Tag: ฟาร์ม
-
ชาวไร่ซื้อ ‘ไข่’ จาก eBay มาฟักเอง ปรากฏว่าได้ “นกอีมู” สุดซุกซนมาเป็นเพื่อนใหม่เฉย
เรื่องราวน่ารักๆ ของชาวไร่และสัตว์เลี้ยงตัวใหม่ของครอบครัวเขาในวันนี้ อาจทำให้ทุกท่านอยากหาสัตว์เลี้ยงมาไว้เพิ่มความชุ่มชื่นหัวใจกันสักตัวแน่นอน เริ่มจาก George Osgood ผู้ทำฟาร์มเลี้ยงไก่ที่ต้องหมั่นฟักไข่อยู่เป็นประจำ เนื่องจากในปีก่อนหน้าเขาได้สูญเสียไก่ไปจำนวนมากจึงต้องเร่งเพิ่มจำนวน อยู่มาวันหนึ่งเขาจึงเข้าใช้เว็บไซต์ eBay แล้วบังเอิญเห็น “ไข่นกอีมู” วางขายอยู่ เขาและครอบครัวจึงตัดสินใจสั่งซื้อมา 4 ฟองเนื่องจากคนขายบอกว่ามันมีโอกาสฟักออกมาเป็นตัวเพียง 50 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น จากนั้นพวกเขาก็เริ่มทำการฟักไข่นกอีมูและเรื่องราวน่ารักของสัตว์เลี้ยงตัวใหม่ก็เริ่มขึ้น… ด้านซ้ายคือไข่นกอีมู ที่เมื่อเทียบกับขนาดของไข่ไก่แล้วมีขนาดใหญ่กว่ามาก “จากไข่ทั้ง 4 ฟอง มีเพียงหนึ่งฟองเท่านั้นที่ฟักออกมาเป็นตัวได้ แถมเป็นนกอีมูที่อ่อนแอมากเสียด้วย” “บางทีอาจจะเป็นเพราะพวกเราฟักไข่ไม่ถูกวิธี แต่หลังจากที่เราทำการศึกษาเกี่ยวกับนกอีมู เราก็ช่วยให้มันมีสุขภาพดีขึ้นได้” “จากนั้นราวหนึ่งสัปดาห์เจ้านกดูแข็งแรงขึ้นมาก เราเลยตั้งชื่อให้มันว่า พอล (Paul) ซึ่งมารู้ทีหลังว่ามันเป็น ‘ตัวเมีย’ แต่ก็ช่างเถอะ” ซุกซนน่าดูเลยนะเจ้าพอล ไปไหนไปด้วยทุกที่จ้า ถึงจะวุ่นวายหน่อยแต่ก็สนุกดี . เมื่อเจ้าพอลมีอายุได้ราว 6 สัปดาห์ ขนที่คอก็เริ่มเปลี่ยนสี และมันก็ขุดหลุมได้เองแล้วด้วย ภาพนี้เป็นการส่งตัวไปหาหมอครั้งที่สอง หลังพอลติดเชื้อรุนแรง…
-
เกษตรกรรม 4.0 หนุ่มชาวไร่โชว์ภาพนั่งรถไถพร้อมเล่น Stardew Valley ไปด้วยแบบชิลๆ
เมื่อเราพูดถึงอาชีพเกษตรกรรม หลายคนคงนึกภาพแบบชาวไร่ชาวนา ที่หน้าดำคร่ำเครียดกับพืชผัก คงจะไม่มีใครนึกถึงเกษตรกรที่นั่งชิลๆ บนรถไถพร้อมกับเล่นเกมอ่านหนังสือแบบชิลๆ ทั้งวันแน่ๆ แต่เชื่อหรือไม่ว่าเกษตรกรแบบที่เราพูดถึงมันมีจริงๆ นะ อย่างภาพที่คุณจะได้เห็นต่อไปนี้ เป็นภาพระหว่างการทำงานของเกษตรกรคนหนึ่งในประเทศแคนาดา ที่นั่งอยู่บนรถแทรกเตอร์ พร้อมกับเล่นเกมปลูกผักอย่าง Stardew Valley ไปด้วย (นี่มันทำฟาร์มแบบ Inception เลยนะเนี่ย) ภาพนี้ถูกโพสต์ลงในเว็บไซต์ Reddit เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2018 โดยผู้ใช้ที่ชื่อว่า ZoMgPwNaGe หรือชื่อจริงคือ Tim ที่ทำฟาร์มอยู่ทางตอนเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เขาเล่าผ่านหน้าเว็บบอร์ดว่าฟาร์มของเขานั้นมีลูกจ้างเพียง 1 คนถ้วน ซึ่งงานส่วนใหญ่เขาก็เป็นคนทำเองทั้งหมด และยังมีการใช้สารเคมีต่างๆ ให้น้อยที่สุด หากใครสงสัยว่าทำไมเขาถึงเล่นเกมไปด้วยได้ระหว่างขับรถแทรกเตอร์ นั่นก็เพราะรถของเขามีระบบพวงมาลัยอัตโนมัติกับระบบ GPS ที่ทำให้เขาไม่ต้องจับมันตลอดเวลา และหากดูจากรูปก็คงจะเห็นพื้นที่สุดลูกหูลูกตาที่สามารถงีบหลับไปได้หลายทีเลย “ความเร็วโดยเฉลี่ยของผมน้อยกว่า 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมงครับ จริงๆ แล้วชาวไร่ทุกคนมีระบบพวงมาลัยอัตโนมัติอยู่แล้ว อย่างน้อยๆ ก็ต้องมีหนังสือไว้ฆ่าเวลาเบื่อๆ บ้างแหละ” Tim เขียนบอกไว้ในช่องคอมเมนต์ …
-
ชาวนาเตรียมเฮ!! พบกับ “Farmder” ทินเดอร์ชาวไร่ หาคนรู้ใจสไตล์ เอ่อ…บ้านทุ่ง?
แอปพลิเคชันหาเพื่อนคุย ที่โด่งดังอย่างมากในปัจจุบัน และใช้กันอย่างแพร่หลาย ก็คงจะหนีไม่พ้น Tinder เป็นแน่ ด้วยระบบที่สามารถค้นหาผู้คนจากละแวกใกล้เคียง พร้อมกับวิธีการ ปัดขวาปัดซ้าย เพื่อบอกว่าชอบหรือไม่ชอบ ถูกใจหรือไม่ถูกใจ เมื่อคนสองคนถูกใจซึ่งกันและกัน ระบบของแอปฯ ก็จะทำการ Matching หรือว่าจับคู่ให้ได้มาแชตกันนั่นเอง แต่แหม… ถ้าเราอยู่ในละแวก ชนบท ล่ะ จะค้นหาใครเจอไหมล่ะเนี่ยยย!!? แอปพลิเคชันที่ว่ากันว่าเป็น Tinder สำหรับชาวนานั้น เป็นไอเดียของ Michelle Li ผู้ที่กล่าวว่า “มันคงจะเป็นการยาก หากจะหาคู่แท้บน Tinder เพราะข้อจำกันมันเยอะเสียเหลือเกิน” Li อธิบายเพิ่มว่า “อย่างเช่นถ้าคุณเป็นพวกนักบิดไบเกอร์ คุณก็มักจะมองหาคนที่ชอบการขับขี่รถเหมือนกัน กรณีแบบนี้ หากว่ามีแอปฯ สำหรับหาคู่ไบเกอร์ไปเลย มันก็ย่อมดีกว่ามามองหาบน Tinder อย่างเดียวใช่ไหมล่ะ? ฉะนั้น เมื่อมีแอปฯ หาคู่ที่เฉพาะเจาะจงลงไปในบางเรื่อง มันจะแปลกตรงไหนหากว่าจะมีแอปฯ หาคู่สำหรับชาวนาบ้าง” แอปฯ ดังกล่าวมีชื่อว่า Farmder มันถูกออกแบบมาคล้ายกับ Tinder เลย ทั้งระบบการค้นหาและการปัดซ้ายปัดวา…
-
เจ้าม้าน้อยได้รับการช่วยเหลือจาก ‘โรงฆ่าสัตว์’ เลยจุ๊บทุกคนเป็นการตอบแทน
หลายคนคงไม่ทราบว่าในแต่ละปี มีม้ากว่า 100,000 ตัวที่ไม่มีใครต้องการ สุดท้ายพวกมันก็เลยถูกส่งไปให้โรงฆ่าสัตว์แล้วจบชีวิตลงที่นั่น เพื่อที่จะช่วยเหลือม้าเหล่านี้สาว Kaby Wegge ก็เลยร่วมกับคนจำนวนหนึ่งก่อตั้ง Sycamore Tree Ranch ฟาร์มที่จะเป็นบ้านหลังใหม่ให้กับสัตว์ยากไร้ทั้งหลาย แล้วเธอก็ได้ประมูลเจ้าม้า Caleb และแม่ของมันมาจากโรงฆ่าสัตว์เพื่อมอบชีวิตใหม่ให้พวกมันด้วย ม้าน้อย Caleb และแม่ของมัน Wegge เล่าว่า “หลังจากช่วยเจ้า Caleb มาแล้วมันก็ต้องพักฟื้นตัวเพราะมันป่วยอยู่ ถ้าให้พูดล่ะก็ม้าหรือลาที่ถูกช่วยมาจากโรงฆ่าสัตว์มักจะป่วยแทบทุกตัวเลย” Caleb เป็นม้าอายุเพียง 7 เดือนเท่านั้น พอมันมาอยู่ที่ฟาร์มนี้ก็ต้องใช้เวลาอยู่ในเขตกักกันเป็นเวลา 1 เดือนเพื่อรักษาโรคเพื่อให้มั่นใจว่ามันจะมีสุขภาพแข็งแรง มันจึงไม่ได้วิ่งเล่นเลย หลังจากมันหายดีแล้วได้วิ่งเล่นกับแม่ในฟา์รมเป็นครั้งแรก มันก็รีบวิ่งไปรอบๆ อย่างรวดเร็ว เจ้าม้าก็ดูตื่นเต้นและมีความสุขมากเลยทีเดียว ท่าทีของ Caleb ยังแสดงให้เห็นด้วยว่ามันเป็นม้าที่ชอบเข้าสังคมมาก มันจะเข้าไปจุ๊บสัตว์ทุกตัวที่เข้าไปใกล้มัน ราวกับอยากทำความรู้จักและมอบความรักให้ เจ้าแมว Rose เองก็เป็นหนึ่งในเพื่อนใหม่ของมันเช่นกัน เจ้าเหมียวเกิดและเติบโตมาในฟาร์มแห่งนี้ ทว่าพี่น้องคอกเดียวกันของมันตายจากไปหมดเลย เจ้าเหมียวก็เลยมีเพื่อนเป็นสัตว์อื่นๆ แล้วมันก็ดูจะชอบพวกม้าเป็นพิเศษด้วย พอเจอหน้ากันก็รู้สึกถูกชะตา เป็นเพื่อนกันทันที มาให้จุ๊บ แสงความรักหน่อยมา …
-
ตำรวจสงสัยบ้านไม่มีหิมะบนหลังคา เข้าไปค้นก็ต๊กกะใจ พบทุ่งสมุนไพร 322 ต้น มูลค่า 3.4 ล้าน!!
สภาพอากาศในพื้นที่กลายมาเป็นเบาะแสอีกหนึ่งอย่าง สามารถช่วยให้ตำรวจเข้าระงับธุรกิจผิดกฎหมายได้เหมือนกันนะเออ ด้วยลักษณะที่แปลกและแตกต่างจากสิ่งแวดล้อมโดยรอบอย่างชัดเจน… เจ้าหน้าที่ตำรวจจาก West Yorkshire พบบ้านหลังหนึ่งที่มีลักษณะน่าสงสัย จากสภาพหลังคาที่ไม่มีหิมะปกคลุมหนาแน่น พร้อมกับมีกลิ่นของกัญชาโชยอย่างรุนแรงในบริเวณเมือง Keighley เขตนครบาล West Yorkshire ประเทศอังกฤษ ด้วยลักษณะบ้านที่ไม่มีหิมะปกคลุมหลังคา จึงทำให้เจ้าหน้าที่ตั้งข้อสงสัยว่าภายในบ้านต้องมีอุณหภูมิที่มากกว่าให้ความอบอุ่นแบบปกติธรรมดาแน่ๆ ซึ่งเมื่อเข้าไปภายในบ้านแล้ว ก็พบกับฟาร์มต้นกัญชาจำนวน 322 ต้น ตั้งเรียงรายอยู่ภายในห้องนอน 4 ห้องรวมไปถึงห้องใต้ดินด้วย เจ้าหน้าที่ Caroline Foster ได้ทำการทวีตรูปภาพการเข้าตรวจค้นบ้านหลังนี้ พร้อมกับกล่าวไว้ว่า “ฉันสงสัยเหลือเกินว่าทำไมบ้านหลังนี้ไม่มีหิมะบนหลังคา? แล้วก็ต้องเจอกับเหล่าสมุนไพรมากกว่า 200 ต้น ในครั้งนี้ บางต้นก็สูงถึง 1.8 เมตรเชียว” . ทางด้านเพื่อนบ้านที่อาศัยอยู่เรือนเคียง Vicky Watson กล่าวถึงความน่าสงสัยในบ้านหลังดังกล่าวว่า “มีชาวยุโรปตะวันออก 2 รายเข้ามาเมื่อ 18 เดือนที่แล้ว และในช่วงฤดูหนาวบ้านของฉันก็เย็นยะเยือก ตั้งแต่พวกเขาย้ายมา ห้องน้ำในบ้านก็ร้อนระอุ…
-
จากพนักงาน IT สู่คนเพาะเลี้ยงปลา กับการใช้ความรู้เดิมมาประยุกต์ให้ธุรกิจใหม่สบายขึ้น!!
Malcolm Ong ชายชาวสิงคโปร์ที่เริ่มต้นชีวิตการทำงานด้วยการเป็นพนักงานแผนก IT ให้กับบริษัทแห่งหนึ่งเมื่อ 20 ปีก่อน เขาเล่าว่ารอบๆ ตัวเขามีแต่คอมพิวเตอร์ มีแอร์และมีเพื่อนร่วมงานที่นั่งมองไปที่จอเหมือนๆ กัน แต่แล้ววันหนึ่งเขาได้ไปพูดคุยและคลุกคลีอยู่กับชาวนาและชาวประมงในประเทศ ซึ่งนั่นทำให้เขาได้รับความรู้และจุดประกายความสนใจในท้องทะเลแก่เขา จากจุดนั้นเองเขาจึงตัดสินใจว่าเขาจะออกจากงานและใช้ความรู้ด้านวิศวกรรมที่เรียนจบมาใช้ร่วมกับการเลี้ยงปลาของเขา แต่ใช่ว่าหนทางจะโรยด้วยกลีบกุหลาย Malcolm เล่าว่าตอนที่เขาออกจากงานเดิมมา และเริ่มเข้าสู่วงการนี้ทุกคนต่างพากันดูถูกว่าเขาจะทำมันได้เหรอ ซึ่งเขาก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเขาสามารถทำมันได้และทำได้ดีด้วย เริ่มจากการเพาะเลี้ยงด้วยการนำเทคโนโลยีและความรู้ที่เขามีมาช่วย โดยเขาเล่าว่าปกติคนทั่วไปจะนับจำนวนลูกปลาที่มาจากฟาร์มอนุบาลด้วยมือหรือการคาดคะเน แต่ตัวเขาได้เขียนโปรแกรมที่สามารถจับภาพและนับปลาได้อัตโนมัติขึ้นมา ซึ่งนั่นทำให้เขาสามารถบันทึกข้อมูลต่างๆ ได้อย่างแม่นยำ นอกจากนี้ปลาที่เขาเลี้ยงยังมีขนาดและความสดที่สูงมากๆ จนเขานั้นสามารถที่จะนำปลาจากฟาร์มไปขายยังสถานที่ต่างๆ มากมายทั่วสิงคโปร์ ซึ่งนั่นรวมถึงร้าน Candlenut ร้านอาหารที่ได้รับดาวมิชเชอร์ลิน ก็ยังเป็นลูกค้าประจำของเขาด้วย ซึ่งด้วยความคิดบวกและไม่ยอมแพ้ต่อความฝันของเขา ได้สอนให้เรารู้ว่าจงอย่ายอมแพ้และจงพิสูจน์ให้คนที่ดูถูกเห็นว่า เราไม่ได้เป็นอย่างที่พวกเขาคิด ซึ่งนั่นจะเป็นตัวผลักดันให้เราไปสู่ความสำเร็จ… ที่มา greatbigstory
-
รูปแบบใหม่แห่งการออกกำลังกาย นั่นคือการเต้นกับเจ้า “อัลปาก้า” สุดน่ารัก!!
หากคุณไม่ชอบการออกกำลังกาย ไม่เป็นไร วันนี้เรามีวิธีจะทำให้คุณได้เหงื่อออกกันได้ง่ายๆ และเพลิดเพลินไปกับมันนั่นก็คือการเต้นนั่นเอง แต่หากว่าการเต้นมันก็ยังไม่โดนใจคุณอีก ฟาร์มแห่งหนึ่งในแคนาดาก็ได้มีการเต้นออกกำลังกายแบบใหม่มานำเสนอ สำหรับฟาร์ม 313 ที่ได้คิดการเต้นเบิร์นพลังงานแบบใหม่โดยการให้เต้นไปกับเจ้าอัลปากาที่น่ารัก โดยหลักสูตรนี้มีชื่อว่า AlpacaZone รวมการเต้นฮิปฮอป การคาร์ดิโอ และการออกกำลังกายที่เรียกว่า Pilates เจ้าของฟาร์มแห่งนี้ได้บอกว่าคลาสการเต้นนี้ได้ถูกออกแบบมาให้เหมาะกับทั้งเด็กและผู้ใหญ่ จึงไม่ต้องกลัวว่าจะเกิดอันตรายอะไร โดยเฉพาะเวลาที่อัลปาก้านั้นกำลังรู้สึกดีกับเท้าของมัน “คนที่มาที่นี่นั้นต่างก็รู้สึกชอบคลาสนี้ พวกเขาชอบที่ได้มีปฏิสัมพันธ์กับเจ้าอัลปาก้าเพราะว่าพวกมันเป็นมิตร และมันก็ยังเล่นกับเด็กๆ ได้ดีอีกด้วย” Ann Patman หนึ่งในเจ้าของฟาร์ม ทุกอย่างมันน่าสนุกไปหมดเมื่อเจอกับรอยยิ้มของอัลปาก้าเหล่านั้นเข้าไป คลาสนี้จะใช้เวลา 45 นาที ต่อด้วยการพักคูลดาวน์ก่อนที่จะชวนกันไปเล่นกับเจ้าสัตว์ทั้งหลาย ซึ่งพวกมันนั้นดูเหมือนจะชอบคนและแทบจะไม่ต้องเรียกมันมาเลย นั่นก็เพราะว่าที่นี่เคยทำการเก็บขี้พวกมันไปทำปุ๋ยจึงทำให้ชินผู้คน แต่ก็คงต้องระวังกันหน่อยเวลาจะเดินไปไหนมาไหนที่นั่น โซชิลล์เกิ๊นนน อย่างไรก็ตามเราก็คงต้องรอหาหนทางในการออกกำลังกายที่จะทำให้เราสนุกไปกับมันได้ เพื่อเสริมสร้างสุขภาพก่อนหน่อยแล้วแหละ เดี๋ยวจะแพ้เจ้าอัลปาก้ามัน ที่มา: distractify
-
สุขสันต์วันเกิด!! ฟาร์มจัดงานครบรอบ 1 ขวบให้กับลูกวัวตัวน้อย ที่เจอเรื่องร้ายๆ มาตั้งแต่เด็ก
งานเลี้ยงวันเกิดคงจะเป็นหนึ่งกิจกรรมที่ลหายๆ คนชื่นชอบ แต่เจ้าวัวตัวนี้อาจจะรู้สึกอย่างนั้นเช่นกัน เมื่อมันได้มีโอกาสฉลองวันเกิดเป็นครั้งแรก!! พบกับเจ้า Minnie Moo วัวน้อยวัย 1 ขวบที่ได้ลิ้มรสความอร่อยของเค้กวันเกิดเป็นครั้งแรก หลังจากที่มันลืมตาดูโลกเมื่อปีที่แล้ว Minnie Moo กำลังเฝ้ารอวันฉลองของมันอย่างจดจ่อ (ดูหน้าก็รู้แล้วววว) Minnie เกิดก่อนกำหนดในช่วงฤดูพายุฝนกระหน่ำจากฟาร์มแห่งหนึ่งที่รัฐ Minnesota เมื่อตอนที่มันลืมตาขึ้นมาดูโลก แม่ของมันยังมีอายุน้อยอยู่จึงไม่สามารถผลิตน้ำนมให้กับเจ้าลูกวัวได้ ชีวิตของลูกวัวจึงขึ้นอยู่กับความพยายามของเจ้าของฟาร์ม “ทางฟาร์มโทรหาเราเมื่อลูกวัวเกิดและเล่าเรื่องทั้งหมดให้เราฟัง พวกเขาอยากให้มันมีชีวิตรอด พวกเราจึงเดินทางไปที่นั่นและพามันมาดูแล” คุณ Tracy Orr จากคอกสัตว์ Sunnyside กล่าว ถึงแม้ภารกิจยื้อชีวิตเจ้าตัวเล็กจะมีความยากลำบาก แต่ทางคุณ Tracy ก็ไม่ยอมแพ้ พวกเขาสร้างสถานที่อนุบาลเจ้าลูกวัวอย่างเหมาะสมและดูแลมันอย่างใกล้ชิด 6 เดือนต่อมาลูกวัวก็ค่อยๆ แข็งแรงขึ้นเรื่อยๆ จากร่างกายที่อ่อนแอ ตอนนี้ Minnie เริ่มโตเป็นสาวแล้ว ในแต่ละวัน Minnie จะใช้เวลาส่วนใหญ่วิ่งเล่นอยู่ในฟาร์ม และเล่นกับเหล่าเจ้าตูบเพื่อนซี้ของมัน จนบางครั้งก็อดสนสัยไม่ได้เลยจริงๆ ว่าตกลงแกเป็นวัวหรือสุนัขกันแน่นะเจ้า Minnie ตอนนี้เจ้าวัวกลายเป็นส่วนหนึ่งของที่นี่ไปเรียบร้อยแล้ว จนในที่สุดวันที่หลายๆ คนในฟาร์มหวังจะได้เห็นก็มาถึง เจ้าวัวน้อยมีอายุครบ 1 ขวบพอดี พวกเขาจึงตัดสินใจจัดงานเลี้ยงเพื่อฉลองวันเกิดให้กับมัน…
-
ครอบครัวย้ายสัตว์กว่า 72 ชีวิต ไปอาศัยอยู่บนภูเขา และที่นั่นก็ได้พบกับความสุขที่แท้จริง…
เป็นเรื่องราวที่จะทำให้เรารู้สึกเหมือนกับว่าโลกนี้มีคนชื่อโนอาห์ และเรือของเขาอยู่จริงๆ เพราะของครอบครัวของชาวเน็ตท่านหนึ่ง ได้ย้ายเหล่าสัตว์น้อยใหญ่มากกว่า 72 ชีวิต ไปอาศัยอยู่บนภูเขาอันแสนสงบสุข และหลังจากที่เขาได้ย้ายพวกมันให้ไปอยู่ในพื้นที่ๆ อุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติ เขาก็ได้ใช้เวลาตามเก็บภาพใบหน้าแห่งความสุขของพวกมันออกมาด้วยเช่นกัน เราตามไปชมกันเลย… อัลปาก้าบอกรู้สึกดี๊ดี อยากวิ่งไปไหนก็ได้ แต่จะว่าไปพวกเขาก็ไม่ได้เริ่มต้นเลี้ยงสัตว์ทีเดียว 72 ตัวหรอกนะ เจ้าของบ้านเล่าว่าตอนแรกสุดก็เลี้ยงแค่สุนัข 2 ตัว จากนั้นก็เริ่มมีแก๊งค์แม่ไก่เพิ่มมาอีก 12 ตัว และก็ตามด้วยอัลปาก้า กระต่าย แกะ เป็ด จนเอาไปเอามาก็ปาเข้าไปกว่า 72 ตัวแล้ว ทั้งหมดมันก็เริ่มมาจากความคิดสนุกๆ ของเจ้าของบ้าน ที่อยากจะอยู่กับสัตว์เลี้ยงนานาชนิดในดินแดนที่สงบสุข และที่สำคัญทั้ง 72 ตัวมีชื่อเรียกเป็นของตัวเองหมดทุกตัว (จำได้ยังไงกันนะ?) เรียกได้ว่าในอนาคตจำนวนประชากรของชาวฟาร์มแห่งนี้ คงเพิ่มขึ้นเป็นหลายร้อยชีวิต เพราะตั้งแต่ย้ายมาอาศัยอยู่ในพื้นที่โล่งกว้าง ดูเหมือนว่าเหล่าสรรพสัตว์ขยันที่จะออกลูกออกหลานกันเหลือเกิน แม้แต่ผึ้งก็มีบ้านให้อยู่กับเค้าด้วยเหมือนกัน เรียกว่าครบวงจรกันเลยทีเดียว ที่สำคัญสัตว์ทุกตัวได้รับอิสระเท่าๆ กัน…
-
เจ้าของฟาร์มถึงกับเดือด หลังม้าตาย 2 ตัว เพราะกิน ‘ถุงอึสุนัข’ ที่มีคนโยนเข้ามาในฟาร์ม
เจ้าของฟาร์มที่ตั้งอยู่ในหมู่บ้าน Warlingham เมือง Surrey ประเทศอังกฤษ ถึงกับหัวร้อนเมื่อมีคนมักง่ายโยนถุงอึ๊หมาเข้ามาในฟาร์มของตน จนทำให้ม้าของเขาเสียชีวิตไปแล้วถึง 2 ตัว เพราะกินอึ๊หมาเข้าไป ด้วยเหตุนี้เองเจ้าของฟาร์มจึงนำป้ายมาติดไว้ที่บริเวณข้างรั้วเพื่อป้องกันเหตุการณ์อันน่าเศร้าแบบนี้ไม่ให้เกิดขึ้นอีก ในป้ายเขียนเอาไว้ว่า “คุณได้ฆ่าม้าที่อยู่ในฟาร์มนี้ไปแล้ว 2 ตัว ด้วยการโยนถุงอึสุนัขข้ามรั้วเข้ามาในสนามหญ้า ตัวแรกนั้นตายไปเมื่อไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้ และจากชันสูตรก็พบว่าในท้องของมันมีแต่ถุงอึหมาเต็มไปหมด และตัวที่สองก็เพิ่งจะตายไปเมื่อสัปดาห์ก่อน ซึ่งสัตวแพทย์ก็บอกว่าเกิดจากสาเหตุเดียวกันกับตัวแรก ม้ามันได้กลิ่นคล้ายธัญพืชที่เป็นอาหารของมันจากอึสุนัข และมันก็กินเข้าไปโดยที่ไม่รู้หรอก ตอนนี้เจ้าม้าตัวเล็กกลายเป็นลูกกำพร้าไม่มีแม่ของมันคอยดูแลอีกต่อไป ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะคุณไม่ยอมเก็บอึหมาของคุณกลับไปที่บ้านด้วย หรือโยนมันทิ้งลงถังขยะให้เป็นที่เป็นทาง” โฆษกขององค์กรช่วยเหลือสัตว์ RSPCA (Royal Society for the Prevention of Cruelty to Animals) ได้เห็นเรื่องดังกล่าวนี้ ก็เลยออกมาให้ข้อมูลเสริมอีกว่า การทิ้งถุงอึสุนัขบนสถานที่สาธารณะนั้นเป็นอะไรที่อันตรายมากๆ เพราะมันสามารถเข้าไปติดพันอยู่ในลำไส้ของสัตว์ที่เผลอกินมันเข้าไป นอกจากนี้ยังเสี่ยงที่ถุงนั้นจะติดไปกับจมูกของมันและทำให้ไม่สามารถหายใจได้อีกด้วย เพระาฉะนั้นเหล่าคนเลี้ยงหมาทุกคนควรทำก็คือ การทิ้งถุงอึสุนัขลงถังขยะ และต้องตรวจดูให้แน่ใจด้วยว่าผูกมันเอาไว้อย่างแน่นหนา และอยู่ในถังขยะเรียบร้อยดีแล้วทุกครั้ง เลี้ยงสุนัขแล้วก็ต้องดูแลให้ดี และต้องใส่ใจส่วนรวมด้วยนะจ๊ะ ที่มา : metro
-
แม่เบื่อลูกชายว่าง วันๆ ไม่ทำอะไรเลย ประกาศผ่านเฟซบุ๊ก ‘ใครก็ได้ เอามันไปทำงานที’
เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2560 ทางสำนักข่าวต่างประเทศมีรายงานว่า Donna Cooper คุณแม่จาก Hornsea, East Yorkshire ประเทศอังกฤษ สุดจะทน โพสต์ข้อความประกาศมอบลูกชายให้ไปทำงานด้วยแบบฟรีๆ โดยไม่ต้องให้เงิน เหตุเพราะเบื่อนิสัยลูกชายที่วันๆ มัวแต่เล่นเกม ทางด้านคุณแม่ Donna ได้ออกมาเผยว่า เธอเบื่อนิสัยของลูกชายมากๆ เพราะวันๆ เขามัวแต่นั่งอยู่รอบๆ บ้าน หลังจากที่ถูกทางโรงเรียนกำจัดช่วงเวลาเรียน เพราะพฤติกรรมของเขาเอง ด้วยเหตุนี้ เธอจึงได้เขียนข้อความประกาศลงในเฟสบุ๊คว่า “นี่คือ Nick Cooper ลูกชายวัย 16 ปี เขาถูกทางโรงเรียนจำกัดเวลาเรียน เพราะพฤติกรรมของเขา เวลาที่เขาอยู่นอกโรงเรียนเขาเป็นคนที่สุภาพเรียบร้อย แต่ดูเหมือนทางโรงเรียนจะไม่คิดแบบนั้น ซึ่งเขาจะได้ไปโรงเรียนเพียงแค่วันจันทร์ และวันอังคาร ดังนั้น นี่คือการจัดการที่ดี และเป็นเหตุผลสำหรับการโพสต์นี้ ฉันเป็นแม่ และต้องทำงานหนัก ฉันจึงไม่ชอบให้ลูกอยู่แต่ในบ้านเวลาที่ฉันออกไปทำงาน ดังนั้น หากใครมีงานให้เขาทำ ไม่ว่าจะเป็นงานในฟาร์ม หรืองานหนักๆ อะไรก็ได้ เอาไปทำงานให้ฟรีๆ เลย”…
-
ไปกันไหม? ญี่ปุ่นเตรียมเปิดรับเด็กจบสาขาเกษตรไปทำงานที่นู่น พักยาวๆ 3-5ปี
ถ้าการได้ไปใช่ชีวิตอยู่ในฟาร์มสักแห่ง ได้ปลูกพืชปลูกผักแบบที่ตัวเองชอบ อยู่กับธรรมชาติเขียวๆ เป็นความฝันของคุณล่ะก็ โอกาสของคุณมาถึงแล้ว เพราะตอนนี้ในประเทศญี่ปุ่นกำลังจะเปิดโอกาสให้ชาวต่างชาติอย่างเราๆ เข้าไปทำการเกษตรที่โน่นกันแบบยาวๆ เลย เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เว็บไซต์ Nikkei ของญี่ปุ่นได้รายงานว่าทางรัฐบาลญี่ปุ่นเตรียมที่จะออกนโยบายเพื่อมองหาบุคลากรที่มีความสนใจหรือมีความเชี่ยวชาญด้านเกษตรกรรมจากต่างประเทศ เข้ามาทำงานอยู่ภายในประเทศญี่ปุ่น โดยจัดแบ่งเป็นโซนพิเศษให้โดยเฉพาะ ก่อนหน้านี้ทางรัฐบาลญี่ปุ่นได้มีการเปิดกว้างสำหรับด้านต่างๆ มาแล้วเช่นล่าม พ่อครัว เพื่อช่วยเหลือธุรกิจต่างๆ ให้สามารถรองรับจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ด้านนายกรัฐมนตรี Shinzo Abe ได้เสนอการทำฟาร์มรูปแบบผสมในโซนพิเศษ สำหรับชาวต่างชาติที่มีความเชี่ยวชาญเข้ามาทำงานทางด้านเกษตรกรรม พร้อมกับอนุญาตให้พำนักอยู่ภายในประเทศได้นานตั้งแต่ 3 ถึง 5 ปี ภายใต้ร่างนโยบายดังกล่าวจะมีการอนุมัติคุณสมบัติและข้อกำหนดเกี่ยวกับการเข้าไปทำงานที่ญี่ปุ่น จะต้องมีประวัติการทำงาน มีรับรองคุณวุฒิการศึกษา ซึ่งหากเป็นสายงานอื่นๆ ก็สามารถยืดหยุ่นได้เพื่อรองรับกับสายงานที่กำหนด สามารถทำงานตามที่กำหนดได้ และผู้สมัครจะต้องผ่านการทดสอบด้วย ซึ่งถ้าหากผู้สมัครผ่านการสอบรับรองมาก่อนทั้งภายในญี่ปุ่นและต่างประเทศหรือมีผลงานชนะเลิศการประกวดทางด้านการเกษตรมาก่อนก็จะผ่านรอบคัดเลือกทันที สำหรับผู้ที่ผ่านเกณฑ์จะสามารถพำนักอยู่ที่นั่นได้ราวๆ 3-5 ปี เพื่อทำการเกษตร และการว่าจ้างงานชาวต่างชาติของธุรกิจเกษตรกรรมของญี่ปุ่นจะต้องมีเงื่อนไขบางอย่างเช่น จะต้องทำการว่าจ้างบุคลากรมาก่อนแล้วอย่างน้อย 10 คน (ชาวญี่ปุ่น) ถึงจะสามารถว่าจ้างชาวต่างชาติได้โดยตรง (เพิ่มเติม) …
-
แชนแนล ‘SunFlower Farm’ ที่ขนขบวนลูกแพะออกมาวิ่งป้วนเปี้ยน น่ารักทะลักจอ!!
ปกติแล้วเรามักจะคุ้นเคยกับฟาร์มเลี้ยงหมู หรือเลี้ยงวัวอะไรเทือกนั้น โดยเฉพาะในบ้านเราคงไม่ค่อยคุ้นเคยกับฟาร์มเลี้ยงแพะซักเท่าไหร่ แต่วันนี้เราจะพาไปรู้จักกับ ‘SunFlower Farm’ ฟาร์มลูกแพะจากรัฐเมน ประเทศสหรัฐฯ ความโดดเด่นของที่นี่ไม่ใช่แค่จำนวนของลูกแพะที่มีอยู่อย่างมากมาย แต่ทว่าทุกตัวกลับมีนิสัยที่น่ารักน่าชัง ชอบออกมาวิ่งเล่นพร้อมกันเป็นกลุ่มใหญ่ทุกวันตอนเย็น เห็นแบบนี้แล้วจะไม่ให้แชร์ต่อก็คงไม่ได้ ก็น้องๆเล่นทำตัวกันน่ารักซะอยากจะไปวิ่งเล่นด้วยเลย ในรูปนี้ถือว่ายังน้อย แต่ก็น่ารักสุดๆ เพราะทุกวันเจ้าแพะจะออกวิ่งเล่นกับหญิงสาวผู้ดูแลไร่เป็นประจำ ลองดูคลิปนี้แล้วจะรู้ว่า การวิ่งออกกำลังกายโดยมีแพะน้อยหลายสิบชีวิตวิ่งตาม มันจะน่ารักมากขนาดไหน ที่ ‘Sunflower Farm’ แห่งนีี้นอกจากจะเพาะพันธุ์ และเลี้ยงดูน้องแพะนับร้อยชีวิตแล้ว พวกเขายังเปิดให้คนทั่วไปเข้าไปเยี่ยมชม และวิ่งเล่นกับลูกแพะจำนวนมากได้อีกด้วย แต่สำหรับใครที่ไม่สามารถเดินทางไปเยี่ยมชมด้วยตัวเองถึงประเทศสหรัฐฯได้ เราสามารถตามติดชีวิตของลูกแพะ และสัตว์เลี้ยงในฟาร์มตัวอื่นๆได้ที่แชนแนลยูทูป ‘Sunflower Farm Creamery‘ ตัวอย่างของการวิ่งเล่นกับแพะ แหม่ดูเหมือนบางตัวจะชอบกล้อง มากกว่าวิ่งอีกนะเนี่ย ซึ่งแชนแนลยูทูปของฟาร์มแห่งนี้ เริ่มก่อตั้งในโลกออนไลน์มาตั้งแต่ปี 2012 นอกจากการเลี้ยงสัตว์แล้ว ที่นี่ยังใช้เป็นสถานที่สำหรับผลิตชีส และคาราเมลอีกด้วยล่ะ เมื่อแก๊งค์แพะเริ่มโตขึ้น มันอาจจะปล่อยให้การวิ่งเล่นเป็นเรื่องของแพะน้องใหม่ แต่การอยู่รวมกันเป็นหมู่คณะยังคงไม่เสื่อมคลาย รักกันดีเหมือนเพื่อนร่วมสถาบัน พอวันไหนที่วิ่งมาจนเหนื่อยเต็มที่ เมื่อกลับเข้ามาพวกมันก็มักจะหลับปุ๋ยกันเป็นแถวแบบนี้ล่ะ!! นับว่าเป็นฟาร์มแพะที่น่าไปม๊ากก…
-
น่ากลัวมาก!! เมื่อชายหนุ่มเปิดประตูบ้าน ออกมาเจอกับ ‘แก๊งแมว’ นับสิบบุกมาแทบทุกวัน
ในทุกๆ เช้า คุณ Corey Karmann ชาวสวนแห่งรัฐเนบราสก้า ประเทศสหรัฐอเมริกา จะต้องเจอกับแก๊งแมวเหมียวจำนวนนับสิบตัวออกมาต้อนรับที่หน้าประตูบ้านอยู่เสมอ… คุณ Karmann ได้รับเหล่าเหมียวที่มีความเชี่ยวชาญในการจับหนูเข้าทำงานในฟาร์มของครอบครัวเขา เขาให้ที่อยู่ที่แสนสุขสบาย และอาหารที่แสนอร่อยกับพวกมัน และแก๊งเหมียวก็ทำหน้าที่จับหนูให้กับเขา เมื่อถึงเวลาอาหารเย็นพวกมันจะมายืนชุมนุมกันที่หน้าประตูบ้านของเขา “ฟาร์มนี้เป็นสถานที่ที่ผมเติบโตมา และอาศัยอยู่ในปัจจุบัน เราจะเลี้ยงแมวอยู่ตลอด เนื่องจากว่าในฟาร์มนั้นเต็มไปด้วยผลผลิตทางการเกษตรที่เราทำมาตลอดปี ฉะนั้นมันจึงมีหนูอยู่จำนวนมาก” คุณ Karmann กล่าว เขาไม่ได้เห็นหนูแม้แต่ตัวเดียวมาเป็นปีแล้ว ต้องขอบคุณการทำงานหนักของชาวแก๊งที่ทำหน้าที่กันเป็นอย่างดี “ตอนนี้ชาวแก๊งที่ทำหน้าที่ไล่จับหนูอยู่ทั้งหมด 12 ตัว โดยมันจะเดินทางไปมาระหว่างบ้านของผม และบ้านของพ่อผม และมันสามารถเดินไปไหนมาไหนก็ได้ในฟาร์มแห่งนี้ ที่มีพื้นที่กว้างกว่า 140 เมตร” พวกมันชื่นชอบการใช้ชีวิตอยู่นอกบ้านมากกว่าที่จะอยู่ในบ้าน ราวกับคิดว่าตัวเองเป็นเจ้าของฟาร์มตัวจริงยังไงยังงั้นเลยล่ะ “ส่วนใหญ่แล้วพวกมันจะทำการล่ากันแบบเป็นกลุ่ม แต่หลังจากที่ล่าไปซักพักก็จะเดินมาเรียกร้องความสนใจจากผมเพื่อขอให้เกาหูให้ แน่นอนว่าผมก็ทำให้พวกมันทุกตัว ฮ่าาาา” คุณ Karmann และครอบครัวของเขาดูแลชาวแก๊งเหมียวเป็นอย่างดี ทั้งให้อาหารดีๆ และพาพวกมันไปหาหมอ เพื่อตอบแทนการทำงานหนัก (เหรอ?) ของพวกมัน “พวกมันกำจัดหนู และศัตรูพืชภายในฟาร์มให้กับเรา เพราะฉะนั้นเราต้องตอบแทนก้วยการดูแลพวกมันให้ดีที่สุด”…
-
รู้จักกับเจ้า Teton แมวที่ประกาศตัวว่าเป็น “ราชาแห่งฟาร์ม” สัตว์ทุกตัวต้องทำตาม!!
ไม่น่าเชื่อว่าตอนนี้แมวมันชักจะบ้าอำนาจขึ้นไปทุกทีแล้ว ถ้าใครเลี้ยงแมวอยู่โปรดสังเกตพฤติกรรมมันไว้ให้ดีนะ เดี๋ยวมันจะไปเหมือนกับเจ้าเหมียวตัวนี้ก็เป็นได้ Scott และ Joanna Shaw ได้ทำการรับเลี้ยงแมวมาตัวหนึ่ง ตั้งชื่อมันว่า Teton แล้วให้มันมาอาศัยอยู่ในฟาร์มด้วย โดยหวังว่าหน้าที่ของมันก็คือไล่จับหนูเหมือนกับแมวทั่วๆไป แต่มันคิดการใหญ่กว่านั้น หลังจากมันใช้เวลาในการเล่นไปทั่วฟาร์ม มันก็ได้ไปเจอกับสัตว์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ม้า แกะ หรือแม้กระทั่งลา ซึ่งทั้งหมดนี้จู่ๆ ก็กลายเป็นลูกน้องของเจ้า Teton ไปโดยปริยาย หาที่ไปที่มาไม่ได้ และกิจกรรมหลักๆ ของเจ้าแมวก็คือขึ้นไปขี่หลังสัตว์เหล่านี้แล้วก็นอนชิว ราวกับว่าเป็นเจ้านายใหญ่ ส่วนมากเจ้าเหมียวก็จะไปคลุกคลีอยู่กับม้าและลามากกว่า บางทีก็ไปนอนด้วยเลย เราไปชมความน่ารักและความบ้าอำนาจของมันกันเลย ใครที่เลี้ยงแมวก็จงระวังไว้นะ เผลอๆ มันอาจจะพยายามยึดบ้านคุณอยู่ก็เป็นได้ ที่มา lifebuzz
-
ชมกระบวนการปลูก เก็บเกี่ยว และผลิตทั้งหมดจนกว่าจะมาเป็นเฟรนช์ฟรายของ McDonald’s
ต้องยอมรับว่าหนึ่งในอาหารที่ได้รับความนิยมสูงสุดตลอดกาลของแบรนด์ฟาสต์ฟู้ดส์ McDonald’s ก็คือมันฝรั่งแท่งทอด หรือ เฟรนช์ฟราย นั่นแหละ เพราะด้วยความอร่อยอันเป็นเอกลักษณ์ แตกต่างจากเฟรนช์ฟรายเจ้าอื่น ทำให้หลายคนติดใจมานักต่อนักแล้ว เฟรนช์ฟราย – มันฝรั่งแท่งทอด ของ McDonald’s แต่ด้วยสาขาที่มีอยู่กระจายไปตามทั่วโลก มันฝรั่งที่ว่านี้มันมาจากไหน แล้วกระบวนการผลิตทั้งหมดจะเป็นอย่างไร? ซึ่งมันฝรั่งทั้งหมดที่ใช้เป็นวัตถุดิบหลักจะปลูกและเก็บเกี่ยวมาจากฟาร์มในรัฐ New Brunswick, Alberta และ Manitoba ประเทศแคนาดา กระบวนการทั้งหมดเริ่มจากการเพาะปลูกมันฝรั่งภายในฟาร์ม เมื่อมันฝรั่งโตเต็มที่พร้อมเก็บเกี่ยวก็จะมีรถเก็บเกี่ยวคันเบ้อเร่อกวาดมันฝรั่งขึ้นมา มีคนคอยคัดมันฝรั่งที่ไม่ได้มาตรฐานออกบนรถเก็บเกี่ยวด้วยและคัดอีกทีก่อนที่จะนำเข้าสู่สายพานเพื่อนำไปแปรรูปเป็นเฟรนช์ฟรายด้วยเครื่องจักรภายในโรงงานต่อไป มันฝรั่งที่เก็บเกี่ยวมาถึงหน้าโรงงานแล้ว ปอกเปลือกให้เรียบร้อย ล้างให้สะอาด เมื่อมันฝรั่งจำนวนมหาศาลมาถึงโรงงานแล้ว เครื่องจักรก็จะทำการลำเลียงไปตามสายพานทั้งล้าง ปอกเปลือก หั่นให้เป็นชิ้น และร่อนบรรจุใส่ถุงเรียบร้อยสวยงาม พร้อมส่งไปยังร้าน McDonald’s ที่มีสาขาอยู่ทั่วโลก การบรรจุใส่ถุง กระบวนการสุดท้ายและท้ายที่สุดก็คือการทอดเฟรนช์ฟรายให้มีสีเหลืองดูน่ารับประทานด้วยน้ำมันพืช…
-
ชาวไร่ไม่จน!! ญี่ปุ่นเริ่มแล้ว ทำ ‘ไร่ผักกาดหอม’ ด้วยหุ่นยนต์ เก็บเกี่ยวได้วันละ 30,000 หัว
สำหรับอาชีพเกษตรกร อาจจะเป็นอาชีพที่หลายคนมองว่าด้อยค่า หาโอกาสรวยยาก และไม่เป็นที่หมายปองของคนรุ่นใหม่…!! แต่สำหรับในประเทศพัฒนาบางประเทศ การเกษตรกลับถูกมองว่าเป็นอาชีพแห่งอนาคต บริษัทไอทีชั้นนำในสหรัฐอเมริกาเริ่มหันมาศึกษาความเป็นไปได้ในการเกษตร เช่นเดียวกับบริษัทขายส่งผักกาดหอมแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น ซึ่งเชื่อมั่นว่าการเกษตรในอนาคต จะใช้หุ่นยนต์เป็นผู้ผลิตแทนที่แรงงานมนุษย์นั่นเอง ฟาร์มแห่งหนึ่งในเมืองเกียวโต ซึ่งทำการปลูกผัดกาดหอมในระบบปิด ระบุว่าการทำแบบนี้สามารถควบคุมสิ่งแวดล้อมให้เหมาะกับการเจริญเติบโตของผักกาดหอมได้มากที่สุด การเพาะปลูกมุ่งเน้นการใช้พื้นที่อย่างคุ้มค่า แทนที่จะปลูกในดินก็ถูกยกระดับมาเป็นบนชั้น ซึ่งช่วยให้ได้ผลผลิตต่อตารางเมตรมากขึ้น มีการใช้แสง LED แทนพลังงานแสงอาทิตย์ด้วยเช่นกัน สิ่งที่น่าสนใจกว่านั้นคือ ส่วนฟาร์มผักกาดหอมแปลงใหม่ของบริษัทในปี 2017 ซึ่งจะใช้หุ่นยนต์มาทำหน้าที่แทนมนุษย์ (แต่ยังคงต้องใช้แรงงานคนเล็กน้อยในการควบคุม) จะช่วยประหยัดค่าแรงงานกว่า 50% ลดการใช้พลังงาน 30% และรีไซเคิลน้ำกว่า 98% ที่ต้องสูญเสียไปในการเพาะปลูกปกติให้มีประโยชน์ขึ้นมาอีกครั้ง ปัจจุบันฟาร์มหุ่นยนต์สามารถผลิตได้วันละ 21,000 หัว แต่ตามเป้าเมื่อเปิดผลิตอย่างเต็มรูปแบบแล้ว จะสามารถทำได้ถึงวันละ 30,000 หัวเลยทีเดียว J.J. Price โฆษกของทางบริษัทกล่าวว่า เป้าหมายคือการช่วยให้คนในรุ่นต่อไปไม่ต้องคอยกังวลว่าจะมีอาหารบริโภคเพียงพอหรือไม่ เราจะทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงอาหารในราคาถูก และถัดไปคือการผลิตโปรตีนที่ทุกคนเข้าถึง มันจะสร้างความแตกต่างให้เห็นได้ชัดเจน หลายคนกังวลว่า ฟาร์มหุ่นยนต์จะมาแย่งงานเกษตรของมนุษย์หรือไม่?? ในทางกลับกันเหมียวคิดว่ามันจะช่วยให้มนุษย์ได้มีงานทำเพิ่มมากขึ้นในอุตสาหกรรมการเกษตรซะอีก อย่างที่โรงงานอุตสาหกรรมมีการใช้เครื่องจักรมาทำงาน ก็เกิดการกระจายรายได้ไปในส่วนต่างๆของประเทศ…
-
บริษัทญี่ปุ่นล้ำโลก ปลูกทั้งข้าวและผักอีกมากมายกว่า 200 ชนิด ภายในอาคารศูนย์ใหญ่!!
ในโลกยุคที่ความเจริญของตัวเมืองเติบโตอย่างรวดเร็ว ทำให้ชีวิตของผู้คนเปลี่ยนไปจากแต่ก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมืองหลวงในหลายๆ ประเทศ บรรยากาศแบบบ้านเรือนและธรรมชาติจากชนบทนั้น ได้หายไปอย่างสมบูรณ์ แต่ไม่ใช่กับบริษัท Pasona Group แห่งนี้ เพราะว่าที่นี่ได้ทำการปลุกชีวิตสีเขียวขึ้นมาภายในตัวอาคารศูนย์ใหญ่ของบริษัทซะด้วย!! ซึ่งยังคงใช้เป็นตึกสำหรับการดำเนินกิจการควบคู่กับการปลูกข้าว ปลูกผัก ตั้งแต่แตงกวายันมะเขือเทศ โดยฟาร์มสีเขียวภายในอาคารนี้ ปลูกผักมากมายกว่า 200 ชนิดกันเลยทีเดียว วัตถุดิบสดและใหม่ที่ปลูกจะถูกนำมาใช้ประกอบเป็นอาหารให้กับพนักงานที่ทำงานภายในบริษัท รวมไปถึงการสร้างพื้นที่สีเขียวตกแต่งภายในยังช่วยกระตุ้นให้คนรุ่นใหม่หันมาสนใจในเรื่องของการเกษตรมากขึ้น สืบเนื่องจากปัจจุบันผู้คนหันไปสนใจทำงานออฟฟิศซะส่วนใหญ่ อาชีพเกษตรกรภายในประเทศจึงมีจำนวนลดลงอย่างน่าใจหาย อีกทั้งยังเป็นการรณรงค์ให้ธรรมชาติอยู่คู่กับมนุษย์ได้ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นที่ทำงานออฟฟิศแบบนี้ก็ตาม ที่มา : rocketnews24
-
ภาพประวัติศาสตร์ เรื่องราวของสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตสมัยก่อน ทำกิจกรรมกับจระเข้!!
ปัจจุบันนี้โลกเรามีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายให้คนได้เลือก ไม่ว่าจะเป็นทะเล ป่า หรือแม้กระทั่งในเมืองใหญ่ก็ยังเที่ยวได้เลย ถ้าคนอยากจะเที่ยว แต่วันนี้เหมียวจะพาทุกท่านย้อนไปในช่วงปี 1907-1953 ที่ลอส แองเจิลลีส มีสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งที่เป็นที่นิยมกันมาก เหมียวก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคนสมัยก่อนเขาฮิตอะไรกันบ้าง แต่สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้เปิดให้นักเดินทางได้สนุกไปกับกิจกรรมต่างๆที่ต้องทำร่วมกับเหล่าอัลลิเกเตอร์มากมาย “ฟาร์มอัลลิเกเตอร์” นี้ ก่อตั้งโดย Francis Earnest และคู่หูของเขา Joe Campbell ซึ่งในฟาร์มนั้นประกอบไปด้วยเกเตอร์กว่า 1,000 ชีวิต ซึ่งทางฟาร์มก็อนุญาตให้คนได้ป้อนอาหารกับมันแบบแนบชิดสนิทเหมือนป้อนอาหารหมาเลย อีกทั้งยังมีการแสดงต่างๆกับพวกมันอีกด้วย ดูเหมือนจะน่าเหลือเชื่อ แต่เรามีภาพมาพิสูจน์ นี่คือภาพของโปสการ์ดจากสวนแห่งนี้ เหมือนกับว่าจะบอกให้เราสามารถเอาลูกมาเล่นกับเหล่าเกเตอร์พวกนี้ได้ชิวๆเลยเนอะ หรือบางทีจะให้มันลากรถให้ก็ได้ จูงเป็นหมาเลยก็ดี ภาพโปสการ์ดอาจดูเหมือนแต่ง อ่ะนี่ภาพจริงเลย ใกล้ชิดกันแบบสุดๆ ที่สวนแห่งนี้มักจะให้ผู้คนได้ใกล้ชิดกับเหล่าเกเตอร์แบบมือถึงมือให้มากที่สุด ภาพนี้คือสยองมาก สาวๆได้ชมการป้อนอาหารเกเตอร์แบบอยู่ในบ่อกันเลย ช่วงเวลาให้อาหาร ถือเป็นสิ่งที่สนุกสุดๆ เอิ่ม.. คุณสามารถปล่อยให้ลูกไปเล่นกับเกเตอร์ตัวใหญ่ๆในบ่อได้ด้วยนะ ทำไมเขาไม่กลัวกันเลยล่ะ และที่ประหลาดใจยิ่งกว่านั้นคือ ไม่พบสถิติการถูกกัดเลยแม้แต่คนเดียว แต่เหมียวว่าเขาคงแค่ไม่ได้บันทึกลงไปมากกว่าล่ะมั้ง คุณยังสามารถพาหมามาเล่นได้ด้วย …