Tag: ป้าน

เคยสงสัยไหมว่า ปานที่เกิดอยู่บนร่างกายของมนุษย์นั้นเกิดมาจากอะไร ตามความเชื่อของคนโบราณมีความเชื่อว่าปานนั้นเกิดจากการที่คนในชาติก่อนแต้มไว้กับร่างกายของศพ เพื่อให้เกิดมาชาติหน้าจะสามารถจดจำกันได้ แต่ในทางวิทยาศาสตร์ ปาน (Birthmark) เกิดจากการผลิตเม็ดสีที่มากเกินไปบนจุดต่างๆ ของผิวหนัง มักปรากฏขึ้นเมื่อแรกคลอดมีสีแตกต่างกันไปทั่งดำ แดง ซึ่งสีของปานจะชัดขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น Mathide Arctander อายุ 22 ปี ชาวนอร์เวย์ เธอเกิดมาด้วยปานขนาดยักษ์บนร่างกายพาดบริเวณหน้าท้องจนถึงต้นขาของเธอ และยังกระจายไปทั้งใบหน้าและลำตัวจนไม่สามารถนับจุดได้     ตอนเด็กๆ เธอมักจะถูกมองด้วยสายตาที่ดูเหมือนว่าเธอเป็นตัวประหลาด ซึ่งทำให้เกิดคำถามในใจว่า ทำไมเธอถึงเกิดมามีปานทั่วร่างแบบผิดปกติขนาดนี้   ซึ่งเธอไม่เคยคิดที่จะกำจัดปานเหล่านี้ออกจากร่างกายเลย แถมยังคิดว่านี่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวสุดเจ๋งที่ไม่มีใครเหมือนอีกด้วย “ตอนแรกฉันสงสัยว่าทำไมปานบนร่างกายของฉันมันเยอะเกินไป จากสายตาของคนอื่นที่มองฉันเขาก็คงสงสัยเช่นเดียวกัน เพียงแต่ว่าเขาไม่เข้ามาถามตรงๆ”     Mathide เคยปกปิดร่างกายด้วยการใส่เสื้อผ้าหนาๆ มาตลอดเวลา แต่เธอเริ่มเหนื่อยที่จะปกปิดความเป็นตัวตนของเธออีกต่อไปจึงได้หันมาเริ่มเปิดเผยให้เห็นสิ่งที่เธอซ่อนมันมาตลอด   เธอออกกำลังกายเพื่อหวังที่จะได้มีหุ่นสวยๆ   และเลิกปกปิดสิ่งที่ซ่อนไว้ด้วยการใส่บิกินี่โชว์เรือนร่างอันเป็นเอกลักษณ์ .   สิ่งที่เธอมีอยู่เปี่ยมล้นนั่นก็คือความมั่นใจในตัวเองและความงามที่มาจากภายใน…   ผู้หญิงทุกคนนั้นก็มีความงามอยู่ในตัวคนละแบบ การที่จะตัดสินว่าคนไหนสวยหรือว่าไม่สวยนั้นไม่ควรที่จะตัดสินจากหน้าตาภายนอก แต่ควรจะมองให้ลึกถึงข้างในจิตใจ นั่นแหละคือความงามที่แท้จริงที่ถูกซ่อนอยู่   ที่มา dailymail

สำหรับคนที่เกิดมาพร้อมกับรอยปาน หลายๆ ครั้งแล้วมักจะถูกทักถึงมันอยู่บ่อยๆ ว่าคืออะไร? ถูกทำร้ายมารึเปล่า? เป็นรอยสีที่ล้างไม่ออกเหรอ? จนทำให้เกิดความเบื่อหน่ายที่จะต้องคอยตอบคำถามเพราะมันเป็นสิ่งที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิดอยู่แล้ว หลายคนถึงกับบอกว่า ถ้าเลือกได้ก็คงไม่มีใครอยากให้มันมีติดตัวมาหรอก จึงกลายมาเป็นไอเดียโปรเจ็คดีๆ จากช่างถ่ายภาพชาวเดนมาร์ก Linda Hansen ที่ชื่อว่า Nevus Flammeus ได้จับคนมีปานมาถ่ายรูปแบบพอเทรทเพื่อแสดงให้ผู้คนได้มองเข้าไปในภาพแล้วตระหนักถึงตัวตนจริงๆ ของพวกเขาโดยมองข้ามรอยปานไป     ซึ่งการจ้องมองรอยปานของพวกเขาในที่สาธารณะนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่หยาบคายและคุกคามความเป็นส่วนตัวของพวกเขา แต่จากภาพถ่ายของ Hansen จะช่วยให้ผู้คนเปลี่ยนความคิดใหม่   “ฉันต้องการที่จะทำให้เกิดการเผชิญหน้า และคุณจะต้องจ้องไปที่รูปภาพนานเท่าไหร่ หรือว่าควรจะเริ่มมองตรงส่วนไหนของรูปภาพดี? ซึ่งแต่ละภาพก็จะมีการซุกซ่อนรายละเอียดเล็กๆ น้อย และเมื่อมองดูรายละเอียดเหล่านั้นไปเรื่อยๆ กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็พบว่ารอยปานนั้นไม่ได้ดูเด่นเหมือนตอนแรกอีกต่อไป” “สำหรับฉันแล้วการมีรอยปานมันก็เหมือนรอยสักนั่นแหละ มันดูแปลกและแต่ละรอยของแต่ละคนก็จะมีเรื่องราวของตัวเอง มันงดงามมาก เพราะเรามีรอยสักที่ถูกรังสรรค์ขึ้นมาจากธรรมชาติ มันเจ๋งไปเลยไม่ใช่รึไง?” Hansen กล่าว     เธอหวังว่าจะทำให้ผู้คนในสังคมมีทัศนคติที่ดีขึ้นต่อคนมีร่องรอยปาน และทำให้ทุกคนที่มีสิ่งนี้ติดตัวมาแต่เกิด มีความมั่นใจ และเชื่อมั่นในตัวเองเช่นกัน… . . . . . . . . . . . .…