Tag: ฟิลิปปินส์
-
ประธานาธิบดี George H. W. Bush ใช้นามแฝงแอบ ‘ชุบเลี้ยง’ เด็กคนหนึ่งมานานถึง 10 ปี
ตัวแทนจากสำนักงานของ George H.W. Bush อดีตประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา ได้ออกมาเผยว่า Bush นั้นมีการส่งเงินและจดหมายติดต่อกันเด็กชายชาวฟิลิปปินส์คนหนึ่งมาตั้งแต่ปี 2002 George H.W. Bush (ซ้าย) และ Timothy (ขวา) George H.W. Bush นั้นได้ชุบเลี้ยงเด็กชายชาวฟิลิปปินส์คนหนึ่งนามว่า Timothy เขาส่งจดหมายไปให้กับเด็กชายคนนี้ครั้งแรกในวันที่ 22 มกราคม 2002 โดยใช้นามแฝงว่า “George Walker” โดย Bush เริ่มคิดที่จะสนับสนุนเด็กชายคนนี้เพราะ เมื่อปี 2001 เขาได้พบกับองค์การไม่แสวงหากำไร Compassion International ที่ใช้โบสถ์ท้องถิ่นเพื่อช่วยเหลือเหล่าเด็กๆ ที่ใช้ชีวิตอย่างแร้นแค้น Bush จึงพบว่าเด็กที่ชื่อว่า Timothy นี้มีความน่าเป็นห่วงในเรื่องของความปลอดภัยในการใช้ชีวิต แต่ Bush ก็ไม่สามารถส่งเงินหรือของให้กับเด็กคนนี้โดยตรงได้ เขาจึงคิดนามแฝงขึ้นมาตั้งแต่นั้น Bush ส่งของให้กับ Timothy หลายอย่าง เช่น ดินสอสี กระดาษวาดเขียน และอุปกรณ์วาดเขียน เพราะเขาเห็นว่าในข้อมูลส่วนตัว Timothy…
-
“ซีเกมส์ 2019” เพิ่มกีฬาประเภท eSports อีก 6 รายการ เหล่าเกมเมอร์ลับฝีมือรอเลย!!
งานแข่งขันกีฬาครั้งใหญ่ที่จัดขึ้นทุกๆ 2 ปีในย่านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่าง ซีเกมส์ (Southeast Asian Games) นั้นประกอบไปด้วยกีฬาหลายประเภทที่ให้นักกีฬาจากประเทศในภูมิภาค SEA ได้มาแข่งขันกันเพื่อคว้าเหรียญทองไปครอง และในปี 2019 ที่จะถึงนี้ก็เป็นคิวของประเทศฟิลิปปินส์ที่จะต้องเป็นเจ้าภาพจัดงานกีฬาซีเกมส์ครั้งต่อไป จึงมีข่าวแว่วออกมาว่าจะมีการนำการแข่งขันเกมหรือ eSports เข้าไปเป็นหนึ่งในประเภทกีฬาชิงเหรียญในซีเกมส์ด้วย! งานนี้ทาง คณะกรรมการซีเกมส์แห่งฟิลิปปินส์ และ กรรมการโอลิมปิกฟิลิปปินส์ ได้ร่วมมือกับ Razer เพื่อสร้างการแข่งขันกีฬาเกมอย่างเป็นทางการครั้งแรกในประวัติศาสตร์ซีเกมส์ โดยการแข่งขัน eSports ในซีเกมส์ 2019 นี้จะประกอบด้วยเกม 6 เกม ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือเกมมือถือสไตล์ MOBA อย่าง Mobile Legends: Bang Bang นั่นเอง (ส่วนรายชื่อเกมทั้งหมดจะเผยวันที่ 15 ธันวาคม 2018) เกม Mobile Legends: Bang Bang นั่นหมายความว่าสำหรับการแข่งขันกีฬาประเภท eSports นั้นจะมีเหรียญทองให้เก็บถึง 6 เหรียญ ซึ่งเกมแต่ละเกมก็จะอยู่บนแพลตฟอร์มที่ต่างกันออกไป (เกมมือถือ…
-
แอร์ฯ สาวฟิลิปปินส์ อาสา “ให้นม” กับลูกน้อยของผู้โดยสาร เพราะแม่น้องนมหมด
สำหรับอาชีพ พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน นอกจากจะทำหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยภายในห้องโดยสารแล้ว ยังต้องมีทักษะการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าที่ดีอีกด้วย ไม่ว่าปัญหานั้นจะเป็นของผู้โดยสารหรือของพวกเขาเอง อย่างเช่น แอร์โฮสเตสสาวจากสายการบิน Philippine Airlines คนนี้ที่เข้าไปช่วยแก้ปัญหาของผู้โดยสารหญิงคนหนึ่งซึ่งไม่มีน้ำนมให้ทารกน้อยของเธอ แอร์โฮสเตสสาววัยจึงเข้าไปให้นมตัวเองกับทารกที่กำลังร้องไห้เสียงดังเพราะความหิว Patrisha Organo พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินสาววัย 24 ปี ได้รับหน้าที่ดูแลเที่ยวบินภายในประเทศฟิลิปปินส์ และระหว่างอยู่บนเครื่อง เธอก็ต้องพบกับเด็กทารกที่ร้องงอแงจนสร้างความรบกวนให้กับผู้โดยสารคนอื่นๆ เธอจึงเดินเข้าไปถามผู้เป็นแม่ของเด็กคนดังกล่าวว่ามีอะไรให้ช่วยหรือไม่ คำตอบที่ได้คือ คุณแม่น้ำนมหมด ขณะที่เจ้าหนูน้อยก็กำลังโหยหิวอย่างเต็มที่พอดี Patrisha ก็เลยเสนอตัวเข้าช่วยเหลือโดยการให้นมของเธอเองกับเด็กคนดังกล่าว เธอกล่าวว่า “ฉันรู้แล้วว่าฉันต้องให้นมของฉันเองกับเด็กคนนี้ เพราะฉันเองก็มีลูกและกำลังให้นมอยู่เหมือนกัน ฉะนั้น มันควรเป็นฉันนี่แหละที่จะให้ความช่วยเหลือได้” Patrisha Organo วัย 24 ปี จากกรุงมะนิลา กับหนูน้อยบนเครื่องบิน Patrisha ยังเล่าต่ออีกว่า “ทันทีที่เจ้าหนูน้อยเริ่มดูดนมฉัน ฉันเห็นได้ถึงความโล่งใจในดวงตาของผู้เป็นแม่ และไม่นานนักเจ้าหนูก็ผล็อยหลับไป” เธออธิบายเพิ่มเติมว่าเธอเข้าใจความรู้สึกอัดอั้นตันใจในสถานการณ์นี้ดี เพราะเธอเองก็เพิ่งมีลูกสาววัย 9 เดือนชื่อว่า Jade เช่นกัน เธอจึงรับรู้ถึงความเครียดนี้ดี ถือว่าเป็นพฤติกรรมที่น่ายกย่องอย่างมากเลยทีเดียวสำหรับความช่วยเหลือที่แอร์โฮสเตสสาวคนนี้มีให้กับผู้โดยสาร ที่มา: ladbible, metro และ mirror
-
ฟิลิปปินส์หลอน ชาวเน็ตพบ “รอยเท้าเด็ก” ปริศนาปรากฏทั่วห้างอย่างน่าพิศวง…
ในเทศกาลวันฮาโลวีนของที่อื่นๆ แม้จะมีแต่ ผี ออกมาเดินเพ่นพ่านกันเต็มถนน แต่บรรยากาศโดยรวมก็ยังคงเป็นไปอย่างสนุกสนาน แต่ในประเทศฟิลิปปินส์กลับเกินเลยความสนุกสนานกลายเป็นความหลอนไปแล้วเมื่อชาวเน็ตหลายคนพบว่ามี รอยเท้าเด็ก ปริศนาปรากฏขึ้นอยู่ทั่วห้างสรรพสินค้าอย่างน่าพิศวง ทวิตเตอร์ที่ชื่อว่า @kyuriiie ได้โพสต์เล่าเรื่องราวนี้ให้ชาวเน็ตได้รับรู้ว่ามีรอยเท้าดังกล่าวปรากฏขึ้นอย่างสุ่มๆ ในห้างสรรพสินค้าหลายแห่งทั่วเมือง Balanga ในประเทศฟิลิปปินส์มาเป็นเวลานับปีแล้ว หลายคนอาจคิดว่าเป็นรอยเท้าเด็กจริงๆ ที่เปื้อนดินและเข้ามาเดินในห้าง แต่เจ้าของทวิตเตอร์ก็อธิบายว่าบางครั้งก็พบรอยเท้าดำๆ มันๆ ปรากฏอยู่เพียงข้างเดียว และปรากฏขึ้นหลายจุดในห้างสรรพสินค้า นอกจากนี้บางครั้งยังมาพร้อมกับรอยเท้าของผู้ใหญ่ด้วย เห็นรอยเท้าที่ปรากฏเพียงข้างเดียวแล้วเช็ดออกจะทำให้รอยเท้าอีกข้างหนึ่งปรากฏขึ้นตามมา ทวิตเตอร์ที่ชื่อว่า @mark_estavillo ก็เข้ามาเผยว่าเขาเองก็พบเห็นรอยเท้าปริศนาในห้างสรรพสินค้าเช่นกัน แต่ที่แปลกก็คือ รอยเท้าที่เขาพบเป็นรอยเท้าที่มีนิ้วถึง 6 นิ้วด้วยกัน ผู้ใช้ทวิตเตอร์นามว่า @ryanx2fer ก็เข้ามาเล่าเสริมเหตุการณ์นี้ว่า… “น้องสาวผมเป็นผู้จัดการในห้างดังกล่าวอยู่ราว 10 ปีแล้ว เธอรู้เรื่องรอยเท้าปริศนานี้มาตลอด มีลูกค้าบางรายเคยพบตัวของเด็กคนนี้จริงๆ ด้วย เรื่องราวมีอยู่ว่า ลูกค้าคนหนึ่งพูดคุยกับ เก้าอี้ที่ว่างเปล่า ว่า ‘หนูมาทำอะไรตรงนี้?’ โดยลูกค้าคนดังกล่าวเล่าว่ามีเด็กมานั่งข้างๆ เขาแล้วก็โน้มตัวด้วยท่าทางประหลาดๆ เข้าหาเขาอีกด้วย” อย่างไรก็ตาม @kyuriiie เจ้าของทวิตเตอร์ก็ยืนกรานว่าห้างสรรพสินค้ามักจะมี รปภ. คอยห้ามไม่ให้ ‘เด็กข้างถนน’ เข้ามาป้วนเปี้ยนในห้างอย่างแน่นอน …
-
‘ปั๊กปั๊ก’ อาหารที่ปรุงจาก “เศษขยะ” เลี้ยงปากท้องคนจนในฟิลิปปินส์ให้อิ่มในราคา 7 บาท
อาหาร คือสิ่งที่จำเป็นที่สุดในการดำรงอยู่ของทุกชีวิต รวมไปถึงเผ่าพันธุ์มนุษย์ด้วยเช่นกัน สำหรับมนุษย์บางกลุ่มอาหารนั้นเป็นสิ่งที่หาได้ไม่ยากนัก แต่ขณะเดียวกันเองก็มีมนุษย์อีกจำนวนไม่น้อยที่ “อาหาร” เป็นสิ่งที่หาได้อย่างยากลำบาก และพวกเขาก็พร้อมจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มาซึ่งอาหารเลี้ยงปากท้อง ตัวอย่างเช่น “ปั๊กปั๊ก” วิธีการหนึ่งที่ผู้คนในชุมชนสลัมของฟิลิปปินส์ใช้เพื่อเข้าถึงอาหาร ปั๊กปั๊กคือเศษอาหารเหลือจากกองขยะรายวัน ที่ถูกนำมาปรุงใหม่เพื่อขายให้คนจนได้ทานในราคาเพียง 7 บาทเท่านั้น ประเทศฟิลิปปินส์ที่ปัจจุบันมีประชากรมากถึง 100 ล้านคนเข้าไปแล้ว รวมถึงวัฒนธรรมในประเทศที่ผสมผสานอย่างหลากหลายทำให้เกิดช่องว่างระหว่างคนจนและคนรวยขนาดใหญ่ กลายเป็น ความเหลื่อมล้ำทางสังคม ที่ยากเกินจะแก้ไข ผู้คนที่มีอันจะกิน เจียดเงินเพียงเล็กน้อยแลกกับอาหารระดับกลางที่ทานจนเบื่อและบางครั้งก็ทานไม่หมด ของเหลือจากผู้ร่ำรวยเหล่านี้นี่เองที่กลายเป็นอาหารมื้อสวรรค์ของบรรดาผู้ที่ตกอยู่ภายใต้ความยากจนแร้นแค้น ขั้นตอนของการทำปั๊กปั๊กเริ่มขึ้นตั้งแต่หัวค่ำของวัน รถเก็บขยะจะไปรอที่ร้านอาหารต่างๆ รวมถึงร้านอาหารฟาสต์ฟู้ด เพื่อรีบเก็บขยะจากร้านและนำไปคัดแยก การคัดแยกจะทำจนถึงเช้ารุ่งของอีกวัน ส่วนใหญ่จะคัดเอาพวกกระดูกไก่ที่ติดเนื้อมากกว่าจะเอาเนื้อหมู เพราะพวกเขาคิดว่าเนื้อหมูมีไขมันเยอะและอาจติดโรคได้ง่าย . เมื่อคัดแยกเสร็จแล้วก็นำไปขายให้กับร้านอาหารชุมชน ทางร้านก็จะรีบนำเศษอาหารเหล่านี้ไป “ล้างน้ำเปล่า” ราว 4 รอบจนกระทั่งน้ำล้างไม่ขุ่นมัวและไม่มีเศษดินติดออกมา ล้างเสร็จก็จัดแจงปรุงเป็นเมนูอันโอชะ ทำเป็นสตูว์พื้นเมืองของฟิลิปปินส์ ซอสมะเขือเทศนั้นเป็นสิ่งสำคัญของปั๊กปั๊กเลยก็ว่าได้ ต้องใส้ให้เยอะเข้าไว้เพราะนอกจากจะช่วยให้รสชาติที่ดีขึ้นแล้วยังช่วยกลบกลิ่นต่างๆ ที่ติดมาจากกองขยะอีกด้วย อาหารที่ปรุงเสร็จก็จะออกมามีหน้าตาแบบนี้ นี่แหละที่พวกเขาเรียกกันว่า “ปั๊กปั๊ก” …
-
เตือนภัย!! คลิปหนุ่มทำที “แกล้งหลับ”เพื่อให้ได้ ‘ซบไหล่’ หญิงสาวบนรถโดยสารในฟิลิปปินส์
ดูแทบไม่รู้ว่าพฤติกรรมที่เกิดขึ้นต่างๆ ของคนสมัยนี้นั้นเป็นธรรมชาติหรือเป็นความตั้งใจที่แฝงไว้ด้วยเจตนาร้ายกันแน่ เช่น การที่ชายหนุ่มบนรถโดยสารที่เอนมาซบไหล่หญิงสาว บางครั้งก็ยากจะทราบว่าเป็นเพราะเขาหลับไม่รู้ตัว หรือเป็นเพราะความต้องการของเขากันแน่ เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2018 ได้เกิดเหตุการณ์ทำนองนี้ขึ้นในเมือง Cabanatuan จังหวัดนูเวบาเอซีฮา ประเทศฟิลิปปินส์ มีคลิปถูกเผยแพร่ออกมาบนเฟซบุ๊กของ Edward Peñaflor แสดงให้เห็นว่าชายหนุ่มคนหนึ่งบนรถจี๊ปนีย์ (รถสองแถวของฟิลิปปินส์) ได้นั่งหลับและเอนตัวไปซบไหล่หญิงสาวที่นั่งข้างๆ คลิปวิดีโอแรก จากคลิปวิดีโอชิ้นแรก จะเห็นได้ว่าชายดังกล่าวพยายามเอนตัวไปพิงไหล่ของสาว ที่นั่งข้างๆ จนสาวในคลิปต้องใช้มือดันออกจนเขาลืมตาขึ้นและกลับมาซบอีกครั้ง สุดท้ายหญิงสาวทนไม่ไหวถึงกับต้องลุกจากที่นั่งไป ปล่อยให้ชายคนนี้ฟุบลงกับเบาะนั่งและลุกขึ้นมาด้วยใบหน้างงๆ คลิปวิดีโอที่ 2 จากคลิปวิดีโอที่ 2 จะเห็นว่าชายในคลิปนั้นมีการนอนลงบนเบาะนั่งที่ค่อนข้างใกล้ชิดกับหญิงสาวอีกคนหนึ่งบนรถ ตรงนี้ มีผู้โดยสารคนหนึ่งเข้าไปแจ้งกับคนขับรถว่า “คุณกำลังพาผู้โดยสารไม่ปกติมาด้วย รีบปล่อยเขาลงรถเถอะ เขาทำให้ผู้โดยสารคนอื่นหวาดกลัวหมดแล้ว” และจากนั้นคนขับก็ไล่ชายคนนี้ลงรถ วิดีโอดังกล่าวกลายเป็นที่โด่งดังบนอินเทอร์เน็ตเนื่องจากพฤติกรรมของชายผู้นี้ดูไม่น่าไว้วางใจและแฝงความอันตรายโดยเฉพาะกับหญิงสาว ชาวเน็ตจึงได้ฝากคอมเมนต์เอาไว้มากมาย เช่น… “ถ้าฉันเป็นผู้หญิงคนนั้นนะ ฉันจะผลักให้ร่วงรถไปเลย” “ถ้าฉันเป็นคนถ่ายคลิปนะฉันจะต้องมีเตะไอ้คนนี้บ้างแหละ” “เอาจริงๆ แค่สีหน้าของนายคนนี้ก็บอกได้แล้วว่าเขาไม่ปกติ” “การแกล้งหลับมันยากนะ บอกตรงๆ คุณพี่คือแกล้งหลับโคตรไม่เนียนอะ”…
-
สาวฟิลิปปินส์ตาบอด กับ “เสียงร้องอัศจรรย์” แถมสำเนียงอังกฤษเป๊ะแม้ไม่เคยเข้าโรงเรียน
คนพิการ แม้พวกเขาจะไม่ได้สมบูรณ์และมีร่างกายที่ครบครันแบบคนปกติ แต่หลายครั้งพวกเขาเองก็มี “สิ่งทดแทน” ที่ทำให้พวกเขาดูพิเศษและโดดเด่นเสียยิ่งว่าคนปกติเสียอีก อย่างเช่นหญิงสาวชาวฟิลิปปินส์นามว่า Elsie คนนี้ ที่แม้ว่าเธอจะ “ตาบอดมาตั้งแต่เกิด” แต่เธอกลับมีเนื้อเสียงที่งดงามราวเทพธิดา เสียงของเธอทรงพลังและไพเราะชนิดที่ว่าคนร่างกายปกติยังยากที่จะทำได้… Elsie สาวตาบอดที่มีเสียงร้องเพลงอันทรงพลัง ทั้งนี้มีคลิปวิดีโอที่ถูกโพสต์โดยเฟซบุ๊ก Darrell Burnett เป็นวิดีโอที่ถ่ายขณะ Elsie นั้นร้องเพลงโชว์เนื้อเสียงอันไพเราะ ลองไปฟังกันเลย… Elsie กับบทเพลง “I Will Always Love You” ของ Whitney Houston เป็นอย่างไรกันบ้างล่ะ? นอกจากเสียงร้องของ Elsie จะทรงพลังและไพเราะแล้ว การออกเสียงภาษาอังกฤษยังเรียกได้ว่าเป๊ะและชัดถ้อยชัดคำอย่างมาก แต่หารู้ไม่ว่าเธอไม่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้แม้แต่น้อย Elsie ไม่เคยเข้าเรียนในโรงเรียนด้วยซ้ำ เธอฝึกออกเสียงภาษาอังกฤษด้วยการเลียนเสียงจากการร้องเพลงผ่านการฝึกฝนซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนกระทั่งการออกเสียงภาษาอังกฤษของเธอ “เป๊ะ” ราวกับเจ้าของภาษา Elsie กับบทเพลง “You’ll Never Walk Alone,” …
-
เด็กสาวฟิลิปปินส์ที่มี “แฝดอีกคน” เติบโตอยู่ในร่างกาย เธอกำลังจะผ่าตัดในไทยเร็วๆ นี้
เรื่องราวในวันนี้เป็นเรื่องแปลกประหลาดที่เกิดขึ้นกับเด็กสาวคนหนึ่งในประเทศฟิลิปปินส์นามว่า Veronica Cominguez เธอเป็นเด็กหญิงวัย 14 ปีจากเมืองอีลีกันที่มีแฝดน้องสาวเติบโตขึ้น “ภายในลำตัว” ของเธอ บริเวณช่วงอกของ Veronica นั้นจะพบว่ามีก้อนเนื้อลักษณะคล้ายแขน มือ และนิ้ว งอกออกมา ซึ่งเป็นร่างของแฝดน้องสาวของเธอที่มีการพัฒนาการผิดปกติ และก็ทำให้ Veronica นั้นต้องการความช่วยเหลือ Veronica Cominguez วัย 14 ที่มีแฝดน้องเติบโตอยู่ในร่างกาย ส่วนแขนที่งอกออกมานั้นเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง Veronica ต้องอาบน้ำทำความสะอาด “แฝดน้อง” ของเธอเสมอ รวมถึงคอยตัดเล็บนิ้วมือให้เธอด้วยเช่นกัน ปัจจุบันผู้คนในท้องที่ได้ทำการระดมทุนเพื่อให้ Veronica เดินทางมาเข้ารับการผ่าตัดนำแฝดของเธอออกที่ ประเทศไทย เธอกล่าวว่า “ตอนหนูยังเป็นเด็กฉันคิดว่ามันเป็นเท้าที่งอกออกมา แต่นานๆ เข้ามันก็เติบโตขึ้นเรื่อยๆ มันหนักขึ้นและทำให้หนูเคลื่อนไหวตัวได้ลำบาก มันมักจะแกว่งไปมาเสมอ และทำให้เสื้อผ้าของหนูเปียกอยู่แทบตลอด” Flora Cominguez ผู้เป็นแม่ของ Veronica ก็เล่าว่าในครอบครัวของเธอเองก็มีประวัติการออกลูกเป็นแฝดอยู่บ้าง และเล่าว่าขณะที่เธอตั้งครรภ์ ถึงเธอไม่ได้เข้าไปพบแพทย์เธอก็รู้ดีว่าเธอต้องคลอดฝาแฝดออกมาแน่นอน เธอจึงตั้งชื่อให้กับลูกทั้งสองคน Flora กล่าวว่าสะดือของ Veronica จะเปียกอยู่เสมอเนื่องจากของเหลวที่ไหลออกมาจากบริเวณ “ฝาแฝด”…
-
สาวฟิลิปปินส์ถูก “วิญญาณน้องชาย” ที่ถูกฆ่าเข้าสิง เพื่อบอกว่า ‘ใครคือฆาตกร’ ???
ปกติแล้วเมื่อเกิดการฆาตกรรมปริศนาขึ้น การตามจับตัวฆาตกรคงเป็นหน้าที่ที่สำคัญของเจ้าหน้าที่สืบสวน แต่สำหรับเหตุการณ์นี้ ดูเหมือนว่า “ผู้ตาย” จะเป็นคนมาเฉลยเองเลยว่าใครกันแน่ที่เป็นฆาตกร ไม่รู้ว่าชีวิตหลังความตายนั้นมีอยู่จริงหรือไม่ แต่จากเหตุการณ์นี้เราจะเห็นได้ว่า ผู้ที่ตายจากไปแล้วกลับมามีบทบาทอีกครั้งในฐานะวิญญาณที่มาเข้าสิงผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ Abigail Magtalas สาวน้อยวัย 16 ปีอ้างว่าถูกวิญญาณน้องชายที่ถูกฆาตกรรมเข้าสิงร่างจึงมีพฤติกรรมประหลาดพร้อมกับมีคำพูดเกี่ยวกับคดีฆาตกรรมดังกล่าว น้องชายของเธอถูกฆาตกรรมเมื่อช่วงเดือนมีนาคมปี 2018 ที่ผ่านมา ภายในจังหวัดนูเวบาเอซีฮา ประเทศฟิลิปปินส์ ส่วน Abigail บอกว่าเธอถูกน้องชายเขาสิงเพื่อบอกว่าเขาถูกทรมานอยู่หลายชั่วโมงจนตาย คลิปวิดีโอการถูกเข้าสิงที่บันทึกมาได้ ภายในวิดีโอ Abigail นั้นร้องไห้อย่างหนักและพยายามนึกและเล่าเรื่องราวในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตน้องชายของเธอก่อนที่จะเสียชีวิต “พวกเขาทรมานผม เขาตีและยิงผม 7 ครั้ง พวกเขาเป็นแก๊งอันธพาล ฟังผมอีกครั้งนะ ผมถูกฆ่า” Abigail พูดออกมาภายในคลิปวิดีโอ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องกับคดีนึกจึงกล่าวว่า Marvin น้องชายของ Abigail นั้นมีความเกี่ยวข้องกับแก๊งค้ายาเสพย์ติด และเสียชีวิตเนื่องจากถูกลูกหลงขณะที่มีการยิงปะทะกันระหว่าง 2 แก๊ง อย่างไรก็ตาม Abigail นั้นสามารถเล่าเรื่องเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขณะการยิงปืนปะทะกันได้ถูกต้อง แถมเล่าเรื่องขณะที่น้องชายถูกลักพาตัวไปทรมานได้อีกด้วย “ผมพยายามขอร้องไม่ให้พวกเขาฆ่าผม…
-
พนักงายขายกระเป๋าในฟิลิปปินส์ “เล่นใหญ่” สุดฮา ฉีกแข้งขา ชาวเน็ตพากันชื่นชอบ!!
ไม่ว่าจะเป็นงานอะไร อาชีพไหนๆ หากคุณรักและสนุกกับงานที่คุณทำแล้วล่ะก็ รับรองว่ามันต้องไปได้ดีอย่างแน่นอน… ตัวอย่างของคนที่สนุกกับงานนั้นก็มีให้เห็นกันมากมายบนโลกอินเทอร์เน็ต รวมไปถึงวันนี้ก็เช่นกัน พนักงานขายกระเป๋าเดินทางคนหนึ่งในประเทศฟิลิปปินส์ได้กลายเป็นที่โด่งดังไปทั่วเพียงเพราะวิธีการขายของของเขานั่นเอง เมื่อวันศุกร์ที่ 29 มิถุนายน 2018 ที่ผ่านมาเฟซบุ๊กที่ชื่อว่า Brew Alcazar ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอ ขณะที่เขาเข้าไปซื้อกระเป๋าเดินทางที่ห้างสรรพสินค้า SM City Lipa ในจังหวัดบาตังกัส ประเทศฟิลิปปินส์ ภายในคลิป Brew ได้เจอกับบุคคลที่มีถูกขนานนามว่า “พนักงานขายที่เล่นใหญ่ที่สุด” ณ ห้างสรรพสินค้าดังกล่าว พนักงานชายคนนี้ก็ทำการแนะนำสินค้าและโฆษณาถึงเหตุผลที่ลูกค้าควรเลือกซื้อกระเป๋าใบนี้ “มันไม่ใช่แค่ราคาถูก แต่มันยังทนทาน แสนนานแม้จะหมดประกันไปแล้วก็ตาม” “ใบนี้ทำจากวัสดุคุณภาพเยี่ยม จะเห็นได้จากล้อของมัน ตัวนี้ทำได้ดีมาก ล้อใหญ่” ลีลาการพูดขายของน่ะไม่เท่าไหร่ สิ่งที่ทำให้ลูกค้าถึงกับตะลึงก็คือท่าทดสอบความแข็งแกร่งของกระเป๋านี่แหละ พูดๆ ไปมา ว่าแล้วพนักงานขายนายนี้ก็กระโดดฟาดกระเป๋าลงพื้นพร้อมฉีกขาแบบสวยๆ ผลปรากฏว่ากระเป๋าไม่มีแม้รอยขีดข่วน ไม่บุบสลาย มีเพียงสิ่งเดียวที่ลูกค้าและผู้ชมได้รับก็คือ ความอุทิศตนที่พนักงานขายรายนี้มีให้กับงานของเขา ดูเขาตั้งใจทำงานมากจริงๆ แถมสนุกสนานอีกด้วย ปัจจุบันคลิปวิดีโอนี้มียอดผู้เข้าชมไปแล้วกว่า 1.6 ล้านครั้ง แถมมียอดไลก์กว่า 12,000 ครั้งเลยทีเดียว…
-
“แมนนี ปาเกียว” ใจป๋า เปลี่ยนชีวิตคนขายไอศกรีมตกอับ ให้เงิน บ้าน และงานการที่ดี
วันนี้เรามาชมเรื่องราวสุดป๋าของนักมวยรุ่นเก๋าอย่าง แมนนี ปาเกียว กันหน่อยดีกว่า ที่จู่ๆ เขาก็ทำการช่วยเหลือคนขายไอศกรีมคนหนึ่งที่ได้ยินมาว่าคุณภาพชีวิตย่ำแย่มากๆ ให้ลืมตาอ้าปากได้เลยทีเดียว แมนนี ปาเกียว นักมวยสากลชื่อดังวัย 39 ปี ผู้ที่คว้าแชมป์ระดับโลกมาแล้ว ในวันนี้เขาได้แสดงความเห็นอกเห็นใจต่อเพื่อนร่วมโลก ด้วยการยื่นมือเข้าช่วยเปลี่ยนชีวิตของชายขายไอศกรีมอย่างน่าซาบซึ้งใจ แมนนี ปาเกียว นักมวยระดับตำนาน ฉายา “เดอะ แพ็คแมน“ หลังจากที่ปาเกียวได้ยินเรื่องราวของนาย Manong Marciano ชายขายไอศกรีมผู้มีชีวิตที่ต้องต่อสู้กับความยากจนอันแสนลำบาก เขาจึงตัดสินใจ มอบสิ่งที่เขาสามารถมอบให้ได้ เพื่อเปลี่ยนชีวิตชายขายไอศกรีมไปตลอดกาล คลิปวิดีโอด้านบนเป็นคลิปที่เผยแพร่ผ่านเฟซบุ๊กของ Jen Manilay เมื่อวันอาทิตย์ที่ 27 พฤษภาคม 2018 ที่ผ่านมา เป็นเหตุการณ์ขณะที่แมนนี ปาเกียวได้พบกับชายขายไอศกรีม Manong Marciano ผู้โพสต์เล่าว่า เธอได้ซื้อไอศกรีมกับชายคนนี้แล้วนำมาให้ปาเกียว 1 แท่ง แต่แล้วปาเกียวก็บอกว่าให้เรียกชายขายไอศกรีมมาเพื่อพูดคุยด้วย ชายขายไอศกรีมตื่นเต้นมากที่รู้ว่าแมนนี ปาเกียวเรียกเขาไปคุย ปาเกียวให้ค่าไอศกรีมเป็นทิปเพิ่มไปราวๆ 1,800 บาท แต่หลังจากที่รู้ว่าชายคนนี้ต้องทุกข์ทรมานจากอุบัติเหตุและยังมีลูกน้อยอีก 3 คนที่ยังไม่มีเงินส่งเข้าโรงเรียน ปาเกียวจึงสมทบทุนให้อีก 18,000…
-
เล่นให้เด็กมันดู! คุณยายฟิลิปปินส์โชว์ชู๊ตบาสลงห่วงแบบต่อเนื่อง แทบไม่หลุดสักลูก
หลายครั้งที่คุณเห็นตู้บาสอาร์เคด มันก็ชวนให้คุณอยากลองไปหยอดสักเหรียญสองเหรียญเพื่อประลองฝีมือซะเหลือเกิน ซึ่งตู้บาสอาร์เคดเหล่านี้ก็ไม่ได้เล่นยากอะไร เพียงแค่คุณชู๊ตบาสให้ลงห่วงไปเรื่อยๆ ในเวลาที่กำหนด คุณก็จะได้เล่นมันต่อไปเรื่อยๆ แต่ส่วนใหญ่เรามักจะแพ้เพราะทำเวลาไม่ทันนี่แหละ แต่คุณเชื่อหรือไม่ว่ามีคุณยายคนนึงที่เล่นเกมนี้ได้เซียนอย่างกับจับวาง จนทำให้เด็กๆ หลายคนรู้สึกทึ่งที่ได้เห็นความพลิ้วของแก คุณยายคนนี้มีชื่อว่านาง Flordelizaa วัย 59 ปี จากประเทศฟิลิปปินส์ วันหนึ่งคุณยายได้ไปเล่นตู้บาสอาร์เคดแห่งหนึ่ง ในระหว่างนั้นคุณยายก็ชู๊ตเอาๆ จนแทบไม่มีลูกไหนเลยที่หลุดออกจากห่วง ทำให้คนที่อยู่แถวๆ นั้นต้องควักเอามือถือขึ้นมาถ่ายวิดีโอของแกเก็บไว้ จากคลิปวิดีโอจะเห็นว่ามีชายหนุ่มคนหนึ่งเล่นอยู่ในเครื่องข้างๆ คุณยาย แต่เมื่อเขาเห็นว่าคุณยายทำแต้มไปได้ 352 แต้มแล้ว เขาก็ค่อยๆ หลบฉากออกไปแล้วปล่อยให้คุณยายเฉิดฉายคนเดียว จากนั้นเสียงของคนที่อยู่หลังกล้องก็พูดขึ้นว่า “ผมเคยอยู่ในพื้นที่นั้นมาก่อน และคุณยายก็ทำให้ผมต้องหันไปดูแก ในรอบที่ 3 คุณยายได้คะแนนไป 352 คะแนน ผมดูแกอย่างมีความสุขมาก” ไม่มีพลาดสักลูก เล่นให้เด็กมันดู ชมความเฟี้ยวของคุณยายได้ที่นี่เลย ที่มา inspiremore
-
รู้จักลัทธิ Haring Bakal ในฟิลิปปินส์ ที่เชื่อว่าการกินอวัยวะมนุษย์ช่วยให้มีพลังเหนือมนุษย์
[บทความต่อไปนี้อาจมีภาพและเนื้อหาที่ต้องใช้วิจารณญาณ] ว่ากันว่าในประเทศอย่างฟิลิปปินส์มีลัทธิสุดประหลาดอย่างการกิน “อวัยวะของมนุษย์” เพราะพวกเขามีความเชื่อกันว่ามันจะช่วยเพิ่มพลังและเป็นยาอายุวัฒนะได้!? ลัทธินี้มีชื่อว่า Haring Bakal (หรือ Iron King) กลุ่มคนที่มารวมตัวกันนั้นมีความเชื่อว่าอวัยวะส่วนที่ยังหลงเหลือของมนุษย์ที่เสียชีวิตแล้วจะช่วยมอบพลังเหนือมนุษย์ให้กับพวกเขากินมันเข้าไป หรือหากอมไว้ในปากเฉยๆ ก็จะช่วยให้พวกเขาหายตัวได้ สมาชิกของลัทธิ Haring Bakal บอกว่าพวกเขาจะแอบไปขโมยเศษอวัยวะมนุษย์ตามสุสานต่างๆ หรือบางครั้งก็ซื้อมันมาอย่างผิดกฎหมาย จากภาพ มีบางช่วงที่สมาชิกของลัทธิโชว์ให้เห็นถึงกระดูกสะบ้าหัวเข่า โดยที่พวกเขาจะนำเอาไปฟอกสีก่อนแล้วจึงนำเอาไปแช่ในน้ำมันมะพร้าว Angelito ‘Rambo’ Oreta หนึ่งในสมาชิกของลัทธินี้บอกด้วยว่านอกจากพวกเขาจะเอามากินแล้ว พวกเขายังเอาอวัยวะต่างๆ มาทำเป็นเครื่องประดับแฟชั่นด้วย บางคนเอาทำเป็นเข็มขัดรอบเอว บางคนเอามาห้อยคอ แม้หลายๆ อย่างจะดูไม่สมเหตุสมผลสำหรับคนทั่วไป แต่พวกเขาก็เชื่อว่าในอวัยวะต่างๆ จะมีดวงวิญญาณที่คอยปกป้องคุณหากมีการสวดอธิษฐานให้ ดวงวิญญาณเหล่านั้นก็จะปกป้องคุณและครอบครัวของคุณจากสิ่งอันตรายได้ ในทางกลับกัน หากไม่มีการสวดอธิษฐาน ดวงวิญญาณเหล่านั้นอาจจะหันกลับมาทำร้ายคุณเองก็ได้ ปัจจุบันกลุ่ม Haring Bakal มีสมาชิกรวมๆ กันแล้วกว่า 100 คน มีทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารรวมอยู่ในนั้นด้วย ที่มา dailymail
-
นี่มันสวรรค์ชัดๆ เชิญชม ‘พิพิธภัณฑ์ขนมหวาน’ ของฟิลิปปินส์ ที่คุณจะหยิบอะไรมากินก็ได้!!
เพื่อนๆ คนไหนที่ชื่นชอบขนมหวาน และการเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ต่างๆ รับรองว่าต้องถูกใจแน่นอน กับ “พิพิธภัณฑ์ขนมหวาน” ในกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2018 นี้เอง พิพิธภัณฑ์แห่งนี้มีพื้นที่ราว 1,100 ตารางเมตร ประกอบไปด้วยห้อง 8 ห้อง ที่ตกแต่งด้วยสีอันสวยสดงดงาม และที่สำคัญเลยก็คือ แต่ละห้องจะประดับประดาไปด้วยขนมหวานต่างๆ เช่น สายไหม เยลลี่ มาร์ชแมลโลว์ หมากฝรั่ง โดนัท ลูกกวาด ไอศกรีม และเค้กป๊อป เป็นต้น เมื่อคุณเข้าไปแล้ว คุณสามารถทำอะไรในห้องนั้นๆ ก็ได้ เช่น กระโดดโลดเต้น เล่น เหวี่ยง หรือถูไถตัว เรียกได้ว่า พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นสวรรค์ของคนรักของหวานอย่างแท้จริงเลยล่ะ ทางพิพิธภัณฑ์จะพาผู้เข้าชมเดินเข้าประตูโดนัท และสไลด์ตัวลงมาตามสไลเดอร์สีชมพูแสนหวาน เมื่อลงมาแล้วก็จะเจอประตูทางแยก 2 ทาง ประตูด้านหนึ่งเขียนว่า “เด็กดี” อีกด้านเขียนว่า “เด็กดื้อ” ประตูทั้งสองทางจะนำไปสู่สถานที่ที่แตกต่างกัน เช่น พุ่มไม้ลูกกวาด ต้นไม้สายไหม…
-
ปธน. ฟิลิปปินส์ฉะหนัก แนะทหารให้ยิง “จิมมี่” ของกลุ่มผู้ต่อต้าน แค่ไม่มีก็ไร้ค่าแล้ว
เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เว็บไซต์ Daily Mail รายงานว่าประธานาธิบดีโรดรีโก ดูแตร์เต ของฟิลิปปินส์ได้บอกกับทหารให้เล็งตรงจุดลับของผู้หญิงฝ่ายกบฏแทนการฆ่า เพราะพวกเธอจะไม่มีค่าอะไรเลยถ้าหากไม่มีอวัยวะดังกล่าว คำกล่าวของประธานาธิบดีคนดังเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ทางองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนอย่าง Human Rights Watch ก็ได้ออกมาประณามพร้อมกับบอกว่าคำพูดดังกล่าวคือการเหยียดเพศอย่างรุนแรง “บอกพวกทหารว่า นี่คือคำสั่งที่มาจากประธานาธิบดี เราจะไม่ฆ่าคุณ เราแค่จะยิงที่อวัยวะเพศของคุณเท่านั้น เพราะแค่ไม่มีอวัยวะเพศคุณก็เหมือนคนไร้ค่าแล้ว” สุนทรพจน์ของประธานาธิบดีโรดรีโก ดูแตร์เต จากการรายงานของสื่อท้องถิ่น จากรายงานระบุว่าสุนทรพจน์ดังกล่าว นั้นมีความหมายถึงฝ่ายกบฏหญิงในประเทศ Carlos Conde ตัวแทนจาก Human Rights Watch กล่าวว่า “มันส่งเสริมให้กองกำลังของรัฐกระทำการที่ล่วงละเมิดทางเพศในระหว่างการปะทะกับกลุ่มกบฏ ซึ่งถือเป็นการละเมิดกฎหมายด้านสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ” อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผู้นำประเทศฟิลิปปินส์รายนี้ได้ทำให้คำพูดของเขากลายเป็นที่ถกเถียงกันในวงกว้าง โดยก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2017 ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโรดรีโก ดูแตร์เต ได้ออกมากล่าวว่าตัวเขาเองพร้อมจะรับผิดชอบกับเรื่องที่เกิดขึ้น ถึงแม้ว่าทหารหรือเจ้าหน้าที่จะข่มขืนผู้หญิงเองก็ตาม “สำหรับการประกาศกฎอัยการศึกและผลกระทบจากกฎอัยการศึกนั้น ผมจะขอรับไว้แต่เพียงผู้เดียว ขอให้พวกคุณทำงานของตัวเอง และผมจะจัดการส่วนที่เหลือเอง ถ้าหากถ้าคุณข่มขืน (ผู้หญิง) 3 คน ผมคนเดียวเท่านั้นที่จะยอมรับว่าผมทำเอง” ประธานาธิบดีโรดรีโก ดูแตร์เตกล่าวระหว่างการให้กำลังใจทหารและเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของฟิลิปปินส์ที่ปฏิบัติหน้าที่ปราบปรามผู้ก่อการร้าย …
-
เล่นใหญ่เวอร์… หนุ่มจงใจเดินให้รถเฉี่ยวจนล้ม สะกิดไม่แรงมาก แต่ท่าพุ่งหลาวพี่จัดเต็ม
หลายคนคงเคยเห็นคลิปอุบัติเหตุต่างๆ มากมายที่ดูน่าหวาดเสียวและน่ากลัว แต่ว่าอุบัติเหตุครั้งนี้ ดันกลายเป็นเรื่องตลกขบขันของชาวเน็ต นี่คือภาพเหตุการณ์ที่ Dele Alli ชายหนุ่มขายของผู้หนึ่งที่มีท่วงท่าราวกับนักฟุตบอล ที่จงใจเดินไปให้รถชนเพื่อเรียกค่าเสียหาย . วิดีโอคลิปนี้แสดงให้เห็นว่าชายขายเต้าหู้คนนี้ได้แบกถังเหล็ก 2 ถังใหญ่ และเดินตรงไปยังกลางถนนในประทศฟิลิปปินส์ เมื่อมีรถมุ่งหน้าเข้ามา ชายหนุ่มคนนี้ก็ได้เดินตรงเข้าไปชนเข้ากับรถยนต์และกลิ้งกลับมา เพื่อหวังที่จะเรียกร้องค่าเสียหาย เขากลิ้งหลุนๆ ไปบนถนนด้วยท่วงท่าอันแสนอลังการ . ฉากอันน่าตลกขนขันนี้ทำให้นึกถึงนักฟุตบอลที่พยายามแกล้งทำเป็นบาดเจ็บเพื่อที่จะได้เตะลูกจุดโทษ ซึ่งถูกบันทึกโดยกล้องติดรถยนต์ของรถที่ขับตามหลังมา หลังจากที่โดนรถชน เขาก็บิดไปมาบนพื้นดิน ราวกับว่าเจ็บปวดมากๆ และเขาก็พยายามที่จะลากตัวเองไปยังทางเท้าด้วยมือและเท้าของเขา เมื่อเขานั่งลง ก็พยายามที่จะปฐมพยาบาลขาของตนเอง คลิปวิดีโอเหตุการณ์เมื่อชายหนุ่มผู้นี้เดินไปให้รถชนอย่างดื้อๆ ถือว่าเล่นใหญ่เลยทีเดียว เอารางวัลออสก้าร์ไปเลยจ้าาา ที่มา Dailymail
-
“มิยาบิ” โอดถูกคนขับอูเบอร์ ‘ตามติดชีวิต’ แอบส่องทุกย่างก้าว ทำงานไม่เป็นมืออาชีพ
ชีวิตของดารา AV ถึงแม้ว่าอาจจะดูสวยหรูมีเงินทองไหลมาเทมา แต่ความจริงแล้วพวกเธอก็อาจจะไม่ได้สุขสบายอย่างที่เราคิดไว้ บางทีก็อาจจะโดนรุกล้ำความเป็นส่วนตัวและอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตได้ Maria Ozawa อดีตดารา AV มิยาบิ ชื่อดังระดับตำนานที่เป็นที่รู้จักของชายหนุ่มอย่างแพร่หลาย หลังจากที่เธอได้อำลาวงการ ปัจจุบันเธอได้เป็นหุ้นส่วนเจ้าของบาร์ La Maison ในประเทศฟิลิปปินส์ ร่วมกับแฟนหนุ่มของเธอที่เป็นเชฟนามว่า Jose Sarasola เธอได้กล่าวว่าเธอถูกคนขับรถ Uber ติดตาม ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้เธอโกรธมากและได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กของเธอ ซึ่งตอนนี้ได้ลบไปแล้วว่า “นี่ล้อกันเล่นใช่ไหม Uber ฟิลิปปินส์ คนขับรถเป็นบ้ารึเปล่าที่เอาเบอร์ลูกค้าไปแจกให้กับเพื่อน หรือลูกค้าคนอื่นๆ ฉันพยายามติดต่อศูนย์เพื่อแจ้งปัญหา แต่ไม่มีใครรับสาย ฉันเปลี่ยนชื่อเพราะว่าฉันต้องการปกป้องความเป็นส่วนตัวของฉัน นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ฉันบล็อกเบอร์จาก Uber หลายครั้งที่พวกคนขับรถพยายามที่จะตามฉัน และตอนนี้ก็เอาเบอร์ฉันไปแจกมั่ว ฉันรักประเทศนี้นะ แต่ทำไมถึงไว้ใจคนในประเทศไม่ได้ ทำไมทำงานไม่เป็นมืออาชีพกันเลย” หลังจากนั้นก็ได้มีการอัปเดตว่าทาง Uber กำลังแก้ไขปัญหานี้และกำลังตามตัวคนขับรถที่ก่อเหตุดังกล่าว และทางบริษัทก็ได้ขอให้ทางอดีตดาราสาวให้ลบโพสต์ที่กล่าวถึงคนขับและบริษัทอีกด้วย เธอกล่าวในเฟซบุ๊กว่า “ทางทีมงาน Uber ฟิลิปปินส์กำลังติดตามคนก่อเหตุอยู่ และขอให้ฉันลบโพสต์ ฉันคิดว่าคงจะไม่ใช้บริการ Uber อีกต่อไปแล้ว ถ้ายังมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก ฉันจะฟ้องทั้งคนขับและบริษัท ถ้าคิดจะทำงานอย่างมืออาชีพก็ไม่ควรเอาอารมณ์ส่วนตัวมาเกี่ยวข้อง” …
-
ครอบครัวเร่งช่วยเหลือชายชาวฟิลิปปินส์ที่ขึ้นไปอยู่บนต้นมะพร้าวเป็นเวลานานกว่า 3 ปี!?
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าจะมีคนที่อยู่กินบนต้นไม้นานถึง 3 ปีโดยไม่ลงมาเลย ซึ่งพอเกริ่นแบบนี้หลายคนอาจจะรู้สึกว่ามันโอเวอร์ แต่มันเกิดขึ้นจริงๆ ที่สำคัญยังเป็นต้นมะพร้าวอีกด้วย!? Gilbert Sanchez ชายชาวฟิลิปปินส์วัย 47 ปี จากเมือง La Paz คือชายผู้เป็นเจ้าของเรื่องราวในครั้งนี้ โดยเขาได้หนีจากการใช้ชีวิตบนพื้นดินขึ้นไปบนอยู่บนต้นมะพร้าวตั้งแต่ปี 2014 จนถึงปัจจุบันก็นับได้กว่า 3 ปีแล้ว ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวเขาไม่เคยลงมาเหยียบพื้นเลยแม้แต่ครั้งเดียว จนสุดท้ายทุกคนก็ตัดสินใจจะพาเขาลงมาจากที่ตรงนั้น… เรื่องราวทั้งหมดเริ่มขึ้นจาก Gilbert ที่หนีออกจากบ้านหลังจากถูกทุบเข้าที่หัวอย่างรุนแรงระหว่างที่มีปากเสียงกันในครอบครัว มันส่งผลให้เขาเกิดอาการจิตหลอนจนคิดว่าถ้าเขายังอยู่บนพื้นต่อไปก็จะมีคนมาตามฆ่าเขา เมื่อความคิดดังกล่าวมันฝังลึกอยู่ในหัวและจิตใจของเขา เขาจึงตัดสินใจขึ้นไปอาศัยอยู่บนต้นมะพร้าว พร้อมกับตั้งเป้าว่าจะไม่ลงมาอีกเลยต่อให้ใครจะมากล่อมหรือจะโดนแมลงและสภาพอากาศที่รุนแรงโจมตีก็ตาม ในด้านอาหารการเป็นอยู่ของเขา ก็จะได้รับการส่งเสบียงผ่านเชือกที่ห้อยลงมา ซึ่งตัวแม่ของเขาจะเป็นคนส่งให้เสมอๆ แม้จะไม่ค่อยเต็มใจก็ตาม เพราะเธอได้ลองกล่อมเขาหลากหลายทางแล้วจดสุดท้ายก็ต้องยินยอมและทำแบบนี้เรื่อยมา Aldrin Sanchez น้องชายของ Gilbert เล่าว่า เขาเคยพยายามเรียกให้พี่ชายลงมาหลายต่อหลายครั้งแต่ก็ถูกปฏิเสธเสมอ มีครั้งหนึ่งเขาบอกให้พี่ชายลงมาแต่ตัวพี่กลับบอกให้เขาไปไกลๆ เพราะถ้าลงไปเขาจะถูกฆ่า ด้านลูกๆ สองคนของ Gilbert ที่เกิดจากภรรยาที่เสียชีวิตก็ได้รับการดูแลจากตาและยายของพวกเขา แต่น่าเศร้าที่ครอบครัวไม่สามารถส่งเด็กๆ ไปเรียนได้เพราะหัวหน้าครอบครัวก็ดันติดอยู่บนต้นไม้ ที่แปลกกว่าคือทุกคนใน La Paz รับรู้ถึงเรื่องราวของ Gilbert Sanchez…
-
พยาบาลสาวใช้ความถนัดและความชอบของตัวเอง สร้างสรรค์ภาพวาดจาก “เข็มฉีดยา”
คุณ Kimberly Joy Magbanua หญิงสาวที่พบว่าตัวเธอเองมีความสามารถในการทำงานศิลปะ แต่ด้วยหน้าที่การงานของเธอ ทำให้ความสามารถทางด้านศิลป์ของเธอนั้นกลับไม่ได้รับการฝึกฝนมากเท่าไหร่ และวันหนึ่งเธอก็ตัดสินใจที่จะใช้ความสามารถทางด้านศิลปะที่เธอมีผสมผลานเข้ากับอาชีพของเธอนั่นก็คือพยายาบาลนั่นเอง คุณ Kimberly จึงตัดสินใจสร้างสรรค์ผลงานศิลปะของเธอขึ้นมาโดยใช้เข็มฉีดยาแทนพู่กัน และนี่ก็คือผลภาพวาดจากปลายเข็มของเธอ พยาบาลสาววัย 24 ปีจากเมือง Valladolid ประเทศฟิลิปินส์บอกว่าเธอได้ไอเดียนี้มากจากการทำงานของเธอเมื่อประมาณหนึ่งปีที่แล้ว หลังจากที่เธอลองใช้เข็มฉีดยาในการลงสีแทนแปรง พยาบาลสาวกล่าวว่า “เครื่องมือทั้งสองชนิดนี้ให้ความรู้สึกที่คล้ายกัน ถึงแม้ว่าเข็มฉีดยาจะดูไม่มีความเกี่ยวข้องกับศิลปะเลย” พยาบาลสาวเริ่มร่างภาพของเธอบนผืนผ้าใบด้วยดินสอก่อน จากนั้นจึงทำการลงสีด้วยเข็มฉีดยา หลังจากที่ลองฝึกฝนและผ่านความล้มเหลวมานับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดผลงานศิลปะจากปลายเข็มฉีดยาของเธอก็ประสบความสำเร็จและออกมาได้สวยงามไม่แพ้กับงานศิลป์ชิ้นอื่นๆ “ฉันใช้เข็มฉีดยาในขนาดที่แตกต่างกันเพื่อให้ผลงานมีรายละเอียดที่มากขึ้น ฉันต้องคอยเปลี่ยนเข็มอยู่บ่อยๆ และทำงานให้เร็วขึ้นเพื่อแข่งกับเวลา เพราะสีนั้นจะแห้งเร็วมาก” ศิลปินสาววัย 24 ปีกล่าว ถึงแม้ว่าจะยังทำงานเดิมไปด้วย แต่ผลงานศิลปะของเธอก็ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศฟิลิปินส์ และเมื่อเร็วๆ นี้ผลงานของเธอยังถูกนำไปแสดงในเว็บไซต์ทางศิลปะชื่อดังของประเทศฟิลิปินส์อีกด้วย หญิงสาวใช้เวลาประมาณ 3 ถึง 5 ชั่วโมงในการสร้างสรรค์ชิ้นงานศิลปะของเธอ แต่การวาดภาพด้วยเข็มของเธอนั้นก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่หลายๆ คนคิด ศิลปินสาวต้องควบคุมความแรงของการกดเข็มฉีดยา พร้อมกับการตวัดข้อมือให้ได้ลายเส้นที่ดูสวยงามอีกด้วย เพราะบางครั้งทิศทางหรือปริมาณของสีที่ผิดพลาดอาจทำให้ผลงานของเธอเสียหายได้เลยทีเดียว . …
-
ศิลปินนำมาสคอตของแบรนด์ดัง มาทำเป็น ‘อนิเมะ’ ที่เห็นแล้วอยากให้มีมังงะขึ้นมาจริงๆ!!
เคยลองจินตนาการกันดูมั้ยว่า ถ้านำตัวมาสคอตของแบรนด์ร้านอาหารที่มีสาขากระจายอยู่ทั่วโลกมาวาดเป็นการ์ตูนพร้อมใส่เรื่องราว จะกลายเป็นมังงะที่น่าติดตามขนาดไหน ด้วยความสงสัยนี้เองจึงทำให้ Ozumii Wizard ศิลปินผู้วาดภาพอิลลัสเตรเตอร์จากฟิลิปปินส์ ได้ลองนำมาสคอตชื่อดังมาทำเป็นอนิเมะดู เห็นแล้วรู้สึกอยากติดตามเรื่องราวต่อเลยล่ะ!! เมื่อผู้พันแซนเดอร์ จากเคเอฟซี กลายเป็นคุณลุงสุดหล่อที่มาพร้อมกับความล่ำ หรือจะเป็นองค์หญิงสตาร์บัคส์ ที่พร้อมจะเสิร์ฟเครื่องดื่มร้อนๆ ให้ทุกคน หนุ่มผมแดงนี่ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน โรนัลด์ แมคโดนัลด์นั่นเอง เป็นตัวตลกที่ดูหล่อเหลาเหลือเกิ๊นน เวนดี้สาวหวานที่โด่งดังไปทั่วโลกจากฝีมือปลายจวัก จากการทำอาหารตะวันตกของเธอ ลองนึกดูสิว่าจะน่ารักขนาดไหน ถ้าคู่แข่งที่ขายอาหารคล้ายกันอย่างแมคโดนัลด์ และเวนดี้ จะกลายมาเป็นคู่จิ้นในมังงะ ถ้าพูดถึงเจ้าพ่อเบอร์เกอร์ ก็ต้องยกให้เบอร์เกอร์คิงเค้าล่ะ (มาเป็นราชาตามชื่อเลยแฮะ) หรือถ้าใครชอบของหวาน เราขอแนะนำให้รู้จักกับ… คุณหญิงแดรี่ควีนเลยจ้า J.Co คาเฟ่ที่โด่งดังไปทั่วโลก ก็มาในมาดของสาวห้าวที่ดูจะช่ำชองในเรื่องของกาแฟมากกว่าใครเพื่อน Jollibee หนุ่มหล่อสัญชาติฟิลิปปินส์ ที่ให้บริการอาหารฟาสต์ฟู๊ดจนโด่งดังไปทั่วฟิลิปปินส์ Jack In The Box คุณลุงชาวอเมริกันผู้ช่ำชองด้านการทำอาหารตะวันตกทุกชนิด (เรื่องเบอร์เกอร์เค้าไม่เป็นสองรองใครเลยล่ะ) Denny’s…
-
ชาวประมงในฟิลิปปินส์ จับปลาที่มีรอยสักเต็มลำตัวไปหมด เป็นเพราะฝีมือของใครกันแน่!?
ถ้าหากเราพูดถึงเกร็ดปลา ส่วนใหญ่เราก็จะนึกถึงภาพออกแบบทั่วๆ ไป แต่ใครจะเชื่อละว่าที่นี่มีคนสามารถจับปลาที่มีรอยสักได้!! เหตุการณ์ดังกล่าวถูกเผยแพร่โดยสำนักข่าวท้องถิ่น GMA News เกิดขึ้นที่จังหวัด Lopez ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อชาวบ้านในละแวกนั้นต่างแห่กันไปดู หลังจากที่มีชาวประมงสามารถจับปลาขนาดใหญ่ที่มาพร้อมกับรอยสักเต็มลำตัว ลวดลายปริศนาที่ปรากฎขึ้นมาบนหนังปลา ใครทำ? ทำยังไง? ยังคงเป็นปริศนา.. สำนักข่าวท้องถิ่นได้รายงานว่า ชาวบ้านในละแวกนั้นเชื่อว่าเป็นสัญลักษณ์ที่อาจจะเกี่ยวข้องกับเรื่องของเทพเจ้า วิญญาณ หรือโชคลาภ (คล้ายๆ บ้านเรา) Steve Clark ผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์ทางทะเลได้ให้ข้อสันนิษฐานว่า ‘รอยดังกล่าวที่ปรากฎขึ้นบนหนังปลา มีความเป็นไปได้ที่จะมาจากเศษขยะ หรือเศษผ้า ที่ไปติดอยู่บนเกร็ดของพวกมัน และเมื่อเวลาผ่านไปก็ทำให้หมึกพิมพ์ซึมติดเกร็ดมันไปด้วย’ ในขณะที่สำนักข่าวท้องถิ่นได้เข้าไปสัมภาษณ์ชาวบ้าน หลายคนก็ให้ความเห็นว่า ยังมีปริศนาโลกใต้น้ำอีกหลายอย่างที่มนุษย์เราไม่รู้ และไม่อาจจะฟันธงได้ว่าลายดังกล่าวเกิดขึ้นมาจากเศษขยะซึ่งเป็นน้ำมือของมนุษย์ ดูๆ แล้วส่วนตัวเราก็เชื่อว่า.. น่าจะเป็นรอยจากหมึกสิ่งพิมพ์ที่เป็นฝีมือมนุษย์เรานี่แหละ ที่มา: Metro
-
นักวิทยาศาสตร์ค้นพบ “เพรียงเรือยักษ์” ที่มีความยาวถึง 1 เมตร ในประเทศฟิลิปปินส์
เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2560 ทางเว็บไซต์เดลีเมล์มีรายงานว่า ทีมนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัย Northeastern สหรัฐอเมริกา ได้ทำการค้นพบเพรียงเรือขนาดความยาวไม่เกิน 5 ฟุต หรือราวๆ 1.52 เมตร (ถือว่ามีนาดใหญ่ที่สุด) โดยเพรียงเรือดังกล่าวอยู่ ณ บริเวณอ่าวของเกาะมินดาเนา ทางตอนใต้ของประเทศฟิลิปปินส์ จากการรายงานระบุว่า ข้อมูลในการค้นพบเพรียงเรือยักษ์ในครั้งนี้ ถูกนำไปเผยแพร่ลงในวารสาร Proceedings of the National Academy of Sciences (PNAS) โดยได้ระบุว่า… เพรียงเรือดังกล่าว มีชื่อเรียกในทางวิทยาศาสตร์ว่า Kuphus polythalamia เป็นญาติใกล้เคียงกับเพรียงเรือชนิดที่เจาะไชไม้ท้องเรือกินเป็นอาหาร เพียงแต่ว่ามันจะมีขนาดตัวที่ใหญ่กว่ามาก โดยจะอาศัยอยู่ในเปลือกที่มีลักษณะแข็ง มีรูปร่างคล้ายกับงาช้าง ในส่วนการดำรงชีวิตของมันนั้น ฟังดูแล้วแปลกหูเป็นอย่างมาก เพราะเจ้าเพรียงเรือยักษ์นี้จะเอาส่วนหัวของมันปักลงไปในพื้นของโคลนทะเล เพื่อดูดกินก๊าซไข่เน่าหรือไฮโดรเจนซัลไฟด์ที่เกิดจากซากเน่าเปื่อยในตะกอนโคลนเลนเป็นอาหารนั่นเอง อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเพรียงเรือที่ถูกค้นพบนี้ จะมีลักษณะคล้ายกับหนอนขนาดยักษ์ แต่ในความจริงแล้วมันเป็นสัตว์ตระกูลหอย เนื่องจากตัวของมันมีลักษณะที่อ่อนนุ่มมาก เมื่อโตเต็มที่จะมีขนาดยาวถึง 1.5 เมตรเลยทีเดียว …
-
15 “นางงาม” ที่สวย และโดดเด่นที่สุดในประวัติศาสตร์ของการประกวด Miss World
Miss World เป็นหนึ่งในเวทีประกวดนางงามระดับนานาชาติที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ก่อตั้งขึ้นใน 1951 ณ สหราชอาณาจักรโดย Eric Morley ในตอนแรกเขาหวังแค่อยากให้มันเป็นเพียงแต่งานประกวดครั้งเดียวเท่านั้น แต่ทว่ามันกลับได้รับความนิยมมาก นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เราได้เห็นการประกวด Miss World ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาจนถึงปัจจุบันนั่นเอง จากที่ผ่านมาเราจะเห็นได้ว่ามีสาวงามจากหลายประเทศที่ได้รับตำแหน่งเป็น Miss World ซึ่งแน่นอนว่าพวกเธอแต่ละคนจะต้องมีทั้งความสวย ความฉลาด และมีความโดดเด่น จนได้ครองมงกุฎอันทรงเกียรตินี้ และวันนี้เราจะพาคุณไปชม 15 ภาพ Miss World ที่ทางเว็บไซต์ BrightSide คัดเลือกมาว่าสวยงาม และโดดเด่นที่สุดตั้งแต่มีการจัดประกวด เรามาดูกันว่าจะมีใครกันบ้าง 1.Susana Duijm, Venezuela Miss World 1955 เมื่อเอ่ยถึงประเทศที่เป็นตัวเต็งในการประกวดนางงามแน่นอนว่าคงหนีไม่พ้นเวเนซูเอลา ซึ่งในการประกวด Miss World สาวงามจากประเทศนี้ได้รับตำแหน่งมามากถึง 6 ครั้ง และ Susana Duijm ก็เป็นคนแรกที่ได้รับตำแหน่งนี้ ปัจจุบันเธอกลายเป็นนักแสดงมืออาชีพ และเป็นพิธีกรรายการโทรทัศน์ 2.Penelope Coelen, South…
-
“น้ำตาล ชลิตา” ฮอตจนฉุดไม่อยู่ กับผลงานอวดหุ่นเปรี๊ยะ ในชุดว่ายน้ำที่ประเทศฟิลิปปินส์!!
เรียกได้ว่าตั้งแต่ได้รับตำแหน่งเป็น Miss Universe Thailand ปี 2016 สาวหน้าคมอย่าง “น้ำตาล ชลิตา ส่วนเสน่ห์” ก็สวยวันสวยคืนขึ้นมากจริงๆ ซึ่งถ้าหากใครที่ได้ติดตามเธอมาตั้งแต่แรกเริ่ม ก็จะเห็นถึงพัฒนาการความเปลี่ยนของเธอที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตา ภาษา รวมถึงท่าทางการเดินที่ดูมั่นใจ และเป็นมืออาชีพขึ้น งานนี้บอกเลยว่างานนี้ตัวแทนสาวงามจากประเทศไทยของเราไม่ธรรมดาเลย ถึงขนาดติดโพลทุกสำนักกันเลยทีเดียว และหลังจากที่สาวน้ำตาล ได้เดินทางไปเก็บตัวที่ประเทศฟิลิปปินส์ในวันที่ 12 มกราคมที่ผ่านมา ก็ทำให้เธอกลายเป็นที่พูดถึงเป็นอย่างมาก เพราะก่อนหน้านี้เพียงไม่กี่วันเธอได้ปล่อยภาพที่ถ่ายกับกระเป๋ากว่า 17 ใบ ซึ่งรวมแล้วมีน้ำหนักมากกว่า 300 กิโลกรัมลงในอินสตาแกรม ก็ได้กลายเป็นกระแสที่โด่งดังถึงขั้นสื่อนอกนำภาพของเธอไปนำเสนอให้ผู้คนทั่วโลกได้เห็นกันมาแล้ว ในตอนนี้ก็ผ่านสู่วันที่ 5 ของการเก็บตัว และทำกิจกรรมร่วมกับกองประกวด Miss Universe แล้ว ทางสื่อไทย และต่างประเทศก็มักจะมีการอัพภาพของเธอให้บรรดาแฟนๆ ชื่นชมกันอยู่ตลอดเวลา โดยล่าสุดวันที่ 17 มกราคม 2560 ทางแฟนแพจ Miss Umiverse Thailand ก็ได้ออกมาเผยคลิปวีดีโอขณะน้องน้ำตาลได้เดินอวดหุ่นสุดเป๊ะเว่อร์ในชุดว่ายน้ำที่ Cebu…
-
ประเด็นดราม่า ชาวฟิลิปปินส์เที่ยวเมืองไทย คายอาหารทิ้งต่อหน้าแม่ค้า… คุณคิดอย่างไร!?
กำลังกลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงกันอยู่ในโซเชียลขณะนี้ เมื่อมีชาวเน็ตคนหนึ่งได้เข้ามาตั้งกระทู้พันทิปถึงคลิปของยูทูบเบอร์ชาวฟิลิปปินส์ที่มารีวิวสตรีทฟู้ดของบ้านเราว่า “Vlogger จากฟิลิปปินส์มาเที่ยวกรุงเทพแล้วก็คายอาหารทิ้งต่อหน้าแม่ค้า” โดยเนื้อหาในกระทู้นั้นก็จะเล่าว่าเธอเป็นคนไทยที่อาศัยอยู่ในเมืองมะนิลาประเทศฟิลิปปินส์ พร้อมกับอธิบายให้ชาวเน็ตฟังว่าตั้งแต่มาอยู่ที่นี่เธอไม่ชอบอะไรซักอย่างของที่นี่เลย แบ่งเป็นข้อๆ ดังนี้ “1. อาหารฟิลิปปินส์เป็นหนึ่งในอาหารที่แย่ที่สุดในโลก น้ำมัน, แป้ง, คนประเทศนี้ไม่กินผักผลไม้ ผู้หญิงก็เลยอ้วนเอา แยกไม่ถูกว่าท้องหรือมันอ้วน 2. คนฟิลิปปินส์ส่วนใหญ่ไม่เคยออกนอกประเทศ เขามักคิดว่าประเทศตัวเองดีที่สุดแล้ว ทุกอย่างในประเทศนี้ดีสุดแล้ว กบในกะลา 3. เรอ, ตด, บ้วนน้ำลายไปทั่ว ไม่ว่าจะอยู่ตรงไหน 4. ผู้หญิงชอบเป็นมือที่สามคนอื่น มองหาแต่ผู้ชายรวย ๆ 5. ผู้ชายที่นี่มันคิดว่ามันหล่อ 6. อย่าไปเปลี่ยนเมนูอาหาร มันจะเป็นเรื่องใหญ่มาก 7. มันคิดว่ามันเป็นอเมริกัน แต่อเมริกันบางคนไม่เห็นทำแบบมัน 8. เดินทางเท้า อย่าคิดว่ามันจะเดินชิดซ้าย มันเดินครอบคลุมทั้งทางเท้า คนอื่นต้องหลบให้มัน มันเดินเป็นหน้ากระดาน เดินก็ช้าเหมือนไม่มีอะไรทำ 9. ผู้ชายที่นี่หื่นกาม ไม่ได้กามแบบทะลึ่ง แต่กามแบบลากคุณไปข่มขืนได้ 10. มันมักจะบอกว่า มะนิลา คงไม่ต่างกับ กรุงเทพหรอก หืม อยากจะตบกะบาล…
-
15 อับดับประเทศที่ขึ้นชื่อได้ว่า มีผู้หญิง “สวยที่สุดในโลก” หนุ่มๆ เห็นแล้วใจสั่นกันเป็นแถว
ในสมัยนี้ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็เห็นแต่คนหน้าดีเต็มไปหมด อาจจะเป็นเพราะความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีด้านการแพทย์ ที่เกี่ยวกับด้านความสวยความงามที่ทันสมัยขึ้น เลยทำให้ผู้หญิงหลายๆ คนเลือกใช้บริการจนทำให้พวกเธอสวยวันสวยคืน และถึงแม้ว่าจะมีผู้หญิงหน้าตาดีอยู่มากมายเหลือเกิน แต่อย่างไรก็ตามทางเว็บไซต์ Elitereaders ก็ได้ทำการคัดเลือก และจัดอับดับให้ประเทศที่มีผู้หญิงสวยที่สุดในโลกขึ้นมาจนได้ ซึ่งสาวๆ แต่ละประเทศนั้นบอกเลยว่าทั้งสวย และมีหน้าตาที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์มากๆ ว่าแล้วก็มาดูกันเลยดีกว่าว่าจะมีประเทศไหนติดอันดับบ้าง 15.ฟิลิปปินส์ สาวฟิลิปปินส์คือตัวแทนของสาวผมดำ ที่มีความสวยมาจากภายใน ส่งต่อออกมาให้เราเห็นทางรูปลักษณ์ภายนอกได้เป็นอย่างดี 14.สหราชอาณาจักร สาวอังกฤษและสหราชอาณาจักร เหมือนส่วนผสมที่ลงตัวของหลายๆ เชื้อชาติ เป็นตัวแทนของความดูดี สง่า ฉลาด และมีรสนิยมในด้านแฟชั่นเป็นอย่างดี 13.ออสเตรเลีย ด้วยความมีบุคลิกที่ดี และรักความสนุกสนาน จึงทำให้ผู้หญิงออสเตรเลียดูน่าสนใจ อีกทั้งพวกเธอยังมีรูปลักษณ์ที่ดูไม่ซ้ำกันเลย เช่น มีทั้งสาวผมบลอนด์ และสีผมบลูเน็ต 12.สหรัฐอเมริกา สหรัฐอเมริกาไม่ใช่เป็นเพียงแค่ประเทศที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในโลก แต่ยังเป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยสาวงาม ที่มีทั้งความสวย และความมั่นใจในตัวเอง เป็นมิตร และฉลาด 11.แคนาดา แคนาดาก็เป็นหนึ่งในประเทศที่มีวัฒนธรรมหลากหลาย สาวๆ แคนาเดียนมักจะชอบการศึกษาและออกกำลังกายอยู่สม่ำเสมอ 10.เนเธอร์แลนด์ รูปร่างสูง ผมสีบลอนด์ เป็นสิ่งสวยงามที่คุณสามารถหาได้ในประเทศเนเธอร์แลนด์…
-
แผนการรบสุดประหลาด ของสหรัฐฯ แกล้งเป็น ‘ผีดูดเลือด’ เข้ายึดพื้นที่ข้าศึก แถมได้ผลด้วย!!
ตลอดเวลาของมนุษยชาตินั้นได้มีสงครามเกิดขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเริ่มต้นด้วยเรื่องไหนๆ เราก็คงเคยได้ประจักษ์เรื่องราวเกี่ยวกับวีรบุรุษหลายๆ คน รวมถึงแผนยุทธศาสตร์ทางสงครามต่างๆ สุดหยั่งคิดของวีรบุรุษเหล่านั้น ที่สำคัญที่สุด บางครั้งแผนบ้าๆ บอๆ ที่ดูเหมือนว่าจะเป็นไปไม่ได้ ดันประสบผลสำเร็จซะงั้น เหมือนดั่งเรื่องนี้!? ในปี 1950 นาวาอากาศตรี Edward G. Lansdale ถูกส่งไปยังประเทศฟิลิปปินส์เพื่อทำสงครามขับไล่กลุ่มคอมมิวนิสต์ที่ชื่อว่า Huks ซึ่งขณะนั้นกำลังยึดครองพื้นที่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งอยู่ อย่างที่ตำราพิชัยสงครามได้ระบุไว้คือการใช้ ‘สงครามประสาท’ เพื่อลดทอนขวัญกำลังใจของศัตรูและทำให้พวกเขาละทิ้งฐานที่มั่น และทาง Lansdale เองก็เข้าใจในจุดนั้นเป็นอย่างดี เขาเลยลองศึกษาเรื่องตำนานและความเชื่อของชาวพื้นเมืองในละแวกนั้นดู ‘Aswang’ คือตำนานที่นาวาอากาศของเราเลือกใช้!! ‘Aswang’ คือตำนานพื้นบ้านของประเทศฟิลิปปินส์ มันคืออสูรที่สามารถแปลงกายได้ มีลักษณะคล้ายๆ กับแวมไพร์ในตะวันตก หรืออาจเป็นพ่อมดหมอผีที่สามารถแปลงกายเป็นปีศาจกระหายเลือดได้ แต่ลักษณะเด่นที่ตรงกันก็คืออสูรชนิดนี้จะดูดเลือดจากเหยื่อจนหมดตัว และถือว่าเป็นปีศาจที่ชาวฟิลิปปินส์หวั่นเกรงกันที่สุด Aswang ในตอนกลางวันนั้น จะใช้ชีวิตปกติราวกับเป็นชาวบ้านทั่วๆ ไป หลบลี้ที่จะรู้จักผู้คน แต่พอตกกลางคืนเมื่อไหร่ ก็จะแปลงร่างออกไปหาเหยื่อ ซึ่งก็คือมนุษย์นี่ล่ะ!! นาวาอากาศตรี Edward G. Lansdale เจ้าของแผนการแกล้งเป็นผีดูดเลือด ก่อนหน้านี้เขาก็เคยทำสำเร็จมาก่อนในแผนการปล่อยข่าวออกไปหลอกนักรบคอมมิวนิสต์บางส่วนว่า ถ้าพวกเขาเข้าร่วมกับกลุ่มคอมมิวนิสต์ก็จะถูกสาปจากพระเจ้า ทำให้นักรบคอมมิวนิสต์ในพื้นที่หลายๆ…
-
ประเพณีโบราณของชาวฟิลิปปินส์ บรรจุศพในโลง แล้วนำไปแขวนไว้ข้างหุบเขา…
ในปัจจุบันแล้วส่วนใหญ่ถ้าหากบ้านไหน หรือครอบครัวไหนเกิดการสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก ถ้าหากไม่ทำพิธีตามแบบชาวตะวันตกที่ต้องฝังลึกไป 6 ฟุตใต้ดินแล้ว ส่วนใหญ่ในไทยเราก็จะใช้วิธีการเผาศพ ซึ่งคล้ายกับหลายๆประเทศทั่วโลก แต่ลึกลงไปท่ามกลางหุบเขา Sagada แห่งฟิลิปปินส์ ชาวเผ่า Igorot ชนพื้นเมืองดั้งเดิมที่อาศัยอยู่ในแถบบริเวณนั้นมาอย่างยาวนาน พวกเขาเลือกที่จะไว้อาลัยแด่บุคคลผู้จากไปด้วยการแขวนไว้กับหุบเขา แทนที่จะฝังลึกลงไปในดิน ชาวเผ่าที่อาศัยอยู่ในแถบหุบเขา Sagada พวกเขาจะใช้วิธีการไว้อาลัยผู้ที่จากไปด้วยการแขวนโลงศพไว้ตามข้างหุบเขานานนับพันปี ซึ่งส่วนใหญ่แล้วโลงศพจะถูกแขวนไว้สูงขึ้นไปมากกว่าหลายร้อยฟุต จากพื้นดิน ชนพื้นเมืองแถบนี้เชื่อว่า การแขวนโลงศพไว้จะช่วยทำให้คนที่จากไป ได้ย้อนไปหาบรรพบุรุษในอดีต ซึ่งถือว่าเป็นพรที่วิเศษที่สุด อีกทั้งยังเพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ป่าเข้ามายุ่งกับร่างของผู้ที่จากไปอีกด้วย โลงศพจะถูกแขวนติดไว้กับคานเหล็ก ซึ่งถูกฝังเจาะฝังเข้าไปในหินของภูเขา เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่มีอุบัติเหตุใดๆเกิดขึ้น ตามประเพณีศพจะถูกหักกระดูก และทำให้อยู่ในท่าเหมือนเด็กทารกที่เกิดใหม่ ซึ่งพวกเขาเชื่อว่า วิธีการนี้จะทำให้ผู้ที่จากไป ได้เริ่มต้นชีวิตหลังความตาย เหมือนกับการเกิดครั้งใหม่บนโลก อีกทั้งด้านข้างของโลงศพ จะมีการเขียนชื่อผู้ตายไว้ เพื่อเป็นการระลึกถึงอยู่เสมอ ถึงแม้ว่าปัจจุบันจะหาชมประเพณีแบบนี้ได้ยากกว่าในอดีต แต่ก็ยังคงมีชนพื้นเมืองอีกจำนวนมากที่ยังคงรักษาขนบธรรมเนียมแบบดั้งเดิมไว้ ถือว่าเป็นอีกเรื่องที่เราไม่เคยเห็นมาก่อนเลยนะเนี่ย!! ที่มา: ViralNova
-
เกาะติด ‘สงครามยาเสพติด’ ในฟิลิปปินส์ ผ่านมือปืนสาว ผู้สังหารพ่อค้ายาเพื่อเลี้ยงชีพ
เมื่อพูดถึงปัญหายาเสพติด มักจะเป็นปัญหาสำหรับหลายๆ ประเทศทั่วโลก ซึ่งแต่ละประเทศนั้น ก็มีวิธีการจัดการที่แตกต่างกันออกไป สำหรับประเทศฟิลิปปินส์ตอนนี้ กำลังอยู่ในช่วงที่ทำสงครามกับยาเสพติดอย่างจริงจัง โดยประธานาธิบดี Rodrigo Duterte ซึ่งได้สั่งฆ่าผู้ค้ายาเกือบ 2,000 ราย ภายในไม่กี่สัปดาห์หลังจากขึ้นเป็นประธานาธิบดี สำนักข่าว BBC ได้ติดตามเรื่องนี้ผ่านผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งเป็นหนึ่งในมือสังหารพ่อค้ายาเสพติดในฟิลิปปิส์ มือสังหารหญิงคนนี้ใช้ชื่อว่า มาเรีย อันเป็นนามแฝง เธออยู่กับสามีและลูกในย่านคนจนของกรุงมะนิลาและไม่มีรายได้ประจำ สามีเธอทำงานให้กับตำรวจ โดยรับจ้างสังหารลูกหนี้ที่ไม่ยอมจ่าย รวมทั้งรับจ้างสังหารกลุ่มพ่อค้ายาเสพติดด้วย ต่อมาเมื่อรัฐบาลต้องการมือปืนที่เป็นผู้หญิง เพื่อเข้าถึงตัวเป้าหมายได้มากขึ้น สามีจึงแนะนำให้รับงานนี้ ซึ่งต้องทำงานกันเป็นทีม ซึ่งนอกจากเธอแล้ว ในทีมนั้นมีผู้หญิงอีก 3 คน เธอเล่าให้ฟังว่า “ฉันได้เริ่มทำงานนี้ครั้งแรกเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ในจังหวัดที่ไม่ไกลจากที่นี่ ตอนนนั้นฉันรู้สึกกังวลมาก เพราะมันเป็นครั้งแรกของฉัน” ตั้งแต่ Duterte ได้ขึ้นมาเป็นประธานาธิบดี เขาก็ได้กวาดล้างยาเสพติดด้วยการสั่งให้ตำรวจสังหารพ่อค้ายาทุกรายที่ขัดขืนการจับกุม มาเรียเองก็เคยสังหารคนมาแล้วถึง 6 ราย โดยทุกรายนั้นถูกเธอยิงเข้าที่หัวในระยะประชิด สงครามยาเสพติดนี้ทำให้เธอมีงานมากขึ้น แต่มันก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่สูงมากด้วยเช่นกัน เพราะกลัวว่าครอบครัวที่เธอไปสังหารนั้น จะตามมาแก้แค้นในภายหลัง ทำให้เธอต้องย้ายบ้านหนีบ่อยๆ…
-
พาทัวร์ภาพ ‘โรงงานผลิตปืน’ ในฟิลิปปินส์ กับวิถีแห่งช่างปืน ที่เราอาจจะยังไม่เคยเห็น…
พูดถึงโรงงานผลิตอาวุธ เชื่อว่าคงเป็นสิ่งที่ชาวไทยไม่ค่อยคุ้นเคยซักเท่าไหร่ แต่รู้หรือไม่ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของเรา มีโรงงานผลิตปืนระดับโลกตั้งอยู่ด้วย (แน่นอนว่าแม้สภาพของมันจะดูไม่เป็นระดับสากล แต่รัฐบาลก็สนับสนุนกันอย่างจริงๆ จังๆ เลยทีเดียว) โรงงานผลิตอาวุธเหล่านี้ ตั้งอยู่ในเมืองดาเนา บนเกาะเซบู ประเทศฟิลิปปินส์ พวกเขาเริ่มอุตสหกรรมการผลิตปืนตั้งแต่ช่วงต้นศตวรรษที่ 20 จนกระทั่งถึงช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง บางส่วนเข้าร่วมกองกำลังต่อต้านญี่ปุ่น อีกส่วนหนึ่งเข้าร่วมกับกองทัพสหรัฐในฐานะฝ่ายซ่อมบำรุงอาวุธ ในช่วงแรก โรงงานผลิตอาวุธเหล่านี้ต้องลักลอบทำกันอย่างลับๆ อย่างผิดกฎหมาย จนกระทั่งถึงช่วงปี 1990 ทางรัฐบาลฟิลิปปินส์ได้เล็งเห็นถึงศักยภาพของอุตสาหกรรมการผลิตปืน จึงได้เข้ามามีส่วนร่วมพร้อมทั้งผลักดันให้โรงงานเหล่านี้กลายเป็นกิจการที่ถูกต้องตามกฎหมาย ปัจจุบันโรงงานเหล่านี้อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ World MPC (Workers League of Danao Multi-purpose Cooperative) ซึ่งอาวุธที่ผลิตได้ ก็จะถูกส่งขายไปยังต่างประเทศ อย่างไรก็ตามแม้ที่แห่งนี้จะถูกกฎหมาย แต่ก็ยังมีโรงงานผลิตอาวุธเถื่อนอยู่อีกมากในเมืองดาเนา ก่อให้เกิดปัญหาหลายๆ อย่างตามมา ทั้งเรื่องอาวุธเถื่อน อาชญากรรม และความรุนแรงอย่างที่เราน่าจะเดาได้ไม่ยาก และนี่ก็คือภาพวิถีชีวิตในโรงงานแห่งนี้ . . . . . .…
-
แฮชแท็ก #DontLiftThatBag จากแอร์โฮสเตส กรณีโดนตบหน้าเพราะไม่ช่วยยกกระเป๋า!!
จากข่าวดังในโลกโซเชียลหลังจากที่ เฟซบุ๊ก A Fly Guy’s Cabin Crew Lounge ได้โพสต์ภาพและข้อความ กรณีแอร์โฮสเตสของสายการบิน Cebu Pacific สายการบินโลว์คอสต์ของประเทศฟิลิปปินส์ ถูกผู้โดยสารตบหน้าจนเป็นรอยแดง เนื่องจากไม่ช่วยยกกระเป๋าของผู้โดยสารรายหนึ่งเก็บบนช่องเก็บกระเป๋าเหนือศีรษะให้นั้น เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องฮอทขึ้นมา และทั้งเหล่าชาวเน็ตที่ได้รับทราบ รวมถึงเหล่าลูกเรือจากหลากหลายสายการบิน ต่างเข้ามาวิจารณ์(ด่า) ผู้โดยสารที่ก่อเรื่องอย่างกว้างขวาง มีการพูดถึงประเด็นการช่วยยกกระเป๋า ว่าจริงๆ และหน้าที่นั้นเป็นความรับผิดชอบของผู้โดยสารเจ้าของกระเป๋าเอง และบางครั้งลูกเรืออาจจะช่วยบ้างแต่ไม่จำเป็นต้องทำทั้งหมด เหล่าแอร์โฮสเตสจึงได้ร่วมกันติดแฮชแท็ก #DontLiftThatBag ประท้วงกรณีนี้ ลงในโซเชียล เพื่อแสดงจุดยืนว่าพวกเขาต้องการความยุติธรรมแก่ลูกเรือรายนี้… เพื่อบอกว่าลูกเรือไม่จำเป็นต้องทำหน้าที่นี้โดยตรงก็ได้ เพื่อบอกว่ายินดีช่วยยก หากขออย่างสุภาพ และช่วยกันยกถ้าไม่ไหวจริงๆ เพื่อประจานสิ่งที่ผู้โดยสารทำลงไปเกินกว่าเหตุเช่นกัน . . นอกจากนี้ ยังมีการทำเสื้อขึ้นมา เพื่อรณรงค์ในแคมเปญนี้เช่นกัน ทีนี้… ตามกฎแล้วจริงๆ แอร์มีหน้าที่ยกกระเป๋าหรือไม่!? จากข้อบังคับของคณะกรรมการการบินพลเรือน ฉบับที่ 69 ว่าด้วยข้อกำหนดเกี่ยวกับสัมภาระติดตัวผู้โดยสาร ได้ระบุเอาไว้ในข้อที่ 5 ว่า…
-
ปาเกียวลั่นปากดูถูกเพศที่สาม ‘สัตว์ยังดีกว่า’ เพราะแยกแยะได้ ‘ไนกี้’ รีบตัดสัญญาทิ้งทันที!!
เรื่องของเพศที่สามนั้นเป็นที่ยอมรับกันมากขึ้นในปัจจุบัน จากการต่อสู้และผลักดันมาอย่างยาวนาน ทั้งนี้รสนิยมทางเพศของแต่ละคนก็ขึ้นอยู่กับความสมัครใจทั้งนั้น ไม่ได้มีการบังคับแต่อย่างใด แต่ถึงแม้จะมีการยอมรับในวงกว้างแล้ว กระแสต่อต้านก็ยังคงมีอยู่เช่นกัน จากคลื่นใหญ่โหมกระหน่ำชาวเพศที่สามในอดีต ตอนนี้ก็เป็นคลื่นใต้น้ำที่รอการกลับมาอีกครั้ง แต่ทว่าในคราวนี้กลับเป็น แมนนี่ ปาเกียว นักชกหมัดหนักผู้โด่งดังระดับโลกชาวฟิลิปปินส์ วัย 37 ปี ผู้นี้ จากการให้สัมภาษณ์ทางโทรทัศน์ โดยมีการถามความคิดเห็นเกี่ยวกับเพศที่สาม คลิปการให้สัมภาษณ์ของแมนนี่ ปาเกียว Manny Pacquiao on same-sex marriage“Mas masahol pa sa hayop.” Senatorial aspirant and Sarangani Rep. Manny Pacquiao had this to say when we asked him for his stand on same-sex marriage. #BilangPilipino Posted…
-
งานดีทุกอณู!! ยลโฉม ‘Albert Gonzales’ หนุ่มปินส์ผู้คว้ารางวัลบิกินี่โชว์ยอดเยี่ยมแห่งปี 2015
ถ้าเหมียวจะชวนคุยเรื่องวงการประกวดในเมืองไทยที่จำเป็นต้องโชว์ความเซ็กซี่ หลายๆคนคงมุ่งเป้าไปที่การประกวดของสาวๆ ผู้มีเอวคอด อกผายใส่ชุดบิกินี่เดินบนเวทีประกวดให้หนุ่มๆ ได้กำเดาแตก ซึ่งถ้าใครคิดแบบนี้รอไว้แล้ว เหมียวเกรงว่าคุณๆ จะผิดหวังกันน่ะเซ่ เพราะว่าวันนี้เหมียวจะไปยลโฉมหน้าและหุ่นของแชมป์เวที the Daragang Magayon Bikini Open 2015 ต่างหากล่ะ เบิกตัว ‘Albert Gonzales’!! เนื่องจากภาพของฮีมีเรทความสยิวกิ้วชนเพดานสุดๆ กดเอาเองนะจุ๊บุ ภาพที่ 1 ภาพที่ 2 ภาพที่ 3 ภาพที่ 4 สำหรับดีกรีแชมป์ของอิตาคนนี้ ก็ไม่ได้มาจากการจับสลากนะจ๊ะ เพราะฮีเป็นนายแบบที่ดั้นด้นประกวดมิสเตอร์ระดับประเทศมาหลายเวทีแล้ว และด้วยลีลาการเต้นบวกกับชุดนี้ มีเหรอจะไม่ชนะ!? อ้ะดูการเดินแบบซะหน่อย!! หืมมมม.. ขนาดเหมียวชอบหื่นใส่ผู้หญิงนะ แต่เห็นความเซ็กซี่ของอัลเบิร์ตแล้วนี่ใจสั่นยังไงไม่รู้ ที่มา postjung, Bikini Open Manila