Tag: ยุโรป
-
“ลุงเปิดกระโปรงสาว” แล้วมองเข้าไปข้างใน ฝ่ายหญิงจับได้ก็เอาซิ๊.. ลุงจะดูก็ดูเลย!!
เหตุการณ์ที่มีคนถ่ายคลิปวิดีโอมาให้ชมในครั้งนี้ต้องบอกเลยว่าดูแล้วงงว่าโลกของเรามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? ชายสูงวัยคนหนึ่งนั่งอยู่ด้านหลังของหญิงวัยกลางคนที่กำลังยืนมองอะไรบางอย่าง จากนั้นชายสูงวัยก็ทำทางจะมองไปทางนั้นบ้าง แต่ดันเปิดกระโปรงของหญิงคนดังกล่าวและมองลอดเข้าไปข้างในกระโปรง… รับชมคลิปกันก่อนเลย ภายในคลิปวิดีโอจะเห็นได้ว่าคุณลุงพยายามมองไปยังด้านหน้าซึ่งกระโปรงของหญิงในชุดเดรสสีแดงนั้นบังอยู่ คุณลุงเลยจับชายกระโปรงของหญิงดังกล่าวและเปิดขึ้นเพื่อมองเข้าไป ทั้งนี้ทั้งนั้น ภายใต้กระโปรงจะมองเห็นทัศนียภาพหรืออะไรก็ตาม และต่อให้ทั้งสองเป็นคนรู้จักกัน การเปิดกระโปรงหญิงสาวในที่สาธารณะแบบนี้ก็เป็นสิ่งที่ไม่งามตาอยู่ดี อะเด๊ะ!!? มองอะไรกัน ขอลุงส่องหน่อย เราอาจจะมองว่าคุณลุงคนนี้โรคจิตหรือทำตัวไม่เหมาะสม แต่หากย้อนกลับไปดูในวิดีโอดีๆ อีกครั้ง หญิงสาวในชุดแดงก็หันมาเห็นว่าคุณลุงเปิดกระโปรงของตนเพื่อมองอะไรบางอย่างอยู่ แทนที่เธอจะปกป้องตนเองหรือขจัดภาพไม่งามตานี้ออกไป เธอกลับช่วยให้คุณลุงมองเห็นชัดขึ้นโดยการ “ยกขา” ข้างหนึ่งขึ้นอย่างเงียบๆ ทำให้เกิดช่องว่างระหว่างขาที่กว้างมากกว่าเดิม หญิงคนนี้อาจมีเจตนาช่วยให้คุณลุงสามารถมองเห็นภาพด้านหน้าได้ชัดเนื่องจากกระโปรงของตนเองไปบดบังทัศนียภาพของคุณลุงอยู่ แต่ถึงกระนั้นชาวเน็ตหลายคนต่างลงความเห็นกันว่า คุณลุงคนนี้ “คิดไม่ดี” อย่างแน่นอน ตัวอย่างความเห็นเช่น “ตาแก่ลามก” “ลุงคงอยากให้หญิงคนนี้นั่งลง หมายถึงนั่งลงบนหน้าแกน่ะ” “ผู้หญิงน่าจะตดใส่ไปเลยเนอะ” “แหม ลุงแกนี่เป็นผู้ชายแห่งปีเลยจริงๆ” “ลุงแค่ยืมกระโปรงเธอเช็ดแว่นหรือเปล่า ไม่ต้องคิดมาก ฮ่าๆ” เปิดกระโปรงกันในที่สาธารณะแถมต่างฝ่ายต่างก็โอเคอีกด้วย มันเกิดอะไรขึ้นบนโลกของเรากันแน่ล่ะเนี่ย!!? ที่มา: liveleak และ ck101
-
ตำรวจลิทัวเนียโบกรถหยุด “ผู้หญิง” ทุกคน ไม่แจกใบสั่งแต่ให้ดอกไม้แทนใจใน ‘วันสตรีสากล’
ในทุกๆ วันที่ 8 มีนาคมของทุกปี ถูกกำหนดไว้ให้เป็น ‘วันสตรีสากล’ ในวันนี้จะมีการจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อเฉลิมฉลองและแสดงความนับถือต่อเพศหญิงทั่วโลก ที่เป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาด้านต่างๆ ส่วนมากจะมีการออกมาเชิดชูเหล่าสตรีที่ได้ทำคุณงามความดีให้กับโลกใบนี้… เช่นเดียวกับการเฉลิมฉลองวันสตรีสากลที่ประเทศลิทัวเนีย หนึ่งประเทศที่ตั้งอยู่ในทวีปยุโรป เนื่องในวันที่ 8 มีนาคม 2018 ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ออกมาทำกิจกรรมน่ารักๆ เพื่อเป็นการให้เกียรติแก่ผู้หญิงในประเทศลิทัวเนีย ผู้หญิงในประเทศลิทัวเนียที่ได้ออกมาขับรถบนท้องถนนในวันนั้น ต่างก็ต้องประหลาดใจเมื่อคุณตำรวจมาโบกและเคาะกระจกรถ ถึงแม้ว่าพวกเธอจะไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ทว่าการเรียกให้หยุดรถในครั้งนี้ ก็เพื่อที่จะมอบดอกไม้ให้กับพวกเธอยังไงล่ะ ถึงแม้ว่าในตอนแรกหญิงสาวทั้งหลายอาจจะรู้สึกสับสนนิดหน่อย แต่แล้วพวกเธอก็เผยรอยยิ้มออกมา เมื่อได้รับดอกทิวลิปสีสันสดใสจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ กลายเป็นภาพสุดประทับใจ แห่งวันสตรีสากลที่ผ่านมา ผู้หญิงที่ออกมานอกบ้านก็จะได้รับดอกทิวลิปจากคุณตำรวจ นึกว่าจะได้ใบสั่งกลับเป็นดอกไม้ ยิ้มแป้นเลย คุณผู้หญิงคนนี้ มากับสามีก็ได้ดอกไม้นะ เพื่อเชิดชูผู้หญิงทุกท่านในวันสตรีสากล ไม่ว่าผู้หญิงคนไหนที่ได้รับดอกไม้ ต่างก็ต้องมีความสุขทั้งนั้นแหละ รอยยิ้มอันสดใส ส่งความสุขให้กับโลกใบนี้ . . ตำรวจออกมาช่วยกันแจกดอกทิวลิปอย่างขะมักเขม้น หญิงสูงอายุก็ได้รับดอกไม้เหมือนกันหมดทุกคน…
-
ซีเมนต์ไทยไปเวทีโลก เผยภาพกระเป๋าลาย ‘ถุงปูน’ ตั้งโชว์หน้าร้านในยุโรป เฮ้ ยูว์มาได้ไง!?
การจะนำแรงบันดาลใจมาผลิตเป็นสินค้าแฟชั่นนั้น จะมาจากหลากหลายแหล่ง ก่อนจะออกมาเป็นตัวผลิตภัณฑ์อันสวยงาม แต่ก็ไม่รู้ว่าอะไรดลใจทำให้เกิดเป็นกระเป๋าลายแบบนี้ออกมาขายในฝั่งยุโรป… ก่อนหน้านี้ก็เคยมีแตะขอบฟ้า กระเป๋าลายถุงกระสอบมณี 7 สี ไปแล้ว ซึ่งล่าสุดนี้ #เหมียวเลเซอร์ ก็ไปเจอของดีเอกลักษณ์ไทยแลนด์มาอีกแล้ว ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ เลย เพราะมันคือ ‘กระเป๋าลายถุงปูน‘ ใช่แล้ว!! กระเป๋าลายถุงปูนจริงๆ โดยต้นโพสต์นั้นเริ่มมาจากเพจ นักล่าเนตไอดอล รีเทิร์น เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2018 เผยให้เห็นภาพกระเป๋าลายถุงปูนแบบชัดเจนมาก ถูกตั้งวางโชว์อยู่ในตู้กระจกหน้าร้าน และกลายเป็นของขึ้นห้างแห่งหนึ่งในประเทศเยอรมนี โดยทางเพจให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า กระเป๋าลายถุงปูนนี้ ใบที่มีมูลค่าแพงที่สุดนั้นอยู่ที่ประมาณ 15,000 บาทเลยทีเดียว!! . เพื่อให้แน่ชัดว่ากระเป๋าดังกล่าวนั้นมีอยู่จริงหรือไม่ ปรากฏว่าข้อมูลจากหน้าเว็บไซต์ Elephbo บริษัทสัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ ทำการวางจำหน่ายกระเป๋าลายถุงปูนดังกล่าวจริง มีจำหน่ายในชื่อลาย Green Tiger และ Blue Eagle แบบแรกจำหน่ายในราคา 229 ฟรังก์สวิต (ประมาณ…
-
ครอบครัวออกท่องเที่ยวไปพร้อมกับลูกน้อย พร้อมมอเตอร์ไซค์พ่วงคู่ใจ กลายเป็นทริปที่น่าจดจำ
หลายคนมีความฝันอยากพักจากการทำงานหรือการเรียน ขับรถออกไปเที่ยวในที่ไกลๆ สูดรับออกซิเจนให้เต็มปอดท่ามกลางธรรมชาติอันกว้างใหญ่เหมือนกับครอบครัวนี้ ครอบครัวนี้มีด้วยกันอยู่สามคนพ่อแม่ลูกผู้ที่รักการเดินทางกันอย่างมาก ในปี 2015 พวกเขาได้ใช้รถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้างคู่ใจพากันออกไปเที่ยวทั่วทวีปยุโรป แต่พอผ่านไปหนึ่งปีพวกเขาก็ได้ออกเดินทางในแบบที่เจ๋งกว่านั้น ปี 2016 ทั้งครอบครัวตัดสินใจนำเจ้ามอเตอร์ไซค์คันเดิมแล่นไปทางตะวันออกมุ่งหน้าสู่เทือกเขาคอเคซัส ที่ตั้งอยู่ระหว่างประเทศจอร์เจีย และอาร์เมเนีย บนเส้นทางลูกรังที่ไม่ใช่ถนนใหญ่และไม่ค่อยมีใครขับผ่าน ไปดูกันเลยว่าการเดินทางไกลของพวกเขาในครั้งนี้ต้องเจอกับอะไรมาบ้าง พวกเขาต้องนั่งพักรอเรือข้ามฟาก เพื่อเดินทางจากเมืองโอเดสซา ประเทศยูเครน ไปยังเมืองบาทูมี ประเทศจอร์เจีย ในที่สุดเรือก็มาถึงและกำลังแล่นผ่านทะเลดำไปอย่างสงบ อาจต้องเจอกับลมพายุบ้างเล็กน้อย แต่ถึงอย่างไรฟ้าหลังฝนก็สวยงามเสมอ พอถึงฝั่งพวกเขาก็ได้ขับเข้าหมู่บ้าน Ushgali ประเทศจอร์เจีย เป็นหนึ่งในสถานที่ที่สูงที่สุดที่ยังมีคนอาศัยอยู่ คุณแม่กับลูกชายวัย 5 ขวบ ที่ชื่อ Vladimir นั่งกอดกันกลมเชียว ภาพของเด็กน้อยกำลังขี่ม้าที่พวกเขาได้เจอขณะพักกันอยู่ในหมู่บ้าน ออกลุยกันต่อด้วยเส้นทางตัดผ่านเทือกเขาไปยังหมู่บ้าน Lentekhi เทือกเขาคอเคซัส ที่กว้างไกลออกไปสุดลูกหูลูกตา แวะพักกันในเมืองกอรี หายร้อนกันไปทั้งคนทั้งรถ วันหนึ่งเมื่อเด็กชายตื่นขึ้นมา เขามีไข้ขึ้นสูงมากและอาหารเป็นพิษ ทำให้คลื่นไส้จนอ้วกออกมาเต็มที่นอนไปหมด แต่ก็ไม่มีคำว่าย่อท้อหรอกนะ พวกเขาพยายามจะขับรถผ่านหนึ่งในเส้นทางที่อันตรายที่สุดเพื่อไปยังหมู่บ้าน…
-
เปิดเบื้องหลังการทำฟาร์ม ‘เสื้อขนสัตว์’ ที่ดูแล้วชวนให้รู้สึกหดหู่ น่าสงสารเหลือเกิน (มีคลิป)
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเบื้องหลังที่มาของชุดแฟชั่นอันโดดเด่นที่เราเห็นบนรันเวย์ ล้วนมีราคาที่ต้องจ่ายเป็นชีวิตของสัตว์โลกผู้ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ และความโหดร้ายทารุณที่พวกมันต้องได้รับ และครั้งนี้เราจะขอพาไปชมข้อมูลจากองค์กร Animal Defenders International (ADI) ที่ออกมาเปิดโปงเบื้องหลังการทำฟาร์มเสื้อขนสัตว์ที่เต็มไปด้วยความน่าหดหู่… (คำเตือน: บทความนี้อาจมีภาพหรือเนื้อหาที่รุนแรง) คลิปวิดีโอฟุตเทจส่วนหนึ่งที่องค์กร ADI ได้ปล่อยออกมา เกี่ยวกับชะตากรรมอันโหดร้ายที่หมาจิ้งจอก 3 ตัวต้องพบเจอ หากเรามองย้อนกลับไปที่ตัวเลขจำนวนประชากรสัตว์โลก ที่ถูกสังเวยเพื่อนำขนไปขายต่อให้กับอุตสาหกรรมแฟชั่น มีการเปิดเผยว่าในแต่ละปีมีจำนวนสัตว์ถูกฆ่าทั้งหมด 110 ล้านตัว จากในคลิปวิดีโอเราจะได้เห็นเรื่องราวของ Aleska แม่สุนัขจิ้งจอก และลูกน้อยของมันทั้ง 2 ตัว Borys และ Eryk เราจะเห็นได้ว่า หลังจากที่ลูกจิ้งจอกได้ออกมาลืมตาดูโลก พวกมันก็มีโอกาสที่จะได้สัมผัสกับอิสรภาพเพียงไม่กี่สัปดาห์ จากนั้นทั้ง 2 ตัวก็ถูกนำไปขังไว้ในกรงสี่เหลี่ยมขนาดเล็กเพื่อรอวันที่พวกมันเติบโตเต็มที่ ทันทีที่ขนของพวกมันเริ่มมีสีขาว และมีความหนามากขึ้นเพื่อช่วยปกป้องอากาศหนาวที่กำลังจะมาถึง พวกมันก็จะถูกนำตัวไปแขนคอ… จากนั้นคนงานก็จะปลิดชีวิตพวกมันด้วยเครื่องช็อตไฟฟ้า ก่อนจะนำร่างกายไปถลกหนังเพื่อส่งต่อให้อุตสาหกรรมเสื้อผ้า หนึ่งในโฆษกขององค์กรช่วยเหลือสัตว์ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า “จุดประสงค์ของเราก็เพื่อต่อต้านความรุนแรงและปัญหาที่เกิดขึ้นจากความโลภของมนุษย์เอง พวกเราเชื่อว่าถ้าทุกคนตระหนักถึงปัญหานี้ และเซย์โนให้กับแฟชั่นขนเฟอร์ ต่อไปจะต้องไม่มีสัตว์ชนิดใดที่ถูกทารุณกรรมแบบนี้อีก” นอกจากนั้นยังมีการเปิดเผยตัวเลขการส่งออกอุตสาหกรรมขนสัตว์ โดยพบว่าในปี 2016 มีเงินหมุนเวียนอยู่ในอุตสาหกรรมขนสัตว์ทั่วยุโรปมากกว่า 39…
-
ผลสำรวจเผย คนยุโรป “ไม่สบายใจ” กับการแต่งงานชนชาติ-ศาสนาใดที่สุด ตรงกับที่เราคิดหรือไม่!?
ทวีปยุโรปเป็นทวีปหนึ่งที่มีผู้อพยพไปอยู่เป็นจำนวนมากและมีปัญหาอย่างหนึ่งที่พบบ่อยๆ ก็คือความแตกต่างระหว่างเชื้อชาติที่เกิดขึ้น นำไปสู่ปัญหาการเหยียดเชื้อชาติซึ่งทวีความรุนแรงจากในอดีต และอาจจะมากขึ้นในทุกๆ วัน ย้อนกลับไปในปี 2015 คณะกรรมาธิการยุโรปได้ถามผู้คนจากประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปทั้งหมด 28 ประเทศ ได้ตั้งคำถามเกี่ยวกับการเหยียดเชื่อชาติและรวบรวบความคิดเห็นไว้ในรายงาน ก่อนที่มันจะกลายมาเป็นประเด็นในเวลาต่อมา ชาวเน็ตที่ชื่อว่า Bezzleford ที่มักจะนำข้อมูลทางสถิติต่างๆ มาสร้างเป็นแผนภาพอันเข้าใจง่าย เลยถือโอกาสหยิบผลสำรวจนั้นมาสร้างกราฟิคให้ได้ชมในเรื่อง “คนยุโรปรู้สึกสบายใจหรือไม่ถ้าลูกของคุณมีความสัมพันธ์กับ….. ซึ่งผลการสำรวจก็ออกมาเป็นแบบนี้ คุณรู้สึกสบายใจไหมถ้าลูกของคุณมีความสัมพันธ์กับคนผิวดำ ผลการสำรวจพบว่าคนยุโรปส่วนมากสบายใจที่ลูกจะมีความสัมพันธ์กับคนผิวดำ คิดเป็นอัตราร้อยละ 64 คุณรู้สึกสบายใจไหมถ้าลูกของคุณมีความสัมพันธ์กับชาวเอเชีย ผลการสำรวจพบว่าคนยุโรปสบายใจที่จะมีความสัมพันธ์กับชาวเอเชียในอัตราร้อยละ 69 คุณรู้สึกสบายใจไหมถ้าลูกของคุณมีความสัมพันธ์กับมุสลิม จากภาพจะเห็นได้ว่าคนยุโรปรับได้น้อยที่สุด ถ้าหากลูกของตนไปมีความสัมพันธ์กับคนมุสลิม พื้นที่ที่เป็นสีแดงมีเยอะ และค่าเฉลี่ยก็อยู่ที่ราวร้อยละ 50 คุณรู้สึกสบายใจไหมถ้าลูกของคุณมีความสัมพันธ์กับชาวยิว สุดท้ายคนยุโรปสบายใจ ถ้าลูกมีความสัมพันธ์กับชาวยิวประมาณร้อยละ 69 จากการสำรวจก็จะเห็นว่าคนยุโรปในบางพื้นที่ยังมีอัตราการเหยียดเชื้อชาติอยู่ ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยดีนักในประเด็นของเรื่องสิทธิมนุษยชน และนอกจากนี้ผู้ตอบแบบสอบถามยังแสดงความเห็นว่าควรมีมาตรการใหม่ๆ ในการปกป้องชนกลุ่มน้อยด้วยเพื่อความเท่าเทียมกัน เพื่อจะอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ที่มา boredpanda
-
‘Surf Air’ บริการเครื่องบิทเจ็ทส่วนตัวแบบบุฟเฟ่ต์ จ่ายเดือนละ 76,000 บาท บินได้ไม่อั้น!!
นับว่านี่เป็นข่าวดีสำหรับขาเที่ยวที่อยากจะเดินทางท่องไปทั่วยุโรป (แต่ต้องเงินถึงนะ) เพราะล่าสุดเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ สำนักข่าว Mirror ได้รายงานเรื่องของการเปิดให้บริการใหม่ของสายการบิน ‘Surf Air’ ที่เรียกได้ว่าช่างคิดโปรฯ ออกมาได้โดนใจคนชอบเที่ยวเหลือเกิ๊นนน Welcome to Surf Air เพราะที่นี่ออลยูแคนฟล๊ายยยย โดยโปรโมชั่นดังกล่าวราคาก็ไม่แพ๊ง ไม่แพงอย่างที่คิด เพียงคุณลูกค้าจ่ายให้สายการบินเดือนละ £1,750 (ประมาณ 76,000 บาท) ก็สามารถบินไปที่สนามบินไหนก็ได้ทั่วยุโรปด้วยเครื่องบินเจ็ทแบบส่วนตัว ซึ่งทางสายการบินให้เหตุผลว่า ‘เราหวังว่าหลังจากที่อังกฤษขอแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป วิธีนี้น่าจะช่วยทำให้เศรษฐกิจของเราดีขึ้นได้ เพราะยังคงมีลูกค้าอีกหลายคนที่ต้องเดินทางไปทั่วยุโรป’ ‘ผมคิดว่ามีคนจำนวนมากที่ได้ประโยชน์จากเรา ยกตัวอย่างเช่น คนที่อยู่ในแวดวงด้านการเงิน หรือคนที่มีธุรกิจเป็นของตัวเองอยู่นอกอังกฤษ แต่ยังไม่อยากย้ายที่อยู่เป็นต้น’ Simon Talling-Smith หนึ่งในทีมผู้บริหารสายการบินให้สัมภาษณ์ จะว่าไปแล้วหลังเกิดเหตุการณ์ Brexit หลายคนอาจจะมองเห็นแต่ผลเสียที่เกิดขึ้น แต่สำหรับสายการบินนี้ พวกเขามองว่านี่แหละคือโอกาสดีที่จะช่วยทำให้พวกเขาได้ฐานลูกค้าเพิ่ม นอกจากนี้ทางผู้บริหารของสายการบิน ยังมีแพลนที่จะขยายโมเดลธุรกิจตัวนี้ไปยังแถบตะวันออกกลาง และประเทศอินเดียด้วย แหม่…ถ้าอีกหน่อยสายการบินในบ้านเรามีแบบนี้บ้าง รถทัวร์มีหวังได้ไมเกรนขึ้นหัวแน่ๆ!! ที่มา: Mirror
-
รวม “สะพานเพื่อชีวิต” สร้างให้สัตว์ป่าปลอดภัย อยู่ร่วมกับความเจริญอย่างเป็นสุข…
แนวคิดการอยู่ร่วมกันระหว่างมนุษย์และธรรมชาตินั้นกำลังแพร่ขยายไปทั่วโลก เนื่องจากว่าหากมนุษย์ยังคงอยู่อาศัยในแบบที่เป็นอยู่ ไม่ชีวิตทางธรรมชาติหรืออาจจะเป็นชีวิตของมนุษย์เองที่ต้องพบกับการสูญเสีย สะพานลอยสำหรับสัตว์ป่า อุทยานแห่งชาติแบมฟ์ รัฐแอลเบอร์ตา ประเทศแคนาดา ดั่งเช่นในเรื่องของปัญหาการสัญจรผ่านเส้นทางหลวง ที่มีรถยนต์แล่นผ่านไปมาอย่างรวดเร็ว ซึ่งในบางเส้นทางจะตัดผ่านกับอุทยานแห่งชาติอันเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า และนั่นก็คือสาเหตุของอุบัติเหตุอันนำพาชีวิตและทรัพย์สินที่ต้องแลกไป สะพานข้ามสำหรับสัตว์ป่าในประเทศเบลเยี่ยม บรรดานักอนุรักษ์พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อปกป้องสัตว์ป่าเหล่านี้มาอย่างช้านาน เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของอุบัติเหตุรถชนหรือไม่ถูกพรากไปจากแหล่งที่อยู่อาศัยทางธรรมชาติ เพราะฉะนั้นแล้ว แนวคิดของ Wildlife Crossing จึงถือกำเนิดขึ้นมา สะพานเพื่อความปลอดภัยของทั้งมนุษย์และสัตว์ป่า มีประสิทธิภาพมากกว่าป้ายเตือนลดระดับความเร็วหลายเท่าตัว สะพานลอยสำหรับสัตว์ป่าในรัฐนิวเจอร์ซีย์ สหรัฐอเมริกา เพียงแค่ในประเทศสหรัฐอเมริกา ระบบถนนหนทางส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศถึง 1 ใน 5 พื้นที่ของประเทศ และอุบัติเหตุรถยนต์ชนสัตว์ป่าคิดเป็นมูลค่าเสียหายสูงถึง 8 พันล้านดอลลาร์ต่อปี (280 พันล้านบาท) สะพานทางข้ามทางลอดสามารถช่วยสัตว์ป่าให้เดินข้ามถนน จากท้องถนนอันวุ่นวายได้อย่างปลอดภัย เพื่อให้พวกมันสามารถใช้ชีวิตตามวิถีธรรมชาติได้อย่างต่อเนื่อง โดยที่ไม่ถูกมนุษย์รบกวนแม้แต่น้อย สะพานสำหรับสัตว์ป่าในรัฐมอนแทนา สหรัฐอเมริกา สะพานข้ามสำหรับสัตว์ป่า สะพานลอดสำหรับรถยนต์ ในประเทศเนเธอร์แลนด์ สะพานข้ามสำหรับสัตว์ป่านั้นเริ่มขึ้นเป็นที่แรกในประเทศฝรั่งเศส ในช่วงปี 1950…
-
16 เมืองเล็กๆ อันได้ชื่อว่าสวยงามและทรงเสน่ห์ที่สุดในยุโรป แต่คุณอาจจะยังไม่รู้จัก…
สำหรับหลายๆ คนแล้ว ทวีปยุโรปถือว่าเป็นดินแดนในฝันที่ต้องไปเยือนให้ได้ซักครั้งในชีวิต ด้วยภูมิประเทศและวัฒนธรรมอันสวยงามไม่เหมือนที่ใดในโลก ทำให้มีนักท่องเที่ยวปีละหลายล้านคนเดินทางไปเที่ยวในยุโรป และถ้าเพื่อนๆ คนไหนอยากไปยุโรป แต่เบื่อเมืองใหญ่ๆ แล้ว ลองไปชม 16 เมืองเล็กๆ เหล่านี้สิ เพราะมันได้ชื่อว่าสวยงามและทรงเสน่ห์ที่สุดในยุโรป ซึ่งคุณควรจะไปให้ได้เลยล่ะ Manarola, Italy ตึกรามบ้านช่องสีสันสวยงาม แถมตั้งอยู่บนหน้าผาริมทะเล นี่อาจเป็นทางเลือกที่ดี หากท่านไม่อยากไปเผชิญกับความวุ่นวายในเมืองหลวงอย่างโรมหรือเมืองใหญ่อย่างมิลาน Reine, Norway หมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ ในตั้งอยู่บริเวณอ่าวริมฝั่งมหาสมุทธใกล้แถบขั้วโลก ถูกโหวตว่าเป็นหนึ่งในหมู่บ้านที่สวยที่สุดในนอร์เวย์ น่าไปสัมผัสซักครั้ง Portree, Scotland หมู่บ้านเล็กๆ ที่มีประชากรแค่ 2,500 คน มีอ่าว ท่าเรือ และตึกสีสันสดใสตั้งอยู่ หากอยากสัมผัสวิถีชีวิตแบบสก็อตแลนด์แท้ๆ ที่นี่ก็ถือว่าน่าสนใจนะ Colmar, France เมืองเล็กๆ ที่ได้รับฉายาว่าเวนิสขนาดย่อม ก่อตั้งมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 9 แถมหมู่บ้านนี้ยังได้รับอิทธิพลทางวัฒนธรรมจากเยอรมันและฝรั่งเศส ทำให้ผสมผสานกันเป็นจุดเด่นที่ไม่เหมือนใคร Bled, Slovenia โบสต์ที่ตั้งอยู่กลางน้ำแห่งนี้ กลายเป็นสถานที่ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวให้มาเยี่ยมชมเมืองเล็กๆ แห่งนี้อยู่เสมอ…
-
ตำนานเล่าขาน Krampus ซานตาคลอสผู้ชั่วร้าย ด้านมืดในคืนวันคริสต์มาส ที่น้อยคนนักจะรู้!!
เมื่อกล่าวถึง ‘วันคริสต์มาส’ เพื่อนๆ หลายคนคงจะคิดถึงลุงซานตาคลอสใจดี สวมชุดสีแดง มีหนวดเครายาวๆ ขี่รถเลื่อนกวางเรนเดียร์ ออกไปตะลอนแจกของขวัญให้กับเด็กๆ แต่เพื่อนๆ รู้ไหมว่า ในทวีปยุโรปนั้นยังมีตำนานเกี่ยวกับปิศาจในวันคริสต์มาสที่แสนน่ากลัวอีกด้วยเช่นกัน Krampus หรืออีกชื่อหนึ่งถูกเรียกว่าซานตาคลอสผู้ชั่วร้าย เป็นสัตว์ประหลาดที่มีเอกลักษณ์เป็นเขาแหลม ขนสีดำ และกรงเล็บที่แหลมคม หน้าที่ของมันนั้นแตกต่างจากซานตาคลอสที่เราเคยรู้จักกันแบบชนิดที่เรียกว่าตรงกันข้ามเลยล่ะ เป้าหมายของมันก็คือการทำร้ายเหล่าเด็กๆ ที่มีนิสัยดื้อซน และลักพาตัวเด็กนิสัยไม่ดีลงไปสู่ปรโลก Krampus นั้นเป็นชื่อเรียกที่มีรากศัพท์มาจากภาษาเยอรมันซึ่งก็คือคำว่า Krampen แปลว่ากรงเล็บ ตามตำนานเล่าว่ามันเป็นลูกของเทพเจ้าแห่งความตาย Hel ในปกรนัมของชาวนอร์ส รูปร่างหน้าตาของเจ้าสัตว์ร้ายนี้มีความคล้ายคลึงกับปิศาจที่อยู่ในเทพนิยายปรัมปราของกรีกอย่างเจ้า Satyr ที่มีขาเป็นแพะและตัวเป็นคน กับเจ้า Faun ที่เป็นครึ่งคนครึ่งแพะ ย้อนกลับไปในอดีตช่วงคริสต์มาสของประเทศยุโรปในตอนกลางอย่าง ออสเตรีย, เยอรมนี, ฮังการี, สโลวีเนีย, และ สาธารณรัฐเช็ก จะทำการเฉลิมฉลองในช่วงวันที่ 6 ธันวาคมของทุกปี ทางฝั่งซานตาคลอสด้านดี ก็จะแจกของขวัญให้กับเด็กๆ ตามปกติ ส่วนทางฝั่งซานตาคลอสผู้ชั่วร้ายก็จะทำการปิดถนน 1 สาย และสวมชุดเป็นปิศาจ…
-
การช่วยเหลือ ‘คู่หมีที่เศร้าที่สุดในยุโรป’ ที่ไม่เคยได้สัมผัสอิสระ แม้แต่พื้นหญ้าก็ไม่เคยแตะ
ไม่รู้ว่าเพื่อนๆจะเป็นกันบ้างรึเปล่า เวลาที่เราเห็นสัตว์โลกที่ถึงแม้ว่านิสัยมันจะดุร้าย แต่ต้องเผชิญกับชะตากรรมที่ไม่น่าเกิดขึ้น อย่างเช่นการจับมันขังกรง หรือถูกทำร้ายร่างกาย เรามักจะเกิดความรู้สึกหดหู่ และไม่อยากให้มันเกิดขึ้น นี่คือเรื่องราวน่าเศร้าที่มันดันเกิดขึ้นจริงกับเจ้าหมีคู่นี้ เพราะมันทั้งคู่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นหมีที่ ‘เศร้าที่สุดในยุโรป’ เพราะอะไรน่ะเหรอ? ก็เพราะตลอดช่วงชีวิตของมัน ไม่เคยได้สัมผัสผืนหญ้าจริงๆ หรือได้วิ่งเล่นในป่าไม้ เหมือนอย่างที่มันควรจะเป็น มันทั้งคู่มีชื่อว่า Tomi และ Gjina ตลอดช่วงชีวิตของมันที่ผ่านมา ถูกขังไว้ในกรงสี่เหลี่ยมขนาดเล็กมาโดยตลอด และเมื่อไม่นานมานี้ มันเพิ่งได้รับการช่วยเหลือโดยเจ้าหน้าที่ภาครัฐของประเทศแอลเบเนีย สำหรับเจ้าหมีทั้งสองตัว คงไม่มีอะไรจะยิ่งใหญ่ไปกว่าอิสรภาพ และการได้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ทั้งคู่ถูกนำมารักษาฟื้นฟู และปรับพฤติกรรมก่อนปล่อยคืนสู่ป่าที่ศูนย์ ‘Prishtina Bear Sanctuary’ ชีวิตใหม่ของมันทั้งคู่ช่างน่าอิจฉาเหลือเกิน.. เมื่อเจ้า Tomi ได้ใช้อุ้งเท้าสัมผัสบ่อน้ำเป็นครั้งแรก เช่นเดียวกับคู่หูของมัน Gjina ที่ได้สัมผัสพื้นที่กว้าง เป็นครั้งแรกในชีวิต ถึงแม้ว่าแรกเริ่ม พวกมันอาจจะไม่คุ้นชินกับสภาพแวดล้อมใหม่ และมีพฤติกรรมที่ค่อนข้างดุร้าย เพราะการถูกกักขังมาตลอดชีวิต แต่ก็เป็นเรื่องน่ายินดี ที่มันทั้งสองค่อยๆ ปรับตัวได้เรื่อยๆ หลังจากที่มันย้ายมาอยู่เจ้า Gjina น้ำหนักเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากตอนแรก…
-
ภาพถ่ายสุดอลังการราวกับเทพนิยายของ Michele Burns ที่บุกลงไปถ่ายถ้ำใต้ธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป!!!
วันนี้ #จ่าสิบเหมียว ก็อยากจะพาเพื่อนๆ ไปชมภาพบรรยากาศของสิ่งมหัศจรรย์ที่บ้านเราคงไม่มีวันได้เห็นกันแล้วล่ะ ฮ่าๆๆ นั่นก็คือถ้ำใต้ธารน้ำแข็งยังไงล่ะ ร้อนขนาดนี้คงไม่มีโอกาสได้เห็นกันแล้วล่ะ >< สำหรับผลงานนี้เป็นของช่างภาพนักเดินทางที่ชื่อว่า Lisa Michele Burns ซึ่งมักจะออกเดินทางไปตามสถานที่สวยๆ ตามธรรมชาติและถ่ายภาพบรรยากาศกลับมา และผลงานของเขาในเซ็ทภาพนี้ก็เรียกได้ว่าสวยงามราวกับว่าออกมาจากเทพนิยายเลยทีเดียว แค่มองผ่านตาแว๊บแรก ก็ต้องตะลึงถึงผลงานการสรรค์สร้างของธรรมชาติ กับถ้ำใต้ธารน้ำแข็ง Vatnajokull โดยธารน้ำแข็งที่ว่านี้อยู่ในประเทศไอซ์แลนด์ กินพื้นที่ไปกว่า 8,100 ตารางกิโลเมตรด้วยกัน แต่ละปีนั้นน้ำแข็งจะขยับกว่า 100 เมตร และในฤดูหนาวจะมีขนาดหนาขึ้นอึกกว่า 10 เมตร นั่นหมายถึงถ้ำที่นี่จะเปลี่ยนแปลงทุกๆ ปี เพราะการละลายและการกัดเซาะ พอจ้องมองนานๆ แล้วราวกับจะถูกมันกลืนกินยังไงอย่างงั้นแหละ ราวกับออกมาจากเทพนิยายจริงๆ ใครที่มีโอกาสก็อย่าลืมไปถ่ายกันไว้นะจ๊ะ สวยงามสุดยอดไปเลยจริงๆ แต่ต้องระวังเรื่องความหนาวและอันตรายในการเดินทางด้วยนะเนี่ย ยอมใจเขาจริงๆ เลย แต่สักครั้งในชีวิต หลายๆ คนก็คงอยากจะไปเหมือนกันใช่มั้ยล่าาา ^^ ที่มา:…
-
34 ภาพแห่งความงดงามและสงบสุข ณ สุดขอบชายแดนของเหล่าประเทศโซนยุโรป
หนึ่งสิ่งที่น่าอัศจรรย์ใจของโลกเราก็คือถึงแม้จะมีการแบ่งแยกประเทศ ชนชาติต่างๆ ออกมามากมาย แต่ก็ยังคงอยู่ร่วมกันได้ด้วยสันติภาพ ก่อให้เกิดความงดงามทั้งทางด้านจิตใจและภูมิประเทศ (เอ๊ะ!? ยังไง) เป็นที่รู้กันดีว่าประเทศในโซนยุโรปนั้นได้ร่วมตัวกันก่อตั้งเป็นสหภาพยุโรป ทุกประเทศที่เข้าร่วมก็คือเพื่อนกัน เพราะฉะนั้นการกั้นพรมแดนต่างๆ จะไม่มีการตั้งด่านที่ดูน่ากลัว น่าเกรงขาม มีเพียงแค่เสาหลักบอกเขตแดนเท่านั้นเอง อีกทั้งอยู่ตั้งอยู่ในบริเวณธรรมชาติที่สวยงามตามสไตล์ยุโรปด้วย และรูปภาพทั้งหมดนี้เป็นผลงานของช่างภาพ Valerio Vincenzo มาในชื่อชุด Borderline, Frontiers of Peace ปล. #เหมียวเลเซอร์ ขอเตือนไว้ก่อนว่า ใครใช้ 3G 4G ระวังดาต้าหมดไม่รู้ตัวนะจ๊ะ France – Germany Poland – Lithuania Switzerland – Italy Germany – Poland Romania – Bulgaria Austria – Czech…
-
23 ภาพของเส้นแบ่งเขตแดนประเทศต่างๆ ในยุโรป ถ้าจะขนาดนี้ก็ไม่ต้องมีก็ได้
สำหรับเรื่องเส้นแบ่งพรมแดนระหว่างประเทศ ประเทศส่วนใหญ่ในโลกก็เห็นเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ระดับชาติ เหมือนประเทศสหรัฐฯ ที่นักการเมืองคนหนึ่งมีนโยบายสร้างกำแพงระหว่างพรมแดนของ สหรัฐฯ-เม็กซิโก เพื่อป้องกันการลักลอบเข้าดินแดน ซึ่งแต่ละประเทศก็ไม่ได้มีแนวคิดแบบนี้ไปเสียทั้งหมด อย่างน้อยหลายๆ ประเทศในแถบยุโรปนั้น เรื่องพรมแดนแทบจะไม่มีความสลักสำคัญอะไรเลย วันนี้ #จ่าสิบเหมียว เลยอยากจะพาเพื่อนๆ ไปชม 23 เส้นแบ่งเขตแดนน่ารักๆ ของประเทศต่างๆ ในยุโรป ที่เห็นแล้วต้องบอกว่าอิจฉาคนแถบนี้จริงๆ ไปไหนสะดวกมาก เดินเล่นกันบนเส้นแบ่งเขตแดนซะเลย ไม้แท่งเดียวแบบจริงจัง…แล้วถ้าใครไปดึงออกมาล่ะ -*- ทำเป็นทางเดินซะเลย มีประโยชน์ด้วย ต้นไม้แบ่งเขตแดน แม่น้ำสายเล็กๆ และหลักให้เห็น ขีดเส้นประไว้ซะเลย กองหิน สวยงามไปอีก อยากอยู่ประเทศไหนขึ้นฝั่งไปอยู่ได้เลย 3 พรมแดนเลยนะเนี่ย สวยงามมาก มีรั้วแล้วนะเนี่ย จริงๆ -*- พื้นต่างสีก็เป็นได้แล้ว แนวภูเขา …
-
ฝรั่งเศสออกกฎหมายห้ามซุปเปอร์มาเก็ตทิ้งอาหารเหลือ แต่ให้นำไปบริจาคแทน
เรียกว่าเป็นอีกก้าวหนึ่งที่สำคัญจริงๆ สำหรับวงการอาหารของโลก หลังจากรัฐบาลฝรั่งเศสออกกฎหมายห้ามไม่ให้ห้างสรรพสินค้านำอาหารที่ขายไม่ได้ไปทิ้ง แต่ให้นำไปบริจาคให้กับองค์กรการกุศลแทน อย่างที่เราทราบกันดีกว่า ในแต่ละวันมีอาหารถูกนำไปทิ้งมากมาย เนื่องจากว่าขายไม่หมดในวันเดียว ซึ่งทางห้างไม่ต้องการเก็บอาหารที่ไม่ “สด” ไว้นั่นเอง ซึ่งถ้าใครเคยทำงานในร้านอาหารฟาสฟู๊ดหรือห้างสรรพสินค้าในยุโรปหรืออเมริกาจะพบว่า มีการทิ้งอาหาร “เหลือ” เป็นจำนวนมากในแต่ละวัน ซึ่งอาหารเหลือเหล่านั้น ไม่ยังไม่เสียด้วยซ้ำไป เพียงแค่ไม่ “สด” เท่านั้นเอง โดยกฎหมายนี้ผ่านการโหวดจากสมาชิกวุฒิสภาของฝรั่งเศสเมื่อช่วงวันพุธที่ผ่านมา ซึ่งกฎหมายจะเริ่มบังคับใช้เฉพาะกับห้างสรรพสินค้าที่มีขนาดเกิน 400 ตารางเมตรเท่านั้น ซึ่งถ้าห้างร้านไหนไม่ทำตาม อาจโดนปรับสูงสุด 3,750 ยูโรหรือราว 140,000 บาท Jacques Bailet จากธนาคารอาหารได้กล่าวถึงกฎหมายนี้ว่า “มันเป็นเรื่องที่ดีมาก การที่ห้างต่างๆ นำอาหารมาบริจาคให้เรา แปลว่าเราจะได้รับอาหารที่มีคุณภาพดีและหลากหลายมากขึ้นนั่นเอง ซึ่งปกติแล้วเราได้จำนวนอาหารประเภทเนื้อเยอะมาก แต่ขาดพวกผักผลไม้” โดยอาหารที่ถูกบริจาคให้กับธนาคารอาหารนี้ จะถูกนำไปแจกจ่ายให้กับพื้นที่ที่ประสบภัยขาดแคลนอาหาร อย่างเช่นในแอฟริกาหรือในเอเชีย ทางวุฒิสมาชิกของฝรั่งเศสหวังว่า จะมีการผลักดันให้ทุกประเทศที่เป็นสมาชิกสหภาพยุโรป ออกกฎหมายควบคุมการทิ้งอาหารนี้ด้วยเช่นกัน ถือว่าเป็นอีกก้าวที่สำคัญจริงๆ สำหรับวงการอาหารโลก…
-
พ่อหนุ่มเปลี่ยงแปลงชีวิตตัวเอง ออกทัวร์ทวีปยุโรปโดยไม่ใช้เงินเลย เพื่อการกุศลสำหรับโรคมะเร็ง!!
แทบจะทุกคนเลยก็ว่าได้ กับการตั้งเป้าหมายในชีวิตเอาไว้ว่าอยากจะออกไปเที่ยวรอบโลก อยากจะทำแบบนี้ให้ได้ซักครั้งหนึ่งในชีวิต แต่ก็ไม่อาจทำได้นั่นก็เป็นเพราะว่าด้วยปัจจัยของหน้าที่การงานและเรื่องของการเงิน ซึ่งเวลาที่เราจะเดินทางไปที่ไหนซักที่ มันก็ต้องใช้เงิน ไม่ว่าจะเป็นค่าเดินทาง ค่าอาหาร ค่าที่พักและอื่นๆ อีกมากมาย ไม่มีทางที่จะไม่ใช้เงิน แต่สำหรับพ่อหนุ่ม Kris Mole วัย 24 ปีผู้นี้ ได้พยายามพิสูจน์ให้เห็นว่าการออกไปผจญภัยไม่จำเป็นต้องใช้เงินเสมอไป Kris Mole เดินทางด้วยระยะทางกว่า 15,712 กิโลเมตรแล้ว (9,763 ไมล์) ผ่านทั้งเมืองหลวงเมืองเล็กในยุโรปรวมแล้วทั้งสิ้น 23 เมือง ภายในระยะเวลาเพียงแค่ 6 เดือนเท่านั้น อีกทั้งยังสามารถระดมทุนสำหรับองค์กร Cancer Research ได้อีกเป็นจำนวนมาก จุดเริ่มต้นการเดินทางของเขานั้นก็มาจากเมืองไบรตัน ประเทศอังกฤษ แต่ก่อนเคยเป็นคนติดเหล้าและการพนัน จนหมดเนื้อหมดตัว อีกทั้งหลังจากที่คุณป้าของเขาถูกวินิจฉัยเป็นโรคมะเร็ง เขาจึงตัดสินใจเลือกที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของตัวเอง!! ตั้งแต่ปีค.ศ. 2007 เขาเริ่มต้นทริปไร้การใช้เงินเพื่อการกุศล เดินทางไปทั่วทวีปยุโรป ท้าทายชีวิตด้วยการเสี่ยงถูกจับบนรถไฟโดยที่ไม่ซื้อตั๋ว ค่ำที่ไหนก็นอนที่นั่น…
-
อีกหนึ่งหลักฐานชี้ชัดว่า โซเชียลมีเดียนั้นมีมานมนานตั้งแต่กว่า 400 ปีก่อน ในสมัยยุโรปยุคกลางแล้วล่ะ!!!
ถึงปัจจุบันนี้ไอเดียเกี่ยวกับโซเชียลมีเดียนั้นจะเฟื่องฟูขึ้นมาก แต่ที่จริงแล้วมันไม่ได้เป็นไอเดียอะไรที่ใหม่มากมายเลยล่ะ เพราะที่จริงสมัยก่อนในยุคกลางของยุโรปก็มีโซเชียลมีเดียเกิดขึ้นแล้ว!!? ในราวๆ ศตวรรษที่ 1560 ได้มีนวัตกรรมโซเชียลมีเดียวแห่งแรกเกิดขึ้น นั่นก็คือ ‘Alba amicorum’ ซึ่งเป็นภาษาลาติน แปลออกมาได้ก็คือ “Friend books” นั่นเอง โดยเหล่าชนชั้นสูง และนักศึกษาในยุโรปสมัยก่อนจะพกพาสมุดเล่มนี้ ตกแต่งสวยงามด้วยหนัง The alba amicorum หรือ “Friends book” มีการวาดภาพตกแต่งภายใน มีทั้งภาษาลาติน กรีก แม้กระทั่งฮีบรู เวลาเดินทางสัญจรไปไหนก็จะพกสมุกนี้ไป เผื่อเจอนักปราชญ์ นักวิทยาศาสตร์ ศิลปินชื่อดัง ก็จะให้เขียนการพบปะลงในสมุดเล่มนี้ การขึ้นสถานะแบบสมัยก่อน Michael van der Meer (1590-1653). โดยทั้งลูกขุนนาง หรือนักศึกษา ทั้งจากฝรั่งเศส เยอรมนี และเนเธอแลนด์ ต่างพกพาสมุดเล่มนี้ไปทั่วยุโรป ภาพกษัตริย์แห่งอังกฤษ …
-
ยอมใจ!! ภารกิจสุดท้าทายกับการพิชิตยอดเขาเอลบรุส พร้อมกับแบกบาร์เบลหนักกว่า 75 กิโลขึ้นไปด้วย
สำหรับการพิชิตยอดเขานั้นถือว่าเป็นกิจกรรมที่ท้าทายอยู่แล้ว ไหนจะต้องเตรียมพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ เพราะถ้าไม่เตรียมตัวให้ดี อาจจะได้ถอยหลังกลับมาและยอมแพ้ได้ง่ายๆ และหนึ่งในภูเขาที่สูงที่สุดในยุโรปอย่างยอดเขาเอลบรุส ที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 5,641 เมตร มีผู้คนปีนขึ้นไปพิชิตยอดเขามาแล้วมากมาย แต่สำหรับพ่อหนุ่ม Andrey Rodichev ชาวรัสเซีย เป็นคนแรกที่สามารถพิชิตยอดเขานี้พร้อมกับแบกบาร์เบลที่มีน้ำหนัก 75 กิโลกรัมขึ้นไปด้วย การที่จะทำแบบนี้ได้นั้นก็ต้องเตรียมตัวหนักกว่าการปีนเขาธรรมดา เขาต้องฝึกร่างกายเป็นประจำ 2 ครั้งต่อวัน นั่นก็คือการวิ่งในตอนเช้า และยกน้ำหนักในตอนเย็นในทุกๆ วัน โดยที่การกระทำในครั้งนี้นั้น เขาหวังว่าจะสามารถดึงดูดความสนใจของนักกีฬายกน้ำหนักคนอื่นๆ จากบ้านเกิดของเขาให้มาร่วมท้าทายแบบนี้ด้วย และแล้วในที่สุดเขาก็ทำได้สำเร็จ บาร์ที่แบกขึ้นไปด้วยก็ถูกติดตั้งเอาไว้เป็นอนุสรณ์เพื่อเป็นที่ระลึกในความสำเร็จสุดท้าทายนี้ และตลอดการเดินทางขึ้นไปบนยอดเขานั้นก็ถูกถ่ายทำเก็บเอาไว้เป็นสารคดีด้วย ที่มา : thechive
-
จงอิจฉาข้าซะ!! เจ้าเหมียวอ้วน Daisy แมวที่ออกไปเที่ยวรอบโลกยิ่งกว่ามนุษย์เสียอีก
การได้ออกไปท่องโลกกว้างในหลากหลายประเทศนั้นเป็นเป้าหมายของมนุษย์หลายรายเลยก็ว่าได้ แต่ด้วยปัญหาอะไรหลายๆ อย่างที่ยังคงรั้งเอาไว้ก็เลยทำให้ไม่สามารถออกไปทำตามฝันของตัวเองได้ ซึ่งเจ้าเหมียวพันธ์ุ Scottish Fold ที่ชื่อว่า Daisy ตัวนี้ได้ออกไปท่องโลกกว้างเยอะยิ่งกว่ามนุษย์เสียอีกแหนะ!! Daisy เที่ยวกรุง Rome #cats#catsgram#catlovers#instacats#catsofinstagram#pets#petslovers#petstagram#italy#rome#roma#colosseum#колизей#рим#италия#кошкавриме#catinrome#thedailykitten#follow#scottish#scottishstright#mycatiscutest#TopCatPhoto#best_cats#petrepost#Cat_Features#travelcat#bestcats_oftheworld#thecatawards#ss_путешествия A photo posted by Daisy travel Cat (@daisyscottishcat) on May 10, 2015 at 1:58pm PDT Dresden In Dresden#dresden#germany#cats#catsgram#catlovers#instacats#catsofinstagram#pets#petslovers#petstagram#italy#follow#thedailykitten#cute#кошки#scottish#scottishstright#mycatiscutest#TopCatPhoto#best_cats#petrepost#Cat_Features#travelcat#bigeyes#bestcats_oftheworld#thecatawards#bestmeow#cutepetclub#путешествующаякошкадейзи#daisytravelcat A photo posted by Daisy travel Cat (@daisyscottishcat) on May 24, 2015 at 1:51pm PDT Prague In Prague#prague#praha#charlesbridge#cats#catsgram#catlovers#instacats#catsofinstagram#pets#petslovers#petstagram#italy#follow#thedailykitten#cute#кошки#scottish#scottishstright#mycatiscutest#TopCatPhoto#best_cats#petrepost#Cat_Features#travelcat#bigeyes#bestcats_oftheworld#thecatawards#bestmeow#cutepetclub#путешествующаякошкадейзи A photo posted by Daisy travel Cat…
-
ทำความรู้จักดาบโบราณ 800 ปี ที่มีตัวอักษรโบราณเขียนอยู่ ไม่มีใครรู้ว่ามันหมายความว่ายังไงเลย!?
ย้อนกลับไปในยุคที่มนุษย์เริ่มมีการประดิษฐ์อักษรเพื่อใช้ในการสื่อสารต่างๆ ก่อนที่จะมาเป็นภาษาทางการปัจจุบันอย่างเช่นภาษาอังกฤษนั้น ข้อความต่างๆ ไม่อาจสามารถเข้าใจได้เลยว่าหมายถึงอะไร และอักษรเหล่านั้นก็ยังคงอยู่มาจนถึงปัจจุบัน หอสมุดของประเทศอังกฤษได้ทำการเก็บดาบเล่มนี้เอาไว้ และพยายามที่จะถอดความหมายจากอักษรโบราณที่สลักอยู่บนดาบอายุ 800 ปีเล่มนี้ จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่สามารถหาความหมายที่แท้จริงได้เลย สำหรับดาบเล่มนี้เป็นดาบที่มีคมทั้งสองด้านและเป็นส่วนหนึ่งของ “มหากฎบัตร” (Magna Carta) มีประสิทธิภาพมากพอที่จะสามารถตัดหัวมนุษย์ให้ขาดเป็นสองท่อนได้!! สิ่งที่ยังคงค้างคาใจมาจนถึงปัจจุบันก็คือ ข้อความที่สลักอยู่บนดาบนี่แหละ โดยมีใจความว่า +NDXOXCHWDRGHDXORVI+ อาจจะเป็นรูปแบบของภาษาลาติน ซึ่ง ND น่าจะเป็น Nostrum Dominos แปลว่า ผู้เป็นเจ้า และ XOX น่าจะหมายถึง สัญลักษณ์ของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ (ไม้กางเขน) ซึ่งข้อความเหล่านี้จะเป็นส่วนหนึ่งของพิธีการของอัศวิน และมีด้ามจับดาบเหมือนกับไม้กางเขน เพื่อเป็นสิ่งที่ไว้ยึดเหนี่ยวให้อัศวินปฏิบัติตามหน้าที่ของตนอย่างเคร่งครัด คาดว่าเป็นดาบจากสมัยยุคกลางของยุโรป อย่างไรก็ตามความหมายของดาบเล่มนี้ก็ยังไม่สามารถระบุแน่ชัดได้ อักษรโบราณเหล่านี้อาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิดเอาไว้ก็ได้ ที่มา : thechive