Tag: ฟุตบาท
-
ชาวเน็ตวิจารณ์ บ้านทหารวัยเกษียณสร้างรั้วขึ้นมาล้อม ‘ฟุตปาธ’ แบบนี้ก็ได้เหรอ!?
อย่างที่รู้กันดีว่า ‘ฟุตปาธ’ หรือ ‘ทางเท้า’ นั้นถือเป็นที่สาธารณะ จะเคลมไว้เป็นของตัวเองไม่ได้ เพราะมันผิดกฎหมาย แต่จากโพสต์ล่าสุดของผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า Somchai Tum Jaitong ได้แสดงให้เห็นว่ามีบ้านหลังหนึ่ง ได้ทำการสร้างรั้วมากั้น ‘ฟุตปาธ’ ที่อยู่หน้าบ้าน ราวกับว่าฟุตปาธนั้นเป็นเขตในบ้านของตัวเองซะงั้น!? นอกจากนี้ยังเปิดเผยอีกว่า บ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านของอดีตทหารยศพลตรี ที่เกษียณอายุราชการไปแล้วอีกด้วย ลองไปอ่านโพสต์แบบเต็มๆ กันดูครับ “บ้านของพลตรีทหารเกษียณราชการแล้ว ฟุตปาธกั้นเอามาเป็นรั้วของตัวเอง แล้วยังเอารั้วเหล็กมาวางกั้นไม่ให้ชาวบ้านจอดรถหน้าบ้านได้ เห็นแล้วไม่รู้ว่าใครจะกล้าไปรื้อรั้วได้” โพสต์ดังกล่าวได้รับความสนใจจากชาวเน็ตมากมายมีคนเข้ามากดไลก์กว่า 1,200 ครั้ง และแชร์ไปอีกกว่า 1,445 ครั้งเลยทีเดียว แต่ละคนก็ให้ความเห็นวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นานา บ้างก็ว่า เห็นมานานกว่า 20 ปีแล้วบ้านหลังนี้ ดีใจที่มีคนคิดเหมือนเรา บ้างก็ตัดพ้อว่า ลองเป็นคนพื้นๆ บ้านทำบ้างสิ ได้เดือดร้อนแน่ๆ บ้างก็ตำหนิว่าเห็นแก่ตัว สังคมเดือดร้อนก็เพราะคนแบบนี้นี่แหละ แต่บางส่วนก็มองว่าบ้านหลังนี้ทำถูกแล้ว เอารั้วมาวางกั้นไม่ให้ชาวบ้านจอดรถหน้าบ้านก็ทำถูกแล้วนี่ ไม่งั้นจะเหมือนเคสคุณป้าทุบรถเลยนะ…
-
ซานดีเอโกจ่าย 2.7 ล้านบาท ให้อดีตเมียนายกเทศมนตรี กรณีล้มบนทางเท้าจนนมแตก…
เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2017 ได้มีการโต้เถียงเกิดขึ้นในเมืองซานดิเอโก รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปี 2015 เมื่อ Cynthia Hedgecock วัย 70 ปี ภรรยาของอดีตนายกเทศมนตรี Roger เธอเดินสะดุดล้มจนทำให้หน้าอกของกระแทกกับทางเท้า Cynthia เล่าว่า ในวันที่ 31 กรกฎาคม 2015 เธอกำลังเดินอยู่บนทางเท้าริมถนน Morrell และสะดุดเข้ากับแง่งที่ยื่นออกมาจากพื้นสูงประมาณ 6 เซนติเมตร ด้วยความที่มือหนึ่งเธอถือเอกสารอยู่และอีกมือก็ถือโทรศัพท์อยู่ บวกกับการที่เธอใส่รองเท้าแตะ จึงไม่สามารถป้องกันตัวเองได้ ล้มลงหน้าอกกระแทกพื้นในที่สุด Cynthia ผู้ได้รับอาการบาดเจ็บบริเวณหน้าอก เธอรู้สึกเจ็บหน้าอกไปนานถึง 2 สัปดาห์ จนเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2015 แพทย์จากคลินิก Scripps พบความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับหน้าอกของเธอ เต้าเทียมที่ Cynthia เคยทำเอาไว้ได้รับการกระแทกอย่างรุนแรง และเธอจำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัดเปลี่ยนใหม่หลังจากนั้น การผ่าตัดเปลี่ยนเต้าเทียมในเดือนพฤศจิกายน 2015 ทำให้เธอต้องเสียค่าใช้จ่ายไปราวๆ 650,000…
-
ทวงคืนทางเท้า!! หญิงสาวใจกล้ายืนเดี่ยวขัดขวางรถจักรยานยนต์ ไม่ให้สัญจรผ่านทางเท้า
นับว่าเป็นปัญหาเรื้อรังที่แก้ไขกันไม่ได้ซักทีกับทางเท้าหรือฟุตบาทที่เราเรียกๆ กัน จะเห็นได้ชัดว่าหลายจังหวัดในประเทศไทยมักจะประสบกับปัญหารถจักรยานยนต์ขับขี่ขึ้นมาบนทางเท้า หวังจะใช้เป็นทางลัดในการสัญจร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลาที่รถติด นอกจากตามเมืองใหญ่ๆ ของประเทศไทยอย่างกรุงเทพแล้ว ที่ประเทศอินโดนีเซียเองก็ประสบกับปัญหานี้เช่นเดียวกัน แต่!!! ในเมื่อมีปัญหาก็ต้องมีฮีโร่ที่กล้าเปลี่ยนแปลง และเธอ…. ผู้หญิงใจกล้าที่ลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงก็คือ Alfini Lestari วัย 34 ปี ที่พยายามยืนขวางกั้นไม่ให้รถจักรยานยนต์สัญจรบนทางเท้าในกรุงจาการ์ตา ภายหลังจากที่ภาพของเธอถูกเผยแพร่ออกไป ทั้งหนังสือพิมพ์และอินเทอร์เน็ต ผู้คนต่างก็ยกย่องในความกล้าหาญของเธอที่ตัดสินใจเปลี่ยนแปลงในสิ่งที่เป็นปัญหามาอย่างยาวนาน เธอให้สัมภาษณ์เอาไว้ว่ามันเกิดจากการที่เธอสังเกตเห็นว่ารถจักรยานยนต์มักจะสัญจรเป็นทางเท้าอยู่บ่อยๆ จนทำให้คนที่เดินบนทางเท้าไม่สามารถเดินได้ ซึ่งเธอเองก็ทำแบบนี้มาหลายครั้งเมื่อใดก็ตามที่พบกับรถจักรยานยนต์ที่ขับขี่บนทางเท้า ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม เธอไม่สนใจว่าจะโดนด่าโดนต่อว่าจากผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์บนทางเท้า พยายามขับชน หรือบอกว่าเธอไม่ได้เป็นเจ้าของทางเท้า เธอคิดว่าทางเท้ามีไว้ให้คนเดิน ไม่ใช่ให้รถจักรยานยนต์สัญจร ‘ฉันบอกกับพวกเขาว่าควรจะละอายตัวเองบ้าง พวกเขามีถนนไว้ใช้สัญจรอยู่แล้วแต่ดันมาเบียดเบียนคนอื่นด้วยการขับขี่บนทางเท้า’ ที่มา : thejakartapost, asiancorrespondent, kompas
-
อะเมซิ่งไทยแลนด์ แดนมหัศจรรย์ ทางเท้ามีไว้ให้แม่ค้าตั้งขายของ ไม่ได้มีไว้ให้คนเดิน!!
การยึดทางเท้าเป็นพื้นที่ขายของนั้นถือว่าเป็นปัญหาที่เรื้อรังคู่สังคมไทยมาอย่างยาวนาน รวมไปถึงการที่รถจักรยานยนต์ใช้เป็นเส้นทางในการสัญจรด้วย ทำให้ผู้ที่เดินทางเท้านั้นไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากการเดินอยู่ริมถนน เสี่ยงอันตรายเป็นอย่างยิ่ง และประเด็นนี้ก็ถูกนำมาพูดถึงกันอีกครั้งเมื่อคุณ สมาชิกหมายเลข 2049595 จากเว็บไซต์พันทิปได้ตั้งกระทู้พร้อมกับโพสต์รูปภาพร้านอาหารข้างทาง ยึดที่ตั้งร้านแบบถาวร กินพื้นที่ทางเท้าทั้งหมด ไม่มีทางเดินเหลืออยู่เลย และสิ่งที่น่าสงสัยก็คือทำไมเทศกิจถึงไม่แก้ปัญหานี้ จากที่เป็นแผงลอยกลายร่างมาเป็นแผงถาวร หรือว่ามีการจ่ายค่าปรับไปแล้วถือว่าจบเรื่อง รวมไปถึงปัญหาที่ร้านค้าเหล่านี้ทิ้งขยะ และของเสียไว้บนถนน ส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วบริเวณ ภายในซอยส่วนใหญ่ของเมืองกรุงเทพฯ นั้นก็ใช่ว่าจะใหญ่โต เป็นทางแคบๆ ที่มีรถยนต์และรถจักรยานยนต์สัญจรไปมาตลอดเวลา และมีจำนวนเยอะด้วย ทั้งนี้ผู้คนที่เดินทางเท้าต้องระมัดระวังตัวจากการเดินขอบทางเท้าและการข้ามถนนไปอีกฝั่ง และอีกประเด็นที่น่าสนใจก็คือถ้าหากว่าทางเทศกิจไล่แม่ค้าที่ยึดทางเท้าออกจากบริเวณ ก็จะถูกกล่าวหาว่ารังแกคนหาเช้ากินค่ำ รังแกคนจน และอีกหลายเหตุผลร้อยแปดที่จะนำมาปกป้องตัวเอง ความเห็นนี้โดนใจเหมียวมากๆ เลยล่ะ แล้วชาวเหมียวล่ะ มีความคิดเห็นกับประเด็นนี้อย่างไรบ้าง!? ที่มา : pantip