Tag: ผู้ก่อการร้าย
-
นี่คือเหตุผลว่าทำไม ‘ศพผู้ก่อการร้ายบินลาเดน’ ถึงไม่เคยถูกนำมาเปิดเผยออกสื่อ
Osama Bin Laden (บินลาเดน) คือชื่อของผู้ก่อการร้ายที่หลายๆ คนยังคงจดจำกันได้เป็นอย่างดี จากเหตุการณ์วินาศกรรม 11 กันยายน 2001 หรือที่เรียกว่าเหตุการณ์ 9/11 เขาคือผู้นำของการจี้เครื่องบินให้พุ่งเข้าชนตึก World Trade Center ในนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา คร่าชีวิตผู้คนไปเป็นจำนวนมาก เหตุการณ์ดังกล่าวถูกถ่ายทอดสดออกไปทั่วโลก กลายเป็นหนึ่งในเหตุวินาศกรรมที่เลวร้ายที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ ก่อนที่ผู้ก่อการร้ายคนนี้จะถูกปลิดชีพด้วยฝีมือของทหารสหรัฐในวันที่ 2 พฤษภาคม 2011 บินลาเดน ผู้นำการก่อการร้าย เหตุวินาศกรรม 9/11 ทว่าตอนนี้ผ่านมาได้ประมาณ 7 ปี เรากลับได้ยินเพียงคำพูดยืนยันว่าบินลาเดนซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งกลุ่มก่อการร้าย อัลกออิดะฮ์ ได้จบชีวิตลงไปแล้ว แต่เรากลับไม่เคยเห็นภาพศพของเขามายืนยันคำพูดที่ว่านั้นเลย ทั้งๆ ที่ผู้ก่อการร้ายคนอื่นๆ จะมีรูปภาพการตายของพวกเขาออกมายืนยันอย่างชัดเจน ทาง ฝ่ายข่าวกรองของสหรัฐ ได้ออกมายืนยันว่าพวกเขามีรูปการตายของผู้ก่อการร้ายคนนี้อยู่จริงๆ เพียงแต่ไม่สามารถนำออกมาเผยแพร่ต่อสาธารณชนได้ เนื่องจากว่ากองกำลังสหรัฐที่เข้าไปปลิดชีพบินลาเดนนั้นไม่ได้ทำตามขั้นตอนที่ถูกต้อง และสาดกระสุนใส่ร่างของบินลาเดนมากเกินความจำเป็น Matt Bissonette หนึ่งในทหารของหน่วย Naval Special Warfare…
-
ร้านอาหารทำพิซซ่า 200 ถาด แจกเจ้าหน้าที่กู้ภัย หลังเกิดเหตุระเบิดรถไฟในกรุงลอนดอน..!!
เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2017 ได้เกิดเหตุระเบิดในรถไฟใต้ดินที่กรุงลอนดอน ณ สถานีพาร์สันน์ ทำให้มีผู้โดยสารหลายคนได้รับบาดเจ็บ และสร้างความหวาดกลัวให้แก่ประชาชนในท้องที่ โดยเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าทั้งหมดน่าจะเป็นฝีมือของกลุ่มผู้ก่อการร้าย สำนักข่าวรอยเตอร์เผยว่า ต้องใช้รถดับเพลิงฉุกเฉินถึง 6 คัน และเฮลิคอปเตอร์ประจำการอีก 1 ลำ ในเหตุการณ์ร้ายๆ ก็มักจะมีเรื่องดีๆ แฝงอยู่เสมอ… เพราะหลังจากเจ้าหน้าที่ต้องทำงานกันอย่างหนัก Teo Catino เจ้าของร้านอาหารอิตาเลียน Il Pagliaccio ที่ตั้งอยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุ ได้อาสาทำพิซซ่ากว่า 200 ถาด แจกจ่ายให้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานฟรี เจ้าตัวนำน้ำดื่มและพิซซ่าทั้งหมดที่ทำมาเดินแจกจ่ายให้กับเจ้าหน้าที่ในบริเวณนั้น Teo Catino ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า “ผมและครอบครัวอาศัยอยู่ในย่านนี้มานานกว่า 25 ปีแล้ว ทุกๆ วันภรรยาและลูกของผมต้องเดินทางด้วยรถไฟใต้ดินสายนี้ แต่วันนี้กลับเกิดเหตุที่ไม่มีใครคาดคิดขึ้น ผมก็อยากจะช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ทุกคนตามกำลังที่เราพอจะทำได้” นอกจากจะใจดีแล้ว เจ้าหน้าที่หลายคนยังชมเป็นเสียงเดียวกันว่า.. พิซซ่าของ Teo อร่อยจริง!! ลำพังจะเดินแจกอย่างเดียวก็กลัวจะไม่ทัน พนักงานของร้านก็ช่วยกันไถสเก็ตบอร์ดแจกพิซซ่าให้เจ้าหน้าที่ด้วยเช่นกัน …
-
ตายแล้วไปไหน!? “พาสปอร์ตสู่สวรรค์” ของนักรบ ISIS ถูกพบโดยกองกำลัง Syria
เราคงเคยสงสัยว่าหากเราตายแล้วเราจะไปไหน เราคงได้ยินเรื่องราวมากมายเกี่ยวกับชีวิตหลังความตาย แต่ละเรื่องราวนั้นมีความแตกต่างกันไปตามลักษณะความเชื่อของศาสนา เมื่อไม่นานมานี้ กองกำลังของ Syria ได้พบกับ “พาสปอร์ตสู่สวรรค์” ของกลุ่มกองกำลัง ISIS โดยลักษณะภายนอกของพาสฟอร์ตนั้นประกอบไปด้วยตัวอักษรทั้งภาษาอังกฤษ และภาษามลายูหรือยาวี พาสปอร์ตสู่สวรรค์ที่กองกำลังพบ พาสปอร์ตสู่สวรรค์นี้เป็นอีกเครื่องมือหนึ่งที่กลุ่ม ISIS จะมอบให้กับเหล่านักรบของตนเองเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจทำให้รบได้ดีขึ้น โดยเฉพาะมือระเบิดพลีชีพ ในปกของหนังสือพาสปอร์ตนี้ได้เขียนไว้เป็นภาษาอาหรับว่า “ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮ์ มูฮัมหมัดคือผู้ส่งสารของพระเจ้า” ISIS มีความเชื่อว่านักรบของพระเจ้าจะไม่สามารถเดินทางสู่นรกได้ แต่สามารถเดินทางสู่สวรรค์ได้ ถึงแม้จะไม่มีการระบุข้อมูลส่วนตัวใดๆ ของผู้ถือพาสปอร์ตนี้ แต่เอกสารนี้ก็สามารถที่จะโน้มนาวนักรบส่วนหนึ่งให้เชื่อได้ว่าพวกเขาสามารถเดินทางไปสวรรค์ได้โดยไม่ลงนรก Cihan Shekh Ehmed โฆษกกลุ่มทหารรักษาการณ์ที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ ซึ่งเป็นที่รู้จักในนามของกองกำลังประชาธิปไตยซีเรียกล่าวว่ากลุ่มนักสู้ของกลุ่มนี้ยึดเมืองทางตะวันตกของ al-Qadisiya จาก ISIS ในวันจันทร์ที่ 26 เดือนมิถุนายนปี 2017 ที่ผ่านมา Cihan Shekh Ehmed โฆษกของกองกำลัง Syria ที่มา: dailymail
-
อดีตนักรบ ISIS เผยเหตุตัดสินใจออกจากกลุ่ม หลังเห็นความโหดร้ายต่อเชลยทาสเซ็กส์…
จิตใจของมนุษย์ต่อให้ทำเรื่องโหดร้ายแค่ไหน แต่ว่าลึกลงไปแล้วความเป็นมนุษย์ก็จะย้ำเตือนเราเสมอว่า สิ่งที่ทำนั้นถูกหรือผิด ซึ่งเรื่องที่เกิดกับกับชายคนนี้ก็เช่นกัน ชายคนนี้รู้จักกันในชื่อว่า Nizar เขาเคยเป็นคนของกลุ่มก่อการร้าย ISIS และครั้งหนึ่งอุทิศชีวิตให้กับองกรณ์นี้ ซึ่งเขาได้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เปลี่ยนความคิดของเขาให้ลาออกจากกลุ่มนี้ ว่าอะไรเปลี่ยนความคิดของเขากันแน่!? เขาเล่าถึงเด็กหญิงคนหนึ่งที่ต้องตายอย่างทรมาน จากการที่พวกเขาปล่อยให้เธอเลือดไหลจนหมดตัวตาย หลังจากที่เธอถูกข่มขืนในกรงขังของเธอ เขาไม่ได้พูดว่าการกระทำพวกนี้มันเป็นอุบัติเหตุ แต่เขาบอกสาเหตุที่พวกเขาทำแบบนั้นก็เพราะว่าคนอื่นบอกว่า “นักโทษก็คือนักโทษ จะทำอะไรกับพวกเขาก็แล้วแต่เลย” ย้อนกลับไปหลังจากที่ ISIS เข้าบุกยึดเมืองของเขาในซีเรีย เขาก็คิดว่ามันจะเป็นความคิดที่ดี ถ้าเขาเข้าร่วมกับกลุ่ม ISIS และเข้าเป็นหน่วยรบของกลุ่ม “มันทำให้รู้สึกได้ถึงความเป็นอิสลามในตัวของผม พวกเราเริ่มที่จะหันไปเข้ามัสยิดและรับฟังคำสอนต่างๆ” กลุ่มคนอิสลามจากหลากหลายเชื้อชาติเริ่มที่จะรวมตัวกันจนกลายเป็นกลุ่มที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น พวกเขาเข้าจับกุมตัวผู้ชายมากกว่า 100 คนทุกวัน ซึ่งพวกเขาเหล่านี้ต้องเผชิญกับข้อหาตั้งแต่สูบบุหรี่ไปจนถึงการมีภรรยา “พวกเขาจะถูกกักขังและเขี่ยนตี หลังจากนั้น 2-3วันพวกเขาก็จะถูกปล่อยตัวออกมา” หลายอย่างยิ่งแย่ขึ้นไปอีกเมื่อหญิงสาว 475 คน ซึ่งรวมถึงหญิงสาวชาวอีรัคและยาซิดี้ พวกเธอถูกจับมาเพียงเพราะพวกเขาต้องการให้พวกเธอกลายเป็นภรรยาของเหล่านักรบและทหารฝ่ายค้าน “ในตอนที่ผมเดินลงบันไดมาเจอพวกเธอ ผมถึงกับช็อคมากๆ” เขายังบอกอีกว่าพวกนักโทษผู้หญิงได้แต่ร้องไห้เพราะพวกเธอถูกพรากจากลูกๆ ของเธอ และทุกๆ ครั้งที่มีคนใหม่เข้ามาพวกเธอก็จะได้รับเสียงเชียร์จากเหล่านักรบ ISIS ซึ่งหลังจากนั้นเหล่าผู้ก่อการร้ายนับสิบคนก็จะเข้ามาเพื่อเลือกหญิงสาวเหล่านี้ไปเป็นทาสทางเพศให้กับพวกเขาเป็นเวลา 3 วัน พวกเธอจะถูกทารุณกรรมหรือถูกจับไปแต่งงานกับคนแปลกหน้า…
-
รวมความเห็นชาวเน็ตทั่วโลก ต่อการก่อการร้ายในเยอรมนี ผ่านแฮชแท็ก #Pray4Berlin
จากเหตุการณ์การที่มีผู้ก่อการร้ายขับรถบัสพุ่งเข้าไปยังตลาดขายของสำหรับวันคริสต์มาสในเกรุง Berlin ประเทศเยอรมนีในคืนที่ผ่านมา ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บมากมายกว่า 50 ราย และเสียชีวิตไปอีก 9 คนด้วยกัน ทำให้ผู้คนที่ได้ทราบข่าวทั่วโลกต่างก็รู้สึกสลดใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ จึงเกิดขึ้นมาเป็นแฮชแท็ก #Pray4Berlin ขึ้นมาในโลกโซเชียล และ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปชมความคิดเห็นของเหล่าชาวเน็ตทั้งหลายจากทั่วโลกต่อเหตุการณ์สุดสลดใจที่เกิดขึ้นผ่านทางแฮชแท็กดังกล่าว “นี่เป็นภาพอีกภาพหนึ่งของรถบัส ตำรวจของ Berlin เชื่อว่าน่าจะเกิดจากความตั้งใจที่จะให้พุ่งไถลเข้าไปในตลาดวันคริสต์มาสที่มีฝูงชนจำนวนมาก” “นึกภาพถึงครอบครัวของคนที่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตดูสิ หวังว่าจะจับผู้กระทำความผิดได้โดยเร็วนะ” “ขอสวดภาวนาถึงครอบครัวที่อยู่ใน Berlin ที่ต้องประสบกับเคราะห์ร้ายในครั้งนี้” “ความดีจะสามารถเอาชนะปิศาจได้เสมอ” “ความรู้สึกถูกส่งไปยัง Berlin แต่ขณะที่มีแฮชแท็ก #pray4Berlin แล้วแฮชแท็ก #prayforAleppo ล่ะอยู่ที่ไหน? ที่นั่นมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 400,000 คนเลยนะ” “แสดงให้เห็นว่าโลกของเรานั้นไม่ปลอดภัยอีกต่อไปแล้ว ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน เหล่าผู้ก่อการร้ายเล่นงานพวกเราหนักข้อขึ้นไปทุกวัน” “หัวใจสลายที่ได้เห็นโพสต์ของเหล่าผู้เห็นเหตุการณ์เล่าเรื่องราวว่าเกิดอะไรขึ้นที่ Berlin เมื่อคืนนี้” “ร้านขายของคริสต์มาสมันควรจะมีบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานสิ แต่ตอนนี้มันกลายเป็นสถานที่แห่งการไว้ทุกข์ไปซะแล้ว…”…
-
เปิดวีรกรรมของกลุ่มก่อการร้าย “โบโก ฮาราม” ใช้เด็กสาววัย 7 ขวบ 2 คน เพื่อเป็นระเบิดพลีชีพ
หากพูดถึงกลุ่มผู้ก่อการร้าย หลายๆ คนน่าจะนึกถึงชื่อ “ไอซิส” ในอีรักและซีเรีย ขึ้นมาเป็นชื่อแรกๆ เพราะมีประวัติการก่อการร้ายและฆ่าผู้คนที่โหดเหี้ยมแทบจะรายวัน แต่วันนี้เราจะมานำเสนอชื่อของกลุ่มก่อการร้านอีกกลุ่มหนึ่งที่มีชื่อว่า “โบโก ฮาราม” ซึ่งเป็นกลุ่มก่อการร้านในประเทศไนจีเรีย ที่ก่อวีรกรรมมาไม่น้อยไปกว่ากัน เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2016 ที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้นำเสนอเรื่องราวของกลุ่มก่อการร้ายกลุ่มนี้ ที่มีการใช้เด็กผู้หญิงวัย 7 ขวบ 2 คน เพื่อเป็นระเบิดพลีชีพโจมตีตลาดสดแห่งหนึ่งในเมืองไมดูกูรี ประเทศไนจีเรีย การระเบิดครั้งนี้เกิดขึ้นใกล้กับที่มั่นของกลุ่มก่อการร้ายโบโก ฮาราม รัฐบอร์โน ทำให้เด็กสาววัย 7 ขวบ 2 คนเสียชีวิต และมีผู้ได้รับบาดเจ็บจากแรงระเบิดกว่า 18 คน ตามรายงานบอกว่ากลุ่มก่อการร้ายกลุ่มนี้มักจะใช้หญิงสาวเพื่อเป็นอาวุธหรือระเบิดมนุษย์ ในโจมตีสถานที่ต่างๆ อยู่เป็นประจำ ซึ่งทางการของไนจีเรียเชื่อกันว่าทั้งหมดนี้น่าจะเป็นฝีมือของกลุ่มก่อการร้ายโบโก ฮาราม แต่ยังไม่มีฝ่ายไหนออกมาแสดงความรับผิดชอบ ทหารคนหนึ่งจากกลุ่มทหารอาสาสมัครในเมืองไมดูกูรีกล่าวว่าเขาคือคนสุดท้ายที่เห็นเด็กหญิงทั้ง 2 คนก่อนที่จะจุดระเบิดตัวเอง “พวกเขาลงมาจากรถลากคันหนึ่งและเดินตรงมาที่ผมโดยไม่แสดงสีหน้าใดๆ ผมพยายามจะพูดกับพวกเขาด้วยภาษาท้องถิ่นและภาษาอังกฤษ แต่พวกเขากลับไม่ตอบผม” “ผมคิดว่าพวกเขาอาจจะกำลังมองหาแม่ของตัวเองอยู่ จากนั้นพวกเธอก็เดินไปยังร้านของพ่อค้าขายไก่ในตลาด และจุดชนวนระเบิดที่พวกพวกเขาพกติดตัวมาด้วย” กลุ่มก่อการร้ายโบโก…
-
‘ผมไปนะพ่อ…’ คลิปชีวิตจริงๆ ของมือระเบิดพลีชีพ ISIS วัย 11 ขวบ กับภารกิจสุดท้ายของเขา!!
[บทความต่อไปนี้อาจมีภาพและเนื้อหาที่รุนแรง ควรใช้วิจารณญาณในการรับชม] ณ วันนี้ผู้คนทั่วโลกคงได้รู้กันแล้วว่ากลุ่มก่อการร้าย ISIS นั้นเลวร้ายขนาดไหน มีกองทัพหน้าตาเป็นยังไง และสามารถทำอะไรให้โลกตกตะลึงได้บ้าง แต่จะมีสักกี่คนที่ได้เห็นถึงกระบวนการในการสร้างนักรบพลีชีพของพวกเขา!? เรื่องราวที่#เหมียวฟิ้นได้หยิบมานำเสนอในวันนี้เป็นคลิปวิดีโอชวนเชื่อที่ถูกปล่อยโดยผู้สนับสนุน ISIS เป็นคลิปเกี่ยวกับ Abu Imara al Omri เด็กชายวัย 11 ขวบ แน่นอน ความพิเศษของเขาอยู่ที่ไม่ได้ใช้ชีวิตเหมือนเด็กๆ ทั้วไป วิ่งเล่น ดูการ์ตูน ไปโรงเรียน เจอเพื่อนๆ แต่ถูกฝึกให้กลายเป็นผู้เสียสละ และนักรบพลีชีพให้แก่กองทัพผู้ก่อการร้าย คลิปวิดีโอตัวนี้ถูกทำให้เหมือนกับเป็นการสัมภาษณ์กึ่งสารคดี โดยผู้ชมจะได้เห็นภาพของเด็กชาย al Omri ขณะถือปืนและแสดงสีหน้ามุ่งมั่นไปยังสนามรบ ก่อนที่เขาจะก้มลงจูบมือผู้เป็นพ่อและสตาร์ทรถที่บรรจุระเบิดไว้เต็มคันรถ แล้วขับมันออกไประเบิดที่เมือง Ghazl ใกล้กับเมือง Aleppo ในซีเรียเพื่อเป็นการแสดงการต่อต้านต่อประธานาธิบดีซีเรีย Bashar al-Assad ในช่วงท้ายของวิดีโอจะเห็นเด็กชายและพ่อของเขา กำลังตรวจสอบว่ารถของพวกเขาใช้การได้หรือไม่ ก่อนที่พ่อของเขาจะสอนวิธีในการจุดระเบิดให้กับลูกชาย และจากลากันแบบไม่สะทกสะท้านอะไร ซึ่งภาพทั้งหมดจบลงด้วยการถ่ายจากระยะไกล เผยให้เห็นลูกไฟและควันโพยพุ่ง เป็นสัญญาณที่บอกว่าเด็กชาย al Omri ได้จากโลกนี้ไปแล้ว มีนักวิจัยได้ทำการศึกษากรณีของ Omri และเด็กๆ…
-
หน่วย SAS ของอังกฤษถูกกลุ่ม ISIS กว่า 50 คนซุ่มโจมตี รอดมาได้เพราะสุนัขสงครามช่วยเอาไว้!!
ในพื้นที่สงครามระหว่างกลุ่มผู้ก่อการร้าย ISIS และทหารยังคงไม่หมดไปเสียที โดยล่าสุดนี้มีรายงานมาว่าในระหว่างที่หน่วยทหาร SAS ของอังกฤษ ได้ฝึกยุทธวิธีทางการทหารเสร็จสิ้นแล้ว ระหว่างเดินทางกลับไปยังฐานที่มั่นกลับถูกกลุ่ม ISIS กว่า 50 คนซุ่มโจมตีอย่างหนักทางตอนเหนือของประเทศอิรัก โดยหนึ่งในรถของหน่วย SAS ถูกกับระเบิด ได้รับความเสียหายอย่างหนัก เกิดการปะทะอย่างไม่ทันตั้งตัว แถมยังถูกกระหน่ำยิงอย่างหนัก ทำให้ไม่สามารถรวมกลุ่มกันได้ จนกระทั่งหนึ่งในทหารสหรัฐฯ ที่มาด้วยนั้นได้ปล่อยสายจูงสุนัขสงครามพันธุ์เยอรมันเชเพิร์ดออกไปจัดการกับกลุ่มผู้ก่อการร้าย!! สุนัขตัวนั้นพุ่งเข้าหากลุ่มผู้โจมตีอย่างรวดเร็ว วิ่งหลบหลีกวิถีกระสุนจนเข้าถึงตัวหนึ่งในผู้โจมตี โดนกัดทั้งคอและใบหน้า และจัดการอีกหนึ่งจนได้รับบาดเจ็บที่แขนและขา จนถึงกับหวาดกลัวเสียขวัญวิ่งหนีกระเจิงไปในที่สุด ทำให้หน่วย SAS สามารถเรียกการสนับสนุนทางอากาศได้ในที่สุด น้องหมาผู้กล้าหาญกลับมาหาหน่วยได้อย่างปลอดภัย และได้รับการเชิดชูเป็นฮีโร่ประจำหน่วย เพราะมันช่วยชีวิตทหารจากการถูกซุ่มโจมตีจาก ISIS นั่นเอง สุดยอดมากๆ ที่มา : express, inquisitr, dailymail, unilad
-
ด่วน!! เกิดเหตุระเบิดสนั่นกลางนครอิสตันบูล เสียชีวิต 10 ราย บาดเจ็บ 15 ราย
เมื่อประมาณ 15.30 นาฬิกา ที่ผ่านมา เว็บไซต์ Metro ได้รายงานว่าเกิดเหตุระเบิดกลางจัตุรัสสุลต่านอาห์เหม็ด ในนครอีสตันบูล ประเทศตุรกี ทำให้มีนักท่องเที่ยวและประชาชนเสียชีวิตแล้ว 10 ราย และได้รับบาดเจ็บอีกกว่า 15 ราย จำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บและผู้เสียชีวิตได้รับการยืนยันโดยโฆษกของรัฐบาลตุรกี ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า เขาได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่น และมีรถพยาบาลเข้ามายังที่เกิดเหตุ พร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้ามาปิดล้อมที่เกิดเหตุในทันที เพื่อป้องกันการระเบิดในครั้งต่อไป ทั้งนี้ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการว่าระเบิดนั้นเกิดจากอะไรกันแน่ แต่ทางด้านสื่อท้องถิ่นของตุรกีคาดการณ์กันว่าน่าจะเป็นการระเบิดพลีชีพที่มีเป้าหมายเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่อยู่ใกล้กับมัสยิดบลู BREAKING: Turkish TV show flames n smoke after explosion in Istanbul. Unconfirmed reports of suicide attack #turkey pic.twitter.com/8iZqSJIz2W — Michel Santos (@Cibereporter) 12 มกราคม…
-
Abaaoud – ISIS ตัวเบ้งผู้บงการการก่อการร้ายในกรุงปารีส ถูกสังหารเป็นที่เรียบร้อยแล้ว!!
ยังคงเป็นประเด็นที่ผู้คนให้ความสนใจในวงกว้างเกี่ยวกับการก่อการร้ายที่อุกอาจที่สุด กับค่ำคืนศุกร์ 13 พฤศจิกายนที่ผ่านมาเมื่อกรุงปารีสถูกจู่โจมแบบกองโจร ภายใต้การบงการจากกลุ่มรัฐอิสลาม (ISIS) อีกทั้งยังออกมาขู่โจมตีประเทศใหญ่ๆ อย่างเมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษ กรุงโรม ประเทศอิตาลี และวอชิงตัน ดีซี ประเทศสหรัฐอเมริกา จากเหตุการณ์ดังกล่าว นำไปสู่การตามล่าตัวผู้ก่อการร้ายที่เป็นผู้บงการการจู่โจมในครั้งนี้ นั่นก็คือ Abdelhamid Abaaoud ซึ่งล่าสุดนี้ทางอัยการปารีสได้ออกมายืนยันแล้วว่าถูกสังหารเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ย้อนกลับไปในเหตุการณ์เปิดฉากถล่มที่หลบภัยของกลุ่ม ISIS ทางตอนเหนือของกรุงปารีส ณ Saint Denis มีการเปิดฉากยิงกันระหว่างเจ้าที่ตำรวจฝรั่งเศสกว่า 100 นายและฝั่ง ISIS ในที่สุดทางการฝรั่งเศสก็สามารถควบคุมสถาณการณ์เอาไว้ได้ เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุก็พบศพของ Abdelhamid Abaaoud ชาวเบลเยี่ยม วัย 27 ปี จากการระบุตัวตนด้วยลายนิ้วมือ และพบกระสุนฝังอยู่ในร่างเป็นจำนวนมาก รวมไปถึงร่างของหญิงนักท่องเที่ยวรายหนึ่งจากการระเบิดฆ่าตัวตายด้วยเข็มขัดติดระเบิด จากการบุกถล่มในครั้งนี้นอกจากจะป้องกันไม่ให้เกิดเหตุโจมตีระลอกที่ 2 แล้ว ยังนำไปสู่การจับกุมผู้ก่อการร้ายได้อีก 7 ราย…
-
กลุ่มนักท่องเที่ยวถูกทหารอียิปต์ถล่มยิงเสียชีวิต 12 ราย เพราะคิดว่าเป็นกลุ่มนักรบหัวรุนแรง!?
เรื่องอันน่าสลดใจกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันของกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวเม็กซิกัน ที่ได้เข้าไปท่องเที่ยวในประเทศอียิปต์โดยมากันเป็นขบวนรถยนต์ 4 คัน แล่นในเขตทะเลทรายภาคตะวันตกในประเทศอียิปต์ ซึ่งได้แล่นเข้าไปในพื้นที่ต้องห้ามของเขตวาฮัต และยังเป็นแหล่งกบดานของกลุ่มนักรบหัวรุนแรง ISIS อีกด้วย เจ้าหน้าที่ทหารที่ปฏิบัติการไล่ล่าอยู่มาพบเข้าก็เลยเข้าใจผิดคิดว่าเป็นขบวนของกลุ่มนักรบหัวรุนแรง จึงเปิดฉากยิงถล่มกลางทะเลทรายทันที!! และในที่สุดก็พบความจริงว่าเป็นรถยนต์ของกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวเม็กซิกัน ส่งผลทำให้มีผู้เสียชีวิต 12 ราย และบาดเจ็บสาหัสอีก 10 ราย ไม่ใช่กลุ่มนักรบหัวรุนแรงที่นำโดยกลุ่ม ISIS เพื่อต่อต้านกองทัพอียิปต์แต่อย่างใด ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ทำการสอบสวนเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อย ผลสรุปก็คือเป็น ‘ความเข้าใจผิด’ และแสดงความรับผิดชอบโดยนำตัวผู้ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาล ทางด้านผู้นำเม็กซิโกเองเกิดอาการไม่พอใจเป็นอย่างมากและประณามเหตุการณ์ความรุนแรงในครั้งนี้ โดยเรียกร้องให้ทางอียิปต์ทำการสอบสวนเรื่องราวทั้งหมดให้ละเอียดถี่ถ้วนมากที่สุด ที่มา : mirror
-
3 สาวรัสเสียทำแสบ หลอกตุ๋นเงินจากกลุ่มก่อการร้าย Isis ได้กว่าแสนบาท!?
สำหรับคนทั่วไปแล้ว หากต้องการจะหาเงินสักก้อนเพื่อไปเที่ยวในวันหยุดสุดสัปดาห์ อาจจะหาจ็อบเสริม หรือไม่ก็เก็บเงินที่ได้จากเงินเดือนแล้วค่อยไปเที่ยวใช่ไหมล่ะ แต่กับแก๊งค์ 3 สาวแห่งสาธารณรัฐเชเชน ประเทศรัสเซียไม่ได้ทำแบบนั้น แต่กลับหลอกขโมยกลุ่มผู้ก่อการร้ายอย่าง Isis แทนซะงั้น!? เมื่อวันที่ 30 ก.ค. ที่ผ่านมา เว็บไซต์ Metro ได้รายงานว่าหญิงสาวจากสาธารณรัฐเชเชน ประเทศรัสเซีย 3 ราย ได้ทำการต้มตุ๋นกลุ่มก่อการร้าย Isis โดยหลอกให้พวกเขาโอนเงินให้เธอเป็นจำนวนกว่า 3,300 ดอลลาร์ หรือประมาณ 115,997 บาท โดยพวกเธอวางแผนไว้ว่าจะนำเงินส่วนนี้ไปเที่ยวในวันหยุดพักผ่อน ตามรายงานบอกว่ากลุ่มผู้ก่อการร้ายได้พยายามติดต่อกลุ่มหญิงสาวผ่านทางโซเชียลมีเดีย เพื่อขอให้พวกเธอมาเข้าร่วมกลุ่มก่อการร้ายด้วยกัน แต่แทนที่ 3 สาวจะตอบปฏิเสธไป พวกเธอกลับยังติดต่อกับกลุ่มก่อการร้ายอยู่ และส่งรูปถ่ายปลอมๆของพวกเธอไปให้ผู้ก่อการร้ายดู เพื่อหลอกว่าพวกเธอสนใจในข้อเสนอดังกล่าว ไม่นานนัก ก็มีเงินก้อนหนึ่งโอนเข้ามาในบัญชีของสาวๆ จากนั้นการสื่อสารทั้งหมดก็หยุดลง และพวกเธอก็ไม่ติดต่อกลับไปยังผู้ก่อการร้ายอีกเลย ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ Valery Zolotaryov ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า “ผมไม่เคยได้รับแจ้งเกี่ยวกับเหตุการณ์แบบนี้ ในสาธารณรัฐเชเชนมาก่อนเลย อาจเป็นเพราะว่าไม่เคยมีใครถลำลึกไปแบบพวกเธอก็ได้” ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังบอกอีกว่า “ผมไม่แนะนำให้ใครสื่อสารกับพวกผู้ก่อการร้ายนะ โดยเฉพาะพวกหิวเงินทั้งหลาย” ไงล่ะเจอสาวแสบเข้าไป Isis…