Tag: พระจันทร์สีเลือด

  • 10 ความเชื่อพื้นบ้านจากรอบโลก ตามตำนาน ‘พระจันทร์สีเลือด’ บ่งบอกถึงลางร้าย

    10 ความเชื่อพื้นบ้านจากรอบโลก ตามตำนาน ‘พระจันทร์สีเลือด’ บ่งบอกถึงลางร้าย

    สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (สดร.) เชิญชวนคนไทยชมปรากฏการณ์จันทรุปราคาเต็มดวงยาวนานที่สุดในรอบ 100 ปี ตั้งแต่ช่วงคืนวันที่ 27 กรกฎาคม ถึงเช้ามืดวันที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2561 (วันนี้-พรุ่งนี้) ทางสดร. ระบุว่าปรากฏการณ์จันทรุปราคาที่เกิดขึ้นนี้ จะเป็นครั้งที่ 2 ในรอบปีนี้ ซึ่งจะกินเวลานานถึง 1 ชั่วโมง 43 นาที ถือเป็นระยะเวลาที่ยาวนานที่สุดในศตวรรษที่ 21 เลยก็ว่าได้     อย่างไรก็ตาม ปรากฏการณ์จันทรุปราคาพระจันทร์สีเลือดในอดีต มักจะถูกเชื่อมโยงกับความเชื่อพื้นฐานทางด้านดวงชะตา-ไสยศาสตร์ ตามตำนานพื้นบ้านในแต่ละท้องถิ่น และทั้ง 10 ความเชื่อจากรอบโลกจะไปในทิศทางไหนได้บ้าง มาดูกัน   ชนเผ่าอินคา (ที่มา)   ชาวอินคาเชื่อว่าพระจันทร์สีเลือด เป็นผลพวงมาจากปิศาจเสือจากัวร์ผู้ชั่วร้าย ได้ทำการจู่โจมและกลืนกินพระจันทร์เข้าไป ส่งผลทำให้พวกเขาเชื่อว่าปิศาจจากัวร์จะลามมาสู่โลก ชาวอินคาจึงร่วมใจกันตะโกนคำรามและโบกหอกไปมา หวังเพื่อขู่ให้ปิศาจตนนี้เกรงกลัวจนหนีไป   ชนเผ่าฮูปา (ที่มา)   ชนเผ่าผู้ตั้งรกรากทางตอนเหนือของแคลิฟอร์เนีย เชื่อว่าพระจันทร์มีบริวารนางสนมถึง 20 นางพร้อมกับสัตว์เลี้ยงอีกนานาชนิด…

  • คลองในเมืองเวนิสแห้งขอด ผลกระทบจากพระจันทร์สีเลือดและฝนไม่ตกเป็นเวลานาน

    คลองในเมืองเวนิสแห้งขอด ผลกระทบจากพระจันทร์สีเลือดและฝนไม่ตกเป็นเวลานาน

    เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2018 สำนักข่าว Dailymail รายงานภาพข่าวคลองที่เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี แห้งขอดจนเหลือแต่โคลนตม เรือไม่สามารถสัญจรผ่านได้ ซึ่งได้รับผลกระทบมาจากปรากฏการณ์พระจันทร์สีเลือดและฝนไม่ตกมานาน สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงในช่วงฤดูหนาวประกอบกับปรากฏการณ์พระจันทร์สีเลือด ทำให้น้ำในคลองแห่งเมืองเวนิสลดลงจนแห้งขอด เรือกอนโดลาทั้งหลายต้องจอดแน่นิ่งบนพื้นโคลนเพราะไม่สามารถสัญจรไปไหนมาไหนได้     จากรายงานพบว่าปีนี้เป็นปีที่ 3 แล้วที่น้ำในคลองเมืองเวนิสแห้งขอด ส่งผลกระทบกับการขนส่งด้วยเรือกอนโดลาที่เป็นซิกเนเจอร์ของเมืองนี้ แต่นักท่องเที่ยวก็ยังมาท่องเที่ยวในเมืองไม่ขาดสาย สวนทางกับอัตราประชากรที่อาศัยอยู่ในเมืองโดยสิ้นเชิง     ตั้งแต่ปี 1951 จำนวนประชากรของเมืองเวนิสลดลงอย่างต่อเนื่องจาก 175,000 คนเหลือเพียง 55,000 คน เนื่องจากปัจจัยหลายๆ อย่างทั้ง ราคาที่ดิน อัตราค่าครองชีพ ความเจริญจากการที่กลายเป็นเมืองท่องเที่ยว การพังทลายของอาคารจากน้ำกัดเซาะทำให้ชาวเมืองดั้งเดิมย้ายออกไปตั้งถิ่นฐานที่อื่น   ภายในคลองแห้งขอด   มีแต่โคลนจนเรือไม่สามารถสัญจรไปมาได้ . .   ในบางปีเมืองเวนิสก็ประสบเหตุน้ำท่วมบ่อยๆ จากปรากฏการณ์น้ำทะเลยกตัวสูงหรือที่เรียกกันว่า Acqua Alta ทำให้ประชากรในเมืองได้รับความเดือดร้อนบ่อยครั้ง   เรือกอนโดลาที่ต้องจอดทิ้งไว้เฉยๆ .   ที่มา dailymail