Tag: พายุ
-
เด็กสาวอินเดีย ถูกบังคับอยู่กระท่อมเนื่องจากมี “ประจำเดือน” สุดท้ายถูกพายุคร่าชีวิต…
เด็กหญิงวัย 14 ปีชาวอินเดียต้องกลายเป็นเหยื่อพายุไซโคลนเพียงเพราะเธอมี “ประจำเดือน” จึงถูกบังคับให้นอนอยู่แต่ในกระท่อม S. Vijayalakshmi ผู้เคราะห์ร้าย เธอเป็นเด็กหญิงวัย 14 ปีที่ติดอยู่ในกระท่อมแยกเดี่ยวเรียกว่า Gaokor กระท่อมนี้เปรียบเสมือนสถานที่สำหรับแยกหญิงที่มีประจำเดือนไปอาศัยชั่วคราว แต่ในขณะนั้น (ช่วงวันที่ 16 พฤศจิกายน 2018) พายุไซโคลน Gaja ก็กำลังรุกเข้ามายังพื้นที่ตอนใต้ของรัฐทมิฬนาฑู ประเทศอินเดียพอดี ทำให้เธอตกอยู่ในอันตรายถึงชีวิต ผลจากพายุ Gaja ทำให้มีผู้เสียชีวิต 46 รายและ Vijayalakshmi เองก็เป็นหนึ่งในนั้น พายุลูกนี้ได้กวาดล้างดินแดนไปราว 800 ตารางกิโลเมตรหรือ 500,000 ไร่ พื้นที่การเกษตรไปของทั้ง 12 เขตถูกทำลายราบคาบ ขณะเดียวกันสมาชิกในครอบครัวของ Vijayalakshmi นั้นปลอดภัยดีในเนื่องจากหลบภัยในบ้านของตัวเองที่ไม่ห่างไกลจากกระท่อม Gaokor นัก ฝ่ายยายของหญิงสาวกล่าวว่าไม่สามารถเข้าไปช่วย Vijayalakshmi ในกระท่อมได้เนื่องจากต้นมะพร้าวนั้นโค่นล้มทับกระท่อมจะไม่สามารถฝ่าเข้าไปได้ถึง หลังจากเข้าถึงตัวของ Vijayalakshmi เธอก็ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดโดยด่วน แต่พอไปถึงแพทย์ก็กล่าวว่าเธอได้เสียชีวิตแล้ว คลิปผู้ประสบภัยพายุ Gaja ในประเทศอินเดีย …
-
นักข่าวโชว์แอกชั่นให้ดูว่าลมพายุแรงมาก ปรากฏว่ามีคนเดินผ่านข้างหลังไปแบบชิลๆ!?
ขณะนี้สหรัฐอเมริกากำลังประสบกับปัญหาอย่างหนักเมื่อ พายุเฮอร์ริเคนฟลอเรนซ์กำลัง พัดโถมเข้าใส่จนทำให้ต้องอพยพประชากรจำนวนมากกว่า 1 ล้านคน เช่นเดียวกันกับนักข่าวรายงานสภาพอากาศท่านนี้ ที่ออกไปทำข่าวและแสดงให้เห็นว่าลมจากพายุเฮอร์ริเคนฟลอเรนซ์ที่กำลังพัดใส่รัฐนอร์ทแคโรไลนา เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานั้นมันรุนแรงจริงๆ แรงจนชนิดที่ว่านักข่าวคนนั้นต้องใช้แรงเกือบทั้งหมดเพื่อทานลมที่พัดแรง ถ้าไม่เช่นนั้นตัวของเขาอาจจะปลิวไปได้เลยทีเดียวล่ะ ในคลิปเขากล่าวว่า “มันร้ายแรงมากที่สุดตั้งแต่เคยมีมาเลยทีเดียวล่ะ” แต่ทันใดนั้นเองก็มีประชาชนสองคนเดินผ่านไปด้านหลัง ด้วยท่าทีที่ ‘โคตรจะชิล’ ช่างแตกต่างกันกับนักข่าวอย่างสิ้นเชิง!? ลองไปชมคลิปวิดีโอแบบเต็มๆ ที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า… So dramatic! Dude from the weather channel bracing for his life, as 2 dudes just stroll past. #HurricaneFlorence pic.twitter.com/8FRyM4NLbL — Tony scar. (@gourdnibler) September 14, 2018 มีชาวเน็ตคนหนึ่งเห็นเหตุการณ์นี้และใช้มือถืออัดคลิปวิดีโอการรายงานสภาพอากาศมาอัปโหลดลงทวิตเตอร์ พร้อมกับแคปชันว่า “เป็นอะไรที่น่าทึ่งมาก นักข่าวรายงานสภาพอากาศพยายามใช้พลังทั้งหมดที่มีเพื่อต่อสู้กับลมพายุ ขณะที่ 2…
-
พายุกระหน่ำ! จีนเกิดปรากฏการณ์ “ฝนสัตว์ทะเล” ปลาหมึกปลาดาวตกลงมาราวกับฝน
ณ เมืองชิงเต่า ตอนใต้ของมณฑลซานตง ประเทศจีน ได้รับผลกระทบรุนแรงจากพายุที่โหมกระหน่ำ จนกระทั่งต้นไม้หักโค่น ถนนติดขัด น้ำท่วม และทำให้ สัตว์ทะเล ทั้งหลายตกลงมาราวกับเม็ดฝน เรื่องราวเหล่านี้กลายเป็นกระแสไวรัลในอินเทอร์เน็ตของประเทศจีน ตั้งแต่ที่ผู้ขับขี่จักรยานยนต์คนหนึ่งได้โพสต์ภาพว่ามี “ปลาหมึก” ตัวหนึ่งลอยมาติดบริเวณกระจกกันลมของเขา ปลาหมึกลอยลงจากฟ้าราวกับเป็นฝนสัตว์ทะเล แน่นอนว่าไม่ได้มีแต่ปลาหมึกเท่านั้น สิ่งมีชีวิตในทะเลทั้งหลาย เช่น ปลาดาว และกุ้งก็ลอยลงมาด้วยเช่นกัน กุ้งน้อยใหญ่ก็ลอยลงมาติดบนกระจกรถยนต์ เนื่องจากพายุ นอกจากนี้ พายุที่ซัดเข้ามายังเมืองชิงเต่าก็ได้ทำให้เกิดน้ำท่วมขังภายในเมืองและเส้นทางการเดินรถ จนทำให้การจราจรนั้นเป็นไปอย่างยากลำบาก ถนนบางเส้นไม่สามารถใช้การได้ชั่วคราว มีน้ำท่วมขังไปทั่วเมือง เนื่องด้วยพายุลูกนี้ ทำให้การใช้ชีวิตของผู้คนนั้นยากลำบากยิ่งขึ้นและส่งผลกระทบไปทั่วพื้นที่ จากรายงานพายุลูกนี้มีความเร็วที่ 56 กิโลเมตรต่อวินาที และมีระดับความรุนแรงอยู่ที่ ระดับ 12 ตามการวัดของ Beaufort ถือว่าเป็นปรากฏการณ์และภัยพิบัติทางธรรมชาติที่ทั้งน่ากลัวและน่าประหลาดใจอย่างมาก ไม่บ่อยนักที่จะได้เห็นสัตว์ทะเลตกลงมาเป็นฝนแบบนี้ ที่มา: thesun, shanghaiist และ nextshark
-
ลูกแมวเกาะใต้ท้องรถเพื่อหลบพายุ ได้มนุษย์พาไปอยู่ในบ้าน และดูเหมือนมันจะชอบนะ
ในวันที่ฝนตกพายุโหมกระหน่ำ มีลูกแมวตัวหนึ่งเกาะอยู่ใต้ท้องรถเพื่อหลบพายุ แต่เมื่อรถวิ่งไปเรื่อยๆ มันก็หมดแรงและตกลงมาจากใต้ท้องรถ ตอนนั้นเองก็มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเห็นมันแล้วรีบวิ่งเข้าไปช่วยไว้ก่อนจะมีรถวิ่งมาทับมัน เมื่อพวกเขาช่วยมันออกมาจากถนนได้ ก็รีบพามันไปหาสัตวแพทย์เพราะเห็นว่ามันสั่นเทาด้วยความหนาว และดูอาการไม่ค่อยดี โชคดีที่มันไม่เป็นอะไรมาก แค่ต้องพักผ่อนนิดหน่อยเพื่อให้มีเรี่ยวแรง จากนั้นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็ติดต่อไปยังกลุ่มช่วยเหลือแมว Itty Bitty Kitty Committee ซึ่งอยู่ในเมืองชาร์ลสตัน รัฐแคโรไลนา ประเทศสหรัฐอเมริกาเพื่อให้พวกเขาช่วยหาคนดูแลมิ้วน้อยให้ มิ้วน้อยถูกส่งต่อให้กับคนดูแลและก็ได้ไปอยู่บ้านของเธอชั่วคราว เธอตั้งชื่อมันว่า Powder Puff เธอมีประสบการณ์ดูแลลูกแมวมาเยอะแล้ว ก็เลยมั่นใจว่าจะสามารถดูแลเจ้าแมวได้เป็นอย่างดีทั้งในด้านของสุขภาพกายและสภาพจิตใจด้วย พอได้รับการดูแลจากคนที่เอาใจใส่มัน แค่วันเดียวเท่านั้นเจ้าเหมียวก็หายเพลียแล้วกลับมาซนเหมือนลูกแมวทั่วไปแล้ว แถมยังขี้อ้อนกว่าแมวทั่วไปเยอะเลย หายเหนื่อยแล้วเหรอ กิ้วๆ Emiley Schoolcraft อาสาสมัครที่มาช่วยดูแลมันเล่าว่า “มันติดฉันหนึบตั้งแต่แรกเจอเลย ระหว่างที่ฉันพามันไปหาสัตวแพทย์ มันก็จะนั่งอยู่บนไหล่ฉันตลอดทาง … มันขี้อ้อนแล้วก็ชอบกอดเป็นที่สุด” กอดเก๊าเยอะๆ เก๊าชอบ เจ้ามิ้วตัวนี้เชื่องกว่าที่อาสาสมัครคิดไว้มาก แม้แต่ตอนจับไปอาบน้ำมันยังไม่ดื้อเลย ทำตัวน่ารักไม่ดื้อซนแบบนี้ทุกคนก็เลยตกหลุมรักมันกันหมด ตอนนี้มันก็แข็งแรงพอที่จะเปิดหาคนรับเลี้ยงได้แล้ว และระหว่างรอคนมาขอเลี้ยง Powder Puff ก็จะได้อยู่ในบ้านของคนดูแลต่อไป เพราะทุกคนอยากให้มันรู้สึกอบอุ่นหลังจากผ่านเรื่องร้ายๆ…
-
หนุ่มกลายเป็นฮีโร่ หลังเห็นหมาเกาะอยู่กับต้นไม้กลางกระแสน้ำเชี่ยวกราก แล้วลงไปช่วยมัน
เมื่อช่วงสิ้นปี 2017 ที่ผ่านมาพายุฮาร์วีย์ได้พัดเข้าไปในรัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นเหตุให้เกิดน้ำท่วมหนัก ข้าวของของหลายครัวเรือนเองก็พัดหายไปกับกระแสน้ำเชี่ยว ไม่เพียงแต่คนเท่านั้นที่ได้รับความเดือดร้อนจากพายุ สุนัขเองก็เดือดร้อนด้วย ในคลิปวิดีโอคลิปหนึ่งจะเห็นได้ว่ามีสุนัขตัวหนึ่งที่หนีน้ำท่วมไม่ทัน มันก็เลยโดนกระแสน้ำพัดไป แต่ยังโชคดีที่เกาะกับต้นไม้ไว้ได้ ยังไงก็ตามมันก็ยังไม่ปลอดภัยซะทีเดียว เนื่องจากมันไม่สามารถว่ายทวนกระแสน้ำไปยังจุดที่ปลอดภัยเองได้ แต่โชคก็ยังไม่ทิ้งมัน เพราะระหว่างที่มันติดอยู่ตรงต้นไม้ก็มีกลุ่มคนในพื้นที่ผ่านมาเจอมันเข้า พวกเขาไม่ยอมปล่อยให้สุนัขตัวนี้ถูกพัดไป แม้ว่ามันจะเป็นแค่สัตว์ตัวหนึ่งพวกเขาก็ตั้งใจว่าจะช่วยมันให้ได้ แต่กระแสน้ำก็ไหลเชี่ยวกรากเกินกว่าที่พวกขาจะว่ายน้ำไปพาตัวมันออกมาได้อยู่ดี พวกเขาก็เลยใช้เชือกผูกตัวชายคนหนึ่งไว้ แล้วให้เขาว่ายน้ำไปหาเจ้าสุนัขเพื่ออุ้มมันไว้ จากนั้นก็ค่อยๆ ช่วยกันออกแรงดึงเขาต้านกระแสน้ำจนกลับมาถึงจุดที่ปลอดภัยจนได้ แม้ว่าการกระทำของพวกเขาจะฟังดูเรียบง่าย ทว่าในความเป็นจริงแล้วการที่เขายอมเอาตัวเองเสี่ยงภัยเพื่อลงไปช่วยเจ้าหมาเป็นเรื่องที่กล้าหาญมากๆ เลย ชาวทวิตเตอร์ที่ได้เห็นคลิปวิดีโอนี้ก็คิดอย่างนั้นเช่นกัน พวกเขาต่างก็ชื่นชมคนกลุ่มนี้ที่ไม่ทิ้งเจ้าหมาให้ถูกน้ำพัดไป มีคนเข้ามาชมคลิปนี้มากกว่า 1 ล้านครั้ง แล้วก็มีคนรีทวีตไปกว่า 24,000 ครั้งแล้วด้วย หากดูคลิปไม่ได้ คลิกที่นี่ DOG RESCUE This is in Lumberton, Texas, down the street from my moms house. That’s…
-
น้องหมาชิวาว่ากลัวเสียงฟ้าร้องจนนอนไม่หลับ เจ้าของเลยจัดเตียงใหม่ให้ อุ่นใจหลับสบาย
Bentley ถูกแยกจากครอบครัวเก่า เพราะพวกเขาต้องย้ายไปอยู่ต่างประเทศและไม่สามารถพามันไปด้วยได้ แต่เจ้าหมาก็ไม่ได้อยู่อย่างเดียวดาย Melanie Barr และครอบครัวของเธออาสาจะดูแลเจ้าหมาวัย 8 ปีตัวนี้ต่อเอง พวกเธอดูแลมันดีมากจนมันไว้ใจเธอ ตอนนี้มันก็เลยรักเธอมาก เดินตามเธอไปทุกที่ทุกเวลาเลย เจ้าของใหม่ กับหมาน้อย Bentley ตอนที่เธออยู่บ้าน เจ้าหมาจะเดินตามไปเฝ้าเธอทุกฝีก้าว ถ้าเธอทำธุระมันก็จะนั่งดูเฉยๆ แต่เมื่อไหร่ที่เธอหย่อนก้นลงบนเก้าอี้ มันก็จะโดดขึ้นไปนอนหนุนตักด้วยอย่างสบายใจ โชคดีที่ที่ทำงานของเธออนุญาตให้พาหมาไปได้ มันก็เลยได้ไปเที่ยวที่ทำงานของเธอด้วย ทุกคนที่นั่นรักมันมาก ชีวิตของมันดูมีความสุขเหลือเกิน แต่มีอยู่สิ่งหนึ่งที่เป็นปัญหาสำหรับมัน นั่นก็คือพายุนั่นเอง ทุกครั้งที่มีพายุพัดผ่าน มันจะกลัวเสียงฟ้าร้องจนตัวสั่นเทาไปหมด มันข่มตานอนไม่ได้เลย ถึงแม่ของมันจะนอนกอดมันเอาไว้มันก็ยังนอนไม่หลับอยู่ดี หลังจากที่มีพายุพัดผ่านไป เช้าวันถัดมามันก็จะมีอาการง่วงนอน ดูไม่ร่าเริงเหมือนเคย เป็นเพราะว่าในคืนที่มีพายุพัดผ่านมันไม่ได้นอนเลย เห็นแล้วเธอก็รู้สึกเป็นห่วงมันมาก เธอเลยลองคิดหาวิธีที่ทำให้มันรู้สึกอุ่นใจมากขึ้น มันจะได้หลับได้แม้ในคืนที่พายุโหมกระหน่ำ โดยเธอลองเอาหมอนใบโปรด ผ้าห่มที่มันใช้เป็นประจำ และตุ๊กตาของเล่นที่มันชอบมาวางไว้ด้วยกันเป็นเตียงนอนใหม่ให้กับมัน เมื่อมันได้ลองนอนในที่นอนใหม่แล้ว มันก็นอนหลับปุ๋ยไปเลย คงเป็นเพราะของพวกนี้ทำให้มันรู้สึกอุ่นใจมากขึ้น ถึงจะมีพายุมันก็หลับได้สบายๆ นั่นเอง เห็นแบบนี้แล้ว Barr ก็โล่งใจได้สักที ทีนี้ปัญหากลัวฟ้าร้องของมันก็จะหมดไป…
-
เป็นเรื่อง! รูปปั้น ‘จิ๋นซีฮ่องเต้’ ไซส์ยักษ์ในจีนล้มหน้าฟาด หรือนี่จะเป็นลางบอกเหตุ!?
กลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตกันเลยทีเดียว หลังจากที่รูปปั้นทองแดงขนาด 19 เมตรของ ‘จิ๋นซีฮ่องเต้‘ จักรพรรดิองค์แรกของประเทศจีนได้ล้มลงมาจากแท่นหินขนาดใหญ่ จนเจ้าหน้าที่ต้องรีบเข้าไปตรวจสอบทันที เหตุการณ์ดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ 6 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งในวันดังกล่าวนั้นมีพายุลูกใหญ่และลมที่พัดแรงมากพัดผ่านบริเวณรูปปั้นดังกล่าวในมณฑลซานตง จึงส่งผลให้รูปปั้นดังกล่าวล้มลงมาหน้าฟาดลงกับพื้นจนมีสภาพที่ดูไม่ได้ จากภาพ เราจะเห็นว่าหน้าของรูปปั้นบนเป็นแผ่นเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม ไม่นานนักหลังเกิดเหตุ คนงานจำนวนมากก็รีบเดินทางมายังที่เกิดเหตุพร้อมกับเครนทันที เพื่อที่จะรีบแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น เพราะว่ารูปปั้นดังกล่าวนั้นถือเป็นสิ่งสำคัญและเป็นภาพลักษณ์ของเมือง คนงานคนหนึ่งก็ได้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่นว่า “ไม่ว่ายังไง นี่ก็เป็นสิ่งที่คุณปิดบังสายตาของประชาชนไม่ได้ คุณจะปิดข่าวยังไง เดี๋ยวนี้ทุกคนมีโทรศัพท์ แถมได้รูปส่งต่อกันไปได้รวดเร็วอีก” เหตุการณ์ดังกล่าวนั้นถือเป็นเหตุการณ์ร้ายแรงที่เกิดขึ้นกับภาพลักษณ์ของผู้นำจีนครั้งล่าสุด นับตั้งแต่รูปปั้นทองคำขนาด 32 เมตรของเหมา เจ๋อตงเมื่อปี 2016 ภาพของรูปปั้นดังกล่าวเมื่อปี 2015 ซึ่งอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์และน่าเกรงขาม สุดท้ายเราก็ไม่รู้ว่าการที่รูปปั้นจักรพรรดิองค์แรกล้มลงแบบนี้ จะเป็นลางบอกเหตุอะไรกับจีนหรือเปล่า เพราะด้วยความที่รูปปั้นดังกล่าวนั้นเป็นหน้าเป็นตา และยังเป็นรูปปั้นของคนสำคัญอีก หรือว่ามันเป็นลางบอกว่าจีนกำลังจะมีปัญหาใหญ่เข้ามา? ที่มา shanghaiist, bbc
-
สภาพเกาะครีตในโทนเหงา สีแสดไปทั่วทุกพื้นที่ ดูสวยงามแต่อันตราย เพราะทรายล้วนๆ…
หากมองสภาพโดยทั่วไปของภูมิภาคที่เป็นเกาะ จะต้องมีสีออกไปในโทนสดใส ท้องฟ้าสีครามตัดกับน้ำทะเลสีน้ำเงินเขียว ไหนจะมีแสงแดดคอยโอบล้อมอีก โอ๊ยยยย… แค่คิดภาพตามก็รู้สึกดีแล้วล่ะ แต่ถ้าคุณลองนึกถึงสภาพที่ยกทะเลทรายมาอยู่แทนที่ล่ะ มันจะออกมาในสภาพแบบไหน แน่นอนว่าทรายจะมีสีออกไปในโทนสีเนื้อ ยิ่งลอยมากับลมเป็นพายุก็ยิ่งทำให้โทนสีเข้มจนน่ากลัว… เมื่อไม่นานมานี้ มีชุดภาพจากเกาะครีต ประเทศกรีซถูกเผยแพร่ออกมา สภาพทั่วไปในบริเวณเกาะมองเห็นเป็นโทนสีส้มแสดเข้มไปทั่วท้องฟ้า ซึ่งภาพเหล่านี้ถูกโพสต์โดยเหล่านักท่องเที่ยวที่ไปพักผ่อนในช่วงนี้ ดูจากภาพแล้วคล้ายจะเป็นการใช้ฟิลเตอร์แต่งภาพ แต่เปล่าเลย ภาพที่เห็นคือภาพจริง สถานที่จริง ในช่วงเวลาที่ทั้งเกาะกำลังเผชิญกับพายุทะเลทราย เคลื่อนตัวย้ายมาจากทะเลทรายซาฮารา เมื่อช่วงวันพฤหัสบดีที่ 22 มีนาคม 2018 ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น . แม้ภาพถ่ายที่เห็นจะดูดี เหมือนหลุดออกมาจากในภาพยนตร์ยุคโลกล่มสลาย แต่ชาวบ้านชาวเมืองที่อาศัยอยู่บนเกาะขอเซย์โนไว้เลย… เพราะมันแย่ยิ่งกว่าฝุ่นควันกรุงเทพฯ หมอกควันภาคเหนือในไทย เพราะฝุ่นทะเลทรายนั้นอุดมไปด้วย สารตะกั่ว สังกะสี โครเมียม และวาเนเดียม ที่จะนำไปสู่ปัญหาสุขภาพในระยะยาว . . ภาพถ่ายในมุมเดียวกัน ในวันที่ 23 มีนาคม 2018 หนึ่งวันหลังเหตุพายุทะเลทรายพัดผ่าน …
-
สกลนครพังยับ ถูกพายุฤดูร้อนซัดโหมกระหน่ำ ห้างสรรพสินค้าเสียหายร่วม 10 ล้านบาท!!
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ประชาชนหลายต่อหลายจังหวัดต้องพบเจอกับ พายุฤดูร้อน ที่รุนแรง โดยเฉพาะเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2561 ที่ผ่านมา มีรายงานว่า พายุดังกล่าวได้ก่อความเสียหายอย่างใหญ่หลวงในพื้นที่จังหวัสกลนคร โดยเฉพาะตำบลพังโคน อำเภอพังโคน และอำเภอวาริชภูมิ ทั้งนี้จุดที่พายุกระหน่ำรุนแรงและเกิดความเสียหายเป็นอย่างมากคือ ช่วงหลังกิโลเมตรที่ 55-56 ของถนนนิตโยสายสกลนคร-อุดรธานี ซึ่งเป็นบริเวณที่ตั้งของปั๊มน้ำมัน ปตท. พังโคน โดยพายุที่รุนแรงได้ส่งผลให้เสาไฟฟ้าแรงสูงล้มลงกว่า 30 ต้น อันส่งผลให้กระแสไฟฟ้าในละแวกถูกตัดขาดทั้งหมด ทำให้เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าราว 20 คน ต้องรีบเข้ามาซ่อมแซมให้เป็นปกติโดยเร็ว พายุได้พัดพาเอาเศษหลังคาสังกะสีจำนวนมากปลิวเข้ามายังบริเวณปั๊มน้ำมัน ทำให้ผู้คนต่างตื่นกลัวเป็นอย่างมาก จึงพากันเข้าไปหลบในที่ปลอดภัย อย่างเช่นในร้านสะดวกซื้อ และภายในอาคารปิดบริเวณใกล้เคียง . . ด้านล่างเป็นคลิปวิดีโอขณะพายุกำลังกระหน่ำ บริเวณภายในปั๊ม ปตท. ขณะเดียวกันสถานที่ที่ได้รับความเสียหายจากพายุฤดูร้อนอย่างหนักก็คือ ห้างสรรพสินค้าโฮมช็อป เพราะพายุได้สร้างความเสียหายให้กับตัวอาคารอย่างรุนแรง จนหลังคาถล่มลงมาเกือบทั้งหมดพร้อมกับมีน้ำขังนองไปทั่ว ทำให้สินค้าภายในอาคาร เช่น วัสดุก่อสร้าง เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องสุขภัณฑ์ และอื่นๆ เสียหายรวมแล้วกว่า 90 เปอร์เซ็นต์…
-
เกิดอะไรขึ้น!!? ปลาดาวนับหมื่น ขึ้นมาเกยตื้นตายกันเกลื่อนชายหาดในประเทศอังกฤษ
การสูญเสียสิ่งมีชีวิตทั้งหลายบนโลกย่อมทำให้ระบบนิเวศย่ำแย่ลง เพราะสัตว์แต่ละชนิดย่อมมีความสำคัญต่อสภาพแวดล้อมทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นสัตว์บก สัตว์ปีก หรือสัตว์น้ำก็ตาม ล่าสุด บนชายหาดในเมือง Kent ประเทศอังกฤษได้มี “ปลาดาว” นับหมื่นตัวถูกน้ำพัดขึ้นมาเกยตื้น กระจายอยู่เต็มหาด ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเป็นผลพวงมาจากพายุหิมะ “Beast from the East” Lara Maiklem ช่างภาพวัย 47 ปี ได้พาลูกแฝดวัย 5 ขวบของเธอ Edie และ Beau เข้าไปช่วยเหลือปลาดาวเหล่านี้ โดยการน้ำพวกมันโยนกลับลงทะเล “พายุหิมะทำให้สิ่งมีชีวิตมากมายต้องตาย” Lara กล่าว “พวกเราช่วยพวกมันให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ แต่มันมีจำนวนมากเกินไป” เธอยังเล่าอีกว่า “มันไม่ได้มีเพียงแค่ปลาดาวนะ มันมีปลาแล้วก็เม่นทะเลอีกด้วย ฉันว่าต้องมีคนเห็นกุ้งล็อบสเตอร์ติดมาด้วย” Lara ผู้ที่ปัจจุบันกำลังเขียนหนังสือเกี่ยวกับการเก็บของตามชายหาดและชายฝั่งแม่น้ำ ได้บอกว่า ปลาดาวที่เกยตื้นนั้นกินพื้นที่ตั้งแต่ Ramsgate ไปจนถึงชายหาดใกล้เคียง Broadstairs เหล่านกนางนวลและนกชนิดอื่นๆ ล้วนมาบินอยู่รอบๆ สัตว์เกยตื้นเหล่านี้ เพราะแน่นอนว่าสัตว์เกยตื้นไม่มีทางรอดชีวิตได้อย่างแน่นอน …
-
พายุ Emma เป็นเหตุ ที่อังกฤษหนาวจนน้ำแข็งเกาะรถทั้งคัน ไม่มีใครรู้ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร!?
เมื่อพูดถึงเรื่องสภาพอากาศแล้วต้องขอบอกเลยว่าที่บ้านเรากำลังร้อนได้ที่เลยล่ะ แต่กลับกันที่ประเทศทางแถบยุโรป โดยเฉพาะที่อังกฤษนั้นกำลังประสบภัยกับความหนาวแบบสุดๆ ล่าสุดมีรายงานจากเว็บไซต์ Ladbible ในกรุงลอนดอนหนาวมาก หนาวจนรถทั้งคันถูกปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งจนไม่สามารถขยับเขยื้อนไปไหนได้เลยแม้แต่น้อย รถคันดังกล่าวถูกจอดไว้ในเขต Tower Hamlets กรุงลอนดอนประเทศอังกฤษ ท่ามกลางอากาศที่หนาวเหน็บทำให้ส่วนที่เป็นน้ำทั้งน้ำที่อยู่บนพื้นถนนและน้ำในแม่น้ำ หรือแม้แต่ทะเลก็กลายเป็นน้ำแข็ง แต่ก็ยังไม่ทราบว่าเหตุใดรถคันนี้ถึงถูกน้ำแข็งปกคลุมทั่วคันถึงขนาดนี้ แต่เอาจริงๆ มันก็ดูสวยไม่เบาเลยล่ะ มันสะดุดตาซะจนบัญชีทวิตเตอร์ของสถานีตำรวจเขต Tower Hamlets ได้ถ่ายภาพรถผู้น่าสงสารคันนี้ไปทวีตพร้อมกับแคปชั่นว่า “ถ้าหากคุณเป็นเจ้าของรถคันนี้ที่จอดอยู่ในเขต Tower Hamlets พวกเรารู้สึกเห็นใจท่านมาก และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะช่วยท่านจัดการกับน้ำแข็งนี้นะ” ทวีตดังกล่าวได้รับความสนใจจากประชาชนอยู่พอสมควร โดยมียอดไลก์ถึง 323 ครั้ง และคอมเมนต์อีกกว่า 268 ครั้งเลยทีเดียว คาดว่าสภาพอากาศหนาวเหน็บที่เกิดจากพายุ นี้คงจะดำเนินไปอีกหลายวัน ตามรายงานบอกว่าเจ้าหน้าที่จะทำการช่วยเหลือเจ้ารถคันนี้ให้มันสามารถกลับมาโลดเล่นบนท้องถนนได้อีกครั้งอย่างเร็วที่สุด เหตุการณ์พายุ Emma พัดถล่มไม่ได้มีแค่ประเทศอังกฤษที่ได้รับผลกระทบเท่านั้น ในแถบยุโรปยังมีอีกหลายประเทศที่ต้องเผชิญกับความหนาวเหน็บไม่แพ้กัน อย่างเช่นในกรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์เองน้ำในคลอง Prinsengracht ก็ถึงกับแข็งเป๊กเป็นน้ำแข็งเลยทีเดียว ชาวเมืองมากมายต่างก็ตื่นตาตื่นใจกับปรากฏการณ์นี้ลงมาเดินเล่นกันบนแม่น้ำกันเป็นว่าเล่น แต่ก็มีบางคนที่นึกสนุกใส่รองเท้าสเก็ตน้ำแข็งมาวิ่งบนแม่น้ำกันอย่างสนุกสนาน ผู้คนลงมาเดินเล่นกันบนคลองที่จับตัวเป็นน้ำแข็ง ร่องรอยของการเล่นสเก็ตน้ำแข็ง สองหนุ่มกำลังประชันความเร็ว …
-
อังกฤษเตรียมพบกับปรากฏการณ์ทางธรรมชาติหายาก “พายุหิมะฟ้าคะนอง” แค่ชื่อก็สยองแล้ว
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานั้นโลกของเขาต้องเจอวิกฤตทางธรรมชาติที่หลากหลายและรุนแรงมากๆ ทั้งแผ่นดินไหว เฮอร์ริเคน พายุหิมะและอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งมาคราวนี้ทางอังกฤษก็ออกมาเตือนประชาชนให้เตรียมรับมือกับภัยธรรมชาติหายากอีกอย่าง ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่ว่านั้นมีชื่อเรียกว่า “พายุหิมะฟ้าคะนอง” ซึ่งเราฟังชื่อแล้วอาจจะงงๆ ว่าทำไมหิมะกับฟ้าคะนองถึงมารวมกันได้ เพราะปกติหิมะตกมันก็จะไม่มีฟ้าร้องตามมา ส่วนถ้าฝนตกและฟ้าร้องก็จะไม่มีหิมะนั่นเอง แต่ปรากฎการณ์ดังกล่าวนั้นมันเกิดขึ้นจริงๆ ในอังกฤษ ซึ่งเหตุการณ์นี้ถือเป็นปรากฎการณ์ที่หายากมากๆ เพราะการที่จะมีหิมะและฟ้าร้องในเวลาเดียวกันมันต้องมีจังหวะทุกอย่างที่พอดี และด้วยระดับความอันตรายของมันมีสูงกว่าพายุปกติ จึงทำให้การจะต้องออกมาเตือนพื้นที่เสี่ยงภัยต่างๆ ให้ระวังและอยู่ในบ้านของตัวเอง เป็นปรากฎการณ์ที่จัดเต็มสุดๆ ทั้งฝนที่อาจจะตกตามมา หิมะและพายุที่รุนแรง รวมถึงยังมีฟ้าร้องฟ้าผ่าอีก!! (เข้าไปดูคลิปต้นฉบับได้ที่ metoffice) Good evening UK! Angie & Kieran here tonight for weather questions. There are Yellow, National Severe Weather Warnings (NSWW) starting in the early hours of Tuesday morning.…
-
ช่วยตรูขึ้นไปที๊!! เจ้าสลอธร้องเรียกให้มนุษย์ช่วย หลังปีนขึ้นมาจากซอกหินไม่ได้ เอาจริงดิ!?
ใครจะไปคิดล่ะว่าการมาอยู่ที่ชายหาดซึ่งเป็นถิ่นของสัตว์ทะเล ยังจะมีโอกาสให้เราได้พบกับเจ้าสล็อตสิ่งมีชีวิตแสนเชื่องช้าแต่น่ารักที่หายากแบบนี้ แต่ว่าเจ้าสลอธมันติดอยู่ในซอกหินเลยขึ้นมาเองไม่ได้ ร้องขอความช่วยเหลือจากคนที่ผ่านมาใหญ่เลย ถ้าใครไม่ยอมช่วยเจ้าสัตว์น่าเอ็นดูตัวนี้ก็ใจร้ายเกินไปแล้วล่ะ ช่วยตูด้วย ขาตูติดหิน เจ้าสลอธตัวพันธุ์สองนิ้วเท้าที่หายากนี้ถูกพบในวันที่ 15 มกราคมที่ผ่านมาที่จังหวัด Punta Tigre ประเทศคอสตาริกา ดูเหมือนว่ามันจะถูกพายุพัดตกลงไปในน้ำทะเลเมื่อคืนก่อนหน้านี้ พอน้ำทะเลลดลงแล้วมันก็รอดชีวิตกลับมาได้ แต่ว่าขาของดันเข้าไปติดอยู่ในซอกหินจึงขยับไปไหนไม่ได้เลย นอกจากนี้ยังมีทรายเข้าไปในดวงตาของมันด้วย คลิปวิดีโอตอนเจอเจ้าสลอธน้อย โชคดีที่มีแขกของบ้านพัก Morgan’s Lodge ผ่านไปเห็นมันเข้าแล้วกลับไปบอกกับเจ้าของบ้านพัก Dirk Morgan ให้ไปช่วยเหลือมันไว้ได้ทัน เขาเล่าว่า “เรามีบ้านพักอยู่ในแถบที่ไม่ค่อยครึกครื้นนักของประเทศคอสตาริกา เรารู้จากแขกที่พักอยู่ว่ามีลูกสลอธติดอยู่ในหิน ห่างจากบริเวณนั้นประมาณครึ่งไมล์ (ประมาณ 800 เมตร) …” รีบๆ ช่วยตูออกไปสักทีเถอะ ฮือ Dirk ยังบอกอีกว่า “ตอนนั้นพระอาทิตย์เพิ่งขึ้นมาได้ชั่วโมงเดียวเองและพายุเมื่อคืนก็สงบลงแล้ว เราก็เลยเดินไปดูยังจุดที่แขกบอกแล้วรีบช่วยเจ้าสลอธเอาไว้ก่อนที่มันจะตาย ระหว่างทางเราก็ไล่หมา 2 ตัวที่จะเข้าไปกัดมันด้วย” เจ้าของบ้านพักเล่าต่อว่า “ตอนที่เจอมันก็ตัวเปียกน้ำทะเลโชกเลย แล้วก็มีทรายเข้าไปติดอยู่ในตาของมันด้วย มันดูอ่อนแรงแล้วก็กลัวมาก แต่ก็ยังร้องขอความช่วยเหลือตอนที่เราเข้าไปใกล้ๆ “…
-
รุนแรงเหลือเกิน ชาวบ้านใน Norilsk จอดรถทิ้งข้างนอกแค่ 5 นาที พริบตาเดียวรถหายไปทั้งคัน
ในช่วงที่ผ่านมาพี่น้องชาวไทยในหลายๆ พื้นที่ก็ได้มีโอกาสสัมผัสกับความเย็นและอากาศหนาวกันไปบ้างแล้ว และที่ดินแดนหมีขาวอย่างประเทศรัสเซียเองเค้าก็ได้สัมผัสกับความเย็นของฤดูหนาวแล้วเช่นกัน แต่ทว่าอย่างที่เราทราบกันดีความหนาวแบบรัสเซียนั้นย่อมไม่ธรรมดาแน่นอน!! ภาพของค่ำคืนแห่งขั้วโลกจากเมือง Norilsk ประเทศรัสเซียที่เผยให้เห็นปุยหิมะขาวๆ ที่ปกคลุมเมืองแห่งนี้ ซึ่งจากการรายงานของสื่อต่างประเทศเผยว่าความเย็นยะเยือกนี้จะปกคลุมนานถึง 6 สัปดาห์เลยทีเดียว ชายคนหนึ่งจากเมือง Norilsk เล่าว่าเขาจอดรถไว้ด้านนอกเพียงแค่ 5 นาทีเท่านั้น และหลังจากที่กลับมาก็พบว่ารถของเขาถูกพายุหิมะปกคลุมมันไปเรียบร้อยแล้ว คลิปวิดีโอของชายหนุ่มคนดังกล่าวที่กำลังพยายามขุดหิมะออก เพื่อทำให้เขาสามารถนำรถออกจากหิมะได้ และไม่ได้มีเพียงแค่รถของพี่คนนี้เท่านั้นที่ถูกหิมะทับถม แต่รถยนต์คันอื่นๆ ก็มีสภาพที่ไม่ต่างกันเลยทีเดียว ไปชมคลิปวิดีโอของหนุ่มคนนี้ กับภาระกิจกอบกู้รถของเค้ากันได้เลย… งานนี้เรียกได้ว่าหิมะท่วมเมืองกันเลยทีเดียว!! ไม่ว่าจะเป็นจักรยานยนต์หรือรถยนต์ที่จอดอยู่ด้านนนอก บอกได้คำเดียวเลยว่าไม่รอด!! . จะรออะไรกันอยู่ล่ะพี่ ขุดซิครับขุด!! . จากรายงานระบุว่าพายุหิมะนี้ตกลงมาตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ที่ 15 ธันวาคมที่ผ่านมา และเป็นเหตุให้ถนนหลายสายในเมืองไม่สามารถสัญจรได้ . แต่ถึงอย่างไรก็ตาม สำหรับคนที่ชื่นชอบหิมะ นี่อาจจะเป็นสวรรค์ของคุณเลยก็ได้!! ว้าววว แบบนี้ถ้ามีเฮลบลูบอยซักขวดล่ะก็… หวานชื่นรื่นรมย์กันแน่นอน!! ที่มา siberiantimes
-
กราฟบอกข้อมูลพายุ Caroline ที่ถล่มสหราชอาณาจักร ที่ดูไปดูมามันเหมือน ‘จู๋’ ซะงั้น
ท่ามกลางพายุที่กำลังโหมกระหน่ำเข้าใส่ประเทศกลุ่มสหราชอาณาจักร แต่ก็ยังมีเรื่องที่พอจะยิ้มได้เกี่ยวกับพายุลูกนี้ เมื่อมีกราฟแสดงการพัดและทิศทางของพายุ มันดันไปเหมือนกับรูปร่างของอวัยวะเพศอย่าง หรรมส์ ซะอย่างงั้น ในตอนนี้พายุที่ชื่อว่า Caroline กำลังเข้าถล่มในหลายๆ ประเทศ สำนักงานพยากรณ์อากาศชื่อดังแห่งสหราชอาณาจักรอย่าง The Met Office ก็ได้สร้างกราฟขึ้นมาเพื่อแสดงข้อมูลต่างๆ ของพายุลูกนี้เพื่อให้ประชาชนจะได้เตรียมตัวรับมือกับพายุได้อย่างทันท่วงที ภาพพายุที่มันดูแล้วขัดหูขัดตาแปลกๆ ทว่าภาพกราฟพายุที่ออกมามันกลับทำให้หลายคนถึงกับขำจนหงายท้อง เพราะว่าด้วยข้อมูลต่างๆ ของพายุมันได้ทำให้พายุลูกนี้มีรูปร่างคล้ายกับอวัยวะเพศชายอย่างช่วยไม่ได้ หลายคนเมื่อได้เห็นถึงกับตั้งชื่อใหม่ให้กับพายุลูกนี้ว่า ‘พายุหรรมส์’ เลยทีเดียว สำหรับพายุ Caroline ทางศูนย์พยากรณ์อากาศก็ได้คาดการณ์เอาไว้ว่า แรงลมจากพายุลูกนี้จะสูงขึ้นจนถึง 112-128 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และในบางพื้นที่อาจมีความเร็วสูงถึง 144 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเลยทีเดียว นอกจากนั้นศูนย์พยากรณ์ยังคาดการณ์ไว้ จะมีอากาศที่หนาวเย็นรวมทั้งมีหิมะตกในพื้นที่ประเทศ สกอตแลนด์ อังกฤษ ตอนเหนือของประเทศไอร์แลนด์ และประเทศเวลส์ ในวันศุกร์ที่ 7 และวันเสาร์ที่ 8 ที่จะมาถึงนี้ “โปรดเตรียมความพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแผนการเดินทางแบบกะทันหัน เพื่อเป็นการปกป้องคุณและครอบครัวจากสภาพอากาศที่แปรปรวนที่กำลังจะเกิดขึ้น ซึ่งอาจทำให้เกิดความล่าช้าในการเดินทาง รวมถึงการหยุดให้บริการของรถไฟและรถรางด้วย” Met Office ได้เขียนเอาบนเว็บไซต์ โดยก่อนหน้านี้ได้มีพายุฤดูหนาวเข้ามาสร้างความเสียหายที่สหราชอาณาจักรถึง 2 ลูกแล้ว ซึ่งพายุลูกแรกมีชื่อว่า Aileen…
-
ชายหาดไอร์แลนด์ ที่หายไปเมื่อ 12 ปีก่อน กลับมาปรากฎอีกครั้งภายในช่วงเวลาเพียงข้ามคืน
ลองนึกภาพเราไปเที่ยวทะเล แล้วไปเล่นน้ำกับเพื่อนกันสนุกสนานบนหาดทรายสีขาวโพลน หรือจะเป็นการนอนอาบแดดสำหรับคนรักผิวแทนก็คงจะดีไม่น้อย ซึ่งหากนึกภาพตามก็คงมีความสุขอย่างเปี่ยมล้นเลยเลยทีเดียว แต่จะเป็นอย่างไร ถ้าหากเราตื่นมาแล้วพบว่าชายหาดที่เราเล่นสนุกเมื่อวันวาน กลับหายไปอย่างไร้ร่องรอย ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้ได้เกิดขึ้นจริงบนโลกของเรา ซึ่งสถานที่นั้นคือชายหาดแห่งหนึ่งในประเทศไอร์แลนด์ ชายหาดแห่งหนึ่งบริเวณอ่าว Ashleam ตั้งอยู่ที่เกาะ Achill ประเทศไอร์แลนด์ อยู่ดีๆ ก็หายไปอย่างไร้ร่องรอยตั้งแต่ปี 2005 ซึ่งก็รวมเวลาจนถึงตอนนี้ได้ทั้งหมด 12 ปี ก่อนที่มันจะกลับมาด้วยวิธีการเดียวกับที่มันได้จากไป และนั่นได้ทำให้ชาวบ้านบริเวณนั้นถึงกับฉลองให้กับการกลับมาของมันเลย หาดที่หายไปตั้งแต่ปี 2005 สาเหตุที่หาดแห่งนี้หายไป ก็เป็นเพราะว่าพายุได้นำเอาหาดทรายสีขาวบริสุทธิ์ไป และนำเอาหินต่างๆ เข้ามาแทนที่ ซึ่งหาดอื่นๆ บนเกาะแห่งนี้ก็เคยเป็นมาเหมือนกัน ยกตัวอย่างเช่นชายหาด Doonagh ที่อยู่ห่างจากหาด Ashleam เพียง 10 กิโลเมตรก็ได้หายไปตั้งแต่ปี 1984 และเพิ่งจะกลับมาในต้นปีนี้เอง ทำให้เห็นว่าสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นปกติของธรรมชาติ ชาวบ้านต่างดีใจที่ชายหาดแห่งนี้ได้กลับมา หาด Ashleam เป็นหาดที่ชาวบ้านผูกพันเป็นอย่างมาก เพราะว่าก่อนที่มันจะถูกพายุเอาไป มันมีความสวยงามอย่างหาที่เปรียบมิได้สำหรับคนในพื้นที่ และในตอนนี้มันก็ได้กลับมาและได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจากชาวบ้าน การกลับมาของชาวหาดนี้เกิดขึ้นจากพายุฤดูร้อน Brian ได้พัดผ่านและนำเอาหินต่างๆ ออกไป และแทนที่ด้วยเม็ดทรายอันแสนงดงาม ความสวยงามของหาดแห่งนี้ ตามตำนานของชาวบ้านที่นั่นกล่าวเอาไว้ว่า…
-
วิถีของนักเรียนไซบีเรีย ฝ่าลมหนาวรุนแรงเดินกลับบ้าน ในวันที่โรงเรียนปิดเพราะพายุ…
เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2017 ที่ผ่านมา สำนักข่าว Siberian Time ได้เผยแพร่วิดีโอเหตุการณ์ขณะที่นักเรียนจากหมู่บ้าน Russkoye Ustye เมือง Yakutia ประเทศรัสเซียกำลังฝ่าพายุกลับบ้านหลังจากที่ทราบว่าโรงเรียนปิด สาเหตุที่โรงเรียนต้องหยุดทำการเรียนการสอนในวันนั้นเนื่องจากว่ามีพายุถล่ม ทำให้อุณหภูมิต่ำสุด -44 องศาเซลเซียส คลิปวิดีโอเหตุการณ์ขณะที่นักเรียนกำลังฝ่าพายุกลับบ้าน จากคลิปวิดีโอจะเห็นได้ว่าเหล่านักเรียนนั้นพยายามจะเดินเกาะกันเป็นกลุ่มฝ่าพายุลมที่มีกำลัง 108 กิโลเมตรต่อชั่วโมง นักเรียนเดินกันเป็นกลุ่มและตะโกนบอกให้จับมือกันไว้ ระมัดระวังตัว และอย่าตกลงไป พายุที่พัดผ่านประเทศรัสเซีย พายุที่รุนแรงทำให้โรงเรียนและสถานที่ทำงานแต่ละแห่งประกาศหยุดทำการชั่วคราว จนกว่าสภาพอากาศจะกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง ที่มา siberiantimes
-
ชาวสวนอึ้ง!! เห็นแอปเปิ้ลนับหมื่นลูกหล่นเกลื่อนกลาด หลังจากถูกพายุเฮอร์ริเคนถล่ม
ถึงแม้ว่าพายุนั้นจะสร้างความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรและทำลายพืชผลทางการเกษตรอย่างมาก เพราะหลังจากที่พายุจากไปนั้นมักจะทิ้งไว้เพียงแค่ซากของพืชผลต่างๆ แต่ภาพของผลแอปเปิ้ลนับหมื่นลูกที่ร่วงลงในสวนผลไม้แห่งหนึ่งของเมืองทิปเปอร์แรรี ประเทศไอซ์แลนด์ หลังจากที่ถูกพายุเฮอร์ริเคน Ophelia กลับดูแตกต่างจากภาพหลังจากการพัดถล่มของพายุทั่วๆ ไป เพราะพื้นที่ส่วนมากของสวนแห่งนี้เต็มไปด้วยสีเหลืองและสีแดงของลูกแอปเปิ้ลดูสวยงามและน่าทึ่งอย่างมาก และนี่คือภาพของสวนแห่งนี้หลังจากที่ถูกพายุพัดถล่ม พายุเฮอร์ริเคน Ophelia นั้นได้พัดเขาถล่มพื้นที่การเกษตรหลายพื้นที่ และหลังจากที่มันจากไป เกษตกรเจ้าของไร่แอปเปิ้ลแห่งนี้ก็ต้องถึงกับตกใจมาก หลังจากที่เขาได้เห็นลูกแอปเปิ้ลที่ร่วงลงมานั้นเรียงตัวกันอย่างเป็นระเบียบ แอปเปิ้ลเหล่านี้กำลังจะถูกเตรียมไว้สำหรับจำหน่ายให้กับบริษัท C&C Group เพื่อใช้ในการผลิตน้ำแอปเปิ้ลไซเดอร์ยี่ห้อ Bulmers Irish cider ซึ่งตอนนี้ทางบริษัทเองกำลังหารือกับเกษตกรเพื่อหาทางจัดการกับแอปเปิ้ลที่ร่วงเหล่านี้ “พวกเรากำลังร่วมมือกับเกษตรกรเพื่อให้แน่ใจว่าแอปเปิ้ลเหล่านี้มีคุณภาพเพียงพอและเหมาะสำหรับนำไปผลิตสินค้าของเรา” ตัวแทนจากบริษัท C&C กล่าว และนี่คือภาพมุมสูงของสวนแอปเปิ้ลแห่งนี้ พายุเฮอร์ริเคน Ophelia นั้นมีความเร็วลมมากกว่า 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มันได้เข้าทำความเสียหายในหลายๆ พื้นที่ของเกาะอังกฤษ และตอนนี้มีรายงานผู้เสียชีวิตในประเทศไอซ์แลนด์จากพายุลูกนี้แล้วถึง 3 ราย ที่มา dailymail
-
Ziggy เจ้าตูบพี่เลี้ยงสุดเข้ม ผู้ไม่ยอมละสายตาจากเจ้านายน้อย ตลอดการเดินทางไกล…
สุนัข เป็นสัตว์ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความซื่อสัตย์ หลายๆ ครั้งที่เรามักจะเคยได้ยินวีรกรรมเกี่ยวกับการปกป้องเจ้านายของเหล่าเจ้าตูบ และสำหรับเจ้า Ziggy เองก็เช่นกัน เมื่อมันคอยดูแลเจ้านายตัวน้อยของมันอย่างไม่ละสายตาเลย!! เรื่องราวอันน่าประทับใจของเจ้าตูบตัวนี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากที่บ้านของมันและเจ้านายที่อยู่ทางใต้ของรัฐฟลอริดา กำลังจะเผชิญกับพายุเฮอร์ริเคนเออร์มา ตามการรายงานของพยากรณ์อากาศ ทางครอบครัวตัดสินใจย้ายออกจากบ้านของพวกเขาที่รัฐฟลอริดา ก่อนที่จะมุ่งหน้าไปยังรัฐเทนเนสซี และแล้วเรื่องราวสุดน่ารักของเจ้า Ziggy ก็เกิดขึ้นระหว่างการเดินทางอันแสนยาวนานในครั้งนี้ ทางครอบครัวเตรียมขนข้าวของทุกอย่างขึ้นรถ โดยมีเจ้า Ziggy และสุนัขตัวอื่นๆ นั่งไปในรถกับพวกเขาด้วย การจากบ้านไปทางตอนเหนืออาจจะเป็นเรื่องที่ทำใจลำบากสำหรับครอบครัวนี้ แต่ความปลอดภัยของชีวิตครอบครัวนั้นก็สำคัญไม่แพ้กัน ภายในรถมีสมาชิกทั้งหมด 3 คนและอีก 3 ตัว โดยมีคุณ Nick เป็นคนขับรถ และมีเจ้าตูบอีก 2 ตัวนั่งเป็นเพื่อนคนขับ ส่วนที่เบาะหลังมีเจ้า Ziggy และคุณ Dezzy แม่ของเจ้าหนูน้อย Arabella นั่งด้วยกัน เจ้า Ziggy กับเจ้านายน้อยของมัน การเดินทางไกลครั้งนี้อาจจะเป็นครั้งแรกของเจ้าตูบ มันดูมีอาการตื่นเต้นเล็กน้อย และพวกเขาก็ค่อนข้างกังวลว่าเจ้าตูบอาจจะไม่คุ้นเคยกับสมาชิกใหม่ก็ได้ “เจ้า Ziggy นั้นเป็นลูกสุนัขและเราก็ไม่เคยเห็นมันเข้าใกล้กับลูกสาวของพวกเรามาก่อน และเราก็มีความกังวลนิดหน่อยว่ามันอาจจะไม่คุ้นเคยกับเธอ แต่ว่าเมื่อรถเคลื่อนตัวออกไปกลับไม่เป็นอย่างนั้น มันคอยดูแล Arabella ตลอดทางเลย” คุณ Nick กล่าว …
-
ชาวบ้านงง พบสิ่งมีชีวิตประหลาดขึ้นมาเกยตื้นบนชายหาดเท็กซัส หลังถูก ‘ฮาร์วี่ย์’ ถล่ม
เรียกได้ว่าพายุเฮอร์ริเคน ‘ฮาร์วี่ย์’ เป็นอีกหนึ่งในภัยพิบัติทางธรรมชาติที่รุนแรงที่สุด เท่าที่เคยมีมา แน่นอนว่าภาพที่เราเห็นบ่อยๆ คือสภาพบ้านเมืองที่ถูกซัดกระหน่ำจนไม่เหลือแค่เศษซาก แต่นอกเหนือจากความสูญเสีย ก็ได้เกิดเหตุการณ์แปลกๆ ขึ้น เมื่อมีชาวเมืองคนหนึ่งได้โพสต์ภาพสิ่งมีชีวิตหน้าตาแปลกประหลาดลงบนทวิตเตอร์ โดยอ้างว่าพบมันมาเกยตื้นบนชายฝั่ง Texas City ลักษณะตัวใหญ่ยาว มีฟันแหลมคม และไม่มีตา หลังจากที่มีชาวเน็ตได้นำภาพดังกล่าวเผยแพร่ลงบนโลกโซเชียล สิ่งมีชีวิตสุดแปลกนี้ก็ได้สร้างเสียงฮือฮาให้ผู้คนไปทั่วเมือง เพราะเป็นสิ่งที่ไม่เคยมีใครเห็นมาก่อน Preeti Desai ผู้เชี่ยวชาญจากองค์กร National Audobon Society ได้ออกมาให้ข้อมูลสันนิษฐานถึงสิ่งมีชีวิตสุดแปลกนี้ว่า “ภาพแรกที่เห็นจากประสบการณ์ที่ผ่านมา ผมคิดว่ามันน่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ใต้ท้องทะเลลึก ตอนแรกดูไกลๆ ผมคิดว่าเป็นปลาแลมป์เพรย์ แต่พอไปเห็นใกล้ๆ แล้วผมว่ามันไม่ใช่เลย ลักษณะปากของมันดูแตกต่างออกไปมากๆ” ทางด้านของนักชีววิทยา ก็ได้ออกมาให้ข้อสันนิษฐานว่า ดูจากลักษณะแล้วน่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตประเภทเดียวกับกลุ่มปลาไหล ซึ่งผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าข้อสันนิษฐานที่น่าเป็นไปได้มากที่สุด คือมันเป็นตัว ปลาไหลเขี้ยวงู (Fangtooth Snake-Eel หรือ Tusky Eel) ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตหายากที่อาศัยอยู่ตามชายฝั่งของประเทศเม็กซิโก ทีมสำรวจหลายฝ่ายพยายามพลิกคว่ำพลิกหงายศพมันอยู่หลายรอบ เพื่อจะพิสูจน์ว่าจริงๆ แล้วมันคือตัวอะไรกันแน่ ถ้าหากมันเป็นปลาไหลเขี้ยวงูจริงละก็ ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า..…
-
มาดูกันว่า “พายุ” แต่ละลูกที่เคยเกิดขึ้นบนโลก มันยิ่งใหญ่และรุนแรงขนาดไหน
ช่วงนี้เพื่อนๆ คงได้ยินข่าวพายุเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์และเออร์ม่าที่ได้เข้าโจมตีหลายๆ ประเทศในช่วงที่ผ่านมากันไปแล้ว จนสร้างความเสียหายมูลค่านับไม่ถ้วน แล้วเราเคยรู้กันบ้างหรือเปล่าว่าเจ้าพายุที่เกิดขึ้นในแต่ละครั้ง มีขนาดและความรุนแรงขนาดไหน เมื่อเทียบกับที่เคยเกิดขึ้นมาบนโลกของเราทั้งหมด แชนแนลยูทูปที่มีชื่อว่า Reigarw Comparisons ก็ได้ออกมาให้คำตอบ และเรียงลำดับให้เราดูกันไปเลย ว่าพายุที่ใหญ่ที่สุด มันจะซักแค่ไหนกันเชียว ดูจากด้านบนเริ่มจากขนาดเล็กที่สุดคือพายุโซนร้อน Marco เส้นผ่านศูนย์กลางอยู่ที่ 37 กิโลเมตร นับว่าอยู่ในกลุ่มที่ 1 ทำได้เพียงแค่ ถอนรากต้นไม้เล็กๆ ส่วนเฮอร์ริเคน Andrew ใหญ่สุดในรูปด้านบน เส้นผ่านศูนย์กลางยาว 300 กิโลเมตร เพิ่มขึ้นมาเกือบ 10 เท่า และอยู่ในระดับ 5 เป็นกลุ่มที่รุนแรงที่สุด สามารถยกรถบรรทุก ทำลายอาคารขนาดเล็ก และทำให้เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ได้ ทว่าที่น่ากลัวที่สุดในภาพนั้นคงเป็นไซโคลน Bhola แม้ว่าจะมีขนาดเล็กกว่า เส้นผ่านศูนย์กลาง แต่มันก็ได้คร่าชีวิตคนไปมากถึง 5 แสนคน ซึ่งสูงที่สุดที่เคยมีมาแล้ว ตอนนี้เราก็จะได้เห็นขนาดของเฮอร์ริเคน Harvey กันแล้ว เส้นผ่านศูนย์กลาง 400 กิโลเมตร…
-
นักโทษกว่า 100 คนในหมู่เกาะ British Virgin หนีออกจากคุกไปได้ หลังเฮอร์ริเคนเออร์มาเข้าถล่ม…
ณ เวลานี้สำหรับใครที่ได้มีโอกาสติดตามข่าวต่างประเทศอย่างใกล้ชิด คงจะทราบกันดีว่าในหลายๆ พื้นที่นั้นกำลังประสบกับภัยพิบัตรทางธรรมชาติอย่างพายุเฮอร์ริเคนอยู่ และหนึ่งในนั่นก็คือหมู่เกาะ British Virgin ด้วย นอกจากอาคารบ้านเรือนต่างๆ จะได้รับอันตรายแล้ว ยังมีอีกหนึ่งปัญหาใหญ่นั่นก็คือ หลังจากที่พายุเฮอร์ริเคนเออร์ม่าได้พัดเข้าถล่มหมู่เกาะ British Virgin คาดว่ามีนักโทษมากกว่า 100 คนที่อาศัยช่วงจังหวะที่เรือนจำได้รับความเสียหายหลบหนีออกไปได้!! จากการรายงานของ Sky News คาดกันว่านักโทษราวๆ 120 คนได้พากันหลบหนี โดยอาศัยเส้นทางของอาคารที่ได้รับความเสียหาย หลังจากที่พายุเฮอร์ริเคนดังกล่าวได้พัดเข้ามาที่เกาะ Tortola ทางด้านคุณ Paul Exner ผู้ประกอบกิจการด้านเรือสำราญที่อาศัยอยู่ในเกาะแห่งนี้ได้ให้สัมภาษณ์ว่า เหล่าผู้ต้องขังที่นั้นถูกคุมตัวด้วยเจ้าหน้าที่ติดอาวุธ แต่ดูเหมือนว่าจะมีจำนวนมากจนเจ้าหน้าที่ยอมปิดตาข้างหนึ่ง ปล่อยพวกเขาไป หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าวถูกแพร่กระจายออกไป จึงได้มีการส่งกองกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสหราชอาณาจักรไปยังในพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อเข้าไปจัดการและตามตัวของเหล่านักโทษกลับมา โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูง 2 นาย พร้อมกับกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 53 นาย จากสถานีตำรวจทั้ง 14 แห่ง ได้เดินทางออกจากสนามบิน Brize Norton เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาเพื่อไปสมทบกับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่แล้ว รายงานระบุเป็นการปิดท้ายว่าพายุเฮอร์ริเคนเออร์มา ที่พัดถล่มทะเลแถบแคริเบียนครั้งนี้ถือว่ามีความรุนแรงมากที่สุดอีกลูกหนึ่ง ซึ่งมูลค่าความเสียหายบนเกาะ British Virgin ครั้งนี้อยู่ที่ประมาณ 1 พันล้านปอนด์ หรือกว่า…
-
สปิริตแรงกล้า!! นักข่าวสาว CNN ยืนหยัดรายงานข่าว ท่ามกลางลมพายุจนตัวเกือบจะปลิว…
จะเป็นยังไงหากเราต้องไปยืนอยู่ในรัศมีของพายุเฮอร์ริเคนที่มีความรุนแรงอย่างมาก แน่นอนว่าหากเราไม่เคยเจอเข้ากับตัวเองคงยากที่จะพูดได้ แต่หากได้ดูคลิปนี้แล้วจะทำให้คุณเห็นภาพได้ดีขึ้นมากเลยแหละ เมื่อนักข่าวภาคสนามแห่งสำนักข่าว CNN ที่ชื่อว่า Sara Sidner ลงพื้นที่ไปยังชายหาดเดย์โทนา รัฐฟลอริด้า สถานที่ซึ่งกำลังรับผลกระทบจนทำให้ผู้คนต้องอพยพออกไป ผลกระทบดังกล่าวเกิดจากเฮอร์ริเคนเออร์มา ทำให้เกิดแรงลมที่โหมกระหน่ำ พัดพาเอาข้าวของต้นไม้ลอยไปคนละทิศละทาง และน้ำท่วมไปทั่วท้องถนนเพราะฝนที่ตกอย่างหนัก โดยในตอนที่เธอกำลังยืนทำข่าวอยู่ แรงลมและขนาดของเฮอร์ริเคนนั้นอยู่ในระดับที่ 2 จาก 5 ระดับ แต่ในคลิปวิดีโอสามารถเห็นได้เลยว่า ลมที่พัดเข้ามาทำให้เธอแทบจะยืนไม่อยู่เลยทีเดียว คลิปวิดีโอการลงภาคสนามของนักข่าว CNN ต้องขอบคุณเธอที่ลงทุนลงแรงไปยังสถานที่จริง พร้อมทั้งกล่าวเตือนทุกคนให้ระวังอุบัติเหตุ หากว่ายังอยู่ใกล้กับพื้นที่ของพายุ แต่ถึงอย่างไรก็ตามกระแสตอบรับของผู้ชมที่ตอบกลับมาก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก เพราะหลายคนมองว่าการให้นักข่าวต้องไปเสี่ยงชีวิตขนาดนี้ มันเป็นอะไรที่มากจนเกินไป ชาวเน็ตจึงได้ออกมาคอมเม้นท์กันในทำนองไม่ค่อยเห็นด้วย “ฝากถึง CNN นักข่าวของคุณไม่จำเป็นต้องทำขนาดนี้ ช่วยบอกให้พวกเขาหยุดทีเถอะ และหวังว่าจะไม่ได้ทำไปเพราะเรตติ้งของช่องหรอกนะ ให้พวกเขาได้อยู่ด้านใน เรารู้แล้วว่าลมมันแรงขนาดไหน” “ฉันเพิ่งดูคลิปนี้จบและอยากจะบอกเลยว่า นักข่าวคนนี้โหดมาก พวกเขาสมควรที่จะได้รับสิ่งตอบแทนที่ดีกว่าเมื่อทำอย่างนี้น่ะหรอ? ฉันไม่คิดว่าอย่างนั้นนะ” “ทำไมเธอต้องถูกพาไปเสี่ยงอันตรายอย่างนี้ด้วย!?? เธอยังสามารถที่จะรายงานข่าวได้ แม้ว่าไม่ต้องออกไปอยู่ท่ามกลางสถานการณ์แบบนี้” เพียงแค่ยกมือขึ้น ตัวก็แทบจะปลิวไปตามแรงลมแล้ว… ที่มา: CNN
-
งี้ก็มี!? หนุ่มเมกันผุดกิจกรรม ‘กระหน่ำปืนใส่เฮอร์ริเคน Irma’ หวังไล่ให้มันออกไปไกลๆ..!!
อาจจะเป็นธรรมเนียมของชาวเมกันก็ได้นะ ที่แบบว่า… ถ้าไม่ชอบใจอะไรซักอย่างแล้ว ก็ยิงแม่มเลยล่ะกัน!! เช่นเดียวกับพายุเฮอร์ริเคน Irma ที่กำลังจะเข้ามาพัดถล่มหมู่เกาะและชายฝั่งในรัฐฟลอริดา จนทำให้ล่าสุดทางการต้องสั่งอพยพชาวเมืองกว่า 5,600,000 คน อย่างเร่งด่วนที่สุด แน่นอนว่าไม่มีใครชอบหรอก.. ที่จู่ๆ จะมีฟ้าฝนลมแรงมาพัดบ้านเราพังไปทั้งหลัง ด้วยเหตุนี้หนุ่มเฟี้ยววัย 22 ปี Ryon Edwards ผู้อาศัยอยู่ในฟลอริดามาตั้งแต่เด็กจนโต รู้สึกว่าเขาต้องทำอะไรซักอย่างเพื่อปกป้องบ้านเมืองของตัวเอง แต่ตัวเองไม่มีพลังวิเศษ… งั้นก็เอาปืนมายิงใส่แบบสไตล์อเมริกันคาวบอยเลยละกัน Ryon ได้สร้างอีเวนท์ ‘Shoot At Hurricane Irma’ บนเฟซบุ๊ก และถูกอกถูกใจชาวเมืองจนมีคนกดติดตามเข้าร่วมด้วยมากกว่า 50,000 คน อันที่จริงแล้วในช่วงเวลาที่ชาวเมืองทุกคนต่างเร่งรีบอพยพหนีภัยจากพายุแบบนี้ คงไม่มีใครมายืนยิ้มยิงปืนใส่พายุหรอกจริงมั้ย? แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีคนเอาปืนออกมาเล็งใส่พายุจริงๆ หรอกนะ… Ryon ให้สัมภาษณ์กับ BBC ว่า “ด้วยพลังแห่งความเครียดผสมกับความเซ็งและเบื่อหน่าย ผมเลยจัดกิจกรรมนี้ขึ้นมาซะเลย แถมผลตอบรับนี่โคตรจะเซอร์ไพรส์สุดๆ ไปเลยครับ ตอนแรกผมก็ไม่คิดหรอกว่าจะมีคนบ้าเอาปืนมาเล็งใส่พายุกันจริงๆ เราก็แค่อยากเกรียนไปเล่นๆ แค่นั้น เอาไปเอามากลายเป็นเรื่องจริงจังเฉยเลย” มีหนุ่มฟลอริด้าคนหนึ่ง……
-
ทีมวิจัยส่งเครื่องบินเข้าใจกลาง ‘พายุเฮอร์ริเคนเออร์มา’ เผยให้เห็นความสงบแบบที่หลายคนยังไม่รู้…
‘พายุเฮอร์ริเคน’ ถือเป็นอีกหนึ่งภัยพิบัติทางธรรมชาติที่มีความร้ายแรงมากที่สุดเลยก็ว่าได้ ด้วยแรงลมที่มีความรุนแรงจนสามารถพัดพาทุกอย่างลอยขึ้นไปบนอากาศได้อย่างง่ายดาย โดยส่วนใหญ่แล้วเรามักจะเคยเห็นหรือรับรู้กันดีว่ารูปร่างหน้าตาภายนอกของพายุนั้นมีหน้าตาคล้ายๆ กับทรงกรวย แต่มีน้อยคนนักที่จะเคยได้เห็นส่วนที่เป็นใจกลางของมัน สำหรับวันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปชมกันว่าภายในใจกลางของพายุเฮอร์ริเคนนั้นมันจะมีหน้าตาเป็นอย่างไรกันนะ? จะมีข้าวของเครื่องใช้เศษหินเศษดินอยู่เต็มไปหมดเลยรึเปล่า? หรือมีแต่ภาพมัวๆ ไม่เห็นอะไรเลย…วันนี้เราจะได้ทราบไปพร้อมๆ กัน ทีมนักล่าพายุขององค์การบริหารสมุทรศาสตร์และบรรยากาศแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (National Oceanic and Atmospheric Administration) ได้ทำการขับเครื่องบินเข้าไปยังใจกลางของพายุเฮอร์ริเคนเออร์มา ที่กำลังเข้าถล่มประเทศสหรัฐอเมริกาอยู่ในขณะนี้ โดยมีจุดประสงค์ก็เพื่อเก็บข้อมูลนำไปทำงานวิจัย และนำข้อมูลที่เก็บได้นั้นไปศึกษาซึ่งมันสามารถคาดเดาทิศทางการเดินของของพายุเฮอร์ริเคนได้ ทำให้สามารถเตรียมการรับมือได้อย่างทันท่วงที เราอาจจะคิดว่าการขับเครื่องบินฝ่าพายุลมแรงเข้าไปยังใจกลางเป็นอะไรที่บ้าระห่ำมาก แต่พอเข้าไปถึงใจกลางพายุเฮอร์ริเคนแล้วกลับพบว่ามันน่าเหลือเชื่อจริงๆ เพราะมันช่างแตกต่างกับภาพภายนอกที่ดูน่ากลัวและรุนแรง แต่กลับกันมันดันดูสงบ และงดงามอย่างบอกไม่ถูกเลยล่ะ ลองไปชมคลิปเหตุการณ์กันแบบเต็มๆ ที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า…. แถม…นี่เป็นคลิปวิดีโอของพายุเฮอร์ริเคนเออร์มา ที่ถ่ายจากดาวเทียมของ NASA พอได้เห็นแล้วมันช่างยิ่งใหญ่เสียจริงๆ และสาเหตุที่ทำให้ใจกลางของพายุเฮอร์ริเคนดูสงบและงดงาม นั่นก็เป็นเพราะว่าตรงจุดศูนย์กลางหรือ ‘ตา’ ของพายุนั้นจะเป็นส่วนที่มีลมเบามากที่สุดและเป็นจุดกำเนิดของลม ซึ่งถ้าหากไม่มีจุดศูนย์กลางที่ว่านี้ก็จะทำให้พายุเฮอร์ริเคนไม่สามารถก่อกำเนิดขึ้นมาได้ โดยปกติแล้วแรงลมที่พัดวนอยู่รอบตาพายุนี้ก็จะมีอุณหภูมิสูงและมีความหนาแน่น ซึ่งมันจะก่อสร้างเป็นเสมือนกำแพงขึ้นมาเพื่อปกป้องตาพายุ และพื้นที่นี้เองก็จะเป็นพื้นที่ที่มีความสงบ ท้องฟ้าจะเป็นสีฟ้าใส สามารถมองเห็นดวงอาทิตย์ได้อย่างชัดเจน…
-
18 ภาพที่จะเผยให้เห็นว่า “พายุเฮอร์ริเคนเออร์มา” สร้างหายนะให้กับมนุษย์ได้มากแค่ไหน…
พายุเฮอร์ริเคนเออร์มา ถือเป็นอีกหนึ่งภัยธรรมชาติที่ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อมนุษย์ โดยพายุดังกล่าวเป็นพายุลูกใหญ่ และมีความร้ายแรงกว่าพายุเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์หลายเท่าตัว!! และเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ทางสื่อต่างประเทศมีรายงานว่า พายุเฮอร์ริเคนเออร์มา ได้มุ่งหน้าไปยังทะเลแคริบเบียน เข้าสู่เกาะประเทศแอนติกา บาร์บูดา ในมหาสมุทรแอตแลนติก และหมู่เกาะบริติชเวอร์จิน ที่มีกำลังแรงที่สุดที่เคยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ผู้คนนับล้านกลายเป็นคนเร่รอน และไร้ที่อยู่อาศัย เนื่องจากพายุลูกนี้ได้สร้างความเสียหายอย่างหนัก จนทำให้ผู้คนไม่มีน้ำ ไม่มีไฟใช้ โดยล่าสุดมีรายงานว่า พบผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวแล้วอย่างน้อย 10 ราย วันนี้เราได้รวมภาพถ่ายความเสียหายที่เกิดขึ้นจาก “พายุเฮอร์ริเคนเออร์มา” มาให้ได้รับชมกัน ว่าแล้วก็มารับชมกันเลย 1.ผู้คนได้พากันอพยพสัตว์เลี้ยงของพวกเขา 2.ภาพก่อนและหลังการเกิดเหตุพายุลูกใหญ่ในหมู่เกาะบริติชเวอร์จิน 3.อ่าว Paraquita ก่อนและหลังเกิดเหตุ 4.บรรดาน้องหมาที่มาหลบภัยอยู่ใต้ต้นไม้ ที่รัฐโดมินิกัน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา 5.แนวชายฝั่งของเกาะเซนต์มาร์ติน ที่ได้รับความเสียหายจากพายุดังกล่าว หลังคาบ้านที่ปลิวออกจากตัวบ้าน และถูกพัดออกไปอยู่บนถนน 6.Beach Plaza Hotel บนเกาะเซนต์มาร์ติน ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักเช่นกัน 7.ภาพความเสียหายของร้าน Popular Honky Tonk ในเมือง…
-
เอางี้เลยนะ!? ชาวมะกันตั้งแคมเปญ “หันพัดลมไปที่พายุ” ไล่พายุเฮอร์ริเคนออกไปไกลๆ!!
หลายๆ ครั้งที่ภัยพิบัติทางธรรมชาตินั้นทำให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบนั้นเกิดความเครียดและความกังวล แต่ดูเหมือนว่าชาวมะกันผู้นี้จะมีวิธีรับมือกับความเครียดเหล่านั้นได้ดีไม่น้อยเลยทีเดียว คุณ Joshua Stanaland เจ้าของแคมเปญสุดฮานี้ ได้สร้างกิจกรรมตลกๆ บนเฟสบุ๊กเพื่อเชิญชวนชาวอเมริกามาร่วมใจกันเปิดพัดลมพร้อมกันและเป่าพายุเฮริเคนให้ไปไกลๆ จากพื้นที่ของพวกเขา โดยกิจกรรมดังกล่าวเป็นที่นิยมอย่างมากและมีผู้สนใจเข้าร่วมถึง 4 หมื่นคนเลยทีเดียว!! มาช่วยกันเถอะพวกเรา!! โดยกิจกรรมดังกล่าวจะมีขึ้นในวันที่ 7 กันยายนนี้ที่สหรัสอเมริกา ซึ่งในคำอธิบายคุณ Joshua ได้อธิบายไว้ว่า “นี่ทุกๆ คน ออกไปนอกบ้านของพวกคุณและเปิดพัดลมเพื่อไล่พายุเฮอริเคนไอม่า และไล่มันออกไปจากอเมริกากันเถอะ แต่ถ้าใครไม่มีพัดลมจะใช้เครื่องเป่าลม หรือว่าปืนลม หรือไดร์เป่าผมอะไรก็ได้นะ วันเวลาอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม ปล. แต่เราจะไม่รับผิดชอบต่อปอดของคุณ ถ้าหากคุณเลือกใช้ปากเป่าลม” หลังจากนั้นเหล่าชาวมะกันที่จะเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวก็ได้เข้ามาคอมเม้นต์กันเป็นจำนวนมาก อย่างคนนี้บอกว่า เดี๋ยวเอาพัดลมทั้งบ้านไปช่วยเป่าเลย เดี๋ยวก่อน ถ้าเกิดพัดลมไปเพิ่มพลังให้เฮอร์ริเคนล่ะ จะทำไง? “ผมอาศัยอยู่ประเทศไทยแต่อยากร่วมด้วย ผมจะช่วยยังไงดี ผมมีพัดลมห้าตัว มันจะแรงพอมั้ยอ่ะ” ชาวเน็ตอีกท่านก็เข้ามาตอบว่า “ลองใช้เข็มทิศจัดตำแหน่งดูนะ พยายามให้ชัวร์ว่ามันจะไม่เป่ากันเอง” “โอเค เดี๋ยวผมจับพวกมันเชื่อมต่อกับ GPS จะได้ไม่เป่ากันเองจนเสียพลังงานไปโดยเปล่าประโยชน์” แต่ในขณะเดียวกัน ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครต้อนรับเจ้าเฮอริเคนไอม่านี้เลย จนมีชาวยุโรปการออกแคมเปญมาต้าน พร้อมกับบอกว่า…
-
เคราะห์ซ้ำกรรมซ้อน…อุทกภัยน้ำท่วมครั้งใหญ่เล่นงานหนัก นอกจากท่วมเมืองแล้วยังท่วมที่ลี้ภัยอีก
ผ่านไปกันเกือบหนึ่งสัปดาห์แล้วสำหรับภัยพิบัติที่เกิดขึ้นจากพายุฮาร์วีย์ นอกจากความรุนแรงยังไม่ลดลงแล้ว ความเสียหายต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อมก็ยังขยายวงกว้างออกไปเรื่อยๆ ยิ่งมีการแพร่ภาพศูนย์อพยพที่ถูกน้ำท่วมแล้ว ก็ยิ่งทำให้เราสลดใจในชะตากรรมของเพื่อนมนุษย์เหล่านี้ ล่าสุด น้ำที่ท่วมสูงทำให้ประชาชนจำนวนมาก ต้องทิ้งบ้านเรือนและย้ายเข้าไปอยู่ศูนย์หลบภัย แน่นอนว่าโดยปกติถ้าทางการให้ย้ายไปแบบนี้ เราก็คงอุ่นใจได้พอสมควรว่าเราจะปลอดภัยในศูนย์หลบภัยเหล่านั้น แต่ความเป็นจริงที่พุ่งเข้าหน้าชาวเท็กซัสกลับตรงกันข้ามกับสิ่งที่พวกเขาหวังไว้ ลองดูสภาพน้ำที่ท่วมเต็มพื้นที่ของ Bowers Civic Center ภายในก็มีทั้งเด็กและผู้ใหญ่อยู่รวมกันเต็มไปหมด ดูความแออัดชั้นบนนั่นสิ ที่แย่กว่าคือห้องน้ำก็ไม่สามารถใช้งานได้ เพราะน้ำเข้าไปยึดพื้นที่ไว้หมดแล้ว มีการเผยแพร่ภาพจากชาวเน็ตที่ชื่อ Valerie LaPoint-Kinlaw ซึ่งได้แสดงให้เห็นศูนย์หลบภัยที่ทางการได้เตรียมไว้ให้ ถูกน้ำที่เกิดจากพายุทะลักเข้ามา ทำให้หลายส่วนของศูนย์หลบภัยถูกปกคลุมไปด้วยน้ำ ไม่ว่าจะเป็นพื้นชั้นล่าง ห้องน้ำและอื่นๆ ล้วนเต็มไปด้วยน้ำ เราลองดูคลิปแบบเต็มๆ จากสถานที่เกิดเหตุกันดู ผู้คนกว่า 500 คนจะต้องอาศัยอยู่บนที่นอนที่สูงกว่าน้ำนิดหน่อย หรือไม่ก็ไปแออัดกันอยู่ข้างบนชั้นสโลป นอกจากนั้นน้ำยังไม่มีทีท่าจะลดในเร็วๆ นี้ จะมีแต่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเท่านั้น ศูนย์เฮอร์ริเคนแห่งชาติสหรัฐฯ ได้บอกกับประชาชนว่า พายุฮาร์วีย์จะเบาตัวลงในเร็ววันนี้อย่างแน่นอน วอนให้ประชาชนอยู่ในความสงบและรออีกหน่อยนั่นเอง… ที่มา metro
-
วินาทีระทึกขวัญของนักบินที่นำเครื่อง “ลงจอดฉุกเฉิน” ท่ามกลางพายุทอร์นาโดหลายลูก
ภาพเหตุการณ์ระทึกขวัญที่ถูกถ่ายจากสถานี Sochi filmed ทางตอนใต้ของประเทศรัสเซีย เผยให้เห็นวินาทีที่นักบินเครื่องเจ็ทกำลังพยายามนำเครื่องลงจอดท่ามกลางสภาพอากาศที่เลวร้าย เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เกิดเหตุการสภาพอากาศแปรปรวณขึ้นที่บริเวณชายฝั่งของทะเลดำ ในเหตุการณ์ดังกล่าวแสดงให้ภาพของ Water Spouts หรือกระแสน้ำวันที่ออกมาจากทะเลมากถึง 12 แห่ง เป็นเหตุให้นักบินต้องนำเครื่องลงจอดฉุกเฉินที่สนามบิน Anapa and Krasnodar เหตุการณ์พายุในครั้งนี้เป็นเรื่องที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ โดยสาเหตุของการเกิดนั้นมาจากมวลอากาศ 2 กลุ่มที่มีความเร็วแตกต่างกันเคลื่อนที่เข้าปะทะกัน ซึ่งส่วนมากแล้วเกิดจากสภาพอากาศอย่างเช่นพายุทอร์นาโด กระแสลมกรด (Jet Streams) เครื่องบินที่กำลังแล่นลงจอดฉุกเฉิน เพื่อหลีกเลี่ยงสภาพอากาศอันเลวร้าย และนี่คือคลิปวิดีโอการลงจอดของเครื่องบินลำดังกล่าวจากผู้เห็นเหตุการณ์ ภาพจากผู้โดยสารบนเครื่องบิน เผยให้เห็นถึงความเลวร้ายของสภาพอากาศภายนอก แต่อย่างไรก็ตามยังไม่มีการยืนยันว่าเป็นสถานะการณ์เดียวกันกับในคลิปวิดีโอหรือไม่ ภาพของพายุที่กำลังก่อตัวเหนือทะเลดำ ท่ามกลางความหวาดกลัวของผู้พบเห็นและผู้โดยสาร กัปตันต้องใช้ความสามารถอย่างสูงเพื่อนำเครื่องลงจอดฉุกเฉิน แต่โชคดีพวกเขาสามารถนำเครื่องลงจอดได้อย่างปลอดภัย ซึ่งโดยปรกติแล้วการเกิดสภาพอากาศแปรปรวนนี้เป็นสาเหตุของการเกิดหลุมอากาศ แต่อย่างไรก็ตามความรุนแรงและความแปรปรวนก็ทำให้เกิดความแตกต่างของชนิดหลุมอากาศเช่นกัน ทางด้านกัปตัน Steve Allright จากสายการบิน British Airways ได้ออกมาเปิดเผยว่าหลุมอากาศนั้นจะมีหลายประเภท ปรกติแล้วมันจะเกิดขึ้นจากสภาพอากาศที่สดใสซึ่งเป็นหลุมอากาศที่พวกเรามักเจอกันบ่อยๆ และไม่มีอันตราย แต่กระแสลมกรดนั้นจะเป็นสภาพอากาศที่รุนแรง ซึ่งนักบินมักจะวางแผนเส้นทางบินก่อนหน้าเพื่อหลีกเลี่ยง แต่อีกปัญหาของกระแสลมกรดก็คือมันมักจะทำให้เกิดมวลน้ำขึ้นมาในบริเวณที่มีความแตกต่างของความเร็วลมนั่นเอง ที่มา dailymail
-
ประมวลภาพเหตุการณ์เฮอร์ริเคน Harvey ที่สร้างความเสียหายจำนวนมากแก่รัฐเท็กซัส
เป็นเวลานานหลายปีแล้วที่อเมริกาไม่ได้เผชิญหน้ากับพายุลูกใหญ่แบบนี้ สำหรับเฮอร์ริเคน Harvey นั้นนับว่าเป็นพายุลูกใหญ่ที่สุดในรอบ 12 ปีเลยก็ว่าได้ที่สร้างความเสียหายอย่างหนักให้แก่ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งรัฐเท็กซัสถือเป็นรัฐที่ได้รับผลกระทบจากพายุครั้งนี้มากที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะหลังจากเหตุการณ์เฮอร์ริเคนพัดถล่มเมื่อวันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา ก็สร้างความเสียหายเป็นอย่างมาก และยังทำให้เกิดน้ำท่วมสูงมากกว่า 1 เมตร พายุดังกล่าวเริ่มต้นด้วยความแรงระดับ 4 และลดลงเหลือระดับ 3 ในระยะเวลาต่อมา ตอนนี้ยังไม่มีการประมาณการความเสียหายทั้งหมด แต่ภาพความเสียหายจากพื้นที่ทั้งหมด โดยเฉพาะเมืองฮูสตัน ได้ถูกปล่อยออกมาเป็นระยะๆ ทั้งจากทางสื่อเองและประชาชนเอง และนี้ก็คือภาพเหตุการณ์ที่ได้ถูกเผยแพร่ออกมา ซึ่งมันแสดงให้เห็นถึงความยากลำบากที่คนที่ได้รับผลกระทบต้องเจอ ซึ่งมันโหดร้ายมากๆ เพียงแค่สีหน้าของผู้คน รวมถึงสุนัขในอ้อมกอดก็สามารถบอกเล่าความรู้สึกได้อย่างดี แม้แต่ม้าก็ยังต้องหนีน้ำที่พัดเข้ามา น้ำที่ท่วมไปทั้งตัวเมือง สะพานที่เคยอยู่เหนือน้ำก็มาอยู่ในระดับเดียวกัน ภาพของเด็กชายที่น้ำท่วมเข้ามา ยังคงกอดตุ๊กตาของเขาไว้ รันเวย์สนามบินที่ท่วมจนไม่เห็นพื้น แม้จะมีเรือก็ยังยากที่จะผ่านพายุนี้ไป แม้รถจะหรู แต่ก็มิอาจจะหนีพ้นภัยธรรมชาติครั้งนี้ได้ ฝนที่ยังคงตกต่อเนื่องเป็นเวลานาน มดที่เกาะกันเป็นแพเพื่อเอาชีวิตรอดและช่วยมดราชินี ภาพสุดเศร้าของบ้านพักคนชราที่ต้องรอคนเข้ามาช่วย ถนนที่เข้าสู่เมืองก็ถูกน้ำท่วมจนมิดมองไม่เห็นแม้แต่ถนน…
-
เจ้าหมาลี้ภัยพายุในเท็กซัส พร้อมหิ้วถุงอาหารดูอุ้ยอ้ายน่ารัก ถูกอกถูกใจชาวเน็ตกันยกใหญ่..!!
ท่ามกลางพายุเฮอร์ริเคนฮาร์วี่ ที่โถมกระหน่ำเข้าใส่บ้านเมืองในรัฐเท็กซัส ได้มีเรื่องราวต่างๆ เกิดขึ้นมากมายทั้งเรื่องราวการช่วยเหลือกันซึ้งๆ ของเพื่อนมนุษย์และสัตว์โลก หรือจะเป็นเรื่องน่ารักๆ แบบเจ้าตูบตัวนี้ นี่เป็นเรื่องราวของเจ้า Otis สุนัขสายพันธุ์เยอรมันเชฟเพิร์ดที่กลายเป็นกระแสไวรัลโด่งดังไปทั่วรัฐเท็กซัส เมื่อจู่ๆ วันหนึ่งมันก็หายไปจากบ้านอย่างไร้ร่องรอย นี่คือเจ้า Otis เรื่องราวทั้งหมดมันมีอยู่ว่า ก่อนหน้านี้เจ้า Otis เป็นสุนัขเพื่อนรักของหนูน้อยวัย 5 ขวบ Segovia ทว่าหลังจากที่เกิดเหตุพายุเฮอร์ริเคนถล่ม จู่ๆ เจ้าตูบก็หายไปจากบ้านอย่างไร้ร่องรอย พวกเขาพยายามจะตามหาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ Salvador Segovia ให้สัมภาษณ์ว่า “จู่ๆ มันก็หายไปจากบ้านในคืนที่พายุพัดกระหน่ำ พออีกวันเราพยายามตะโกนตามหามันแต่เรียกเท่าไหร่ก็ไม่เจอ…” เจ้าตูบ Otis กับหนูน้อย แต่เจ้าหมาไม่ได้หายไปไหนไกล เพราะหลังจากนั้นไม่กี่วันก็มีชาวเน็ตโพสต์ภาพของเจ้า Otis คาบถุงอาหารเดินเตงๆ ไปทั่วเมือง ซึ่งหลังจากที่ชาวเน็ตได้โพสต์ภาพดังกล่าว ก็มีชาวเมืองแชร์ต่อออกไปอีกมากกว่า 6,000 ครั้ง จนทำให้เจ้าของสามารถตามตัวมันเจอได้ในท้ายที่สุด “ตอนนี้เจ้า Otis กลายเป็นคนดังไปซะแล้ว มันไปแดรี่ควีนได้ แถมมันยังไปสั่งเบอร์เกอร์กินเองได้ด้วยนะ และมันยังเป็นสุนัขตัวเดียวในเมืองที่สามารถไปนอนเล่นหน้าที่ว่าการได้ มันกลายเป็นหมาดังไปแล้วค่ะ” …
-
ชาวเมืองรู้สึกผวา หลังพายุเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์ถล่ม พัดพาจระเข้ออกมาป้วนเปี้ยนเต็มเมือง…
ภัยพิบัติตามธรรมชาติที่เกิดขึ้นมักจะมาคู่กับความรุนแรงก่อให้เกิดความสูญเสียในหลายๆ อย่าง เห็นได้ชัดสุดก็คือเหล่าต้นไม้ ตึกรามบ้านช่องที่ได้รับผลกระทบ แต่เฮอร์ริเคนฮาร์วีย์ ที่เกิดขึ้นในชายฝั่งรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา กลับมีอะไรที่เพิ่มขึ้นมามากกว่าการทำลายล้างเนี่ยสิ พายุเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์มีความรุนแรงมากที่สุดในรอบกว่า 10 ปีที่ผ่านมา เคลื่อนตัวเข้าโจมตีทำความเสียหายให้กับพื้นที่โดยรอบมากมาย ภาพความรุนแรงของเฮอร์ริเคน Harvey ที่ทำซะหลังคาปลิว และจากเหตุการณ์เคลื่อนตัวเข้าสู่ชายฝั่งก็ส่งผลทำให้เกิดน้ำท่วมอย่างหนักด้วย แต่สิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดนั้นก็ยังไม่ใช่สิ่งที่ผู้คนหวาดผวากันเท่ากับสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากพายุสงบลง เพราะเหล่ากองทัพจระเข้ได้ออกมาเดินเล่นป้วนเปี้ยนอยู่ตามท้องถนน หรือไม่ก็ซ่อนตัวกันอยู่ใต้รถบ้าง บางตัวก็อัธยาศัยดีแวะไปทักทายตามหน้าบ้านของผู้อยู่อาศัยในละแวกนั้นกันเลยทีเดียว ใครเจอแบบนี้เข้าไปในตอนแรกก็คงจะตกใจกันเป็นธรรมดา ทว่าพวกมันกลับไม่ได้น่ากลัวหรือเป็นอันตรายแต่อย่างใด เพราะพวกมันเพียงแค่หนีขึ้นที่สูงหลบน้ำท่วมเท่านั้นเอง ตัวแทนจากสำนักงานนายอำเภอมณฑล Fort Bend ได้ออกมาพูดว่า “คาดว่านี่เป็นการพลัดถิ่น เพื่อมองหาพื้นที่สูงเพียงเท่านั้น ก็ปล่อยให้มันอยู่ไปก่อนจนกกว่าน้ำจะลง” ทีมงานอนุรักษ์จระเข้ในเท็กซัสก็ได้โพสต์ลงในเฟซบุ๊กไว้ว่า “เป็นเรื่องที่รู้กันว่าพวกมันจะหาที่อยู่ในตอนน้ำท่วม แม้ว่าจะเป็นไปได้ยากกับที่มันมาอยู่ตามถนน ตามชานบ้าน หรือใต้รถของคุณ แต่มันก็ไม่ขึ้นมาเพื่อมองหาอาหารหรือมีอาการก้าวร้าว หากคุณปล่อยให้มันไดัพักและกลับสู่ภูมิลำเนาหลังจากที่น้ำลดแล้ว เราควรอยู่ห่างจากพวกมันประมาณซัก 10 เมตร และอย่าไปแหย่ทำให้มันตกใจกลัว หรือการจะพยายามย้ายที่มันก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ” . ความแตกตื่นตกใจกับสัตว์ที่เรามองว่าพวกมันดูโหดร้ายก็ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่หากว่ามันไม่ได้ทำร้ายหรือเบียดเบียนเรามากจนเกินไป ก็ถือซะว่าเป็นการถ้อยทีถ้อยอาศัยกันไปเถอะนะครับ…
-
10 อันดับความเสียหายจาก ‘ภัยพิบัติทางธรรมชาติ’ ที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์…
หนึ่งสิ่งที่มนุษย์ไม่สามารถควบคุมได้เลยนั่นก็คือ ภัยพิบัติทางธรรมชาติ ทำได้แค่เพียงคาดเดาที่ยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจน 100% ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ แต่อย่างน้อยๆ ก็เป็นการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายและคร่าชีวิตผู้คนก่อนที่จะสายเกินไป… ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ภัยพิบัติทางธรรมชาติต่างๆ เกิดขึ้นมานับครั้งไม่ถ้วนไม่ว่าจะเป็นพายุไซโคลน แผ่นดินไหว น้ำท่วม หรือโรคระบาดก็ตาม และวันนี้เราก็ได้รวบรวม 10 อันดับภัยพิบัติทางธรรมชาติที่คร่าชีวิตผู้คนมากที่สุดในประวัติศาสตร์มาฝากทุกคนกัน ซึ่งทั้ง 10 อันดับนั้นจะมีอะไรกันบ้างไปชมกันเลย 10. แผ่นดินไหวที่เมืองอะเลปโป ประเทศซีเรีย ปี 1138 แผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 ตุลาคมปี 1138 ในเมืองอะเลปโป ประเทศซีเรีย ซึ่งปัจจุบันคือเมืองฮาลับ โดยมีการบันทึกจำนวนผู้เสียชีวิตไว้ที่ 230,000 คน และนอกจากนี่ยังมีอาคารและสิ่งปลูกสร้างอื่นๆ ที่พังทลายไปพร้อมกับเหตุการณ์นี้ด้วย 9. แผ่นดินไหวที่เมืองถังชาน ประเทศจีน ปี 1976 แผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคมปี 1976 มีระดับความรุนแรงอยู่ที่ 7.8 แมกนิจูด พบจำนวนผู้เสียชีวิตมากถึง 240,000 คน และบาดเจ็บอีกกว่า 164,000 คน ซึ่งมีจุดศูนย์กลางมาจากรอยเลื่อนที่ยาวถึง…
-
กัปตันฮีโร่ พาเครื่องโดนลูกเห็บชนกระจกร้าวลงจอดได้ พร้อมคลิปจากห้องคนขับ ราวกับหนังฮอลลีวู้ด!!
ภัยพิบัติต่างๆ นั้นสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ จนในบางครั้งทำให้การใช้ชีวิตปกติของเราเป็นไปได้อย่างยากลำบากจนประสบอุบัติเหตุได้อย่างเหนือความคาดหมาย เมื่อกัปตัน Alexander Akopov จะต้องพาผู้โดยสารบนเครื่องบินจำนวนถึง 127 คนรวมลูกเรือ ลงจอดในสนามบิน Istanbul’s Ataturk Airport ซึ่งมันคงจะเป็นเรื่องที่ธรรมดามากหากว่าเครื่องบินลำนี้ไม่ได้รับความเสียหายจากพายุลูกเห็บจนทำให้ต้องสูญเสียการมองเห็น พายุที่เกิดขึ้นในช่วง 20 นาทีนั้นรุนแรงพอที่จะทำให้เมืองด้านล่างการจราจรติดขัด และเกิดน้ำท่วมฉับพลัน จนต้องทำให้เหล่ากู้ภัยกว่า 7,000 คนต้องออกไปทำงานอย่างหนักกับต้นไม้ที่โค่นลงมาถึง 230 ต้นทำลายไปอีก 90 หลังคาเรือน จากการที่เครื่องบอกสภาพอากาศนั้นไม่ได้แจ้งเตือนใด จึงทำให้กัปตันและผู้ช่วยไม่ได้รับรู้กับสิ่งที่จะต้องเจอ โดยลูกเห็บที่พุ่งเข้ามาชนนั้นมีขนาดประมาณไข่ไก่ แต่กลับหนาแน่นมาจนทำให้ส่วนหน้าและกระจกเครื่องบินได้รับความเสียหาย ลูกเห็บนั้นก็ทำให้ระบบการมองเห็นข้างหน้าโดยรอบนั้นสูญเสียไป กระจกในห้องคนขับที่แตกยับเยินไปหมด พร้อมกับสูญเสียระบบการขับเคลื่อนอัตโนมัติไปเสียอีก จึงมีหนทางเดียวที่ทำได้คือการลงจอดฉุกเฉินโดยให้กัปตันควบคุมด้วยตนเอง ต้องลงจอดด้วยตนเอง ทั้งๆ ที่ไม่สามารถมองเห็นด้านหน้าได้ ในขณะนั้นคงเปรียบได้กับสถานการณ์ในหนังฮอลลีวู้ดที่เราเคยเห็น เมื่อผู้คนเริ่มแตกตื่นกับสิ่งที่เกิดขึ้น พากันร้องไห้หรือตระหนกกับการที่จะเสี่ยงโหม่งโลก และมีกัปตันคนขับเครื่องบินคือที่เป็นความหวังเดียวของพวกเขา หลังจากลงจอดได้อย่างปลอดภัย มีผู้บาดเจ็บไม่ถึง 10 คนโดยสองคนในนั้นมีอาการสาหัส แต่ก็ไม่มีใครเสียชีวิต กัปตันได้ออกมาพูดว่าเขาและลูกเรือนั้นรู้สึกดีใจเป็นอย่างมากจนเหมือนกับได้เกิดขึ้นมาใหม่บนโลกนี้อีกครั้งเลยทีเดียว ทุกอย่างนั้นเกิดขึ้นในเวลาเพียงชั่วอึดใจ ทุกคนสามารถรอดชีวิตมาได้จากพายุที่โหมกระหน่ำอย่างรุนแรง แม้พายุจะดับความหวังของทุกคนไป แต่สุดท้ายความหวังก็จุดติดขึ้นมาใหม่จากประสบการณ์ของผู้ขับเครื่องบินที่กลายเป็นฮีโร่ของคนกว่าร้อยคนในชั่วพริบตา…
-
“เสื้อร่มกันฝน” นวัตกรรมใหม่ส่งตรงจากเมืองจีน แถมยังรับประกันว่ากันฝนได้ 100%!!
ช่วงนี้บ้านเราก็เข้าสู่หน้าฝนกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แถมยังโดนพายุโจมตีอย่างหนัก เรียกได้ว่าฝนนี่ตกกันทุกวันเลยทีเดียว แน่นอนว่ามันก็สร้างปัญหาให้คนมากมายพอสมควร.. แน่นอนว่าเราก็จะมีอุปกรณที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการลุยฝนมากมาย ซึ่งบางครั้งร่มหรือเสื้อกันฝนนั้นก็ไม่ค่อยตอบโจทย์เราสักเท่าไหร่นัก ด้วยเหตุนี้จีนจึงคิดค้นนวัตกรรมใหม่ออกมาเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคกันสักหน่อย กับเสื้อกันฝนที่รวมเข้ากันร่ม จนเกิดเป็นเสื้อร่มกันฝน… เจ้าร่มกันฝนนี้เกิดจากแนวคิดที่ว่า ทำไมเราถึงไม่เอาทั้งเสื้อกันฝนและร่มมารวมกัน ซึ่งพอทำจริงๆ ก็เกิดเป็นเจ้าสินค้าตัวนี้ขึ้นมา โดยตัวเสื้อร่มกันฝนนี้จะมีหน้าตาเป็นหมวกและมีส่วนที่เหมือนร่มอยู่ข้างล่าง ทีมออกแบบยังเคลมไว้ว่าเสื้อตัวนี้จะกันฝนได้ 100% เพราะมันจะทำหน้าที่เหมือนกับร่มที่ฝนจะไหลหลงด้านข้าง ไม่พอแค่นั้นทีมออกแบบยังบอกอีกว่า มันสะดวกสบาย ทำให้มือสองข้างสามารถทำอะไรต่อมิอะไรได้อีกเยอะแยะ ที่สำคัญไม่ต้องกลัวว่าลมแรงจะพัดมันปลิวไปไหนด้วย นอกจากนั้นตัวเสื้อร่มกันฝนยังมีสีและขนาดให้เลือกซื้อเลือกใช้มากมาย จะเด็กหรือผู้ใหญ่ก็ใช้ได้ใช้ดี สามารถหาซื้อได้ตามเว็บช็อปปิ้งออนไลน์ทั่วไปในจีนนั่นเอง สุดท้ายแล้วทางผู้ออกแบบยังเคลมปิดท้ายว่า เจ้าเสื้อร่มกันฝนนี้มันจะเข้าไปแทนที่ ร่ม กับ เสื้อกันฝน อย่างแน่นอน ซึ่งจะเป็นจริงหรือไม่นั้น เวลาเท่านั้นที่จะให้คำตอบกับเราได้… ที่มา odditycentral
-
หนุ่มสุดชิลตัดหญ้าขณะเกิดทอร์นาโด ให้สัมภาษณ์ “ไม่เป็นไร๊ ผมจับตาดูมันอยู่ครับ!!”
ต้องบอกว่าในบ้านเราถึงจะประสบกับภัยน้ำท่วมหรืออากาศร้อนมาก แต่ก็ไม่รุนแรงเหมือนภัยพิบัติในบางประเทศนะ อย่างพายุหิมะถล่ม หรือพายุทอร์นาโดที่ทำให้บ้านเรือนแทบไม่เหลือชิ้นดี อย่างเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2017 ที่ผ่านมาสำนักข่าวต่างประเทศได้รายงานว่าเกิดพายุทอร์นาโดขึ้นที่รัฐแอลเบอร์ตา ประเทศแคนาดา แต่ในระหว่างที่พายุทอร์นาโดกำลังก่อตัวและสร้างความหวาดผวาให้กับชาวเมืองในบริเวณโดยรอบ กลับมีพ่อหนุ่มรายหนึ่งกำลังตัดหญ้าอยู่ที่หลังบ้านแบบไม่สะทกสะท้านใดๆ ราวกับว่าเขาควบคุมสถานการณ์อยู่อย่างงั้นแหละ… ภาพนี้ถูกถ่ายได้โดยนาง Cecilia Wessels ในวันที่พายุเข้าโจมตีรัฐแอลเบอร์ตา เป็นภาพของ Theunis สามีของเธอขณะกำลังตัดหญ้าแบบชิลๆ โดยมีพายุลูกโตอยู่ด้านหลัง Cecilia เล่าว่าในวันนั้นสามีของเธอตั้งใจจะตัดหญ้าหน้าบ้านอยู่แล้วเธอเลยขอตัวเข้าไปงีบในบ้านสักพัก นี่คือภาพของนาย Theunis ขณะตัดหญ้าหลังบ้านชิลๆ แต่ระหว่างนั้นเธอก็ถูกปลุกโดยลูกสาววัย 9 ขวบ พร้อมกับบอกแม่ของเธอว่ามีพายุอยู่บนท้องฟ้า แต่พ่อยังคงตัดหญ้าอยู่หลังบ้าน นาย Theunis บอกว่าพายุลูกนั้นอยู่ไกลจากบ้านมากกว่าที่เราเห็นจากภาพถ่ายมาก และมันก็กำลังเคลื่อนตัวออกจากบ้านของพวกเขาจึงไม่มีอะไรต้องกังวลมากนัก Cecilia เล่าว่า “ฉันแค่อยากจะถ่ายภาพพายุทอร์นาโดส่งไปให้พ่อให้แม่ที่แอฟริกาใต้ดู แต่ทุกคนก็งงว่าทำไมสามีของฉันถึงยังตัดหญ้าอยู่?” Theunis บอกว่าพายุทอร์นาโดเป็นสิ่งที่พบเห็นได้ไม่บ่อยนักเมื่อตอนที่เขาอยู่แอฟริกา แต่เขาก็พอรู้จักบ้างผ่านรายการทีวี “มันดูเหมือนจะใกล้มากเลยนะถ้าดูจากรูป แต่มันอยู่ค่อนข้างไกลมาก คือก็ไม่ได้ไกลมากเท่าไหร่ แต่ก็ไกลจากพวกเราล่ะนะ ผมจับตาดูมันอยู่ตลอดเวลานั่นแหละ” หากใครนึกภาพไม่ออกว่ามันรุนแรงและน่ากลัวขนาดไหนลองไปชมคลิปกันดูนะ จากการรายงานข่าวในต่างประเทศบอกว่าไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้เลย ถือเป็นเรื่องที่โชคดีสำหรับชาวเมืองที่นี่จริงๆ…
-
ฮีโร่ตัวจริง!! หนุ่มออสซี่ตัดสินใจฝ่าพายุฝนพัดกระหน่ำ เพื่อเข้าไปช่วยชีวิตลูกแมวตัวน้อยออกมา
การตัดสินใจที่รวดเร็วและความกล้าหาญ เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างหนึ่งในการช่วยชีวิต เพราะถ้าหากช้าไปแค่วินาทีเดียวอาจนำไปสู่การสูญเสียได้ เหมือนกับเรื่องราวของพ่อหนุ่มออสเตเลียคนนี้ ที่การตัดสินใจอย่างเด็ดขาดและความกล้าของเค้า สามารถช่วยชีวิตลูกแมวน้อยเอาไว้ได้ เมื่อวันที่ 22 มีนาคมที่ผ่านมา พายุลูกใหญ่และรุนแรงได้เข้าพัดบ้านเรือนหลายแห่งในเมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ในระหว่างที่ครอบครัวของ Mat Dunsdon, Kylie Row และลูกสาวของพวกเขากำลังเดินทางกลับบ้านนั้น ได้บังเอิญพบเข้ากับลูกแมวตัวหนึ่งที่ตะเกียกตะกายออกจากสนามหญ้าที่เต็มไปด้วยน้ำ ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ทันได้นั้นภรรยาของเขาตัดสินใจหยุดรถ Mat รีบลงจากรถพร้อมกับร่มและฝ่าสายฝนออกไปช่วยเจ้าแมวน้อยตัวนั้น เขาตัวเปียกทันทีที่ลงจากรถด้วยความแรงของพายุทำให้ร่มไม่สามารถป้องกันน้ำฝนเอาไว้ได้ แต่ Mat ไม่สนใจเขายังคงมุ่งไปที่เจ้าแมวน้อยตัวนั้นเพื่อหวังที่จะช่วยมันให้ได้ เมื่อเขาได้ตัวมันจึงพาขึ้นรถเพื่อพาไปรักษาที่โรงพยาบาลสัตว์ คุณ Kylie บอกว่า “ถ้าเราไปช้ากว่านี้ 2 หรือ 3 นาทีเจ้าแมวที่น่าสงสารตัวนี้ไม่รอดแน่” ลองไปชมวินาทีที่ Mat ลงไปช่วยเจ้าแมวน้อยตัวนี้กัน มันเกือบจะต้องตายอยู่ในพายุแล้ว เนื่องจากอุณหภูมิของมันลดลงต่ำมากจนถึงขีดอันตราย สัตวแพทย์ต้องคอยอุ่มมันอยู่ในอ้อมแขนตลอดเวลาและหาผ้าห่มหนาๆ เพื่อเพิ่มความอบอุ่นให้กับมัน พวกเขาตั้งชื่อให้กับมันว่า Lilly และตอนนี้เจ้าเหมียวน้อยก็ตัวอุ่นขึ้น มันกำลังมีความสุขสุดๆ พวกเขาทำเสื้อกันหนาวตัวเล็กๆ ใส่ให้กับมันด้วยนะ หลังจากที่หายดีแล้วมันดูน่ารักและซนมาก…
-
ชาวออสซี่ถึงกับตะลึง หลังพายุไซโคลนพัด “ฉลาม” ปลิวมาตกบนฝั่ง จมโคลนกลางถนน!!
ถ้าใครติดตามข่าวสารต่างประเทศช่วงนี้จะทราบว่า ประเทศออสเตรเลียกำลังประสบกับภัยน้ำท่วมครั้งใหญ่นรอบหลายปี หลังจากพายุไซโคลนเดบบี้ได้พัดเข้าถล่ม สร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือนและทรัพย์สินของประชาชนเป็นจำนวนมาก ไม่เพียงแค่ความเสียหายทางทรัพย์สินเท่านั้น ล่าสุดพายุไซโคลนเด็บบี้ได้สร้างความตกตะลึงให้กับชาวออสซี่เป็นอย่างมาก เพราะพายุดังกล่าวได้พัด “ฉลาม” ขึ้นมาเกยตื้นอยู่กลางถนน!! โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นในรัฐควีนส์แลนด์ เมื่อมีชาวบ้านรายงานว่า มีการพบฉลามตัวหนึ่งขึ้นมาเกยตื้นบนถนน จนตายอยู่บริเวณนั้น “มันจะต้องถูกกระแสพายุพัดขึ้นมาเกยตื้นบนถนนแน่ๆ เรารู้สึกประหลาดใจมากๆ ตอนแรกเราตั้งใจมาถ่ายภาพความเสียหายหลังน้ำท่วม แต่ดันมาเจอซากฉลามซะอย่างนั้น” Philip Calder นักข่าวจากสำนักข่าว WIN News รายงาน เห็นแล้วแอบนึกถึงหนังเรื่อง Sharknado ที่ออกฉายทางช่อง Syfy นึกว่าจะเจอแบบนั้นซะแล้ว แม้พายุไซโคลนเด็บบี้จะรุนแรงที่สุดในรอบหลายปี แต่ดูเหมือนชาวออสซี่จะไม่ได้เดือดร้อนกับเหตุการณ์นี้ซักเท่าไหร่ ล่าสุดมีคนจับภาพ ชาวออสซี่กำลังเล่นสกีบนน้ำที่กำลังท่วมบ้านเรือนกันอย่างสนุกสนาน พายุที่นำพาสิ่งมีชีวิตในน้ำมาไกลถึงบนฝั่งได้ขนาดนี้ ก็ถือว่ารุนแรงพอสมควรอยู่นะ ที่มา ctvnews
-
เพราะเหตุใดประเทศอย่างสหรัฐฯ และญี่ปุ่น จึงเลือกที่จะไม่ฝังสายไฟฟ้าลงใต้ดิน!?
เมื่อพูดถึงเรื่องสายไฟฟ้า เสาไฟฟ้าในประเทศที่พัฒนาแล้ว เราก็มักจะนึกถึงความเป็นระเบียบเรียบร้อยมาก่อนเป็นอันดับแรก และจะตามมาด้วยความสวยงามของการจัดการระบบสายไฟฟ้า ซึ่งปัจจุบันหลากหลายประเทศก็เริ่มที่จะนำสายไฟฟ้าลงใต้ดินแล้ว (และในบ้านเราก็เริ่มทำแล้วในบางจังหวัด) ย้อนกลับไปดูสภาพของเมือง Jersey City หลังประสบกับพายุเฮอร์ริเคนแซนดี้ ในปี 2012 แต่ทว่าการนำสายไฟฟ้าลงใต้ดินนั้นยังไม่อาจสามารถทำได้ครอบคลุมไปทั่วประเทศ ทั้งๆ ที่เราคิดว่าก็ประเทศเหล่านั้นน่าจะทำได้ แต่ด้วยเหตุใดที่ประเทศก้าวหน้า ยกตัวอย่างเช่น สหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่นจึงไม่ทำ? ก่อนอื่นเลยต้องเกริ่นว่าประเทศเหล่านี้อยู่ในโซนที่เกิดภัยภิบัติอยู่บ่อยครั้ง อย่างสหรัฐอเมริกาจะต้องเจอกับพายุเฮอร์ริเคนและแผ่นดินไหว ส่วนทางฝั่งญี่ปุ่นก็ต้องเจอพายุไต้ฝุ่นและแผ่นดินไหวในทุกๆ ปี แผนภาพพื้นที่เสี่ยงภัยแผ่นดินไหวของสหรัฐอเมริกา สีแดงจะเป็นระดับที่รุนแรงที่สุด ด้วยเหตุดังกล่าวข้างต้น สิ่งที่ตามมาก็คือความเสียหายต่อระบบสายส่งไฟฟ้า ซึ่งจะต้องทำการซ่อมแซมให้รวดเร็วที่สุด โดยเมื่อเทียบกันแล้ว แม้ว่าเสาไฟฟ้ากับสายไฟฟ้าที่อยู่เหนือพื้นดินจะเสียหายมากกว่า แต่สำหรับราคาการซ่อมนั้นถูกกว่าระบบสายไฟฟ้าฝังดินหลายเท่าตัว ดังนั้นพื้นที่ที่มีความเสี่ยงภัยพิบัติสูงยังคงใช้ระบบสายส่งไฟฟ้าเหนือพื้นดินอยู่ สำหรับประเทศสหรัฐอเมริกา ค่าใช้จ่ายในการทำสายส่งไฟฟ้าลงดินจะแพงกว่าการทำสายส่งไฟฟ้าเหนือพื้นดินประมาณ 3 ถึง 10 เท่า ราคาของระบบสายไฟฟ้าเหนือพื้นดินจะอยู่ที่ 285,000 ดอลลาร์ต่อ 1.6 กิโลเมตร ระบบสายไฟฟ้าใต้ดินจะอยู่ที่ 1,000,000 ดอลลาร์ต่อ 1.6 กิโลเมตร (ข้อมูลล่าสุดในปี 2015)…
-
บรรยากาศ “ดิสนีย์เวิลด์” ไร้ซึ่งผู้คน หลังถูกเฮอริเคนแมทธิวถล่ม จนต้องปิดบริการในรอบ 11 ปี
ถ้าพูดถึงดิสนีย์เวิลด์แล้ว ก็คงนึกถึงสถานที่ที่เต็มไปด้วยความสุข ผู้คนยิ้มแย้มแจ่มใสเมื่อได้อยู่กับตึวการ์ตูนที่พวกเขารัก พร้อมกับเครื่องเล่นมากมายที่ไม่มีหยุดพัก ดิสนีย์เวิลด์ถือเป็นสวนสนุกดิสย์ที่ใหญ่ที่สุดเลยก็ว่าได้ มีการวันหยุดให้บริการ ดังนั้นผู้คนก็สามารถมาเที่ยวเมื่อไหร่ก็ได้ แต่เมื่อไม่กี่วันมานี้ ทางดิสนีย์เวิลด์ได้ออกประกาศว่าจะทำการปิดสวนสนุกในวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปี จากที่ที่เราจะได้เห็นเด็กๆ และผู้ปกครองเดินไปมาอย่างมีความสุข ตอนนี้ก็เป็นครั้งแรกที่เราจะได้เห็นภาพของดินแดนแห่งนี้ว่างเปล่า ไร้ซึ่งผู้คน และนี่คือภาพของดิสนีย์เวิลด์ในวันที่ปิดบริการ ซึ่งเราจะเห็นไม่กี่คนที่เดินอยู่ ถือเป็นภาพที่หาดูได้ยากมากๆ กับสวนสนุกที่ไม่เคยปิดบริการแห่งนี้ เมื่อเทียบกับวันปกติ ที่มา distractify
-
ก็ตรงเกิ๊น!! รายงานข่าวพยากรณ์อากาศ บอกความจริงอันโหดสึสของพายุ ที่ทุกคนไม่น่ารอด
เมื่อกล่าวถึงการรายงานข่าวแบบเดิมๆ แล้วเพื่อนๆ ก็จะรู้กันดีว่ามันไม่ค่อยน่าสนใจอีกต่อไปแล้ว เพราะฉะนั้นทางเหล่าผู้ประกาศข่าวทั้งหลายก็เลยต้องหันมาเปลี่ยนแปลงวิธีการอ่านข่าวเพื่อให้ดูน่าสนใจมากยิ้งขึ้น แต่นาย Shepard Smith ที่ทำหน้าที่เป็นผู้รายงานสภาพอากาศของช่อง Fox News ได้มีวิธีการรายงานข่าวในแบบใหม่ ที่ต้องขอบอกเลยว่าโหดสึส!! เรื่องมีอยู่ว่าในช่วงรายงานสภาพอากาศของ Fox News ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมานั้น นาย Shepard Smith ได้รายงานสถานการณ์ของพายุเฮอริเคนที่ชื่อว่า Matthew ที่กำลังพัดผ่านไปทางชายฝั่งตะวันออกของรัฐ Florida แต่ถ้าเจ้าพายุเฮอริเคน Matthew นั้นดันเปลี่ยนเส้นทางพัดเข้ามาที่ชายฝั่งแทนล่ะก็ จะสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวง ทั้งผู้คนและที่อยู่อาศัยจะต้องได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก แต่พี่แกดันมีวิธีการพูดที่โหดสึส โดยบอกว่า “ถ้าพายุพัดเข้ามาก็ไม่มีใครรอด คุณและทุกคนที่คุณรู้จักต้องตายหมด และลูกๆ ของคุณก็ต้องตายด้วย ไม่มีทางรอดอย่างแน่นอน มันเป็นไปไม่ได้!!” พร้อมกับทำหน้าตายิ้มแย้มตามมาดของผู้ประกาศข่าว เดี๋ยวก่อนนะ!? อีตา Shepard Smith เพิ่งจะบอกว่าลูกๆ ของทุกคนจะตาย พร้อมกับทำหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใสเนี่ยนะ? และ…ลูกๆ…ของทุกคน…ก็ต้องตายด้วย!! ลาก่อย RIP พายุทอร์นาโดจะต้องพรากชีวิตของทุกคนรวมไปถึงลูกๆ…
-
#PrayForBusan รวมภาพเกาหลีใต้วิกฤตหนัก!! ไต้ฝุ่นชบาทำคลื่นยักษ์ 6 เมตรถล่มชายฝั่งเมืองปูซาน
นี่ถือเป็นเรื่องที่น่าตกใจทีเดียว เพราะเมื่อช่วงเวลา 19.15 นาฬิกา ในเว็บไซต์ทวิตเตอร์ได้มีการแชร์คลิปวิดีโอเหตุการณ์พายุไต้ฝุ่นเข้าถล่มเมืองปูซาน ประเทศเกาหลีใต้ จนทำให้เกิดคลื่นน้ำทะเลขนาดใหญ่ซัดเข้าตัวเมือง ตามรายงานบอกว่าพายุไต้ฝุ่นลูกนี้มีชื่อว่าไต้ฝุ่นชบาที่เข้าถล่มประเทศญี่ปุ่นไปเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม และมีการเคลื่อนตัวมายังประเทศเกาลี ส่งผลให้เกิดลมกระโชกแรง คลื่นสูง ฝนตกหนัก และน้ำท่วมฉับพลันได้ ทั้งนี้ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์คลิปและภาพเหตุการณ์ในเมืองปูซานเข้ามาในทวิตเตอร์อย่างต่อเนื่อง พร้อมติดแฮชแท็ก #PrayForBusan @FLUFFTAEHYVNG “มันน่ากลัวมาก ขอให้ปลอดภัยนะทุกคน โดยเฉพาะคนที่อยู่ในปูซาน ฉันหวังว่าจะไม่มีใครได้รับบาดเจ็บนะ” @goodbum_cb “คิดถึงตอนสึนามิที่ไทยเลย ได้แต่พาวนาอย่าให้ใครเป็นอะไรมากเลยนะ” @baekaeri06 “จะไอดอลหรือไม่ใช่ไอดอลก็ขอให้ปลอดภัยนะ เราจะภาวนาให้ทุกๆ อย่างผ่านไปได้ด้วยดี” @crybabrey “จาก Train to Busan ถึง Pray for Busan มันเกิดขึ้นเร็วมาก พวกเขาไม่ได้ถูกโจมตีด้วยซอมบี้ พวกถูกโจมตีโดยซึนามิ ปลอดภัยกันนะ” ชมคลิปบางส่วนได้ที่นี่เลย (หากคลิปไม่ขึ้นให้กดที่นี่นะ) Hope everything will…
-
ช่างภาพบันทึกเหตุการณ์ “พายุฝนไมโครเบิร์สต์” ถล่มแอริโซนา ราวกับท้องฟ้ารั่ว!!!
ก่อนอื่นต้องอธิบายก่อนว่าปรากฏการณ์ไมโครเบิร์สต์ สำหรับนักบินที่ต้องเอาเครื่องขึ้นลงบ่อยๆ นั้นคงผวากับคำนี้มาก เพราะมันมีผลต่อเครื่องบิน ซึ่งปรากฏการณ์นี้เคยทำให้เครื่องบินตกมาแล้ว อธิบายง่ายๆ ไมโครเบิร์สต์คือพลังลมรุนแรงที่พุ่งลงมาสู่พื้นดิน ลองนึกภาพเราเอาน้ำใส่ถังแล้วเทกระแทกลงพื้นแรงๆ น้ำก็จะกระจายออกเป็นวงกว้าง ช่างภาพคนหนึ่งชื่อว่า Jerry Ferguson เขาโชคดีมากๆ ที่บังเอิญไปเห็นเหตุการณ์ไมโครเบิร์สต์เข้าพอดี ในขณะที่เขากำลังอยู่ที่เมืองฟีนิกส์ รัฐแอริโซน่า และภาพที่ออกมาก็ดูน่ากลัวและงดงามในเวลาเดียวกัน ตอนแรกเขาขึ้นเฮลิคอปเตอร์เพื่อตามเก็บภาพของเมือง แต่แล้วสายตาของเขาก็ไปเห็นอะไรบางอย่างเหมือนกำลังก่อตัวขึ้นเหนือเมืองฟีนิกซ์ เขาจึงรีบเก็บภาพนั้นมา และนี่คือภาพที่เขาเก็บมาได้ ดูราวกับว่าท้องฟ้ากำลังรั่วแล้วมีน้ำไหลลงมาอย่างหนัก เมื่อมองจากที่ไกลๆ ยิ่งดูน่ากลัวเป็นอย่างมาก ลองดูในคลิปนี้แล้วจะเห็นได้ว่าแรงลมนั้นมันพาฝนไปได้ไกลแค่ไหน (หาไม่เจอ มานี่เลย) ที่มา boredpanda
-
นักบินเก็บภาพ “พายุฝนฟ้าคะนอง” สุดอลังการ บนความสูง 37,000 ฟุต!!!
ปกติแล้วเวลาฝนตกหนักตอนอยู่บนเครื่องบินมันเป็นอะไรที่หวั่นใจนิดๆ ถึงแม้ว่าเราจะเชื่อใจกัปตันมากแค่ไหนก็ตาม แต่เวลาเครื่องสั่นๆ มันก็น่ากลัวอยู่ไม่น้อยเลย และครั้งนี้นักบินจาก Ecuador Airlines และช่างภาพ Santiago Borja ก็ได้บินไปด้วยกัน พร้อมกับทำภารกิจที่ใครๆ ก็ไม่กล้า นั่นก็คือตามถ่ายภาพพายุฝนฟ้าคะนองจากมุมสูงเหนือเมฆกว่า 37,000 ฟุต เหนือมหาสมุทรแปซิฟิกทางตอนใต้ของปานามา ภาพที่เราจะได้เห็นนั้นถือว่าหาดูยากมากๆ เลย เพราะว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะบินขึ้นไปได้สูงขนาดนั้นท่ามกลางพายุ อีกทั้งช็อตที่ฟ้าผ่ามันก็เร็วมากๆ พวกเขาไม่มีขาตั้งกล้องด้วย และนี่ก็คือภาพที่เขาได้ถ่าย เป็นอะไรที่สวยงามอลังการมากๆ นอกจากนี้เมื่อปีที่แล้ว Santiago ก็เคยไปถ่ายภาพแบบนี้มาเหมือนกัน ภาพนี้ถ่ายที่เวเนซูเอล่า บอกเลยว่ามันสวยซะจนพูดไม่ออกจริงๆ ถ้าชอบผลงานของเขาก็ไปติดตามต่อได้ที่ santiagoborja.com | Instagram และก่อนหน้านี้ เว็บเราเคยนำเสนอเกี่ยวกับนักบินอวกาศ Scott Kelly จากนาซ่าถ่ายภาพมุมมองจากนอกโลกอันงดงามมาอีกด้วย ตามไปดูบทความเต็มๆได้ที่นี่ . . . ที่มา washingtonpost
-
น่ากลัวมาก!! สื่อนอกรายงาน เด็กนักเรียนจีนถูกพายุหมุนพัดขึ้นไปในอากาศกว่า 4.5 เมตร!!
เคยเห็นพายุทอร์นาโดในหนังมาก็หลายเรื่อง แต่ไม่คิดว่าจะน่ากลัวได้ขนาดนี้เลยนะเนี๊ยะ!! เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่าเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 20 เมษายนที่ผ่านมาได้ มีพายุหมุนขนาดเล็กปรากฏขึ้นที่โรงเรียนประถมแห่งหนึ่งในมณฑลกานซู ประเทศจีน ทำให้ข้าวของของเด็กนักเรียนปลิวว่อนกระจัดกระจายไปทั่วทั้งบริเวณ แต่ดูเหมือนสถานการณ์จะยิ่งเลวร้ายกว่าที่คิด เพราะว่าพายุหมุนได้ทวีความรุนแรงจนทำให้เด็กนักเรียนคนหนึ่งปลิวขึ้นไปในอากาศกว่า 4.5 เมตร และตกลงมากระแทกกับพื้นด้านล่าง เมื่อเห็นดังนั้นเหล่าคุณครูก็รีบพาเจ้าตัวไปส่งยังโรงพยาบาลเป็นการด่วน โชคดีที่เมื่อตรวจสอบร่างกายแล้วพบว่าเจ้าตัวมีบาดแผลที่บริเวณศีรษะเล็กน้อยเท่านั้น ชมภาพเคลื่อนไหวของเจ้าพายุกันได้ที่ด้านล่างเลย น่าสยองมากเลยนะเนี๊ยะ เป็นภัยธรรมชาติที่เราต่อกรด้วยไม่ได้จริงๆ ที่มา shanghaiist
-
อย่าตกใจไป คลิปพายุถล่มร้านค้าที่จ.สกลนคร จริงๆ แล้วเกิดที่อุรุกกวัยต่างหาก!!
กลายเป็นคลิปทอล์คออฟเดอะทาว์นสำหรับเช้าวันนี้เลยทีเดียว สำหรับคลิปวิดีโอพายุลมที่โหมเข้าโจมตีร้านค้าแห่งหนึ่งในอำเภอวานรนิวาส จังหวัดสกลนคร จนมีผู้คนกดแชร์ต่อๆ กันไปหลายพันคน และมียอดเข้าชมอีกกว่าแสนคนทีเดียว คลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊ก Boonyanooth Thapowpong เป็นคลิปจากกล้องวงจรปิดภายในร้านขายรองเท้าแห่งหนึ่ง พร้อมกับข้อความว่า “พายุที่อำเภอวานรนิวาส จ.สกลนคร เมื่อ 30 นาทีที่ผ่านมา” ทำให้มีผู้คนรวมไปถึงสำนักข่าวบางแห่งหลงเชื่อและพากันรายงานข่าวเกี่ยวกับคลิปนี้อย่างแพร่หลาย แต่จากการตรวจสอบพบว่าคลิปดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นที่จังหวัดสกลนครหรือพื้นที่ใดๆ ในประเทศไทย แต่เป็นที่เมืองโดโลเรส ประเทศอุรุกกวัย ส่งผลให้ร้านค้าพังยับเยินและมีผู้เสียชีวิตถึง 4 ราย ซึ่งคลิปดังกล่าวเคยถูกเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ Liveleak ไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 15 เมษายนแล้วนั่นเอง ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลย จะกดแชร์กดอะไรก็เช็คกันดีๆ นิดนึงนะจ๊ะ ที่มา liveleak
-
เผยภาพนาทีสุดระทึกของเรือกู้ภัย ที่ถูกคลื่นยักษ์ซัดกระหน่ำกลางทะเล น่ากลัวฝุดๆ ไปเลย
เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2559 ทางสำนักข่าวต่างประเทศได้เผยภาพสุดระทึกของเรือกู้ภัย (ERRV) ลำหนึ่ง ที่กำลังเผชิญหน้ากับคลื่นลมทะเลที่มีความสูงกว่า 30 เมตร งานนี้เรียกได้ว่าทำเอาคนดูถึงกับลุ้นระทึกตามไปด้วย จากภาพเราจะเห็นได้ว่าเรือกู้ภัยลำนี้ ลอยเคว้งคว้างอยู่กลางมหาสมุทรในบริเวณทะเลเหนือ ทางตะวันออกของเกาะบริเตนใหญ่ ซึ่งห่างจากชายฝั่งราว 160 กิโลเมตร โอ้ววว คลื่นลมทะเลแรงเหมือนกันนะเนี่ย ทำเอาเรือแกว่งโคลงเคลงไปมาเลยละเหมียว น่ากลัวชะมัดเลย นอกจากนี้ทางสำนักข่าวต่างประเทศยังได้เผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นนี้ อยู่ในช่วงที่มีพายุฤดูหนาวเกอร์ทรูด พัดถล่มพื้นที่ทางตอนเหนือของสหราชอาณาจักร ทำให้สภาพอากาศแปรปรวนอย่างรุนแรง ดังนั้นจึงเป็นเหตุที่ทำให้เกิดหิมะ ฝนตกหนัก และมีลมกระโชกแรง รวมไปถึงคลื่นลมในทะเลมีกำลังแรงเหมือนดั่งภาพที่เพื่อนๆ เห็นกันอยู่นี้ยังไงละ ทั้งนี้ภาพทั้งหมดถูกถ่ายขึ้นมาโดยชายรายหนึ่ง ที่โดยสารอยู่ภายในห้องบังคับการของเรือลำนี้ ลองไปชมคลิปกันเลย ที่มา : dailymail
-
ยาธาตุกระต่ายบิน!! เจ้ากระต่ายน้อยโดนลมพัดสูงจนถึงขั้นไปติดอยู่บนหลังคา โชคดีที่รอดมาได้
ภัยธรรมชาติเป็นอะไรที่น่ากลัวมากๆ เลยนะ อย่างในเมือง Omagh ทางตอนเหนือของประเทศ Ireland ประสบกับพายุ Gertrude อย่างรุนแรงในคืนก่อน ซึ่งหลังจากที่พายุซาลงไปแล้ว จู่ๆ ชาวบ้านก็ต้องตกใจกันอีกรอบเมื่อเจอกับเจ้ากระต่ายน้อย ไปติดอยู่บนหลังคาแบบงงๆ เจ้ากระต่ายตัวนี้มีชื่อว่า Bumper ใครๆ คิดไม่ออกว่าเจ้ากระต่ายน้อยติดดินตัวนี้มันจะปีนขึ้นไปอยู่บนนั้นได้ยังไงกัน จนในที่สุดก็ต้องเรียกเจ้าหน้าที่ดับเพลิงพาตัวมันลงมา กว่าจะช่วยมันลงมาได้ต้องใช้ ‘แครอทอร่อยๆ’ มาล่อมัน ถึงจะยอมมาด้วย โชคดีตรงที่ Bumper ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด สุขภาพดี และกลับไปสู่อ้อมกอดของเจ้าของเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนสาเหตุที่แท้จริงทางเจ้าหน้าที่ก็ยังนึกไม่ออกว่าเจ้ากระต่ายขึ้นไปอยู่บนหลังคาได้อย่างไร สงสัยคงจะโดนพายุพัดแรงจนบินขึ้นไปอยู่บนนั้นแน่ๆ ที่มา : theladbible
-
พ่อบ้านใจกล้า!! แฟนสาวขอร้องหนุ่มมะกัน ขับรถไล่ตามพายุ เพื่อเก็บภาพถ่ายสุดอลังการ
นี่ถือเป็นภาพชุดหนึ่งที่ตื่นตาตื่นใจเหมียวพอสมควรเลยล่ะ เพราะไม่กี่วันที่ผ่านมา เว็บไซต์ Boredpanda ได้เผยแพร่ภาพถ่ายของสมาชิกที่ใช้นามแฝงว่า Von Wong จากประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเขาเล่าว่าแฟนสาวของเขาได้พยายามโน้มน้าวให้เขาขับรถไล่ตามพายุเพื่อถ่ายภาพสุดอลังการ งานนี้เขาก็เลยต้องทำหน้าที่แฟนที่ดี ขับรถไล่ตามพายุไปจริงๆ แต่เขาไม่ได้ไปคนเดียวนะ เพราะเขาได้พาเพื่อนๆ กลุ่มหนึ่งไปเสี่ยงอันตรายกับเขาด้วย นอกจากนี้ยังมี Kelly DeLay ผู้เชี่ยวชาญเรื่องการไล่ตามพายุติดรถไปกับเขาด้วย พวกเขารอคอยจังหวะที่พายุปรากฏตัวขึ้น จากนั้นพวกเขาก็หาที่มั่นเหมาะๆ เป็นพื้นที่ราบโล่งๆ เพื่อเซ็ทอุปกรณ์ถ่ายภาพ จัดไฟ และอุปกรณ์ประกอบฉากให้เรียบร้อย และรีบเก็บภาพด้วยความรวดเร็ว ทั้งนี้เจ้าตัวได้เล่าว่ากว่าจะได้ภาพสวยๆ มาให้เราได้ชมกันนั้น เขาต้องเดินทางไปทั่วอเมริกา ใน 7 รัฐ โดยแต่ละครั้ง พวกเขามีเวลาเพียง 10-15 นาทีในการเก็บภาพเท่านั้น แค่ตั้งท่าถ่ายก็ว่ายากแล้ว หนำซ้ำยังมาเจอสภาพอากาศที่เลวร้ายอีก แต่ทั้งหมดก็ไม่สามารถหยุดพวกเขาได้ แต่ละภาพนั้นสวยเกินบรรยายจริงๆ นี่ต้องถือว่าเป็นพ่อบ้านใจกล้าอีกรายหนึ่งเลยนะเนี๊ยะ ที่มา boredpanda
-
Teresa Mannion นักข่าวรายงานสภาพอากาศ กับลีลาที่ทำให้ชาวเน็ตตีลังกากดไลค์
ก็ถือว่าเป็นเรื่องราวที่ค่อนข้างเฮฮากันอย่างมาก ในวงการชาวเน็ตต่างประเทศ เมื่อช่วงวันหยุดที่ผ่านมาหลังจากบริเวณตอนบนของประเทศอังกฤษที่ถูกพายุ Desmond โหมกระหน่ำ จนเกิดน้ำท่วมให้เห็นกันทั่วไป แต่เธอคนนี้ Teresa Mannion นักข่าวจากสำนักข่าว RTÉ News ก็เรียกได้ว่าขโมยซีนพายุนี้ไปแบบเต็มๆ ด้วยลีลาการรายงานข่าวแบบถึงพริกถึงขิงและโคตรดราม่าของเธอ ลองดูลีลากันเป็นภาพแบบซอฟต์ๆ ลองชมคลิปการรายงานของเธอกันได้ที่นี่ Storm Desmond!!! DON’T GO OUT THERE PEOPLE!!!! Posted by Damo & Ivor on 5 ธันวาคม 2015 ทันทีที่เธอรายงานเสร็จ ชาวเน็ตก็แห่กันแชร์ภาพของเธอเลยล่ะ…ให้ออสการ์กับนางเถอะ!!! ถูกนำไปตัดต่อเป็นภาพฮาๆ มากมาย ท่าทางนี่ได้จริงๆ อย่างกะแสดงเอ็มวี ฮร่าาาา เอิ่มมมมมมม ดราม่าซะเลย ฮ่าๆๆๆๆๆๆ และเธอยังน่ารัก ทวีตขอบคุณทีมงานที่ร่วมถ่ายทอดสดกะเธออีกด้วย ^^…
-
นักท่องเที่ยวรัสเซียจับภาพ “พายุนาคเล่นน้ำ” ขนาดใหญ่ราวกับ CG ได้ที่อิตาลี
นาคเล่นน้ำ หรือพวยน้ำ (ภาษาอังกฤษคือ waterspout) คือปรากฏการณ์ที่น้ำถูกพายุทอร์นาโดดูดขึ้นไปเป็นเกลียว ส่วนมากจะเกิดขึ้นในประเทศแถบเขตร้อน แต่ก็เคยมีรายงานว่าเคยเกิดที่ที่มีอากาศปานกลางและยุโรปเช่นกัน และเมื่อไม่กี่วันมานี้ นักท่องเที่ยวชื่อว่า Evgeny Drokov ชาวรัสเซีย ได้ไปเที่ยวกับครอบครัวที่เมือง Genoa ประเทศอิตาลี ในเวลาเช้า เขาก็ได้พบเห็นกับพายุทอร์นาโด หรือที่เรียกกันว่า “นาคเล่นน้ำ” เขาจึงถ่ายภาพเก็บมา เขาอยู่บนโรงแรมสูง และภาพที่เขาถ่ายได้นั้น พายุห่างเขาไปประมาณ 2 กิโลเมตรเท่านั้น เขาได้กล่าวว่า “ผมไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน มันเป็นประสบการณ์ครั้งเดียวในชีวิตจริงๆ” ยังมีรูปอีกมากมายที่เขาได้โพสต์ลง ตามไปดูได้ที่ flickr.com ที่มา thepuffington
-
ตื่นตาตื่นใจ… เมื่อตื่นขึ้นมาแล้วพบว่า ภูเขาไฟฟูจิกำลัง “สวมหมวก” อยู่!!
ช่วงนี้หลายๆคนคงได้ยินข่าวกันว่า ประเทศญี่ปุ่นกำลังถูกพายุใต้ฝุ่น Laputa เล่นงาน จนทำให้ฝนตกน้ำท่วมกันไปหมด แต่ในเรื่องร้ายๆ ก็ยังมีเรื่องดีๆอยู่ เมื่อชาวญี่ปุ่นตื่นเช้ามา แล้วพบว่า บนยอดของภูเขาไฟฟูจิ มีเมฆลอยอยู่คล้ายกับมีหมวกมาสวมไว้ เล่นทำเอายิ้มได้กันไปตามๆกัน เพราะเหตุการณ์แบบนี้ นานๆจะเกิดขึ้นที ปรากฏการณ์แบบนี้เรียกว่า หมวกเมฆ (Pileus) คือ เมฆบางๆ ที่อยู่เหนือเมฆคิวมูลัสหรือเมฆฝนฟ้าคะนอง จัดเป็นเมฆตัวประกอบ (accessory cloud) ประเภทหนึ่ง บางคนก็เรียกว่าเมฆผ้าคลุมไหล่ (Scarf Cloud) สวยจริงๆเลยเนอะ เห็นแล้วอยากจะลองไปเหยียบบนนั้นซักครั้งจริงๆ ว่าแล้วก็เก็บตังไปเที่ยวญี่ปุ่นดีกว่า ใครสนใจไปกะแอดมั่ง (ไม่ออกตังเองนะ 555) ที่มา Rocketnews24
-
ศิลปินสร้างผลงาน “ธรรมชาติหมุนโลก” จากประสบการณ์ที่เขาเจอพายุในไทย!!
คนโบราณอาจจะมีความเชื่อทางด้านการสร้างงานประติมากรรมเพื่อเป็นการขอพรจากพระเจ้า ซึ่งศิลปินคนหนึ่งชาวอิตาลีนามว่า Lorenzo Quinn ก็เห็นด้วยกับความเชื่อนี้ เพราะเขาได้สร้างงานประติมากรรมชุดหนึ่งขึ้นมาชื่อว่า “The Force of Nature” หรือพลังแห่งธรรมชาติ ขนาด 2.5 เมตร ประติมากรมชิ้นนี้เผยให้เห็นผู้หญิงคนหนึ่งที่เขาเรียกว่าเป็น “มารดาแห่งธรรมชาติ” กำลังเหวี่ยงโลกให้หมุนอยู่ โดยผลงานชิ้นนี้ได้แรงบันดาลใจจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยที่เขาพบเจอมา เขาบอกว่าขณะที่เขากำลังไปเที่ยวทางตอนใต้ของไทย เขาก็เจอกับพายุเฮอริเคนเข้า ทำให้เขาตัดสินใจทำผลงานชิ้นนี้ขึ้นมาเพื่อหวังให้พระเจ้าช่วยดูแลเหล่าเทวดาไม่ให้พโรธ ผลงานชุดนี้จัดแสดงอยู่หลายที่ ไม่ว่าจะเป็นอังกฤษ สหรัฐฯ โมนาโก และสิงคโปร์ เราไปชมผลงานของเขากันเลย ดูแล้วก็รู้สึกได้ถึงพลังที่รูปปั้นมันส่งออกมาเลยเนอะ ดูข้อมูลเพิ่มเติมและติดตามผลงานของเขาได้ที่ lorenzoquinn.com | Facebook ที่มา mymodermet