Tag: รถเข็น

โดยทั่วไปเราจะเห็นได้ว่ารถเข็นที่มีให้สำหรับใช้จับจ่ายซื้อของในห้างสรรพสินค้ามักมีที่นั่งไว้สำหรับเด็กเล็ก เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่ที่พาลูกน้อยมาสามารถซื้อของได้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น แต่ที่นั่งนั้นมีไว้ให้เด็ก 1 – 2 คนเท่านั้น ทำให้คุณแม่ลูกแฝดสามคนนี้ต้องเจอกับปัญหาในการช้อปปิ้ง เรื่องนี้ถูกแชร์ผ่านเว็บไซต์ Dailymail ในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2017 เมื่อ Tori Stratton คุณแม่ที่มีลูกแฝดสามประสบปัญหากับการที่เธอไม่สามารถพาลูกๆ ของเธอช้อปปิ้งได้อย่างสบายใจ แต่เมื่อทางห้างสรรพสินค้า Sainsbury’s ได้รับรู้ปัญหาของเธอเข้า จึงได้ประดิษฐ์รถเข็นสำหรับสามที่นั่งมาให้เธอและลูกๆ โดยเฉพาะ   รถเข็นที่ห้างทำขึ้นมาเองสำหรับคุณแม่ลูกสาม   แฝดสามผู้โด่งดังในอินสตาแกรม มีคนติดตามพวกเขามากกว่า 19,000 คน   ที่มาของมันเกิดขึ้นเพราะคุณแม่รายนี้รู้สึกเหนื่อยและไม่อาจเดินซื้อของในขณะที่ต้องดูแลลูกน้อยถึง 3 คนได้อย่างสบายใจ เธอจึงได้นำปัญหานี้ไปพูดกับทางห้างและพวกเขาก็หาทางแก้ไขปัญหาให้กับเธอ รถเข็นคันนี้มีที่นั่งเพียงพอสำหรับเด็กน้อยทั้งสาม Oliver , Jacob และ Tobias ทำให้คุณแม่สามารถเดินช้อปปิ้งในห้างที่ตั้งอยู่ในเมือง Cowes บนเกาะไอล์ออฟไวต์ ประเทศอังกฤษ แห่งนี้ได้อย่างเพลิดเพลินและไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยของเด็กๆ อีก   นั่งกันครบทุกคนแบบนี้ ทำให้การเดินไปหยิบโน่นหยิบนี่ก็สามารถทำได้ง่าย   Tori บอกว่า “ก่อนหน้านี้ฉันมักจะไม่ได้ออกมาซื้อของด้วยตนเองเพราะระหว่างนั้นฉันต้องคอยดูแลลูกทั้ง 3 อยู่เสมอ ซึ่งมันทำให้การช้อปปิ้งเป็นเรื่องที่ยากมากๆ แต่พอมีรถเข็นคันนี้ฉันก็สามารถเดินช็อปปิ้งได้อย่างสบายใจเหมือนคนทั่วไปแล้ว”…

โดยปกติแล้วการประกวดสาวงามนั้น จะต้องการผู้เข้าร่วมการประกวดที่เพรียบพร้อมไปด้วยทั้งความงามและบุคลิกอันดีเยี่ยม แต่ล่าสุดในประเทศออสเตรเลีย มีหญิงสาวคนหนึ่งที่เข้ามาเปลี่ยนวงการนางงามโดยสิ้นเชิง เพราะเธอเข้าร่วมการประกวด ทั้งๆ ที่เธอนั่งรถเข็น?!?!   หญิงสาวคนนี้มีชื่อว่า Justine Clarke วัย 26 ปี เธอได้กลายเป็นผู้หญิงนั่งรถเข็นคนแรกที่เข้าร่วมการประกวด Miss World   เธอได้เข้าร่วมการแข่งขันรอบคัดเลือกรอบสุดท้ายของเมืองแอดิเลด ประเทศออสเตรเลีย โดยเธอมีอาการผิดปกติที่ขาส่วนล่าง ทำให้เธอไม่สามารถเดินได้เหมือนคนทั่วไป ซึ่งเธอบอกว่าเธอต้องการทำให้เห็นว่าไม่ว่าใครก็สามารถงดงามได้ “ฉันอยากให้แคทวอร์คเป็นที่สำหรับผู้หญิงทุกคน การนั่งรถเข็นไม่ได้ทำให้ฉันด้อยคุณค่าลง ฉันยังเข้มแข็ง งดงาม และมีความเป็นผู้หญิงเสมอ” Justine กล่าว     Justine ไม่ได้พิการมาตั้งแต่เกิด เธอบอกว่าเธอต้องนั่งรถเข็นเมื่อสองปีก่อน แต่อย่างไรก็ตาม เธอไม่ยอมเผยสาเหตุว่าเพราะอะไรเธอจึงตกอยู่ในสภาพนี้ “ฉันไม่อยากเล่าว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ฉันอยากจะเป็นแบบอย่างให้กับสาวๆ ทั่วโลก ว่าแม้แต่คนที่นั่งรถเข็นอย่างฉัน ก็สามารถเข้าร่วมการประกวดแบบนี้ได้ ฉันอยากบอกทุกคนว่า ไม่ว่าคุณจะมีเชื้อชาติอะไร อ้วนหรือผอม หรือมีความพิการหรือไม่ คุณก็ยังสวยงามอยู่เสมอ”  เธอกล่าว     แม้สุดท้ายเธอจะไม่สามารถผ่านเข้าไปในรอบสุดท้ายทั่วประเทศของออสเตรเลียได้ แต่การเข้าร่วมการประกวดครั้งนี้ ก็ได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับใครหลายๆ คนอย่างแน่นอน ทาง Deborah Miller ผู้บริหารของการประกวด Miss…

สำหรับทาสหมาทั้งหลาย ย่อมคิดว่าเจ้าหมานั้นก็คือสมาชิกคนหนึ่งในครอบครัว ในเวลาที่มันลำบากเราก็พร้อมที่จะช่วยเหลือมันทุกวิถีทางโดยไม่ยอมแพ้ง่ายๆ เช่นเดียวกับเรื่องราวสุดประทับใจระหว่างมนุษย์และเพื่อนรักสี่ขาแสนน่ารัก ที่ถึงแม้ว่ามันจะป่วยหนักใกล้ตายแต่พวกเขาก็ไม่ยอมแพ้ ทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยเหลือมัน จนมันมีอาการดีขึ้นเรื่อยๆ ราวกับเป็นปาฏิหาริย์   คุณ Joey Maxwell และภรรยา ได้ทำการรับเจ้า Maverick มาเลี้ยง จาก Kill Shelter เมื่อ 8 ปีก่อน   ในตอนแรกนั้นเจ้า Maverick มีร่างกายที่ผอมบางมากจนเห็นกระดูก แต่คู่สามีภรรยาก็ได้รับมันมาเข้ามาเป็นสมาชิกในครอบครัวและดูแลมันเป็นอย่างดี ทุกคนใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข จนเวลาล่วงเลยผ่านไปถึง 6 ปี จนถึงเมื่อ 2 ปีก่อน เจ้า Maverick ได้มีอาการป่วยร้ายแรงซึ่งก็คือโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง แต่ถึงอย่างนั้นคุณ Joey และภรรยา ก็ยังไม่ยอมแพ้ พวกเขาพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยเพื่อรักสี่ขาของเขาในการต่อสู้กับโรคมะเร็งร้ายนี้     ในช่วงแรกนั้นการทำคีโมเหมือนจะไปได้สวย แต่ 2 เดือนผ่านไปความเจ็บปวดก็กลับมาเยือนอีกครั้ง จนทำให้เจ้า Maverick ไม่สามารถเดินได้   คุณ Maxwell ก็เลยปิ๊งไอเดียแจ่มๆ…

เชื่อว่าพ่อแม่ทุกคน ใครก็รักลูกของตัวเองทั้งนั้น และแน่นอนว่าพวกเขา พร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อให้ลูกตัวเองปลอดภัย จากโรคภัยไข้เจ็บ หรือสิ่งที่ไม่คาดคิด เพื่อเป็นอุทาหรณ์สอนใจให้เพื่อนๆทุกคน #เหมียวบ็อบ จึงขอนำเสนอเรื่องราวของคุณแม่ และลูกชายตัวน้อย จาก Gold Coast ประเทศออสเตรเลีย เมื่อจู่ๆหนูน้อยเกิดอาการติดเชื้ออย่างรุนแรง เพียงเพราะการนั่งในรถเข็นของห้างสรรพสินค้า!!   ในเช้าวันหนึ่งคุณแม่ Vivienne Wardrop และลูกน้อยของเธอ ได้เดินทางไปช็อปปิ้งกันที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง โดยที่ทั้งคู่ไม่รู้เลยว่า มันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ ทำให้ลูกชายตัวน้อยต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลหลังจากนั้นนานถึง 10 วัน!!   เพราะเช้าวันต่อมา จู่ๆหนูน้อยวัย 10 เดือน ก็ป่วยอย่างกระทันหัน  คุณแม่จึงพาไปหาหมอ ก็พบว่าลูกชายตัวน้อยของเธอ ติดเชื้อไวรัสระบบทางเดินหายใจ ไวรัสโรต้า (ทำให้เด็กท้องร่วง) เชื้อซาลโมเนโลสิส (อาหารเป็นพิษ) และเยื่อหุ้มสมองอักเสบ   คุณหมอจึงถามไถ่คุณแม่ว่า ก่อนหน้านี้ได้เดินทางไปยังสถานที่ๆสุ่มเสี่ยงต่อเชื้อไวรัสเหล่านี้หรือไม่ เธอจำได้ว่าไม่ได้พาลูกน้อยไปที่ไหนเลย นอกจากห้างสรรพสินค้า และที่เดียวที่เธอปล่อยให้ลูกน้อยอยู่รอก็คือ ในรถเข็นของห้าง นั่นเอง นับว่าโชคดีที่คุณแม่พาหนูน้อยมาพบคุณหมอทัน แต่ถึงกระนั้นหนูน้อยยัคงต้องเฝ้ารักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล เป็นเวลานานถึง 10 วัน และต้องอยู่ต่ออีก…

เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2559 ทางเว็บไซต์ Huffingtonpost ได้เผยภาพพร้อมเรื่องราวของ Evelyn Moore หนูน้อยที่อาศัยอยู่ในเมืองเอดมันตัน ประเทศแคนาดา ที่เกิดมามีน่ารักตาน่ารักน่าเอ็นดู และร่าเริงสดใสเหมือนกับเด็กทั่วๆ ไป แต่ถึงกระนั้น เธอก็ไม่ได้เหมือนกับเด็กคนอื่นๆ ไปซะหมด เพราะมีบางสิ่งที่ทำให้ Evelyn ดูแตกต่างออกไป แต่นั่นไม่ใช่ปมด้อยของเธอหรอกนะ เป็นเพราะว่าเธอมีความผิดปกติทางร่างกายต่างหากละ     ขอเล่าย้อนเวลากลับไปตอนที่หนูน้อย Evelyn มีอายุได้เพียง 4 เดือน แพทย์ได้ทำการวินิจฉัยพบว่าเธอเป็นโรคเนื้องอกในกระดูกสันหลัง เธอได้รับการเปลี่ยนยาเคมีบำบัดถึง 8 รอบด้วยกัน และที่เลวร้ายไปกว่านั้นคือหนูน้อยได้กลายเป็นอัมพาตครึ่งซีก     อย่างไรก็ตาม แม้ว่าแพทย์จะบอกว่าเธอสามารถใช้รถเข็นได้ในภายหลัง แต่ Kimberly Moore ผู้เป็นแม่ก็อยากจะให้ลูกสาวของตัวเอง มีสภาวะปกติมากที่สุดเท่าที่จะเป็นได้ “เมื่อรู้ว่า Evelyn โรคเนื้องอกในกระดูกสันหลัง เราก็รู้สึกกังวลเกี่ยวกับการรักษาของเธอ พวกเขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะต้องทำประกันภัยสำหรับรถเข็นคนพิการ… แต่ Brad สามีของฉันได้บอกว่าเขาสามารถสร้างรถเข็นเองได้ภายในหนึ่ง ถึงสองวัน และแน่นอนว่าเขาก็สามารถสร้างเสร็จจริงๆ” Kimberly ได้เผยกับทางสำนักข่าว…

ปกติเวลาซื้อข้าวของให้เด็กทารกใช้ พ่อแม่แทบไม่เคยรู้เลยว่าของที่ซื้อมานั้นดีหรือเปล่า เพราะตัวเด็กเองก็ยังพูดไม่ได้ แต่จะให้พ่อแม่เด็กลงไปใช้งานเองก็ทำไม่ได้อยู่ดี ทางบริษัท Contours Bliss จากประเทศสหรัฐอเมริกาก็เล็งเห็นถึงปัญหานี้เช่นกัน พวกเขาจึงผลิต “รถเข็นทารกไซส์ผู้ใหญ่” ขึ้นมา เพื่อให้เหล่าพ่อแม่ได้ทดลองใช้ก่อนจะซื้อให้ลูก   มันถูกออกแบบมาเพื่อให้พ่อแม่ได้ลิ้มลองประสบการณ์การนั่งรถเข็นของลูก   ด้วยความที่เด็กพูดไม่ได้ พ่อแม่จึงต้องเป็นคนทดลองเอง ว่าดีหรือไม่ดี   โดยรถเข็นอันนี้ ถูกจำลองมาจากรุ่นที่ขายดีที่สุดของบริษัทชนิดที่ว่าเหมือนทุกตารางนิ้วเลยทีเดียว   ทีนี้พ่อแม่ก็จะได้รู้แล้ว ว่าเวลาลูกนั่งในรถเข็นเป็นยังไง .   ใครสนใจอยากลองนั่งดูซักครั้งมั้ยละ อิอิ   ฮ่าๆ ถือว่าเป็นไอเดียที่เยี่ยมไปเลย หวังว่าจะไม่มีผู้ใหญ่คนไหนซื้อรถเข็นมานั่งเองนะ ฮาาา ที่มา Boredpanda

เชื่อว่าเวลาไปห้าง สิ่งที่หลายคนชื่นชอบเป็นอย่างมากก็คือ รถเข็น นั่นเอง แต่รู้หรือไม่ หากเราใช้รถเข็นไม่ถูกวิธี นั่นอาจหมายถึงชีวิตของคุณเลยก็เป็นได้ อย่างเช่นชายหนุ่มสองคนนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจในเมือง Sydney ประเทศ Australia รายงานว่า มีชายหนุ่มสองคนวัย 28 ปี นำรถเข็นในห้องสรรพสินค้ามาเล่นด้วยการปล่อยให้ไหลลงจากเนินเขา ก่อนจะถูกรถคันหนึ่งชนเข้าอย่างจัง จนหนึ่งในสองหนุ่มนั้นเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ และอีกคนหนึ่งบาดเจ็บสาหัสกำลังดูอาการอยู่ที่โรงพยาบาล     หัวหน้าฝ่ายสืบสวน Christ Stiles ได้กล่าวว่า “พวกเขาทั้งสองนั่งอยู่ในรถเข็น ที่วิ่งด้วยความเร็วกว่า 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แสดงว่าพวกเขาต้องไหลมาไกลพอสมควรเลย” เขายังเล่าอีกว่าทั้งสองคนเป็นชาวสวีเดน หนึ่งในสองคนนั้นอาศัยอยู่ออสเตรเลียมา 2 ปีกว่าๆแล้ว และเพื่อนอีกคนก็มาเที่ยวหาเมื่อประมาณสัปดาห์ก่อน “พวกเขาคงหาอะไรสนุกๆทำกัน แต่มันกลับกลายเป็นอุบัติเหตุที่น่าเศร้าไปเสียได้”     ส่วนคนขับรถวัย 45 ปีที่เป็นคนชนนั้น ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด แต่อย่างไรก็ตาม เขาก็ต้องเข้ารับการตรวจหาแอลกอฮอล์และสารเสพติดอยู่ดี       จากเรื่องสนุกๆ กลายเป็นเรื่องน่าเศร้าเฉยเลย เห็นแบบนี้แล้วใครจะเล่นอะไรก็ระวังดีๆก่อนนะ ไม่งั้นอาจเกิดอันตรายแบบชายสองคนนี้ก็ได้ ที่มา The…

ปัจจุบัน Longboard หรือสเก็ตบอร์ดขนาดยาวนั้นกำลังได้รับความนิยมจากผู้คนไปทั่วโลกเลยทีเดียว และด้วยความสนุกสนานไหลลื่นของมันนั่นเอง ทำให้มีนักออกแบบชาวยุโรปรายหนึ่ง นำมันมาดัดแปลงกับรถเข็นเด็ก และเปลี่ยนให้มันกลายเป็นยานพาหนะที่น่าสนุกกว่าที่เคยล่ะ       เจ้ารถเข็นเด็กนี้ถูกออกแบบมาให้มีราวจับ มีเบรคมือ เพื่อให้คุณพ่อสามารถเบรคมันได้อย่างทันท่วงที และเพื่อเพิ่มความมั่นใจ คุณพ่อก็ควรจะใส่หมวกกันน็อคให้กับลูกๆ ของคุณด้วยนะ       หากใครอยากจะเป็นเจ้าของรถเข็นเด็กแบบลูกผสมคันนี้ล่ะก็ สามารถเข้าไปตามอ่านรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ quinny.com ได้เลยนะ เขาตั้งราคาไว้ที่ 599 ยูโร หรือประมาณ 23,198 บาทนั่นเอง (แพงเอาเรื่องอยู่เหมือนกันนะเนี๊ยะ)       ที่มา boredpanda

ในยุคปัจจุบัน หลายคนอาจเสื่อมศรัทธาในความรัก น้อยคนนักจะเชื่อว่า ในโลกนี้มีคนคนหนึ่งที่พร้อมอยู่ดูแลพวกเขา ไม่ว่าพวกเขาจะยากลำบากขนาดไหน แต่ถ้าพวกเขาได้เห็นสิ่งที่คู่รักวัยไม้ใกล้ฝั่งสองคนนี้ทำให้กัน พวกเขานั้นคิดผิด คุณตา Xu Suobao วัย 79 ปีท่านนี้ ได้แต่งงานกับคุณยาย Zhoushu Di มาเป็นเวลากว่า 60 ปีแล้ว โชคร้าย คุณยาย  Zhoushu Di ป่วยเป็นโรครูมาตอยด์ทำให้เธอไม่สามารถเดินได้ ด้วยความรักความห่วงใย คุณตา Xu จึงดัดแปลงรถเข็นคันนี้ขึ้นมา   “เธออยากไปโน่นไปนี่เสมอ บางทีก็อยากไปสวนสาธารณะ บางทีก็ต้องไปโรงพยาบาล ซึ่งปกติเธอก็ขับรถเข็นของเธอไปนั่นแหละ ส่วนผมก็เดินไป แต่หลังๆร่างกายผมไม่แข็งแรงเหมือนเดิม ผมไม่สามารถเดินระยะไกลๆได้อีกแล้ว ผมจึงดัดแปลงรถเข็นของเธอซักเล็กน้อย”   คุณตา Xu ได้ตัดแปงให้รถเข็นของคุณยาย มาพ่วงท้ายแบบพิเศษ ที่คุณตาสามารถขึ้นไปนั่งได้ ทำให้พวกเขาสามารถไปไหนมาไหนด้วยกัน โดยไม่ต้องเดินให้เหนื่อยอีกแล้ว   ถ้าไม่ใช้ ก็สามารถพับเก็บได้ ไม่เกะกะแต่อย่างใด   ชาวเมืองที่พบเห็น ต่างประทับใจในความรักของทั้งสองคน แม้อายุมากขนาดนี้ พวกเขาก็ยังคงดูแลกันไม่ห่าง ชาวเมืองจึงขนานนามรถเข็นคันนี้ว่า “รถเข็นแห่งรัก”…

เรื่องราวของวัยรุ่นชาวรัสเซียนามว่า Sergei Kutovoy ที่เติบโตในกรุง Moscow โดยที่เขานั้นได้ใช้ชีวิตตามสไตล์วัยรุ่นทั่วไป ออกไปเที่ยวกับเพื่อน จีบหญิงตามประสา จนกระทั่งเมื่อถึงช่วงอายุ 17 ปี เป็นจุดที่เปลี่ยนชีวิตเขาไปตลอดกาล     โศกนาฏกรรมร้ายแรงจากอุบัตเหตุรถชน ส่งผลทำให้เขาต้องสูญเสียขาไปหนึ่งข้าง กลายมาเป็นผู้พิการที่ต้องอยู่บนวีลแชร์ตลอดชีวิต และนำไปสู่ความซึมเศร้าที่อยู่ในห้วงลึกของจิตใจ จนกระทั่งน้ำหนักตัวเขาเพิ่มไปจนถึง 136 กิโลกรัม!!     เมื่อเริ่มรู้ตัวว่าเคลื่อนไหวไปไหนก็ลำบากยิ่งกว่าเดิม นอกจากจะพิการแล้วยังมีพฤติกรรมซึมเศร้าและเป็นโรคอ้วนอีก เขาตระหนักได้ว่าไม่อยากโศกนาฏกรรมนี้กลืนกินชีวิตของเขา ก็เลยตัดสินใจเปลี่ยนแปลงชีวิตตัวเองด้วยการออกกำลังกายอย่างจริงจัง!!     ด้วยความช่วยเหลือของเพื่อนๆ และเทรนเนอร์ส่วนตัว นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ในทางที่ดีขึ้น ภายหลังสองปีจากอุบัติเหตุรถชนในครั้งนั้น เขาสามารถฟิตหุ่นตัวเอง จากหนุ่มอ้วนพิการซึมเศร้ากลายมาเป็นหนุ่มวีลแชร์หุ่นดี ทั้งล่ำ ทั้งแซ่บ ได้ขนาดนี้                       แม้ว่าร่างกายจะพิการ แต่ไม่ยึดติดกับอดีตอันเลวร้ายที่ไม่สามารถย้อนกลับไปแก้ไขได้ ทำปัจจุบันให้ดีที่สุดก็ถือว่าเยี่ยมยอดแล้วล่ะ ปัจจุบันเขามีแฟนใหม่แล้วด้วยนะเนี่ย ที่มา :…