Tag: มะเร็งเต้านม
-
เสื้อผ้าสุดเจ๋ง ช่วยผู้ป่วยผ่าตัดมะเร็งเต้านมให้แช่น้ำบ่อน้ำร้อนได้เหมือนคนปกติ
ในบ่อน้ำร้อนของญี่ปุ่นไม่ว่าจะเป็นบ่อน้ำร้อนตามธรรมชาติหรือว่าอ่างน้ำร้อนในโรงอาบน้ำ ทุกที่จะมีกฎที่คนญี่ปุ่นรู้กันที่ว่า “ทุกคนที่เขามาอาบน้ำ จะต้องเปลือยทั้งตัว” พวกเขาเชื่อว่าการแช่น้ำทั้งๆ ที่ไม่ถอดชุดจะเป็นการทำให้น้ำไม่บริสุทธิ์ และการแก้ผ้าอาบน้ำนั้นไม่มีอะไรต้องอาย ถึงอย่างนั้นทุกเรื่องก็ต้องมีข้อยกเว้นเหมือนกัน บริษัทสิ่งทอในนะงะโนะ ชื่อ Bright Eyes พบว่าผู้รอดชีวิตจากมะเร็งเต้านมมักจะรู้สึกไม่ดีและขาดความมั่นใจเวลาไปบ่อน้ำร้อน เพราะพวกเขามีบาดแผลขนาดใหญ่ที่หลงเหลือมาจากการผ่าตัด ดังนั้น Hitomi Kato ผู้บริหารสูงสุดของ Bright Eyes ผู้ที่เคยเข้ารับการผ่าตัดมะเร็งเต้านมเช่นกัน จึงได้คิดค้นชุดสำหรับอาบน้ำของสาวๆ ผู้รอดชีวิตจากมะเร็งเต้านมขึ้น และให้ชื่อมันว่า Bath Time Cover (ชุดอาบน้ำปกปิด) เจ้าชุดที่ว่านี้ออกมาวางจำหน่ายสองแบบคือแบบตะขอและแบบสายผูก หน้าตาคล้ายเสื้อชั้นในแบบไหล่ แต่ไม่จำเป็นต้องถอดออกเมื่อเข้าของอาบน้ำหรือบ่อน้ำร้อน เพราะตัวชุดออกแบบมาให้ทำการล้างและถูสบู่ทำความสะอาดร่างกายผ่านเนื้อผ้าได้เลย แถมยังออกแบบมาให้เป็นมิตรต่อความสะอาดของน้ำในบ่อแช่อีกด้วย โดยที่ความสามารถที่ว่านี้ได้รับการยืนยันจากนักวิจัยจาก Shinshu University ในนะงะโนะและได้รับการรับรองจาก กระทรวงสาธารณสุขของรัฐบาลญี่ปุ่น กระทรวงแรงงานและสวัสดิการ กระทรวงกิจการภายใน การสื่อสารและที่ดิน กระทรวงโครงสร้างพื้นฐานและการคมนาคม อีกด้วย ตัวชุดนั้นออกแบบมาให้แห้งเร็วจนสามารถเช็ดตัวไปด้วยผ้าขนหนูได้เลยโดยไม่ต้องถอดออก อันที่จริงชุดนี้ก็ออกมาขายเป็นเวลานานกว่า 20 ปีแล้วแต่กลับไม่เป็นที่รู้จักในหมู่คนญี่ปุ่นเท่าที่ควร ดังนั้นเหล่าพนักงานของ Bright Eyes จึงออกไปกระจายข่าวของชุดนี้ในนะงะโนะอยู่เสมอๆ บวกกับการที่รัฐบาลออกมาขอความร่วมมือในการอนุญาตปกปิดร่างกายอาบน้ำ ทำให้ในบัจจุบันสามารถใช้ชุดตัวนี้ได้โดยไม่มีปัญหาใดๆ แล้ว ข้อความที่ใหญ่ที่สุดแปลว่า “น้ำพุร้อนของ Shinshu…
-
10 เรื่องจริงเกี่ยวกับ ‘หน่มน้ม’ ที่คุณอาจไม่จำเป็นต้องรู้ แต่รู้ไว้ก็ดี เพราะโม้ให้เพื่อนฟังได้!!
มิตรสหายท่านหนึ่งเคยกล่าวไว้ว่า บนโลกนั้นแบ่งคนเป็น 2 ประเภท ประเภทแรกคือชอบมองหน่มน้ม และประเภทที่สองคือชอบมองก้น เพื่อนๆ ว่าตัวเองเป็นแบบไหนกัน แต่ที่แน่ๆ ผู้เขียนเป็นแบบแรกล่ะ วันนี้เลยจะเอาข้อเท็จจริงของหน่มน้มมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกัน 1. ค่าเฉลี่ยของหน่มน้มนั้นเพิ่มขึ้นตลอด อ้างอิงตามการวิจัย ค่าเฉลี่ยขนาดของหน้าอกนั้นเพิ่มขึ้นจาก 20 ปีก่อนจากขนาด 34B ปัจจุบันได้มาอยู่ที่ขนาด 34D แล้ว ซึ่งเหตุผลหลักๆ มาจากการเพิ่มขึ้นของฮอร์โมนเพศหญิง 2. หน้าอกข้างซ้ายมักจะใหญ่กว่าข้างขวา มันไม่เหมือนกับที่เราคิดว่าหน้าอกนั้นเท่ากัน ซึ่งปกติแล้วหน้าอกคนส่วนใหญ่นั้นมีขนาดที่แตกต่างกัน แต่เพียงแต่ตาเรานั้นไม่สามารถแยกออกนั่นเอง 3. ทุกๆ คนนั้นชอบมองหน่มน้ม! อ้างอิงตามวารสารการวิจัย Sex Role ผู้ชายและผู้หญิงนั้นมักจะจ้องมองไปที่หน้าอกของผู้หญิงที่เพิ่งพบเจอสักสองสามวินาที 4. หน้าอกจะเคลื่อนตัวถึง 8 นิ้ว ขณะที่กำลังวิ่ง ขณะที่เรากำลังวิ่งนั้น หน้าอกจะมีการเคลื่อนตัวเป็นรูปเลข 8 และทำให้เป็นเหตุผลที่น่าอกขยับขึ้นลงได้ถึง 8 นิ้ว 5. การคลึงหน่มน้ม สามารถทำให้ถึงจุดสุดยอดได้ แม้ว่าผู้หญิงจะสามารถถึงจุดสุดยอดของพวกเธอได้เพียงแค่คลึงเต้านมและหัวนมก็ตาม…
-
หนุ่มแสดงความรักมั่น ขอสาวผู้ป่วยมะเร็งเต้านมแต่งงานในโรงพยาบาล ก่อนเธอเสียชีวิต
โรคมะเร็งเป็นโรคร้ายชนิดหนึ่ง ผู้ป่วยเป็นโรคมะเร็งจะมีการแบ่งเซลล์ผิดปกติ จนเกิดเป็นเนื้องอกร้ายในร่างกาย และอาจลุกลามไปยังส่วนต่างๆ จึงถือว่าเป็นโรคที่น่ากลัวที่สุดโรคหนึ่ง ที่พรากชีวิตคนจำนวนไม่น้อยไปจากโลกใบนี้ หากป่วยเป็นมะเร็งระยะร้ายแรงแล้ว ผู้ป่วยมักจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นานนัก แต่ถ้าได้รับกำลังใจที่ดีพอ อาจจะเป็นแรงผลักดันให้ผู้ป่วยมีชีวิตรอดได้นานราวกับปาฏิหาริย์ก็ได้ เจ้าบ่าวและเจ้าสาวคู่นี้ อาจจะเป็นตัวอย่างที่ดีของเหตุการณ์ดังกล่าว David และ Heather Mosher เจ้าสาว Heather Mosher ป่วยเป็นโรคมะเร็งเต้านมชนิดทริปเปิ้ลเนกาทีฟ แต่เธอมีชีวิตรอดได้ยาวนานกว่าที่หมอคาดการณ์ไว้ เนื่องจากเธอได้รับกำลังใจอันล้นหลามจากคนรัก David Mosher ทั้งคู่พบกันในชั้นเรียนสวิงแดนซ์เมื่อเดือนพฤษภาคม 2015 หลังจากนั้นทั้งสองก็หลงรักกันหัวปักหัวปำ กลายเป็นคู่รักที่ตัวติดกันตลอดเวลาเลยทีเดียว ดังที่ David เล่าว่า “หลังจากเราพบกันแล้ว ก็เหมือนว่าเราแยกจากกันไม่ได้เลย” แต่เรื่องราวรักหวานชื่นของทั้งคู่ก็ดำเนินมาได้ไม่นาน เพราะเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2016 แพทย์ก็ได้แจ้งข่าวร้ายกับพวกเขาว่า แฟนสาวป่วยเป็นโรคมะเร็งเต้านม ถึงแม้จะรู้ว่าแฟนสาวป่วยเป็นโรคมะเร็ง แต่ชายหนุ่มก็ไม่คิดจะปล่อยให้เธอต่อสู้กับโรคนี้เพียงลำพัง เขาตัดสินใจขอหมั้นเธอในวันเดียวกันที่เธอรู้ข่าวว่าเป็นมะเร็งเลย เขาเล่าว่า “เธอไม่รู้มาก่อนว่าผมจะขอหมั้นคืนนั้น แต่ผมอยากให้เธอรู้ว่า เธอจะไม่ต้องต่อสู้กับโรคนี้คนเดียว” จากนั้นเขาจึงขอเธอแต่งงานอย่างโรแมนติกบนรถม้าดังที่ชายหนุ่มเล่าว่า “ผมจัดเตรียมรถม้าไว้สำหรับเราสองคนแล้ว ในคืนนั้นระหว่างที่เรากำลังนั่งรถม้าไปในถนนที่มีเพียงแสงไฟ ผมก็ขอเธอหมั้นทันทีเลย” ทว่าข่าวร้ายเรื่องโรคมะเร็งเต้านมยังไม่จบสิ้น ห้าวันหลังจากเขาขอเธอหมั้นแล้ว…
-
เอาอีกแล้ว… จากหลอกจับหน้าอก ครั้งนี้หนุ่มจีนตีเนียนใช้หน้าซุกแทน อ้างเป็นแคมเปญบริจาค
จะเป็นยังไงถ้าหากว่ามีคนแปลกหน้า เข้ามาขอซุกหน้าอกของเรา เพื่อเป็นการบริจาคเงินให้กับการกุศล? จนเรื่องแบบนี้ก็กลายมาเป็นกระแสวิพากย์วิจารย์ บนโลกออนไลน์ของประเทศจีน เมื่อบล๊อคเกอร์หนุ่มคนหนึ่งได้อัพคลิปวิดีโอวีรกรรมแผลงๆ ของเขาลงบนโลกออนไลน์อีกครั้ง ชายหนุ่มคนดังกล่าวได้ตระเวนออกไปทั่วเมือง พร้อมกับขอเอาหน้าซุกไปที่หน้าอกของสาวๆ และบอกพวกเธอว่านี่เป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญการบริจาคเงินเพื่อการกุศล โดยจะนับเป็นจำนวนเงินบริจาคจากที่พวเธอยอมให้เขาเอาหน้าถูที่หน้าอกแล้ว ชายหนุ่มคนดังกล่าวได้อ้างว่านี้คือหนึ่งในเคมเปญการระดมทุนเพื่อผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านม โดยทุกๆ ครั้งที่เขาเอาหน้าถูหน้าอกผู้หญิงเป็นเวลา 5 วินาที เขาก็จะมอบเงินให้กับสภากาชาดของประเทศจีนเป็นจำนวน 10 หยวน หรือประมาณ 50 บาทต่อครั้ง หญิงสาวที่เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว จะต้องยอมโดนเอาหน้าถูกับหน้าอกนานถึง 5 วินาที อย่างไรก็ตามมีการตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับผู้หญิงที่ปรากฏในคลิปวิดีโอดังกล่าว ว่าถูกว่าจ้างมาหรือไม่ แต่ทว่ายังไม่มีการยืนยันจากสภากาชาดเกี่ยวกับเงินบริจาคก้อนดังกล่าวด้วย ภาพบางส่วนจากคลิปวิดีโอ ที่เผยให้เห็นการกระทำอันไม่เหมาะสมของหนุ่มคนนี้ หนุ่มวัย 26 ปีผู้นี้ รู้จักกันในโลกออนไลน์ในชื่อว่า Xu โดยก่อนหน้านี้เขาก็เคยทำคลิปวิดีโอในลักษณะคล้ายๆ กันมาแล้ว โดยในครั้งนั้นเขาได้ตระเวนออกไปในที่สาธารณะ เพื่อแสดงมายากลเพื่อหลอกจับหน้าอกของสาวๆ จากเหตุในครั้งนั้นทำให้เขาถูกจับขังเป็นเวลา 14 วัน และหลังจากที่พ้นการดำเนินคดี ชายหนุ่มได้ออกมากล่าวขอโทษพร้อมกับบอกว่าเขารู้สึกผิด ที่ไม่ให้เกียรติกับผู้หญิงและไม่ได้ขออนุญาตเสียก่อน… แต่จากการรายงานของเว็บไซต์ Shanghaiist…
-
เด็กสาวป่วยเป็นมะเร็ง หมอบอกว่าเธอจะอยู่ได้แค่ 3 เดือน แต่กำลังใจที่ดีก็ทำให้อยู่นานนับปี!!
จะเป็นยังไงถ้าคุณรู้ตัวว่าตัวเองป่วยเป็นโรคมะเร็ง ยิ่งไปกว่านั้นอยู่ดีๆ หมอก็มาบอกว่าคุณจะอยู่ไปได้อีกแค่ 3 เดือนเท่านั้น!!? ย้อนกลับไปเมื่อปี 2015 เด็กสาววัย 17 ปี Maddy Richie จากประเทศออสเตรเลีย ซึ่งได้ป่วยเป็นมะเร็งเต้านมระยที่ 4 ซึ่งถือว่ารุนแรงมาก ครอบครัวของเธอต่างก็เป็นกังวล เตรียมทำใจกับการสูญเสีย ขณะที่คุณหมอเองก็บอกว่าเธอจะอยู่ได้อีกไม่นาน แต่พอเอาเข้าจริงๆ เธอก็ผ่านพ้นมันมาได้ ตั้งแต่ 3 เดือน 6 เดือน หรือตอนนี้เธอก็อายุปาไป 19 ปีเข้าไปแล้ว ด้วยเหตุนี้เธอจึงอยากจะแชร์เรื่องราวของเธอให้คนอื่นได้รู้ว่า แม้โอกาสจะมีน้อย แต่ถ้าเราไม่ยอมแพ้และคว้ามันไว้ ทุกอย่างมันก็เป็นไปได้ เธอเริ่มเล่าเรื่องราวของเธอในจุดเริ่มต้นว่า “หลังจากฉันจบจากไฮสคูลได้ไม่นาน ฉันก็เริ่มที่จะมองไปในอนาคตที่สดใสที่กำลังทอดยาวรอฉันอยู่ แต่ว่าอยู่ดีๆ ฉันก็รู้สึกหายใจลำบากมากติดๆ ขัดๆ ไม่มีแรงที่จะทำอะไรเลย แค่จะเดินขึ้นบันไดยังทำไม่ได้ จนฉันได้ไปตรวจร่างกายกับหมอและสแกนร่างกายดู ซึ่งในวันเดียวกันหลังจากฉันได้รับการวินิจฉัยและรู้ว่าตัวเองเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายและมีก้อนมะเร็งขนาดใหญ่กว่า 8 เซนติเมตรอยู่ หมอก็บอกฉันทันทีว่าเธออยู่ต่อได้อีก 3 เดือนเท่านั้น และก็มีโอกาสเพียงแค่ 4% ที่จะรอดผ่าน 3 เดือนดังกล่าวไปได้ ขณะเดียวกันฉัยก็ต้องเข้ารับการรักษามากมาย”…
-
เด็กหนุ่มวัย 18 ผู้ออกแบบ “บราตรวจมะเร็งเต้านม” หวังช่วยให้แม่ไม่ต้องเผชิญโรคร้าย
เป็นอีกนวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์ จากเด็กหนุ่มผู้มีอายุเพียงแค่ 18 ปี Julian Rios Cantu ผู้ออกแบบบราตรวจจับมะเร็งเต้านม โดยได้แรงบันดาลใจมาจากคุณแม่ของเขาเอง ถึงแม้ว่าสิ่งประดิษฐ์ของหนุ่มเม็กซิกัน จะยังไม่ถูกผลิตออกมาจริงๆ แต่ไอเดียของเขาก็ทำให้เจ้าตัวชนะเลิศการแข่งขัน Global Student Entrepreneur Awards (GSEA) ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อมวลมนุษยชาติในอนาคต ซึ่งประโยชน์ของมันก็คือ ใช้งานได้ง่ายกว่า สะดวกกว่า และประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่าการตรวจด้วยเครื่องแมมโมแกรม (Mammogram) ขั้นตอนการทำงาน!? โดยในส่วนของ EVA นั้น จะประกอบไปด้วยไบโอเซ็นเซอร์มากกว่า 200 ตัว เพื่อตรวจจับการเปลี่ยนแปลงของพื้นผิว น้ำหนัก ขนาด และอุณหภูมิของเต้านมอย่างละเอียด หลังจากที่ตัวไบโอเซ็นเซอร์ได้จับข้อมูลมาแล้ว มันก็จะทำการส่งข้อมูลผ่านบลูทูธไปยังแอพพลิเคชั่นบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือ หรือคอมพิวเตอร์ เพื่อรายงานผลให้ทราบได้อย่างทันท่วงที หากมีความผิดปกติเกิดขึ้น หนุ่มนักประดิษฐ์วัย 18 เจ้าของผลงาน ไอเดียทั้งหมดนี้มันเริ่มมาจากการที่ตัวของเขาเอง ต้องเห็นคุณแม่ผู้เป็นที่รักรู้สึกเจ็บปวดทรมานจากการเผชิญโรคร้ายดังกล่าว ทำให้ตัวของเขาเอง และเพื่อนสนิทอีก 2 คน ตั้งใจที่จะตั้งบริษัท Higia Technologies เพื่อพัฒนาไบโอเซ็นเซอร์ สิ่งประดิษฐ์ที่จะมีประโยชน์ต่อวงการแพทย์ และหญิงสาวทุกคนในอนาคต รูปต้นแบบของ EVA…
-
ทารกน้อยช่วยเหลือคุณแม่จากโรค “มะเร็งเต้านม” หลังดูดนมจากเต้าแล้วร้องไห้ไม่หยุด!?
คุณแม่วัยสาวได้เปิดเผยเรื่องราวที่ลูกชายตัวน้อยได้ทำการช่วยเหลือชีวิตของเธอเอาไว้จากโรคมะเร็งร้าย… Sarah Boyle วัย 26 ปี พนักงานคอลเซ็นเตอร์ได้เล่าให้ฟังว่าเจ้าหนูน้อย Teddy ลูกชายของตัวเองนั้นได้ทำการช่วยชีวิตเอาไว้ เพราะเขาดูผิดปกติจากเดิม จะร้องเสียงดังและดูกระวนกระวายใจทุกครั้งที่เธอพยายามจะป้อนนมด้วยเต้านมข้างขวา ด้วยความกังวลว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น Sarah จึงได้ไปพบกับคุณหมอเพื่อปรึกษาถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้น หลังจากนั้นคุณหมอก็ส่งเธอไปยังโรงพยาบาลเพื่อตรวจอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง อีกสองสัปดาห์ต่อมาก็พบ่ว่าเธอป่วยเป็นโรคมะเร็งเต้านมในระดับที่ 2 แล้ว!! นั่นทำให้เธอสามารถเข้ารับการรักษาด้วยคีโม หลังจากนั้นเธอก็วางแผนที่จะตัดเต้านมทั้งสองข้างออกไปเพื่อลดความเสี่ยงในการป่วยเป็นมะเร็งหลังจากที่เจ้าเนื้อร้ายนั้นได้หายไปแล้ว คุณ Sarah เล่าวว่า “Teddy เป็นฮีโร่ของฉัน ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะเขาแล้วล่ะก็ฉันคงจะไม่รู้ตัวว่าตัวเองกำลังเป็นมะเร็งอยู่ ผู้ให้คำปรึกษาของฉันบอกกับฉันว่าการให้ลูกดื่มนมจากเต้านั้น จะช่วยให้ความสัมพันธ์ของแม่และลูกใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น แต่สำหรับกรณีของฉันแล้วมันช่วยได้มากกว่านั้น มันช่วยชีวิตของฉัน!” “Teddy อาจจะรับรู้ได้ถึงรสชาติของนมที่เขาดื่มจากข้างขวา ซึ่งมันไม่เหมือนกับนมที่เขาดื่มจากเต้าด้านซ้าย” ก่อนหน้านี้คุณ Sarah เองก็เคยตรวจพบก้อนเนื้อแปลกๆ ที่เต้านมข้างขวานี้ในช่วงปี 2013 แต่คุณหมอบอกว่าไม่ต้องกลัวมันเป็นแค่ก้อนซีสต์เท่านั้น ไม่มีอะไรที่จะต้องห่วง แต่ใครจะรู้เล่าว่าหลังจากผ่านไป 4 ปี มันจะกลายมาเป็นก้อนเนื้อร้าย แถมยังอยู่ในระดับที่สองอีกด้วย ถ้าหากว่าลูกชายของเธอไม่แสดงอาการแปลกๆ ออกมา เรื่องราวอาจไม่จบแบบนี้ก็เป็นได้ …
-
สาวมิสบิกินี่ ถ่ายภาพสุดเซ็กซี่กลางถนน ทำเอาคนจักรยานล้ม จนเกิดเป็นภาพโฟโต้บอมบ์สุดฮา
เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2558 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศ ได้เผยภาพของ Ana Pavel สาวมิสบิกินี่ชาวไอร์แลนด์ ที่กำลังถ่ายภาพเปลือยท่อนบน โดยนุ่งแค่ชุดชั้นในสีดำตัวจิ๋ว โพสท่าเดินไปตามถนนด้วยท่าทางสุดเซ็กซี่ ซึ่งการถ่ายภาพในครั้งนี้ Ana ตั้งใจที่จะร่วมสนับสนุนกิจกรรมในเดือนแห่งการเฝ้าระวังมะเร็งเต้านมยังไงละเหมียว แต่ทว่าในขณะที่เธอกำลังโพสท่าสุดเซ็กซี่ขยี้ใจอยู่นั้น ฉากหลังของเธอดูเหมือนจะกลายเป็นจุดสนใจอย่างมาก เพราะดันมีภาพหญิงสาวรายหนึ่ง ที่ขับรถจักรยานมาล้มกลิ้งหน้าคะมำลงพื้น สงสัยเธอคงตะลึงที่เห็นหญิงเปลือยอกแชะหวิวบนถนน เรียกได้ว่างานนี้โดนแย่งซีนไปเต็มๆ เลยนะเนี่ย เมื่อตากล้องที่ไม่ได้สังเกตว่าฉากหลังของภาพมีอะไรผิดปกติ จึงนำรูปนี้ไปโพสต์ลงในทวิตเตอร์ พร้อมข้อความว่า ‘นี่เป็นรูปที่ดีที่สุดเท่าที่ฉันเคยถ่ายมา’ ในขณะที่ภาพถูกโพสต์ลงในทวิตเตอร์ ชาวเน็ตทั้งหลายที่เข้ามารับชมต่างก็พากันขำแรงมาก ก่อนที่จะนำภาพไปทำเป็นจุดวงกลม เพื่อเน้นให้เห็นภาพของหญิงสาวตกจักรยาน และทำการส่งต่อให้กับตากล้อง พร้อมกับข้อความที่บอกว่า ‘สงสัยตากล้องคงมัวแต่ดูมิสบิกินี่ จนไม่เห็นว่าด้านหลังมีสาวจักรยานล้มกลิ้งอยู่ละมั้ง’ นอกจากนี้ชาวเน็ตบางรายให้แสดงความคิดเห็นอีกว่า ‘เห็นทีต้องเลิกรณรงค์อันตรายจากมะเร็งเต้านม แล้วหันมารณรงค์เรื่องการใช้ถนนอย่างไรให้ไม่เจ็บตัวแทนจะดีกว่า’ ที่มา : metro