Tag: ป่วย
-
ชายชาวจีนกิน “ยาแก้หวัด” กว่า 30,000 เม็ดในระยะเวลา 10 ปี เพราะเกิดอาการ ‘เสพติด’
ชายวัย 48 ปีจากนครฉางชา ประเทศจีน กลายเป็นข่าวใหญ่ในประเทศเนื่องจากพฤติกรรมทาน ยาแก้หวัด ติดต่อกันมายาวนาน 10 ปี รวมแล้วมากกว่า 30,000 เม็ด เพียงเพราะมีอาการ “เสพติด” ชายสกุล Wang วัย 48 ปีได้เล่าผ่านคลิปวิดีโอบนเว็บไซต์หนึ่งว่า เขาซื้อยาแก้ไข้หวัดมารักษาอาการปวดหัวเมื่อ 10 ปีที่แล้ว หลังจากเขาใช้มันเขาพบว่ามันมีประสิทธิภาพดี จากนั้นเมื่อเขารู้สึกไม่ค่อยดีเพียงเล็กน้อยเขาก็เริ่มคิดที่จะใช้ยานี้เพื่อให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้น แต่ปัญหากลับติดอยู่ตรงที่ว่าการจะใช้ยาให้ได้ผลแบบเดิมเขาต้องเพิ่มปริมาณยาให้มากขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งเป็น 8 ถึง 12 เม็ดต่อวัน ครอบครัวของ Wang พยายามนำตัวเขาไปพบแพทย์เพื่อรักษาอาการเสพติด หลังจากการตรวจวินิจฉัย แพทย์กล่าวว่า ยาดังกล่าวมีส่วนผสมของ “คาเฟอีน” หากใช้ติดต่อกันเป็นเวลานานมันจะให้ผลกับร่างกายคล้ายกับนิโคตินในบุหรี่และแอลกอฮอล์ในสุราเลยทีเดียว ซึ่ง Wang นั้นได้ใช้ยาชนิดนี้มา 10 ปีแล้ว ล่าสุด Wang กล่าวว่าที่ผ่านมาเขาใช้ยาแก้หวัดเพื่อสนองความต้องการของตนเอง แต่ปัจจุบันเขาต้องลดขนาดยาลง และทานยาต้านซึมเศร้าและวิตกกังวลควบคู่ไปด้วยจนกว่าอาการเสพติดจะดีขึ้น อย่างไรก็ตาม แพทย์กล่าวว่าสำหรับคนทั่วไปไม่ต้องกังวล คาเฟอีนในยาแก้หวัดนั้นไม่ได้ส่งผลแบบเดียวกับ Wang…
-
เด็กหญิงจีนวัย 10 ขวบ สอนแม่ที่ “สูญเสียความจำ” ให้กลับมาพูดและอ่านได้อีกครั้ง
เด็กหญิงวัย 10 ขวบในเมืองอี๋ปิน มณฑลเสฉวน ประเทศจีน ได้รับการยกย่องให้เป็นบุคคลตัวอย่างเนื่องจากพฤติกรรมแสนกตัญญูที่เธอมีให้กับผู้เป็นแม่ Cai Chengcheng เด็กหญิงวัย 10 ขวบ ได้ช่วยสอนให้แม่ของเธอสามารถพูด อ่าน และเขียน ได้อีกครั้งหลังป่วยเป็นโรคเลือดออกในสมองเมื่อ 4 ปีก่อน Chen Li ผู้เป็นแม่หลังจากมีอาการเลือดออกในสมองตั้งแต่ลูกสาวของเธอยังมีอายุได้เพียง 6 ขวบ เธอก็เริ่มสูญเสียความทรงจำไปเรื่อยๆ เมื่อลูกสาวตัวน้อยเห็นแม่เป็นแบบนี้ เธอก็ทนไม่ได้ที่จะช่วยเหลือแม่ของเธอให้มีอาการดีขึ้น เวลา 4 ปีที่แม่ของเธอป่วย เธอก็ช่วยสอนแม่ให้พูด อ่าน และเขียนเป็นประจำทุกวัน หนูน้อยกล่าวว่า “เมื่อก่อนแม่เป็นคนสอนหนูให้อ่านหนังสือ ตอนนี้ถึงตาหนูที่จะสอนแม่อ่านหนังสือบ้างแล้ว” หนูน้อย Chengcheng เล่าถึงวันที่เธอเห็นแม่กลับจากโรงพยาบาลว่า “แม่นั่งรถเข็นมา ตาข้างซ้ายของแม่ดูปกติ แต่ตาข้างขวานั้นเหลือกขึ้นราวกับว่ามันมองอะไรไม่เห็นอีกแล้ว แม่จำหนูได้ แต่แม่เรียกชื่อหนูไม่ได้” จากนั้นก็มีแต่หนูน้อยที่จะสามารถดูแลแม่ของเธอได้อย่างเต็มที่ เพราะฝ่ายพ่อของเธอ Cai Yong นั้นต้องออกไปทำงานแทบทั้งวันเพื่อหาเงินมาใช้จ่ายค่ารักษาพยาบาลให้กับแม่ ส่วน Cai Ling พี่ชายของเธอก็เริ่มเข้าเรียนมัธยมแล้ว ทำให้มีเวลาว่างไม่มากนัก จึงมีแต่ Chengcheng…
-
คุณแม่ชาวจีนกับลูกชายที่ ‘ขยับตัวไม่ได้’ มา 12 ปี วันนี้เขาสามารถ “ยิ้ม” ให้เธอได้อีกครั้ง
เรื่องราวในวันนี้บอกเล่าถึง แม่ลูกชาวจีน คู่หนึ่งที่ฝ่ายลูกชายต้องทุกข์ทรมาณกับอาการอัมพฤกษ์อัมพาตจนขยับตัวและช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ชายคนดังกล่าวนามว่า Wang Shubao เขาต้องตกอยู่ภายใต้การดูแลของแม่วัย 75 ปีมาตลอดระเวลา 12 ปีที่เขาไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้เลยแม้แต่น้อย Wei Mingying ฝ่ายแม่ก็ดูแลลูกชายเพียงคนเดียวอย่างเต็มที่ เธอสูญเสียเงินค่ารักษาไปมากมาย รวมทั้งเป็นหนี้สินอีกกว่า 5.7 แสนบาท (120,000 หยวน) บางครั้งฝ่ายแม่เองถึงกับยอมอดอาหารนับเดือนเพราะไม่มีเงินพอซื้ออาหาร กิจวัตรของคุณแม่เริ่มขึ้นตั้งแต่เวลาตี 5 ของทุกๆ วัน เธอต้องล้างหน้าลูกชายก่อนอาบน้ำและป้อนข้าว จากนั้นจึงนวดตัวพร้อมจับพลิกเพื่อไม่ให้เกิดอาการล้าเนื่องจากนอนมากเกินไป ความเจ็บป่วยของ Wang เกิดขึ้นเมื่อปี 2006 ขณะที่เขามีอายุได้ 36 ปี เขาประสบอุบัติเหตุทางจราจรในเมืองโซวกวง มณฑลชานตง ส่วนพ่อของเขานั้นเสียชีวิตไปตั้งแต่เขายังเด็กแล้ว . . คุณแม่เล่าว่าในช่วงที่ต้องอดอาหารนั้นเธอดื่มเพียงแค่น้ำ นั่นทำให้น้ำหนักของเธอลดลงไปถึง 20 กิโลกรัม ปัจจุบันคุณแม่มีน้ำหนักแค่เพียง 30 กิโลกรัมเท่านั้น แต่แล้วเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านก็เกิดเหตุการณ์ราวกับปาฏิหาริย์ วันนั้นเธอพบว่าลูกชายของเธอสามารถ ยิ้มตอบ ให้กับเธอผู้เป็นแม่ได้ แม้ว่าเขายังขยับตัวไม่ได้ตาม แต่นั่นก็เป็นสัญญาณที่ดีว่าอาการของเขาอาจเริ่มดีขึ้น…
-
ความฝันที่เป็นจริง…หนุ่มป่วย ‘พิการทางสมอง’ ได้เซ็นสัญญาเป็นนักกีฬาอาชีพกับ Nike!!
คนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกที่จะเป็นได้… นี่คือเรื่องราวของ Justin Gallegos นักศึกษาจากมหาวิทยาลัย University of Oregon ที่ได้รับการเซ็นสัญญาเป็น ‘นักกีฬาอาชีพ’ กับ Nike เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ Justin เกิดมาพร้อมกับโรค ‘สมองพิการ’ นั่นทำให้เขาไม่สามารถควบคุมอวัยวะต่างๆ ในร่างกายได้อย่างอิสระเหมือนกับคนปกติทั่วไป แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็มีความฝันที่ยิ่งใหญ่ นั่นคือการได้เป็น ‘นักกีฬาอาชีพ’ “ผมต้องการที่จะเป็นส่วนหนึ่งของทีมวิ่งในโรงเรียนมาโดยตลอด และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นของการฝึกฝนร่างกายของตัวเอง เพื่อให้มันสามารถ ‘วิ่ง’ ได้” Justin พยายามอย่างหนักเป็นเวลาหลายปี จนได้เข้ามหาวิทยาลัย และเขาก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของชมรมกรีฑาของมหาวิทยาลัย Oregon เข้าร่วมงานวิ่งมาราธอนที่จัดขึ้นตามที่ต่างๆ มากมาย ทางด้าน Nike เองก็ติดตามเรื่องราวของ Justin มาได้สักพักแล้ว เมื่อปีที่แล้วก็ส่งรองเท้าวิ่ง Nike Air Zoom Pegasus 35 FlyEase มาให้เป็นของกำนัลอีกด้วย!! ก่อนที่ในปีนี้จะทำการเซอร์ไพรส์เขาด้วยการ…
-
Selena Gomez เข้ารับ “การบำบัดทางจิต” หลังป่วยทางอารมณ์ พร้อมพักโซเชียลยาวๆ
หลังจากที่นักร้องหนุ่ม Justin Bieber มีข่าวว่าแอบไปจดทะเบียนลับๆ กับ Hailey Baldwin เมื่อช่วงเดือนกันยายน 2018 ซึ่งผ่านมาได้ไม่กี่สัปดาห์ อดีตคนรักอย่าง Selena Gomez ก็กลับประสบกับความเจ็บป่วยทางอารมณ์และจิตใจ ล่าสุดมีรายงานว่านักร้องสาววัย 26 ปี Selena Gomez ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลถึง “สองครั้ง” ในช่วงสองสัปดาห์ที่แล้ว โดยครั้งแรกเพื่อนของ Selena เล่าว่าเธอมีอาการหมดหวังและอารมณ์อ่อนไหวหลังทราบว่าเซลล์เม็ดเลือดขาวของเธอน้อยลงเนื่องจากการปลูกถ่ายไต ต่อมาเมื่อราวสัปดาห์ที่แล้วเธอก็ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลอีกครั้งด้วยสาเหตุเดิม แต่ครั้งนี้อาการของ Selena นั้นย่ำแย่กว่าเดิมมาก มีรายงานว่าเธอพยายามขอออกจากโรงพยาบาลด้วยแต่ทางแพทย์ยืนกรานว่าด้วยสภาพอาการของเธอแล้ว เธอยังไม่สามารถออกจากโรงพยาบาลได้ หลังจากที่ Selena มีอารมณ์และความรู้สึกที่ย่ำแย่จนมีการดึงสายน้ำเกลือออกจากแขนตัวเอง เธอก็ถูกส่งตัวไปยัง สถานบำบัดทางจิต East Coast เพื่อรับการบำบัดพฤติกรรมแบบวิภาษวิธี (DBT) เธอเคยเข้ารับการบำบัดชนิดนี้มาก่อนแล้ว เนื่องจากอาการเจ็บป่วยของสุขภาพจิตที่เกิดขึ้นในอดีต และเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา Selena ก็ได้ถ่ายวิดีโอไลฟ์บนอินสตาแกรมอธิบายถึงอาการซึมเศร้าของเธอที่เป็นมาตลอด 5 ปีเต็ม “ความซึมเศร้าและวิตกกังวลเป็นจุดเริ่มต้องของทุกอย่างที่ฉันทำในชีวิต ทุกอย่างจริงๆ” ยังไงก็ขอให้อาการดีขึ้นเร็วๆ…
-
โลกไม่ได้สวยงามเสมอไป…เด็กชาย ‘ดาวน์ซินโดรม’ ถูกโค้ชแบนไม่ให้เป็นเชียร์ลีดเดอร์
บางครั้งโลกของเรามันก็ไม่ได้สวยงามเสมอไป… เมื่อเด็กชายชั้นไฮสคูลที่ป่วยเป็นดาวน์ซินโดรม ถูกโรงเรียน ‘แบน’ ออกจากการเป็น ‘เชียร์ลีดเดอร์’ ทั้งๆ ที่เขาซ้อมกับทีมมาเป็นเวลาหลายสัปดาห์!! Glenn Wilson ถูกแบนออกจากทีมเชียร์ลีดเดอร์ของโรงเรียน West High School ที่อยู่ในเมืองโคลัมบัส รัฐโอไฮโอ ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งก่อนหน้านี้เขาร่วมกันฝึกซ้อมกับเพื่อนๆ ในทีมเชียร์ลีดเดอร์มาโดยตลอด จนสามารถขยับร่างกายตามจังหวะ และเข้ากันได้ดีกับทีมแล้ว ทางครอบครัวเองก็ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ เพราะมันคือสิ่งที่เขาชื่นชอบ ทั้งการซื้อยูนิฟอร์ม และทำตารางการฝึกฝนให้ แต่กลับกลายเป็นว่าถูกถอดชื่อออกจากทีมซะงั้น!? ทางด้านนาย Ray Valentine วัย 47 ปี คุณลุงของ Glenn ก็เลยติดต่อไปยังโรงเรียน และอ้างว่าโค้ชของทีมได้ตัดชื่อหลานของเขาออกจากทีมด้วยเหตุผลที่ว่า “Glenn ไม่เหมาะกับ ‘ภาพลักษณ์ของทีม’ และโค้ชเองก็ไม่มีประสบการณ์ในการทำงานร่วมกับเด็กพิเศษ” “หลานของผมไม่เหมาะกับ ‘ภาพลักษณ์ของทีม’ ก็เลยต้องตัดเขาออกจากทีม มันเป็นอะไรที่แย่มากๆ เลยล่ะ” คุณลุง Ray กล่าว ทางด้านคุณย่าของ Glenn คุณย่า…
-
เด็กชายเกลียดกล้อง แม่เลยซื้อชุด T-Rex ให้ใส่ เพื่อถ่าย ‘ภาพครอบครัว’ อินจัดไปแล้วน้อง
พ่อแม่หลายคนคงจะอยากถ่ายภาพเด็กๆ เก็บเอาไว้เพื่อเป็นความทรงจำดีๆ แต่ถ้าหากว่าลูกของคุณเป็นขี้อาย ไม่กล้าเข้ากล้องล่ะ จะทำอย่างไรดี? เช่นเดียวกันกับเด็กชายคนนี้ที่ป่วยเป็นโรคออทิสซึม และเขากลัวการถ่ายภาพเอามากๆ คุณแม่ก็เลยปิ๊งไอเดีย ‘จับใส่ชุดไดโนเสาร์’ เพื่อเพิ่มความกล้าให้กับเขาเวลาถ่ายภาพ แต่กลายเป็นว่าเด็กชายกลับ ‘อินจัด’ จนกลายเป็นชุดภาพที่แสนงดงาม และสดใส คุณแม่ Samantha Lu ช่างภาพผู้ประสบปัญหากับการถ่ายภาพเจ้าหนู Levi ลูกของตัวเองที่ป่วยเป็นโรคออทิสซึม และเขาเป็นคนที่กลัวกล้องเอาซะมากๆ ซึ่งโดยปกติแล้วเด็กที่ป่วยเป็นออทิสซึมนั้นจะมีปัญหาที่เกี่ยวกับ ‘การเข้าสังคม’ เพราะฉะนั้น การถ่ายภาพสำหรับเขาแล้วคือการท้าทายที่ใหญ่มากพอสมควรเลยทีเดียว “เขามีปัญหาเกี่ยวกับการสบตากับคนอื่น และควบคุมการยิ้มไม่ได้ เขาบอกกับฉันว่า ‘ผมไม่สามารถควบคุมใบหน้าของตัวเองได้เลย’” คุณแม่เล่า เธอก็เลยปิ๊งไอเดียซื้อชุด T-Rex มาให้เขาสวมใส่ เพื่อช่วยลดคามเขินอายเวลาถ่ายภาพ และมันก็คุ้มค่าจริงๆ!! เธอเล่าถึงผลงานการถ่ายภาพในครั้งนี้ว่า “Levi และ Lola ชื่นชอบจูราสสิกพาร์ก มากๆ แต่ Levi นั้นเป็นออทิสซึมและเขาเกลียดการถ่ายภาพ ทุกครั้งที่จะถ่ายภาพเขามักจะพูดว่า “ผมไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรกับหน้าของผมดี ผมบังคับมันไม่ได้” ฉันก็เลยซื้อชุด T-Rex มาให้เขา เพื่อที่จะถ่าย…
-
สาววีแกนอ้าง สั่งพิซซ่ามังสวิรัติจาก Domino’s แต่มีแฮมใส่เข้ามาด้วย ถึงขั้นทำให้ป่วย!?
เรื่องราวของหญิงสาววีแกน ที่บังเอิญ ‘กินพิซซ่าหน้าแฮม’ เข้าไป และเธอก็เคลมว่า จากการกินแฮมเข้าไปมันทำให้ร่างกายของเธอป่วย!? Shannon Rich สาววัย 22 ปี และสามี Paul Davies วัย 22 ปี ได้ทำการสั่งพิซซ่าจากร้าน Domino’s ในเมืองนิวพอร์ต เขตเซาท์เวลส์ ประเทศอังกฤษ มาทานที่บ้าน เป็นหน้า Roma แต่ขอให้ทำเป็นแบบมังสวิรัติสองถาด โดยปกติแล้วหน้า Roma นั้นจะประกอบไปด้วยชีสนมแพะ พริก Roquito หอมแดง และผักสลัดร็อกเก็ต และเครื่องอื่นๆ ที่เป็นสไตล์อิตาเลียน แน่นอนว่ามันจะมี ‘เนื้อ’ อยู่ด้วย เมื่อพิซซ่ามาถึง Shannon ก็เปิดกล่องออกมาแล้วก็สวาปามอย่างเอร็ดอร่อย แต่หลังจากกินไปได้ 2-3 ชิ้น เธอก็เพิ่งรู้ตัวว่าในนั้นมันดันมี ‘แฮม’ อยู่ด้วย “พวกเราหิวมากๆ พอเปิดมาก็เห็นว่ามันไม่มีเนื้อวางอยู่บนหน้า แต่พอกัดเข้าไปก็เริ่มรู้สึกว่ามันแปลกๆ เป็นรสสัมผัสของเนื้อชัดๆ เลย” Shannon…
-
เด็กป่วยลูคีเมียอยากได้สติกเกอร์ Ferrari ติดที่โลงศพ เลยได้นั่งรถของจริงเติมเต็มความฝัน!!
หลายๆ คนคงจะมีความใฝ่ฝัน หากตายไปอยากจะทำบางสิ่งบางอย่างให้สำเร็จเสียก่อน… เช่นเดียวกันกับ Caleb Hammond เด็กชายวัย 11 ปี ที่ป่วยเป็นโรคลูคีเมีย และเขาอาจจะเหลือชีวิตอยู่บนโลกนี้ได้อีกไม่นาน ก่อนจะจากไปความต้องการของเขามีเพียงแค่ ได้ติดสติกเกอร์ Ferrari เอาไว้บนโลงศพของเขาเท่านั้น Caleb ถูกวินิจฉัยว่าป่วยเป็นโรคลูคีเมีย (มะเร็งเม็ดเลือดขาว) เมื่อปีที่ผ่านมา แต่หลังจากที่เข้ารับการรักษา ร่างกายของเขากลับไม่ตอบสนองเพราะเขาป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายแล้ว ครอบครัวจึงตัดสินใจหยุดการรักษาเอาไว้และพาเขาออกไปใช้ชีวิตอย่างมีความสุขที่สุดเท่าที่จะทำได้ Caleb เป็นเด็กที่มีความหลงใหลในความเร็วเป็นอย่างมาก เขาจะเก็บสะสมสติกเกอร์รถต่างๆ และสติกเกอร์การแข่งขันรถยนต์จากทั่วโลกเอาไว้ และเขาได้บอกกับพ่อแม่ไว้ว่าอยากให้พ่อแม่ติดสติกเกอร์ Ferrari เอาไว้ที่โลงศพของเขาอีกด้วย เรื่องราวของเจ้าหนู Caleb ได้รับความสนใจจากผู้คนมากมาย รวมไปถึงเจ้าของโชว์รูม Ferrari ในเซาท์ ฟลอริดา Garrett Hayim เจ้าของโชว์รูมที่นำเข้ารถ Ferrari ในเขต Fort Lauderdale ได้ตัดสินใจที่จะมอบประสบการณ์สุดท้าทาย ด้วยการพาเด็กชายนั่งในรถแข่ง Ferrai ราคา 100 ล้านบาท เพื่อเติมเต็มความฝันของเขา “บางทีผมอาจจะพาเขาไปพบกับทีมแข่งทั้งหมดเลยก็ได้นะ…
-
เด็กสาวป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย ใฝ่ฝันอยากรู้ตอนจบของ Avengers 4 ก่อนที่จะจากโลกนี้ไป
ในชีวิตของเพื่อนๆ เคยคิดกันบ้างไหมว่าก่อนตาย อยากจะทำอะไรเป็นครั้งสุดท้าย? สำหรับเด็กสาวที่ชื่อว่า Keira ที่รู้ว่าตัวเองจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน ความหวังก่อนตายของเธอคือการได้รู้ตอนจบของ Avengers 4 ก่อนที่จะลาจากโลกใบนี้ไป และด้วยความช่วยเหลือจากองค์กรที่มีชื่อว่า My Shining Star Children’s Cancer Society ได้ทำการโพสต์เล่าเรื่องราวของเธอเพื่อสานต่อความหวังครั้งสุดท้ายของเด็กสาวคนหนึ่งให้กลายเป็นจริง Keira ต้องต่อสู้กับโรคมะเร็งสมองมานานกว่า 4 ปีครึ่ง จนในที่สุดเธอก็พ่ายแพ้ต่อมัน และเหลือชีวิตอยู่บนโลกนี้อีกราวๆ 3-4 เดือนเท่านั้น “ก่อนที่จะตายเธอต้องการที่จะรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นใน Avengers ภาคต่อไป ครอบครัวของเธอพยายามที่จะทำทุกอย่างเพื่อให้ฝันของเธอกลายเป็นความจริง แต่มันก็ดูเหมือนจะเป็นไปได้ยาก” “อย่างที่ทุกคนรู้ เราเป็นเพียงองค์กรองค์กรหนึ่งที่สร้างขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือพวกเขา เด็กสาวคนนี้ต้องต่อสู้กับมะเร็งร้ายตั้งแต่ยังเป็นเด็ก และเธอสวมควรได้รับการเติมเต็มความฝันของตัวเอง เราต้องช่วยกัน ได้โปรด!!” My Shining Star Children’s Cancer Society กล่าว องค์กรได้นำเรื่องราวนี้โพสต์ลงทวิตเตอร์และได้รับความสนใจจากชาวเน็ตมากมาย ตอนนี้มีคนเข้ามากดไลก์มากกว่า 32,000 ครั้ง และรีทวีตไปอีกกว่า 53,100 ครั้งแล้ว …
-
เด็กสาวผู้รอการ ‘ปลูกถ่ายหัวใจ’ ทำ Kiki Challenge บนรถเข็น จน Drake มาเยี่ยมจริงๆ!!
ในช่วงชีวิตของคนเรา จะมีสักกี่ครั้งที่ ‘ความฝันกลายเป็นความจริง’ เช่นเดียวกันกับเรื่องราวของสาวน้อยวัย 11 ขวบ ที่รอการ ‘ปลูกถ่ายหัวใจ’ อย่างมีความหวัง เพื่อให้ตัวเองมีชีวิตรอดต่อไป แม้จะเป็นเช่นนั้น แต่เธอก็ยังคงมีความฝันอื่นด้วยเช่นกัน Sofia Sanchez เด็กสาวที่ป่วยเป็นโรคทางพันธุกรรมที่เกี่ยวกับกล้ามเนื้อหัวใจ ส่งผลให้การสูบฉีดเลือดมีปัญหาและสามารถนำไปสู่อาการหัวใจล้มเหลวได้ทุกขณะ การปลูกถ่ายหัวใจคือทางเดียวที่จะทำให้เธอหลุดพ้นจากความเสี่ยงนี้ไปได้ แต่การรักษาด้วยการผ่าตัด ก็ทำให้อาการของเธอดีขึ้นได้เช่นกัน เมื่อราวๆ 3 สัปดาห์ก่อน Sofia เข้ามาทำการผ่าตัดเปิดหน้าอกเพื่อใส่เครื่องมือที่ช่วยให้ระบบสูบฉีดเลือดของเธอทำงานได้ดียิ่งขึ้น ที่โรงพยาบาล Lurie Children’s Hospital Sofia มีศิลปินโปรดในดวงใจคือ Drake เจ้าของบทเพลงที่ชาวเน็ตนำมาทำเป็น Kiki Challenge จนโด่งดังไปทั่วโลก โดยการทำ Challenge นี้ก็คือการเปิดประตูลงจากรถพร้อมกับเปิดเพลง In my feelings ของ Drake แล้วก็เต้นไปด้วย และเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2018 ที่ผ่านมา Sofia เองก็ทำ Kiki Challenge…
-
เจ้าบ่าวใจสลาย จัดงานแต่งกับแฟนสาวที่ป่วยเป็นโรคมะเร็ง แต่เธอจากไปก่อนงานเริ่ม
เรื่องราวความรักที่รู้ทั้งรู้ว่าอย่างไรมันก็ต้องถึงจุดจบ และมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องจากไป แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังคงเดินหน้าต่อไปแม้ว่าเส้นทางความรักของเขาจะมีความผิดหวังรออยู่ที่ปลายทางก็ตาม… Yang Feng หนุ่มชาวจีนวัย 27 ปี ตัดสินใจจัดงานแต่งงานกับคู่หมั้น Xiao Hui ที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวระยะเรื้อรัง ในโรงพยาบาลที่เธอรักษาตัวอยู่ในเมืองเจิ่งโจว มณฑลเหอหนาน ประเทศจีน สาเหตุที่นาย Yang ตัดสินใจจัดงานแต่งขึ้นมาก็เพราะว่าอาการของ Xiao ย่ำแย่ลงมาก เขาจึงอยากจะทำให้สิ่งที่เธอหวังมาตลอดคือการแต่งงานเกิดขึ้นอย่างที่เธอได้ตั้งใจเอาไว้ โดยกำหนดวันแต่งเอาไว้เป็นวันที่ 12 สิงหาคม 2561 แต่เหมือนโชคชะตาเล่นตลก เพราะ Xiao ได้เสียชีวิตจากโลกใบนี้ไปอย่างสงบในเวลา 17.20 น. ของวันงาน ฝ่ายว่าที่เจ้าบ่าวเมื่อรู้เรื่องราวดังกล่าวแล้วก็พยายามที่จะทำให้งานแต่งนั้นดำเนินต่อไปท่ามกลางผู้สื่อข่าวและแขกมากมายที่มาร่วมงาน แต่สุดท้ายแล้วเขาก็พูดขึ้นมาว่า “งานแต่งงานนี้ผมไม่สามารถจัดมันต่อไปได้อีกแล้ว ขอให้ทุกคนออกไปด้วยครับ” เรื่องราวความรักของทั้งคู่เริ่มต้นขึ้นเมื่อ 2 ปีก่อน ขณะที่นาย Yang เป็นคนส่งของ แล้วไปส่งที่บ้านของเธอ ทั้งคู่ตกหลุมรักกันตั้งแต่ตอนนั้นและตัดสินใจเดตกัน ทางด้าน Xiao เองก็บอกฝ่ายชายไว้ก่อนแล้วว่าเธอกำลังป่วย แต่เขาเองก็ยืนยันที่จะสานต่อความสัมพันธ์ต่อไป “ผมรู้ว่าเธอป่วยตั้งแต่แรก…
-
เรื่องเล่าของ Damon Cole ตำรวจหนุ่ม “ฮีโร่ตัวจริง” ของเด็กๆ ที่ป่วยโรคมะเร็ง
ฮีโร่ไม่ได้มีแต่ในหนังหรือในการ์ตูนเท่านั้น เพราะในชีวิตจริงก็มี “ฮีโร่” ให้เห็นได้มากมาย อย่างเช่นตำรวจหนุ่มจากเมืองฟอร์ตเวิร์ท ในรัฐเท็กซัสนามว่า Damon Cole คนนี้ ที่ได้ชื่อว่าเป็นซูเปอร์ฮีโร่ตัวจริงเสียงจริงเลยล่ะ เจ้าหน้าที่ Cole มักจะสวมชุดเป็นฮีโร่และออกปฏิบัติหน้าที่ บางครั้งเขาสวมเสื้อเกราะกันกระสุนที่มีโลโก้ของ ซูเปอร์แมน แล้วโชว์ให้เด็กๆ ดูพร้อมบอกว่า “จุ๊ๆ รู้แล้วอย่าบอกใครล่ะ” ปัจจุบันเขาไม่ได้ทำงานแล้ว เขาใช้เวลาไปกับการ ช่วยเหลือเด็กๆ ที่ป่วยเป็นโรคมะเร็ง ช่วยเสริมสร้างกำลังใจให้พวกเขาสามารถต่อสู้กับโรคร้ายนี้ได้อย่างถึงที่สุด เราไปฟังเรื่องราวของเจ้าหน้าที่ Cole ฮีโร่ขวัญใจเด็กๆ ให้มากขึ้นกันดีกว่า… เมื่อปี 2012 ขณะที่ Cole ทำงานเป็นตำรวจในสถานีตำรวจดัลลัส เขาก็เริ่มแต่งกายเป็นซูเปอร์แมนเพื่อออกงานต่างๆ รวมถึงการเข้าเยี่ยมผู้ป่วยในโรงพยาบาล . และเมื่อปี 2015 เขาในชุดซูเปอร์แมนได้ใช้เวลาวันหยุด พาเจ้าหนูอายุ 7 ขวบที่ป่วยโรคมะเร็งไปขับรถเที่ยวในรัฐอิลลินอยส์ บางครั้งเขาก็ไปเยี่ยมเด็กๆ ที่โรงเรียนด้วยชุดไอรอนแมน ฝึมือของเจ้าหน้าที่ Cole นั้นไม่ธรรมดาเลย เขาเปลี่ยนรถของเขาให้มีลวดลายซูเปอร์ฮีโร่เท่ๆ ได้อย่างสวยงาม อีกทั้งยังเนรมิตให้รถอีกคันกลายเป็น…
-
เบอร์เกอร์คิง ‘มอบสิทธิ์กินฟรี’ ให้เจ้าหมาที่ป่วยใกล้ตาย ตลอดชีวิตที่เหลืออยู่ของมัน
เมื่อกล่าวถึง ‘แฮมเบอร์เกอร์’ คงเป็นอาหารโปรดของใครหลายๆ คนอย่างแน่นอน!! เช่นเดียวกับเจ้าหมาตัวนี้ที่ชื่นชอบการทานแฮมเบอร์เกอร์เป็นชีวิตจิตใจ แต่อย่างที่รู้กันว่าคนเลี้ยงหมาเลี้ยงแมว จะไม่ให้อาหารคนกับสัตว์เลี้ยงของตัวเองกิน เพราะอาจจะทำให้พวกมันป่วยได้ เจ้า Cody เป็นหมาพันธุ์ Boxer-Labrador อายุ 10 ปี เมื่อ 2 เดือนก่อน เจ้าของพามันไปตรวจและพบว่ามันป่วยเป็นโรคมะเร็งร้าย และจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่ถึง 3 เดือน ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับว่ามะเร็งลามไปได้เร็วแค่ไหน ครอบครัวของมันจึงตัดสินใจที่จะมอบความสุขให้กับมันในช่วงชีวิตที่เหลืออยู่ “วันหนึ่งเราไปที่ร้านเบอร์เกอร์คิงเพื่อซื้อเบอร์เกอร์ให้กับเจ้า Cody และปรากฏว่ามีพนักงานคนหนึ่งใจดีมาก เขาถามว่าจะซื้อเบอร์เกอร์ไปทำไม เราก็เลยเล่าเรื่องราวของมันให้ฟัง” “หลังจากที่จ่ายเงินเสร็จแล้วพนักงานคนนั้นก็บอกให้เรารอก่อน จากนั้นเธอก็ไปพูดกับผู้จัดการร้าน ก่อนจะมาขอชื่อเราไป แล้วเธอก็บอกว่าจากนี้ไปให้มารับเบอร์เกอร์ฟรีสำหรับเจ้า Cody ได้เลย” “ผมไม่รู้จะพูดอย่างไรดี เพราะมันมีความหมายกับเรามาก ครอบครัวของผมรู้สึกซาบซึ้งใจเป็นอย่างมาก ต้องขอขอบคุณพนักงานเบอร์เกอร์คิงที่สาขาถนน Alexis ในเมือง Toledo รัฐโอไฮโอ จริงๆ” Alec Karcher เจ้านายของ Cody วัย 22…
-
บทเรียนชีวิตแสนง่าย…จากเด็กที่ป่วยเป็นโรคร้ายแรง กับ ‘สิ่งสำคัญในชีวิต’ ของพวกเขา
เด็กก็เปรียบเสมือนกับผ้าขาว หากเราแต่งแต้มอะไรลงไปพวกเขาก็จะเติบโตมาเป็นแบบนั้น…. แล้วเพื่อนๆ เคยคิดกันบ้างไหมว่าเหล่าเด็กๆ ที่เกิดมาพร้อมกับโรคร้าย และได้ใช้ชีวิตอยู่เพียงไม่นาน พวกเขาจะมีความคิดต่อโลกใบนี้อย่างไรกันบ้าง? นี่เป็นเรื่องราวที่คุณหมอ Alastair McAlpine จะมาเล่าให้พวกเราฟัง เขาได้ทำการพูดคุยกับเด็กๆ ที่ป่วยเป็นโรคร้ายแรง และพวกเขาจะใช้ชีวิตอยู่บนโลกนี้ได้อีกไม่นาน ถึงประเด็นของสิ่งที่ทำให้พวกเขามีความสุขในชีวิต และความสำคัญของสิ่งเหล่านั้น และคำตอบของเด็กๆ กลายเป็นบทเรียนอันแสนล้ำค่า ที่สามารถสอนวิธีคิดการมองโลกแบบง่ายๆ ให้กับหลายๆ คนที่ยังมีชีวิตอยู่และเพื่อนๆ อาจจะคาดไม่ถึงเลยทีเดียว 1. ไม่มีใครที่อยากจะใช้เวลาบนโลกอินเตอร์เน็ตมากไปกว่านี้ “พวกเขาไม่ได้ต้องการที่จะดูทีวี ไม่มีใครอยากจะเล่นเฟซบุ๊ก ไม่มีใครอยากจะต่อสู้กับคนอื่นๆ และไม่มีใครที่ชอบโรงพยาบาลเลย” 2. สัตว์เลี้ยง ทำให้ชีวิตของพวกเขามีความสุข “หลายคนพูดถึงสัตว์เลี้ยงของตัวเอง : ‘ผมรักลูฟัส เสียงเห่าตลกๆ ของมันทำให้ผมหัวเราะได้’, ‘หนูชอบมากเวลาที่จินนี่มากอดหนูตอนกลางคืนและหายใจเป็นเสียงเพอร์’, ‘หนูมีความสุขมากเมื่อได้ขี่เจ้าเจคบนชายหาด’” 3. พวกเขารักพ่อแม่ของพวกเขา “หลายคนพูดถึงพ่อแม่ของตัวเอง บ้างก็แสดงออกให้เห็นถึงความเป็นห่วง : ‘หวังว่าแม่จะสบายดี ดูเหมือนว่าเธอจะเศร้ามากๆ เลย’,…
-
คุณแม่ขอลางานเพราะลูกชายป่วยหนัก แต่หัวหน้ากลับบอกให้เธอ “ลาออก” ไปเสีย!
ในความคิดของคุณ ความเห็นอกเห็นใจ เป็นสิ่งที่หัวหน้างานและลูกน้องควรมีให้กันหรือไม่? เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2018 ที่ผ่านมาได้เกิดเรื่องราวแสนดราม่าขึ้นบนโลกออนไลน์ เมื่อหญิงสาวคนหนึ่งนามว่า Crystal Reynolds Fisher โพสต์เล่าเรื่องราวสุดเลวร้ายของเธอลงบนเฟซบุ๊ก เธอโพสต์เล่าว่า “ลูกชายของฉันป่วยและต้องการการดูแลอย่างใกล้ชิด ฉันเลยบอกหัวหน้า 48 ชั่วโมงก่อนฉันจะเข้าไปทำงาน บอกว่าฉันจะไม่สามารถเข้ามาทำงานได้จนกว่าลูกชายของฉันจะอยู่ได้ด้วยตัวเอง แต่แล้วดูหัวหน้าตอบฉันมาสิ” Crystal Reynolds Fisher และลูกชายวัย 18 ปีของเธอ ที่ปัจจุบันกำลังป่วยหนักอยู่ เมื่อเธอขออนุญาตลางานกับหัวหน้าของเธอไปเนื่องด้วยอาการป่วยของลูกชาย เรามาดูกันดีกว่าว่า “หัวหน้างาน” ของเธอ ตอบเธอว่าอะไรบ้าง… Crystal: สวัสดี Dawn ฉัน Crystal เองนะ ฉันอยากจะบอกว่าลูกชายของฉันต้องการการดูแลอย่างใกล้ชิดเพื่อรักษาชีวิตเอาไว้ หากเขายังไม่มีอาการที่ดีขึ้น ฉันคงไปทำงานไม่ได้ ฉันจะรีบบอกคุณทันทีหากเขามีอาการดีขึ้น ฉันจะได้ไปทำงานได้อย่างไม่ขัดข้อง Dawn: นั่นไม่ใช่สิ่งที่เราทำกันนะ Crystal ฉันจะถือว่าเธอลาออกก็แล้วกัน Crystal: แล้วสิ่งที่เราทำกันคืออะไรล่ะ ยามที่ลูกของฉันป่วยรุนแรงแบบนี้? ฉันยังไม่ได้บอกว่าจะลาออก…
-
จากภาพล่าสุดของป๋า Johnny Depp แฟนๆ ต่างพากันเป็นห่วง เพราะดูผอมเกินไป!!
เพื่อนๆ หลายคนคงจะรู้จัก Johnny Depp กันอยู่แล้ว เขาเป็นนักแสดงมากความสามารถ และเรามักจะจำเขาได้ในบทบาทของกัปตัน Jack Sparrow จากเรื่อง Pirates of the Caribbean นั้นเอง แต่จากภาพล่าสุดของเขา ที่ถ่ายรูปคู่กับแฟนคลับ ทำให้เห็นว่าสภาพของเขาดูเปลี่ยนไปมาก จนทำให้แฟนๆ หลายคนต่างก็เป็นห่วงว่าเขาอาจจะ ‘ป่วย’ อยู่ก็เป็นได้ เนื่องจากว่า Depp ได้ห่างหายไปนานจากจอภาพยนตร์ และไม่ค่อยได้ออกสื่อเลย พอมาเห็นอีกทีก็เลยทำให้บรรดาแฟนๆ ถึงกับตกใจและเป็นห่วงไปตามๆ กัน Johnny Depp อายุ 54 ปี ถ่ายรูปกับแฟนคลับสาวคนหนึ่ง ก่อนที่จะเขาจะขึ้นแสดงคอนเสิร์ตร่วมกับวง The Hollywood Vampires ซึ่งเป็นวงดนตรีของเขา หลังจากภาพดังกล่าวถูกแชร์ลงในโลกออนไลน์ แฟนๆ หลายคนต่างก็อิจฉาผู้หญิงในรูป แต่ส่วนใหญ่แล้วตกใจเกี่ยวกับรูปร่างหน้าตาของเขามากกว่า บ้างก็ว่า “ผมคิดว่าฮีโร่ของผมกำลังป่วยอยู่นะ” บางคนก็คอมเมนต์ว่า “ให้ตายเถอะ นั่นใช่ Johnny…
-
ไม่น่าเชื่อว่ามีจริง ‘หมาลูกโป่งพองลม’ ตอนแฟบตัวเล็ก ตอนพองตัวโต มันยังไงเนี่ย?
มีหมาไส้กรอกอยู่ตัวหนึ่ง ที่สามารถพองลมได้เหมือนกับลูกโป่ง…มันมีอยู่จริงรึเปล่า? แล้วมันสามารถทำแบบนั้นได้ยังไง? วันนี้เรามีคำตอบมาให้แล้ว เจ้าหมาตัวที่ว่านี้ชื่อ Trevor เป็นหมาสายพันธุ์ดัชชุนอายุ 4 ขวบ มันอยู่กับคุณแม่ Fran Jennings ในเมือง Lymm เขต Cheshire ประเทศอังกฤษ มันสามารถขยายตัวได้เหมือนลูกโป่งจริงๆ เมื่อสูดหายใจเอาลมเข้าไปตัวของมันก็จะพองขึ้นมากกว่าเดิมถึง 3 เท่าเชียวนะ ขนาดตัวของ Trevor ตอนปกติ ขนาดตัวตอนพองลมแล้ว อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่ความสามารถพิเศษหรือการกลายพันธุ์ทางพันธุกรรม เจ้าหมาไม่ได้เป็นแบบนี้มาตั้งแต่เกิด ตัวของมันเพิ่งพองลมได้เมื่อไม่นานมานี้เอง ซึ่งมีสาเหตุมาจากอาการป่วย การพองตัวของ Trevor เกิดจากหลอดลมรั่ว ทำให้เวลามันหายใจเข้าจะมีอากาศเข้าไปสะสมอยู่ภายใต้ผิวหนัง แล้วพองขึ้นเหมือนลูกโป่งเลย มันพองลมได้เพราะหลอดลมรั่ว เป็นอาการป่วยที่ต้องได้รับการรักษา มันถูกพาไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลสัตว์ Lymm’s Pets Animal Hotel และได้รับการรักษาจากคุณหมอ Coward ที่รักษามัน เธอเล่าว่า “อาการแบบนี้เป็นสิ่งที่ฉันไม่เคยเห็นเลยตลอดชีวิตการเป็นสัตวแพทย์ มันเป็นการผ่าตัดแบบใหม่สำหรับฉัน” ถึงจะไม่เคยเจอแบบนี้ แต่สัตวแพทย์ก็รักษามันจนหายดีแล้ว ถึงจะเป็นอาการที่ไม่เคยพบมาก่อน แต่เมื่อรู้สาเหตุแล้วสัตวแพทย์ Coward ก็ช่วยรักษามันให้กลับเป็นปกติเหมือนเดิมได้ ทีนี้เจ้าหมาก็เลยไม่มีปัญหาเวลาหายใจเข้าออกแล้ว…
-
น้องหมาตัวเล็ก คาบของเล่นชิ้นโปรดมาให้เจ้าของ เมื่อรู้ว่าเธอไม่สบาย
ตอนที่เจ้าหมาป่วยอยู่ เจ้าของดูแลเอาใจใส่มันอย่างดี เมื่อถึงคราวที่เธอเป็นฝ่ายไม่สบายบ้าง มันก็เลยอยากตอบแทนเธอด้วยการมอบกำลังใจให้ Dabby เพิ่งได้เข้ามาอยู่กับครอบครัวของ Shani Coppa เพียงไม่กี่วัน สัตวแพทย์ก็ตรวจพบว่ามันเป็นโรคลำไส้อักเสบ ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตของมันได้ แม้จะเพิ่งเจอกันไม่นาน ครอบครัวใหม่ของมันก็รักมันมากแล้ว พวกเธอเลยไม่ยอมแพ้แล้วพยายามดูแลมันอย่างดีที่สุด เพื่อให้มันหายจากโรคนี้ Coppa จำเป็นต้องทำห้องแยกสำหรับเจ้า Dabby โดยเฉพาะ เพื่อไม่ให้หมาตัวอื่นติดโรคไปด้วย แล้วเธอก็ให้สามีของเธอย้ายไปอยู่เป็นกับมันเลย จะได้มีคนดูแลตลอดเวลา อย่างไรก็ตามถึงจะมีสามีอยู่กับมันแล้ว เธอก็ยังกลัวมันเหงาเพราะไม่มีเพื่อนหมาเล่นกับอยู่ดี เธอก็เลยซื้อตุ๊กตากระต่ายสีชมพูตัวโตให้มันเล่นด้วย ซึ่งก็ดูจะถูกใจมันเอามากๆ เธอเห็นมันคาบตุ๊กตาไปกับตัวทุกที่เลย แม้แต่เวลากินข้าวด้วย ชอบตุ๊กตาใหม่ที่แม่ซื้อให้จังเลย ขอเอาติดตัวไว้ตลอดก็แล้วกัน ไม่นานนัก Coppa กับสามีก็ดูแลมันจนพ้นจากขีดอันตรายได้ มันหายขาดจากโรคลำไส้อักเสบแล้ว และสามารถกลับไปอยู่กับเพื่อนหมาตัวอื่นได้ แถมยังมีของเล่นใหม่หลายชิ้นด้วย แต่มันก็ยังไม่ลืมตุ๊กตากระต่ายตัวโปรดหรอก อยู่มาวันหนึ่ง Coppa ก็มีอาการปวดไมเกรนขึ้นมา เธอก็เลยต้องหยุดงานแล้วนอนพักผ่อนอยู่บ้านทั้งวัน เจ้า Dabby ก็เลยเป็นห่วงเธอมาก แต่มันก็ช่วยอะไรเธอไม่ได้นอกจากอยู่เป็นเพื่อนข้างๆ สักพักหนึ่งมันก็เหมือนจะนึกขึ้นมาได้ว่ามีสิ่งที่ช่วยปลอบใจมันได้ตอนที่ป่วย…
-
ด้วยความรักที่มีต่อลูก คุณพ่อลดน้ำหนัก 50 กก. เพื่อบริจาคไตให้ลูกชายที่กำลังรอการรักษา
เมื่อคุณมีลูก คุณจะรู้สึกได้ว่า เพื่อลูกอันเป็นที่รักของคุณแล้ว คุณย่อมสามารถทุ่มเทและเสียสละเพื่อเขาได้เสมอ อย่างเช่นคุณพ่อท่านหนึ่งที่เคยเป็นคนอ้วนมากๆ แต่กลับต้องมาลดน้ำหนักถึง 50 กิโลกรัม เพียงเพราะว่าเขาจะได้สามารถบริจาค “ไต” ให้กับลูกชายที่ของเขาที่กำลังป่วยอยู่ได้ คุณแม่ Irene, คุณพ่อ Barry, และลูกสาว Jennifer Barry Stokes คุณพ่อวัย 61 ปี ครั้งหนึ่งเคยมีน้ำหนักถึง 127 กิโลกรัม ซึ่งแพทย์บอกเขาว่าเขามีน้ำหนักตัวมากเกินไปที่จะสามารถบริจาคไตให้กับ Alan ลูกชายวัย 32 ปีของเขาได้ Alan ป่วย และการรักษาด้วยเคมีบำบัดหลายต่อหลายครั้งมันได้ทำให้เกิดความเสียหายกับไตของเขา ซึ่งเขาต้องการได้รับการปลูกถ่ายไตใหม่ คุณพ่อจึงเข้ายิมออกกำลังกายอย่างหนักและต่อเนื่อง มีการจ้างเทรนเนอร์ และมีการควบคุมอาหารการกิน จนตอนนี้เขามีน้ำหนักประมาณ 76 กิโลกรัม ซึ่งหมายถึงว่าเขาสามารถที่จะบริจาคไตใหักับลูกชายของเขาได้แล้วนั่นเอง Alan ผู้เป็นลูกชายนั้นต้องทรมานกับมะเร็งชนิดที่พบเจอได้ยากมาตั้งแต่เด็ก และพวกเขาก็ทราบมาว่าการปลูกถ่ายไตนั้น อวัยวะใหม่ที่เข้ากันได้ดีที่สุดควรมาจากสมาชิกครอบครัว โดยเฉพาะผู้เป็นพ่อ Barry ผู้เป็นพ่อจึงตัดสินใจลดน้ำหนักอย่างจริงจัง ปัจจุบัน Alan มีสุขภาพที่ดีขึ้น และเขากำลังศึกษาในระดับปริญญาเอกด้าน Artificial Intelligence…
-
หญิงสาวไม่ยอมแพ้ ช่วยหมาที่เล็กที่สุด ป่วยหนักที่สุด ทำให้ชีวิตของมันสุขสันต์ทุกวัน
จะมีคนสักกี่คนในโลกนี้ที่ยอมสละเวลาในชีวิตมาดูแลหมาเพียงแค่ตัวเดียว แถมต้องดิ้นรนหาเงินมาจ่ายค่ารักษาราคาแพงเป็นประจำ แต่ก็ยังไม่เคยรู้สึกว่าเจ้าหมาเป็นภาระเลย แต่ทำไปเพราะรักและอยากให้มันมีความสุขต่างหาก Marcela Wedel เป็นหญิงสาวที่รักสุนัขมาก เธอรับสุนัขจรจัดมาเลี้ยงไว้ที่บ้านหลายตัวเลย และหนึ่งในนั้นก็คือ Maia ซึ่งเป็นแม่ของลูกสุนัขน่ารักหลายตัว รวมไปถึงเจ้าหมา Puppy Grey ที่เธอรักที่สุด ลูกหมา Puppy Grey ตัวน้อย แม่หมา Maia เคยถูกทารุณมาก่อน แต่ได้รับความช่วยเหลือและมาอยู่กับ Wedel ตอนที่มันมาอยู่กับ Wedel มันก็ตั้งท้องอยู่แล้ว ไม่นานก็คลอดลูกออกมาหลายตัวเลย Puppy Grey เป็นตัวที่เล็กและอ่อนแอที่สุดในนั้น ในขณะที่พี่น้องของมันเติบโตจนเริ่มเดินได้กันหมด ก็ยังมี Puppy Grey ตัวเดียวเท่านั้นที่เดินไม่ได้ ด้วยความเป็นห่วงเธอก็เลยพามันไปหาสัตวแพทย์ หลังจากตรวจแล้ว สัตวแพทย์ก็แจ้งข่าวร้ายว่าที่มันเดินไม่ได้เป็นเพราะมันมีปัญหาเกี่ยวกับระบบประสาทที่ร้ายแรง หากมันโตไปจะทำให้เจ้าหมาใช้ชีวิตลำบากมาก ก็เลยแนะนำให้เธอจบชีวิตลูกสุนัขก่อนที่มันจะโตดีกว่า แต่ Wedel ยังไม่ยอมแพ้ เธอไม่ได้ปลิดชีพลูกหมาน้อยตามคำแนะนำของสัตวแพทย์ เธอหันมาพยายามช่วยเหลือลูกหมาน้อยให้เดินได้อีกครั้งแทน โดยการพามันไปออกกำลังกายเพื่อบำบัด และพามันไปฝังเข็มเป็นประจำ จนในที่สุดหมาน้อยก็เริ่มเดินเองได้ Wedel พา…
-
เฮีย Robert สลัดเกราะทิ้ง ออกไปพบกับเด็กชายป่วยหนัก สานฝันน้องให้เป็นจริง…
การจะได้พบกับผู้มีชื่อเสียงระดับโลกไม่ใช่เรื่องที่ง่ายดายเท่าไหร่นัก การที่แฟนคลับจะได้เจอดาราแต่ละที จะต้องฝ่าฝูงชนแฟนคลับด้วยกันเองไม่พอ พอเข้าใกล้ก็จะถูกการ์ดหรือพนักงานรักษาความปลอดภัยขวางทางอีก แต่ใครเล่าจะรู้ว่าเฮีย Robert Downey Jr. ที่ประสบความสำเร็จจากบท Iron Man อย่างท่วมท้น มีบุคลิกกวนโอ้ยดูเท่สมตัวตนแล้ว เฮียแกก็ยังให้ความใส่ใจแฟนคลับทุกระดับ แม้ว่าการกระทำเหล่านั้นจะเป็นเพียงสิ่งที่เล็กน้อยก็ตาม… เมื่อเด็กชาย Aaron Hunter ผู้ประสบกับอาการ ROHHAD (Rapid-Onset Obesity with Hypothalamic Dysfunction) ความผิดปกติหายากที่จะเกิดในอัตราเพียง 100 คนบนโลก อันก่อให้เกิดปัญหาทางด้านน้ำหนักและส่งผลกระทบต่อการหายใจ และยังไม่มีหนทางในการรักษาให้หายขาดได้ และความชื่นชอบในตัว Iron Man ทำให้เขาอยากจะเจอกับตัวจริงสักครั้งในชีวิต ด้วยการสร้างแคมเปญ #AaronNeedsIronMan ผ่านทวิตเตอร์ ด้วยใจความเล็กๆ แต่ยิ่งใหญ่ที่ว่า ‘อยากจะเป็นซุปเปอร์ฮีโร่ดั่งเช่น Robert’ หลังจากที่กระแสถูกกระพือปีกสยายไปตามสายลม ในปี 2017 ทีมอเวนเจอร์ก็ได้เข้าถึงตัวน้องและให้กำลังใจผ่าน FaceTime ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่สำหรับเฮีย Robert กลับให้น้องมากกว่าที่ทั้งทีมอเวนเจอร์เคยให้ โดยเมื่อวันที่…
-
พนง. โดนขู่หาคนมาแทน เหตุจะไปดูแลเมียป่วย เซย์โนแคร์เพราะ ‘ไม่มีใครแทนที่เมียได้’
เรื่องของการดูแลคู่ชีวิตนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญ แม้ว่าหน้าที่การงานจะต้องมาก่อนเสมอ แต่มองในอีกมุมหนึ่งแล้วคนที่คอยอยู่เคียงข้างนั้นจะอยู่สนับสนุนและกำลังใจในชีวิต ที่ใครก็ไม่อาจแทนที่ได้… และเป็นที่รู้กันว่าสภาพของสังคมการทำงานในญี่ปุ่น เหล่าพนักงานออฟฟิศ มนุษย์เงินเดือนฝ่ายชายส่วนใหญ่ จะต้องทำงานแบบถวายหัว จะมองงานมาเป็นอันดับหนึ่ง โดยที่ทิ้งความรู้สึกของคนในครอบครัวเป็นอันดับรอง แต่ทุกครั้งที่เกิดเรื่องสำคัญกับคนในครอบครัว มนุษย์เงินเดือนจะแปรเปลี่ยนไปได้หรือไม่? และเรื่องเล่าจาก @Rakshasa_JP ชาวเน็ตญี่ปุ่น ที่ได้แชร์เรื่องราวสามีของเพื่อนตนเองว่า เหล่ามนุษย์ออฟฟิศญี่ปุ่นไม่ได้เป็นแบบนั้นเสมอไปหรอก เขาเล่าว่า วันหนึ่งฝ่ายสามีได้พูดคุยกับผู้จัดการว่า ‘ภรรยาของผมป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ เพราะฉะนั้นผมขอกลับบ้านก่อนเวลานะครับ’ ก็เพื่อที่จะได้ไปดูแลภรรยาที่กำลังนอนป่วยอยู่บ้าน แต่ทว่าฝั่งผู้จัดการไม่เห็นด้วยกับเหตุผลที่กล่าวมา พร้อมตอบกลับด้วยความโมโห ‘รู้มั้ยว่า… เราหาคนมาแทนที่แกได้ง่ายมากเลยนะ’ เป็นการพูดในเชิงว่าจะไล่เขาออก ด้วยบทสนทนาที่ดูรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ฝ่ายสามีจึงตอบไป ‘เมียของผมจะหาใครมาแทนไม่ได้ทั้งนั้น ไอ้งั่ง’ ด้วยประโยคคำขาดเขาก็กลับบ้านไปทำหน้าที่สามีดูแลภรรยา และคิดว่างานในบริษัทครั้งนี้คงจบสิ้นแล้ว… ในตอนจบที่แท้จริง คุณ @Rakshasa_JP ได้เผยว่า ฝ่ายสามีไม่ถูกไล่ออก แต่กลับกันคือผู้จัดการคนดังกล่าวตกงานไปเรียบร้อย โดยที่ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดว่า ทางบริษัทไล่ผู้จัดการออกด้วยเหตุผลอะไร อาจจะเพราะการใช้อำนาจโดยมิชอบ (ซึ่งที่ญี่ปุ่นกำลังตื่นตัวเรื่องมาตรการในการจัดการกับการคุกคามทางเพศ (Sexual Harassment) และการใช้อำนาจในทางมิชอบ (Power Harassment) ในที่ทำงานอยู่) หรือประสิทธิภาพในการทำงานของตัวผู้จัดการเอง แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม…
-
หมาหน้าประหลาดเกือบไม่รอดเพราะหัด แต่สุดท้ายได้พบครอบครัวใหม่ที่รักมันสุดหัวใจ
ไม่มีใครคิดว่าเจ้าหมาจะรอด … แต่ทุกวันนี้มันกลับได้อยู่กับครอบครัวอย่างมีความสุข ณ ชายหาด Dead Dog Beach ในเครือรัฐเปอร์โตริโก ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่นี่เป็นชายหาดที่มีคนนำสุนัขมาทิ้งไว้มากมาย เจ้า Murray และพี่น้องของมันก็เป็นหนึ่งในจำนวนนั้นเช่นกัน ในปี 2013 มันและพี่น้องได้รับการช่วยเหลือจาก The Sato Project ซึ่งเป็นกลุ่มช่วยเหลือสุนัขในเปอร์โตริโก้ พวกเขาพบว่าพวกมันเป็น โรคไข้หัดสุนัข หรือก็คือไวรัสชนิดหนึ่งที่ทำลายระบบประสาทของสุนัขนั่นเอง อาสาสมัครจาก The Sato Project ช่วยพวก Murray เอาไว้ สัตวแพทย์ตรวจพบว่าพวกมันทุกตัวเป็นโรคไข้หัดสุนัข จากสถิติแล้วสุนัขที่ป่วยเป็นโรคไข้หัดสุนัขกว่า 80 เปอร์เซ็นต์นั้นไม่รอดชีวิต แถมไม่มีวิธีรักษาโรคนี้ในปัจจุบันด้วย พวกเขาก็เลยตัดสินใจว่าจะทำให้พวกมันจากไปอย่างสงบดีกว่าต้องทุกข์กับโรคร้าย แต่สัตวแพทย์ก็ไม่สามารถจบชีวิตของ Murray ได้ เพราะความน่ารักของมันทำให้พวกเขาใจอ่อน ดังนั้นพวกเธอเลยตัดสินใจลองให้มันมีชีวิตอยู่ต่อแล้วภาวนาให้มันมีชีวิตยาวนานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แม้ว่าพี่น้องของมันจะตายไปหมดแล้วเพราะโรคนี้ก็ตาม ไม่นานนักก็มีปาฏิหาริย์เกิดขึ้น Mackenzie Gallant และครอบครัวของเธอตัดสินใจรับเจ้าหมามาเป็นสมาชิกใหม่ของครอบครัว โดนไม่สนใจว่ามันจะป่วยแต่อย่างใด ตอนนี้เจ้าหมาก็เลยมีคนดูแลแล้ว Mackenzie Gallant รับเจ้าหมาไปเลี้ยงแม้มันจะป่วยก็ตาม …
-
แบรนด์อังกฤษ เลือกผู้ป่วยเด็กร่วมถ่ายโฆษณาเสื้อผ้า เพื่อแสดงให้เห็นถึงความเท่าเทียม
“ป้ายกำกับมีไว้ใช้สำหรับสินค้าเท่านั้น ไม่ได้ใช้กับผู้คน” ข้อความจากบริษัท River Island แบรนด์เสื้อผ้าจากเมืองผู้ดีที่กล่าวถึงเคมเปญล่าสุดที่ให้โอกาสเด็กน้อยทั้ง 6 ที่มีอาการป่วยในการร่วมโฆษณาเสื้อผ้าเด็กของพวกเขาในโครงการ Labels Are For Clothes Cora Bishop สาวน้อยวัย 6 ขวบผู้ป่วยด้วยอาการดาวน์ซินโดรม เป็นหนึ่งในเด็กน้อยที่ได้ร่วมโครงการนี้ คุณ Sheryl Bishop แม่ของเด็กน้อยให้สัมภาษณ์ว่าลูกสาวของเธอมีความสุขมากที่ได้เข้าร่วมแคมเปญ “Cora เป็นเด็กที่น่ารักมาก สิ่งที่เธอเป็นทำให้คนอื่นๆ สนใจและสร้างเสียงหัวเราะให้กับพวกเขา พวกเขาให้เธอร่วมถ่ายโฆษณานั้น และเธอก็แค่ออกไปเล่นสนุกเหมือนปรกติ โดยที่พวกเขาไม่ได้กำหนดให้เธอทำอะไรเลย ฉันรู้สึกภูมิใจในทีมงานอย่างมากที่ช่วยให้ลูกสาวของฉันมีความเชื่อว่าเธอสามารถประสบความสำเร็จในสิ่งที่เธออยากทำได้” คุณ Sheryl แม่ของเด็กน้อยวัย 6 ขวบให้สัมภาษณ์ Cora Bishop สาวน้อยวัย 6 ขวบ หนึ่งในผู้ร่วมโครงการของแบรนด์เสื้อผ้าชื่อดังจากอังกฤษ สาวน้อย Cora ชื่นชอบการเป็นนางแบบเด็กของเธอมาก เด็กหญิงวัย 6 ขวบได้รับการคัดเลือกจากแบรนด์ หลังจากที่ทาง Zebedee Management บริษัทที่ทำงานร่วมกับผู้ป่วยได้แนะนำเธอให้กับพวกเขา นอกจากสาวน้อยแล้ว Gabriel Sohota เด็กชายวัย 4 ขวบที่มีอาการป่วยเช่นเดียวกับ Cora เองก็เป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้าร่วมโครงการนี้ด้วยเช่นกัน และก็เหมือนกับเด็กทั่วๆ ไป Gabriel เองก็มีความสุขและเขาเองแทบไม่หยุดโพสต์ท่าเลยทีเดียว ในขณะที่ได้เป็นนายแบบตัวน้อยให้กับ River Island Gabriel…
-
เจ้าหมูป่วยหนักลุกเดินไปกินข้าวไม่ไหว พี่ชายเป็นห่วงเลยคาบอาหารมาให้ถึงที่
สัตว์ก็รักครอบครัวของมันไม่ต่างจากคนเลย … พี่น้องเป็นสายสัมพันธ์พิเศษที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด แต่ละฝ่ายจะคอยดูแลกันและกันด้วยความเป็นห่วงอยู่เสมอ ทั้งคนทั้งสัตว์ต่างก็รักพี่น้องของตัวเองทั้งนั้น เจ้าหมู 2 พี่น้องนี้เป็นข้อพิสูจน์เรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี Horton กับ Henry เป็นหมูที่ถูกเจ้าของเก่าเลี้ยงอย่างชุ่ยๆ เขาปล่อยให้พวกมันหิวโซจนผอมติดกระดูก นอกจากนี้ยังให้พวกมันอยู่ในคอกที่สกปรกจนติดเชื้อด้วย แต่พวกมันก็ดูแลอีกฝ่ายให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ และไม่เคยออกห่างจากกันเลย Horton และ Henry ไม่ได้รับการดูแลที่ดีจากเจ้าของเก่า โชคดีที่ฟาร์ม The Gentle Barn รับพวกมันมาเลี้ยงเอาไว้ ตอนนี้มันจึงได้รับการดูแลอย่างดีจาก Ellie Laks สาวเจ้าของฟาร์มแห่งนี้ ทว่าเนื่องจากพวกมันยังฝังใจจากการถูกมนุษย์เลี้ยงแย่ๆ ที่ฟาร์มเก่า ตอนนี้มันก็เลยยังกลัวคนอยู่ ทำให้คนในฟาร์มไม่สามารถเข้าไปใกล้พวกมันได้ เจ้าพวกมนุษย์อย่าเข้ามานะ จะทำร้ายเราอีกแล้วใช่ไหมล่ะ Laks เห็นแบบนั้นก็ไม่ยอมแพ้ เข้าไปคลุกคลีกับพวกมันทีละเล็กทีละน้อยทุกวัน นั่งร้องเพลงและอ่านหนังสือให้มันฟัง แถมยังเอาขนมให้มันเป็นประจำด้วย จนในที่สุดมันก็เริ่มเปิดใจให้กับเธอ พอมันไว้ใจเธอแล้วคราวนี้มันทั้ง 2 ตัวก็เข้ามาอ้อนให้เธอเกาพุงให้ทุกวันเลย ถ้าอยากให้รู้ว่ามาดีก็เอาอาหารมาให้สิ แค่นั้นเราก็รู้แล้ว อู๊ดๆ เจ้าหมูได้รับการเอาใจใส่อย่างดี ทั้งยังได้กินอาหารอย่างเพียงพอทุกวัน ร่างกายที่ผอมซูบของมันก็เลยค่อยๆ มีน้ำมีนวลมากขึ้น จนมันดูสุขภาพดีเหมือนหมูทั่วๆ ไปแล้ว…
-
สาวชาวอังกฤษมีอาการเมาค้างอย่างรุนแรงทุกวัน ทั้งๆ ที่เธอไม่ได้ดื่มแอลกอฮอล์
อาการแฮงก์หรืออาการเมาค้าง คือสิ่งที่เหล่านักดื่มทั้งหลายจะได้สัมผัสอยู่เสมอ ทุกครั้งที่คืนไหนมีปาร์ตี้หนักๆ ดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปเป็นปริมาณมากๆ เช้ามาก็จะรู้สึกปวดหัว อยากอ้วก วิงเวียนศีรษะ กินอะไรก็ไม่อร่อย ทำให้เรารู้สึกอยากนอนไปตลอดทั้งวัน หญิงสาวคนนี้เองก็มีอาการในลักษณะเดียวกัน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอนั้นกลับไม่ได้มีสาเหตุมาจากการดื่มเครื่องดื่มมึนเมา เพราะเธอไม่ใช่คนที่ดื่มเหล้าเบียร์เลย แต่เป็นอาการที่เกิดจากความร้ายแรงที่มากยิ่งกว่านั้น เธอมีชื่อว่า Sarah Moughtin วัย 34 ปี หญิงสาวชาวอังกฤษที่ต้องตื่นมาเจอกับอาการแฮงก์ในทุกๆ วัน โดยที่ไม่ได้แตะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เลย เพราะมันคือผลจากปัญหาสุขภาพอันหนักหน่วงที่เธอต้องเจอ Sarah หญิงสาวที่มีอาการแฮงก์ทุกวัน แม้ว่าเธอจะไม่ใช่นักดื่ม ชีวิตของเธอที่เรียบง่ายมาโดยตลอด กลับต้องเจอกับความพลิกผันของชีวิตที่เลวร้ายอย่างมาก เมื่อวันหนึ่งขณะที่เธอกำลังนั่งรถไฟฟ้าใต้ดินตรงกลับบ้านในเดือนตุลาคม 2014 จู่ๆ ก็มีก้อนเนื้องอกขึ้นมาบริเวณพื้นที่ด้านหน้าของหูเธอ ผ่านไปไม่กี่สัปดาห์ เธอต้องเข้ารับการปรึกษากับแพทย์ทั่วไปโดยทันที เพราะมีอาการปวดหัวขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งตอนนั้นหมอบอกกับเธอว่าเป็นแค่อาการของความเครียดที่เกิดจากการทำงาน แต่เธอก็ยังรู้สึกกังวลกับมันและจองคิวพบแพทย์อีกแห่งหนึ่ง แพทย์เกิดความงุนงงในสิ่งที่เธอเป็น จึงตัดสินใจที่จะตรวจฮอร์โมนและทำซีทีแสกน เพื่อวินิจฉัยโรคของเธอ ระหว่างการรอผลตรวจ สุขภาพร่างกายกลับยิ่งทรุดโทรมมากกว่าเดิม ใบหน้าเริ่มบวม เธออ้วกออกมาแทบตลอดเวลา และการมองเห็นของเธอก็เลือนลางไปซะหมด เธอจึงต้องถูกพาส่งโรงพยาบาลในเมือง Truro เธอพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลอยู่นานถึง 3 สัปดาห์ แพทย์ก็สันนิษฐานว่าเธอกำลังป่วยเป็นโรคมะเร็งต่อมน้ำลาย และมะเร็งต่อมน้ำเหลือง…
-
“Latah Syndrome” อาการของโรคบ้าจี้ มันมีอยู่จริงๆ เค้าไม่ได้แกล้งนะตัวเอง!!
สำหรับในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ถ้าหากใครได้ติดตามเรื่องราวบนโลกออนไลน์ ก็คงจะเคยเห็นคลิปของชายหนุ่มที่มีอาการบ้าจี้และขี้ตกใจ ที่ทำเอาชาวเน็ตถึงกับฮาท้องแข็งไปตามๆ กันเลยทีเดียว คลิปวิดีโออาการบ้าจี้ของคุณกฤติเดช สมตน ได้รับความนิยมจากชาวเน็ตอย่างมาก แต่อย่างไรก็ตามก็ได้มีหลายๆ คนตั้งข้อสงสัยว่า แท้จริงแล้วอาการดังกล่าวนั้นเป็นเพียงแค่การแกล้งทำ หรือเป็นอาการที่ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้จริงๆ กันแน่!? และเพื่อเป็นการคลายความสงสัยของทุกคน วันนี้เราก็ได้นำข้อมูลดีๆ เกี่ยวกับอาการดังกล่าวมาฝากกัน… อาการบ้าจี้หรือที่เรียกว่า Latah Syndrome ถือเป็นความผิดปรกติทางพฤติกรรมของผู้คนที่มักจะแสดงอาการตกใจขึ้นมาอย่างกระทันหัน เมื่อถูกกระตุ้นจากสิ่งรอบข้าง คำว่า Latah คือคำภาษามาเลเซียที่มักใช้เรียกอาการของกลุ่มหญิงสาวที่มีอาการกลัวและทำตามสิ่งที่ถูกบอกอย่างหยุดไม่ได้ ยกตัวอย่างเช่นมีคนพูดใกล้ๆ พวกเธอว่า “งู” พวกเธอก็จะพูดว่า “งู” ตามนั่นเอง และอาการดังกล่าวยังมีในกลุ่มประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างประเทศไทย อินโดนีเซียอีกด้วย จากงานวิจัยในปี 2001 ได้ทำการศึกษากลุ่มอาการของโรคดังกล่าว และได้ข้อมูลที่น่าสนใจที่ระบุว่าผู้ที่มีประสบการณ์เกี่ยวกับความเครียดอย่างเช่นการสูญเสียลูกหรือสามีมาก่อน มีโอกาสที่จะเกิดอาการดังกล่าวตามมา และนอกจากนี้อีกกลุ่มหนึ่งที่มีโอกาสเป็นโรคบ้าจี้ได้ก็คือผู้ที่มักจะมีการฝันแบบแปลกๆ นั่นเอง แต่อย่างไรก็ตามความเชื่อมโยงเกี่ยวกับกลุ่มอาการดังกล่าวนั้นยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ อย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญก็ได้ให้คำแนะนำว่า ผู้ที่อาการดังกล่าวควรที่จะหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้น และค่อยๆ ปรับพฤติกรรมไม่ให้ตอบสนอง แต่ในกรณีที่มีความรุนแรงและมีการเคลื่อนไหวร่างกายที่ผิดปรกติดจนรบกวนชีวิตประจำวันเป็นเวลานานก็ควรที่จะพบแพทย์เพื่อใช้ยาในการรักษา และปรับพฤติกรรมต่อไป ที่มา wikipedia, anthropology
-
ม้าใหญ่ล้มป่วย ใช้คนช่วยก็แล้วใช้รถลากก็แล้วก็ยังลุกยืนไม่ไหว โชคดีเพื่อนม้าเข้ามาช่วยชีวิตไว้ได้ทัน
ม้าสายพันธุ์ Shire ซึ่งมีต้นกำเนิดจากประเทศอังกฤษ เป็นม้าที่มีขนาดตัวใหญ่มากจนใช้ลากของได้เลย แต่ด้วยความที่มันมีน้ำหนักตัวมาก หากว่ามันนอนล้มพับอยู่เป็นเวลานานก็อาจจะทำให้อวัยวะทำงานล้มเหลวจนตายได้ เจ้า Beatrice ม้าจากฟาร์มแห่งหนึ่งในเมืองบาธ เขตซัมเมอร์เซต ประเทศอังกฤษ ก็ล้มป่วยเช่นกัน เจ้าของพยายามช่วยให้มันยืนขึ้นยังไงก็ทำไม่สำเร็จสักที ในขณะที่พวกเขาถอดใจจะช่วยมันแล้วม้าเพื่อนซี้ของมันกลับช่วยให้มันยืนขึ้นได้อย่างไม่น่าเชื่อ เจ้า Beatrice ที่นอนป่วยอยู่ Donald MacIntyre และภรรยาของเขา Jane Lipington เป็นเจ้าของของ Beatrice พวกเขาเจอมันนอนล้มพับอยู่เนื่องจากมันปวดช่วงท้องมากจนลุกขึ้นไม่ไหว แต่หากปล่อยมันนอนอยู่อย่างนั้นคงไม่ดีแน่ พวกเขาและคนงานในฟาร์ม 4 คนจึงใช้เวลาเกือบ 6 ชั่วโมงพยายามพยุงม้าใหญ่ที่หนักกว่า 1 ตัน (1,000 กิโลกรัม) ให้มันยืนขึ้นให้ได้ แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จ แม้ว่าพวกเขาจะใช้รถแทร็คเตอร์ลากมันให้ยืนขึ้นมาก็แล้ว เจ้าม้าก็ยังไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้อยู่ดี คลิปวิดีโอ (หากดูไม่ได้คลิก ที่นี่) เมื่อดูจากอัตราการเต้นของหัวใจและความดันเลือดของมันที่พุ่งสูงจนเกือบถึงขีดอันตรายแล้ว พวกเขาจึงเริ่มทำใจว่าคงไม่สามารถช่วยมันได้แล้วล่ะ แล้วก็เริ่มโทรแจ้งสัตว์แพทย์ให้เตรียมจัดการกับมันทันที ตอนนั้นเองคนงานก็นึกขึ้นได้ว่าต้องปล่อยเจ้า Beau ที่อยู่ในคอกข้างๆ ให้มันออกไปวิ่งเล่นด้วย เขาจึงเปิดประตูคอกให้มัน แต่มันไม่ได้วิ่งออกไปข้างนอกฟาร์มแต่อย่างใด มันกลับวิ่งเข้าไปที่หน้าคอกของ…
-
แบคทีเรียกินเนื้อคร่าชีวิตเด็กชาย หมอพยายามยื้อสุดหนทาง ตัดจนไม่เหลืออะไรให้ตัดแล้ว…
แบคทีเรียนั้นมีอยู่ตามที่ต่างๆ แม้รอบๆ ตัวของพวกเราเองก็มีแบคทีเรียซ่อนอยู่ในที่ที่ไม่ได้รับการดูแลอย่างสะอาดเท่าที่ควร และเมื่อคนเราได้รับแบคทีเรียมากๆ เข้า ก็จะส่งผลกับร่างกายของเรา และมนุษย์เราเองก็ไม่สามารถรับรู้ได้เลยว่าจะมีแบคทีเรียชนิดไหน อยู่ที่ไหนบ้าง และอาจจะโชคร้ายแบบเด็กชายรายนี้ที่ชื่อว่า Liam Flanagan เขาเป็นเพียงหนุ่มน้อยอายุ 8 ปี ที่ดันขี่จักรยานล้มขณะกำลังจะปั่นไปหาครอบครัว ในวันที่ 13 มกราคม 2018 ที่ผ่านมา จากอุบัติเหตุทำให้คันบังคับหรือแฮนด์ของจักรยานนั้นไปเกี่ยวกับ “ต้นขา” ของเขาเข้า จึงต้องถูกนำตัวไปส่งโรงพยาบาลเพื่อทำแผล หลังจากกลับบ้านมาได้ไม่กี่วันเขาพบว่า ที่แผลบนหน้าของเขานั้นเกิดเจ็บปวดและม่วงแดง เหมือนกับว่ามันเริ่มเน่า เข้าจึงถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอีกครั้ง เมื่อแพทย์วินิจฉัยจึงพบว่า เขาเป็น “โรคเนื้อเน่า” ที่เกิดจาก “แบคทีเรียกินเนื้อ” นั่นเอง จากนั้นหนูน้อย Liam จึงเข้ารับการรักษาโดยการผ่าตัดเนื้อออกโดย 3 โรงพยาบาลด้วยกัน แต่แบคทีเรียตัวร้ายกลับทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ “พวกเขาตัดเนื้อของ Liam ออกชิ้นแล้วชิ้นเล่า” Scott Hinkle พ่อบุญธรรมของ Liam กล่าว Sara Hebard แม่ของ Liam กล่าวว่า “เนื้อขาขวาถูกตัดออกเกือบทั้งหมด แต่ก็ทำได้แค่ตัดและก็หวังว่ามันจะหาย…
-
หญิงสาวป่วยมะเร็งวัย 27 ปีเขียนจดหมายล้ำค่า บอกเล่าบทเรียนของชีวิต ก่อนเธอจะจากไป…
ช่วงอายุ 20-30 ปี คงถือได้ว่าเป็นช่วงที่เราใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการเล่าเรียนหนังสือ เริ่มต้นงานที่ตนเองสนใจ ไต่เต้าตำแหน่งในสายงาน ออกไปท่องเที่ยวและใช้ชีวิต หรือสังสรรค์กับหมู่เพื่อน ซึ่งในวัยนี้เราจะทำอะไรก็ได้ที่ใจนึกเพราะคิดว่ายังมีเวลาอีกมากในชีวิต แต่แท้จริงแล้ว การที่เราอายุยังน้อย ไม่ได้หมายความว่าเรายังเหลือเวลาในชีวิตอีกมาก มีคนหลายคนที่ต้องจากโลกนี้ไปทั้งที่อายุยังน้อยอยู่ Holly Butcher เองก็เป็นคนหนึ่งในนั้นเช่นกัน เธอจึงอยากบอกให้ทุกคนใช้ชีวิตให้คุ้มค่าไม่ว่าคุณจะมีอายุเท่าไรก็ตาม Holly Butcher Butcher เป็นหญิงสาวที่อาศัยอยู่ในเมืองกราฟตัน รัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย เธอป่วยเป็นโรค Ewing’s sacroma ซึ่งเป็นมะเร็งกระดูกชนิดหนึ่งที่มักพบในคนอายุน้อย เมื่อต้นปีที่ผ่านมานี้ เธอก็เสียชีวิตไปด้วยวัยเพียง 27 ปีเท่านั้น ก่อนหน้าที่เธอจะเสียชีวิต เธอใช้เวลาหลายเดือนเพื่อนั่งทบทวนสิ่งต่างๆ ในชีวิต และเตรียมพร้อมรับความตายที่กำลังจะมาถึง ในวันที่ 3 มกราคมที่ผ่านมา เธอจึงได้เขียนบทเรียนในชีวิตที่เธอได้เรียนรู็ โพสต์ลงในเฟสบุ๊กของเธอ เพื่อเป็นข้อคิดเตือนใจให้หลายๆ คนได้นำไปปรับใช้กับชีวิตของตน จะได้มองเห็นคุณค่าของสิ่งต่างๆ ในชีวิตมากขึ้น โดยมีใจความบางส่วนดังนี้ “ฉันอยากให้ทุกคนหยุดกังวลกับเรื่องยิบย่อยในชีวิต และคิดให้ได้ว่าเราทุกคนล้วนมีจุดจบเหมือนกันหมด ทุกคนจะได้ใช้เวลาทุกวินาทีอย่างมีค่า ถ้ามองข้ามเรื่องแย่ๆ ในชีวิตไป” “ในเวลาที่คุณชอบบ่นถึงเรื่องเล็กๆ…
-
คุณพ่อตัดสินใจ ‘โกนหัว’ ตัวเอง หลังลูกสาวผู้ป่วยเป็น ‘โรคผมร่วง’ และเกลียดตัวเองที่ไม่มีผม
ความรักในโลกนี้ คงไม่มีรักไหนที่ยิ่งใหญ่ไปกว่าความรักจากพ่อแม่อีกแล้ว เพราะพวกเขาคือคนที่รักเรามากกว่ารักตัวเองซะอีก และยังเป็นคนที่คอยปกป้องเราทั้งร่างกายและความรู้สึก อย่างเรื่องราวสุดประทับใจของครอบครัวแสนอบอุ่นนี้ ที่เป็นเผยให้เห็นความรักของพ่อที่มีต่อลูก จนคุณเองก็สัมผัสถึงความรักนั้นได้ Chelsea Sylvaria ผู้เป็นแม่เขียนในเฟสบุ๊กว่า ” Riley(ลูกสาว) ถามฉันว่า ‘แม่รักตัวเองมั้ย?’ ฉันตอบไปว่า ‘รักสิ’ แล้วฉันก็ถามเธอกลับว่า ‘แล้วลูกล่ะ รักตัวเองมั้ย?’ เธอตอบว่า ‘ไม่…หนูไม่รักตัวเอง เพราะหนูไม่มีผม’” คำตอบนั้นทำเอาผู้เป็นแม่จุกจนพูดไม่ออก เธอไม่เคยรู้เลยว่านั่นเป็นความรู้สึกจากใจของลูกสาวสุดที่รักที่ป่วยเป็นโรคผมร่วง ต่อมา Sylvaria นำเรื่องนี้ไปบอกกับสามี Dave… เขาจึงมาคุยกับลูกสาวอีกครั้ง เพราะนั่นเป็นความรู้สึกของลูกที่ไม่ควรปล่อยผ่านโดยไม่ทำอะไร Dave เข้าไปหาลูกสาวและนั่งคุยกับเธอเกี่ยวกับสิ่งที่เธอเพิ่งบอกกับแม่ไป ซึ่งช่วงเวลาพ่อลูกคุยกันนี้ ผู้เป็นแม่ได้บันทึกวิดีโอเอาไว้ คุณพ่อถามลูกสาวว่า “ลูกรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ หรือแค่พูดไปอย่างนั้น?” เธอตอบว่า “แค่พูดไปอย่างนั้นเอง” แต่เขารู้ดีว่าลูกสาวคงจะรู้สึกเสียใจจริงๆ ที่ไม่มีผม เขาจึงบอกกับเธอว่า “ลูกเป็นเด็กผู้หญิงที่พิเศษที่สุดในโลกนี้ ผมไม่สำคัญหรอก ใช่มั้ย? พ่อรู้ว่าลูกอยากมีผม แต่ไม่ว่าลูกจะเป็นยังไงพ่อก็ยังรักหนูเหมือนเดิมนะ” หลังจากคุยเรื่องนี้กันเสร็จ คุณพ่อก็หันไป Riley ว่า “อยากให้พ่อโกนผมด้วยมั้ย?” เด็กสาวยิ้มออกมาทันที แม้จะไม่มีคำตอบ แต่คุณพ่อก็รู้ดีว่าเธอหมายถึงอะไร แล้วพ่อลูกก็เดินเข้าไปในห้องน้ำด้วยกัน จากนั้น Dave ก็เริ่มโกนผมของตัวเองออก…
-
เด็กน้อยป่วยเป็นโรคประหลาด ไม่สามารถทานอะไรได้เลยนอกเสียจาก “ลูกพีช”
เมื่อเรากินอะไรสักอย่างติดต่อกันเป็นเวลานาน ย่อมจะต้องรู้สึกเบื่ออาหารเป็นธรรมดา เราจึงพยายามมองหามื้ออาหารที่แตกต่างกันในแต่ละวัน เพื่อที่จะได้ลิ้มรสอาหารที่ไม่ซ้ำซาก แต่บางคนกลับโชคร้าย เพราะเกิดมาพร้อมกับอาการแพ้อาหาร จึงไม่มีโอกาสได้ลองลิ้มรสชาติของอาหารเหล่านั้น แต่คงไม่มีใครโชคร้ายเท่ากับเด็กคนนี้แล้วล่ะ เพราะเขาไม่สามารถกินอาหารอะไรได้เลย ยกเว้นเพียงลูกพีชสดเท่านั้น Micah เด็กน้อยคนนี้ชื่อว่า Micah ขณะนี้เขาอายุเพียง 2 ปีเท่านั้น ย้อนกลับไปเมื่อเขาอายุได้ 6 เดือน แพทย์ตรวจพบว่าเขาป่วยเป็นโรค Food-protein Induced Enterocolitis Syndrome หรือเรียกสั้นๆว่า FPIEs ซึ่งทำให้เขาแพ้อาหารหลายชนิด อาการแพ้อาหารนี้รุนแรง และอาจทำให้เขาท้องเสีย อาเจียน ผิวซีด และมีเข้าสู่ภาวะช็อกได้เลย คุณแม่ของเขาเล่าให้ฟังว่า “ครั้งแรกที่เขาช็อก พวกเราทำอะไรไม่ถูกเลย ถึงเราจะขอความช่วยเหลือจาก 911 แล้ว พวกเขาก็ไม่รู้วิธีรับมือกับ FPIEs เราจึงทำได้เพียงกอดเขาไว้ และร้องไห้กันทั้งคืน” นอกจากนี้เขายังป่วยเป็นโรคอี่นๆ อีกหลายอย่างเช่น DiGeorge Syndrome และ 15Q13.3 Micro-Duplication พ่อและแม่ของเขาจึงต้องพาเขาไปพบแพทย์เฉพาะทางทุกเดือน แน่นอนว่าค่าใช้จ่ายก็สูงตามไปด้วย นอกจากค่ารักษาของน้อง Micah…
-
5 โรคประหลาด ที่อาจทำให้คุณกลายเป็น ‘ยอดมนุษย์’ เข้าทีม X-Men ได้เลย
บางครั้งความผิดปรกติของร่างกาย ก็อาจจะทำให้เราค้นพบความสามารถพิเศษของตัวเอง อย่างเช่นการห่อลิ้น หรือการที่คุณสามารถงอนิ้วโป้งได้มากถึง 180 องศา แต่ทว่านอกเหนือจากความสามารถพิเศษเหล่านี้แล้ว ในทางการแพทย์นั้นยังมีอาการแปลกๆ อีกมากมายที่จะทำให้เรากลายเป็นยอดมนุษย์ได้เลยทีเดียว อย่างเช่นอาการเหล่านี้… 1. มีความจำเป็นเลิศ สำหรับผู้ป่วยโรค Hyperthymesia นั้นจะสามารถ ที่จดจำรายละเอียดของเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวเองได้เป็นอย่างดี โดยผู้ป่วยสามารถที่จะบอกรายละเอียดทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับชีวิตของเขาที่ผ่านมาตั้งแต่วัยเด็กจนถึงปัจจุบันได้ทั้งหมด นอกจากนี้พวกเขายังสามารถจำข้อความทุกข้อความจากหนังสือที่อ่านมานานหลายปีได้อีกด้วย!! 2. ไร้ความรู้สึกเจ็บปวด โรคไร้ความรู้สึกเจ็บปวดนี้ทางการแพทย์เรียกว่า Congenital analgesia โดยผู้ที่ป่วยด้วยอาการนี้จะไม่มีความรู้สึกเจ็บปวดใดๆ ทางร่างกายเลย จากรายงานพบว่าชาวสวีเดนป่วยเป็นโรคที่ว่านี้มากถึง 40 รายเลยทีเดียว 3. เก่งในหลายๆ ด้าน โรค Savant syndrome นั้นเป็นหนึ่งในหนึ่งในความผิดปรกติของระบบประสาทที่พบได้ยากมากๆ โดยผู้ที่มีอาการดังกล่าวนั้นจะมีความสามารถในรอบๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นการเล่นดนตรี การคิดเลข การวาดภาพ หรือแม้แต่การสร้างโมเดลสามมิติ คนเหล่านี้ก็สามารถทำได้ดีทุกอย่างเลยทีเดียว 4. ทนความเย็นได้ โรคประหลาดนี้เกิดขึ้นกับหนุ่มชาวดัตช์ผู้หนึ่งนามว่า Wim Hof โดยชายคนนี้สามารถเดินขึ้นยอดเขา Mont Blanc ในสภาพอากาศแสนหนาวเหน็บและเต็มไปด้วยน้ำแข็ง โดยที่ใส่เพียงแค่กางเกงขาสั้นเพียงตัวเดียวเท่านั้น และที่สำคัญเขายังสามารถลงไปว่ายในน้ำแข็งและอยู่ในนั้นได้นานถึง 120 นาทีเลยอีกด้วย!! 5. ไม่กลัวอันตรายใดๆ โรค Urbach–Wiethe หนึ่งในลักษณะทางพันธุกรรมที่แปลกๆ…
-
คุณแม่เตือนชาวเน็ต หยุดส่งลูกป่วยไปโรงเรียนเสียที เพราะอาจเกิดอันตรายกับเด็กคนอื่นๆ ได้!
ในตอนที่เด็กไม่สบายพ่อแม่บางคนจะให้ลูกได้นอนอยู่บ้านพักผ่อน แต่กับพ่อแม่บางคนกลับปล่อยให้ลูกได้ไปโรงเรียนตามปกติ ซึ่งการปล่อยให้เด็กที่ป่วยอยู่ไปโรงเรียนเล่นกับเเพื่อนๆ ก็อาจทำให้เด็กคนอื่นๆ ติดเชื้อได้ และเรื่องนี้ก็เป็นสิ่งที่ทำให้คุณแม่ชาวแคนาดาที่มีชื่อว่า Maria Jordan MacKeigan รู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก เธอคนนี้ได้โพสต์ลงในนเฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2017 เพื่ออธิบายความรู้สึกของตัวเอง หลังจากที่ลูกสาวผู้ป่วยเป็นออทิสติกของเธอ Jordan Grace ได้ไปติดไข้หวัดมาจากเพื่อนในโรงเรียนและด้วยความที่เธอมีภูมิคุ้มกันต่ำจึงทำให้เด็กน้อยถึงกับต้องเข้าโรงพยาบาลในทันที โพสต์ของ Maria บอกว่าลูกสาวของเธอได้ติดเชื้อหวัดมาจากเด็กคนอื่นๆ ในโรงเรียน ทำให้ลูกสาวผู้ป่วยเป็นออทิสติกและมีภูมิคุ้มกันต่ำ จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล Grace ลูกสาวของเธอที่ได้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล เธอรู้สึกไม่ดีเวลาที่พ่อแม่คนอื่นๆ ปล่อยให้ลูกที่กำลังป่วยของตนเองมาโรงเรียน เพียงเพราะว่ามีงานหลายอย่างต้องทำ แทนที่จะดูแลลูกๆ ของตัวเองเป็นอันดับแรก เพราะเด็กต้องการการเอาใจใส่และความอบอุ่นจากผู้ปกครอง อย่าลืมว่าโรงเรียนไม่ใช่สถานดูแลเด็ก อีกอย่างที่เธอบอกให้ทุกคนได้คำนึงถึงก็คือการปล่อยให้เด็กป่วยมาโรงเรียน เท่ากับว่าเป็นการทำให้เด็กคนอื่นๆ ต้องเสี่ยงกับอาการป่วยนั้นๆ ไปด้วย และอาจเป็นหนักเหมือนกับลูกสาวของเธอเลยก็ได้ ลูกสาวที่น่ารักของเธอป่วยเป็นออทิสติกและมีภูมิคุ้มกันต่ำตั้งแต่กำเนิด . คนเป็นแม่ย่อมรักลูกของตัวเอง นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เธอออกมาโพสต์แบบนี้และต้องการให้พ่อแม่ทุกคนหยุดความคิดที่จะปล่อยให้ลูกที่กำลังป่วยไปโรงเรียน ต้องย้ำว่าลูกสาวของเธอในตอนแรกมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงดี แต่เข้าโรงพยาบาลหลังจากได้รับเชื้อหวัดจากเด็กในโรงเรียน หลายๆ คนที่เข้ามาอ่านโพสต์ของเธอก็รู้สึกเห็นด้วยกับความคิดนี้ …
-
ชีวิตอันยากลำบากของ ‘เด็กอ้วนที่สุดในโลก’ อายุเพียง 10 เดือนแต่หนักเท่าเด็ก 9 ขวบ!!
คำว่า “ที่สุดของโลก” หลายคนเข้าใจว่ามันคงมีแต่เรื่องเจ๋งๆ เช่นวิ่งเร็วที่สุดในโลกหรือกระโดดได้สูงที่สุดในโลก แต่ในความเป็นจริงการเป็นที่สุดของบางเรื่องอาจตามมาด้วยผลกระทบที่เลวร้าย เหมือนกับเด็กน้อยคนนี้ที่ต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบากเพราะเขาเป็นเด็กที่อ้วนที่สุดในโลก เด็กน้อยคนนี้มีชื่อว่า Luis Manuel อาศัยอยู่แถบชายฝั่งแปซิฟิก รัฐโกลีมา ประเทศเม็กซิโก เด็กชายคนนี้มีอายุเพียงแค่ 10 เดือนแต่กลับมีน้ำหนักมากถึง 28 กิโลกรัม!! เทียบเท่ากับเด็ก 9 ขวบเลยทีเดียว เด็กน้อยที่อ้วนที่สุดในโลกวัย 10 เดือนแต่หนักเท่าเด็ก 9 ขวบ ในตอนแรก Isabel Pantoja แม่ของเด็กคิดว่าที่ลูกเธอมีน้ำหนักมากกว่าปกติขนาดนี้เป็นเพราะว่าน้ำนมจากอกของเธอมีคุณภาพดีเท่านั้นเอง เด็กคนนี้เกิดมามีน้ำหนัก 3.5 กิโลกรัม พอๆ กับเด็กทั่วๆ ไป พอผ่านไป 2 เดือนเขาก็มีน้ำหนัก 10 กิโลกรัมจนกระทั่งมีกลายเป็นเด็กที่อ้วนที่สุดในโลกในปัจจุบัน ซึ่งเขามีขนาดตัวที่ใหญ่กว่า Mario พี่ชายอายุเกือบ 3 ขวบของเขาซะอีก ร่างกายของเด็กมีขนาดใหญ่กว่าเด็กที่โตกว่าซะอีก ด้วยความผิดปกติที่เห็นได้ชัดขนาดนี้ครอบครัวจึงได้พาเขาไปตรวจที่โรงพยาบาลท้องถิ่น แต่หมอกลับไม่สามารถให้คำตอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ แพทย์สันนิษฐานว่าสิ่งนี้เกิดขึ้นจากโรคที่มีชื่อว่า Prader-Willi Syndrome…
-
คุณแม่เผยภาพอันน่าเศร้าของลูกชายผู้มีบุคลิกภาพแบบก้ำกึ่ง จนถึงกับพยายามฆ่าตัวตาย
ผู้ป่วยที่มีความผิดปกติทางบุคลิกภาพแบบก้ำกึ่งจะมีลักษณะการแสดงออกทางอารมณ์ที่แตกต่างไปจากคนปกติ โมโหร้าย ฉุนเฉียวง่ายและแสดงออกมาเป็นการใช้ความรุนแรง หรือหนักกว่านั้นพวกเขาอาจถึงกับตัดสินใจฆ่าตัวตายเช่นเดียวกับเด็กหนุ่มคนนี้ เมื่อคุณแม่ที่ชื่อว่า Helen Barnes ได้แชร์เรื่องราวของลูกชายเธอ Jack ผู้ที่มีอาการผิดปกติดังกล่าว และได้พยายามฆ่าตัวตายในวันที่ 4 มีนาคมที่ผ่านมา ความผิดปกติของเขาเริ่มต้นขึ้นในเมือง Pembrokeshire ประเทศเวลส์ ตอนที่เขาอายุได้ 13 ปี ในตอนนั้นเด็กหนุ่มต้องเข้ารับการบำบัดเพื่อให้สามารถจัดการกับความโกรธของตัวเอง Helen และลูกชายของเธอ Jack เวลาผ่านไปจนกระทั่งอายุได้ 15 ปีเขาก็เริ่มมีการแสดงออกที่ค่อนข้างรุนแรง หากรู้สึกหงุดหงิดเขาก็จะทำลายข้าวของ กรีดแขนตัวเอง ต่อยกระจกหรือกำแพง ทั้งหมดนั้นทำให้แม่ของเขารู้สึกเป็นห่วงและกังวลอย่างมาก และถึงแม้เขาจะมีเพื่อนบ้างเล็กน้อย แต่เด็กหนุ่มก็เอาแต่เก็บตัวอยู่ในห้องเล่นเกม ไม่ได้ออกไปเที่ยวกับเพื่อนเหมือนเด็กๆ ในวัยเดียวกัน ในตอนนั้นความผิดปกติของเขารุนแรงถึงขั้นตัดสินใจฆ่าตัวตาย แต่โชคดีที่ช่วยเขาไว้ได้ทันก่อนที่คุณหมอจะวินิจฉัยว่าสิ่งที่เขาเป็นอยู่นี้เป็นผลมาจากความผิดปกติของบุคลิกภาพ Helen เล่าว่า “ครั้งแรกที่โรงเรียนโทรมาบอกว่าเขาต่อยกำแพง ฉันรู้สึกว่านั่นไม่ใช่เขาเพราะเขาเป็นเด็กดีมาตลอด เอาใจใส่ดูแลคนใกล้ตัวโดยเฉพาะน้องสาวฝาแฝด Lucy และ Jordan Arthur น้องชายอีกคน” หลังจากนั้นมาเด็กหนุ่มได้เข้ารับการบำบัดเกี่ยวกับพฤติกรรมและการพูดคุย รวมถึงการบำบัดกันเป็นกลุ่มทุกๆ เดือน พออายุ 18…
-
หญิงสาวผู้ป่วยเป็นโรคจำได้ทุกอย่าง เปิดเผยความรู้สึกแรกหลังจากที่มีความสามารถนี้
เราแทบทุกคนไม่สามารถจำได้ว่าตอนเป็นเด็กเรารู้สึกอย่างไรหรือมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง สิ่งนั้นเป็นไปตามธรรมชาติของมนุษย์ที่เมื่อเราใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ ความทรงจำเก่าๆ ก็จะยิ่งเลือนรางจางหายไปทุกที แต่สิ่งที่ว่ามานั้นกลับไม่ได้เกิดขึ้นกับหญิงสาวที่มีชื่อว่า Rebecca Sharrock ผู้ป่วยเป็นโรค Highly Superior Autobiographical Memory (หรือที่เรียกว่า HSAM) ทำให้เธอสามารถจำเหตุการณ์ในชีวิตของเธอได้แทบจะทั้งหมด แม้แต่รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ โรค HSAM เรียกได้ว่าหายากมากๆ มีเพียงไม่ถึง 100 คนบนโลก โดยผู้ป่วยสามารถจดจำความรู้สึกหรือสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเองได้ แต่หากเป็นเรื่องอื่นๆ หรือของคนรอบข้างความจำก็จะมีความเลือนรางอยู่เหมือนคนทั่วไป ซึ่งโรคดังกล่าวยังคงไม่สามารถหาคำตอบได้ว่าเกิดจากอะไร ในกรณีตัวอย่างของเธอคนนี้ที่ิอาศัยอยู่ในรัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย แม้ว่าจะไม่สามารถจำวันแรกที่ตัวเองลืมตาดูโลกได้ แต่เธอสามารถจดจำทุกอย่าง ทั้งความรู้สึก ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นกับตัวเอง หรือแม้กระทั่งรสชาติอาหาร ซึ่งเธอจำได้ตั้งแต่ตอนที่ตัวเองอายุเพียงแค่ 12 วันเท่านั้น เธอสามารถจำความรู้สึกของตัวเองในตอนที่อายุเพียงแค่ 12 วันได้ เธอเล่าว่า “ฉันจำได้ว่าตอนนั้นฉันน่าจะนอนอยู่บนเปลในโรงพยาบาล และตอนที่ได้อยู่ในห้องนอนก็มีความรู้สึกหลงใหลไปกับพัดลมที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ แต่ก็ไม่สามารถลุกออกไปดูและทำความรู้จักกับมันได้” เล่าต่ออีกว่าตอนที่ยังเป็นเด็กตัวเล็กๆ จะพูดหรือใช้เครื่องมือต่างๆ ก็ไม่ได้ ในตอนนั้นเธอรู้สึกสนใจและสงสัยสิ่งรอบตัวมากกว่าปัจจุบันหลายเท่าเลย แสดงให้เห็นเลยว่าเธอสามารถจดจำได้กระทั่งว่าตอนนั้นเธอรู้สึกอย่างไร คนทั่วไปแค่คิดถึงตอนอายุ…
-
10 เรื่องจริงเกี่ยวกับ ‘การผ่าตัด & ศัลยกรรม’ จากยุคกลาง แหม๊… มันช่างน่ารักสดใสซะจริ๊งง!!
ถ้าพูดถึงการเข้ารับการผ่าตัด & ศัลยกรรมในสมัยนี้ หลายคนอาจจะไม่รู้สึกกลัว เพราะไหนจะมีทั้งยาชา ยาสลบ แถมยังมีกรรมวิธีอีกมากมายที่ช่วยให้อะไรๆ ก็เป็นไปได้ง่ายขึ้น แต่คราวนี้เราจะพาไปรู้จักกับ 10 ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการผ่าตัดทางการแพทย์ในสมัยยุคกลาง ซึ่งเป็นยุคสมัยที่เทคโนโลยีทางการแพทย์ยังไม่ก้าวหน้ามากนัก และการจะรักษาโรคแต่ละอย่างมันก็ช่างแหม๊… ดูน่าลิ้มลองซะจริง!! 1. การผ่าตัดในยุคกลางมีแต่ความเจ็บปวด เจ็บปวด และเจ็บปวด ไม่มีใครกล้าปฏิเสธว่าการผ่าตัดในยุคกลางนั้นเป็นเรื่องที่ทารุนแบบสุด (ถึงขั้นที่คุณอาจเสียชีวิตจากความเจ็บปวดได้เลย) ไม่ว่าจะสาเหตุมาจากความรู้ความเข้าใจในเรื่องกายวิภาคของมนุษย์ที่ยังไม่มากพอ หรือจะเป็นเครื่องมือทางการแพทย์ต่างๆ ที่ยังไม่เอื้ออำนวย ที่สำคัญ ในสมัยนั้นผู้ที่รับหน้าที่เป็นหมอส่วนใหญ่แล้วจะมาจากอาชีพบาทหลวงมาก่อน และส่วนใหญ่จะใช้ตำราการแพทย์จากฝั่งอาหรับเป็นหลัก จนกระทั่งในปี 1215 พระสันตปาปาได้ประกาศให้บาทหลวงห้ามยุ่งเกี่ยวกับการแพทย์ และเปิดโอกาสให้เป็นพื้นที่ของคนที่ตั้งใจศึกษาด้านนี้จริงๆ แต่ถึงกระนั้นการผ่าตัดก็ยังไม่ใช่เรื่องทั่วไปเหมือนสมัยนี้อยู่ดี 2. ยาชา/ยาสลบ ในยุคกลางจะใช้สิ่งที่เรียกว่า ‘Dwale’ ชีวิตของผู้ป่วยที่ต้องเข้ารับการผ่าตัดในยุคกลางค่อนข้างจะแขวนอยู่บนเส้นด้าย ในสมัยนั้นมีการใช้ยาชาที่เรียกว่า ‘Dwale’ ซึ่งเกิดจากการผสมสารต่างๆ ที่สกัดได้จากธรรมชาติเข้าไว้ด้วยกัน แต่ก็ใช่ว่าการผ่าตัดจะเป็นไปอย่างเรียบง่าย เพราะเจ้า Dwale นี่แหละ บางทีก็สร้างปัญหาให้ตัวหมอเอง เนื่องจากบางครั้งมันก็แรงมากซะจนทำให้ผู้ป่วยหลับสนิทจนไม่ฟื้นขึ้นมาอีกเลย… 3. วิธีการรักษาต้อกระจกสุดโหด…!! หากใครเป็นโรคต้อกระจกในช่วงยุคกลาง…
-
ชายแก่ผู้ป่วยเป็นโรคประหลาดทำให้เขาเก็บสะสมขยะและของทุกชิ้นเอาไว้จนล้นบ้าน
คนเก็บขยะเป็นเหมือนกับอาชีพที่เราสามารถพบเห็นได้ทั่วไป ส่วนใหญ่พวกเขาก็จะนำไปขายเพื่อเอาเงินไปทำอย่างอื่น แต่ไม่ใช่กับชายคนนี้เพราะเขาเก็บขยะทุกชิ้นเอามาไว้ในบ้านของตัวเองซะอย่างนั้น ชายแก่วัย 60 ปีที่ชื่อว่า Jean เขาป่วยเป็นโรคที่ชื่อว่า Diogenes Syndrome ทำให้เขาไม่สนใจที่จะดูแลตัวเองเลยและยังมีพฤติกรรมประหลาดอีกอย่างคือ เขาจะออกไปเก็บขยะมาไว้ที่บ้านของตัวเองทุกวัน เพราะโรคประหลาดหายากนี้ทำให้เขาต้องใช้ชีวิตในแบบที่ไม่เหมือนใคร กองขยะที่เก็บเอาไว้จนแทบไม่เหลือพื้นที่ทางเดิน ชายคนนี้เคยเป็นช่างเทคนิคงานก่อสร้างมาก่อน จนกระทั่งปี 2002 เขาได้เกษียณตัวเองและออกมาประทังชีวิตด้วยของที่เก็บได้จากถังขยะ แต่ก็ไม่ใช่ว่าเขาไม่มีเงินเลย เพียงแต่ว่าเขาไม่ได้นำมรดกที่ได้มาใช้จ่ายในชีวิตประจำวันเท่านั้นเอง ในทุกคืนเขาจะออกบ้านไปเก็บขยะมาเรื่อยๆ โดยไม่สนว่าชีวิตของตัวเองจะเป็นอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นข้าวของเครื่องใช้อะไรก็ตามเขาจะนำกลับไปด้วยเสมอ หรือแม้แต่อาหารที่ไม่ต้องเสียเงินเลยซักบาทก็อิ่มท้องได้ หากปล่อยให้เขาเก็บทุกอย่างมาไว้ในบ้านไปเรื่อยๆ แบบนี้มีหวังคงได้จมกองขยะตายแน่ๆ ทางรัฐบาลจึงบังคับให้มีการเก็บกวาดบ้านปีละหนึ่งครั้งเพื่อป้องกันในเรื่องของสุขภาพและความปลอดภัย โดยการทำความสะอาดทุกครั้งชายแก่ต้องรับผิดชอบเรื่องค่าใช้จ่ายด้วยตัวเอง เขาต้องจ่ายเงินให้คนที่เข้ามาทำความสะอาดให้ด้วยตัวเอง รัฐบาลบังคับให้ทำความสะอาดเพื่อสุขภาพและความปลอดภัยในการใช้ชีวิต พฤติกรรมแปลกๆ นี้ทำให้ช่างภาพชาวฝรั่งเศส Arnaud Chochon สนใจเข้ามาเก็บภาพการใช้ชีวิตของชายแก่ ช่างภาพคนนี้ใช้เวลากว่า 3 เดือนในการขอให้ชายแก่อนุญาตให้เขาเข้าบ้าน หลังจากนั้นการตามเก็บภาพต่างๆ ก็ได้เริ่มต้นขึ้น เศษอาหารที่กินไปทุกอย่างถูกเก็บเอาไว้ ไม่ได้นำออกไปทิ้ง ประตูที่ถูกปิดตายด้วยกองขยะขนาดมหึมา…
-
เจ้าหมาตาบอด Smiley ผู้ช่วยบำบัดรักษาเด็กๆ ได้จากไปอย่างสงบด้วยโรคมะเร็ง
หลายคนอาจต้องเกิดมามีความผิดปกติทางร่างกายจนรู้สึกไม่อยากก้าวเดินต่อไป ถึงอย่างไรเราก็ต้องไม่ย่อท้อและใช้ทั้งชีวิตให้มีความสุขเหมือนกับเจ้าหมาตัวนี้ นี่เป็นเรื่องราวอันน่าเศร้าของสุนัขที่ชื่อว่า Smiley ที่ได้จากไปอย่างสงบเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2017 หลังจากที่ต่อสู้กับโรคมะเร็งมาอย่างยาวนาน น้องหมาโกลเด้นรีทรีฟเวอร์ตัวนี้ต้องเกิดมาพร้อมกับความพิการไม่มีดวงตาทั้งสองข้าง แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังคงมีความสุขได้จากความผิดปกติหายากที่ทำให้ฟันมีขนาดใหญ่กว่าปกติจนเหมือนกับว่ามันยิ้มอยู่ตลอดเวลา แม้เกิดมาไม่มีดวงตาจนต้องถูกเย็บปิดเอาไว้เพื่อป้องกันการติดเชื้อ แต่เจ้า Smiley ก็ยังคงยิ้มอยู่เสมอ ชีวิตของมันเริ่มขึ้นในศูนย์ดูแลลูกสัตว์ก่อนที่ Joanne George จะมารับมันไปเลี้ยงในตอนที่อายุได้ 2 ขวบ หลังจากนั้นมันก็ได้ออกช่วยเหลือผู้คนจำนวนมาก เจ้าหมาจะเดินทางไปตามโรงพยาบาล สถานพักฟื้นหรือโรงเรียนเพื่อไปให้กำลังใจเหล่าคนไข้ที่ต้องอยู่ในช่วงเวลาอันย่ำแย่ ให้พวกเขาสามารถกลับมายิ้มได้อีกครั้ง Joanne ที่มอบความรักให้กับมันมาโดยตลอด ด้วยการที่มันต้องเกิดมาผิดปกติแต่ใบหน้าก็ยังคงเต็มไปด้วยความสุข ทำให้ทุกคนที่ได้เจอกับมันกลับมามีกำลังใจกล้าเผชิญกับปัญหากันต่อไป โดยเฉพาะกับเด็กที่ต้องพิการแต่กำเนิดซึ่งน้องหมาสามารถเข้าไปเยียวยาจิตใจพวกเขาได้เป็นอย่างดี คนไข้ที่ชื่อว่า Teddy ผู้ป่วยที่ไม่พูดไม่จาและไม่สื่อสารอะไรกับใครเลยก็ถึงกับทำให้ทุกคนแปลกใจเมื่อเขายิ้มออกมาเป็นครั้งแรกขณะที่ได้เจอกับ Smiley เหมือนกับว่ามันเกิดมาเพื่อมอบความสุขให้กับทุกคนเลยจริงๆ ใบหน้าที่ช่วยเยียวยาจิตใจให้กับทุกคน แต่เมื่อเดือนกรกฎาคมเจ้าของของมันก็ได้โพสต์ข่าวร้ายลงไปในเฟซบุ๊ก เมื่อมีการตรวจพบมะเร็งในตับและกระเพาะของเจ้าหมา นั่นหมายความว่ามันจะใช้ชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน การเดินทางเพื่อช่วยเหลือผู้คนมาตลอด 12 ปีกำลังจะจบลงอย่างน่าเศร้า ในตอนนี้อินสตาแกรมของมันมีคนติดตามมากกว่า 200,000 คนแล้ว ซึ่งล่าสุดเจ้าของได้โพสต์ภาพขอณะที่เขากำลังจับมือมันเอาไว้พร้อมกับแคปชั่นที่แสนสะเทือนใจว่า “นี่คงเป็นสิ่งเดียวที่พอจะตอบแทนทุกอย่างที่มันทำมาตลอดได้ พรุ่งนี้คงต้องปล่อยให้มันจากไปอย่างสงบหลังจากที่ต่อสู้มาอย่างยากลำบาก”…
-
แม้มะเร็งจะพรากเส้นผมของเธอไป แต่ก็ได้ “เจ้าเหมียว” มาเป็นผมทรงใหม่ที่อบอุ่นเหลือเกิน
หลังจากที่ป่วยด้วยโรคมะเร็งเต้านม หญิงสาวท่านนี้ก็เริ่มที่จะมองหาสิ่งที่จะช่วยดูแลสภาพจิตใจของเธอหลังจากเข้ารับการรักษาด้วยเคมีบำบัด และในที่สุดเธอก็ได้มาพบกับเจ้าเหมียวน้อยตัวนี้ พบกับเรื่องราวอันน่าประทับใจของผู้ใช้งานเว็บไซต์ imgur คุณ MyKittentotoro และเจ้า Totoro เหมียวน้อยเพื่อนซี้ของเธอ ก่อนที่ทั้งสองจะกลายมาเป็นเพื่อนซี้กัน เจ้าเหมียวน้อยตัวนี้ถูกช่วยชีวิตมาจากยุ้งฉางในฟาร์มของเธอ เมื่อประมาณช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา “เรามีแมวที่เลี้ยงไว้ในบ้านอยู่แล้ว 2 ตัว แต่เราก็รับมันเขามาเป็นสมาชิกใหม่เพราะว่าเราชอบแมวมากๆ “ หญิงสาวกล่าว ในตอนที่พบกันครั้งแรกหญิงสาวและคู่หมั้นของเธอ ได้ยินเสียงร้องของลูกแมวดังออกมาจากในฟาร์ม จากนั้นพวกเขาจึงตัดสินใจเข้าไปดู แล้วก็พบกับเจ้าเหมียวตัวนั้น ทั้งสองพาเจ้าแมวมาอยู่ด้วย ซึ่งตอนนั้นก็เป็นเวลาเดียวกันกับที่หญิงสาวเริ่มเข้ารับการรักษามะเร็งของเธอ “มันเหมือนเป็นตัวช่วยในการบำบัดให้ฉันเลย ในตอนที่ฉันผมร่วงจากการทำคีโม” เธอกล่าว เจ้า Totoro เข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ของบ้านหลังนี้ หลังจากที่พวกเขาเพิ่งสูญเสียเจ้าเหมียวตัวเก่าไป เมื่อช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ผ่านมา และดูเหมือนว่ามันจะเป็นส่วนเติมเต็มให้กับครอบครัวนี้ได้ดีเลยทีเดียว “มันยอมเข้ามาอยู่ในบ้านของเรา ถึงแม้ว่ามันจะเคยใช้ชีวิตอย่างอิสระภายนอกมากนาน และเจ้าเหมียวทั้งสองตัวของเราก็เข้ากับมันได้ดีเลยทีเดียว แต่ดูเหมือนมันจะสนิทกับเจ้าแมวตัวผู้มากกว่านะ” หญิงสาวกล่าว และดูเหมือนว่าตอนนี้มันเริ่มมีฝีมือในการอ้อนมากขึ้นแล้วหล่ะ!! ทุกๆ วันเจ้าเหมียวจะเข้ามาคลอเคลียกับหญิงสาวและเล่นกับเธออยู่เป็นเวลานาน “เจ้า Totoro ชอบเข้ามาเกาะที่ไหล และอ้อนฉัน แถมยังชอบเข้ามาอยู่ด้วยเวลาฉันนอนอีกด้วย“ หญิงสาวกล่าว และเมื่อเธอต้องเข้ารับการทำคีโมต่อ เจ้าเหมียวก็คอยให้กำลังใจเธอเสมอและอยู่ไม่ห่างจากเธอเลย และทุกๆ คืนเจ้าเหมียวจะนอนบนหมอนของเธอ เพื่อมอบความอบอุ่นให้กับหญิงสาว “ถึงแม้ว่าคีโมจะทำให้ผมฉันร่วงหมด แต่เจ้าเหมียวก็ยังคอยให้ความอบอุ่นกับฉันแทนผมที่ร่วงไป ขอบคุณมากนะเจ้า Totoro ” หญิงสาวกล่าวทิ้งท้าย ที่มา lovemeow
-
ทาสมนุษย์ลงแรงช่วยเหลือ เจ้าเหมียว ‘เอเลี่ยน’ หน้าตาประหลาดให้หายกลับมาเป็นปกติ
ภาพของน้องหมาหรือเจ้าเหมียวจรจัดทั้งหลาย คงเป็นเรื่องธรรมดาที่ทุกคนจะต้องเคยเห็นกันมาบ้าง หากตัวไหนโชคร้ายก็ได้รับบาดเจ็บจากการใช้ชีวิตข้างนอกเพียงลำพังหรือไม่ก็อาจป่วยเป็นโรคอย่างน่าสงสาร ไม่ต่างกับลูกแมวตัวนี้ที่เกิดมาต้องทุกข์ทรมานกับอาการผิดปกติมากมาย เรียกว่า Fading Kitten Syndrome ทำให้มันท้องร่วง ไข้ขึ้นสูง และมีน้ำหนักที่น้อยเอามากๆ อายุ 3 สัปดาห์ หนักเพียงแค่ 215 กรัมเท่านั้น ที่สำคัญคือมันอยู่ในฝูงแมวจรจัดโดยที่ไม่มีแม่คอยดูแลอยู่ใกล้ๆ อาการต่างๆ จึงยิ่งเลวร้ายลงไปอีก แต่โชคดีที่ได้รับการช่วยเหลือในตอนที่เจ้าหน้าที่กำลังวางกับดักเพื่อพาแมวจรจัดไปทำหมัน แต่ตอนนั้นสภาพของมันก็ไม่สู้ดีนัก และมีรอยแผลที่คาดว่าจะเกิดจากการกัดหรือโดนเล็บข่วน อีกด้วย ต่อมา Susan Spaulding หนึ่งในผู้ก่อตั้งกลุ่มลูกแมวแห่งชาติ (องค์กรที่ไม่แสวงหากำไร ในเมืองเกนส์วิลล์ รัฐฟลอริด้า) ตั้งใจอย่างแน่วแน่ที่จะพามันกลับไปดูแล แต่การรักษาและการเลี้ยงดู Gaia แมวน้อยตัวนี้ก็ไม่ได้เป็นไปอย่างง่ายดาย เมื่อการทดสอบและการวินิจฉัยจากสัตวแพทย์ไม่สามารถให้คำตอบได้ว่ามันเป็นอะไร อาการป่วยของมันยังคงมีอยู่ รวมถึงความเฉื่อยช้าที่ไม่ทราบสาเหตุ ถึงอย่างไรก็ต้องขอบคุณความสามารถที่ Susan มี เพราะคือคนที่คอยอบรมคนอื่นๆ ให้ดูแลแมวที่มีอาการเดียวกันกับเจ้า Gaia จึงทำให้เธอมีความคุ้นเคยและสามารถดูแลมันได้อย่างดี รวมถึงการสร้างภูมิคุ้มกันให้ด้วย แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นใน 1 สัปดาห์ต่อมา อาการของมันก็ยังไม่คงที่ เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย และมันก็ยังมีขนที่หลุดลอกออกไปตรงบริเวณใบหน้า ทำให้มันดูเหมือนกับ…
-
สาวป่วยเป็นโรค ‘จิตหลงผิด’ ควบคุมตัวเองไม่ได้ เพราะคิดว่าตัวเองเป็นไดโนเสาร์หรือลิง!?
จะเป็นยังไงถ้าคุณต้องป่วยเป็นอาการทางจิต แล้วรู้สึกว่าตัวเองเป็นไดโนเสาร์หรือไม่ก็สิงมีชีวิตอย่างอื่นตลอดเวลา ซึ่งคุณคงคิดไม่ออกใช่ไหม แต่มันเกิดขึ้นจริงๆ กับหญิงสาวชาวอังกฤษคนหนึ่งแล้วนั่นเอง Lucy Evans หญิงสาววัย 18 ปี จากเมือง Aberystwyth ประเทศเวลส์ ผู้ป่วยเป็นอาการทางจิตขั้นรุนแรง ซึ่งมันส่งผลให้ในบางครั้งเธอจะรู้สึกว่าตัวเองนั้นเป็นไดโนสาร์ทีเร็กซ์ที่ก้าวร้าว หรือบางครั้งก็เป็นลิงจ๋อที่อยู่ในสวนสัตว์แล้วแต่ช่วงเวลา โดยก็ผลคือมันทำให้เธอไม่สามารถควบคุมตัวเองได้เลย เธอบอกว่าอาการของเธอค่อยๆ รุนแรงขึ้น โดยเฉพาะในตอนที่คิดว่าเป็นทีเร็กซ์จะดุมากๆ นานวันเข้าก็แรงขึ้นๆ ซึ่งเธอก็ได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์แล้วว่าเธอป่วยเป็นโรค Anti-NMDA receptor encephalitis ซึ่งหายากมากๆ โดยจะพบแค่ 1 คน จาก 75,000 คนเท่านั้น เธอต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก แต่โชคยังดีที่ที่ปรึึกษาของเธอเคยเจออาการแบบนี้มาก่อนจึงสามารถรับมือได้เป็นอย่างดี รวมถึงแม่ของเธอที่อยู่ใกล้ๆ ตลอดเวลา เธอยังเล่าว่าเธอรู้ตัวว่าเริ่มป่วยครั้งแรกก็ตอนที่เพื่อนบ้านเริ่มเห็นเธออาเจียนและมีอาการหวาดระแวงอย่างต่อเนื่อง โดยในตอนแรกทุกคนก็เริ่มคิดว่าเธอเป็นไบโพล่าร์ แต่ทว่ากลับไม่ได้เป็นอย่างที่ทุกคนคิด เพราะว่าในปี 2017 อาการของเธอก็ยังดำเนินต่อไปและรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนมาถึงปัจจุบัน มีช่วงหนึ่งอาการของเธอกำเริบหนักมากๆ เธอเริ่มมีอาการคลั่งอย่างรุนแรงและควบคุมร่างกายไม่ได้ ร่างกายเริ่มหายใจถี่ขึ้น โดยในตอนแรกเธอถูกส่งไปยังโรงพยาบาล Bronglais Hospital แต่ว่าที่นี่ไม่มีผู้เชี่ยวชาญโรคดังกล่าวอยู่ เธอจึงถูกส่งต่อไปยังโรงพยาบาล Swansea’s Morriston…
-
คุณพ่อเติมฝันให้เด็กๆ ได้สวมบทเป็นซูเปอร์ฮีโร่ หนึ่งวิธีสร้างกำลังใจเพื่อต่อสู้กับโรคร้าย…
ครั้งหนึ่ง Josh Rossi คุณพ่อผู้เป็นช่างกล้องเคยกล่าวเอาไว้ว่า “ฮีโร่ที่แท้จริงไม่ได้อยู่ในหนัง หากแต่เป็นเด็กๆ ที่กำลังต่อสู้กับโรคร้ายในโรงพยาบาลเพื่อชีวิตใหม่ของพวกเขาเอง” และนั่นก็เป็นเหตุผลที่ทำให้เขาตัดสินใจริเริ่มโปรเจคเติมฝันให้เด็กๆ ได้สวมชุดสวมบทบาทเป็นฮีโร่ในดวงใจ เพื่อเป็นกำลังใจให้ต่อสู้กับโรคร้ายกันต่อไป… โดยตอนแรกคุณพ่อได้ถ่ายภาพลูกสาวตัวเอง ที่กำลังต่อสู้กับโรคมะเร็งในธีมของวันเดอร์ วูแมน “หลังจากที่ผมถ่ายภาพให้ลูกสาว ก็มีผู้ปกครองของเด็กคนอื่นๆ ที่ลูกของเขาต้องต่อสู้กับโรคมะเร็งเหมือนลูกของเราได้ติดต่อมาว่าจ้างให้เราถ่ายรูปแนวนั้นให้บ้าง แต่ผมก็เลยอาสาทำให้พวกเขาฟรีนั่นแหละครับ เป็นกำลังใจให้กันและกัน” คุณพ่อให้สัมภาษณ์ โดยคุณพ่อให้เหตุผลว่า เด็กๆ ทุกคนต้องต่อสู้กับการทำคีโม การฉายแสง และพวกเขายังมีรอยยิ้มได้ นี่แหละคือคนที่เข้มแข็งของจริง หลังจากนั้นคุณพ่อก็ได้นัดแนะเด็กๆ ทุกคน พร้อมกับทีมงานคอสตูมที่จะช่วยให้ความฝันของหนูๆ กลายเป็นจริง เอาเป็นว่าเราลองตามไปชมผลงานทีมฮีโร่จากฝั่ง DC โดยฝีมือคุณพ่อที่มีความปรารถนาดีต่อเด็กๆ กันดีกว่า… Aquaman รุ่นจิ๋วก็มานะ ส่วนฉัน Batman จะจัดการมะเร็งร้ายในก็อตแธมให้หมดไป เดอะ แฟลช..!! และพลังการให้กำลังใจที่ไวเหนือสายฟ้า หนุ่มน้อยซุปเปอร์แมนที่มาพร้อมกับทรงผมสุดวินเทจ และสุดท้ายหนุ่มน้อยที่กลายร่างมาเป็นไซบอร์ก (หนึ่งในทีม Justice League)…
-
ชายชราสมองเสื่อม ยังคงฝังใจถึงสมรภูมิเวียดนาม เพื่อนทหารจึงอาสาช่วยปลดประจำการ…
เราคงจะมีความหลังที่ฝังใจเรากันบ้าง ทั้งในเรื่องที่เรารู้สึกอยากเก็บไว้เป็นความทรงจำ หรือแม้แต่เรื่องที่เราอยากลบมันออกไปจากสมอง แต่มันก็ยังคงฝังไว้ในส่วนลึกเองก็เช่นกัน หากเป็นเหตุการณ์ร้ายๆ ถ้าเราคิดถึงมันก็คงจะทำให้เรารู้สึกไม่ดีอย่างแน่นอน อย่างเช่น Lawrence ชายชราชาวอเมริกัน วัย 84 ปีท่านนี่ ตอนวัยหนุ่มเขาได้รับใช้ชาติให้กับประเทศบ้านเกิดนานถึง 20 ปี โดยเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพอากาศ และในช่วงเวลานั้น เขาก็ได้ออกรบที่เวียดนามด้วย ซึ่งนั่นคงจะเป็นความทรงจำที่ไม่ดีซักเท่าไหร่ ด้วยอายุที่มากขึ้น จึงทำให้สุขภาพจิตของยิ่งถดถอยลงไปเรื่อยๆ จนไม่สามารถที่จะใช้ชีวิตประจำวันได้ด้วยตัวเอง แต่ก็ยังมีครอบครัวคอยดูแลเขาอยู่เสมอให้ผ่านวันแต่ละวันไปได้ด้วยดี จนเมื่อ 2 ปีก่อนที่เขาได้รับการบาดเจ็บที่สะโพกและการฟื้นฟูที่เป็นไปอย่างยากลำบาก รวมไปถึงไม่อาจเชื่อใจลูกๆ และภรรยาด้วยอาการที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น รัฐวอชิงตันจึงรับเขามาดูแลแทนในฐานะทหารผ่านศึก เพื่อไม่ให้อารมณ์ของเขาระเบิดออกมาทำร้ายครอบครัวของเขาเอง ลูกสาวและลูกเขยของเขาได้เข้ามาดูแล นำอาหารที่เขาชอบมามอบให้ที่บ้านพักทหารผ่านศึก ในฐานะคนที่ไม่รู้จักกัน เพราะด้วยความที่เขาไม่เชื่อใจคนในครอบครัวอีกต่อไปแล้ว เขาได้เริ่มที่จะพูดถึงเรื่องอดีตที่บางเรื่องก็ไม่ได้มีสาระอะไร หรือกับเรื่องที่จำถูกแล้ว ก็จะยังคงมีปัญหาจำไม่ได้ว่าเรื่องนั้นเกิดขึ้นเมื่อไหร่ เหมือนกับเรื่องที่คิดว่าตัวเขาเองนั้นต้องถูกส่งกลับไปในสงครามที่เวียดนามอีกครั้ง ความคิดที่เชื่อว่าทางกองทัพได้โทรมาตามให้เขากลับเข้าสู่สงครามในวันก่อนหน้านั้น และยังคงพูดเรื่องนี้ซ้ำไปซ้ำมาในแต่ละวัน ขณะที่พูดนั้นก็จะร้องไห้ไปด้วยโดยไม่ทราบสาเหตุ เพราะยังคงเชื่อว่าจะต้องกลับไปสู่เหตุการณ์เหล่านั้นอีก ลูกเขยของเขาจึงเสนอวิธี ให้พานายทหารที่เกษียณอายุไปแล้วเช่นเดียวกัน กลับมาเยียวยาเรื่องนี้ เขาจึงได้โพสต์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเข้าไปในกลุ่มเฟซบุ๊คของเมือง ซึ่งก็ได้รับการตอบกลับให้ความช่วยเหลือมามากมาย ภายในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง และในเช้าวันต่อมาก็ได้มีอดีตนายทหารชั้นพันโทมาหาเขาทันที…
-
เด็กน้อยต้องถูกตัดขาจากโรคร้าย ได้รับความสุขจากเจ้าสุนัขที่มีความพิการเช่นเดียวกับเธอ
เวลาที่เราเจ็บไข้ได้ป่วยและต้องเข้ารับการรักษาในช่วงระหว่างนั้นเราก็อยากจะได้มีใครสักคนมาอยู่ให้กำลังใจเอาใจใส่ดูแลเรา แต่สิ่งที่จะช่วยเยียวยาให้กับเด็กคนนี้ได้มากขึ้นนั้นไม่จำเป็นต้องเป็นคนเสมอไปหรอกนะ เมื่อเด็กสาวชื่อว่า Tessa Puma วัย 6 ขวบที่ต้องสูญเสียขาของเธอไปในเดือนเมษายนที่ผ่านมาเพื่อการรักษาโรคร้ายที่เธอเป็นอยู่ โดยโรคดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นเพียง 1 ในล้านคนของเด็กในแต่ละปี โรค Necrotizing Fasciitis ที่เกิดจากแบคทีเรียนั้นได้ทำให้เธออาการอักเสบบริเวณลำคอ หลังจากนั้นก็มีอาการเจ็บบริเวณแขนขาและมีไข้ จนกระทั่งเกิดการติดเชื้อในกระแสเลือดและเยื่อหุ้มเซลล์ สุดท้ายก็ทำลายเนื้อเยื่อของเธอไป จนเมื่อแพทย์ตรวจพบว่าไม่เจอชีพจรบริเวณขาซ้ายของเธอแล้ว จึงตัดสินใจตัดขาข้างนั้นของเธอ จากจุดนั้นเองก็ทำให้เธอได้มารู้จักกับ Gracie และ Rudy เจ้าหมาที่มีเพียงแค่สามขา Gracie ซ้าย Rudy ขวา . เจ้า Gracie นั้นถูกตัดขาเพื่อการรักษาตอนมีอายุเพียง 1 ปีแต่ก็สามารถเดินได้อย่างไม่เป็นปัญหา ในขณะที่ Rudy นั้นพิการมาตั้งแต่เกิดและต้องใช้ขาเทียมเวลาเดิน เธอได้เข้ามาที่โรงพยาบาลเด็ก Akron ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่นั่นเชื่อว่าการที่มีสัตว์มากมายรายล้อมจะสามารถช่วยเยียวยาอาการป่วยของเธอ และเธอก็จะได้เริ่มใช้ขาเทียม . เธอได้เริ่มเรียนรู้ที่จะเดินอีกครั้งกับเจ้าสุนัขทั้งสองตัว ซึ่งพวกมันก็ได้ช่วยให้เธอสามารถเรียนรู้และฟื้นฟูจากการผ่าตัดได้เป็นอย่างดี เธอสนุกกับการที่ได้ออกไปเดินเล่นกับพวกมันเพื่อเพิ่มในเรื่องของความสมดุลขณะเคลื่อนไหวและกำลังกายของเธอ . …
-
ชายหนุ่มโดนแมลงกัด แต่ก็ไม่คิดอะไร จนสุดท้ายมันทำให้แขนเขาเปลี่ยนเป็นสีแดง!!
แมลงสัตว์กัดต่อยเวลาเราไปไหนมาไหนก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้และมันก็ไม่ได้ร้ายแรงอะไรซักเท่าไหร่ เพราะว่าที่เราจะเจอได้ทั่วไปนั้นมักจะไม่มีพิษใดๆ แต่กับชายคนนี้แล้วนั้นจะต้องยิ่งทำให้เราระวังตัวในการใช้ชีวิตมากขึ้นไปเลย เมื่อ Thomas Jay วัย 41 ปีที่อยู่ในรัฐแอริโซนา ประเทศเมริกา เขาแค่นำขยะไปทิ้งตามปกติในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาและได้ถูกแมลงกัดหรือต่อยเข้าพร้อมกับความเจ็บปวดอย่างรุนแรง ด้วยความที่ไม่คิดอะไรจึงตัดสินใจปัดแมลงตัวนั้นออกไปซะก่อน แต่เรื่องราวมันไม่ได้มีแค่นั้นเพราะบาดแผลที่ถูกกัดได้เริ่มขยายวงกว้างมากขึ้นในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง จากรอยกัดวงเล็กๆ กลายเป็นลามไปทั่วแขนอย่างน่ากลัว แน่นอนว่าเขาและภรรยาจึงตัดสินใจไปเข้ารับการตรวจที่โรงพยาบาล จากนั้นเขาต้องพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนานหลายวัน โดยที่จะต้องทนทุกข์ทรมานอยู่กับอาการคันและอาการไร้เรี่ยวแรงของแขนซ้ายที่ถูกกัด คลิปวิดีโอข่าวแสดงอาการที่เขาต้องเผชิญ เมื่อเขาย้อนกลับไปถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเขาก็เอะใจได้ว่าแมลงที่เขาปัดออกไปนั้นมีความคล้ายคลึงกับ แมงมุมอูฐ อย่างมากแต่นั่นก็ยังไม่เป็นที่แน่ชัด เพราะแพทย์ก็ยังไม่สามารถให้คำตอบได้ว่ามันคืออะไรกันแน่ที่เข้ามากัดเขา โดยต้องรอผลตรวจเนื้อเยื่อของเขาเสียก่อน เรื่องราวนี้ได้ถูกโพสต์ลงโซเชียลมีเดียพร้อมข้อความที่ภรรยาเขาพิมพ์ไว้ว่า “ฉันหวังว่าเรื่องราวเหล่านี้จะสามารถช่วยใครก็ตามที่อาจเจอเรื่องพวกนี้ได้ในอนาคต ในการเตรียมพร้อมเพราะพวกเราไม่รู้เลยว่าสิ่งที่มีพิษนั้นจะมาในรูปแบบไหนและแต่ละคนจะแสดงอาการอย่างไร” เราก็คงจะต้องระวังตัวกันไว้หน่อย และหากโดนอะไรไม่รู้มากัดเข้าทางที่ดีควรรีบไปพบแพทย์กันนะครับ ที่มา: huffingtonpost
-
ช่างทำผมเนรมิตให้เด็กสาวที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า กลับมาสวยสดใส และยิ้มได้อีกครั้ง…
สำหรับ “โรคซึมเศร้า” เป็นสิ่งที่หลายๆ คนมักจะมองข้ามไป แต่ที่จริงๆ แล้วใครจะรู้ละว่าโรคนี้ใกล้ตัวกว่าที่เราคิด เนื่องจากโรคดังกล่าว ถือเป็นหนึ่งในสาเหตุของการฆ่าตัวตาย โดยผู้ที่ป่วยเป็นโรคนี้จะมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด ทั้งสุขภาพทางจิตใจ อารมณ์ ความรู้สึก และความคิด รวมถึงกรณีแบบในข่าวนี้ด้วย และเมื่อเร็วๆ นี้ช่างทำผมวัย 20 ที่ชื่อ Kayley Olsson จากรัฐไอโอวา ได้พบกับเด็กสาวคนหนึ่งที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ได้เข้ามานั่งในเก้าอี้ ณ ร้านเสริมสวยของเธอ เธอเล่าผ่านในเฟซบุ๊กของตัวเองว่า “เด็กสาววัยรุ่นอายุ 16 ปีรายนี้ ได้รับมือกับภาวะซึมเศร้าอย่างรุนแรงมานานหลายปี เธอรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนที่ไร้ค่า จนส่งผลให้ตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอไม่เคยดูแลรักษาผมของตัวเองเลย ดังนั้นเธอเลยตัดสินใจเข้ามาในร้านของฉัน เพื่อที่จะให้ฉันโกนผมของเธอออกทั้งหมด แต่ฉันก็ปฏิเสธไป และใช้เวลากว่า 13 ชั่วโมง ในการช่วยแก้ไขทรงผมให้กับเธอ” อย่างไรก็ตาม สาเหตุที่ Kayley ได้นำเรื่องราวของเด็กสาวคนดังกล่าวมาแชร์บนโลกออนไลน์ ก็เพื่อเป็นการเตือนให้ทุกคนได้รู้ว่า โรคซึมเศร้าส่งผลกระทบต่อจิตใจของผู้คนทุกเพศทุกวัย ภายหลังจากที่เธอได้แชร์ภาพพร้อมเรื่องราวของเด็กสาวรายนี้ลงบนเฟสบุ๊คส่วนตัวของเธอ ก็ได้รับความสนใจจากชาวเน็ตเป็นอย่างมาก โดยมีคนเข้ามากดไลค์มากกว่า 160,000 ครั้ง และกดแชร์อีกกว่า…
-
สาวผิวสีผู้ป่วยเป็นโรคด่างขาว ผลักดันตัวเองสู่นางแบบมืออาชีพ สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คน!!
โรคที่เป็นแล้วผู้อื่นสามารถรับรู้หรือมองเห็นได้อย่างอีสุกอีใสหรือเกลื้อนนั้น สามารถหายได้ไปตามกาลเวลาตามการรักษา แต่โรคที่จะได้เจอต่อไปนี้เป็นโรคที่เกี่ยวกับผิวหนังเช่นเดียวกันแต่มันจะติดตัวไปตลอด การเยียวยาที่ช่วยได้มีเพียงจิตใจเท่านั้น Iomikoe Johnson คุณแม่ลูกสี่ผิวสี วัย 37 ปี จากรัฐลุยเซียนา ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้เจอกับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญเมื่อ 12 ปีก่อน เมื่อพบว่าตัวเธอเองนั้นป่วยเป็นโรคด่างขาว โดยเริ่มจากการเห็นจุดขาวบริเวณหลังแขนทำให้คิดว่าเธอเป็นมะเร็ง จนในที่สุดมันก็ได้ลุกลามไปทั่ว ในตอนนั้นเธอรู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมาก ว่าจะต้องกลับไปถูกรังแกเหมือนในช่วงวัยเด็กเนื่องจากเป็นคนผิวสี และนี่เธอกลับมีสองสีที่แตกต่างกันบนผิวของเธอ เธอถูกคนรอบข้างจ้องมองเวลาที่ไปไหนมาไหน และถูกปฏิเสธที่จะจับมือทักทาย นั่นจึงทำให้เธอตัดสินใจใช้เครื่องสำอางปกปิดสิ่งที่เป็น โดยในแต่ละวันต้องใช้เวลาเป็นชั่วโมง และสวมได้เพียงเสื้อแขนยาวกับกางเกงขายาวเท่านั้น เธอพูดว่า “ฉันเหนื่อยมากที่ต้องทำอย่างนี้ เมื่อฉันพบว่าตัวเองเป็นโรคนี้ตอนอายุ 25 ความเสียใจก็ถาโถมเข้ามา รู้สึกเหมือนโลกของฉันได้พังทลายลงไป” คู่หมั้นและครอบครัวของเธอได้บอกกับเธอว่า ไม่จำเป็นที่จะต้องคอยปกปิดเลยเพราะพวกเขาจะยังคงรักเธอไม่ว่าจะเป็นอย่างไรก็ตาม จนเมื่อเธอได้เห็นเฟซบุ๊คของ Winnie Harlow นางแบบผู้เป็นโรคด่างขาว จึงเป็นมุมมองใหม่ที่เธอได้เห็นจากโรคนี้ ภาพของ Winnie Harlow “ในแวบแรกนั้นคิดออกมาเลยว่าเธอคนนั้นดูสวยมาก ทั้งที่ป่วยเป็นโรคเดียวกัน ฉันรู้สึกประทับใจในความสวยของเธอและคิดว่าฉันก็น่าจะเป็นอย่างนั้นได้” นี่คือสิ่งที่เธอคิดได้ตอนนั้น เธอได้ตื่นขึ้นมาในวันหนึ่งและออกไปใช้ชีวิตโดยไม่ซ่อนความเป็นตัวเธอ ไม่สนว่าใครจะคิดกับเธออย่างไร เพราะหน้าที่ที่เธอจะทำตอนนี้ คือการแสดงให้เห็นว่าความสวยนั้นอยู่เหนือกว่าผิวเปลือกนอก…
-
หญิงสาววัย 30 ปี มีอาการผิดปกติ ทำให้เธอถึงจุดสุดยอด มากกว่า 180 ครั้ง ใน 2 ชั่วโมง!!
เราทุกคนต่างรู้ดีว่า ‘ออกัสซั่ม’ เป็นสิ่งหนึ่งที่ช่วยทำให้สมองเราขับสารแห่งความสุขออกมา ทว่าบางทีมันก็ไม่ใช่เรื่องดีถ้าหากในหนึ่งวันเราสำเร็จความใคร่บ่อยครั้งจนเกินไป อาการผิดปกติที่เรียกว่า PGAD (Persistent Genital Arousal Disorder) ส่งผลให้ Cara Anaya สาววัย 30 ปี จากรัฐอริโซน่า ประเทศสหรัฐอเมริกา มีอาการออกัสซั่มเกือบตลอดทั้งวัน Cara Anaya ในช่วงชีวิตวัยเด็กสำหรับคนปกติทั่วไปแล้ว พวกเขาอาจจะใช้เวลากับเพื่อนๆ ในสนามเด็กเล่น หรือไม่ก็ออกไปทำกิจกรรมต่างๆ กับครอบครัว ทว่าสำหรับ Cara แล้วนับตั้งแต่ครั้งแรกที่เธอมีอาการผิดปกติดังกล่าวเกิดขึ้น เธอก็ไม่สามารถออกไปใช้ชีวิตนอกบ้านได้อีกเลย เพราะเมื่อไหร่ที่เธอเผลอความรู้สึกซาบซ่านตรงโคนขาจะเริ่มแพร่กระจายจนทำให้เธอรู้สึกออกัสซั่มในที่สุด เธอเคยนับว่าตลอด 2 ชั่วโมงอาการผิดปกติของเธอจะปรากฎออกมามากถึง 180 ครั้งเลยทีเดียว!! ไม่ใช่แค่เรื่องของความรู้สึกตรงจุดเร้นลับเท่านั้นที่ส่งผลต่อชีวิตประจำวันของเธอ เพราะอาการผิดปกติยังส่งผลให้เธอรู้สึกวิตกกังวลกับทุกสิ่งอย่างรอบตัวเธอ “เวลาออกไปช็อปปิ้งฉันไม่สามารถแม้แต่จะหยิบจับสิ่งของบางชนิด เพราะมันจะทำให้เรากลับมารู้สึกออกัสซั่มได้อีกครั้ง ต้องยอมรับเลยว่ามันส่งผลต่อการใช้ชีวิตของดิฉันมากๆ ค่ะ” Cara ให้สัมภาษณ์ ถึงแม้ว่าทุกวันนี้เธอจะอาศัยอยู่กับสามีสุดที่รัก และลูกชายวัย 10 ขวบผู้เข้าใจคุณแม่ แต่เมื่อถึงเวลากิจกรรมนอกบ้านเธอกลับต้องรู้สึกผิดเพราะไม่สามารถไปดูแลลูกได้…
-
หนุ่มน้อยวัย 10 ขวบ มีน้ำหนักตัวมากถึง 90 กิโลฯ เพราะ ‘มีความต้องการกินตลอดเวลา!!’
ถ้ามีคนมาบอกเราว่า.. เขาคนนั้นเป็นคนที่กินเก่งกินจุหรือกินบุฟเฟ่ต์จนได้แชมป์ เราก็กล้าพูดเลยว่าวินาทีนี้คงไม่มีใครสู้น้องคนนี้ได้ Caden Benjamin หนุ่มน้อยวัย 10 ขวบ จากเมือง Standerton ประเทศแอฟริกาใต้ ผู้ป่วยเป็นโรคทางพันธุกรรมที่เรียกว่า ‘Prader-Willi syndrome’ เป็นโรคทางพันธุกรรมที่ทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกอยากกินตลอดเวลา จนทำให้เจ้าตัวมีน้ำหนักมากถึง 90 กิโลกรัมเลยทีเดียว แต่สิ่งที่น่าแปลกกว่านั้นก็คือ.. อาการผิดปกติที่เกิดจากพันธุกรรมนั้นทำให้หนุ่มน้อยกินได้ทุกอย่างที่ขวางหน้า ถึงแม้ว่าสิ่งนั้นจะไม่ใช่อาหารก็ตาม “Caden เคยกินมาแล้วทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นกระดาษทิชชู่ กินแกนกระดาษ หรือถ้าไม่มีอะไรให้กินเลยเขาจะเก็บเศษฝุ่นบนพื้นมากินแทน” คุณแม่ Zola Benjamin เล่า สำหรับทางการแพทย์แล้วเรียกได้ว่า อาการผิดปกติดังกล่าวเป็นอาการที่เกิดขึ้นได้ยากมาก และคาดว่าทั่วโลกมีเพียง 1,000 คน เท่านั้นที่ป่วยด้วยอาการนี้ ซึ่งอาการป่วยนี้ไม่ได้ส่งผลเฉพาะด้านพฤติกรรมการกินเท่านั้น แต่มันยังส่งผลถึงระบบการเผาผลาญในร่างกาย และรวมไปถึงสุขภาพจิตด้วยเช่นกัน หนุ่มน้อยและคุณแม่ ตอนที่หนุ่มน้อย Caden อายุได้ 3 ขวบ เขาก็มีน้ำหนักตัวสูงถึง 40 กิโลกรัม และตอนนั้นคุณแม่ก็ไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูกน้อยของเธอ…
-
ชายผู้หนุ่มเป็น “เนื้องอกในสมอง” แม้พูดไม่ได้ แต่ก็ตั้งใจขอแฟนแต่งงาน เพื่อคนที่เขารัก
หนึ่งในความฝันสูงสุดของชีวิตคนเรานั่นก็คือ การแต่งงาน การมีครอบครัวและลูกๆ ซึ่ง Sam Hensman ก็เป็นอีกหนึ่งคนที่คิดแบบนั้นเช่นกัน เพียงแต่ว่าโชคชะตากลับไม่เข้าข้างสักเท่าไหร่นั่นเอง Sam เป็นชายหนุ่มวัย 25 ปี ซึ่งเขาอยากจะแต่งงานกับแฟนสาวของเขา แต่ว่าเขาต้องต่อสู้กับโรคร้ายตั้งแต่อายุ 23 ปี ซึ่งแพทย์วินิจฉัยว่าเขาป่วยเป็นโรคเนื้องอกในสมอง ซึ่งมันร้ายแรงมากๆ และยังส่งผลให้เขาไม่สามารถพูดได้ แต่ถึงอย่างนั้นรักแท้ก็ยังมีอยู่จริง เพราะแม้ Tess Delony แฟนสาวของเขาจะรู้ว่า Sam ป่วย เธอก็ยังคงไม่ทิ้งเขาไปไหนและอยู่ข้างกายเขาตลอดเวลากว่า 10 เดือนที่เขาอยู่ในโรงพยาบาล และเมื่อไม่นานมานี้เขาก็ได้ตัดสินใจครั้งยิ่งใหญ่ เมื่อเขาส่งยิ้มให้แม่ของแฟนสาวที่เฝ้าอยู่ข้างกาย แน่นอนว่าเหมือนเธอจะรู้ว่าเขาต้องการอะไร คุณแม่จึงหยิบแหวนเพรชออกมาให้กับลูกสาว วินาทีนั้นเธอรู้ทันทีว่าเขาต้องการอะไร เพราะเขาไม่สามารถจะพูดว่าแต่งงานกับผมนะได้ แต่เธอก็พอจะรู้ว่าเขาต้องการแต่งงานกับเธอ ซึ่งมันแสดงออกมาผ่านรอยยิ้มบนสีหน้าของเขา แน่นอนว่า Tess ตอบตกลงคำขอของ Sam เธอตัดสินใจเปิดกล่องแหวนพร้อมสวมทันที พร้อมกับสวมกอดกันและกัน พร้อมกับน้ำตาแห่งความยินดีที่ไหลรินออกมา สุดท้ายแล้วแม้ตัว Sam ยังไม่สามารถพูดได้ แต่เวลาผ่านไปเขาค่อยๆ ดีขึ้นตามระยะและทำกายภาพบำบัดจนตอนนี้เขาสามารถเดินได้บ้างแล้ว แต่สุดท้ายเขาก็ยังพูดไม่ได้อยู่ดี แต่เชื่อเถอะว่าการมีคนรักข้างกายแบบนี้…
-
สาวสูญเสียอวัยวะสำคัญ 4 อย่าง เพื่อต่อสู้กับแบคทีเรียร้าย อันก่อให้เกิด ‘ไข้กาฬหลังแอ่น’
Sarah Joyce สาววัย 30 ปี จากนิวเซาธ์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย เรื่องราวของเธอได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้ป่วยทั่วโลกลุกขึ้นมาต่อสู้กับโรคร้ายที่ตัวเองกำลังเผชิญอยู่ “คืนวันหนึ่งฉันมีไข้ตัวร้อน และก็คิดว่าตัวเองคงป่วยเป็นไข้ปกติทั่วไป แต่อาการกลับแย่ลงเรื่อยๆ จนฉันไปถึงมือหมอถึงได้พบว่าชีวิตตัวเองต้องเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงหลังจากนั้น…” Sarah กล่าว Sarah Joyce ในช่วงที่เธอยังสุขภาพแข็งแรง แพทย์ได้วินิจฉัยว่าเธอป่วยเป็นโรค ‘ไข้กาฬหลังแอ่น’ ซึ่งหลังจากนั้นชีวิตของเธอก็เปลี่ยนไป จากเดิมที่เธอเคยเป็นผู้หญิงวัยทำงาน เธอต้องเปลี่ยนมาเข้าออกโรงพยาบาลเพื่อผ่าตัดรักษาอาการป่วยของตัวเองแทน จากอาการป่วยติดเชื้อขั้นรุนแรง ทำให้คุณหมอต้องผ่าตัดนำ ถุงน้ำดี, ไต 2 ข้าง และลำไส้กว่า 80% ของเธอออกไป “ทุกวันนี้ฉันไม่สามารถขยับเขยื้อนร่างกายให้คล่องแคล่วเหมือนเมื่อก่อน หลังการผ่าตัดครั้งใหญ่ฉันต้องตื่นมาพบว่าตัวเองต้องอาศัยอยู่ด้วยท่อออกซิเจน แต่ยังไงฉันก็จะขอสู้ต่อไป..” ช่วงที่อาการเธอทรุดหนัก คนรอบตัวเธอต่างรู้สึกหมดหวัง และไม่มั่นใจว่าเธอจะทำได้ จากการผ่าตัดเพื่อต่อสู้กับเชื้อร้ายหลายครั้ง ทำให้เธอต้องเข้ารับการกายภาพบำบัดใหม่ทั้งหมด “อันที่จริงแล้วอายุฉันหยุดไว้แค่อายุ 30 ปี 1 วันเท่านั้นแหละ เพราะที่เหลือจากนั้นฉันไม่ได้ใช้ชีวิตเลย แต่กำลังต่อสู้เพื่อกลับมาใช้ชีวิตต่างหากล่ะ” เธอกล่าวพร้อมรอยยิ้ม สุดท้ายเธอฝากเอาไว้ว่า…
-
สาวป่วยเป็นโรค Daydream Disorder ที่มีบุคลิกมากกว่า 120 คน ภายในตัวเพียงคนเดียว!!
หลายคนอาจจะรู้จักภาพยนตร์เรื่อง ‘Split’ ที่เป็นการนำเรื่องจริงของชายผู้มีอาการป่วยทางจิต ทำให้มีบุคลิกออกมามากถึง 23 บุคลิก นั่นก็ถือว่าเยอะมากแล้วนะ แต่คุณอาจจะยังไม่รู้ว่ายังมีคนหลายบุคลิกที่มากกว่านั้นอีก อย่างเช่นเรื่องราวของ Kate Dranfield วัย 17 ปี จะทำให้เราต้องรู้สึกอึ้ง… เพราะเธอป่วยเป็นโรค ‘Daydream Disorder’ ซึ่งส่งผลทำให้เธอมีบุคลิกตัวตนมากถึง 120 คน!! Kate Dranfield และคุณแม่ของเธอ Sheila Dranfield “ทุกครั้งที่หนูเกิดอาการ หนูจะรู้สึกเหมือนกำลังเข้าสู่อีกโลกหนึ่งซึ่งเป็นโลกที่หนูกลายมาเป็นบุคคลที่ 3 และมันก็เป็นเรื่องยากมากที่เราจะรู้ว่าตัวตนไหนกำลังใช้ความคิดอยู่” เธอเล่าถึงอาการป่วยของเธอ ส่วนใหญ่แล้วอาการป่วยของเธอจะเริ่มแสดงออกมาทุกครั้ง เมื่อเธอรู้สึกเหนื่อยล้าหรือรู้สึกเครียด และโดยส่วนใหญ่แล้วบุคลิกต่างๆ จะแสดงตัวตนออกมาประมาณเกือบชั่วโมง Kate มีตุ๊กตา 6 ตัว เพื่อช่วยเยียวยาเธอจากการที่ไม่ได้ออกไปมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนภายนอกเลย เธอเริ่มรู้จักกับอาการนี้ครั้งแรกตอนอายุ 6 ขวบ และนั่นก็ทำให้เธอเริ่มมีปัญหากับการเข้าสังคม อีกทั้งอาการป่วยยังเริ่มส่งผลต่อการเรียนและการใช้ชีวิตประจำวันของเธอ ทว่าอาการดังกล่าวในทางการแพทย์ยังไม่มีวิธีรักษาที่แน่ชัด ทำให้ทางโรงเรียนไม่อาจจะให้การสนับสนุนและดูแลเธอในเรื่องนี้ได้ Jade (ซ้าย) บุคลิกผู้หญิงข้ามเพศ…
-
สาวน้อย 5 ขวบป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย ขอแต่งงานกับหนุ่มเพื่อนซี้ ทำฝันให้เป็นจริงก่อนตาย…
เราทุกคนต่างล้วนมีความฝันที่อยากจะทำซักครั้งในชีวิตกันแทบทั้งนั้น แต่จะเกิดอะไรขึ้นล่ะถ้าเราได้รู้ว่าเวลาที่เหลืออยู่มันอาจไม่มากพอที่จะพาเราไปถึงจุดนั้นได้ Eileidh Paterson สาวน้อยวัย 5 ขวบ เธอป่วยเป็นโรคมะเร็งต่อมหมวกไตในเด็กระยะสุดท้าย (Neuroblastoma) ซึ่งเธอก็รู้ดีว่าเวลาของตัวเองเหลือไม่มากนัก เธอจึงอ้อนวอนขอร้องเพื่อให้ได้ทำสิ่งสุดท้ายของชีวิต ก่อนที่เธอจะหมดลมหายใจ… สาวน้อย Eileidh ประกาศก้องให้โลกรู้ว่ากำลังจะแต่งงานกับ Harrison Grier เด็กหนุ่มเพื่อนซี้วัย 6 ขวบ คุณพ่อของ Harrison ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “ลูกชายตัวน้อยของเราไม่เคยไปงานแต่งมาก่อน และแน่นอนว่าเขาก็ไม่เคยเป็นเจ้าบ่าวด้วยเช่นกัน แต่มันเป็นช่วงเวลาที่วิเศษมากครับซึ่งลูกชายของเราก็ดูจะตื่นเต้นเอามากๆ” เด็กน้อยทั้งสองคนอาจเปรียบได้ดั่งขวัญกับเรียม หรือโรมิโอกับจูเลียตส์ หากแต่เวลาของเจ้าสาวกลับเหลือน้อยลงทุกที และหนุ่มน้อยคนสนิทก็รู้ดีว่า เขาคือเพื่อนที่สำคัญที่สุดสำหรับเธอ ภายในงานถูกจัดขึ้นด้วยธีม ‘โลกแห่งเทพนิยาย’ เรียกได้ว่าเพื่อนๆ คุณครู และญาติๆ ต่างก็เดินทางมาร่วมงานกันอย่างครบครัน นอกจากนั้นภายในงานยังมีการกล่าวสุนทรพจน์เล่าเรื่องราวชีวิตของหนูน้อย Eileidh ในแบบแฟนตาซี โดยมีมะเร็งเป็นตัวร้ายของเรื่อง และยังมีการกล่าวประโยคสุดคลาสสิคที่ว่า… ‘ถึงแม้ว่าเราจะจากกัน แต่ฉันจะอยู่ข้างเธอเสมอ.. เพื่อนที่ดีที่สุด’ ด้วยความที่สาวน้อยวัย 5 ขวบ ชื่นชอบตัวละครและเพลงจากโลกดิสนีย์เป็นชีวิตจิตใจ ทำให้ภายในงานถูกตกแต่งให้อยู่ในธีมของโลกแห่งเทพนิยาย…
-
ชีวิตของคุณแม่ผู้ป่วยเป็น ‘โรคซึมเศร้าหลังคลอด’ ที่ต้องต่อสู้กับอาการอย่างยากลำบาก…
โดยปกติแล้วเราจะเข้าใจคุณแม่ทุกคนหลังจากที่ได้คลอดลูกแล้วจะเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข แต่จริงๆ แล้วไม่ได้เป็นแบบนั้นทุกคน… ในวันนี้ #เหมียวหง่าว จะพาเพื่อนๆ ไปทำความรู้จักกับโรค Postpartum Depression ที่จะทำให้คุณแม่มีอาการซึมเศร้าหลังจากทำการคลอดลูก ในประเทศสหรัฐอเมริกามีคุณแม่มือใหม่จำนวน 1 ใน 9 คนที่ต้องประสบกับอาการป่วยนี้ และพวกเธอก็ไม่อยากจะกล่าวถึงมันซักเท่าไหร่ นอกจากจะมีอาการเศร้า กระวนกระวาย หงุดหงิด และเหนื่อยล้าแล้ว ผู้ป่วยหลายๆ คนยังมีความรู้สึกผิดอีกด้วย เพราะพวกเขาคิดว่าตัวเองควรจะมีความสุขกับการทำให้ชีวิตใหม่ได้ลืมตาขึ้นมาดูโลกแต่กลับทำไม่ได้ และแน่นอนว่าอาการป่วยทางจิตใจเหล่านี้ไม่ได้หายไปได้อย่างง่ายดาย และเราจะต้องเอาชนะมันให้ได้ เช่นเดียวกันกับช่างภาพ Danielle Fantis คุณแม่ที่อยากจะช่วยเหลือคุณแม่คนอื่นๆ ให้พ้นจากโรค Postpartum Depression ด้วยการแชร์วิธีจัดการกับโรคซึมเศร้าหลังคลอดของเธอผ่านเฟซบุ๊ค “ฉันเริ่มมีลูกคนแรกตอนที่ยังอายุได้ไม่ถึง 18 ปี โดยที่ไม่มีใครให้ความสนใจ เหตุการณ์ในตอนนั้นมีโอกาสที่จะเป็นโรค Postpartum Depression มาก แต่มันก็ไม่เกิดขึ้น… เมื่อฉันคลอดลูกคนที่สองที่เป็นลูกสาวในอีก 7 ปีให้หลัง ในครั้งนี้ทุกอย่างดูพร้อมไปหมด ฉันมีทั้งสามีที่คอยให้กำลังใจ มีฐานะทางการเงินที่ดี และสามีที่ให้กำลังใจ แต่ครั้งนี้ฉันกลับรู้สึกแย่มาก” “ฉันรู้สึกผิดมากที่มีความคิดแย่ๆ แบบนั้นเข้ามาในหัว และยังติดออยู่ในหัวอยู่ตลอด พยายามสลัดความคิดเหล่านั้นออกไปหลายครั้งแต่ก็ไม่ได้ซักที ฉันรู้ตัวว่ามันไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องรู้สึกแบบนั้น…
-
สุดซึ้ง! พ่อใช้ช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต กอดกับลูกๆ ก่อนเขาจะจากไปด้วยโรคมะเร็ง
อีกเรื่องราวที่จะทำให้เรารู้สึกว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการได้อยู่ร่วมกับคนในครอบครัว ณ ห้วงเวลาสุดท้ายของชีวิต… Jon Strawson คุณพ่อวัย 33 ปี ป่วยเป็นโรค acute myeloid leukaemia (มะเร็งเม็ดเลือดขาว) คุณหมอได้พยายามที่จะรักษาเขาด้วยวิธีการต่างๆ ไม่ว่าจะทำคีโมฯ หรือแม้แต่การปลูกถ่ายสเต็มเซลล์ แต่ก็ดูเหมือนว่าอาการของเขาจะไม่ดีขึ้นเลย ‘สำหรับคนที่ป่วยเป็นโรคนี้แล้ว ถ้าคุณถึงขั้นต้องปลูกถ่ายสเต็มเซลล์ในช่วง 6 เดือนแรก นั่นก็หมายความว่าโอกาสรอดของคุณนั้นต่ำมากๆ คุณหมอบอกว่าผมอาจจะมีชีวิตอยู่ต่อได้ไม่กี่อาทิตย์ แต่ผมคงต้องบอกว่าเวลาเท่านี้คงไม่พอ ผมมีลูก 3 คน และพวกเขายังต้องการผม เช่นเดียวกับที่ผมต้องการพวกเขา ยังไงซะผมก็จะขอสู้ต่อไปถึงแม้ว่าสุดท้ายแล้วมันจะไม่ได้ผลก็ตาม’ Jon กล่าว หลังจากที่เขาได้ทราบว่าตัวเองอาจจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน เขาจึงตัดสินใจที่จะใช้ทุกวินาทีอย่างคุ้มค่า เขาเลือกที่จะอยู่กับลูกทั้ง 3 คน และโอบกอดพวกเขาไว้ตลอดเวลา… และถึงแม้ว่าจะผ่านมาได้อาทิตย์กว่าแล้ว แต่อาการของคุณพ่อก็ดูจะไม่ดีขึ้นเลย ซึ่งตอนนี้เขาก็ยังต้องต่อสู้กับโรคร้ายนี้ต่อไป โดยหวังว่าจะได้กลับมาดูแลลูกๆ ทั้ง 3 ผู้เป็นความหวังทั้งชีวิตของเขาอีกครั้ง เราขอส่งกำลังใจไปให้คุณพ่อหายขาดจากโรคร้ายนี้ก็แล้วกัน สาธุ๊…. ที่มา: Ladbible
-
คุณตาเป็นมะเร็งท้อใจ จะมีชีวิตอยู่อีกแค่ 3 เดือน ควักเงินซื้อทุกอย่าง แต่ดันรอดอยู่ยาวถึง 15 ปีแล้ว
เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2560 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศได้เปิดเผยเรื่องราวที่น่าเหลือเชื่อของ Ron Adams คุณตาวัย 84 ปี ที่อาศัยอยู่ในเบอร์มิงแฮม เขาเคยป่วยเป็นโรคมะเร็งปอดในปี 2002 โดยทางแพทย์ได้เผยว่า เขาจะมีชีวิตอยู่ได้อีกเพียงแค่ 3 เดือนเท่านั้น แต่ทว่า 15 ปีต่อมา คุณตากลับสามารถรอดชีวิต และโกงความตายมาได้ หลังจากที่รู้ว่าตัวเองป่วยเป็นโรคมะเร็ง และจะมีชีวิตอยู่ได้อีกเพียง 3 เดือน คุณตากลับไม่รู้สึกเศร้า หรือท้อแท้ในชีวิตเลย แต่เขากลับนำเงินจำนวน 2.1 ล้านบาทที่ฝากไว้ในธนาคาร มาใช้จ่ายในสิ่งที่ต้องการอย่างมีความสุข คุณตาได้ตัดสินใจนำเงินทั้งหมดที่มีมาซื้อรถ Mercedes CLK สุดคลาสสิก ในราคา 800,000 บาท โดยเขาได้ตั้งชื่อให้มันว่า “Cancer Car” ซื้อปลาคาร์พที่เขาชื่นชอบเป็นจำนวนเงิน 150,000 บาท และโมเดลรถยนต์อีกกว่า 507 ชิ้น ก่อนหน้านี้คุณตามีอาการไอเป็นเวลาหลายสัปดาห์ และนั่นจึงทำให้เขาต้องรีบเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล ก่อนจะพบว่าตนเองป่วยเป็นโรคมะเร็ง และจะมีชีวิตอยู่ได้อีก 3…
-
คุณลุงชาวจีนต้องทนอยู่กับอาการ ‘คอบวม’ มาตลอด 13 ปี เนื่องจากรักษาผิดวิธี…
คุณลุง Wang Zhixiang วัย 55 ปี ต้องประสบพบเจอกับโรคประหลาดมานานกว่า 13 ปี ที่คอของเขามีอาการบวมออกมาอย่างเห็นได้ชัด เพราะอาการบาดเจ็บจากการทำอาชีพใช้แรงงาน แต่หลังจากที่เข้ารับการรักษาไปแล้วอาการก็ไม่ดีขึ้นแต่อย่างใด กลับกันดันแย่ลงด้วยซ้ำ เนื่องจากว่าคุณหมอใช้การรักษาด้วย ‘ฮอร์โมนบำบัด’ ที่มักจะใช้รักษาโรคมะเร็งที่เกิดจากฮอร์โมนที่มากเกินไป คุณลุง Wang เองก็ไม่คิดว่ามันจะแย่ขนาดนี้ เนื้องอกที่คอของเขาเริ่มโตขึ้นเรื่อยๆ จนทำมีขนาดใหญ่มากกว่าปกติถึง 2 เท่าเลยทีเดียว ย้อนกลับไปเมื่อปี 2004 ที่เมือง Jilin มณฑล Jillin ประเทศจีน เขาเกิดอุบัติเหตุเล็กน้อยจนทำให้เกิดอาการบาดเจ็บที่คอ จากนั้นก็เข้ารักษาด้วย ‘ฮอร์โมนบำบัด’ จนมาถึงปี 2005 เขาก็ยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บ กลับกลายเป็นว่าคอของเขากลับมีอาการบวมโตขึ้นเรื่อยๆ ตอนแรกเป็นการเข้าใจผิดว่าเป็นโรคคอพอก แต่หลังจากการตรวจสอบจนแน่ใจที่โรงพยาบาล Changchun Hospita ในเมือง Jillin แล้วก็พบว่าเขาป่วยเป็นเนื้องอกที่ลำคอ แต่เป็นเพราะคุณลุง Wang ไม่มีเงินมากพอ จึงทำให้ไม่สามารถเข้ารับการรักษาได้ คุณหมอบอกว่าการจะรักษาอาการป่วยของคุณลุงได้ต้องสูญเงินมากกว่า 500,000 บาทเลยทีเดียว ก็หวังว่าคุณลุง…
-
คู่รักจัดงานแต่งในโรงพยาบาล เพื่อให้ลูกชายวัย 1 เดือนร่วมเป็นพยานรัก ก่อนที่จะจากไป…
การจากลาเป็นเรื่องที่ไม่ว่าใครก็ไม่อยากพบเจอ แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ไม่สามารถหลีกหนีไปจากมันได้… เช่นเดียวกันกับเรื่องราวชีวิตของคู่รัก Patricia และ Christopher Armstrong จากรัฐ North Carolina ได้ทำการปฏิญาณรักกันเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ในโรงพยาบาลที่เจ้าหนู Conner ลูกชายวัย 1 เดือนของพวกเขาพักรักษาตัวอยู่ หนูน้อย Conner เกิดมาพร้อมกับโรค Edward’s syndrome เป็นความผิดปกติทางพันธุกรรมที่เกิดขึ้นโดยที่มีโครโมโซมที่ 18 เพิ่มขึ้นมาอีก 1 โครโมโซม ซึ่งอาการผิดปกตินี้ร้ายแรงเป็นอย่างมาก และส่วนใหญ่เด็กที่เกิดมาพร้อมกับโรคนี้จะเสียชีวิตหลังจากนั้นไม่นาน ด้วยความที่ไม่อยากให้ลูกชายพลาดเหตุการณ์สำคัญ Christopher และ Patricia ตัดสินใจที่จะแต่งงานกันในโรงพยาบาล Lexington ที่ตั้งอยู่ใน New York City “พวกเราเหลือเวลาอีกไม่มากที่จะได้อยู่กับลูกชายของเรา พวกเราก็เลยอยากให้เขาได้อยู่ร่วมในงานแต่งงาน เพื่อเป็นสักขีพยานรักคนสำคัญให้กับพวกเราด้วย” คุณ Christopher กล่าว คู่รักอุ้มหนูน้อย Corner ไว้ในอ้อมแขน ขณะที่ดำเนินพิธีกรรมไปด้วย ในตอนแรกคุณ Patricia เกรงว่าสภาพบรรยากาศของงานจะออกมาดูน่ากลัว…
-
นักวิทยาศาสตร์ไขข้อสงสัย “สุนัข” มีอารมณ์ “ซึมเศร้า” เหมือนมนุษย์หรือไม่
เวลาที่สุนัขเลียหรือกระดิกหางเร็วๆ ถ้าใครเลี้ยงสุนัขหรือใช้ชีวิตกับสุนัขบ่อยๆ จะรู้ทันทีว่าพวกมันกำลังรู้สึกมีความสุขอยู่ แล้วเพื่อนๆ เคยสงสัยกันหรือไม่ว่า พวกสุนัขเหล่านั้น มีอารมณ์ “ซึมเศร้า” เหมือนมนุษย์รึเปล่า? Dr. Jill Sackman สัตว์แพทย์จาก BluePearl กล่าวว่า “มันเป็นเรื่องยากมากที่จะบอกว่าสุนัขมีอารมณ์ซึมเศร้าเหมือนเรารึเปล่า เพราะพวกมันพูดไม่ได้ แต่หากดูจากงานวิจัยแล้ว สุนัขสามารถมีอารมณ์และความรู้สึกหลายๆ อย่างได้เหมือนมนุษย์ รวมถึงอารมณ์ซึมเศร้าด้วย” ถ้าจะสรุปให้เข้าใจง่ายงานวิจัยกล่าวว่า เวลาที่สุนัขมีอาการซึมเศร้า พวกมันจะทำทุกสิ่งตรงข้ามกับตอนที่พวกมันมีความสุข มันอาจจะนอนเยอะขึ้น กินน้อยลง ไม่ค่อยร่าเริง และปฏิสัมพันธ์กับเจ้าของน้อยลง ซึ่งอาการเหล่านี้บางทีอาจเป็นอาการของการป่วยบางอย่างได้ ซึ่งเจ้าของควรตรวจสอบให้ดีก่อนลงมือทำอะไร แหม่ ทำหน้าซึมแบบนี้ สงสัยจะโดนดุมาแน่ๆ ซึ่งตามรายงาน อาการซึมเศร้าอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ บางทีอาจเกิดจากอาการเจ็บปวดของโรคภัยต่างๆ บางทีอาจเกิดจากการสูญเสียเจ้าของ หรืออาจเกิดเพราะมีการรับสัตว์เลี้ยงเพิ่มภายในบ้าน และหลายๆ ครั้ง พวกมันก็มีอาการซึมเศร้า เพราะเจ้าของของพวกมันซึมเศร้า “สุนัขสามารถรับรู้อารมณ์และพฤติกรรมของเจ้าของได้ดีมาก ฉะนั้นเวลาคุณรู้สึกเศร้าเสียใจ สุนัขของคุณอาจจำพฤติกรรมนั้นไปใช้ ซึ่งพวกมันเก่งมากในการรับรู้ความรู้สึกของผู้อื่น” Sackman กล่าว ส่วนวิธีการรักษาโรคซึมเศร้าในสุนัขนั้นไม่ยาก แถมยังไม่ต้องใช้ยารักษาใดๆ อีกด้วย…
-
อัลไซเมอร์ทำให้คุณยายฉุนเฉียวตลอดเวลา แต่สุนัขตัวนี้ ทำให้เธอมีรอยยิ้มได้อีกครั้ง…
โรคอัลไซเมอร์ไม่ได้ทำให้ผู้ป่วยมีอาการหลงๆ ลืมๆ เท่านั้น แต่บางครั้ง มันก็ทำให้ผู้ป่วยมีอาการความทรงจำไม่ปะติดปะต่อ มีอารมณ์ฉุนเฉียว หงุดหงิดง่าย ก้าวร้าว จนทำให้ครอบครัวและผู้ดูแลต้องเป็นกังวลไปด้วย Winifred Lowe คุณยายของ Richard Dawson วัย 95 ปี คนนี้ก็เช่นกัน เธอป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์มาหลายปี จนกระทั่งช่วงไม่กี่ปีก่อนนี้ อาการของเธอหนักขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นคนขี้โมโหและก้าวร้าว Richard บังเอิญไปอ่านเจอว่า สุนัขสามารถช่วยเหลือผู้ป่วยอัลไซเมอร์ได้ เขาจึงติดต่อไปยังเว็บไซต์ Borrow My Doggy ซึ่งเป็นองค์กรที่คอยช่วยประสานงานให้กับผู้ที่ต้องการยืมสุนัขเพื่อไปใช้ประโยชน์บางอย่างกับเจ้าของสุนัข เขาได้ติดต่อขอยืมสุนัขพันธุ์ดัชชุนวัย 9 เดือนชื่อว่า Orla มาจากเจ้าของคนหนึ่ง และนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นทันทีที่คุณยายของเขาได้พบกับสุนัขตัวนี้ “ทันทีที่เธอได้พบกับเจ้าสุนัขตัวนี้ เธอหยุดทุกอย่างและไปเล่นกับมันทันที และช่วงเวลานั้นทำให้เธอลืมทุกสิ่งทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นความกังวลและความเจ็บปวด” “เจ้าของของ Orla จะพามันมาหาเธอทุกๆ วันอังคารและวันพฤหัสบดี และเขาจะให้เธอเล่นกับมันประมาณสองถึงสามชั่วโมง” Richard กล่าว ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าสุนัขตัวนี้ทำให้เธอมีความสุขมากขนาดไหน “การรับสุนัขมาเลี้ยงมันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างเกิดตัวสำหรับพวกเรา เพราะเราต้องคอยดูแลคุณยายของเราด้วย ดังนั้นการมีองค์กรที่คอยช่วยจให้เราสามารถยืมสุนัขมาจากเจ้าของคนอื่นๆ…
-
ภาพสุดเศร้าของพ่อแม่ อุ้มร่างลูกไร้วิญญาณจากเยื่อหุ้มสมองอักเสบ แต่คิดว่าเป็นแค่ไข้หวัด…
กลายเป็นภาพสุดสะเทือนใจเลยทีเดียว สำหรับการสูญเสียลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของครอบครัว Done ที่ต้องจากไปด้วยวัยเพียงแปดเดือนเท่านั้น ด้วยโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบชนิดบี เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ปี 2015 Louise และ John Done กำลังเตรียมงานแต่งงานของพวกเขาทั้งสอง ทันใดนั้นเอง Shelby ลูกสาวของ John ก็โทรมาหาทั้งสองแล้วบอกว่า Harry ลูกชายวัยแปดเดือนของเขาดูเหมือนมีอาการป่วย ตอนแรกพวกเขาก็คิดว่าเป็นแค่อาการป่วยของเด็กทารกธรรมดาๆ แต่พอพวกเขากลับมาถึงบ้าน พวกเขาก็รู้ทันทีว่า มันไม่ใช่เรื่องปกติแล้ว เพราะบนร่างกายของเขามีจ้ำสีม่วงขึ้นอยู่เต็มไปหมด เขาจึงตัดสินใจโทรเรียกรถพยาบาล เมื่อถึงโรงพยาบาล เหล่าแพทย์ได้นำวัคซีนบางอย่างมาฉีดให้กับ Harry รวมทั้งนำถังออกซิเจนมาติดตั้ง เขาจึงได้รู้ว่าลูกชายของพวกเขาไม่ได้ป่วยเป็นไข้หวัดธรรมดา แต่เป็นโรคที่เรียกว่า “เยื่อหุ้มสมองอักเสบชนิดบี” เพียงคืนเดียวหลังจากเข้าโรงพยาบาล Harry ก็อาการแย่ลงเรื่อยๆ เช้าวันถัดมา เชื้อไวรัสได้ทำลายเยื่อสมองเขาโดยสิ้นเชิง แพทย์บอกว่าพวกเขามีเพียงสองทางเลือก คือหนึ่งถอดเครื่องช่วยชีวิต หรือ ต่อเครื่องไว้เพื่อยื้อชีวิตลูกชายไว้ให้นานที่สุด แต่ก็เสี่ยงจะมีอาการหัวใจวายอยู่ดี พวกเขาตัดสินใจถอดเครื่องช่วยชีวิต และปล่อยให้ Harry ค่อยๆ จากไปอย่างสงบในอ้อมอกของพวกเขา . “มันเป็นเรื่องที่ยากมากๆ คุณแทบไม่สามารถอธิบายได้เลยว่าการสูญเสียลูกเป็นความรู้สึกแบบไหน มันเหมือนฝันร้ายที่กลายเป็นจริง ฉันรู้สึกเหมือนอยู่ในโลกคู่ขนาด มุมมองต่อชีวิตของฉันเปลี่ยนไปตลอดกาล…
-
จากเด็กทารก Josh ที่มีโอกาสรอดชีวิตแค่ 10% เติบโตกลายมาเป็นหนุ่มนักกล้ามแน่นบึ๊ก!!
ย้อนกลับไปเมื่อเกือบ 30 ปีก่อน เด็กชาย Josh Llewellyn-Jones เพิ่งจะตื่นขึ้นมาดูโลกพร้อมกับโรคปอดเรื้อรัง คุณหมอวินิจฉัยแล้วว่าโอกาสที่ทารกน้อยคนนี้จะมีชีวิตรอดผ่านพ้นคืนนี้ไปได้มีเพียงแค่ 10% เท่านั้น แต่ปาฏิหาริย์มีจริง ทารกน้อย Josh เติบโตขึ้นมากลายเป็นหนุ่มนักกล้ามและปีนี้เขาก็กำลังจะมีอายุครบ 30 ปีแล้ว!! Josh อาศัยอยู่ในเมือง Cardiff ประเทศเวลส์ เขาเล่าว่า “คุณหมอบอกให้ครอบครัวของผมตอนที่ผมเกิดว่าให้พาผมไปออกกำลังกายนั่นจะทำให้ผมมีชีวิตอยู่ต่อไปได้” “การออกกำลังกายมันช่วยชีวิตของผม หลายๆ คนออกกำลังไปก็เพื่อให้ตัวเองมีร่างกายที่ดูดี แต่สำหรับผมแล้วการออกกำลังกายมันช่วยให้ผมมีชีวิตอยู่ต่อไปได้” เมื่ออายุ 21 ปี Josh เล่าว่าเขาต้องเข้าโรงพยาบาลเพราะอาการปวดท้อง คุณหมอบอกว่าเขามีโอกาสรอดชีวิตน้อยมากๆ น้อยกว่าโอกาสตอนที่เพิ่งเกิดมาซะอีก ในตอนนั้นเขาเตรียมใจไว้แล้วว่าจะต้องไม่รอดแน่ๆ พร้อมกับบอกลาครอบครัวของเขาไว้เรียบร้อยแล้ว “การผ่าตัดดำเนินไปเป็นเวลากว่า 7 ชั่วโมง และผมก็ต้องนอนรอความตายอยู่บนเตียงนั้น” “ย้อนกลับไปเมื่อตอนเป็นทารก พวกเขาคิดว่าผมจะต้องไม่รอดแน่ๆ พวกเขาก็เลยทำการผ่าตัดลำไส้ของผมเพื่อพลิกมันกลับด้าน นั่นทำให้ผมรอดชีวิตมาได้ และมันก็กลับด้านมาอย่างนั้นตลอดระยะเวลา 21 ปี และในการผ่าตัดในครั้งนี้พวกเขาก็กลับด้านมันอีกครั้ง ศัลยแพทย์บอกว่าถ้ามันไม่ได้ผลล่ะก็ ผมคงไม่รอดแล้วล่ะ” …
-
แมวป่วยเป็นโรคเรื้อนไม่มีใครกล้าจับ จนวันหนึ่งมีมนุษย์ใจดี มอบความอบอุ่นให้เป็นครั้งแรก
เจ้าเหมียวตัวนี้มีชื่อว่า Valentino ด้วยเหตุผลหลายๆ อย่าง ทำให้ไม่มีใครอยากแตะต้องมันเท่าไหร่ ไม่รู้ว่ามันไปเจออะไรมาบ้าง แต่สภาพภายนอกของมันแย่สุดๆ ขนและผิวหนังภายนอกแห้งจนติดกันเป็นพืด นอกจากนี้หนังตาของมันก็บวมเป็นอย่างมาก จนทำให้มันแทบมองไม่เห็นอะไร ยิ่งไปกว่านั้น มันยังป่วยเป็นโรคขี้เรื้อนแห้งซึ่งติดต่อได้ง่ายทั้งในมนุษย์และสัตว์เลี้ยง ทำให้มันถูกรังเกียจทั้งจากแมวด้วยกัน และมนุษย์คนอื่นๆ โชคดีมีคนใจบุญนำตัวมันมาส่งที่สถานดูแลสัตว์ Baldwin Park เมื่อช่วงสัปดาห์ก่อน และเจ้าหน้าที่ที่ดูแลมันก็คือ Elaine Seaman คนนี้ และขณะที่เธอกำลังจับมันเข้ากรง เธอก็ได้ยินเสียงมันร้อง วินาทีนั้นเธอรู้ได้ทันทีเลยว่ามันต้องการอะไร เธอถอดถุงมือ และโอบกอดมันด้วยความรัก “เหมือนกับมันตะโกนบอกฉันว่า ช่วยผมด้วย” Elaine กล่าว นี่เป็นครั้งแรกที่มันได้รับความอบอุ่นและความรักจากผู้อื่น พิจารณาจากภาษากายของมันแล้ว ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามันมีความสุขมากขนาดไหน เธอจะทำให้แน่ใจว่า มันจะได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง และจากนั้นก็จะหาผู้อุปการะต่อไป หวังว่าจากนี้นายจะมีชีวิตที่ดีขึ้นนะ พวกเราจะเป็นกำลังใจให้ ที่มา boredpanda
-
แมวเหมียวป่วยเป็นโรค ‘FIV’ สุดท้ายรอดมาได้ และทำทุกอย่างเพื่อขอบคุณมนุษย์
สำหรับคนรักแมวที่ยังไม่รู้ว่าโรค ‘FIV’ คืออะไร เราขออธิบายให้อ่านกันก่อนว่า FIV คือโรคภูมิคุ้มกันบกพร่องในแมว (เอดส์แมว) ซึ่งผลกระทบก็คล้ายกันกับเอดส์คนนั่นแหละ เชื้อไวรัสจะทำให้ภูมิคุ้มกันในร่างกายแมวต่ำลง และง่ายต่อการแทรกแซงจากไวรัสตัวอื่น ส่วนสาเหตุหลักที่ทำให้เกิด ‘เอดส์แมว’ ส่วนใหญ่แล้วจะเกิดจากรอยแผลขีดข่วน ที่เกิดจากการต่อสู้ โดยเฉพาะกับแมวที่เลี้ยงระบบปล่อย แต่คราวนี้เราจะพามารู้จักกับเรื่องราวของเจ้าเหมียว ‘Lambert’ กันบ้าง เดิมทีเจ้า ‘แลมเบิร์ต’ เป็นแมวไร้บ้าน อายุได้ 2 ปีครึ่ง และเมื่อเจ้าหน้าที่ได้นำมันไปตรวจเลือด ก็พบว่าผลออกมาเป็น FIV+ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วแมวที่ป่วยเป็นโรคนี้ จะไม่สามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้นานเท่าไหร่นัก หลังจากที่ทางมูลนิธิ Save A Purrfect Cat Rescue ได้รับรู้เรื่องราวของแลมเบิร์ต พวกเขาก็ยินดีที่จะนำตัวมันมาเข้าสู่โปรแกรมการรักษา หวังจะให้มันได้กลับมามีชีวิตที่ร่าเริงอีกครั้ง “ถึงแม้ว่าเขาจะป่วยด้วยโรคเอดส์แมว แต่พวกพร้อมที่จะให้การดูแลรักษา ทำให้เขาได้มีชีวิตที่มีความสุข สุขภาพดีอีกครั้ง” เจ้าหน้าที่จากมูลนิธิกล่าว เจ้าหน้าที่ได้เล่าเสริมอีกด้วยว่า ตั้งแต่ที่แลมเบิร์ตได้ย้ายมาอยู่ในที่แห่งนี้ ท่าทางของมันก็ดูร่าเริง มีความสุข และมักจะเข้ามาออดอ้อนทุกคนที่นี่อยู่เสมอ “เจ้าแลมเบิร์ตเป็นแมวที่สุภาพ…
-
หนุ่มน้อยใช้เวลาช่วงสุดท้ายในชีวิต ‘ทาสีเล็บ’ หาเงินช่วยคนป่วยเนื้องอกในสมอง เช่นเดียวกับเขา..
เมื่อกล่าวถึงชีวิตวัยเด็กแล้ว เพื่อนๆ หลายคนคงจะรู้กันดีว่าเป็นช่วงที่ไม่ต้องคิดอะไรมากมาย ใช้ชีวิตให้สนุกสนาน ไม่ต้องประสบพบกับความเครียดอะไรเลย ที่เจ็บหนักที่สุดก็คงเป็นแค่การหกล้มเท่านั้นเอง แต่หนุ่มน้อยคนนี้กลับแตกต่างออกไป…แทนที่จะใช้ชีวิตอย่างสนุกสนาน เล่นสนุกกับเพื่อนๆ แต่เขากลับลุกขึ้นมาทำอะไรที่ยิ่งใหญ่ Tijin เด็กน้อยชาวเนเธอร์แลนด์ที่ป่วยเป็นเนื้องอกในสมองและไม่สามารถรักษาให้หายได้ คุณพ่อของเขาเล่าว่า Tijin นั้นเหลือเวลาอยู่บนโลกนี้อีกไม่นานแล้ว อาจจะไม่ถึงคริสต์มาสในปีหน้าเลยด้วยซ้ำ ถึงจะเป็นเด็กตัวเล็กๆ แต่หัวใจของเขายิ่งใหญ่เกินตัว Tijin ได้ตัดสินใจที่จะใช้เวลาที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิดทำเพื่อเด็กคนอื่นๆ ที่ป่วยเหมือนๆ กับเขา ด้วยความช่วยเหลือจาก DJ ของช่องวิทยุ Dutch Radio จึงได้มีการจัดงานการกุศลเพื่อหาเงินช่วยเหลือเหล่าเด็กๆ ขึ้นตามเจตจำนงค์ของหนูน้อย Tijin ซึ่งล่าสุดทางเหล่า DJ ของคลื่น Dutch Radio ก็เคยทำกิจกรรมการกุศลแบบนี้มาแล้ว เมื่อปีก่อน ด้วยการขังตัวเองให้อยู่ในห้องกระจกใส ทำกิจกรรมทุกอย่างอยู่ในห้องกระจกแคบๆ นั้นเป็นเวลา 2 วัน เพื่อเรี่ยไรเงินบริจาค และพวกเขาก็ทำไปได้ทั้งหมดกว่า 93 ล้านบาทเลยทีเดียว และในปีนี้เองก็จัดขึ้นอีกครั้ง แต่มีความพิเศษอยู่ที่แขกรับเชิญนี่แหละ โดยเจ้าหนู Tijin…
-
สาวน้อยป่วย ‘โรคสมองอักเสบ’ เริ่มหายดีเรื่อยๆ เพราะมีคนส่ง ‘จดหมายกำลังใจ’ มาให้ทุกวัน!!
หนูน้อย Mylee Sue วัย 3 ขวบ อาศัยอยู่ในเมือง Longview รัฐ Texas เธอความทรมานจากอาการเจ็บป่วยที่รุนแรง สาวน้อยและครอบครัวต้องเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา หนูน้อย Mylee ถูกตรวจพบว่าเป็นโรคสมองอักเสบจากเหตุแพ้ภูมิคุ้มกันตัวเอง ซึ่งมันส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันทำลายสมองของตัวเอง ในบางครั้งเธอก็ต้องทรมานจากอาการชัก ไม่สามารถเดินไปไหนมาไหนได้อย่างปกติ และไม่สามารถจำอะไรได้เลยแม้แต่ครอบครัวของเธอก็ตาม “ในแต่ละวันที่เราต้องเผชิญนั้น มันช่างเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากจริงๆ” คุณ Susan Ross คุณแม่ของหนูน้อย Mylee กล่าว “พวกเราต้องทำการทบทวนความจำให้กับเธอ เพื่อให้เธอสามารถเดินได้ และการพูดของเธอ อาการชักของเธอนั้นก็เป็นเรื่องที่น่ากลัว และเธอก็ยังลืมว่าฉันเป็นแม่ของเธอด้วยในบางครั้ง ซึ่งมันเป็นอะไรที่ทำให้ฉันรู้สึกแย่มากๆ เธอต้องเข้าๆ ออกๆ โรงพยาบาลนับครั้งไม่ถ้วนตั้งแต่ช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา” คุณแม่กล่าวเสริม แต่สิ่งที่ทำให้หนู Mylee ยิ้มและมีความสุขได้ในทุกๆ วัน ก็คือการได้เห็นจดหมายคริสต์มาสต์ที่ส่งมาที่บ้านของเธอ เรื่องมันเริ่มมากจากที่คุณแม่ Susan Ross ได้ขอร้องให้เพื่อนๆ และครอบครัวช่วยส่งจดหมายคริสต์มาสต์มาให้กับหนูน้อย Mylee และในตอนนี้ทุกๆ วัน หนูน้อย…
-
ศิลปินมอบของขวัญคริสต์มาสต์ ให้กับเด็กๆ ในโรงพยาบาล ด้วยการพาไปท่องโลกแฟนตาซี!!
ชีวิตในวัยเด็กนั้นหลายๆ คนก็คงจะมีโลกแห่งจินตนาการเป็นของตัวเอง พอเวลาที่นึกถึงทีไรก็มีความสุขไปกับมันทุกที แต่สำหรับเด็กๆ ที่ต้องประสบกับอาการป่วยและต้องนอนรักษาตัวอยู่แต่ที่โรงพยาบาล โลกแห่งจินตนาการของพวกเขาก็คงจะไม่สวยสดใสและร่าเริงเหมือนกับเด็กทั่วๆ ไปที่สามารถวิ่งเล่นอย่างสนุกสนานได้ จึงเกิดเป็นโปรเจค Christmas Wish ขึ้นมา ก็เป็นโปรเจคถ่ายรูปทั่วไปนี่แหละ แต่มันพิเศษก็ตรงที่ว่าเหล่าเด็กๆ ผู็ป่วยทั้งหลายจะถูกคุณลุงซานต้าพาไปเที่ยวยังดินแดนมหัศจรรย์ที่แสนงดงามด้วยการตัดต่อ คุณ Karen Alsop อาศัยอยู่ในเมือง Melbourne ประเทศออสเตรเลีย ผู้คิดค้นสุดยอดไอเดียนี้ เธอเป็นทั้งช่างภาพและศิลปินดิจิตัล ที่สามารถสร้างสรรค์ผลงานผลงานภาพสวยๆ ได้โดยใช้อุปกรณ์ดิจิตัล เธอได้ตัดสินใจที่จะช่วยเหลือเหล่าเด็กๆ ผู้ป่วยที่อยู่ในโรงพยาบาล Monash Children’s Hospital ที่ตั้งอยู่ในเมือง Melbourne ให้มีวันคริสต์มาสต์แสนสุขที่พวกเขาจะไม่มีวันลืมไปตลอดชีวิต เธอได้ทำการจัดห้องเปล่าๆ ในโรงพยาบาลให้กลายเป็นสตูดิโอ และด้วยความช่วยเหลือจากคุณลุงซานต้า จึงทำให้ผลงานของพวกเขาออกมาดูสมจริงมากยิ่งขึ้นไปอีก นอกจากนี้ด้วยฝีมือของคุณ Alsop และทีมงานของเธอ ทำการโฟโต้ช็อปนำเด็กๆ แต่ละคนไปท่องเที่ยวยังโลกแฟนตาซีอันแสนวิเศษ …
-
มารู้จักกับอาการผิดปกติ ‘PPM’ กับลวดลายแปลกๆ ที่อยู่ในดวงตาดำ ดูหยึยๆ เหมือนกันนะเนี่ย
เมื่อกล่าวถึง ‘ดวงตา’ หรือ ‘นัยน์ตา’ เพื่อนๆ หลายคนจะรู้กันดีว่ามันเป็นส่วนที่มีความสำคัญมากที่สุด และส่วนที่เป็นตาดำนี้เองก็เป็นส่วนที่เรียกได้ว่ามีความงดงามมากอีกด้วย แต่เพื่อนๆ รู้ไหมว่าในมนุษย์เราเองก็มีโรคที่ส่งผลให้เกิดความผิดปกติกับดวงตาดำทำให้มีลวดลายประหลาดๆ อยู่ข้างในตาดำด้วยเช่นกันนะ อาการผิดปกตินี้มีชื่อเป็นภาษาอังกฤษว่า Persistent Pupillary Membrane (PPM) จะเกิดขึ้นจากเส้นเนื้อเยื่อของรูม่านตายังคงหลงเหลืออยู่ในม่านตาหลังคลอด เจ้าพังผืดนี้เนื้อเยื่อนี้มีไว้เพื่อนำเลือดเข้าไปเลี้ยงในเลนส์ตา จะมีลักษณะเป็นเส้นใยซึ่งมันสามารถเชื่อมต่อกับกระจกตาหรือเลนส์ตาได้ แต่โดยปกติแล้วมันจะพาดข้ามไปเชื่อมยังม่านตาอีกฟากหนึ่ง และเมื่อมันเชื่อมกับกระจกตาสำเร็จจุดดำเล็กๆ แนบติดกับเลนส์ตา ซึ่งมันสามารถส่งผลให้เกิดต้อกระจกแบบเล็กๆ ได้ โดยปกติแล้วพวกมันจะผ่อหรือจะค่อยขยับเข้าที่เข้าทางจนหายไปเองเมื่อเด็กมีอายุได้ 4 – 8 สัปดาห์ แต่ผู้คนส่วนใหญ่ที่มีอาการนี้ไม่ได้มีอาการป่วยแต่อย่างใด หรือมีอาการผิดปกติเกี่ยวกับการมองเห็นแต่อย่างใด ในส่วนของการรักษานั้น ซึ่งวิธีการรักษาก็คือใช้สาร Atropine หยอดตา ซึ่งมันจะสามารถทำให้เนื้อเยื่อ PPM นั้นขาดออกจากกันได้ ตัวอย่างภาพของอาการดังกล่าว… พอเขียนบทความนี้เสร็จแล้ว #เหมียวหง่าว นี่รีบลุกไปส่องกระจกดูดวงตาของตัวเองเลยว่ามีเจ้าเนื้อเยื่อ PPM อยู่รึเปล่า ฮร่า ที่มา…
-
เหมียวน้อยถูกทิ้งใกล้ตาย ถูกสาวป่วยเป็นมะเร็งช่วยไว้ ต่างก็ช่วยเติมความสุขให้กันและกัน!!
เรื่องราวของหญิงสาวผู้ป่วยเป็นมะเร็งและได้ทำการต่อสู้กับมันมายาวนานกว่า 7 ปี ได้ทำการช่วยเหลือด้วยการรับเจ้าเหมียวกำพร้าแม่ตัวน้อยมาเลี้ยงไว้ และทั้งคู่ต่างก็ช่วยเหลือกันด้วยการมอบความสุขให้แก่กัน มารู้จักกับเจ้าเหมียว Kesha “มันเป็นแมวที่ถูกช่วยเหลือมา แม่และพี่น้องของมันได้ทำการทิ้งพวกมันไปแล้ว และฉันก็กลายมาเป็นคุณแม่จำเป็นของมัน” คุณ Laramie Evans กล่าว (จะเรียกให้ถูกก็คือเป็นทาสรับใช้ดีกว่านะ ฮร่า) “ฉันเป็นผู้ป่วยโรคมะเร็งสมอง และทำการต่อสู้กับมันด้วยการทำคีโมมามากกว่า 6 ครั้งแล้ว และเจ้า Kesha นั้นก็เป็นตัวช่วยเยียวยารักษาใจของฉันได้เป็นอย่าดีเลยล่ะ และอะไรหลายๆ อย่างก็เหมือนจะไปได้สวยเลยทีเดียว” เธอเล่าเสริม เจ้าเหมียวสามสีตัวน้อยถูกพบเจอใกล้ๆ กับคลินิคของคุณ Laramie (เธอทำงานเป็นนางพยาบาล) ในสภาพที่ใกล้ตายแต่เจตนารมย์ที่อยากจะมีชีวิตอยู่ต่อของมันนั้นช่างกล้าแข็งซะเหลือเกิน คุณ Laramie ได้ทำการดูแลรักษามันจนกลับมามีร่างกายที่แข็งแรงอีกครั้ง และตอนนี้เธอก็กลายเป็นทาสที่ซื่อสัตย์คอยปรนนิบัติรับใช้มันเป็นอย่างดี เช่นเดียวกันกับเจ้าเหมียว Kesha คุณ Laramie เองก็เป็นนักสู้ที่ต่อสู้กับโรคร้ายอย่างมะเร็งด้วยเช่นกัน เธอต้องต่อสู้กับโรคมะเร็งร้ายมานานกว่า 7 ปีด้วย หลายๆ ครั้งเธอยอมรับว่าก็ท้อบ้าง แต่ตอนนี้เธอก็ไม่คิดจะยอมแพ้แล้วล่ะ เพราะตอนนี้เหมือนเธอกำลังมีเป้าหมายในชีวิตใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว “เจ้า Kesha…
-
เรื่องราวดีๆ ของ Ed Sheeran ไปเซอร์ไพรส์ให้กำลังใจ แฟนคลับวัย 9 ขวบ ถึงโรงพยาบาล!!
ภาพเด็กหญิงที่ทุกคนเห็นอยู่นี้ เธอมีชื่อว่า Melody วัย 9 ขวบเป็นชาวอังกฤษ เธอเธอป่วยเป็นโรคทางพันธุกรรมหลายโรค และยังมีความบกพร่องของพัฒนาการแบบรอบด้าน (Rett’s Syndrome) ทำให้เธอต้องใช้เวลากว่า 80% ในชีวิตของเธออยู่แต่ในโรงพยาบาล ด้านคุณแม่อย่าง Karina Driscoll เองก็รู้สึกเจ็บปวดใจที่ต้องเห็นลูกสาวตกอยู่ในสภาพแบบนี้ แต่ก็พยายามทำให้เธอยิ้มได้ในทุกๆ วัน เธอเลยสร้างเฟซบุ๊กเพจ Melody In Mind ขึ้นมา เพื่อจดบันทึกเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับลูกสาวของเธอเอาไว้ให้ได้มากที่สุด ถึงสุขภาพของเธอจะไม่ได้สมบูรณ์ หรือใช้ชีวิตเหมือนเด็กคนอื่นๆ แต่ก็ยังพอมีบางอย่างที่ช่วยเติมเต็มความสุขให้กับเธอได้ นั่นคือเสียงเพลง โดยเฉพาะเพลงของศิลปินที่เธอชื่นชอบอย่าง Ed Sheeran เรียกได้ว่า Melody นั้นเป็นแฟนตัวยงของเขาทีเดียว ทุกครั้งที่ Melody ได้ดูคลิปการแสดงต่างๆ ที่เกี่ยวกับ Ed เธอจะมีความสุขมาก และเมื่อไหร่ก็ตามที่อาการของเธอแย่ลง แม่ของเธอก็จะเปิดคลิปของ Ed ให้เธอดู แค่นั้นก็ทำให้อาการป่วยของเธอดีขึ้นราวปาฏิหาริย์ เมื่อ Ed ได้รับรู้เรื่องราวของแฟนคลับคนนี้ เขาก็เดินทางไปยังโรงพยาบาลที่ Melody พักรักษาตัวอยู่ เมื่อวันที่…
-
เจ้านายเชิญผู้คนมาร่วมงาน “การเดินเล่นครั้งสุดท้าย” ของสุนัขของเขาก่อนที่มันจะตาย..
เมื่อมีพบก็ต้องมีจาก เป็นเรื่องธรรมดาของโลกนี้ เหมือนอย่างเหตุการที่ชายคนนี้ต้องพบเจอ ซึ่งเป็นเรื่องราวที่น่าเศร้า แต่เขาก็ต้องยอมรับมันให้ได้ เขาได้เชิญชวนคนที่เลี้ยงสุนัขให้มาเข้าร่วมกิจกรรมที่เขาจัดขึ้น เป็นการเดินเล่นที่ชายหาดกับสุนัขธรรมดา แต่สำหรับเขาแล้ว มันก็คือการเดินเล่นครั้งสุดท้ายของเขากับสุนัขที่เขาเลี้ยงมา เจ้า Walnut วัย 18 ปี Mark Woods เจ้าของเจ้า Walnut ได้ตัดสินใจครั้งใหญ่ หลังจากที่ทราบว่าเจ้า Walnut ป่วยหนัก เขาคิดว่าจะทำการุณยฆาตให้กับมัน เพื่อให้มันไม่ทรมานกับความเจ็บปวด แต่ก่อนจะถึงวันนั้น เขาก็อยากจะมอบความสุขให้กับมันครั้งสุดท้าย โดยการพามันไปเดินเล่นที่ชายหาดใน Cornwall ซึ่งเป็นที่โปรดของมันเลย นอกจากนี้เขายังได้เชิญคนเลี้ยงสุนัขคนอื่นๆ มาเดินเล่นกับเขาที่ Porth Beach ด้วย ก่อนที่มันจะหลับโดยที่ไม่ตื่นขึ้นมาอีก “มันมีชีวิตที่น่าเหลือเชื่อมากๆ อยู่มาได้ถึง 18 ปี และตอนนี้มันก็จะหลับไปตลอดการแล้ว หวังว่าเราจะได้เจอกันในวันเสาร์นะ” โพสต์ของเขาถูกแชร์ไปหลายพันครั้งผ่านเฟซบุ๊ก พร้อมทั้งมีคนรักสุนัขหลายคนช่วยให้กำลังใจและสนับสนุนเขาเป็นอย่างดี อีกทั้งยังแชร์ไปในเพจอื่นๆ จนเกิดแฮชแท็กที่ชื่อว่า #walkwithwalnut ขึ้นมา เรียกได้ว่า Walnut อยู่กับเจ้าของมานานและผ่านเรื่องราวอะไรมากเยอะแยะมากมายทั้ง รวมถึงการที่เขาเคยหมั้นมาแล้ว 3 ครั้งและแต่งงานมาแล้ว 2 ครั้ง ในวันสุดท้ายนั้นเขาได้ลางานมาเพื่อที่จะพามันไปเดินเล่น ไม่รู้ว่าสุนัขจะรู้สึกอย่างไรบ้าง แต่อย่างน้อยนี่ก็เป็นวิธีที่ทำให้มันรู้สึกดีได้ก่อนที่มันจะไม่ได้ทำอะไรแบบนี้อีกครั้ง สำหรับคนที่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงก็คงเข้าใจความรู้สึกนี้เป็นอย่างดี…
-
คลิปแคชเชียร์ทำงานช้า ถูกล้อเลียนเป็นสล็อต แท้จริงเธอมีปัญหาสุขภาพจนเกือบเสียชีวิต…
อีกหนึ่งเรื่องราวที่ทำให้เราได้รู้ว่า ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ควร ‘ตัดสิน’ คนจากภายนอก… เพราะว่าเราไม่รู้ว่ากว่าเขาจะมาเป็นเขาอย่างทุกวันนี้นั้น ต้องผ่านอะไรมาบ้าง และเรื่องราวในวันนี้เป็นคลิปจากสมาชิกเฟซบุ๊คท่านหนึ่งที่ชื่อว่า Balaraju Somisetty ที่มียอดวิวสูงกว่า 10 ล้านครั้งเลยทีเดียว ในคลิปนั้นเผยให้เห็นถึงการทำงานของแคชเชียร์หญิงรายหนึ่งซึ่งกำลังนับเงินของผู้เข้ามาทำธรุกรรม แต่ทว่าการทำงานของเธอนั้นช้ามาก ชาวเน็ตที่เห็นต่างก็แสดงความคิดเห็นในเชิงเปรียบเปรยเหมือนดั่งตัวสล็อต Flash ในเรื่อง Zootopia Flash ใน Zootopia คลิปวิดีโอดังกล่าวที่ถูกแชร์และพูดถึงไปในวงกว้าง… แต่ที่จริงแล้ว เรื่องราวนั้นเป็นแบบนี้เราเห็นรึเปล่า? ชาวเน็ตส่วนมากต่างแสดงความคิดเห็นในเชิงตลกขบขัน แต่แล้วก็มีความเห็นดังกล่าวที่มาชี้แจงในส่วนที่หลายคนยังไม่รู้ ‘นี่ไม่ใช่เรื่องตลกเลยนะ… ชื่อของเธอคือ Premlata Shinde เธอกำลังจะเกษียณในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2017 ที่จะถึงนี้แล้ว ตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอมีปัญหาสุขภาพ ทั้งอาการชักและต้องผ่านภาวะหัวใจล้มเหลวมากว่า 2 ครั้ง เธอพึ่งกลับมาทำงานได้อีกครั้งเมื่อไม่นานมานี้หลังจากได้รับการบำบัดจนหายดี ที่จริงแล้วเธอมีวันลาหยุดสะสมไว้จนเธอสามารถลาได้จนเกษียณ นั่งรับเงินอยู่บ้านฟรีๆ ได้สบายๆ แต่นั่นไม่ใช่วิธีการของเธอ เธอเลือกที่จะกลับมาทำงาน และเกษียณโดยการทำหน้าที่ของเธอให้สมเกียรติและสมบูรณ์ที่สุด เหล่าพนักงานที่ทำงานในสาขาเดียวกับเธอเลยตั้งเค้าเตอร์พิเศษให้กับเธอขึ้น เพื่อให้ลูกค้าสามารถใช้งานเค้าเตอร์ต่างๆ ของสาขาได้ตามปกติ ขณะเดียวกัน เธอก็สามารถทำงานในระดับความเร็วของเธอโดยไม่ต้องกดดันทั้งตัวเธอและลูกค้าผู้เร่งรีบ แต่บางครั้งเหล่าลูกค้าที่ไม่รู้ ก็ได้ไปใช้บริการที่เค้าเตอร์ของเธอ…
-
เด็กน้อยป่วย ‘ลูคีเมีย’ ต้องเดินทางคนเดียว 400 กิโล เพื่อไปรักษา และกลับมาเรียนให้ทันเวลา..!!
เรื่องราวของเจ้าหนูน้อยที่ป่วยเป็นโรคลูคีเมีย (หรือโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว) และต้องเดินทางไป-กลับเป็นระยะทางกว่า 400 กิโลเมตร ระหว่างโรงเรียนและโรงพยาบาลเพื่อทำการรักษาและเรียนในเวลาเดียวกัน Shi Luyao หนุ่มน้อยวัย 11 ปี ได้รับการตรวจพบว่าเป็นโรคลูคีเมียเมื่อปี 2013 ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลามากพอสมควรในทำคีโมเพื่อทำการรักษา และต้องได้รับการตรวจกระดูกสันหลังอย่างละเอียด ในเรื่องของการรักษานั้นเจ้าหนุ่มน้อยได้รับการช่วยเหลือจากประกันภัยสังคมเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น เป็นเพราะว่าเขาต้องย้ายตามคุณพ่อจากเมืองเกิด Guizhou ไปทำงานที่เมือง Anhui (หลังจากที่แม่ทิ้งไปเมื่อตอนเขาอายุได้เพียง 2 ขวบ) และด้วยเหตุนี้เองทำให้คุณพ่อของหนุ่มน้อย Luyao นั้นต้องพยายามหาเงินทุกวิถีทาง กว่า 1 ล้านบาท เพื่อนำไปใช้จ่ายเป็นค่ารักษาส่วนต่างที่ประกันไม่ได้จ่ายให้ การหาเงินระดมทุนนั้นเองก็เป็นทางเลือกหนึ่ง แต่ในประเทศจีนนั้นการขอเรี่ยไรเงินเพื่อนำไปรักษาโรคมะเร็งนั้นเป็นอะไรที่ค่อนข้างยาก (เอาจริงๆ ก็ยากหมดเกือบทุกประเทศแหละนะ ถ้าเราเกิดมาแล้วมีสุขภาพที่ย่ำแย่ แต่ช่วงหลังมีเว็บระดมทุนพวกนี้ในโลกฝั่งตะวันตกเยอะกว่าทางฝั่งเอเชียนั่นเอง) เมื่อหนึ่งปีก่อนหน้านี้ คุณพ่อของหนูน้อย Luyao ได้ทำการสวมใส่หน้ากากม้าและให้คนมาขี่หลังเพื่อหาเงินมาจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้กับลูกชาย และเมื่อสองปีก่อนเขาก็ได้ไปคุกเข่าอยู่หน้าบริษัทใหญ่แห่งหนึ่งใน Sichuan ร่วมกับกลุ่มนักเรียนที่เป็นเพื่อนของลูกชายเพื่อขอยืมเงินจากผู้อำนวยการไปใช้จ่ายค่ารักษาพยาบาล และในที่สุดการรักษาก็เริ่มขึ้น Luyao ต้องย้ายกลับไปอยู่ในเมือง Guizhou ที่เป็นบ้านเกิด เพื่อรับสิทธิ์ในการรักษาเมื่อช่วงเดือนสิงหาคมเมื่อปีที่ผ่านมา…
-
สถานบำบัดสร้าง “เมืองจำลองขนาดใหญ่” เพื่อเยียวยาความทรงจำให้เหล่าผู้ป่วยอัลไซเมอร์
สถานบำบัดแห่งหนึ่งมีชื่อว่า Lantern ตั้งอยู่ที่เมือง Chagrin Falls รัฐ Ohio เป็นหนึ่งในสามของสถานที่อำนวยความสะดวกที่มีจุดประสงค์เฉพาะเจาะจงแตกต่างจากที่อื่นไปอย่างสิ้นเชิง เพราะมันถูกสร้างให้เหมือนกับเป็นหมู่บ้านจำลองให้สำหรับผู้ป่วยอัลไซเมอร์และโรคสมองเสื่อม ภายในนั้นตกแต่งไปด้วยพรมสีเขียวที่ดูเหมือนกับหญ้า พร้อมทั้งมีการตกแต่งภายในของบ้านแต่ละหลัง มีสนามหญ้าและทางเดินภายในบ้านพร้อมกับม้านั่งหน้าบ้านที่นั่งแล้วจะเห็นวิวของสนามกอล์ฟ พร้อมทั้งระบบเสียงที่เปิดเสียงนกร้อง ให้คล้ายกับบรรยากาศจริงๆ และท้องฟ้ายังมีลูกเล่นเปลี่ยนเป็นตอนกลางวันและกลางคืนได้อีกด้วย สิ่งนี้จะทำให้ผู้ป่วนอัลไซเมอร์สามารถนึกย้อนไปในอดีตได้ เหมือนเป็นเครื่องย้อนเวลา ซึ่งจะได้ผลดีอย่างมากสำหรับผู้ป่วยที่เคยผ่านยุค 1930s – 1940s มาแล้ว ซีอีโอของ Lantern นั่นก็คือ Jean Makesh ผู้เป็นทั้งนักบำบัดและผู้ออกแบบโครงการนี้มาตั้งแต่ปี 2007 แต่ตอนนั้นไม่มีนักลงทุนเข้ามาจนกระทั่งถึงปี 2010 ก็มีคนยอมมาช่วยและพร้อมจะเสี่ยงไปกับโครงการนี้ Jean เล่าว่าการควบคุมสภาพแวดล้อมจะทำให้ลดอัตราการเกิดความโกรธเคืองและสภาวะซึมเศร้าได้อีกด้วย ซึ่งสิ่งเหล่านี้ส่งผลต่อสมอง ซึ่งเขาได้ใส่ใจรายละเอียดไม่ว่าจะเป็นสีต่างๆ ที่ใช้ทาล้วนมีผลต่อสมองทั้งสิ้น . . เราไปเยี่ยมชมที่แห่งนี้กันเลย ที่มา designyoutrust
-
คู่รักชะตาลิขิต พบกันตอนป่วยเป็นโรคปอดเรื้อรัง พร้อมที่จะฝ่าฟันอุปสรรคไปด้วยกันจนถึงที่สุด
เชื่อว่าหลายคนคงเคยชมภาพยนตร์เรื่อง Fault in Our Stars ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับความรักของพระเอกนางเอกที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งกันมาแล้ว ซึ่งทั้งคู่ก็พร้อมที่จะฝ่าฟันอุปสรรคและต่อสู้ไปด้วยกันจนถึงวินาทีสุดท้าย แต่ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเรื่องราวสุดเศร้าจากภาพยนตร์ จะบังเอิญไปเกิดขึ้นในชีวิตจริงของ Katie และ Dalton Prager คู่รักที่พบกันขณะที่ต่อสู้กับโรคปอดเรื้อรัง แต่ถึงกระนั้น พวกเขาก็พร้อมที่จะฝ่าฟันอุปสรรคไปด้วยกันจนถึงที่สุด เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2559 ทางเว็บไซต์ Dailymail ได้เผยเรื่องราวความรักที่น่าเศร้าของพวกเขา โดย Katie ในวัย 26 ปี ได้เข้ารักษาตัวอยู่ที่ศูนย์ดูแลผู้ป่วยในรัฐเคนทักกี หลังจากที่เธอได้รับการปลูกถ่ายปอด แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ ด้านแพทย์ได้ออกมาเผยว่า ไม่มีทางใดที่จะสามารถรักษาเธอได้อีกแล้ว ฝ่าย Dalton ชายหนุ่มวัย 25 ปี ก็พยายามต่อสู้กับโรคปวดบวมที่เป็นอยู่อย่างเต็มที่ เพื่อที่เขาจะได้มาอยู่ใกล้ๆ กับภรรยา แต่ทว่าสุขภาพร่างกายกลับแย่ลงเรื่อยๆ และนั่นก็ทำให้เขาไม่สามารถออกจากโรงพยาบาลเพื่อมาอยู่เขียงข้างกับภรรยาสาวได้ สำหรับเรื่องราวความรักของทั้งคู่เกิดขึ้นหลังจากที่ Katie ได้ยินเรื่องราวของ Dalton และเธอก็พร้อมที่จะช่วยเหลือเขา อีกทั้งยังได้ส่งข้อความไปหา…
-
เด็กน้อยช่วยเหมียวจากข้างถนน ต่อมาเขาเป็นมะเร็ง… เจ้าเหมียวก็ให้กำลังใจไม่ห่าง!!
เรื่องราวของหนุ่มน้อยที่และเจ้าเหมียวเพื่อนรัก ที่เขาช่วยเหลือมันมาจากข้างถนน และเมื่อเขาป่วยเจ้าเหมียวก็ตอบแทนด้วยการอยู่ข้างๆ คอยเป็นกำลังใจให้แทบจะตลอดเวลา นี่คือเจ้าเหมียว Ginja Ninja และเหนุ่มน้อย Paeton เจ้าเหมียวสีส้มตัวนี้ถูกพบในระหว่างทางกลับบ้านของเจ้าหนุ่มน้อย Paeton มันเดินเข้ามาเพื่อขออาหาร “มันถูกทิ้งให้อยู่ข้างถนน รูปร่างของมันในตอนนั้นทั้งผอมโซ และสกปรก มันก็ผ่านมาแล้วเกือบ 4 ปี ที่ลูกชายของฉันพามันมาอยู่ที่บ้านนี้ และเขาก็รบเร้าให้พวกเรารับเลี้ยงมัน” คุณ Mel Morrow แม่ของหนุ่มน้อย Paeton เล่า “ดูสิฮะแม่ มันสกปรก แล้วก็หิวมากๆ เลยด้วย เราต้องช่วยเหลือมัน แล้วก็ดูแลมันด้วยนะ” หนุ่มน้อย Paeton บอกกับแม่ ซึ่งตอนนั้นที่บ้าานของเขาก็เลี้ยงเจ้าเหมียวไว้หลายตัวอยู่แล้ว ก็เลยตัดสินใจที่จะดูแลมันจนกว่าจะหาบ้านให้กับมัน แต่สุดท้ายก็เปลี่ยนแผนเลี้ยงไว้ซะเอง ฮร่า “พวกเราพามันไปที่โรงพยาบาลสัตว์ในเช้าวันต่อมา และคุณหมอบอกว่ามันไม่มีไมโครชิปอยู่ (แสดงว่าไม่มีเจ้าของ) พวกเขาก็เลยแนะนำให้พามันไปไว้ที่สถานสงเคราะห์สัตว์ แต่พวกเราเลือกที่จะพามันกลับมาที่บ้าน และแนะนำให้มันรู้จักกับเจ้าเหมียวตัวอื่นๆ” คุณแม่กล่าว แต่เรื่องราวยังไม่ได้จบลงแค่นั้น… หลังจากนั้นพวกเขาก็ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข เจ้าเหมียว Ginja…
-
โรงพยาบาลใช้เครื่อง VR มาให้เด็กผ่าตัดเล่นระหว่างพักฟื้น เพื่อช่วยให้สภาพจิตใจเธอดีขึ้น
หากใครที่เคยป่วยหนักจนถึงขั้นต้องเข้ารับการผ่าตัดละก็ คงทราบกันดีว่านอกจากจะต้องสู้กับความรู้สึกเจ็บจากบาดแผลแล้วหลังผ่าตัดแล้ว ยังต้องต่อสู้กับความเบื่อหน่ายที่เรากำลังเฝ้ารอวันที่จะหายและออกจากโรงพยาบาลซักที และนี่คือเรื่องราวของสาวน้อย Abrielle วัย 8 ขวบ เมื่อเธอตื่นขึ้นมากลางดึกแล้วมีความรู้สึกคลื่นไส้ ปวดท้องอย่างบอกไม่ถูก พอถึงเช้าวันต่อมาสาวน้อยกลับไม่รู้สึกดีขึ้น แถมยังเจ็บปวดมากกว่าเดิม Renata คุณแม่ของหนูน้อยจึงรีบพาเธอไปโรงพยาบาลทันที เมื่อคุณหมอวินิจฉัยแล้วปรากฏว่า ไส้ติ่งของเธออักเสบจนเกิดการรั่วไหล “มันแย่มากเลยค่ะ…คุณหมอบอกว่าตลอดระยะเวลา 20 ปีที่เค้าทำงานด้านนี้มา เคสของเธอถือว่าเป็นเคสที่ค่อนข้างร้ายแรงมากๆ เลยค่ะ ชีพจรของเธอเต้นสูงถึง 200 ครั้งต่อนาที ระดับออกซิเจนก็ลดลงมากกว่า 40% เป็นอะไรที่น่ากลัวมากๆ เลยค่ะ” คุณแม่กล่าว หลังจากได้รับการรักษาหนูน้อยต้องเฝ้าดูอาการ และติดตามผลอยู่ที่โรงพยาบาลนานถึง 12 วัน แล้วจะมีวิธีไหนบ้างที่ไม่ทำให้ หนูน้อยวัย 8 ขวบ รู้สึกเบื่อกับช่วงเวลา 12 วันนี้? “เราเล่นเกมเศรษฐี และไพ่ Uno กันจนเบื่อเลยล่ะค่ะ อีกทั้ง Abbie ก็ชอบตื่นมาดูการ์ตูน Spongebob ในทุกๆ เช้า” คุณแม่กล่าว แต่ถึงกระนั้น มันก็ไม่เพียงพอต่อความอยากเล่นอย่างสนุกสนานของลูกสาววัย…
-
‘Adelle’ อัดคลิปขอโทษแฟนๆ จากใจ หลังจากป่วย จนต้องยกเลิกคอนเสิร์ตกะทันหัน!!!
ต้องขอบอกเลยว่าหนึ่งในคอนเสิร์ตของศิลปินระดับโลกที่ไม่ว่าใครต่างก็อยากลองไปชมดูสักครั้งนั้นก็คงหนีไม่พ้นคอนเสิร์ตของนักร้องสาว Adelle อย่างแน่นอน นั่นเพราะว่าเสียงร้องที่ไพเราะการันตีด้วยยอดวิวของเพลงแต่ละเพลง บวกกับนิสัยที่ขี้เล่นทะเล้น เป็นกันเองกับแฟนคลับของเธอ ทำให้แฟนๆ หลงรักเธอจนสุดหัวใจ ซึ่งตอนนี้เธอกำลังอยู่ในระหว่างทัวร์คอนเสิร์ตฤดูร้อนที่สหรัฐอเมริกาอยู่ ซึ่งแน่นอนว่าเป็นเรื่องที่ดี สำหรับเหล่าแฟนคลับของเธอที่จะได้ชมการแสดงแบบสดๆ กันอย่างทั่วถึง และแน่นอนว่าทุกคอนเสิร์ตของเธอนั้นก็ได้สร้างความประทับใจให้กับเหล่าแฟนคลับทั้งหลายเป็นอย่างมาก แต่เธอก็เป็นมนุษย์ปกติธรรมดาเหมือนอย่างเราๆ นี่แหละ ที่ชอบกินเบอร์ริโต้ที่แสนอร่อย หรือบางครั้งก็มีงานด่วนอย่างการไปออกรายการ Super Bowl หรือไม่ก็ออกไปช็อปปิ้งซื้อของแบรนด์ H&M แต่ล่าสุดคอนเสิร์ตทัวร์ที่จะจัดขึ้นในเมือง Phoenix รัฐ Arizona ก็ถูกยกเลิกไป สร้างความเสียใจให้กับเหล่าแฟนๆ ของ Adelle ที่อยู่ในแอริโซนาเป็นอย่างมาก ด้วยเหตุนั้นเธอก็เลยอัดคลิปออกมาขอโทษแฟนๆ พร้อมกับแจ้งเหตุผลให้ทราบว่าที่ยกเลิกคอนเสิร์ตไปนั้นเป็นเพราะเธอป่วย และนี่คือสิ่งที่เธอบอกกับแฟนๆ “สวัสดีทุกคน ฝากถึงทุกคนที่อยู่ใน Phoenix แอริโซนา ฉันไม่สามารถแสดงโชว์ที่สองของฉันที่จะมีขึ้นในคืนนี้ได้ ฉันขอโทษจากใจจริง เพราะว่าฉันป่วยเป็นหวัดมาได้สักพักแล้ว และฉันก็พยายามเป็นอย่างมากที่จะผ่านมันไปให้ได้ หลังจากที่ฉันขึ้นโชว์เมื่อคืนที่ผ่านมา และฉันชอบมันมาก แต่จากการฝืนตัวเองมากไป เจ้าหวัดนี้มันเหมือนจะเอาชนะร่างกายของฉันซะแล้ว” “ก็อย่างที่เธอได้ฟังเสียงของฉัน…
-
เจ้าเหมียวป่วยเอาแต่หลบอยู่ใต้ผ้าห่ม ถูกพาไปรักษา แล้วมันก็ได้บ้านใหม่ (เจ้าของน่ารักแฮะ ^^)
เรื่องราวของเจ้าเหมียวขี้อาย ที่อาศัยอยู่ในสถานสงเคราะห์สัตว์จรจัด มันมักจะซ่อนตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม ไม่ออกมาพบปะกับผู้คนที่เดินผ่านไปมา หรือคนที่จะมารับเลี้ยงเหล่าสัตว์ เจ้าเหมียวตัวนี้มีชื่อว่า Sasha มันถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยเหลือไว้และนำมาส่งตัวให้กับสถานสงเคราะห์แห่งนี้ “เมื่อฉันเห็นมันครั้งแรก มันอยู่นิ่งๆ ไม่ไหวติงนอนนิ่งอยู่กับพื้นไม่ขยับไปไหน ในห้องที่แยกออกมาของสถานสงเคราะห์” Dorella Tuckwiller ผู้ก่อตั้งศูนย์ช่วยเหลือแมว Itty Bitty Kitty Committee (IBKC) กล่าว เจ้าเหมียวพยายามที่จะแยกตัวเองออกจากคนอื่น นอนหลบอยู่ใต้ผ้าห่มไม่ยอมออกมาพบปะกับผู้คน และก็ดูเหมือนกับว่ามันขยับตัวได้ยากมากๆ “มีหลายๆ คนที่เข้าไปเยี่ยมในสถานสงเคราะห์แห่งนั้น พอเห็นเจ้าเหมียวตัวนี้พวกเขาก็รู้สึกเป็นห่วงกลัวว่ามันจะเป็นอะไร พวกเขาพยายามที่จะช่วยเหลือมัน แต่ก็รู้ว่ามันคงต้องการมากกว่านั้น ก็เลยติดต่อมายัง IBKC เพื่อขอความช่วยเหลือ แน่นอนว่าทาง IBKC เองก็ตอบตกลงอย่างเร็วไว” คุณ Tuckwiller ได้พาเจ้าเหมียว Sasha ไปหาหมอเพื่อตรวจดูว่ามันมีอาการผิดปกติอะไรหรือไม่ เหตุใดจึงไม่ยอมออกมาพบปะผู้คน เอาแต่หลบอยู่อย่างนั้น แถมยังดูขยับตัวได้ยากลำบากอีกต่างหาก “ผลจากการอัลตราซาวด์ พบว่าเจ้าเหมียวตัวนี้มีนิ่วอยู่ในกระเพาะปัสสาวะ นั่นทำให้มันรู้สึกไม่สบายเนื้อสบายตัว ขยับไปไหนมาไหนยากลำบาก มานานมากแล้ว เพราะดูเหมือนว่าเจ้าเหมียวตัวนี้จะไม่รู้วิธีการใช้กระบะทรายเลยแม้แต่น้อย” คุณ Tuckwiller เล่า เอาล่ะ ข้อสงสัยทุกอย่างเคลียร์แล้ว…
-
สิงโตที่อยู่อย่างโดดเดี่ยว จนกระทั่งได้พบ “ความรัก” ทำให้มันเริ่มต้นใช้ชีวิตอีกครั้ง
Kahn และ Sheila สองสิงโตที่ครั้งหนึ่งเคยมีเจ้านายคนเดียวกัน พวกมันถูกเลี้ยงไว้เพื่อให้คนมาเช่าถ่ายภาพและเข้าร่วมงานปาร์ตี้ จนกระทั่งพวกมันถูกองค์กร Texas’ In-Sync Exotics Wildlife Rescue and Education Center ช่วยเหลือไว้ได้ Sheila สิงโตเพศเมีย แต่น่าเสียดายที่มันต้องแยกกันอยู่ โดยเจ้า Kahn วัย 6 ปี นั้นขาดสารอาหารแถมหางของมันก็ถูกกัด คาดว่ามันอาจจะเครียดจนต้องกัดหางของตัวเอง แต่โชคยังดีที่มันเป็นมิตรกับคนมากๆ จึงสามารถช่วยรักษาได้อย่างง่ายดาย ส่วนเจ้า Sheila นั้นก็กำลังจะตาย… Sheila สิงโตเพศเมียวัยเพียง 15 เดือนเท่านั้น ร่างกายของมันอ่อนแอมาก ยืนแทบจะไม่ไหว มันไร้ซึ่งชีวิตชีวาอีกทั้งยังอ้วกตลอดเวลาอีกด้วย แต่ทางองค์กรก็ยังไม่ยอมแพ้ที่จะช่วยเหลือมันจนสุดความสามารถ . Vicky Keahey ผู้ก่อตั้งสถานรับเลี้ยงเล่าว่ากว่า 2 สัปดาห์ที่เขาต้องเข้าไปป้อนอาหารให้กับมือ เขาทำมีตบอลแล้วก็ยัดเข้าปากมัน เพื่อให้มันได้กินอะไรบ้าง อีกทั้งมันยังเป็นโรคอีกมากมาย ทำให้มันไม่มีความกระหายหรือง่วงได้เลย แต่ด้วยการดูแล ทำให้อาการของมันดีขึ้น Kahn และ Sheila จากปากคำเจ้าหน้าที่เล่าว่า…
-
เปิดข้อมูลวิจัยการเติมน้ำดื่มจากขวดเดิมซ้ำๆ โดยไม่ล้าง สกปรกกว่าเอาลิ้นเลียฝาชักโครก!?
เชื่อว่าหลายๆ คนที่ชื่นชอบการออกกำลังกายคงมีขวดน้ำหรือแก้วน้ำเป็นของตัวเอง แล้วก็ใช้มันเติมน้ำใช้ต่อกันอยู่บ่อยๆ เพราะคิดว่ามันคงไม่เป็นอะไร ใครๆ เค้าก็ทำกัน (รวมถึงเราก็ทำกันอยู่บ่อยๆ แถมไม่ล้างด้วย) แต่หารู้ไม่ว่าจริงๆ แล้วการใช้ขวดน้ำใบเดิมซ้ำๆ นั้นจะส่งผลให้เพิ่มปริมาณเชื้อโรคสะสม แล้วถ้าเราดื่มบ่อยๆ ก็อาจทำให้เราป่วยได้เลยทีเดียวล่ะ ทีมวิจัยจาก Treadmillreviews ได้เผยข้อมูลที่พวกเขาได้ทำการศึกษา ก็พบว่าการดื่มน้ำจากขวดน้ำที่ใช้ซ้ำโดยไม่ล้างนั้นก็เปรียบเสมือนกับเราเอาลิ้นไปเลียชักโครกยังไงยังงั้นเลย นักวิจัยได้ทำการทดลองตรวจสอบปริมาณเชื้อโรคจากขวดน้ำของนักกีฬาที่ใช้งานมาหนึ่งสัปดาห์ในห้องแล็บ และพบว่าเจ้าขวดนั้นมีตัวเลขของแบคทีเรียสูงมาก โดยมีมากถึง 900,000 CFU (หน่วยที่ได้จากวิธีตรวจนับปริมาณจุลินทรีย์) ต่อตารางเซนติเมตรเลยทีเดียว ซึ่งมีจำนวนมากกว่าค่าเฉลี่ยที่ตรวจพบบนฝาชักโครกซะอีก นั่นทำให้พวกเขาเกิดคำถามและตั้งขึ้นมาต่อสังคมว่า แล้วเราจะยอมเอาปากของเราไปสัมผัสกับปากขวดที่ใช้งานอยู่อีกหรือ?? (แค่คิดก็หยึยแล้ว) ค่าเฉลี่ยของเชื้อโรคที่อยู่บนขวดน้ำที่ใช้สำหรับออกกำลังกายของคนทั่วไปก็คือ 313,499 CFU ต่อตารางเซนติเมตร ซึ่งมันมากเกินกว่าที่จะนำขวดนั้นมาสัมผัสกับปากของเราได้แล้ว นักวิจัยได้ทำการทดลองกับชนิดของขวดน้ำสำหรับออกกำลังกายในแต่ละแบบแตกต่างกันออกไป และก็ได้ผลออกมาว่า ขวดที่มีฝาแบบสไลด์มีค่าแบคทีเรีย 933,340 CFU ต่อตารางเซนติเมตร ขวดแบบมีจุกดูดมีค่าแบคทีเรีย 161,971 CFU ต่อตารางเซนติเมตร ขวดแบบฝาเกลียวมีค่าแบคทีเรีย 159,060 CFU ต่อตารางเซนติเมตร และขวดแบบมีหลอดมีค่าแบคทีเรีย…
-
เจ้าเหมียวเกือบถูก ‘การุณยฆาต’ แต่ถูกช่วยไว้ โตมาเป็นแมวหน้าก๊วนทีนเหลือเกิ๊น!!!
เจ้า Gozer เป็นแมวเหมียวที่ถูกเจ้าทาสคนเก่านำมาให้สัตวแพทย์ทำการการุณยฆาตมัน ด้วยเหตุผลเพียงเพราะว่ามันมีอาการติดเชื้อที่ตา “มีคนเอามันไปทิ้งให้สัตวแพทย์ทำการุณฆาต เพียงเพราะแค่มันมีอาการติดเชื้อที่ตา…ฉันคิดว่ามันน่าจะมีอายุประมาณ 3 สัปดาห์ ลองเดาจากรูปร่าง และขนาดตัวของมัน” ชาวเน็ตเว็บไซต์ Reddit ชื่อว่า sup3rnint3ndo (ผู้ที่รับเจ้า Gozer กลับมาเลี้ยง) กล่าว ทางสัตวแพทย์ปฏิเสธที่จะทำการการุณยฆาตให้กับเจ้าเหมียวน้อย และเมื่อพวกเขาได้เห็นใบหน้าที่เศร้าสร้อยของมันแล้วอดสงสารไม่ได้ ก็เลยตัดสินใจรับมันมาเลี้ยงซะเลย พร้อมกับตั้งชื่อให้ว่าเจ้า Gozer “เจ้าเหมียวของแฟนฉันเพิ่งหายตัวไปได้ไม่นาน และฉันคิดว่าน่าจะหาเจ้านายตัวใหม่ให้กับเขา” คุณ sup3rnint3ndo กล่าว จากการติดเชื้อที่ตาของมัน ส่งผลให้เจ้า Gozer นั้นเป็นโรคหวัดเรื้อรัง แถมยังมีผิวหนังบางส่วนที่ถูกเชื้อรากัดกินจนขนของมันหายไปอีกด้วย พวกเขาพามันไปทำการรักษาและในที่สุดก็หายดี ผ่านไป 2 ปีเจ้า Gozer กลายเป็นแมวเหมียวที่มีร่างกายแข็งแรง และใช้ชีวิตอย่างมีความสุขร่วมกับเจ้าทาสคู่รักทั้งสองคน โดยผลจากอาการติดเชื้อเรื้องรังนั้นทำให้ดวงตาของมันมีลักษณะแปลกๆ ซึ่งก็ทำให้มันดูน่ารักไม่เบาเลยนะเนี่ย ฮร่า แถมยังชอบทำหน้ากวนโอ๊ยอยู่ตลอดเวลาอีกต่างหาก เงิบมั้ยล่ะ 555+ เวลาอยู่ใกล้ๆ กับของกิน ต้องขอบอกเลยว่าพวกเขาคิดไม่ผิดเลยที่รับเจ้า Gozer…
-
หลังจากรู้ว่าหมาเป็น “มะเร็ง” จนถูกตัดขาทิ้ง เขาก็เลยพามันไปเที่ยวให้สมใจอยาก!!
ในเดือนพฤษภาคมปี 2015 สุนัขตัวหนึ่งชื่อว่า “เบลล่า” ถูกตรวจพบว่ามันเป็นมะเร็งกระดูก ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเศร้าสำหรับเจ้าของ Robert Kugler ที่ต้องตัดสินใจครั้งยิ่งใหญ่ เนื่องจากว่าขาของมันติดเชื้อและจำเป็นที่จะต้องตัดทิ้ง ทำให้ตอนนี้มันมีแค่ 3 ขา แต่ชีวิตของมันก็ยังเดินหน้าต่อไปได้ พร้อมกับช่วงเวลาชีวิตที่คาดไว้ว่าอีกประมาณ 3-6 เดือนเท่านั้น ที่มันจะยังมีชีวิตอยู่บนโลกนี้ได้ เนื่องจากว่ามะเร็งมันลามไปถึงปอดอย่างรวดเร็ว หลังจากการผ่าตัด เจ้านายก็เลยตัดสินใจจะพาเจ้าเพื่อนสนิทตัวนี้ไปผจญภัยครั้งสุดท้ายเพื่อเป็นการบอกลาครั้งสุดท้าย ทั้งคู่ได้ออกไปท่องเที่ยวหลากหลายที่มาก แทบจะทั่วสหรัฐฯ รวมไปถึง Chicago, Key West, Nashville และ Savannah จากที่หมอบอกว่ามันจะมีชีวิตเหลือเพียงแค่ 3 – 4 เดือน แต่ตอนนี้ผ่านมาได้ 14 เดือนแล้ว ทั้งคู่ก็ยังใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในการท่องเที่ยวราวกับว่าเจ้าเบลล่าไม่ได้ป่วยอีกแล้ว . . . . . . . . . . เรียกได้ว่าพลังใจล้วนๆ เลยที่ทำให้มันมีชีวิตอยู่ต่อจากที่หมอเคยคาดการณ์ไว้ ไปติดตามการเดินทางของเพวกเขาทั้งคู่ได้ที่ Instagram นี้เลย ที่มา boredpanda
-
บริษัทผลิตตุ๊กตาคิดต่าง… ทำตุ๊กตาหัวโล้นสำหรับเด็กป่วย พวกเธอจะได้มีเพื่อน
ของเล่นที่เด็กผู้หญิงชื่นชอบส่วนใหญ่คงหนีไม่พ้นตุ๊กตาล่ะนะ เพราะทั้งน่ารัก สดใส ผมสลวย หน้าตาเหมือนเพื่อนตัวเล็กๆ คนหนึ่ง แต่ถ้าเด็กคนนั้นเป็นเด็กที่มีอาการป่วยบางอย่างล่ะ พวกเธอจะยังอยากได้ตุ๊กตาเหล่านั้นอยู่อีกไหม? ปัญหานี้เกิดขึ้นกับนาง Meredith Bailey คุณแม่ที่มีลูกสาววัย 4 ขวบ ป่วยเป็นโรคผมร่วง เธอพยายามจะหาตุ๊กตามาให้ลูกสาวได้เล่นเป็นเพื่อนเธอ แต่ไม่ว่าจะตุ๊กตาตัวไหนๆ มันก็ทำให้ลูกสาวของเธอรู้สึกแตกต่างและน้อยเนื้อต่ำใจที่ตนเองไม่มีผมเหมือนอย่างตุ๊กตา แต่ถือเป็นโชคดีมากที่เมื่อไม่กี่วันก่อนนาง Bailey ได้ไปเดินห้างสสรพสินค้าแห่งหนึ่งแล้วเจอเข้ากับตุ๊กตาจากบริษัท American Girl อยู่บนตู้โชว์ แต่สิ่งที่ทำให้เธอเซอ์ไพรซ์ก็คือตุ๊กตาเหล่านั้นไม่มีผมเลย เมื่อเธอลองขยับเข้าไปอ่านข้อความบนกล่องนั่นจึงเห็นข้อความว่า “เราภูมิใจนำเสนอ ตุ๊กตา Truly Me แบบไร้เส้นผม ที่ผ่านการคัดสรรมาอย่างดี มีให้เลือกหลากหลายโทนสี” นั่นทำให้คุณแม่ Bailey ไม่ลังเลที่จะซื้อมันมาให้กับลูกสาวของเธอ ซึ่งลูกสาวของเธอก็ดีใจเอามากๆ ที่จะได้มีตุ๊กตาที่เหมือนกับตัวเอง ทำให้เธอไม่รู้สึกแปลกแยกอีกต่อไป ต่อมาคุณแม่รายนี้ก็ได้เขียนจดหมายขอบคุณโรงงานผลิตตุ๊กตา โดยมีข้อความบางส่วนกล่าวว่า “ฉันสนับสนุนบริษัทผลิตตุ๊กตาของคุณมาโดยตลอด ฉันยังมีตุ๊กตาของบริษัทนี้ที่ซื้อไว้ตั้งแต่เมื่อปี 1988 อยู่เลย ซึ่งลูกสาวของฉันก็ชอบมันมาก ฉันมีความสุขมากที่ได้เห็นว่าลูกสาวของฉันก็มีตุ๊กตาเป็นของตัวเองเช่นกัน” “ตุ๊กตาเหล่านี้ถูกวางอยู่บนชั้นในห้างแบบไม่ได้หลบมุมแต่อย่างใด แต่พวกมันถูกวางไว้ให้ทุกคนได้เห็นชัดเจน โดยเฉพาะลูกสาวของฉัน ที่แปลกใจว่าทำไมเขาไม่ปล่อยออกมาก่อนหน้านี้” นับว่าเป็นความเสี่ยงอยู่ไม่น้อยที่บริษัทตุ๊กตาผลิตตุ๊กตาหัวโล้นออกมาแบบนี้ เพราะเป็นสินค้าที่เจาะกลุ่มลูกค้าแบบเฉพาะเจาะจงมาก แต่ก็ขอชื่นชมในความคิดแหวกแนวนะ เหล่าเด็กๆ ที่ป่วยอยู่จะได้มีเพื่อนเล่นยังไงล่ะ…
-
หญิงสาวเสียชีวิตด้วย ‘จูบสุดท้าย’ ของแฟนหนุ่ม เนื่องจากอาการแพ้ถั่วลิสงอย่างรุนแรง
หื้ออออ!? แค่เห็นหัวข้อก็ตกใจแล้ว การจูบสามารถฆ่าคนได้ด้วยหรือ? อีกทั้งยังมีสาเหตุของอาการแพ้เนยถั่วอีกต่างหาก เอ๊ะ มันชักจะพิลึกกึกกือชอบกล ว่ามันมีแบบนี้จริงๆ ด้วยเร๊อะ อาจจะฟังดูเป็นเรื่องเล็กน้อยมากๆ สำหรับใครบางคน แต่อาการแพ้อย่างรุนแรงนั้นถึงขั้นสามารถทำให้เสียชีวิตได้เลยล่ะ อย่าง Myriam Ducré-Lemay สาววัยรุ่นวัย 20 ปี คนนี้ ที่แพ้ถั่วลิสงเป็นอย่างมาก ย้อนกลับไปในปีค.ศ. 2012 เธอได้ไปที่บ้านของแฟนหนุ่มหลังจากงานปาร์ตี้ ในขณะนั้นแฟนหนุ่มของเธอกำลังทานแซนด์วิชเนยถั่วด้วย หลังจากที่เขาทานเสร็จ ทั้งสองก็หันมาจูบกัน โดยที่ฝ่ายชายได้บอกว่าทานเนยถั่วมา และตัวเธอเองก็ลืมเตือนเขาด้วยว่าตัวเองมีอาการแพ้ ภายหลังจากการจูบเพียงไม่นาน เธอก็เริ่มมีอาการทรมานจากการหายใจถี่ รถพยาบาลตามมาหลังจากนั้น 8 นาที แม้จะพยายามช่วยยื้อชีวิตเธอมากแค่ไหน สุดท้ายเธอก็เสียชีวิตจากเหตุสมองล้มเหลวเนื่องจากขาดออกซิเจน เอกสารยืนยันการเสียชีวิตจากอาการแพ้อย่างรุนแรง ในตอนนั้นเครื่องช่วยหายใจของเธอขัดข้อง และไม่ได้รับยา EpiPen (ยาฉีดอะดรีนาลีน) สำหรับแก้อาการแพ้แบบฉุกเฉิน นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้อาการของเธอทรุดลงอย่างรวดเร็ว ทางด้านคุณแม่ของเธอ Micheline Ducre จึงอยากจะให้เรื่องราวของลูกสาวเธอเป็นอุทาหรณ์สอนใจกับผู้อื่นว่าอย่าละเลยอาการแพ้ของแต่ละคน…
-
สองพี่น้องป่วยเป็นโรคประหลาด เป็นอัมพาตชั่วคราวหลังตะวันตกดินแบบหาสาเหตุไม่ได้!!
ดวงอาทิตย์ส่งผลกระทบต่อชีวิตคนเรามากน้อยแค่ไหนกัน? อย่างที่รู้ๆ กันก็คือความสว่างสำหรับการทำกิจกรรมต่างๆ ของมนุษย์ เมื่อดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปทุกอย่างก็ยังคงดำเนินต่อไป แต่สำหรับสองพี่น้องชาวปากีสถานคู่นี้ ชีวิตของพวกเขาขึ้นอยู่กับดวงอาทิตย์แทบทั้งสิ้น เหมือนดั่งสวิตช์เปิดปิดยังไงยังงั้นเลย สองพี่น้อง Mohammad Shoaib วัย 13 ปี และ Abdul Rasheed วัย 9 ปี จากประเทศปากีสถาน ประสบกับโรคประหลาดที่ไม่สามารถหาสาเหตุได้เลย อาการของทั้งสองจะเริ่มต้นขึ้นเมื่อหลังพระอาทิตย์ตกดินลาลับขอบฟ้าไปแล้ว ร่างกายของทั้งสองจะเป็นอัมพาตชั่วคราว ไม่สามารถขับตัวได้ ราวกับถูกกดปุ่มปิดการทำงานไปเลย ทางด้านคุณพ่อ Mohammad Hashim เชื่อว่าลูกชายทั้งสองของเขานั้นได้รับพลังงานจากพระอาทิตย์ ซึ่งถ้าไร้แสงแดดพวกเขาก็จะไม่มีแรง ถึงแม้ว่าลูกชายทั้งสองจะไม่รู้สึกกลัวหรือกังวลใดๆ แต่สำหรับผู้เป็นพ่อนั้นเขารู้สึกเจ็บปวดแทนลูกชายเหลือเกิน ทางด้านนายแพทย์ Javed Akram จากสถาบัน Pakistan Institute of Medical Sciences (PIMS) กล่าวถึงกรณีนี้ว่าเป็นเคสแรกที่ค้นพบอาการป่วยประหลาดนี้ เป็นอาการที่พบเจอได้ยากมากๆ และคงจะไม่มีแพทย์คนไหนเคยพบเคยเจอแบบนี้มาก่อนเลยด้วย อาการที่ว่าก็คือ…
-
พนักงานดับเพลิงนิวยอร์ก ร่วมสานฝันเด็กป่วยโรคมะเร็ง…. ‘ผมอยากเป็นนักดับเพลิงครับ’
‘นักผจญเพลิง’ คงเป็นอาชีพที่ใครหลายๆ คนใฝ่ฝันอยากจะเป็น เพราะอาชีพนี้เป็นอาชีพที่ใครๆ ต่างก็มองว่าเป็นฮีโร่ เนื่องจากว่าพวกเขาพร้อมที่จะคอยให้ความช่วยเหลือเหล่าพลเมืองได้ทุกเวลา หนูน้อยวัย 3 ขวบ Trucker Dukes เองก็เช่นกัน เขามีความใฝ่ฝันอยากจะเป็นนักผจญเพลิงเหมือนกับพ่อของเขา แต่โชคร้ายที่หนูน้อยคนนี้ดันมีสุขภาพร่างกายที่ไม่ค่อยจะแข็งแรงเท่าไหร่นัก เจ้าหนู Trucker ป่วยเป็นโรคมะเร็งต่อมหมวกไตในเด็ก ทำให้เขาต้องเดินทางจากบ้านที่ Hawaii มารักษาตัวที่โรงพยาบาลใน New York อยู่เป็นประจำ ในวันเกิดครบรอบ 3 ปีของเจ้าหนู Trucker เขาได้ถูกเชิญให้ไปยัง สถานีดับเพลิงแห่งหนึ่งเพื่อสวมบทบาทเป็นนักผจญเพลิงดังที่เขาใฝ่ฝัน 1 วัน องค์กรช่วยเหลือเยียวยาจิตใจผู้ป่วย Ronald McDonald House ได้ทำการติดต่อไปยังกัปตัน James Grismer ที่เป็นหัวหน้านักผจญเพลิงของเมือง เพื่อช่วยให้ความฝันของเจ้าหนูน้อยเป็นจริง แน่นอนว่าเจ้าหนู Trucker นั้นชื่นชอบนักผจญเพลิงจนเรียกได้ว่าฝังเข้าไปอยู่ใน DNA เลยทีเดียว เพราะว่าพ่อของเขาก็เป็นนักผจญเพลิงที่ Hawaii ด้วย ตอนเจอกันครั้งแรก กัปตัน James เล่าว่า “เขาดูตื่นเต้นมาก เวลาที่เขามองมายังเหล่านักดับเพลิงสายตาของดูชื่นชมมากๆ หลังจากนั้นผมก็ก้มตัวลงไปอ้าแขนรับเขา เจ้าหนู…
-
สาวอังกฤษป่วยนาน 11 ปี เพราะถูกแมลงปริศนากัด วิงวอนอยากฆ่าตัวตายทุกๆ วัน
เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Metro ได้เปิดเผยเรื่องราวชวนสลดใจของ Kirsty หญิงสาววัย 23 ปี จากมณฑลเคนต์ ประเทศอังกฤษ ที่นอนป่วยอยู่ในโรงพยาบาล เพราะถูกแมลงปริศนากัดเข้าที่หลังของเธอตั้งแต่ตอนอายุ 12 ทำให้เธอต้องวนเวียนอยู่โรงพยาบาลนับตั้งแต่นั้นมา ตามรายงานบอกว่า Kirsty มีอาการป่วยเรื้อรังมาตลอด 11 ปีที่ผ่านมา ทั้งปวดเนื้อปวดตัวและมีอาเจียน มันทำลายชีวิตความเป็นอยู่ของเธอในแบบที่ไม่ควรจะเป็น อาการของเธอแย่ลงขึ้นเรื่อยๆ ในเดือนที่ผ่านมา เธอต้องเข้าๆ ออกๆ โรงพยาบาลบ่อยถึง 4 ครั้งทีเดียว ทางด้าน Theresa คุณแม่ของ Kirsty ได้กล่าวว่าเธอรู้สึกลำบากใจมากเพราะลูกสาวเอาแต่อ้อนวอนให้พาเธอไปฉีดยาฆ่าตัวตายซะ “Kirsty แย่ลงเรื่อยๆ เธอไม่สามารถรับยาเพราะอาเจียน เธอพยายามแล้ว แต่เธออ่อนแอและอยากจะตาย” ตลอดระยะเวลาการรักษาตัว 7 ปีที่ผ่านมาผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ได้กล่าวว่า Kirsty อาจเป็นโรค SLE (โรคแพ้ภูมิตัวเอง) แต่สุดท้ายคุณหมอจากโรงพยาบาล Guy’s Hospital ก็ได้ออกมายืนยันว่าไม่ใช่อย่างที่คิด ชมคลิปสุดสะเทือนใจได้ที่ด้านล่างเลย…
-
เด็กหญิงน้อยป่วยเป็น ‘ออทิสติก’ หยุดพูดเป็นเวลากว่า 3 ปี…จู่ๆ ก็เอ่ยขึ้นมาว่า ‘อยากกินขนมปังปิ้ง’
ยังมีโรคภัยไข้เจ็บอีกหลายชนิดที่เรายังไม่รู้จัก ซึ่งมันก็มีอาการแปลกๆ ออกมาให้เห็นมากมายอย่างเช่นคนที่มีมือและเท้าคล้ายกับเปลือกไม้ ขนที่มีขนขึ้นเต็มไปทั่วร่าง เป็นต้น และเจ้าหนูน้อย Coco Bradford คนนี้เองก็เช่นกัน เธอป่วยเป็นโรคออทิสติค มองดูเผินๆ แล้ว ก็ดูไม่ผิดปกติอะไรใช่มั้ยล่ะ? แต่จริงๆ แล้วเธอไม่ปริปากพูดมาเป็นเวลากว่า 3 ปีแล้ว!! พ่อแม่ของหนู Coco เล่าให้ฟังว่าเธอเริ่มพูดได้เมื่อมีอายุ 2 ขวบ แต่หลังจากนั้นไม่นานเธอก็หยุดพูดไปซะเฉยๆ เลย ซึ่งเป็นอาการที่เด็กออทิสติคทั่วไปจะเป็นกัน กว่า 3 ปีแล้วที่หนู Coco ไม่ปริปากพูดเลย และอยู่มาวันหนึ่งทุกอย่างก็เปลี่ยนไป เมื่อเธอเอ่ยปากพูดออกมา เพื่อขอกินขนมที่เธอชื่นชอบซึ่งก็คือ ขนมปังปิ้งนั่นเอง พ่อแม่ของเธอตกใจมาก และดีใจสุดขีดในที่สุดเธอก็กลับมาพูดอีกครั้งแล้ว หลังจากที่ทำตัวเหมือนคนใบ้ มากว่า 3 ปี หนู Coco นั้นดูท่าจะมีความสุขมากเป็นพิเศษหลังจากที่เธอเริ่มพูดแล้ว คุณแม่ของเธอเล่าว่าขณะที่เธอเริ่มเอ่ยปากขอขนมปังได้แล้ว จู่ๆ เธอก็แล้วพูดอีกพร้อมกับกระโดดโลดเต้นไปด้วยความดีใจ ในครอบครัว Bradford นี้มีลูกถึง 4 คนด้วยกัน แต่มีเพียง Coco ที่เป็นน้องคนสุดท้องเท่านั้นที่ป่วยเป็นโรคออทิสติค…
-
เจ้าหมาเดินไม่ได้เอาแต่นอนซม เจ้าของเลยพาไปทำกายภาพบำบัดจนกลับมาเดินได้อีกครั้งหนึ่ง!!
การทำกายภาพบำบัดมักจะเกิดขึ้นหลังจากที่เราประสบกับอุบัติเหตุจนทำให้อวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งใช้งานไม่ได้ไปช่วงระยะเวลาหนึ่ง หรือเข้ารับการผ่าตัดแล้วส่งผลให้อวัยวะต่างๆ ในร่างกายไม่สามารถใช้งานได้ปกติ ต้องมีการกระตุ้นให้กล้ามเนื้อแข็งแรงและกลับมาใช้งานได้อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งการรักษาด้วยวิธีนี้ไม่ได้มีเพียงแต่กับมนุษย์เพียงเท่านั้น เพราะเจ้าหมาก็สามารถเข้ารับกายภาพบำบัดและหายดีไดด้วยเช่นกัน ไม่ใช่ว่าเดินไม่ได้แล้วก็เดินไม่ได้เลยไปซะทีเดียวลเยนะจ๊ะ… อย่างเจ้า Dillon หมาพันธุ์ลาบาดอร์ วัย 11 ปี ตัวนี้ ที่ได้รับการผ่าตัดบริเวณกระดูกสันหลังมา จนทำให้มันเดินไม่ได้ เจ้าของของมันรู้สึกสงสารมันมากเพราะวันๆ มันมัวแต่นอนไม่ขยับไปไหนเลย พวกเขาจึงพามันไปทำการรักษาที่โรงพยาบาลสัตว์ Yorkshire Vet Physio ซึ่งพวกเขาก็ได้ทำกายภาพบำบัดให้กับเจ้า Dillon อย่างเร็วไว โดยเริ่มจากการใช้ผ้าช่วยพยุงตัวมันให้ขาได้สัมผัสกับพื้นก่อน แล้วก็พาไปเดินในน้ำ จากนั้นก็สลับมาใช้ลูกบอลช่วยบนบก จนผ่านไปกว่า 8 สัปดาห์ ในที่สุดเจ้า Dillon ก็สามารถกลับมาเดินได้อย่างเป็นปกติอีกครั้งหนึ่ง!! ลองไปชมคลิปแบบเต็มได้ที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้าา… น่าทึ่งไปเลยใช่มั้ยล่ะ ปัจจุบันเทคโนโลยีเกี่ยวกับการแพทย์ไม่ได้พัฒนาไปเพียงแค่เฉพาะกับคนเท่านั้นนะ กับเหล่าสัตว์ทั้งหลายก็สามารถรักษาให้พวกมันหายกลับมาเป็นปกติได้อย่างเร็วไวได้อีกด้วย >< ที่มา : viralnova, yorlshire Vet Physio
-
สะเทือนใจ…เจ้าหมาไม่ยอมห่างจากเด็กน้อยป่วยหนัก หลังพ่อแม่เตรียมปลดเครื่องยื้อชีวิต…
ว่ากันว่าหมาเป็นสัตว์ที่สามารถรับรู้ถึงอารมณ์ของมนุษย์ได้ หากมันรู้ว่ามีเรื่องเศร้าเกิดขึ้น ด้วยความห่วงใย มันจะไม่ยอมจากไปไหน ดั่งเช่นเรื่องราวที่ #เหมียวอ๊อดโด้ นำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมวันนี้ รับรองว่าเพื่อนๆ จะต้องสะเทือนใจและประทับใจไปพร้อมๆ กันอย่างแน่นอน เรื่องราวดังกล่าวเป็นของครอบครัว Hall เมื่อสมาชิกคนล่าสุดของครอบครัว Nora เกิดอาการหัวใจวายขณะอายุได้เพียง 4 เดือน หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น สมองและระบบประสาทของเธอตายไปเกือบทั้งหมด เธอจึงมีชีวิตรอดได้เพียงเพราะเครื่องมือช่วยชีวิตเท่านั้น ต่อมาแพทย์ได้วิเคราะห์แล้วว่า เธอคงไม่รอดอย่างแน่นอน วันหนึ่งเธออาจมีอาการหัวใจวายขึ้นมาอีก ทำให้ John และ Mary พ่อแม่ของ Nora ต้องตัดสินใจทำสิ่งที่พ่อแม่ทุกคนไม่อยากทำ นั่นก็คือการปิดเครื่องมือช่วยชีวิตนั่นเอง… ในขณะที่ Mary ตัดสินใจจะปิดเครื่องนั้น เจ้าหมาพันธุ์บาสเซ็ตฮาวด์สองตัวของบ้าน กลับไม่ยอมลุกไปไหน และนั่งอยู่ข้างๆ Nora อย่างนั้น ราวกับรู้ว่ากำลังจะมีเรื่องราวแสนเศร้าเกิดขึ้นในห้องนั้น ตอนแรกเธอลังเลว่า จะให้เจ้าหมาสองตัวนี้อยู่ในห้องด้วยหรือไม่เพราะมันอาจจะเครียดจากความรู้สึกเศร้าสลดของคนที่อยู่ในห้อง สุดท้ายเธอก็ปล่อยให้เจ้าหมาสองตัวนั้นอยู่กับเด็กน้อย Nora จนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต หลังจากนั้นทางครอบครัว ก็ได้โพสเรื่องราวลงบนเพจเฟสบุ๊กของตนเอง เล่าเรื่องราวและเหตุผลของการตัดสินใจของพวกเขา จนมีชาวเน็ตมากมายเข้ามาให้กำลังใจ We wish…
-
สะพรึงมาก!! หนุ่มบังคลาเทศป่วยเป็นโรคประหลาด ค่อยๆ กลายร่างเป็นต้นไม้!?
เชื่อว่าใครที่เคยเล่นเกมหรือดูหนังไซไฟเกี่ยวกับโลกหลังการล่มสลายมาเยอะๆ คงจะเห็นว่ามีโรคประหลาดมากมายถูกแต่งขึ้นตามแต่จินตนาการ เพื่อให้ผู้เล่นหรือผู้ชมรู้สึกสะพรึงกลัวกับโรคร้ายต่างๆ ในอนาคต แต่แอดเหมียวอยากจะบอกว่าโรคเหล่านั้นกำลังเกิดขึ้นจริงแล้วล่ะ เมื่อวันที่ 30 มกราคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้เปิดเผยเรื่องราวของนาย Abul Bajandar หนุ่มชาวบังคลาเทศวัย 25 ปี ที่ได้ฉายาว่าเป็น “มนุษย์ต้นไม้” เขาต้องทนทุกข์ทรมานกับโรคประหลาดที่ชื่อว่า Epidermodysplasia Verruciformis โรคที่ว่านี้ถือเป็นโรคที่เกิดขึ้นได้ยาก ซึ่งใครที่เป็นโรคนี้จะมีอาการผิดปกติของผิวหนัง ทำให้มีสิ่งแปลกปลอมคล้ายกับรากไม้งอกออกมาจากมือและเท้าของเขา ทำให้ทีมแพทย์แห่งโรงพยาบาล Dhaka Medical College and Hospital ต้องประชุมกันและหาทางรักษาให้แก่เขาเป็นการเร่งด่วน ทั้งนี้ทางพ่อแม่ของนาย Abul ได้กล่าวว่าลูกชายของเขาต้องมีชีวิตอย่างยากลำบาก เพราะหลังจากที่เขาเริ่มมีสิ่งนั้นงอกออกมาจากมือ ก็ทำให้ลูกชายของเขาถูกไล่ออกจากงานทันที แถมยังเป็นที่น่ารังเกียจของเพื่อนบ้านในละแวกนั้นด้วย ก่อนหน้านี้นายแพทย์ชาวอเมริกันท่านหนึ่งเคยศึกษาเรื่องนี้และพบว่าสาเหตุที่ทำให้มนุษย์มีสิ่งแปลกปลอมนี้งอกออกมาเป็นผลมาจากไวรัสที่ชื่อว่า Human Pappiloma Virus (HPV) ซึ่งเป็นชนิดที่ร้ายแรงที่สุด และทีมแพทย์บอกว่าเขาต้องทำการผ่าตัดเอาเจ้าสิ่งนั้นออกจากร่างกายอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง …
-
น่าสงสาร คุณแม่ชาวอินเดียให้กำเนิดลูกน้อยที่มีศีรษะเพียงครึ่งเดียว และดวงตาที่ปูดโปน
เมื่อวันที่ 23 มกราคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้เผยแพร่ภาพสุดสะเทือนใจ ของเด็กน้อยชาวอินเดียรายหนึ่ง ที่เกิดมามีศีรษะเพียงครึ่งเดียว และมีดวงตาที่ปูดโปนกว่าปกติ ตามรายงานบอกว่านาง Savita Rani วัย 32 ปีในเขต Uttar Pradesh ทางตอนเหนือของอินเดียได้ให้กำเนิดลูกน้อยเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา แต่หลังจากที่ทำการคลอดลูกน้อยได้สำเร็จ เธอก็กลายเป็นที่พูดถึงไปทั่วทั้งเมืองเลยทีเดียว เพราะลูกของเธอนั้นมีหน้าตาที่แปลกประหลาดกว่าคนอื่นๆ จนได้รับฉายาว่า “เด็กมหัศจรรย์” แต่แล้ว แม้หลายคนจะชื่นชม แต่เรื่องราวก็กลับเศร้าจนได้ ด้วยความไม่สมบูรณ์ของร่างกาย ทำให้เด็กน้อยเสียชีวิตใน 2 วันต่อมา ทางด้านคุณหมอ Kusum Lata วัย 30 ปี ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “ภาวะแทรกซ้อนเหล่านี้เกิดขึ้นอันเนื่องมาจากนิสัยการรับประทานอาหารที่ไม่ถูกต้องและผิดปกติของแม่ระหว่างตั้งครรภ์” นอกจากนี้คุณหมอ Lata ยังแนะนำด้วยว่าคุณแม่ทั้งหลายควรจะพาตัวเองมาตรวจสุขภาพบ่อยๆ เพื่อจะได้ตรวจเช็คครรภ์และสุขภาพของคุณ และรับคำแนะนำจากคุณหมอได้อย่างถูกต้อง เพื่อหลีกเลี่ยงการตั้งครรภ์แบบผิดปกติเช่นนี้ ใครที่กำลังจะได้เป็นคุณแม่ หรือวางแผนจะมีลูก ควรจะศึกษาให้เยอะๆ นะ…
-
คุณพ่อยอมลาออกงานเงินเดือนสูง ขายรถยนต์ เพื่อที่จะใช้ชีวิตที่เหลือพาลูกไปเที่ยวตามฝัน
เรื่องราวอันน่าประทับใจของคุณพ่อที่ยอมทำทุกอย่างเพื่อดูแลลูกของตัวเอง อย่างเช่นคุณ John Silk จากอดีตนักธุรกิจ มีเงินเดือนสูงลิบ ได้ตัดสินใจลาออกจากงานที่มีเงินเดือนดีๆ ขายรถยนต์ Porsche คันหรู เพื่อใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ดูแลลูกสาวคนพิเศษ และพาเธอไปเที่ยวตามฝัน การตัดสินใจอันแกร่งกล้าของเขานั้น มีเหตุผลมาจากหน้าที่การงานในตอนนั้น ทำให้เขาไม่มีเวลาอยู่ดูแลลูกสาวเลย เขาจึงลาออกจากงาน ขายรถยนต์หรู และเริ่มระดมทุนไว้ใช้สำหรับทริปในฝันของลูกสาวของเขา ลูกสาวของเขามีชื่อว่า Vicky ซึ่งมีอาการในกลุ่มดาวน์และเป็นโรค Eisenmenger ที่มีความซับซ้อนเกี่ยวกับหัวใจและปอด ซึ่งจากการวินิจฉัยของแพทย์ เธออาจจะมีอายุถึงเพียงแค่ 15 ปี แต่ปัจจุบันเธอมีอายุถึง 22 ปีแล้วล่ะ โดยที่ก่อนหน้านั้นเธอได้เจอหน้าคุณพ่อเพียงแค่แค่สุดสัปดาห์เท่านั้น หลังจากที่คุณพ่อกับคุณแม่แยกทางกันเมื่อปีที่ผ่านมา ปัจจุบันคุณพ่อ John ได้งานใหม่เป็นผู้ช่วยคนขับรถบัสโรงเรียน ได้ไปรับไปส่งลูกที่โรงเรียนด้วยตัวเอง เจอหน้ากันทุกวัน ทั้งเช้าและเย็น ซึ่งถึงแม้จะเป็นงานที่เงินน้อย แต่มีความสุขมาก คุณพ่อเก็บเงินรักษาลูก แถมยังพาเธอไปเที่ยวมากถึง 24 ครั้ง 15 ประเทศ ตลอดระยะเวลา 14 ปี…
-
แอดมินเพจ “ปอ ทฤษฎี” ปรี๊ดแตก โดนลูกเพจต่อว่า “ทำไมไม่ขอบคุณหมอดูสื่อกรรม”
ยังคงมีประเด็นให้พูดถึงอยู่ตลอดเวลา สำหรับกรณีของนักแสดงหนุ่ม ปอ ทฤษฎี ที่นอนป่วยหนักอยู่ที่โรงพยาบาล และในช่วงเวลาแบบนี้เองก็มักจะมีเหล่าหมอดูและนักทำนายทายทักมากมาย ต่างใช้โอกาสนี้ออกมาทำนายอนาคตของหนุ่มปอ บ้างก็บอกว่าสามารถรู้อนาคตของเขาได้ บ้างก็บอกว่ามีกรรมต้องรีบบวชให้ จนทำให้เหล่าแฟนคลับหลายๆ คนต่างหันหน้าไปพึ่งความเชื่อเหล่านั้นกันอย่างมากมาย จนส่งผลให้แอดมินแฟนเพจ ปอ ทฤษฎี แฟนคลับ ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวไปด้วย โดยเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 18 พฤศจิกายน เฟซบุ๊กเพจ ปอ ทฤษฎี แฟนคลับ ได้โพสต์ข้อความระบายความในใจ เกี่ยวกับประเด็นที่มีลูกเพจบางคนส่งข้อความไปต่อว่าแอดมิน ว่าทำไมถึงไม่โพสขอบคุณหมอดูสื่อกรรมท่านหนึ่ง เพราะเห็นว่าหมอดูท่านั้นอุตส่าห์นั่งทำสมาธิเรียกดวงจิตของหนุ่มปอกลับมาให้ งานนี้ทำเอาแอดมินถึงกับทนไม่ไหว ต้องออกมาชี้แจงเลยว่า “เรื่องบาป เรื่องบุญ เรื่องของกุศล ผมเชื่อครับ แต่เรื่องหมอดูผมไม่เชื่อครับ” พร้อมกันนี้ยังบอกว่าเราไม่จำเป็นต้องเชื่อในสิ่งที่มองไม่เห็นเสมอไป หลังจากที่ข้อความของแอดมินเพจ ปอ ทฤษฎีถูกแชร์ออกไป ทำให้เหล่าแฟนคลับต่างพากันเข้ามาแสดงความคิดเห็นอย่างมากมาย อย่างเช่นคุณ Eve Patchree กล่าวว่าเห็นด้วยกับแอดมิน เพราะคิดว่าความเห็นของหมอดูไม่ได้เป็นผลดีกับตัวดาราเลย ต่อมาคุณ โฟล์ค’ คนเดิม’มม ก็ได้กล่าวว่า “คนที่ช่วยพี่ปออะคือคณะแพทย์ ใม่ใช่ใอ้อ.แบงค์อะใรนั้นเลย” จากนั้นก็มีชาวเน็ตอีกหลายคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นในทำนองเดียวกันอีกมากมาย งานนี้แฟนคลับหนุ่มปอ เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยอย่างไร แสดงความคิดเห็นกันมาได้นะจ๊ะ ที่มา ปอ…
-
หนูน้อยคนนี้ ป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง ไม่ยอมไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล แต่เลือกที่จะไปสวรรค์
เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2558 ที่ผ่านมา ทางสำนักข่าวต่างประเทศ ได้เผยเรื่องราวชวนเศร้าของ Julianna Snow เด็กหญิงวัย 5 ขวบ ชาวโอเรกอน ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งตอนที่ Julianna อายุ 4 ขวบ เธอต้องกลายเป็นผู้ป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง และต้องทรมานจากอาการเจ็บป่วยต่างๆ แถมยังต้องต่อเครื่องช่วยหายใจตลอดเวลาอีกด้วย แม้ว่าเธอจะเจ็บป่วย เดินไม่ได้ แม้แต่ลุกขึ้นมานั่งยังแสนลำบาก แต่หนูน้อยคนนี้ก็ยังคงมีหัวใจที่แข็งแกร่ง และดูเหมือนจะเข้าใจยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวของเธอเอง นอกจากนี้เธอยังบอกกับพ่อแม่อีกว่า เธอไม่อยากกลับไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลอีกแล้ว เพราะเธอจะโดนท่อสวนเข้าไปในโพรงจมูก เพื่อดูดเอาเสมหะออกมา เนื่องจากโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง ทำให้หนูน้อยควบคุมระบบทางเดินหายใจไม่ค่อยสะดวก แม้ว่าพ่อกับแม่ของเธอจะพยายามหาเหตุผลต่างๆ เพื่อให้ลูกสาวได้กลับไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล แต่สิ่งที่หนูน้อยพูดตอบกลับมานั้นทำเอาพ่อแม่อึ้งกันไปพักใหญ่ ‘หนูเข้าใจทุกอย่างดี แต่ไม่เป็นไร เพราะพระผู้เป็นเจ้าจะคอยดูแลหนู และท่านจะอยู่ในใจของหนูตลอดเวลา’ นี่คือสิ่งที่ Julianna บอกกับพ่อแม่ของเธอ เมื่อได้ฟังสิ่งที่ลูกสาวตัวน้อยพูดขึ้นมา ก็ทำให้พวกเขาอึ้งกันไปพักใหญ่ แต่ถึงอย่างไรผู้เป็นพ่อเป็นแม่ก็รับฟัง และยินดีกับการตัดสินใจของลูก…
-
ทั้งเมืองร่วมใจจัดงานฉลองคริสต์มาสครั้งสุดท้าย ให้เจ้าหนูที่ป่วย และจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน…
เรื่องราวนี้เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวของความประทับใจ ที่เพื่อนมนุษย์จะสามารถมีให้กันได้ แต่แน่ล่ะ มันเป็นเรื่องเศร้าที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นเลย… Evan Wellwood หนูน้อยผู้มีความผิดปกติทางสมอง ที่ชอบคริสต์มาสอย่างยิ่ง แต่คุณหมอก็ต้องตัดใจแจ้งข่าวให้กับคุณแม่ของเขาว่า เขาอาจจะอยู่ไม่รอดถึงปลายปีนี้… คุณแม่เลยวางแผนจะจัดงานฉลองคริสต์มาสให้กับอีวานล่วงหน้าก่อนเลย แต่ครอบครัวของอีวานน่ะสิ โพสต์ลงโซเชียลของเมืองถึงเรื่องราวนี้ ใน St. George, Ontario และเมืองทั้งเมือง ที่มีกว่า 3,500 ครัวเรือน ก็ร่วมกันจัดคริสต์มาสก่อนกำหนดให้กับเจ้าหนู!!! และทั้งเมืองยังระดมทุนได้ราวๆ 17,000 เหรียญ หรือประมาณกว่า 6 แสนบาทเลยล่ะ สำหรับการจัดงานครั้งสุดท้ายให้เจ้าหนู… มีทั้งการเลี้ยงอาหารเย็นให้กับเจ้าหนู แม้แต่ขบวนพาเหรด งานนี้เรียกได้ว่าร่วมมือร่วมแรงกันทั้งเมือง เป็นความสุขและน้ำใจที่เจ้าหนูคงไม่มีวันลืม และแน่นอน จะอยู่ในใจของชาวเมืองแห่งนี้ตลอดไปเลยล่ะ เหมียวรับประกัน เหมียวหวังว่าจะมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นกับเจ้าหนูนะ T^T แปลกเหมือนกันเนาะ เหมียวสังเกตเห็นถึงเรื่องนึงว่าทำไมคนเราชอบทำสิ่งที่ดี สิ่งที่พิเศษให้กันก่อนจาก หรือก่อนตายเท่านั้น ตอนอยู่ด้วยกันเรากลับไม่ค่อยเห็นคุณค่า แต่ก็นะ…
-
อดีต “ฆาตกร” ช่วยเปลี่ยนชีวิตของเด็กน้อยผู้ป่วยเป็นโรคออทิสซึม ให้กลับมาสดใสได้อีกครั้งหนึ่ง!!
ไม่ว่าใครก็เคยทำสิ่งที่ผิดพลาดทั้งนั้น การทำผิดพลาดไม่ได้แปลว่าพวกเขาเป็นคนที่ชั่วร้ายจนไม่มีด้านดีเหลืออยู่ อย่างเช่นผู้ต้องหาในคดีฆาตกรรมรายนี้ เขาได้มอบชีวิตใหม่ให้กับเด็กชายผู้น่าสงสาร ที่ต้องทุกข์ทรมาณจากโรคออทิสซึม เด็กชายคนนี้มีชื่อว่า Zachary Tucker เขาต้องทุกข์ทรมาณจากโรคแอสเพอร์เกอร์ซึ่งเป็นโรคในกลุ่มออทิสซึม ทำให้เขามีปัญหาในการเข้าสังคมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องเพื่อน เขาแทบไม่มีเพื่อนเลยแม้แต่คนเดียว และเขามักมีอาการตื่นตระหนกกับสิ่งรอบๆตัวง่ายอีกด้วย นอกจากนี้ เขายังมีอาการนอนไม่หลับและเกิดสภาวะอารมณ์ถดถอยอยู่บ่อยๆ ซึ่งการที่จะทำให้เขาสงบนั้นเป็นเรื่องยากมาก แม้กระทั่งตัวพ่อแม่ของเขาเองก็ไม่สามารถแตะต้องตัวเขาได้ Arthur และ Susy Tucker พ่อแม่ของ Zachary เครียดมาก พวกเขาพยายามทุกวิถีทางเพื่อช่วยรักษาลูกชายผู้น่าสงสาร จนกระทั่งวันหนึ่ง Susy พบกับชื่อ Chris Vogt บนอินเตอร์เน็ต เขาเป็นผู้เชี่ยญชาญด้านการฝึกสุนัขเพื่อช่วยรักษาโรคออทิสซึม และที่สำคัญ ดูเหมือนเขาจะเก่งด้านการรักษาเด็กๆ ซะด้วย ปัญหาอยู่ที่ว่า Chris Vogt เป็นอาชญากร เขาก่อคดีฆาตกรรมและถูกตัดสินจำคุกตั้งแต่ปี 1998 ซึ่งโทษที่เขาได้รับก็คือการจำคุก 48 ปี แต่ในความโชคร้ายยังคงมีความโชคดี Chris ไม่ได้ทิ้งความสามารถไปแม้แต่นิดเดียว เขามักเข้าร่วมโปรแกรมการฝึกฝนสุนัขจรจัดจากสถานรับเลี้ยงสัตว์ซึ่งทางเรือนจำจัดไว้ให้ แม้จะต้องอาศัยอยู่ในดินแดนไร้อิสรภาพ…