Tag: ฟ้องร้อง
-
งี้ก็มีด้วย!? เจ้าของเก่าถูกฟ้องร้องโดย ‘น้องม้าที่ถูกละเลย’ เรียกค่าเสียหายกว่า 3.3 ล้านบาท
หลากหลายกรณีของการละเลยสัตว์เลี้ยงในต่างประเทศ หากเจ้าของผู้ดูแลไม่พร้อมที่จะเลี้ยงอีกต่อไป มีการนำไปปล่อยตามสถานที่ต่างๆ โดยที่มีผู้พบเห็นเป็นพยานแจ้งทางการ ก็จะถูกสั่งปรับกันไปตามระเบียบ… อย่างในกรณีของหญิงชาวรัฐออริกอน ที่ดันทิ้งน้องม้าตัวน้อยไว้นอกอาคารเลี้ยงตลอดทั้งช่วงฤดูหนาว โดยที่ไม่มีการดูแลที่เพียงพอ ก่อให้เกิดความเจ็บปวดและทุกข์ทรมานต่อสัตว์ ถึงขั้นโดนเจ้าม้าตัวนี้ฟ้องกลับด้วยมูลค่า 3,300,000 บาท คุณอาจจะตกใจตรงที่ว่า ‘ม้า’ เป็นผู้ฟ้อง แต่สิ่งที่กล่าวมานั้นเกิดขึ้นจริงๆ สำหรับรัฐออริกอนแล้วเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ตั้งแต่ปี 2014 โดยที่ศาลสูงแห่งรัฐได้กำหนดให้ สัตว์ กลายเป็นเหยื่อของคดีอาชญากรรมต่างๆ ได้ และได้รับสิทธิ์ปกป้องขั้นพื้นฐานทุกประการเหมือนมนุษย์ อีกทั้งยังมีทนายความคอยให้การแทนในนามของสัตว์ตัวนั้นๆ ด้วย จากข้อมูลของทีมกฎหมายของกลุ่ม Animal Legal Defense Fund ในเมือง Portland เจ้าม้าตัวน้อย Justice วัย 8 ขวบ ต้องเผชิญกับความเจ็บปวด จากการที่เจ้าของเก่าไม่ดูแลและไม่ใส่ใจ และสมควรจะได้รับเงินจำนวนหนึ่งเพื่อนำไปรักษาและดูแลต่อไปในอนาคต โดยเมื่อปี 2017 ภายใต้การดูแลจากเจ้าของเก่า Gwendolyn Vercher วัย 51 ปี ทิ้งเจ้า Justice เอาไว้ข้างนอกอาคารในช่วงฤดูหนาว…
-
หนุ่มออทิสติกโดนเทรนเนอร์ดูถูก ไปเรียนกฎหมาย 2 ปี กลับมาฟ้องร้องจนชนะคดี!!
การถูกแบ่งแยก (Discrimination) ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่สามารถยอมรับได้ในสังคมตะวันตก เพราะถือว่าเป็นการลดคุณค่าความเป็นมนุษย์ (Dehumanization) ดังนั้นผู้ที่ดูถูกหรือเหยียดผู้อื่น อาจถูกกฎหมายลงโทษจนทำให้เสียทั้งงาน เสียทั้งเงินเลยทีเดียว อย่างเช่นเรื่องราวของหนุ่มคนนี้ ชายหนุ่มคนนี้มีชื่อว่า Ketan Aggarwal จากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เหตุเกิดขึ้นเมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2015 เขาได้สมัครเป็นสมาชิกของฟิตเนส Virgin Active เพื่อมาออกกำลังกายเช่นคนทั่วไป ด้วยความที่เขามีอาการออทิสติก ทำให้เขามีการตอบสนองค่อนข้างช้า แต่ด้วยความหงุดหงิดหรือเหตุอันใดไม่ทราบได้ ดันมีผู้ฝึกสอนคนหนึ่งด่าเขาว่า “โง่” หลายต่อหลายครั้ง… เมื่อเขาได้ยินดังนั้น เขารู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก จึงได้ทำการร้องเรียนเรื่องดังกล่าวไปยังบริษัทแม่ของ Virgin Active แต่ทางบริษัทกลับมองข้ามคำร้องเรียนของเขา ดังนั้นจึงเป็นเหตุทำให้เขารู้สึกว่าจะต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อตอบโต้บ้าง… หลังจากเหตุการณ์นั้น เขาก็ได้ใช้เวลา 2 ปีในการศึกษากฎหมายด้วยตนเอง ผ่านการอ่านหนังสือกฎหมายในห้องสมุดและเรียนรู้เพิ่มเติมจากตำราออนไลน์ เมื่อทุกอย่างเข้าที่เข้าทางแล้ว Ketan Aggarwal ก็ได้ทำการยื่นฟ้องร้องกรณีของเขาต่อศาลทันที… เขาได้ใช้ความรู้ทางกฎหมายของเขา พิสูจน์ความผิดของพนักงานดังกล่าวต่อศาลได้สำเร็จ สุดท้ายทาง Virgin Active ต้องจ่ายค่าปรับให้กับเขาเป็นเงิน 1,390…
-
John Cena ถูก Ford ฟ้องในข้อหาที่เขาเอารถรถรุ่นลิมิเต็ดไปขายต่อให้กับคนอื่น
กลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตเลยทีเดียว เมื่อนักปวยปล้ำชื่อดังอย่าง John Cena ดันถูกบริษัทรถยักษ์ใหญ่อย่าง Ford สั่งฟ้องในข้อหาที่เขาเอารถ Ford GT ปี 2017 ที่เป็นรถรุ่นลิมิเต็ดไปขายต่อให้กับคนอื่น เรื่องราวดังกล่าวนั้นมันเริ่มมาจากการที่พี่ John ของเรานั้นเป็นนักสะสมรถหรูตัวยง ซึ่งเขามีรถเจ๋งๆ เก็บไว้ในคอลเล็คชั่นเพียบ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาได้มีโอกาสเป็น 1 ใน 1,000 คนที่มีสิทธิซื้อรถ Ford GT ปี 2017 รุ่นทำพิเศษสุดเจ๋ง แน่นอนว่าด้วยความเป็นที่ชอบสะสมรถเป็นทุนเดิม เมื่อทางบริษัท Ford หยิบยื่นโอกาสมาให้แบบนี้ มีเหรอที่เขาจะไม่รับไว้ พี่แกก็เลยจัดการซื้อรถคันนั้นมาอยู่ในคอลเลคชั่นทันที เพียงแต่ว่าทางบริษัทรถก็ได้ให้เงื่อนไขเล็กๆ ในการซื้อรถไว้ว่า เขานั้นจะต้องเก็บรถไว้เป็นของตัวเอง 2 ปี ซึ่งเขาก็ดูเหมือนจะตกลงและซื้อรถคันดังกล่าวมาเมื่อเดือนกันยายน 2017 จากนั้นก็ขายมันในเดือนตุลาคมปีเดียวกันด้วยราคาเกือบ 500,000 ดอลลาร์สหรัฐหรือคิดเป็นเงินไทยก็ราว 15 ล้านบาทเลยทีเดียว ซึ่งแน่นอนว่าการขายรถของเขาทั้งที่ไม่ครบสัญญาจึงถือเป็นเรื่องที่ผิดและเป็นต้นเหตุให้เขาถูกฟ้อง เพียงแต่เจ้าตัวกลับไม่คิดแบบนั้น เพราะเขากลับมองว่าทำไมจะต้องมีสัญญาการถือครองรถแบบนี้ด้วย ทั้งที่เขาจ่ายเงินซื้อมาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แถมตอนจ่ายเงินไปก็ไม่มีข้อบังคับนี้บอกเป็นกิจจะลักษณะในใบสัญญาผูกพันขั้นสุดท้าย งานนี้นักมวยปล้ำชื่อดังจึงได้ส่งเรื่องไปทางศาลรัฐมิิชิแกนให้ยกฟ้องคดีของเขา…
-
หนุ่มฟ้องดาราชาย เอาเบอร์ของเขาไปออกฉากในหนัง ทำให้มีคนโทรเข้ามากวนจนเมียหนี
ในละครหรือภาพยนตร์แต่ละเรื่อง ฉากที่นับได้ว่าเห็นได้บ่อยก็คือฉากคุยโทรศัพท์ ส่วนใหญ่ก็คงจะเป็นเบอร์มั่วๆ แต่ก็คงไม่มีใครซวยเหมือนเจ้าหนุ่มคนนี้ เพราะเบอร์โทรศัพท์ที่พระเอกหนังกดมั่วๆ ในเรื่อง ดันไปตรงกับเบอร์จริงๆ ของเขา จนมีคนโทรมากวนวันละกว่า 300 สาย ซุปเปอร์สตาร์ชาวบังคลาเทศคนหนึ่งชื่อว่า Shakib Khan ถูกหนุ่มขับรถตุ๊กตุ๊กคนหนึ่งยื่นฟ้องร้องเพราะว่าเบอร์โทรศัพท์ของเขาไปปรากฏอยู่ในภาพยนต์ที่ Khan แสดง โดยตั้งแต่ที่หนังเรื่องนี้ออกฉาย เขาก็ต้องรับโทรศัพท์จากแฟนคลับของพระเอกคนนี้จนกลายมาเป็นปัญหาสำคัญในชีวิตเขาเลยทีเดียว โดยภาพยนตร์ดังกล่าวมีชื่อว่า Rajneeti ออกฉายในวันที่ 25 มิถุนายนที่ผ่านมาซึ่งมีฉากหนึ่งที่ Khan ได้พูดเบอร์โทรศัพท์เบอร์หนึ่งขึ้นมา แต่แทนที่เบอร์นั่นจะเป็นเบอร์มั่วๆ มันกลับเป็นเบอร์โทรศัพท์ในชีวิตจริงของ Ijajul Mia คนขับรถตุ๊กตุ๊กจากหมู่บ้าน Jatrapasha ในเมือง Baniachang ฉากๆ เดียวในหนังเรื่องดังกล่าวได้เปลี่ยนชีวิตของหนุ่มคนนี้ให้กลายเป็นฝันร้ายเลยทีเดียว เพียง 2-3 สัปดาห์หลังจากภาพยนตร์เรื่องนี้ออกฉายเบอร์โทรศัพท์ของ Mia ก็มีคนโทรเข้าซะจนสายแทบไหม้ โดยในระยะเวลาเพียง 5 วันเขาได้รับโทรศัพท์กว่า 500 สายจากหญิงสาวที่โทรมาตามหาดาราหนุ่ม “ทุกๆ วันผมได้รับโทรศัพท์เป็นร้อยๆ สายซึ่งส่วนใหญ่เป็นแฟนคลับผู้หญิงของ Shakib Khan” “พวกเขามักจะโทรมาแล้วพูดว่า สวัสดี Shakib ฉันเป็นแฟนคลับคุณ พอจะมีเวลาซัก 2 นาทีคุยกับฉันไหม” Mia ได้บอกไว้ เมื่อถึงจุดหนึ่งเมื่อมีโทรศัพท์เข้ามาถี่มากๆ…
-
เด็กนักเรียนญี่ปุ่นยื่นฟ้องหน่วยงานรัฐ เพราะบังคับให้ย้อมผมสีดำ ทั้งที่ผมสีน้ำตาลโดยกำเนิด
ในโรงเรียนทุกที่ต้องมีกฎระเบียบที่เคร่งครัด เพื่อที่จะได้ทำให้เด็กมีระเบียบวินัยและสามารถออกไปสู่โลกภายนอกได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่บางครั้งกฎระเบียบก็อาจจะต้องมีขอบเขตสักนิด เพราะไม่งั้นมันอาจสร้างปัญหายุ่งยากตามมาได้… เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในวันที่ 27 ตุลาคมที่ผ่านมา เมื่อมีหญิงสาวอายุ 18 ปีคนหนึ่ง ได้ยื่นเรื่องต่อศาลแขวง Osaka ประเทศญี่ปุ่น ฟ้องค่าเสียหายมูลค่า 2.2 ล้านเยน (ประมาณ 640,000 บาท) จากกรณีที่เธอถูกโรงเรียน Kaifukan บังคับให้ย้อมสีเป็นผมสีดำมิเช่นนั้นจะไม่ให้เธอมาเรียนอีกต่อไป โดยทางการ Osaka รวมถึงโรงเรียนมัธยมได้พยายามคัดค้านศาลให้ยกเลิกคดีนี้ กฎสีผมนักเรียน ของโรงเรียนในญี่ปุ่น โรงเรียนไฮสคูลหลายแห่งใน Osaka มีการลงทะเบียนเกี่ยวกับเรื่องสีผมตามธรรมชาติที่ไม่ใช่สีดำให้สามารถตรวจสอบได้ เมื่อถึงเวลาตรวจสอบนักเรียนประเภทนี้จะถูกตรวจสอบเส้นผม แล้วนำไปบันทึกลงข้อมูลเอาไว้ และนักเรียนประเภทนี้ยังต้องมีใบรับรองสีผมเพื่อที่จะรับรองได้ว่าพวกเขาไม่ได้โกหก หากพวกเขามีสีผมอื่นๆ ตามธรรมชาติจริงๆ โรงเรียนมีกฎห้ามย้อมผมเป็นสีอื่น เพราะฉะนั้นคุณก็ต้องย้อมดำ!? ก่อนหน้าที่จะเข้าเรียนแม่ของเธอได้แจ้งกับทางโรงเรียนก่อนแล้วว่าเธอนั้นมีผลสีน้้ำตาลมาตั้งแต่กำเนิด แต่คุณครูในโรงเรียนกลับบังคับให้เธอย้อมผมเป็นสีดำหลายครั้งทำให้เธอมีผื่นขึ้นบนหนังศีรษะ รวมทั้งหนังศีรษะลอกเนื่องจากฤทธิ์ของยาย้อมผมทำให้เธอทุกข์ทรมานมาก แต่คุณครูก็บอกว่านั่นยังดำไม่พอในเวลาที่ผมงอกออกมาใหม่ และยังถามนักเรียนสาวคนนี้อีกว่าจะย้อมผมหรือจะออกจากโรงเรียนไป? ซึ่งนั่นทำให้เธอหยุดไปโรงเรียนตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่แล้ว ติดแบล็คลิสต์ จนถึงขั้นไม่ได้ไปโรงเรียน มีเหตุการณ์หนึ่งที่คุณครูใช้คำพูดรุนแรงกับนักเรียนสาวคนนี้โดยเธอบอกว่า “เพราะเธอเป็นลูกไม่มีพ่อใช่ไหม ถึงชอบทำตัวเด่นที่จะเปลี่ยนสีผมให้เป็นสีน้ำตาลอยูเรื่อย” ซึ่งหลังจากเธอได้ยินคำพูดนี้ก็ทำให้เธอมีอาการ Hyperventilate หรือที่เราเรียกกันว่า โรคไฮเปอร์จนต้องรีบส่งเข้าโรงพยาบาล เมื่อกันยายนปีที่แล้วก็มีคุณครูคนหนึ่งออกมาบอกกับนักเรียนสาวรายนี้ว่า “ถ้าเธอไม่ย้อมผมเป็นสีดำ เธอก็ไม่ต้องมาโรงเรียนอีกต่อไป”…
-
สาวน้อยวัย 11 ขวบ ยื่นฟ้อง ‘รัฐบาลสหรัฐฯ’ ข้อหาพยายามทำให้กัญชาผิดกฎหมาย..!!
อีกหนึ่งเรื่องราวการต่อสู้ของ Alexis Bortell สาวน้อยชาวเท็กซัสวัย 11 ขวบ ที่ออกมายื่นเรื่องฟ้องร้องรัฐบาลสหรัฐฯ เกี่ยวกับการเข้าถึงยารักษาโรคที่สกัดจาก ‘กัญชา’ เรื่องราวทั้งหมดมีอยู่ว่า… เมื่อ 3 ปีก่อน Alexis ป่วยเป็นโรคลมชักขั้นรุนแรง ส่งผลให้เธอไม่สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้เฉกเช่นเดียวกับเด็กคนอื่นๆ Alexis Bortell และคุณพ่อของเธอ อาการโรคลมชักขั้นรุนแรงของเธอไม่สามารถหายาชนิดไหนมารักษาได้ จนกระทั่งครอบครัวของเธอมีโอกาสได้รู้จักกับวิธีการรักษาด้วย CBD Oil (เป็นน้ำมันสกัดจากกัญชาชนิดหนึ่งที่ถูกนำมาใช้ในทางการแพทย์) แต่ด้วยความที่กฎหมายของรัฐเท็กซัสยังไม่มีการประกาศให้สามารถใช้กัญชาในทางการแพทย์ได้ ทำให้ครอบครัวของเธอตัดสินใจย้ายไปอาศัยอยู่ที่รัฐโคโลราโดแทน และการรักษาด้วย CBD Oil ก็ทำให้เธอไม่มีอาการชักมาแล้วกว่า 2 ปี ทว่าการเคลื่อนไหวของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ภายใต้การสนับสนุนของอัยการสูงสุด Jeff Sessions ดูจะเป็นไปในทิศทางตรงกันข้าม มีการเสนอผลักดันให้กัญชาเป็นยาเสพติดประเภท 1 ซึ่งไม่สามารถนำมาใช้เป็นยารักษา หรือแม้แต่จะทำการทดลองใดๆ ได้ จากประเด็นนี้เองที่ทำให้ครอบครัวของ Alexis Bortell ตัดสินใจร่วมมือกับอีก 4 ครอบครัว ร่วมกันเป็นโจทก์ยื่นฟ้องร้องรัฐบาลกลางสหรัฐฯ เพื่อเป็นการต่อต้านความพยายามออกกฎหมายมาปิดกั้นการเข้าถึงยารักษาที่สกัดจากกัญชาโดยตรง …
-
คู่รักหัวเสียเพลียเพื่อนบ้าน ฟ้องร้องค่าเสียหายกว่า 83 ล้านบาท เพราะบ้านดั๊นเหมือนกันเป๊ะ!!
บ่อยครั้งที่เรามักจะได้ยินข่าวเกี่ยวกับการฟ้องร้องแปลกๆ ในต่างประเทศ ที่บางทีเราอาจจะงงว่าเรื่องแบบนี้ถึงกับต้องขึ้นศาลกันด้วยหรือนี่!? และเรื่องราวของครอบครัวจากเมือง Toronto ครอบครัวนี้ ก็เป็นหนึ่งในการฟ้องร้องแปลกๆ เช่นกัน ครอบครัวของคุณ Barbara Ann และ Eric Kirshenblatt จากเขต Forest Hill เมือง Toronto ประเทศแคนาดา ถูกเพื่อนบ้านของพวกเขาฟ้องศาลเรียกค่าเสียหายกว่า 83 ล้านบาท หลังจากที่แบบบ้านของพวกเขานั้นคล้ายกับแบบบ้านของเพื่อนบ้านคนดังกล่าว สองสามีภรรยาต้องต่อสู้กับคดีความดังกล่าวอยู่นานถึง 3 ปี หลังจากที่ครอบครัวของ Jason กับ Jodi Chapnick เพื่อนบ้านของพวกเขาได้ฟ้องศาลเกี่ยวกับเรื่องการลอกแบบบ้าน ครอบครัว Chapnick อ้างว่าคุณ Barbara Ann นั้นได้จงใจปรับปรุงบ้านให้คล้ายกับบ้านของพวกเขา ทางครอบครัว Chapnick ได้เรียกร้องให้มีการชดเชยค่าเสียหายจำนวน 50 ล้านบาท สำหรับการลอกแบบบ้าน 600,000 บาท และอีก 33 ล้านบาทสำหรับค่าเสียหายเชิงลงโทษ พร้อมกันนี้ทางฝ่ายจำเลยยังต้องมีการแก้ไขแบบบ้านใหม่อีกด้วย ทางครอบครัว Chapnick อ้างว่าพวกเขาได้จ้างให้สถาปนิคทำการออกแบบบ้าน และบ้านหลังดังกล่าวก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และมีชื่อเสียงอย่างมากในย่าน Forest Hill และการสร้างบ้านลอกเลียนแบบก็ทำให้คุณค่าของบ้านพวกเขาลดลงไป เมื่อเปรียบเทียบจากภาพของบ้านทั้งสองหลัง…
-
Taylor Swift ชนะคดีความล่วงละเมิดทางเพศ เรียกร้องค่าเสียหายแค่ 1 ดอลลาร์เท่านั้น
หลังจากที่ตกเป็นข่าวใหญ่เกี่ยวการถูกล่วงละเมิดทางเพศของนักร้องสาวตาคมอย่าง Taylor Swift กับดีเจหนุ่ม David Mueller จนเกิดเป็นคดีความและมีการฟ้องร้องเกิดขึ้น ล่าสุดศาลได้พิจารณาตัดสินให้นักร้องสาวเป็นฝ่ายชนะเป็นทีเรียบร้อยแล้ว และเธอก็เรียกร้องค่าเสียหายแบบหักหน้าอีกฝ่าย ด้วยจำนวนเงินเพียงแค่ 1 ดอลลาร์ หรือแค่ประมาณ 33 บาทเท่านั้น ซึ่งคดีความดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ทางนักร้องสาวได้ออกมาฟ้องร้องดีเจหนุ่ม ข้อหาลวนลามเธอด้วยการเอามือล้วงเข้าไปใต้กระโปรงระหว่างการถ่ายรูปเมื่อปี 2013 แต่ทางฝ่ายชายได้ออกมาปฏิเสธพร้อมกลับฟ้องกลับในข้อหากุเรื่องทำให้เขาเสียชื่อเสียง และเรียกค่าเสียหายเป็นจำนวนเงินมากถึง 3 ล้านเหรียญเลยทีเดียว หลังจากที่มีการสืบสวนเรื่องดังกล่าวอีกครั้ง ก็กลับกลายเป็นฝ่ายนักร้องสาวที่ชนะคดีไป โดยเธอบอกว่าการเรียกร้องค่าเสียหายเพียงแค่ 1 ดอลลาร์นั้น การกระทำดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าเธอไม่ต้องการเงิน แต่เธออยากจะแสดงให้ผู้หญิงคนอื่นๆ ที่กำลังตกเป็นเหยื่อของการล่วงละเมิดออกมาพูดในสิ่งที่ถูกต้องและต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมของตัวเอง “ถ้าพวกเธอบอกว่า ไม่ ก็แปลว่าไม่นั่นแหละ พวกผู้หญิงควรจะมีสิทธิ์บอกว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับร่างกายของพวกเธอ” คุณ Douglas Baldridge ทนายของนักร้องสาวกล่าว ที่มา independent
-
มหากาพย์ดราม่า หนุ่มใส่หูฟังเดินข้างทางรถไฟ ถูกชนจนเสียขา ฟ้องกันอุตลุด..!!
กลายเป็นมหากาพย์ดราม่าที่ฟ้องกันอุตลุด ระหว่างครอบครัวของเด็กหนุ่มวัย 17 ปี Jacob Ohl กับบริษัทรถไฟขนส่ง CSX โดยเว็บไซต์ Dailymail ได้รายงานว่า ครอบครัวของผู้เสียหายได้ยื่นเรื่องฟ้องร้องบริษัทรถไฟกับศาล โดยเรียกร้องค่าเสียหายเป็นจำนวนเงินทั้งหมด 200,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 7 ล้านบาท) อันเกิดจากความประมาทของเจ้าหน้าที่ ทางฝั่งครอบครัวผู้เสียหายอ้างว่า เมื่อวันที่ 2 มีนาคม Jacob ได้ไปเดินเล่นข้างทางรถไฟพร้อมกับใส่หูฟัง โดยไม่ทันได้สังเกตว่าว่ามีรถไฟเคลื่อนขบวนผ่านมา และเจ้าตัวก็อ้างว่าเป็นความผิดของเจ้าหน้าที่ ที่ไม่ยอมส่งสัญญาณเตือนให้เด็กหนุ่มได้ยิน จากอุบัติเหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้เขาสูญเสียขาทั้ง 2 ข้าง ทว่าทางฝั่งของบริษัทรถไฟก็ได้ออกมาชี้แจงเพิ่มเติมด้วยเช่นกัน โดยบริษัทการรถไฟอ้างว่า บริเวณดังกล่าวไม่ใช่สถานที่สำหรับเดินเล่น เนื่องจากเต็มไปด้วยขบวนรถไฟขนส่งเข้าออกตลอดเวลา อีกทั้งเจ้าหน้าที่ได้ส่งสัญญาณเตือน Jacob Ohl จากระยะ 300 เมตรก่อนแล้ว แต่ดูเหมือนว่าเด็กหนุ่มจะไม่ได้ยิน จนทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นในเวลาต่อมา จากอุบัติเหตุครั้งนั้นทำให้ครอบครัวต้องพบกับค่าใช้จ่ายรักษาพยาบาลที่มากกว่า 200,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งสาเหตุที่พวกเขาออกมาฟ้องร้องในครั้งนี้ ก็เพราะพวกเขาไม่ได้รับค่ารักษาพยาบาลจากบริษัทการรถไฟเลย ทว่าข่าวการฟ้องร้องครั้งนี้ก็ถูกชาวเน็ตวิพากษ์วิจารณ์อยู่พอสมควร…
-
ผู้นำศาสนาในแคนาดา ถูกศาลตัดสินมีความผิด หลังมีเมียกว่า 24 คน และลูกกว่าอีก 145 คน!!
นับว่าเป็นอีกหนึ่งข่าวใหญ่ที่กำลังโด่งดังไปทั่วโลก หลังจากที่ศาลได้นัดไต่สวนความผิดของสองผู้ทางศาสนาจากประเทศแคนาดา หลังพบว่าเจ้าตัวอยู่กินกับภรรยามากถึง 24 คน โดยเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2017 สำนักข่าว BBC ได้รายงานเรื่องราวของ Winston Blackmore ผู้นำศาสนาลัทธิมอร์มอน (ศาสนาจักรของพระเยซูคริสต์แห่งสิทธิชนยุคสุดท้าย) พร้อมน้องชาย ถูกศาลนัดไต่สวนคดีฐานมีคู่สมรสมากกว่า 1 คน โดยล่าสุดศาลพิพากษาสูงสุดแห่งบริติชโคลัมเบีย ได้ตัดสินให้ Winston ผู้นำลัทธิวัย 61 ปี พร้อมทั้งน้องชายของเขา James Oler วัย 53 ปี มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 293 ของประเทศแคนาดา Winston Blackmore (ซ้าย) James Oler (ขวา) จากการเปิดโปงของเจ้าหน้าที่พบว่า เบื้องหลังฉากหน้าของเจ้าลัทธิคนนี้ เขาได้แต่งงานกับหญิงสาวมากถึง 24 คน และมีเด็กที่สืบเชื้อสายจากเขาอีกมากกว่า 145 ชีวิต ในส่วนของน้องชายของเขานั้น ก็แต่งงานกับหญิงสาวเป็นจำนวน 5…
-
คุณป้าโวยเดือด ตั้งใจไปผ่าตัดเล็ก ไม่รู้หมอทำอีท่าไหน… ตื่นมาฟันหน้าหายเกลี้ยง!?
ลองคิดดูว่าจะเป็นยังไง ถ้าคุณตั้งใจไปผ่าตัดเล็ก แต่หมอดั๊นไปทำอย่างอื่นแถมเล่นใหญ่อีกต่างหาก แบบนี้ไม่ตรงสเปคสุดๆ!! โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับคุณป้า Gail Tapp เมื่อเธอได้เดินทางไปเข้ารับการผ่าตัดเล็ก เพื่อบรรเทาอาการแผลฟกช้ำตามร่างกาย ที่โรงพยาบาล USMD ในเมือง Fort Worth รัฐเท็กซัส คุณป้า Gail Tapp สำนักข่าว CBFNews รายงานว่า เนื่องจากตอนผ่าตัดคุณป้าได้รับยาชาทำให้เธอรู้สึกเคลิบเคลิ้มและไม่ได้สติ ซึ่งเธอได้บอกกับหมอว่าเธอมีสะพานฟัน (สำหรับผู้ใช้ฟันปลอม) อยู่ในปาก ทันทีที่เธอตื่นขึ้นมาจากการผ่าตัด เธอรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างผิดแปลกไปจากเดิม… “ฉันรู้สึกว่ามันมีอะไรแปลกๆ เกิดขึ้นกับช่องปากของฉัน” เธอกล่าวถึงความรู้สึกแรกที่ตื่นขึ้นมา คุณป้าถึงกับตกใจเมื่อตื่นมาพบว่าฟันปลอมของเธอหายไปหมดเลย..!? ซึ่งทางโรงพยาบาลได้ออกมาชี้แจงว่า คุณป้า Gail เป็นคนบอกคุณหมอเองว่าให้ช่วยถอดสะพานฟันออก ในช่วงที่คุณหมอกำลังย้ายท่อหายใจ ยิ่งไปกว่านั้นคือก่อนหน้าการผ่าตัด คุณป้าได้เซ็นเอกสารรับทราบข้อตกลงเกี่ยวกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการผ่าตัดแล้ว ทำให้โรงพยาบาลไม่ต้องจ่ายเงินชดเชยให้เธอ ล่าสุดคุณป้าออกมาชี้แจงว่า ถ้าจะใส่ฟันใหม่ต้องใช้เงินสูงถึง 15,000 เหรียญสหรัฐฯ เธอขอแค่โรงพยาบาลยกค่าใช้จ่ายส่วนนี้ให้ก็พอแล้ว… ก็ไม่รู้นะว่าเรื่องนี้จะจบลงยังไง… แต่ดูเหมือนป้าจะแอบอยากหาเรื่องไม่จ่ายหนี้นะเนี่ย ที่มา: TheSun
-
แม่จ่อฟ้องทางโรงเรียน หลังบังคับลูกชายให้ล้างหม้อร่วมสัปดาห์ เพื่อเป็นการลงโทษ!?
จำได้ว่าสมัยเรียนเวลาทำผิดก็จะถูกครูลงโทษ แต่ไม่ได้ทำโทษแค่ตีด้วยไม้เรียวเท่านั้น ยังมีวิธีอื่นเช่น ไปวิ่งรอบสนาม ไปเก็บขยะ ไปล้างห้องน้ำ และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งทั้งหมดก็เพื่อให้เราจำและไม่ทำผิดอีก แต่ไม่รู้ว่านักเรียนสมัยนี้มีความแตกต่างจากสมัยของเรามากแค่ไหน ล่าสุดคุณแม่ท่านหนึ่งได้ทำการฟ้องทางโรงเรียน หลังคุณครูลงโทษลูกชายของเธอ ด้วยการบังคับให้ล้างหม้อเป็นเวลานานหลายสัปดาห์!? เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ Rahys Wajid นักเรียนวัย 12 ปี จากโรงเรียน Bluecoat Beechdale Academy กลับมาฟ้องคุณแม่ Aqueelah Khursheed วัย 33 ปี ว่าคุณครูบังคับให้เขาขัดหม้อมาหลายสัปดาห์ เพื่อเป็นการลงโทษที่เขาทำความผิด สร้างความโกรธให้กับผู้เป็นแม่อย่างมาก สำหรับความผิดของ Rahys นั้น ทางครูเผยว่าเขามักจะโดดเรียน เวลาเรียนก็ไม่ตั้งใจ แต่งตัวไม่เรียบร้อย และลืมนำกล่องดินสอมาเรียนด้วยหลายต่อหลายครั้งมาก แต่ไม่ว่าลูกชายจะถูกลงโทษด้วยสาเหตุอะไรก็ตาม ทางคุณแม่ Aqueelah รู้สึกรับไม่ได้ และเตรียมฟ้องทางโรงเรียนในข้อหาละเมิดสิทธิมนุษยชน คุณแม่บอกว่า “ลูกของฉันไม่ใช่ทาส Rahys เริ่มเข้าโรงเรียนนี้ตอนเดือนกันยายน มันอาจจะเป็นเรื่องยากสำหรับการปรับตัวในช่วงแรก แต่เขาก็มีเพื่อนและอยู่ร่วมกับทุกคนได้ดี” เธอยังบอกอีกว่า “ทุกครั้งที่ Rahys ทำผิดเพียงเล็กน้อย…
-
คุณตาวัย 71 เตรียมฟ้อง หลังถูกพนักงานสายการบิน “United Airlines” ผลักล้ม!?
ถ้าใครยังจำได้เมื่อช่วงหลายเดือนก่อนเพิ่งมีประเด็นดราม่าเกี่ยวกับสายการบิน United Airlines ที่มีการฉุดกระชากลากถูผู้โดยสารให้ลงจากเครื่อง ล่าสุดก็ได้มีการเผยถึงเหตุการณ์ในปี 2015 ที่กลายเป็นประเด็นร้อนไปทั่วโลกออนไลน์ เมื่อ Ronald Tigner คุณตาวัย 71 ปี ถูกพนักงานของสายการบินผลักล้มไปนอนกองกับพื้น เพียงเพราะเจ้าตัวเข้าไปถามเรื่องตั๋วเดินทาง!? ภาพจากกล้องวงจรปิดในสนามบินชี้ให้เห็นว่า คุณตาได้เดินเข้าไปถามพนักงานเกี่ยวกับตั๋วเครื่องบินอย่างปกติ ทว่าจากนั้นจู่ๆ เจ้าตัวก็ถูกพนักงานผลักล้มไปนอนกองกับพื้นอย่างน่าตกใจ จนเวลาผ่านไปก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีพนักงานคนไหนเข้ามาช่วยดูแลอาการของคุณตาเลยแม้แต่คนเดียว เหตุการณ์ดังกล่าวกลายเป็นกระแสที่ทำให้สายการบินถูกโจมตีไปทั่วโลกออนไลน์ ซึ่งจากการสอบสวนพบว่าพนักงานคนดังกล่าวชื่อว่า Alejandro Anastasia และเจ้าตัวกำลังจะถูกฟ้องเรียกค่าเสียหายเป็นเงินสูงถึง 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา William Hoke ทนายความของผู้เสียหายได้ให้สัมภาษณ์ว่า “พนักงานคนดังกล่าวได้ตอบกลับคุณ Ronald ว่า คุณไม่เห็นเหรอว่าพวกเรากำลังยุ่งกันอยู่? จากนั้นเขาก็ผลักผู้โดยสารล้มลงไปนอนกับพื้นพร้อมทั้งหัวเราะเยาะ และทำท่าทางเหมือนจะเตะซ้ำ” ชายผู้เสียหายต้องนอนนิ่งเป็นเวลานาน กว่าจะมีคนเริ่มเข้ามาให้ความช่วยเหลือ ดูเหมือนประเด็นจะร้อนขึ้นไปอีก เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้ามาถึงจุดเกิดเหตุ แต่พนักงานของสายการบินกลับให้การปฏิเสธว่า ผู้โดยสารหกล้มด้วยตนเองไม่มีการทำร้ายร่างกายใดๆ เกิดขึ้น จากนั้นไม่นานก็มีพลเมืองดีรีบเข้ามาช่วยเหลือ และนำตัวผู้เคราะห์ร้ายไปส่งที่โรงพยาบาล จากเหตุการณ์ทั้งหมดทำให้นาย Anastasia ถูกจับข้อหาทำร้ายร่างกายผู้สูงอายุ…
-
สามีโร่ฟ้องหย่าภรรยา… เพราะถูกบังคับให้ ‘เลียน้องจิมมี่’ ในช่วงมีประจำเดือน!?
Idongesit Etuk วัย 38 ปี ได้กล่าวหาภรรยาของตัวเองวัย 40 ปี ว่าเธอพยายามที่จะบังคับให้เขาดื่มเลือดของเธอเข้าไป อีกทั้งยังบอกว่าเธอกำลังนับถือลัทธิอะไรบางอย่าง ที่ส่งผลถึงรสนิยมเกี่ยวกับการมีเพศสัมพันธ์ของเธอ เข้าได้ให้การในชั้นศาลว่า “ภรรยาของผมถูกปิศาจเข้าสิง เป็นเวลากว่าหลายปี เธอมักจะยืนกรานที่จะมีเซ็กส์ในช่วงที่เธอมีประจำเดือน” “ในตอนแรกผมก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรหรอก เพราะว่าเธอคือภรรยาของผม และผมก็ได้สาบานไว้แล้วว่าผมจะรักเธอ” “แต่เรื่องมันชักจะไปกันใหญ่ เพราะเธอมักจะบังคับให้ผมทำออรัลเซ็กส์ให้ขณะที่มีประจำเดือน” “ในตอนแรก ผมก็ให้การปฏิเสธไปแต่เธอขู่ว่าเธอจะหย่ากับผมพร้อมกับพาลูกอีก 2 คนไปอยู่ด้วย ถ้าผมไม่ยอมทำตามที่เธอต้องการ” ทางฝั่งภรรยาก็ได้ให้การปฏิเสธว่าเธอไม่เคยบังคับเขาเลย แต่แค่ขอให้เขาทำให้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น “ฉันไม่ได้บังคับเขา ฉันขอให้เขาทำเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น และเมื่อเขาไม่ยอมทำให้ ฉันก็ไม่เคยรบเร้าเขาอีกเลย” “ฉันยังคงรักสามีของฉันอยู่ และฉันไม่สามารถอยู่ได้ถ้าไม่มีเขา ลูกของฉันเองก็ไม่สามารถอยู่ได้โดยที่ไม่มีพ่อ เพราะอายุของพวกเขายังน้อยอยู่” ทางผู้พิพากษา Phillip Williams ได้ตัดสินว่าชีวิตคู่ของทั้งคู่นั้นไม่สามารถดำเนินต่อไปได้แล้ว เพราะชีวิตของนาย Idongesit นั้นถูกคุกคาม เขาจึงตัดสินให้ทั้งคู่หย่ากัน ส่วนในเรื่องของลูกๆ ก็จะอยู่ในการดูแลของภรรยา ส่วนค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการดูแลลูกสามีต้องเป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งเขาเองก็มีอิสระที่จะเข้าพบลูกๆ ด้วยเช่นกัน เรื่องรสนิยมเกี่ยวกับการมีเซ็กส์นี่ก็ส่งผลต่อชีวิตรักเหมือนกันนะเนี่ย ที่มา…
-
คุณตาจบ ป.3 ลงทุนเรียนกฎหมาย 16 ปี เพื่อฟ้องบริษัทสารเคมี ที่ทำให้หมู่บ้านเขาเป็นมลพิษ
หลายๆ ครั้งที่เหล่าชาวนาทั้งหลายนั้นตกเป็นเหยื่อของการถูกเอารัดเอาเปรียบ เพราะโดยปกติแล้วพวกเขาจะเป็นคนที่มีอายุมากและไม่มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องของกฎหมาย ทำให้รู้ไม่เทาทันในเล่ห์เหลี่ยมของเหล่านายทุน แต่ไม่ใช่กับคุณตาชาวจีนอย่างแน่นอน เพราะเขาลงทุนศึกษาเกี่ยวกับกฎหมายด้วยตัวเองเป็นเวลากว่า 16 ปี เพื่อทำการฟ้องร้องต่อสู้คดีกับบริษัทสารเคมี ที่สร้างมลภาวะให้กับที่ดินของเขา ทำให้ชาวบ้านและตัวของคุณตาเองต้องเดือดร้อน นี่คือคุณตา Wang Enlin วัย 60 ปี ที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้าน Yushutun ตั้งอยู่บริเวณชานเมือง Qiqihar มณฑล Heylongjuang ประเทศจีน เขาประกอบอาชีพเกษตรกรรมมาอย่างยาวนาน จนกระทั่งบริษัท Qihua Group ได้เข้ามาตั้งโรงงานอุตสาหกรรมเกี่ยวกับสารเคมีที่บริเวณใกล้ๆ กับ ที่ดินทำกินของเขา จนทำให้เกิดมลพิษปกคลุมไปทั่ว คุณตาเล่าว่าเมื่อช่วงเทศกาลไหว้พระจันทร์ในปี 2001 ขณะที่กำลังนั่งฉลองอยู่กับเพื่อนบ้านอยู่ จู่ๆ โรงงานก็ปล่อยน้ำเสียออกมาจนท่วมพื้นที่บ้าน และไร่นาของคุณตา เท่านั้นยังไม่พอ น้าเสียที่โรงงานปล่อยออกมายังท่วมไปถึงส่วนอื่นๆ ในหมู่บ้านด้วย จากรายงานของเอกสารราชการเมื่อปี 2001 ได้บันทึกเอาไว้ว่าพื้นที่การทำเกษตรของชาวบ้านจะไม่สามารถใช้ทำกิจกรรมใดๆ ได้เลย เป็นเพราะสารพิษที่ถูกปล่อยทิ้งออกมา ในช่วงปี 2001 ถึง 2016 บริษัท Qihua ยังคงทิ้งสารเคมีอันเป็นผลมาจากการทำอุตสาหกรรมอยู่ตลอด…
-
พ่อแม่เห่อลูกโปรดระวัง วัยรุ่นสาวออสเตรียฟ้องพ่อแม่ ฐานโพสต์ภาพน่าอายวัยเด็กลงโซเชียล!?
ข่าวนี้อาจทำให้พ่อแม่ที่ชอบเห่อลูกออกหน้าออกตารู้สึกเสียวๆ ได้เลย เพราะเมื่อไม่นานมานี้มีข่าวว่าเด็กวัยรุ่นต่างประเทศลุกขึ้นมาฟ้องร้องพ่อแม่ของตัวเอง ฐานโพสต์ภาพน่าอายของเธอลงในโลกออนไลน์!? เมื่อวันที่ 15 กันยายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Metro ได้รายงานว่าเด็กวัยรุ่นสาวจากรัฐคารินเทีย ประเทศออสเตรียวัย 18 ปี ได้ทำการฟ้องร้องพ่อแม่ของตัวเอง เนื่องจากพวกเขาโพสต์ภาพวัยเด็กของเธอ ขณะเปลี่ยนผ้าอ้อมและนั่งอยู่บนกระโถนอึ ทำให้เธอรู้สึกอับอายและถูกคุกคามความเป็นส่วนตัว หลังจากที่เธอรู้เรื่องเกี่ยวกับภาพน่าอายที่พ่อแม่ของเธอนำไปโพสต์ลงในเฟซบุ๊ก เธอก็ได้ขอร้องให้พ่อแม่ลบภาพเหล่านั้นออกไป แต่พวกเขากลับปฏิเสธเธอและคิดว่ามันเป็นภาพที่พวกเขาถ่ายเอง ภาพเหล่านั้นจึงควรจะเป็นสิทธิ์ของพวกเขาที่จะเผยแพร่หรือไม่ก็ได้ ทำให้เธอทนไม่ได้และต้องฟ้องร้องในที่สุด วัยรุ่นสาวรายนี้ให้ความเห็นต่อสื่อว่า “พวกเขาไม่มีความละอายหรือขอบเขตอะไรเลย และไม่สนใจว่านั่นคือภาพของฉันกำลังนั่งอยู่บนกระโถนอึหรือนอนโป๊อยู่ในเปล” “ทุกขั้นตอนของชีวิตฉันถูกถ่ายภาพเก็บไว้แล้วนำมาเผยแพร่ในที่สาธารณะหมด ฉันเหนื่อยหน่ายที่ไม่ได้รับการดำเนินการใดๆ แบบจริงจังจากพ่อแม่ของฉัน” ทางด้านทนายของเธอเชื่อว่าเธอน่าจะชนะการฟ้องร้องครั้งนี้ และทางพ่อแม่จะต้องจ่ายเงินชดเชยให้กับเธอ แต่เนื่องจากประเทศออสเตรียไม่ได้เข้มงวดเรื่องความเป็นส่วนตัวของผู้คนในโลกออนไลน์เหมือนกับในบางประเทศ ยกตัวอย่างที่ประเทศฝรั่งเศส หากใครเผยแพร่ภาพน่าอายของผู้อื่น ไม่ว่าจะผู้ใหญ่หรือเด็ก จะถูกดำเนินคดี มีค่าปรับสูงสุด 1.7 ล้านบาทและอาจถูกจำคุกสูงสุด 1 ปี สาเหตุที่ทางฝรั่งเศสออกกฎเข้มงวดขนาดนี้ก็เพื่อเป็นการเตือนให้พ่อแม่ระมัดระวังเรื่องความเป็นส่วนตัวของลูกๆ เพราะนั่นอาจเป็นการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของเด็กมากเกินไป จนทำให้พวกเขาถูกล่อลวงจากเหล่าคนโรคจิตก็เป็นได้ ข่าวนี้อาจไม่เกี่ยวข้องกับคนไทยโดยตรง แต่ในโลกออนไลน์ของเราเองก็มีภาพเหล่านี้ให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง คุณพ่อคุณแม่คนไหนที่อยากจะโพสต์อวดภาพลูกๆ ของตัวเองก็อาจจะต้องคิดให้มากขึ้นนิดนึง ว่าในอนาคตหากลูกๆ…
-
ดราม่าไหมงานนี้!? เด็กๆ ชาวฝรั่งเศสสามารถ ‘ฟ้องร้อง’ พ่อแม่ตัวเองได้ หากโพสท์รูปภาพวัยเด็กลงโซเชียลมีเดีย
เป็นที่แน่นอนว่าเพื่อนๆ หลายคนที่เป็นพ่อเป็นแม่คนนั้นมักจะชอบถ่ายคลิปหรือรูปของลูกตัวในขณะที่ยังแบเบาะโพสท์ลงโซเชียลมากมาย ซึ่งทุกคนก็มองว่ามันเป็นเรื่องปกติใช่มั้ยล่ะ!? แต่ในประเทศฝรั่งเศสหากพ่อแม่แชร์ภาพของลูกตัวเองลงบนโซเชียลมีเดียอาจถูกลูกตัวเองฟ้องร้องเมื่อโตขึ้น ในข้อหาละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัวในวัยเด็กโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งอาจต้องจ่ายค่าปรับสูงถึง 1,800,000 บาทเลยทีเดียว นักวิชาการคาดว่า ในอนาคตเด็กๆ จะเริ่มตระหนักว่าเรื่องราวชีวิตของพวกเขาตั้งแต่เด็กนั้นถูกเผยแพร่สู่โลกอินเตอร์เน็ต ซึ่งทำให้พวกเขาสูญเสียความเป็นส่วนตัวไป และการวิจัยของมหาวิทยาลัย Michigan พบว่า เด็กอายุ 10-17 ปีมีความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับการที่ผู้ปกครองแชร์เรื่องของพวกเขาในขณะที่แบเบาะลงบนโลกโซเชียล แต่ถึงอย่างไรก็ตามพ่อแม่ทั้งหลายก็ควรระมัดระวัง และเข้าใจไว้ว่า ข้อมูลที่อัพลงบนโซเชียลมีเดียนั้นเป็นการละเมิดความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของลูกๆ ของคุณ เพราะอาจมีคนนำข้อมูลเหล่านี้ไปทำการสวมรอยเป็นลูกของคุณทำให้เกิดความเสียหายตามมา หรือเปิดช่องให้ลูกของคุณถูกล้อเลียนให้เกิดความอับอายด้วยข้อมูลดังกล่าว เห็นแบบนี้แล้วก็ระวังกันด้วยนะจ๊ะเหล่าพ่อแม่ทั้งหลาย เพราะข้อมูลต่างๆ ที่อัพลงบนโซเชียลนั้นสามารถสร้างภัยอันตรายให้กับลูกๆ ของคุณได้อย่างดายเลยทีเดียว ที่มา : theguardian
-
งี้ก็ได้เหรอ!? หนุ่มฝรั่งเศสฟ้องร้องนายจ้าง 14 ล้าน เหตุให้ทำงานน้อยจนกลายเป็นคนซึมเศร้า!?
หลายๆ คนมักจะบ่นกันว่ามีงานเยอะล้นมือจนอยากจะลาออกไปให้มันรู้แล้วรู้รอดไป แต่กับบางคนแล้ว การไม่มีงานให้ทำกลับกลายเป็นเรื่องที่เขาไม่พอใจจนต้องออกมาฟ้องร้องนายจ้างกันเลยทีเดียว!? เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Odditycentral ได้รายงานว่านาย Frederic Desnard ได้ทำการฟ้องร้องนายจ้างของเขา เนื่องจากนายจ้างปล่อยให้เขาทำงานน้อยเกินไปจนเจ้าตัวรู้สึกเบื่อ ทำให้เกิดสภาวะเครียดและซึมเศร้าตามมา ตามรายงานบอกว่านาย Frederic ได้เข้าทำงานที่บริษัทผลิตน้ำหอม Interparfums อยู่ในประเทศฝรั่งเศส เมื่อช่วงปี 2010 – 2014 แต่กลับไม่มีงานอะไรให้ทำนอกจากงานที่เขาได้รับมอบหมายเท่านั้น ทำให้เขาเกิดอาการซึมเศร้าจนเกิดอาการลมชักขณะขับรถและประสบอุบัติเหตุในที่สุด จากอุบัติเหตุครั้งนั้นทำให้นาย Frederic ต้องพักงานและเข้ารับการรักษายายกว่า 7 เดือน ทำให้บริษัทบอกเลิกจ้างกับเขาเมื่อเดือนกันยายนปี 2015 โดยให้เหตุผลว่าปัญหาสุขภาพของเขาส่งผลต่อการทำงาน นั่นยิ่งทำให้เขาซึมเศร้าเข้าไปอีก แต่ทั้งนี้ทางด้านทนายของบริษัทน้ำหอมได้ออกมาโต้แย้งว่าเหตุผลของนาย Frederic ไม่ค่อยจะสมเหตุสมผลเท่าไหร่ “ถ้าเขาไม่มีอะไรให้ทำตลอด 4 ปี ทำไมบริษัทถึงยังเก็บเขาไว้อีก? และถ้าเขาไม่มีอะไรให้ทำ ทำไมเขาไม่เคยเอ่ยอะไรเลยล่ะ” จากการฟ้องร้องครั้งนั้นทำให้นาย Frederic แพ้คดีและต้องจ่ายค่าเสียหายให้กับบริษัทโทษฐานหมิ่นประมาทเป็นจำนวนเงิน 1,000 ยูโร หรือประมาณ 4 หมื่นบาท …
-
ไข่มุกดำ ‘เปเล่’ ยื่นฟ้องค่าเสียหายจาก ‘Samsung’ กว่า 1,000 ล้าน เหตุเพราะใช้คนหน้าเหมือนมาโฆษณา
เมื่อกล่าวถึงเรื่องฟุตบอลแล้ว ก็คงไม่มีใครไม่รู้จักนักฟุตบอลในตำนานอย่าง ‘ไข่มุกดำ เปเล่’ กันอย่างแน่นอน เพราะชายคนนี้คือเทพเจ้าแห่งฟุตบอลเลยก็ว่าได้ ด้วยฝีเท้าที่สุดยอดการันตีด้วยประตูรวมตลอดอาชีพการค้าแข้งของเขากว่า 1,000 ประตู!! ซึ่งทำให้เค้าคนนี้กลายเป็นมาสค็อตแห่งวงการฟุตบอลไปเลยก็ว่าได้ จึงเป็นที่หมายปองของเหล่าสินค้าแบรนด์ยักษ์ใหญ่ต่างๆ ต้องการตัวเขาไปเป็นพรีเซ็นเตอร์ในการทำโฆษณาที่เกี่ยวกับกีฬาอย่างมากมาย ซึ่งล่าสุดเขาได้ยื่นเรื่องฟ้องต่อศาลเพื่อเรียกค่าเสียหายจากบริษัท Samsung เป็นมูลค่าสูงถึง 1,000 ล้านบาท เหตุผลเพราะโฆษณาของ Samsung ได้มีการใช้คนหน้าเหมือน เปเล่ มาโฆษณาโทรทัศน์ จนทำให้หลายๆ คนเข้าใจผิด เปเล่ได้ระบุว่า ตัวเขาเองและบริษัท Samsung ได้เคยมีโอกาส เจรจาเกี่ยวกับการมาเป็นพรีเซ็นเตอร์โฆษณาโทรทัศน์เมื่อปี 2013 แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถตกลงกันได้ จนดีลล้มไป แต่หลังจากนั้นปรากฎว่าทางด้านของ Samsung ได้ลงภาพโฆษณาโปรโมตโทรทัศน์ Samsung SUHD TV ในหนังสือพิมพ์ New York Times ซึ่งเป็นภาพของชายคนหนึ่งหน้าตาดูคล้ายกับ เปเล่ ประกอบกับแอคชั่นการยิงประตูของนักฟุตบอลอีกคน นี่คือโฉมหน้าของภาพโฆษณาเจ้าปัญหา ซึ่งเปเล่ก็ได้ยืนยันว่านั่นเป็นท่าที่ดัดแปลงมาจากท่ากระโดดเตะ Scissor-kick ที่เขาใช้เป็นประจำในสมัยที่ยังค้าแข้งอยู่ และโฆษณาชิ้นนี้ก็ไม่ได้มีการเอ่ยถึงชื่อของเปเล่แต่อย่างใด ทั้งนี้ในเอกสารการยื่นฟ้องโดยบริษัท…
-
เอาแล้วไง!! ศึกค่ายเพลง Music Bugs ฟ้อง Grammy กับวง Labanoon ละเมิดลิขสิทธิ์
ในแวดวงศิลปินเพลงของบ้านเรามักจะมีข่าวคราวแบบนี้เกิดขึ้นอยู่บ่อยๆ กับการที่ว่าตัวนักร้องหรือวงดนตรีที่ทำการย้ายค่ายเพลงหรือไม่ได้ต่อสัญญากับทางค่าย ก็จะไม่มีสิทธิ์ในการร้องเพลงของตัวเองได้ ถึงแม้จะเป็นคนแต่งเพลงขึ้นมาเองก็ตาม เพราะบริษัทค่ายเพลงยังถือสิทธิ์ครอบครองอยู่ ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้ก็เกิดขึ้นอีกครั้งกับค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ในประเทศไทยอย่าง Grammy ที่โดนทางค่ายเพลงอินดี้ Music Bugs ฟ้องละเมิดลิขสิทธิ์ รวมถึงฟ้องวง Labanoon ที่เคยอยู่ในสังกัดด้วย เนื่องจากทางวงได้นำผลงานเพลงเก่าจากทั้งหมด 7 อัลบั้มด้วยกัน ได้แก่ นมสด, 191, คนตัวดำ, 24 ชั่วโมง, Clear, Keep Rocking และสยามเซ็นเตอร์ นำไปใช้ประกอบการแสดงสดไม่น้อยกว่า 10 เพลงต่อรอบ โดยที่ทาง Music Bugs ยังเป็นผู้ถือครองลิขสิทธิ์และไม่ได้อนุญาตให้นำไปใช้แสดงเพื่อประโยชน์ทางการค้า หลังจากที่วง Labanoon ย้ายค่ายไปอยู่ในสังกัด genie records ของทาง Grammy แล้ว ออกแสดงสดพร้อมกับเล่นเพลงเก่าไม่ต่ำกว่า 250 รอบ จึงทำการเรียกร้องค่าเสียหาย 50 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี…