Tag: ผิวสี
-
เอาล่ะสิ! ศิลปินวาดตัวการ์ตูนดังให้เป็น “คนผิวสี” กลับถูกชาวเน็ตหาว่าแบ่งแยกชนชาติ!!
การ์ตูนดังๆ หลายเรื่องจะมีบางสิ่งที่คล้ายๆ กันนั่นก็คือตัวละครหลักที่ส่วนมากจะเป็น คนผิวขาว ต้องยอมรับว่าน้อยครั้งนักจะได้เห็นตัวละครผิวสีได้เป็นตัวละครหลักในการ์ตูนดังๆ และด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ศิลปินนามว่า Tyron Handy เกิดไอเดียแปลกใหม่ ออกแบบการ์ตูนดังๆ ในตำนานให้มีตัวละครเอกเป็น “คนผิวสี” Tyron Handy “เราไม่ค่อยได้เห็นตัวการ์ตูนที่นำเสนอตัวละครผิวสีเท่าไหร่นะ ส่วนมากพวกเขาจะได้เป็นแค่คู่หูของตัวละครผิวขาว ผมว่าเด็กๆ ที่เป็นคนผิวสีควรได้เห็นตัวละครที่เหมือนกับพวกเขาไปโลดแล่นอยู่ในการ์ตูนบ้าง” งานนี้แทนที่จะออกมาราบรื่นกลับกลายเป็นว่าได้ปลุกระดมกระแสต่อต้านจากชาวเน็ต ที่หลายคนออกมาบอกว่า ทำแบบนี้ตัวของ Tyron เองก็ถือว่าเป็นคนที่ “แบ่งแยกชนชาติ” เช่นกัน ก่อนอื่นลองไปชมผลงานของเขากันก่อนดีกว่า… #1 #2 #3 #4 #5 #6 #7 ชาวเน็ตที่เข้ามาชมผลงานของ Tyron ต่างก็ชื่นชมว่ามีแนวคิดที่ดี แต่บางส่วนกลับไม่เห็นด้วยและมองว่าเป็นการ “แบ่งแยกชนชาติ” ตัวอย่างเช่น… “สิ่งที่คุณทำมันทำให้การแบ่งแยกชนชาติยังคงดำเนินต่อไป” “นี่มันไม่ถูกต้องนะแถมยังแบ่งแยกชนชาติอีกด้วย มันไม่ถูกต้องสำหรับคนผิวสีเลย เพราะนี่มันเหมือนการนำคนขาวมาทาหน้าด้วยสีดำอะ ไม่ใช่คนดำจริงๆ” “ถ้าคุณอยากเห็นตัวการ์ตูนผิวสีให้มากกว่านี้ควรสร้างขึ้นเองสิ ไม่ใช่เอาของคนอื่นมาเป็นของตัวเองแบบนี้”…
-
พบกับสาวนักคอสเพลย์ ‘ผิวสี’ ที่จะมาทำให้เห็นว่า เธอสามารถแต่งเป็นอะไรก็ได้!!
โดยปกติแล้วในวงการคอสเพลย์ เรามักจะเห็นนักคอสเพลย์ที่เป็นคนผิวขาว หรือไม่ก็เป็นชาวเอเชียเสียส่วนใหญ่ สำหรับวันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปพบกับนักคอสเพลย์ชาวผิวสี ที่ขอบอกเลยว่าเธอสามารถแต่งเป็นอะไรก็ได้ แถมยังดูสวยไปซะหมดเลยด้วย!! ขอแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับ Unique Sora นักคอสเพลย์สาว ที่รู้จักกันในชื่อ Jasmine เพราะก่อนหน้านี้เธอได้ทำการโพสต์ภาพการแต่งคอสเพลย์มาแล้วมากมาย แต่ถูกนำไปแต่งภาพให้ดูขาวขึ้น จนทำให้คนเข้าใจผิดไปตามๆ กัน “ฉันเป็นนักคอสเพลย์ผิวสี ซึ่งก่อนหน้านี้ฉันโพสต์ภาพการแต่งคอสเพลย์ของตัวเอง และมีคนเอาภาพของฉันไปอัปโหลดลงโซเชียลโดยไม่ได้รับอนุญาต พวกเขาแต่งภาพด้วยการทำให้ผิวของฉันดูขาวขึ้น แต่ฉันคิดว่ามันสำคัญมากเลยนะที่จะทำให้คนอื่นๆ ที่ติดตามวงการคอสเพลย์และนักคอสเพลย์คนอื่นๆ รู้ว่าจริงๆ แล้วฉันเป็นคนที่มีผิวสีเข้ม” Sora กล่าว เอาล่ะ ลองไปชมผลงานการคอสเพลย์ของเธอไปพร้อมๆ กันเลยดีกว่าครับ Domino จาก Deadpool 2 Nani จาก Lilo & Stitch Princess Kida Kidagakash จาก Atlantis : The Lost Empire …
-
พยานเผย ได้ยินเสียง ‘เคาะประตู’ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเปิดห้องเข้าไปยิงชายผิวสี!!
เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดเหตุการณ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงยิงชายผิวสีในอพาร์ตเมนต์เพราะเข้าห้องผิด และคิดว่าห้องนั้นเป็นของตัวเอง จนกลายเป็นข่าวใหญ่ที่ผู้คนในบ้านเราให้ความสนใจ แน่นอนว่าหลายๆ คนเข้าใจว่าเหตุเกิดเพราะการเข้าใจผิด แต่ล่าสุดจากการสอบปากคำพยานเพิ่มเติม คดีนี้อาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจให้การเอาไว้ในตอนแรกก็เป็นได้… จากเหตุการณ์ฆาตกรรมชายผิวสีในอพาร์ตเมนต์ที่อยู่ในเมืองดัลลัส รัฐเท็กซัส เมื่อคืนวันพฤหัสบดี ที่ 6 กันยายน 2561 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจหญิง Amber Guyger ใช้อาวุธปืนยิงนาย Botham Jean เสียชีวิต เพราะเข้าใจผิดคิดว่าเขาเป็นผู้ร้ายที่เข้ามาขโมยของในห้องของตัวเอง แต่จริงๆ แล้วห้องนั้นเป็นห้องของนาย Jean เอง ซ้าย Botham Jean (ผู้เสียชีวิต) ขวา Amber Guyer (ผู้ก่อเหตุ) จากรายงานล่าสุดของเว็บไซต์ Dailymail เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2561 ระบุเอาไว้ว่า มีพยานรายหนึ่งให้ปากคำกับนาย Lee Merrit ทนายของครอบครัวผู้เสียชีวิตว่า “ได้ยินเสียงเคาะประตู และตะโกนว่า ให้ฉันข้าไป!! ให้ฉันเข้าไป!!” ก่อนจะได้ยินเสียงปืนดังขึ้นมา ซึ่งคำให้การของพยานในครั้งนี้ขัดกับคำให้การของเจ้าหน้าที่ตำรวจหญิง ที่อ้างว่า ‘ประตูถูกเปิดแง้มเอาไว้อยู่’ …
-
หนุ่มผิวสีถูก ‘ตำรวจหญิง’ ยิงเสียชีวิต เพราะเธอเปิดเข้าห้องผิด และคิดว่าเขาเป็นขโมย!?
กำลังกลายเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา ณ ขณะนี้เลย กับกรณีของเจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงคนหนึ่งเปิดเข้าห้องผิดแล้วคิดว่าเจ้าของห้องนั้นเป็นโจรบุกเข้าห้อง เธอเลยใช้ปืนยิงชายคนดังกล่าวจนถึงแก่ชีวิต!? จากรายงานของเว็บไซต์ New York Post ของประเทศสหรัฐอเมริการะบุว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่อพาร์ตเมนต์ที่มีชื่อว่า Southside Flats ในเมืองดัลลัส รัฐเท็กซัส เจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงไม่ทราบชื่อได้ใช้อาวุธปืนยิงชายผิวสีวัย 26 ปี เพราะเข้าใจผิดคิดว่าเป็นขโมยบุกเข้าห้องของเธอ แต่อันที่จริงแล้วเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงคนนั้นเองที่เปิดประตูเข้าห้องมาผิด ตามรายงานไม่ได้กล่าวไว้ว่าเธอบุกเข้าไปในห้องของเหยื่อได้อย่างไร แต่จากคำให้การของพยานเล่าว่าประตูของอพาร์ตเมนต์นั้นจะเปิดได้ก็ต่อเมื่อมีกุญแจ หรือคีย์การ์ดเท่านั้น นอกจากนี้พยานคนอื่นๆ ก็เล่าต่ออีกว่าพวกเขาได้ยินเสียงราวๆ ช่วงเวลาประมาณ 22.00 น. ของวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา “มันเหมือนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่า เปิดประตูสิ เปิดประตูสิ!!” จากคำบอกเล่าของพยาน “เราได้ยินเสียงตำรวจตะโกน แต่ก็ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่” พยานอีกคนเล่า จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบว่า ชายคนดังกล่าวมีชื่อว่านาย Botham Shem Jean เป็นชาว Saint Lucia (ประเทศบนเกาะที่ตั้งอยู่ในทะเลแคริบเบียน) โดยกำเนิด เขาทำงานให้กับ PricewaterhouseCoopers ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทตรวจสอบบัญชีที่ใหญ่ที่สุดในโลก รวมไปถึงเป็นลูกชายของ Allison Jean อดีตปลัดกระทรวงศึกษาธิการของประเทศ St. Lucia…
-
เด็กชายแอบดูชายคนข้างเล่นโทรศัพท์อย่างใจจดใจจ่อ หนุ่มจับได้ เลยให้ยืมเล่นเกมซะเลย!!
กลายเป็นเหตุการณ์สุดประทับใจเมื่อมีชายคนหนึ่ง ยื่นโทรศัพท์ให้กับเด็กชายแปลกหน้าในรถไฟใต้ดิน เพื่อที่เขาจะได้เล่นเกมบ้างหลังจากที่เด็กคนนั้นแอบดูเขาเล่นเกมอย่างใจจดใจจ่อ เหตุการณ์ที่แสนน่ารักนี้ถูกบันทึกเอาไว้โดยชาวเน็ตที่มีชื่อว่า Kia Tatiyana Davis จากนั้นก็นำคลิปมาโพสต์ลงบนโลกโซเชียลจนกลายเป็นกระแสไวรัลที่สร้างความประทับใจให้กับชาวเน็ตจำนวนมาก จากในคลิปเหตุการณ์เกิดขึ้นในรถไฟใต้ดินที่เมืองนิวยอร์กซิตี้ มีเด็กชายคนหนึ่งแอบจ้องดูโทรศัพท์ของชายที่นั่งอยู่ข้างๆ อย่างใจจดใจจ่อ แต่เมื่อชายคนนั้นเหลือบมาเห็นว่าเด็กคนนั้นกำลังแอบดูเขาเล่นเกมในโทรศัพท์อยู่ ก็เลยยื่นโทรศัพท์ให้เพื่อให้เด็กชายได้ลองเล่นบ้าง คลิปวิดีโอดังกล่าวได้รับความสนใจจากชาวเน็ตมากมาย จนมีคนเข้ามากดไลก์ถึง 10,000 ครั้ง และแชร์ไปอีกกว่า 29,000 ครั้งเลยทีเดียว ลองไปชมคลิปเหตุการณ์แบบเต็มๆ ที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า… เด็กชายแอบดูโทรศัพท์ของชายหนุ่มอย่างใจจดใจจ่อ ชายหนุ่มหันมาเห็นพอดี ยื่นโทรศัพท์ให้เด็กชายเล่นซะเลย!! ชาวเน็ตหลายคนต่างก็เข้ามาให้ความเห็นชื่นชมถึงความมีน้ำใจของชาวหนุ่มในคลิปวิดีโอ บ้างก็บอกว่าเหตุการณ์นี้มันทำให้มีความสุขมากเลย “ขอบคุณพระเจ้าที่ทำให้ฉันตื่นมาแล้วได้พบเจอกับเรื่องแบบนี้ มันทำให้ฉันรู้สึกดีมากเลยล่ะ” บ้างก็บอกว่าอยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นบนโลกของเราเยอะๆ จังเลย “อยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นบนโลกของเรามากกว่านี้จังเลย” บางส่วนก็บอกว่านี่แหละคือมนุษย์ที่แท้ทรู “จริงๆ แล้วมนุษย์เราควรจะเป็นแบบนี้แหละ” บ้างก็นอกเรื่องไปชมหมวกเด็กชายคนนั้นซะงั้น!? “ฉันชอบหมวกของเด็กชายคนนั้นมากเลย คิดถึงช่วงเวลาตอนเป็นเด็กในช่วงวัยนั้นมากๆ ฉันรอไม่ไหวแล้วที่จะได้พบกับหลานของฉัน” ที่มา : dailymail, Kia Tatiyana Davis…
-
คลิปฮาๆ ไขความสงสัย ‘คนจีน’ คิดอะไรอยู่ทำไมชอบมอง ‘ชาวตะวันตกผิวสี’ กันนักนะ!?
สำหรับคนเอเชียอย่างเราๆ เมื่อมีคนต่างชาติที่มีสีผิวแตกต่างเข้ามาท่องเที่ยวหรือทำงานในบ้านเรา พวกเราก็มักจะชายสายตามองไปยังพวกเขาเป็นปกติ แต่หารู้ไม่ว่าในวัฒนธรรมของตะวันตกนั้น การมองไปยังผู้อื่นถือว่าเสียมารยาทอย่างมาก สำหรับชาวเอเชียแม้ว่าการมองไปยังชาวตะวันตกเป็นเพียงสายตาของความสนใจและสงสัย แต่ชาวต่างชาติที่ถูกมองก็ปฏิเสธไม่ได้ที่จะรู้สึกกระอักกระอ่วนใจ แชแนลยูทูบสายฮาอย่าง Mamahuhu ชาวตะวันตกที่อาศัยอยู่ในนครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน จึงได้ทำคลิปวิดีโอขึ้นมา เพื่ออธิบายว่าที่จริงแล้ว ชาวจีน เวลาที่เขามองมายังชาวต่างชาติโดยเฉพาะคนผิวสีนั้น คิดอะไรอยู่กันแน่ คลิปตัวอย่างความอึดอัดเวลาที่ชาวต่างชาติเข้ามายังเอเชียแล้วถูกมอง ในวิดีโอจะไม่มีเสียงและคำบรรยายเป็นภาษาไทย อย่างไรก็ตามหากใครไม่เข้าใจก็สามารถอ่านคำบรรยายพร้อมภาพประกอบได้ตามนี้… วิดีโอเริ่มขึ้นด้วยชายสูงวัยชาวจีนนังอยู่ในรถไฟใต้ดิน เขานั่งตรงข้ามกับชายผิวสีคนหนึ่ง แม้ว่ายังไม่เห็นหน้าก็ตาม สีหน้าของคุณลุงดูสนใจและมองตาไม่กะพริบ หนุ่มผิวสีคนที่ลุงมองก็คือคนนี้นี่เอง เขาเห็นแล้วว่าลุงกำลังมองเขาอยู่ ท่าทางของเขาเหมือนจะเคยชินกับการถูกชาวเอเชียมอง จากนั้นคุณลุงชาวจีนก็เกิดคิดถึงความทรงจำสมัยอยู่บ้านเกิด หลังจากที่ได้มองมายังชายหนุ่มผิวสีคนนี้ จากนั้น คุณลุงก็เปลี่ยนที่นั่งย้ายมานั่งข้างๆ กับชายหนุ่ม ทำให้ชายหนุ่มกระอักกระอ่วนใจอย่างบอกไม่ถูก และแล้วคุณลุงก็ยกแขนขึ้นมาลูบผมของชายหนุ่ม . คุณลุงกล่าวขอบคุณที่ชายหนุ่มได้จุดประกายให้ลุงคิดถึงความทรงจำแสนหวาน จากนั้นคุณลุงก็ชูนิ้วโป้งขึ้นมาพร้อมเอ่ยว่า “Laowai” ที่แปลว่า “ฝรั่ง (ชาวต่างชาติ)” นั่นเอง แต่คำนี้ในบางแง่หลายๆ คนก็ใช้พูดในทางลบ สุดท้าย คุณลุงก็ลงจากขบวนรถไฟไป และก็มีสาวจีนเซ็กซี่เข้ามานั่งตรงข้ามกับชายหนุ่มแทน ชายหนุ่มพยายามแสดงความสนใจ แต่หญิงสาวเซ็กซี่กลับกลอกตามองบน แล้วก็พูดว่า…
-
เผยโฉม ‘Bae Yu Jin’ นางแบบลูกครึ่งผิวสี ไนจีเรีย-เกาหลี ทุบทุกนิยามความสวยเวทีแฟชั่น!!
ค่านิยมทางด้านความสวยความงามในปัจจุบัน ไม่อาจตีความหรือนิยามในระดับสากลได้อีกต่อไป เนื่องจากว่าสิ่งเหล่านี้ขึ้นอยู่กับความรู้สึกของแต่ละคน แต่ละท้องที่ แต่ละประเทศ… เมื่อพูดถึงเกาหลีใต้ล่ะ? ท่านผู้อ่านจะคิดถึงความงามแบบไหน ชายหนุ่มโอปป้าหน้าตี๋เรียวคม หรือจะเป็นสาวเกาหลีสูงยาวเข่าดี ใบหน้าขาวผ่องตามพิมพ์นิยม แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้คือภาพจำไปแล้ว https://www.instagram.com/p/Bglz-smAHvD/ แต่สำหรับวงการนางแบบเกาหลีใต้นั้นเริ่มนำความงามที่แตกต่างเข้ามา นั่นก็คือนางแบบลูกครึ่งผิวสี ไนจีเรีย-เกาหลีใต้ และมีชื่อเป็นภาษาเกาหลีว่า Bae Yu Jin https://www.instagram.com/p/BhtbFAoF3S0/ เธอมีคุณพ่อเป็นชาวไนจีเรีย และมีคุณแม่เป็นชาวเกาหลีใต้ เกิดและเติบโตอยู่ในประเทศเกาหลีใต้ ปัจจุบันทีอายุ 17 ปี และเริ่มต้นเข้าสู่วงการนางแบบเมื่อปี 2017 https://www.instagram.com/p/BatSiEYF8Jt/ ชาวเน็ตเกาหลีใต้เริ่มสังเกตเห็นความงามภายในตัวตนของเธอ และเริ่มมีกระแสพูดถึงในโลกออนไลน์ของเกาหลีใต้ จำนวนแฟนคลับก็เพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว Bae Yu Jin และ Han Hyun Min สำหรับ Bae Yu Jin นั้นถือว่าเป็นนางแบบผิวสีลูกครึ่งเกาหลีใต้คนที่ 2 ที่แจ้งเกิดบนเวทีแคทวอล์กภายในประเทศ…
-
หญิงโทรแจ้งตำรวจ…เพราะเห็นชายผิวสี ‘ไขประตูเข้าบ้านของเขาเอง’!? เงิบสิครับ
จากเหตุการณ์ หญิงสาวโทรแจ้งตำรวจเพราะครอบครัวผิวสีจัดปาร์ตี้บาร์บีคิวในสวนสาธารณะ ที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงสัปดาห์ก่อน กลายเป็นประเด็นที่ชาวเน็ตมากมายให้ความสนใจเป็นอย่างมาก และล่าสุดเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2561 ที่ผ่านมาก็มีรายงานข่าวลักษณะเดียวกันผ่านทางเว็บไซต์เดลี่เมล ระบุว่ามีผู้หญิงผิวขาวรายหนึ่งโทรแจ้งตำรวจ หลังเห็นชายผิวสีพยายามไขกุญแจเข้าบ้านที่อยู่ข้างๆ บ้านของเธอ แต่เรื่องมันพีคตรงที่ว่า บ้านหลังนั้นเป็นของ ‘ชายผิวสี’ คนดังกล่าว ที่เพิ่งซื้อมาเมื่อไม่นานมานี้เอง!! นาย Michael Hayes เจ้าของบ้านหลังดังกล่าวได้ทำการถ่ายคลิปวิดีโอเหตุการณ์เอาไว้และโพสต์ลงเว็บไซต์ยูทูบ จนมีคนให้ความสนใจและเข้ามาชมมากกว่า 1.4 ล้านครั้ง เขาเล่าในคลิปว่าหญิงสาวคนดังกล่าวบอกว่าเขาไม่ได้รับอนุญาตให้อยู่ที่นี่ และขอให้เขาย้ายออกไปเสีย “เพื่อนบ้านวิ่งออกมาที่หน้าบ้าน ขณะที่ผมกำลังพยายามที่จะเปิดประตูบ้าน แล้วตะโกนว่า ‘มึ*ทำเหี้*อะไร!?’” “ผมพยายามอธิบายให้เธอฟังอย่างใจเย็นว่าผมมีหลักฐานการเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้นะ ที่มานี่ก็เพราะว่าผมจะตรวจดูบ้านเท่านั้นเอง” เขาเขียนเล่าตอนต้นคลิปวิดีโอ Hayes เล่าต่อว่าเธอกรี๊ดใส่เขาแล้วก็โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ “เธอโกหกว่ารู้จักกับเจ้าของบ้าน และเจ้าของบ้านที่เธอรู้จักก็ไม่ชอบให้ใครมาทำอะไรกับบ้านหลังนี้ อย่างไรก็ตามผมมีหลักฐานมายืนยันเป็นลายลักษณ์อักษรว่าผมสามารถเข้าบ้านหลังนี้ได้” “เธอโทรแจ้งตำรวจต่อหน้าผม ผมก็เลยตัดสินใจที่จะรอพวกเขามา เพราะผมไม่มีอะไรปิดบัง” เขาถ่ายคลิปวิดีโอขณะรอเจ้าหน้าที่ตำรวจมา ขณะเดียวกันผู้หญิงคนดังกล่าวก็ตะโกนด่าเขาจากระเบียงบ้าน “รีบเข้าไปในบ้านแล้วก็ขโมยของที่แกต้องการไปซะ เร็วๆ เข้า รีบหน่อย!! เสร็จแล้วก็รีบหนีไปซะ”…
-
อีกมุมของประวัติศาสตร์ ชีวิตของ ‘คนผิวสี’ ในเยอรมนี กับยุคที่ ‘นาซี’ เรืองอำนาจ
ในยุคที่นาซีเรืองอำนาจ ‘ชาวยิว’ ถูกฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ แล้วเพื่อนๆ เคยสงสัยกันมั้ยล่ะว่าเกิดอะไรขึ้นกับ ‘คนผิวสี’ ในประเทศเยอรมันบ้าง? เหล่านาซีจะทำอย่างไรกับพวกเขาในฐานะที่เป็นพลเมืองชั้นสอง ที่มักจะถูกกดขี่อยู่เสมอสำหรับวันนี้ #เหมียวหง่าว มีข้อมูลมาให้เพื่อนๆ ได้อ่านกัน จะเป็นอย่างไรไปรับชมพร้อมๆ กันได้เลยจ้า… ในช่วงยุค 1930 ประเทศเยอรมนีมีประชากรคนผิวสีไม่มากนัก เพียงแค่หลักไม่กี่พันคนเท่านั้นเอง หรือหากจะเทียบเป็นจำนวนเปอร์เซนต์แล้วล่ะก็พวกเขามีเพียงแค่ 1 เปอร์เซนต์จากประชากรทั้งหมดเท่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นลูกหลานของทหารฝรั่งเศส-แอฟริกันที่ประจำอยู่บริเวณริมแม่น้ำไรน์ ทางตะวันตกของประเทศเยอรมนี เด็กผิวสีเหล่านี้มักจะถูกกดขี่โดยนาซี พวกเขาตั้งชื่อให้กลุ่มคนผิวสีเหล่านี้ว่า ‘Rhineland Bastards’ หรือ ‘ไอ้งั่งที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำไรน์’ กลุ่มคนผิวสีทั้งหลายเหล่านี้จะถูกบังคับให้ทำหมันตั้งแต่อายุยังน้อย รวมไปถึงตั้งกฎหมายขึ้นมาเพื่อแบ่งแยกชนชั้นอย่างชัดเจน โดยที่คนผิวสีจะอยู่ในระดับเดียวกับชาวยิวและชาวโรมาเนีย และเมื่อประกาศใช้กฎหมายดังกล่าว คนผิวสีถูกกีดกันจากการจ้างงาน การเป็นเจ้าของที่ดิน และการศึกษา เรียกได้ว่าการใช้ชีวิตในประเทศเยอรมนีของพวกเขานั้นคือการตกนรกทั้งเป็นก็ไม่ปาน แม้ว่าจะมีบางส่วนที่ดิ้นรนจนได้เข้ารับการศึกษาในโรงเรียน แต่ก็จะถูกกลั่นแกล้ง บางส่วนก็ถูกจับไปไว้ในค่ายกักกันเพียงเพราะสีผิวของพวกเขา บ้างก็ถูกจับเข้าคุกเพราะมีผิวสีดำ เป็นต้น เช่นเดียวกันกับชีวิตของนาย Hans Massaquoi ที่เป็นชาวผิวสี เขาเกิดในปี 1926 ที่เมืองฮัมบูร์ก มีพ่อเป็นชาวไลบีเรียและแม่เป็นชาวเยอรมันผิวขาว เขาต้องการที่จะเข้าร่วมกับฮิตเลอร์เช่นเดียวกันกับเด็กเยอรมันคนอื่นๆ…
-
สาวโทรแจ้งตำรวจ เพราะเห็น ‘ครอบครัวผิวสี’ มาจัดปาร์ตี้บาร์บีคิวในสวนสาธารณะ
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าปัญหาการเหยียดผิวในประเทศอเมริกานั้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นประจำ และเรามักจะเห็นตามข่าวอยู่บ่อยๆ เช่นเดียวกันกับเรื่องราวที่ #เหมียวหง่าว จะหยิบมาเล่าให้เพื่อนๆ ฟังต่อไปนี้… เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2018 เว็บไซต์เดลี่เมลรายงานว่าหญิงสาวคนหนึ่งถูกถ่ายคลิปวิดีโอขณะกำลังโทรแจ้งตำรวจ เพราะมีครอบครัวผิวสี มาย่างบาร์บีคิวกินกันอย่างมีความสุขที่สวนสาธารณะในเมืองโอ๊คแลนด์ รัฐแคลิฟอร์เนีย ตามรายงานระบุว่า หญิงสาวคนดังกล่าวบอกว่าครอบครัวนั้นใช้ถ่านในการปิ้งย่างบาร์บีคิว ซึ่งสถานที่ตรงนั้นอยู่ข้างทะเลสาบ Merritt และเป็นสถานที่ที่อนุญาตให้ทำการปิ้งย่างได้ หนึ่งในผู้อยู่ในเหตุการณ์ชื่อว่า Michelle Snider พบเห็นความปกติ และคิดว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งกำลังจะสร้างความรังควานให้กับครอบครัวผิวสี ด้วยการโทรศัพท์แจ้งตำรวจ เธอก็เลยถ่ายคลิปวิดีโอเอาไว้ คลิปวิดีโอถูกนำไปโพสต์ลงโซเชียล และได้รับความสนใจจากชาวเน็ตเป็นจำนวนมาก ในคลิปดังกล่าว Snider ถามคำถามกับหญิงสาวที่โทรแจ้งตำรวจว่า “ทำไมคุณถึงโกรธนัก ที่พวกเขามาย่างบาร์บีคิวกันตรงนั้น?” ทางด้านหญิงสาวก็ตอบว่า “เพราะมันสร้างค่าใช้จ่ายให้กับเมืองของเรา เมื่อเด็กๆ ได้รับบาดเจ็บจากถ่านที่พวกเขาใช้ในการปิ้งย่าง” พอโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจไปได้สักพักหญิงสาวก็เดินหนีไปหาตำรวจที่อยู่ตรงร้านขายของชำที่อยู่ใกล้ๆ ซึ่ง Snider ก็เดินถ่ายคลิปตามไปด้วย จากนั้นหญิงสาวก็เริ่มร้องไห้ และบอกเจ้าหน้าที่ว่าเธอ ‘ถูกคุกคาม’ เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวก็เข้าไปไกล่เกลี่ยสถานการณ์ และไม่ได้ทำการปรับครอบครัวผิวสีแต่อย่างใด พื้นที่ริมทะเลสาบ Merritt…
-
กรณีซ้ำซ้อน!? ผู้จัดการฟิตเนสเรียกตำรวจจับชายผิวสีที่ใช้พาสชั่วคราวจนตนโดนไล่ออกเอง
การเหยียดสีผิวยังคงมีอยู่ในสังคมมนุษย์เราในปัจจุบัน ถึงแม้จะมีการเปิดกว้างเปิดแนวคิดใหม่ๆ แล้วก็ตาม สุดท้ายแล้วก็ยังเป็นปัญหาที่ฝังรากลึก และไม่อาจทำให้หายไปได้เสียที… อย่างในกรณีล่าสุดก็คือ พนักงานสตาร์บักส์แจ้งตำรวจจับ 2 ชายผิวสีในร้าน เหตุเพราะขอเข้าห้องน้ำ แต่ไม่สั่งกาแฟ และตามมาด้วยผู้จัดการฟิตเนสแห่งหนึ่ง แจ้งตำรวจมาจับชายผิวสีที่ทำทีเข้ามาหาเพื่อนด้วยพาสชั่วคราว… เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2018 มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอของผู้จัดการฟิตเนสของบริษัท L.A. Fitness ในเมือง Secaucus รัฐนิวเจอร์ซีย์ ทำการโทรเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้มารวบตัวชายผิวสีสองราย โดยให้เหตุผลว่าทั้งสองไม่ได้เป็นสมาชิกของฟิตเนสอย่างถูกต้อง ทั้งๆ ที่หนึ่งในนั้นคือ สมาชิกที่ใช้บริการมานานต่อเนื่องถึง 8 ปี และอีกคนหนึ่งก็ใช้พาสเข้าใช้งานฟิตเนส 4 วัน ตามกฎระเบียบของฟิตเนส เพื่อนผู้เป็นสมาชิกฟิตเนสมา 8 ปี (ซ้าย) และนาย Tshyrad Oates (ขวา) นาย Tshyrad Oates คือผู้ที่ถูกกล่าวหาจากผู้จัดการฟิตเนส เผยให้เห็นว่าพาส 4 วันที่เขาใช้งานนั้นถูกต้องตามกฎ เพื่อที่จะเข้ามาออกกำลังกายพร้อมกับเพื่อนผู้ที่เป็นสมาชิกของฟิตเนสแห่งนี้มาอย่างยาวนาน…
-
ช่างภาพสรรค์สร้าง ‘นางแบบผิวสี’ ขึ้นมาโดยใช้โปรแกรม 3D โดนชาวเน็ตหาว่าเหยียดผิว!?
ในโลกโซเชียลมีเดียมีเหล่าคนดังอยู่มากมายที่เกิดขึ้นมา พวกเขาเหล่านั้นมีผู้คอยติดตามอยู่มากมาย บางคนก็เป็นแสน บางคนก็เป็นล้าน หรือหลักร้อยล้านก็มี เช่นเดียวกันกับนางแบบผิวสี Shudu Gram ที่มีผู้ติดตามมากถึง 40,000 คน แต่ติดอยู่ตรงที่ว่าเธอไม่ได้เป็น ‘คน’ แต่เป็นนางแบบดิจิตัลที่สร้างขึ้นมาโดยนาย Cameron-James Wilson หนุ่มชาวอังกฤษ วัย 28 ปี เขาใช้สกิล 3D ที่ร่ำเรียนด้วยตัวเอง อีกทั้งยังมีการรวบรวมข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต และวิดีโอต่างๆ จากยูทูบ เพื่อสร้าง Shudu ขึ้นมา “Shudu เป็นมุมมองเรื่องความสวยความงามของผมมาตลอด แต่ผมก็คิดว่ามันยังไม่พอ แม้ว่าจะมีความเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ผู้คนมากมายต่างตั้งคำถามกันมากขึ้นว่าอะไรคือความสวยงามที่แท้จริงกันแน่” “เธอเป็นสิ่งที่ผมหลงใหล หลายสิ่งหลายอย่างที่เราเห็นในโลกโซเชียลมีเดียนั้นเริ่มที่จะห่างไกลจากความจริงไปเรื่อยๆ ด้วยฟิลเตอร์ต่างๆ และการแต่งเติม” “แต่ Shudu เกิดมาจากแนวคิดที่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง เธอเปรียบเสมือนเทพนิยายที่พยายามจะออกมาอยู่ในโลกแห่งความจริง และผมก็พยายามที่จะช่วยเหลือเธอ” James กล่าวถึงผลงานของเขา นอกจากนี้เขายังบอกอีกว่า สิ่งที่เขาต้องการก็คือการแพร่กระจายข้อความที่ซ่อนอยู่ใต้ผลงานของเขา เพื่อเรียกร้องสิทธิ์และเปลี่ยนมุมมองของผู้คนว่าแท้จริงแล้วคนผิวสีเองก็สวยงามเช่นกัน แน่นอนว่าชาวเน็ตหลายคนพอได้ชมผลงานของเขาแล้ว บางคนก็ชื่นชอบและชื่นชม ส่วนอีกฝ่ายก็ต่อต้านพร้อมให้เหตุผลว่าเขากำลังทำให้นางแบบผิวสีที่เป็นคนจริงๆ ตกงานนะ …
-
เมื่อให้ชายเกาหลีมาดู ‘หนังโป๊เมกัน’ ครั้งแรก ถึงกับอุทาน ‘มันไม่ใช่จู๋ มันต้นไม้โว้ย’
ถ้าเราพูดถึงหนังโป๊ เราจะนึกถึงหนังโป๊จากที่ไหนกัน? ญี่ปุ่นเหรอ หรือว่าจากไทยเอง จากฝั่งตะวันตกก็น่าสนใจนะ แต่เราเคยดูหนังโป๊ที่ให้ชายอเมริกันผิวสีมาเล่นกันบ้างไหม แน่นอนว่าหนังแนวนี้หลายคนคงจะข้ามมันไปเพราะมันทั้งดุดัน โหดเหี้ยม และใหญ่ยักษ์ไม่ถูกกับสไตล์ของใครหลายคน ซึ่งนั่นก็ไม่ใช่แค่กับในไทยนะ เพราะโอปป้าเกาหลีก็ไม่สันทัดในแนวนี้เช่นกัน งานนี้ความสนุกจึงเกิดขึ้น!! เมื่อยูทูบช่อง moomootv ได้จับเอาเหล่าโอปป้าหลายคนหลายสไตล์มาไว้ด้วยกันและจับให้พวกเขาดูหนังโป๊สไตล์อเมริกันเป็นครั้งแรก บอกเลยว่ารีแอ็กชั่นของแต่ละคนมันทั้งสุดและทั้งฮาของจริง เพราะส่วนใหญ่อปป้าก็จะมีความนิยมแบบเดียวกับชายไทยคือ ชอบหนังจากฝั่งญี่ปุ่นนั่นเอง โอปป้าหน้าเป๊ะคนนี้บอกว่า เขาชอบสไตล์เอเชีย แน่นอนว่าเขาดูฝรั่งด้วยแต่อเมริกันผิวสีนี่ไม่เคยเลยจริงๆ และเมื่อถามกับเหล่าโอปป้าว่าพวกเขาคาดหวังจะเจออะไรในหนังโป๊สไตล์อเมริกัน พวกเขาก็ตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า ‘ทุกอย่างต้องใหญ่ชัวร์!!’ และเมื่อมันใหญ่ งานนี้เป็นใครก็ต้องคิดว่านางเอกคงจะเจ็บแน่นอน โอปป้าคนนี้ถึงกับอ้าปากค้าง พี่คนนี้ถึงกับยกนิ้วให้ เพราะงูของคนอเมริกันมันเทพจริงๆ เมื่อถึงฉากที่จะพระเอกของเรื่องต้องเลียก้น งานนี้โอปป้าถึงกับกุมขมับ จุดพีคคือ โอปป้าถึงกับบอกว่า ของพี่กันเขาไม่ใช่อวัยวะแล้ว มันคือต้นไม้!! ถ้าใครที่ดูจากฝั่งอเมริกันบ่อยๆ คงจะทราบกันดีว่าพวกเขาเป็นแฟนตัวยงเรื่องประตูหลัง ฉะนั้นเมื่อฝั่งเอเชียแบบเราๆ ได้ดูส่วนใหญ่ก็จะมีสีหน้าแบบนี้แหละ ใช่ว่าโอปป้าทุกคนจะไม่ชอบนะ อย่างพี่คนนี้ถึงกับออกปากชมเลยทีเดียว สุดท้ายเมื่อถามว่าอะไรคือความต่างของหนังโป๊จากเอเชียและอเมริกัน โอปป้าหน้าเป๊ะก็บอกว่า เอเชียอ่อนกว่าจริงๆ ของเขานี่สตรองมากๆ…
-
เรื่องราวของทนายผู้ต่อสู้เพื่อ ‘ความรัก’ จนทำให้การแต่งงานข้ามเชื้อชาติในอเมริกาถูกกฎหมาย!!
ย้อนไปในอดีตนั้น ในบางประเทศจะมีธรรมเนียมหรือกฎหมายที่ห้ามไม่ให้คนต่างชาติหรือคนต่างสีผิวแต่งงานกัน เนื่องจากมีแนวคิดเรื่องการเหยียดเชื้อชาติและสีผิวอยู่นั้นเอง แต่ในปัจจุบันเราสามารถแต่งงานกับคนที่มีความแตกต่างกันได้อย่างอิสระ ไม่ว่าเราจะมีความแตกต่างกันทางสัญชาติ อายุ สีผิว หรือภาษาก็ตาม แม้แต่คนเพศเดียวกันก็ยังสามารถแต่งงานกันได้เลย ส่วนหนึ่งต้องขอบคุณผู้ชายคนหนึ่ง ที่ลุกมาต่อสู้เพื่อสิทธิเหล่านี้อย่างนาย William Marutani จนทำให้การแต่งงานข้ามเชื้อชาติและสีผิว สามารถทำได้ถูกต้องตามกฎหมาย William Marutani William Marutani เป็นทนายของกลุ่มประชาชนชาวญี่ปุ่นอเมริกัน ที่อาศัยอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา เขามีจิตใจรักคุณธรรม และมักจะยืนหยัดต่อสู้เคียงข้างผู้ที่ควรจะได้รับความยุติธรรมเสมอ ในคดีของ Milfred และ Richard Loving คู่รักข้ามสีผิวจากรัฐเวอร์จิเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกาเองก็เช่นกัน ชายผิวขาวและหญิงผิวสีถูกจับเมื่อปี 1958 เพราะว่าพยายามจะแต่งงานกัน แต่กฎหมายในขณะนั้นไม่ยอมให้คนผิวสีแต่งงานกับคนผิวขาว วันที่ 10 เมษายน 1967 นาย Marutani จึงได้ช่วยสู้คดีในศาลให้ทั้งคู่ได้แต่งงานกัน ทั้งที่ตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยเลย เราเริ่มการต่อสู้ในศาลโดยการโต้เถียงว่าคำว่า ‘คนผิวขาว’ นั้นหมายถึงอะไรกันแน่ ซึ่งเมื่อดูตามกฎหมายแล้วพบว่าคนผิวขาวคือคนที่มีเชื้อสายคอเคเชียนบริสุทธิ์ ส่วนคนอื่นๆ ที่มีแม้แต่เศษเสี้ยวของเชื้อสายอื่นอยู่ในตัวถือว่าเป็นคนผิวสี จากนั้นเขาจึงโจมตีต่อว่า ตามประวัติศาสตร์แล้ว ยุโรปถูกรุกรานบ่อยครั้ง คนส่วนมากในรัฐเวอร์จิเนียจึงไม่น่าจะถือว่าเป็นคนผิวขาว และวิธีการจะพิสูจน์ว่าเป็นคนผิวขาวแท้จริงหรือไม่ ก็ทำได้ยากด้วย นอกจากนี้กฎหมายยังบอกอีกว่า…
-
สาวนางแบบเล่าเรื่องราวในอดีต ที่เคยโดนกลั่นแกล้งเพราะ ‘สีผิวของเธอดำเกินไป’
เรื่องราวของนางแบบสาวผิวสีชาวซูดาน ที่กลายเป็นนางแบบชื่อดังหลังจากที่เธอย้ายมาอยู่ที่สหรัฐอเมริกา แต่กว่าที่จะกลายเป็นแฟชั่นไอคอนชื่อดัง นางแบบผิวสีผู้นี้ต้องเผชิญเรื่องราวต่างๆ มากมาย และคำสบประมาทว่าผิวของเธอนั้นดำเกินไป!! Nyakim Gatwech นางแบบสาววัย 24 ผู้มีชื่อเสียงโด่งดังและมีคนติดตามในอินสตาแกรมของเธอมากถึง 325,000 คน บ่อยครั้งที่เธอมักโดนดูถูกเพราะสีผิว แต่ Gatweach กลับไม่สนใจและพยายามทำหน้าที่ของเธออย่างเต็มที่ นอกจากจะเป็นนางแบบแล้ว Gatweach ยังเป็นกระบอกเสียงสนับสนุนให้ผู้คนยอมรับในสิ่งที่ตัวพวกเขาเป็น และเธอยังออกมาต่อต้านการเหยียดผิวอีกด้วย Gatwech ย้ายมาอยู่ที่สหรัฐอเมริกาตั้งแต่ตอนอายุ 14 ปี ซึ่งก่อนหน้านี้เธออาศัยอยู่ในค่ายผู้ลี้ภัยที่เคนย่าและเอธิโอเปีย เนื่องจากภาวะสงครามในประเทศบ้านเกิด “แม่ของฉันหนีออกมาจากซูดานก่อนที่ฉันจะเกิดเนื่องจากภาวะสงคราม ตอนนั้นทหารกำลังจะมาที่หมู่บ้านของเราและฆ่าทุกคนทิ้ง” นางแบบสาวเล่าเรื่องราวที่ครอบครัวของเธอต้องเผชิญ Gatwech สูญเสียพี่สาวของเธอไปในระหว่างที่แม่ของเธอเดินเท้าไปยังประเทศเอธิโอเปีย และหลังจากที่ย้ายมาอยู่ในค่ายผู้ลี้ภัยที่เคนย่าพวกเขาก็ได้มีโอกาสเข้ามาเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่สหรัฐอเมริกา แต่ถึงอย่างไรก็ตามการใช้ชีวิตในสหรัฐอเมริกานั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ครอบครัวของเธอต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบากและเรื่องสีผิวก็เป็นหนึ่งในประเด็นที่พวกเธอถูกกลั่นแกล้ง เธอเล่าถึงประสบการณ์การถูกเหยียดผิวในโรงเรียนว่า เธอมักจะถูกเพื่อนๆ บอกว่าเธอดำเกินไป หรือบางครั้งพวกเขาก็จะหัวเราะใส่เธอและพูดว่า “นี่ Gatwech พวกเรามองไม่เห็นเธอเลย” “ยกตัวอย่างในชั้นเรียน เมื่อฉันถูกคุณครูถาม เพื่อนๆ ก็มักจะพูดว่าคุณครูถามใครหรอ พวกเรามองไม่เห็นใครเลย และจากนั้นทั้งห้องก็จะหัวเราะกัน ส่วนฉันก็ได้แต่นั่งร้องไห้” นางแบบสาวเล่าถึงประสบการณ์วัยเด็กของเธอ …
-
สาวลองครีมทาผิว อยากจะเปลี่ยนผิวเป็นสีแทน แต่ไหงกลายเป็นสีน้ำตาลไหม้ไปได้ซะนี่!!
หญิงสาวกับความสวยงามเป็นสิ่งที่แยกออกจากกันแทบไม่ได้ และหนึ่งในวิธีการที่พวกเธอดูแลตัวเองก็คือการใช้ครีมบำรุงผิวและเครื่องสำอางต่างๆ นั่นเอง และถ้าหากพูดถึงความสวยความงามยอดฮิตของเหล่าสาวๆ มะกันก็คงจะหนีไม่พ้นผิวสีแทนแน่ๆ Ebony Foley ก็เป็นหนึ่งหญิงสาวผู้หลงใหลในผิวสีน้ำผึ้ง ด้วยสีผิวที่คุณแม่ให้มานั้นมันไม่ใช่โทนที่หญิงสาวต้องการ งานนี้เธอจึงใช้ตัวช่วย นั่นก็คือครีมทำสีแทนแบบเร่งด่วนนั่นเอง แต่ทว่าสีผิวของนางแบบในโฆษณากับสีที่เธอได้นั้นมันดั๊นไม่ตรงกันซะนี่ งานนนี้ความฮาจึงเกิดขึ้น!! หญิงสาวทำการซื้อครีมทาผิวในโทนสีแทนเข้มมาลองใช้ เนื่องจากเธอต้องการสีผิวแบบน้ำตาลไหม้สวยๆ แต่เมื่อลองใช้ครีมดังกล่าวแล้ว มันทำให้เธอไม่กล้าที่จะออกไปไหนเลยทีเดียว เพราะดูเหมือนว่าสีผิวน้ำตาลไหม้ที่เธอจากได้นั้นจะใช้ไฟแรงเกินไปหน่อย… เลยได้ออกมาเป็นแบบนี้!! โฟมทาผิวสีแทนทำให้ผิวของเธอเข้มขึ้นกว่าที่เธอต้องการ ถึงแม้ว่าสีผิวที่ได้นั้นจะทำให้ไม่สามารถออกบ้านไปพบใครและจำเป็นต้องยกเลิกปาร์ตี้กับเพื่อนๆ ของเธอ แต่ Ebony ก็ไม่ได้เศร้าเธอกลับสร้างเสียงหัวเราะจากความผิดพลาดของครีมทาผิวนี้ได้ “ฉันรู้สึกตลกกับสีที่หน้าของตัวเอง ฉันว่ามันเป็นเรื่องที่น่าหัวเราะมากกว่านะ แขนกับขาของฉันเป็นสีน้ำตาลสวยดีนะ แต่เมื่อเอามาทาหน้ามันก็ได้สีแบบที่เห็นนี่แหละ ” Ebony ให้สัมภาษณ์ นอกจากจะไม่รู้สึกเศร้ากับสีผิวที่ผิดเบอร์แล้ว เธอยังได้อัปภาพฮาๆ ของตัวเองลงบนโลกออนไลน์อีกด้วย “ฉันทำเรื่องผิดพลาดครั้งใหญ่เมื่อคืน หลังจากที่อยากได้ผิวสีแทนแบบปลอมๆ ฉันจะไม่ทำอีก ช่วยบอกคนขายทีว่าฉันอยากได้สีน้ำตาล ไม่ใช่สีนี้” และแน่นอนความฮาแบบนี้เพื่อนๆ ของเธอก็ต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันมากมาย “ไม่นะ Ebony ฉันกับ Tom ถึงกับร้องไห้เลย ฮ่าๆ “ “นี่มันคือความฮาชัดๆ…
-
ถ่ายภาพสไตล์บาโรก ที่ใช้เด็กผิวสีมาเป็นแบบ เพื่อให้เห็นความงามภายใต้สีผิวที่แตกต่าง
โดยธรรมชาติของมนุษย์นั้น ไม่ว่าจะเป็นใคร ผิวสีอะไร เด็ก หรือผู้ใหญ่ ล้วนมีความงดงามอยู่ในตัวกันทั้งนั้น เราแค่ต้องเผยมันออกมา ด้วยเหตุนี้ สองสามีภรรยา Regis และ Kahran ผู้อยู่เบื้องหลัง CreativeSoul จึงได้เลือกเด็กหญิงผิวสีมาเป็นแบบให้โดยมุ่งเน้นไปที่ทรงผมของพวกเขา ทั้งคู่ได้สร้าง Afro Art ซึ่งเป็นชุดภาพที่เผยให้เห็นความงดงามของเด็กสาวผิวสีจนสะกดทุกสายตา จุดเด่นของชุดภาพดังกล่าวนี้ประกอบด้วยเสื้อผ้าที่เนี๊ยบทุกระเบียบนิ้วและทรงผมที่มีความเก๋ไก๋ในสไตล์ยุคบาโรก สำหรับ บาโรก นั้นเป็นสมัยหนึ่งของศิลปะตะวันตกซึ่งเริ่มประมาณต้นคริสต์ศตวรรษที่ 17 ที่กรุงโรม ประเทศอิตาลี บาโรกจะเน้นความเป็นนาฏกรรม ศิลปะจะแสดงความขัดแย้งและความหรูหรา โอ่อ่า Kahran กล่าวว่า “เราคิดว่ามันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเด็กที่จะมองความหลากหลายของสีผิวในเชิงบวก แต่น่าเสียดายที่ค่านิยมในสังคมมักจะทำให้พวกเขารู้สึกว่าตัวเองดีไม่พอจนทำให้กลายเป็นคนขาดความนับถือในตัวเอง” “ดังนั้น เราจึงหวังว่าภาพชุดนี้จะทำให้ทุกคนได้เห็นถึงความงามและเอกลักษณ์ของทรงผมแอฟโฟร์ และเราก็หวังว่ามันจะเป็นแรงบันดาลใจให้กับเด็กหญิงทั่วโลกในการรักความแตกต่างและความงามที่ไม่ซ้ำใครภายในตัวของพวกเขาเอง” สำหรับชุดภาพนี้ Regis และ Kahran ได้ไปถ่ายรูปของเด็กๆ ผิวสีตามรัฐต่างๆ ในสหรัฐฯ โดยให้เด็กๆ สวมเสื้อผ้าที่เตรียมไปให้ ทำทรงผมแอฟโฟร์ แต่ถึงอย่างนั้นคู่รักก็ยังรักษาความเป็นธรรมชาติของเด็กๆ ไว้ได้อย่างดี เพราะนั่นคือจุดประสงค์หลักของภาพถ่าย เราไม่จำเป็นต้องพยายามสร้างความงามให้ตัวเองเพื่อให้ได้รับการยอมรักจากคนอื่น แต่แค่ภูมิใจในสิ่งที่เป็น นับถือในตัวเอง เพราะนั่นคือความงามที่หาจากไหนไม่ได้ . . . . .…
-
เรื่องราวของ Bessie Coleman นักบินหญิงผิวสีคนแรกของกองทัพสหรัฐ สู่แรงบันดาลใจให้คนรุ่นต่อไป…
ช่วงฤดูร้อนปี 1922 เป็นวันที่สภาพอากาศดูสดใสเป็นปกติ คลื่นวิทยุมีการรายงานข่าวถึงการทดสอบเครื่องบินรุ่นใหม่โดยมีชาวเมืองนิวยอร์กยืนมุงกันอยู่บนพื้นโลก ก่อนจะมีการรายงานข่าวตามมาว่า “เครื่องยนต์ 220 แรงม้า L.F.G ได้ทำการบินผ่านเหนือน่านฟ้าอย่างไร้ข้อติดขัดใดๆ ครับผม!!” ผิวเผินอาจจะดูเหมือนเป็นวันปกติที่ไม่มีอะไรพิเศษ ทว่าน้อยคนนักที่จะรู้ว่านี่เป็นการทดสอบนักบินหญิงผิวสีคนแรกของสหรัฐอเมริกา ‘Bessie Coleman’ ผู้สามารถทำลายขนบธรรมเนียมเดิมและกลายเป็นแรงบันดาลให้แก่สาวๆ ทั่วโลก Bessie เป็นบุตรสาวคนที่ 10 ของครอบครัวชาวไร่ที่อาศัยอยู่ทางตอนเหนือของรัฐเท็กซัส ในช่วงที่โรงเรียนปิดระหว่างฤดูเก็บเกี่ยว เธอก็มักจะวุ่นอยู่กับการหาหนังสือในห้องสมุดและนำมาศึกษาต่อด้วยตนเอง สำหรับเธอแล้ว ‘มหาวิทยาลัย’ ถือเป็นหนึ่งในเป้าหมายสำคัญของชีวิต ช่วงแรกเธอต้องทำงานในร้านซักรีดเพื่อหาเงินมาจ่ายค่าเทอม ทว่าเธอสอบตกในเทอมแรกสุดระหว่างศึกษาอยู่ที่ Langson University รัฐโอคลาโฮม่า เมื่อทางที่คิดไม่เป็นไปตามที่หวัง เธอจึงเปลี่ยนแผนมาอาศัยอยู่กับญาติที่เมืองชิคาโก้ ในระหว่างนี้เธอก็ยังคงหาเลี้ยงชีพด้วยการทำงานเป็นช่างทำเล็บอยู่ในซาลอนแห่งหนึ่ง สงครามโลกครั้งที่ 1 ปะทุขึ้น… ในช่วงเวลานั้นเองที่เธอได้เห็นภาพเครื่องบินของกองทัพเป็นครั้งแรก ทำให้เธอรู้สึกว่า… นี่คือหนทางที่เธออยากจะเป็นและเฝ้าตามหามาโดยตลอด เธอพยายามติดต่อโรงเรียนสอนการบินหลายต่อหลายแห่งในสหรัฐฯ แต่เธอกลับถูกปฏิเสธอย่างไม่ใยดีด้วยเหตุผลหลักที่ว่าเธอเป็นผู้หญิงผิวสี แต่โชคดีที่มีสถาบันแห่งหนึ่งในฝรั่งเศสตอบรับให้เธอเข้าไปศึกษาได้ ช่วงปี 1920 ที่เธอได้ย้ายไปอาศัยอยู่ที่เมือง Le Crotoy เธอเป็นนักเรียนหญิงเพียงคนเดียวในละแวกนั้นที่มีเชื้อสายเป็น แอฟริกัน-อเมริกัน อีกทั้งเธอยังต้องเดินเท้าไกลกว่าวันละ 16…
-
เรื่องราวของ ‘Sarah Rector’ เด็กสาวผิวสีวัย 12 ขวบ ที่ร่ำรวยที่สุดในอเมริกา..!!
หากพูดถึงเรื่องราวประวัติศาสตร์ของชาวแอฟริกัน-อเมริกันในอดีต เราอาจจะนึกถึงภาพของการตกเป็นทาสจากการล่าอาณานิคมในแบบที่เคยเรียนหรือเห็นผ่านสื่อกันมา แต่คราวนี้เราจะพาไปรู้จักกับเรื่องราวของ Sarah Rector เด็กสาวผิวสีวัย 12 ขวบ ที่มีทรัพย์สินมากที่สุดในทวีปอเมริกา ณ ขณะนั้น ถึงขนาดที่ว่ามีนักธุรกิจจากเยอรมนี 4 คนแย่งกันขอเธอแต่งงาน เพียงเพราะต้องการส่วนแบ่งของเธอก็มีมาแล้ว..!! Sarah Rector ย้อนกลับไปในวันที่ 5 มกราคม ปี 1914 สำนักพิมพ์ท้องถิ่นได้มีการเผยแพร่รายรับของ Sarah Rector ที่มากถึงเดือนละ 15,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ จนนำมาซึ่งความวุ่นวายอื่นๆ ที่ตามมา เดิมที Sarah Rector เกิดเมื่อวันที่ 3 มีนาคม ปี 1902 ซึ่งพ่อแม่ของเธอก็ได้เป็นหนึ่งในสมาชิกของกลุ่มสัญญา Muscogee (หรือที่รู้จักกันในนาม Creek Nation) โดยเป็นกลุ่มที่เกิดจากการรวมตัวของ 5 ชนเผ่าพื้นเมืองในแถบตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐฯ 5 ชนเผ่าพื้นเมืองที่มีการทำสนธิสัญญาร่วมกันในบนพื้นที่ของรัฐโอคลาโฮม่า หนึ่งในข้อตกลงของสนธิสัญญานั้นมีอยู่ว่า.. เมื่อโอคลาโฮม่าได้ประกาศตนเป็นรัฐแล้ว สมาชิกจะได้รับการแบ่งสันปันส่วนที่ดินทำกิน…
-
‘Martina Big’ แอร์โฮสเตสผิวขาว ผู้ผันตัวเป็นนางแบบผิวสี ด้วยหน้าอกไซส์ 32S ใหญ่สุดในยุโรป..!!
ปกติแล้วในวงการนางแบบเราอาจไม่ค่อยเห็นใครที่ยอมเปลี่ยนสีผิวตัวเอง เพื่อที่จะได้โลดแล่นในวงการซักเท่าไหร่ แต่ขอบอกเลยว่าสำหรับอดีตแอร์โฮสเตส Martina Big แล้ว.. นี่คือความฝันอันสูงสุดของเธอเลยก็ว่าได้ ดังนั้นเราจะพาไปรู้จักกับเรื่องราวของอดีตแอร์โฮสเตสสาวชาวเยอรมนี ผู้ยอมทุ่มเงินทุนกว่า 50,000 ปอนด์ (ราว 2.3 ล้านบาท) ในการศัลยกรรมเปลี่ยนผิวสี และอัพไซส์หน้าอกให้มีขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรป..!! “ฉันเป็นคนผิวสี นั่นคือเชื้อชาติที่แท้จริงของฉัน ฉันอดใจรอที่จะไปแอฟริกาไม่ไหวแล้วล่ะ ฉันรู้แต่ว่าความรู้สึกในใจมันบอกเราว่า เรารู้สึกดีกว่าที่ได้เป็นคนผิวสี” Martina ให้สัมภาษณ์ ย้อนกลับไปในช่วงปี 2012 เป็นครั้งแรกที่ Martina เข้ารับการศัลยกรรม โดยตอนนั้นเธอรู้สึกว่าอยากแปลงโฉมตัวเองให้เหมือนกับตุ๊กตาบาร์บี้ แต่มีทรวดทรงรูปร่างที่ดูดีกว่า… จากนั้นเธอก็รู้สึกความต้องการจากก้นบึ้งของจิตใจตัวเอง ที่เรียกร้องให้เธออยากเข้ารับการปรับเปลี่ยนสีผิว ในตอนแรกเธอศัลยกรรมหน้าอกก่อนที่จะเริ่มปรับสภาพผิวของตัวเองให้เข้มขึ้นเรื่อยๆ Michael คู่ชีวิตที่เธอบอกว่าเป็นกำลังใจคนสำคัญของชีวิต หลังจากที่เธอต้องสูญเสียครอบครัวไปจากอุบัติเหตุบนท้องถนน Michael เล่าถึงเรื่องราวชีวิตคู่ว่า “ตอนนั้นผมเป็นนักเรียนใหม่ในห้อง จากนั้นก็ได้รู้จักกับ Martina ทั้งห้องมีผู้หญิง 23 คน แต่ผมกลับรู้สึกตกหลุมรักเธอเข้าอย่างจัง จากนั้นหลังเรียนจบเราทั้งคู่ก็ไปทำงานเป็นพนักงานต้อนรับสายการบินอยู่ 7 ปี จนกระทั่งผมมีปัญหาด้านสายตาทำให้ต้องออกจากงาน” ช่วงหลังจากนั้นเองที่ Martina…
-
มหัศจรรย์!! คุณแม่ผิวสีให้กำเนิดลูกน้อยผิวขาวถึง 2 คน กับโอกาสที่เกิดขึ้นได้เพียง 1 ในล้าน…
สำหรับยีนผิวดำ คือ ยีนเด่น และการที่ผู้เป็นพ่อหรือแม่มีผิวดำ แน่นอนว่าลูกที่เกิดมาก็จะต้องมีผิวดำด้วย ในขณะที่ถ้าหากลูกคลอดออกมามีผิวสีขาวนั้นมักจะเกิดขึ้นได้ยากมาก… แต่สำหรับ Catherine Howarth คุณแม่ชาวไนจีเรีย วัย 35 ปี ที่มีสามีเป็นคนผิวขาว กลับให้กำเนิดลูกชายและลูกสาวที่มีผิวสีขาวเหมือนกับคุณพ่อเปี๊ยบ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งกรณีที่เกิดขึ้นได้ยากมากๆ เลยล่ะ และนี่คือ Catherine Howarth และ Richard สามีของเธอ ทั้งคู่มีความสุขกับสิ่งมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นกับลูกน้อยเป็นอย่างมาก ทางด้านผู้เชี่ยวชาญในด้านพันธุกรรมได้อกมาเผยกับ Catherine ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอนั้นมีโอกาสเกิดได้เพียงแค่ 1 ในล้านเท่านั้น ซึ่งทาง Catherine ก็ได้ออกมากล่าวว่า ในตอนที่พวกเขาเกิดเธอรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก เพราะไม่คิดเลยว่าลูกน้อยของเธอจะเกิดมามีผิวขาวและมีนัยน์ตาสีฟ้าถึง 2 คน “เมื่อ Jonah เกิด ผู้เชี่ยวชาญในด้านพันธุกรรมได้บอกกับฉันว่า มันมีโอกาสเกิดเพียงแค่ 1 ในล้าน ซึ่งมันเป็นเรื่องที่มหัศจรรย์มาก กับคุณแม่ที่เป็นชาวแอฟริกันผู้ให้กำเนิดลูกออกมามีผิวขาว” Catherine กล่าว ในขณะที่…
-
สาวผิวสีผู้ป่วยเป็นโรคด่างขาว ผลักดันตัวเองสู่นางแบบมืออาชีพ สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คน!!
โรคที่เป็นแล้วผู้อื่นสามารถรับรู้หรือมองเห็นได้อย่างอีสุกอีใสหรือเกลื้อนนั้น สามารถหายได้ไปตามกาลเวลาตามการรักษา แต่โรคที่จะได้เจอต่อไปนี้เป็นโรคที่เกี่ยวกับผิวหนังเช่นเดียวกันแต่มันจะติดตัวไปตลอด การเยียวยาที่ช่วยได้มีเพียงจิตใจเท่านั้น Iomikoe Johnson คุณแม่ลูกสี่ผิวสี วัย 37 ปี จากรัฐลุยเซียนา ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้เจอกับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญเมื่อ 12 ปีก่อน เมื่อพบว่าตัวเธอเองนั้นป่วยเป็นโรคด่างขาว โดยเริ่มจากการเห็นจุดขาวบริเวณหลังแขนทำให้คิดว่าเธอเป็นมะเร็ง จนในที่สุดมันก็ได้ลุกลามไปทั่ว ในตอนนั้นเธอรู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมาก ว่าจะต้องกลับไปถูกรังแกเหมือนในช่วงวัยเด็กเนื่องจากเป็นคนผิวสี และนี่เธอกลับมีสองสีที่แตกต่างกันบนผิวของเธอ เธอถูกคนรอบข้างจ้องมองเวลาที่ไปไหนมาไหน และถูกปฏิเสธที่จะจับมือทักทาย นั่นจึงทำให้เธอตัดสินใจใช้เครื่องสำอางปกปิดสิ่งที่เป็น โดยในแต่ละวันต้องใช้เวลาเป็นชั่วโมง และสวมได้เพียงเสื้อแขนยาวกับกางเกงขายาวเท่านั้น เธอพูดว่า “ฉันเหนื่อยมากที่ต้องทำอย่างนี้ เมื่อฉันพบว่าตัวเองเป็นโรคนี้ตอนอายุ 25 ความเสียใจก็ถาโถมเข้ามา รู้สึกเหมือนโลกของฉันได้พังทลายลงไป” คู่หมั้นและครอบครัวของเธอได้บอกกับเธอว่า ไม่จำเป็นที่จะต้องคอยปกปิดเลยเพราะพวกเขาจะยังคงรักเธอไม่ว่าจะเป็นอย่างไรก็ตาม จนเมื่อเธอได้เห็นเฟซบุ๊คของ Winnie Harlow นางแบบผู้เป็นโรคด่างขาว จึงเป็นมุมมองใหม่ที่เธอได้เห็นจากโรคนี้ ภาพของ Winnie Harlow “ในแวบแรกนั้นคิดออกมาเลยว่าเธอคนนั้นดูสวยมาก ทั้งที่ป่วยเป็นโรคเดียวกัน ฉันรู้สึกประทับใจในความสวยของเธอและคิดว่าฉันก็น่าจะเป็นอย่างนั้นได้” นี่คือสิ่งที่เธอคิดได้ตอนนั้น เธอได้ตื่นขึ้นมาในวันหนึ่งและออกไปใช้ชีวิตโดยไม่ซ่อนความเป็นตัวเธอ ไม่สนว่าใครจะคิดกับเธออย่างไร เพราะหน้าที่ที่เธอจะทำตอนนี้ คือการแสดงให้เห็นว่าความสวยนั้นอยู่เหนือกว่าผิวเปลือกนอก…
-
หนุ่มทำคลิป ‘ล่อโจรมาขโมย’ แล้วปิดประตูตีแมว พาขับรถบรรทุกทัวร์นรก ให้หัวหมุนรอบเมือง!!
ปกติเวลาเราดูคลิปพวกแกล้งคน หรือที่เรียกว่าคลิปแนว Prank จากฝรั่งแล้ว ส่วนใหญ่คลิปก็จะเป็นการแกล้งเพื่อน แกล้งคนแปลกหน้า แกล้งคนรู้จัก หรือวิธีสารพัดแบบที่คนส่วนใหญ่ก็มักจะทำกันแบบเดิมซ้ำๆ ไม่ค่อยมีอะไรแปลกใหม่เท่าไหร่ แต่ว่าวันนี้ #เหมียวมู่ทู่ จะพาไปดูคลิปแนวนี้ในแบบใหม่ที่เปลี่ยนจากการแกล้งใครก็ไม่รู้ มาเป็นการแกล้งเหล่าโจรที่พยายามจะขโมยของ งานนี้เล่นเอาโจรไปไม่เป็นเลยทีเดียว หนุ่มยูทูบเบอร์ของเราได้ทดลองเอารถบรรทุกของไปจอดเปิดประตูด้านหลังเอาไว้ในพื้นที่ล่อหูล่อตาโจรขโมย (ซึ่งมีอัตราการขโมยของสูงพอควร) และดูว่าจะมีโจรคนไหนมาติดกับดักนี้มั้ย ลองดูสิครับ… เราจะเห็นว่าคนทั้งสองที่เป็นเจ้าของคลิป ได้ทำทีเป็นเอารถขนของไปจอดไว้ตามที่ต่างๆ และเปิดท้ายรถไว้เพื่อล่อให้เหล่าหัวขโมยขึ้นรถมาตรวจสอบดู จากนั้นก็ปิดท้ายรถทันทีพร้อมแกล้งขี่รถเร็วๆ โยกไปมาให้หัวขโมยทรงตัวไม่ได้ คลิปดังกล่าวนั้นกลายเป็นกระแสไวรัลอย่างรวดเร็ว นับตั้งแต่วันที่อัพโหลดจนตอนนี้มีคนดูไปถึง 35 ล้านครั้งแล้ว… แม้ว่ากระแสตอบรับและคนดูจะเยอะมากๆ แต่เสียงตอบรับจากผู้คนก็ไม่ได้ออกมาทางด้านดีเท่าไหร่นัก เพราะคนบางส่วนจะให้เหตุผลประมานว่าเจ้าของคลิปเนี่ย ไปดักจอดรถในย่านคนจน นอกจากนั้นคนทั้งหมดที่โดนแกล้งก็ล้วนเป็นคนผิวสีทั้งนั้น บ้างก็บอกว่าถ้าเป็นเขา เขาจะขังพวกนี้แล้วขี่ไปที่สถานีตำรวจซะ ไม่ใช่มาแกล้งอะไรแบบนี้มันดูเป็นการทรมานคนเสียมากกว่า หรือมีบางคนที่บอกว่าทั้งหมดในคลิปเนี่ยมันเป็นการจัดฉาก ไม่ได้เกิดขึ้นจริงๆ หรอก (ข้อนี้มีเหตุผลนะ เพราะถึงแม้ว่าจะมีคลิป Prank มาอย่างมากในช่วงหลัง แต่ก็ดูเหมือนจะเป็นคลิปที่จัดฉากขึ้นมา มากกว่าช่วงแรกๆ ที่จะเป็นคลิปแกล้งแบบที่แกล้งจริงๆ) ชาวเน็ตคนนี้ก็เป็นคนหนึ่งที่ไม่เข้าใจว่าทำไม ทุกคนเห็นใจกับโจรนัก ทั้งๆ ที่เขาก็ทำผิด…
-
สองสหายทดสอบ ‘เครื่องกดสบู่อัตโนมัติ’ แต่ไหงเหยียดคนผิวสี ไม่ยอมให้บริการฟะ!?
เกิดเหตุการณ์ฮือฮาบนโลกออนไลน์เกี่ยวกับการเหยียดผิวอีกครั้ง หลังจากที่มีชายหนุ่มผู้หนึ่งได้อัพเดทคลิปวิดีโอที่แสดงให้เห็นการทำงานของเครื่องกดสบู่อัตโนมัติ ที่เลือกให้บริการเฉพาะคนขาว!! คุณ T.J. Fitzpatrick ชายหนุ่มลูกครึ่งอเมริกัน – แอฟริกัน และเพื่อนคนขาวของเขาได้ถ่ายคลิปวิดีโอการทำงานของเครื่องกดสบู่อัตโนมัติดังกล่าว และพบว่าสบู่จะออกมาเฉพาะตอนที่เพื่อนของเขายื่นมือเข้าไปเท่านั้น คุณ Fitzpatrick บอกว่า “ผมไม่ได้รู้สึกแย่นะ แต่รู้สึกฮามากกว่า ทำไมมันไม่ยอมให้ผมใช้ก็ไม่รู้เหมือนกัน ผมลองกับเครื่องกดสบู่ทุกเครื่องในห้องน้ำ แต่ก็ไม่มีเครื่องไหนยอมให้ผมใช้เลย เพราะฉะนั้นเวลาที่ผมเข้าห้องน้ำผมต้องพาเพื่อนไปด้วยทุกครั้ง ฮ่าๆ” แต่หลังจากที่คลิปวิดีโอถูกอัพลงบนโลกออนไลน์ก็มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันมากมาย แต่ละความคิดเห็นกลับรู้สึกแย่และคิดว่านี่คือการเหยียดผิวไปซะได้… ทางด้านคุณ Richard Whitney จากบริษัท Particle ได้ออกมาอธิบายเกี่ยวกับการทำงานของเครื่องกดสบู่อัตโนมัติว่า จริงๆ แล้วเทคโนโลยีดังกล่าวมักมีปัญหากับผู้ใช้งานผิวสีอยู่แล้ว “เครื่องกดสบู่อัตโนมัตินั้นจะมีเซนเชอร์ติดอยู่ภายใน มันจะส่งสัญญาณผ่านหลอดไฟอินฟาเรด ซึ่งสาเหตุที่เครื่องไม่ทำงานนั้นอาจมาจากแสงที่ส่องไปนั้นไม่สะท้อนกลับมา หรือความเข้มของแสงที่สะท้อนกลับมานั้นไม่เพียงพอ” คุณ Richard เจ้าตัวก็แค่เอาฮาเท่านั้นแหละ อย่าไปคิดอะไรมากล่ะ!! ที่มา metro
-
Donyale Luna นางแบบผิวสีคนแรกเมื่อ 50 ปีก่อน กล้าที่จะแตกต่างและยืนหยัดให้ได้
ในสมัยก่อนในยุคที่การเหยียดผิวยังคงเข้มข้นในโลกตะวันตก การยอมรับคนผิวสีจากสังคมนั้นค่อนข้างเป็นไปได้ยาก แต่หลังจากนั้นเมื่อโลกเปลี่ยนไป ทุกๆ อย่างก็ค่อยเปลี่ยนแปลงไปทีละน้อย… Donyale Luna นางแบบแฟชั่นผิวสีคนแรกที่ได้ถ่ายรูปลงปกนิตยสารแฟชั่นชื่อดังอย่าง Vogue ผลงานการถ่ายแบบของเธอได้รับการพูดถึงอย่างมากในสมัยนั้น รวมถึงการปรากฏภาพของเธอในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในเมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลียด้วย นางแบบผิวสีชาวอเมริกันผู้นี้เกิดเมื่อวันที่ 31 สิงหาคมปี 1945 ในเมืองดีทรอยต์ รัฐมิชิแกน เธอเป็นลูกสาวคนสุดท้องของครอบครัว เธอใช้ชีวิตเหมือนวัยรุ่นทั่วไปก่อนที่จะเริ่มเข้าสู่วงการนางแบบเมื่อปี 1966 นอกจากนี้เธอยังมีผลงานภาพยนต์อีกหลายเรื่องด้วยกันอย่างเช่นเรื่อง Fellini Satyricon ในปี 1966 หรือเรื่อง Salomè ในปี 1972 นางแบบสาวผู้มากความสามารถนี้ยังถือได้ว่าเป็นนางแบบผิวสีคนแรกอีกด้วย แต่ถึงอย่างไรก็ตามเธอกลับต้องจากไปด้วยวัยเพียง 33 ปีในปี 1979 จากการเสพยาเกินขนาด ซึ่งสาเหตุที่แท้จริงและสภาพจิตใจของเธอนั้นไม่ได้มีการพูดถึงเอาไว้มากนัก และเพื่อเป็นการรำรึกถึงความสามารถของเธอ วันนี้เราจึงได้รวบรวมผลงานบางส่วนของเธอมาให้ได้ชมกัน . . . . . . . . . . . Luna ทำให้เห็นถึงการ เริ่มยอมรับในความแตกต่างของสีผิว .…
-
สาวน้อยวัย 10 ขวบ ถูกเพื่อนล้อเรื่องสีผิว จนเป็นนางแบบเสื้อผ้า และมีแบรนด์ของตัวเอง..!!
การที่เด็กคนหนึ่งถูกเพื่อนๆ ในโรงเรียนล้อไม่ว่าจะเป็นเรื่องสีผิว หรืออะไรก็แล้วแต่… สุดท้ายแล้วคำพูดที่ปล่อยออกมาแบบไม่ทันได้คิด อาจจะทำให้ชีวิตใครบางคนเปลี่ยนไปตลอดกาลเลยก็ว่าได้ และวันนี้เราจะพาไปรู้จักกับ Kheris Rogers สาวน้อยวัย 10 ขวบ เชื้อสายแอฟริกัน – อเมริกัน ซึ่งก่อนหน้านี้เธอถูกเพื่อนๆ ที่โรงเรียนล้อเรื่องสีผิว ทว่ามันกลับทำให้เธอได้กลายเป็นนางแบบตามความฝันของเธอ Kheris Rogers สาวน้อยผู้ถูกล้อเพียงเพราะเธอมีสีผิวที่เข้มมากกว่าปกติ ‘หนูถูกแกล้งเยอะมากที่โรงเรียน ก่อนหน้านี้หนูต้องคบแต่กับเพื่อนที่เป็นชาวแอฟริกันเหมือนกันเท่านั้น’ สาวน้อยให้สัมภาษณ์ นอกจากเพื่อนร่วมชั้นแล้ว ครั้งหนึ่งคุณครูให้เธอวาดรูปตัวเอง และเธอขอสีน้ำตาล แต่คุณครูยื่นสีดำมาให้ ซึ่งนั่นทำให้เธอรู้สึกว่าถูกล้อเลียน และคุกคามอย่างมาก กระทั่งวันหนึ่งพี่สาวของเธออยากจะทำให้น้องสาวตัวเองรู้สึกดีขึ้นบ้าง จึงโพสต์ภาพของน้องสาวและเรื่องราวทั้งหมดผ่านทวิตเตอร์ตัวเอง และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด หลังมีคนแชร์ต่อไปมากกว่าแสนคน จนทำให้น้องสาวของเธอไปริเริ่มที่จะสร้างแบรนด์เสื้อผ้าเป็นของตัวเอง โดยเธอใช้ชื่อแบรนด์ว่า Flexin’ in My Complexion แปลเป็นไทยก็ประมาณว่า ‘ความเหมาะสมบนผิวพรรณของตัวเอง’ หลังจากที่เธอเปิดร้านเสื้อผ้าออนไลน์เป็นของตัวเองได้ไม่นาน เธอก็เริ่มที่จะใช้ตัวเองเป็นนางแบบเพื่อสร้างความมั่นใจให้ตัวเอง นอกจากจะทำให้เธอมั่นใจในตัวเองมากขึ้นแล้ว เธอยังสามารถสร้างรายได้พิเศษมาช่วยเหลือครอบครัวได้อีกด้วย ‘มันทำให้หนูรู้สึกมั่นใจในตัวเองมากขึ้น ก่อนหน้านี้หนูไม่อยากจะไปโรงเรียน…
-
คุณพ่อถึงขั้นตัดความสัมพันธ์กับลูก หลังจากที่เห็นลูกสาวกับชายหนุ่มผิวสีในชุดงานพรอม!!
สำหรับพวกเราชาวไทยการเหยียดผิวหรือการเหยียดเชื้อชาติอาจเป็นเรื่องที่ดูจะเข้าใจยากหรือไม่ค่อยอินกันซักเท่าไหร่ แต่สำหรับชาวต่างชาติแล้วเรื่องพวกนี้ถือเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก การต่อสู้และการรณรงค์เรื่องการเหยียดผิวมีขึ้นอยู่บ่อยครั้งในต่างประเทศ และวันนี้เราก็มีตัวอย่างหนึ่งของการต่อด้านการเหยียดผิวที่น่าชื่นชมมากมาฝากกัน… เมื่อไม่นานมานี้เว็บไซต์ BuzzFeed ได้รายงานข่าวเกี่ยวกับสาวน้อยคนหนึ่งที่แสดงจุดยืนของเธอต่อการเหยียดผิว โดยเธอยืนยันจะไปงานพรอมกับเพื่อนผิวสีของเธอ ถึงแม้ว่าคุณพ่อจะไม่ยอม Anna Hayes สาวไฮสคูลจากเมืองเล็กๆ ทางตอนใต้ของรัฐอาร์คันซอ ถูกพ่อของเธอต่อว่าอย่างรุนแรงพร้อมทั้งบอกว่าเธอไม่ใช่ลูกอีกด้วย โดยสาเหตุของความรุนแรงครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่พ่อของเธอเข้ามาเห็นภาพบนเฟซบุ๊กของเธอและเพื่อนผิวสีในชุดงานพรอม หลังจากที่ได้ข้อความจากพ่อของเธอ สาวน้อยเล่าถึงความรู็สึกของเธอว่า “ฉันเสียใจอย่ามากหลังจากที่พ่อส่งข้อความมาต่อว่าฉันอย่างนั้น มันเป็นเรื่องที่น่าเศร้ามากฉันไม่เชื่อเลยว่าคนเราจะเกลียดคนที่ไม่เคยเห็นหน้ากันเพียงเพราะว่าเขามีสีผิวแตกต่างกันได้ขนาดนี้” ในเมืองที่เธออยู่นั้นมีการเหยียดผิวอย่างรุนแรงมาก และพ่อของเธอก็เป็นหนึ่งในนั้น หลังจากที่พ่อและแม่แยกทางกัน ในตอนเด็กเธอต้องไปอยู่กับพ่อและหลังจากนั้นในช่วงวัยรุ่นจึงย้ายมาอยู่กับแม่ ดังนั้นเธอและผู้เป็นพ่อจึงไม่ค่อยที่จะสนิทกันเท่าไหร่ พ่อของเธอเป็นพวกที่คลั่งการเหยียดผิวอย่างรุนแรงและเขามักจะปลูกฝังเรื่องนี้ให้กับเธอในตอนเด็กๆ ด้วย แต่เธอก็ไม่ได้มีความคิดที่คล้อยตามกับพ่อของเธอเลย ข้อความที่พ่อของเธอส่งมาต่อว่าหลังจากที่เห็นภาพของเธอกับหนุ่มผิวสี หลังจากนั้นสาวน้อยได้ทำการส่งข้อความนี้ให้ Phillip ชายหนุ่มที่ผิวสีที่ไปงานพรอมกับเธอ และเมื่อพ่อผู้ถูกกล่าวหาได้รับข้อความดังกล่าวเขาโกรธมากและอัพเดทภาพนั้นลงบนเฟซบุ๊ก โพสต์ของ Phillip ก็ถูกชาวเน็ตแชร์และเข้ามาแสดงความคิดเห็นอย่างมาก บางคนที่เข้ามาคอมเม้นต์บอกว่า “ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะมีคนยอมตัดต่อตัดลูก เพียงเพราะว่าเธอไปงานพรอมกับคนที่มีผิวสีต่างกัน” หรือบางคนก็บอกว่า “การเหยียดผิวน่าจะหมดไปได้แล้วนะ” Anna Hayes บอกว่าเธอไม่คิดมาก่อนว่า Phillip จะแชร์ข้อความที่ส่งให้และมีคนให้ความสนใจมากขนาดนี้ แต่ว่านี่ก็เป็นสิ่งดีที่จะแสดงให้ผู้คนได้เห็นว่า การเหยียดผิวนั้นยังคงมีอยู่และมันควรได้รับการแก้ไข และนี่คือตัวอย่างของคอมเม้นต์จากชาวเน็ต เรื่องการเหยียดผิวหรือเหยียดเชื้อชาติไม่น่าจะมีให้เห็นในสมัยนี้แล้วนะเนี่ย ทำแบบนี้ไม่น่ารักเลยนะคุณพ่อ ที่มา buzzfeed
-
‘สาวผิวสีนักคอสเพลย์’ เพื่อทำลายแนวคิดการเหยียดผิว ทิ้งไปจากวงการคอสเพลย์ซะ!!
ขอแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับ Kiera Please หญิงสาววัย 21 ปี จากรัฐ Virginia ที่กำลังสั่นสะเทือนวงการคอสเพลย์อยู่ ณ ตอนนี้ เนื่องจากว่าเดือนนี้เป็นช่วงเดือนของการให้เกียรติกับประวัติศาสตร์ของคนผิวสี lack History Month ทำให้เกิดเป็นกระแสแฮชแท็ก #28DaysOfBlackCosplay ขึ้นมาในวงการคอสเพลย์ และ Kiera เองก็เป็นหนึ่งในนักคอสเพลย์ผิวสีที่มีผู้คนชื่นชอบและติดตามมากมาย โดยเป้าหมายเพื่อทำลายแนวคิดการเหยียดผิวทิ้งไปจากวงการคอสเพลย์ซะ!! อีกทั้งยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักคอสเพลย์ผิวสีทั้งหลายให้มีความกล้า และแสดงตัวตนของตัวเองออกมา แน่นอนว่าผลงานการคอสเพลย์ของเธอนั้นก็ไม่ใช่เล่นๆ เลย จะเป็นอย่างไรบ้างลองไปชมพร้อมๆ กันที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า… 1. Melpomene จากเรื่อง Hercules 2. Nani Pelekai จากเรื่อง Lilo & Stich 3. Kida Nedakh จากเรื่อง Atlantis : The Lost Empire 4. Chel จากเรื่อง The Road…
-
วีรกรรมน่ายกย่อง เมื่อวัยรุ่นคนหนึ่งเสี่ยงตัวเอง เข้าไปช่วยเด็กสาวจากรถที่กำลังลุกไหม้
ปกติแล้วถ้าเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นและมีเวลาเพียงชั่วอึดใจที่จะสามารถช่วยผู้เคราะห์ร้ายจากเหตุนั้นได้ เราจะเลือกที่เข้าไปช่วยผู้เคราะห์ร้ายคนนั้นไหม!? แต่กับเขาคนนี้เขาเลือกที่จะลงมือทำมัน เด็กหนุ่มคนวัย 16 คนนี้มีชื่อว่า Emmanuel Toula เขาเล่าว่าเขากำลังอยู่ในเหตุการณ์ประท้วงของวัยรุ่นผิวสีแต่ทว่าในระหว่างเหตุการณ์ประท้วงเขาก็ได้เห็นเด็กสาวคนหนึ่งติดอยู่ในรถที่กำลังลุกไหม้ “ในช่วงเวลาที่ผมเห็นรถคันนั้น ผมคิดว่ารถมันสามารถที่จะระเบิดตลอดเวลา แต่ถึงอย่างนั้นผมต้องไปช่วยเธอ” เขาบอกว่าในตอนแรกรถคันนี้ได้ขับมาตามถนนปกติ แต่ว่าก็ต้องเจอกับฝูงผู้ประท้วงที่มาพร้อมกับถังขยะติดไฟและรถคันนี้ก็ไม่สามารถจะเคลื่อนไปไหนได้ จึงถูกลูกหลงของผู้ประท้วงทั้งโยนก้อนหินและถังขยะเข้าใส่รถ “ผมมีน้องชาย 4คน และน้องสาวอีก 2 คน ซึ่งผมเข้าใจได้ทันทีว่าผมก็จะไม่ปล่อยให้เด็กสาวคนนั้นต้องติดอยู่ในนั้น ยิงในช่วงเวลาแบบนั้นที่มีคนอยู่รอบๆ แต่กลับไม่มีใครทำอะไรเลย ผมบอกกับตัวเองว่าผมต้องลงยื่นมือเข้าไปช่วยเธอให้ได้” ในตอนแรกแม่ของเด็กๆ ในรถได้พาลูกชายออกมาก่อน แต่ทว่าลูกสาวกลับยังติดอยู่ในรถที่ไฟลุกคันนั้น เขาจึงตัดสินใจที่จะเข้าไปช่วย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเกิดพอดีระหว่างการประท้วงของคนผิวสีต่อตำรวจสหรัฐอเมริกา หลังจากมีข่าวความรุนแรงกับคนผิวสี ซึ่งเขาก็ไปอยู่ในเหตุการณ์พอดี เขาบอกว่าเขาไม่ใช่พวกหัวรุนแรงหรือก่อความไม่สงบ เป็นเพียงแค่ประชาชนที่อยากออกมาแสดงจุดยืน เขาก็ไม่ได้คิดว่าตำรวจทุกคนจะเป็นคนไม่ดี เพียงแต่ว่าตำรวจไม่ดีมันก็มีอยู่มากมายนั่นเอง สุดท้ายแล้วหลังจากข่าวของเขาถูกเผยพร่ออกไป เขาก็ไดรับคำชมมากมายรวมถึงจากทางกรมตำรวจท้องที่ว่า @prefpolice “ทางกรมตำรวจต้องขอสรรเสริญความกล้าหาญ ของเด็กหนุ่มที่ช่วยเด็กสาวออกจากรถที่กำลังลุกไหม้” @Emmanuel_Toula ก็เลยออกมาตอบกลับว่า “ผมไม่ใช่ฮีโร่ ผมเป็นแค่พี่ชายคนหนึ่ง ที่กำลังคิดว่ามีน้องสาวกำลังอยู่ในอันตรายและหวาดกลัว” สุดท้ายแล้วต่อให้เด็กหนุ่มคนนี้จะพูดยังไง เขาก็ยังคงเป็นฮีโร่ของสาวน้อยคนนั้นอยู่ดี ที่มา metro
-
Diandra Forrest นางแบบผิวเผือกชาวแอฟริกัน-อเมริกัน เปิดมิติใหม่ของ “ความงดงาม”
เป็นที่ทราบกันดีว่า คำว่าแอฟริกันอเมริกันย่อมหมายถึงคนที่มีผิวสีดำ ซึ่งมีบรรพบุรุษจากทวีปแอฟริกา แต่จะเป็นอย่างไรหากชาวแอฟริกันอเมริกันคนนั้น มีลักษณะผิวเผือกด้วย?!?! จะงดงามขนาดไหน เราไปชมกันเลย หญิงสาวคนนี้มีชื่อว่า Diandra Forrest เธอมีเชื้อสายแอฟริกันอเมริกันซึ่งควรจะมีผิวสีดำ แต่เธอบังเอิญมีอาการผิวเผือก ทำให้เธอมีผิวสีนม และมีผมสีทอง ซึ่งเป็นภาพที่หาดูได้ยากเป็นอย่างมาก ลักษณะผิวเผือกจะมีโอกาสเกิดขึ้นประมาณ 1 ใน 17,000 ซึ่งอาการดังกล่าวเกี่ยวของกับพันธุกรรมของผู้ป่วย และแน่นอนว่าด้วยลักษณะที่โดดเด่นเช่นนี้ ทำให้ Forest กลายเป็นเป้าการแกล้งในสมัยเด็ก “ฉันมักรู้สึกแปลกยากอยู่เสมอตอนเด็กๆ พี่ชายของฉันก็มีลักษณะผิวเผือกเช่นกัน เวลาไปไหนก็ตามไม่ว่าจะโรงเรียน หรือบนรถไฟ ก็จะมีคนจ้องมองฉันกับพี่ แล้วก็หัวเราะ ซึ่งฉันไม่เคยเข้าใจเลยว่าทำไม” Forest กล่าว ภายหลังเมื่อเธอเติบโต เธอก็ค่อยๆ มั่นใจในตัวเองมากขึ้นจนไม่สนใจผู้ที่หัวเราะเยาะเธอ เธอค่อยๆ พัฒนาตนเองจนกลายเป็นนางแบบชื่อดังคนหนึ่งในวงการ ตอนนี้เธอได้เข้าร่วมแคมเปญกับนิตยสารแฟชั่น เพื่อแสดงให้เห็นว่า ทุกคนมีความงดงามในตนเอง โดยเฉพาะคนที่มีลักษณะผิวเผือก และอย่าให้สังคมมาตัดสินได้ว่าคุณงดงามหรือไม่งดงาม “ลองนึกภาพว่า ถ้าฉันตอนเด็กๆ มีผู้ใหญ่ผิวเผือกคนหนึ่งมาเป็นแบบอย่างให้ว่าพวกเขาจะเติบโตมาเป็นแบบไหน ฉันคงจะมีกำลังใจในการใช้ชีวิตในสังคมต่อไป และผู้ใหญ่คนนั้นก็เข้าใจด้วยว่า…
-
ฝาแฝดคนละสีผิว “Kalani และ Jarani” กับโอกาสเกิดขึ้นเพียง 1 ใน 500 และก็น่ารักเสียจริงๆ
ปกติแล้วเวลาคนเราเกิดขึ้นมาแล้วดันเป็นแฝด ความต่างที่จะเกิดขึ้นส่วนใหญ่ก็จะเป็น เพศ ที่ต่างกันหรือบางส่วนของหน้าตานิดๆ หน่อยๆ ที่ต่างกัน แต่จะมีโอกาส 1 ใน 500 เท่านั้นที่สีผิวจะต่างกันออกไป เรื่องนี้เกิดขึ้นกับทารกแฝดวัย 9 เดือนจากรัฐอิลลินอยส์ ได้รับการยืนยันแล้วว่ามีสีผิวที่แตกต่างกัน ซึ่งทั้งคู่มีชื่อว่า Kalani และ Jarani สีผิวของทั้งคู่ก็มาจากพ่อกับแม่ของเธอนั่นเอง Kalani ได้รับผิวขาวมาจากแม่ของเธอ Whitney ที่เป็นชาวคอเคเชี่ยนส่วน Jarani ได้รับผิวสีมาจากพ่อของเธอ Tomas ที่เป็นชาวชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกัน ซึ่งหลังจากที่ได้รับการยืนยันเรื่องสีผิวของลูกๆ แล้ว Whitney ผู้เป็นแม่ก็ได้ทำการโพสรูปลูกๆ ของเธอลงเพจของเธอพร้อมกับแคปชั่นว่า “พวกเราคือฝาแฝด โดยมีโครโมโซม Kalani อยู่ทางซ้าย และของ Jarani อยู่ทางขวา” ภาพรวมกับคุณพ่อคุณแม่ ชุดแดงมาเชียว แต่แม้สีผิวจะต่าง แต่ก็สังเกตได้ว่าหน้าตาของพวกเขาเป็นฝาแฝดกันแน่ๆ ดูราเริงเชียวเจ้าหนู Jarani อยากจะเห็นจริงๆ ว่าถ้าเจ้าหนูสองคนนี้โตไปจะเป็นยังไง เรื่องผิวสีนี้ก็ดูจะชัดเจนตั้งแต่แรกๆ แล้วนะเนี่ย เคสดังกล่าวก็เรียกได้ว่าเป็นเคสที่หายากจริงๆ สำหรับฝาแฝดที่มีผิวต่างกัน แต่อย่างไรก็ตามมันก็มีความเป็นไปได้อยู่แล้วเพราะพ่อกับแม่ ไม่ได้เป็นคนเชื้อชาติเดียวกันนั่นเอง…
-
รู้จัก “Han Hyun Min” นายแบบผิวสีคนแรก นิยามความหล่อคมเข้มแบบเกาหลี!!
ปกติถ้าเราพูดถึงนายแบบนางแบบจากประเทศเกาหลี เราอาจนึกถึงหนุ่มสาวขาวตี๋อย่างที่เราเห็นตามสื่อต่างๆ แต่รู้หรือไม่ ตอนนี้มีนายแบบคนหนึ่งกำลังมาแรงอย่างมากในประเทศเกาหลี และที่น่าตกใจคือเขาเป็นหนุ่มผิวสีด้วย!! นายแบบคนนี้มีชื่อว่า “Han Hyun Min” วัย 16 ปี เขาเป็นลูกครึ่งชาวเกาหลีไนจีเรีย โดยมีแม่เป็นชาวเกาหลี พ่อเป็นชาวไนจีเรีย แม้จะเป็นลูกครึ่งแต่เขาก็เกิดและเติบโตในประเทศเกาหลีมาตั้งแต่เด็กๆ เขาเล่าว่า เขาใฝ่ฝันว่าจะเป็นนายแบบมาโดยตลอด เขาจึงฝึกฝนตนเองมาตั้งแต่เด็กๆ รวมทั้งฝึกเดินด้วยรองเท้าส้นสูงอีกด้วย แม้จะฝึกฝนมาอย่างหนักขนาดไหน แต่ด้วยความที่เขาเป็นคนผิวสีซึ่งขัดกับค่านิยมส่วนใหญ่ของคนในประเทศ ทำให้โมเดลลิ่งต่างมองข้ามเขาไปจนหมด แต่ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่น ในที่สุดก็มีบริษัทยักษ์ใหญ่ดึงตัวเขาให้ไปเป็นนายแบบในที่สุด และงานแรกที่เขาได้ไปเปิดตัวคือ Seoul Fashion Week ซึ่งทันที่เขาก้าวขึ้นบนเวที ด้วยหน้าตาที่เป็นเอกลักษณ์และฝีมืออันโดดเด่น ทำให้เขากลายเป็นที่จับตามองของสื่อและคนทั่วไปในทันที และเหล่าแบรนด์ดังๆ ก็ร่วมกันจับจองตัวเขาไปถ่ายแบบผลิตภัณฑ์ แต่เห็นหน้าตาค่อนไปทางยุโรปแบบนี้ เขากลับพูดภาษาเกาหลีเป็นหลัก และพูดภาษาอังกฤษแทบไม่ได้เลย ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจอะไร เพราะเขาเกิดและเติบโตในเกาหลีนั่นเอง . . . . . . อื้อหือ หล่อคมเข้มไม่เหมือนใครจริงๆ ใครชื่นชอบผลงานของเขา ก็กดเข้าไปชมได้ที่ไอจีด้านล่างได้เลยนะฮะ…
-
เรื่องราวของคู่รักผิวขาว รับเลี้ยงเด็กผิวดำมาเป็นลูก โดยไม่แบ่งแยกและเหยียดหยาม
สองคู่รัก Rachel และ Aaron Halbert ที่คบกันมายาวนานกว่า 12 ปี ในที่สุดพวกเขาก็ตัดสินใจที่จะมีลูกกันด้วยวิธีการรับเลี้ยงลูกบุญธรรม แต่พวกเขาได้เลือกหนทางที่แปลกออกไปโดยเด็กๆ ที่เขารับมาเลี้ยงนั้นเป็น คนผิวสี ทั้งหมด คุณ Aaron (สามี) เติบโตมาในประเทศฮอนดูรัส พ่อแม่ของเขาเป็นมิชชันนารีสอนศาสนาจากอเมริกา ซึ่งเขาและครอบครัวเป็นคนผิวขาวทั้งหมด ทางฝั่งของคุณ Rachel (ภรรยา) เติบโตในรัฐมิสซิสซิปปี้ในประเทศสหรัฐอเมริกาในตอนแรกนั้นเธอก็ไม่ได้มีความสนใจเกี่ยวกับเรื่องเชื้อชาติหรืออะไรทำนองนี้หรอก แต่ภายหลังจากที่ได้เดินทางไปยังเฮติ ก็ทำให้เธอเริ่มที่จะมองเห็นปัญหาสำหรับเหล่าคนผิวสีทั้งหลาย ทั้งเรื่องของการต่อสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพของพวกเขา หรืออคติของเหล่าคนขาวที่มีต่อพวกเขา คู่รักคู่นี้พยายามกันเป็นอย่างหนักเพื่อที่จะมีลูกเป็นของตัวเอง แต่สุดท้ายก็ไม่ประสบผลสำเร็จ ก็เลยตัดสินใจที่จะไปรับุตรบุญธรรมมาเลี้ยง พวกเขาเดินทางไปยังหน่วยงานรับเลี้ยงบุตรบุญธรรมในมิสซิสซิปปี้เพื่อติดต่อขอรับเลี้ยงบุตร โดยได้บอกกับพนักงานไว้ว่ารับเลี้ยงเด็กได้ทุกแบบ ที่ทำแบบนี้ก็เพราะว่าพวกเขาเชื่อว่า “ถ้าพระเจ้าอยากให้พวกเขามีลูกเป็นคนผิวขาวล่ะก็ ภรรยาของผมคงจะตั้งครรภ์ตามธรรมชาติไปนานแล้วล่ะ” คุณ Aaron กล่าว คุณ Aaron รับลูกชายและลูกสาวมาเลี้ยง และพวกเขาก็ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข ยกเว้นแต่คนรอบข้างที่ไม่เห็นด้วยกับเรื่องที่พวกเขาทำ “เราเห็นว่าเรื่องของการปกป้องเด็กไม่ใช่เพียงแค่การทำการกุศล หรือเป็นส่วนหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับวาระทางการเมือง แต่เป็นสิ่งหนึ่งที่ใกล้กับหัวใจของพระเจ้า” คุณ Aaron กล่าวถึงความตั้งใจของเขา “ไม่ว่าชีวิตของใครก็คงเคยมีความฝัน ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ คนหนุ่มหรือคนแก่…
-
แฟนๆ ว่าไง!? บอกลา Tony Stark ได้เลย เพราะจากนี้ Iron Man จะกลายเป็นสาวผิวสี
หากพูดถึงตัวละครซุปเปอร์ฮีโร่จากค่ายมาร์เวลที่โด่งดังที่สุด ชื่อของ Iron Man หรือ Tony Stark มหาเศรษฐีหนุ่มผู้มีงานอดิเรกในการสวมชุดเกราะสู้กับเหล่าร้าย (คล้ายๆ อีกคนจากค่ายดีซีเลยแฮะ) และยิ่งได้การแสดงระดับเทพจาก Robert Downey Jr. ทำให้หลายๆ คนติดภาพ Iron Man ในปัจจุบันไปเสียแล้ว แต่ล่าสุดทางค่ายมาร์เวลทำให้แฟนๆ ตะลึงอีกครั้ง เมื่อพวกเขาได้เปลี่ยนผู้สวมเกราะ Iron Man คนใหม่ เป็นหญิงสาวผิวสี แทนที่มหาเศรษฐีหนุ่มเพลย์บอย Tony Stark ที่เราคุ้นเคยกัน หญิงสาวคนนี้มีชื่อว่า Riri Williams ปรากฎตัวครั้งแรกในหนังสือ Invincible Iron Man เธอเป็นยอดนักเรียนอัจฉริยะที่สามารถเข้าเรียนมหาวิทยาลัย M.I.T ได้ตั้งแต่อายุ 15 และสามารถสร้างชุดเกราะ Iron Man ของตนเองได้ในหอพักโดยใช้อุปกรณ์ภายในมหาลัย จนในที่สุด ความสามารถของเธอก็ไปเตะตา Tony Stark ซึ่งตอนนั้นเขาประกาศจะไม่สวมชุด Iron Man อีกต่อไป เขาจึงได้มอบชุดเกราะและให้เธอสืบทอดชื่อ…
-
J. K. Rowling ไม่พอใจ หลังมีคนต่อว่านักแสดง “เฮอร์ไมโอนี่” เรื่องเป็นคนผิวสี…!!
หลังจากมีกระแสไม่เห็นด้วยกับการที่ผู้คนมากมายไม่ชอบการคัดเลือกนักแสดงมาแสดงในบทเฮอร์ไมโอนี่ตอนโตใน Harry Potter and the Cursed Child เนื่องจากเป็นคนผิวสี และผู้คนเหล่านั้นแสดงอาการเหยียดสีผิวด้วย Noma Dumezweni ผู้รับบทเฮอร์ไมโอนี่ในฉบับละครเวที เธอเปี่ยมไปด้วยความสามารถจากการได้รับรางวัลในเวที Olivier Award แต่แล้วก็ถูกชาวเน็ตที่รับไม่ได้วิจารณ์กับการเปลี่ยนลักษณะตัวละครที่มากเกินไป เจ.เค. โรว์ลิ่ง ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “ด้วยประสบการณ์การใช้โซเชียลมีเดีย ฉันคิดว่าคนโง่ยังไงก็ยังเป็นคนโง่ โลกมันก็เป็นอย่างนี้นั่นแหละ แต่ขอบอกเลยว่า Noma ถูกเลือกเพราะว่าเธอคือนักแสดงที่ดีที่สุดสำหรับบทบาทนี้” ในขณะที่หลายคนยอมรับการตัดสินใจในการเลือกนักแสดง เธอกล่าวว่า “ฉันเจอหลายคนที่เหยียดสีผิวแล้วบอกว่าเฮอร์ไมโอนี่ต้องเป็นคนขาวสิ แต่ฉันก็ยืนยันว่าเฮอร์ไมโอนี่เป็นคนผิวสีได้” ส่วนทางด้าน John Tiffany ผู้คัดเลือก Noma มาเป็นเฮอร์ไมโอนี่ได้กล่าวว่า “ผมไม่ค่อยยุ่งกับทวิตเตอร์เท่าไหร่ ผมเลยไม่ได้ทำอะไรกับด้านมืดนี้ ซึ่งมันก็เป็นเรื่องที่แย่อยู่นะ ผมแค่งงว่าทำไมคนถึงไม่มีมุมมองเกี่ยวกับการที่คนผิวสีกลายเป็นตัวเอกบ้าง” เจ.เค. โรว์ลิ่ง ยังย้อนกลับไปถามว่าต้องมีเหตุผลอะไรที่เฮอร์ไปโอนี่จำเป็นต้องเป็นคนผิวขาว หนังสือก็ไม่ได้อธิบายเรื่องนี้ไว้อย่างชัดเจนว่าเธอมีผิวสีอะไร อีกทั้งแฟนอาร์ตก็เคยทำให้เฮอร์ไมโอนี่เป็นหญิงผิวสีเลย จริงอย่างที่พวกเขาว่าทั้งหมด หนังสือไม่เคยบอกว่าเฮอร์ไมโอนี่ผิวสีอะไร ในฉบับหนังนั้นก็เป็นการตีความของผู้กำกับหนังที่จินตนาการขึ้นมา แฟนๆ อาจจะติดภาพนั้นมาเฉยๆ แต่ต้องเปิดใจยอมรับ เพราะทุกอย่างขึ้นอยู่กับการตีความทั้งนั้น ที่มา theguardian
-
ประเด็นดราม่าหนัก หลัง “เฮอร์ไมโอนี่” กลายเป็นคนผิวสี ในแฮรี่ พ็อตเตอร์ภาค Cursed Child ?!
กลายเป็นประเด็นดราม่าไปซะอย่างนั้น สำหรับการประกาศตัวนักแสดงผู้รับบทเป็น “เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์” ใน แฮรี่ พ็อตเตอร์ภาคใหม่เวอร์ชั่นละครเวที เมื่อตัวละครที่มีคนชื่นชอบมาที่สุดตัวหนึ่งของเรื่อง กลายเป็นคนผิวสี สำหรับแฟนๆ แฮรี่ พ็อตเตอร์แล้ว หนึ่งในตัวละคนที่มีคนชื่นชอบมากที่สุดในเรื่อง ก็คงจะหนีไม่พ้น “เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์” หนึ่งในสองตัวละครเพื่อนรักของ แฮรี่ พ็อตเตอร์ พระเอกของเรื่อง และเมื่อยิ่งได้ความสวยและน่ารักของ เอ็มม่า วัตสัน ผู้รับบทเฮอร์ไมโอนี่เวอร์ชั่นหนังโรง ทำให้ภาพของเฮอร์ไมโอนี่ที่เป็นสาวสวยผิวขาวสุดน่ารัก กลายเป็นที่ติดตาของผู้คนไปอย่างเลี่ยงไม่ได้ แต่ล่าสุด เกิดประเด็นดราม่าอย่างใหญ่หลวงเมื่อแฮรี่ พ็อตเตอร์ภาคใหม่ Harry Potter and the Cursed Child ซึ่งเป็นละครเวทีนั้น ได้เปลี่ยนตัวละคร เฮอร์ไมโอนี่ ให้เป็นคนผิวสี ซึ่งรับบทโดย Noma Dumezweni และทาง J.K Rowling ก็มีส่วนร่วมในการคัดเลือกตัวละครนี้ด้วยเช่นกัน โดยคอมเมนต์ในเว็บไซต์ Dailymail ได้ถกเถียงประเด็นนี้กันอย่างดุเดือด อย่างเช่นคอมเมนต์นี้ได้กล่าวว่า “ไม่ได้มีอคติกับคนผิวสีนะ แต่เฮอร์ไมโอนี่เป็นคนขาวไม่ใช่เหรอ? ทำไมไม่หาคนที่เหมือนกว่านี้ล่ะ? ไม่เห็นเคยได้ยินว่ามีคนที่ตอนเด็กผิวขาว แล้วโตมาเป็นผิวสีเลย” แต่ก็มีอีกท่านมาคอมเมนต์ว่า ในเวอร์ชั่นหนังสือ ไม่เคยระบุสีผิวของเฮอร์ไมโอนี่ไว้นี่หน่า? เธอก็ตอบกลับไปว่า…
-
นักท่องเที่ยวผิวสีงง เจอคนจีนตื่นเต้นมาขอถ่ายรูปด้วย เพราะไม่เคยเจอคนผิวสีมาก่อน!!
นักท่องเที่ยวจีนมีอะไรที่เราประหลาดใจได้เสมอเลย โดยเฉพาะวีรกรรมต่างๆ ที่เขาทำไว้ในบ้านเราจนเป็นข่าวใหญ่โต แต่วันนี้ #เหมียวสามสี จะพาไปชมเรื่องแปลกๆ ของนักท่องเที่ยวจีนในต่างประเทศกันบ้าง หญิงสาวผิวสีกับเพื่อนกลุ่มหนึ่ง เธอได้ไปเที่ยวที่ประเทศมาเลเซีย ซึ่งในตอนที่เธอกำลังชมสถานที่แห่งหนึ่งอยู่ ซึ่งที่นั่นก็มีคนมาเที่ยวเยอะเช่นเดียวกัน แต่แล้วก็ต้องเกิดอาการงง เพราะมีนักท่องเที่ยวจีนมาขอถ่ายรูปด้วย เริ่มจากฝ่ายชายถูกขอถ่ายรูปก่อน ดูจากกอาการแล้วนักท่องเที่ยวจีนดูตื่นเต้นมากๆ ที่ได้ถ่ายรูปกับคนผิวสี จากนั้นเธอก็ถูกขอถ่ายรูปด้วย เล่นเอาทั้งคู่งงไปเลยกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น เราไปชมคลิปเหตุการณ์การนี้กันเลยดีกว่า เป็นไงล่ะ งงเต๊กกันเลย หรือว่าคนจีนเขาคิดว่าฝรั่งผิวสีนี่คือดารารึเปล่านะ ทำไมเขาดูตื่นเต้นกันจัง ที่มา SolineSoKawaii
-
#BlackHarryPotter ถ้าตัวละครใน Harry Potter ถูกแสดงโดยคนผิวสี พวกเขาจะเป็นใครกันดีหน๊ออออ!!?
สำหรับช่วงนี้กระแสก็ถือว่ากลับมาแรงจริงๆ โดยเฉพาะเมื่อล่าสุดนี้ที่ได้มีการประกาศว่า Noma Dumezweni นักแสดงสาวผิวสี จะได้รับบทบาทเป็น Hermione Granger ใน Harry Potter and the Cursed Child ภาคต่อของซีรีย์ชุดพ่อมดน้อยแหละ ซึ่งหลายๆ คนก็ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ว่า จะให้เฮอร์ไมโอนี่ ตัวละครโปรดของพวกเขามีผิวสีไม่ได้ แต่ทางนักเขียน J.K. Rowling ก็ได้ออกมาบอกว่าสีผิวนั้นไม่ได้สำคัญ Noma มีดวงตาสีน้ำตาล ผมหยักๆ และฉลาด นั่นคือคุณสมบัติของเฮอร์ไมโอนี่ล่ะ ส่วนเรื่องสีผิวนั้นไม่เคยมีการบรรยายถึงเลย… ทีนี้ชาวเน็ตเลยช่วยกันทำเรื่องนี้ขึ้นมา โดยติดแฮชแทก #BlackHarryPotter จินตนาการว่าถ้าเหล่าตัวละครในซีรีย์พ่อมดน้อย เป็นคนผิวสีกันหมดล่ะก็ จะเป็นใครดีหน๊ออออ!!? ร้ายกาจ!!! Kerry Washington และ Chiwetel Ejiofor ในบทบาทของ Lily และ James Potter พ่อแม่ของแฮร์รี่ Tracy Morgan เป็น Arthur Weasley พ่อของรอน Jaden และ Willow…
-
หนุ่มผิวสีเงิบ เก็บเงินไปคืนหญิงสาวแต่กลับโดนเธอเหยียด เอาเงินไปใช้เองโลด!!
สำหรับเหตุการณ์นี้จะเรียกว่าทำคุณบูชาโทษ ก็คงจะไม่แปลก แต่สุดท้ายแล้วผู้ประสงค์ดี ก็ได้รับอะไรดีๆ กลับมาบ้างแหละ อิอิ Joe Christie ชายหนุ่มผิวสีที่เดินๆ อยู่แล้วพบว่ามีหญิงสาวคนหนึ่งอายุไม่น่าเกิน 30 ปี ทำเงินหล่นจากกระเป๋า ด้วยความเป็นคนดี เขาจึงเข้าไปเก็บ และเตรียมจะยื่นคืนให้กับเธอ แต่เธอดันตอบกลับเขาแบบสุดแสบ!!! โดยขณะที่เขากำลังจะเดินเอาเงินไปคืนให้กับหญิงสาว ก่อนที่เขาจะมีโอกาสพูดถึงจุดประสงค์ของเขาจนจบ ‘ขอโทษครับคุณ…’ ยั๊งงงง ยังไม่ทันได้พูดอะไร หญิงสาวกลับตอบกลับมาว่า ‘โทษที ฉันไม่ยุ่งกับหนุ่มผิวสี…’ และเดินหนีไปอย่างรวดเร็วซะอย่างนั้น สำหรับเหตุการณ์นี้ก็ทำเอาเขาติดสตั้นท์ไปหลายวินาที แต่!!! เขาก็ไม่ปล่อยให้คำพูดเหยียดๆ ของหญิงสาวมามีผลต่อชีวิตเขา แถมยังเอาเงินนั้นไปซื้ออาหารกลางวันกินแบบสบายใจเฉิบ สตรองงงจริงๆ !!! แถมเขาก็ได้โพสต์เรื่องราวนี้ลงในโซเชียลมีเดียของเขา และชาวเน็ตก็ได้มาแชร์เรื่องราวของเขาไปหลายพันคน จะว่าเป็นการแก้แค้นที่แสนหวานเลยก็ไม่ผิดนะเนี่ย อิอิ ที่มา: Distractify