Tag: มูลวัว
-
ดีไซน์เนอร์สาวชาวดัตช์ ออกแบบแฟชั่นเสื้อผ้าสุดล้ำ ที่ไม่น่าเชื่อว่าทำมาจาก “ขี้วัว” !?
ในปัจจุบันนั้นกระแสการดูแลสิ่งแวดล้อม เป็นสิ่งที่ผู้คนทั่วโลกให้ความสนใจเป็นอย่างมาก นักวิทยาศาสตร์ก็ต่างพากินคิดค้นวิธีที่จะรีไซเคิลขยะโลกให้นำกลับมาใช้เป็นประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เช่นเดียวกันกับศิลปินชาวดัตช์ผู้หนึ่ง ที่ใช้เทคนิคทางเคมีเปลี่ยนปุ๋ยคอกจากมูลสัตว์มาเป็น เสื้อผ้า, กระดาษและพลาสติกที่ย่อยสลายได้ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานักวิทยาศาสตร์จากทั่วโลกมีการพัฒนาเป็นอย่างมาก ในเรื่องการรีไซเคิลมูลวัวและเปลี่ยนปุ๋ยคอกเป็นก๊าซธรรมชาติ แต่นักออกแบบชาวดัตช์ Jalila Essaïdi ไม่คิดว่าผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะมีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะแก้ปัญหาขยะที่ล้นโลกได้ เธอจึงมีความคิดที่จะเพิ่มมูลค่าให้แก่มูลวัวที่เป็นของเสียให้หลายมาเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทรงคุณค่ามากกว่าเดิม ในการทำงานทดลองและออกแบบของเธอพบว่ามูลวัวสามารถเป็นวัสดุหลักในงานออกแบบของเธอได้เพราะมีคุณสมบัติที่สามารถย่อยสลายทางชีวภาพได้และยังมีคุณสมบัติที่ต้องการในการผลิตชิ้นงานของเธอ เธอเริ่มต้นด้วยการแยกมูลวัวเพื่อสกัดเซลลูโลสบริสุทธิ์จากหญ้าที่วัวกิน ส่วนมูลวัวที่เปียกเธอได้สกัดสาร “เซลลูโลสอะซิเตต” (cellulose acetate) เพื่อใช้ในการสร้างเส้นใยจนกลายมาเป็นผ้าและพลาสติกชีวภาพและยังสามารถนำไปผ่านกระบวนการ freeze-dried เพื่อสร้าง “Aerogel” ได้อีกด้วย วัสดุใหม่นี้มีชื่อว่า “Mestic” (รากศัพท์มาจากคำว่า mest ซึ่งแปลว่ามูลในภาษาดัตช์) ด้านนักออกแบบที่ชื่อ Jalila Essaïdi อ้างว่ามันมีคุณสมบัติเช่นเดียวกับพลาสติกที่ได้มาจากเชื้อเพลิงฟอสซิล แต่สามารถย่อยสลายทางชีวภาพได้ ในปีที่ผ่านมาเธอก็ได้ร่วมมือกับเทศบาลของเมืองไอนด์โฮเวน ประเทศเนเธอร์แลนด์ ในงานแสดงแฟชั่น ด้วยการใช้ผ้า Mestic ในคอลเลคชั่น Mestic Couture จนแบรนด์เสื้อผ้ายักษ์ใหญ่อย่าง H & M มอบรางวัล Global Change Award และเงินรางวัลอีก 1 ล้านเหรียญ (หรือประมาณ…
-
พาไปชมบรรยากาศเทศกาล ‘ปาขี้วัว’ ในอินเดีย ที่เชื่อว่าจะนำมาซึ่งความมั่งคั่ง และสุขภาพดี
ในทุกๆ ปีชาวบ้านในหมู่บ้าน Kairuppala ที่ตั้งอยู่ในรัฐอานธรประเทศจะมีการจัดงานเทศกาลปา ‘ก้อนอึ๊วัว’ ใส่กัน จนทำให้มีผู้บาดเจ็บมากมายนับ 10 คนเลยทีเดียว แต่แม้จะมีการบาดเจ็บไปบ้าง แต่ก็ยังจัดต่อไปโดยมีความเชื่อว่าประเพณีจะนำมาซึ่งความมั่งคั่งและสุขภาพที่ดี ตามเรื่องราวในตำนานเมื่อขุนนางวีรภัทร ร่างอวตารของพระศิวะ ที่เป็นเทพเจ้าในศาสนาฮินดู และเทพีพระนางภัทรกาลี ได้ตกหลุมรักซึ่งกันและกันจึงตัดสินใจที่จะแต่งงานกัน แต่ฝ่ายเจ้าบ่าวดันนึกครึ้มอยากแกล้งเจ้าสาวจึงบอกไปว่าเขาไม่ต้องการที่จะแต่งงาน ทำให้พระนางภัทรกาลีโกรธ จึงรวบรวมทหารมาเพื่อทำการสั่งสอนเจ้าบ่าวด้วยการโยนก้อนอึ๊วัวใส่ และอีกฝั่งก็ตอบโต้ไปด้วยเช่นกัน จนผลสุดท้ายทั้งคู่ก็ปรับความเข้าใจกัน และแต่งงานด้วยกันในที่สุด ทำให้ชาวบ้าน Kairuppala ดำเนินตามประเพณีตามตำนานนี้มาอย่างยาวนาน กองอึ๊วัวแห้งขนาดใหญ่ที่มีเป็นนับพันก้อน จะถูกกองเอาไว้บริเวณกลางหมู่บ้าน จากนั้นชาวบ้านก็จะแบ่งออกเป็นสองฝั่ง คือฝั่งของพระนางภัทรกาลี กับฝั่งของขุนนางวีรภัทร ส่วนผู้ชมก็จะขึ้นไปยืนอยู่บนหลังคาบ้าน หรือไม่ก็บนต้นไม้ เพื่ออยู่ให้ห่างจากการต่อสู้ที่เดือดระอุอบอวลไปด้วยกลิ่นอึ๊วัว เมื่อมีการส่งสัญญาณให้การต่อสู้เริ่มต้นขึ้นทั้งสองฝั่งก็จะเริ่มโยนก้อนอึ๊วัวแห้งเข้าหากัน และทำไปเรื่อยๆ นานกว่าครึ่งชั่วโมง ทำให้มีผู้บาดเจ็บจากการถูกก้อนอึ๊วัวแข็งๆ กระทบเข้าใส่ และในปีล่าสุดก็มีรายงานว่ามีผู้บาดเจ็บมากกว่า 50 รายเลยทีเดียว!! แต่หลังจากที่ประเพณีจบลง ทุกคนในหมู่บ้านที่เข้าร่วมต่างก็แสดงท่าทีแห่งความสุขออกมา ทั้งสองฝั่งร่วมกันเฉลิมฉลองกันอย่างมีความสุขแม้ว่าเพิ่งจะต่อสู้กันด้วยก้อนอึ๊วัวอย่างหนักหน่วงมาก่อนหน้านี้ก็ตาม… ลองไปชมคลิปบรรยากาศในงานเทศกาลกันแบบเต็มๆ ที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า… มีต่ออีกคลิปจ้า… นี่ยังดีนะที่เอาแบบแห้งๆ มาปากัน…