Tag: พายุฮาร์วีย์
-
ครอบครัวยังยิ้มได้และลุกขึ้นสู้ ถึงแม้ “พายุฮาร์วีย์” จะได้พัดเอาบ้านพังไปทั้งหลัง
พายุเฮอริเคนฮาร์วีย์ ได้พัดขึ้นบริเวณฝั่งรัฐเท็กซัส มีความเร็วกว่า 215 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ถือว่าเป็นพายุที่ถล่มสหรัฐที่รุนแรงที่สุดในรอบ 12 ปี ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมสูง เส้นทางการจราจรถูกตัดขาดในหลายพื้นที่ ทางการได้สั่งอพยพผู้คนจำนวน 5 หมื่นคนออกจากพื้นที่ทันที นครฮิวส์ตัน เมืองที่ใหญ่อันดับ 4 ของสหรัฐเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบเป็นอย่างมากน้ำท่วมสูงถึง 21 เมตร พังบ้านเรือนเสียหาย คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 3,000 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ ภาพถ่ายต่อไปนี้เป็นภาพหลังจากที่ระดับน้ำได้ลดลงแล้ว ครอบครัวและความเสียหายทรัพย์สินของ Joy ชาวเมืองคนหนึ่งที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้ Joy และ Jennifer น้องสาวของเธอ ค้นพบพระคัมภีร์ของปู่และธงชาติของพ่อเธอใต้ซากปรักหักพังของบ้าน บ้านเพียงสองหลังที่ยังคงอยู่รอดจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ห้องซักรีดและห้องครัวพังลงไปถึงโรงรถด้านล่าง ทาวน์โฮม 3 ชั้นพังลงมาไม่เหลือชิ้นดี ฝ้าเพดานของห้องนอนถล่ม น้ำท่วมมาถึงห้องนั่งเล่นบริเวณชั้น 2 . . เศษซากต้นไม้ที่โดนน้ำท่วมสูง . . เสบียงและอุปกรณ์ช่วยเหลือต่างๆ ถูกเตรียมเข้าพื้นที่ประสบอุทกภัย…
-
ภาพก่อน-หลังของถนนในเท็กซัส หลังถูกพายุถล่มจนเกิดน้ำท่วมหนักที่สุดในประวัติศาสตร์
ตั้งแต่ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้ เท็กซัสได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากพายุฮาร์วีย์ร้ายแรง และยังคงมีแนวโน้มที่จะเพิ่มความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เหมือนกับภาพด้านล่างนี้ ซึ่งเป็นภาพถนนหลวง I-10 ในเท็กซัส ก่อนและหลังการเกิดอุทกภัยจากพายุฮาร์วีย์ ที่ทำให้เห็นถึงสถานการณ์ที่ขณะนี้รุนแรงมากเพียงใด ถนนหลวงในเท็กซัสในภาวะปกติ ถนนเส้นเดียวกันหลังถูกพายุฮาร์วีย์ถล่ม นอกจากนี้ช่างภาพ Logan Wheat ยังได้ถ่ายภาพวัวที่กำลังอยู่ในอาการหวาดกลัวท่ามกลางน้ำที่ท่วมขึ้นสูงเรื่อยๆ ช่างภาพบอกว่า “เมื่อเห็นวัวอยู่ในสภาพนั้น มันทำให้ผมรู้สึกจุกในลำคอ อยากช่วยเหลือพวกมันออกมา แต่มันค่อนเป็นเรื่องยาก” ตอนนี้ยังไม่สามารถระบุได้อย่างชัดเจนว่าน้ำท่วมสูงแค่ไหน แต่คาดว่าไม่ต่ำกว่า 2 เมตร เพราะพื้นที่ส่วนใหญ่ถูกน้ำท่วมสูงจนแทบจะมองไม่เห็นหลังคารถแล้ว ใกล้กับที่ภาพที่เราเห็นนี้ มีศูนย์ผู้ลี้ภัย George R Brown Convention Center ในฮุสตันที่โดยปกติแล้ว สามารถรองรับผู้คนได้เพียง 5,000 คน แต่ขณะนี้ มีผู้ประสบภัยเข้ามาอยู่ถึง 9,021 คนแล้ว พวกเขาต้องอยู่กันอย่างแออัด บางคนนอนพื้นบ้าง นอนบนเก้าอี้บ้าง เนื่องจากเตียงที่มีอยู่ไม่เพียงพอกับจำนวนประชากร อย่างไรก็ตาม ทีมช่วยเหลือก็กำลังทำหน้าที่กันอย่างเต็มที่และต่อเนื่อง เพื่อพาผู้ประสบภัยออกจากอาคารบ้านเรือน ไปอยู่ในที่ที่ปลอดภัย และพยายามจะกระจายคนไปอยู่ตามศูนย์ลี้ภัยต่างๆ…