต่ไม่ต้องกลัวเพราะยังมีราวจับไว้ช่วยพยุงตัวอยู่ แต่ก็ยังหวาดเสียวอยู่ดี… ราวจับหรือเชือกฟาง ซะเล็กเชียว สุดทางก็จะได้พบกับร้านน้ำชาแล้ว จงดื่มด่ำความสำเร็จไปกับชาสักถ้วยอย่างเต็มที่ เพราะว่าเมื่อคุณดื่มเสร็จแล้วก็ต้องรีบเดินลงกันซะหน่อย ไม่งั้นมีหวังฟ้าจะมืดเอาซะก่อนแล้วมันจะลำบาก หากใครอยากที่จะลดน้ำหนัก ออกกำลังกายได้แบบครบวงจรแล้วละก็ ขอแนะนำให้ได้ไปลองดื่มชาร้านนี้กันได้ที่เมืองหัวยิน ประเทศจีนเลย แต่อย่าลืมไปกันแต่เช้าด้วยนะเดี๋ยวไม่มีเวลาเพราะกว่าจะไปถึงร้านอาจปิดไปซะก่อน ที่มา: ranker
-
ปลุกความกล้าในตัวคุณ สัมผัสทางเดินสุดหวาดเสียวบน “หน้าผา Huashan” ประเทศจีน
การท่องเที่ยวแบบแอดเวนเจอร์คงจะเป็นที่ชื่นชอบสำหรับหลายๆ คน การได้เดินป่า หรือปีนเขาคงจะทำให้ต่อมความตื่นเต้นของบางคนลุกขึ้นมาทำงานเลยใช่ไหมล่ะ และถ้าหากใครที่ชอบความท้าทายละก็ เขาขอแนะนำให้รู้จักหน้าผา Huashan เลย เพราะเส้นทางการเดินสัมผัสธรรมชาติของที่นี่ บอกได้คำเดียวเลยว่า หัวใจจะวาย!! ภาพนี้คงจะบอกได้ละนะ ว่ามันน่าหวาดเสียวแค่ไหน เมื่อไม่นานมานี้ได้มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอของนักท่องเที่ยวผู้หนึ่งที่ได้เดินทางไปเยือนหน้าผาแห่งนี้ โดยในคลิปวิดีโอดังกล่าวเผยให้เห็นถึงวินาทีที่เขากำลังไตบันไดเชือกลงจากซอกผา ดูแล้วน่าหวาดเสียวอย่างมาก ถ้าหากใครไม่เชื่อละก็ลองไปชมที่คลิปวิดีโอนี้ได้เลย หน้าผาแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาหัวซาน ในมลฑลส่านซีของประเทศจีน โดยมีความสูงจากพื้นดินถึง 2,000 เมตรเลยทีเดียว และด้วยความสูงถึง 2 กิโลเมตรจึงทำให้ที่นี่ขึ้นชื่อในเรื่องของความอันตรายและเป็นสถานที่ท้าทายต่อผู้ที่ชื่นชอบความหวาดเสียวอย่างมาก และนี่คือบรรไดทางลง แบบชัดๆ แค่เห็นก็เหงื่อแตกแล้วใช่ไหมล่ะ?? และนอกจากทางที่น่ากลัวแล้ว เทือกเขานี้ยังมีทางเดินไม้กระดานเก่าแก่กว่า 700 ปีที่เรียบไปกับหน้าผาที่ตั้งฉากแบบ 90 องศาเลย โดยมีความกว้างของทางเดินนี้มีเพียงแค่ 30 เซนติเมตรเท่านั้น แต่ไม่ต้องกังวลหรอกนะเพราะทางเจ้าหน้าที่เขาจะมีอุปกรณ์สำหรับความปลอดภัยให้ อย่างไรก็ตามยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตจากการพลัดตกลงไปในเส้นทางนี้ แต่มีผู้ที่พยายามเดินออกนอกเส้นทางนั้นพบว่าเสียชีวิตไปถึง 100 รายแล้ว ถ้าใครใจแข็งก็ลองไปเที่ยวกันได้เลยนะ แต่สำหรับ #เหมียวเวจจี้ ขอบายก่อนจร้าา ที่มา dailymail
-
หนุ่มใส่ส้น “รองเท้าสูงปีน” เขาที่โหดที่สุดในอังกฤษ เพื่อพิสูจน์ว่า… ไม่มีสิ่งใดเป็นไปไม่ได้!!
สำหรับนักปีนเขาชาวอังกฤษทั้งหลาย ต่างรู้ดีว่าเทือกเขา ‘Ben Navis’ เป็นหนึ่งในเขาที่ปีนยากและโหดหินที่สุดแห่งเกาะอังกฤษ ทว่าสำหรับ Ben Conway หนุ่มชาวผู้ดีอังกฤษวัย 19 ปีคนนั้น เขาอยากจะทำอะไรที่มันท้าทายมากกว่านั้น เมื่อเจ้าตัวได้ตัดสินใจนำส้นสูงยาว 5 นิ้วมาใส่แทนรองเท้าบู๊ท จากนั้นก็ออกเดินทางปีนเขาเพื่อพิสูจน์ว่าไม่มีสิ่งใดที่เป็นไปไม่ได้ แต่ไม่ใช่ว่าจู่ๆ อยากจะปีนแก้เบื่อหรอกนะ เพราะเจ้าตัวทำไปเพื่อทุนการศึกษา โดยก่อนหน้านี้หนุ่ม Ben Conway ได้ยื่นเรื่องขอทุนการศึกษาจาก School of Communication Arts in Brixton ซึ่งทางสถาบันได้ให้ผู้สมัครยื่นขอทุน ‘ไปทำรายงานอะไรมาก็ได้ที่เกี่ยวกับสิ่งที่ผู้สมัครตั้งใจอย่างแรงกล้า’ พ่อหนุ่มจึงคิดได้ว่าเจ้าตัวปีนเขามาก็ตั้ง 13 ปีแล้ว คราวนี้เลยขอปีนเขาเพื่อยื่นขอทุนอีกซักรอบเลยล่ะกัน Ben Navis ภูเขาที่อยู่สูงกว่า 1,345 เมตรจากระดับน้ำทะเล “เรื่องของเรื่องคือผมยื่นขอทุนไป ทางสถาบันเค้าบอกให้ไปทำรายงานอะไรก็ได้ที่แสดงให้เห็นถึงสิ่งที่เราตั้งใจจริงในชีวิตเรา ผมก็เลยคิดว่า… เอาวะ ไหนๆ ก็ชอบปีนเขาตอนวันหยุดแล้ว เราใส่ส้นสูงปีนเขาอีกซักรอบเลยละกัน” Ben Conway เล่า เจ้าตัวเริ่มออกเดินทางในเช้าวันที่…
-
หนุ่มฝรั่งปีนเขาเอเวอเรสต์ แอบหลบอยู่ในถ้ำกลางหิมะ เพื่อเลี่ยงไม่จ่ายค่าเข้า!?
ทุกคนต่างรู้ดีว่ายอดเขาเอเวอเรสต์ เป็นหนึ่งในจุดมุ่งหมายสูงสุดของนักปีนเขาจากทั่วโลก ด้วยความที่มันเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในโลก มันช่างเป็นอะไรที่ต้องไปสำรวจให้ได้ซักครั้งในชีวิต แต่ก็ใช่ว่าร่างกายของคุณพร้อมแล้วจะสามารถขึ้นไปปีนได้ เพราะนักท่องเที่ยวต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเข้าชมเป็นเงินสูงถึง 11,000 ดอลลาร์ (380,000 บาท) และนั่นก็เป็นเหตุผลที่ทำให้ Ryan Sean Davy เลือกที่จะหลบเลี่ยงไม่ยอมจ่าย Ryan Sean Davy เว็บไซต์ Dailymail ได้รายงานว่า เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมหนุ่มนักปีนเขาคนดังกล่าวได้ หลังพบว่าเจ้าตัวหลีกเลี่ยงที่จะจ่ายเงินค่าเข้าชม ด้วยการแอบซ่อนตัวอยู่ในถ้ำบนเส้นทางปีนเขาเอเวอเรสต์ โดยปกตินักท่องเที่ยวที่ต้องการจะพิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์ จะต้องจ่ายเงินค่าเข้าชมเป็นจำนวน 11,000 ดอลลาร์ ‘ผมเห็นเขาอยู่ตัวคนเดียวที่ตรงบริเวณจุดตั้งแคมป์ ผมเลยตั้งใจจะเดินเข้าไปถามไถ่เขา ปรากฎว่าเจ้าตัวกลับวิ่งหนี เมื่อผมเดินตามไปจึงพบว่า เขาแอบตั้งแคมป์อยู่ด้วยตัวเองในถ้ำแห่งหนึ่ง ซึ่งมันผิดกฎเพราะมันอันตรายต่อชีวิตของเขามากๆ’ Gyanendra Shresth เจ้าหน้าที่จากจุดตั้งแคมป์เล่า เพื่อป้องกันความเสี่ยง และอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นจนถึงแก่ชีวิต ทำให้นักท่องเที่ยวทุกคนจำเป็นที่จะต้องมีไกด์คอยนำทาง และลูกทีมคอยช่วยเหลือระหว่างการเดินทางเสมอ จากการกระทำของหนุ่มฝรั่งคนดังกล่าว ทำให้เจ้าตัวถูกศาลสั่งปรับเป็นเงินสูงถึง 17,000 ดอลลาร์ (600,000 บาท) อีกทั้งถูกสั่งแบนห้ามเข้าประเทศเนปาลอีก 5 ปี และห้ามปีนเขาในเนปาลอีกเป็นเวลานานถึง 10…
-
โมเม้นท์สุดแสนหวาน ของคู่รักนักปีนเขา โรยตัวลงมาปุ๊บ ขอแต่งปั๊บ เห็นแล้วอิจแรง!!
สงสัยว่าช่วงนี้คงเป็นฤดูกาลแห่งการขอแต่งงานรึเปล่า? เพราะไม่ว่าจะมองไปทางไหน เลื่อนหน้าจอเฟซบุ๊กมากเท่าไหร่ ก็จะได้เห็นแต่ภาพคู่รักที่กำลังเตรียมพร้อมเข้าสู่พิธีวิวาห์กันอย่างหวานหยดย้อย เช่นเดียวกับเรื่องราวของสองชายหญิง คู่รักผู้ชื่นชอบการปีนเขาเหมือนกัน ทั้งคู่เจอกันเมื่อสิงหาคม 2015 และกำลังจะเข้าสู่การแต่งงานในอีกไม่ช้านี้ รู้สึกน่าอิจฉาจนต้องเอามาบอกต่อ >< การทำเซอร์ไพรส์ครั้งนี้ ‘Louis Cardona’ ได้ทำเนียนเป็นชวนแฟนสาวมาซ้อมปีนเขาเหมือนปกติเช่นทุกครั้ง ในระหว่างที่ Maddy แฟนสาวของเขากำลังขึ้นไปบนยอดสุด เจ้าตัวก็รีบจัดการปิดไฟ และเตรียมการอย่างรวดเร็ว ก่อนที่เธอจะโรยตัวลงมา “ตอนแรก Maddy ดูตื่นกลัวมากที่จู่ๆไฟก็ถูกปิด แต่หลังจากที่เธอลงมา ผมก็ได้ทำให้เธอเซอไพรส์ด้วยการ ขอเธอแต่งงานพร้อมไฟสลัวๆซะเลย” พ่อหนุ่มกล่าว หลังจากที่เธอรู้ว่าถูกขอแต่งงาน น้ำตามันก็ไหลรินออกมาโดยไม่ทันได้ตั้งใจ คงไม่มีอะไรจะซาบซึ้งเท่ากับโมเม้นต์หวานๆนี้อีกแล้ว อิจฉาจังเลย >< ถึงแม้ว่าทั้งคู่จะพบเจอกันได้แค่ปีเดียว แต่ความรักที่มีให้กันมันเอ่อล้นจนทำให้ใครหลายคนต่างรู้สึกอิจฉาไปตามๆกัน ลองไปชมคลิปวิดีโอการขอแต่งงานแบบน่ารักๆ ในครั้งนี้กันดูเลย ใครที่มีแพลนจะขอแฟนสาวแต่งงานในช่วงนี้ นี่ก็ถือว่าเป็นไอเดียที่น่าสนใจมากเลยทีเดียวล่ะ!! ที่มา: Boredpanda
-
หนุ่มจีนแชมป์ปีนเขา ประสบอุบัติเหตุ ต้องใช้ชีวิตกับวีลแชร์ แต่มันก็ดับฝันเขาไม่ได้!!
ใครที่กำลังมองหาแรงบันดาลใจในวันที่คุณรู้สึกท้อแท้ หมดหวัง เราขอพาไปรู้จักเรื่องราวชีวิต และการต่อสู้ของ ‘Lai Chi-Wai’ หนุ่มนักปีนเขาชาวจีนกับอดีตดีกรีแชมป์ ‘Asian Rock Climbing Championships’ 4 สมัยซ้อน ย้อนกลับไปเมื่อ 9 ธันวาคม 2011 ได้เกิดอุบัติเหตุจากการขับขี่ยานพาหนะขึ้นกับเขา และไม่น่าเชื่อว่านั่นเป็นวันที่ทำให้เค้าต้องล้มเลิกการปีนเขา อันเนื่องมาจากประสาทสัมผัสช่วงล่างตั้งแต่เอวลงไป ไม่สามารถใช้การได้ และเค้าต้องใช้ชีวิตอยู่กับวีลแชร์ตลอดนับแต่นั้นมา… “ตอนที่ผมตื่นนอนขึ้นมา พบว่าตัวเองอยู่ในโรงพยาบาล หลังผ่าตัดเสร็จเรียบร้อยแล้ว คุณหมอได้บอกกับผมว่า จากอุบัติเหตุดังกล่าว อวัยวะช่วงล่างของผมได้กลายเป็นอัมพาต และต้องอยู่กับวีลแชร์ไปตลอด” นักปีนเขาผู้ยิ่งใหญ่กล่าว แต่ทว่าด้วยความที่เค้าเป็นนักกีฬามาโดยตลอด ทำให้เจ้าตัวรู้สึกว่าไม่อาจที่จะอยู่เฉยๆ และรอรับการช่วยเหลือจากคนอื่นได้ หลังจากฟื้นฟูสภาพร่างกายจากอาการบาดเจ็บ เจ้าตัวได้เปลี่ยนไปเล่นกีฬามวยสากลอยู่ช่วงหนึ่ง เพื่อทำให้ร่างกายกลับมาฟิตดังเดิม จวบจนวันที่ลูกชายสุดที่รักของเขาได้ลืมตาขึ้นมาบนโลก ในปี 2014 ซึ่งได้กลายเป็นแรงบันดาลใจทำให้เค้าอยากจะลุกขึ้นมาท้าทายตัวเอง ด้วยการกลับมาเป็นนักกีฬาปีนเขาอีกครั้ง ถึงแม้ว่าจะต้องอยู่กับวีลแชร์ก็ตาม เขาได้กลับมาฝึกฝนปีนเขาอีกครั้ง โดยมีกำลังใจดีๆจากครอบครัวคอยสนับสนุน และเพื่อนฝูงที่เคยเล่นกีฬาด้วยกัน เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา เจ้าตัวได้ประกาศว่าจะขอกลับมาท้าทายตัวเอง ด้วยการปีนเขา ‘Lion Rock’ เป็นระยะทาง…
-
จะว่ายังไงดี!? หนุ่มห้าวคิดการใหญ่ ปีนหน้าผาสูงชันเพื่อขอแฟนแต่งงาน แต่ดันลงไม่ได้
ช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดในชีวิตช่วงหนึ่งเลยก็คือการขอแต่งงานนี่แหละ แต่การจะให้อีกฝ่ายยอมรับตกลงได้นั้นก็ขึ้นอยู่กับวิธีการขอแต่งงานที่จะทำให้รู้สึกประทับใจหรือไม่ และเพื่อให้น่าจดจำมากที่สุด วิธีขอแต่งงานแบบแปลกแหวกแนวและหวาดเสียวจึงโผล่ออกมาให้เห็นกันอยู่บ่อยๆ Illegal climber rescued off Morro Bay by CHP helicopter & MBFD personnel. Assisted by SLO County Fire, Harbor, USCG pic.twitter.com/8nJ4nB9FhE — Morro Bay Fire (@MorroBayFire) 7 เมษายน 2559 ดั่งเช่นพ่อหนุ่ม Michael Banks วัย 27 ปี อยากจะให้แฟนของเขารู้สึกประทับใจกับการขอแต่งงานในครั้งนี้ เขาเลือกวิธีการปีนหน้าผา Morro Rock สูงในระดับ 182 เมตร โดยที่แฟนสาวได้รับชมผ่านทาง FaceTime ทุกอย่างเป็นไปได้สวย ฝ่านแฟนสาวประทับใจมากและตอบตกลงที่จะแต่งงานด้วย Video of rescue…
-
รู้จักกับเจ้า “สตีวี่” แมวตาบอดที่ถูกคนใจดีช่วยไว้ และมันก็รักการเดินเที่ยวป่าเขามากๆ!!
วันนี้ #เหมียวสามสี จะพาไปรู้จักกับเพื่อนเหมียวตัวหนึ่งที่ชื่อว่า “สตีวี่” มันเป็นแมวตาบอดที่ถูกรับเลี้ยงมาโดยเจ้าของใจดีเมื่อ 4 ปีที่แล้ว จากสถานรับเลี้ยงในประเทศไอร์แลนด์ ถึงมันจะตาบอด แต่มันก็ยังมีความเป็นแมวอยู่ มันรักการออกไปสำรวจ และการเดินเขาเป็นอย่างมาก โดยที่ที่มันไปบ่อย เพราะเจ้าของพามันไปก็คือภูเขาในแถบไอร์แลนด์ ซึ่งทุกครั้งที่ได้ออกไปเที่ยว มันก็จะสำรวจทุกซอกทุกมุมด้วยความสนุกสนาน และบางทีมันก็ชอบไปเกาะที่ไหล่ของเจ้านาย หลังจากนั้นมา Patrick Corr ก็ได้มีครอบครัว และก็ได้มีบ้านเป็นของตัวเองหลังแรก แต่เจ้าสตีวี่ก็ยังสำคัญสำหรับเขาเสมอ เพราะว่าแยกจากกันไม่ได้ เขาจึงวางแผนที่จะไปเดินเขาอีกครั้งหนึ่งในเดือนมีนาคมที่กำลังจะถึงนี้ที่ภูเขา Carrauntoohil ซึ่งเป็นขาที่สูงที่สุดในไอร์แลนด์ และนี่คือเจ้าสตีวี่ ผู้เชี่ยวชาญด้านการเดินเขา . . . . . . . . . . ชมคลิปน่ารักๆ ของมันกันเลย ตามติดชีวิตของมันได้ Instagram | Youtube | GoFundMe ที่มา boredpanda
-
นักกีฬามาราธอนผู้พิการทางสายตา สามารถพิชิตเส้นทางขึ้นเขาอินคาได้ภายในวันเดียว!!
เรื่องราวของนักกีฬาใจสู้ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถมองเห็นได้เหมือนกับนักกรีฑาคนอื่นๆ เรื่องราวของ Dan Berlin นักกีฬาผู้พิการทางสายตาคนแรกที่สามารถพิชิตเส้นทางเดินเขาอินคาอันทรหดได้ภายในวันเดียว เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2558 ที่ผ่านมา ด้วยความช่วยเหลือของทีม See Possibilities ช่วยให้ Dan Berlin สามารถพิชิตเส้นทางนี้ด้วยระยะทางประมาณ 41 กิโลเมตร (26 ไมล์) ภานในเวลา 13 ชั่วโมง ซึ่งสำหรับเส้นทางนี้ไม่ใช่ง่ายๆ เลย ไม่เหมาะสำหรับนักกีฬาสมัครเล่น แม้แต่นักกีฬาที่แข็งแกร่งครบ 32 ยังยอมรับว่ายากมาก โดยปกติแล้วจะใช้เวลามากถึง 4 วันเพื่อพิชิตเส้นทางแห่งนี้ เส้นทางสุดโหดจะต้องเดินผ่านภูเขา 3 ลูก และสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 4,267 เมตร (14,000 ฟุต) โดยหนึ่งในทีมผู้ช่วยเหลือ Charles Scott กล่าวเอาไว้ว่า ‘พวกเราได้พูดคุยกับไกด์ท้องถิ่นก่อนวันที่จะพิชิตเส้นทางซึ่งเขาก็บอกเอาไว้ว่า ผมเดินมามากกว่า 215 ครั้งแล้ว และสิ่งที่พวกคุณจะทำมันเป็นไปได้ แต่ขอเตือนไว้ก่อนว่าอาจจะใช้เวลามากกว่า…
-
ยอมใจ!! ภารกิจสุดท้าทายกับการพิชิตยอดเขาเอลบรุส พร้อมกับแบกบาร์เบลหนักกว่า 75 กิโลขึ้นไปด้วย
สำหรับการพิชิตยอดเขานั้นถือว่าเป็นกิจกรรมที่ท้าทายอยู่แล้ว ไหนจะต้องเตรียมพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ เพราะถ้าไม่เตรียมตัวให้ดี อาจจะได้ถอยหลังกลับมาและยอมแพ้ได้ง่ายๆ และหนึ่งในภูเขาที่สูงที่สุดในยุโรปอย่างยอดเขาเอลบรุส ที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 5,641 เมตร มีผู้คนปีนขึ้นไปพิชิตยอดเขามาแล้วมากมาย แต่สำหรับพ่อหนุ่ม Andrey Rodichev ชาวรัสเซีย เป็นคนแรกที่สามารถพิชิตยอดเขานี้พร้อมกับแบกบาร์เบลที่มีน้ำหนัก 75 กิโลกรัมขึ้นไปด้วย การที่จะทำแบบนี้ได้นั้นก็ต้องเตรียมตัวหนักกว่าการปีนเขาธรรมดา เขาต้องฝึกร่างกายเป็นประจำ 2 ครั้งต่อวัน นั่นก็คือการวิ่งในตอนเช้า และยกน้ำหนักในตอนเย็นในทุกๆ วัน โดยที่การกระทำในครั้งนี้นั้น เขาหวังว่าจะสามารถดึงดูดความสนใจของนักกีฬายกน้ำหนักคนอื่นๆ จากบ้านเกิดของเขาให้มาร่วมท้าทายแบบนี้ด้วย และแล้วในที่สุดเขาก็ทำได้สำเร็จ บาร์ที่แบกขึ้นไปด้วยก็ถูกติดตั้งเอาไว้เป็นอนุสรณ์เพื่อเป็นที่ระลึกในความสำเร็จสุดท้าทายนี้ และตลอดการเดินทางขึ้นไปบนยอดเขานั้นก็ถูกถ่ายทำเก็บเอาไว้เป็นสารคดีด้วย ที่มา : thechive
-
โดรนจับภาพนักปีนเขาถูก “น้ำท่วมฉับพลัน” พัดจมน้ำ แต่โชคดีที่รอดมาได้!!
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่เกาะเมาวี ฮาวาย เมื่อโดรนลำหนึ่งได้จับภาพของนักท่องเที่ยวที่กำลังเล่นน้ำตกอยู่ในเกาะ แล้วจู่ๆเขาก็รู้สึกถึงปริมาณน้ำที่มากขึ้นแบบผิดปกติ เพื่อนคนหนึ่งอยู่บนต้นน้ำตกพยายามที่จะหาที่ยึดเพื่อที่จะไม่ให้ตัวเองถูกกระแสน้ำดูดเข้าไป แต่กระแสน้ำก็แรงขึ้นจนเขาไม่สามารถเกาะไว้ได้ จึงทำให้เขาถูกน้ำพัดจมหายไป โดรนก็ได้ทำการบินหาเขาจนกระทั่งพบเขาลอยมาติดฝั่งและปลอดภัยดี เราไปดูคลิปกันเลย ที่มา Poasty
-
พบกับเจ้า Millie น้องแมวผู้รักการผจญภัย กับการออกทริปปีนเขามานับไม่ถ้วน!!
น้อยครั้งที่จะเห็นการออกเดินทางผจญภัยด้วยกันระหว่างคนกับสัตว์ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีเลยนะ อย่างเรื่องราวความผูกพันธ์ระหว่างนักปีนเขานามว่า Craig Armstrong กับเจ้าเหมียวเพื่อนคู่ใจ Millie จุดเริ่มต้นของการเดินทางร่วมกันนั้นเกิดจากตอนที่เจ้า Millie นั้นปีนหลังของเขาแล้วก็มานั่งอยู่บนไหล่ เขาใช้เวลาฉุกคิดเพียงแค่ 4 วินาทีเท่านั้นเอง ว่าถึงเวลาแล้วล่ะ ที่จะได้พาเจ้าเหมียวออกไปผจญภัยด้วยกันเสียที ซึ่งในตอนแรกๆ นั้นก็ต้องให้การฝึกฝนที่ดีซะก่อน เขาให้เจ้าเหมียว Millie ไปลองปีนป่ายในสวนสาธารณะ เพื่อที่จะให้แน่ใจว่ามันจะไม่ตกลงมาได้รับบาดเจ็บและจะต้องไม่ตื่นตกใจจนวิ่งหนีไป และแน่นอนว่าทุกอย่างก็เป็นไปได้สวย ไม่มีอาการเกร็งและกลัวเลยแม้แต่น้อย!! คุณ Armstrong และเจ้า Millie ออกทริปปีนเขาด้วยกันเป็นประจำ ผ่านศึกปีนเขาอันท้าทายมานับไม่ถ้วน ถึงแม้ว่าทางจะอันตรายแค่ไหน ก็ไม่อาจหยุดเจ้า Millie ได้!! และแล้วแชมป์แมวปีนเขาก็ต้องตกเป็นของเจ้า Millie ไปโดยที่ไม่มีข้อกังขาเลย เป็นคู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขที่น่ารักที่สุดเลย!! ที่มา…
-
มารู้จักกับ ‘Gurung’ ชนเผ่าล่าผึ้งในเนปาล ที่ต้องปีนหน้าผาสูงสุดอันตราย เพื่อขึ้นไปเก็บ ‘รังผึ้ง’
หากใครที่ยังไม่รู้จักชนเผ่า Gurung ที่อาศัยอยู่ในประเทศเนปาลล่ะก็ ในวันนี้เราได้นำเรื่องราวที่น่าสนใจของชนเผ่านี้มาให้เพื่อนๆ ได้รู้จักกันแล้ว ชนเผ่า Gurung เป็นชนเผ่าที่ใช้วิธีชีวิตเรียบง่าย แต่ทว่าพวกเขากลับทำงานที่เสี่ยงอันตรายที่สุดนั่นก็คือ การปีผาสูงกว่า 400 ฟุต เพื่อขึ้นไปเก็บน้ำผึ้งและรังผึ้งมาขายนั่นเอง นอกจากนี้พวกยังเป็นชนเผ่าล่าผึ้งที่ได้รับฉายาว่า ‘พรานน้ำผึ้งแห่งหุบเขา’ อีกด้วย ซึ่งการขึ้นไปเก็บรังผึ้งและน้ำผึ้งบนผาสูงนั้น นอกจากจะเสี่ยงอันตรายมากๆ แล้ว พวกเขายังไม่มีเครื่องป้องกันหรืออุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยใดๆ ทั้งสิ้น จะมีก็แค่ตะกร้าและไม้ไผ่เท่านั้น และแน่นอนว่าก่อนที่จะออกไปเก็บน้ำผึ้งนั้น จะต้องมีการทำพิธีบวงสรวงเทพเจ้าซะก่อน โดยพวกเขาจะนำเนื้อแกะ, ข้าว, ผลไม้ และดอกไม้ ไปบูชาเทพเจ้าแห่งภูผา เพื่อคุ้มครองให้ปลอดภัย และกว่าจะได้รังผึ้งและน้ำผึ้งมา พวกเขาต้องใช้เวลานานกว่า 4 ชั่วโมงเลยทีเดียว หวาดเสียวเหมือนกันนะเนี่ย สุดยอดไปเลย การถูกผึ้งต่อย เรียกได้ว่าเป็นเรื่องธรรมด๊าธรรมดาสำหรับพวกเขาไปซะแล้ว…
-
ออกสำรวจเส้นทางปีนเขา Yosemite’s El Capitan สุดโหดผ่านหน้าจอได้แล้ววันนี้!!
หนึ่งในเส้นทางที่ท้าทายนักปีนเขาจากทั่วโลกก็คงจะหนีไม่พ้นยอดเขา Yosemite’s El Capitan อย่างแน่นอน ด้วยหน้าผาที่สูง ไม่มีเส้นทางเดิน ต้องปีนป่ายอย่างเดียว เป็นความท้าทายที่นักปีนเขาทั่วโลกต้องการพิชิตให้ได้ ล่าสุดนี้ทาง Google ก็ได้ทำ Street View สำหรับการออกเดินทางสำรวจหน้าผา Yosemite’s El Capitan เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ใครที่อยากลองสัมผัสหน้าผาสูงกว่า 3,000 ฟุต แต่กลัวความสูง ก็สามารถทำได้แล้วที่ผ่านหน้าจอเลย!! เป็นความร่วมมือกันระหว่าง Google กับทีมนักปีนเขามืออาชีพ Lynn Hill, Alex Honnold และ Tommy Caldwell ที่ได้ทำการเก็บภาพถ่ายในการปีนหน้าผาแห่งนี้มาให้พวกเราได้รับชมกัน สามารถร่วมผจญภัยได้ที่นี่หรือด้านล่างเลยนะจ๊ะ ที่มา : twistedsifter