Tag: พิศดาร
-
20 ภาพถ่ายเซลฟี่ที่ทั้งสร้างสรรค์ แหวกแนว และบ้าบอคอแตก จนถึงขั้นไม่น่าทำตาม!!
ต้องยอมรับเลยว่า ในปัจจุบันการเซลฟี่ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของใครหลายๆ คนไปแล้ว บางคนแค่ตื่นมาก็ต้องเซลฟี่ หรือทานอาหารก็ต้องเซลฟี่ ไม่ว่าจะทำอะไรต่อมิอะไรก็ต้องขอเซลฟี่ไว้ก่อน ซึ่งจากที่ผ่านๆ มาเราจะเห็นได้ว่า มีภาพถ่ายเซลฟี่จากผู้คนทั่วโลกถูกโพสต์ลงในโลกโซเชียลมากมาย โดยมีทั้งเซลฟี่ที่แบบธรรมดาๆ รวมไปถึงแปลก และบ้าบอสุดขั้ว อีกทั้งยังทำให้เราได้เห็oว่านับวันการถ่ายภาพเซลฟี่ของผู้คน ดูแปลกประหลาดมากยิ่งขึ้นอีกด้วย และนี่คือ 20 ภาพเซลฟี่ ที่เต็มไปด้วยความแปลก ความบ้าบอคอแตก ความเจ๋ง และอีกมากมาย บางภาพก็สร้างสรรค์ ส่วนบางภาพก็ไม่ควรทำตามเป็นอย่างยิ่ง ว่าแล้วก็มาชมกันเลย ถ่ายเซลฟี่กับหอย น่ารักดีไหมละ คุณแม่ยังเฟี้ยว ขอเซลฟี่ตัวเองซะหน่อย เลยโดนลูกสาวแซวซะเลย บางทีการเซลฟี่อาจไม่จำเป็นต้องใช้โทรศัพท์เสมอไป ในโลกของสตาร์วอร์ เหล่าสตอร์มทรูปเปอร์ก็เอากับเขาด้วย เซลฟี่ตอนทำงาน มันใช่เวลาไหมละเนี่ย หนุ่มที่ถือไม้เซลฟี่ จากนั้นก็ถ่ายเซลฟี่ตัวเอง นำไม้จากธรรมชาติ มาประยุคเป็นไม้เซลฟี่ แบบนี้เจ๋งพอไหมละ อยู่ใต้น้ำยังเซลฟี่ได้นะ เป็นภาพถ่ายที่ดูแหวกแนวไม่เหมือนใคร อยู่ในจุดที่สูงกว่าใคร ก็ต้องขอเก็บภาพสุดประทับใจเอาไว้ก่อน …
-
สื่อต่างชาติจัดอันดับ 9 ร้านอาหารที่มีวิธี ‘เสิร์ฟ’ สุดพิศดาร หนึ่งในนั้นมีไทยเราด้วยนะ!!
จริงอยู่ที่การทำอาหารให้อร่อย ถูกปาก หรือมีรสชาติที่โดดเด่น เป็นปัจจัยหลักที่จะทำให้ร้านอาหารประสบความสำเร็จ แต่สำหรับบางร้านนั้น เค้าอาจจะมีไอเดียที่แตกต่างออกไป เพราะการ ‘เสิร์ฟ’ เป็นอีกอย่างหนึ่งที่ธุรกิจร้านอาหารสามารถพลิกแพลง หรือปรับเปลี่ยนให้มีความล้ำสมัย หรือแปลกออกไป ให้ลูกค้าได้ตื่นเต้นกันเล่นๆ สื่อต่างชาติอย่าง Oddee จึงจัดอันดับ 9 ร้านอาหารที่มีวิธีการเสิร์ฟแบบพิศดาร เราตามไปดูกันเลย… 1. ร้านอาหารที่จ้างหุ่นยนตร์ 20 ตัว ทำหน้าที่เป็นทั้งเชฟ เด็กเสิร์ฟ และพนักงานต้อนรับ (จีน) ที่ร้านอาหารแห่งนี้อยู่ในเมือง Harbin จากมณฑลเฮย์หลงเจียง คุณจะได้รับบริการตั้งแต่การต้อนรับ สั่งอาหาร และไปจนถึงเสิร์ฟ จากหุ่นยนตร์ทั้งหมด หรือแม้แต่เชฟ ก็ยังเป็นหุ่นยนตร์เช่นเดียวกัน ซึ่งภายในร้านจะมีแทร็คบนพื้นกำหนดทางเดินของหุ่นยนตร์ไว้ เมื่อเราสั่งอาหารปุ๊บ เชฟโรบอทก็จะทำอย่างรวดเร็ว และเด็กเสิร์ฟจะรีบเอามาบริการให้เรา เป็นระบบสุดๆ 2. ร้านอาหารที่เสิร์ฟด้วยแทร็คโรลเลอร์โคสเตอร์ (สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) ร้านอาหารแห่งนี้ตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้าสุดหรูในเมือง Abu Dhabi ซึ่งประกอบไปด้วย แทร็คโรลเลอร์โคสเตอร์รวมกันมากกว่า 30 เส้นทาง วิธีการเสิร์ฟก็แสนจะง่ายดาย เพียงแค่เราสั่งเมนูไป พนักงานในครัวก็จะส่งอาหารหรือเครื่องดื่มผ่านเส้นทางโรลเลอร์โคสเตอร์ที่เห็นแบบในรูป…
-
10 ประเพณีสุดโหดร้ายและพิสดาร ของเหล่าแก๊งอาชญากรชื่อกระฉ่อนระดับโลก!!!
ไม่ว่าจะประเทศไหนในโลก ทุกพื้นที่ย่อมมีอาชญากรรมเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ สักเพียงใด และแน่นอนว่าเบื้องหลังของการกระทำเหล่านั้นก็เกิดจากพวกแก๊งนอกกฎหมายทั้งนั้น และวันนี้เหมียวจะพาเพื่อนๆ ไปพบกับ 10 ประเพณีสุดโหดของแก๊งใต้ดินขนาดใหญ่จากทั่วโลก ที่ต้องบอกเลยว่าแปลกและพิสดารสุดๆ ไปเลยทีเดียว… กลุ่ม Hell’s Angels หนึ่งในแก๊งที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุดในโลก มีชื่อเสียงในเหตุการณ์รุนแรงและอาชญากรรมอีกมากมายนับไม่ถ้วน ถึงขั้นมีนักวิจัยอาชญากรยอมแฝงตัวไปเป็นปีๆ เพื่อล้วงความลับ และประเพณีหนึ่งที่โหดร้ายสุดคือการรับน้องใหม่ โดยจะโดนเหล่ารุ่นพี่รุมกระทืบจนสาแก่ใจและไร้สาเหตุอยู่บ่อยครั้ง แต่ประเพณีที่รับไม่ได้ที่สุดก็คือระหว่างที่ประชุมใหญ่ๆ รุ่นพี่จะอึและฉี่ใส่ถัง เก็บไว้ และให้รุ่นน้องหน้าใหม่เดินผ่านซุ้ม ซึ่งพวกเขาจะเทสิ่งปฏิกูลเหล่านั้นลงมา แถมยังห้ามไม่ให้เปลี่ยนเสื้อผ้าหรือซักอีกด้วย!!! Chinese Triads อิทธิพลคับแดนมังกร กลุ่มใต้ดินนี้ครอบครองพื้นที่ทั้งฮ่องกงและมาเก๊า สำหรับแก๊งนี้ก็มีของศักดิ์สิทธิ์มากมายที่คนในแก๊งค์ต้องนับถือ และประเพณีแรกเข้าก็คือการกรีดเลือดเพื่อดื่มสาบานเป็นพี่น้องกัน ออกจะแปลกตาในสายตาของชาวตะวันตก Aryan Brotherhood จากอดีตกลุ่มเคลื่อนไหวทางสิทธิสังคมช่วงปี 1960 สุดท้ายพวกเขาถูกจับกุมเสียเกือบหมด กลายเป็นกลุ่มแก๊งที่ควบคุมสถานเรือนจำต่างๆ เกือบทั้งหมด โดยเริ่มจากที่ San Quentin คุกขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในปี 1964 ภายในเรือนจำต่างๆ ธุรกิจของกลุ่มนี้รวมหมดทั้งค้าประเวณี (ชาย-ชาย) การลักลอบนำเข้ายาเสพติด และทำร้ายร่างกาย…
-
ทำไปได้!! บล็อกเกอร์สาวปิ๊งไอเดียสุดพิสดาร นำน้ำจิ๊มิของตัวเอง มาใช้แทนยีสต์เพื่อทำขนมปังอบ
ขนมปังที่มีรสชาติ และส่วนผสมแปลกๆ มีอยู่มากมายบนโลกใบนี้ แต่เหมียวคิดว่าคงไม่มีขนมปังรสชาติไหนที่แปลก และพิสดารไปมากกว่า ‘ขนมปังจากน้ำจิ๊มิ’ อย่างแน่นอน ฟังแล้วก็สะดุ้งทันทีเลยใช่ไหมละ ว่าขนมปังน้ำจิ๊มิ มันมีอยู่จริงบนโลกใบนี้หรอ ใช่!! คุณฟังไม่ผิดแน่นอน เพราะขนมปัง สุดพิสดารนี้มันมีอยู่จริงนะเมี๊ยว ซึ่งเจ้าขนมปังสุดแปลกนี้ถูกคิดค้นขึ้นมาโดย Zoe Stavri บล็อกเกอร์สาว ผู้ที่ได้ทำการปิ๊งไอเดียสุดแปลก โดยการทดลองนำสารคัดหลั่งจากช่องคลอดของตัวเอง มาแทนยีสต์เพื่อใช้ทำขนมปังยังไงละ Zoe สงสัยว่าเชื้อราที่ช่องคลอด จะสามารถนำมาใช้แทนยีสต์ทำขนมปังได้หรือเปล่า ดังนั้นเธอจึงเริ่มทดลองทำขนมปังอบ โดยใช้ยีสต์ธรรมชาติ ที่มาจากสารคัดหลั่งจากช่องคลอดของเธอเอง นอกจากนี้เธอก็ได้โพสต์ภาพลงในโซเชียล พร้อมกับอธิบายว่า ‘ในช่องคลอดมักจะเต็มไปด้วยเชื้อรา และแบคทีเรียจากธรรมชาติ ซึ่งหากเราเป็นเชื้อรายีสต์ก็จะมีเพิ่มมากขึ้น ฉันแค่อยากจะทดลองดูเท่านั้น เพราะมันอาจจะเป็นประโยชน์ก็ได้’ แม้ว่านี่จะเป็นเพียงแค่การทดลอง แต่นั่นก็ทำให้ชาวเน็ตหลายๆ คนออกมาวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆ นาๆ บางคนถึงกับกล่าวว่าเธอด้วยคำพูดแรงๆ เช่น เธอจะต้องเป็นคนที่มีอาการทางจิตแน่นอน ที่มา : mirror5
-
‘แกงกะหรี่รสอุนจิ’ เมนูสุดพิเศษส่งตรงจากญี่ปุ่น พร้อมเสิร์ฟในภาชนะทรงส้วม…อยากกินกันมั้ย!!
ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ชอบผุดไอเดียแปลกๆ ขึ้นมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นการผลิตของใช้แปลกๆ ไอเดียการแต่งตัวสุดแหวกแนว หรือแม้กระทั่งบ้านทรงแปลกๆ ที่แกก็สามารถดีไซน์ออกมาได้แบบหลุดโลกกันเลยทีเดียว และล่าสุดก็มีร้านแกงกะหรี่ชิมิซึ ในกรุงโตเกียว ได้คิดค้นเมนูอาหารชื่อแปล๊กแปลก ที่ใครได้ยินแล้วจะต้องร้องยี้ขึ้นมาทันที และเมนูที่ว่าก็คืออออออ ‘แกงกะหรี่รสอุนจิ’ นั่นเอง เอง เอง เอง… เพียงแค่ชื่อเมนูก็ทำเอาหลายคนยี้จนกินไม่ลงแล้วใช่ไหมล่ะ แต่…ความบ้าบอคอแตกยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะพี่แกยังจัดเสิร์ฟมาในภาชนะทรงส้วมสุดเก๋ ที่จะทำให้ลูกค้าได้สัมผัสรสชาติของเมนูนี้กันแบบเต็มอรรถรสอีกด้วย งานนี้ต้องขอชื่นชมความกล้าของ Ken Shimizu เจ้าของร้าน ซึ่งมีอาชีพเป็นนักแสดงหนังโป๊ แถมเขายังเคยแสดงหนังที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการทานอุจจาระสาว จึงทำให้เขานำเอามาดัดแปลงเป็นเมนูอาหารซะเลย ส่วนเมนูแกงกะหรี่รสอุนนี้จิ เพื่อนๆ ไม่ต้องตกใจไปนะว่าเขาได้นำอุนจิจริงๆ มาทำหรือเปล่า เพราะจริงๆ แล้วมันเป็นการนำกลิ่นและรสของชาเขียว ผงโกโก้ มะระขม มาผสมกัน ซึ่งพอผสมกันแล้วไม่น่าเชื่อเลยว่ามันจะออกมาเหมือนกับอุจจาระจริงๆ 0.0 ถ้าหากใครที่ได้ลิ้มลองรสชาติ ‘แกงกะหรี่รสอุนจิ’ สุดพิสดารนี้ ไม่แน่นะว่าคุณอาจจะติดอกติดใจเมนูนี้ก็เป็นได้ ที่มา : huffingtonpost