Tag: รถบัส
-
ลุงชาวจีนบังคับให้เด็กน้อย ‘สละ’ ที่นั่งบนรถบัสให้กับตน ถึงเด็กร้องไห้ ลุงก็ไม่สน!!!
บนยานพาหนะขนส่งสาธารณะย่อมมี ที่นั่งพิเศษ เอาไว้สำหรับบุคคลพิเศษ เช่น คนชรา หญิงตั้งครรภ์ แลคนพิการ เป็นต้น เพื่ออำนวยความสะดวกสบายให้กับผู้ที่มีความลำบาก ในประเทศจีนเองก็ไม่ต่างกัน บนรถบัสโดยสารของประเทศจีนเองก็มีที่นั่งพิเศษสำหรับผู้ที่มีปัญหาทางกายเช่นกัน และนั่นก็ได้นำมาซึ่งเรื่องราวในวันนี้ คลิปวิดีโอหนึ่งเผยภาพ ชายสูงวัยคนหนึ่งบนรถบัสในประเทศจีนกำลังพยายามแย่งที่นั่งจากเด็กน้อย ทั้งๆ ที่ตนเองไม่ได้ชราภาพขนาดนั้น และเบาะนั่งของเด็กชายก็ไม่ใช่ที่นั่งพิเศษสำหรับคนชราอีกด้วย ชายสูงวัยพยายามนำตัวเข้าไปเบียดเด็กชายที่นั่งอยู่ก่อน พร้อมเสียงโหวกเหวกโวยวายของผู้โดยสารหญิงบนรถ แม้กระทั่งเด็กชายคนดังกล่าวร้องไห้ออกมา ชายสูงวัยก็ยังไม่หยุด สุดท้ายชายสูงวัยพยายามแทรกตัวลงไปนั่งขณะที่เด็กชายก็ยังคงนั่งอยู่บนเบาะนั่งดังกล่าว พร้อมกับใช้มือจับตัวเด็กชายให้ลุกขึ้นเพื่อสละที่นั่งให้ตนเองอีกด้วย ลุงพยายามแทรกตัวลงไปนั่งแทนที่เด็กชาย จนเด็กชายที่นั่งอยู่ก่อนถึงกับร้องไห้ออกมา คุณลุงมีการใช้มือจับตัวของเด็กชายให้ลุกขึ้น เพื่อที่ตนจะได้นั่ง เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ชาวเน็ตต่างวิจารณ์เป็นเสียงเดียวกันเลยว่า “คุณลุงทำกับเด็กเกินไปจริงๆ ทั้งๆ ที่ดูแล้วไม่น่าจะมีความจำเป็นในการนั่งขนาดนั้น” เราลองมาชมคลิปวิดีโอพร้อมๆ กันเลยดีกว่า… หากคุณลุงไม่ได้มีความจำเป็นที่จะต้องนั่งเก้าอี้จริงๆ ก็ถือว่าเป็นการรังแกเด็กได้เลยนะเนี่ย ที่มา: ck101 และ 潘關希
-
สาวเทพใช้เวลา 3 ปี เปลี่ยน “รถบัส” ให้กลายเป็น “บ้าน” ทั้งที่ไม่มีทักษะการสร้างบ้านเลย!!
ใครๆ ก็ต้องอยากมีบ้านใหญ่โตสวยงามพร้อมทำเลสุดสะดวกสบาย แต่สำหรับสาว Jessie Lipskin เธอฝันลึกล้ำกว่านั้น เธอตกหลุมรักรถบัสเก่าๆ คันหนึ่งที่ขายในเว็บไซต์เข้า เธอจึงตัดสินใจซื้อมันมาเพื่อเปลี่ยนให้มันกลายเป็น “บ้าน” ในฝันของเธอ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและที่สำคัญ เป็นบ้านที่ “เคลื่อนที่ได้” อีกต่างหาก ประเด็นสำคัญอยู่ตรงที่ว่า Jessie ไม่มีประสบการณ์เรื่องการสร้างบ้านเลย การวางท่อน้ำ สายไฟ หรือทักษะช่างไม้ เป็นสิ่งที่เธอไม่มีเลยแม้แต่น้อย เธอจึงต้องค้นตำราหาวิธีการสร้างสิ่งต่างๆ เองทั้งหมด! เรียกได้ว่าต้องให้คะแนนความทุ่มเทเต็ม 100 คะแนนจริงๆ ว่าแต่ ผลงานของเธอจะออกมาเป็นอย่างไร เราคงต้องไปดูพร้อมๆ กันแล้วล่ะนะ… จากรถบัส GMC ปี 1966 เก่าๆ แก่ๆ ซึ่งเดิมทีภายในรถบัสมีสภาพประมาณนี้ ในส่วนของงานไม้นั้นเป็นสิ่งที่ Jessie ไม่ถนัดเลย แต่เธอก็ต้องทำมันออกมาให้ได้ เธอต้องทำมันออกมาให้ได้… เธอบอกว่า รูปทรงโค้งๆ มนๆ ของประตูหน้าต่างทำให้ออกแบบวงกบไม้ได้ยากยิ่ง หลังจากเธอตกแต่งภายในเสร็จก็ถึงเวลาแปลงโฉมภายนอก ผ่ามม! กว่าจะเสร็จสมบูรณ์ก็ปาเข้าไป 3…
-
คนขับรถเมล์สาย 12 ยอมรับหัวร้อนกระทืบผู้หญิง ตอนนั้นไม่ทราบว่า “เป็นผู้หญิง”
จากเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทระหว่างหญิงสาวคนหนึ่งกับคนขับรถเมล์สาย 12 ที่ขับจี้ท้ายรถจักรยานยนต์ของอีกฝ่าย ทั้งคู่เกิดปากเสียงจนสุดท้ายต้องลงเอยด้วยการที่ คนขับและกระเป๋ารถเมล์รุมทำร้ายหญิงสาวคู่กรณี ทางรายการ ทุบโต๊ะข่าว ก็ได้ติดตามเรื่องราวนี้จนล่าสุด เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2561 ได้เข้าสัมภาษณ์ นายอำพล อภัยรัตน์ นายท่ารถมินิบัส สาย 12 ทำให้ทราบว่า คนขับและกระเป๋าเป็นพี่น้องกัน นายท่ายังบอกอีกว่าทั้งสองคนนี้เป็นคนอารมณ์ร้อนอยู่แล้ว แต่ตนนั้นไม่สามารถเข้าไปตักเตือนอะไรได้เนื่องจากเป็นแค่นายท่า ผู้ที่มีอำนาจตักเตือนได้จะมีแค่เจ้าของโครงการเท่านั้น ขณะนี้ทั้งคนขับและกระเป๋ารถเมล์ผู้ก่อเหตุก็ได้หลบหนีออกต่างจังหวัดเรียบร้อยแล้ว หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ไม่มีใครสามารถติดต่อพวกเขาได้เลย กลับกัน นางวัลลีย์ บุญมัธยะ เจ้าของอู่รถมินิบัสสาย 12 บอกว่าผู้ก่อเหตุทั้งสองคนเป็นคนเรียบง่าย เมื่อเห็นว่าไปทำร้ายผู้หญิงแบบนั้นก็ตกใจอย่างมาก คิดว่าน่าจะเป็นเพราะอารมณ์ชั่ววูบ แต่หลังจากเกิดเหตุนี้ขึ้นทั้งสองคนก็มาขอว่าจะกลับไปทำธุระที่บ้าน ตนก็เลยยอมให้กลับเนื่องจากในขณะนั้นไม่ทราบว่าทั้งสองไปก่อคดีอะไรเอาไว้ นางวัลลีย์กล่าวว่าหากทราบคงไม่ปล่อยกลับเป็นแน่ นายโชคชัย อ่ำสะอาด พนักงานขับรถสาย 12 อีกคนผู้เป็นเพื่อนร่วมงานของผู้ก่อเหตุ ก็กล่าวเช่นเดียวกับนายท่าว่า ทั้งสองคนเป็นคนอารมณ์ร้อนแม้กระทั่งในเวลาทำงาน บางช่วงที่รถติดมากๆ เข้าหรือขับรถรับผู้โดยสารได้น้อย ได้เงินน้อย ก็มักจะพาลอยู่เสมอ พอเกิดเหตุการณ์ทำร้ายผู้หญิงนี้แล้ว ยิ่งทำให้ภาพลักษณ์ของคนขับมินิบัสดูแย่ลงอีก เนื่องจากถูกเจ้าหน้าที่จับตามองอย่างมาก …
-
เพื่อนแกล้งจนเกือบตาย… โดนผลักล้มลงถนน หัวห่างจากล้อรถบัสไปแค่ไม่กี่เซน!!
การล้อเล่นกับเพื่อนหรือแกล้งกันขำๆ เป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่ผลที่ตามมาในบางครั้งอาจจะเป็นอะไรที่น่ากลัวกว่าที่คิด เหมือนอย่างเหตุการณ์นี้ นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในวันที่ 12 เมษายน 2018 เมื่อกล้องวงจรปิดของเมือง Czechowice-Dziedzice ประเทศโปแลนด์ เผยให้เห็นภาพของวัยรุ่นสาว 2 คนกำลังเดินกันอยู่บนทางเท้า โดยที่มีรถบัสขับมาอยู่ใกล้ๆ มันคงจะไม่มีเรื่องคอขาดบาดตายอะไรถ้าพวกเธอเดินไปตามปกติ แต่จู่ๆ หญิงสาวคนขวามือก็กลับเกิดความคิดที่จะแกล้งเพื่อนเล่นขำๆ เธอจึงผลักเพื่อนของเธอไปทางถนนที่มีรถบัสขับมาข้างๆ การแกล้งเล่นทั่วๆ ไปเกือบจะกลายเป็นเหตุโศกนาฏกรรม เพราะหญิงสาวที่ถูกผลักกระเด็นล้มลงไปตรงพื้นถนน ทำให้ศีรษะของเธอห่างจากล้อรถบัสเพียงแค่ไม่กี่เซนติเมตร คือถ้าโดนทับก็คงไม่ต้องถามว่าจะเป็นอย่างไร เพื่อนแกล้งกันขำๆ แต่เกือบขำไม่ออกแล้ว เพื่อนสาวที่เกือบจะกลายเป็นฆาตกรก็ถึงกับแสดงอาการตกใจเป็นอย่างมาก เพราะดูแล้วเธอคงไม่ตั้งใจที่จะทำให้เพื่อนของเธอต้องเฉียดตายขนาดนี้ เธอจึงรีบประคองเพื่อนขึ้นมาและกอดปลอบขวัญกันและกัน รถบัสที่ขับผ่านไปถึงกับจอดด้วยความตกใจ ส่วนคนที่ขับรถยนต์ผ่านมาและเห็นเหตุการณ์ก็รีบลงมาดูอาการของหญิงสาวว่าเธอเจ็บตรงไหนบ้างหรือเปล่า ก่อนจะเรียกรถพยาบาลมาเป็นการด่วน คนขับรถผ่านมาจอดดูอาการของหญิงสาวที่ล้มลงไป สุดท้ายวัยรุ่นสาวเฉียดตายก็ได้รับการรักษาแผลเล็กๆ น้อยๆ ที่เกิดจากการล้มลงกับพื้นเท่านั้น ไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัสใดๆ ส่วนเพื่อนที่แกล้งเธอก็ถูกเจ้าหน้าที่ปรับเงินเป็นจำนวนราวๆ 2,640 บาท อย่างไรก็ตาม ผู้บัญชาการตำรวจเมืองดังกล่าว Dziennik Zachodni ก็รู้สึกว่าโทษปรับเงินนั้นไม่เพียงพอกับสิ่งที่เกิดขึ้น เขาตั้งใจที่จะแจ้งข้อหาว่านี่คือการทำให้ผู้อื่นได้รับอันตรายถึงชีวิต และถ้าเป็นอย่างนั้น เพื่อนที่เป็นคนผลักจะต้องได้รับโทษติดคุกนานเป็นปีเลยทีเดียว …
-
ลองนั่ง RTC Smart Bus รถเมล์เชียงใหม่ 20 บาทตลอดสาย ทางเลือกดีๆ ของนักท่องเที่ยว
***รีวิวนี้เขียนขึ้นวันที่ 12 เมษายน 2018 หากพูดถึงตัวเลือกในการเดินทางภายในตัวเมืองเชียงใหม่ ชื่อของรถแดงและแท็กซี่สนามบินคงจะผุดขึ้นมาเป็นอันดับต้นๆ ซึ่งก็เป็นตัวเลือกที่อยู่คู่กับเมืองเชียงใหม่มาอย่างยาวนาน แต่เมื่อย้อนกลับไปไม่กี่ปี เชียงใหม่ พยายามที่ผลักดันระบบการขนส่งสาธารณะอย่าง ‘รถเมล์’ เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับประชาชน แต่ก็ไม่ค่อยได้รับการตอบรับดีเท่าที่ควร และเมื่อไม่นานมานี้ บางท่านอาจจะได้เห็นการพูดถึงในสังคมออนไลน์ เกี่ยวกับการให้บริการรถเมล์ในตัวเมืองเชียงใหม่มาอีกระลอก ซึ่งในคราวนี้แตกต่างจากรถเมล์ตัวก่อนหน้านั้น เพราะเป็นการให้บริการโดยบริษัทเอกชนเพียงอย่างเดียว . เรากำลังพูดถึง RTC Chiangmai Smart Bus หรือในอีกชื่อว่า CM Transit by RTC ดำเนินการโดยบริษัท เจียนนอล ทรานซิต คอปอเรชั่น เปิดให้บริการเดินรถสมาร์ทบัส แบ่งออกเป็น 2 สาย นั่นก็คือสายสีแดง (วนขวา) และสายสีเหลือง (วนซ้าย) โดยในช่วงวันที่ 5 – 11 เมษายนที่ผ่านมา ทาง RTC ได้ทำการทดลองเดินรถเพื่อทำการทดสอบระบบทั้งหมด 11 คัน วนซ้าย 6…
-
เหตุการณ์สลด รถโรงเรียนประสบอุบัติเหตุตกเหว จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 30 คน
กลายเป็นข่าวที่สร้างความเศร้าสลดไปทั่วอินเดีย หลังสื่อท้องถิ่นรายงานถึงอุบัติเหตุรถโรงเรียนตกเหวในหุบเขา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ซึ่งเกือบทั้งหมดเป็นนักเรียนอายุไม่เกิน 10 ขวบ เหตุการณ์ดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นเมื่อวันจันทร์ที่ 9 เมษายน 2018 ที่ผ่านมา ซึ่งสถานที่เกิดเหตุนั้นอยู่ห่างจากนคร Shimla 325 กิโลเมตร ซึ่งรถโรงเรียนคันดังกล่าวนั้นเดินทางมาจากโรงเรียน Wazir Ram Singh Pathania Memorial school ในเขต Kangra รัฐหิมาจัลประเทศ พร้อมกับผู้โดยสาร 40 คน Santosh Patyalg เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่นรายงานว่า “รถคันดังกล่าวได้ตกลงไปหุบเหวลึกกว่า 61 เมตร ซึ่งส่งผลให้เด็กนักเรียน 27 คน อาจารย์ 2 คนและคนขับเสียชีวิตทันที” นอกจากนี้ผู้เห็นเหตุการณ์ยังได้เล่ากับสื่อท้องถิ่นด้วยเช่นกันว่า พวกเขาเห็นรถลื่นไถลไปจนกับมุมถนน จากนั้นก็ตกลงไปดังภาพที่เห็น ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ได้เร่งกันกู้ซากและพยายามช่วยเหลือผู้โดยสารที่รอดชีวิตให้เร็วที่สุด . ด้าน Narendra Modi นายกรัฐมนตรีอินเดียที่ได้รับข่าวดังกล่าวก็รีบออกมาแสดงความเสียใจต่อญาติผู้เสียชีวิตทันที โดยเขาได้ทวีตข้อความว่า “ผมขออธิษฐานและขอแสดงความเสียใจแก่ผู้เสียชีวิตรวมถึงญาติจากเหตุการณ์ดังกล่าวด้วย”…
-
รถทัวร์ญี่ปุ่นออกแบบมาให้เบาะเอนมาเลย เพื่องดการหงุดหงิดจากคนข้างหน้าปรับเบาะลง
หนึ่งในปัญหาที่ผู้ใช้รถโดยสารหลายๆ คนอาจจะเคยเจออยู่บ่อยๆ เลยนั่นก็คือ การถูกแย่งพื้นที่จากเบาะของผู้โดยสารคนที่อยู่ด้านหน้าเรานั่นเอง นอกจากสร้างความอึดอัดให้กับหัวเข่าเราแล้ว มันยังทำให้เรารู้สึกว่าค่าตั๋วของเรากับคนข้างหน้านี่มันช่างมีมูลค่าไม่เท่ากันเล๊ย!! แต่ถ้าหากว่าคุณใช้บริการของรถบัส Orion Bus ของประเทศญี่ปุ่นล่ะก็ ปัญหาที่ว่านี้จะไม่มากวนใจคุณอีกต่อไป เพราะพวกเขามีวิธีการแก้ปัญหานี้โดยใช้หลักการทางด้านจิตวิทยาเข้ามาช่วย!! ซึ่งวิธีการแก้ปัญหาของผู้ให้บริการรถบัสรายนี้ก็คือ การปรับเอนเบาะของผู้โดยสารให้เอนมาตั้งแต่แรก โดยวิธีนี้ถูกนำไปใช้กับรถบัสเที่ยวกลางคืนของบริษัท Orion Bus ซึ่งเมื่อคุณก้าวเท้าขึ้นมาบนรถบัสของพวกเขาแล้วล่ะก็ สิ่งที่คุณจะพบก็คือ เบาะที่นั่งที่ปรับเอนมาอย่างเต็มที่แล้วนั่นเอง ทีนี้คุณก็ไม่ต้องกังวลอีกต่อไปว่าผู้โดยสารที่อยู่หน้าคุณจะปรับเบาะเอนลงมาจนชนกับหัวเข่าของคุณหรือเปล่า และนอกจากนี้ช่องว่างระหว่างเบาะนั้นก็ยังมีกว้างมากพอที่คุณจะวางสัมภาระต่างๆ ได้อีกด้วย เบาะแบบนี้จะทำให้ผู้โดยสาร รู้สึกว่าพวกเขาไม่ได้ถูกคนด้านหน้าเอนเบาะรุกล้ำเข้ามาในที่นั่งส่วนตัว เนื่องจากเบาะที่ปรับเอนมาตั้งแต่แรกนี้จะถูกปรับขึ้นไปให้พอดีกับผู้โดยสารคนด้านหน้า เหมือนกับว่าพวกเขากำลังปรับเบาะเพื่อขยายพื้นที่ให้กับเรานั่นเอง การแก้ไขรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ นี้สามารถช่วยให้ผู้โดยสารรู้สึกดีขึ้นมาได้มากเลยทีเดียว และมันยังช่วยทำให้คุณไม่รู้สึกว่าที่นั่งของคุณแคบเกินไปอีกด้วย ที่มา rocketnews24
-
ว๊อททท!? ชาวเกาหลีวงแตกกระเจิง หลังเสื้อโค้ทเด็กนักเรียน เกิดระเบิดกลางรถบัสซะงั้น
เมื่อถึงฤดูหนาวในทุกๆ ปี ก็เป็นเรื่องธรรมที่เราจะคว้าเสื้อกันหนาวมานุ่งห่มให้ร่างกายได้มีความอบอุ่นกัน ทว่ามีอยู่เหตุการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้นในประเทศเกาหลี ที่อาจจะให้เราไม่สามารถไว้วางใจในความปลอดภัยของเสื้อกันหนาวได้อีกต่อไป เพราะใครจะไปคิดล่ะว่า จู่ๆ วันดีคืนกีมันก็เกิดระเบิดขึ้นซะอย่างงั้น!! เหตุการณ์แปลกประหลาดนี้เกิดขึ้นในกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อมีพยานคนหนึ่งอ้างว่าได้เห็นจังหวะการระเบิดของเสื้อโค้ทเกิดขึ้น เธอได้เล่าว่าให้ฟังว่าได้นั่งอยู่แถวหลังสุดของรถบัสคนดังกล่าว จึงได้เห็นทุกความเป็นไปที่เกิดขึ้นบนรถคันนั้น รถบัสในกรุงโซล โดยในเริ่มแรกนั้น รถบัสคันนี้ก็ได้วิ่งไปเรื่อยๆ ตามเส้นทางที่ได้กำหนดไว้ และได้จอดรับเด็กนักเรียนคนหนึ่งที่สวมเสื้อโค้ทแสนสวย ระหว่างทางของการสัญจรเหตุการณ์ก็เป็นไปตามปกติและไม่มีวี่แววว่าจะเกิดเรื่องใดๆ ขึ้นแม้แต่น้อย ทว่าจู่ๆ ก็เกิดเสียงระเบิดขึ้นภายในรถบัสคันดังกล่าว และเสียงที่ว่านี้ก็มีที่มาจากเสื้อโค้ทของเด็กนักเรียนคนที่พึ่งขึ้นรถมานั้นเอง เพราะว่ามันได้เกิดระเบิดขึ้นมาอย่างหน้าตาเฉย นั่นทำให้ปุยนุ่นรวมถึงขนสัตว์ที่อยู่ภายในเสื้อตัวนั้น ปลิวละล่องฟุ้งกระจายเต็มรถไปหมด จากความแรงของการระเบิดดังกล่าว ปุยเมฆลอยคลอเคล้า ซึ่งเสียงดังลั่นจากการระเบิดของเสื้อโค้ทตัวดังกล่าว ก็ได้สร้างความหวาดกลัวให้แก่ผู้โดยสารคนอื่นๆ จนต้องไปรวมกันอยู่บริเวณหน้ารถ ที่อยู่ไกลที่สุดจากเด็กนักเรียนคนดังกล่าว เพราะไม่รู้ว่าจะมีการระเบิดขึ้นอีกเป็นซ้ำสองหรือไม่ โดยการระเบิดของเสื้อโค้ทตัวนี้ เกิดขึ้นอย่างไม่ทราบสาเหตุว่าทำไมจู่ๆ มันถึงเกิดระเบิดขึ้นมา และเสียงที่ดังลั่นนั้นมันเกิดมาจากสิ่งใดกันแน่ แต่ว่ามันก็ได้สร้างความหวั่นสะพรึงให้แก่ผู้โดยสารคนอื่นรวมถึงตัวของเด็กนักเรียนเจ้าของเสื้อตัวดังกล่าวเป็นอย่างมาก กระจุยกระจายเต็มไปหมด และด้วยความเขินอายจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก็ทำให้นักเรียนคนดังกล่าวก็ได้ลงจากรถทันทีที่รถจอดที่จุดจอดรถบัส จากนั้นก็ได้วิ่งหนีหายเข้ากลีบเมฆไปอย่างไร้ร่องรอย ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นนั้น คนขับรถบัสคันดังกล่าวก็บอกเอาไว้ว่า มันเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อนตลอดทั้งชีวิตของการเป็นคนขับรถมาเลยก็ว่าได้ ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังหาสาเหตุของการระเบิดนี้ ว่าเกิดจากอะไรกันแน่!? ที่มา: koreaboo
-
คลิปอุบัติเหตุรถบัสหลุดโค้งตกลงไปในลำธารเย็นจัด โชคดีที่มีรถเครนจอดอยู่ข้างๆ เลยช่วยได้ทัน
นานมาแล้วยังเคยมีคำพูดมา “ไม่ว่าใครก็เป็นวีรบุรุษได้” ไม่แน่ว่าคำพูดนี้อาจจะเป็นคำอธิบายที่ดีที่สุดของเหตุการณ์ที่เพื่อนๆ กำลังจะได้ชมก็เป็นได้ เรื่องราวมันเกิดขึ้นในตอนที่รถประจำทางในเมืองฉางโจว มณฑลเจียงสู ชนเข้ากับรถอีกคันและพุ่งลงลำธารเย็นจัดไปเมื่อช่วงปีใหม่ของปี 2018 รถบัสเสียหลักและพุ่งลงแม่น้ำหลังจากชนเขากับรถอีกคันหนึ่ง คนขับรถเครนที่อยู่บริเวณนั้นเห็นเหตุการณ์การเข้าจึงได้ถึงข้ามถนนไปดูสถานการณ์ เราอาจจะไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร แต่คนๆ นี้ล่ะคือฮีโร่ของเหตุการณ์ครั้งนี้ หลังจากที่เห็นรถบัสพร้อมผู้โดยสารพุ่งลงแม่น้ำไปเขาก็รีบวิ่งกลับมาเพื่อขึ้นรถเครนของเขา คนขับรถเครนที่ตัดสินใจว่าการกลับขึ้นมาที่รถจะสามารถช่วยผู้โดยสารได้เร็วกว่าการดึงขึ้นมาทีล่ะคนด้วยมือหรือเชือก ด้วยการตัดสินใจที่รวดเร็วเขาขับรถเครนข้ามไปยังฝั่งที่เกิดเหตุ ก่อนที่จะหย่อนส่วนตะขอของตัวเครนลงไปในแม่น้ำ และดึงผู้โดยสารทั้ง 4 คนออกมาจากแม่น้ำได้สำเร็จ รถคันใหญ่ก็ต้องใช้ความระมัดระวังในการข้ามฟากกว่าปกติตามไปด้วย ส่วนการกะความยาวของเครนก็ต้องใช้เวลาอยู่บ้างเช่นกัน . ถ้าไปดูกันในวีดีโอต้นฉบับโดยช่อง Shanghaiist เราจะเห็นกันเลยว่าคนขับรถเครนใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีเลยจริงๆ ที่มา Medium
-
หญิงสาวเจอหนุ่มอุ้มกล่องท่าทางน่าสงสัยขึ้นรถบัส พร้อมเรื่องราวสุดน่าประทับใจที่เธอแอบได้ยินมา
การขึ้นรถประจำทางเพื่อเดินทางไปยังจุดหมาย เป็นกิจวัตรประจำวันของใครหลายๆ คนที่อยู่ในเมืองใหญ่ บางครั้งก็เป็นกิจกรรมอันน่าเบื่อหน่ายเสียเหลือเกิน ที่จะต้องนั่งอยู่ในรถที่แออัด และหวังว่าเราจะไปถึงจุดหมายโดนไว แต่ระหว่างการนั่งรถที่แสนน่าเบื่อนี้ ก็มีคนขึ้นลงและพูดคุยกันตลอดเวลา ซึ่งอาจจะทำให้คุณได้พบเจอกับเรื่องราวน่ารักๆ อบอุ่นหัวใจบ้างก็เป็นได้ เหมือนกับที่ Camila Muracchini เจอนี่ไงล่ะ Muracchini เป็นหญิงสาวที่อาศัยอยู่ในรัฐเซาเปาโล ประเทศบราซิล เธอมักจะใช้บริการรถประจำทางเพื่อเดินทางไปทำงานอยู่เสมอ ในวันที่ 17 เมษายน 2017 เธอก็ได้ใช้บริการรถประจำทางเพื่อไปทำงานเช่นกัน แต่ในวันนี้ เธอเห็นชายสวมเสื้อสีเหลืองคนหนึ่งอุ้มกล่องท่าทางน่าสงสัยขึ้นรถมาด้วย พอเธอเห็นดังนั้นก็รู้สึกกังวลไม่น้อยเลย เพราะการที่เขาทำท่าทางมีพิรุธแบบนั้นแบกกล่องขึ้นรถมา อาจจะแปลว่าเขาพยายามลักลอบนำของที่เป็นอันตรายขึ้นรถมาด้วยก็ได้ แต่พอเขาขึ้นรถมาไม่นาน เธอก็เข้าใจทันทีว่าในกล่องมีอะไร โดยเธอเล่าว่า “ฉันรู้สึกกังวลมากเลย … จนกระทั่งฉันได้ยินเสียงเห่าดังออกมาจากในกล่อง” ใช่แล้วล่ะ ในกล่องใบนั้นมีสุนัขอยู่นั่นเอง มิน่าล่ะเขาถึงได้ทำท่าทีลับๆ ล่อๆ เอามันขึ้นรถมา แต่ในขณะที่เธอรู้สึกโล่งใจที่ในกล่องนั้นเป็นสุนัข ชายหนุ่มกลับรู้สึกระแวงอย่างช่วยไม่ได้ เนื่องจากเขากลัวว่าคนอื่นจะได้ยินเสียงเห่า แล้วไล่ให้เขาลงจากรถ เพราะตามกฎแล้ว ไม่อนุญาตให้ผู้โดยสารนำสัตว์ขึ้นมาบนรถประจำทางด้วยนั่นเอง พนักงานเก็บตั๋วรถก็ได้ยินเสียงเห่าดังออกมาเช่นเดียวกับ Muracchini เขาจึงเดินเข้ามาถามชายคนนั้นว่า “ในนั้นมีหมาอยู่ใช่ไหม” เมื่อถูกจับได้ ชายคนนั้นจึงตอบกลับไปว่า “ใช่ครับ ผมเจอลูกหมาตัวนี้ถูกทิ้งอยู๋ เลยอยากพามันกลับไปอยู่ที่บ้านด้วย”…
-
คู่รักชาวอังกฤษสุดจะทน มันอดใจไม่ไหวเลยโจ๊ะกันบนรถบัสซะเลย เอ่อ ใจเย็นเด้อพี่น้อง!!
การแสดงออกถึงความรัก แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องปกติที่คู่รักสามารถทำได้โดยไม่มีใครว่า แต่ทว่าการแสดงความรักนั้นก็ต้องอยู่ในขอบเขต ถ้าเป็นเพียงแค่ กอด จับมือ หอมแก้มกันแบบนี้ก็ยังถือว่าธรรมดานะ แต่ถ้ามากกว่านี้ก็เกรงว่ามันจะโจ่งแจ้งเกินไปนะ เรื่องแบบนี้เก็บไว้แสดงกันสองคนดีกว่าเนาะ อย่างเช่นการแสดงความรักของคู่รักคู่หนึ่งที่ได้มีการเผยแพร่ลงบนโลกออนไลน์ ซึ่งมันเป็นภาพที่ไม่น่าดูสักเท่าไหร่เลยนะ กับการมีเซ็กส์อย่างดุเด็ดเผ็ดมันบนรถบัสสาย 149 นี่ไม่ใช่การถ่ายทำเอวีหนังโป๊กันแต่อย่างใด แต่นี่มันเป็นเหตุการณ์จริงไม่ใช้สลิง ไม่ใช้ตัวแสดงแทน ที่ #เหมียวบู้บี้เห็นแล้วหัวใจจะวาย มันจะอะไรขนาดนั้นล่ะคุณพี่ขา เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นบนรถบัสสองชั้นสาย 149 เมือง Haringey ประเทศอังกฤษ เวลาประมาณเที่ยงคืน ได้มีผู้ถ่ายคลิปวิดีโอของชายหญิงสองคนที่กำลังโจ๊ะกันบนเบาะนั่งรถบัส โดยไม่สนใจสายตาของผู้โดยสารคนอื่นๆ เลย ไม่ทราบว่าเมากันหรืออย่างไรนะ เพราะสองคนนี้โจ๊ะกันอย่างไม่อายฟ้าอายดินเลย แถมยังส่งเสียงร้องไปทั่วรถ คาดว่าจะอดทนรอให้ถึงบ้านไม่ไหวเลยจัดกันซะให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย เหตุการณ์เกิดขึ้นประมาณไม่กี่นาที คนขับรถบัสก็ทนไม่ได้จนต้องไล่ให้ทั้งสองลงรถไปซะให้พ้นๆ เนื่องจากว่าผู้โดยสารในรถไม่มีใครกล้าเข้าไปยุ่งกับกิจกรรมเข้าจังหวะของทั้งสองเลย ทันทีที่ทั้งสองโดนไล่ออกจากรถ พวกเขาก็ได้รับการปรบมือจากผู้โดยสารเพื่อให้กำลังใจทั้งคู่ไปโจ๊ะกันต่อที่บ้าน และขอให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี แหม่ ทำไปได้!!! ที่มา metro
-
โตเกียวเตรียมให้บริการรถเมล์รอบดึก เพื่อช่วยเหลือเหล่า “คนเมา” ที่กลับบ้านไม่ทัน…
บางครั้งการออกไปปาร์ตี้นอกบ้านนั้น นอกจากจะต้องระวังตัวไม่ให้เมามากจนฟุบอยู่ที่ร้านแล้ว การหาทางกลับบ้านหลังจากร้านปิดก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ อีกด้วย และในประเทศที่การเดินทางด้วยรถสาธารณะเป็นหลักอย่างญี่ปุ่นนั้น ถ้าหากว่าคุณดันสนุกจนพลาดรถไฟขบวนสุดท้ายล่ะก็ งานนี้มีหวังได้นอนที่สถานนีแน่ๆ แต่ทว่าเมื่อไม่นานมานี้ทางสถานีรถบัส Nishi Tokyo ได้จัดการแก้ปัญหาที่ว่านี้โดยการเปิดรถเที่ยวดึก สำหรับไว้คอยบริการสายเมาที่ตกรถไฟรอบสุดท้าย!! บริการดังกล่าวนี้ใช้ชื่อว่า Oversleeping Rescue Bus โดยจะให้บริการรับส่งผู้โดยสารที่พลาดรถไฟขบวนสุดท้ายของสาย JR Chuo ที่จะเดินทางไปยังกรุงโตเกียว รถไฟสาย JR Chuo นั้นมีจุดเริ่มต้นตั้งแต่ ใจกลางกรุงโตเกียวและสิ้นสุดที่สถานี Takao ซึ่งตลอดเส้นทางดังกล่าวนั้นเต็มไปด้วยร้านอาหารที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมงและร้านนั่งดื่มมากมาย แต่อย่างไรก็ตามบริการนี้จะมีให้บริการเฉพาะวันที่ 9, 16 และ 23 ธันวาคมเท่านั้น ซึ่งจะรถ Oversleeping Rescue Bus นั้นจะออกจากสถานี Takao ตอนเวลตี 1:05 นาที โดยอัตราค่าบริการนั้นจะอยู่ที่ประมาณ 250 บาทเท่านั้น แหม่.. ช่างเป็นบริการที่ตอบโจทย์คุณพ่อบ้านชาวญี่ปุ่นจริงๆ เลยนะเนี่ย แบบนี้ก็ไม่ต้องนอนรอรถไฟรอบเช้าอีกต่อไปแล้วสินะ แต่ว่าทางที่ดีจะออกไปดื่มก็ควรรายงานผู้ปกครองไว้ก่อนจะดีกว่า เพราะต่อให้ไม่ตกรถไฟ ก็อาจได้นอนนอกบ้านจริงๆ ก็เป็นได้ ที่มา rocketnews24
-
จากรถบัสสองชั้นได้ถูกรีโนเวทขึ้นใหม่กลายเป็นที่พักของผู้ยากไร้ ภายในดูสบายตามากๆ
อากาศอันหนาวเย็นคงทำให้หลายคนคิดถึงที่นอนพร้อมผ้าห่มอุ่นๆ มาช่วยคลายหนาว แต่ถ้าเป็นคนไร้บ้านล่ะ พวกเขาจะมีโอกาสได้นอนในที่อุ่นแบบนั้นบ้างมั้ย? นั่นจึงเป็นที่มาของผลงานของสองสาวที่ได้เปลี่ยนรถบัสสองชั้นให้กลายเป็นที่พักของผู้ยากไร้ Sammy Barcroft และ Joanne Vines สองสาวเจ้าของผลงานและเป็นผู้นำของกลุ่มมูลนิธิเพื่อการกุศล The Rucksack Project ทั้งคู่ได้ทำการตกแต่งรถบัสสองชั้นที่กำลังจะกลายเป็นเศษเหล็ก ให้เปลี่ยนไปจนกลายเป็นที่พักอาศัยสำหรับคนไร้บ้าน สองสาวตัวตั้งตัวตีในการริเริ่มการเปลี่ยนแปลงรถบัสในครั้งนี้ มีการวางโครงสร้างต่างๆ โดยรอบ ภายในของรถที่เต็มไปด้วยที่นั่ง ก็ถูกรื้อออกไปเพื่อเปลี่ยนให้มันกลายเป็นที่พักอาศัยแสนสวย ที่พักดังกล่าวตั้งอยู่ในเมือง Portsmouth ประเทศอังกฤษ ซึ่งระยะเวลาในการปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ของมันทั้งหมดต้องใช้เวลานานถึง 8 เดือนด้วยแรงคนกว่า 70-80 คน และงบประมาณในการทำทั้งหมดอีกกว่า 1,000,000 บาท โดยเงินส่วนใหญ่ที่ใช้นั้นได้รับบริจาคมาเกือบทั้งหมด การตกแต่ง ปูพื้นภายในได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว จากที่โล่งๆ ไม่มีอะไรก็ได้รับการแต่งเติมเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ติดผ้าม่านเอาไว้เพื่อความเป็นส่วนตัว ภายในก็จะมีตั้งแต่เตียงสองชั้น 12 ชุด โซนห้องรับแขก รวมถึงห้องครัวแบบครบชุด เพื่อให้คนที่ได้เข้ามาพักสามารถใช้ชีวิตในที่แห่งนี้ได้อย่างมีความสุขแบบครบครันในทุกๆ เรื่อง พวกเธอหวังว่าเจ้าสิ่งนี้จะพอช่วยเยียวยาปัญหาความหนาวเหน็บของคนไร้บ้านที่มีอยู่กว่า 300,000 คนในเมือง…
-
โถ่ หมดกัน….อุตส่าห์ไปรอถ่ายทอดสดการระเบิดตึกกว่า 40 นาที พอถึงจุดพีครถเมล์มาขวาง!!
สนามกีฬา Georgia Dome ในเมืองแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย สหรัฐอเมริกา มีชื่อเสียงมากจากการเคยจัดโอลิมปิกในปี 1996 และเป็นสนามของทีมอเมริกันฟุตบอล Atlanta Falcons ล่าสุด อาคารดังกล่าวได้ถูกทุบทิ้งเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2017 เพื่อใช้พื้นที่สร้างสนามกีฬา Mercedez-Benz สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้มีผู้คนจำนวนมาก รวมถึงผู้สื่อขาวจากหลายสำนักเข้าไปเก็บภาพสุดท้ายของสนามแห่งความทรงจำอายุกว่า 25 ปีแห่งนี้ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือทีมงานจากช่อง The Weather โดยช่างภาพได้ไปตั้งกล้องเอาไว้ในจุดที่เขาคิดว่าเห็นการระเบิดชัดมากที่สุด รออยู่อย่างนั้นนานกว่า 40 นาที แต่เมื่อกำลังมาถึงจุดไคลแมกซ์ของการระเบิด สิ่งไม่คาดฝันก็ได้เกิดขึ้นจนเขาถึงกับต้องอุทานออกมาว่า “สลัดเอ๊ย!!” ช่างภาพจากช่อง The Weather ตั้งกล้องเอาไว้ในมุมที่น่าจะเห็นการถล่มของอาคารได้อย่างชัดแจ๋ว รออยู่อย่างนั้นนานกว่า 40 นาที ตรงหลังคาเริ่มมีฝุ่นควันลอยออกมา เห็นได้ชัดเลยว่าการระเบิดได้เริ่มขึ้นและอาคารกำลังจะถล่มในไม่ช้า แต่เดี๋ยวก่อนนะรถบัสนั่นขับมาจากไหนกัน ขับผ่านกล้องยังพอเข้าใจ แต่นี่คนขับเล่นจอดบังอยู่อย่างนั้นไม่ไปไหนเลยเนี่ยสิ “เฮ้ยยย คนขับหลบไปก๊อนนน” สุดท้ายแล้วรถบัสคันนั้นก็จากไป ทิ้งไว้เพียงแค่ฝุ่นควัน พร้อมกับคำสบถของช่างกล้องที่ลั่นออกมาว่า “แม่มเอ๊ยยย นี่มันเ_ี้ยไรฟะเนี่ย” …
-
คนขับรถบัสกลายเป็นฮีโร่ หลังจอดขวางทางหลบหนีของคนร้ายที่กำลังถูกตำรวจตามล่า
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ประเทศอังกฤษเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายนที่ผ่านมา หลังจากที่คนขับรถบัสได้ตัดสินใจเลี้ยวรถกระทันหันเพื่อช่วยเจ้าหน้าที่ในการสกัดจับคนร้ายที่กำลังพยายามหลบหนี ในเมือง Sidcup ทางตอนใต้ของกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ รถบัส 2 ชั้นสาย 132 ไปยัง North Greenwich ได้เลี้ยวกระทันหัน และจอดขวางทางการจราจร และทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถเข้าจับกุมคนร้ายได้สำเร็จ ภาพของรถบัสคันดังกล่าวที่ช่วยเจ้าหน้าที่ในการสกัดจับคนร้าย คุณ Tracey Emmerton หนึ่งผู้เห็นเหตุการณ์ดังกล่าวเล่าว่า “รถบรรทุกคันดังกล่าววิ่งอยู่บนถนนทั้งสองเลน ผมไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงถูกตำรวจไล่จับ รถบัสที่ขับนำหน้าได้จอดกระทันหันและจากนั้นมันก็จอดขวางทางเอาไว้ ตอนที่ผมขับรถผ่านดูเหมือนว่าจะมีคนได้รับบาดเจ็บด้วยนะ “ ส่วนทางด้านโฆษกของทางสถานีตำรวจก็ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องนี้ว่าทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการติดตามรถของผู้ต้องสงสัย หลังจากที่เขาได้พยายามหนีจากการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่เมื่อเวลาประมาณ 12:30 ของวันที่ 11 พฤศจิกายน 2017 ที่ผ่านมา “ระหว่างการติดตามรถต้องสงสัยคันดังกล่าว ผู้ต้องหาได้ขับชนรถที่จอดอยู่หลายคน และหลังจากการสกัดจับ เราได้ควบคุมตัวชายผู้ต้องหาคนหนึ่งได้ใกล้ๆ กับถนน Blackfen Road” โฆษกจากสถานีตำรวจกล่าว และแน่นอนว่าวีรกรรมของคนขับรถบัสท่านนี้ก็กลายเป็นที่พูดถึงอย่างมากบนโลกออนไลน์ ซึ่งก็มีทั้งความคิดเห็นที่เห็นด้วยกับการกระทำของเขา และบางส่วนที่ไม่เห็นด้วยเช่นกัน และนี่ก็คือความคิดเห็นบางส่วนของชาวเน็ตต่อเหตุการณ์นี้ “ฉันไม่มีวันนั่งรถบัสคันนี้แน่ๆ “ หรือบางคนก็บอกว่าการกระทำแบบนี้อาจจะดูกล้าหาญนะถ้าหากว่ารถบัสคันนั้นไม่มีคน แต่ถ้ามีผู้โดยสารอยู่เต็มรถล่ะก็คงเป็นเรื่องที่ไม่ดีแน่ๆ ส่วนหญิงสาวท่านนี้ก็ได้แสดงความเห็นว่า “บริษัทอาจจะไล่เขาออกก็ได้นะสำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้น”…
-
คุณแม่เดือด!! หลังมีคนเอารถเข็นแมวอยู่ข้างในมาแย่งที่บนรถบัส ทำให้ลูกของเธอต้องยืน
การนำรถเข็นเด็กขึ้นรถบัสนั้นเป็นธรรมดาของต่างประเทศ แต่ว่าแต่ละประเทศก็จะมีกฎระเบียบ ว่าแต่ละคันจะสามารถมีรถเข็นเด็กได้กี่คันบนรถบัส และที่ทำให้เป็นประเด็นบนโลกอินเทอร์เน็ตเกิดขึ้นก็คือ มีแม่คนหนึ่งชื่อว่า Mia Jade Wilson และลูกของเธอ ได้ขึ้นรถบัสที่จะไปยังเมืองลีดส์ ประเทศอังกฤษ แต่กลับถูกคนขับรถบอกว่าให้พับรถเข็นเด็กเก็บไว้หรือไม่ก็รอรถคันอื่น เพราะว่าบนรถนั้นมีรถเข็นเด็กครบตามจำนวนที่กำหนดไว้แล้ว แต่เมื่อเธอได้เดินไปดูยังรถเข็นเด็กคันดังกล่าว กลับต้องตะลึง เพราะพบว่าภายในรถเข็นนั้นไม่ใช่เด็ก แต่กลับเป็นแมวตัวอ้วนแทน จึงทำให้เธอเกิดโมโหขึ้น “มันเป็นเรื่องไร้สาระมากเลยนะเนี่ย อะไรกันทำไมแมวถึงมีสิทธิ์ที่เหนือกว่าคนได้” “ฉันบอกกับคนขับว่า มีแมวอยู่ในรถเข็นนะไม่ใช่คน เขากลับบอกเพียงว่า มีจำนวนรถเข็นเด็กครบบน รถคันนี้แล้ว กรุณาพับรถเข็นเด็กหรือไม่ก็รอรถคันอื่น เขาพูดแค่นี้จริงๆ ” Mia กล่าว ขณะเดียวกันผู้โดยสารคนอื่นก็เริ่มรำคาญที่แม่เด็กคนนี้ ไม่ยอมหยุดซักทีและพยายามที่จะใช้รถเข็นเด็กของเธอให้ได้ ภาพของ Mia และลูกวัย 1 ขวบของเธอ ต่อมาภายหลังตัวแทนของบริษัทที่ให้บริการรถบัส ก็ได้ออกมากล่าวว่า “พวกเรารู้สึกเสียใจจริงๆ ที่ได้ยินมาว่ามีผู้โดยสารไม่พอใจกับการตัดสินใจของคนขับรถของเรา ในตอนนี้เรากำลังตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีนี้อยู่” ต่อมาในโลกอินเทอร์เน็ตก็ได้มีการออกมาวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับกรณีนี้กันอย่างดุเดือด อาทิ คุณ Debbie Tunstall “มาก่อน ได้ก่อน” คุณ Louise McFarlane “เราไม่สามารถต่อว่า ทั้งแมวและเจ้าของแมว…
-
คิดได้ไง? ชม 20 โฆษณาข้างรถเมล์สุดครีเอท ทั้งติดตราตรึงใจจนอยากจะปรบมือให้คนคิด
รถเมล์นอกจากจะเป็นยานพาหนะโดยสารสาธารณะแล้ว มันยังเป็นแผ่นป้ายโฆษณาเคลื่อนที่ชั้นดีเลย เพราะเนื่องจากมีพื้นที่รอบๆ ตัวค่อนข้างกว้าง แบรนด์หรือหน่วยงานต่างๆ จึงใช้พื้นที่เหล่านั้นในการติดสติ๊กเกอร์โฆษณากัน แต่แค่ข้อความหรือพรีเซ็นเตอร์แบบปกติมันดูไม่เตะตาน่าจดจำอีกต่อไปแล้ว คุณอาจจะคิดว่าแล้วแบบไหนถึงจะน่าจดจำ? งั้นลองมาดูภาพรถเมล์ทั้ง 20 คันนี้หน่อย คุณอาจจะร้อง “ว้าว” เลยก็ได้นะ 1. รถซ้อนรถ 2. โฆษณาผงซักฟอก 3. รถบัสของเล่น 4. จริงๆ แล้วเป็นรถเก็บขยะ 5. โฆษณาขนม 6. มีรถลีมูซีนซ้อนอยู่ด้วย 7. โฆษณาของ National Geographic 8. ขับรถโปรดระมัดระวัง 9. โฆษณาแปรงฟัน 10. จริงๆ แล้วกำลังเปิดกระเป๋าตังค์อยู่ 11. น้ำหนักของคุณอาจทำให้รถบัสเอียงแบบนี้… 12. โฆษณาสวนสัตว์ 13.…
-
สาวฉุนเฉียว สาดเยี่ยวเหนียวใส่คนขับรถเขียว เพียงเพราะคำว่า ‘ขอให้เป็นวันดีๆ นะ’ !?
อีกหนึ่งเหตุการณ์ที่แม้แต่เราเองหลังจากได้อ่านแล้ว ก็ถึงกับต้องอุทานออกมาดังๆ ว่า… อะไรว๊ะ!! เพราะเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม เว็บไซต์ Mirror ได้รายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่รัฐวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยภาพ CCTV บนรถประจำทางสามารถจับภาพของหญิงสาวที่แอบฉี่ใส่แก้วกาแฟ จากนั้นก็เอามาปาใส่คนขับรถซะงั้น หญิงสาวนิรนามผู้เป็นเจ้าของเรื่องราวคดีเด็ดในครั้งนี้ เหตุการณ์ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะตอนแรกคนขับคิดว่าเธอกำลังจะลงสถานีหน้าแล้ว เขาจึงบอกกับเธอว่า ‘Have a nice day’ จากนั้นเธอก็หันมาถามคนขับว่า ได้พูดกับตนรึเปล่า? ด้วยใจของผู้ให้บริการคนขับก็ต้องตอบว่าใช่สิคร๊าบบบ จากนั้นของเหลวที่ถูกกลั่นออกมาจากท่อปัสสาวะของหญิงสาว ก็ถูกสาดใส่คนขับรถเต็ม กลายเป็นความงงในงง เจ๊ทำไปทำม๊ายยย โถ่วว Ron Pavlik พนักงานขับรถโดยสารที่เป็นผู้เสียหายในเหตุการณ์นี้ ให้สัมภาษณ์ว่า “เป็นเรื่องที่บ้าบอและผมก็ไม่คาดคิดมาก่อน ผมก็ไม่รู้ว่าเธอจะทำแบบนี้ทำไมนอกเสียจากจงใจปลุกปั่นยุยงหาเรื่อง เฮ้อออ…” ซึ่งภาพจากกล้องวงจรปิดก็เผยให้เห็นว่า หลังจากหญิงสาวสาดปัสสาวะใส่คนขับแล้ว เธอก็เดินเชิดหายไปในอากาศราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น และความซวยก็ตกเป็นของคนขับรถที่ต้องเสียเวลางานไปหาหมอแทน วิดีโอเหตุการณ์ทั้งหมด จะโหดไปไหนเจ๊ จำไว้นะเด็กๆ.. อารมณ์ฉุนเฉียวก็อย่าไปเยี่ยวใส่คนอื่นเค้า ที่มา: Mirror
-
กลุ่มชาวเน็ตนอร์เวย์โพสต์ภาพเบาะ เหมือนกลุ่มสาวอิสลาม สู่มหกรรมวิ่งเข้าทุ่งครั้งยิ่งใหญ่..!!
เรียกได้ว่ากำลังเป็นกระแสโด่งดังไปทั่วโลกออนไลน์ หลังจากเกิดเรื่องแดงขึ้นในกลุ่มเฟสบุ๊คต่อต้านผู้อพยพของประเทศนอร์เวย์ ได้ออกมาโพสต์ภาพที่นำไปสู่มหกรรมการดักควายครั้งยิ่งใหญ่ “ออกไปจากประเทศนี้นะ”, “น่ากลัวขยะแขยง” หรือ “นั่นมันพวกผู้ก่อการร้าย” ทั้งหมดนี้คือความเห็นส่วนหนึ่งจากชาวเน็ต หลังจากที่มีการโพสต์ภาพดังกล่าวลงไปในกลุ่ม Fedrelandet viktigst (Fatherland first) เพื่อเรียกคอมเมนท์จากกลุ่มสมาชิกที่มีแนวคิดต่อต้านผู้อพยพ ที่ส่วนใหญ่แล้วเป็นผู้นับถือศาสนาอิสลาม ซึ่งแท้จริงแล้วเป็นเพียงแค่ภาพเบาะนั่งในรถบัสเท่านั้น “เราควรเอาพวกมันออกไปจากประเทศนี้ซะ พวกมันคลุมผ้าไว้ทั้งตัวแบบนี้เราไม่รู้เลยว่าเป็นใคร และพวกมันอาจเป็นพวกผู้ก่อการร้ายก็เป็นไปได้” – ความเห็นจากชาวเน็ตส่วนหนึ่ง ซึ่งภาพนี้ถูกโพสต์โดยนาย Johan Slåttavik โดยเจ้าตัวทราบดีว่าเป็นภาพของเบาะที่นั่งบนรถบัส แต่ด้วยความเกรียนผสมกับความอยากปั่นกระแสดราม่า เจ้าตัวจึงนำภาพดังกล่าวไปโพสต์ลงบนเพจเพื่อสังเกตปฏิกริยาท่าทีของชาวเน็ตที่มีต่อภาพ แน่นอนว่ากระแสจากภาพที่นั่งบนรถบัส เต็มไปด้วยคำด่า คำสาปแช่ง คำพูดในเชิงเหยียดชาติพันธุ์ศาสนา และถูกแชร์ต่อไปอีกมากกว่าหลายพันครั้ง Sindre Beyer ชาวเน็ตกลุ่มหนึ่งที่ไม่เห็นด้วยกับ Hate Speech ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “มันช็อคมากที่เราได้เห็นปรากฎการณ์ของกลุ่มคนนอร์เวย์ดังกล่าวบนโลกเฟซบุ๊ก แม้ว่าจะเป็นแค่ภาพเบาะที่นั่งธรรมดา แต่มันก็สะท้อนได้ดีว่าอคติที่มีอยู่ในใจเรานั้นบดบังความจริงข้างหน้าไปมากขนาดไหน” จะเรียกว่าเป็นมหกรรมเชิญชาวเน็ตนอร์เวย์เข้าสู่ทุ่งหญ้าครั้งใหญ่ก็คงจะไม่ผิดนักกระมั้ง.. ที่มา: Dailymail, washingtonpost
-
คนขับรถสาว ขอขับรถเมล์พาสามีไปงานแต่งตัวเอง เพื่อให้มันเป็นสักขีพยานในวันสำคัญ
ปกติเวลาคู่บ่าวสาวแห่ขบวนเข้างานหรือเดินทางมาในงานแต่ง มักจะมาด้วยรถยนต์หรูๆ หรือบางคนก็อยากจะเดินทางเข้างานมาด้วยเฮลิคอปเตอร์กันเลยทีเดียว แต่สำหรับเจ้าสาวคนนี้เธอขอปฏิเสธการปรากฏตัวเข้างานด้วยยานพาหนะเหล่านั้น แต่ขอแหวกแนวด้วยการขับรถเมล์พาเจ้าบ่าวไปยังงานแต่งงานของทั้งคู่แทน!? เจ้าสาวก็คือ Wu Zheng เป็นคนขับรถประจำทางในมณฑลซานตง ประเทศจีน และเธอก็ได้เจอกับสามีครั้งแรกบนรถเมล์นี่แหละ รถเมล์เป็นสิ่งที่เธอใช้เลี้ยงชีพตัวเองและครอบครัวแถมยังทำให้เธอเจอเนื้อคู่ด้วย ดังนั้นมันจึงมีความหมายกับเธอมากกว่าแค่รถเมล์ธรรมดาคันหนึ่ง เจ้าสาวพูดถึงรสเมล์ว่า “ฉันอยากให้มันมาอยู่ที่นี่เพื่อเป็นสักขีพยานในวันสำคัญของฉันด้วยค่ะ” และด้วยเหตุนี้ก็ทำให้งานแต่งของเธอได้รับความสนใจจากสื่อต่างๆ เป็นอย่างมาก เพราะไม่บ่อยนักที่จะเห็นคู่บ่าวสาวแหวกแนวได้ขนาดนี้ รถเมล์ขบวนบ่าวสาว เดินทางถึงงานแต่งได้อย่างปลอดภัย ได้สักขีพยานรักที่แปลกและแตกต่างจากงานอื่นสุดๆ จะมีแหวกแนวกว่าอีกนี้มั้ยเนี่ย? ที่มา shanghaiist
-
‘Sleep Bus’ บริการรถบัสระดับ 5 ดาว ให้เป็นโรงแรมเคลื่อนที่ พร้อมพาเดินทางข้ามเมือง!!
ทุกๆ ครั้งที่ต้องเดินทางไกลๆ การได้พักอยู่บนรถที่เต็มไปด้วยความสะดวกสบาย คงจะเพิ่มความสนุกให้กับการเดินทางไม่น้อยเลยนะว่าไหม?? โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลาการเดินทางข้ามจังหวัดที่ไม่ใช่การเดินทางด้วยเครื่องบิน ตัวเลือกที่มักจะมาเป็นอันดับหนึ่งก็คือรถทัวร์หรือรถบัสโดยสารขนาดใหญ่ และด้วยเหตุผลทางด้านการเดินทางอันยาวนานหลายชั่วโมง ก็คงจะทำให้ต้องนั่งอยู่ในรถน๊าน นานจนเกิดความอึดอัด แต่คงจะดีกว่านี้มากถ้าหากว่ารถบัสสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการให้บริการที่ดีกว่านี้ได้ อย่างเช่น Sleep Bus คันนี้แหละ!! บริษัทสตาร์ทอัพน้องใหม่จากเมืองแคลิฟอร์เนีย ผู้เป็นเจ้าของรถบัสคันดังกล่าว ได้ปฏิวัตการเดินทางไกลด้วยรถบัสสุดหรูคันนี้ พวกเขาจะมอบประสบการณ์ระดับโรงแรม 5 ดาวให้กับคุณระหว่างการเดินทางไกล 650 กิโลเมตรจากเมืองซานฟรานซิสโกไปยังเมืองลอสแอนเจลิส ซึ่งทั้งหมดนั้นมีค่าใช้จ่ายเพียง 4000 บาทเท่านั้น ห้องพักสุดหรูและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ภายในรถที่เตรียมไว้สำหรับผู้โดยสาร รถคันดังกล่าวจะมีเวลาการเดินทางที่แน่นอน โดยจะเริ่มออกเดินทางจากซานฟรานซิสโก หรือ ลอสแอนเจลิส เวลา 5 ทุ่มและจะไปถึงปลายทางในเวลา 7 โมงเช้า ภายในรถจะมีห้องนอนทั้งสิ้น 24 ห้อง และยังมีห้องโถงสำหรับสังสรรค์ของคุณและเพื่อนๆ นอกจากนี้ในรถยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายทั้งอินเตอร์เน็ตไร้สาย และห้องน้ำที่สุดแสนจะทันสมัย ห้องนอนจำนวน 24 ห้องที่เตรียมไว้สำหรับบริการลูกค้า เตียงนอน ที่อุดหู และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่เตรียมไว้ในที่พัก …
-
วินาทีสุดระทึก… เมื่อกล้องหน้ารถบัส จับภาพเหตุการณ์ ‘รถบินข้ามเลน’ พุ่งเข้าชนอย่างจัง!!
สำนักข่าวจากฝั่งญี่ปุ่นได้รายงานเหตุการณ์สุดระทึกเมื่อวันที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมา เป็นเหตุการณ์อุบัติเหตุของรถยนต์ที่ขับมาด้วยความเร็วสูง จนกลายเป็นเหตุระทึกขวัญในแบบที่ไม่ค่อยได้เห็นกันบ่อยนัก!! เหตุการณ์เกิดขึ้นบนถนนเมืองโทะโยะกะวะ ในจังหวัดไอจิ ประเทศญี่ปุ่น โดยรสบัสที่จับภาพได้นั้นเป็นรสบัสของขบวนนำเที่ยวที่กำลังเดินทางไปจังหวัดยะมะนะชิ แต่แล้วอยู่ดีๆ ก็มีรถยนต์คันนึงขับมาด้วยความเร็วสูง จนบินพุ่งทะยานข้ามเลนมาชนเข้ากับหน้ารสบัสคันดังกล่าวเข้าอย่างจัง จากอุบัติเหตุในครั้งนี้ สร้างความเสียหายให้กับรถบัสอย่างหนัก แต่โชคยังดีที่ไม่มีผู้ใดในรถเสียชีวิตรวมถึงทั้งไกด์และคนขับที่อยู่ในส่วนหน้าของรถ ผู้โดยสารทั้งหมด 47 คน มีเพียง 6 คนเท่านั้นที่ได้รับความเสียหายจากกระดูกหัก ส่วน 39 คนที่เหลือได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ทางด้านของเจ้าของรถที่พุ่งเข้ามา ทางตำรวจได้ยืนยันแล้วว่าเขาเป็นคุณหมอวัย 62 ปี ซึ่งเขาไม่รอดจากเหตุการณ์ดังกล่าว แต่ในส่วนของรถบัสนั้นถือว่าเป็นเรื่องปาฏิหาริย์มากๆ เพราะตัวคนขับรวมถึงไกด์ที่นั่งอยู่ติดหน้าต่างยังรอดมาได้ เมื่อดูมุมกล้องจากด้านในตัวรถบัสแล้ว จะเห็นได้ว่าคนขับมีปฏิกิริยาตอบสนองอย่างรวดเร็ว เขาพยายามหักหลบรถที่พุ่งเข้ามา รวมถึงโชคดีที่รถที่พุ่งเข้ามาลอยสูงพอสมควรจนเกือบจะชนส่วนหลังคาอย่างเดียวแล้วด้วยซ้ำ ทางด้านชาวเน็ตที่ได้ดูเหตุการณ์ต่างก็พอกันชื่นชมคนขับรถบัสว่าเขาเก่งมากๆ ที่สามารถควบคุมตัวรถได้แม้ในวินาทีชีวิตแบบนี้ ที่สำคัญยังช่วยให้ทุกคนรอดตายมาได้อย่างน่าเหลือเชื่อ สุดท้ายทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังต้องตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ รวมถึงสาเหตุที่รถยนต์สามารถพุ่งข้ามเลนมาถึงขนาดนี้ได้ และพวกเขาก็ยังต้องตามหาทางออกเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเช่นนี้อีกในครั้งหน้า ด้านสภาพของรถที่พุ่งเข้ามาชนนั้น ตัวรถเละไม่เป็นชิ้นดี ที่สำคัญตัวรถยังคงติดอยู่กับรถบัสด้วย ที่มา rocketnews24
-
มาให้เห็นจริงแล้ว!! จีนเปิดตัว “รถบัสไฮเทค” วิ่งคร่อมถนน ไม่แคร์ทุกปัญหารถติด
หากใครจำกันได้ เมื่อช่วงปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ทีมงานเหมียวได้เคยรายงานเกี่ยวกับคอนเซ็ปต์รถบัสไฮเทคที่สามารถวิ่งคร่อมถนนได้ แม้จะมีการจราจรที่หนาแน่น แต่เจ้ารถบัสคันนี้ก็จะสามารถขับผ่านไปได้อย่างสบายๆ หากใครนึกไม่ออกลองไปย้อนดูคลิปคอนเซ็ปต์ของเจ้ารถคันนี้กันดูเลย หลังจากนั้นเวลาก็ผ่านไปประมาณ 2 เดือนเศษ เจ้ารถบัสที่เป็นเพียงคอนเซ็ปต์คันนี้ก็สำเร็จกลายเป็นรูปเป็นร่างแล้วเรียบร้อย!! อันที่จริงแล้วโปรเจ็คนี้ไม่ได้คิดค้นและสร้างเสร็จภายในเวลาสั้นๆ หรอกนะ แต่ทางทีมวิศวกรเขาเริ่มทำกันมาเป็นปีแล้ว แต่เพิ่งจะเป็นที่สนใจของสื่อเอาเมื่อช่วงพฤษภาคมที่ผ่านมา ตามรายงานของเว็บไซค์ Shanghaiist เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม บอกว่ารถไฮเทคคันนี้พร้อมที่จะออกวิ่งทดสอบในมณฑลเหอเป่ย ประเทศจีนแล้ว ในการทดสอบครั้งนี้ไม่ได้เป็นการนำรถบัสออกไปวิ่งทั่วเมืองแบบเต็มประสิทธิภาพ แต่เป็นการเดินทางในระยะเพียง 300 เมตรเท่านั้น แต่นั่นก็ทำให้นักข่าวและผู้ที่เข้าร่วมการทดสอบในครั้งนี้ทราบว่ามันสุดยอดขนาดไหน จากคำบอกเล่าของวิศวกรบอกว่าเจ้ารถบัสคร่อมถนนคันนี้จะสามารถบรรทุกผู้โดยสารได้มากถึง 1,200 คนได้ในเวลาเดียวกัน สามารถเดินทางด้วยความเร็วสูงสุดได้ 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แม้จะดูไม่เร็วเท่าไหร่ แต่หากคุณจินตนาการถึงการจราจรอันติดขัดในเมืองจีนล่ะก็ ความเร็วเท่านี้ก็ถือว่าเร็วมากแล้วล่ะ ทั้งนี้ไม่มีการเปิดเผยว่าเจ้ารถบัสคันนี้จะเปิดให้บริการจริงๆ เมื่อไหร่ แต่คาดว่าน่าจะภายในเร็ววันนี้แน่นอน แน่นอนว่านี่เป็นเพียงการลองนำมาวิ่งเป็นครั้งแรกเท่านั้น ยังคงมีหลายฝ่ายพูดถึงปัญหาที่จะตามมา ทั้งมารยาทให้การขับรถของคนจีนทั่วไปจะก่อให้เกิดปัญหาหรือไม่ รวมไปถึงอุปสรรคอีกต่างๆ นานาเมื่อใช้งานจริง เราคงต้องรอดูกันต่อไปล่ะครับ…!! ที่มา shanghaiist
-
ชายกลางคนโมโห โยน “งู” ขึ้นรถบัสแล้ววิ่งหนี หลังคนขับไม่ยอมให้เขาเอาสัตว์เลี้ยงขึ้นไปด้วย!?!?
ไม่รู้จะสงสารหรือว่าโมโหหรือว่าฮาดีสำหรับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในประเทศจีนเรื่องนี้ เพราะว่าไม่พอใจเล็กๆ น้อยๆ เล่นทำเอาผู้โดยสารรถประจำทางถึงกับเดือนร้อนกันถ้วนหน้าจริงๆ เรื่องราวเกิดขึ้นที่เมืองเจิ้งโจว มณฑลเหอหนาน ประเทศจีน เมื่อมีชายวัยกลางคนคนหนึ่ง ถือกล่องใส่ “งู” ซึ่งเขาอ้างว่าเป็นสัตว์เลี้ยง ขึ้นรถโดยสารประจำทาง แต่รถโดยสารมีกฎบอกไว้ว่า ห้ามนำสัตว์ขึ้นรถเป็นอันขาด ทางคนขับรถจึงบอกชายคนดังกล่าวว่า เขาไม่สามารถนำ “งู” ตัวนั้นขึ้นรถไปด้วยได้ แม้ว่าจะเป็นสัตว์เลี้ยงก็ตาม ยิ่งไปกว่านั้น งูตัวนั้นอาจสร้างความตื่นตระหนกให้กับผู้โดยสารคนอื่นๆ อีกด้วย ทางชายวัยกลางคนคนนั้นก็ไม่พอใจ และโต้เถียงกับคนขับรถและยืนยันที่จะนำงูขึ้นไปด้วยให้ได้ แต่ไม่ว่ายังไงคนขับรถก็ไม่ยอม สุดท้ายชายคนนั้นโมโห โยนงูตัวดังกล่าวขึ้นไปบนรถ แล้วก็วิ่งหนีซะอย่างงั้น!!! ทันทีที่ผู้โดยสารคนอื่นๆ เห็นงูบนรถ พวกเขาก็ตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก คนขับจึงบอกให้ทุกคนลงจากรถ แล้วขังงูเอาไว้ภายใน ก่อนที่เขาจะอาศาขึ้นไปจับงูตัวนั้นเอง โชคดีงูตัวนั้นเป็นงูไม่มีพิษ ทำให้ไม่มีใครได้รับอันตรายแต่อย่างใด แหม เล่นกันแบบนี้เลย เป็น #เหมียวอ๊อดโด้ เจอแบบนี้ ก็กรี๊ดเหมือนกันแหละ ใครอย่าเอาไปแกล้งเพื่อนนะ เกิดช็อคตายขึ้นมาใครจะรับผิดชอบ ฮาา ที่มา Shanghaiist
-
จีนเผยโมเดลสร้าง “รถบัสไฮเทค” ขนส่งผู้โดยสารได้อย่างรวดเร็วทันใจ ไม่ต้องแคร์รถติด!!
รถบัสหรือรถเมล์ ก็ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่คนนิยมใช้บริการนอกเหนือจากรถไฟฟ้า ด้วยความที่มันมีราคาที่ถูกและขึ้นง่ายไม่ซับซ้อนมากจนเกินไป ที่งาน Beijing International High-Tech Expo นั้นก็ได้มีการจัดแสดงผลงานทางด้านเทคโนโลยีมากมาย และหนึ่งในสิ่งที่เป็นพระเอกของงานนี้ก็คือ Transit Elevated Bus (TEB) หรือรถบัสสุดไฮเทค ผลงานการคิดค้นจากประเทศจีน แค่เห็นตัวอย่างก็รู้เลยว่ามันดีงาม ตัวรถนั้นจะทำออกมาเหมือนรถราง แต่จะไม่กินเลนถนน เพราะว่ามันจะเคลื่อนที่อยู่ข้างบน มีเพียงแค่ที่คอยรองรับน้ำหนักเท่านั้น ทำให้รถสามารถวิ่งข้ามรถต่างๆไปได้ ไม่ทำให้รถติด Bai Zhiming วิศวกรผู้คุมโปรเจกต์นี้คาดการณ์ว่าการขนส่งด้วยรถบัสคันใหม่นี้จะสามารถเคลื่อนย้ายคนกว่า 1,200 ได้ในช่วงเวลาหนึ่ง อีกทั้งค่าใช้จ่ายยังถูกกว่ารถไฟใต้ดินอีกด้วย และใช้เวลาสร้างเพียง 1 ปีเท่านั้น ตอนนี้กำลังจะวางแผนสร้างใน Qinhuangdao City ตอนเหนือของจีน อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงคอนเซปเท่านั้น และต้องทำการศึกษาเพิ่มเติมก่อนจะลงมือสร้างจริง เราต้องรอดูว่าจะเวิร์คไหม… ที่มา CCTV News
-
ชาวเน็ตจีนสงสัย!? หนุ่มคนขับรถบัส แต่ขับรถสปอร์ตแลมโบร์กินี่-ออดี้ ไปทำงานทุกวัน
ประเทศจีนนี่มีอะไรมาให้เราอึ้งตลอดเวลาจริงๆ กับวันนี้อีกครั้งกับพ่อหนุ่มคนขับรถบัสผ้าขี้ริ้วห่อทอง ที่ใครจะไปรู้ว่า เค้ามีรถหรูราคาหลายล้านอย่างแลมโบร์กินี่และออดี้ขับกับเขาด้วย?!? เรื่องราวเกิดขึ้นที่เมืองไท่หยวน มณฑลซานซี ประเทศจีน เมื่อมีชาวเน็ตเผยแพร่ภาพของพนักงานขับรถบัสคนหนึ่ง ที่โชว์หรูด้วยการขับรถแลมโบร์กินี่ กาลาโด้ (Lamborghini Gallardo) และออดี้ อาร์ 8 (Audi R8) มาทำงาน โดยรายงานเล่าว่า ทุกๆ วันเขาจะขับรถหรูของเขามาจอดที่สำนักงาน ก่อนจะขับรถบัสออกไปรับผู้โดยสาร และเมื่อทำงานเสร็จ เขาก็จะแปลงโฉมเป็นหนุ่มไฮโซและขับรถหรูกลับบ้านไป นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า เขาก็ยังเป็นสมาชิกของชมรมรถหรูแห่งเมืองไท่หยวนอีกด้วย เมื่อชาวเน็ตเห็นภาพดังกล่าวก็ออกมาแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมาย บางคนสงสัยว่าเขาเอาเงินมากขนาดนี้มาจากไหน บางคนก็บอกว่าเขาคงเป็นเศรษฐีในเมืองนี้แหละ แต่มาขับรถบัสเป็นงานอดิเรกเฉยๆ แต่หลายคนก็วิจารณ์ว่า ถ้าเขารวยขนาดนี้ เค้าควรจะลาออกจากงานไปซะ แล้วให้คนที่มีความจำเป็นจริงๆ มาทำดีกว่า มีการเปิดเผยผ่านเว็บ NetEase ว่า คนขับรถผู้นี้แม้จะมีรถหรู (ไม่รู้ว่าที่เมืองจีนมีเสี่ยตันไหม) แต่เขาก็ยังมองตัวเองเป็นคนธรรมดาทั่วไป ขับรถมาทำงานประจำของเค้าแล้วก็ขับกลับแบบคนปกติ แล้วเพื่อนๆ ล่ะคิดเห็นอย่างไรบ้าง ลองแสดงความคิดเห็นกันเข้ามาดูนะเหมียววว ที่มา Shanghaiist
-
ตำรวจจีนโบกรถบัสนักเรียนท่าทางผิดปกติ ปรากฏมีเด็กอยู่ข้างในถึง 62 คน!!!
ปกติรถบัสคันหนึ่งต่อให้เป็นรถขนาดใหญ่ที่สุด มีผู้โดยสารซัก 30 คนก็ถือว่าแน่นแล้ว แต่ตำรวจจีนถึงกับเงิบไปเลย เมื่อเจอรถบัสนักเรียนขนาด 19 คนคันนี้ เพราะมีนักเรียนนั่งอยู่ภายในถึง 62 คน!! เรื่องราวมีอยู่ว่าตำรวจจากมณฑลอันฮุยคนหนึ่ง ได้สังเกตเห็นรถบัสนักเรียนคันหนึ่งท่าทางผิดปกติ เพราะบนรถมีเด็กนั่งอยู่เต็มไปหมด เขาจึงเข้าไปโบกรถบัสคนดังกล่าวเพื่อตรวจสอบ ตอนแรกเขาคิดว่าจะมีเด็กนักเรียนประมาณ 40 คน แต่พอนับจริงๆ กลับมีเด็กถึง 62 คน!! ทั้งๆ ที่ความจุที่แท้จริงของรถมีเพียงแค่ 19 คนเท่านั้น! สุดท้ายตำรวจได้จับกุมคนขับรถ โทษฐานบรรทุกผู้โดยสารเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด และมีการเรียกรถบัสอีกหลายคันเพื่อมารับเด็กที่เหลือกลับบ้าน ปัญหารถนักเรียนบรรทุกนักเรียนเกินกำหนด เป็นเรื่องที่พบได้ทั่วไปในประเทศจีน โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบท อย่างเมื่อหลายปีก่อน ตำรวจสามารถจับกุมรถตู้คันหนึ่งที่บรรทุกเด็กกว่า 66 คนได้!! โอ้โห อัดกันไปได้ยังไงตั้ง 62 คน ไม่อยากจะนึกเลยว่าถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา จะเกิดความสูญเสียกันขนาดไหนนะ ที่มา Shanghaiist
-
ส่อถึงอะไรรึเปล่า!? เมื่อรถยนต์ไร้คนขับของ Google เกิดเหตุเฉี่ยวชนเข้ากับรถบัสระหว่างทดสอบ
กำลังส่อแววให้เห็นอะไรรึเปล่า สำหรับโครงการนี้ของทาง Google เมื่อทางบริษัทได้ออกมาเผยในรายงานประจำเดือนว่า รถยนต์ขับด้วยตัวเองของพวกเขานั้น เกิดอุบัติเหตุไปเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์นี้ ซึ่งเป็นกรณีแรกเลยล่ะที่เกิดเหตุการณ์ชนโดยรถบริษัทเป็นผู้ผิดจริงๆ สำหรับรถที่ไปชนเข้ากับรถบัสก็คือ Lexus SUVs ที่กูเกิลนำมาทดสอบระบบขับด้วยตัวเอง แถบถนนในแคลิฟอร์เนีย โดยเหตุการณ์ที่นำไปสู่การชนก็คือรถขับอัตโนมัติได้ทำการเปลี่ยนเลนวิ่งเพราะเจอเข้ากับกระสอบทรายในเลนของตัวเอง รถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ ถึงการชนจะไม่รุ่นแรงก็ตาม เพราะตอนนั้นรถขับเคลื่อนอัตโนมัติเคลื่อนที่ด้วยความเร็วเพียง 3 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเท่านั้น แต่ก็ขูดรถบัสไปทั้งแถบ ซึ่งเหตุการณ์นี้จะส่งผลต่อความเชื่อมั่นในตัวสินค้าของผู้บริโภค ต่อผลิตภัณฑ์นี้ที่ Google จะปล่อยออกมาตีตลาดในอีก 1-2 ปีรึเปล่า?? แต่ถ้าจะมองในแง่ดีหน่อยก็คือ ถึงรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติของ Google จะเคยประสบอุบัติเหตุต่างๆ มาก่อนหน้านี้ แต่ก็ไม่ร้ายแรงมากนัก และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ฝ่ายผิดคือรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติของทางบริษัทอีกด้วย!!! รถยนต์ที่สามารถขับตัวเองได้อัตโนมัติ ในส่วนของทาง Google ก็ได้ออกมารับผิดชอบในเรื่องนี้ โดยออกมากล่าวแก้ต่างว่า ‘แน่นอนว่าเรามีส่วนที่จะต้องรับผิดชอบในอุบัติเหตุครั้งนี้ แต่ส่วนหนึ่งก็เพราะกระสอบทรายที่ตัวรถสามารถตรวจสอบได้ ถูกวางไว้ที่ถนนโดยบังเอิญ แต่แน่ล่ะความผิดพลาดนี้จะทำให้เราต้องขบคิดวิธีการแก้ปัญหา เพื่อคุณภาพที่ดีกว่าในอนาคต’ ‘การที่รถขับเคลื่อนอัตโนมัติของเราชะลอความเร็วลง ก็เพราะประมวลผลแล้วว่ารถบัสคันดังกล่าวจะหยุดหรือชะลอให้เราได้ผ่านไปก่อน เพราะมีพื้นที่ให้รถสามารถทำแบบนั้นได้’ ทางบริษัทออกมาแถลง ส่วนตัวแล้ว #จ่าสิบเหมียว ก็ยอมรับว่าเป็นไอเดียที่ดีอยู่เหมือนกันนะสำหรับรถขับเคลื่อนได้ด้วยตัวเอง แต่ในการตัดสินใจเสี้ยววินาทีในกรณีเล็กๆ น้อยๆ…
-
คลิปสุดช็อก!! เผยช่วงวินาทีรถบัสพลิกคว่ำในจีน เหวี่ยงร่างผู้โดยสารนับสิบกระแทกหลังคารถ
เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2558 ทางสำนักข่าวต่างประเทศได้เผยคลิปวีดีโอเหตุการณ์สุดช็อก ที่เกิดขึ้นในเมืองกุ้ยหยาง มณฑลกุ้ยโจว ประเทศจีน ในวันที่ 31 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปวีดีโอได้เผยให้เห็นช่วงวินาทีที่รถบัสคันหนึ่ง เสียหลักพลิกคว่ำบนถนน และเหวี่ยงร่างผู้โดยสารบนรถกระแทกหลังคารถไปพร้อมๆ กัน จนทำให้มีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ 13 ราย และเสียชีวิตอีก 1 ราย ทางด้านสำนักข่าวต่างประเทศได้เผยว่า ก่อนที่รสบัสคันนี้จะเสียหลักพลิกคว่ำนั้น คนขับรถกำลังดูโทรศัพท์ของตัวเองในขณะที่ขับรถอยู่ และกว่าที่เขาจะรู้ตัวอีกทีก็ไม่สามารถควบคุมรถได้แล้ว ถึงแม้ว่าเขาจะพยายามเป็นอย่างมากแล้วก็ตาม ดังนั้นจึงทำให้ผู้โดยสารที่นั่งอยู่ในรถต่างก็พากันกรี๊ดร้องออกมาด้วยความตกใจ ซึ่งวินาทีที่รถเสียหลักนั้น ร่างของผู้โดยสารถูกเหวี่ยงตีลังกากระแทกหลังคารถอย่างรุนแรง ซึ่งเหตุการณ์สุดสลดที่เกิดขึ้นนี้ โชคดีที่มีผู้สูญเสียน้อย โดยเสียชีวิตเพียง 1 ราย ส่วนที่เหลืออีก13 รายนั้น ได้รับบาดเจ็บ เราลองไปชมคลิปวีดีโอกันเลย ที่มา : liveleak
-
ที่โรมาเนีย “ขึ้นรถบัสฟรี” เพียงแค่ผู้โดยสารเข้าไปอ่านหนังสือข้างในรถ!!
ถือเป็นแคมเปญดีๆสำหรับคนรักการอ่านมากๆ เพื่อที่ต้องการที่จะกระตุ้นให้คนอ่านหนังสือมากยิ่งขึ้น Victor Miron จึงได้ร้องขอไปยังนายกเทศมนตรี Emil Boc เกี่ยวกับการไม่เรียกเก็บเงินสำหรับคนที่อ่านหนังสือบนรสบัส ซึ่งเขาใช้เวลานานมากถึง 1 ปี กว่าจะประสบความสำเร็จ ซึ่งในวันที่ 4 – 7 มิถุนายน ปี 2015 ที่เมือง Cluj-Napoca ใครที่อ่านหนังสือบนรสบัสจะไม่เสียเงินสักแดงเดียว นอกจากนี้เขายังตั้งแคมเปญใหม่ขึ้นมาที่มีชื่อว่า Bookface โดยถ้าใครมีรูปหนังสืออยู่ในรูปโปรไฟล์ในเฟซบุ๊ก ก็จะได้รับส่วนลดต่างๆไม่ว่าจะเป็นร้านหนังสือ ร้านตัดผม หรือแม้กระทั่งร้านทำฟัน และตอนนี้เขาก็กำลังติดต่อกับ Mark Zuckerberg เพื่อให้แคมเปญ Bookface เป็นจริงขึ้นมา ถือเป็นเรื่องราวดีๆที่ช่วยให้คนรักการอ่านมากขึ้น คงจะดีกว่าการให้มานั่งเขียนสมุดบันทึกรักการอ่านในสมัยมัธยม ซึ่งน้อยมากที่จะมีคนอ่านจริงๆ ที่มา boredpanda