Tag: ฟ้อง
-
เซเลบหนุ่มของสิงคโปร์ เตรียมฟ้องคลินิกเกาหลี ที่ “ไม่ตั้งใจ” ทำศัลกรรมให้กับเขา
นักออกแบบดังชาวมาเลเซียในสิงคโปร์ Addy Lee เตรียมฟ้องหมอเกาหลีที่ไม่ตั้งใจทำศัลยกรรมให้กับเขา ในวันก่อนคริสต์มาส Lee โพสต์ภาพและวิดีโอลงบนโซเชียลเน็ตเวิร์ก ชี้ให้เห็นถึงการทำศัลยกรรมที่ “ลวกๆ” ที่เขาได้รับมา Lee วัย 47 ปีโพสต์บนอินสตาแกรมต่อว่า Dr. Kim จาก South Korean Item Clinic ในเรื่องของการทำงานอย่างผิดพลาดเมื่อเดินกันยายน เขาพิมพ์ว่า… “นี่คือการทำศัลยกรรมผิดพลาด Dr. Kim จาก South Korean Item Clinic ทำให้ตาผมดูแย่กว่าเดิมอีก” นอกจากนี้เขายังมีการติดแฮชแท็กคำว่า “โกง” และ “ไม่รับผิดชอบ” อีกด้วย ในอีกโพสต์หนึ่งที่เป็นวิดีโอ เขาก็เขียนคำอธิบายว่า “ศัลยกรรมแย่ ไม่รับผิดชอบเลยทั้ง Item Korea และผู้ให้คำปรึกษาของร้าน อีกอย่าง อย่าเชื่อคนที่ชื่อ Elaine เพราะนางไม่ได้เป็นหมอ ในเกาหลีไม่ได้ดีทุกคลินิกหรอกนะ” https://www.instagram.com/p/BryukASFb15/?utm_source=ig_embed&utm_campaign=embed_loading_state_camera สุดท้าย Lee ก็ออกมาเผยว่า เขาได้รับการติดต่อจากทางคลินิกว่าให้เข้าไปพบหลัง 6 เดือนซึ่งนั่นทำให้เขายอมรับไม่ได้…
-
พ่อแม่ฟ้อง “มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด” ที่ไม่ดูแล และปล่อยให้ลูกชายของพวกเขา ‘ฆ่าตัวตาย’
ปัญหาทางด้านจิตใจนั้นเป็นสิ่งที่ควรได้รับการดูแลและเอาใจใส่จากคนรอบข้าง เพราะบางครั้งปัญหาเหล่านี้อาจนำไปสู่ การฆ่าตัวตาย อันเป็นความสูญเสียที่ครอบครัวยากจะทำใจรับได้ เช่นเดียวกับ Luke Z. Tang หนุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด วัย 18 ปีที่ได้ตัดสินใจจบชีวิตตัวเองลงอย่างน่าเศร้า จนทำให้ครอบครัวของเขาต้องเดินหน้าเอาผิดกับทางมหาวิทยาลัย ในวันที่ 11 พฤศจิกายนที่ผ่านมาคือวันครบรอบ 3 ปีที่เขาเสียชีวิต Wendell W. Tang พ่อของเขาจึงฟ้องคดีดังกล่าวกับศาลสูงสุดในเคาน์ตีมิดเดิลเซ็กส์ เขาดำเนินการฟ้องร้องโดยมี องค์กรฮาร์วาร์ด, Catherine R. Shapiro คณบดีฝ่ายสถานที่พักอาศัย, Caitlin Casey คณบดีของบ้านพัก, Melanie G. Northrop ผู้ให้คำปรึกษาด้านสุขภาพจิตแห่งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด และ David W. Abramson จิตแพทย์ HUHS เป็นคู่กรณี ในเอกสารยื่นฟ้อง มีข้อความว่า… “ในฐานะที่เป็นผลพวงของการละเลยและความไม่เอาใจใส่ของฮาร์วาร์ด ผู้เสียชีวิตของฝ่ายโจทก์จึงได้รับความเจ็บปวดทางกายและจิต และอื่นๆ จนกระทั่งนำไปสู่การฆ่าตัวตายในที่สุด” Luke Z. Tang หนุ่มน้อยผู้เสียชีวิต โดยการฟ้องร้องในครั้งนี้ ฝ่ายโจทก์ได้ร้องขอจำเลยให้ชดใช้ความเสียหายนี้เป็นจำนวนเงินไม่น้อยกว่า 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (กว่า 650…
-
อดีตนักโทษมะกันเสีย ‘อวัยวะเพศ’ จากมะเร็ง โร่ฟ้องเรือนจำปล่อยโรคไร้การ “วินิจฉัย”
เรื่องราวชวนปวดหัวในวันนี้เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับนาย Keith Jackson วัย 49 ปี ที่ต้องเสียอวัยวะเพศไปเนื่องจากโรคมะเร็ง Keith Jackson เคยเป็นผู้ต้องขังในรัฐนอร์ทแคโรไลนา เขาถูกจับกุมในข้อหาพกพาอาวุธปืนอย่างผิดกฎหมายและก่ออาชญากรรมร้ายแรง หลังจากนั้นเขาเสียอวัยวะเพศจากโรคมะเร็ง เขาจึงโทษเรือนจำที่ไม่ตรวจอาการเขาก่อนหน้านี้ Keith Jackson วัย 49 ปี ในช่วงเวลา 15 เดือนแรกที่เขาถูกขังอยู่ในเรือนจำ เขาก็เริ่มมีอาการเจ็บปวดที่แผลบนอวัยวะเพศของตนเอง มันเริ่มบวมช้ำและมีเลือดออกมาก ข้อมูลจากบันทึกทางการแพทย์ของ Keith พบว่าเขาถูกวินิจฉัยว่ามีการติดเชื้อที่บริเวณอวัยวะเพศหลายต่อหลายครั้ง โดยทีมแพทย์เชื่อว่าเขาได้รับเชื้อมาจากการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ป้องกัน จึงให้ยาปฏิชีวนะแก่เขา ภายหลังทีมแพทย์ตัดสินใจ ทำการผ่าตัด Keith แต่มันก็สายเกินไปเพราะอาการของมะเร็งได้ลุกลามจนทำลายอวัยเพศของเขาไปแล้ว นั่นทำให้ Keith ต้องการให้ทางเรือนจำและทีมแพทย์ในเรือนจำออกมารับผิดชอบ ที่ปล่อยให้อาการของโรคมะเร็งลุกลามในตัวเขาโดยที่ไม่มีการตรวจวินิจฉัย Keith กล่าวว่า… “ทุกคนที่เกี่ยวข้องต้องออกมารับผิดชอบเรื่องนี้ และสิ่งที่ผมต้องการจริงๆ ก็คือ ‘ความช่วยเหลือ’ เท่านั้นเอง” สุดท้ายเขาก็ยื่นเรื่องฟ้องรัฐบาลกลางภายใต้กฎการฟ้องร้องของภาคเอกชนต่อภาครัฐบาล นอกจากนี้เขายังฟ้องเรือนจำอีก 6 แห่งที่เขาเคยถูกขัง และสถานรักษาพยาบาลอีก 2 แห่งอีกด้วย Keith…
-
เท่มาก!! ชาวญี่ปุ่นโชว์การ “นวดโฟมล้างหน้า” ให้กลายเป็น ‘ฟอง’ สุดแสนเพอร์เฟกต์
ว่ากันว่าคนเรามันจะต้องมีสิ่งที่ตนเองถนัดและทำได้ดีกันบ้างแหละ ถึงบางครั้งจะเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่อาจจะใช้ในการทำงานไม่ได้ แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้ดู “เท่” เพราะแค่ทำมันได้ดีเท่านั้นเอง ตัวอย่างเช่นผู้ใช้ทวิตเตอร์ชาวญี่ปุ่นที่ใช้ชื่อว่า คาริน ได้โพสต์คลิปวิดีโอโชว์ในสิ่งที่เขานั้นทำมันได้ดีกว่าใครหลายๆ คน นั่นก็คือการขยี้ โฟมล้างหน้า ให้กลายเป็นฟองที่แสนเนียนนุ่มได้!!? โฟมล้างหน้ายามที่มันใกล้จะหมดนั้น คนขี้เสียดายคงจะรู้ดีว่าต้องพยายาม “รีด” มันออกมาให้หมดจนหยดสุดท้าย แล้วบางครั้งไอ้หยดสุดท้ายนั้นก็ช่างตีเป็นฟองได้ยากเสียเหลือเกิน แต่มันไม่เป็นปัญหาสำหรับคนคนนี้เลย… ไปดูคลิป การทำโฟมล้างหน้าหยดสุดท้ายให้เป็น “ฟอง” เนียน นุ่ม เด้ง กันเเลย เจ้าของทวิตเตอร์เขียนคำอธิบายไว้ว่า “ฉัน คนที่ไม่มีความสามารถอะไรเลยนอกจากสิ่งนี้สิ่งเดียว และฉันก็กำลังจะโชว์ให้พวกคุณได้เห็น” https://twitter.com/na_mi_da/status/1052576345614503936?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed%7Ctwterm%5E1052576345614503936&ref_url=https%3A%2F%2Fsoranews24.com%2F2018%2F10%2F19%2Fjapanese-netizens-sole-talent-of-making-dense-foam-out-of-face-wash-impresses-internet%2F โฟมล้างหน้าหลอดแบ๊นแบน ต่อให้รีดจนสุดแรงก็ออกมาแค่นี้แหละ ขยี้ไปๆ มาๆ ผสมน้ำนิดหน่อย ชวิ้ง!! ออกมาเป็นก้อนโฟมแสนฟูฟ่อง เนื้อสัมผัสนุ่มเด้ง…น่าละเลงบนใบหน้าอย่าบอกใครเชียว เจ้าของทวิตเตอร์ดังกล่าวแอบบอกด้วยว่า เมื่อทำให้โฟมกลายเป็นเนื้อเนียนเด้งแบบนี้แล้ว มันทำให้รู้สึกดีมากๆ เลยล่ะเวลาที่นำมาสัมผัสกับใบหน้า งานนี้เรียกได้ว่าชาวเน็ตเข้ามาคอมเมนต์กันเพียบเลยล่ะ ตัวอย่างเช่น.. “บนฉลากเขียนว่าให้นวดจนเกิดโฟม ไม่ยักรู้ว่ามันทำแบบนี้ได้ด้วย!!” “ว้าว! คุณดูเหมือนกับนักประดิษฐ์มืออาชีพเลยล่ะ!”…
-
หนูน้อยฟ้องครูว่า “พ่อปลูกกัญชา” พอเธอพาไปดูหลักฐาน ถึงกับขำน้องจนท้องแข็ง~
เด็กๆ ที่ไร้เดียงสานั้นจะว่าน่ารักมันก็ใช่ แต่ถ้าจะว่าน่าหยิกมันก็ถูก เพราะหลายครั้งไอ้ความไร้เดียงสาของเด็กๆ นี่เองที่ทำให้เราต้องปวดหัวอย่างมาก เช่นเหตุการณ์นี้ ที่คุณพ่อของหนูน้อย Skylar Holt ได้รับโทรศัพท์จากทางโรงเรียนของเธอซึ่งไม่ใช่เรื่องผลการเรียนหรือพฤติกรรมเกเรแต่อย่างใด แต่เป็นเรื่องเกี่ยวกับที่เขา เพาะปลูกกัญชา ไว้ที่บ้าน! หนูน้อย Skylar ได้รายงานกับคุณครูว่าที่บ้านของเธอนั้น Dax Holt ผู้เป็นพ่อได้ปลูกกัญชาเอาไว้ เมื่อคุณพ่อได้คุยกับครูเรียบร้อย เขาก็มาขอคำอธิบายและหลักฐานจากสาวน้อย Skylar และตรงนี้เองที่เป็นจุดเริ่มต้องของ “ความน่ารักน่าหยิก” ของเด็กน้อย ที่มีความเข้าใจ “ผิดๆ” เกี่ยวกับกัญชา เรื่องราวจะน่ารักน่าหยิกหรือน่าปวดหัวขนาดไหน ไปชมกันเลย… พ่อ: “วันนี้ลูกบอกอะไรกับครูเหรอ?” ลูก: “กัญชาไม่ดีต่อสุขภาพนะคะพ่อ” ลูก: “เพราะกัญชามันดูคล้ายกับหญ้า…” ลูก: “แต่มันไม่ใช่…มันคือกัญชา” พ่อ: “แล้วลูกได้บอกหรือเปล่าว่าบ้านเรามีกัญชาอยู่เยอะเลย?” ลูก: “บอกค่ะ” พ่อ: “วันนี้พ่อคุยกับคุณครู ครูบอกว่าบ้านเรามีกัญชาเยอะแยะเลย ลูกอยากอธิบายอะไรหน่อยมั้ย?” ลูก: “เอ่อ…ไม่ดีกว่า” พ่อ: “เราปลูกกัญชาไว้ที่บ้านเยอะแยะเลยเหรอ?”…
-
ลีน่าจังถูก “แจ้งจับ” หลังลอบเข้าถ้ำพระยานครเพื่อถ่ายคลิป ‘ล้อเลียน’ ทีมหมูป่า…
หลังจาก “ลีน่าจัง” หรือว่า นางลีน่า จังจรรจา ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอที่เจ้าตัวถ่ายออกมาเป็นเชิงล้อเลียนภารกิจช่วยชีวิตที่หมูป่าที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง ซึ่งคลิปดังกล่าวนั้นถูกแชร์ออกไปอย่างกว้างขวาง ล่าสุดในวันที่ 17 กรกฎาคม 2561 นายรุ่งโรจน์ อัศวกุลธารินท์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด แจ้งจับลีน่าจังเนื่องจากการถ่ายทำคลิปวิดีโอดังกล่าวของเธอนั้นเป็นการลอบเข้าสถานที่ที่ไม่ได้รับอนุญาต สถานที่ภายในคลิปวิดีโอของลีน่าจังเป็นบริเวณภายในของถ้ำพระยานคร ต.สามร้อยยอด อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของอุทยานแห่งเขาสามร้อยยอด ซึ่งการเข้าไปแอบถ่ายทำคลิปวิดีโอแบบนั้นถือเป็นการลอบเข้าสถานที่โดยมิได้รับอนุญาต นายรุ่งโรจน์กล่าวว่า เจ้าหน้าที่จะดูแลนักท่องเที่ยวที่เข้ามาตั้งแต่ทางเข้าจนกระทั่งถึงภายในถ้ำ แต่ในขณะหนึ่งมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเกิดอาการเจ็บข้อเท้าจนเดินไม่ไหว เจ้าหน้าที่ของอุทยานฯ จึงต้องเข้ามาดูแล และในจังหวะที่เจ้าหน้าที่อุทยานฯ พากันไปช่วยดูแลนักท่องเที่ยวดังกล่าว ลีน่าจังจึงขึ้นไปเที่ยวยังบริเวณด้านในของถ้ำพระยานคร แล้วใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายคลิปวิดีโอ ล้อเลียนเหตุการณ์ทีมหมูป่าที่ติดถ้ำหลวง นายรุ่งโรจน์กล่าวว่า “อุทยานฯ พิจารณาแล้วเห็นว่า การกระทำดังกล่าวมีความผิดตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504 ตามมาตรา 16 ฐานเข้าไปดำเนินการใดๆ เพื่อหาผลประโยชน์ เว้นแต่ได้รับการอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่และระเบียบกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ว่าด้วยการเข้าไปถ่ายทำภาพยนตร์ในอุทยานแห่งชาติ พศ. 2552 ในมาตรา 27 นอกจากนี้ยังมีความผิดในมาตราอื่นอื่นหลายมาตราด้วย” สุดท้าย นายเอกฤทธิ์ ดวงมาลา นักวิชาการป่าไม้ปฏิบัติการของอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้นำเรื่องไปแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.สามร้อยยอด ซึ่งกระทำการแจ้งความเรียบร้อยแล้ว …
-
ต่อเนื่องดราม่า อร BNK48 ประเด็นน้องที่วิจารณ์โดนโอตะคุกคาม-ครูเรียกพบตัว
หลังจากที่มีดราม่าประเด็นการตอบคำถามใน Instagram ของ อร BNK48 ก็ทำให้เรื่องราวบานปลายจนผู้วิจารณ์คนหนึ่งถึงกับซวย ถูกอาจารย์ในโรงเรียนเรียกพบเลยทีเดียว เป็นที่เข้าใจได้ว่าเมื่อเราเป็นแฟนคลับหรือชื่นชอบศิลปินคนไหนมากๆ ก็ย่อมรู้สึกไม่ดีที่ศิลปินของเราถูกวิจารณ์ในแง่ลบ ล่าสุด น้องชาวเน็ตคนหนึ่งได้นำประเด็นการตอบคำถามเรื่องน้ำหนักของ “อร BNK48” มาวิจารณ์ลงบนเฟซบุ๊กของตนเองในแง่ที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของอร ซึ่ง “โอตะ” คนหนึ่งเห็นเข้า โอตะรายนี้จึงทำการ ฟ้องอาจารย์ที่โรงเรียนของคนวิจารณ์ ในโพสต์ของน้องมีข้อความประมาณว่า อรทำตัวไม่เหมาะสม หากไม่อยากตอบคำถามก็ไม่ควรตอบ จากนั้นโอตะรายหนึ่ง ก็นำเรื่องราวไปเล่าฟ้องอาจารย์ในโรงเรียนของน้องที่วิจารณ์อรอย่างออกรสออกชาติ ผลสุดท้าย น้องที่วิจารณ์อร BNK48 ถึงกับต้องออกมาโพสต์ขอโทษเหล่าโอตะทั้งหลาย เนื่องจากเจ้าตัวถูกอาจารย์ในโรงเรียนเรียกตัวเข้าพบเรียบร้อยแล้ว หลังเกิดเหตุการณ์นี้ ชาวเน็ตต่างมองว่านี่เป็นการกระทำเกินเหตุของแฟนคลับของ อร BNK48 ซึ่งชาวเน็ตก็ช่วยอะไรไม่ได้ ทำได้เพียงให้กำลังใจน้องคนดังกล่าว ขอให้อาจารย์มีวิจารณญาณมากพอ และเสนอเหตุผลสำหรับการต่อสู้ความผิดเท่านั้น ขอให้อาจารย์มีวิจารณญาณ มีแนะแนวทางการให้เหตุผลเอาไว้ พร้อมแนะนำให้แจ้งความหากใครมาบอกว่าผิดกฎหมาย เราเชื่อว่าผู้ใหญ่มีเหตุผลมากพอ สู้ๆ นะครับ เชื่อว่าผู้ใหญ่น่าจะมีเหตุผลมากพอ ที่มา:…
-
หนุ่มถูกลงโทษจำคุก 3 เดือน จากการข่มเหงเพื่อนร่วมชั้น ทั้งทางวาจาและร่างกายตลอด 9 ปี
ทุกวันนี้การกลั่นแกล้ง การรังแกข่มเหงผู้อื่น ยังคงเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นในทุกประเทศ และไม่มีทีท่าว่าจะหายไปจากสังคมเลยแม้แต่น้อย โดยเฉพาะในยุคที่มีสังคมออนไลน์เติบโตเป็นดอกเห็ด ผุดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว การสร้างบัญชีปลอมขึ้นมากลั่นแกล้งใครสักคนจึงเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ง่าย และป้องกันได้ยาก… กรณีของนาย Jiang Qi วัย 25 ปี ได้ทำการกลั่นแกล้งนางสาว Wang Jingjing ผู้เป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนมาตั้งแต่ปี 2009 ในขณะที่เรียนอยู่ในช่วงชั้นมัธยมปลาย เธอได้รับความทุกข์ทรมานทั้งจากคำพูดวาจาเหยียดหยาม และการกระทำล่วงเกินทางร่างกายด้วย นอกเหนือจากนั้น การกลั่นแกล้งถูกแพร่กระจายสู่โลกออนไลน์ ปล่อยข่าวลือในแง่ลบเกี่ยวกับตัวเธอ โดยอ้างว่า Wang นั้นทำงานเป็นหญิงบริการ มีเงินใช้จ่ายไม่ขาดมือ จนถึงขั้นมีนักเรียนคนอื่นเข้าไปตบหน้าเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า หลังจากที่ข่าวลือแพร่สะพัดไปทั่วโรงเรียน . Wang ถึงขั้นประสบกับโรคซึมเศร้าหลังจากกลายมาเป็นเหยื่อความรุนแรง มีรายงานว่าเธอพยายามคิดจะฆ่าตัวตายหลายครั้งแต่ไม่สำเร็จ อย่างไรก็ตาม อดีตอันแสนโหดร้ายก็ยังคงตามหลอกหลอนเธออยู่ แม้จะเรียนจบระดับมัธยมปลายเข้าสู่รั้ววิทยาลัยแล้ว เพราะเพื่อนชายคนนี้ก็ยังตามหาจนเจอ และโพสต์คำพูดเหยียดหยามทั้งในกระทู้ออนไลน์และโซเชียลมีเดีย เพื่อทำลายชื่อเสียงของเธอ Wang ตัดสินใจที่จะตอบโต้กลับบ้าง เธอเก็บภาพหลักฐานในสิ่งที่นาย Jiang ทำการโพสต์ลงไปทั้งหมด 14 ภาพในเว็บไซต์โซเชียล Zhihu…
-
ช่างตัดผมหนุ่มสุดซวย เพียงเพราะตัดผมผู้หญิงไม่เป็น ถูกฟ้องเหยียดเพศเฉยเลย…
ความซวยนั้นไม่เข้าใครออกใครจริงๆ อย่างเช่นที่ช่างตัดผมหนุ่มคนต้องพบเจอกับความซวยที่มาเยือนอย่างงงๆ เพียงเพราะเขาไม่สามารถตัดผมให้กับเด็กผู้หญิงได้ เนื่องจากเขาไม่ได้เรียนมา… Sam Rahim ช่างตัดผมหนุ่มของร้าน Hunters Hill Barber Shop บนชายฝั่งตอนเหนือของนครซิดนีย์ วันหนึ่งในเดือนธันวาคม 2017 เขาได้พบหญิงที่พาลูกสาวเข้ามาในร้านเพื่อจะตัดผม เธอถาม Sam ว่าสามารถตัดผมให้ลูกสาวเธอได้หรือไม่ และด้วยความที่ Sam เคยตัดแต่ผมผู้ชายเท่านั้น เขาจึงไม่กล้าที่จะรับปาก และทำให้เขาปฏิเสธออกไปอย่างสุภาพ และนั่นทำให้หญิงสาวโมโหโกรธา รวมถึงไม่ยอมรับคำปฏิเสธจาก Sam แม้ว่าเขาจะให้เหตุผลไปแล้วก็ตามว่า ที่เขาไม่สามารถตัดผมให้กับลูกสาวของเธอได้ก็เพราะว่าเขาไม่มีประสบการณ์ด้านนี้ ไม่ได้เรียนมา และไม่เคยทำมาก่อน นอกจากนี้เขายังแนะนำว่ามีร้านเสริมสวยผู้หญิงอยู่ใกล้ๆ ถึงสามร้าน เดินไปเพียงนาทีเดียวก็ถึง แต่มันกลับทำให้หญิงสาวโกรธเกรี้ยวมากขึ้น และหลังจากนั้น Sam ก็ถูกเรียกตัวไปยังคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนและความเท่าเทียม ด้วยสาเหตุที่ว่าเขาละเมิดกฎการแบ่งแยกชนชั้นและถูกกล่าวหาว่าทำให้เด็กสาวต้องอับอายขายหน้า Sam กล่าวว่า “เธอคงจะอับอายขายหน้ากว่านี้อีกนะ ถ้าต้องไปโรงเรียนด้วยทรงผมที่ช่างตัดผมชายตัดให้” หลายท่านคงเห็นชัดเจนว่าเรื่องนี้ Sam ทำถูกต้องแล้ว แต่ความซวยมาหาเขาเองแท้ๆ ยังโชคดีที่ Sam ไม่ได้ต่อสู้เรื่องนี้อยู่คนเดียว ทาง The…
-
สองพี่น้องฟ้องกันเอง เพราะอีกฝ่ายชอบสะสมขยะในบ้าน บ่อเกิดเชื้อราและหนูล้นเต็มห้อง!!
การจะต้องอยู่ร่วมกับคนอื่นนั้น สิ่งแรกที่เราจะต้องคำนึงถึงก็คือการเอาใจเขามาใส่ใจเรา เพราะว่าที่อยู่อาศัยนั้นก็จะกลายมาเป็นพื้นที่ส่วนรวม และจะมีการแบ่งพื้นที่ส่วนตัวระหว่างกันในภายหลัง ทว่าหากการใช้พื้นที่ส่วนตัวมากเกินไป ต่อให้เป็นคนในครอบครัวก็ตาม บางทีมันก็เหลืออดหมดความอดทนแล้ว กล่าวว่าตักเตือนตั้งกี่ครั้งไม่ยอมฟัง มันก็ต้องฟ้องด้วยข้อกฎหมายกันไปเลย!! สภาพภายนอกบ้านยังดูดี สองพี่น้องชาวแมนแฮตตัน ในนครนิวยอร์ก Andrew Lindsay Cohen และพี่ชาย James อาศัยในบ้านหลังเดียวกันหลังจากได้รับเป็นมรดกตกทอดจากบรรพบุรษ แต่ทว่าฝ่ายพี่ชายดันอ้างตนเป็นเจ้าของบ้าน โดยที่เข้ามาอยู่อาศัยตั้งแต่ปี 2011 และไม่เคยจ่ายค่าเช่าเลยแม้แค่ครั้งเดียว แต่พอเข้ามาข้างในแล้ว… ฝั่งน้องชาย Andrew แทบจะอยู่ไม่ได้เนื่องจากพี่ชาย นำกองเอกสาร เศษขยะ ของเก่าๆ สารพัดกล่อง และสิ่งของเหม็นเน่าสกปรกเข้ามาทิ้งภายในบ้าน จนไม่สามารถเดินเข้าไปภายในบ้านได้เลย ยิ่งนานวันเชื้อราก็งอกเงยบนพื้นบ้านเต็มไปหมด แทบจะไม่มีที่ยืนกันเลยทีเดียว นอกเหนือจากนี้ ผลกระทบที่ตามมาก็คือ จากแหล่งที่อยู่อาศัยของคนก็กลายมาเป็นแหล่งพักพิงของหนู อันตรายเกินกว่าที่มนุษย์จะอยู่อาศัยได้แล้ว บอกได้เลยว่าเละ!! น้องชายผู้อมทุกข์จึงตัดสินใจฟ้องพี่ชายตัวเอง ยื่นต่อศาลสูงแมนแฮตตันในวันพฤหัสบดีที่ 5 เมษายน 2018 ด้านพี่ชาย James ก็ยังคงอ้างสิทธิ์เป็นเจ้าของบ้านอยู่…
-
ฟังความจากอีกฝ่าย คู่กรณีถูกขวานจามรถ ‘คิดว่าไม่มีคนอยู่ แต่ไม่ควรทำแบบนี้’ จ่อฟ้องกลับ
เป็นที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางในกรณีจากข่าวคุณป้าท่านหนึ่ง ได้ทำการจามขวานใส่รถยนต์ที่ทำการจอดขวางทางเข้าออกบ้านตนเอง (อ่านข่าวเก่า) ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ทางฝั่งคู่กรณีผู้ทำการจอดรถยนต์ขวางได้ออกมาชี้แจงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว… โดยล่าสุดผู้ใช้เฟซบุ๊คนามว่า Tanapon Dakawong ได้ทำการโพสต์ข้อความจากทางฝั่งเจ้าของรถกระบะนิสสัน สีขาวที่ปรากฏในคลิปบริเวณตลาดสวนหลวง ด้วยใจความดังต่อไปนี้… เจ้าของรถยนต์กระบะ นิสสัน นาวารา สีขาว ที่ถูกทุบ และปรากฏในคลิป บริเวณตลาดสวนหลวง ซอยศรีนครินทร์ 55 ที่หลายคนกำลังเผยแพร่ ให้ความว่า… “ตัวเองตั้งใจเดินทางจากมหาชัย มาซื้อของที่ตลาดนี้ โดยออกจากบ้านเวลา 11.00 น. เมื่อมาถึง วนหาที่จอดรถ แต่ไม่มีที่จอด จึงเลือกที่จะจอดบริเวณนั้นไปก่อน ซึ่งตัวเองคิดว่าเป็นบ้านที่ไม่มีคนอยู่ เนื่องจากลักษณะทางกายภาพหลายอย่าง และไม่ได้อ่านป้ายหมายศาลที่เจ้าของบ้านติดไว้ จึงจอดรถโดยดึงเบรกมือ ทำให้ไม่สามารถขยับรถได้ และใช้เวลาในการใช้จ่ายในตลาด ประมาณ 10 นาที ทราบดีว่าตัวเองผิด จอดรถในที่ห้ามจอด แต่เจ้าของบ้านไม่ควรกระทำแบบนี้ ซึ่งจะเอาผิดให้ถึงที่สุด” นอกจากนี้ยังมีการกล่าวถึงผู้กำกับสถานีตำรวจนครบาลประเวศ กับความเห็นในกรณีดังกล่าวว่า… “บริเวณจุดเกิดเหตุ ตามกฎหมายการจราจร ไม่อนุญาตให้จอดรถ…
-
หนุ่มฟ้องคู่เดทสาวขอค่าตั๋วคืน เพราะมัวแต่เล่นมือถือระหว่างชม Guardian of the Galaxy 2
ล่าสุดส่วนตัว #เหมียวบ็อบ เองก็เพิ่งไปดูหนังในโรงมาเหมือนกัน แล้วก็เกิดความรู้สึกว่า เอ…เดี๋ยวนี้คนเราติดมือถือกันถึงขนาดที่ว่าต้องเอาขึ้นมาเล่นระหว่างดูหนังเลยเหรอ แถมบางคนอาการหนักไม่ยอมปิดเสียงข้อความก็มีให้เห็นอยู่บ่อยๆ และเรื่องนี้ก็เกิดขึ้นกับชายหนุ่มวัย 37 ปี Brandon Vezmar จากเมืองออสติน รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกาเหมือนกัน โดยเว็บไซต์ Cnet ได้รายงานว่า พ่อหนุ่มวัย 37 ปีคนดังกล่าว ยื่นเรื่องฟ้องร้องคู่เดทสาวของตัวเองเป็นเงินมูลค่า $17.31 ดอลล่าร์สหรัฐฯ (600 บาท) ซึ่งเป็นราคาค่าตั๋วเข้าชมภาพยนตร์แบบสามมิติ ที่เขาได้จ่ายไปนั่นเอง Brandon เผยว่าในคืนวันนั้นเป็นคืนนัดเดทครั้งแรกกับสาวที่เขาเพิ่งรู้จักผ่านทางโลกออนไลน์ ทั้งคู่นัดไปดูหนังเรื่อง Guardian of the Galaxy ภาค 2 กัน ทว่าเจ้าตัวก็ต้องรู้สึกรำคาญใจ เมื่อฝ่ายหญิงเอาแต่กดข้อความบนมือถือ ไม่ให้เกียรติผู้ชมคนอื่นๆ ‘ผมสงสัยว่าเธอคงจะพิมพ์แค่ไอ้คำว่า ไอ แอม กรู้ทๆๆๆ ไอ้แม่มเอ้ยยย เป็นเดทที่บรมโคตรห่วยที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอมาเลยจริงๆ’ Brandon ให้สัมภาษณ์ หลังจากที่เรื่องนี้กลายเป็นประเด็นโด่งดังบนโลกออนไลน์ ผู้กำกับหนังเรื่องนี้ก็ออกมาโพสทวิตเตอร์ว่า ‘ทำไมถึงหยุดฟ้องแค่นี้ล่ะ? เธอน่าจะเข้าคุกมากกว่านะ!’…
-
มหาลัย Oxford ถูกศิษย์เก่าฟ้อง 50 ล้าน เพราะทำเขาพลาดเกียรตินิยมอันดับ 1 จนเสียโอกาสในชีวิต!?
ถ้าพูดถึงเรื่องการศึกษาแล้ว มหาวิทยาลัยดังแห่งประเทศอังกฤษอย่าง Oxford ก็มักจะติดอันดับต้นๆ ของโลกเสมอ แต่ล่าสุดพวกเขาก็ต้องเจอกับปัญหาแล้วล่ะ เมื่อนักศึกษาเก่าของพวกเขา ทำการฟ้องมหาวิทยาลัยเรียกร้องค่าเสียหายเป็นเงิน 1 ล้านปอนด์ หรือราวๆ เกือบ 50 ล้านบาทด้วยกัน!! เรื่องที่เขายื่นฟ้องต่อศาลนั่นก็เพราะว่า ‘การสอน’ ที่น่าเบื่อและไม่ดึงดูดของมหาวิทยาลัย ทำให้เขาพลาดได้รับคะแนนเกียรตินิยม ซึ่งทำให้เขาพลาดโอกาสได้งานดีๆ และประสบความสำเร็จในชีวิต ฟ้องมหาวิทยาลัย Oxford Faiz Siddiqui ผู้ที่เคยเป็นนักศึกษาสาขาวิชาทางด้านประวัติศาสตร์สมัยใหม่ ของมหาวิทยาลัยนี้ เชื่อว่าเขาจะได้รับหน้าที่การงานที่ดีกว่านี้ เป็นทนายด้านธุรกิจระดับนานาชาติ แต่ความผิดพลาดเกิดขึ้นเมื่อเขาได้รับเกียรตินิยมอันดับ 2 แทนที่จะเป็นอันดับ 1 จากทางมหาวิทยาลัยเมื่อ 16 ปีก่อนตอนที่เขาเรียนจบ Siddiqui ได้ให้สัมภาษณ์กับทาง Sunday Times ว่า ‘ผมรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์นั้นมาตลอด และความเสียหายต่อทั้งจิตใจและรายรับที่ผ่านมาทั้งหมดนั้น ประเมิณค่าได้ราวๆ 1 ล้านปอนด์’ และถ้าเคสนี้เขาเกิดชนะขึ้นมาล่ะก็ จะมีคำฟ้องร้องในกรณีเดียวกันมาอีกมากมายเลยทีเดียว ทั้งการสอนที่ไม่เพียงพอ สิ่งแวดล้อมของมหาวิทยาลัยที่ไม่เหมาะสม รวมไปถึงดุลยพินิจของอาจารย์ผู้สอนในการให้คะแนน ซึ่งเบื้องต้นทางมหาวิทยาลัยก็ได้ออกมายอมรับว่าในปีที่ Siddiqui…
-
หญิงโมโหเกรี้ยว เรียกค่าเสียหาย KFC 700 ล้านบาท เหตุให้ไก่ไม่เต็มถังเหมือนในโฆษณา!?
อันการโฆษณาสินค้าประเภทอาหารนั้น มักจะมีตัวอักษรน้อยๆ แปะไว้ให้คนได้อ่านกันประมาณว่า ‘ภาพนี้ตกแต่งเพื่อการโฆษณา’ หรือ ‘สินค้าอาจแตกต่างจากโฆษณา’ อะไรทำนองนี้ ซึ่งนั่นก็เป็นการป้องกันด่านแรกของผู้จำหน่ายเอง เพราะฉะนั้นแล้วในโลกแห่งความเป็นจริง เราก็ต้องยอมรับข้อตกลงกันไป ว่าสินค้าจริงๆ อาจจะไม่เหมือนในโฆษณาซะทีเดียว จะให้ไปฟ้องศาลเรียกร้องความเป็นธรรมก็เกรงจะเสียทั้งเงินทั้งเวลา แต่ทว่าในต่างประเทศ หรือบางคนนั้นก็จริงจังกับเรื่องนี้มาก.. เพราะในกรณีของ Anna Wurtzburger จากนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ทำการเรียกร้องค่าเสียหายจากร้านไก่ทอด KFC เป็นมูลค่ากว่า 700 ล้านบาท (20 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) อันเนื่องมาจากจำนวนไก่ในถังที่สั่งมานั้นได้มาเพียงแค่ครึ่งถัง ได้เป็นไก่ชิ้นเล็กๆ ไม่เต็มถังเหมือนกับในรูปโฆษณา เธอกล่าวกับ New York Post ว่า ‘ฉันสั่งไก่ขนาดสำหรับครอบครัว ในโฆษณานั้นไก่ล้นถังเลยนะ แต่ที่ได้มาจริงๆ มีแค่ครึ่งถัง นี่มันโฆษณาหลอกลวงชัดๆ ให้กินทั้งครอบครัวไม่อิ่มแน่นอน เพราะได้ชิ้นเล็กมากกกก’ ตัวอย่างภาพโฆษณาชุดไก่ทอด ที่มีไก่ล้นออกมาจากถัง จากเรื่องเล็กกลายเป็นเรื่องใหญ่ เธอบ่นไปถึงสำนักงานใหญ่ของ KFC ในรัฐจอร์เจีย และได้รับคำตอบที่ทำให้เธอหัวร้อนยิ่งกว่าเดิมนั่นก็คือ ‘เพื่อให้คนทั่วไปมองเห็นภาพไก่ได้ชัดๆ‘ แม้ทาง KFC…
-
พ่อแม่เห่อลูกโปรดระวัง วัยรุ่นสาวออสเตรียฟ้องพ่อแม่ ฐานโพสต์ภาพน่าอายวัยเด็กลงโซเชียล!?
ข่าวนี้อาจทำให้พ่อแม่ที่ชอบเห่อลูกออกหน้าออกตารู้สึกเสียวๆ ได้เลย เพราะเมื่อไม่นานมานี้มีข่าวว่าเด็กวัยรุ่นต่างประเทศลุกขึ้นมาฟ้องร้องพ่อแม่ของตัวเอง ฐานโพสต์ภาพน่าอายของเธอลงในโลกออนไลน์!? เมื่อวันที่ 15 กันยายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Metro ได้รายงานว่าเด็กวัยรุ่นสาวจากรัฐคารินเทีย ประเทศออสเตรียวัย 18 ปี ได้ทำการฟ้องร้องพ่อแม่ของตัวเอง เนื่องจากพวกเขาโพสต์ภาพวัยเด็กของเธอ ขณะเปลี่ยนผ้าอ้อมและนั่งอยู่บนกระโถนอึ ทำให้เธอรู้สึกอับอายและถูกคุกคามความเป็นส่วนตัว หลังจากที่เธอรู้เรื่องเกี่ยวกับภาพน่าอายที่พ่อแม่ของเธอนำไปโพสต์ลงในเฟซบุ๊ก เธอก็ได้ขอร้องให้พ่อแม่ลบภาพเหล่านั้นออกไป แต่พวกเขากลับปฏิเสธเธอและคิดว่ามันเป็นภาพที่พวกเขาถ่ายเอง ภาพเหล่านั้นจึงควรจะเป็นสิทธิ์ของพวกเขาที่จะเผยแพร่หรือไม่ก็ได้ ทำให้เธอทนไม่ได้และต้องฟ้องร้องในที่สุด วัยรุ่นสาวรายนี้ให้ความเห็นต่อสื่อว่า “พวกเขาไม่มีความละอายหรือขอบเขตอะไรเลย และไม่สนใจว่านั่นคือภาพของฉันกำลังนั่งอยู่บนกระโถนอึหรือนอนโป๊อยู่ในเปล” “ทุกขั้นตอนของชีวิตฉันถูกถ่ายภาพเก็บไว้แล้วนำมาเผยแพร่ในที่สาธารณะหมด ฉันเหนื่อยหน่ายที่ไม่ได้รับการดำเนินการใดๆ แบบจริงจังจากพ่อแม่ของฉัน” ทางด้านทนายของเธอเชื่อว่าเธอน่าจะชนะการฟ้องร้องครั้งนี้ และทางพ่อแม่จะต้องจ่ายเงินชดเชยให้กับเธอ แต่เนื่องจากประเทศออสเตรียไม่ได้เข้มงวดเรื่องความเป็นส่วนตัวของผู้คนในโลกออนไลน์เหมือนกับในบางประเทศ ยกตัวอย่างที่ประเทศฝรั่งเศส หากใครเผยแพร่ภาพน่าอายของผู้อื่น ไม่ว่าจะผู้ใหญ่หรือเด็ก จะถูกดำเนินคดี มีค่าปรับสูงสุด 1.7 ล้านบาทและอาจถูกจำคุกสูงสุด 1 ปี สาเหตุที่ทางฝรั่งเศสออกกฎเข้มงวดขนาดนี้ก็เพื่อเป็นการเตือนให้พ่อแม่ระมัดระวังเรื่องความเป็นส่วนตัวของลูกๆ เพราะนั่นอาจเป็นการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของเด็กมากเกินไป จนทำให้พวกเขาถูกล่อลวงจากเหล่าคนโรคจิตก็เป็นได้ ข่าวนี้อาจไม่เกี่ยวข้องกับคนไทยโดยตรง แต่ในโลกออนไลน์ของเราเองก็มีภาพเหล่านี้ให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง คุณพ่อคุณแม่คนไหนที่อยากจะโพสต์อวดภาพลูกๆ ของตัวเองก็อาจจะต้องคิดให้มากขึ้นนิดนึง ว่าในอนาคตหากลูกๆ…
-
‘Puppuccinos’ จับหมาถ่ายภาพแบ๊วๆ ดื่มกาแฟแล้วฟองนมติดปาก หวังมีคนรับไปเลี้ยง..
นี่ไม่ใช่การถ่ายภาพเพื่อความน่ารักเพียงอย่างเดียว เมื่อสถานรับเลี้ยงสัตว์แห่งหนึ่งกำลังประสบปัญหาสุนัขมีมากเกิน ไม่มีใครมารับไปเลี้ยง ทางองค์กร Kitsap Humane Society ในวอชิงตันจึงได้คิดไอเดียเจ๋งๆ นี้ออกมา เราคงจะเคยเห็นเวลาคนดื่มกาแฟลาเต้แล้วมีฟองติดที่ริมฝีปาก เวลาถ่ายรูปออกมาแล้วดูน่ารักดีใช่ไหม แต่ครั้งนี้จะลองให้เหล่าน้องหมามาทำดูบ้าง เผื่อว่าจะมีคนเห็นใจและรับพวกมันไปเลี้ยง Molly Clark อาสาสมัครจากสถานรับเลี้ยงเพื่อมาถ่ายรูปกาแฟเมนู Puppuccino จากสตาร์บั๊ก (ชื่อที่เค้าตั้งมาเรียกวิปครีมสำหรับสุนัข ที่คุณสามารถสั่งได้) และดูเหมือนว่าเหล่าสุนัขเหล่านี้จะชอบใจ เวลากินมันเลยติดมาอย่างในภาพที่เห็น เธอได้พาสุนัขที่พอจะออกไปข้างนอกได้เพื่อไปถ่ายรูปบนรถให้ได้บรรยากาศ อีกทั้งเธอยังซื้อ Puppuccino มาให้ตัวที่กลัวการออกไปข้างนอกด้วย และแน่นอนว่ามันไม่เพียงแต่ต่อสุนัขทุกตัวเพราะว่าตอนนี้มีจำนวนเยอะมาก แม้แต่อาสาสมัครก็ยังดูแลได้ไม่ทั่วถึงเลย เราไปชมความน่ารักของสุนัขเหล่านี้กัน เห็นแบบนี้ทำไมไม่มีคนรับไปเลี้ยงอีกน้าาาาา . . . . . . . ตอนนี้ทางสตาร์บั๊กสาขาที่ไปซื้อประจำก็ได้ทำการติดป้ายเพื่อให้คนได้เห็นภาพเหล่านี้แล้วมารับเลี้ยงด้วย ยังไงก็ขอให้ได้บ้านใหม่เร็วๆ นะจ๊ะ ที่มา thedodo
-
Ed Sheehan งานเข้าอีก ถูกฟ้องเพลง ‘Thinking Out Loud’ ฐานละเมิดลิขสิทธิ์!!!
เรียกได้ว่างานเข้าอย่างต่อเนื่องเลยก็ว่าได้ เนื่องจากไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้ได้มีข่าวว่า Matt Cardle เจ้าของบทเพลง Amazing เขาได้ทำการฟ้อง Ed Sheeran จำนวน 20 ล้านดอลลาร์หรือประมาณ 720 ล้านบาท อ้างว่าเพลง Photograph ก็อปเพลง Amazing มา ข่าวเก่าที่เคยลงไปเมื่อเดือนมิถุนายน… และล่าสุดทางรอยสเตอร์รายงานว่าครอบครัวของทาง Marvin Gaye ผู้แต่งเพลง “Let’s Get It On” ได้ทำการฟ้องร้อง Ed Sheehan ในเพลง ‘Thinking Out Loud’ โดยอ้างว่าเพลงนี้ได้ลอกเลียนองค์ประกอบในเพลงของเขา ผู้ฟ้องได้อ้างว่าในเพลง Thinking Out Loud นั้นได้ทำการคัดลอกเอาเมโลดี้ การประสาน และจังหวะของเพลง Let’s Get It On มา ก่อนหน้านี้ครอบครัวของ Marvin Gaye ก็เคยฟ้องร้องสองศิลปิน Robin Thicke และ Pharrell Williams ในเพลง “Blurred Lines” มาแล้ว ค่าเสียหายประมาณ 266 ล้านบาท งานนี้ก็ต้องติดตามว่าจะเกิดอะไรขึ้นเพราะตอนนี้ Ed กำลังอยู่ในช่วงพัก…
-
เอาที่พี่สบายใจ…หนุ่มอ้างเป็นผู้คิดค้น iPhone ตั้งแต่ 24 ปีก่อน ขู่ฟ้อง Apple 7,000 ล้าน!!!
อย่างที่ทราบกันดีว่า Apple iPhone ถือว่าเป็นหนึ่งในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ขายดีที่สุดในโลก ด้วยยอดขายกว่า 5 หมื่นล้านดอลลาร์ (ในปี 2015) ทำให้หลายๆ คนต่างอยากมีส่วนร่วมในจำนวนเงินมหาศาลนี้ ล่าสุด Thomas Ross ชายหนุ่มจากฟลอริด้า ได้อ้างว่า เขาได้คิดค้น “iPhone” มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1992 และเขาต้องการฟ้องร้องเอาส่วนแบ่งจากยอดขาย iPhone ทั้งหมดนับตั้งแต่เริ่มขายเมื่อปี ค.ศ. 2007 ที่ไม่มากไม่มาย แค่ 1.5 เปอร์เซ็นเท่านั้น ซึ่งเป็นจำนวนเงินราวๆ 7.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 3 แสนล้านบาทเท่านั้นเอง เขาได้นำสิทธิบัตรที่เขาเคยจดไว้มาโชว์ต่อสื่อพร้อมทั้งบอกว่า “iPhone” หน้าตาเหมือนสิ่งเขาที่เขาเคยจดสิทธิบัตรไว้เดี๊ยะ ซึ่ง “อุปกรณ์” ที่เขาเคยจดสิทธิบัตรไว้ เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กที่สามารถนำนิตยสาร หนังสือ และสื่อต่างๆ ใส่เข้าไปอ่านได้ (ฟังดูเหมือนเครื่องอ่าน Ebook มากกว่านะเนี่ย) อย่างไรก็ตาม หลังจากประกาศเรื่องนี้ออกมา เขาก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นพวกหิวเงิน…
-
Ed Sheeran ถูกฟ้อง 720 ล้านบาท เพลง Photograph ถูกหาว่าก็อปคนอื่นมา!!!
กลายเป็นประเด็นที่ใหญ่โตแล้วเมื่อนักร้องจากรายการประกวดร้องเพลงชื่อดัง X Factor ในปี 2010 นั่นคือ Matt Cardle เจ้าของบทเพลง Amazing เขาได้ทำการฟ้อง Ed Sheeran จำนวน 20 ล้านดอลลาร์หรือประมาณ 720 ล้านบาท อ้างว่าเพลง Photograph ก็อปเพลง Amazing มา งานนี้บอกเลยว่ามีหนาวๆ ร้อนๆ กันแล้วล่ะ เพราะว่าทนาย Richard Busch ผู้เคยว่าความเกี่ยวกับคดีเพลง Blurred Lines นั้นมาเป็นผู้ว่าความให้กับผู้เขียนเพลง Amazing คือ Martin Harrington และ Thomas Leonard ซึ่งพวกเขาได้เขียนเพลงนี้ขึ้นมาในปี 2009 Richard Busch เพลง Amazing ได้ยอดวิวในยูทูบไป 1 ล้านกว่าวิว ส่วนทางด้าน Photograph นั้นมากกว่า 208 ล้านวิวแล้ว อีกทั้งยังทำยอดขายไปว่า 3.5 ล้านก๊อปปี้ในเดือนนี้ เครดิตก็ตกไปอยู่ในมือของ Ed Sheeran แต่เพียงผู้เดียว นอกจากนี้เพลงยังถูกเอาไปใช้ในหนัง Me Before You ที่ทำเอาใครหลายคนเสียน้ำตา และเพิ่งเข้าโรงไปหมาดๆ ทางโจทย์ได้ออกมายืนยันว่าเพลง Photograph…
-
ทนายหนุ่มฟ้องแฟนตัวเอง ถูกแฟนสาวเลิกเพราะไม่ยอมขอแต่งงานซักที เรียกค่าเสียหายที่คบกัน!!
ความรักเป็นสิ่งที่เข้าใจยาก อาจจะเป็นเพราะไม่รู้จริงๆ ว่าอีกฝ่ายต้องการอะไร หรือแกล้งที่จะไม่รู้กันแน่ เมื่อความไม่เข้าใจเกิดขึ้น ก็สงผลทำให้เลิกรากันไปในที่สุด บางคู่ก็จบด้วยดี บางคู่ก็จบไม่สวย ยังต้องเจ็บตัวเจ็บใจกันอีก ชีวิตคู่ของ Nina Zgurskaya สาวชาวรัสเซียวัย 20 ปี เปิดเผยกับสื่อรัสเซียว่า เธอกับแฟนหนุ่มที่เป็นทนายความนั้นคบกันมาได้ประมาณ 2 ปีแล้ว และที่ผ่านมาล่าสุดกับทริปฮันนีมูนริมทะเลอันแสนหวานกลับกลายมาเป็นความขมขื่นอย่างที่เธอไม่คาดคิดว่ามันจะเป็น โดยที่ตลอดระยะเวลา 2 ปีที่คบกัน เธอหวังว่าน่าจะเป็นเวลาที่ดีเหมาะสมแล้วที่เขาควรจะขอเธอแต่งงาน โอกาสก็เหมาะเจาะกับทริปเที่ยวทะเลสุดโรแมนติก 12 วัน แต่เปล่าเลย ฝ่ายแฟนหนุ่มผู้เป็นทนายนั้นกลับไม่ได้ทำอะไรอย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้ ก็แค่ไปเที่ยวด้วยกันเฉยๆ เท่านั้น หลังจากจบทริปเธอก็บอกเลิกกับเขาทันที!! ภายหลังไม่กี่สัปดาห์ต่อมาเธอก็ได้รับหมายศาลจากแฟนเก่าที่เป็นทนายนั่นแหละ เรียกร้องค่าเสียหายเป็นหมวดหมู่ทั้งใบเสร็จร้านดอกไม้ ร้านอาหาร และคาเฟ่ต่างๆ ในระหว่างที่ทั้งสองยังคบหาเป็นแฟนกันอยู่ โดยรวมแล้วก็คือเป็นเงินที่ฝ่ายแฟนหนุ่มจ่ายไปทั้งหมดนั่นแหละ เธอถูกฟ้องร้องค่าเสียหายในระหว่างที่คบกันเป็นเงินจำนวน 45,000 รูเบิล หรือประมาณ 24,000 บาท โดยที่ฝ่ายแฟนหนุ่มให้เหตุผลเอาไว้ว่า ‘เธอไม่สามารถพิสูจน์ให้ผมเห็นได้ว่าเรากำลังคบกันอยู่เลย แล้วผมก็ไม่ได้พูดด้วยว่าจะให้ทุกสิ่งทุกอย่างไปฟรีๆ…
-
งี้ก็ได้เหรอ!? หนุ่มฝรั่งเศสฟ้องร้องนายจ้าง 14 ล้าน เหตุให้ทำงานน้อยจนกลายเป็นคนซึมเศร้า!?
หลายๆ คนมักจะบ่นกันว่ามีงานเยอะล้นมือจนอยากจะลาออกไปให้มันรู้แล้วรู้รอดไป แต่กับบางคนแล้ว การไม่มีงานให้ทำกลับกลายเป็นเรื่องที่เขาไม่พอใจจนต้องออกมาฟ้องร้องนายจ้างกันเลยทีเดียว!? เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Odditycentral ได้รายงานว่านาย Frederic Desnard ได้ทำการฟ้องร้องนายจ้างของเขา เนื่องจากนายจ้างปล่อยให้เขาทำงานน้อยเกินไปจนเจ้าตัวรู้สึกเบื่อ ทำให้เกิดสภาวะเครียดและซึมเศร้าตามมา ตามรายงานบอกว่านาย Frederic ได้เข้าทำงานที่บริษัทผลิตน้ำหอม Interparfums อยู่ในประเทศฝรั่งเศส เมื่อช่วงปี 2010 – 2014 แต่กลับไม่มีงานอะไรให้ทำนอกจากงานที่เขาได้รับมอบหมายเท่านั้น ทำให้เขาเกิดอาการซึมเศร้าจนเกิดอาการลมชักขณะขับรถและประสบอุบัติเหตุในที่สุด จากอุบัติเหตุครั้งนั้นทำให้นาย Frederic ต้องพักงานและเข้ารับการรักษายายกว่า 7 เดือน ทำให้บริษัทบอกเลิกจ้างกับเขาเมื่อเดือนกันยายนปี 2015 โดยให้เหตุผลว่าปัญหาสุขภาพของเขาส่งผลต่อการทำงาน นั่นยิ่งทำให้เขาซึมเศร้าเข้าไปอีก แต่ทั้งนี้ทางด้านทนายของบริษัทน้ำหอมได้ออกมาโต้แย้งว่าเหตุผลของนาย Frederic ไม่ค่อยจะสมเหตุสมผลเท่าไหร่ “ถ้าเขาไม่มีอะไรให้ทำตลอด 4 ปี ทำไมบริษัทถึงยังเก็บเขาไว้อีก? และถ้าเขาไม่มีอะไรให้ทำ ทำไมเขาไม่เคยเอ่ยอะไรเลยล่ะ” จากการฟ้องร้องครั้งนั้นทำให้นาย Frederic แพ้คดีและต้องจ่ายค่าเสียหายให้กับบริษัทโทษฐานหมิ่นประมาทเป็นจำนวนเงิน 1,000 ยูโร หรือประมาณ 4 หมื่นบาท …
-
สาวใหญ่ฉุนจัด ฟ้อง Starbucks เรียกค่าเสียหายกว่า 175 ล้านบาท เพราะใส่ ‘น้ำแข็ง’ ให้มากเกินไป!?
ก่อนอิ่นก่อนใดเลยนั้นต้องขอถามสาวคนนี้ก่อนเลยว่า ฟ้องทีนี่กะตั้งตัวได้เลยรึเปล่าเนี่ย!? เมื่อล่าสุดมีรายงานว่า Stacy Pincus ฟ้อง บริษัทกาแฟยักษ์ใหญ่ Starbucks เป็นเงินราวๆ 5 ล้านเหรียญ หรือ 175 ล้านบาทเพราะทางร้านใส่น้ำแข็งในเครื่องดื่มของเธอมากเกินไป… เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ประเทศสหรัฐอเมริกา รัฐ Illinois ซึ่งเธอได้สั่งเครื่องดื่มเย็นของเธอปกติ แต่พอสังเกตดูดีๆ แล้ว ปริมาณน้ำที่เธอได้รับนั้นมีเพียง 14 ออนซ์ ซึ่งมีเพียงครึ่งเดียวของที่ทางร้านโฆษณาไว้ว่า 28 ออนซ์ นั่นหมายถึงพวกเขาให้สินค้ากับเธอเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น!!! ใส่น้ำแข็งมากเกินไป!? หลักๆ แล้วทางร้านโฆษณาในส่วนของปริมาตรที่แก้วนั้นสามารถบรรจุได้ คือ 24 ออนซ์ แต่ไม่ได้บอกว่าในแก้วนั้นลูกค้าจะได้เครื่องดื่มปริมาณเท่าไหร่ นับเป็นการหลอกลวงผู้บริโภค ซึ่งตอนนี้เบื้องต้นทางบริษัทก็ออกมาชี้แจงว่าน้ำแข็งก็ถือเป็นส่วนสำคัญของเครื่องดื่มเช่นกัน และแน่นอนพวกเขายินดีที่จะทำเครื่องดื่มให้ใหม่ถ้าผู้บริโภคไม่พึงพอใจกับสินค้าที่ได้รับ จะว่าไปแล้วก็เห็นใจกันทั้งสองฝ่ายนะ สำหรับตอนนี้ก็กลายเป็นเรื่องใหญ่โตไปแล้วล่ะ แต่ที่น่าสังเกตก็คือระบบยุติธรรมและการคุ้มครองผู้บริโภคของต่างประเทศนั้นทรงพลังจริงๆ ไม่มีเรื่องไหนที่จะเป็นเรื่องเล็กเลยล่ะ ที่มา: Metro
-
คุณยายวัย 81 เตรียมฟ้องสายการบิน หลังให้เธอลุกย้ายที่นั่ง เพราะติดกับที่ของผู้ทรงศีลเคร่งครัด!!!
ก็เรียกได้ว่าเป็นประเด็นที่น่าจับตามองกันเลยทีเดียว เมื่อพนักงานต้อนรับบนสายการบิน E1 A1 ได้ขอให้คุณยายวัย 81 เปลี่ยนที่นั่ง เพราะลูกค้าข้างๆ เป็นคนทรงศีลเคร่งครัดของศาสนายูดาย ซึ่งเน้นหนักเรื่องการอยู่ใกล้ๆ ผู้หญิง Renee Rabinowitz คุณยายวัย 81 ปีที่ทำอาชีพทนายความมาก่อน และได้ย้ายมาอยู่ที่อิสราเอลตั้งแต่ยุคนาซีที่มีการไล่กวาดล้างชาวยิวในตอนสงครามโลกครั้งที่ 2 และใช้ชีวิตที่นี่นับตั้งแต่นั้นมา สำหรับเที่ยวบินดังกล่าวคือเที่ยวบินของสายการบิน E1 A1 เส้นทางจาก Newark ไปยัง Tel Aviv… ด้วยการที่เธอเป็นหญิงสูงอายุ เข่าก็ไม่ดี ลุกนั่งก็ลำบากแถมต้องใช้ไม้เท้าเพื่อช่วยเดิน ทำให้เธอรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นมาก แต่กระนั้นเธอก็ทำตามคำขออย่างลังเลเบาๆ ‘ฉันได้แต่คิดกับตัวเอง ถึงแม้จะอายุขนาดนี้ ผ่านอะไรมามาก เห็นโลกมามาก ก็ยังมาดันถูกผู้ชายคนหนึ่ง มาตัดสินใจว่าฉันควรจะนั่งข้างๆ เขาหรือเปล่า ก็ได้แต่รำพึงรำพันกับตัวเองว่า ‘ทำไมๆๆ’ เพียงเท่านั้น’ คุณยายกล่าว ซึ่งจากการสัมภาษณ์และสอบสวนเบื้องต้น ไม่ได้มีการแนะนำจากพนักงานต้อนรับว่าให้ผู้ชายลุกย้ายที่ให้กับเธอเลย… สายการบินดังกล่าว จากเหตุการณ์ดังกล่าวทางโฆษกของสายการบินก็ได้ออกมาปกป้องพนักงานต้อนรับของตัวเองก่อนว่า ‘หน้าที่ของเหล่าลูกเรือก็คือต้องดูแลผู้โดยสารในเครื่อง ซึ่งแน่นอนว่ามีคำขอมากมาย พวกเขาต้องรับความกดดันเหล่านี้ พยายามดูแลให้ทั่วถึงในเกือบทุกๆ คำขอ และหน้าที่หลักก็คือจัดแจงทุกอย่างให้เรียบร้อยก่อนที่เครื่องจะขึ้น และดูแลให้เหล่าผู้โดยสารถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพ’ สำหรับตอนนี้คุณยายในฐานะอดีตทนายเก่าก็เตรียมแผนการณ์ที่จะฟ้องสายการบินเกี่ยวกับงานด้านบริการแล้วล่ะ…
-
ประเด็นร้อน!! นักร้องสาว Ke$ha ถูกโปรดิวเซอร์ข่มขืน ศาลยกฟ้อง และบีบบังคับให้อยู่ในค่ายตามสัญญา
หากใครยังจำนักร้องสาวผมบลอนด์ที่โด่งดังจากเพลง Tik Tok เมื่อ 6 ปีที่แล้ว อ่าฮะ!! ทำนองเพลงเข้ามาในหัวกันเลยใช่มั้ยเอ่ย แล้วก็อีกเพลงที่ฮิตทั่วบ้านทั่วเมือง Timber ที่ร่วมขับร้องกับ Pitbull นั่นแหละ!! เธอก็คือ Ke$ha คนนี้นี่เอง นักร้องสาวชื่อดัง Ke$ha ห่างหายไปจากวงการเพลงนานพอสมควร ระยะเวลาก็นานหลายปี ซึ่งจากการที่เราไม่ได้ยินเสียง ไม่ได้เห็นการออกทัวร์อะไรเลย เนื่องจากว่ามีเรื่องราวที่เธอถูกโปรดิวเซอร์ Dr. Luke ภายในค่าย Sony ทำการข่มขืนและทำร้ายจิตใจเธอเป็นอย่างมากมานานแรมปีกันเลยทีเดียว Ke$ha (ซ้าย) Dr. Luke (ขวา) Ke$ha ทำการฟ้องร้องโปรดิวเซอร์คู่กรณี Dr. Luke จากการที่เธอถูกข่มขืนและข่มเหงจิตใจ อีกทั้งเน้นย้ำที่จะยกเลิกสัญญากับทางต้นสังกัด โดยในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เธอเดินทางเข้าไปร่วมฟังคำพิพากษาจากศาลนิวยอร์กด้วย แต่ศาลตัดสินยกฟ้อง เนื่องจากหลักฐานไม่เพียงพอ และโดนทางฝั่ง Dr. Luke ฟ้องกลับเหมือนกัน…
-
สาวฉุนจัด ซื้อ KitKat มาแล้วไม่มีเวเฟอร์ข้างใน สั่งเนสเล่ท์ส่งให้กินฟรีตลอดชีวิต ไม่งั้นถึงศาล!!!
หมี่เหลืองล่ะงานนี้!!! ก่อนอื่นเลย เหมียวก็ไม่รู่ล่ะนะว่าเธอคนนี้ไปโมโหโกรธาฟาดงวงฟาดงาจากที่ไหนมา แต่เรื่องของเรื่องก็คือ เธอจริงจังกับเรื่องนี้มากๆ เลยทีเดียว Saima Ahmad สาวน้อยในวัย 20 ปีจาก Kings College London ประเทศอังกฤษ ได้ร้องขอให้บริษัทเนสเล่ ส่ง KitKat ให้เธอกินตลอดชีวิต หลังจากที่เธอซื้อผลิตภัณฑ์ของบริษัทมาถึง 8 ซอง ซึ่งทุกๆ ซองที่เธอเปิด ไม่มีเวเฟอร์อยู่ในนั้น!!? Saima Ahmad Saima Ahmad จริงจังกับเรื่องนี้มาก ถึงขั้นกลับไปศึกษากรณีทางกฎหมายที่คล้ายคลึงกันและเกิดขึ้นในสหราชอาณาจักรราวๆ ปี 1930 นู่นเลยทีเดียว แถมยังกล่าวด้วยว่า ‘มันใช้ไม่ได้เลย พวกเขาโฆษณาเกี่ยวกับคอนเซ็ปต์ที่เป็นเอกลักษณ์ของขนมนี้ แต่สิ่งที่ฉันซื้อมามันน่าผิดหวังมากๆ’ ‘…ฉันหวังเป็นอย่างยิ่งว่าพวกเขาจะรีบมาขอโทษฉันเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน และควรจะหันไปใส่ใจในด้านคุณภาพของสินค้าก่อนส่งถึงมือผู้บริโภคมากกว่านี้’ เธอกล่าวเสริม คิทแคทลืมใส่เวเฟอร์ให้เธอ… แถมเธอยังกล่าวว่าไม่ใช่เธอคนเดียวที่เจอปัญหา และอยู่ระหว่างสงครามศักดิ์สิทธิ์แห่งช็อกโกแลตนี้ เพราะพอเธอไปค้นหาในโลกอินเตอร์เน็ท ก็เจอคนมากมายที่มีปัญหาแบบเดียวกับเธอ เธอเลยรู้สึกว่าต้องมีอะไรปรับเปลี่ยนกันเสียที!!! และได้ร้องขอให้ทางบริษัทส่งผลิตภัณฑ์นี้ให้เธอกินแบบฟรีๆ ตลอดชีวิต เพื่อที่เธอจะได้ช่วยเป็นหูเป็นตา ในด้านการควบคุมคุณภาพ แถมยังขู่ด้วยล่ะว่าถ้าไม่ทำตามที่เธอร้องขอ…
-
นางแบบเพลย์บอยได้ค่าเจ็บตัวกว่า 18 ล้านบาท หลังโดนไม้กอล์ฟตีที่ก้นอย่างจัง!!!
บางทีความแผลงของนิตยสารเพลย์บอย อาจทำให้พวกเขาเสียเงินโดยไม่จำเป็นได้ หลังจากที่มีนางแบบคนหนึ่ง เรียกร้องค่าเสียหายกว่า 18 ล้านบาท เนื่องจากถูกตีด้วยไม้กอล์ฟระหว่างโชว์ นางแบบคนนี้มีชื่อว่า Elizabeth Dickson ขณะที่เธอกำลังถ่ายทำรายการ Playboy’s Morning Show เธอถูกขอให้ใช้ก้นเป็นฐานวางลูกกอล์ฟ เพื่อให้พิธีกรในรายการ Kevin Klein ตีนั่นเอง โชคร้าย เกิดความผิดพลาดขึ้นเมื่อ Kevin Klein เกิดหวดไม้กอล์ฟไปโดนบริเวณก้นของเธอ ทำให้ทิ้งรอยช้ำอย่างรุนแรงไว้บนร่างกาย ด้วยเหตุนี้เธอจึงเรียกค่าเสียหายจากบริษัทเพลย์บอย เนื่องจากทำให้เธอต้องได้รับบาดเจ็บและต้องหยุดพักงานไปหลายวัน สุดท้ายแล้วบริษัทเพลย์บอยก็ยอมจ่ายเงิน 500,000 ดอลลาร์สหรัฐหรือราว 18 ล้านบาทให้เป็นค่าเสียหายและค่ารักษาพยาบาล ก็เข้าใจนะว่าเขาต้องการสร้างความสนุกสนาน แต่เล่นแผลงๆแบบนี้ พอเกิดผิดพลาดขึ้นมาก็ซวยกันไป แต่ว่าโดนตีก้นช้ำ แล้วได้เงิน 18 ล้าน อันนี้ก็น่าสนใจดีนะ ฮาาา ที่มา metro