Tag: พันธุกรรม
-
รู้จักกับ 10 เด็กมหัศจรรย์ ที่ถูกเลือกจาก “ธรรมชาติ” ให้มีความพิเศษ โดดเด่น และงดงาม
เด็กๆ นั้นเปรียบได้กับความงดงาม ความบริสุทธิ์ และความสดใสของโลก แต่เด็กๆ ทั้งหลายจะเติบโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่แบบไหน จะยอมรับตนเองและผู้อื่นหรือไม่ ก็อยู่ที่ผู้ใหญ่อย่างเราที่จะต้องเป็นแบบอย่างที่ดี ทั้งนี้ เด็กๆ ที่เกิดมาพร้อมกับ ความผิดปกติ ที่ทำให้พวกเขาไม่เหมือนคนอื่น หลายคนอาจมองเป็นความประหลาด หรือเกิดมาพร้อมปมด้อยโดยหารู้ไม่ว่าคำพูดเหล่านี้จะทำให้เด็กรู้สึกไม่ยอมรับตนเอง ทั้งๆ ที่พวกเขาเกิดมาพร้อมกับความงามตามธรรมชาติอันน่าอัศจรรย์ วันนี้เราจะพาทุกท่านไปรู้จักกับ เด็กมหัศจรรย์ทั้ง 10 คน ที่เกิดมาพร้อมความพิเศษในตัวเอง รับรองว่าคุณต้องหลงรักพวกเขาอย่างแน่นอน… 1. Nariyana เธอเกิดพร้อม ภาวะผิวเผือก ที่ทำให้เธอมีผิวสีขาวซีด เส้นผมสีบลอนด์ขาว และดวงตาสีฟ้า ถึงแม้เธอจะอยู่ท่ามกลางแสงแดดได้ไม่นาน แต่นั่นไม่ได้ทำให้เธอกลายเป็นเด็กประหลาด แถมเธอยังเหมือนกับตัวละคร Elsa จากเรื่อง Frozen อีกด้วยแน่ะ ภาพจาก lenevalena 2. Millianna Worthy เธอเกิดมาพร้อมความผิดปกติทางยีนที่น่าอัศจรรย์ เธอมีผมเข้มแต่กลับมีผมบริเวณด้านหน้าเป็นสีขาว ถึงแม้เธอจะมีความผิดปกติที่เรียกว่า Polyposis หรือภาวะขาดเมลานิน แต่มันก็ทำให้เธอมีความโดดเด่นมากกว่าอีกแน่ะ หากใครรู้จักตัวละคร Marvel ที่ชื่อว่า โร้ก จะต้องคิดเหมือนกันแน่ๆ ว่าเธอคนนี้เหมือนกับโร้กเลยนะเนี่ย ภาพจาก Hossein Miri…
-
มิติใหม่ของการหาคู่ครองกับแอปฯ Pheramor ตามหาคนที่ใช่ด้วย DNA ของคุณ!!
ปัจจุบันแอปฯ หาคู่กลายเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับการตามหาคู่ครองที่เหมาะสม ด้วยวิธีการง่ายๆ เพียงแค่ใช้โทรศัพท์สมาร์ทโฟน แต่ว่าปัญหามันติดอยู่ที่เรามักจะเจอกับความไม่จริงใจ การปลอมแปลงข้อมูลทำให้ตัวเองดูดีไปซะหมด แต่พอมาเจอกันจริงๆ กลับไม่ได้เป็นอย่างที่เราคาดหวังเอาไว้ ปัญหาเหล่านั้นได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของแรงบันดาลใจในการพัฒนาแอปฯ ที่มีชื่อว่า Pheramor แอปฯ หาคู่ที่ใช้วิธีการนำตัวอย่าง DNA ตามหาคนที่เหมาะสมกับคุณมากที่สุด หน้าตาของแอปฯ Pheramor แอปฯ ดังกล่าวจะให้คุณใช้อุปกรณ์ที่ชื่อว่า Pheramor Kit ซึ่งสามารถสั่งซื้อได้ผ่านแอปฯ โดยตรง จากนั้นนำมันมาปาดเอา DNA บริเวณกระพุ้งแก้มของเราไป แล้วค่อยส่งกลับไปให้กับทางบริษัท เพียงเท่านี้เราก็จะได้โปรไฟล์ที่ถูกสร้างขึ้นมาจากลักษณะ DNA ของเรา บางคนอาจกำลังสงสัยว่า แล้ว DNA สามารถบอกเราได้จริงๆ หรือว่าใครเหมาะหรือไม่เหมาะสมกับเรา? คำถามนี้ตอบได้ด้วยงานทดลองที่ชื่อว่า The Sweaty T-shirt Experiment (ในปี 1995) งานวิจัยดังกล่าวทำการศึกษาเกี่ยวกับพันธุกรรมที่ส่งผลต่อแรงดึงดูดของเพศตรงข้าม ผลลัพธ์คือพวกเขาพบว่ามันจะมียีนอยู่ด้วยกัน 11 ตัว เรียกว่าเป็นยีนแห่งความหลงใหล ซึ่งแต่ละคนจะลักษณะของยีนกลุ่มดังกล่าวแตกต่างกันไป โดยผู้หญิงสามารถรับรู้ถึงกลิ่นของสิ่งนั้นในตัวผู้ชายได้ด้วย ภาพตัวอย่างอุปกรณ์ Pheramor Kit…
-
ทีมนักวิจัยพิสูจน์ดีเอ็นเอ ‘ร่างเอเลี่ยนจิ๋ว’ ขนาด 6 นิ้ว พบว่าเป็นร่างของเด็กหญิงแคระแกร็น…
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2003 ทีมนักวิจัยได้ค้นพบซากมัมมี่ขนาดเล็กเพียงแค่ 6 นิ้ว หากมองผิวเผินแล้วคาดว่าเป็นร่างของสิ่งมีชีวิตที่น่าจะมาจากนอกโลก เพราะด้วยขนาดที่เล็กเกินกว่าจะเป็นมนุษย์ทั่วไป แต่แล้วภายหลังก็ได้ค้นพบความจริงอีกด้านหนึ่ง ผลการศึกษาดีเอ็นเอในกระดูกของร่างมัมมี่ดังกล่าว ชี้ให้เห็นว่าเป็นร่างกายของมนุษย์ และเป็นร่างมัมมี่ของเด็กหญิงวัยประมาณ 6 ขวบ ผู้ประสบกับโรคแคระแกร็น ร่างดังกล่าวถูกตั้งชื่อว่า Ata ค้นพบครั้งแรกในปี 2003 ในภูมิภาคอาตากามา ประเทศชิลี ด้วยรูปร่างกะโหลกศีรษะเรียวยาว และซี่โครงจำนวน 10 คู่ ถูกเก็บเอาไว้ภายในกระเป๋าหนังในโบสถ์ร้างแห่งหนึ่ง จนกระทั่งร่างมัมมี่ดังกล่าวได้ไปอยู่ในมือนักสะสมชาวสเปน ที่มองว่าเป็นร่างของมนุษย์ต่างดาว และเคยปรากฎอยู่ในสารคดี Sirus ที่ชี้นำว่าเป็นเบาะแสของสิ่งมีชีวิตที่มาจากนอกโลก หลังจากทำการวิเคราะห์และศึกษาด้านพันธุกรรมยาวนานกว่า 5 ปี ตั้งแต่ปี 2012 นักวิทยาศาสตร์ทำการสรุปเอาไว้ว่าเป็นผลของการกลายพันธุ์ ที่ส่งผลต่อรูปร่างอันผิดปกติ การทดสอบทางพันธุกรรมจาก University of California, San Francisco ร่วมกับทีมนักวิจัยจาก Stanford University ได้เห็นพ้องต้องกันว่าเป็นชิ้นส่วนโครงกระดูกของมนุษย์เพศหญิงที่เสียชีวิตไปเมื่อ 40 ปีก่อน…
-
เคสอันแปลกประหลาดของครอบครัวอิตาลี ‘ไม่รับรู้ความเจ็บปวด’ กับการไขความจริงของนักวิทย์ฯ
หลายคนอาจคิดว่ามันคงเป็นไปไม่ได้ที่เราจะไม่รู้สึกเจ็บปวดเลย แต่ครอบครัวนี้กลับมีสิ่งที่เรียกว่าใกล้เคียงกับสิ่งที่เป็นไปไม่ได้นั้นมากจริงๆ นี่คือครอบครัวของ Letizia Marsili คุณแม่ชาวอิตาลีวัย 52 ปี ผู้ที่รับรู้ความเจ็บปวดไม่เหมือนคนทั่วไป เพราะเธอแทบจะไม่รู้จักกับคำว่าเจ็บเลยแม้แต่น้อย จนกลายเป็นที่มาของความผิดปกติที่ชื่อว่า The Marsili Syndrome Letizia หญิงสาวที่แทบจะไม่รู้จักกับคำว่าเจ็บมาก่อนเลย เธอเล่าว่า เธอและสมาชิกอีก 5 คนที่เป็นเหมือนกันจะแทบไม่รู้สึกถึงอาการเจ็บกับร่างกายใดๆ เลย ต่อให้กระดูกหัก มีดบาด โดนไฟไหม้ พวกเธอจะรู้สึกเจ็บแค่ไม่กี่วินาที แล้วความเจ็บนั้นจะหายไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น อย่างเช่นลูกชายของเธอ Ludovico วัย 24 ปี ที่แม้จะได้รับอาการบาดเจ็บจากการเล่นฟุตบอลมากขนาดไหน แต่เขาก็สามารถลุกขึ้นมาวิ่งต่อได้ด้วยสีหน้าปกติ ซึ่งหากเอ็กซเรย์ดูจะพบว่าแท้จริงแล้วร่างกายของเขาได้รับการบาดเจ็บหลายจุดเลย Bernardo ลูกชายคนสุดท้องวัย 21 ปี ในตอนที่เขาปั่นจักรยานล้มจนกระดูกข้อศอกแตก เขาก็ยังลุกขึ้นมาปั่นต่อไปได้ไกลถึง 14 กิโลเมตร ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น และหมอก็เพิ่งมาพบว่าเขามีอาการบาดเจ็บก็ตอนที่กระดูกเริ่มฟื้นฟูตัวเอง Maria Elena พี่สาวของเธอก็มักจะถูกกาแฟร้อนลวกปากอยู่เสมอ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บอะไร แม้แต่ตัว Letizia เองก็รับรู้ถึงอาการบาดเจ็บของตัวเองได้ยากมาก…
-
18 ภาพที่พิสูจน์ให้เห็นว่า “ยีน” ของมนุษย์ ช่างเป็นเรื่องที่ซับซ้อน และมหัศจรรย์ในเวลาเดียวกัน
“ยีน” คือหน่วยที่ควบคุมลักษณะทางพันธุกรรมต่างๆ ในร่างกายของสิ่งมีชีวิต ที่เต็มไปด้วยความซับซ้อนและน่าอัศจรรย์ ในบางครั้งลักษณะทางพันธุกรรมเหล่านี้ ก็ได้สร้างให้มนุษย์ที่ลักษณะที่โดดเด่น และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว บางคนเกิดมาเป็นพี่น้องกัน แต่กลับดูต่างกันอย่างสิ้นเชิงก็มี และวันนี้เราได้นำเรื่องราวที่น่าสนใจของยีนมาให้เพื่อนๆ ได้รับชมกัน และมันก็จะพิสูจน์ให้คุณได้เห็นว่า ยีนของมนุษย์มันน่าประหลาดใจ และซับซ้อนมากขนาดไหน สาวลูกครึ่งเอเชีย-ยุโรป ที่มีผมสีแดงเหมือนฝรั่งแต่หน้าตากลับเหมือนคนเอเชีย หนุ่มผิวเข้มชาวเมลานีเซียที่มีดวงตาสีอ่อน และเส้นผมสีขาวทั้งๆ ที่ไม่ได้เกิดมาเป็นคนเผือก หนุ่มแฝดที่ดูต่างกัน เมื่อคนหนึ่งดูเหมือนชาวไอริช แต่อีกคนกลับไม่ใช่ สองพี่น้องที่มีพ่อเป็นคนยุโรป และแม่เป็นชาวอาร์เจนตินา แต่กลับดูต่างกันเพราะคนน้องกลับมีผมสีสว่าง และดวงตาสีฟ้า ในขณะที่คนพี่เป็นคนผิวเข้ม ถ้าไม่บอกก็คงไม่รู้หรอกว่าพวกเธอเป็นพี่น้องฝาแฝด เพราะคนหนึ่งมีผิวสีน้ำผึ้ง คนหนึ่งมีผิวสีขาว ”ตอนที่พวกเราเกิดมา แม่ของเราแทบพูดไม่ออกเลย” เธอคนนี้มีพ่อเป็นคนผิวสีและแม่เป็นคนผิวขาว แต่เธอกลับได้เชื่อแม่มาเต็มๆ คู่พ่อลูกที่ดูแตกต่างกันมาก หญิงสาวผู้เกิดมามีผมสีแดงและดวงตาสองสี “ผู้คนมักจะชอบถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับดวงตาของฉัน และฉันก็ได้ตอบกลับไปว่า Sectoral Heterochromia” Sectoral Heterochromia เกิดจากความผิดปกติของยีนที่ทำให้เม็ดสีเมลานินในดวงตาทั้งสองข้างไม่เท่ากัน และสามารถส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นผ่านพันธุกรรม หรือบางกรณีก็อาจเกิดจากอุบัติเหตุได้ด้วยเช่นกัน…
-
งานวิจัยเผยกว่า 80% ของโรคจิตเภท ไม่ได้มาจากสิ่งแวดล้อม แต่ “พันธุกรรม” เป็นสาเหตุหลัก!?
โรคจิตเภท เป็นอาการทางจิตอย่างหนึ่งที่ผู้ป่วยจะเกิดความผิดเพี้ยนในเรื่องของความคิด ไม่สามารถรับรู้ความเป็นจริงได้อย่างถูกต้องจนเกิดผลเสียกับการใช้ชีวิต การวินิจฉัยโรคนี้เป็นไปได้ค่อนข้างยากเพราะจะมีอาการแสดงออกมาในช่วงอายุที่ไม่แน่นอน แต่โดยเฉลี่ยแล้วอาการจะแสดงออกชัดเจนตอนที่ช่วงอายุประมาณ 28.9 ปีและยังสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุจึงทำให้สังเกตได้ยาก แต่ในปัจจุบันได้มีงานวิจัยออกมาระบุแล้วว่าแม้เราจะเข้าใจว่าสิ่งแวดล้อมคือสิ่งสำคัญ แต่สาเหตุสำคัญที่ทำให้เป็นโรคดังกล่าวจริงๆ แล้วก็ก็คือ “พันธุกรรม” ที่เราได้รับมาจากพ่อแม่และมีติดตัวมาแต่กำเนิด งานวิจัยดังกล่าวถูกตีพิมพ์ในวารสาร Biological Psychiatry โดยแรกเริ่มเดิมที มีการวิจัยขึ้นเพื่อสังเกตว่าระหว่างสิ่งแวดล้อมกับพันธุกรรม สิ่งไหนจะมีอิทธิพลต่อความเสี่ยงของการเกิดโรคจิตเภทมากกว่ากัน จากการศึกษากับฝาแฝดในเดนมาร์กที่เกิดตั้งแต่ปี 1870 จำนวนกว่า 30,000 คู่ในข้อมูลทะเบียนประชากรฝาแฝดควบคู่กับข้อมูลด้านจิตเวชศาสตร์ พบว่ากว่า 79 เปอร์เซนต์ของกลุ่มตัวอย่างนั้น พันธุกรรม ที่เด็กได้รับมาจากพ่อแม่เป็นสาเหตุที่ทำให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคจิตเภทมากกว่า นอกจากนี้นักวิทยาศาสตร์ได้ศึกษาเพิ่มเติม นำข้อมูลดังกล่าวไปศึกษาให้กว้างขึ้น จนได้ตัวเลขประมาณที่ 73 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของพันธุกรรม ที่เป็นสาเหตุหลักมากกว่าหลายๆ สิ่ง ดอกเตอร์ John Krystal บรรณาธิการของหนังสือที่ตีพิมพ์งานวิจัยดังกล่าวบอกว่า “ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า พันธุกรรมเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักในการทำให้เกิดโรคจิตเภท” อย่างไรก็ตามโรคดังกล่าวสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย เพราะแม้ว่าพ่อแม่จะป่วยเป็นโรคจิตเภท แต่ก็ไม่ได้แปลว่าลูกทุกคนจำเป็นที่จะต้องป่วยเป็นโรคนี้เสมอไปเช่นกัน นอกจากนั้น เรื่องความแตกต่างของประชากรในแต่ละประเทศ ก็อาจมีส่วนทำให้ผลการวิจัยไม่สามารถอธิบายคนทั้งโลกได้ว่าจะเป็นเหมือนกัน เพราะก่อนหน้านี้ได้มีงานวิจัยในลักษณะนี้จากหลายประเทศที่มีผลลัพธ์ออกมาต่างกันไป นอกจากจะรู้สาเหตุแล้วสิ่งที่เราคาดหวังคือ อยากให้มีการรักษาหรือป้องกันไม่ให้เกิดโรคจิตเภทมากกว่า…
-
วิจารณ์ยับ!! เกษตรกรฟาร์มเลี้ยงหมูในกัมพูชา เพาะพันธุ์ “หมูกล้าม” จนมีสภาพที่ดูน่ากลัว
นี่เป็นภาพที่น่าตกใจของ “หมู” จากฟาร์มเลี้ยงหมูในประเทศกัมพูชา ที่ไม่สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติเหมือนหมูทั่วๆ ไป หลังถูกเกษตรกรดัดแปลงพันธุกรรม จนเป็นเหตุให้กล้ามเนื้อของพวกมันมีขนาดใหญ่กว่าปกติมากถึง 2 เท่า เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2560 ทางสำนักข่าวเดลีเมล์มีรายงานว่า ทางเฟซบุ๊กแฟนเพจชื่อ Duroc Cambodia ของฟาร์มเลี้ยงหมูแห่งหนึ่งในจังหวัดบันทายมีชัย ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศกัมพูชา ได้เผยภาพการเพาะเลี้ยงหมูนักกล้ามที่ถูกปรับแต่งพันธุ์ให้แตกต่างจากหมูทั่วไป โดยการใช้สารสเตียรอยด์และเพิ่มฮอร์โมนเร่งการเจริญเติบโต ส่งผลให้มีกล้ามเนื้อโตกว่าปกติ จนเป็นเหตุให้หมูบางตัวถึงขั้นเดินไม่ได้เลยทีเดียว นอกจากนี้ทางเกษตรกรเลี้ยงหมูยังหวังว่าการที่พวกเขาได้เพาะพันธุ์หมูที่มีกล้ามเนื้อแน่นขึ้นมา ก็เพื่อมุ่งหวังให้มันมีราคาสูงขึ้นกว่าเดิม และยังเป็นการช่วยส่งเสริมการซื้อหมูในฟาร์มของพวกเขาอีกด้วย สำหรับภาพดังกล่าวได้สร้างความตกตะลึงให้บรรดาชาวเน็ตอย่างมาก จนกลายเป็นกระแสที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักบนโลกโซเชียลในขณะนี้ และนี่คือความคิดเห็นบางส่วนของชาวเน็ตที่ไม่พอใจต่อพฤติกรรมการเลี้ยงหมูของฟาร์มดังกล่าว “มันเป็นเรื่องที่แปลกมากๆ ไม่มีกฎหมายคุ้มครองสัตว์ที่จะสามารถหยุดการกระทำดังกล่าวได้เลยหรือ?” “คุณกำลังพยายามจะสื่อให้เห็นถึงอะไร คุณสามารถผลิตเนื้อสัตว์ได้มากขนาดไหน พวกมันได้รับการดูแลรักษาอย่างไร ใครก็ตามที่ทำแบบนี้ควรจะได้รับการลงโทษ” “นี่มันเป็นการทารุณสัตว์ชัดๆ” ทางด้านองค์กรพิทักษ์สัตว์ PETA ก็ได้ออกมาประณามสิ่งที่เกิดขึ้นว่า “หมูกล้ามโตเหล่านี้เป็นฝันร้าย มันไม่ใช่อาหาร และหมูที่ได้รับการดัดแปลงพันธุกรรม อาจมีแนวโน้มที่จะให้กำเนิดลูกหมูที่เกิดมาพร้อมกับปัญหาสุขภาพที่รุนแรง” ที่มา : dailymail
-
Bigglesworth กระต่ายไร้ขนกับเอกลักษณ์ความน่ารัก กลายเป็นดาวเด่นโซเชียลไปซะแล้ว!!
ภาพของ Mr. Bigglesworth เจ้ากระต่ายไร้ขนแสนน่ารักตัวนี้ กำลังกลายเป็นสิ่งมีชีวิตตัวน้อยที่ฮอตที่สุดในโลกอินเตอร์เน็ต ณ ขณะนี้เลยก็ว่าได้ นั่นอาจเป็นเพราะความน่ารักที่ไม่เหมือนใคร เลยทำให้เจ้ากระต่ายได้รับความสนใจเป็นพิเศษ แถมยังดูเหมือนแมวไร้ขนของ Dr. Evil จากภาพยนตร์เรื่อง Austin Powers อีกด้วย วันที่ 29 สิงหาคม 2017 ทางเว็บไซต์เดลีเมล์ได้เผยภาพน่ารักๆ ของ Mr. Bigglesworth กระต่ายพันธุ์เร็กซ์วัยเพียง 2 เดือน ที่มีความน่ารักมุ้งมิ้งเหมือนกับกระต่ายทั่วๆ ไป แต่สิ่งที่ทำให้มันดูแตกต่าง ก็คงเป็นเพราะว่าเจ้า Bigglesworth เกิดมาพร้อมกับความผิดปกติทางพันธุกรรมที่หาได้ยากมากๆ จึงทำให้มันกลายเป็นกระต่ายไร้ขนนั่นเอง ด้วยความที่ไม่เหมือนใครเลยทำให้เจ้า Bigglesworth ได้กลายเป็นหนึ่งในดาวเด่นบนโลกอินสตาแกรม โดยในตอนนี้มีคนเข้าไปติดตามมันมากกว่า 14,000 คนแล้วจ้า (ถ้าอยากสนับสนุนน้องเพื่อนๆ ก็ไปฟอลโล่ในไอจี loafy_mrbigglesworth ได้เลย) ทางด้าน Cassandra Hall คุณแม่ลูกสองและนักออกแบบกราฟฟิก วัย 40 ปี…
-
8 เหตุผลที่ทำไม “ยุง” ถึงตกหลุมรักคุณ แหม่.. ตอมแต่เราลูกเดียวเลยนะไอ่สองงง!!
ยุงหนึ่งในสิ่งมีชีวิตที่สุดแสนจะน่ารำคาญ ด้วยอาการคันและเสียงหวี่ๆ ของพวกมันช่างยั่วโมโหพวกเรายิ่งนัก และไม่รู้เป็นอะไรเหมือนกัน บ่อยครั้งที่เรามักจะตกเป็นเป้าหมายการโจมตี ทั้งๆ ที่อยู่กับเพื่อนตั้งหลายคน และถ้าหากใครอยากลองหาคำตอบว่าเหตุใดพวกยุงถึงได้ชอบตอมคุณนักหนาละก็ ลองไปพบกับ ‘8 ปัจจัยที่ทำให้น้องยุงหลงรักคุณ’ กันได้เลย แต่บอกใบ้เอาไว้ก่อนนะที่มันชอบกัดคุณน่ะไม่ใช่เพราะว่าเลือดหวานหรอกนะจะบอกให้!! 1. กรุ๊ปเลือด จากงานวิจัยพบว่า กรุ๊ปเลือดที่แตกต่างกันจะมีปริมาณของโปรตีนที่แตกต่างกันด้วย ซึ่งเจ้าโปรตีนในเลือดนี้เองเป็นหนึ่งสิ่งที่ดึงดูดเจ้ายุงเข้ามา โดยผลการศึกษาพบว่ากรุ๊ปเลือดที่ยุงชอบมาที่สุดคือกรุ๊ป O ส่วนรองลงมาคือกรุ๊ป A น้อยที่สุดก็คือกรุ๊ป B นั่นเอง 2. บริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ พวกยุงสามารถรับรู้ปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ปล่อยออกมาจากลมหายใจเราได้ พวกมันมีอวัยวะที่สามารถตรวจจับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ไกลถึง 50 เมตรเลยทีเดียว ดังนั้นผู้ที่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมามากจึงเป็นที่ชื่นชอบของยุงนั่นเอง 3. การออกกำลังกายและปริมาณการเผาผลาญ นอกจากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์แล้ว ยังมีกรดแลคติก กรดยูริค แอมโมเนียร์และสารประกอบต่างๆ ที่ออกมากับเหงือซึ่งพวกยุงนั้นชื่นชอบมาก นอกจากนี้ยุงยังชอบคนที่มีอุณหภูมิร่างกายสูงๆ อีกด้วย ดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมหลังจากออกกำลังกายคุณจึงมักจะถูกยุงตอม 4. แบคทีเรียที่อยู่บนผิวหนัง จากงานวิจัยหลายๆ ชิ้น ชี้ให้เห็นว่าชนิดและปริมาณของแบคทีเรียที่อาศัยอยู่บนผิวหนังนั้นมีผลต่อการดึงดูดพวกยุงให้เข้ามาชิมเลือดของเรา 5. การดื่มเบียร์…
-
น่ารัก!! หนูน้อยวัย 18 เดือน มีกระจุกผมสีขาว ถอดแบบมาจากคุณแม่เป๊ะ ไม่มีผิดเพี้ยน
พันธุกรรม เป็นลักษณะที่ลูกได้รับการถ่ายทอดมาจากพ่อแม่ เช่น มีหน้าตาเหมือนกัน สูงเหมือนกัน หรือผอมเหมือนกัน ฯลฯ ซึ่งถือเป็นลักษณะทางพันธุกรรมจากรุ่นสู่รุ่นที่เราเห็นกันทั่วๆ ไป แต่สำหรับ MilliAnna หนูน้อยวัย 18 เดือน และ Brianna Worthy คุณแม่วัย 23 ปี จากเซาท์แคโรไลนา คู่นี้ เป็นแม่ลูกที่มีลักษณะทางพันธุกรรมที่แปลก และพบได้ยากมากๆ นั่นคือ ทั้งคู่เกิดมาพร้อมกับกระจุกผมสีขาวที่งอกขึ้นมาในตำแหน่งเดียวกันเป๊ะ!! เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2559 ทางเว็บไซต่างประเทศได้เผยภาพ พร้อมกับเรื่องราวที่น่าสนใจของ MilliAnna หนูน้อยผู้เกิดมามีกระจุกผมสีขาวเช่นเดียวกับแม่ของเธอ ทั้งยังเป็นรุ่นที่ 4 ของครอบครัว ที่มีผมในลักษณะที่ผิดปกติแบบนี้เช่นกัน ลักษณะที่โดดเด่นนี้ ถือเป็นสัญลักษณ์ประจำตระกูลของเธอเลยก็ว่าได้ เพราะมันได้รับการส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นตั้งแต่รุ่นคุณยาย Jennifer และคุณยายทวด Jaonne ซึ่งต่างก็มีสีผมสองที่แยกกันอย่างเห็นได้ชัด สำหรับภาวะที่เกิดสีผมดังกล่าว เป็นที่รู้จักกันดีในชื่อว่า Poliosis หรือ ภาวะผมหงอกเป็นปอยเฉพาะที่…
-
15 ภาพเปรียบเทียบ ‘คนในครอบครัว’ พอจับเอาหน้ามาต่อกัน แล้วเหมือนซะเหลือเกิน
หลายๆ คนคงเคยได้ยินกันมาก่อนว่า ‘ครอบครัวเดียวกันนั้นมักจะมีหน้าตาคล้ายกัน’ อย่างเช่นพ่อ-ลูกชาย พี่ชาย-น้องชาย แม่-ลูกสาว เป็นต้น และบางครั้งก็เหมือนกันจนเรียกผิดๆ ถูกๆ เลยทีเดียวล่ะ และในวันนี้ #เหมียวหง่าว จะมาพิสูจน์ให้เพื่อนๆ ได้เห็นกันว่าพลังของพันธุกรรมนั้นเป็นอะไรที่แข็งแกร่งมากๆ ด้วยการที่ศิลปินท่านหนึ่งถ่ายภาพเปรียบเทียบให้เห็นกันแบบจะๆ ระหว่างคนในครอบครัว จะหน้าตาเหมือนกันขนาดไหน… 1. ลูกพี่ลูกน้อง 2. พี่ชาย – น้องชาย 3. พ่อ – ลูกสาว 4. แม่ – ลูกสาว 5. แฝดชาย – แฝดหญิง 6. พี่สาว – น้องสาว 7. พี่ชาย – น้องสาว 8. พ่อ – ลูกสาว…
-
ความมหัศจรรย์ของพันธุกรรมที่ทำให้คนในตระกูลเกิดต่างยุคกัน แต่หน้าออกมาเหมือนเป๊ะ!!
‘พันธุกรรม’ ช่างเป็นสิ่งที่ธรรมชาติสร้างมาได้อย่างมหัศจรรย์จริงๆ มันเป็นสิ่งที่ทำให้เรารู้ได้ว่า คนนี้ลูกหลานใคร เพราะเจ้าตัวพันธุกรรมนี่แหละ ที่สืบทอดลักษณะเด่นๆ ให้กับลูกหลานรุ่นต่อรุ่น แม้ว่าเวลาจะผ่านมากี่ยุคกี่สมัย ถ้าลองเอารูปปู่ทวดย่าทวดมาเทียบกับหน้าลูกหลานเหลนโหลนแล้ว เพื่อนๆ จะต้องประหลาดใจรูปเหล่านี้… คุณพ่อตอนหนุ่มกับลูกชาย อันนี้ยังไม่เท่าไหร่ คุณปู่ทวดกับเหลน Olaus (เกิดเมื่อ 1871) กับ Max (เกิดเมื่อ 1991) ป้าทวด Ida (เกิดเมื่อ 1898) กับเหลนสาว Caroline (เกิดเมื่อ 1981) ปู่ทวด Henry Daniel กับเหลน Casey Edward (ถ่ายตอนทั้งคู่อายุ 21 ปีเหมือนกัน) ผู้หญิงสองคนนี้ห่างกันถึง 4 รุ่น ย่าทวด Michelle กับเหลนสาว Lucy (ทั้งคู่ห่างกันถึง 87 ปี!!) ปู่ทวดกับเหลนชาย ย่าทวด Jackie กับเหลนสาสว Caroline ปู่ทวด Louis (เกิดเมื่อ…