Tag: ย้ายบ้าน
-
สาวย้ายเข้าอยู่บ้านใหม่ พบโน้ตจากเจ้าของเก่า ให้ช่วยดูแลแมวจรหลังบ้านด้วย
การย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านหลังใหม่ มักจะทำให้คุณรู้สึกแย่ในบางครั้งหากพบว่าเจ้าของคนเดิมทิ้งของขวัญที่คุณไม่ต้องการไว้ให้ เช่น ความสกปรก ชุดชั้นในเก่าๆ หรือมีพวกหนู แมลงสาบอยู่เต็มไปหมด แต่สำหรับสมาชิก Imgur ที่ใช้ชื่อว่า Miranda กลับรู้สึกดีกับสิ่งที่เจ้าของเดิมทิ้งไว้ให้ เพราะมันทำให้เธอรู้สึกตื่นเต้นกับสิ่งสิ่งนั้นไม่ใช่น้อย Miranda ได้แชร์เรื่องราวนี้เมื่อ 2 วันที่แล้ว โดยหลังจากที่เธอย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านหลังใหม่ มีโน้ตที่เจ้าของเดิมทิ้งไว้ให้ ซึ่งมีเนื้อหาดังนี้ “ยินดีต้อนรับสู่บ้านแสนสุขของเรา… เราหวังว่าคุณจะมีความสุขกับบ้านหลังเหมือนกับเรา มีสิ่งหนึ่งที่เราอยากขอร้องคุณ คุณไม่จำเป็นต้องทำก็ได้นะ แต่เราจะซาบซึ้งมากถ้าคุณทำ ที่หลังบ้านของเรามีแมวแก่สีส้มตัวหนึ่งอาศัยอยู่ที่นั่น มันเป็นแมวที่อยู่ตามธรรมชาติ มันมาเกิดที่หลังบ้านของเราเมื่อ 12 ปีก่อน มันได้รับบาดเจ็บที่อุ้งเท้า และมันจะไม่ยอมให้คุณเข้าใกล้ เราให้อาหารมันทุกวัน วันละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 4 ปีแล้ว เรามักจะให้อาหารแห้งหรืออาหารเปียก พร้อมกับน้ำ โดยวางไว้ที่ระเบียง เราได้ซื้อบ้านหลังเล็กให้ เพื่อให้มันพักพิงในช่วงหน้าหนาวและหน้าฝน ซึ่งอยู่ตรงข้ามกำแพงหลังบ้าน เราจะซาบซึ้งมากจริงๆ ถ้าคุณให้อาหารมันต่อ เพราะเราไม่อยากทิ้งมันไว้ลำพัง” หลังจากที่ได้อ่านข้อความนั้น Miranda จึงตัดสินใจตั้งชื่อให้เจ้าเหมียวตัวนั้นว่า Razum Dar แต่เธอมักจะเรียกมันสั้นๆ ว่า Raz จริงๆ…
-
แมวเหมียวพยาบาล ถูกสั่งให้ออกจากคลินิก สัตวแพทย์กับชาวเน็ตเลยเข้าช่วย
วันนี้มีเรื่องของแมวตัวหนึ่งที่อาศัยอยู่ในคลินิกมาฝากกัน มันถูกเจ้าหน้าที่สั่งให้หาที่อยู่ใหม่เนื่องจากกลัวว่าจะเป็นพาหะนำโรค คนที่คลินิกและชาวเน็ตก็เลยรวมตัวกันเพื่อต่อต้านคำสั่งนี้ มันจะได้อยู่ที่คลินิกที่มันรักเหมือนบ้านตามเดิม Honey เหมียวพยาบาลดามใจผู้ป่วย เจ้าเหมียวตัวเอกของเรื่องชื่อว่า Honey ตอนแรกมันก็เป็นแมวที่ถูกเก็บมารักษาในคลินิก Ringsjöns Veterinärklinik ในประเทศสวีเดนเหมือนกับแมวตัวอื่นๆ เจ้าแมวผอมโทรมมากจนดูน่าเป็นห่วง แต่ก็ได้สัตวแพทย์ในคลินิกพยายามช่วยเอาไว้จนหายดี หลังจากที่มันแข็งแรงแล้ว มันคงไม่อยากเป็นผู้รับอย่างเดียวก็เลยเป็นฝ่ายแบ่งปันความรักให้กับสัตว์และคนที่มายังคลินิกบ้าง ตอนแรก Honey ถูกคนในคลินิกช่วยไว้ พอหายดีก็เป็นฝ่ายช่วยคนอื่นบ้าง Lucie Havelka สัตวแพทย์ที่ทำงานในคลินิกนั้นเล่าว่า “ตอนแรกมันก็เป็นผู้ป่วยนี่แหละ แต่หลังจากนั้นเราก็สังเกตได้ว่ามันเริ่มเป็นคนดูแลผู้ป่วยอื่นไปแทนแล้ว” มันจะมอบไออุ่นจากร่างกายให้กับสัตว์ทุกตัวที่ต้องการกำลังใจ มอบความรักให้กับลูกแมว เธอยังบอกอีกว่า Honey สามารถรับรู้ได้โดยสัญชาตญาณว่าสัตว์ตัวไหนต้องการความช่วยเหลือ ถ้าเกิดมีสัตว์ตัวไหนต้องการมันก็จะเข้าไปช่วยทันที แต่นอกเหนือจากนั้นแล้วมันก็จะไม่ไปรบกวนผู้ป่วยเลย ถ้าเข้าไปใกล้ไม่ได้ก็จะให้กำลังใจอยู่ห่างๆ ไม่ต้องรอให้บอกก็เข้าไปช่วยเอง มันทำตัวเหมือนกับหมอที่คอยรักษาสภาพจิตใจให้กับคนที่มาพึ่งพาคลินิก และสร้างบรรยากาศอันอบอุ่นทำให้ที่แห่งนั้นรู้สึกเหมือนกับเป็นบ้านที่เปี่ยมด้วยความรักได้อย่างอัศจรรย์ นอกจากสัตว์เลี้ยงแล้ว มันก็ยังเข้าไปกอดเจ้าของที่เดือดร้อนใจเป็นห่วงสัตว์เลี้ยงเพื่อให้พวกเขาสบายใจมากขึ้นด้วย เรียกได้ว่าทำหน้าที่ได้ดีเกินคาดทีเดียว ให้ความรักกับสัตว์ทุกชนิด สัตว์ต่างสายพันธุ์ก็สบายใจเมื่อได้อยู่กับเจ้าเหมียว หมอที่ทำงานอยู่ที่คลินิกยังออกปากบอกเองเลยว่า เจ้าเหมียวเองก็เป็นพนักงานที่ทำงานอยู่ที่คลินิกเหมือนกับพวกเขา…
-
“แฟนฉัน” ฉบับเจ้าตูบ เมื่อเพื่อนรักของเจ้าคอร์กี้ย้ายบ้านไป งานนี้เล่นเอาเศร้ากันไปทั่วโซเชียล
จะเป็นยังไงถ้าเรามีเพื่อนซี้ข้างบ้านที่สนิทกันมากๆ แต่แล้วอยู่ดีๆ มาวันหนึ่งครอบครัวของเพื่อนก็มีอันต้องย้ายออกไปอย่างกะทันหัน จนบางทีเราก็ตั้งตัวไม่ทัน แบบเดียวกับพล็อตในหนังเรื่องแฟนฉัน… เจ้าสุนัขคอร์กี้ตัวนี้มีชื่อว่า Nugget อายุ 8 เดือน อาศัยอยู่ในรัฐจอร์เจีย เป็นสุนัขที่มีความสุขร่าเริงแจ่มใสและอาศัยอยู่กับเจ้าของสาวสวย Miranda Wassinger วัย 22 ปี Miranda Wassinger และเจ้า Nugget เจ้า Nugget นั้นเป็นสุนัขเซเลปที่มีแฟนๆ ติดตามบนโลกโซเชี่ยลอยู่พอสมควร อาจจะเพราะความน่ารักและนิสัยชอบเข้าหาทั้งคนทั้งสัตว์อื่นๆ มันเลยกลายเป็นที่นิยม นอกจากนี้ Nugget นั้นยังมีเพื่อนซี้สี่ขาอยู่อีก 1 ตัว มันมีชื่อว่าเจ้า Bonkers ซึ่งมันเป็นสุนัขของเพื่อนบ้านใกล้ๆ และที่สำคัญคือพวกมันทั้งสองชอบอยู่ด้วยกันมากๆ เรียกว่าเป็นเพื่อนซี้สุดแสบเลยก็ว่าได้ Miranda และสามีของเธอนั้นสนิทกับเจ้านายของ Bonkers พอสมควร นั่นเลยทำให้สุนัขทั้งสองตัวได้พบปะและเล่นด้วยกันอยู่บ่อยๆ พวกเขาพูดว่า Bonkers เปรียบเสมือนพี่ชายแท้ๆ ของ Nugget เพราะมันมักจะดูแลกันอยู่เสมอๆ ทุกครั้งที่ออกไปเดินเล่นมันจะตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้ไปหา Bonkers (ถ้าใครดูคลิบไม่ได้ให้กดไปที่ลิ้งค์ข้างๆ เลยจ้า ‘Nugget and Bonkers‘)…
-
ครอบครัวจีนปฏิเสธไม่ยอมย้ายบ้าน นายทุนจึงส่งคนมาทำร้าย และจับโยนออกจากบ้าน!!
ทุกวันนี้นายทุนส่วนใหญ่มักจะกว้านซื้อที่ดินเพื่อนำไปสร้างบ้านจัดสรร ทำห้าง หรือตึกสูง โดยใช้วิธีการให้เงินชดเชยบ้าง หรือบีบบังคับให้ออกบ้าง ส่วนคนที่ไม่ยอมขายที่หรือไม่ยอมย้ายออกไปก็จะถูกนายทุนข่มขู่ด้วยสารพัดวิธี บางรายรุนแรงถึงชีวิตเลยทีเดียว…เหมือนกับครัวนี้ที่ถูกทำร้ายยกครัวเพราะไม่ยอมออกจากพื้นที่ นี่เป็นเรื่องที่เกิดในประเทศจีนเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2017 โดยมีคลิปที่เผยแพร่โดย DW News รายงานว่า บ้านของครอบครัว Wu เป็นส่วนหนึ่งของโครงการฟื้นฟูเมืองในหมู่บ้าน Qianfeng เขต Xixiang เมือง Hanzhong แต่เมื่อครอบครัวนี้ปฏิเสธที่จะรับเงินชดเชยจากสภานายทุนและไม่ยอมย้ายออกไป จึงโดนข่มขู่ด้วยการมัดแขนมัดขาทุกคนในครอบครัวรวมทั้งลูกน้อยอีก 2 คนด้วย ในคลิปจะเห็นว่าชายคนหนึ่งถูกพันรอบปากด้วยสก๊อตเทป ในขณะที่ชายอีกคนถูกมัดด้วยสายพลาสติกรอบตัว และทุกคนทั้งหมดก็ถูกจับโยนออกไปนอนอยู่บนถนน Li ลูกเขยของครอบครัว Wu บอกว่า “มีผู้ใหญ่ 5 คนและเด็กอีก 2 คน ถูกลากออกจากบ้านและโดนจับโยนไปอยู่บนถนน แถมยังโดนทุบตีอย่างรุนแรงด้วย” ตามที่สำนักข่าว DW News รายงานว่า บ้านหลังดังกล่าวอยู่ในพื้นที่โครงการฟื้นฟู ดังนั้นจึงต้องถูกรื้อถอน โดยทางนายทุนได้เสนออพาร์ทเมนท์ให้ครอบครัว Wu ที่มี 4 ห้อง พร้อมกับให้เงินชดเชยอีกประมาณ 480,000 บาท …
-
สถิติเผย วัยรุ่นอเมริกัน หันมาอาศัยอยู่กับครอบครัวมากขึ้น แทนที่จะย้ายไปหาที่อยู่เอง…
เชื่อว่าหลายๆ คนต้องเคยได้ยินว่า ค่านิยมของสังคมครอบครัวอเมริกัน วัยรุ่นส่วนใหญ่มักจะย้ายออกจากบ้านของพ่อแม่ ทันทีที่จบการศึกษาชั้นมัธยมปลาย เพราะพวกเขาถือว่าตนเองนั้นโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว จึงจำเป็นหาเลี้ยงชีพโดยไม่พึ่งในบุญนำพาของพ่อแม่อีกต่อไป ซึ่งค่านิยมดังกล่าวถือว่าเป็นแบบอย่างที่วัยรุ่นหลายๆ ประเทศทั่วโลกอยากทำตาม แต่ดูเหมือนว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ค่านิยมนี้ค่อยๆ เปลี่ยนไปแล้ว เพราะล่าสุดทาง Wall Street Journal ได้เปิยเผยตัวเลขสถิติออกมาพบว่า วัยรุ่นอเมริกันอายุ 18-35 ปี กว่า 40 เปอร์เซ็น ยังคงอาศัยอยู่กับครอบครัว ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 1940 เลยทีเดียว โดยสาเหตุหลักๆ มาจากค่าใช้จ่ายสำหรับอสังหาริมทรัพย์ที่สูงขึ้นนั่นเอง ทำให้วัยรุ่นที่เพิ่งก่อร่างสร้างตัว แทบไม่สามารถเช่าหรือซื้อบ้านได้เลย เปรียบเทียบจากช่วงยุค 1950 ราคาบ้านเฉลี่ยอยู่ที่ 2.3 ล้านบาท และเงินดาวน์ซื้อบ้านอยู่ที่ 500,000 บาทเท่านั้น แต่ขณะเดียวกัน ราคาบ้านเฉลี่ยในปี 2014 พุ่งทะยานไปถึง 12 ล้านบาท และเงินดาวน์ซื้อบ้านอยู่ที่ 1.9 ล้านบาทเลยทีเดียว ราคาห่างกันหลายเท่าตัว!! …
-
ครอบครัวที่ตัดสินใจย้ายจากเมือง ไปใช้ชีวิตในชนบท เพื่อดูแล ‘ลูกชายออทิสติก’ ของพวกเขา…
เรื่องราวในวันนี้เป็นของ Greg Masucci และ Maya Wechsler สองพ่อแม่ที่พึ่งฉลองวันเกิดลูกชายหนูน้อย Max ในวัย 3 ขวบ ของพวกเขาไปหมาดๆ แต่แล้วข่าวร้ายจากคุณหมอก็ทำให้ครอบครัวของพวกเขาต้องเปลี่ยนไปตลอดกาลหลังพวกเขาได้รับแจ้งว่าลูกชายเป็นออทิสติก ‘เมื่อคุณเกิดมาพร้อมกับอาการออทิสติกแล้ว มันไม่มีเงื่อนไขหรือข้อจำกัดอะไรตายตัวหรอก’ Greg คุณพ่อกล่าว… เด็กๆ ที่มีอาการออทิสติกนั้นจะมีอาการผิดปกติหลากหลายแตกต่างกันไป ทั้งการปรับตัวเข้ากับสังคม การสื่อสารทั้งโดยท่าทาง หรือการพูด แถมอาจพบกับความเสี่ยงที่โดนเด็กๆ คนอื่นๆ ล้อและรังแกอีก Greg และ Max การใช้ชีวิตในเมืองใหญ่ อาจจะไม่ใช่ทางเลือกที่ดีนัก… พอรู้ว่าลูกชายของพวกเขาเป็นออทิสติก ทั้งสองก็ตัดสินใจอยู่นานว่าจะเอายังไงกับชีวิตดี เพราะการเลี้ยงดูแบบเด็กในเมืองทั่วไป ส่งไปโรงเรียนปกติ หรือจะให้ไปไหนมาไหนเองก็คงไม่ได้ มันต้องลำบากกว่าเดิมมากแน่ๆ เมื่อลูกโตขึ้น หลังจากครุนคิดอย่างหนัก พวกเขาจึงสรุปได้ว่า ชีวิตในแถบชานเมืองนั้นค่อนข้างจะไม่เหมาะกับพวกเขา โดยเฉพาะ Max ลูกชายของพวกเขาอีกต่อไปแล้ว เพราะเขาจะมีปัญหาเกี่ยวกับพัฒนาการอย่างแน่นอน ครอบครัวนี้เลยตัดสินใจย้ายบ้านไปแถบชนบท เพื่อให้ไลฟ์สไตล์ที่เหมาะสมกับลูกชายของพวกเขา เพราะที่ชนบทอันเงียบสงบนั้น Max จะมีพื้นที่วิ่งเล่นมากมายโดยไม่ต้องกังวลถึงอันตรายใดๆ พ่อและแม่ของเขาก็สามารถเจียดเวลามาทำการสอนแบบ Home School ให้กับลูก และ Max จะได้ไปเล่นกับเด็กๆ…