Tag: พระเยซู
-
ชายคนหนึ่งทำการ “ไล่ผี” บนรถไฟ ขณะที่หญิงอีกคนตะโกนว่า “ปีศาจ” ซ้ำแล้วซ้ำเล่า…
เรื่องราวในวันนี้อาจทำให้หลายท่านเกิดความกลัว เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการไล่ผีที่เขาสิงคน “บนรถไฟ” ขบวนหนึ่งนั่นเอง คลิปวิดีโอหนึ่งที่กำลังเป็นกระแสโด่งดังบนโลกออนไลน์ในขณะนี้ เผยให้เห็นชายและหญิงคู่หนึ่งกำลังมีปากเสียงกันบนขบวนรถไฟในประเทศเม็กซิโกที่มีผู้โดยสารอยู่มากมาย ชายที่แต่งกายด้วยชุดสูทได้ทำพิธีการ ไล่ผี ขึ้นมาบนรถไฟขบวนดังกล่าว ขณะที่หญิงวัยกลางคนอีกรายก็ตะโกนออกมาว่า “ปีศาจ” ต่อหน้าผู้โดยสารที่กำลังงุนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คลิปวิดีโอเหตุการณ์ “ไล่ผี” บนรถไฟ คลิปวิดีโอดังกล่าวถูกถ่ายมาจากขบวนรถไฟใต้ดินในเม็กซิโกซิตี้ แสดงให้เห็นว่าชายชุดสูทอ้างตัวเป็นร่างทรงของ พระเยซู กำลังทำพิธีการปลดปล่อยวิญญาณร้ายที่เขาเชื่อว่า “สิง” อยู่ในร่างของหญิงด้านหน้าของเขา ชายในชุดสูทพูดว่า “ในนามของพระผู้เป็นเจ้า จงออกไปเสีย!” และ “จงออกไป นี่คือคำสั่งจากพระเจ้า ออกไปได้แล้ว” ส่วนหญิงวัยกลางคนตรงหน้า ดูเหมือนเชื่อว่าตนถูกสิงจริงๆ กล่าวออกมาว่า “ใช่ ออกไปเดี๋ยวนี้ ออกไป” จากนั้นจึงพูดต่อว่า “เลือดของพระเยซูมีอำนาจปลดปล่อยฉันออกไปจากบาปทั้งปวง” หลังจากนั้นไม่นานหญิงวัยกลางคนก็กวัดแกว่งร่มคันโตที่เธอถือ ฟาดเข้าไปที่ชายในชุดสูทขณะที่เขากำลังทำพิธีไล่ผีออกจากตัวเธอ แต่ชายในชุดสูทก็ยังไม่หยุด เขาพูดกับหญิงที่กำลังสับสนต่อหน้าของเขาว่า “เราให้อภัยเจ้า” . จากนั้นหญิงที่ถูกกล่าวว่าถูกวิญญาณเข้าสิงก็ตะโกนออกมาซ้ำๆ ว่า “ปีศาจ” เธอพูดซ้ำอยู่หลายครั้ง จนผู้โดยสารบางคนเริ่มกลัว เก็บข้าวเก็บของและย้ายหนี…
-
อยู่กันมาตั้งหลายปี เคยสงสัยกันมั้ยว่าทำไม ‘คริสต์มาส’ ถึงต้องฉลองกันในวันที่ 25 ธันวาคม?
ถ้าหากมีคนถามว่าทำไมเราฉลองคริสต์มาสกันในวันที่ 25 ธันวาคม เชื่อว่าคนไทยกว่าครึ่งจะต้องตอบว่าเพราะเป็นวันประสูติของพระเยซูกันอย่างแน่นอน แต่เชื่อไหมล่ะว่าความเชื่อนี้ที่ว่าพระเยซูประสูติในวันนี้นั้น ไม่มีเขียนอยู่ในคัมภีร์ไบเบิลเลยแม้แต่น้อย ถ้าอย่างนั้นมีหลักฐานอะไรมาบอกไหมล่ะว่าวันคริสต์มาสไม่ใช่วันประสูติพระเยซู สารานุกรมคาทอลิกระบุไว้ว่า “ไม่มีเดือนใดในปีที่เจ้าหน้าที่ผู้มีเกียรติ ไม่ได้ตั้งให้เป็นวันประสูติพระคริสต์” อีกสาเหตุหนึ่งที่บอกว่าพระเยซูไม่ได้ประสูติในเดือนธันวาคมคือ คัมภีร์ไบเบิลบท ลูกา 2:8 ที่ว่าในระหว่างที่พระเยซูได้ประสูติ “ไม่ไกลจากที่นั่น มีคนเลี้ยงแกะอยู่ในทุ่งกำลังเฝ้าฝูงแกะตอนกลางคืน” ตามปกติแล้วจะไม่มีคนเลี้ยงแกะพาแกะออกมาในฤดูหนาว ลูกา 2:1-4 ยังบอกอีกว่า โยเซฟพามารีย์ไปจดทะเบียนที่เมืองเบธเลเฮมในตอนที่ออกัสตัสซีซาร์ออกคำสั่งให้ทุกคนทั่วอาณาจักรไปจดทะเบียนสำมะโนครัว และเป็นเวลาเดียวกับที่พระเยซูประสูติ คำสั่งที่ว่าไม่ได้ออกมาในฤดูหนาว ถ้าอย่างนั้นแล้ว ในวันที่ 25 ธันวาคม มีอะไรมันเกิดอะไรขึ้นกันล่ะ ในสมัยของศาสนาโบราณ วันนี้เป็นวันเลี้ยงฉลองพระเสาร์และวันประสูติของ เทพแห่งดวงตะวัน Mithra เดิมทีแล้ววันเลี้ยงฉลองพระเสาร์จะเริ่มจากวันที่ 17 ธันวาคม แต่ก็มีการยืดงานไปจนถึงวันที่ 25 ธันวาคม ชาวโรมันโบราณเชื่อว่างานเลี้ยงฉลองนี้จัดขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่เทพแห่งการเก็บเกี่ยวและการเลี้ยงสัตว์ ส่วน Mithra นั้นเชื่อกันโดยชาวโรมันโบราณว่าเขาประสูติในวันที่ 25 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันศักดิ์สิทธิ์จากศาสนาโบราณจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม Mithras แท้จริงแล้วมีต้นกำเนิดมาจากทางเปอร์เซีย ในช่วง 6 ศตวรรษก่อนคริสตกาลนั่นเองภาษายุคเก่าเรียกท่านว่า Mitra และเพี้ยนเป็น Mithras ในภาษาโรมันในที่สุด ว่ากันว่าคนโรมันพบเรื่องของเทพองค์นี้ตอนบุกไปเปอร์เซีย ปีใหม่ของผู้นับถือ Mithras และวันประสูติของท่านจะถูกจัดในวันเดียวกันคือวันที่ 25…
-
พบจดหมายลับที่เขียนด้วยลายมือจากปี 1777 ซ่อนอยู่ในบั้นท้ายของรูปสลักพระเยซู
ปฏิมากรรมหรืองานศิลปะอื่นๆ อย่างภาพเขียน หรือภาพพิมพ์ในยุคสมัยโบราณนั้น นอกจากจะบ่งบอกถึงความสวยงามของศิลปะในยุคนั้นแล้ว บางครั้งตัวผลงานเองก็อาจจะมีความลับบางอย่างอยู่ในนั้นก็เป็นได้ เหมือนกับรูปสลักพระเยซูอายุกว่า 240 ปีชิ้นนี้ที่มีจดหมายลับซ่อนอยู่!! จดหมายที่เขียนด้วยลายมือจากปี 1777 ฉบับนี้ถูกพบซ่อนอยู่ในรูปสลักพระเยซูโบราณจากประเทศสเปน จดหมายดังกล่าวอยู่ในสถาพสมบูรณ์มากและคาดว่าน่าจะถูกซ่อนไว้โดยนักบวชในสมัยนั้น บริเวณส่วนก้นของรูปสลักที่มีการพบจดหมายฉบับดังกล่าว จดหมายฉบับดังกล่าวถูกเขียนขึ้นโดย Joaquin Minguez และถูกค้นพบโดยทีมซ่อมแซมงานศิลปะจากบริษัท Da Vinci Restauro เนื้อความในจดหมายฉบับดังกล่าวบอกถึงเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 18 อย่างเช่นงานอดิเรกของผู้คน สภาพเศรษฐกิจ การเมืองและศาสนาในสมัยนั้น นอกจากนี้ยังมีเรื่องเกี่ยวกับอาหารการกินอีกด้วย ส่วนก้นของรูปสลักที่ทีมซ่อมแซมงานศิลปะพบกับช่องลับที่บรรจุจดหมายฉบับนี้อยู่ ขณะนี้รูปสลักโบราณชิ้นนี้ถูกเก็บรักษาไว้ที่โบสถ์ Santa Agueda ในเมือง Sotillo de la Ribera ประเทศสเปน “การค้นพบจดหมายที่เขียนด้วยลายมือฉบับนี้ เป็นการค้นพบที่น่าทึ่งมากๆ ” คุณ Efren Arroyo นักประวัติศาสตร์ท้องถิ่นกล่าว จดหมายจากลายมือของนักบวชฉบับนี้ถือเป็นหนึ่งในหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญ ซึ่งจะทำให้นักวิชาการได้เข้าใจถึงเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในอดีต และนอกจากนี้ยังมีส่วนหนึ่งของจดหมายที่เขียนเล่าถึงโรคระบาดที่พบได้บ่อยในเมือง รวมถึงนักสู้วัวชื่อดังในสมัยนั้นอีกด้วย จดหมายโบราณฉบับนี้ถือเป็นหนึ่งในข้อความที่คนรุ่นหลังต้องการที่จะบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ กับพวกเรา และนอกจากจดหมายฉบับนี้แล้ว เชื่อแน่ว่ายังมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์อีกจำนวนมากที่กำลังรอให้พวกเราค้นพบ ที่มา unilad
-
“Fight of Gods” เกมต่อสู้สุดแหวก ที่นำเทพและศาสดาจากศาสนามาสู้กันระดับ EPIC!!
ในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาตินั้น เราต่อสู้เพื่อศาสนาและความเชื่อของตัวเองกันมาตลอด แต่เราเคยคิดกันไหมว่าพระเยซูเคยจะเคยสู้กับพระพุทธเจ้าหรือเปล่า หรือเทพซุสจะเคยปาสายฟ้าใส่เทพโอดินไหม? ฉะนั้นวันนี้ทางผู้พัฒนาเกมที่คิดแบบเดียวกันจึงได้ออกเกมต่อสู้สุดอินดี้ Fight of God ที่ตรงตามคอนเซ็ปต์ที่ว่ามาให้เราได้เล่นกันผ่านแพลตฟอร์ม Steam ด้วยราคาเพียงแค่ 113 บาทเท่านั้น ซึ่งลดจากราคาปกติ 189 บาท ถึงวันที่ 12 กันยายนนี้ ตัวเกมถูกพัฒนาโดย Digital Crafter และได้ PQube Limited เป็นผู้จัดจำหน่าย ส่วนด้านรายละเอียดหลักของเกมนั้นก็ไม่มีอะไรมากนักเข้าใจไม่ยาก โดยตัวเกมจะให้เรารับบทเป็นเทพและศาสดาจากศาสนารวมถึงตำนานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นพระเยซูจากศาสนาคริสต์ หรือจะเป็นพระพุทธเจ้าจากศาสนาพุทธเป็นต้น ซึ่งตอนนี้จะมีตัวละครให้เล่นเพียงแค่ 10 ตัวเท่านั้น แต่ในอนาคตจะมีมาเพิ่มอีกเรื่อยๆ อย่างแน่นอน นอกจากนั้นท่าทางการต่อสู้ต่างๆ ภายในเกมก็ทำออกมาได้ดีเลยล่ะ ขอบอก การันตีด้วยรางวัล Indie Prize 2017 เลยทีเดียว เอาเป็นว่าถ้าใครสนใจอยากจะหาซื้อมาลองเล่นดูก็สามารถเข้าไปซื้อกันได้ ราคาก็ไม่แพงด้วยแถมตอนนี้คะแนนรีวิวก็เป็นแง่บวกอีกต่างหาก รับรองว่าคุ้มค่าเงินแน่นอน ลองดู Trailer ของเกมได้ที่ลิงก์ข้างล่างเลยจ้า เกมอินดี้ดีราคาถูกแบบนี้ เอาเงินไปเลยเหอะ…
-
นักมานุษยวิทยาเผย… อ้างอิงจากประวัติศาสตร์ นี่อาจเป็นใบหน้าที่แท้จริงของ ‘พระเยซู’!!
ถึงแม้ว่าข้อสันนิษฐานต่างๆ จากประวัติศาสตร์จะเคยชี้ให้เราเห็นว่า ตัวตนที่แท้จริงของพระเยซูมีความเป็นไปได้ที่จะเป็นคนขาว (คอเคซอยด์) แต่ก็ยังคงมีข้อโต้แย้งในนักประวัติศาสตร์อีกมากมาย ทว่าจากการรวบรวมข้อมูลของนักมานุษยวิทยา Richard Neave ได้ชี้ให้เห็นว่า แท้ที่จริงแล้วพระเยซูอาจมีรูปพรรณสันฐานที่แตกต่างไปจากที่เราเคยเชื่อกันมา Richard Neave ก่อนหน้าที่ทีมวิจัยจะนำหลักฐานทางประวัติศาสตร์ต่างๆ มารวบรวมเป็นข้อมูลของพระเยซู พวกเขาก็ได้ทำการศึกษาหาข้อมูลรูปพรรณสัณฐานของพระเยซูจากในพระคัมภีร์ไบเบิ้ล แต่พวกเขากลับไม่พบข้อมูลใดๆ ที่สามารถบ่งชี้ได้อย่างชัดเจน ในถิ่นฐานอาศัยที่แตกต่างกันออกไป นักวิจัยพบว่าการพยายามอธิบายถึงลักษณะหน้าตาของพระเยซูก็มีความแตกต่างออกไปด้วยเช่นกัน และถ้าอ้างอิงจากตามข้อมูลของฝ่ายนักมานุษยวิทยา รูปพรรณสัณฐานของพระเยซูจะออกมามีลักษณะประมาณนี้ แล้วข้อมูลของฝ่ายนักมานุษยวิทยาจะเชื่อถือได้มากน้อยขนาดไหน? ทีมวิจัยได้ทำการรวบรวมข้อมูลโครงสร้างกระโหลกของชนพื้นเมืองจากประเทศอิสราเอล ที่ซึ่งเชื่อว่าเป็นที่ประสูติของพระองค์ จากนั้นก็นำโครงสร้างกระโหลกทั้งหมดมาผ่านการเอ็กซ์เรย์ และใช้เทคนิคอัลตร้าซาวด์ เพื่อวาดโครงสร้างสมมติฐานใบหน้าของพระเยซู โดยนำข้อมูลทางพันธุกรรมมาประกอบ สร้างหน้าตาและสีผิวขึ้นมา และนี่คือภาพสมมติฐานที่คาดว่าใกล้เคียงกับความเป็นจริงมากที่สุด ถ้าหากนำสมมติฐานของนักมานุษยวิทยามารวมกับคำบอกเล่าที่สืบทอดต่อกันมา ก็พบว่าหน้าตาที่ได้ออกมาจะประมาณนี้ (ซ้าย) ภาพสมมติฐานของพระเยซูแบบเดิม (ขวา) ภาพสมมติฐานของพระเยซูจากนักมานุษยวิทยา นับว่าเป็นอีกสมมติฐานที่แตกต่างออกไปจากคอนเซ็ปท์เดิมในหัวเรามากๆ เลยนะเนี่ย ที่มา: twentytwoworlds
-
เปิดตำนาน “จูดาส” คือใคร ทำไมถึงกลายเป็นคำด่า ใช้เรียกคน “ทรยศ”!?
ในช่วงวันสองวันมานี้ แฟนๆ บอลรวมถึงชาวเน็ตหลายๆ น่าจะได้เห็นหรือได้ยินคำว่า “จูดาส” ผ่านหูผ่านตามาบ้าง แต่ดูแล้วคำเหล่านั้นน่าจะไม่ได้มีความหมายในทางที่ดีสักเท่าไหร่ อย่างเช่นกรณีล่าสุดที่ “เจ้าอุ้ม” ธีราทร บุญมาทัน อดีตนักแตะจากทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ตอนนี้ย้ายไปอยู่สโมสรเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด แล้วเรียบร้อย ถึงแม้จะมีประเด็นดราม่า ที่หลายฝ่ายต่างก็ว่าตนเองถูก (งานนี้ #เหมียวฟิ้น ก็ไม่สามารถตัดสินได้) แต่มันทำให้คำฮิตอย่าง ‘จูดาส’ กลับมาเป็นกระแสในเมืองไทยอีกครั้ง.. บางคนอาจจะงงว่าทำไมถึงต้องด่าด้วยคำๆ นี้!? หรือคำนี้มันมีความหมายอย่างไร? วันนี้#เหมียวฟิ้นจะมาแถลงไขเอง “จูดาส” นั้นเป็นคำที่นิยมใช้กันมากในหมู่แฟนบอล เพื่อเรียกนักฟุตบอลในทีมที่ตัวเองชื่นชอบ แต่กลับย้ายไปอยู่ทีมอื่น ในความหมายเชิญสัญลักษณ์ว่าเป็นผู้ทรยศนั่นเอง แล้วคำนี้มาได้ยังไง ใครตั้งขึ้น!? แต่ก่อนที่คำว่าจูดาสจะกลายมาเป็นคำด่านั้น ต้องย้อนกลับไปในสมัยก่อนคริสกาล ในช่วงที่พระเยซูยังมีชีวิตอยู่ มีชายคนหนึ่งที่ชื่อว่า จูดาส อิสคาริโอท เป็นอัครทูตและเป็นหนึ่งใน 12 สาวกของพระเยซูด้วย สาเหตุที่ทำให้ชื่อของจูดาสเป็นที่พูดถึงในแง่ลบก็เพราะว่าในคืนหนึ่งที่พระเยซูและเหล่าสาวกกำลังรับประทานอาหารมื้อสุดท้ายนั้น จูดาส อิคาริโอ เป็นผู้บอกกับทหารว่าตัวจริงของพระเยซูเป็นใคร เพื่อแลกกับเงินรางวัล 30 เหรียญ ทำให้ทหารมาจับพระเยซูไปตรึงไว้กับไม้กางเขนในที่สุด และชื่อของจูดาสก็ถูกตราว่าเป็นผู้ทรยศต่อพระเยซูมานานกว่า…
-
15 นักแสดงหนุ่ม ที่เคยรับบทเป็น “พระเยซู” จากภาพยนตร์ดัง มาดูกันว่าจะมีใครบ้าง
เมื่อพูดถึงชื่อ “พระเยซู” หลายๆ คนอาจจะเคยได้ยินเรื่องราวของพระองค์มาบ้างไม่มากก็น้อย และเพื่อนๆ รู้หรือไม่ว่าตั้งแต่ปี 1961 จนถึงปี 2015 เรื่องราวของพระเยซู ได้ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์มาแล้วกว่า 15 เรื่องด้วยกัน ซึ่งในแต่ละเวอร์ชั่น ก็มีนักแสดงหนุ่มมากหน้าหลายตา มารับบทบาทที่สำคัญเหล่านี้ และถ้าหากคุณอยากรู้ว่ามีใครบ้าง ในวันนี้เราได้นำภาพของพวกเขามาให้ได้ชมกันแล้ว ไม่แน่นะว่า 1 ใน 15 เรื่องนี้ คุณอาจจะเคยดูมาแล้วก็เป็นได้ 1.Diogo Morgado, Son Of God (2014) 2.Ewan McGregor, Last Days in the Desert (2015) 3.Christian Bale, Mary, Mother of Jesus (1999) 4.Ted Neely, Jesus Christ Superstar (1973)…
-
นักวิทย์ฯ เผยทฤษฎีใหม่ ‘พระเยซู’ ควรมีรูปร่างหน้าตาแบบนี้มากกว่า!!!
เพื่อนๆ เคยสงสัยกันมั้ยว่า แท้จริงแล้วนั้นพระเยซูมีรูปร่างหน้าตาเป็นยังไง!!? จะเหมือนในหนังในภาพยนตร์ที่เหล่าผู้กำกับสร้างขึ้นมามั้ย แต่ที่แน่ๆ หลายๆ เรื่องทำให้รูปลักษณ์ของพระองค์บิดเบือนไปล่ะ… เหล่าผู้เชี่ยวชาญทางด้านการแพทย์หลายท่านได้รวมกลุ่มกัน เพื่อศึกษากระโหลกของชาวยิว และอาหรับในยุคนั้น รวมถึงยุคปัจจุบันด้วย เพื่อศึกษาถึงความเป็นไปได้ทั้งหมด ใบหน้าของพระเยซูที่นิยมใช้ในภาพยนตร์ แต่จากการศึกษาใหม่นี้ ใบหน้าที่ควรเป็นคือ นักศิลปะทางการแพทย์ Richard Neave ได้จำลองรูปนี้ขึ้นมา โดยนำลักษณะของชาวยิวในพื้นที่นั้นใส่ลงไป ทั้งการที่มีผมหยักศก ผิวสีแทน และใบหน้าที่กว้าง เพราะเป็นลักษณะเด่นของชาวยิวในตะวันออกกลาง แม้กระทั่งในปัจจุบัน ลักษณะเด่นนี้ก็ยังคงให้เห็นกันอยู่นั่นเอง หลักการศึกษาของเขาใช้ทั้งนิติมานุษวิทยาและข้อมูลที่รวบรวมเกี่ยวกับลักษณะของพระองค์ในพระคัมภีร์ไบเบิล รวมถึงการใช้เทคโนโลยีแบบ 3 มิติ เพื่อสร้างบางส่วนของกระโหลกขึ้นมา และคำนวนว่าผิวหนังและสภาพผิวควรมีลักษณะเป็นอย่างไร!!? ส่วนในเรื่องของผมนั้น ในพระคัมภีร์ไบเบิลได้บันทึกไว้ว่า พระองค์มีผมที่สั้น เพราะว่าถ้าผู้ชายมีผมที่ยาวนั้น จะทำให้เขาเสื่อมเสียเกียรติ เป็นความเชื่อของคนในยุคนั้น ผลงานที่ออกมาเลยได้รูปพระพักตร์ของพระองค์ที่เรียกได้ว่าขัดกับลุคก่อนอย่างมากเลยล่ะ ก็ถือว่าเป็นการศึกษา การวิจัยที่จริงจังมากๆ เลยก็ว่าได้…