Tag: รณรงค์
-
ชมโปรเจ็กต์ “It Happens” ภาพถ่ายทรงพลังรณรงค์ให้ผู้คนเลิกพฤติกรรม ‘คุกคามทางเพศ’
ปัญหาหนึ่งของสังคมที่เปรียบเสมือนโรคร้ายรุนแรงและรักษาไม่หายขาดก็คือ การคุกคามทางเพศ มันเป็นโรคที่ไม่เคยเลือกว่าจะเกิดขึ้นที่ไหน เมื่อไหร่ และกับใครบนโลกใบนี้ แต่มัน “เกิดขึ้น” ราวกับไม่มีทางควบคุมได้ สิ่งที่พวกเราพอจะทำได้ก็มีเพียงการรณรงค์ให้ผู้คนหยุดพฤติกรรมที่ส่อไปในทางคุกคามทางเพศเท่านั้น ช่างภาพหญิงสาวนามว่า Yana Mazurkevich จึงสร้างผลงานภาพออกมารณรงค์และเตือนสติ Yana Mazurkevich โปรเจกต์ของ Yana มีชื่อว่า “It Happens” มันเป็นเซ็ตภาพซึ่งสื่อให้เห็นว่าโรคร้ายที่ชื่อว่า “การคุกคามทางเพศ” (Sexual Assault) นั้นสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลาโดยที่เราอาจไม่ทันระวังตัว แต่ละภาพของเซ็ต “It Happens” นั้นจะมีชื่อภาพที่ต่อจากคำว่า “It Happens” เสมอ เราไปชมภาพเหล่านั้นพร้อมๆ กันเลยดีกว่า It Happens Suddenly: มันเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน It Happens Unexpectedly: มันเกิดขึ้นได้อย่างไม่คาดคิด It Happens Unwillingly: มันเกิดขึ้นได้แม้เราไม่ต้องการ It Happens With Anyone:…
-
เกิดเหตุยิงปืนในโรงเรียนที่ฟลอริด้า ในวันเดินรณรงค์ต่อต้านการใช้อาวุธปืน มีผู้บาดเจ็บ 1 ราย
เมื่อเช้าวันศุกร์ที่ 20 เมษายนที่ผ่านมา หน่วย S.W.A.T. ของฟลอริด้าได้รับการแจ้งเหตุชายคนหนึ่งเปิดฉากยิงปืนในโรงเรียนมัธยมปลาย Forest ที่เมือง Ocala รัฐฟลอริด้า และเข้าจับกุม Sky Bouche ผู้ต้องสงสัยวัย 19 ปีซึ่งในปัจจุบันไม่ใช่นักเรียนของโรงเรียนไปอยู่ในความดูแลของตำรวจ Sky Bouche ผู้ต้องสงสัยวัย 19 ปี ตามรายงานที่ได้รับจากนายอำเภอ Billy Woods เหตุการณ์ครั้งนี้ ส่งผลให้มีนักเรียนวัย 17 ปีคนหนึ่งได้รับบาดเจ็บที่ข้อเท้าจนต้องมีการพาเขาเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล โดยทางอำเภอได้ทำการเตือนประชาชนให้อยู่ห่างจากพื้นที่และแจ้งให้พ่อแม่ให้มาพบลูกในสถานที่อื่นเป็นที่เรียบร้อย ทางตำรวจเปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายทรัพยากรของโรงเรียนได้ยินเสียงปืนดังใน เวลา 8:39 นาฬิกาตามเวลาท้องถิ่น เขาได้ทำการแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งรุดไปยังที่เกิดเหตุ พบผู้บาดเจ็บ และเข้าทำการจับกุมผู้ต้องสงสัยภายในเวลาเพียงสามนาที Woods กล่าวว่านี่เป็นการยิงโดยเจตนา แต่จะไม่อาจบอกได้ว่าผู้ต้องสงสัยเข้าไปในโรงเรียนได้อย่างไร หรือว่ารู้จักกับเหยื่อหรือไม่ “แม้ว่าเราจะได้ข้อสรุปโดยรวมแล้ว แต่เรื่องนี้ก็ยังเป็นเรื่องที่ต้องสอบสวนกันต่อไป” Woods กล่าวกับผู้สื่อข่าวในที่ประชุมแถลงข่าว “มีรายละเอียดมากมายที่เรายังไม่รู้” เหตุการณ์ยิงปืนในโรงเรียนครั้งนี้ยังเกิดขึ้นในระหว่างการเดินรณรงค์ต่อต้านความรุนแรงโดยการใช้อาวุธปืนพอดี และเป็นวันครบรอบ 19 ปี เหตุการณ์การสังหารหมู่ที่โรงเรียนมัธยมโคลัมไบน์อีกด้วย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ จึงทำให้มีการยกเลิกการเดินรณรงค์ในบริเวณนั้นทั้งหมดอย่างช่วยไม่ได้ไป ที่มา cnn, foxnews, independent
-
กลุ่มผู้ชาย รวมตัวกันมาเผยความจริงว่าเคยโดน ‘ข่มขืน’ สื่อถึงความอยุติธรรมที่ได้รับ
แน่นอนว่าความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับทุกเพศทุกวัยย่อมเป็นเรื่องที่มีอิทธิพลต่อสังคมมนุษย์เป็นอย่างมาก “การข่มขืน” ก็เป็นหนึ่งในประเด็นความรุนแรงที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งและส่งผลกระทบทางลบกับหลายๆ ฝ่าย ไม่แปลกหากว่าพูดถึงเรื่องของการข่มขืนแล้วเราจะนึกถึงภาพเหยื่อที่เป็นเพศหญิง เพราะจากที่เราเห็นกันตามสื่อส่วนมากเป็นเช่นนั้น แต่แท้จริงแล้วนั้นเพศชายที่ถูกข่มขืนเองก็มีจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว และวันนี้ พวกเขา “ชายที่เคยถูกข่มขืน” รวบรวมความกล้าก้าวออกจากความเงียบงัน สู่การแสดงออกถึงความจริงที่หลายคนเข้าใจผิดเกี่ยวกับการข่มขืน ในโลกแห่งความจริงนั้น ตามรายงานจากองค์กรต่อต้านความรุนแรงทางเพศของสหรัฐอเมริกาชื่อ RAINN พบว่าร้อยละ 10 ของเหยื่อที่ถูกข่มขืนเป็นเพศชาย และผู้ชายร้อยละ 0.33 ของอเมริกาเคยถูกข่มขืนหรือเกือบถูกข่มขืน “นายควรขอบคุณที่ฉันอุตส่าห์ยอมส่งข้อความหานายนะ” ในประเทศอังกฤษเองก็มีตัวเลขจำนวนผู้ชายที่ถูกข่มขืนสูงด้วยเช่นกัน เกือบจะร้อยละ 12 ของเหยื่อการข่มขืนทั้งหมดของประเทศเป็นเพศชาย แต่ว่าปัจจุบันกลุ่มชายที่เคยถูกข่มขืนกลุ่มหนึ่งตัดสินใจที่จะออกมาบอกเล่าถึงความจริงที่หลายๆ คนเข้าใจผิดเกี่ยวกับเรื่องของการข่มขืน “ไม่ต้องมีอะไรกันก็ได้ แค่ให้ฉันเลี้ยงเหล้าคุณอีกแก้วก็พอน่า…” ชายกลุ่มนี้ออกมาบอกเล่าเรื่องราวของตน โดยการเขียนประกาศถึง “คำพูด” ที่ผู้กระทำชำเราใช้กับพวกเขาในเหตุการณ์ความรุนแรงนั้นๆ การเผยแพร่นี้กระทำผ่านเว็บเพจของ Tumblr ที่ชื่อว่า Project Unbreakable ภายในเป็นการรวบรวมภาพถ่ายที่มุ่งเน้นช่วยเหลือเหล่าผู้ประสบความรุนแรงทางเพศ ความรุนแรงภายในบ้าน และความรุนแรงในวัยเยาว์ “ไม่ต้องห่วง พวกหนุ่มๆ น่ะชอบแบบนี้กันทั้งนั้น” ท่ามกลางเหล่าสตรีที่เผยข้อมูลที่ตนได้ผ่านการถูกข่มขืน ชายเหล่านี้เองก็ได้ต่อสู้เพื่อจุดยืนของตน โดยการชูป้ายที่รวมเอาคำพูดของผู้กระทำชำเราที่ได้พูดต่อพวกเขาให้โลกได้รับรู้ “ไม่มีใครรักแกหรอกน่า และก็ไม่มีใครสนใจแกด้วย แกมันเป็นของชำรุดไปแล้ว” โปรเจกต์นี้ยังได้ก่อให้เกิดผลกระทบเล็กน้อยในเชิงของการตอบโต้เรื่องผลการรายงานเกี่ยวกับการข่มขืนที่ต่ำกว่าความเป็นจริง…
-
พบกับโฆษณาเจ๋งๆ ที่สะท้อนให้เห็นปัญหาในปัจจุบัน จนคุณอาจจะต้องร้องว๊าววว
การโฆษณาตามสื่อต่างๆ เป็นสิ่งที่มีอิทธิพลอย่างมากในปัจจุบัน โดยมันสามารถช่วยโน้มน้าวใจให้ผู้คนสามารถเชื่อตามที่ผู้ผลิตต้องการจะสื่อออกไปได้ ดังนั้นการโฆษณาส่วนใหญ่จึงนิยมเอามาใช้ในทางธุรกิจ เพื่อให้มีกำลังซื้อที่มากขึ้น เหมือนกับที่เราเห็นอยู่ในสื่ออย่าง โทรทัศน์ หรือวิทยุ ในปัจจุบัน ทว่าด้วยพลังอำนาจของมันที่อยู่อย่างมากมาย จึงทำให้คนบางคนนำแนวคิดนี้มาปรับใช้กับการทำสังคมให้ดียิ่งขึ้น เหมือนกับภาพโฆษณาเหล่านี้ ที่ทำให้เราเห็นถึงปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสังคม รวมถึงยังเชิญชวนให้เราช่วยกันปรับปรุงโลกที่เราอยู่ให้น่าอยู่ขึ้นไปกว่าเดิมอีกด้วย ซึ่งเหล่าบุคคลเหล่านี้จะมีความที่สร้างสรรค์ขนาดไหน ลองพิสูจน์ด้วยสายตาคุณเองได้เลย “แม้ว่าภาพเซลฟี่แต่ละภาพจะไม่เหมือนกัน แต่ก็ไม่ควรต่างกันขนาดนี้” โฆษณานี้จัดทำเพื่ออุทิศให้กับเด็กๆ ผู้ลี้ภัย โฆษณาของ Land Rover ที่รณรงค์ไม่ให้ใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ . การล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็ก มักจะเกิดจากการใช้สื่อออนไลน์ . รัฐบาลของประเทศนิวซีแลนด์จัดทำตัวมาสคอตขึ้นมา เพื่อเตือนให้ผู้คนเห็นถึงความอันตรายหากดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ลงเล่นน้ำ โฆษณาที่อยากบอกแก่ทุกคนว่า อย่าตัดสินผู้อื่นเพียงแค่สิ่งที่เห็นภายนอกเท่านั้น โฆษณานี้จัดทำขึ้นเพื่อต่อต้านความรุนแรงที่กระทำต่อเด็ก โดยมีข้อความว่า “สิ่งนี้ควรมีไว้สวม มิใช่เพื่อสร้างความหวาดกลัว” โฆษณาที่สะท้อนให้ผู้คนเล็งเห็นถึงความสำคัญของการบริจารอวัยวะ ว่าบางคนก็อาจจะไม่มีโอกาสได้มีชีวิตดูตอนจบของรายการโปรดของเขาก็เป็นได้ โฆษณาที่จัดทำขึ้นเพื่อ เตือนให้ผู้คนระวังภัยที่จะตามมาหากส่งรูปส่วนตัวของเราให้แก่คนที่ไม่รู้จัก และนี่ก็อีกโฆษณาหนึ่ง ที่ต่อต้านการใช้โทรศัพท์ขณะขับรถเช่นเดียวกัน การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่เพียงแต่ทำร้ายตัวเองเท่านั้น ยังทำร้ายคนรอบข้างอีกด้วย…
-
ชาวเน็ตจวกคำพูดของ “พลอย หอวัง” ในรายการ Jailbreak ที่ขัดแย้งตัวเองจาก “Words Hurt”
เราเชื่อนะว่าทุกๆ คนไม่ว่าจะเป็นเด็ก หรือผู้ใหญ่ มักจะเคยถูกโดนด่า โดนว่า โดนล้อ กันมาแล้ว และถึงแม้ว่าคำพูดเหล่านั้นจะเป็นคำพูดที่อาจดูไร้สาระ หรือไม่ได้หนักหนาสาหัสอะไร แต่เชื่อไหมว่าความรู้สึกของคนที่ถูกด่า มันกลับเป็นคำทารุณกรรมทางใจที่ทำให้พวกเขาเจ็บปวด และกลายเป็นปมด้อยติดตัวไปตลอด… และเมื่อไม่นานมานี้ ยิปโซ อริย์กันตา มหาพฤกษ์พงศ์ ดารานักแสดงชื่อดัง ได้ทำการจัดแคมเปญที่ชื่อ “Words Hurt” ขึ้น เพื่อรณรงค์ให้หยุดการทารุณกรรมทางคำพูด โดยให้เหล่าศิลปินนักแสดงรวม 18 ชีวิต มาบอกเล่าประสบการณ์ที่ครั้งหนึ่งพวกเขาก็เคยถูกทำร้ายด้วยคำพูด ซึ่งหนึ่งในนั้นก็มี “พลอย หอวัง” ที่ได้เข้ามาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ด้วย พลอย ได้ออกมาเล่าเรื่องราวของตัวเองว่า เธอเคยถูกล้อว่าเป็นคนที่ “ไม่สวย” มาตั้งแต่เด็กจนถึงปัจจุบัน ซึ่งมันทำให้เธอรู้สึกไม่แฮปปี้ และรู้สึกไม่พอใจอย่างมาก แต่ถึงกระนั้นเธอก็ได้เผยว่า สุดท้ายแล้วมันก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี เพราะไม่สามารถไปห้ามปากใครไม่ให้พูดได้ ซึ่งภายหลังจากที่แคมเปญดังกล่าวได้เปิดตัวไป คุณสมาชิกหมายเลข 4101224 จากเว็บไซต์พันทิป ก็ได้เข้ามาตั้งกระทู้ว่า “สมัยนี้ดาราสามารถเรียกคนอื่นว่า “กะหรee” ออกรายการแล้วเหรอ?” โดยได้พูดถึงรายการ Jailbreak…
-
น่าสน!! 17 ไอเดียการดัดแปลง “ขวดน้ำ” ให้กลายเป็นของใช้สุดเจ๋งที่ดูคาดไม่ถึงสุดๆ
หนึ่งในสิ่งที่ใช้เวลานานในการย่อยสลายก็คือ “พลาสติก” ดังนั้น เราจึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคนบางกลุ่มถึงให้ความสำคัญในการรณรงค์ นำขยะพลาสติกมารีไซเคิลใหม่ให้กลายเป็นของใช้มากประโยชน์ ถ้าหากที่บ้านของเพื่อนๆ มีขยะพลาสติกโดยเฉพาะขวดพลาสติกเก่าๆ ละก็ คุณสามารถนำมาดัดแปลงให้กลายเป็นของใช้สุดคูลได้แบบง่ายๆ และทั้งหมดนี้คือ 17 ไอเดียการดัดแปลง “ขวดน้ำ” ให้กลายเป็นของใช้ที่โคตรเจ๋ง มาดูกันว่าจะมีอะไรบ้าง ทำเป็นที่ใส่โทรศัพท์ขณะกำลังชาร์จแบต และคุณก็จะได้ไม่ต้องวางโทรศัพท์ไว้บนพื้นอีกต่อไป ฝาขวดพลาสติก ก็สามารถนำมาดัดแปลงให้เป็นฝาสำหรับถุงพลาสติกได้ เปลี่ยนถังน้ำขนาดใหญ่ให้กลายเป็นถุงขวดแบบเก๋ๆ ลำโพงรีไซเคิลก็สามารถทำได้นะ ที่ใส่ฟองน้ำ อุปกรณ์ป้องกันมีดบาด ทำเป็นเครื่องชงชาก็ยังได้ หรือจะเป็นที่ใส่ดินสอก็เจ๋งฝุดๆ กระถางดอกไม้ขนาดจิ๋ว เรือนกระจกขนาดเล็กที่จะช่วยปกป้องต้นไม้ต้นเล็กให้พ้นจากความหนาวเย็น และแห้งแล้ง ทำสปริงเกอร์ก็เจ๋งไม่น้อย กันชนจักรยาน เห้ย!! คือดีย์ ฝาครอบเลนส์กล้อง ก๊อกน้ำ DIY ลองทำดูแล้วจะรู้ว่าน้ำไม่กระเด็นไปทั่วอ่างแน่นอน ขวดเก่าๆ ที่สามารถนำมาแยกไข่แดงและไข่ขาวได้ และนี่คือพลั่วฉบับแฮนเมด…
-
ศิลปินถ่ายภาพกับขยะ ที่ไม่ได้ทิ้งมาตลอด 4 ปี สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาขยะล้นโลก!!
เพื่อนๆ เคยสงสัยกันหรือไม่ว่า ‘ขยะ’ ที่เราใช้แล้วทิ้งกันอยู่ทุกวันนี้ พอเอามารวมๆ กันในช่วงระยะเวลาหนึ่งมันจะมีจำนวนมากขนาดไหนกันนะ!? สำหรับวันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปชมผลงานการถ่ายภาพของศิลปิน Antoine Repessé ที่จู่ๆ ก็ปิ๊งไอเดียขึ้นมาว่าหากหยุดทิ้งขยะเป็นระยะเวลา 4 ปี ปริมาณขยะที่เราผลิตกันออกมานั้นจะมีมากแค่ไหนกัน? จากนั้นก็จะนำขยะเหล่านั้นมาสร้างเป็นผลงานภาพชุดที่มีชื่อว่า #365 Unpacked เพื่อทำให้ผู้บริโภคทั้งหลายคำนึงถึงบทบาทการบริโภคให้มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ตลอดระยะเวลากว่า 4 ปี Antoine ได้ทำการเก็บสะสมขยะไปทั้งหมด 70 ลูกบาศก์เมตร แบ่งเป็นขวดนม 1,600 ขวด แกนกระดาษทิชชู่ 4,800 แกน และหนังสือพิมพ์ 800 กิโลกรัม ซึ่งขยะทั้งหมดนี้จะถูกแยกออกมาถ่ายภาพเล่าเรื่องราวที่แตกต่างกันออกไป “ฉันอยากที่จะสร้างมิติทางสุนทรีย์ให้กับผลงาน ซึ่งการจัดเรียงขยะให้ดูเป็นระบบระเบียบจะสร้างเอฟเฟคที่ดีมากกว่า” “การทิ้งขยะของเสียที่เกิดจากตัวของเรานั้นเป็นอะไรที่ถูกพูดถึงบ่อยมาก แต่ฉันคิดว่าภาพเหล่านี้จะสร้างผลกระทบและมีพลังให้เกิดการเปลี่ยนแปลงมากกว่าคำพูด และฉันก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ผลงานของฉันจะสร้างความเปลี่ยนแปลงได้” Antoine กล่าว . . . . . ที่มา…
-
ถ้า ‘มนุษย์กลายเป็นสุนัข’ ชุดภาพสะท้อนความหดหู่ กับการทารุณกรรมสุนัขภายในจีน!!
เป็นประจำทุกปีที่เมืองยู่หลิน ประเทศจีน จะมีการจัดงานเทศกาลเนื้อหมาขึ้นเป็นประจำ โดยงานจะจัดเป็นเวลายาวนานถึง 10 วัน และคาดว่ามีสุนัขมากกว่า 15,000 ตัว ที่ถูกนำมาทำเป็นอาหารสำหรับเทศกาลประจำปีนี้ แต่ใช่ว่าเมืองจีนจะเต็มไปด้วยความโหดร้ายเสมอไป ท่ามกลางประเพณีการกินเนื้อสุนัข ก็ยังมีกลุ่มคนบางส่วนที่ออกมาต่อสู้เพื่อปกป้องเหล่าน้องหมาไม่ให้ถูกนำไปทำเป็นอาหารอีก และล่าสุดทีมนักเต้นโพลแด๊นซ์ ‘POLE 11’ ได้ออกมารวมตัว เพื่อประท้วงเทศกาลกินเนื้อหมา และต้องการให้ทุกคนตระหนักถึงความโหดร้ายที่สุนัขจรจัดถูกทารุณกรรมโดยน้ำมือมนุษย์ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นสัตว์เลี้ยงผู้ซื่อสัตย์ก็ตาม… โดยพวกเขาได้จำลองสถานการณ์ให้แก่ตนเอง ตามแบบที่มนุษย์ทำกับสุนัขจรจัดอย่างหดหู่ อีกทั้งต้องการตระหนักให้ทุกคนเริ่มหยิบยื่นการช่วยเหลือให้แก่เหล่าสุนัขจรจัดทั้งหลาย บางตัวก็ถูกเผาทั้งเป็น มีอีกหลายชีวิตที่ต้องพยายามเอาตัวรอดแบบวันต่อวัน พวกมันไม่มีทางรู้ได้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวมันเองบ้าง บ้างก็ถูกมนุษย์ใจร้ายล่ามไว้ และปล่อยให้อดอาหารนานแรมเดือน เพียงเพราะเขาคนนั้นรู้สึกรำคาญพวกมัน และอีกหลายชีวิตที่ถูกนำมาทำเป็นอาหาร มีสุนัขมากมายที่ต้องตายจากไปด้วยน้ำมือของมนุษย์ วันแล้ววันเล่า บางทีก็ถูกทรมานให้ตายทั้งเป็น เพียงเพราะความสนุกอันแสนโหดร้ายของคนบางคน จากภาพทั้งหมดนี้ พวกเขาก็ได้แต่หวังว่ามันจะช่วยทำให้ชาวจีนตระหนักถึงเรื่องนี้มากขึ้น ในขณะที่อีกฝั่งหนึ่งของเทศกาลเนื้อสุนัข กลับเต็มไปด้วยผู้คนให้ความสนใจจำนวนมาก… อันที่จริงแต่ละประเทศก็มีวัฒนธรรมอาหารการกินที่ต่างกัน แต่สำหรับคนรักสัตว์อย่างเราๆ เห็นแบบนี้แล้วมันอดที่จะสงสารไม่ได้จริงๆ ที่มา: Fwdder
-
20 โฆษณาสะท้อน “ปัญหาสังคม” ชี้ให้เห็นด้านลบ และปัญหาที่โลกเรากำลังเผชิญ..
ทุกวันนี้ในสังคมมนุษย์เรา มีปัญหาต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย หลายๆ ครั้งผู้คนพยายามทำเป็นลืมหรือปฏิบัติราวกับว่าปัญหาเหล่านั้นไม่เคยเกิดขึ้น ทั้งที่จริงแล้วมีคนหรือสัตว์จำนวนมาก กำลังเดือดร้อนอยู่ ด้วยเหตุนี้หลายๆ องค์กร จึงทำป้ายโฆษณาขึ้นมาเพื่อบอกเล่าถึงปัญหาเหล่านั้น ล่าสุดทางเว็บไซต์ Bright Side ได้รวบรวม 20 โฆษณาสะท้อน “ปัญหาสังคม” ที่ทำให้เห็นว่าโลกของเรานั้นมีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้นมากมายขนาดไหน เราไปติดตามกันเลย!! แม้แต่เทคโนโลยียังรู้ว่าปัญหาความรุนแรงต่อสตรีไม่ใช่เรื่องล้อเล่น เด็ก 300,000 คนต้องออกรบแทนที่จะไปโรงเรียน ภาพเซลฟี่จากประเทศที่กำลังพัฒนา ของหวาน = เบาหวาน อันตรายจากบุหรี่ การบริจากเลือดอาจหมายถึงการเติบชีวิตให้กับคนอีกคน รูปภาพส่งเสริมการปลูกถ่ายอวัยวะในจีน เด็กหลายคนได้ออกไปเล่นนอกบ้านน้อยกว่านักโทษในคุกเสียอีก ปัญหาแรงงานเด็ก ถ้าไม่มีคนพูด ปัญหานี้ก็จะยังคงอยู่เรื่อยไป ยิ่งปล่อยเด็กออทิสติกไว้นานเท่าไหร่ การช่วยเหลือพวกเขาก็จะเป็นเรื่องยากขึ้นเท่านั้น เส้นทางภายในเมือง ควรคำนึงถึงผู้พิการด้วย รงรงณ์ปัญหาความเหงาในหมู่ผู้สูงอายุที่อาจนำไปสู่การฆ่าตัวตาย ยังมีอีกหลายคนบนโลกที่กำลังหิวโหย …
-
“The First Kiss” โฆษณาสุดสะเทือนใจ ไม่คาดเข็มขัดคนเดียว ก็ทำให้ตายได้ทั้งคัน!!
หลายประเทศนั้นได้พยายามที่จะรณรงค์ให้ผู้ใช้รถใช้ถนนทุกคนขับขี่อย่างปลอดภัยด้วยการสวมหมวกนิรภัย คาดเข็มขัด ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถช่วยลดความเสียหายเวลาเกิดอุบัติเหตุได้เยอะมากๆ แต่ก็ยังมีหลายคนที่คิดว่ามันคงไม่เกิดขึ้นกับตัวเองหรอก ก็เลยละเลยเรื่องพวกนี้ไป แต่วันนี้ #เหมียวสามสี มีโฆษณาตัวหนึ่งที่จะทำให้กลับไปคิดใหม่ นี่คือโฆษณารณรงค์การคาดเข็มขัดจากประเทศแอฟริกาใต้ชื่อว่า “The First Kiss” เป็นเรื่องราวของวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งที่กำลังขับรถ แต่มีชายคนหนึ่งไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัย จนทำให้เกิดโศกนาฏกรรมขึ้น เราไปชมในคลิปกันเลย ถึงแม้ว่าตัวโฆษณานี้จะแสดงให้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ยาก แต่ไม่ใช่ว่ามันจะไม่เกิดขึ้นเลย ดังนั้นเราก็ควรที่จะปลอดภัยไว้ทุกๆ กรณีนะจ๊ะ ที่มา NewzFlash
-
ถึงกับงง?? หน่วยงานสเปนใช้ “อุนจิยักษ์” ตั้งรณรงค์แก้ปัญหาหมาอึตามถนน ดันถูกขโมยซะงั้น…
สำหรับในประเทศเรา หลายคนคงเคยเจอกับปัญหาอุจจาระของสุนัข ที่เจ้าของมักจะปล่อยให้มันถ่ายทิ้งเรี่ยราดอยู่บนถนนบ่อยๆ ซึ่งก็ได้สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ที่สัญจรไปมาเป็นอย่างมาก บางทีเดินอยู่บนถนนก็เกิดไปเหยียบเข้า เรียกได้ว่าทำเอาเซ็งไปตามๆ กัน ที่ประเทศสเปน เขามีการรณรงค์ความสะอาด แก้ปัญหาสุนัขที่ถ่ายเรี่ยราดจนทำถนนสกปรกเลอะเทอะ โดยการให้เจ้าของรับผิดชอบอุจจาระที่เกิดจากน้องหมา แถมยังมีการใช้หุ่นพองลมรูปอุนจิขนาดยักษ์มาเป็นสัญลักษณ์อีกด้วย และนี่คือหน้าตาของเจ้าอุนจิยักษ์ ที่ตั้งอยู่ใน Torrelodones ประเทศสเปน นั่นเอง แต่ทว่าเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2559 ที่ผ่านมา ทางสำนักข่าว Dailymail ได้มีการเผยว่า เจ้าหุ่นพองลมรูปอุนจิไซส์พี่เบิ้มที่เพื่อนๆ ได้เห็นนั้น ได้ถูกขโมยไปเสียแล้ว โอ้วววว น่าเสียดายจริงๆ เพราะตอนสั่งทำมันมีราคาสูงถึง 150,000 บาทเชียวนะ แต่คนทำจะขโมยไปทำไม??? ขายต่อใครจะซื้อ?? แต่งบ้านเหรอ??? ไม่น่าจะใช่มั้ง!! แม้ว่าในตอนนี้มันจะถูกขโมยไป แต่ทางการก็ไม่ได้นิ่งเฉยพยายามตรวจสอบผู้ขโมยอุนจิจากกล้องวงจรปิด แถมกำลังสั่งทำหุ่นอุนจิอันใหม่มาแทนอันเดิมที่หายไป นอกจากนี้ทางสำนักข่าวต่างประเทศ ยังมีรายงานอีกว่า ในขณะนี้ชาวเมือง Torrelodones ยังได้ร่วมใจกันถ่ายภาพน้องหมาที่กำลังถ่ายเรี่ยราดลงในโซเชียล พร้อมติดแฮชแท็ก #NoMasCacas ทั้งนี้ทางโฆษกสภาเมือง ได้มีการออกมาเผยว่า เมือง Torrelodones มีผู้คนอาศัยอยู่กว่า 22,000…
-
เมื่อเหล่า “ดาราเอวี” มารณรงค์รักษ์โลกแบบสยิว นับจากนี้จะตั้งใจดูแลโลกแล้ว!!
รู้สึกว่าช่วงนี้ไม่ค่อยมีใครออกมารณรงค์เรื่องการรักษ์โลกเลย วันนี้ #เหมียวสามสี ก็จะมากระตุ้นความรู้สึกรักษ์โลกนี้อีกครั้ง รับรองว่าคุณผู้ชายเห็นแล้วต้องรักษ์โลกแน่นอน โดยปกติของพวกนี้ต้องใช้พรีเซนต์เตอร์เป็นพวกดาราหรือคนที่เรารู้จักในวงกว้างมาเพื่อเป็นกระบอกเสียง แต่ที่ประเทศญี่ปุ่นนั้นคิดไปไกลกว่าเดิม เมื่อได้เชิญเอาดาราเอวีหรือนางเอกหนังโป๊มาทำการรณรงค์นั่นเอง อย่ารอช้า เราไปพบกันเธอคนแรกกัน เธอชื่อว่า Masami Ichikawa มาในธีม “ก่อนจะไป ช่วยถอดหน่อยได้มั้ยคะ” เพราะมันเป็นทางหนึ่งที่จะช่วยให้ท่านประหยัดไฟนั่นเอง คนที่สอง Mana Sakura มาในธีม “เทคนิคพิเศษที่จะทำให้ขึ้นถึงจุดสุดยอดหลายครั้ง” อย่าเพิ่งคิดลึกไปไกล อันนี้หมายถึงเวลาปลูกอะไรเนี่ย รากของพืชบางชนิด ถ้าเราไม่ได้เอามาใช้ทำอาหาร สามารถเอาใส่น้ำในโถ เพื่อให้มันงอกออกมาใหม่ได้เรื่อยๆ (แต่ในตัวอย่างมันเป็นพืชของญี่ปุ่น) คนถัดมา Misa Suzumi มาในธีม “ทำบ่อยๆ เดี๋ยวก็ชิน” ปกติเราจะซื้อน้ำขวดกันใช่มั้ย แต่มันจะเพิ่มปริมาณพลาสติกนะ ทางที่ดีหากระบอกน้ำใส่ดีกว่า (ว่าแต่ซิปมันช่าง…) คนสุดท้าย Marina Shiraishi มาในธีม “ขอสดๆ ไม่ถุงได้มั้ยคะ” เวลาไปร้านสะดวกซื้อ เขามักจะเอาของใส่ถุงพลาสติกให้ ซึ่งเป็นขยะที่รกเป็นอย่างมาก ดังนั้นเราควรเอาถุงไปเอง หรือถ้าของน้อยก็ไม่ต้องขอถุงก็ได้ เป็นไงล่ะ…
-
PETA ทำอวัยวะปลอมสุดสยองภายในกระเป๋าหรู เตือนใจคนชอบใช้ ‘กระเป๋าหนังแท้’ ให้ฉุกคิดถึงที่มา…
หากพูดถึงองค์กรที่ต่อต้านการทารุณกรรมสัตว์ เชื่อว่าชื่อของ PETA หรือ People for the Ethical Treatment of Animals ต้องโผล่มาเป็นชื่อแรกๆ เลยทีเดียว พวกเขามีผลงานในการช่วยเหลือสัตว์ที่ถูกทารุณมากมาย รวมถึงการต่อต่านการใช้กระเป๋าหนังแท้จากสัตว์อีกด้วย ล่าสุดทาง PETA ได้จับมือกับบริษัทเอเจนซี่โฆษณาชื่อดัง Ogilvy &Mather ด้วยการเปิดร้านขายกระเป๋าหนังปลอมๆ ขึ้นมาในห้างแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ และจำลองอวัยวะภายในของสัตว์เหล่านั้นไว้ในกระเป๋าหนังเหล่านั้นด้วย เพื่อเป็นการเตือนผู้ใช้งานว่า กระเป๋าหนังแท้ทุกชิ้น แลกมาด้วยชีวิตของสัตว์ตัวเล็กๆ หนึ่งตัวหรือมากกว่าเสมอ!! คำเตือน : ภาพอาจมีความรุนแรง ผู้ที่จิตใจอ่อนไหวควรพิจารณา…เราเตือนท่านแล้วนะฮะ!! ช็อค!! พระเจ้า!! ทุกๆ ปีมีจระเข้กว่า 700,000 ตัวถูกฆ่าเพื่อนำมาทำกระเป๋าและเครื่องประดับอื่นๆ รวมถึงงูเห่าอีกว่า 770,000 ตัว มันคุ้มค่าแล้วหรือที่จะแลกหลายๆ ชีวิต เพื่อเครื่องประดับไม่กี่ชิ้น ลองไปชมปฏิกิริยาของคนที่เข้าไปดูสินค้ากันดีกว่า …
-
โฆษณาชุด ‘ทำลายธรรมชาติ = ทำลายชีวิต’ แคมเปญรณรงค์ให้ใส่ใจกับหายนะต่อสิ่งแวดล้อม
โลกทุกวันนี้มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของถิ่นที่อยู่อาศัยของมนุษย์และการนำทรัพยากรธรรมชาติมาเปลี่ยนแปลงเป็นผลผลิตต่างๆ เพื่อนำไปใช้งานในแต่ละด้าน แต่ยิ่งนานวัน ยิ่งมากขึ้นไปทุกที จนกระทั่งตอนนี้ธรรมชาตินั้นถูกทำลายอย่างหนัก ภาพโฆษณาชุด Destroying Nature Is Destroying Life สร้างสรรค์โดย Robin Wood นักเคลื่อนไหวทางด้านสิ่งแวดล้อมชาวเยอรมัน โดยทำการออกมาเรียกร้องให้มนุษย์หันมาใส่ใจต่อหายนะที่กำลังเกิดขึ้นต่อธรรมชาติทุกวินาทีในตอนนี้ที่เกิดขึ้นมาจากการกระทำของมนุษย์เอง ไม่ว่าจะเป็นทั้งไฟป่าแผดเผาเพื่อเคลียร์พื้นที่ การตัดไม้ทำลายป่าอันเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ รวมไปถึงการทำแท่นขุดเจาะน้ำมันในบริเวณขั้วโลก อันเป็นผลประโยชน์ที่มนุษย์หาจากธรรมชาติและทำร้ายทำธรรมชาติอย่างรุนแรงในเวลาเดียวกัน รายละเอียดของภาพแบบใกล้ชิด ที่มา : behance, designyoutrust
-
ชมคลิปรณรงค์ไม่ให้เด็กเล่นน้ำคนเดียวของอังกฤษยุค 70 ที่หลอนจนไม่อยากเล่นน้ำที่ไหนอีก!!
ปัญหาเด็กจมน้ำเสียชีวิต ถือว่าเป็นปัญหาที่สำคัญที่เกิดขึ้นทั่วโลก อาจเป็นเพราะความคึกคะนองและรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของเด็กเหล่านั้น ที่กว่าจะรู้ตัวว่าอันตราย ก็อาจจะสายไปเสียแล้ว อย่างเช่นในประเทศไทย มีเด็กจมน้ำเสียชีวิตถึงปีละเกือบ 1,500 คนเลยทีเดียว และในช่วงปี 1970 ตัวเลขของเด็กที่จมน้ำเสียชีวิตพุ่งขึ้นสูงมากในประเทศอังกฤษ ทำให้รัฐบาลขณะนั้น ตัดสินใจทำโฆษณา “Lonely Water” รณรงค์ไม่ให้เด็กไปเล่นน้ำที่ไหนตามลำพัง ซึ่ง #เหมียวอ๊อดโด้ บอกได้คำเดียวเลยว่า หลอนสุดๆ จะเป็นยังไง ไปชมกันเลย ข้าคือวิญญาณแห่งท้องน้ำที่พร้อมจะพรากชีวิตของพวกคนโง่ พวกชอบโชว์ไปจากโลกนี้ พวกท่านคิดว่าจะพบข้าได้ในที่แบบนี้สินะ.. เปล่าเลยท่านเข้าใจผิดแล้ว ในที่อื่นๆ ข้าก็อยู่เช่นกัน เด็กคนนี้กำลังพยายามโชว์ออฟให้เพื่อนๆ ได้เห็นว่าเขาเจ๋งขนาดไหน แต่เขาไม่เคยรู้เลยว่า บ่อน้ำตรงนี้ลึกแค่ไหน… แถมที่เขายืนอยู่ ก็เป็นโคลนลื่นๆ อีกด้วย กว่าเขาจะรู้ตัว ข้าก็ได้วิญญาณเขามาครอบครองแล้ว การเอาชีวิตพวกชอบโชว์ว่าง่ายแล้ว พวกไม่ค่อยระวังก็ง่ายยิ่งกว่า เด็กคนนี้กำลังโหนกิ่งไม้เพื่อเขี่ยสิ่งของบางอย่าง แต่เขาไม่รู้เลยว่ากิ่งไม้อันนี้ทั้งเปราะ ทั้งบาง และมันไม่สามารถรับน้ำหนักของเขาได้ทั้งหมด สุดท้ายเขาก็ตกเป็นของข้าอีกราย และเวลาเจอป้ายแบบนี้…
-
Nissan ออกแคมเปญรณรงค์เคาะกระโปรงรถก่อนสตาร์ท เช็คแมวน้อยนอนหลับหาที่อบอุ่น
ในช่วงอากาศหนาวนั้น ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือสัตว์ต่างก็ต้องหลบภัยหนาวหาที่อบอุ่นกัน ไม่ว่าจะหาเตาผิง ซุกใต้ผ้าห่มหนาๆ ใส่เสื้อกันหนาวหลายๆ ชั้น ส่วนของประเทศไทยเราก็หนาวแบบพอประมาณ (เว้นเสียแต่บริเวณบนยอดดอย อันนั้นหนาวมาก) และที่ญี่ปุ่นก็เช่นเดียวกัน หนาวไปถึงกระดูกกันเลยล่ะ และที่ญี่ปุ่นเองมีจำนวนประชากรแมวสูงมาก มากเสียจนเห็นได้ทั่วไปตามท้องถนนและตามพื้นที่สาธารณะ โดยเฉพาะหน้าหนาวแบบนี้ แมวจรที่ไม่มีใครดูแลก็ต้องเตร็ดเตร่ตามหาแหล่งสร้างความอบอุ่นให้กับตัวเอง ซึ่งหนึ่งในที่เหล่าแมวจะชอบเข้าไปซุกหลบนอนข้างในก็มักจะเป็นตามซอกหรือใต้กระโปรงรถยนต์ที่จอดอยู่ เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายในช่วงฤดูหนาวนี้ ทาง Nissan ประเทศญี่ปุ่น ก็ได้ออกแคมเปญรณรงค์เช็คกระโปรงรถก่อนสตาร์ท โดยให้ทำการเคาะกระโปรงรถซัก 2-3 ที พร้อมกับเช็คใต้กระโปรงรถด้วย เพื่อให้น้องแมวได้รู้ตัวและออกไปจากบริเวณนั้น จะได้ไม่เกิดอันตรายต่อน้องแมวและสิ่งที่ไม่คาดคิดจากความไม่ตั้งใจของเราเอง เคาะกระโปรงรถก่อนสตาร์ท #KnockKnockCats #猫バンバン ที่มา : Nissan Newsroom, rocketnews24
-
โฆษณารณรงค์ไม่เล่นมือถือในสถานีรถไฟใต้ดินของญี่ปุ่น ‘ใครเผลอเล่นเรียกให้รู้ตัวทันที’
ในยุคที่ใครๆ ต่างก็สนใจแต่สิ่งที่อยู่ในหน้าจอสี่เหลี่ยมเล็กๆ ของตน โดยที่ไม่สนใจสิ่งแวดล้อมรอบข้างเลยนั้นก่อให้เกิดอันตรายมานักต่อนักแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศญี่ปุ่นที่ถือว่าเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว แต่ก็ยังประสบกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้นอยู่บ่อยๆ อันเกิดมาจากการเล่นสมาร์ทโฟน อย่างเช่นในกรณีการใช้บริการรถสาธารณะที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศญี่ปุ่นเช่น รถไฟและรถไฟใต้ดินนี้ เมื่อเดินทางมาถึงสถานี เข้าสู่ชานชาลาเพื่อรอขบวนต่อไป มักจะหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาเล่นในระหว่างที่กำลังเดินไปด้วย โดยไม่สนใจอะไรเลย มีสมาธิจดจ่ออยู่แค่หน้าจอ ลักษณะเดินก็เหมือนหุ่นยนต์ อาจจะเดินชนคนข้างหน้าหรือไม่ก็เดินตกลงไปในชานชาลาก็เป็นได้ ในการนี้ทางบริษัทรถไฟใต้ดิน Hanshin Electric Railways ก็ได้ทำการจัดทำโฆษณารณรงค์ชุดนี้ขึ้นมา โดยที่ทำการติดตั้งกล้องและไมโครโฟนเอาไว้ในบริเวณชานชาลา เพื่อทำการเตือนสติให้กับผู้โดยสารที่เข้ามาใช้บริการแบบไม่ระวังตัวมัวแต่เล่นสมาร์ทโฟน เมื่อเจ้าหน้าที่เห็นว่ามีผู้โดยสารกระทำพฤติกรรมเสี่ยงอันตรายปุ๊บ ก็จะประกาศเตือนให้รู้ตัวทันทีเลย อย่างเช่น ‘คุณที่ใส่เสื้อสีชมพู การเดินแล้วพิมพ์ข้อความไปด้วยมันอันตรายนะ!’ และ ‘ในขณะนี้มีคุณแม่กำลังเข็นรถเข็นเด็กแล้วก็เล่นสมาร์ทโฟนไปด้วยในบริเวณชานชาลา’ เป็นต้น ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการเตือนสติให้กับบุคคลที่มีพฤติกรรมเสี่ยงอันตรายให้เลิกทำซะ อาจจะเป็นการเตือนที่รุนแรงทำให้ขายหน้า แต่ก็ได้ผลดี ทำให้รู้สึกละอายใจและไม่ทำแบบนี้อีก ที่มา : rocketnews24
-
ลูกอีช่างทิ้งต้องสั่นสะเทือน!! ภาพโฆษณาที่เจ็บจี๊ดไปถึงขั้วหัวใจ ตัดแปะคำบนขยะบอกเป็นนิสัย
ปัญหาของขยะที่ทิ้งไม่ลงถัง ขยะที่ถูกทิ้งข้างทางเรี่ยราด ถึงแม้จะจัดถังขยะไว้ให้แล้ว แต่สุดท้ายก็ทิ้งไว้กลางทางอยู่ดี นอกจากจะทำให้บริเวณนั้นสกปรกแล้ว ยังบ่งบอกได้ถึงลักษณะนิสัยของประชากรในภาพรวมได้เลยนะ สะท้อนให้เห็นถึงความมักง่าย!! Selfish เห็นแก่ตัว และภาพโฆษณาชวนเชื่อเสียดสีชุดนี้ ไม่ได้ต้องการให้เป็นโฆษณาเพื่อการค้าแต่อย่างใด โดยมีจุดประสงค์เพื่อปลูกจิตสำนึกในตัวมนุษย์ผู้มักง่าย ผลิตโดยองค์กร Livegreen จากเมืองโตรอนโต ประเทศแคนาดา Lazy ขี้เกียจ สร้างสรรค์ด้วยวิธีการตัดแปะคำที่มีอยู่บนบรรจุภัณฑ์ต่างๆ หลากหลายชนิดให้เกิดเป็นคำศัพท์ที่จี้ได้ตรงจุด ให้กระทบกับบุคคลที่มักง่าย เห็นแก่ตัว ขี้เกียจ ซึ่งก็มาจากแนวคิดที่ว่า ‘เศษขยะที่ถูกทิ้งบ่งบอกอะไรได้มากมายเกี่ยวกับตัวคุณเอง’ แบบว่าไม่ต้องบ่นให้ยืดยาว ให้ภาพเล่าเรื่องแทน!! Pig คำด่าที่แปลว่าหมู ให้ภาพลักษณ์ของความสกปรก กินเรี่ยราด Low Life ชีวิตอันต่ำตม (สกปรก เลอะเทอะ) Dumb ไอ้งั่ง ก่อนหน้านี้ของฝั่งสหรัฐฯ ก็เคยทำเหมือนกัน ด่าเลย ขอแรงๆ!! โฆษณาชวนเชื่อชุดนี้ อาจจะไม่สามารถแก้ไขนิสัยของผู้มักง่ายได้อย่างทันที ต้องอาศัยระยะเวลาเพื่อให้บุคคลในกลุ่มมักง่ายได้ปรับปรุงตัว อย่างน้อยก็น่าจะเข้าไปสะกิดในจิตใจของพวกเขาบ้างแหละ ที่มา…
-
ญี่ปุ่นทำโฆษณาสุดเจ๋ง รณรงค์การหยุดเล่นสมาร์ทโฟนตอนเดิน โดยใช้ขบวน “ซามูไร”
ตั้งแต่สมาร์ทโฟนถือกำเนิดขึ้นมา สังคมทั้งโลกก็แทบจะเปลี่ยนไปแล้ว เราจะได้เห็นคนเดินก้มหน้าเล่นมือถือกันมากขึ้นโดยไม่สนว่าหนทางข้างหน้าจะมีอะไรขวางอยู่ หรือบางคนก็อาจจะเดินชนคนอื่นไปเรื่อย ถือเป็นปัญหาที่แก้ได้ยากจริงๆ บริษญี่ปุ่นชื่อว่า NTT Docomo ได้ทำโฆษณารณรงค์ตัวหนึ่งออกมาชื่อว่า “Samurai Smartphone Parade” โดยบอกเล่าความอันตรายจากการเดินไปเล่นมือถือไป โดยใช้สถิติที่เกิดขึ้นจริงในประเทศญี่ปุ่น และใช้ตัวขบวนซามูไรในการเล่าเรื่องต่างๆ ที่ประเทศญี่ปุ่นเรียกอาการเดินไปเล่นมือถือไปว่า อะรุกิซึมะโฮ หรือแปลตรงๆว่า สมาร์ทโฟนเดินได้ ในโฆษณาชุดนี้ได้สร้างสถานการณ์ต่างๆที่สามารถเกิดขึ้นได้เมื่อคุณเดินก้นหน้าก้มตากดมือถือไปเรื่อยๆ บอกได้เลยว่าเหตุการณ์เหล่านี้เคยเกิดขึ้นจริงๆ ถ้าไม่อยากเป็นเหมือนซามูไร เก็บมือถือลงกระเป๋า แล้วตั้งใจเดินเถอะ เราไปชมคลิปเจ๋งๆอันนี้กันเลย ที่มา lifebuzz
-
Stop For Step…เหตุผลว่าทำไม คุณถึงควรชะลอรถเมื่อเจอทางม้าลาย
ประเทศไทยเราขึ้นชื่อเรื่องความไร้ระเบียบวินัยจราจร น้อยครั้งนักที่เราจะเห็นรถจอด เมื่อเจอทางม้าลาย หลายคนแม้จะเห็นว่ามีคนยืนรอข้ามถนนอยู่ แต่ก็ไม่เคยคิดจะหยุดให้ ต้องให้ผู้ที่รอข้ามถนน หาจังหวะเอง จนอาจเกิดอันตรายได้ วันนี้เหมียวจึงนำคลิปดีๆมาให้เพื่อนๆได้ชมกันกับโครงการ Stop For Step หยุดซักนิด เพื่อชีวิตของคนข้ามถนน ซึ่งเป็นโครงการรณรงค์ ให้รถหยุดตรงทางข้ามให้คนข้าม และคนเดินเท้าข้ามถนนตรงทางข้าม เพื่อความปลอดภัยของตนเองละผู้อื่น การประมาทเพียงชั่ววูบ นั่นอาจหมายถึงการพรากชีวิตของคนอีกคนไป ว่าแล้วก็ไปชมกันเลยดีกว่าครับ ไปชมคลิปกันเลย เห็นแบบนี้แล้ว เจอทางม้าลายที่ไหน ก็ชะลอแล้วดูให้ดีก่อนนะครับ จะได้ปลอดภัยทั้งกับตัวเอง และผู้อื่น ^^ ที่มา Stop For Step หยุดเพื่อก้าว
-
ชาวโซเชียลต้องดู… วัยรุ่นความคิดดี “ทำวิดีโอ” รณรงค์การงดเล่นโทรศัพท์ขณะขับรถ
จะเห็นได้ว่าในยุคสมัยที่เทคโนโลยีมีผลต่อชีวิตประจำวันแบบนี้ ทุกคนต่างเอาแต่สนใจเทคโนโลยีที่อยู่ในมือ โดยที่ไม่สนใจสิ่งที่อยู่รอบข้างเลย และเราจะเห็นได้บ่อยกับชาวโซเชียลที่ชอบเล่นโทรศัพท์มือถือทุกที่ทุกเวลา แม้กระทั่งตอนขับรถ กลุ่มวัยรุ่นสาวๆพวกนี้เขาจึงได้ทำคลิปวิดีโอที่เป็นการรณรงค์การเล่นโทรศัพท์มือถือ ขณะขับรถ ไม่ว่าจะเป็นการแชท ตอบอีเมล์ หรือการถ่ายคลิปลงโซเชียล ในคลิปจะเป็นเหตุการณ์ที่พวกสาวๆ กำลังขับรถพร้อมกับตั้งกล้องอัดวิดีโอเต้นกันในรถ แล้วอยู่ๆ ก็มีเสียงเธอความดังขึ้นเธอจึงจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู แต่ก็เกิดเหตุการณ์ทำให้รถเธอเกิดอุบัติเหตุ พวกเขามีช่องแชนแนลในยูทูปที่ชื่อว่า SummerBreak พวกเขาบอกว่า อยากให้สนใจท้องถนนมากกว่า การแชท การโพสต์ข้อความ หรือตอบอีเมล มันไม่คุ้มค่ากับชีวิตของเรา ถือว่าเป็นคลิปวิดีโอที่สร้างสรรค์ควรค่าแต่การดูมาก ที่บ้านเราก็มีการรณรงค์เมาไม่ขับ โทรไม่ขับ ไม่เล่นโทรศัพท์ขณะขับรถเหมือนกันนะ ที่มา lifebuzz
-
โฆษณารณรงค์ป้องกันไวรัส MERS ของประเทศเกาหลีใต้ ดูแย่ยิ่งกว่าที่คิดไว้ซะอีก!!
ช่วงนี้ที่ประเทศเกาหลีมต้กำลังประสบกับปัญหาของไวรัส MERS ที่ยังไม่มียารักษาให้หายขาดได้ เพราะฉะนั้นการรณรงค์และป้องกันจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ เพื่อไม่ให้เชื้อโรคแพร่กระจายออกไปสู่วงกว้าง!! และด้วยเหตุนี้จึงได้มีการออกโฆษณารณรงค์ขึ้นมาหนึ่งตัว กล่าวถึงการไม่ป้องกันการไอและจามของผู้ป่วย มันจะไปรบกวนคนอื่นได้ แต่ทว่าดูเหมือนจะผิดคาดจากที่คิดเอาไว้เยอะมาก!! เหมียวเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่ากำลังดูอะไรอยู่กันแน่ ฮ่าฮ่า!! ที่มา : 秒拍天下
-
ช็อตเดียวก็เกินพอ!! สื่ออิตาลีจับมือยูนิเซฟคลอดแคมเปญแห่งปี รณรงค์ยุติความรุนแรงในโรงเรียน!!
แน่นอนว่าไม่มีใครอยากให้ความรุนแรงทุกรูปแบบ เกิดขึ้นกับตนเองหรือคนที่เรารัก ซึ่งวิธีที่จะหยุดยั้งความรุนแรงได้ ก็คงต้องเริ่มจากทัศนคติของตัวเราก่อนที่จะพัฒนาเป็นสังคมวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ และถ้าพูดถึงวิธีการหยุดยั้งความรุนแรงในวงกว้าง เหมียวการออกแคมเปญเจ๋งๆ และใช้สื่อเป็นตัวช่วยในการเผยแพร่ก็ถือเป็นวิธีที่ดีเลยหละ ว่าแล้วมาดูตัวอย่างเจ๋งๆ ของการร่วมมือของยูนิเซฟและสื่อมวลชนอิตาลีกันเลยดีกว่า!! นี่คือ ‘One shot is enough’ หรือ ภาพเดียวก็เกินพอ ที่เราจะเรียกว่าเป็นแคมเปญแห่งปีที่ควรส่งต่อก็ว่าได้ เพราะพวกเค้าทำเพื่อยุติความรุนแรงต่างๆ ที่เกิดขึ้นตามโรงเรียนกับเยาวชนให้ได้ผล เริ่มจากที่องค์การยูนิเซฟอิตาลีหาข้อมูล สอบประวัติ และผลพิสูจน์ต่างๆ จากตำรวจ เจ้าหน้าที่สังคมสงเคราะห์ แล้วพบว่าความรุนแรงที่เกิดขึ้นนี้จะส่งผลกระทบอย่างมหาศาล เมื่อเด็กผู้ถูกกลั่นแกล้งโดนนำคลิปวิดีโอ หรือภาพไปเผยแพร่ประจานให้ยิ่งอับอายและหาทางออกไม่ได้ จนเด็กบางคนไม่ยอมกลับไปเรียนหนังสือที่โรงเรียน ย้ายที่เรียน ถึงขั้นว่าให้พ่อแม่สอนหนังสือที่บ้านไปเลยก็มี โดยส่วนที่หนักและน่าเห็นใจที่สุดก็คือ ถ้าปมในใจของเด็กๆ ผู้เคราะห์ร้ายเหล่านี้มันยากเกินจะเยียวยาแก้ไข ก็จะทำให้พวกเขาต้องกลายเป็นโรคซึมเศร้าและทำร้ายตัวเองอีกด้วย… T_T ที่มา UNICEF, postjung
-
รัสเซียออกแคมเปญรณรงค์ “เซลฟี่ปลอดภัย” ที่แปลกและแหวกแนวยิ่งกว่าใคร!?
ยุคปัจจุบันนี้กล้องมีอยู่ทุกหนทุกแห่ง มีติดสมาร์ทโฟนทุกเครื่อง แถมยังสะดวกต่อการเก็บภาพถ่ายของตัวเองที่เรียกว่าเซลฟี่ซะเหลือเกิน ทำให้มนุษย์ทั้งหลายนั้นเสพติดการเซลฟี่จนลืมถึงอันตรายที่จะตามมา ทางการรัสเซียก็เล็งเห็นถึงปัญหานี้เลยทำการออกแคมเปญรณรงค์เซลฟี่อย่างไรให้ปลอดภัย ทำโปสเตอร์ห้ามเซลฟี่ในสถานที่และช่วงเวลาที่อาจจะเกิดอันตรายได้ อย่างเช่นห้ามเซลฟี่บนรางรถไฟเป็นต้น หรือแม้แต่การไปเซลฟี่บนรถไฟก็ตาม มีความอันตรายสูงมาก รวมไปถึงการเซลฟี่กลางถนน หรือแม้แต่การเซลฟี่บนเรือและบนบันได ซึ่งก็สมเหตุสมผลที่ควรจะรณรงค์ดีนะเนี่ย จะได้ท่องเที่ยวได้อย่างปลอดภัย ไร้กังวล (ถ้าทำตามนะ) แต่การรณรงค์นี้ไม่ธรรมดา เพราะมันมีมากยิ่งกว่าการเซลฟี่ทั่วไปเสียอีก อย่างเช่นห้ามเซลฟี่พร้อมกับอาวุธ (อันนี้น่าจะปกติที่รัสเซีย) ห้ามเซลฟี่บนเสารับสัญญาณโทรทัศน์ ที่หนักยิ่งกว่าก็คือห้ามไปเซลฟี่บนเสาไฟฟ้าแรงสูง และห้ามเซลฟี่ในช่วงเวลาหิมะถล่ม โอ้วววว นี่ถึงกับต้องห้ามกันขนาดนี้เลยเหรอ คือมันมีคนคิดจะทำแบบนี้จริงๆ เร๊อะ? จากข้อห้ามทั้งหมดทั้งปวงสรุปได้ก็คือ “อย่าเซลฟี่ จะเป็นการดีที่สุด ที่จะทำให้ชีวิตปลอดภัย” แหม่!! เป็นการออกแคมเปญที่ทำให้เรื่องเซลฟี่กลายเป็นเรื่องที่ร้ายแรงสุดๆ (แต่บางกรณีก็จริงเหมือนกันนะ) ที่มา : thechive
-
ศิลปินสร้างผลงานน่ารักๆ เพื่อให้คนตระหนักถึงการลุกให้ “คนท้อง” นั่ง
ทุกครั้งหลังจากการทำงาน ทุกคนคงอยากจะหาที่นั่งสบายๆไว้นั่งขณะกลับบ้าน ไม่ว่าจะเป็นบนรถบัสหรือรถไฟฟ้า แต่ยังมีอีกคนหนึ่งที่เหนื่อยไม่แพ้คุณเช่นเดียวกัน เธอต้องอุ้มอีก 1 ชีวิตไปไหนมาไหนด้วย คนๆนั้นก็คือสตรีมีครรภ์ ผลงานชิ้นนี้เป็นของ Shiyang He ศิลปินจากเซียงไฮ้ เขาได้สร้างโปสเตอร์หนึ่งขึ้นมาสำหรับนมยี่ห้อ Yili เพื่อให้คนตระหนักถึงการลุกให้คนท้องนั่ง ซึ่งบนโปสเตอร์ก็จะมีข้อความว่า “ให้ที่นั่งกับคนอื่น ที่กำลังอุ้มอะไรที่สำคัญกว่า” เราไปดูผลงานของเขากันเลย ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Behance ที่มา designtaxi, demilked