Tag: พบโครงกระดูก
-
ถึงกับช็อก สามีเจอ ‘กระดูก’ หลังบ้าน นำไปสู่การไขคดีฆาตกรรม ที่มีภรรยาเป็นฆาตกร!?
บางครั้งในพื้นที่หลังบ้านของเราอาจจะมีสิ่งของแปลกๆ ฝังอยู่ใต้ดิน โดยที่เราอาจไม่เคยรู้มาก่อนเลยก็เป็นได้ ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นสิ่งของใช้ภายในบ้านทั่วไป อย่างเช่น แก้ว ถ้วย ชาม เป็นต้น หรือดวงดีหน่อยก็อาจจะเป็นสมบัติ อย่างแหวน เงิน ทอง แต่สำหรับชายคนนี้ เขาบังเอิญเจอสิ่งที่เหนือความคาดหมายยิ่งกว่านั้น…มันคือ ‘โครงกระดูก’ ของมนุษย์นั่นเอง แล้วเรื่องราวมันยิ่งพีคกว่านั้นอีก เพราะมันเป็นศพของสามีคนแรกของภรรยาของเขา ที่ถูกฆ่าด้วยการเอาขวานจามหัวโดยฝีมือของเธอ!? เรื่องราวนี้เกิดขึ้นในหมู่บ้าน Luzion เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ในเขตไซบีเรีย สามีได้บังเอิญพบกับโครงกระดูกถูกฝังอยู่ในสวนหลังบ้านของตัวเอง และโครงกระดูกนั้นเป็นของ ‘สามีคนแรกของภรรยาของตน’ และสิ่งที่ทำให้หลอนยิ่งกว่านั้นคือสามีคนดังกล่าวถูกฆาตกรรมโดยภรรยาของเขานั่นเอง!! ชายผู้เป็นเจ้าของกระดูกถูกฆาตกรรมเมื่อตอนอายุได้ 52 ปี ตามรายงานระบุว่าในวันเกิดเหตุเขาเมากลับมาที่บ้านและทำร้ายภรรยา ก่อนที่จะถูกเธอเอาขวานจามเข้าที่หัว และหั่นร่างเป็นชิ้นๆ เอาไปฝังที่สวนมันฝรั่งหลังบ้าน และเวลาที่มีคนถามว่าสามีของเธอหายไปไหน เธอก็ตอบไปว่าเขาออกไปทำงานแล้วก็ยังไม่กลับมาที่บ้านเลย หลังจากที่พบกระดูก ภรรยาวัย 60 ปี ได้บอกกับเขาว่า “ไม่ต้องกังวล นี่เป็นกระดูกของสามีคนแรกของฉันเอง เราจะฝังมันไว้อีกครั้ง ลืมๆ มันไปซะ และอย่าไปบอกตำรวจล่ะ” แต่เขาไม่ทำแบบนั้น สามีคนที่สองตัดสินใจแจ้งตำรวจ เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงก็เริ่มทำการสอบสวนภรรยา…
-
พายุ Ophelia พัดรุนแรงจนทำให้พบ ‘โครงกระดูกมนุษย์ยุคโบราณ’ ที่มีค่าทางประวัติศาสตร์
หลายๆ ครั้ง หลักฐานทางประวัติศาสตร์มักจะถูกพบหลังจากที่เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติที่รุนแรง เช่น พายุ น้ำท่วม และแผ่นดินไหว ครั้งนี้ก็เช่นกัน หลังจากเกิดพายุ Ophelia ที่มีความรุนแรงจนทำให้โครงกระดูกมนุษย์ยุคโบราณโผล่ออกมาให้เห็น ซึ่งนับว่าเป็นหลักฐานที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ชิ้นหนึ่ง โครงกระดูกดังกล่าวนี้คาดว่าน่าจะมีอายุถึงพันปี ถูกค้นพบโดยนักเดินทางหลังจากเกิดพายุพัดอย่างรุนแรงและทำให้น้ำทะเลกัดเซาะชายฝั่งไอริช ประเทศไอร์แลนด์ สำหรับพายุ Ophelia ได้พัดผ่านประเทศอังกฤษและไอร์แลนด์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยมีความเร็วลมอยู่ที่ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จนเผยให้เห็นสถานที่ที่เหมือนหลุมฝังศพโบราณ นักพยาธิวิทยา Marie Cassidy ได้เดินทางมาถึงสถานที่ดังกล่าวเมื่อวานนี้ และได้ทำการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าหลักฐานชิ้นนี้น่าจะมาจากยุคเหล็กที่ถูกสร้างเมื่อ 1,000 ปีที่แล้ว ตอนนี้โครงกระดูกที่พบถูกนำไปไว้ที่ Dublin เพื่อตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์หาสาเหตุการตายและอายุที่แท้จริง หลังจากที่ตรวจสอบเสร็จแล้วก็จะนำไปไว้ที่พิพิธภัณฑ์ Ireland’s National ใน Dublin นักโบราณคดี Maeve Sikora ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญจากพิพิธภัณฑ์แห่งชาติและเป็นผู้ช่วยขุดโครงกระดูกขึ้นมา กล่าวว่า “จากสถานที่ที่โครงกระดูกถูกพบ เราสามารถบอกได้อย่างมั่นใจว่ามันไม่ใช่ศพที่เพิ่งถูกฝัง” “ศพดังกล่าวอาจจะถูกวางไว้ในโลงศพและถูกปิดด้วยหินหลายๆ ชั้น แต่หินเหล่านั้นถูกทำลายโดยการกัดกร่อนจากน้ำทะเลเป็นเวลาหลายปี” Sikora กล่าว เขายังบอกอีกว่า “ศพถูกฝังเป็นอย่างดี โดยการจัดให้แขนศพวางอยู่ข้างลำตัว ซึ่งเราสามารถบอกได้จากตำแหน่งที่ศพถูกพบ” “ศพอาจจะมีอายุมากกว่า 1,000 ปี แต่อย่างไรก็ตามเราไม่สามารถระบุปีได้ชัดเจน จนกว่าจะทำการ Radiocarbon (กัมมันตภาพรังสีในรูปของคาร์บอนที่ใช้คำนวณอายุของอินทรีย์วัตถุ)” …