Tag: ภาพถ่าย

หากถามว่าโรงแรมแห่งไหนดีที่สุดในญี่ปุ่นคงจะตอบได้ยากสักหน่อยเพราะแต่ละคนก็ชอบไม่เหมือนกันใช่ไหมล่ะ? แต่ถ้าถามว่าโรงแรมไหน ใหญ่โต ที่สุดในญี่ปุ่นล่ะก็เราหาคำตอบมาให้เพื่อนๆ แล้ว แถมยังพาไปชมทั้งภายนอกภายในเลยอีกด้วย ชื่อของโรงแรมที่ว่าก็คือ Hachijo Royal Hotel ตั้งอยู่บนเกาะภูเขาไฟห่างไกลจากโตเกียว 300 กิโลเมตร ที่นั่นไม่มีหาดทรายให้เล่น มีแต่น้ำลึกๆ สำหรับให้นักดำน้ำได้ผจญภัยเท่านั้น     แต่น่าเสียดายที่โรงแรมใหญ่โตแบบนี้กลับไม่ยั่งยืน มันถูกปิดและเปิดใหม่อยู่หลายครั้งแต่ก็ไม่สามารถกู้ชื่อเสียงกลับมาได้สำเร็จ กระทั่งในปี 2006 มันถูกปิดอย่างถาวร ปัจจุบัน Hachijo Royal Hotel กลายเป็นโรงแรมร้างที่ยังคงความงดงาม ภายนอกรายล้อมไปด้วยป่าไม้เขียวชอุ่ม ภายในแม้จะผุพังแต่ก็ถูกประดับประดาด้วยแมกไม้ที่เข้ามาแต่งเติมความงามตามธรรมชาติ วันนี้ ช่างภาพ Natalia Sobańska จะพาเพื่อนๆ ทุกคนเข้าไปชมความงามของโรงแรมร้างแสนกว้างใหญ่แห่งนี้กัน ถ้าพร้อมแล้วไปชมกันเลย   . . . . . . . . . . . . . . . . . .   แม้จะถูกทิ้งร้าง…

ราว 50 ปีที่แล้ว ช่างภาพยอดฝีมือนายหนึ่งนามว่า Bruce Davidson เป็นผู้ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากจากภาพถ่ายของเขา ภาพถ่ายผลงานของเขา เป็นภาพที่เน้นสะท้อนมุมหนึ่งของสังคมที่ผู้คนมักมองข้าม เป็นมุมที่เต็มไปด้วยความไม่เท่าเทียมซึ่งเกิดขึ้นอย่างละลานตาในสมัยนั้น Bruce Davidson ได้ฝากผลงานภาพถ่ายเอาไว้มากมาย ซึ่งนอกจากผลงานเหล่านั้นจะแสดงให้เห็นถึงความเป็นอยู่ของผู้คนในสังคมช่วงกลางศตวรรษที่ 20 แล้ว มันยังกลายเป็นสมบัติที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์อีกด้วย หากใครอยากย้อนเวลากลับไปชมภาพบรรยากาศบ้านเมืองช่วง 50 กว่าปีที่แล้ว ก็เชิญไปชมผลงานภาพถ่ายจาก Bruce Davidson กันได้เลย…   1. Beverly Hills, California ปี 1960 Marilyn Monroe และ Arthur Miller (คนขวา) สามีของเธอ ณ โรงแรมเบเวอรีฮิลล์     2. Chicago ปี 1962 บาร์ดนตรีบลูส์ ตอนใต้ของ Chicago   3. Playboy club ปี 1963   4. Chicago, Illinois ปี 1963…

การ์ตูนและแอนิเมชั่นหลายเรื่องได้กลายเป็นที่ชื่นชอบของผู้ชมจนเปรียบได้กับโลกอีกโลกหนึ่งซึ่งเต็มไปด้วยจินตนาการที่ไม่ต้องรับความเครียดและแรงกดดันเหมือนดั่งชีวิตจริง ผู้ที่ชื่นชอบการ์ตูนและแอนิเมชั่นมากๆ บางครั้งก็ไม่อยากให้มันเป็นเพียงโลกจำลองที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยทีมงาน แต่กลับอยากให้มันกลายเป็นโลกที่เราสัมผัสได้จริงๆ เลยต่างหาก ศิลปินรัสเซียนามว่า Vlad Kapichay จึงได้เนรมิตภาพจากแอนิเมชั่นและการ์ตูนหลายๆ เรื่องเข้ามารวมกับโลกแห่งความจริงได้อย่างลงตัวราวกับว่าทั้งสอง “คือโลกเดียวกัน” เลยทีเดียว ว่าแล้วก็ไปชมผลงานของเขากันเลยดีกว่า…   #1   #2   #3   #4   #5   #6   #7   #8   #9   #10   #11   #12   #13   #14   #15   #16   #17   #18   #19   #20   เชื่อว่าแฟนๆ การ์ตูนและแอนิเมชั่นหลายๆ…

หลายต่อหลายคนชื่นชอบเทพนิยายและโลกแห่งจินตนาการ น่าเสียดายที่สิ่งเหล่านี้มีอยู่แค่ในมโนภาพของเราเท่านั้น คนเราไม่อาจสร้างดินแดนมหัศจรรย์อย่างในเทพนิยายได้จริง แต่วิธีหนึ่งที่จะทำให้เราดูเหมือนว่าอยู่ในโลกของเทพนิยายนั่นก็คือ การตัดต่อภาพ ที่สามารถเนรมิตให้เราไปอยู่ในดินแดนแบบไหนก็ได้ตามจินตนาการ แม้ว่าโลกแห่งความจริงเราจะอยู่ที่บ้านก็ตาม Katrina Yu ช่างภาพแนวเหนือธรรมชาติได้ทำการนำพาตัวของเธอเองไปยังโลกแห่งจินตนาการด้วยการตัดต่อภาพถ่ายที่เธอถ่ายขึ้นภายในสวนหลังบ้านของเธอเท่านั้น ว่าแล้วก็ลองไปชมผลงานภาพถ่ายของเธอกันดีกว่า จากภาพถ่ายหลังบ้านกลายเป็นภาพแห่งโลกเทพนิยาย มันจะเนียนและสวยงามขนาดไป ไปชมพร้อมๆ กันเลย…   #1   #2   #3   #4   #5   #6   #7   #8   #9   #10   #11   #12   #13   #14   #15   #16   #17   #18   #19   #20…

กังหันลมสไตล์ดัตช์ พร้อมด้วยทุ่งดอกไม้และวิวทิวทัศน์อันสวยงาม คงจะหาที่ไหนไม่ได้นอกจากในโลโก้ของนมเปรี้ยว เย้ย! ประเทศเนเธอร์แลนด์ยังไงล่ะ โดยเฉพาะในหมู่บ้านกังหันลมที่ชื่อว่า Zaanse Schans (อ่านว่า ซานเซ่อะ-สคานส) นั้นเรียกได้ว่าเป็นแบบฉบับของความงามของหมู้บ้านสไตล์ดัตช์กันเลยทีเดียว แต่งานนี้เราไม่ต้องบินไปชมกันถึงประเทศเนเธอร์แลนด์ก็ได้ เพราะว่าช่างภาพชาวดัตช์นามว่า Albert Dros ได้เก็บภาพถ่ายสวยๆ ด้วยฝีมือของเขามาเผยแพร่ให้พวกเราได้ชมกัน “ผมโชคดีมากที่ไปยังหมู่บ้านทันเวลาตี 5 และได้เก็บภาพเอาไว้ เพราะตอนนั้นมันเหมือนกับผมได้เดินอยู่ในโลกของนิยายเลยล่ะ” Albert กล่าว เอาล่ะ อยากเห็นกันแล้วใช่ไหมล่ะว่าหมู่บ้านกังหันลมจะสวยสดงดงามราวเทพนิยายจริงหรือเปล่า งั้นเราไปชมพร้อมๆ กันเลย!!   1. ช่วงเวลาก่อนอาทิตย์ขึ้นเผยให้เห็นผืนหมอกสีม่วงครามที่โอบห่มกังหันเอาไว้ (โห!!)   2. ทะเลหมอกไล่สีราวหมู่บ้านกังหันลอยอยู่บนโลกเทพนิยายเลยทีเดียว   3. แสงสีชมพูที่เกิดจากแสงอาทิตย์อ่อนๆ ที่สาดทะลุหมอกเข้ามา ทำให้เกิดภาพที่ไม่อยากเชื่อว่านี่คือโลกแห่งความจริง   4. และนี่คือฟาร์มชีสของที่นั่น บรรยากาศแบบนี้ยากนักที่จะได้สัมผัส   5. แสงอาทิตย์ที่เริ่มทอประกายทำให้เกิดแสงออร่ารอบๆ หมู่บ้านกังหันลม   6. นี่คือบ้านที่มีคนอาศัยอยู่จริงๆ  นะ ไม่ได้สร้างขึ้นเพื่อให้คนมาถ่ายรูป (ได้อยู่บ้านที่มีสภาพแวดล้อมงดงามขนาดนี้จะรู้สึกยังไงน้อ?)   7. ภาพราวกับโลกนิยายนี้เกิดจากต้นไม้เก่าแก่ที่มีกังหันลม หมอก และแสงอาทิตย์เป็นพื้นหลัง…

การถ่ายรูป บางครั้งมันก็ง่าย แต่บางทีมันก็ช่างยากเสียเหลือเกิน สถานที่สวยๆ ก็คงง่ายสำหรับการถ่ายภาพ แต่หากเป็นสถานที่ที่แสนธรรมดาจะถ่ายยังไง๊ยังไงก็คงจะได้ภาพธรรมดาๆ ออกมาอยู่ดีใช่ไหมล่ะ? แตกต่างจาก ช่างถ่ายภาพมืออาชีพ ที่ถึงแม้ว่าพวกเขาจะอยู่ในโลเคชันแสนธรรมดา พวกเขาก็ยังสามารถมองเห็นความงานของแต่ละมุมได้อย่างดีเยี่ยม อย่างเช่นช่างภาพฝีมือเยี่ยม Phillip Haumesser คนนี้ ที่ได้ท้าทายตัวเองโดยการให้ลูกค้า “เลือก” สถานที่ด้วยตนเอง จะเป็นที่ไหนก็ได้ แล้วเขาจะพยายามหาความงามจะสถานที่นั้นๆ ให้ได้ ทำแบบนี้แล้วภาพจะออกมาสวยหรือไม่ เราก็คงต้องไปชมผลงานของเขากันเอาเองแล้วล่ะนะ!!   #1 สวยขึ้นมาขนาดนั้นได้ไง!!!   #2 ป่าไร้สีสันแสนธรรมดา   #3 งดงาม   #4 มุมดี แสงได้!   #5 ยอมรับในฝีมือจริงๆ   #6 สวยมาก   #7 การเลือกมุมต่างๆ ก็มีผลเช่นกัน   #8 ครีเอทได้อีก   #9 รอจังหวะแสงสีทอง   #10 เป็นภาพที่สื่ออารมณ์ได้ดีเยี่ยม…

ในปี 2018 นี้ก็ได้มี งานประกวดภาพถ่ายใต้น้ำ ประจำปีไปแล้วเรียบร้อย ด้วยชื่องานว่า Underwater Photographer of the Year Contest และก็ได้มีการประกาศรางวัลชนะเลิศสำหรับภาพถ่ายใต้น้ำมาเรียบร้อยแล้วด้วย ภาพใต้น้ำนั้นเป็นภาพที่ไม่ได้เห็นกันง่ายๆ หรือบ่อยนักในชีวิตประจำวัน บางครั้งอาจเป็นน้ำลึก หรือถ้าเป็นคนที่ว่ายน้ำไม่เป็นด้วยแล้วล่ะก็ คงแทบไม่เคยเห็นความมหัศจรรย์ที่แฝงอยู่ใต้ผืนน้ำเลยใช่ไหมล่ะ วันนี้เราจะพาทุกท่านไปชมภาพถ่ายใต้น้ำอันงดงามดีกรีมืออาชีพที่เข้าประกวดในงานประกวดประจำปี 2018 นี้ รับรองว่านอกจากจะได้เห็นภาพที่ได้รางวัลชนะเลิศแล้ว ยังได้เห็นภาพอื่นๆ ที่สวยงามแบบกินกันไม่ลงอีกด้วย   “Love Birds” โดย Grant Thomas (ชนะเลิศ)   “Breathtaking” โดย Tobias Friedrich   “Morning Flight” โดย Filippo Borghi   “Unusually parked car” โดย Pekka Tuuri   “The Real Illusion” โดย Konstantin Killer   “OCD…

บางครั้งมันก็ยากที่จะบอกว่า ภาพถ่ายบนอินเทอร์เน็ตภาพไหนเป็นของจริงหรือว่าของปลอม เพราะเทคโนโลยีและเครื่องไม้เครื่องมือสมัยนี้ สามารถตัดต่อและแต่งเติมรูปภาพให้ออกมาได้อย่างใจคิด ท่ามกลางภาพตัดต่อที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อความบันเทิงนั้น ก็ยังมีภาพอันงดงามและเหลือเชื่อ ที่ถูกถ่ายจากกล้องแบบเพียวๆ โดยไม่ผ่านการตัดต่อเลยแม้แต่น้อย แต่อาศัยแค่เพียงความคิดสร้างสรรค์ มุมกล้อง จังหวะ และปรากฏการณ์ธรรมชาติเท่านั้น วันนี้เรามาชมภาพเหล่านี้กันเถอะ ถาพที่ถูกถ่ายออกมาราวกับภาพตัดต่อ แต่บอกไว้ก่อนเลยว่า ไม่มีการตัดต่อหรือแก้ไขภาพใดๆ ทั้งสิ้น ไปชมกันเลยย   1. นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคุณสาดน้ำร้อนออกสู่อากาศที่แอนตาร์กติกา   2. เหมือนตัดต่อใช่ไหมล่ะ แต่ลองกลับภาพดูเสียก่อนเถอะ   3. สถานที่ราวกับภาพวาดแห่งนี้คือ เนินทรายในทะเลทรายนามิบ ประเทศนามิเบีย   4. ภาพนี้คือ เกลียวคลื่นหินที่ North Coyote Buttes รัฐแอริโซนา สหรัฐอเมริกา   5. มหัศจรรย์ใช่ไหมล่ะ? ไม่ใช่ภาพตัด แต่เป็นเพียงศิลปะบนพื้นเท่านั้น   6. ถ่ายติดจังหวะที่เจ้ากิ้งก่าดูเหมือนนอนสบายใจเฉิบกับกีต้าร์ใบไม้ของมัน   7. การบูรณะสิ่งก่อสร้างแบบ Hausmannian ในปารีสปี 2007 ภาพที่เห็นไม่ใช่ภาพตัดต่อ แต่เป็นผ้าคลุมตึกที่เอาไว้ปิดบังการบูรณะด้านในต่างหาก  …

โลกของเรานั้นเต็มไปด้วยฉากที่แสนสวยงามมากมาย แต่การที่จะละทิ้งสิ่งที่ทำอยู่ในชีวิตประจำวันเพื่อไปตามหาสิ่งที่สวยงามนั้นก็คงเป็นเรื่องที่ค่อนข้างเป็นไปได้ยากเหลือเกิน ฉะนั้นการนั่งดูรูปภาพเหล่านี้บนอินเตอร์เน็ตก็คงช่วยให้รู้สึกดีขึ้นบ้าง   1. ฤดูดอกวิสทีเรียบานที่ประเทศญี่ปุ่น   2. ห้องโถงหอสมุดในเมืองดับลิน ประเทศไอร์แลนด์   3. ไม้เลื้อยหลากสีบนกำแพงพิพิธภัณฑ์   4. เงาสะท้อนนกกระเต็นในน้ำ   5. นกจาบปีกอ่อนที่สีเหมือนกับขนมสายไหม   6. ลูกเทนนิสที่ลอยอยู่บนอากาศ   7. ท่ามกลางทะเลหมอก ประเทศสวิตเซอร์แลนด์   8. หิมะตกครั้งแรกในฤดูใบไม้ผลิ รัฐแมรี่แลนด์ ประเทศสหรัฐอเมริกา   9. การรีดผ้าสุดงดงาม   10. ภาพถ่ายฟ้าผ่า   11. ศิลปะในจานเพาะเชื้อ   12. แพนเค้กที่ดูเพอร์เฟกต์สุดๆ   13. ครีมที่ม้วนได้เพอร์เฟกต์มากๆ   14. หิมะที่ปั้นเป็นวงกลม ที่ดูกลมสุดๆ   15. ทางช้างเผือกที่อยู่เหนือประภาคาร   16.…

กลายเป็นกระแสไภาพไวรัลสุดน่าตกใจ เมื่อชาวบ้านบริเวณเมือง Blyth ประเทศอังกฤษ ได้ถ่ายภาพสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่รูปร่างคล้ายเรือกำลังลอยสูงอยู่เหนือบ้าน เล่นเอาคนที่เห็นภาพแตกตื่นกันยกใหญ่ เพราะคนที่เห็นและไม่รู้จักพื้นที่บริเวณดังกล่าวนั้น คงคิดว่าเจ้าสิ่งก่อสร้างคล้ายเรือบินในภาพมันกำลังลอยอยู่และอาจจะตกทับบ้านจริงๆ แต่แท้จริงแล้วสิ่งที่เราเห็นในภาพนั้นคือแท่นขุดเจาะน้ำมัน GMS Endeavour ที่สามารถยกตัวขึ้นลงได้นั่นเอง     ด้วยความสูงของแท่นขุดเจาะดังกล่าวและความสามารถในการเลื่อนขึ้นลงของมันนั้น บวกเข้ากับองศาที่ชาวบ้านถ่ายออกมาจึงทำให้เราคิดว่าแท่นขุดเจาะดังกล่าวกำลังลอยอยู่ แท่นขุดเจาะดังกล่าวที่เราเห็นนั้นมีความสูงของเครนอยู่ที่ 70 เมตร โดยตั้งอยู่เหนือทะเลที่มีความลึก 64 เมตรและมีคนงานประจำอยู่ 142 คน ที่สำคัญตัวแท่นขุดเจาะดังกล่าวนั้นก็อยู่ห่างไกลจากชายฝั่งของเมือง Blyth สุดๆ   ยิ่งดูมุมแบบนี้ยิ่งเหมือนมันอยู่ใกล้ๆ เลย   เพียงแต่ด้วยองศาและช่วงเวลาประจวบเหมาะกับการที่แท่นขุดเจาะยกตัวเองขึ้นสูงสุด ทำให้เราเห็นเหมือนแท่นขุดนั้นอยู่เหนือบ้านและใกล้เหลือเกิน อย่างไรก็ตาม แม้เราจะรู้กันแล้วว่ามันไม่ใช่เรือจริงๆ และเป็นเพียงแค่มุมกล้อง แต่ภาพที่เราเห็นก็เรียกว่าน่าประหลาดใจไม่น้อยเลยทีเดียว…ก็แน่สิ แท่นขุดเจาะที่ว่าดันสร้างมารูปทรงเหมือนเรือสุดๆ     ที่มา dailymail

ช่วงจังหวะชีวิตของคนเรานั้น ไม่อาจคาดเดาได้อย่างแม่นยำ แม้โลกนี้จะมีหมอเดา หมอดูที่ว่าแม่นแค่ไหน ก็ยังไม่ตรงกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับเราในจังหวะตอนนั้นเลย… ยิ่งในเรื่องของดวงความรักก็ยิ่งไปใหญ่ อาจจะเฝ้าเพ้อฝันถึงคู่แท้ เจ็บมานักต่อนักก็ยังไม่เจอเสียที จนรู้สึกเข็ดและขยาดไปในที่สุด แต่ว่าถ้าหากทุกอย่างมันลงตัว ในเวลาที่ใช่ ต่อให้ห่างไกลกันแค่ไหนก็จะกลับมาคู่กันอยู่ดี อย่างเช่น 8 เหตุการณ์ดังต่อไปนี้ ระหว่างจะเกิดอาการอิจฉาล่ะ…   1. ภาพจากคุณ pcsbor จากเว็บไซต์ Reddit (ชายคนด้านซ้ายของภาพ) ที่อยู่ในเฟรมเดียวกันกับครอบครัวเจ้าสาวในอนาคต ณ เมืองรีโอเดจาเนโร ในปี 1985 เป็นภาพในช่วงเวลา 7 ปี ก่อนที่เขาจะได้มาพานพบกับศรีภรรยา   2. สาวน้อย Donna ทางด้านขวา และเด็กชาย Alex ผู้ที่อยู่ในรถเข็นด้านหลัง หลายสิบปีต่อมา ในช่วงเพียงหนึ่งสัปดาห์ก่อนแต่ง Donna และ Alex Voutsinas เพิ่งจะรู้ว่านี่มันเป็นเรื่องบังเอิญชัดๆ โดยที่ทั้งคู่ก็ไม่ได้อยู่ประเทศเดียวกันในช่วงปี 1980 ด้วย   3. คู่รักชาวอังกฤษ Aimee Maiden…

หลายๆ เรื่องราวที่ผ่านเข้ามาในชีวิตแม้ว่าจะไม่ใช่เรื่องที่เราต้องเจอมันด้วยตัวเอง แต่มันกลับสามารถทำให้เราเข้าถึงอารมณ์ของคนที่ไปเจอมาได้เป็นอย่างดี และภาพเหล่านี้คงถือว่าเป็นตัวอย่างที่ดีที่จะทำให้คุณรู้สึกอย่างนั้น ทั้งหมดนี้คือภาพที่สามารถสะท้อนถึงอารมณ์และความรู้สึกของผู้ที่ถ่ายมันเก็บเอาไว้ได้เป็นอย่างดี เรื่องราวของพวกเขาเหล่านี้บอกถึงหลายๆ สิ่งที่เกิดขึ้นมาในความคิด ก่อนที่มันจะเข้าไปสัมผัสถึงส่วนลึกของหัวใจของทุกคนที่พบเห็น ให้พวกเราได้รู้สึกอินกับมันอย่างบอกไม่ถูก เราลองไปชมภาพเหล่านั้นกันเลย   1. มีคนไปตัดต้นไม้ซึ่งเป็นบ้านของเจ้ากระรอกตัวนี้ เมื่อมันกลับมาบ้านจึงไม่เข้าใจว่า เกิดอะไรขึ้นกับแหล่งที่พักอาศัยเดียวของมัน   2. ดอกไม้ที่วางทิ้งไว้ เพราะคนที่เขารออยู่ไม่ได้เดินทางมาตามนัด   3. เจ้าหมาตัวนี้กำลังจะบริจาคเลือดให้กับลูกสุนัขที่กำลังป่วยอยู่ มันยังคงมีอาการหวาดกลัวอยู่บ้าง มันจึงนำของเล่นชิ้นโปรดมาทำให้รู้สึกดีขึ้น   4. คุณปู่ผู้รอดชีวิตจากสงครามนิวเคลียร์ ยืนวันทยหัตถ์ให้กับหลานชายที่จบการฝึกทหารอิสราเอลมาได้อย่างภาคภูมิใจ ซึ่งนี่คือช่วงเวลา 70 ปี หลังจากที่เขาถูกปล่อยตัวออกมาจากค่ายกักกัน   5. เจ้าหมากับความตื่นเต้นของมันเมื่อเจ้าของกลับมาบ้านหลังจากวันหยุดยาว ทำให้มันถึงกับวิ่งไปฉี่ราดไป   6. ชายชรานั่งกินข้าวอยู่ในร้าน พร้อมกับรูปภรรยาของเขาที่วางอยู่บนโต๊ะ   7. สัตวแพทย์ติดป้ายบอกทุกคนว่า เมื่อไหร่ที่เทียนเล่มนี้ถูกจุด แสดงว่ามีคนกำลังสูญเสียเพื่อนที่แสนสำคัญไป และหวังว่าผู้มาใช้บริการทุกคนจะช่วยให้คนคนนั้นผ่านเรื่องราวอันเลวร้ายนี้ไปได้อย่างสงบ   8. เจ้าหมาดูเศร้าหมองเป็นอย่างมาก หลังจากที่มันต้องใส่กรวยเอาไว้ แต่อย่างน้อยมันก็คงรับรู้ได้ถึงกำลังใจเล็กๆ จากเด็กน้อยคนนี้   9. ภาพสุดสะเทือนใจที่นักดับเพลิงคนหนึ่งบอกว่า…

บางคนอาจรู้สึกว่าบนโลกที่เราอาศัยอยู่เต็มไปด้วยเรื่องราวอันแสนโหดร้าย จนทำให้มองข้ามความสวยงามหลายๆ สิ่ง ซึ่งความจริงแล้วนั้นมันอาจทำให้มุมมองชีวิตของเราเปลี่ยนไปได้อย่างไม่น่าเชื่อเลยทีเดียว และนี่คือภาพที่เผยให้เห็นถึงความสวยงามที่มาพิสูน์ให้ทุกคนเข้าใจว่า วันอันแสนธรรมดาของเราอาจสดใสขึ้นมาได้หากคุณได้มาเจอกับอะไรแบบนี้ เราลองไปชมความสวยงามที่มีอยู่ทั่วทุกแห่งบนโลกของเรากันเลย   เส้นทางเดิมที่ขับไปทำงานทุกวัน อาจไม่ได้ทำให้เรารู้สึกเบื่อหน่ายเสมอไป   การมาผ่อนคลายอาจทำให้คุณได้เห็นอะไรที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน   ผลงานของศิลปินที่ช่วยแต่งแต้มรอยยิ้ม ให้กับทุกคนที่ได้มาพบเห็น   รอยแตกอันน่าประทับใจบนพื้นน้ำแข็ง ดูเหมือนแย่แต่เป็นมุมมองที่ดี   ขณะที่จอดไฟแดงอยู่ หากลองแหงนมองขึ้นไปคุณอาจได้เจอกับอะไรแบบนี้ก็ได้   ยิ่งระยะเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ ความสวยงามของมันก็จะะยิ่งเพิ่มขึ้นมากเท่านั้น   ถนนที่เปียกปอนเพราะเม็ดฝน กับแสงไฟบนสะพานที่กลายเป็นความโดดเด่น ติดตาตรึงใจ   แค่แหงนหน้ามองฟ้า ซึมซับความสวยงามของมันเอาไว้   ความบังเอิญของชายคนหนึ่งที่เปิดรูรับแสงค้างไว้เพื่อจะถ่ายหมู่ดาว แล้วเขาก็ได้ลำแสงจากเครื่องบินกลับมาเป็นที่ระลึก   ภาพถ่ายคุณพ่อที่ลาออกจากงานไปเพียงหนึ่งปี เขามีงานอดิเรกเป็นการถ่ายภาพ และนี่คือสิ่งที่เขาได้รับจากงานอดิเรกนั้น   นี่อาจเป็นเพียงภาพถ่ายของกินและวิวทิวทัศน์ธรรมดา แต่ลองถามตัวเราเองว่าเราเคยได้ลองสัมผัสบรรยากาศในลักษณะนี้กันแล้วหรือยัง   แสงที่ลอดผ่านหน้าต่างโบสถ์เข้ามา ทำให้รู้สึกอิ่มเอมใจอยู่เสมอ   พวกเรามีโอกาสได้เห็นความสวยงามอยู่เสมอ ขึ้นอยู่ว่าเราเคยพยายามที่จะสังเกตสิ่งเหล่านั้นกันอยู่หรือไม่   ความพยายามกว่า 8 ชั่วโมงของคนคนหนึ่ง ที่ถึงแม้ว่ามันจะยากลำบากมากเพียงใด แต่นั่นไม่ได้แปลว่าเขาจะไม่ประสบความสำเร็จ   เงาสะท้อนกับภาพที่เหมือนว่าเขากำลังล่องลอยไปในอวกาศ…

การได้เป็นแม่คนคือสิ่งที่ผู้หญิงหลายๆ คนใฝ่ฝันอยากจะไปให้ถึงจุดนั้น บางคนอาจกำลังเตรียมพร้อมที่จะให้กำเนิดลูกน้อย ต้องอดทนต่อความเจ็บปวดอย่างยาวนานถึง 9 เดือนในการอุ้มท้องหนึ่งชีวิตที่จะได้ตื่นลืมตาขึ้นมา แต่หลังจากมรสุมชีวิตเหล่านั้น สุดท้ายแล้วทุกอย่างก็จะกลายเป็นความสวยงามเหมือนกับภาพถ่ายเหล่านี้ นี่คือชุดภาพผลงานของศิลปินช่างกล้องชาวแคนาดา Trina Cary เธอได้รวบรวมหญิงสาวจำนวน 14 คนที่มีทั้งเพื่อนและคนแปลกหน้า มาช่วยกันถ่ายทอดความงดงามของการเป็นแม่และลูกน้อย ณ ริมชายฝั่ง Sunshine Coast ประเทศออสเตรเลีย   คุณแม่และลูกๆ ที่กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของความสวยงาม .   ในตอนแรก Trina ตั้งใจจะถ่ายหญิงสาวทุกคนสวมใส่เครื่องแต่งกายตามปกติ แล้วก็ให้นมลูกกันใต้แสงจันทร์ที่กำลังเต็มดวง ทว่าเมฆหมอกกลับบดบังแสงดังกล่าวจนทำให้ไม่เป็นไปดั่งใจหวัง ถึงอย่างนั้นเธอและนางแบบทุกคนก็ไม่ยอมแพ้ พยายามถ่ายทำเพื่อเผยให้เห็นความงดงามที่ต้องการจะสื่อออกมาให้ได้มากที่สุด จนกระทั่งคุณแม่คนหนึ่งเอ่ยปากถาม Trina ว่า เธอขอเปลือยกายได้หรือไม่ แล้วนั่นก็กลายเป็นจุดเริ่มต้นของความสวยงามที่แท้จริง   คุณแม่คนหนึ่งเกิดความคิดที่จะเปลือยกายขณะถ่ายภาพ   คุณแม่คนอื่นๆ หันไปทำตามวิธีการของผู้หญิงคนนั้น พวกเธอเลือกที่จะถอดเสื้อผ้า พร้อมกับให้นมลูกๆ ที่น่ารักไปด้วย ทำให้เราสามารถมองเห็นความปีติยินดีอันเปี่ยมล้นของพวกเธอซึ่งถ่ายทอดออกมาอย่างลึกซึ้ง     Trina ถึงกับบอกว่า “ฉันไม่สามารถหุบยิ้มลงได้เลย ฉันชอบเวลาที่ได้เห็นคนแปลกหน้าหลายๆ คนมารวมตัวกัน สนับสนุนเรื่องราวและเรือนร่างของกันและกัน นั่นจึงทำให้ช่วงเย็นของวันถ่ายทำกลายเป็นช่วงเวลาที่สามารถซึมซับได้ถึงความมีพลัง…

ในยุคที่คนไม่ได้มีรถยนต์ขับกันทุกบ้านอย่างปัจจุบันนี้ เพื่อนๆ สงสัยกันบ้างรึเปล่าว่าบรรยากาศในรถจะเป็นไปอย่างไร จะเต็มไปด้วยความเครียดจากรถติดแบบทุกวันนี้หรือไม่ สำหรับคนที่สงสัย วันนี้ช่างภาพ Mike Mandel ผู้ที่โตใน Los Angeles รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ก็ได้เปิดเผยภาพบรรยากาศในรถของยุค 70 มาให้เราได้ชมกัน เขาเป็นเด็กยุค 50 ที่สามารถเดินไปไหนก็ได้ที่เขาอยากไม่ว่าจะไปโรงเรียน ไปเก็บหินเล่น หรือไปจับกิ้งก่า โดยที่ยังไม่เห็นความสำคัญของรถยนต์และพอมายุค 70 เขาก็ตระหนักได้ว่ารถยนต์มันสำคัญต่อชีวิตคนอย่างไร เขาจึงได้เริ่มถ่ายรูปของประชาชนแคลิฟอร์เนียที่อยู่ในรถยนต์     “ในตอนบ่ายแก่ๆ ที่แสงแดดสาดไปทางตะวันตก ผมมักไปประจำอยู่ตรงมุมของถนน Victory Blvd และ Coldwater Canyon Ave ซึ่งมันอยู่ใกล้บ้านผม ผมจึงเดินไปได้ง่ายๆ ผมใช้กล้อง 35 มม.กับเลนส์ไวด์ 28 มม. ซึ่งผมต้องเข้าไปใกล้ๆ กับหน้าต่างรถถึงจะได้รูปออกมา” “ซึ่งรูปที่ผมได้ออกมาก็มีหลายอารมณ์ไม่ว่าจะเป็นประหลาดใจ ตลกขบขัน หรืออาจจะรำคาญผม ซึ่งมันตรงกันข้ามกับสมัยนี้เลย สมัยก่อนเมื่อเห็นกล้องผู้คนจะเพลิดเพลินไปกับช่วงเวลาที่สนุกสนานกับมัน” ภาพถ่ายที่เขาถ่ายออกมาจะเป็นอย่างไรบ้าง เราไปชมกันเลยครับ   แฮร่!! .…

Reuben Wu ผู้หลงใหลในการถ่ายภาพและตั้งเป้าว่าอยากจะมีโดรนเป็นของตัวเองสักตัว จนสุดท้ายเมื่อฝันของเขาเป็นจริง เขาจึงนำมันมารวมกับฝีมือการถ่ายจนเกิดเป็นภาพสุดประทับใจ Reuben เล่าว่า “ผมเคยวาดฝันว่าอยากจะมีโดรนเป็นของตัวเองสักตัว จนกระทั่งปี 2014 ผมก็มีโอกาสที่จะมีโดรนเป็นตัวแรกในชีวิต ซึ่งสิ่งที่ทำให้ผมอยากได้มันก็เพราะวัยเด็กผมเคยคิดว่าถ้าเรามีกล้องที่บินไปไหนมาได้มันก็คงจะดี เราจะได้เห็นวิวทิวทัศน์มุมสูง” หลังจากเขาฝึกใช้มันจนชำนาญ มันก็ถึงเวลาแล้วที่เขาจะสร้างโปรเจกต์ภาพเจ๋งๆ สักชุดหนึ่ง โดยงานชุดที่เราจะนำเสนอนั้นมีชื่อว่า Lux Noctis ซึ่งเป็นงานที่เจ้าตัวเริ่มทำมาตั้งแต่ปี 2016 แล้วนั่นเอง     เขาใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเซตสถานที่ รอเวลา และเดินทางไปยังพื้นที่ต่างๆ ทั้งหุบเขา ทะเลทรายและสถานที่อื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนี้เขาได้ติดแสงไฟแบบต่างๆ ไว้ที่ตัวโดรนและใช้เทคนิคเฉพาะในการถ่าย ซึ่งเมื่อทุกอย่างมันลงตัวก็ทำให้เขาได้ภาพเป็นวงแหวนสุดสวยงามรอบภูเขา ยิ่งไปกว่านั้น งานภาพของเขาก็ไม่ได้ถ่ายมาโชว์เฉยๆ แต่อย่างใด ทว่าภาพของเขาได้ชนะการประกวด PDN’s Photo Annual 2017 ด้วยนะ ซึ่งถ้าใครอยากเห็นภาพประกวดของเขาก็สามารถเข้าไปดูได้ที่ลิ้งก์ข้างๆ นี้เลย shutterloveonline   .   เหมือนหลุดมาจากหนังไซไฟ หรือไม่ก็แฟนตาซีเลยว่าไหม   เทคนิคเรื่องการจัดแสงของเขาเรียกว่าไม่ธรรมดาเลยทีเดียว .   แม้จะไม่ใช้โดรนมาสร้างเอฟเฟกต์เพิ่มเติม…

ความบังเอิญสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ซึ่งบางครั้งก็อาจจะเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่เราไม่ได้ใส่ใจ ทำให้หลายๆ คนก็เลือกจะปล่อยผ่านความบังเอิญที่เกิดขึ้นนั้นไป แต่สำหรับศิลปินชาวนอร์เวย์อย่าง Pau Buscato แล้ว เขาไม่ยอมปล่อยผ่านเรื่องบังเอิญเหล่านั้น และเลือกที่จะเก็บภาพมันเอาไว้ พร้อมกับสร้างเป็นโปรเจกต์สุดเจ๋ง พร้อมกับตั้งชื่อผลงานนี้เอาไว้ว่า ‘Hopscotch‘ ซึ่ง Pau ได้อธิบายเอาไว้ว่า “‘Hopscotch’ เป็นสิ่งที่ผมไม่ได้วางแผนเอาไว้ สิ่งที่ผมทำก็แค่เดินไปตามท้องถนนพร้อมกับกล้องหนึ่งตัว ไม่ได้วางธีมอะไรไว้ทั้งนั้น เดินไปเจออะไรก็ถ่ายมาหมด ภาพแต่ละภาพก็จะสื่อถึงตัวของผมเองที่มีความขี้เล่น แถมง่ายๆ นี่แหละคือชีวิตของผมเลย”     “การเปิดใจรับสิ่งต่างๆ ทำให้เราได้มองสิ่งรอบตัวที่เราอาจจะเคยคิดว่ามันธรรมดา กลายเป็นมองลึกลงไปไม่ใช่เพียงแค่แต่ละอย่างมันคืออะไร แต่ทำให้รู้สึกว่ามันจะเป็นอย่างไรหากมันกลายมาเป็นภาพถ่าย” “ความท้าทายของการทำเรื่องต่างๆ ให้เป็นเรื่องง่าย ค่อยเป็นค่อยไป ก็คือมันจะทำให้เรารู้สึกคล้ายกับว่ากำลังหลงทาง ไม่รู้จะทำอย่างไร หรือจะไปทางไหนต่อดี เพราะเรามักจะเคยชินกับการวางแผนทำอะไรมาแล้วในแต่ละวัน แต่ผมก็รู้สึกชอบกับผลงานนี้มากกว่านะเพราะมันให้ความรู้สึกเหมือนกับกำลังออกไปผจญภัยมากกว่า” Pau เล่าเสริม   อย่าเอาสีรถไป!!   ผลงานส่วนใหญ่ของ Pau นั้นจะถูกถ่ายทำขึ้นขณะที่เขาไปเที่ยวใน UK, US, India และอีกหลายประเทศมากมาย “มันคือเกมสำหรับผม เมื่อเราโตขึ้นมาความสนุกเหมือนตอนเด็กๆ มันได้หายไป แต่ตอนนี้มันทำให้ผมกลับไปรู้สึกแบบเดิมอีกครั้ง ทำให้รู้สึกว่า เมืองใหญ่ๆ…

ในปี 1861 การถ่ายภาพได้พัฒนาขึ้นไปอีกระดับจากภาพถ่ายแบบขาวดำเปลี่ยนไปเป็นการถ่ายภาพสี ทำให้มีภาพถ่ายที่บ่งบอกความเป็นอยู่ของคนในสมัยนั้นได้เป็นอย่างดี แต่การถ่ายภาพสีไม่ค่อยได้รับความนิยมเท่าไหร่นักจนกระทั่งถึงกลางทศวรรษ 1900 ถึงแม้ว่าการถ่ายภาพในสมัยนั้นไม่ค่อยจะได้รับความนิยมสักเท่าไหร่ แต่ช่างภาพชาวอเมริกันหลายๆ คนก็ได้ทำการบันทึกภาพของแต่ละสถานที่เอาไว้ เพื่อให้คนรุ่นหลังได้รำลึกถึงความเป้นไปของแต่ละสถานที่ และนี่คือภาพถ่ายภาพสีของแต่ละรัฐในสหรัฐอเมริกาในอดีต   ภาพจากหน้าต่างรถไฟ รัฐแอริโซนา ปี 1943   ภาพจากกองทัพสหรัฐอเมริกาบนเหนือรัฐแคลิฟอร์เนีย ปี 1943   ภาพทางตะวันตกเฉียงใต้ของรัฐโคโรลาโด ปี 1940   รัฐคอนเนคติคัท ปี 1940 งานประมูลฟาร์ม   รัฐฟลอริดา ปี 1944 เรือตอร์ปิโด   สุสานที่รัฐจอร์เจีย ระหว่างปี 1935-1960   ภาพเรือรบที่รัฐฮาวาย ปี 1943   ภาพหญิงสาวนั่งผ่อนคลายในสระเป่าลมในรัฐอิลลินอยส์ ปี 1954   ฟาร์มยาสูบที่รัฐเคนทักกี้ ปี 1940   ไร่มันฝรั่งที่รัฐเมน ปี 1940  …

การเป็นช่างภาพ จังหวะเสี้ยววินาทีมีความสำคัญมากขนาดที่จะสามารถเปลี่ยนโลกได้ทั้งใบ เราจึงสามารถเห็นตากล้องพกพาเครื่องมือถ่ายภาพคู่ใจของเขาไปในทุกๆ ที่ เพราะเสี้ยววินาทีที่เหมาะแก่การกดชัตเตอร์นั้นอาจจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ได้ Pau Buscató เป็นตากล้องที่จับภาพเหตุการณ์ความบังเอิญในเมืองออสโล ประเทศนอร์เวย์มาเป็นเวลากว่าแปดปีแล้ว เขาเรียกภาพชุดนี้ว่า Hopscotch ตามชื่อของการละเล่นของเด็กๆ เพราะสำหรับ Buscató การถ่ายภาพช่วงเวลาที่ตรงไปตรงมาเหล่านี้ มันก็เหมือนกับการละเล่นที่เขาทำอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่เดินอยู่ในความจำเจของชีวิตประจำวัน     Buscató กล่าวว่า “วิธีที่ผมชอบใช้ในการถ่ายภาพบนท้องถนนนั้น ไม่เหมาะที่จะทำเป็นโครงการใหญ่ๆ เพราะผมไม่ต้องการการจำกัดวิสัยทัศน์ของตัวเอง ให้มันแคบลงไปด้วยธีมใดธีมหนึ่ง แต่อยากให้มันให้เปิดกว้างสำหรับทุกสิ่งที่ผมอาจสนใจมากกว่า”   ภาพที่ราวกับมือที่โอบกอดขยะ   “มันเป็นการทำงานที่ง่ายมาก ผมต้องการเพียงความเชื่อมั่นในสัญชาตญาณ และการที่จะไม่จำกัด ตัวเองกับความคิดเรื่องความต้องการของลูกค้าหรือธีม ถ้ามันดูซ้ำกันไปบ้างก็เพราะทุกอย่างมาจากสถานที่เดียวกัน มันเป็นความตรงไปตรงมา ความคิดสร้างสรรค์ การสังเกตการณ์อย่างสนุกสนาน และความตั้งใจ ที่จะทำให้มิติที่ไม่สมเหตุสมผลเหล่านั้น สามารถผสมผสานเข้ากับโลกธรรมดาของเราได้” Buscató อธิบายการทำงานของเขา   ลูกศรที่เกิดจากไม้เท้า   ความโค้งงอของที่กั้นทางเดิน   เจ้าหมาหน้าก๊อก   ราวกับสีที่รถถูกขโมยออกไป   คนกางร่มในเงาคนกางร่ม   เหมือนกับว่าโดนยกเท้าหนีเลย   ทั้งรอยขาดและนกตัวจริง อะไรจะเป๊ะ ได้ปานนั้น   ที่มา sobadsogood

จินตนาการนั้นอยู่เหนือทุกสิ่งจริงๆ ศิลปินชื่อว่า Donal Murphy จึงเกิดความคิดขึ้นมาว่า หากเราสามารถอ่านสภาพอากาศได้จะเป็นอย่างไร? จากความคิดดังกล่าว เขาจึงได้สร้างผลงานศิลปะเชิงนามธรรมของเขาที่ชื่อว่า An Alphabet ขึ้นมา An Alphabet ที่แปลว่า “ตัวอักษร” นั้นมาจากการที่ Murphy จินตนาการถึง สภาพอากาศในแต่ละสถานที่ ถ้าหากว่ามันสามารถสื่อสารออกมาได้จะเป็นอย่างไร เขาจึงเนรมิตภาพถ่ายธรรมดา ให้กลายเป็นภาพบรรยากาศที่มีวัตถุประหลาดๆ ล่องลอยอยู่ และนั่นก็คือ ตัวอักษร ที่สภาพอากาศต้องการสื่อสารกับเรานั่นเอง ผลงานของเขาจะสวยงาม เท่ มีเอกลักษณ์ และเปี่ยมไปด้วยจินตนาการขนาดไหนนั้น ขอเชิญทุกท่านไปรับชมกันได้เลย…   #1   #2   #3   #4   #5   #6   #7   #8   อาร์ตสุดๆ ทำให้เรามองว่าธรรมชาติ อย่างเช่นสภาพอากาศนั้น ดูเหมือนมีชีวิตจิตใจยังไงอย่างงั้น ที่มา: Booooooom และ Donalmurphyart

เคยคิดกันไหมว่าในภาพถ่ายที่เราดูกันอยู่ทุกวันนี้ มันจะมีอะไรเหนือจินตนาการใส่เข้าไปได้อีกหรือไม่ และถ้าคิดจะทำแบบนั้น เราจะจินตนาการตัวอะไรแบบไหนใส่เข้าไปดี สัตว์ประหลาดทำลายล้างเหรอ หรือว่าจะเป็นอะไรเล็กๆ น้อยๆ อย่างหนวดคน หรือพรมวิเศษ Hakan Keleş เป็็น สถาปนิก นักวิชาการ และนักวาดภาพชาวตุรกี เขาเริ่มวาดตัวละครตัวใหญ่ๆ บนภาพถ่ายถนนที่เขาถ่ายด้วยสมาร์ตโฟน งานของเขามีชื่อว่า “Lilliputs ซีรีส์” ชื่อที่ได้แรงบันดาลใจมากจากนิทาน “การเดินทางของกัลลิเวอร์” ในช่วงเมืองของคนแคระ แต่ในที่นี้ คนธรรมดานั่นล่ะคือคนแคระ   ฉันนั่งตกคาร์ (Car) อยู่ริมตลิ่ง   ไม่อยากให้ใครเข้า เดี๋ยวปู่ช่วยเอง   ของเล่นของเด็กเล็ก?   ดีดๆ ไประวังโดนช็อตด้วยนะ   ปรุงยาๆ ที่แท้ปูนก็เป็นยาพิษของแม่มดนี่เอง   มาจีบอะไรกันแถวนี้ล่ะพี่   นั่งแล้วหักแบบนี้ ก้นหนักอ่ะนิ   ถ้าผึ้งตัวขนาดนั้นจริง… ตายแป๊ป   ไปล้างตึกมาเหรอ   พิงได้แต่ระวังตึกพังนะ   สบายเลยนะเจ้าหมา   หว่า… แอบน่ากลัว   บุหรี่มันอันตรายนะ  …

ภาพถ่ายบุคคลของคุณ Haris Nukem ช่างภาพชาวอังกฤษ ที่มีความโดดเด่นและทำให้เราสัมผัสได้ถึงอารมณ์ของความมืดมนและดูหลอนๆ เหมือนกับกำลังดูหนังสยองขวัญอยู่ซักเรื่องเลยทีเดียว ภาพของสาวๆ ที่มาพร้อมกับรอยเลือดและรอยแผลบนร่างกายของพวกเธอที่เต็มไปด้วยความปวดร้าวและความกลัว คือหนึ่งในเอกลักษณ์ของผลงานภาพถ่ายจากช่างภาพชาวอังกฤษผู้นี้     รอยสักและโทนสีของภาพ ที่ให้ความรู้สึกหลอนๆ   “สำหรับผม การประสบความสำเร็จคือการทำในสิ่งที่คุณอยากทำ จุดมุ่งหมายของผมคือการสร้างผลงานที่ทำให้ผู้คนมีความรู้สึกกับมัน และจากนั้นก็พูดถึงมัน” ช่างภาพหนุ่มให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับผลงานของเขา และวันนี้เราก็มีผลงานการถ่ายภาพบุคคลของคุณ Haris บางส่วนมาให้ได้ชมกัน ผลงานที่เรานำมาฝากกันในวันนี้เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในผลงานที่ช่างภาพหนุ่มชาวอังกฤษผู้นี้มีความเต็มใจที่จะนำเสนออย่างมาก ส่วนจะเป็นอย่างไรกันบ้างนั้นไปชมกันได้เลย…     ภาพของหญิงสาวและเรือนร่างของพวกเธอ ที่ถูกถ่ายทอดออกมาถึงความลึกลับและน่าหลงใหลในเวลาเดียวกัน . . . .   ภาพถ่ายแต่ละภาพชวนให้เราคิดว่ากำลังชมหนังสยองขวัญอยู่ซักเรื่องเลยทีเดียว . . . . .   ทั้งรอยแผลและคราบเลือดที่อยู่บนตัวนางแบบ ช่วยสื่ออารมณ์ในคอนเซ็ปต์ของผลงานออกมาได้เป็นอย่างดี .   และถ้าหากใครอยากชมผลงานภาพถ่ายของคุณ Haris เพิ่มเติมล่ะก็ สามารถเข้าไปชมกันต่อได้ที่เว็บไซต์ harisnukem หรืออินสตราแกรม harisnukem ของเขาได้เลย…   ที่มา sobadsogood

ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนก็ตาม ถ้ามีความสามารถหรือเทคนิคในการถ่ายภาพ คุณอาจะเปลี่ยนสถานที่ที่น่าเบื่อแห่งนั้นให้กลายเป็นภาพที่สวยงามอย่างน่าประทับใจได้เลยทีเดียว ซึ่งผู้ใช้เฟซบุ๊กท่านหนึ่งที่เป็นช่างภาพนามว่า Adam Delane ได้ถ่ายภาพและโพสต์ลงเฟซบุ๊กของเขาว่า “ใช่แล้วล่ะ พวกเราไปถ่ายรูปกันข้างในห้างฯ Hobby Lobby จริงๆ” อัลบั้มภาพถ่ายจากสถานการณ์ธรรมดาๆ ที่กลายเป็นภาพสุดอลังการของเขาก็ได้มีการแชร์ต่อไปถึงกว่า 3 แสนครั้ง และมียอดแสดงความคิดเห็นกว่า 7 หมื่นความเห็น ว่าแล้วก็ไปดูความสามารถของเขาที่เปลี่ยนจากห้างฯ Hobby Lobby ที่แสนธรรมดาให้กลายเป็นสตูดิโอถ่ายภาพอย่างมืออาชีพกันเลย   โอ้โห!! ปังอะไรขนาดนี้ ราวกับว่ามีออร่า   เบื้องหลัง   สาวสวยกับดอกกุหลาบภายใต้แสงอาทิตย์เบาๆ   เบื้องหลัง   ราวกับว่าอยู่ในสวนอะไรสักอย่าง   เบื้องหลัง   ยังกับภาพพรีเวดดิ้ง   เบื้องหลัง   นี่อยู่ในทุ่งทานตะวันกันรึเปล่านะ   เบื้องหลัง อ้าว ที่เดียวกับรูปแรกเลย   ดอกไม้เต็มไปหมด ช่างสวยงามเหลือเกิน   เบื้องหลัง   ยังกับอยู่ใน MV…

ภาพของเหล่าทหารเยอรมันที่กำลังพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล และภาพของเด็กๆ ที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ เป็นภาพถ่ายสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 จากฝีมือของ Käthe Buchler ช่างภาพสาวชาวเยอรมัน ช่างภาพของเราได้บันทึกภาพต่างๆ ในช่วงเวลานั้น พร้อมกับให้ความหมายของภาพถ่ายเธอว่า “นี่คือความดื้อรั้นของพลเรือนชั้นกลาง”     ตามมาด้วยภาพของเหล่าทหารที่กำลังดื่มชา หรือพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลเหล่าที่ช่วยย้ำเตือนถึงเหตุการณ์ต่างๆ ที่ผ่านมาได้เป็นอย่างดี โดยผลงานของช่างภาพสาวรายนี้ ถูกถ่ายด้วยฟิล์มแบบขาวดำทั้งหมด ซึ่งเธอตั้งชื่อผลงานชุดนี้ว่า Beyond the Battlefields และถูกเก็บไว้ที่พิพิธภัณฑ์ภาพถ่ายในเมืองเบราน์ชไวก์ ประเทศเยอรมัน     ชุดภาพถ่ายดังกล่าวถูกแสดงในนิทรรศการการท่องเที่ยว ที่พิพิธภัณฑ์และหอศิลป์ Birmingham ประเทศอังกฤษระหว่างวันที่ 20 ตุลาคม 2017 ถึง 14 มกราคม 2018 ที่ผ่านมา   ภาพของพยาบาลสาวและทหารที่ได้รับบาดเจ็บจากสงครามโลกครั้งที่ 1 . .   เด็กๆ ในสถานพยาบาล ระหว่างช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1   ภาพถ่ายของ Käthe Buchler ที่เผยให้เห็นอีกมุมหนึ่งของสงครามได้เป็นอย่างดี . .   ภาพของเด็กชายชาวเยอรมันในช่วงสงครามโลกครั้งที่…

ภาพถ่ายธรรมชาติที่สวยงาม คงจะเป็นสิ่งที่ช่วยกล่อมเกลาจิตใจ และผ่อนคลายสมองของเราได้ดีเลยใช่ไหมล่ะครับ ดังนั้นเราจึงเห็นภาพเหล่านั้นเกลื่อนกลาดไปหมด แต่ถ้าหากใครกำลังเบื่อๆ กับภาพธรรมชาติที่แสนธรรมดาแบบนั้นล่ะก็ บทความนี้จะนำความยุ่งเหยิงมาให้สมองของผู้ชมเองครับ เพราะว่าภาพที่จะนำมาให้ชมกัน เป็นภาพที่ดูแล้วชวนงง ชวนสับสน และกระตุ้นการครุ่นคิดของสมองได้ดีเลยทีเดียว ก่อนอื่นเรามารู้จักเจ้าของผลงานกันก่อน Monica Carvalho เป็นผู้ที่ชอบตกแต่งภาพให้ผู้ชมสับสน ผลงานของเธอนั้นถูกตัดต่อด้วย Photoshop จากภาพที่เธอถ่ายเอง ซึ่งทำให้ออกมาเป็นภาพที่ผู้ชมต้องขยี้ตาและมองอีกรอบกันเลยทีเดียว Monica บอกว่าแรงบันดาลใจของเธอก็คือ ความสอดคล้องกันของสิ่งต่างๆ ที่เธอเห็น เช่นภูเขากับริมฝีปาก ตึกกับเทียน หรือซิปกับขนตา เป็นต้น ส่วนการตั้งชื่อผลงานของเธอแต่ละชิ้นจะมีการเล่นคำหรือสำนวนแปลกๆ เพื่อชวนให้คนดูยิ่งสับสนเข้าไปอีก เอาล่ะครับ ถึงเวลาพาสมองไปสับสนในภาพเหนือความจริงของ Monica Carvalho กันแล้ว ไปชมกันเลยครับ…   1. C’est La Vie   2. Eye Got You   3. Das Ist Mir Wurst   4. Fiz De Propósito   5. Terrace Guilt…

ตลอดทศวรรษที่ผ่านมา ช่างภาพ Jonathan Higbee ได้เดินบนถนนในนิวยอร์ค ประเทศสหรัฐอเมริกากับกล้องคู่ใจในมือของเขา เพื่อสอดส่องและถ่ายภาพโมเมนต์สุดบังเอิญที่ไม่ธรรมดาที่เกิดขึ้นภายในเสี้ยววินาทีผ่านเลนส์กล้องของเขา หลายครั้งที่เขาได้ลบเส้นกั้นระหว่างภาพบนป้ายต่างๆ ที่เป็นมลพิษทางสายตาตามถนน กับคนแปลกหน้าที่เดินผ่านไปผ่านมาราวกับว่าอยู่กันคนละโลก     ด้วยความสามารถอันน่าทึ่งจากการช่างสังเกตของเขาทำให้ช่างภาพชาวมิสซูรีคนนี้ได้เริ่มมีชื่อเสียงในวงการช่างภาพสตรีทที่เขาได้รับรางวัลชนะเลิศในงาน World Street Photography ในปี 2015 และรางวัล LensCulture ในปี 2016 ภาพถ่ายของเขาถูกจัดแสดงในนิทรรศการทั่วโลกรวมไปถึงงาน World Street Photography 4 อีกด้วย   . . . . . . . . .   เป็นความบังเอิญที่สวยงามมากเลยทีเดียว ถ้าอยากเห็นภาพความบังเอิญเพิ่มเติม เข้าไปดูได้ที่ Instagram ของเขาได้เลย ที่มา Thisiscolossal

Kristina Makeeva ช่างภาพมากฝีมือจากประเทศรัสเซียผู้สร้างสรรค์ผลงานโดยใช้ ฟองสบู่ ลูกโป่ง และโคมไฟ เป็นธีมหลัก โดยให้เหตุผลว่าภาพที่ใช้วัตถุดังกล่าวเป็นหลัก มันทำให้ภาพของเธอดูสวยงาม สดใสและแฟนตาซีมากขึ้น ราวกับว่าเธอสามารถร่ายเวทมนตร์ลงบนภาพ นอกจากนี้ผลงานของเธอนั้นยังเป็นงานที่ถ่ายมาจากสถานที่ต่างๆ ทั่วทุกมุมโลก แต่ไม่ว่าจะเป็นมุมในของโลกสิ่งที่เหมือนกันคือในภาพจะต้องมีหนึ่งในสามสิ่งที่เธอใช้เป็นธีมหลัก และโทนภาพแต่ละภาพที่มีหนึ่งของทั้งสามสิ่งก็ล้วนมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง   ภาพถ่ายที่ใช้ลูกโป่งนั้นจะมีโทนสีชมพูและฟ้าเป็นหลัก .   แม้จะเป็นลูกโป่งสีน้ำเงินก็ยังให้ความรู้สึกสดใสและสบายตา . .   โดยเฉพาะภาพที่เป็นสีฟ้าล้วนแบบนี้ มันดูสบายตามากๆ เลยทีเดียว   นอกจากสีชมพูแล้ว สีม่วงก็ถูกใช้ในธีมลูกโป่งเหมือนกันนะ . .   ต่อมาคือธีมของโคมไฟ ซึ่งจะให้โทนภาพสีส้มและดำเป็นหลัก ดูแล้วอบอุ่น   โคมไฟที่ว่านั้นรวมถึงหลอดไฟสีส้มด้วยนะ   ภาพนี้ดูเหมือนจะถ่ายที่ประเทศไทยหรือเปล่า? .   ภาพนี้ดูแพงมากๆ .   ปล่อยโคมในตัวเมืองก็มีเช่นกันนะ แม้จะไม่เยอะก็ตาม ซึ่งก็ดูสวยงามอย่างลงตัวเลยทีเดียว   ต่อมาคือธีมของฟองสบู่ ซึ่งจะให้ความรู้สึกแฟนตาซีเล็กๆ .   สวยไปเลยใช่ไหมละ   ยิ่งภาพนี้ยิ่งดูเทพนิยายมากๆ…

เรื่องของสุนทรียภาพและความงดงามนั้นใครๆ ก็ชอบจริงไหมล่ะ? ทุกวันนี้ถึงได้มีการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะแขนงต่างๆ ขึ้นมามากมายให้พวกเราได้รับชมกัน แต่บางที ความสวยงามนั้น ก็อยู่ไม่ไกลตัวเราเท่าไรหรอก เพราะ “ธรรมชาติ” นั้นก็สรรค์สร้างผลงานศิลปะของมันออกมาให้เราได้ค้นหาเช่นกัน วันนี้ CatDumb จึงรวบรวมภาพความงดงามที่เกิดจากการจัดวางอย่างลงตัวของธรรมชาติ จนออกมาเป็นภาพที่สวยงามและสมบูรณ์แบบ   1. สะพานพระจันทร์เสี้ยว   2. น้ำแข็งที่ไหลผ่านสะพาน Confederation จนถูกผ่าเป็นตารางเลย   3. เงาที่ตัดกันเป็นลายสกอตในประเทศสกอตแลนด์ (อะไรจะสกอตขนาดนั้น)   4. พนักงานยอดฝีมือ   5. ความสวยงามของขนมเยลลี่ 21 ชั้น   6. ขนมเยลลี่รูปหมี เมื่อนำมาเรียงกันแล้วมันสวยจริงๆ   7. น้ำวนข้างใต้นั้นพัดพาฟองน้ำให้มากองรวมกันเป็นก้อนกลมๆ   8. ไอเดียจัดชั้นหนังสือในวันคริสต์มาส   9. การเปิดถ้วยโยเกิร์ตให้สมบูรณ์แบบ   10. การเก็บสายไฟหลังคอมพ์ให้เพอร์เฟคที่สุด   11. เจ้าเหมียวที่นอนขดได้กลมดิ๊ก   12. รถไฟ สายไฟ ท้องฟ้า…

Tristan Zhou ช่างภาพมากฝืมือจากเมืองซีแอตเทิล ซึ่งล่าสุดเขานั้นได้เดินทางมายังประเทศจีน และด้วยความเป็นช่างภาพของเขาก็ไม่พลาดที่จะแวะเก็บบรรยากาศต่างๆ ของเมือง ภาพที่เขาถ่ายออกมานั้นก็เรีียกว่าสวยงามมากๆ จนดูแล้วเหมือนได้อยู่ตรงนั้นจริงๆ แถมสถานที่กับเทคนิคที่เขาใช้ก็ยังแปลกตาไปจากภาพของช่างภาพคนอื่นๆ ที่เดินทางมาถ่ายที่ประเทศจีนอีก งานนี้ใครไม่รู้ไปเที่ยวไหนก็ลองตามรอยของพ่อหนุ่มคนนี้ดุู…   .   Tristan นั้นชื่นชอบถ่ายภาพงานให้ของให้ออกมาเป็นศิลป์เพราะเขาบอกว่ามันสิ่งที่เขาชอบ และนอกจากงานภาพถ่ายแล้วเขายังชื่นชอบในแมวเป็นพิเศษด้วยนะ ส่วนถ้าใครที่ดูแล้วรู้สึกชอบในงานของ Tristan ก็สามารถไปติดตามเขาได้ที่ อินสตาแกรม trystane หรือดูคลิปงานของเขาที่ช่อง Tristan Zhou ก็ได้เช่นกัน แต่ถ้าใครรู้สึกอยากจะติดต่องานกับเขาก็ลองเข้าไปส่งรายละเอียดได้ที่ tristanzhou เลยจ้า   . .   ส่วนใหญ่เราจะเห็นว่าเขามักจะชอบถ่ายภาพมุมช้อนขึ้นนะเนี่ย   และเขาก็ทำให้มันดูเป็นงานศิลป์ตลอดด้วย   วัดจีนธรรมดาๆ ก็ดูสวยได้   #เหมียวมู่ทู่ ชอบโทนของภาพนี้จัง .   องค์ประกอบโดยรวมของภาพมันลงตัวสุดๆ เลยนะเนี่ย . .   มุมดีจริงๆ นั่นแหละ อื้ม… .   ที่มา sobadsogood

วันนี้เราจะพาไปพบกับการประกวดภาพถ่ายที่ไม่ธรรมดา เพราะนั่นคือภาพถ่ายที่ต้องถ่ายด้วย ‘โดรน’ นั่นเอง ซึ่งความโดดเด่นของเจ้าโดรนก็คือ เราสามารถบังคับให้มันบินขึ้นไปบนอากาศเพื่อเก็บภาพจากมุมสูงลงมายังพื้นดินได้ โดยปัจจุบันการถ่ายภาพด้วยโดรนนั้นกลายเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย จนต้องมีการประกวดกันขึ้นมาเลยทีเดียว น่าสนใจใช่ไหมล่ะครับ เอาล่ะ เตรียมตัวไปพบกับภาพถ่ายโดรนยอดเยี่ยมประจำปี 2017 กันเลยดีกว่า… งานประกวด International Drone Photography Contest 2017 นี้ถือเป็นครั้งที่ 4 แล้ว ในงานมีผู้เข้าร่วมประกวดมากมายจากทั่วโลก โดยเกณฑ์การตัดสินก็จะดูจากความคิดสร้างสรรค์และคุณภาพของภาพถ่าย ซึ่งผู้ตัดสินก็จะเป็นใครไปไม่ได้นอกเสียจาก National Geographic และผู้เชี่ยวชาญด้านภาพถ่ายนั่นเอง ส่วนการประกาศรางวัลก็จะแบ่งออกเป็นหมวดหมู่ ประกอบไปด้วย ธรรมชาติ ผู้คน ชุมชน และความคิดสร้างสรรค์   หมวด: ธรรมชาติ   รางวัลที่ 1: ชื่อภาพ Provence, Summer Trim เจ้าของภาพคือ Jcourtial   รางวัลที่ 2: ชื่อภาพ Infinite Road to Transylvania เจ้าของภาพคือ Calin Stan    รางวัลที่ 3: ชื่อภาพ Ice…

ถ้าหากว่าคุณเป็นแฟนหนังสายลับ หนึ่งในอุปกรณ์ที่คุณอาจจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีนั่นก็คือกล้องลับนั่นเอง เจ้าอุปกรณ์ถ่ายภาพขนาดเล็กที่มักจะซุกซ่อนอยู่ตามจุดซ่อนเร้น เอ๊ย!! ตามจุดลับ เอ๊ย!! อืม… เอาเป็นว่าซ่อนเอาไว้อย่างมิดชิดก็แล้วกัน และอุปกรณ์ที่เรียกได้ว่าเป็นเหมือนกับคุณปู่ของกล้องลับนั่นก็คือเจ้า C.P. Stirn Concealed Vest Spy Camera จากปี 1886 นั่นเอง   และนี่ก็คือโฉมหน้าของอุปกรณ์สายลับกว่า 100 ปีที่แล้ว   เมื่อไม่นานมานี้ได้มีการเผยแพร่ภาพถ่ายจากเจ้ากล้องตัวดังกล่าว โดยฝีมือของนักศึกษาหนุ่มอย่าง Carl Størmer เขาได้ซ่อนกล้องลับนี้เอาไว้ในเสื้อกั๊กก่อนที่จะออกไปถ่ายรูปชาวเมืองออสโลว เมืองหลวงของประเทศนอร์เวย์ ในช่วงปี 1893 นักศึกษาหนุ่มได้ให้สัมภาษณ์กับวารสาร St. Hallvard ในปี 1942 ว่า “ภายในเสื้อของผมมีสายยาวๆ ที่ร้อยผ่านมาทางกระเป๋ากางเกงซึ่งไว้สำหรับกดชัตเตอร์กล้องลับตัวนี้”     ภาพถ่ายเหล่านี้อาจจะทำให้เจ้าหนุ่ม Størmer เป็นปาปารัสซี่คนแรกของโลกเลยก็ได้ . . .   ภาพของเหล่าผู้คนในท้องถนนของเมืองออสโลว ที่กำลังถูกแอบถ่ายโดยไม่รู้ตัว . . .   ภาพแอบถ่ายด้วยกล้องลับของ Størmer นั้นมีด้วยกันมากถึง 500 รูปเลยทีเดียว . . . . . .…

ภาพถ่ายเซตสยอง “ฉันเห็นคนตาย” ถูกจัดทำโดย Frank Machalowki ที่มีความชื่นชอบในการถ่ายภาพแบบโบราณ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาได้ไปหาซื้อของจากตลาดของมือสองแล้วได้พบกับฟิล์มภาพถ่ายโบราณจากพ่อค้าชาวฝรั่งเศส เขาจึงได้ซื้อฟิล์มภาพเหล่านั้นมาเพื่อที่จะได้นำมาทำอะไรสักอย่าง ภาพถ่ายเหล่านั้นล้วนแต่เป็นภาพที่ถ่ายบุคคลในอดีต บวกด้วยความคลาสสิกและความหลอนของมัน ทำให้เขาได้นึกไอเดียที่จะนำภาพเหล่านั้นมาซ้อนกันและใช้เทคนิค Photoshop ในการตกแต่งภาพให้ดูน่ากลัวยิ่งขึ้นดังที่คุณจะเห็นต่อไปนี้   เด็กน้อยสองคน   เด็กชายยืนกลางโบสถ์   พี่ชายกับน้องสาว   เหมือนวิญญาณจะหลุดออกจากร่าง . .   หลอนสุดๆ เลยภาพนี้ บรื๋ออออออ   ภาพธรรมดาๆ ก็สามารถดูน่ากลัวขึ้นได้   ภาพพรีเวดดิ้งสุดหลอน   ดูดีๆ จะเห็นว่ามีภาพเด็กผู้หญิงอีกคนซ้อนอยู่   กลัวแล้วจ้า   มีกี่คนกันนะในภาพนี้   ดูสายตาเหล่านั้นสิ .   ผู้คนในอดีต . .   ความคลาสสิกของภาพถ่ายโบราณ .   แทบจะไม่กล้าดูแบบละเอียดๆ . .   ดิฉันมองเห็นอะไรบางอย่าง .   เสพความหลอนกันรัวๆ…

ผลงานการถ่ายภาพของคุณ Helena Georgiou ช่างภาพสาวชาวไซปรัส เป็นที่รู้จักกันดีในวงการว่าผลงานของเธอนั้นขึ้นชื่อในเรื่องของการจัดวางองค์ประกอบ และสื่อความหมายของภาพในสไตล์มินิมอลออกมาได้เป็นอย่างดี “ผลงานภาพถ่ายของฉันมาจากความหลงใหลในรายละเอียดและความคิดสร้างสรรค์ ฉันถ่ายทอดมันผ่านความรู้สึกและพยายามที่จะสื่อสารถึงประสบการณ์ในการเดินทาง ความคิดต่างๆ ที่ได้รับอิทธิพลจากบทกวีหรือวรรณคดีที่ฉันได้อ่าน” ช่างภาพสาวกล่าว     นอกจากการถ่ายภาพในสไตล์แบบมินิมอลแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ช่างภาพสาวของเราให้ความสำคัญนั่นก็คือคุณภาพของผลงานนั่นเอง “ฉันเชื่อว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดของภาพถ่ายและงานศิลปะทุกๆ อย่างนั่นก็คือมันสามารถกระตุ้นการตอบสนองทางด้านอารมณ์ของผู้ชมได้” เธอกล่าว   .   คุณ Helena Georgiou เกิดและเติบโตมาจากกรุงนิโคเซีย ประเทศไซปรัส และจบการศึกษาทางด้านบริหารธุรกิจ และด้านการออกแบบภายใน และเริ่มต้นสนใจในการถ่ายภาพตั้งแต่ปี 2009 เธอเป็นหนึ่งในสมาชิกของสมาคมถ่ายภาพของไซปรัส และผลงานการถ่ายภาพของเธอนั้นก็เคยถูกจัดแสดงมาแล้วมากมายหลายที่ไม่ว่าจะเป็นประเทศกรีซ เบลเยียม เยอรมนี และออสเตรเลีย   .   นอกจากฝีมือทางด้านการถ่ายภาพแล้ว ล่าสุดเธอยังได้รับรางวัลจากสหภาพยุโรป เนื่องจากการถ่ายทอดเรื่องราวทางด้านสิทธิมนุษยชนผ่านทางผลงานของเธอนั่นเอง   ไปชมความสวยงามผลงานภาพถ่ายของเธอกันแบบเต็มๆ ได้เลย… . . . . . . . . . . . . .   ส่วนใครที่ยังไม่จุใจล่ะก็ สามารถตามเข้าไปเสพกันได้ที่เฟซบุ๊ก Helena…

ในเช้าวันที่ 7 ธันวาคมปี 1941 เหตุการณ์โจมตีอ่าวเพิร์ลฮาร์เบอร์ถือเป็นหนึ่งในเหตุการณ์สำคัญที่ถูกบันทึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ เพราะเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นเป็นเหตุให้มหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกาตัดสินใจเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่ 2 ผ่านไปแล้วกว่า 76 ปี เหตุการณ์ดังกล่าวนั้นยังคงอยู่ในความทรงจำของเหล่าทหารที่ประจำการอยู่ ณ อ่าวเพิร์ลฮาร์เบอร์ บนเกาะฮาวาย กันได้เป็นอย่างดี ซึ่งความสูญเสียเหล่านั้นก็คงเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นอีกครั้งอย่างแน่นอน และภาพถ่ายเหตุการณ์แห่งประวัติศาสตร์ที่มีทหารบาดเจ็บและเสียชีวิตมากกว่า 2,403 คนนี้ เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับภาพปัจจุบันก็อาจจะให้ข้อคิดบางอย่างกับพวกเราได้…     ภาพของเหล่าทหารที่กำลังอยู่ในแนวป้องกัน เพื่อเฝ้าระวังการโจมตีของเครื่องบิน .   ภาพของเรือรบ USS California ที่กำลังลุกไหม้ ส่วนด้านหลังคือเรือรบ USS Arizona ที่กำลังลุกไหม้เช่นกัน   เศษซากของเครื่องบินที่เกิดจากการโจมตีของฝ่ายกองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่น   ภาพหอคอยแห่งประวัติศาสตร์ ที่รอดจากการโจมตี ปัจจุบันมันถูกใช้เป็นหอบังคับการบิน   ภาพการระเบิดของเรือ USS Shaw   อีกหนึ่งมุมมองจากเกาะ Ford ระหว่างที่เรือ USS Arizona กำลังถูกโจมตี   ซากปรักหักพังของโรงเก็บเครื่องบินที่ 6 บนเกาะ Ford   การมองภาพต่างๆ เหล่านี้ถือเป็นสิ่งที่จะคอยย้ำเตือนให้เรารู้ถึงความสูญเสียของเหตุการณ์ต่างๆ ได้เป็นอย่างดี   ที่มา businessinsider

แพริโดเลีย (Pareidolia) คือปรากฏการณ์ทางจิตที่ทำให้เราเห็นสิ่งๆ หนึ่งที่ไม่มีรูปร่างเหมือนกับอีกสิ่งหนึ่ง ตัวอย่างที่ชัดเจนคือเวลาเรามองก้อนเมฆแล้วเห็นเป็นสัตว์หรือใบหน้า ซึ่งช่างภาพ Peter Adams-Shawn ได้พิสูจน์ให้เราเห็นว่าปรากฏการณ์นี้ไม่จำเป็นต้องเห็นแค่ในท้องฟ้าแสมอไป เพราะถ้าเรามองมาบนพื้นดินก็เห็นอะไรแบบนี้ได้เหมือนกัน นี่คือผลงานชื่อว่า From The Deep โดยเขาได้ถ่ายภาพมุมสูงบนชายหาด ผ่านกล้องที่ติดอยู่กับโดรนรุ่น Blade Chroma 4K จนทำให้เขาพบว่าคลื่นที่ซัดขึ้นฝั่งมาก็สามารถมองเห็นเป็นสิ่งอื่นได้เช่นเดียวกันกับที่เราเห็นบนก้อนเมฆ ภาพของคลื่นที่ซัดขึ้นมาเพียงชั่วอึดใจเดียวจะทำให้เราเห็นเป็นอะไรได้บ้าง เราลองไปดูกันเลย   เรือผีสิงที่ลอยไปท่ามกลางพายุ   นกยักษ์ออกบิน   พระแม่มารีแห่งภูผา   ฟาโรห์คาเฟร   ฟินิกซ์สยายปีก   คนยืนเอามือล้วงกระเป๋า   ลมหายใจมังกร   ใบหน้าของเทพโพไซดอน   นางฟ้ามาโปรด   นกฮูก.. ใช่มั้ยนะ?   ถ้าเพื่อนๆ เห็นว่ารูปไหนดูเหมือนอย่างอื่นมากกว่าที่เราว่ามา ก็มาแชร์มาคอมเมนต์กันได้ด้านล่างเลยน้าาา หากใครชื่นชอบผลงานของเขาก็สามารถเข้าไปดูได้ที่อินสตาแกรม peter_adamsshawn   ที่มา: petapixel

ยานอวกาศไร้คนขับที่ชื่อว่า Cassini ขององค์การ NASA ถูกส่งขึ้นไปเพื่อทำภารกิจสำรวจดาวเสาร์มานานถึง 13 ปี จนกระทั่งในวันที่ 15 กันยายน 2017 ภารกิจของมันก็สามารถสำเร็จลงได้ด้วยดี ก่อนที่มันจะต้องทำลายตัวเองด้วยการบินเข้าไปในชั้นบรรยากาศของดาวเสาร์และเผาไหม้ไปในที่สุด สิ่งที่มันเหลือเอาไว้จากภารกิจนี้ก็คือรูปภาพของดาวเสาร์จำนวนมาก และนี่ก็คือภาพสุดท้ายที่มันถ่ายเอาไว้ได้ก่อนการทำลายตัวเอง โดยภาพนี้คือการรวมกันของภาพทั้ง 80 รูปที่ถูกถ่ายในเวลา 2 ชั่วโมงในมุมกล้องที่แตกต่างกันไป จนกลายมาเป็นภาพที่มีความสวยงามอย่างมาก นี่คือหน้าตาของยาน Cassini   ภาพสุดท้ายของดาวเสาร์ที่ถูกถ่ายโดยยาน Cassini   ภาพดังกล่าวต้องผ่านการกรองด้วยการถ่ายที่ใช้สี แดง เขียว และฟ้า เมื่อนำมาผสมกันสีที่ได้จึงมีความเป็นธรรมชาติอย่างที่เราเห็น ยาน Cassini ได้ถ่ายภาพนี้เอาไว้ขณะที่อยู่ห่างจากดาวเสาร์ประมาณ 1.1 ล้านกิโลเมตร ทำให้หากเราลองมองเข้าไปดีๆ ก็จะเห็นดวงจันทร์ประจำดาวเสาร์จำนวน 6 ดวง ได้แก่ Enceladus, Epimetheus, Janus, Mimas, Pandora และ Prometheus   จุดตำแหน่งของดวงจันทร์ 6 ดวงที่สามารถมองเห็นได้ในภาพ   ภาพนี้ถูกถ่ายในด้านตรงข้ามกับแสงอาทิตย์และทำมุม 15…

ในช่วงประมาณปลายเดือนตุลาคมถึงมกราคมของทุกๆ ปี เรียกได้ว่าอาจจะเป็นช่วงเวลาที่หลายๆ รอคอยที่จะได้สัมผัสกับความเย็นและมวลอากาศหนาวจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมประเทศไทย และขณะนี้ก็ล่วงเลยมาถึงเดือนธันวาคมแล้ว เจ้ามวลอากาศเย็นที่ว่านี้ก็มาผ่านบ้านเราแบบหลอกๆ และดูเหมือนว่ายังคงไม่มีวี่แววที่จะย่างกรายเข้ามาเยือนบ้านเราแบบเต็มๆ เลยสักนิด!? แต่ไม่ต้องเสียใจกันไปเพื่อนรัก ถึงแม้ว่าบ้านเรานั้นจะยังไม่เข้าสู่ฤดูหนาวกันแบบเต็มๆ เราก็สามารถสัมผัสบรรยากาศคูลๆ กันได้ จากชุดภาพถ่ายของฤดูหนาวของภูเขา Carpathians ในสาธารณรัฐเช็กที่เรานำมาฝากกันวันนี้แก้ขัดไปก่อนได้!!     ผลงานภาพถ่ายชุดนี้เป็นของช่างภาพหนุ่มชาวโปแลนด์ คุณ Karol Nienartowicz เขาหลงใหลในการถ่ายภาพของภูเขามาก และเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ช่างภาพหนุ่มผู้นี้ก็ได้เดินทางไปสัมผัสกับความสวยงามของหน้าหนาวถึงเทือกเขา Carpathians เทือกเขาที่มีความยาวราว 1,500 กม. พาดผ่านในทวีปยุโรปตอนกลางและตะวันออกเลยทีเดียว     ภาพของหิมะ และแสงแดดทำให้ภาพเหล่านี้ดูเหมือนอยู่ในโลกเวทมนตร์เลยทีเดียว!! . . .   เริ่มรู้สึกหนาวๆ บ้างแล้วใช่ไหมล่ะ!? ฮ่าๆ . . . .   ท้องฟ้าที่ปลอดโปร่ง และหิมะขาวๆ ช่างดูสวยงามจริงจริ๊ง!! . . .   และนอกจากความสวยงามของสีขาวจากหิมะแล้ว แสงแดดที่สาดลงมาก็ทำให้หน้าหนาวของยุโรปนั้นดูโรแมนติกขึ้นมาไม่น้อยเลยทีเดียว . . . . .…

การเก็บบันทึกรูปภาพของคนแต่ละคนนั้นก็มีวิธีแตกต่างกันออกไปตามแต่ความชอบส่วนบุคคล บางคนอาจจะชอบการเก็บภาพไว้ในคอมพิวเตอร์ บางคนอาจจะชอบใส่กรอบไว้ หรือบางคนอาจจะชอบพกติดตัวเสมอ แต่ยังมีการเก็บภาพอีกแบบหนึ่ง ที่คนนิยมทำเช่นกันแต่อาจจะไม่แพร่หลายมากนัก นั่นก็คือการเก็บภาพใส่ขวดโหลที่มีน้ำอยู่ ซึ่งมันจะทำให้ภาพดูใหญ่และมีมิติมากขึ้น!! Christoffer Relander ช่างภาพชาวฟินแลนด์ผู้ชื่นชอบการเก็บความทรงจำไว้ในขวดโหล ก็ได้ใช้วิธีดังกล่าวมาเก็บภาพชนบทในฟินแลนด์ ส่วนสาเหตุที่ต้องเป็นชนบทนั่นก็เพราะมันทำให้เขาคิดถึงความทรงจำในวัยเด็กของเขานั่นเอง     เขาได้นิยามผลงานของเขาว่า “ธรรมชาตินั้นสวยงามก็จริง แต่ความเซอร์เรียลมันกลับซึบซับได้ดีมากกว่า” “ภาพถ่ายสำหรับผมมันคือการแสดงออกและกระตุ้นจินตนาการของผม ธรรมชาติก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งของโลกเท่านั้น แต่เมื่อบวกเข้ากับเทคนิคการถ่ายภาพและการแสดงมันออกมา มันทำให้ผมสามารถสร้างสรรค์ผลงานที่สวยงามที่แตกต่างไปจากภาพวาดหรือการแต่งรูปนั่นเอง”       อย่างไรก็ตามผลงานภาพในขวดโหลของเขา ก็ถือเป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่น่าสนใจไม่น้อย และเมื่อรวมกับฝีมือถ่ายภาพระดับมืออาชีพ เราก็จะเห็นว่างานที่เขาสร้างกับคำพูดของเขามันไม่ได้เกินจริงเลย ถ้าใครที่สนใจและอยากจะติดตามผลงานของ Christoffer มากกว่านี้ก็สามารถเข้าไปดูงานของเขาได้ที่เว็บไซต์ของเขา christofferrelander ได้เลย ข้างในนั้นยังมีผลงานภาพในขวดโหลดในธีมต่างๆ อีกมากมาย และแต่ละอันก็สวยมากๆ เลยล่ะ แต่ถ้ายังไม่มั่นใจหรือยังไม่ชัวร์ว่าจะกดเข้าไปดูดีไหม ก็ลองชื่นชมผลงานเซตความทรงจำวัยเด็กของเขาดูก่อนเป็นไง…   . . . . . . .   ใครจะคิดว่าภาพวิวสวยๆ เมื่อรวมเข้ากับเทคนิคในขวดโหลจะออกดูดีแบบนี้ ที่มา thisiscolossal

ในปกติยามค่ำคืนเราก็ได้เห็นเพียงแค่แสงจันทร์ แสงดาว หรือว่าแสงจากหลอดไฟที่ไม่ได้สีสันอะไรมากมายและยังคงมีความมืดเป็นพื้นหลังที่โดดเด่น แตกต่างจากภาพของศิลปินคนนี้ที่ได้สร้างแสงสว่างขึ้นมาบดบังความมืดเอาไว้ เผยให้เห็นตอนกลางคืนที่มีสีสันให้อารมณ์แตกต่างออกไป ทั้งหมดนี้เป็นผลงานของช่างภาพ Elsa Blenda อาศัยอยู่ในเมืองโจฮันเนสเบิร์ก ประเทศแอฟริกาใต้ ภาพเหล่านี้ถูกถ่ายในเมืองที่เธอได้เดินทางผ่านไปจากฝั่งตะวันออกของทวีปยุโรปมาจนถึงประเทศอเมริกาใต้ จากนั้นเธอได้ตกแต่งภาพทั้งหมดโดยการใช้แสงไฟนีออนเพิ่มสีสันมีความโดดเด่น เราจึงสามารถรับความรู้สึกและเห็นความสวยงามในแต่ละภาพได้แตกต่างกันไป   ภาพนี้ใช้สีชมพูเป็นหลัก ประกอบกับฉากของฝูงนกที่บินออกไป   นอกจากเรื่องของแสงแล้ว เธอก็ได้จำกัดในเรื่องของผู้คนที่เราจะได้เห็นในภาพอีกด้วย ทำให้เราสามารถรับรู้ได้ถึงบรรยากาศยามค่ำคืนที่ร้างผู้คนได้อย่างแท้จริง   แสงที่สาดเข้ามาจากทางขวา ทำให้เห็นว่ามีคนกำลังเดินอยู่บนถนน   แสงจากไฟหน้าของรถได้มาลบล้างความมืดมิดออกไป   ปั๊มน้ำมันที่มีแสงไฟสีฟ้าให้ความรู้สึกสบายตามากยิ่งขึ้น   แสงที่ตัดกันของส่วนบนและล่าง ให้ความรู้สึกพิศวงราวกับหนังลี้ลับ   แม้ไม่ได้อยู่ในความมืดแต่ร้านนี้ก็ยังคงความโดดเด่นเอาไว้ได้   หิมะที่ไม่ได้เป็นเพียงแค่สีขาวอีกต่อไป เมื่อมันได้เจอเข้ากับแสงไฟที่สาดลงมา   แม้เป็นเพียงแสงที่ลอดออกมาจากหน้าต่างเล็กๆ แต่นั่นก็กลายเป็นสิ่งที่ทำให้คุณต้องมองเป็นอันดับแรก   แสงไฟจากยานพาหนะที่สาดเข้ามาราวกับทะลุเมฆหมอก   ท้องฟ้าสีชมพูอมม่วงจางๆ ผสานเข้ากับสีฟ้าสว่างของแสงไฟ   ต้นไม้ที่อยู่ในป่าแต่กลับให้ความรู้สึกโดดเดี่ยว   มีเสน่ห์ดึงดูดน่าเข้าไปค้นหา   แสงที่เริ่มไล่คืบคลานเข้ามาเพื่อทดแทนความมืดที่มีอยู่ก่อน   เปลี่ยนถนนที่ว่างเปล่า ให้ดูมีความโดดเด่นได้โดยง่าย   ต้นไม้ที่ไม่อาจขยับไปไหนได้ และยังคงมีชีวิตท่ามกลางความมืดที่หลงเหลืออยู่…

สำหรับใครหลายๆ คน การเต้นนั้นอาจจะเป็นมากกว่าการได้ขยับร่างกายไปตามจังหวะของเสียงเพลง เพราะมันยังช่วยให้คุณได้ปลดปล่อยความคิดไปตามจังหวะของเพลงและท่าเต้นต่างๆ ด้วย คุณ Melika Dez ศิลปินและนักออกแบบท่าเต้น ได้สร้างสรรค์ผลงานภาพนิ่งที่ถ่ายทอดให้เห็นถึงอิสรภาพที่สื่อออกมาจากการเต้นตามท้องถนนในเมืองใหญ่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ปารีส นิวยอร์ก มอนทรีออล และโรม     ภาพของการเต้นแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเต้นบัลเลต์ โพลแด๊นซ์ หรือการเต้นสตรีทแด๊นซ์ ถูกถ่ายทอดออกมาให้เห็นถึงความมีอิสระในเมืองหลวง ซึ่งเป็นแนวคิดหลักในงานถ่ายภาพครั้งนี้ .   ท่าทางของเหล่านักเต้น และรูปทรงของอาคารต่างๆ ที่เป็นฉากหลัง ช่างสวยงามและดูกลมกลืนกันอย่างมาก .   ภาพถ่ายเหล่านี้เปรียบเหมือนกับการมีอิสระภาพท่ามกลางความวุ่นวายในเมืองหลวง .   การจัดท่าทางของเหล่านักเต้น และการจัดวางองค์ประกอบของภาพที่ทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม . .   การเต้นนั้นถือได้ว่าเป็นศิลปะอีกแขนงหนึ่ง การได้ทำงานศิลปะนั้นก็ช่วยให้เราได้ปลดปล่อยความคิดต่างๆ และมีส่วนช่วยในการผ่อนคลายได้ไม่น้อยเลยทีเดียว ส่วนใครที่อยากชมภาพถ่ายของศิลปินท่านนี้เพิ่มเติมล่ะก็ สามารถเข้าไปชมได้ที่เว็บไซต์ melikadez และเฟซบุ๊ก Melika Dez Photography ของเขากันได้เลย ที่มา demilked

เราสามารถเห็นเงาสะท้อนของตัวเองจากบนผิวน้ำคล้ายกับเงาสะท้อนในกระจกเวลาที่เราไปยืนอยู่ใกล้ๆ แต่ถ้าหากไม่มีใครยืนอยู่ตรงนั้นเลยแต่กลับมีเงาสะท้อนของคนบนผิวน้ำขึ้นมา มันจะออกมาเป็นแบบไหนกัน? ความคิดนั้นเราสามารถเห็นได้จากรูปภาพของศิลปินที่ชื่อว่า Greg Sand เขาได้นำเสนอชุดภาพถ่ายชื่อ Echoes ที่ในรูปไม่มีตัวคนจริงๆ อยู่แต่มีเพียงแค่เงาสะท้อนอยู่บนผิวน้ำ ทุกภาพเต็มไปด้วยความหมายอันลึกซึ้ง เข้าใจได้หลากหลายแง่มุมแตกต่างกันไป อาจกล่าวได้ถึงความสูญเสียหรือการจากลาที่เมื่อร่างกายเราหายไปเหลือเพียงแค่วิญญาณมันก็คงออกมาในลักษณะนี้ เลื่อนไปหาความหมายอันล้ำลึกของแต่ละภาพกันเลยยย   ในทุกภาพไม่มีใครยืนอยู่บริเวณนั้นเลย แต่มีเงาสะท้อนบนผิวน้ำออกมาให้เห็น .   เราสามารถตีความออกมาได้ในหลายรูปแบบ แตกต่างกันไป   เราอาจมองไม่ออกเลยว่า ที่เราเห็นเป็นเพียงแค่เงาสะท้อนของคนเท่านั้น   บางภาพอาจทำให้เรารู้สึกหลอนๆ ไปบ้าง   เงาที่สะท้อนบนผิวน้ำ มีความบิดเบี้ยวไปบ้างเป็นเรื่องธรรมดา   แม้เงาที่สะท้อนออกมาดูเหมือนคนจริงๆ มากขนาดไหน แต่พอเอื้อมมือไปเราก็สัมผัสได้แค่น้ำเท่านั้น   ดูแล้วก็อาจงงๆ เข้าถึงได้ยาก เพื่อนๆ เข้าใจกันว่ายังไงก็มาแชร์บอกกันไว้ในคอมเมนต์ได้นะ หากใครชื่นชอบผลงานของศิลปินคนนี้สามารถเข้าไปดูเพิ่มเติมในเว็บไซต์ gregsand ของเขาเองได้เลย   ที่มา: twistedsifter

“ผมชื่อ Phalgun Polepalli และผมก็ทำงานเป็นช่างถ่ายภาพงานแต่งงานมืออาชีพใน Bangalore ประเทศอินเดีย หลังจากที่ผมเสียพ่อไปเมื่อ 20 ปีก่อนจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ผมก็ได้เริ่มโปรเจกต์ถ่ายรูปส่วนตัวที่จะช่วยให้ผมรู้สึกถึงเขาอีกครั้งเนื่องด้วยวันครบรอบวันเกิด 70 ปี ของเขา ผมจึงออกเดินทางไปยังปารีส” Phalgun ชายหนุ่มที่ตัดสินใจตามรอยพ่อของเขาได้ออกมาแบ่งปันเรื่องราวโปรเจกต์ของเขา เพื่อที่เขาจะได้นึกถึงพ่อของเขาตลอดเวลา โดยเขาได้เล่าว่าพ่อของเขานั้นทำงานเป็นวิศวกรให้กับบริษัท Kirloskar Electric เขาทำงานนี้เป็นเวลานานจนวินาทีสุดท้ายของชีวิต และระหว่างทำงานเขาก็ท่องเที่ยวไปยังที่ต่างๆ มากมาย   .   นอกจากนี้แม่ของเขายังได้เล่าเรื่องราวของพ่อให้เขาฟังว่า พ่อของเขานั้นหลงใหลในรูปภาพมากๆ มากกว่าตัว Phalgun ตอนนี้เสียอีก ไม่ว่าจะไปไหนพ่อของเขาก็จะถ่ายรูปไว้เสมอ โดยเฉพาะที่เมืองปารีส… เขาเสริมอีกว่าโปรเจกต์ตามรอยพ่อของเขา มันเริ่มขึ้นเมื่อช่วงปี 2011 ตอนที่เขาและภรรยาเดินทางไปยังปารีสเพื่อฉลองหลังจากทำงานเป็นช่างภาพมาครบ 1 ปี แน่นอนว่าเขาก็เดินทางไปยังจุดแนะนำตามไกด์ต่างๆ ที่แนะนำให้ไปถ่ายรูป ทว่าที่เหล่านั้นกลับมีอะไรพิเศษกว่าปกติ     เพราะหลังจากกลับมาและเช็กรูปดู เขาก็จำได้ว่าสถานที่และองค์ประกอบหลายอย่างนั้นเขาเคยเห็นมันมาก่อน ซึ่งมันก็มาจากรูปถ่ายพ่อของเขานั่นเอง เขาจึงจัดการโฟโตชอปภาพพ่อของเขาและทริปนั้นเข้าด้วยกัน จนเซอร์ไพรส์ยิ่งกว่าคือมุมกล้องและคอมโพสที่เขาถ่ายมันเข้ากับภาพของพ่อสุดๆ     ต่อมาในปี 2017 นั้น Phalgun ก็ตัดสินใจจะเดินทางไปเที่ยวอีกครั้ง โดยเขาและครอบครัวตัดสินใจจะเดินทางไปยังสวิตเซอร์แลนด์และปารีส ในตอนที่กำลังจัดการอะไรหลายๆ อย่าง เขาก็สังเกตได้ว่าวันที่เขาจะไปนั้นมันตรงกับวันครบรอบ…

แม้ว่าเราจะไม่สามารถมองเห็นทุกสิ่งทุกอย่างที่เรากินเข้าไป หรือสิ่งต่างๆ รอบตัวที่มีขนาดเล็กได้ด้วยตาเปล่า แต่ด้วยความช่วยเหลือของกล้องจุลทรรศน์นั้นทำให้ใครๆ ก็สามารถมองเห็นลายละเอียดสุดมหัศจรรย์ของสิ่งเหล่านั้นได้อย่างชัดเจน และแน่นอนว่าเมื่อมันเป็นสิ่งที่เราไม่ได้เห็นได้บ่อยครั้งในชีวิตประจำวัน ก็ย่อมทำให้เกิดความรู้สึกตื่นตาตื่นใจอยู่ตลอด ดังนั้น เราจึงได้นำเอา 18 ภาพของสิ่งต่างๆ เมื่อมองผ่านกล้องจุลทรรศน์มาให้เพื่อนๆ ได้รับชมกันอีกครั้ง ว่าแล้วก็มาดูกันเลย   1. ผลึกน้ำตาล   2. ผลึกเกลือ   3. หางกุ้ง   4. บร็อคโคลี   5. กาแฟสำเร็จรูป   6. เมล็ดกาแฟคั่ว   7. เมล็ดข้าวสาลี   8. สตรอเบอร์รี่   9. เมล็ดงา   10. พริกไทยดำ   11. องุ่นแดง   12. น้ำตาล   13. มะเขือเทศ   14.…

ภาพถ่ายทางอากาศ หนึ่งในมุมกล้องที่ทำให้เราได้เห็นความสวยงามของเมืองและวิวทิวทัศน์ต่างๆ ในมุมมองที่แตกต่างออกไป และบางครั้งมันก็ทำให้คุณเองรู้สึกเหมือนกับว่ากำลังโบยบินอยู่เหนือพื้นโลกเลยทีเดียว บางครั้งการได้มาซึ่งภาพถ่ายทางอากาศนั้นอาจจะต้องใช้ความสามารถของช่างภาพอย่างสูง เพราะบางมุมมองที่สวยงามอาจจะต้องแลกมาด้วยความเสี่ยงต่างๆ และวันนี้เราก็ได้รวบรวมภาพถ่ายมุมสูงที่แสนสวยงามจากทั่วมุมโลกมาให้ได้ชมกัน แต่ละภาพจะสวยงามแค่ไหนไปชมกันเลย…   1. ภาพมุมสูงของ Muhammad Ali ที่ชนะน็อค Cleveland Williams ในสังเวียน Astrodome เมือง Houston ปี 1966   2. ภาพมุมสูงของมหานครนิวยอร์ก ที่ถ่ายจากหน้าต่างของเครื่องบิน   3. รอยแยกของเปลือกโลกจากน้ำตก Victoria ประเทศซิมบับเว/ประเทศแซมเบีย   4. ภาพมุมสูงของเทศกาล Burning Man ในทะเลทราย Black Rock รัฐเนวาดา   5. ผู้คนกว่า 105,491 ในสนามอเมริกันฟุตบอล Michigan Stadium ที่เข้าชมการแข่งขันไอซ์ฮอกกี้, วันที่ 1 มกราคมปี 2014   6. ภาพถ่ายมุมสูงจากตึก Edgewater Condo ในชายหาดปานามาซิตี้ รัฐฟลอริดา   7. ภาพของบอลลูนที่กำลังบินขึ้นเหนือเทือกเขา Rose Valley…

เมื่อพูดถึงความสวยงามของพื้นที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเมืองหลวง สถานที่สำคัญ หรือแม้แต่ชนบทที่ห่างไกล ทุกที่ล้วนมีความสวยงามในแบบของตัวมันเอง และยิ่งได้ช่างภาพมือดี สถานที่เหล่านั้นจะมีความสวยงามตราตรึงใจสุดๆ Martin Rak ช่างภาพวัย 33 ปี ได้เล่าถึงความรู้สึกของเขาที่รักการถ่ายภาพว่า เขาได้กล้องมาตอนเด็กๆ เมื่อตอนที่เขาอายุเพียง 6 ขวบ แต่เขาบอกว่าวินาทีเขารู้ทันทีว่าเขาชอบการถ่ายภาพมากๆ จนทำให้เขาเริ่มเดินทางสายนี้     จนล่าสุดเขาได้เดินทางไปยังดินแดนชนบทในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นั่นทำให้เขาพบว่าการที่เขาชอบท่องเที่ยวไปถ่ายรูปยังที่ต่างๆ มันคุ้มค่ามากๆ เพราะชนบทที่เขาไปมันสวยงามและดึงดูดสายตาเขาสุดๆ ชนบทที่เขาเดินทางไปถ่ายนั้นมีชื่อว่า Saxon-Bohemian โดยตั้งอยู่ระหว่างชายแดนประเทศเช็กเกีย และประเทศเยอรมนี ซึ่งเขาบอกว่าที่นี่เป็นที่โปรดของเขาเลยล่ะ และเขาก็เลยเอารูปที่เขาถ่ายมาแชร์ให้เราได้ดูกัน แล้วเราจะได้รู้ถึงเหตุผลที่เขาชื่นชอบมันขนาดนั้นกัน…   แค่ภาพแรกก็เหมือนโดนมนต์สะกดแล้ว   ดูแสงและทุ่งหญ้านั่นสิ… .   ทุกอย่างมันดูเงียบสงบและลงตัวมากๆ   ต้นไม้ต้นเดียวบนเนิน สถานที่ราวกับหลุดมาจากนิยาย   เห็นแสงกับทุ่งหญ้าแล้วอยากจะล้มลงนอนมองท้าฟ้า รับลมสบายๆ แสงแดดอ่อนๆ จริงๆ .   ทุ่งหญ้า เมืองที่เงียบสงบ วิวข้างหลังเป็นภูเขา นี่มันสวรรค์ชัดๆ . .  …

บ่อยครั้งที่เราได้นำเสนอการถ่ายภาพของชาวต่างชาติ ที่มักจะนำภาพเก่ามาเทียบกับภาพปัจจุบันเพื่อให้เกิดเป็นภาพถ่ายแนวโลกคู่ขนาน แต่คราวนี้เจ๋งกว่าทุกทีที่เคยมีมา เพราะทั้งหมดนี้เป็นฝีมือของคุณ ศิริพงศ์ ผการัตน์สกุล ที่ส่งเรื่องราวมาให้เรานำเสนอ… สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น เอาเป็นว่าเราไปชมภาพโลกคู่ขนานจากสถานที่ต่างๆ ในกรุงเทพมหานครฯ กันเล๊ยย “แรงบันดาลใจเริ่มจากการที่ผมชอบอดีตกาลเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ทุกครั้งที่คิดถึงมันๆ ก็เต็มไปด้วยความน่าฉงนอันหอมหวล ทั้งหมดผมเริ่มจากการหาภาพในอินเตอร์เน็ต จากนั้นก็เอาไปล้างอัดรูปออกมา เสร็จแล้วก็วางแผนเดินทางตามจุดหมายที่วางไว้เลยครับ” พี่ศิริพงศ์ให้สัมภาษณ์   เส้นถนนเจริญกรุง เดิมทีถูกเรียกว่า ‘New Road’ เนื่องจากมีชาวต่างชาติมาอาศัยอยู่มาก ต่อมาจึงมีการพระราชทานนามถนนว่า ‘เจริญกรุง’ เพื่อสะท้อนถึงความเจริญรุ่งเรืองในสมัยนั้น   ห้องสมุดเนียลสัน เฮย์ส ตั้งตามชื่อของ Mrs.Jennie Neilson Hays ซึ่งเป็นภรรยาของหมอที ฮาวาร์ด เฮย์ส ซึ่งเป็นแพทย์ใหญ่ในกรมการแพทย์ทหารเรือไทย   วัดอรุณราชวราราม หรือที่นิยมเรียกกันว่า ‘วัดแจ้ง’   แม่น้ำเจ้าพระยา   สะพานพระพุทธยอดฟ้า เป็นสถานที่ถูกสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 7 เนื่องในโอกาสสถาปนากรุงเทพฯ ครบ 150 ปี .   ศาลาเฉลิมกรุง หรือที่มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า โรงมหรสพหลวง…

รอยสักนอกจากจะเป็นงานศิลปะบนเรือนร่างแล้ว บางครั้งในรอยน้ำหมึกที่อยู่บนร่างกายนั้น อาจบันทึกเรื่องราวที่มีความหมายหรือเป็นภาพที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจให้กับการใช้ชีวิตก็ได้ และเมื่อไม่นานมานี้ได้มีช่างสักจากเมืองอิสตันบูล ผู้หนึ่งได้เกิดไอเดียเจ๋งๆ โดยการนำภาพที่ย้อนความทรงจำในวัยเด็กของแต่ละคน มาทำเป็นรอยสักจำลองที่เต็มไปด้วยความทรงจำดีๆ ในอดีต   ภาพบางส่วนจากผลงานของคุณ Alican Gorgu   คุณ Alican Gorgu ได้เริ่มนำภาพเก่าๆ มาลดรายละเอียดต่างๆ ลงให้เหลือแต่โครงเส้นหลักๆ นั่นจึงทำให้ผลงานรอยสักที่ออกมานั้นดูมีเอกลักษณ์และสวยงามน่ารักไม่เหมือนใคร   ภาพเจ้าตูบ ที่คุณ Alican Gorgu นำมาดัดแปลงและจำลองให้เป็นลายสักที่ดูน่ารักและไม่เหมือนใคร   “ผมพยายามจะเข้าใจถึงอารมณ์ของผู้คนที่อยากจะเปลี่ยนภาพความทรงจำในวัยเด็กให้กลายเป็นรอยสักที่เรียบง่ายและมีความหมาย” ช่างสักหนุ่มกล่าว โดยคอนเซ็ปต์หลักในงานของคุณ Gorgu ก็คือความทรงจำของวัยเด็กที่เลือนหายไปนั้น ก็เหมือนกับรายละเอียดของภาพที่ถูกตัดทอนลงไป และเหลือเพียงเส้นโครงไม่กี่เส้นที่ยังคงอยู่กับเราไปตลอดกาลเปรียบเหมือนความทรงจำดีๆ ที่ยังหลงเหลืออยู่นั่นเอง     และนี่คือผลงานจากช่างสักท่านนี้ . . .   “ผมคิดว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการจดจำในสิ่งที่จำเป็น เพราะว่ามันคือสิ่งที่มีค่ามากๆ และมันจะเป็นสิ่งสุดท้ายที่ยังเหลืออยู่” คุณ Gorgu สรุป   สำหรับใครที่อยากชมผลงานของช่างสักท่านนี้เพิ่มเติม ก็สามารถเข้าไปชมได้ที่อินสตราแกรม pigmentninja ของเขาได้เลย ที่มา sobadsogood

ในปัจจุบันนั้นการสร้างงานศิลปะมีมากมายหลายแบบ ไอเดียของศิลปินแต่ละคนนั้น ก็สะท้อนให้เห็นถึงแนวคิดต่อสิ่งต่างๆ ในโลก เช่นเดียวกับชายคนนี้ที่เขามีความคิดที่จะสื่อถึง เรื่องราวของเพศสภาพและโลกแฟชั่นเข้าไว้ด้วยกัน จึงเกิดเป็นงานศิลปะสุดแหวกแนวแบบไม่มีใครเหมือน เปลี่ยนบรรยากาศชีวิตชาวเมืองอันน่าเบื่อให้กลับมามีสีสันได้อีกครั้ง…     Kalen Hollomon คือเจ้าของงานศิลปะการถ่ายภาพ ผสมผสานกับการตัดกระดาษจากนิตยสาร นำมาทาบรวมกับรูปถ่ายผู้คนที่เป็นเบื้องหลังอย่างแนบเนียน ทำให้แต่ละรูปนั้น มีทั้งความฮาและสะท้อนความคิดในเรื่องของเพศสภาพ สังคม กับโลกแฟชั่นเข้าไว้ด้วยกันเป็นอย่างดี     โดยวิธีการสร้างงานศิลปะนั้นก็ไม่ยากอย่างที่คิด คือการเดินไปตามสถานที่ต่างๆ แล้วรอจังหวะที่เหมาะเจาะ ควักภาพที่ตัดมาจากนิตยสารมาทาบลงไปบนภาพแบบง่ายๆ นี่แหละ เมื่อทุกอย่างลงตัวปุ๊บ ก็ได้ออกมาเป็นภาพผลงานสุดแนบเนียนอย่างนี้แหละ!!     โถ่วว คุณลุง . .   เนียนอย่างกับใช้โปรแกรมตัดต่อเลยล่ะ   นี่เจ้โผล่มาจากส้วมได้ไง!? . .   เหมาะเจาะมากๆ   อุ๊ปปปส์   ระวังนะแกร๊!!! . . .   เซ็กซี่หน่อยๆ . .   เป็นคุณยายที่นั่งเหงาๆ ในสวนสารธารณะ…

Kristina Makeeva ช่างภาพสาวชาวมอสโก ที่มักจะเดินทางไปเก็บภาพถ่ายสิ่งต่างๆ ที่น่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ภาพถ่ายสุดตระการตาของเมืองมอสโกในช่วงฤดูหนาว รวมถึงภาพถ่ายความงดงามของธรรมชาติ และเมื่อไหร่ก็ตามที่เธอได้สร้างสรรค์ผลงานชุดใหม่ๆ ลงในอินสตาแกรม ก็มีผู้คนให้ความสนใจกันอย่างมากมาย จนในตอนนี้มีผู้เข้าไปติดตามในไอจีของเธอมากว่า 300,000 คนแล้ว ล่าสุด Kristina ก็ได้เผยภาพผลงานชุดใหม่ โดยครั้งนี้เธอได้สร้างสรรค์ผลงานที่น่าสนใจมากขึ้นกว่าเดิม โดยการถ่ายภาพหญิงสาวกับชุดอันสวยงามผสมผสานกับสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ จนทำให้เกิดเป็นภาพเหล่านี้…   1. Cathedral Mosque ใน St. Petersburg ประเทศรัสเซีย   2. Cappadocia ประเทศตุรกี   3. Opéra De Paris, Palais Garnier กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส   4. หอไอเฟล กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส   5. Valensole, Provence ประเทศฝรั่งเศส   6. Bolshoi Theatre…

ชีวิตคนเรานั้น มักจะมีเรื่องตลกร้ายอยู่เสมอๆ เช่นเดียวกับความคิดที่ว่าวัยเด็กเรามักจะรู้สึกว่า เป็นเด็กมันไม่ดีเลย อยากเป็นผู้ใหญ่ๆ แต่พอโตเข้าจริงๆ ความจริงของชีวิตมันก็สวนกลับมากระแทกหน้าเราเต็มๆ ว่าเป็นเด็กอะดีแล้ว… ด้วยเหตุนี้ มันจึงทำให้เกิดสังคมที่เรียกว่า Adult Babies/Diaper Lovers ซึ่งเป็นกลุ่มสังคมที่ผู้ใหญ่ชื่นชอบและอยากจะใช้ชีวิตแบบเด็กๆ ในช่วงวัยตั้งแต่อายุ 6 เดือน ถึง 5 ขวบ ซึ่งถ้าเราคิดเล่นๆ มันอาจจะดูงี่เง่า แต่เอาเข้าจริงๆ มันก็น่าสนใจและตอบโจทย์ความคิดข้างบนได้ไม่ยากเลยจริงไหม?     เรื่องราวของชุมชนนี้ถูกตีแผ่โดยช่างชาวออสเตรเลีย Polly Borland ซึ่งได้บอกเล่าเรื่องราวลับๆ ของคนกลุ่มนี้ ที่น้อยคนบนโลกนักจะรู้ว่ามีคนที่ชื่นชอบ และจัดตั้งสัมคมแบบนี้อยู่ มันอาจจะเป็นความชอบส่วนตัวของพวกเขา ซึ่งไม่มีอะไร ทว่าบางทีมันอาจจะบ่งบอกอะไรบางอย่างเกี่ยวกับการใช้ชีวิตและสังคมภายนอกก็เป็นได้…     Polly ถือเป็นช่างภาพที่สามารถจะเจาะและเข้าไปอยู่กับสังคมลับแห่งนี้ได้ พร้อมได้รู้ถึงการใช้ชีวิตในแบบต่างๆ ทั้งการกิน การนอน การอาบน้ำและอื่นๆ อีกมากมายของผู้ใหญ่ในคลาบเด็กเหล่านี้ มันต้องใช้เวลานานพอสมควรเลย กว่าที่จะสามารถนำกล้องเข้าไปถ่ายภาพและส่งต่อเรื่องราวเกี่ยวกับความทุข ความทรมานที่พวกเขาได้รับจากสังคมที่ดูถูกพวกเขา จนสุดท้ายพวกเขาก็แสดงสันดานดิบออกมาในท้ายที่สุด       ภาพเซ็ตนี้นั้น จริงๆ แล้วเป็นภาพที่ถูกถ่ายเมื่อปีช่วงปี 1990s และถูกตีพิมพ์เป็นหนังสือบอกเล่าเรื่องราวของผู้ใหญ่…