Tag: ภูเขาไฟระเบิด
-
สิ่งที่หลงเหลืออยู่…จากเหตุ ‘ภูเขาไฟระเบิด’ ที่กัวเตมาลา ราวกับเวลาถูกหยุดเอาไว้แค่นั้น
ภูเขาไฟระเบิด ถือเป็นภัยธรรมชาติอันแสนรุนแรงที่สามารถคร่าชีวิตผู้คนได้มากมายนับไม่ถ้วน และเราไม่สามารถป้องกันหรือหลีกเลี่ยงมันได้เลย สิ่งที่ทำได้ก็เพียงแค่หนีไปให้เร็วและไกลที่สุดในตอนเกิิดเหตุเท่านั้น เช่นเดียวกันกับเหตุภูเขาไฟระเบิดในประเทศกัวเตมาลา ผู้คนมากมายต้องยอมทิ้งถิ่นที่อยู่อาศัยของตัวเองเพื่อเอาชีวิตรอด จนทำให้เมืองหลายเมืองต้องกลายมาเป็นเมืองร้าง และหลงเหลือไว้เพียงแต่ความว่างเปล่า…ราวกับว่าเวลาถูกหยุดเอาไว้โดยฉับพลัน ช่วงเวลาความสุขของครอบครัว ทุกคนกำลังร่วมรับประทานอาหารด้วยกัน ผ้าที่ถูกตากเอาไว้บนราวหลังบ้าน ของเล่นของเด็กๆ กำลังเล่นกันอย่างสนุกสนาน ทุกอย่างต้องถูกหยุดเอาไว้แค่ตรงนั้น เพราะเกิดเหตุภูเขาไฟ Fuego ระเบิดอย่างรุนแรงในวันที่ 3 มิถุนายน 2561 ที่ผ่านมา ถือเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ภูเขาไฟระเบิดที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของกัวเตมาลา ภูเขาไฟเกิดปะทุขึ้นในช่วงตอนกลางวันของวันอาทิตย์ ปล่อยขี้เถ้าปริมาณมหาศาลออกมาที่ปากปล่องภูเขาไฟ จากนั้นทุกอย่างก็เริ่มแย่ลง มีการระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง สร้างความเสียหายออกไปเป็นวงกว้าง ฝุ่นควัน และเถ้าถ่านลอยออกไปครอบคลุมทุกพื้นที่ใกล้เคียง จากการรายงานเผยว่าการระเบิดในครั้งนี้ทำให้มีเถ้าถ่านลอยสูงขึ้นไปในอากาศกว่า 6,000 เมตร กระจายออกไปในรัศมีโดยรอบราวๆ 50 กิโลเมตร สร้างความเดือดร้อนให้กับประชากรกว่า 1.7 ล้านคน ก๊าซพิษต่างๆ ที่ลอยออกมาสร้างความเสียหายให้กับหมู่บ้านที่อยู่ใกล้เคียง รวมไปถึงหินละลายที่ปะทุไหลลงมาท่วมหมู่บ้าน ผู้คนจำนวนมากต่างรีบอพยพเพื่อหนีตาย มีรายงานผู้เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 110 คน และอีกกว่า 200 คนหายสาบสูญคาดว่าน่าจะถูกฝังไว้ใต้ซากปรักหักพังจากเหตุภูเขาไฟระเบิด …
-
เจ้าหน้าที่ไม่ยอมแพ้ ค้นหาหมาหลังเกิดภูเขาไฟระเบิด แม้จะผ่านไปนานกว่า 10 วัน
ตอนต้นเดือนพฤษภาคม 2018 นี้ ได้เกิดเหตุภูเขาไฟระเบิดขึ้นในเขตพูน่า รัฐฮาวาย ประเทศสหรัฐอเมริกา ส่งผลให้มีลาวาไหลเข้าทำลายบ้านเรือนเสียหายจำนวนมาก ด้วยความที่เหตุเกิดขึ้นกลางดึก ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องรีบไปตามบ้านที่อยู่ในพื้นที่เกิดเหตุแล้วปลุกประชาชนให้อพยพออกไปจากพื้นที่เสี่ยงภัยโดยด่วน บ้านของหญิงชรา Hosley กับเจ้าหมา Brus ก็อยู่ในเขตนั้นด้วย เธอรีบตื่นมาเก็บข้าวของที่จำเป็นด้วยความตื่นตระหนก และเจ้าหมาเองก็ตื่นกลัวไม่แพ้เธอเลย แต่ด้วยเหตุผลที่ต่างกันออกไป Brus เคยเป็นหมาจรจัดมาก่อน การหาบ้านให้มันเป็นเรื่องยากมาก เพราะมันหวาดกลัวผู้ชาย ซึ่งน่าจะเป็นเพราะมันเคยโดนโดยผู้ชายทำร้ายมาก่อน ในคืนนั้นเมื่อมีชายแปลกหน้าเข้ามาเตือนภัย เจ้าหมาก็เลยตกใจแล้ววิ่งหนีออกไปทางประตู แม้ว่าข้างนอกจะมีภูเขาไฟระเบิดอยู่ก็ตาม จากนั้นเจ้าหมา Little Dude ที่เป็นเพื่อนมันก็วิ่งตามออกไปด้วยจนหายไปจากระยะสายตาของชายที่มาเตือนภัย และหญิงชราเจ้าของของพวกมันด้วย ในสถานการณ์แบบนี้พวกเขาไม่มีเวลาตามเจ้าหมาออกไป เจ้าหน้าที่กู้ภัยให้ความสำคัญกับการช่วยหญิงชราก่อนเป็นอันดับแรก พวกมันก็เลยหายไปทั้งอย่างนั้น หลังจากที่เหตุการณ์สงบลงบ้างแล้ว Daylynn Kyles จากกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Aloha Ilio Rescue รู้เรื่องของหญิงชรากับเจ้าหมาเข้า เธอรู้ว่าเจ้าหมารอมานานมากกว่าจะเจอเจ้าของที่เข้ากันได้ เธอก็เลยพยายามออกตามหามันแล้วพากลับไปเจอกับเจ้าของ เธอออกตามหามันในแถบชุมชนที่มันเคยอยู่ เหมือนโชคจะเข้าข้างเมื่อเธอเจอรอยเท้าของหมาซึ่งดูจากขนาดแล้วก็น่าจะเป็นของเจ้า Brus เธอเลยค่อนข้างแน่ใจว่ามันยังมีชีวิตอยู่ แต่ก็ไม่เจอตัวมันเลย เธอเลยวางกรงที่ใส่อาหารเอาไว้ให้มัน เผื่อว่ามันหาอะไรกินไม่ได้ก็จะได้ไม่อดตายระหว่างที่รอให้คนไปช่วย Kyles และเพื่อนกลับมาดูที่จุดเดิมอีก หลังจากเวลาผ่านไปกว่า 1…
-
ชุดภาพเพอร์เฟคช็อต จากการปะทุของภูเขาไฟ ที่มีฉากหลังเป็นทางช้างเผือกอันแสนงดงาม…
การบันทึกภาพความประทับใจและความสวยงามในธรรมชาตินั้น ต้องอาศัยช่วงเวลาที่เหมาะสม บางเหตุการณ์นั้นอาจเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวในรอบหลายสิบปี หรือบางปรากฎการณ์อาจเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวในชีวิตของช่างภาพคนหนึ่งเลยก็ว่าได้ และวันนี้เราจะขอพาทุกคนไปชมภาพความสวยงามของละอองฝุ่นควันที่เกิดจากการปะทุของภูเขาไฟ ที่มีฉากหลังเป็นทางช้างเผือก ที่ช่างภาพคนหนึ่งสามารถบันทึกเอาไว้ได้ ภาพปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่แสนสวยนี้ ถูกบันทึกโดยช่างภาพหนุ่มชาวดัตช์คุณ Albert Dros โดยเขาได้ทำการตั้งแคมป์ในป่าเพื่อรอคอยภาพเพอร์เฟคช็อตการปะทุของลาวาจากภูเขาไฟ Fuego ในประเทศกัวเตมาลา ช่างภาพหนุ่มวัย 31 ปีกล่าวว่า “ผมถึงกับช็อคเลยทีเดียวเมื่อเห็นภาพของละอองฝุ่นควันที่พุ่งออกมาจากปากปล่องภูเขาไฟ และผสานรวมกับหมู่ดาวบนท้องฟ้า” ภูเขาไฟ Fuego มีความสูงประมาณ 3.7 กิโลเมตร ตั้งอยู่นอกเมือง Antigua ซึ่งเป็นเมืองหลวงเก่าของประเทศ Guatemala ภูเขาไฟแห่งนี้มีการประทุหลายครั้งต่อวัน แต่คุณ Dros บอกว่าช่วงเวลาที่สวยงามที่สุดนั้นจะเป็นช่วงเวลาตอนเย็นและตอนกลางคืน “การแสดงที่แท้จริงของ Fuego จะเกิดขึ้นจริงๆ ตอนกลางคืน มันสวยงามแสดงให้เห็นถึงสิ่งที่น่าอัศจรรย์และความน่าพิศวงของธรรมชาติ ผมประทับใจกับภาพที่ได้เห็นมากๆ “ คุณ Dros กล่าวเสริม และนี่คือภาพผลงานบางส่วนของช่างภาพหนุ่มผู้นี้… การระเบิด: ภาพของลาวาที่พวยพุ่งออกมาจากปากปล่องภูเขาไฟ ที่มีฉากหลังเป็นทางช้างเผือก ช่างภาพหนุ่มต้องตั้งแค้มป์อยู่เป็นเวลานานเพื่อเก็บภาพที่แสนจะสวยงามนี้ ช่างภาพต้องรอวันที่ท้องฟ้าไม่มีเมฆเพื่อให้ได้ภาพที่สวยงามแบบนี้ นอกจากนี้ยังมีภาพที่ถ่ายในเวลาใกล้เช้า ซึ่งทำให้เห็นความสวยงามอีกแบบหนึ่ง ภาพของกลุ่มฝุ่นควันที่เคลือนตัวลงต่ำในเวลากลางวัน…
-
ย้อนกลับไปดู หนึ่งในเหตุการณ์ภูเขาไฟระเบิดสุดสะเทือนใจ ‘ปอมเปอี’ มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!?
Pompeii (ปอมเปอี) ครั้งหนึ่งในอดีตเคยเป็นเมืองที่มีความเจริญรุ่งเรือง และชื่อเสียงโด่งดังอีกแห่งหนึ่ง อีกทั้งยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันสำคัญในยุคนั้นอีกด้วย แล้วมันกลับถูกทำลายลง เพียงเพราะภัยธรรมชาติอันยิ่งใหญ่เพียงครั้งเดียว…. ในคืนวันหนึ่ง 24 สิงหาคม ค.ศ. 79 ค่ำคืนที่ผู้คนต่างนอนหลับอย่างสบายใจใช้ชีวิตกันอย่างปกติสุข เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อจู่ๆภูเขาไฟ Mount Versuvius เกิดการระเบิด เพียงชั่วเวลาสั้นๆ เมืองปอมเปอี ถูกเปลี่ยนจากสวรรค์ให้กลายเป็นเหมือนดั่งนรกในทันที ฝุ่นควันจำนวนมากที่ปกคลุมไปทั่วท้องฟ้า แม้แต่พระอาทิตย์ก็ไม่สามารถส่องแสงผ่านลงมาได้ บวกกับลาวาที่ประทุขึ้นไปบนท้องฟ้า และเกิดการแข็งตัว จึงตกลงมาเป็นฝนหิน บางคนโดนหินตกใส่ บางคนถูกลาวาเผาละลาย ในขณะที่หลายๆคนพยายามวิ่งหนีเอาชีวิตรอด แต่สุดท้ายพวกเขาก็หนีไม่พ้นก๊าซพิษ จนกลายมาเป็นจุดจบของนครปอมเปอี… สภาพของเมืองปอมเปอี หลังถูกบูรณะ และถูกแต่งตั้งให้เป็นมรดกโลก หนึ่งในชาวเมืองผู้โชคร้ายจากภัยธรรมชาติ สะท้อนให้เห็นถึงความเจ็บปวดอันแสนสาหัส จากเหตุการณ์ครั้งนี้ ชาวเมืองจำนวนมากถูกฝังลึกลงไป 13 – 20 ฟุต จากลาวา และเถ้าถ่านที่ปกคลุมไปทั่วทั้งเมือง ซึ่งเชื่อกันว่าในช่วงเวลานั้น มีชาวเมืองอาศัยอยู่ประมาณ 20,000 คน ก่อนที่พวกเขาทั้งหมดจะหายไปเพียงชั่วข้ามคืน.. อ้างอิงจากผลพิสูจน์เมื่อปี 2010…