Tag: รวย
-
ชาวเน็ตแห่แชร์ภาพบัตรคนจนและเงิน 500 จากรัฐ แต่ใส่ทองและขับรถกันรึ่ม?
สำหรับประเทศไทยบ้านเรา ที่ต้องยอมรับว่าแม้จะมีเศรษฐีเดินให้เกลื่อนกลาด แต่ขณะเดียวกันนั้นเองก็ยังคงมี คนยากคนจน ที่รายได้น้อยอยู่จำนวนมากเช่นกัน ทางรัฐบาลจึงออกมาตรการช่วยเหลือ โดยให้ผู้มีรายได้น้อยนั้นมาลงทะเบียนรับ “บัตรคนจน” (บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ) เพื่อรับสวัสดิการดีๆ จากภาครัฐนั่นเอง ล่าสุด ในวันที่ 9 ธันวาคม 2561 ทางรัฐบาลก็ได้ทำการมอบสวัสดิการเป็นเงินจำนวน 500 บาทกับผู้ถือบัตรคนจนทุกคน ทำให้ชาวเน็ตที่ได้รับสวัสดิการครั้งนี้ ออกมาโพสต์ภาพโชว์กันเป็นแถว ประเด็นอยู่ตรงที่ บางคนมีการโพสต์ภาพอวดเงิน 500 บาท แต่ในภาพกลับพบว่ามีการ ขับรถยนต์และสวมเครื่องประดับมูลค่าสูง ชาวเน็ตจึงสงสัยว่าผู้คนเหล่านี้เป็น “คนจน” จริงๆ หรือ? ถ้าคนเหล่านี้ มิได้เป็นผู้มีรายได้น้อยจริง แต่กลับสามารถลงทะเบียนทำบัตรคนจนได้ มันก็จะสะท้อนให้เห็นถึงการดำเนินงานที่คลุมเครือของรัฐบาล และทำให้เกิดคำถามว่า “แบบนี้เข้าข่ายเอาเปรียบหรือไม่?” คนจน?? เราก็ได้สิทธิ์นะ ค่าแชร์ เข้าใจว่า บางคนอาจจะเพิ่งมา “รวยภายหลัง” แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นจริงๆ มันก็สะท้อนให้เห็นการจัดการของระบบนี้หละหลวม เพราะหากวันหนึ่งมีคนจริงๆ แล้วดันรวยขึ้นมาภายหลัง เขาก็ยังคงจะได้รับสวัสดิการจากรัฐเทียบเท่าคนที่มีรายได้น้อยอยู่อย่างนั้นหรือ? ขอบคุณภาพจาก: ควาย+Social Smile
-
เศรษฐีมาเลฯ “ทำร้ายร่างกาย” พนักงานลานจอดรถ ยืนยันจะไม่ยอมจ่ายค่าจอด 24 บาท…
นักธุรกิจชาวมาเลเซียคนหนึ่งกำลังถูกสอบสวนหลังพบหลักฐานเป็นคลิปวิดีโอที่เขาได้ทำร้ายพนักงานลานจอดรถทั้งทางวาจาและร่างกาย โดยมีเหตุมาจากเงินจำนวน 3 ริงกิตมาเลเซีย (ประมาณ 24 บาท) ตามรายงาน ทราบว่าเหตุเกิดในลานจอดรถของโรงแรมห้าดาวแห่งหนึ่งในกัวลาลัมเปอร์เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2018 ภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่า นักธุรกิจชายสูงวัยเดินเข้ามายังห้องทำงานของพนักงานดูแลลานจอดรถ และกระทำความรุนแรง ขว้างปาวิทยุสื่อสารใส่พนักงานคนดังกล่าว จากนั้นนักธุรกิจก็เดินเข้ามาในห้องทำงาน พร้อมทำท่าทางจะทำร้ายร่างกาย จากนั้นเขาก็ผลักเก้าอี้ก่อนที่จะชกพนักงานคนดังกล่าวหลายครั้ง ชมคลิปวิดีโอ วิดีโอถูกโพสต์ลงบนเฟซบุ๊ก Balamuraly Doraisamy เมื่อวันอังคารที่ 9 ตุลาคม 2018 ซึ่งอัปโหลดพร้อมกับภาพรถของนักธุรกิจดังกล่าว “พนักงานจำเป็นต้องดำเนินการกับชายคนนี้เพราะชายคนนี้คิดว่าตัวเองนั้นเป็นท่านขุนที่เหนือกว่าคนอื่นๆ ที่จะทำอะไรกับใครก็ได้ ผมคิดว่าเรื่องนี้ถูกรายงานกับตำรวจเรียบร้อยแล้วแต่ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ อย่างไรก็ตามช่วยแชร์คลิปนี้ต่อๆ กันจนกว่าชายคนนี้จะถูกดำเนินการตามกฎหมาย” ภายหลังทราบมาว่านักธุรกิจวัยกลางคนผู้นี้ เกิดอารมณ์เสียหลังพนักงานลานจอดรถวัย 31 ปี ไม่ยอมเปิด “ไม้กั้น” ทางออกให้กับเขา เนื่องจากเขาไม่ยอมจ่ายค่าจอดรถเป็นจำนวนเงิน 3 ริงกิตมาเลเซีย (24 บาทไทย) ทำให้นักธุรกิจคนดังกล่าวลงจากรถมาระบายอารมณ์กับพนักงานอย่างเต็มที่ ทั้งด่าทอและทำร้ายร่างกาย จนพนักงานลานจอดรถเกิดรอยฟกช้ำหลายจุดบนร่างกาย .…
-
‘ปั๊กปั๊ก’ อาหารที่ปรุงจาก “เศษขยะ” เลี้ยงปากท้องคนจนในฟิลิปปินส์ให้อิ่มในราคา 7 บาท
อาหาร คือสิ่งที่จำเป็นที่สุดในการดำรงอยู่ของทุกชีวิต รวมไปถึงเผ่าพันธุ์มนุษย์ด้วยเช่นกัน สำหรับมนุษย์บางกลุ่มอาหารนั้นเป็นสิ่งที่หาได้ไม่ยากนัก แต่ขณะเดียวกันเองก็มีมนุษย์อีกจำนวนไม่น้อยที่ “อาหาร” เป็นสิ่งที่หาได้อย่างยากลำบาก และพวกเขาก็พร้อมจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มาซึ่งอาหารเลี้ยงปากท้อง ตัวอย่างเช่น “ปั๊กปั๊ก” วิธีการหนึ่งที่ผู้คนในชุมชนสลัมของฟิลิปปินส์ใช้เพื่อเข้าถึงอาหาร ปั๊กปั๊กคือเศษอาหารเหลือจากกองขยะรายวัน ที่ถูกนำมาปรุงใหม่เพื่อขายให้คนจนได้ทานในราคาเพียง 7 บาทเท่านั้น ประเทศฟิลิปปินส์ที่ปัจจุบันมีประชากรมากถึง 100 ล้านคนเข้าไปแล้ว รวมถึงวัฒนธรรมในประเทศที่ผสมผสานอย่างหลากหลายทำให้เกิดช่องว่างระหว่างคนจนและคนรวยขนาดใหญ่ กลายเป็น ความเหลื่อมล้ำทางสังคม ที่ยากเกินจะแก้ไข ผู้คนที่มีอันจะกิน เจียดเงินเพียงเล็กน้อยแลกกับอาหารระดับกลางที่ทานจนเบื่อและบางครั้งก็ทานไม่หมด ของเหลือจากผู้ร่ำรวยเหล่านี้นี่เองที่กลายเป็นอาหารมื้อสวรรค์ของบรรดาผู้ที่ตกอยู่ภายใต้ความยากจนแร้นแค้น ขั้นตอนของการทำปั๊กปั๊กเริ่มขึ้นตั้งแต่หัวค่ำของวัน รถเก็บขยะจะไปรอที่ร้านอาหารต่างๆ รวมถึงร้านอาหารฟาสต์ฟู้ด เพื่อรีบเก็บขยะจากร้านและนำไปคัดแยก การคัดแยกจะทำจนถึงเช้ารุ่งของอีกวัน ส่วนใหญ่จะคัดเอาพวกกระดูกไก่ที่ติดเนื้อมากกว่าจะเอาเนื้อหมู เพราะพวกเขาคิดว่าเนื้อหมูมีไขมันเยอะและอาจติดโรคได้ง่าย . เมื่อคัดแยกเสร็จแล้วก็นำไปขายให้กับร้านอาหารชุมชน ทางร้านก็จะรีบนำเศษอาหารเหล่านี้ไป “ล้างน้ำเปล่า” ราว 4 รอบจนกระทั่งน้ำล้างไม่ขุ่นมัวและไม่มีเศษดินติดออกมา ล้างเสร็จก็จัดแจงปรุงเป็นเมนูอันโอชะ ทำเป็นสตูว์พื้นเมืองของฟิลิปปินส์ ซอสมะเขือเทศนั้นเป็นสิ่งสำคัญของปั๊กปั๊กเลยก็ว่าได้ ต้องใส้ให้เยอะเข้าไว้เพราะนอกจากจะช่วยให้รสชาติที่ดีขึ้นแล้วยังช่วยกลบกลิ่นต่างๆ ที่ติดมาจากกองขยะอีกด้วย อาหารที่ปรุงเสร็จก็จะออกมามีหน้าตาแบบนี้ นี่แหละที่พวกเขาเรียกกันว่า “ปั๊กปั๊ก” …
-
10 อันดับ “เซเลบ” กับค่าตอบแทนที่ได้จากการโพสต์ ‘อินสตาแกรม’ เพียงโพสต์เดียว!!!
ใครว่า โซเชียลมีเดีย ไม่มีประโยชน์ สมัยนี้การเป็นเน็ตไอดอล หรือการที่โด่งดังบนอินเทอร์เน็ตนั้นสามารถทำเงินได้มากมายมหาศาลขึ้นอยู่กับว่าเรานั้นโด่งดังขนาดไหน (วัดจากยอดผู้ติดตาม) หลายคนคงทราบกันดีว่าเว็บไซต์ Youtube นั้นเป็นแหล่งทำเงินชั้นยอด หลายคนจึงผันตัวเป็น ยูทูบเบอร์ กันมากมาย ขณะเดียวกัน Instagram เองก็ตอบแทนคุณไม่น้อยเลยหากคุณมีผู้ติดตามหลักแสนหลักล้าน วันนี้เราลองไปชม 10 อันดับคนดัง ที่มียอดผู้ติดตามหลายล้าน ดูกันซิว่าเมื่อพวกเขาโพสต์ภาพบนอินสตาแกรมแต่ละที จะได้เงินมากมายมหาศาลขนาดไหน!! (จากน้อยไปมาก) 10. Kendall Jenner ยอดผู้ติดตาม: 93 ล้านคน รายได้ต่อหนึ่งโพสต์: 16.3 ล้านบาท!! 9. Lionel Messi ผู้ติดตาม: 97 ล้านคน รายได้ต่อหนึ่งโพสต์: 16.3 ล้านบาท (เท่ากับ Kendall) 8. Neymar da Silva Santos Junior ผู้ติดตาม: 100 ล้านคน รายได้ต่อหนึ่งโพสต์: 19.55…
-
คลิปสัมภาษณ์ ‘สาวๆ ชาวจีน’ เงินหรือนิสัยสำคัญกว่ากันในการ ‘เลือกคู่ครอง’!!
(คำเตือน: เนื้อหาในบทความเป็นเพียงความคิดส่วนบุคคลเท่านั้น ไม่สามารถเหมารวมถึงประชากรทั้งหมดได้) ชาวจีนรวมถึงชาวเอเชียหลายๆ ประเทศมักถูกมองว่ามีความเป็น วัตถุนิยม ค่อนข้างสูง และยิ่งเมื่อกระแสภาพยนตร์เรื่อง Crazy Rich Asians โด่งดังไปยังนานาประเทศก็ยิ่งตอกย้ำความคิดนี้เข้าไปใหญ่ ทางแชแนลยูทูบ Asian Boss จึงได้ออกไปทำการสำรวจสาวจีนหลายๆ คนถึงสิ่งที่พวกเธอหวังจะได้รับจากชายหนุ่ม เพื่อวัดดูว่าสาวจีนส่วนมากนั้นนิยมในวัตถุมากกว่าบุคคลจริงๆ อย่างที่ชาวโลกมองหรือไม่ คลิปวิดีโอสัมภาษณ์สาวจีนในหัวข้อ “วัตถุนิยม” โดยการถามถึงวิธีการเลือกคู่ครอง คลิปวิดีโอถูกโพสต์เมื่อวันพุธที่ 5 กันยายน 2018 คำถามหลักๆ ที่ผู้สัมภาษณ์เข้าไปถามกับสาวๆ ชาวจีนในพื้นที่ คือให้เลือกว่าสิ่งใดสำคัญกว่ากันหากจะเลือกคู่ครอง ระหว่างเงินและบุคลิก คำตอบจะออกมามีแนวโน้มไปทางไหนเราลองไปชมพร้อมๆ กันเลย… สาวๆ บางคนบอกว่า “เงินคือสิ่งสำคัญอันดับแรกเลยเวลาเลือกแฟน” บางคนก็บอกว่า “เงินซื้อไม่ได้ทุกสิ่งก็จริง แต่ถ้าไม่มีมันคุณก็ทำอะไรไม่ได้เลยเช่นกัน” “เงินซื้อไม่ได้ทุกสิ่งก็จริง แต่ถ้าไม่มีมันคุณก็ทำอะไรไม่ได้เลยเช่นกัน” ขณะที่บางส่วนก็ตอบว่าสิ่งสำคัญก็คือ ความพยายามและความทะเยอทะยาน เหตุผลก็เพราะว่าบุคคลที่มีสองสิ่งนี้ในจะจบลงด้วยการเป็นคนจนอย่างแน่นอน ส่วนสาวๆ บางกลุ่มก็กล่าวว่าสิ่งที่สำคัญก็คือ ความมั่นคงทางการเงิน เพราะต่อให้มีเงินมากมายแต่ไม่มั่นคงก็ไม่อาจจะมีความสุขในระยะยาวได้ พอถึงช่วงที่ผู้สัมภาษณ์ถามถึงว่าพ่อแม่ของสาวๆ คิดอย่างไรหากพวกเธอมีแฟนที่ฐานะยากจน คำตอบส่วนใหญ่ก็ออกมาว่า พ่อแม่ของพวกเธอมักไม่ให้การยอมรับชายที่ตกงานหรือว่ายากจน…
-
หนุ่มผู้ดีลงทุนซื้อ “ตู้เซฟที่เปิดไม่ออก” มาเปิดเองที่บ้าน สิ่งที่พบคือขุมสมบัติชัดๆ !!!
การจะได้มาซึ่งรายได้นั้นย่อมต้องมีการลงทุน บางคนก็นำไปเปิดกิจการส่วนตัว บ้างก็นำไปเล่นหุ้น หรือบางคนก็นำไปสมทบกับกองทุนต่างๆ เพื่อรอแบ่งปันรายได้ แต่สำหรับ Tom Stanniland เจ้าหนุ่มอังกฤษคนนี้เขาได้นำเงินราว 65,000 บาทไปลงทุนกับการ ซื้อตู้เซฟเก่าๆ ที่เปิดไม่ออก มาเป็นของตัวเอง ด้วยความหวังว่าข้างในตู้เซฟจะมีของล้ำค่า เขาจัดแจงทำการเปิดตู้เซฟนี้ด้วยความหวัง เมื่อเจาะรูที่ตู้ได้สำเร็จ เขาก็ควานมือลงไปในตู้ ซึ่งมีทั้งกระเป๋าสตางค์ จดหมาย เอกสารต่างๆ และที่น่าสนใจก็คือเขาได้พบกับถุงที่บรรจุแหวนวงงามวงหนึ่ง ที่ทำให้เขาและภรรยาเริ่มมีความหวังมากขึ้น ต่อมาเขาพบถุงอีกใบหนึ่ง ซึ่งภายในบรรจุ เพชรเม็ดงามขนาดใหญ่เท่าไข่ไกเบอร์ 0 พร้อมเศษเพชรเล็กๆ อีกมากมาย นั่นทำให้ภรรยาของ Tom ถึงกับกรีดร้องออกมาด้วยความมหัศจรรย์ใจ เท่านั้นยังไม่พอ เพราะมันยังมีของข้างในอยู่ เขาล้วงลงไปอีกครั้ง และสิ่งที่เขาพบก็คือ ทองคำแท่ง 2 แท่งแวววับ ทำให้เขาและภรรยาแทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง ลองชมคลิปวิดีโอเต็มๆ กันเลยดีกว่า ความตื่นเต้นนี้มันอะไรกัน!? ทุกการลงทุนมีความเสี่ยง! คุณอาจเปิดตู้มาแล้วไม่เจออะไรเลยก็เป็นได้ แต่หากโชคดีก็อาจจะเป็นอย่างชายคนนี้ที่กลายเป็นเศรษฐีไปเลย ที่มา: Kill’em และ ck101
-
สิ่งที่สะท้อนผ่าน “ของเล่นเด็ก” เหล่านี้ คือคุณภาพชีวิตของแต่ละบ้านที่ฐานะแตกต่างกัน
Anna Rosling Rönnlund ริเริ่มก่อตั้งทีมนักถ่ายภาพให้ออกไปถ่ายภาพของ 264 ครัวเรือนจำนวน 50 ประเทศ โดยในแต่ละบ้านที่พวกเขาเข้าไปถ่ายนั้นจะใช้เวลาเกือบทั้งวัน พวกเขาต้องถ่ายสิ่งของราว 135 ชิ้นในบ้านนั้นๆ เช่น รองเท้า แปรงสีฟัน หรือแม้แต่ของเล่นที่พวกเขามีให้กับลูกๆ สิ่งของเหล่านี้จะแสดงให้เห็นถึง สภาพความเป็นอยู่ คุณภาพชีวิต และรายได้ของแต่ละครอบครัว สิ่งที่เราจะนำมาให้ทุกท่านได้พินิจพิจารณากันในวันนี้ก็คือ ภาพของเล่นเด็ก ในแต่ละบ้าน ที่จะสะท้อนให้เห็นถึงความแตกต่างทางสังคม บางครอบครัวที่มีรายได้หลักแสนต่อเดือน ของเล่นลูกๆ ก็จะเป็นแบบหนึ่ง ส่วนครอบครัวที่มีรายได้ต่อเดือนหลักพัน ก็จะมีของเล่นให้กับลูกๆ อีกแบบที่ต่างกันไป ลองไปชมภาพเหล่านั้นกันเลยดีกว่า… ครอบครัวในประเทศบูร์กินาฟาโซ รายได้ 931 บาท ต่อผู้ใหญ่ 1 คน/เดือน ของเล่นที่ดีที่สุดของหนูก็คือ ยางรถเก่าๆ ครอบครัวในประเทศบุรุนดี รายได้ 931 บาท ต่อผู้ใหญ่ 1 คน/เดือน ของเล่นแสนสนุกของผมคือ หัวปลี ครอบครัวในประเทศอินเดีย รายได้ 995 บาท ต่อผู้ใหญ่ 1…
-
10 อันดับอภิมหึมามหาเศรษฐี เหล่าบุคคลที่ร่ำรวยและมั่งคั่งที่สุดในสยามประเทศ
หากพูดถึงคำว่า มหาเศรษฐี สิ่งที่เราจะนึกถึงเป็นอย่างแรกเลยก็คือคนที่ร่ำรวย มั่งคั่ง มีเงินมากมายมหาศาล และนั่นอาจเป็นเป้าหมายในชีวิตของใครหลายๆ คน เพราะอย่างที่พวกเราเข้าใจว่าเงินมันช่วยให้เราสามารถทำอะไรหลายๆ อย่างได้มากจริงๆ ถึงอย่างนั้น ในวันนี้ #เหมียวตะปู ก็ไม่ได้มาพูดถึงหนทางที่จะทำให้เรากลายเป็นมหาเศรษฐี หากแต่กำลังพูดถึง “10 อันดับสุดยอดอภิมหึมามหาเศรษฐีในบ้านเรา” ที่ถูกจัดอันดับโดยนิตยสาร Forbes เราลองไปชมกันดูว่ามีใครกันบ้าง และพวกเขามีทรัพย์สินอยู่มากขนาดไหนกันเชี่ยว อันดับที่ 1 ตระกูลเจียรวนนท์ (เครือเจริญโภคภัณฑ์) มูลค่าทรัพย์สิน : 9.377 แสนล้านบาท เจริญโภคภัณฑ์ หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ CP ที่ไม่ได้ประกอบธุรกิจแค่การเกษตรและอาหารเพียงอย่างเดียว แต่มันยังรวมไปถึงบริษัทการโทรคมนาคมอย่าง True Corperation หรือห้างสรรพสินค้า แมคโคร อีกด้วย อันดับที่ 2 ครอบครัวจิราธิวัฒน์ (เครือเซ็นทรัล) มูลค่าทรัพย์สิน : 6.627 แสนล้านบาท นี่คือโฉมหน้าเจ้าของธุรกิจห้างสรรพสินค้ารายใหญ่ที่สุดในบ้านเรา เพราะมองไปทางไหนเราก็จะเจอแต่เซ็นทรัลเต็มไปหมด รวมถึง โรบินสัน ก็ด้วย และยังมีอีกหลายธุรกิจที่อยู่ในเครือนี้ ไม่ว่าจะเป็น ร้านหนังสือ B2S ,…
-
ส่องบ้านของมหาเศรษฐีอินเดีย สูงถึง 173 เมตร มีทั้งหมด 27 ชั้น ใช้คนดูแล 600 คน!?
สิ่งที่เรากำลังจะนำเสนอต่อไปนี้ จะเรียกว่า “บ้าน” ก็กระไรอยู่ เพราะมันยิ่งใหญ่มโหฬารราวกับห้างสรรพสินค้า หรือโรงแรมระดับ 5 ดาวยังไงยังงั้น แต่มันก็คือบ้านจริงๆ ของมหาเศรษฐีชาวอินเดียที่ชื่อว่า Mukesh Ambani จากข้อมูลของเว็บไซต์ Businessinsider ระบุว่านาย Mukesh Ambani เป็นนักธุรกิจที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศอินเดีย โดยทรัพย์สินของเขามีมูลค่าสูงถึง 22,300,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ ย้อนกลับไปในปี 2012 นาย Mukesh ภรรยาและลูกๆ อีก 3 คนได้ย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านที่แพงที่สุดในโลก โดยเขาตั้งชื่อให้มันว่า Antilia (ตั้งชื่อตามเกาะที่เป็นตำนานในมหาสมุทรแอตแลนติก) บ้านหลังนี้ตั้งอยู่ในนครมุมไบ ประเทศอินเดีย บ้านหรืออาคารหลังนี้มีความสูงอยู่ที่ 173 เมตร มีทั้งหมด 27 ชั้น มีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 36,000 ตารางเมตร มีการประเมินราคาแล้วอยู่ที่ราวๆ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ภาพประตูทางเข้าด้านหน้า มีสิ่งอำนวยความสะดวกเช่นลิฟต์ ที่มีถึง 9 ตัว มีสระว่ายน้ำ โรงภาพยนตร์ขนาด 50 ที่นั่ง…
-
สาว 18 ปี ถูกลอตเตอรี่รางวัลใหญ่ ได้เงินใช้สัปดาห์ละ 30,000 บาท ไปตลอดชีวิต!!
เราคงเคยเห็นข่าวผู้คนถูกหวยเป็นล้านๆ มาแล้วเป็นไม่รู้กี่ร้อยครั้ง แต่ข่าวถูกหวยที่เรากำลังจะเล่าต่อไปนี้มันกลับแตกต่างออกไป เพราะแทนที่ผู้ถูกรางวัลจะได้เงินเป็นก้อนเดียวแล้วจบ เธอกลับเลือกที่จะรับเงินเป็นก้อนเล็กๆ ไปเรื่อยติดต่อกันนาน 17 ปี Charlie Lagarde จากรัฐควิเบก ประเทศแคนาดา เธอเล่าว่าเมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2018 ที่ผ่านมาเป็นวันเกิดของเธอ เธอเลยออกไปซื้อแชมเปญและลอตเตอรี่เพื่อเฉลิมฉลองกัน แต่ปรากฎว่าลอตเตอรี่ที่เธอซื้อมาเล่นๆ ดันถูก ทำให้เธอได้รับเงินรางวัลเป็นจำนวน 780,000 ดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นเงินไทยก็ราวๆ 24,300,000 บาท แต่เธอมีทางเลือกว่าจะรับเงินทั้งก้อนแบบรวดเดียวเลย หรือว่ารับแค่ 1,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อสัปดาห์ หรือราวๆ 31,000 บาท ไปตลอดชีวิต นั่นทำให้เธอเริ่มคิดหนักจนต้องไปปรึกษากับที่ปรึกษาทางด้านการเงิน จากนั้นเธอก็ตัดสินใจเลือกแบบหลังมากกว่า เพราะไม่ต้องเสียภาษีด้วย Patrice Lavoie ตัวแทนจากบริษัทลอตเตอรี่กล่าวว่า “นั่นคือลอตเตอรี่ใบแรกของเธอเลย และเธอก็ดันถูกรางวัล” Charlie ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่าหลังจากนี้เธอจะนำเงินรางวัลที่ได้ไปใช้จ่ายในด้านการศึกษา “ฉันอยากจะเรียนถ่ายภาพ หนึ่งในความฝันของฉันคือการได้ทำงานกับ National Geographic ค่ะ” ที่มา bbc, abc.net.au
-
นักธุรกิจจีนจ่ายเงินกว่า 100 ล้านบาท หวังได้จั้มบ๊ะกับสาว Megan Fox แต่เสียดายสาวไม่มา!?
บางครั้งจุดจบของสายเปย์นั้นก็อาจจะไม่ได้สวยงามอย่างที่คุณหวังไว้ เพราะขนาดเศรษฐีจีนรายหนึ่งที่ยอมควักเงินกว่า 100 ล้านบาท ก็ยังแห้วมาแล้วเลย!! นาย Yu ‘Martin’ Xu อ้างว่าเขาได้จ่ายเงินให้กับบริษัทจัดหาสาวงามอย่าง Royal Court Escort จากแดนจิงโจ้ เพื่อขอเสพความสุขร่วมกับนักแสดงสาวสุดฮอตอย่าง Megan Fox นางแบบวิกตอเรียซีเครท Candice Swanepoel และนักแสดงสาวจีนลูกครึ่งเยอรมัน Angelababy แต่ท่านเศรษฐีของเรากลับต้องรับประทานแห้วและกลับไปซ้อมน้องชายตัวเอง หลังจากที่เรื่องดังกล่าวเป็นเพียงแค่การขายฝันเท่านั้น โถ่!! เศรษฐีหนุ่มบอกว่าบริษัทดังกล่าวตกลงที่จะจัดความบันเทิงครั้งนี้ให้เขาอย่างเต็มที่ ถ้าหากเขายอมจ่ายเงินมูลค่า 3.7 ล้านเหรียญ (ประมาณ 116 ล้านบาท) รวมถึงค่าเดินทางและที่พักสำหรับสาวสวยทั้ง 3 คนอีกด้วย “ถ้าหากผมจ่ายเงิน 3.7 ล้านเหรียญ บริษัทดังกล่าวจะพา Megan Fox, Candice Swanepoel และ Angelababy มาให้กับผม” เศรษฐีชาวจีนกล่าว แต่หลังจากที่เศรษฐีของเราโอนเงินเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สาวงามทั้ง 3 คนที่ทางบริษัทได้บอกไว้กลับไม่มาตามนัดซะงั้น!? เมื่อเดือนกรกฎาคม 2014 นาย Xu ได้จ่ายเงินให้กับบริษัทดังกล่าวไป 24,000 เหรียญสหรัฐฯ (755,000 บาท)…
-
คลิปสาวไทยเซอร์ไพรส์แฟน ด้วยช่อดอกเงิน 100,000 บาท ตอนนี้ดังไกลถึงต่างประเทศแล้ว
เมื่อหลายวันก่อน หลายคนคงจะได้เห็นคลิปเหตุการณ์ของหญิงสาวคนหนึ่งที่เซอร์ไพรส์แฟนหนุ่มด้วยช่อดอกเงิน ซึ่งคลิปนั้นคงจะทำให้คู่รักและคนโสดหลายคนอิจฉาตาร้อนกันเป็บแถบๆ แต่ประเด็นมันไม่ได้อยู่ตรงนั้น เพราะปัจจุบันคลิปนี้ดังไกลไปทั่วโลกแล้วจ้า!! คลิปดังกล่าวนั้นเป็นคลิปของคุณ Bam BarBie Pilaslak หรือคุณ แบม วัย 20 ปี ซึ่งเธอได้ใช้เงินที่หาจากการขายเครื่องสำอางออนไลน์มาทำเป็นช่อดอกไม้ที่คิดเป็นเงินกว่า 100,000 บาท มามอบให้กับแฟนหนุ่มที่ชื่อว่าคุณ ‘ตั้ว‘ วัย 25 ปี แน่นอนว่าทั้งคู่นั้นดูมีความสุขมากๆ โดยคุณแบมได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า เธอมอบของขวัญนี้ให้กับแฟนหนุ่มเนื่องในวันเกิดและวันวาเลนไทน์ที่จะถึงนี้ ส่วนสาเหตุที่เธอเลือกจะมอบช่อเงินให้กับแฟนหนุ่มเพราะ ในตอนแรกเธอเคยถามแฟนหนุ่มแล้วว่าอยากได้อะไรเป็นของขวัญ ซึ่งคุณตั้วตอบกลับมาว่า ‘อะไรก็ได้ที่เป็นของที่ผู้ชายเขาชอบ’ แน่นอนว่าแฟนสาวก็คิดไม่ออกว่าจะให้อะไร ฉะนั้นมันจึงเกิดเป็นช่อเงินขึ้นมานั่นเอง ด้านคุณตั้วบอกว่าเขาไม่ได้คาดหวังว่าจะได้อะไรแพงๆ แบบนี้ ซึ่งเจ้าตัวคาดไว้แค่เค้กสักก้อนจากแฟนสาวแค่นั้นก็พอแล้ว ซึ่งเหตุการณ์นี้ก็เป็นภาพเหตุการณ์น่ารักๆ จนทำให้ชาวเน็ตมากมายต่างพากันอิจฉาตาร้อนและขอให้แฟนตัวเองทำแบบนี้บ้าง แต่นั่นก็เป็นแค่ความคิดเห็นส่วนใหญ่จากชาวไทย แล้วชาวเน็ตจากต่างชาติละเขาคิดอย่างไรกับคลิปเหตุการณ์นี้? เราลองมาดูกัน… ชาวเน็ตคนนี้บอกว่าแฟนสาวนั้นสวยอยู่แล้ว ต่อให้หนุ่มไม่ได้ช่อดอกไม้เขาก็โชคดีที่มีเธอ “ถ้าผู้หญิงทำแบบนี้ให้กับผู้ชาย แสดงว่าเธอรักเขามากๆ หวังว่าพระเจ้าจะอวยพรและขอให้โชคดีนะ” “มันจะดีนะ ถ้าแฟนหนุ่มเอาเงินนี้ไปใช้ในวันวาเลนไทน์เพื่อฉลองหรือซื้ออะไรสักอย่างให้กับแฟนสาวหรือทั้งคู่” …
-
9 เรื่องราวสุดบ้าที่มี “เงิน” มาเกี่ยวข้อง ทำให้รู้ว่าเงินมีอิทธิพลกับคนมากขนาดไหน
คงไม่มีใครเถียงหรอกว่าปัจจุบันเงินเป็นปัจจัยสำคัญในการใช้ชีวิตจริงๆ แค่ก้าวเท้าออกจากบ้านก็มีเรื่องให้ต้องเสียเงินกันเสียทุกครั้งแล้ว ถ้าไม่มีเงินจะอยู่ยังไงล่ะ จะไปใช้ชีวิตปลูกผักกินเองแบบชาวไร่ในสมัยก่อนก็ไม่ได้เช่นกัน เพราะยังต้องมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่นค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า ค่าขนส่งอีก แม้แต่ในสมัยก่อนที่คนไม่ต้องพึ่งพาเงินมากเหมือนในปัจจุบัน เงินก็มีส่วนทำให้คนทำเรื่องที่ปกติตัวเองคงไม่ทำถ้าไม่เพราะเงินจำนวนมากอยู่ด้วย ลองไปรับฟังกันดูนะว่ามันบ้าขนาดไหน 1. จ่ายค่าเช่าหวังฮุบอพาร์ตเม้นต์ เมื่อปี 1965 ทนาย Andre-Francois ทำสัญญาจะจ่ายเงินค่าเช่าอพาร์ตเมนต์ให้คุณยาย Jeanne Calment วัย 90 ปีทุกเดือน โดยมีข้อแม้ว่าถ้าคุณยายตายไปแล้วจะต้องยกอพาร์ตเมนต์ให้กับเขา คงหวังจะได้อพาร์ตเมนต์ราคาถูกมาครอง เพราะคุณยายแก่แล้วน่าจะอยู่ได้ไม่นาน แต่อาจจะเพราะเธอไม่อยากยกอพาร์ตเม้นต์ให้เขาง่ายๆ คุณยายก็ฮึดมาจากไหนไม่รู้ มีชีวิตอยู่ยาวนานจนทนายคนนั้นตายไปก่อนตัวเองเสียอีก แล้วในปีถัดมาคุณยายก็ตายไปด้วยอายุ 122 ปี ทนายหนุ่มจึงได้จ่ายค่าอพาร์ทเมนต์นานกว่า 30 ปี ทั้งที่ตัวเขาไม่มีโอกาสได้เข้าไปอยู่เลย รวมแล้วเป็นเงินกว่า 280,000 ดอลลาร์สหรัฐในยุคปัจจุบัน (ประมาณ 9 ล้านบาท) 2. เก็บความตายของพ่อไว้เป็นความลับ หวังเอาเบี้ยคนชรา เมื่อปี 2010 ทางการของกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นเดินทางไปที่บ้านของนาย Sogen Kato เพื่อยินดีกับเขาเนื่องในโอกาสอายุครบ 111 ปี ถือเป็นชายที่อายุเยอะที่สุดในเมือง…
-
เจ้าของบ้านเถียงกับช่างไฟ ‘ฉันรวย ฉะนั้นฉันเป็นฝ่ายถูก’ ผลลัพธ์โดนไฟช็อตเกือบตาย
พวกเราทุกคนทราบกันดีว่า ระบบไฟฟ้าภายในบ้านคือสิ่งสำคัญที่ควรจะต้องให้ความใส่ใจ เพราะมันอาจจะทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้ ดังนั้นการรักษาความปลอดภัยของเจ้าสิ่งนี้จึงถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก ซึ่งแน่นอนว่าส่วนใหญ่แล้วช่างไฟทั้งหลายย่อมมีความเชี่ยวชาญในเรื่องนี้กันทั้งนั้น เช่นเดียวกับช่างไฟคนนี้ที่ได้ไปช่วยปรับปรุงและเปลี่ยนระบบกระแสไฟฟ้าให้กับบ้านหลังหนึ่ง โดยในระหว่างการทำงาน เขาก็ได้เตือนเจ้าของบ้านในเรื่องของความปลอดภัยไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่เขากลับถูกโต้แย้งใส่ด้วยคำพูดที่ว่า “ฉันรวย ฉะนั้นฉันเป็นฝ่ายถูก” เรื่องราวนี้ถูกบอกเล่าผ่านเว็บไซต์ BoredPanda เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2018 เมื่อทีมงานช่างไฟฟ้าได้เดินทางไปช่วยกันเปลี่ยนแปลงระบบไฟให้กับบ้านของหญิงสาวที่น่าจะค่อนข้างมีฐานะ เรื่องมีอยู่ว่าสาวเจ้าของบ้านต้องการที่จะให้ช่างไฟกลุ่มนี้ช่วยออกแบบเส้นทางการไลน์สายไฟที่ดูซับซ้อนภายในบ้านของเธอ และต้องการที่จะให้พวกเขาติดตั้งแผงระบบโซลาร์เซลล์โดยไม่ให้เชื่อมต่อกับระบบไฟฟ้าโดยรวม เพราะเธอไม่ต้องการที่จะเสียเงินให้กับบริษัทผู้ให้บริการที่คอยจ่ายไฟมาให้ที่บ้านของเธอ โพสต์เรื่องราวที่เกิดขึ้น ในตอนนั้นช่างไฟมองว่าความต้องการของเธอมันช่างเป็นเรื่องที่ดูไม่สมเหตุสมผลเอาซะเลย พวกเขาแนะนำเธอไปว่าการทำอย่างนั้นมันคือการสิ้นเปลืองพลังงานและฟุ่มเฟือยโดยใช่เหตุ แต่แล้วสาวเจ้าของบ้านก็กลับพูดออกมาว่า “ฉันรวย ฉะนั้นฉันเป็นฝ่ายถูก” เมื่อเป็นอย่างนั้นพวกเขาจึงต้องทำตามในสิ่งที่เธอบอก เมื่อติดตั้งทุกอย่างเป็นที่เรียบร้อย ช่างไฟก็หันไปเตือนเธอว่าอย่าเพิ่งไปยุ่งหรือไปแตะอะไรก็ตาม เพราะพวกเขายังติดตั้งกันไม่เสร็จ เพื่อความปลอดภัยของตัวเธอเอง แต่หญิงสาวกลับเลือกที่จะไม่สนใจคำเตือนของพวกเขา เพราะหลังจากที่ช่างไฟจากไป เธอก็ดันไปเปิดใช้งานระบบไฟต่างๆ ซะอย่างนั้น หลังจากนั้นเธอก็ส่งอีเมล์มาหาเหล่าช่างไฟด้วยความโมโห บอกว่าเธอต้องเกือบตายหลังจากที่เปิดใช้ระบบไฟเหล่านั้น อีกทั้งยังกล่าวหาว่าพวกเขาไม่เอาใจใส่และขาดจรรยาบรรณต่อหน้าที่การทำงาน ทั้งๆ ที่พวกเขาก็บอกเธอไปแล้วว่าอย่าเพิ่งไปยุ่งกับพวกระบบไฟฟ้าเหล่านั้น เจ้าของบ้านสาวคนนั้นไม่สนใจในคำพูดของพวกเขาเลย เธอตัดสินใจยื่นฟ้องร้องต่อศาลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งช่างไฟฟ้าก็ไม่ได้รู้สึกผิดอะไร และพวกเขาก็พร้อมที่จะยื่นหลักฐานตามสัญญาที่คุยกับเธอเอาไว้ในตอนแรกว่าห้ามไปยุ่งกับระบบไฟเหล่านั้นเด็ดขาด จนกว่าจะติดตั้งเสร็จ …
-
5 วิธีการเอาตัวรอดของแบรนด์ธุรกิจ จากการปรับเปลี่ยนรูปแบบของเฟซบุ๊กในปี 2018
จากกรณีที่พี่ Mark Zuckerberg เจ้าของเฟซบุ๊กได้ทำการปรับเปลี่ยนระบบการแสดงผลที่หน้านิวส์ฟีด ให้มีการโชว์คอนเทนต์หรือโฆษณาของแบรนด์หรือธุรกิจต่างๆ ให้แสดงผลน้อยลง ส่งผลให้โอกาสในการหาลูกค้าหน้าใหม่ๆ ลดลงไปเป็นจำนวนมาก แน่นอนว่ามันจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจมากมาย เพราะส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่ใช้เฟซบุ๊กเป็นพื้นที่ในการทำโฆษณาแทบทั้งสิ้น!! แล้วเราจะมีวิธีอยู่รอดได้อย่างไร!? หากสูญเสียพื้นที่ในการโฆษณาและหาลูกค้า วันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปชมคำแนะนำจากบทความของเว็บไซต์ Socialmediatoday กันครับ ก่อนอื่นต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนว่าที่พี่ Mark เค้าทำไป จริงๆ ก็เป็นการรับมือกับปัญหาที่เฟซบุ๊กได้เผชิญมายาวนานหลายปี ซึ่งปัญหานั้นก็คือเหล่าคอนเทนต์ด้อยคุณภาพจากแบรนด์ต่างๆ อย่างเช่น Click Bait หรือการ Engagement Baiting (การเรียกร้องให้ผู้ใช้งานมีส่วนร่วมโดยการให้กดไลก์กดแชร์) และเมื่อมองในมุมนี้ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ที่เหล่าแบรนด์ต่างๆ จะหันมาพัฒนาคอนเทนต์การโฆษณา หรือวิธีการหารายได้ด้วยวิธีที่มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น จากเหตุการณ์ดังกล่าวก็ได้มีความเห็นจากนาย James Whatley ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดของบริษัท Ogilvy UK ก็ได้ออกมาให้ความเห็นว่า “หากคุณเป็นสำนักพิมพ์หรือทำคอนเทนต์โฆษณาที่ผลิตแต่ผลงานดีๆ น่าสนใจและมีคุณภาพอยู่แล้ว ขอบอกเลยว่านี่คือโอกาสทองของพวกคุณ” ฉะนั้นการปรับเปลี่ยนอัลกอริทึ่มของเฟซบุ๊กไม่ได้เป็นจุดจบทุกอย่างของโลกใบนี้ ไม่ว่าจะสำหรับธุรกิจขนาดใหญ่ หรือเล็กแค่ไหนก็ตาม เพราะมันไม่ใช่ครั้งแรกที่เคยเกิดขึ้น!! นั่นหมายความว่า เราจะต้องปรับตัวไปตามการเปลี่ยนแปลงที่เฟซบุ๊กได้วางเป้าหมายเอาไว้ ถ้าหากคุณยังใช้โซเชียลเน็ตเวิร์กเป็นพื้นที่หลักในการเข้าถึงลูกค้าอยู่ล่ะก็นะ… แล้วเราจะต้องทำอะไรกันบ้าง!? เป็นเรื่องที่ตัดสินใจได้ยากลำบากมากๆ เพราะคุณจะยอมทิ้งเฟซบุ๊กที่มียูสเซอร์มากถึง 2 พันล้านยูสเซอร์ไปเหรอ?…
-
การทดสอบที่ว่า “ความรวย” ทำให้คนเราคบกันเล่นๆ ไม่จริงจัง เป็นเรื่องจริงหรือ!?
ความสัมพันธ์ของคนเรา นับวันยิ่งจะซับซ้อนมากยิ่งขึ้น มีทั้งการคบสั้น คบยาว คบซ้อน คบเล่น หรือคบอะไรก็ตามแต่ มันทำให้เกิดความสงสัยขึ้นมาว่า อะไรกันนะที่เป็นปัจจัยที่ส่งผลให้คนเราตัดสินใจว่า จะคบกับใครและรูปแบบไหน จึงได้เกิดการศึกษาหนึ่งซึ่งได้รับการตีพิมพ์โดย Evolution and Human Behavior ขึ้นมา โดยผลสรุปของมันปรากฏออกมาว่า คนเราจะมีความสัมพันธ์แบบไม่จริงจัง (ระยะสั้น) มากขึ้นเมื่อเรารู้สึกว่าเรา “รวย” การศึกษาทดลองนี้เก็บข้อมูลมาจากหนุ่มสาวที่อาสามาเป็นกลุ่มตัวอย่าง (ชาย 75 คน หญิง 76 คน) โดยขั้นตอนการทดลองนั้นคือ การให้เหล่ากลุ่มตัวอย่างทั้งชายและหญิงดู “ภาพคู่เดท” ที่จัดมาให้ 50 ภาพ แล้วจัดกลุ่มภาพเหล่านั้นออกมาว่าต้องการจะคบคนในภาพเป็นระยาว ระยะสั้น หรือไม่คบเลย จากนั้นจึงให้กลุ่มตัวอย่างดู ภาพสิ่งของหรูหรา ต่างๆ เช่น เงิน รถสปอร์ต และเครื่องเพชร อัญมณีทั้งหลาย เป็นต้น เมื่อดูแล้ว ให้กลุ่มตัวอย่างกลับไปเลือกภาพคู่เดทอีกครั้ง จากนั้นจึงสลับกับการฉาย วิดีโอการเลี้ยงลูก แล้วก็ให้กลับมาเลือกคู่เดทอีกครั้ง และสุดท้ายสลับไปฉาย ภาพสัตว์ที่เป็นอันตราย แล้วจึงกลับมาให้เลือกคู่เดทอีกครั้ง ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ หลังจากที่กลุ่มตัวอย่างดูภาพสิ่งของหรูหราแล้ว…
-
งานวิจัยไขข้อสงสัยว่า ‘เงิน’ สามารถซื้อความสุขให้เราได้จริงๆ หรือเปล่า
หลายคนคงเคยได้ยินใช่ไหมว่า “เงินนั้นไม่สามารถซื้อได้ทุกอย่าง” หรือ “เงินนั้นซื้อความสุขไม่ได้” และเชื่อว่าหลายๆ ท่านก็คงใช้ประสบการณ์ของตนเองตอบได้ทันทีว่าคำพูดเหล่านั้นเป็นจริงดังว่าหรือไม่ ซึ่งแน่นอนว่าแต่ละคนก็จะต้องมีคำตอบเป็นของตัวเอง และเกิดเป็นประเด็นถกเถียงกันในที่สุด วันนี้ คำถามที่ว่า “เงินซื้อความสุขได้หรือไม่?” ได้มีการศึกษากันอย่างเป็นวิทยาศาสตร์แล้ว โดยนักวิทยาศาสตร์จาก มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย วิทยาเขตเออร์ไวน์ ที่ได้ทำการศึกษาว่า ต้องใช้เงินมากขนาดไหนถึงทำให้คนรู้สึกได้ถึงความสุข ซึ่งงานวิจัยชิ้นนี้ยังได้รับการตีพิมพ์ลงในวารสาร Emotion โดย American Psychological Association อีกด้วย มีงานวิจัยก่อนหน้านี้ที่ศึกษาถึงรูปแบบการเข้าสังคมแบบมุ่งเน้นตนเอง หรือมุ่งเน้นผู้อื่น จำแนกตามแต่ละชนชั้นทางสังคม โดยภายหลัง นักวิทยาศาสตร์ชื่อว่า Paul K. Piff กลุ่มนักศึกษา และผู้ช่วยวิจัย จึงพยายามจะขยายผลโดยการใช้ข้อมูลรายได้ในครอบครัวของแต่ละคนจากงานวิจัยก่อนหน้ามาใช้เทียบกับการเกิดอารมณ์ต่างๆ ทั้ง 7 ที่เป็นองค์ประกอบของความสุข ได้แก่ อารมณ์ขัน ความกลัว ความเห็นอกเห็นใจ ความพึงพอใจ ความกระตือรือร้น ความรัก และความภาคภูมิใจ ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ การที่ได้รายได้สูงนั้นสัมพันธ์กันกับอารมณ์พึงพอใจ ภาคภูมิใจ และอารมณ์ขัน ซึ่งอารมณ์เหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่มุ่งเน้นไปยังตนเอง ในขณะที่การมีรายได้ต่ำนั้นสัมพันธ์กันกับอารมณ์ที่มุ่งเน้นไปยังผู้อื่น…
-
ตามติดชีวิตมนุษย์เงินเดือน 4 ล้านบาทแห่งนิวยอร์ก วันๆ ใช้จ่ายไปกับอะไรแค่ไหนบ้าง!?
ชีวิตมนุษย์เงินเดือนส่วนมากไม่ได้ฟู่ฟ่าหรูหรานัก เพราะว่ามีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่จะได้เงินเดือนเยอะจนเหลือเก็บได้ ส่วนใหญ่ที่เหลือนั้นบางทีก็เงินน้อยจนใช้กันเดือนชนเดือนเลยทีเดียว ซ้ำร้ายบางคนยังหมุนเงินไม่ทันด้วย แต่ถึงจะเป็นมนุษย์เงินดือนก็ไม่ได้เงินน้อยเสมอไปหรอก ถ้าเกิดขึ้นไปถึงตำแหน่งหัวหน้างานใหญ่ๆ ได้ล่ะก็อาจจะมีเงินเดือนเป็นแสนเป็นล้าน สามารถใช้ชีวิตหรูหราแบบสบายๆ เลยนะ ไม่เชื่อลองไปดูผู้หญิงคนนี้สิ หญิงที่จะมาแบ่งปันไดอารี่ค่าใช้จ่ายของเธอในวันนี้ เป็นหญิงวัย 35 ปีที่ทำงานเป็นหัวหน้าผู้จัดการให้กับ Hedge Fund บริษัทเงินทุนยักษ์ใหญ่ในเมืองนิวยอร์ค ประเทศสหรัฐอเมริกา เธอมีเงินเดือนเริ่มต้นที่ 100,000-200,000 ดอลลาร์สหรัฐ หากรวมกับเงินโบนัสที่ได้ทุกเดือนแล้ว รายได้เฉลี่ยของเธอจะอยู่ที่ประมาณ 1.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 48 ล้านบาท) หากนับค่าเฉลี่ยก็จะอยู่ประมาณ 4 ล้านบาทต่อเดือน เยอะกว่าเงินรายเดือนของพนักงานทั่วๆ ไปในบ้านเราเป็นพันเท่าตัวเลยทีเดียว ลองไปดูว่าชีวิตการใช้เงินของเธอจะเป็นยังไงบ้าง วันจันทร์ เธอเริ่มต้นวันแรกของอาทิตย์ด้วยการส่งลูกทั้งสองคนไปโรงเรียน จากนั้นเธอจึงไปเข้าประชุมที่โรงแรม Palace Hotel หลังจากผ่านการประชุมติด 6 ครั้งมาอย่างเหนื่อยล้า ตอนเย็นเธอจึงแวะเติมพลังที่ร้านเสื้อผ้า Zara ด้วยการช็อปชุดเดรสใหม่ 2 ตัวรวมแล้วราคา 150 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 4,800 บาท) จากนั้นเธอก็เข้าไปที่ทำงานเพื่อเตรียมงานประชุมของวันรุ่งขึ้น…
-
ขอทานมืออาชีพจากดูไบ ที่สามารถหาเงินได้มากกว่าวันละ 80,000 บาท หรือ 2 ล้านต่อเดือน!!
อย่างที่เรารู้กันเป็นอย่างดีว่าถ้าหากให้ไล่เรียงชื่อของเมืองที่ร่ำรวยอันดับต้นๆ ของโลก ชื่อของเมืองดูไบนั้นอาจจะเป็นชื่อแรกๆ ที่คุณนึกออกเลยก็ได้ และไม่ใช่เพียงแค่ความหรูหราของเมืองหรือความร่ำรวยของผู้คนในเมืองเท่านั้น ขอทานของที่นี่เองก็ยังดูเหนือกว่าที่อื่นๆ อีกด้วย โดยพวกเขาสามารถหาเงินได้มากถึง 2 ล้านบาทเลยทีเดียว เรียกได้ว่ามืออาชีพจริงๆ !! อย่างไรก็ตามการขอทานในเมืองดูไบนั้นถือเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย แต่อย่างไรก็ตามก็ยังมีการหาเงินด้วยวิธีดังกล่าวอยู่ โดยขอทานมืออาชีพเหล่านี้จะเริ่มการทำงานของพวกเขาโดยการมองหาคนที่ดูร่ำรวย ก่อนที่จะเริ่มแผนการต่อไป เมื่อพบเป้าหมายแล้ว เหล่าขอทานจะเริ่มเล่าเรื่องราวอันแสนยากลำบากของพวกเขาอย่างเช่นเรื่องของครอบครัวที่กำลังนอนอยู่ข้างถนน หรือบางคนก็ต้องการเงินเพื่อกลับประเทศ พร้อมกับขอเงินช่วยเหลือ โดยจำนวนเงินที่พวกเขาขอร้องจากเป้าหมายนั้นจะอยู่ที่ประมาณ 8,500 บาทขึ้นไป ในปี 2016 มีการจับกุมตัวขอทานรายหนึ่งพร้อมกับหนังสือเดินทางสำหรับนักท่องเที่ยวแบบ 3 เดือน ซึ่งขอทานรายดังกล่าวสามารถหาเงินได้มากถึง 2 ล้านบาทต่อเดือนเลยทีเดียว ชมเรื่องราวของพวกเขาได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย… “จากการคาดการณ์ของเราพบว่าพวกขอทานนั้นสามารถหาเงินได้มากถึง 80,000 บาทต่อวันเลยทีเดียว และเราเชื่อว่าวันศุกร์จะเป็นวันที่พวกเขาหาเงินได้มากที่สุด โดยเฉพาะจุดที่อยู่หน้ามัสยิด” คุณ Faisal Al Badiawi หัวหน้าเขตเทศบาลกล่าว มีการเปิดเผยว่าขอทานเหล่านี้มักจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหล่าอาชญากรชาวอาหรับและเอเชียได้ ซึ่งเมื่อปีที่ผ่านมามีการจับกุมขอทานมากกว่า 65 คน และพบว่าทั้งหมดมีความเกี่ยวข้องกับแก๊งอาชญากร ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่กำลังทำงานอย่างหนักเพื่อกวาดล้างขบวนการเหล่านี้ โดยมีการขอร้องให้แจ้งเบาะแสเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าว นี่ถือเป็นหนึ่งในความท้าทายของเจ้าหน้าที่จากดูไบเลยล่ะ ที่มา odditycentral
-
ส่องไอจีที่รวบรวม ‘นาฬิกาข้อมือ’ ของเหล่าเซเลบคนดัง แต่ละคนจะใส่รุ่นอะไรกันบ้างนะ!?
สืบเนื่องมาจากภาพของหนึ่งในทั่นผู้นำของประเทศละแวกบ้านเราสวมนาฬิกาหรูแบรนด์ไฮเอนด์ที่มีราคาเหยียบหลักล้าน!! ก็เลยทำให้โลกโซเชียลหันมาให้ความสำคัญกับ ‘นาฬิกาข้อมือ’ จนกลายเป็นการเปิดหูเปิดตาจนทำให้รู้ว่าโลกของเรานั้นยังมีนาฬิกาแพงๆ อีกมากมายหลายรุ่นไม่ใช่เฉพาะแค่ Rolex เท่านั้น และล่าสุดก็ได้มีแอคเคาท์อินสตาแกรมชื่อว่า thaicelebwatchspotter เกิดขึ้นมา เป็นอินสตาแกรมที่รวบรวมนาฬิกาของเหล่าคนดังในประเทศไทย แถมระบุชื่อรุ่นและราคาไว้ให้เสร็จสรรพ ซึ่งแอคเคาท์นี้ได้เริ่มโพสต์รูปภาพแรกเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายนที่ผ่านมานี้เอง แต่ผ่านไปแวบเดียวก็มีผู้ติดตามมากกว่า 2,100 คนแล้ว!! เราไปชมกันเลยดีกว่าว่าคนดังในบ้านเราแต่ละคนจะสวมใส่นาฬิกายี่ห้อไหนกันบ้าง และจะมีราคาเท่าไหร่กัน… 1. อั้ม พัชราภา Patek Philippe 175th Anniversary Collection World Time Moon 7175r-001 ราคาประมาณ 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 3.2 ล้านบาท) 2. เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ Hublot MP-05 LaFerrari ราคาประมาณ 300,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 9.7 ล้านบาท) 3. เฉลิม อยู่บำรุง Patek Philippe 6102p Celestial…
-
12 ภาพบรรยายความสุขของ “คนมัธยัสถ์” ที่เหล่ามหาเศรษฐีอาจไม่เข้าใจเท่าไหร่!!
การมีความสุขนั้น บางครั้งก็ไม่ต้องเริ่มจากการใช้ของแพงๆ หรือใช้เงินเยอะๆ ไปซะทีเดียว เพราะความสุขนั้นบางครั้งมันก็มักจะเริ่มจากสิ่งเล็กๆ เสมอ ไม่ว่าคุณจะรวยหรือจนก็ตาม… บางครั้งต่อให้เรามีเงิน แต่ถ้าเราสามารถหาทางออกที่สร้างความสนุกให้ตัวเองได้เช่นจอมือถือแตก แต่เราก็ไม่อยากซื้อใหม่แม้เงินจะเหลือ เราก็เลยจัดการสร้างวอลเปเปอร์ที่มันเข้ากับรอยแตกขึ้นมา ซึ่งมันก็เจ๋งและรู้สึกดีทุกครั้งที่ได้ดู แต่ถ้าใครยังคิดไม่ออกว่าจะหาความสุขเล็กๆ ที่ว่าจากไหน งั้นลองมาดูตัวอย่างการหาความสุขแบบง่ายๆ จากคนเหล่านี้ดูสิ!! บางครั้งการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ก็สร้างความสุขที่ยิ่งใหญ่ได้เหมือนกันนะ ที่สำคัญมันยังเสริมความคิดสร้างสรรค์ได้ดีเลยทีเดียวล่ะ มือถือพังแต่ไม่อยากซื้อใหม่ ก็เลยแก้ปัญหากันแบบนี้เลยก็แล้วกัน แถมยังเจ๋งไม่ใช่เล่น ไม่มีรถแต่มีภาพมาติดก็สร้างความสุขเล็กๆ ได้ไม่ยาก ขอแค่มีเพื่อนสนิทมาฉลองด้วยกัน จะเป็นขนมธรรมดาก็สร้างความสุขได้ จะเซลฟี่หมู่กันทั้งทีแม้จะลำบากหน่อยๆ แต่น่าจดจำ ตกแต่งวันคริสต์มาสกันแต่พอดีแต่แฮปปี้ รองเท้าหนึ่งคู่ก็สำคัญเท่ากับจักรยานหนึ่งคัน ความสุขเล็กๆ ของการเก็บสะสมซอส คนประหยัดจะทำให้ตัวเองค้นพบว่า เห็ดที่เป็นเชื้อราเรายังกินได้ เชื้อราบนขนมปังทำไมเราจะกินไม่ได้ ความสุขเบาๆ ที่ทำให้เรารู้ว่าสบู่หนึ่งขวดมีค่าแค่ไหน แค่เปลี่ยนมุมมองต่อของบางอย่าง เราก็จะพบว่ามันแตกต่างกัร แต่จริงๆ ก็เหมือนกันนั่นแหละ …
-
คุณพ่อคนดีเจอตังค์ตกที่ตู้ ATM 1,300 บาท เอาไปคืน ได้มาเพิ่มเป็น 2 ล้าน!?
ทุกๆ ศาสนาบนโลกนี้ล้วนแต่สอนให้ทุกคนเป็นคนดี แล้วความดีนั้นก็จะส่งผลดีต่อชีวิตของคุณเอง แต่ว่าในชีวิตจริงนั้น การทำความดีอย่างต่อเนื่องนั้นไม่ง่ายเลย เพราะว่าทำดีไปมากเท่าไร ก็ยังไม่เห็นว่าผลบุญเหล่านั้นมันจะกลับเข้ามาช่วยเราสักที แต่เราขอเป็นกำลังใจให้คนทำดีทุกดี โดยการนำเสนอเรื่องของชายคนหนึ่งที่ทำดีแล้วได้ดีเห็นผลทันตาคนนี้ ขณะที่นาย Colin Banks กรรมกรคุณพ่อลูกสองคนนี้ไปกดเงินจากตู้ ATM ที่ซูเปอร์มาร์เก็ต Asda ในเมือง Motherwell เขต North Lanarkshire ประเทศ Scotland เขาเจอเงิน 30 ปอนด์ (ประมาณ 1,300 บาท) ค้างอยู่ที่ตู้ ATM ซึ่งน่าจะเป็นของคนที่มากดเงินก่อนหน้าเขา พูดกันตรงๆ แล้ว หลายคนคงจะเก็บเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง ถือว่าเป็นลาภลอยมาหาเรา แต่ชายคนนี้ยึดมั่นในความซื่อสัตย์ เขาจึงนำเงินนี้ไปให้กับพนักงานในซุเปอร์มาร์เก็ตเพื่อหาทางคืนให้กับเจ้าของ และเหมือนว่าความดีนี้จะได้รับการตอบแทนทันที เพราะหลังจากนั้นเพียงครึ่งชั่วโมง เขาก็รู้ว่าลอตเตอรี่ที่เขาซื้อมาเพียง 30 ปอนด์ (ประมาณ 1,300 บาท) ทำให้เขาถูกรางวัลสูงถึง 49,077 ปอนด์ (ประมาณ 2 ล้านบาท) เขาให้สัมภาษณ์กับทาง Daily Record ว่า…
-
สองครอบครัว สองฐานะ… สลับบ้านกันอยู่เป็นเวลา 1 สัปดาห์ กับบทเรียนที่เงินไม่อาจทดแทนได้
เคยคิดบ้างไหมว่า ถ้าอยู่ดีๆ เราที่เคยร่ำรวยสุดๆ สามารถใช้เงินโดยไม่คิดอะไรมากใช้ยังไงก็ไม่มีวันหมด ต้องมาสลับบ้านไปอยู่ในบ้านราคาถูก ส่วนคนที่เคยจนต้องใช้เงินอย่างประหยัดทำอะไรก็ต้องคิด อยู่ดีๆ ก็เปลี่ยนไปรวยจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าคุณคิดไม่ออก รายการ Rich House, Poor House จากช่อง Channel 5 ในอเมริกาจัดให้!! โดยพวกเขาได้นำครอบครัวของ Matt และ Moniqe Fiddes ที่เป็นคนรวย สลับกันใช้ชีวิตกับ Andy และภรรยาพิการ ของเขา Kim Leamon ทั้งหมดจะต้องแลกความเป็นอยู่ รวมถึงฐานะกันเป็นระยะเวลา 1 สัปดาห์เต็มๆ จากนั้นก็รอดูสิ่งที่พวกเขาได้จากการสลับสับเปลี่ยนในครั้งนี้ ซึ่งแค่ฟังดูมันก็น่าสนใจแล้ว เริ่มกันที่ครอบครัวของ Andy Leamon กันก่อน โดยเขาได้รับการเพิ่มรายรับจากเดิมอยู่ที่ราวๆ 7,400 บาทต่อสัปดาห์ ให้กลายเป็นเท่ากับรายรับของ Matt Fiddes ซึ่งมีรายรับอยู่ที่ 65,000 บาทต่อสัปดาห์ ซึ่งมากกว่าหลายเท่าเลยล่ะ และเช่นเดียวกันด้าน Matt ก็ต้องไปอยู่ในฐานะเดียวกับที่ Andy เคยเป็น ด้าน Andy ที่ได้กลายเป็นคนรวย ก็ค้นพบว่าครอบครัวของ Matt นั่นใช้เงินมากกว่า…
-
ส่องไลฟ์สไตล์ของ Chryseis Tan ทายาทมหาเศรษฐีและเป็น CEO ห้างมาเลเซีย ด้วยวัย 28 ปี
จะมีสาวเก่งซักกี่คนที่มีหน้าที่การงานที่ดีและหน้าตาที่สวยพร้อม อย่างสาวคนนี้ที่เราจะพาเพื่อนๆ ไปส่องไลฟ์สไตล์สุดไฮไซของเธอกัน เธอจะเป็นใคร รวยระดับใด หรือสวยขนาดไหนไปแอบคุ้ยกันเลยดีกว่า!! Chryseis Tan สาวหน้าตาดี ที่มีคำคมประจำใจที่โพสไว้ในอินสตาแกรมว่า “ฉันจะท่องเที่ยวไปทั่วโลก” เธอคนนี้ไม่ใช่ใครแต่เป็นทายาทของเศรษฐีชาวมาเลเซียนั่นเอง พ่อของเธอก็คือ Vincent Tan ที่ได้การขนานนามว่าเป็นคนที่ร่ำรวยที่สุดอันดับที่ 20 ของมาเลเชีย เธอเดินทางโดยเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวพร้อมอาหารหรูหรา ที่น้อยคนนักจะได้สัมผัส . อินสตาแกรมของเธอมีคนติดตามกว่า 2 แสนคน โดยเธอนั้นโพสต์เกี่ยวกับไลฟ์สไตล์เก๋ๆ และการแต่งตัวสุดชิค เรื่องแฟชั่นเธอก็ไม่ยอมใครเหมือนกันนะ Tan เป็นนักลงทุนด้วยวัยเพียง 28 ปี เท่านั้น และยังเป็น CEO ของ Berjaya Times Square ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้าชั้นนำของมาเลเซีย เรียกได้ว่าเป็นสาวเก่งอีกคนหนึ่งเลยล่ะ . ในเดือนมิถุนายนเธอได้หมั้นกับ Faliq Nasimuddin ลูกชายของมหาเศรษฐีอีกคนหนึ่งของมาเลเซีย เหมาะสมกันราวกับกิ่งทองใบหยก . เธอยังเป็นนักลงทุนของ Goxip ที่เป็นแอบพลิเคชั่น เกี่ยวกับแฟชั่นอีกด้วย…
-
เรื่องราวของ ‘Sarah Rector’ เด็กสาวผิวสีวัย 12 ขวบ ที่ร่ำรวยที่สุดในอเมริกา..!!
หากพูดถึงเรื่องราวประวัติศาสตร์ของชาวแอฟริกัน-อเมริกันในอดีต เราอาจจะนึกถึงภาพของการตกเป็นทาสจากการล่าอาณานิคมในแบบที่เคยเรียนหรือเห็นผ่านสื่อกันมา แต่คราวนี้เราจะพาไปรู้จักกับเรื่องราวของ Sarah Rector เด็กสาวผิวสีวัย 12 ขวบ ที่มีทรัพย์สินมากที่สุดในทวีปอเมริกา ณ ขณะนั้น ถึงขนาดที่ว่ามีนักธุรกิจจากเยอรมนี 4 คนแย่งกันขอเธอแต่งงาน เพียงเพราะต้องการส่วนแบ่งของเธอก็มีมาแล้ว..!! Sarah Rector ย้อนกลับไปในวันที่ 5 มกราคม ปี 1914 สำนักพิมพ์ท้องถิ่นได้มีการเผยแพร่รายรับของ Sarah Rector ที่มากถึงเดือนละ 15,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ จนนำมาซึ่งความวุ่นวายอื่นๆ ที่ตามมา เดิมที Sarah Rector เกิดเมื่อวันที่ 3 มีนาคม ปี 1902 ซึ่งพ่อแม่ของเธอก็ได้เป็นหนึ่งในสมาชิกของกลุ่มสัญญา Muscogee (หรือที่รู้จักกันในนาม Creek Nation) โดยเป็นกลุ่มที่เกิดจากการรวมตัวของ 5 ชนเผ่าพื้นเมืองในแถบตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐฯ 5 ชนเผ่าพื้นเมืองที่มีการทำสนธิสัญญาร่วมกันในบนพื้นที่ของรัฐโอคลาโฮม่า หนึ่งในข้อตกลงของสนธิสัญญานั้นมีอยู่ว่า.. เมื่อโอคลาโฮม่าได้ประกาศตนเป็นรัฐแล้ว สมาชิกจะได้รับการแบ่งสันปันส่วนที่ดินทำกิน…
-
15 สิ่งของธรรมดาในชีวิตประจำวัน แต่ราคามันโคตรไม่ธรรมดา รวยแค่ไหนถึงจะซื้อได้
เวลาที่เราเลือกซื้อสิ่งของที่เราใช้ในชีวิตประจำวันทั่วไปในทุกวัน เราก็มักจะเลือกซื้อโดยดูที่คุณภาพ ปริมาณ และราคา ยิ่งราคาถูกก็ยิ่งประหยัดค่าใช้จ่ายได้เป็นอย่างมาก แต่ตรงกันข้ามบางคนก็เลือกที่จะใช้ของใช้ที่ราคาแพง เพราะคิดว่าถึงแม้จะราคาสูง แต่แลกมาด้วยคุณภาพก็คุ้มค่าที่จะจ่าย แต่สิ่งของที่ทางเว็บไซต์ Brightside ได้รวบรวมมานั้นมันเป็นสิ่งของที่เป็นสิ่งของที่ใช้ในชีวิตประจำวันธรรมดาๆ แต่ราคานั้นแพงหูฉี่เลยทีเดียว 1. ยาสีฟันรสมิ้นท์ ราคา 3,328 บาท ดูเหมือนว่าจะเป็นยาสีฟันธรรมดา แต่เจ้ายาสีฟันจาก The odent มีสารประกอบพิเศษที่จดสิทธิบัตรไว้ แปรงเพียงครั้งเดียวก็รู้สึกสดชื่นตลอดวัน 2. ฝารองชักโครก ราคา 9,985 บาท ฝารองชักโครกสแตนเลสคาร์บอน น้ำหนักเบาคุณภาพเยี่ยม ให้คุณได้นั่งเพลินอย่างสบายตรูด 3. หูฟัง ราคา 21,239 บาท นอกจากจะเป็นหูฟังคุณภาพเสียงเยี่ยมแล้ว ยังเพิ่มมูลค่าด้วยเพชรและทอง ไม่กล้าทำหายเลยทีนี้ 4. ถุงเท้าขนสัตว์ ราคา 39,548 บาท ทำมาจากขนสัตว์ Vicuna ที่หายากและมีราคาแพงที่สุดในโลก รับประกันการใส่แล้วนุ่มสบาย ไม่ขาด 5. โคมไฟก้อนเมฆ…
-
เผยโฉมออฟฟิศใหม่ Facebook ใจกลางซานฟรานซิสโก ด้วยค่าเช่ากว่า 1,000 ล้านบาท
ปัจจุบันคงจะไม่มีใครที่ไม่รู้จักโซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่ที่ชื่อว่า เฟซบุ๊ค แน่นอน เพราะมันเรียกได้ว่าเป็นสังคมอีกแห่งหนึ่งที่พวกเราสามารถเชื่อมเข้าหากันได้โดยง่าย แต่ความอลังการไม่ได้มีเพียงแค่ชื่อเสียงที่โด่งดังไปทั่วโลก เพราะตอนนี้บริษัทได้ทำการเซ็นสัญญาเช่าออฟฟิศใหม่เป็นที่เรียบร้อย ด้วยราคามากกว่า 1 พันล้านบาท โดยตึกสูงเสียดฟ้าแห่งนี้มีชื่อว่า 181 Fremont ตั้งอยู่ใจกลางย่านธุรกิจ เมืองซานฟรานซิสโก มีพื้นที่กว่า 40,000 ตารางเมตร ทั้งหมด 70 ชั้น ถือว่าเป็นตึกที่พักอาศัยที่สูงที่สุดในเขตชายฝั่งตะวันตกของอเมริกา สร้างขึ้นด้วยงบประมาณมากกว่า 22,000 ล้านบาท!! สูงขนาดนี้ ไกลแค่ไหนก็ยังมองเห็น และในอีก 3 ปีข้างหน้า ก็จะมีพนักงานของเฟซบุ๊คและอินสตาแกรม จำนวน 2,000 ถึง 3,000 คน ย้ายเข้ามาทำงาน กินพื้นที่ไปมากถึง 33 ชั้นเลยทีเดียว ปัจจุบันตึกดังกล่าวกำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างที่จะเสร็จในสิ้นปีนี้ ซี่งจะมีส่วนของคอนโดหรู 67 ห้อง มาพร้อมกับความสะดวกสบายครบครัน ที่ไม่รู้ว่าพนักงานที่กำลังเตรียมย้ายเข้ามา จะมีโอกาสได้เข้าไปใช้ส่วนนี้หรือเปล่า การก่อสร้างกำลังอยู่ในระหว่างดำเนินการ ส่วนที่พักอาศัยในชั้น 52 กับวิวทิวทัศน์ที่งดงามรอบด้าน ยิ่งไปกว่านั้นเรื่องความปลอดภัยของที่นี่ก็ชั้นหนึ่ง…
-
25 ภาพที่บ่งบอกว่า “ดูไบ” เป็นดินแดนแห่งคนรวย รวยธรรมดาไม่ได้นะ ต้องรวยมากๆ ด้วย
ดูไบ (Dubai) เป็นรัฐที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นเมืองท่าที่มีอัตราการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจสูงมาก จนนับได้ว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่มั่งคั่งที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ วิถีชีวิตของผู้คนที่นี่ก็ดูสะดวกสบายสุด แหม่ มีเงินเยอะก็สามารถเสกได้แทบจะทุกอย่างเลยล่ะ ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่มีคนรวยมากที่สุดแบบนี้ มาดูหน่อยซิว่าพวกเขาใช้ชีวิตกันอย่างไรบ้าง รับรองว่าเพื่อนๆ จะต้องตกตะลึงในไลฟ์สไตล์แบบดูไบ!! แช่ตัวในอ่างจากุชชี่ ดูวิวจากตึกสูงระฟ้าแบบนี้ ยิ่งกว่าสวรรค์ซะอีก หรือว่าอยากเปลี่ยนบรรยากาศในห้องนอน มานอนในอควาเรียมแบบนี้ หรือจะสร้างบ้านลอยน้ำกลางทะเลแบบนี้ก็ทำได้ เพียงแค่มีเงินซะอย่าง ออกไปพายเรือคายัค สูดอากาศชิคๆ เศรษฐีชาวดูไบส่วนมากจะร่ำรวยจากการค้าขายทองคำและน้ำมัน เงินที่เศรษฐีชาวดูไบมี บอกเลยว่าใช้ทั้งชาติยังไงก็ไม่หมด (แบ่งมาทางนี้ก็ได้น๊าาาาา) ออกไปจ่ายตลาด ก็พบกับทองตั้งแผงขายกันง่ายๆ แบบนี้เลย หรือจะเป็นคาปูชิโน่ทองคำ แบบนี้สักแก้วในตอนเช้า แหวนทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลก จะซื้อไปประดับบ้านก็ได้ไม่ว่ากัน ฟันเลี่ยมทองสวยๆ แบบนี้ไม่รวยจริงนี่ทำไม่ได้นะจ๊ะ ทองคำแท่งใหญ่ๆ แบบนี้ก็มีขายในร้านทองทั่วไปในดูไบ แม้แต่โทรศัพท์มือถือยังเป็นทองคำเลย ยอมแล้ว ช้อปปิ้งแต่ละที บิลยาวเป็นเมตร เครื่องเดียวไม่พอจัดมาให้หมดร้านเลยจ๊ะ!! รถคู่ใจของชาวดูไบก็ไม่ธรรมดานะ ต้องเป็นระดับรถสปอร์ตเท่านั้น…
-
พ่อตัดสินใจล้มเลิกธุรกิจ เพื่อนำเงิน 1,100 ล้านบาท สร้างสวนสนุกให้ ‘เด็กพิการ’ เล่นฟรี!!
นับว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่เกิดเป็นกระแสอิมแพคครั้งใหญ่ไปทั่วโลก หลังจากที่เศรษฐี Gordon Hartman เจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ ยอมสละทรัพย์สินทั้งหมดกว่า 1,100 ล้านบาท เพื่อเด็กพิการ เรื่องราวทั้งหมดเริ่มต้นขึ้นเมื่อ Morgan อายุได้ 12 ขวบ เธอถูกเพื่อนร่วมชั้นปฏิเสธที่จะเล่นด้วย และนั่นก็สร้างความลำบากใจให้แก่คุณพ่อของเธอเป็นอย่างมาก “สิ่งที่เราต้องการก็คือสวนสนุก ที่มอบความสนุกให้กับทุกคนจริงๆ ไม่สำคัญว่าคุณจะเป็นเด็กที่มีความต้องการพิเศษหรือไม่ แต่ถ้ามาที่นี่แล้วเราอยากทำให้มันเป็นสวรรค์ของเด็กหลายๆ คน” Gordon Hartman ให้สัมภาษณ์กับ BBC จากวันนั้นจนถึงวันนี้เป็นเวลากว่า 3 ปี ที่ครอบครัวของพวกเขาต้องทำงานอย่างหนัก เพื่อสวนน้ำสำหรับเด็กๆ ทุกคน ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้คุณพ่อจะเป็นนักธุรกิจรายใหญ่ มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วประเทศ ทว่าสิ่งเหล่านั้นกลับไม่มีความหมายใดๆ ถ้าหากเขาทำให้ลูกมีความสุขไม่ได้ สวนสนุกทั้งหมดต้องใช้เงินทุนมากถึง 34 ล้านเหรียญฯ (ราว 1,100 ล้านบาท) ทุกวันนี้หนึ่งในความสุขของพวกเขาก็คือ การได้เห็นเด็กๆ ออทิสติกรู้สึกมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก สำหรับหัวอกคนเป็นพ่อแม่นั้น เชื่อว่าพวกเขาคงเข้าใจดีถึงหัวอกของพ่อแม่คนอื่นๆ เช่นกัน และเพื่อเป็นการเติมเต็มสิ่งที่ขาดหาย…
-
แข็งแกร่งและหรูหรา อพาร์ทเม้นต์ “หลบภัย” ใต้ดินราคาเริ่มต้น 50 ล้านบาทต่อชั้น
ในช่วงหลายๆ ปีที่ผ่านมา ข่าวคราวเกี่ยวกับภัยธรรมชาติต่างๆ ดูจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และถึงแม้ว่าจะผ่านพ้นปี 2012 มานานแล้วแต่หลายๆ คนก็ยังคงมีความกังวลว่าซักวันจะถึงวันอวสานโลก ความกังวลต่างๆ เหล่านี้ทำให้เกิดนวัตกรรมที่เรียกว่าหลุมหลบภัย เกราะป้องกันอันตรายต่างๆ จากภัยพิบัติ และวันนี้เราก็มีอีกหนึ่งรูปแบบของหลุมหลบภัยสุดเจ๋งที่มีความสูงถึง 15 ชั้นและที่สำคัญมันอยู่ใต้ดิน!! อาคารที่ว่านี้ตั้งอยู่ในรัฐ Kansas สหรัฐอเมริกา หลุมหลบภัยนี้เป็นฝีมือการประดิษฐ์ของคุณ Larry Hall นายทหารของหน่วยวิศวกรรมแห่งกองทัพสหรัฐ โดยอาคารที่ว่านี้สามารถต่อต้านภัยธรรมชาติต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นพายุทอร์นาโด หรือการโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์ก็ตาม คุณ Larry Hall ซื้อที่ดินเปล่าๆ เมื่อปี 2008 และเริ่มสร้างอาคารหลบภัยใต้ดินนี้ โดยหลุมหลบภัยดังกล่าวจะมีการแบ่งขายเป็นชั้นๆ ซึ่งจะมีราคาตั้งแต่ 50 ล้านบาทจนถึง 130 ล้านบาทเลยทีเดียว ในแต่ละชั้นจะมีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 5,000 ตารางเมตร และสามารถรองรับผู้อยู่อาศัยได้ถึง 75 คนนาน 5 ปีเลยทีเดียว “ในทุกวันนี้กำลังมีภัยคุกคามชีวิตของพวกเรามากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นพายุทอร์นาโด การระบาดของโรค และอันตรายจากการก่อการร้าย และผู้คนส่วนใหญ่ก็ไม่อยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับตัวเอง ดังนั้นผมจึงสร้างที่นี่ขึ้นมาเพื่อพวกเขา”…
-
หนุ่มน้อยวัย 8 ขวบ กับตำแหน่งเจ้าของบริษัท ‘ขายไข่ไก่’ มีรายได้ปีละ 570,000 บาท!!
ไม่ว่าใครต่างก็ใฝ่ฝันอยากที่จะเป็นเศรษฐีเงินล้าน…แต่มันจะมีความหมายอะไรหากเราได้แค่ฝัน แต่ไม่ยอมลงมือทำซักที เช่นเดียวกับหนูน้อย Junior Wyatt วัย 8 ขวบ ที่เริ่มต้นเส้นทางสู่เศรษฐีเงินล้านด้วยการ ‘ขายไข่ไก่’ จนสามารถหาเงินได้เองมากถึงปีละ 570,000 บาท!! (เฉลี่ยโดยรวมเดือนละ 47,500 บาทเลยนะเนี่ย) จากจุดเริ่มต้นมาจนถึงการตั้งบริษัทอย่างจริงจังในชื่อ Mr Free Range ขึ้นมา โดยทำการร่วมตั้งบริษัทกับคุณแม่ และมีทุนจดทะเบียนเพียงแค่ 430 บาทเท่านั้น โดยน้อง Junior จะขายไข่ไก่ในราคา 87 บาท สำหรับ 6 ฟอง 152 บาท สำหรับ 12 ฟอง และ 262 บาท สำหรับ 30 ฟอง ซึ่งไข่ที่นำมาขายก็จะรับซื้อมาจากฟาร์มที่อยู่ในละแวกบ้านของเขาเอง และตอนนี้หนูน้อย Junior ก็สามารถขายไข่ไปได้แล้วมากกว่า 750 ฟอง!! ความคิดที่จะเปิดบริษัทขายไข่นี้ ได้มาจากการชมรายการสารคดี ‘How’d You…
-
โฉมหน้า 6 มหาเศรษฐี ที่บริจาคเงินให้การกุศล เพราะรวยไปก็ไลฟ์บอย ช่วยสังคมดีกว่า!!
เคยลองจินตนาการกันเล่นๆ มั้ยว่า? ถ้าวันหนึ่งจู่ๆ เรากลายเป็นเศรษฐีพันล้านชื่อดังระดับโลกขึ้นมา เราจะเอาเงินทั้งหมดนั้นไปทำอะไรบ้าง? แต่สำหรับเศรษฐีระดับโลกทั้ง 6 คนนี้ เชื่อว่าพวกเขาน่าจะได้ทำในสิ่งที่อยากทำไปหมดแล้ว เลยนำเงินที่หามาได้บริจาคให้กับการกุศลเป็นจำนวนมาก และทั้งหมดนี้คือเรื่องราวของเศรษฐีที่รวยไปก็ไลฟ์บอย หันมาช่วยสังคมบ้างอะไรบ้างดีกว่า!! Bill Gates – 28 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หากพูดถึงคนที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก ก็ต้องมีรายชื่อของชายคนนี้เข้าไปเกี่ยวข้องด้วยเสมอ จากการรายงานพบว่าเขายอมบริจาค 95% ของรายได้ตัวเองให้แก่มูลนิธิ Bill and Melinda Gates Foundation ถ้าตีเป็นตัวเลขกลมๆ จาก 95% ของรายได้ที่เขาบริจาคไป ก็จะได้ตัวเลขทั้งหมดเท่ากับ 28 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐอเมริกา หรือราวๆ 955 พันล้านบาทนั่นเอง Warren Buffet – 14 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ชายผู้รวยเป็นอันดับ 3 ของโลก ก่อนหน้านี้เขาเคยบริจาคเงินกว่า 14 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ให้กับมูลนิธิของ Bill Gates อีกทั้งเจ้าตัวยังเคยให้สัมภาษณ์ว่าจะบริจาครายได้ 99%…
-
หนุ่มวัย 15 ปี เศรษฐีรุ่นใหม่ขายขนมในห้องน้ำโรงเรียน จนมีรายได้กว่า 1.9 ล้านบาทต่อปี!!
ใครอยากเป็นเศรษฐี? ฉันน่ะสิ… ฉันน่ะสิ… ไม่ว่าใครก็อยากจะประสบความสำเร็จในชีวิตกันทั้งนั้น บางคนอาจจะใช้เวลาไขว่คว้าหาสิ่งนี้มาชั่วชีวิต แต่สำหรับพ่อหนุ่มวัยห้าวเป้งคนนี้เค้าเจอทางที่พิเศษกว่านั้น เพราะมันอยู่ในห้องน้ำโรงเรียนนี้แหละ!! กลายเป็นเรื่องราวที่ถูกแชร์ต่อไปทั่วโลก เกี่ยวกับหนุ่มวัย 15 ปี Nathan John-Baptiste ที่สามารถทำรายได้ๆ มากถึง 43,000 ปอนด์ต่อปี จากการขายขนมในห้องน้ำโรงเรียนให้เพื่อนๆ จนตอนนี้ขยายสาขาไปแล้วมากกว่า 3 แห่งทั่วกรุงลอนดอน Nathan John-Baptiste เศรษฐีหนุ่มหัวใสที่กำลังโด่งดังไปทั่วโลก ในแต่ละวันเขาสามารถทำกำไรจากการขายขนมขบเคี้ยว และของหวานต่างๆ ให้เพื่อนๆ ในโรงเรียนได้มากถึง 230 ปอนด์ต่อวัน (ราว 10,000 บาท) โดยเจ้าตัวจะนำเมนูขนมต่างๆ พร้อมกับอัพเดทโปรโมชั่นประจำวันผ่านแอพฯ Snapchat ให้เพื่อนๆ ได้เลือกสรรก่อนจะทำการแลกเปลี่ยนกันในห้องน้ำตอนช่วงพักเที่ยง ราคาขนมส่วนใหญ่จะขายถูกกว่าในร้านค้าข้างนอก โดยเริ่มต้นที่ 50 เพนนีเท่านั้น ดูเหมือนว่าเจ้าตัวจะไม่หยุดธุรกิจอยู่แค่นี้ เพราะล่าสุดคุณครูในโรงเรียนได้รายงานว่า พ่อหนุ่มได้ขยายสาขาร้านขายขนมในห้องน้ำโรงเรียนเพิ่มอีก 3 สาขา โดยมีลูกจ้างพนักงานมากถึง 11 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเพื่อนๆ ต่างโรงเรียนของเขานั่นเอง สินค้าที่เจ้าตัวขายก็มีตั้งแต่คิทแคท คุ๊กกี้ ขนมคบเคี้ยวต่างๆ…
-
เสี่ยงตายรายได้งาม “นักจับปูอลาสก้า” อาชีพอันตรายที่สุดในโลก ออกรอบเดียวได้หลักล้าน!!
ใครที่กำลังเผชิญอยู่กับปัญหาการเงินติดขัด หรือรู้สึกว่างานที่ทำมันช่างได้ค่าตอบแทนที่ไม่เหมาะสมเอาซะเลย วันนี้เราจะพาไปรู้จักกับอาชีพจับปูที่มีรายได้ดีสุดๆ สื่อหลายสำนักต่างเคยลงเรื่องราวของอาชีพนักจับปูอลาสก้ามาให้เราเห็นผ่านตากันบ้างแล้ว ซึ่งมันก็เป็นเรื่องจริงที่ว่าเป็นอาชีพที่เสี่ยงอันตรายสูงมาก แต่ก็แลกมาด้วยค่าตอบแทนที่สูงจนน่าตกใจเช่นกัน อาชีพจับปูอลาสก้านั้นจะสามารถทำได้เฉพาะช่วงเดือน ตุลาคม – มกราคม ของทุกปีเท่านั้น เนื่องจากเป็นช่วงที่มีสภาพอากาศหนาวที่สุดในรอบปี และในช่วงที่สภาพอากาศหนาวที่สุดในรอบปีนี้เอง จะเป็นช่วงที่เหล่าปูอลาสก้าทั้งหลายเดินทางมาวางไข่ใต้ท้องทะเลลึกกัน ซึ่งนับว่าเป็นโอกาสทองเดียวของพวกเขาในการล่าพวกมันมาขาย ส่วนใหญ่แล้วการเดินเรือหนึ่งครั้งจะใช้ระยะเวลาประมาณไม่เกิน 2 – 4 อาทิตย์/ปี เท่านั้น พวกเขาจะต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่หนาวสุดขั้ว ท่ามกลางมหาสมุทรที่มีคลื่นซัดกระหน่ำ The Bureau of Labor Statistics ได้จัดอันดับให้งานจับปูอลาสก้า เป็นงานที่มีความเสี่ยงสูงมากที่สุดติดอันดับต้นๆ มีการเก็บค่าเฉลี่ยและพบว่าในทุกๆ รอบของการเดินทางไปจับปู จะต้องมีลูกเรือเสียชีวิต 1 คนเป็นอย่างน้อย ลูกเรือทุกคนจะต้องทำงานอย่างหนักเกือบตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อแข่งขันกับเวลาในการจับปูอลาสก้า ทว่านั่นเป็นสาเหตุทำให้คนงานส่วนใหญ่ขาดสติในการทำงาน และเสียชีวิตจากการจมน้ำตาย หรือไม่ก็เสียชีวิตจากภาวะตัวเย็นเกิน ด้วยกฎหมายการออกล่าที่จำกัดระยะเวลา ทำให้พวกเขาต้องทำงานอย่างหนักเพื่อแข่งกับเวลา ทว่าด้วยความเสี่ยงที่สูงกว่าอาชีพอื่นๆ ทำให้คนจับปูเป็นอาชีพที่มีรายได้เฉลี่ยสูงกว่า 50,000 –…
-
เจ้าของแอพ “Flogg” หนุ่มวัย 17 ยอมออกจากโรงเรียนตั้งใจพัฒนาแอพ จนเป็นเศรษฐีหลายล้าน!!
สำหรับใครที่กำลังแสวงหาความสำเร็จในชีวิต หรือบางคนที่รู้สึกว่า.. ไม่อยากเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว อยากออกมาทำตามความฝันจนโด่งดังไปทั่วโลกเหมือนสตีฟ จ๊อบส์ หรือไม่ก็มาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ก (อุ๊ยยย ลืมไปพี่มาร์คเพิ่งรับปริญญาไปหมาดๆ ฮ่าาาาา) แม้การออกจากการเรียนจะไม่รับประกันว่าทุกคนจะสำเร็จ แต่วันนี้เรามีตัวอย่างมาแนะนำ เชื่อว่าใครหลายคนที่ชอบติดตามโค้ชสอนชีวิต หรือมองหาแรงบันดาลใจของการใช้ชีวิต พ่อหนุ่มคนนี้มีคำตอบให้ Ben Pasternak เด็กหนุ่มวัย 17 ปี ผู้ลาออกจากโรงเรียนผันตัวเป็นนักพัฒนาแอพพลิเคชั่นเต็มตัว ทุกวันนี้พ่อหนุ่มอาศัยอยู่ในอพาร์ทเม้นท์ย่าน Hell’s Kitchen ราคาสูงกว่า 170,000 บาท/เดือน แถมยังซี้กับศิลปินดังอย่าง Drake ด้วยนะ เดี๋ยวจะหาว่าโม้ สองคนนี้เค้าซี้กันจริงๆ นะ ก่อนหน้านี้ Ben Pasternak ใช้ชีวิตเหมือนเด็กหนุ่มทั่วไป เขาทำการบ้านตอนเลิกเรียน หมกมุ่นอยู่กับการเล่นเกมในวันหยุด และหลีสาวบ้างในบางครั้ง แต่ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปเมื่อพ่อหนุ่มได้อายุ 15 ปี จากความเบื่อหน่ายทำให้เจ้าตัวทดลองสร้างแอพเกมบน iPhone เป็นโปรเจคส่งอาจารย์ในวิชาวิทยาศาสตร์ ทว่าผลงานกลับไปเตะตานักลงทุนเข้า และนั่นก็ทำให้ชีวิตเขาเปลี่ยนไปตลอดกาล จากนั้นเจ้าตัวก็ได้ผันตัวเองจากหนุ่มออสซี่บ้านนา สู่การเป็นชาวนิวยอร์กเกอร์อย่างเต็มตัว…
-
คู่รักนักท่องเที่ยว เผยวิธีการถ่ายรูปอย่างไรให้ได้เงิน ภาพละไม่ต่ำกว่า 300,000 บาท!?
Jack Morris และ Lauren Bullen คู่รักที่ใครต่อใครต่างก็อิจฉา สำหรับใครที่ติดตามอินสตาแกรมของพวกเขาอยู่แล้ว ก็จะรู้กันดีว่าทั้งคู่มักจะอัพรูปภาพไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ รอบโลกด้วยกันอยู่เสมอ แต่เพื่อนๆ รู้ไหมว่า ภาพแต่ละภาพที่เขาโพสต์ลงไปในอินสตาแกรมนั้นมีมูลค่ามากกว่า 300,000 บาทเลยทีเดียว!! ด้วยผู้ติดตามในอินสตาแกรมกว่า 2 ล้านคน สำหรับบัญชีของ Jack เพียงคนเดียว และบัญชีของ Lauren อีก 1.2 ล้านคน จากรายได้ต่อภาพที่โพสต์ลงอินสตาแกรม ทำให้ทั้งคู่มีเงินมากพอจนสร้างบริษัทการท่องเที่ยวเป็นของตัวเองได้ และนำเงินที่ได้มาสนับสนุนในการท่องเที่ยวไปรอบโลก และนี่เกร็ดความรู้เล็กๆ น้อยที่ทำให้นาย Jack ประสบความสำเร็จด้านการท่องเที่ยวอย่างทุกวันนี้ มาแชร์ให้พวกเราได้รู้กัน “ผมทำการแก้ไขรูปภาพทุกภาพให้มีลักษณะและสไตล์ที่คล้ายกัน ผ่านโปรแกรม Lightroom โดยใช้โทนสีแบบที่ดูเหมือนฝันและจินตนาการในการแต่งรูปภาพ และการเลือกช่วงเวลาถ่ายภาพ มักจะเป็นช่วงเย็นๆ ที่แสงสลัวๆ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงในการถ่ายทำ ซึ่งแต่ละภาพจะมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 100,000 บาทเลยทีเดียว” . .…
-
โป๊ะแตก!! มีคนจับภาพของ “กลุ่มขอทาน” ในอังกฤษ ลงรถเก๋งมาเป็นขบวนการ
เชื่อว่าแทบทุกเมืองบนโลก โดยเฉพาะเมืองใหญ่ๆ ทั้งในประเทศพัฒนาแล้วหรือประเทศด้อยพัฒนาก็ตาม อย่างน้อยๆ เราจะต้องเห็น “ขอทาน” อยู่ภายในเมืองบ้างไม่มากก็น้อย พวกเขาต่างจับจองสถานที่ไม่มุมใดก็มุมหนึ่งของเมือง แล้ววิงวอนขอความเมตตาและน้ำใจจากผู้คนที่ผ่านไปผ่านมา นั่นทำให้บ่อยครั้งที่เราก็จำใจให้เงินพวกเขาไป เพราะหวังว่าจะได้มีชีวิตรอดต่อไปวันต่อวัน… แต่ล่าสุด…. มีการจับโป๊ะขอทานกลุ่มหนึ่งในประเทศอังกฤษได้ เมื่อมีคนพบว่าขอทานเหล่านี้ นั่งรถเก๋งมาด้วยกัน ก่อนแยกย้ายกันไปจับจองที่นั่งตามมุมต่างๆ ของเมืองเคมบริดจ์ นอกจากนี้ หนึ่งในแก๊งขอทาน ยังเอารถไปจอดที่ที่จอดรถสาธารณะแบบเก็บเงินและจอดตั้งแต่ 9 โมงเช้าจนถึง 6 โมงเย็น (ชั่วโมงละ 4 ปอนด์หรือราว 200 บาท) ซึ่งเป็นระยะเวลาที่นานที่สุดเท่าที่พวกเขาจะจอดได้ นั่นแปลว่าเขาต้องจ่ายค่าจอดรถจำนวนมหาศาลประมาณวันละ 200×9 ก็ราวๆ 1,800 บาทเลยล่ะ ในส่วนของเฉพาะค่าจอดรถในแต่ละวัน (อ้าว ไม่จนนี่น่า) ภาพของหนึ่งในขอทาน สมาชิกกลุ่มดังกล่าว ชาวเมืองท่านหนึ่งได้กล่าวว่า “ผมเห็นพวกเขาพากันออกมาจากรถเมื่อเช้านี้ เอาจริงๆ ก็เห็นแทบทุกวันนั่นแหละ มีชายแก่เดินถือไม้ค้ำออกมา ผมไม่คิดว่าพวกเขาเป็นคนไร้บ้านอะไรงี้หรอกนะ” นอกจากนี้ชาวเมืองยังบอกอีกว่า กลุ่มเป้าหมายของขอทานกลุ่มนี้คือเหล่าเด็กนักเรียนที่มักมีเงินเหรียญเหลือติดตัวกลับมาจากโรงเรียน โดยพวกเขาจะตะโกนใส่เด็กๆ ที่เดินผ่านไปมา…
-
NASA ตั้งเป้าไปพิชิตดาวเคราะห์น้อยโลหะ มีมูลค่าดวงดาวกว่า 1 หมื่นล้านล้านล้านล้านบาท!!
แม้โลกจะเป็นดาวเคราะห์ที่สมบูรณ์แบบสำหรับการใช้ชีวิตของมนุษย์ แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมาอวกาศก็ยังเป็นดินแดนที่มนุษย์อยากจะไปเยือนเสมอมา อย่างที่เราได้เห็นโครงการออกสำรวจอวกาศจากชาติยักษ์ใหญ่หลายสิบครั้งในช่วงหกสิบปีที่ผ่านมา ซึ่งแต่ละครั้ง ต่างช่วยพัฒนาองค์ความรู้ของมนุษย์ให้ก้าวไปอีกขั้นเสมอมา ล่าสุดทางนาซ่าได้มีแผนที่จะไปสำรวจดาวเคราะห์น้อยดวงหนึ่งที่อยู่ห่างไปจากโลกราว 500 ล้านกิโลเมตร หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมพวกเราจึงต้องไปสำรวจดาวเคราะห์น้อย แทนที่จะไปสำรวจดาวเคราะห์ดวงอื่นๆ ก็เพราะว่าดาวดวงนี้มีมูลค่าถึง 1 หมื่นล้านล้านล้านล้านดอลลาร์เลยทีเดียว!!! ดาวเคราะห์น้อยดวงนี้มีชื่อว่า “Psyche” ตั้งอยู่บริเวณแถบดาวเคราะห์น้อยระหว่างดาวอังคารและดาวพฤหัส มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 200 กิโลเมตร สิ่งที่ทำให้ดาวเคราะห์น้อยดวงนี้พิเศษกว่าดาวเคราะห์น้อยดวงอื่น นั่นก็คือดาวเคราะห์น้อยดวงนี้มีส่วนประกอบส่วนใหญ่เป็นเหล็ก นิกเกิล และแร่ธาตุหายากอื่นๆ เช่น ทอง ทองแดง ทองคำขาว โคบอลต์ อิริเดียม และอื่นๆ อีกมากมาย Lindy Elkins-Tanton นักวิทยาศาสตร์จากนาซ่ากล่าวว่า “มันเป็นวัตถุที่ประหลาดมาก แต่เราไม่ได้คิดจะเอามันกลับมาโลกหรอกนะ เพราะเรายังไม่มีเทคโนโลยีที่จะทำแบบนั้นหรอก” แน่นอน พวกเขาเพียงแค่ต้องการสำรวจดาวเคราะห์น้อยดวงนี้ โดยยานสำรวจจะถูกปล่อยในปี 2023 และจะถึงดาว Psyche ในปี 2030 จากนั้นยานสำรวจก็จะทำการรายงานผลการสำรวจกลับมา พวกเขาเชื่อว่าการสำรวจครั้งนี้ จะช่วยให้พวกเขาสามารถเข้าใจ “การกำเนิด” ของโลกได้ดียิ่งขึ้น …
-
รวม 10 อันดับ ดาวเด่น YouTube ที่มีรายได้สูงสุดประจำปี 2016 จัดอันดับโดย Forbes
ต้องขอบอกเลยว่าในยุคนี้คงมีน้อยคนนักที่จะไม่รู้จักเว็บไซต์ยอดนิยมอย่าง ‘Youtube’ ซึ่งเป็นเว็บไซต์สื่อออนไลน์ที่นำเสนอในรูปแบบของคลิปวิดีโอ แน่นอนว่าในยามว่างหลายๆ คนก็มักจะหาอะไรดูเพื่อพักผ่อนหย่อนใจ คลายเครียด หรือจะหาความรู้เพิ่มเติม ชมเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นทั่วโลก ก็สามารถรับชมได้ผ่านทาง Youtube ทั้งสิ้น จึงทำให้มีอาชีพ ‘Youtuber’ ขึ้นมา ซึ่งเป็นคนที่ผลิตคลิปวิดีโอสนุกๆ ออกมาให้แฟนๆ ได้รับชมในหลากหลายรูปแบบ อาจจะเป็นนักแคสเกม นักทำอาหาร แกล้งคน ทำคลิปตลกๆ ก็แล้วแต่แนวทางของ Youtuber แต่ละคน และที่สำคัญพวกเขามีรายได้กันด้วยนะเออ!! ซึ่งรายได้เหล่านี้ก็มาจากหลายทางทั้งมีผู้สนับสนุนให้เงินทุนพัฒนาเนื้อหาในวิดีโอ บางส่วนก็ได้รับจากยูทูบเอง บ้างก็ได้รับเงินจากค่าโฆษณาสินค้า หรือรีวิวสินค้าให้ เป็นต้น และนี่คือ Youtuber ทั้ง 10 คนที่ทำรายได้มากที่สุดในปี 2016 จัดอันดับโดยนิตยสาร Forbes จะมีใครบ้างนั้นลองไปชมพร้อมๆ กันได้เลยจ้า… อันดับที่ 7 (ร่วม) Colleen Ballinger รายได้ 178 ล้านบาท แชแนลที่นำเสนอคลิปงิดีโอที่มีเนื้อหาตลก โดย Colleen เจ้าของแชแนลนั้นได้ทำการสร้างตัวละครขึ้นมา 1 ตัวชื่อว่า…
-
ผลสำรวจสาวๆ ญี่ปุ่น 1,000 คน ระหว่าง “ไม่หล่อแต่รวย” กับ “หล่อแต่ไม่มีงานทำ” จะเลือกใคร!?
บ่อยครั้งที่เราจะเห็นการถกเถียง การตั้งคำถามกันในโลกออนไลน์ เกี่ยวกับประเด็นในการเลือกคบคน เช่น “หากมีคนหล่อแต่จนกับคนไม่หล่อแต่รวยมาจีบ คุณจะเลือกใคร?” เพื่อดูว่าผู้หญิงจะเลือกคบคนแบบไหนมาเป็นแฟน เพื่อให้การตั้งคำถามนั้นเกิดผลลัพธ์ที่วัดผลได้จริง นิตยสาร AneCan ในญี่ปุ่นจึงได้ทำการสำรวจสาวๆ ประมาณ 1,000 คน เพื่อสอบถามพวกเธอว่าอยากจะได้ผู้ชายแบบไหนมาเป็นแฟน ระหว่าง “ผู้ชายหน้าตาไม่หล่อแต่มีเงินถัง” (มีรายได้ต่อปี 90 ล้านบาท) กับ “ผู้ชายหล่อแต่ไม่มีงานทำ” หลังจากที่ได้ออกไปสำรวจสาวๆ ทั้งหมด ผลที่ได้ก็คือ 75.5% ของผู้หญิงที่ตอบแบบสอบถาม เลือกผู้ชายที่รวยและประสบความสำเร็จในด้านการเงิน ในอีกด้านหนึ่งราวๆ 24.5% ของผู้หญิงที่ตอบแบบสอบถาม บอกว่าพวกเธอยินดีจะจ่ายค่าอาหารแทนหนุ่มๆ ตราบใดที่พวกเธอยังได้นั่งมองหน้าหล่อๆ ของพวกเขา (สายเปย์นั่นเอง) หลังจากที่ผลสำรวจนี้ถูกเผยแพร่ออกไปในโลกออนไลน์ ก็ทำให้ชาวเน็ตหลายคนพากันแสดงความคิดเห็นกันไปอย่างหลากหลาย เช่น “เราควรจะดูกันที่ภายใน” “ดูกันที่ภายใน = ก็เงินไง!” “เห็นได้ชัดอยู่แล้วว่าทุกคนเลือกคนรวย” “ในท้ายที่สุดแล้ว เงินคือทุกสิ่ง” “ฉะนั้นไม่ใช่ตัวผู้ชายหรอกที่เนื้อหอม แต่เงินของเขาต่างหากที่เนื้อหอม” “ผมเป็นผู้ชายนะ แต่ผมก็คงตอบแบบเดียวกันถ้าผมเป็นผู้หญิง” จากผลสำรวจเห็นได้ชัดว่าสาวๆ เลือกคนที่คิดว่าจะสามารถดูแลพวกเธอได้ แต่นั่นก็อาจแปรผกผันไปตามช่วงอายุของสาวๆ…
-
ช่างภาพตามถ่าย ชีวิตของ “สัตว์เลี้ยง” ทั่วทุกมุมโลก จากครอบครัวที่มีรายได้แตกต่างกัน
มีสิ่งต่างๆ บนโลกใบนี้ ที่ได้ก่อกำเนิดขึ้นมาเป็นเวลานานนับหมื่นปี เช่นเดียวกับการเลี้ยงสัตว์ ที่มนุษย์ได้เริ่มเลี้ยงเมื่อประมาณ 15,000 ปีมาแล้ว ดังนั้น จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมผู้คนทั่วโลก ถึงแบ่งปันความรักให้กับเจ้าสัตว์ตัวน้อยๆ อย่างหมา แมว กระต่าย ฯลฯ และเมื่อเร็วๆ นี้ ทางด้านเว็บไซต์ Dollar Street ได้เผยชุดภาพจากทาง Gapminder ที่เก็บรวบรวมภาพถ่ายของสัตว์เลี้ยงจากทั่วทุกมุมโลก โดยมีจุดประสงค์เพื่อแสดงให้เห็นถึงสภาพความเป็นอยู่ที่แตกต่างกันของพวกสัตว์ ที่อาศัยอยู่ในครอบครัวที่มีฐานะดี ไปจนถึงครอบครัวที่ยากจนที่สุด และเปิดหูเปิดตาให้คนทั่วไป ได้เห็นชีวิตของสัตว์เลี้ยงทั่วโลกว่าเป็นอย่างไรบ้าง ว่าแล้วก็มาชมภาพถ่ายของพวกมันกันเลย… เหมียวจากครอบครัวชาวไลบีเรีย ที่มีรายได้เดือนละ 1,700 บาท เจ้าเหมียวที่อาศัยอยู่กับครอบครัวของชาวรัสเซีย ที่มีรายได้ 20,000 บาทต่อเดือน พี่หมาที่อาศัยอยู่กับเจ้านายชาวเม็กซิกัน ที่มีรายได้ 224,000 บาทต่อเดือน สุนัขตัวนี้ อาศัยอยู่กับครอบครัวชาวเฮติ ที่มีรายได้เดือนละ 1,400 บาท แมวเหมียว จากครอบครัวชาวตูนิเซีย ที่มีรายได้เดือนละ 7,700 บาท…
-
ล้วงลึกชีวิตหรูหราอู้ฟู่ของ Donald Trump กับคฤหาสน์-เพนท์เฮ้าส์ส่วนตัวทั้ง 5 หลัง
หลังจากการประกาศผลการเลือกตั้งของประธานาธิบดีเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ก็เป็นที่สรุปเรียบร้อยแล้วว่าประธานาธิบดีคนต่อไปของประเทศสหรัฐอเมริกาก็คือนาย Donald Trump นี่เอง ก็อย่างที่ทุกท่านทราบดีว่า Trump นั้นเป็นมหาเศรษฐีที่เรียกได้ว่ามีฐานะที่โคตะระรวย และจะรวยขนาดไหน เราลองไปทัวร์ชมคฤหาสน์ของพี่แกกันดูดีกว่าว่าจะหรูหราสมกับฐานะหรือไม่ ต้องขอบอกไว้ก่อนเลยว่า ‘บ้านส่วนตัว’ ของเขานั้นไม่ได้มีเพียงแค่หลังเดียวเท่านั้น Trump เป็นเจ้าของทั้งคฤหาสน์หรู เพนท์เฮ้าส์ รวมถึง 5 ที่ด้วยกัน จะมีที่ไหนบ้างเราลองไปชมพร้อมๆ กันได้เลยจ้า… 1. Trump Tower เพนท์เฮ้าส์ในนคร Manhattan ตึก Trump Tower ที่มีความสูงถึง 68 ชั้นนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่ออฟฟิศสำหรับทำธุรกิจของเขาเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่บนชั้นที่ 66 ขึ้นไปนั้นก็ถูกสร้างให้เป็นที่พักส่วนตัวสำหรับบิ๊กบอสของที่นี่อีกด้วย โดยการตกแต่งภายในนั้นมีต้นแบบมาจากพระราชวัง Versailles ที่ถูกประดับประดาไปด้วยเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งต่างๆ ที่ทำมาจากอัญมณีทั้งเพชร และทองคำ ทำให้สีสันของห้องพักนี้กลายเป็นสีทองดูอร่ามตา เท่านั้นยังไม่พอการนั่งพักบนชั้นบนสุดของตึก Trump Tower นี้ยังสามารถมองเห็นวิวของ Central Park ได้อย่างชัดเจน โดยราคาของเพนท์เฮ้าส์แห่งนี้ถูกตีราคาอยู่ที่ราวๆ 3,500 ล้านบาทเลยทีเดียว…
-
รู้จักกับ ‘Choupette’ นางแบบแมวเหมียว ผู้สร้างรายได้นับล้านดอลลาร์ภายในสองวัน!!
ไม่ว่าใครก็อยากจะประสบความสำเร็จ มีหน้าที่การงานที่ดี อีกทั้งยังสามารถหารายได้จำนวนมาก ช่วยให้คนในครอบครัวมีชีวิตกันอย่างสุขสบายทั้งนั้น เจ้าแมวเหมียวตัวนี้ก็เช่นกัน เพราะมันบังเอิญไปเจอแมวมอง (แมว) แล้วกลายเป็นว่ามันสร้างรายได้ให้เจ้าของมันนับล้านดอลล่าร์ ภายในเวลาเพียงแค่ 2 วันเท่านั้น!! เจ้าแมวเหมียวนางแบบที่รวยยิ่งกว่ามนุษย์หลายๆคนตัวนี้ เป็นคู่หู คู่ซี้ ของนักออกแบบชาวเยอรมัน Karl Lagerfeld (แห่งแบรนด์ Chanel) ่เราคุ้นเคย เจ้าแมวเหมียวตัวนี้จะสร้างรายได้นับล้าน จากการโชว์ตัวเป็นนางแบบให้โฆษณาสินค้าต่างๆ ตอนนี้เจ้า ‘Choupette’ ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นแมวที่มีชีวิตหรูหราสุดๆ มันอาศัยอยู่กับเพื่อนแมวเหมียวอีก 2 ตัว เดินทางท่องเที่ยวรอบโลกด้วยสายการบินระดับเฟิร์สคลาส อีกทั้งยังมีอินสตาแกรมพร้อมคนติดตามเป็นแสนๆอีก เซเล็บจริงๆเลยเจ้าเหมียวเอ๊ยย และถึงแม้ว่ารายได้ของมันเมื่อเทียบแล้วจะยังน้อยกว่าเจ้า ‘Grumpy Cats‘ แมวเหมียวหน้าบึ้งที่โด่งดังไปทั่วโลกโฆษณา (รายได้ประมาณ 100 ล้านดอลล่าร์) นั่นก็เพราะเจ้าของค่อนข้างที่จะจู้จี้จุกจิกเกี่ยวกับสัญญางานของเจ้าแมวเหมียวมากเป็นพิเศษ “ผมไม่ค่อยอยากให้เจ้าเหมียว รับงานเกี่ยวกับอาหารเท่าไหร่ เพราะมันช่ำชองเรื่องการกินเหลือเกิน เกรงว่ามันจะอ้วนมากเกินไป” เจ้าของแมวเหมียวชาวเยอรมันกล่าว กราฟฟิคดีไซน์เนอร์หนุ่มได้เล่าถึงการพบกันของทั้งคู่ว่า “ตอนแรกเจ้าเหมียวเป็นของเพื่อนผม แต่เขาต้องเดินทางไปต่างประเทศ 2 อาทิตย์ เลยมาฝากผมเลี้ยงไว้ แต่หลังจากที่เขากลับมา…
-
เทรนด์ใหม่มาแรง รองเท้าแตะ “ขนแพะ” สลวยสวยเก๋ราคาเบาๆ 63,000 บาท
คนรวยนี่มันรวยจริงๆ คิดจะใช้จ่ายยังไงก็ได้ เวลามือถือรุ่นใหม่ออกก็เปลี่ยนเป็นว่าเล่น ต่างจากคนอย่างเรา ต้องรอแบบ iPhone 4 แล้วข้ามไป iPhone 7 เลยทีเดียว และวันนี้ #เหมียวสามสี ก็มีของเล่นใหม่สำหรับคนรวยมานำเสนอ จริงๆ ก็ไม่ใช่ของเล่นหรอก มันคือรองเท้าที่ไม่ธรรมดา เพราะมันคือรองเท้าแตะที่ทั้งหมดนั้นทำมาจาก “ขนแพะ” และนี่ก็คือหน้าตาของมัน ราคาอยู่ที่ประมาณ 63,000 บาท สวยป่ะล่ะ อ่ะ ดูในมุมเต็มตัว จะใส่คู่กับอะไรก็แมทช์เหลือเกินนนน ทางเว็บไซต์ Net-A-Porter ได้อธิบายไว้ว่า นี่คือของเท้าที่ออกแบบมาได้เป็นเอกลักษณ์มากที่สุด โดยฝีมือของนักออกแบบ Alessandro Michele ถ้าถามว่าทำไมถึงแพง ก็เพราะว่ามันติดแบรนด์ Gucci อยู่ยังไงล่ะ ไม่รู้ว่าท่านเอาไอเดียการทำรองเท้าแตะนี้มาจากไหน แต่พอชาวเน็ตเห็นภาพ หลายคนก็จินตนาการไปต่างๆ นานา บ้างก็บอกว่าเอามาจากทรงผมโดนัล ทรัมป์ บางคนก็บอกว่านี่แกเอาขนชิวเบกก้ามาทำใช่มั้ย? ยืนยันว่าราคาของมันแตะ 60,000 จริงๆ นี่คือจากเว็บที่ขายอยู่ สำหรับใครที่สนใจก็ลองเข้าไปจับจ่ายกันได้ที่ Net-A-Porter ได้เลย (ถ้าเงินเหลืออ่ะนะ) …
-
ผลสำรวจน่าคิด จาก “ผู้หญิงญี่ปุ่น” ถ้าคู่สมรสเป็นคนรวยแต่หน้าตาไม่ดี เธอจะรับได้หรือไม่!?
ไม่บ่อยนักที่เราจะได้เห็นทัศนคติของผู้หญิงญี่ปุ่น เกี่ยวกับการแต่งงานและชีวิตคู่ เนื่องจากว่าเวลาเราดูจากภาพยนตร์หรือละครของญี่ปุ่น มักจะเห็นว่าผู้หญิงส่วนมากจะเป็นแม่บ้าน ทำงานบ้าน แต่ครั้งนี้เราจะมาดูกันว่าผู้หญิงญี่ปุ่นนั้นคิดอย่างไร ถ้าเกิดว่ามีสามีรวยแต่หน้าตาน่าเกลียด…. ทางเว็บไซต์ Shirabee ของญี่ปุ่นได้ทำการสำรวจผู้หญิงจำนวน 683 คน โดยช่วงอายุระหว่าง 20 – 69 ปี โจทย์ว่าจะรับได้หรือไม่ถ้าคนที่คุณจะแต่งงานด้วยหน้าตาน่าเกลียด แต่รวย ซึ่งผลที่ออกมาก็ดูหลากหลายมากๆ นี่คือผลที่ได้ เมื่อแบ่งตามอายุ (สำหรับคนที่ตอบว่ารับได้) ผู้หญิงอายุในช่วงวัย 20 – 29 ปี ตอบว่ารับได้ 32.8% ผู้หญิงอายุในช่วงวัย 30 – 39 ปี ตอบว่ารับได้ 29.9% ผู้หญิงอายุในช่วงวัย 40 – 49 ปี ตอบว่ารับได้ 22.6% ผู้หญิงอายุในช่วงวัย 50 – 59 ปี ตอบว่ารับได้ 23.9% ผู้หญิงอายุในช่วงวัย…
-
ส่องความหล่อ ‘ดยุคที่ 7 แห่งเวสต์มินสเตอร์’ เศรษฐีพันล้านอายุน้อยที่สุดในอังกฤษตอนนี้!?
เป็นใครก็อยากรวยทั้งนั้น แต่เส้นทางสู่การรวยเนี่ยสิ มันช่างยากเย็นจริงๆ ถ้าพ่อแม่เราไม่ใช่คนรวยนะ… แต่สำหรับบางคนก็เหมือนจะโชคดีเพราะมาพร้อมกับความร่ำรวยมาตั้งแต่กำเนิดเลย เหมือนกับ Hugh Grosvenor ที่กลายมหาเศรษฐีหนุ่มที่รวยที่สุดในโลก ด้วยวัยเพียง 25 ปี ไม่ใช่แค่รวยนะ แต่ยังหล่อจนสาวๆ ใจละลายด้วย Hugh ได้รับมรดกตกทอดจากพ่อของเขาในฐานะบุตรชายคนโต และกลายเป็นดยุคที่ 7 แห่ง ‘เวสต์มินสเตอร์’ เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม ปี 2016 ซึ่งเป็นวันที่พ่อของเขาได้เสียชีวิต จำนวนเงินที่เขาได้รับนั้นคือ 400,000 ล้านบาท ได้รับที่ดินในส่วนของ Mayfair ประมาณ 100 เอเคอร์ และส่วนของ Belgravia 200 เอเคอร์ นี่คือพ่อแม่ของและ Hugh ในวัยทารก ประวัติของเขาก็ถือว่าไม่ธรรมดาเลยนะ Hugh ซึ่งปัจจุบันอายุ 25 ปี เรียนในโรงเรียนซึ่งไม่ไกลจากบ้านของเขานัก ส่วนระดับอุดมศึกษาจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย Newcastle ซึ่งก็มีข้อมูลระบุว่าผลการเรียนดีเลยทีเดียว พี่สาวคนโตของเขา Lady Tamara อายุ 36 ปี…
-
ช่างประปาถูกหวย 400 ล้าน แทนที่จะฟุ่มเฟือย กลับแบ่งลงทุนธุรกิจเดิม-ซื้อกระเป๋าโค้ชให้เมีย
ใครๆก็อยากเป็นเศรษฐีฝันมีเงินเป็นล้านกันทั้งนั้น แต่กว่าจะหามาได้มันก็ช่างลำบากยากเย็นซะเหลือเกิ๊นนน เล่นหวยมันเลยดีมั้ยนะ? เผื่อจะโชคดีถูกรางวัลที่ 1 กับเค้าบ้าง เอ้าาไหนใครเล่นหวยยกมือขึ้น? คุณลุงคนนี้ก็เช่นกัน ช่างประปารุ่นเก๋าอย่างคุณ John Deherty จากประเทศสก็อตแลนด์ คนนี้ที่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าจู่ๆตัวเองจะถูกหวยแจ็คพอตใหญ่รางวัลที่ 1 กว่า 400 ล้านบาท!!! แต่วิธีจัดการกับเงินก้อนโตของคุณลุงคนนี้มันช่างแตกต่างออกไป เราไปดูกันดีกว่าว่าคุณลุงจะนำเงินมาต่อยอดกันอย่างไร รับรองว่าอยู่สุขสบายแบบยั่งยืนแน่นอน เปิดแชมเปญฉลองกันตามพิธีกับภรรยา Alison “ผมคงเบื่อแน่ๆที่ต้องนั่งอยู่บ้านเฉยๆไปวันๆโดยที่ไม่ต้องทำอะไร และผมก็ยังอยากบริการให้แก่ลูกค้าผู้ซื่อสัตย์ของผม” คุณลุงกล่าว หลังจากนั้นคุณลุงก็ได้นำเงินส่วนหนึ่งมาขยายบริษัทดำเนินวงจรเกี่ยวกับประปาและเครื่องทำความร้อนของเขา เพื่อรองรับลูกค้าได้ดีขึ้น (ย้อนกลับไปตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นในปี 1984) คุณลุงก็มีฐานลูกค้าเป็นของตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ หลังจากที่ทั้งคู่รู้ข่าวว่าถูกรางวัลทั้งสองก็เก็บมันไว้เป็นความลับและออกไปพักผ่อนด้วยกันที่ Florida ซักช่วงอย่างสบายใจเท่านั้นเอง “อันที่จริงผมก็อาจจะพักงานลงบ้างเหลือซัก 4 วันต่อสัปดาห์ และผมยังมีความรู้สึกที่อยากทำอยู่ ถ้าไม่ใช่ธุรกิจของผมเองผมก็คงลาออกเช่นกัน” คุณลุงกล่าวเสริม ทั้งคู่เฉลิมฉลองกันด้วยการทานอาหารง่ายๆที่ร้านพิซซ่า Domino เพียง £45 (ประมาณ 1,700 บาท) และคุณสามีก็ซื้อกระเป๋าแบรนด์ Coach ราคาหลักหมื่นให้คุณภรรยาเท่านั้นเอง นับว่าเป็นคู่ตัวอย่างสำหรับคนที่รักในความมัธยัสถ์ และรู้คุณค่าของเงินได้อย่างจริงๆ เชื่อว่าเรื่องอาถรรพ์คนถูกหวย ที่สุดท้ายจะลงเอยด้วยความหมดตัว…
-
ตามติดชีวิตลูกเศรษฐีรัสเซีย กับการ “อวดรวย” แม้กระทั่ง ‘ปูติน’ ยังออกมาพูดจิกกัด!!
รูปของบรรดาเด็ก VIP เหล่านี้ ถูกรวบรวมมาจาก Instagram @richrussiankids ซึ่งมีผู้ติดตามมากถึง 370,000 คน ที่ทำการประชดประชันเสียดสีไลฟ์สไตล์ของวัยรุ่นขี้อวด ที่ใช้เงินไปกับการพักผ่อนที่สุดแสนสิ้นเปลือง และวิถีชีวิตอันฟุ่มเฟือย นี่คือตัวอย่างเล็กๆ น้อยๆ … ผู้ใช้ Instagram ชื่อ Mansur Verona โพสโชว์คลังแสงของเขา แล้วก็ยังมีทั้งโรลส์-รอยซ์ และเรือยอชท์ส่วนตัว . เธอคนนี้นามว่า Polinaaam … “คนบางคนอาจจะเลือกเดิน บางคนอาจจะขับรถ แต่ฉันเลือกเรือยอชท์!!” Roman Izraylit บนเครื่องบินเจ็ทส่วนตัว เป็นลูกหลานของผู้พัฒนาท่าเรือคนสำคัญของรัสเซีย โปรไฟล์ของเค้ายังเต็มไปด้วยรูปถ่ายคู่กับคนสำคัญๆ มากมาย หนุ่มหล่อบนโรลส์-รอยซ์หน้ารีสอร์ทหรู เขาเรียกตนว่า Black Prince เชื่อกันว่าเป็นในลูกหลานของ Sergey Sarkisov เจ้าของบริษัทประกันเงินล้านในรัสเซีย หนังสือพิมพ์ Komsomolskaya Pravda ได้ทำการเฝ้าสังเกตุพฤติกรรมของลูกคนรวยเหล่านี้ พบว่าพวกนี้จะชื่นชอบการพักผ่อนแบบสโลว์ไลฟ์บนเรือยอชท์ ดื่มแชมเปญราคาแพงลิบลิ่ว โดยเฉพาะไวน์ยี่ห้อ Armand de…
-
ให้เด็กน้อยแต่งเป็น ‘คนจน vs คนรวย’ เพื่อทดสอบว่า สังคมปฏิบัติต่อเธอต่างกันยังไง!!?
ในสังคมเราปัจจุบันนี้ จะดูการการกระทำอย่างเดียว คงไม่พอเสียแล้ว รูปลักษณ์ภายนอกก็ถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่จำทำให้เราได้เข้าถึงโอกาสต่างๆในชีวิตด้วย และนี่คือตัวอย่างโครงการจาก Unicef ที่แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของรูปลักษณ์ภายนอก ว่ามีความสำคัญต่อสังคมอย่างไร… เด็กน้อยวัย 6 ขวบ Anano เธอแต่งตัวเป็นเด็กสาวที่ดูดี เพียบพร้อม กับ เด็กน้อยที่ดูยากจน น่าสงสาร . คนที่เดินผ่านไปผ่านมา หยุด เมื่อเห็นหนูน้อยแต่งตัวดี ใส่รองเท้าแพงๆ และเธอว่า ‘อายุเท่าไร หลงทางหรือเปล่า บ้านอยู่ไหน’ แต่เมื่อหนูน้อยเปลี่ยนการแต่งตัวแบบโทรมๆ ใส่เสื้อผ้าเก่าๆ ดูสกปรก ผู้คนก็จะเดินผ่านไปโดยไม่สนใจเธอเลย องค์การ UNICEF ได้ทำวิดีโอ ที่แสดงให้เห็นถึงวิธีการแก้ไขปัญหาความยากจนที่ส่งผลกระทบต่อโอกาสในชีวิตของเด็ก และนี่ก็เป็นวิดีโอที่อธิบายให้เห็นว่า ทำไมคนเราต้องตัดสินคนอื่นที่การแต่งตัว ซึ่ง หนูน้อย Anano ก็บอกว่า ‘เป็นเพราะ หน้าตามอมแมม และเสื้อผ้าที่ดูสกปรก พวกเขาเลยแสดงอาการแบบนััน’ ตอนที่เธอแต่งตัวสะอาดสะอ้าน มีแต่คนเข้ามาคุย มาทักเธออย่างเป็นมิตร แต่เมื่อเธอแต่ตัวด้วยเสื้อผ้ามอมแมม มีแต่คนผลักไสไล่ส่ง มันทำให้ฉันเศร้า…
-
Jamie Oliver จากอดีตเด็กที่มี ‘ความบกพร่อง’ สู่การเป็นหนึ่งในเชฟที่รวยสุดในโลก!!!
สำหรับวันนี้เราก็มีเรื่องราวสุดประทับใจของคนที่ไม่ยอมแพ้ต่อชีวิตและโชคชะตามาฝากเพื่อนๆ กัน ว่าแล้วเราลองมาชมกันเลยดีกว่าว่าจะสุดยอดขนาดไหน!!? Jamie Oliver ในวัยเด็กของเขานั้นค่อนข้างลำบากเลยทีเดียว เพราะเขาเกิดมาพร้อมกับโรค Dyslexia ทำให้เขามีความบกพร่องในการอ่าน และมีปัญหาในด้านการเรียนรู้อย่างมาก (ถ้าใครนึกภาพไม่ออกก็คือโรคเดียวกับเพอร์ซี่ แจ็คสันนั่นแหละ) แต่ถือว่าหนูน้อย Jamie ในตอนนั้นยังโชคดีมากๆ เพราะโดยพื้นฐานแล้วเขาเป็นคนที่ชอบทานอาหารและสนุกกับมัน ประกอบกับการที่พ่อแม่ของเขามีร้านอาหารเล็กๆ แห่งหนึ่งไว้ให้เขาฝึกซ้อมฝีมือและฝึกหัดอยู่เสมอๆ Jamie Oliver แต่ยิ่งทำไปมันยิ่งใช่ จนเมื่อเขาเรียนหนังสือจบมาอย่างยากลำบาก เขาจึงพยายามสมัครงานเป็นเชฟทำอาหารหลายๆ ที่ จนได้มีโอกาสไปทำงานในร้านอาหารอิตาเลี่ยนแห่งหนึ่งในละแวก มาถึงจุดๆ นี้เขาก็พบว่าตัวเองสามารถทำอาหารชนิดนี้ได้ดีเป็นพิเศษ!!? โอกาสในการพลิกผันชีวิตของเขาก่อเกิดในปี 1997 ที่ผู้จัดรายการของสำนักข่าว BBC ได้เผอิญเห็นเขาออกทีวีช่วงสั้นๆ ในรายการทำอาหารรายการหนึ่ง เกิดปิ๊งเข้ากับเชฟหนุ่มของเราเข้าให้อย่างจัง เพราะสไตล์การอธิบายและทำอาหารที่แม้จะเป็นเรื่องยากๆ ก็สามารถทำให้ผู้ชมดูจนเข้าใจกันได้ง่ายๆ หลังจากนั้นทางผู้จัดก็เลยชักชวนเชฟหนุ่มมาทำรายการอาหารที่ชื่อว่า The Naked Chef ซึ่งผลก็เป็นไปตามคาด รายการนี้ทำให้เขาดังเป็นพลุแตก และได้รับเชิญไปรายการทำอาหารอีกหลายๆ รายการจนเขากลายมาเป็นหนึ่งในเชฟที่รวยที่สุดในโลก!!? แถมไม่พอยังเคยถูกจัดอันดับโดยนิตยสาร Forbes ว่าเป็นเชฟที่มีทรัพย์สินมากกว่า 10,000 ล้านบาทเสียอีก!!? พอดังและประสบความสำเร็จแล้ว Jamie ก็ไม่ลืมที่จะตอบแทนชุมชนด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะการมีบทบาทสำคัญในการเรียกร้องให้เปลี่ยนอาหารของในโรงเรียนของอังกฤษให้ดีต่อสุขภาพเด็กมากขึ้น แถมยังส่งผลไปถึงโรงเรียนในประเทศสหรัฐอเมริกาอีกด้วย…
-
สาววัย 21 ปีรวยไม่รู้เรื่องหลังธนาคารโอนเงินเข้าผิดบัญชี เอาไปซื้อของร่วม 4 ปีหลัก 80 ล้าน!!
เรื่องของเงินนั้นเป็นอะไรที่ละเอียดอ่อนมากๆ ถ้าหากว่าวันหนึ่งวงเงินในบัญชีของเราเพิ่มขึ้นมากจนผิดปกติ บางคนอาจจะรู้สีกดีที่ได้เป็นเศรษฐี แต่จงจำเอาไว้ว่าเงินที่ไม่ใช่ของเรา หากนำไปใช้ก็จะกลายเป็นโจรไปในทันที อย่างเช่นกรณีของสาวนักศึกษาวัย 21 รายนี้ Christine Jiaxin Lee สาวนักศึกษาวัย 21 ปี สาขาวิศวกรรมเคมี ได้กลายมาเป็นเศรษฐีโดยไม่ทันตั้งตัวหลังจากที่ธนาคารได้โอนเงินเข้าผิดบัญชี มาเข้าที่บัญชีของเธอแทนเป็นมูลค่า 162 ล้านบาท (4.6 ล้านดอลลาร์) โดยที่ตัวเธอเองก็ไม่ได้รู้สึกถึงความผิดปกติของเงินจำนวนมากในบัญชีเลยแม้แต่น้อย ไม่ติดต่อธนาคารตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ตลอดระยะเวลา 4 ปี ที่เงินมูลค่ามหาศาลนี้อยู่ภายในบัญชีของเธอ เธอก็ถอนเงินมาซื้อของอย่างต่อเนื่องแบบหนักหน่วง โดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นการซื้อของจำพวกกระเป๋าแบรนด์เนม ของใช้เครื่องประดับราคาแพง ยกตัวอย่างเช่น หมอนชาเนล มูลค่า 47,000 บาท กำไลข้อมือ Cartier Love มูลค่า 318,000 บาท กระเป๋าหนังจระเข้ Birkin Himalayan มูลค่า 5.59 ล้านบาท และสิ้นค้าฟุ่มเฟือยอื่นๆ อีกบานตะไท รวมมูลค่าที่ใช้จ่ายไปทั้งหมดก็ประมาณ 84…
-
ถ้า Captain America มีตัวตนจริงๆ กองทัพอเมริกา อาจจะยังติดหนี้เงินเดือนเค้ากว่า 100 ล้านบาท!!
ใครจะคิดว่าแค่การคำนวณเล่นๆของชาวเน็ต จะมีคนใหญ่คนโตในกองทัพมาร่วมสนุกด้วย… เมื่อไม่กี่วันก่อน มีหนึ่งในสมาชิกเว็บไซต์ Reddit เว็บบอร์ดดังในต่างประเทศ ได้ตั้งกระทู้ (กระทู้นี้) คำนวนเล่นๆ ว่า หาก Captain America มีตัวตนอยู่จริงๆ กองทัพอเมริกาต้องจ่ายเงินเดือนให้เขาเท่าไร… โดยเขาคำนวนค่อนข้างซับซ้อน ด้วยฐานเงินเดือนทหารตั้งแต่ปี 1945 เอาเป็นว่าเราจะข้ามเรื่องของตัวเลขและขั้นตอนละเอียดไป (ใครอยากอ่านละเอียดก็กระทู้ต้นฉบับนะจ๊ะ) กัปตันออกไปปฏิบัติภารกิจต่อสู้กับองค์กรไฮดร้าและหายสาบสูญไประหว่างปฏิบัติภารกิจเมื่อปี 1945 ซึ่งกว่าจะมีการพบร่างของเขาที่ถูกแช่อยู่ในน้ำแข็งก็ปาเข้าไปปี 2011 แล้ว และในระหว่างนั้น เขาก็ยังไม่ถูก “ปลดประจำการ” แต่อย่างใด ทำให้กองทัพติดค้างเงินเดือนเขาถึง 66 ปีด้วยกัน แบบนี้ก็รวยเห็นๆ เลยน่ะสิ!! อาจต้องจ่ายเงินเดือนย้อนหลังกว่า 3,000,000 ดอลลาร์หรือราว 100 ล้านบาท เลยทีเดียว พอกระทู้นี้ดัง ก็มีทางนักข่าวนำประเด็นไปถามทหารจริงๆจังๆ และล่าสุดทางโฆษกของกองทัพอเมริกา Wayne Hall ได้ตอบคำถามกับ Business Insider เกี่ยวกับประเด็นนี้ อย่างน่าสนใจว่า “ถ้ากัปตันอเมริกามีตัวอยู่จริงๆ และสิ่งที่เกิดขึ้นทุกอย่างเป็นเรื่องจริง ตอนที่เขากลับมา เขาจะได้รับการพิจารณาจ่ายเงินย้อนหลังอย่างแน่นอน แต่อย่างไรก็ตาม…
-
งานวิจัยกว่า 5 ปีเต็มชี้ว่า เหล่าคนรวยและประสบความสำเร็จมักจะหลีกเลี่ยงคนที่ ‘มองโลกในแง่ร้าย’ เสมอ!!?
จะว่าไปแล้วการเลือกเพื่อนๆ ที่คบหานั้น มีผลต่อชีวิตมากกว่าที่คุณรู้อีกนะเออ เพราะอาจเป็นตัวชี้วัดความสำเร็จและตัวเลขทรัพย์สินที่จะเกิดขึ้นในชีวิตของคุณเลยทีเดียว!!!? Thomas C. Corley ศาสตราจารย์ผู้ศึกษาพฤติกรรมของเหล่าคนรวยและประสบความสำเร็จมากว่า 5 ปีเต็ม ได้ออกมาเผยว่า พวกเขามักจะหลีกเลี่ยงบุคคลที่ ‘มองโลกในแง่ร้าย’ เป็นอันดับแรก… เหล่าคนรวยและประสบความสำเร็จจะหลีกเลี่ยงคนที่มองโลกในแง่ร้าย!? ‘โดยเฉพาะเหล่าเศรษฐีที่สร้างเนื้อสร้างตัวขึ้นมาเอง ไม่ได้พึ่งพามรดกนั้นจะพิถีพิถันมากในการเลือกคบคน’ Thomas C. Corley กล่าวไว้ในหนังสือของเขา “Change Your Habits, Change Your Life.” ‘ผู้คนที่อยู่รอบๆ ตัวคุณจะเป็นตัวชี้วัดได้เลยล่ะว่าคุณจะประสบความสำเร็จในระดับไหน คนที่รวยและประสบความสำเร็จนั้นก็มักจะเลือกคบหาคนที่มีเป้าหมายชัดเจน มองโลกในแง่ดี กระตือรือร้น และมีบุคลิกภาพลักษณ์ภายนอกโดยรวมแล้วดูดี’ เขากล่าวเสริม โดยกว่าร้อยละ 86 ของคนรวยและประสบความสำเร็จที่เขาศึกษามาพบว่าพวกเขามักจะสุงสิงอยู่กับผู้ที่ประสบความสำเร็จคนอื่นๆ และในทิศทางเดียวกัน เลือกที่จะหลีกเลี่ยงผู้คนที่เป็นปัญหา โดยเฉพาะคนที่มองโลกในแง่ร้ายและมีความคิดด้านลบ หลีกเลี่ยงผู้มองโลกในแง่ร้าย จากงานวิจัยพบว่าสาเหตุที่พวกเขาหลีกเลี่ยงคนที่มองโลกในแง่ร้าย และคลุกคลีคนที่ประสบความสำเร็จด้วยกันนั้น ก็เพราะว่า ‘เราจะถูกดึงดูดและกลมกลืน’ ไปกับสังคมนั้นๆ กล่าวคือ ถ้าคบหรือเกี่ยวข้องกับผู้ที่มีความคิดเชิงลบอยู่บ่อยๆ เราก็จะมีความคิดแบบนั้นติดตัวมานั่นเอง ‘ความสำเร็จนั้นจะสามารถเกิดขึ้นได้โดยความคิดด้านบวกเท่านั้น’ ศาสตราจารย์ Corley กล่าว…
-
ทรัพย์สินของ Laurene Powell Jobs ผู้หญิงที่รวยเป็นอันดับ 4 ของโลก ภรรยาของ Steve Jobs ผู้ล่วงลับ…
หลายๆ คนคงไม่รู้จักกับ Laurene Powell Jobs แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้เธอคือผู้หญิงที่รวยที่สุดในโลกเป็นอันดับ 4 ล่ะ และแน่นอนเธอไม่ใช่ใครที่ไหน ภรรยาของอดีต CEO ชื่อดังระดับโลกอย่าง Steve Jobs นั่นเอง!!! จากการรายงานของ Wealth-X เธออยู่ในลิสต์ของ 50 คนที่รวยที่สุดในโลกด้วยเช่นกัน และก็ไม่ต้องแปลกใจหรอกในเรื่องราวที่ว่า ทรัพย์สินของเธอเกือบทั้งหมดนั้น ได้รับตกทอดมาจากสามีของเธอ ที่หลังจากเสียชีวิตก็ทิ้งทรัพย์สินไว้ให้เธอราวๆ 14,000 ล้านเหรียญ หรือเกือบๆ 500,000 ล้านบาท!!? ส่วนใหญ่แล้วก็มาจากการถือหุ้นร่วมในบริษัท Disney แต่ Powell ก็มีหุ้นในบริษัท Apple ด้วย และนี่ยังไม่รวมอสังหาริมทรัพย์อีกหลายแห่ง เครื่องบินเจ็ท และเรือยอร์ชแสนแพงนะเนี่ย Laurene Powell Jobs หลังจากเสียชีวิต สามีของเธอได้ทิ้งทรัพย์สินไว้ให้กว่า 14,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ถึงแม้ว่า Steve Jobs จะมีชื่อเสียงโด่งดังจากการทำงานของ Apple แต่รายได้หลักของเขามาจากการถือหุ้นในดิสนีย์ ที่ได้มาจากการขายสตูดิโอ Pixar ด้วยราคา 7,400…
-
ไปดู 25 อันดับประเทศที่ “ร่ำรวย” ที่สุดในโลก โดยนิตยสารการเงินชื่อดัง!!
ปัจจุบันนี้ประเทศอื่นๆ ที่ถึงแม้ว่าจะเป็นประเทศเล็กๆ ต่างก็พัฒนาประเทศจนทำให้ติดอันดับประเทศที่ร่ำรวยได้อย่างไม่น่าเชื่อ เมื่อเทียบกับสถิติปีที่แล้ว และในปีนี้ทางนิตยสาร Global Finance Magazine ก็ได้ทำการจัดอันดับอีกครั้ง โดยใช้ของมูลของธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ในการวัดค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศหรือ GDP ต่อจำนวนประชากร (GDP per capita) และนี่คือ 25 รายชื่อของประเทศที่มีค่า GDP per capita มากที่สุด เราไปดูกันเลยว่าจะมีประเทศอะไรบ้าง 25. ฝรั่งเศส — GDP per capita: $41,396 (ประมาณ 1.4 ล้านบาท) 24. เบลเยี่ยม — GDP per capita: $42,923 (ประมาณ 1.5 ล้านบาท) 23. ไอซ์แลนด์ — GDP per capita: $44,575 (ประมาณ 1.6 ล้านบาท) 22.…
-
12 คนถูกหวยที่พิสูจน์ว่า ‘ความรวย’ ก็ไม่ได้ช่วยให้พวกเขามีชีวิตดีขึ้นแต่อย่างใด!!!
ใครๆ ก็อยากจะโชคดีกันทั้งนั้น แต่จะมีสักกี่คนที่สามารถรักษาความโชคดีนั้นไว้ได้อย่างยาวนาน และถ้าจะพูดถึงการถูกหวยนั้น ก็ถือเป็นโชคดีอย่างหนึ่งเช่นกัน ยิ่งรางวัลใหญ่ๆ แล้วล่ะก็ ได้พลิกชีวิตกันเลยทีเดียว!!!! แต่บางทีคนเราก็บริหารความโชคดีได้ไม่ดีเพราะความประมาทเลินเล่อ และนี่คือ 12 ภาพของคนที่ถูกหวยรางวัลใหญ่ แต่ก็ไม่ได้มีชีวิตที่ดีขึ้น ในทางกลับกัน กลับแย่ลงกว่าเดิมอีกต่างหาก ลองมาดูไว้เป็นอุทาหรณ์กันนะจ๊ะ Callie Rogers กับรางวัล 2,800,000 เหรียญ (ราวๆ 98 ล้านบาท) ตอนแรกเธอก็สัญญาเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะดูแลครอบครัวด้วยเงินจำนวนนี้ แต่ก็ไม่เคยทำตามสัญญาได้ เธอนำเงินไปทุ่มเทกับการแต่งสวย รวมถึงการเสริมอึ๋มถึงสองรอบ แถมยังนำไปซื้อโคเคนอีกจำนวนมาก สุดท้ายเธอพยายามฆ่าตัวตายถึง 4 ครั้ง ตอนนี้เธอเรียนพยาบาล และจบมาทำงานเหมือนคนปกติ Lara Griffiths กับรางวัล 1.8 ล้านเหรียญ (ราวๆ 63 ล้านบาท) เธอกับสามีใช้มันไปกับการซื้อบ้าน ซื้อรถ และท่องเที่ยวสุดหรูแต่ดันเกิดเหตุไฟไหม้ทำให้ทรัพย์สอนของเธอเสียหายหมดในปีนั้น แถมตอนนี้เธอก็มีความสัมพันธ์ระหองระแหงกับสามี เพราะสถานะทางการเงินของทั้งคู่ ชายแคลิฟอร์เนียกับเงินรางวัล 1 ล้านเหรียญ…
-
อย่าล้อเล่นสิ!! การ์ตูนบอกเล่ามุมมองของนักศึกษาที่ไม่ได้เกิดมารวย ก็ต้องดิ้นรนกันไป
การศึกษาในระดับอุดมศึกษานั้นมาพร้อมกับค่าใช้จ่ายที่มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นค่าเทอม ค่าตำราเรียน ค่ากิน ค่าเดินทาง ค่าหอ และอื่นๆ อีกมากมายหลายสิ่งที่ไม่อยากจะเอ่ย เนื่องจากเป็นภาระหน้าที่และจะต้องมีความรับผิดชอบมากขึ้น ซึ่งมันช่างแตกต่างกับระดับมัธยมซะเหลือเกิน สำหรับใครที่ไม่มีปัญหาทางด้านการเงิน ครอบครัวให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ ก็คงจะไม่ลำบากซักเท่าไหร่ แต่สำหรับนักศึกษาที่ไม่ค่อยจะมีเงินมากนัก ก็ต้องดิ้นรนกันไป ยกตัวอย่างให้เห็นจากการ์ตูนเหล่านี้ การมีอินเตอร์เน็ต Wi-Fi = ไปนั่งเล่นในบริเวณที่ปล่อยให้เล่นฟรี งานปาร์ตี้ธีมอะไรไม่สน = ขอแค่มีของฟรีก็พอ!! พ่อแม่ = ตู้ ATM เสื้อผ้าที่เห็นน้อยๆ ในตู้ = เสื้อผ้าที่มีเยอะเต็มตู้นั่นแหละ งานปาร์ตี้ต้องจ่ายค่าเข้า = ถึงต้องขายอวัยวะแทนเงินกันเลยทีเดียว กินมาม่า = กินอย่างราชาแล้ว ของตกแต่งเก่าๆ = ของชิ้นใหม่ที่ซื้อจากห้าง โอ้โห่!! ทำไมมันช่างตรงกับชีวิตจริงซะเหลือเกิน นี่แค่ระดับมหาวิทยาลัยนะ ถ้าไปต่อในช่วงทำงาน แทบไม่ต้องพูดถึง จนๆ อย่างเหมียวก็มาม่าตลอดนั่นแหละ…
-
ทั่วโลกวิจารณ์ เปรูสร้าง ‘กำแพงแห่งความอับอาย’ เพื่อกั้นเขตระหว่างคนรวยและคนจน
เมื่อวันที่ 23 ธันวาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Odditycentral ได้เผยแพร่ภาพกำแพงสุดหดหู่ใจ จากเมืองลิมา ประเทศเปรู ที่สร้างขึ้นเพื่อแบ่งกั้นดินแดนระหว่างคนรวยและคนจน ตามรายงานบอกว่ากำแพงแห่งนี้มีความยาวทั้งสิ้น 10 กิโลเมตร ถูกสร้างด้วยคอนกรีตและพันด้วยลวดหนาม จุดประสงค์ที่มีการสร้างมันก็เพื่อให้เหล่าคนรวยรู้สึกปลอดภัยจากคนจน ที่อาจจะรุกล้ำเข้าไปในพื้นที่ของพวกเขา และป้องกันอาชญากรรมต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ทั้งนี้ ฝั่งในกำแพงมีชื่อว่า Las Casuarinas (ลาส คาซัวรินาส์) เป็นพื้นที่ของบรรดาคนรวย ส่วนด้านนอกมีชื่อว่า Vista Hermosa (วิสต้า เฮอร์โมซา) เป็นพื้นที่ของคนจนที่แทบจะไม่มีเครื่องใช้อำนวยความสะดวกหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าเลย การสร้างกำแพงขึ้นแบบนี้ ทำให้เหล่าประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ Vista Hermosa นั้นรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ เพราะมันแบ่งแยกพวกเขาอย่างชัดเจน ทำให้พวกเขารู้สึกไม่มีความสุขเลย แต่ยังไงก็ตาม เขต Las Casuarinas รู้สึกปลอดภัยและคิดว่ากำแพงแห่งนี้มีความจำเป็นมากสำหรับพวกเขา กำแพงแห่งความอับอายแห่งนี้เริ่มเป็นที่จับตามองของชาวโลก และถูกตั้งชื่อเล่นให้ว่า กำแพงเบอร์ลินแห่งเปรู ทำให้ชาวเมืองเริ่มรวมกลุ่มกันไปวาดภาพลงบนกำแพง เกิดเป็นจิตรกรรมฝาผนังขึ้น เพื่อกระตุ้นจิตสำนึกของผู้สร้างกำแพง ให้เห็นถึงผลกระทบของมัน …
-
เมื่อหนุ่มโปแลนด์แต่งตัวเป็นคนจนสลับกับคนรวย เพื่อดูว่าหญิงสาวจะเลือกใคร งานนี้ถึงกับจุก!!
แม้ว่าเงินจะไม่สามารถซื้อความสุขได้ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเงินนั้นช่วยให้ชีวิตของเราง่ายขึ้นเยอะ วันนี้เหมียวจะพาไปพิสูจน์ว่าเงินนั้นช่วยให้ชีวิตคุณง่ายขึ้นแค่ไหน ผ่านคลิปวิดีโอของนาย Sadam หนุ่มชาวโปแลนด์ ผู้ที่อยากจะทดลองทางสังคม โดยการแต่งตัวเป็นหนุ่มธรรมดาๆ เดินเข้าไปคุยกับหญิงสาว และขอนั่งข้างๆ เธอ แต่เหมือนเธอจะไม่แยแส แถมยังบอกให้เขาไปให้พ้นๆ อีก จากนั้นนาย Sadam ก็ทำหน้าจ๋อยและหลบมุมไปเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้ากลายเป็นหนุ่มสปอร์ต หล่อรวย พร้อมกับควบบิ๊กไบค์กลับมายังจุดเดิมที่เขาพบหญิงสาวคนเมื่อกี้ จากนั้นเขาก็เริ่มคุยกับเธอเป็นภาษาอังกฤษ โดยบอกกับเธอว่า “ผมเพิ่งย้ายมาอยู่แถวนี้ ผมชื่อ Sadam นะ ผมเพิ่งซื้อบ้านใหม่ที่นี่ ผมมีคฤหาสน์ สระว่ายน้ำ อยู่ห่างจากที่นี่ประมาณ 100 เมตร” ต่อมาเขาก็เอ่ยปากชวนเธอไปที่บ้านของเขา จากนั้นเธอก็ตอบตกลงไปแบบไม่ลังเลย แต่หลังจากที่เธอขึ้นไปนั่งบนมอเตอร์ไซค์ได้ไม่นาน นาย Sadam ก็หยุดรถและหันมาถามเธอว่า “เธอจำผู้ชายที่เพิ่งคุยกับเธอเมื่อ 10-15 นาทีก่อนได้ไหม?” และเขาก็ถอดหมวกออก หญิงสาวถึงกับตกใจในใบหน้าของเขาเพราะไม่คิดว่าจะเป็นคนๆ เดียวกัน ก่อนที่นาย Sadam จะจากไป เขาได้ถามเธอว่าต้องการเงินมากนักใช่ไหม? เขาจึงล้วงไปหยิบเศษเหรียญในกระเป๋าและโยนลงไปต่อหน้าเธอ ทำเอาหน้าชาแบบบอกไม่ถูกเลยทีเดียว …
-
อื้อหืออออ มาดูทรัพย์สินของเหล่ามหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในโลก ของช่วงอายุต่างๆ !!!
ถ้าจะพูดถึงความร่ำรวยแล้ว แน่นอนมันไม่เข้าใครออกใครหรอก ไม่ว่าจะอายุน้อย หรือมากขนาดไหน ก็สามารถร่ำรวยขึ้นมาได้ถ้ามีทักษะและความสามารถ และวันนี้ เหมียวก็ขอพาเพื่อนๆ ไปพบกับ 8 เศรษฐีที่รวยที่สุดในโลก ของช่วงอายุของพวกเขา มาดูกันว่าจะมีใครบ้าง!!? ช่วงอายุ 20 ปี Evan Spiegel CEO ของ Snapchat จะว่าไปแล้วพ่อหนุ่มอีวานเป็นคนที่รวยน้อยที่สุดในลิสต์นี้ ด้วยวัย 25 ปี เขามีทรัพย์สินจิ๊บๆ เพียง 2 พันล้านเหรียญเท่านั้น จาก Snapchat ที่เขาทำอยู่ สมัยเรียนเป็นเด็กโนเนมอยู่ในมหาลัยมีข่าวว่าทั้ง Facebook และ Google พยายามยื่นซื้อผลงานของเขา แต่ก็ไม่เป็นผล และนั่นกลับกลายเป็นเรื่องที่ถูก เพราะมันทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในผู้ที่รวยที่สุดในโลก!!! ช่วงอายุ 30 ปี Mark Zuckerberg แห่ง Facebook ด้วยอายุเพียง 31 ปี แต่เขากลับมีทรัพย์สินกว่า 47.2…
-
12 ภาพทายาทไฮโซชื่อดังเมืองไทย ที่ทั้งสวย และน่ารัก ขอบอกเลยว่าเป๊ะปังทุกนางจริงๆ
หลายคนอาจจะเคยเห็นภาพดาราดังสวยๆ กันมาก็เยอะแล้ว และในวันนี้เหมียวจะขอมานำเสนอ 12 ภาพทายาทไฮโซชื่อดังเมืองไทย ที่มีหน้าตาสวย และน่ารักไม่แพ้กับดาราดังเลยละ ซึ่งแน่นอนว่าดูแค่ภาพอาจจะยังไม่ค่อยคุ้นหน้าคุ้นตา แต่ถ้าหากใครที่ได้เห็นนามสกุลของพวกเธอ จะต้องร้องอ๋อกันแทบทุกคนแน่นอนว่าพวกเธอเป็นลูกใคร หลานใครกันบ้าง เอาละ!! เรามาดูกันเลยว่า 14 ทายาทไฮโซชื่อดังเมืองไทยจะมีใครบ้าง 1.จินนี่ – เขริกา โชติวิจิตร 2.บัว – อาภาภัทร กัญจนพฤกษ์ 3.เบอร์ดี้ – ปาวา นาคาศัย 4.ชัญญ่า – ชัญญ่า ทามาดะ 5.แนน – นันทินี อัมระนันทน์ 6.พอลลี่ – พรพรรณ สิทธินววิธ 7.แพรี่พาย – อมตา จิตตะเสนีย์ 8.มะปราง – กิติวิชญา วัชโรทัย 9.มิ้นท์…
-
พบกับ 10 อันดับเศรษฐีจาก YouTube คนดังที่ได้รับเงินสูงสุดประจำปี 2015
ทุกวันนี้คนเริ่มจะหันมาหาเงินด้วยวิธีการสร้างไอเดียเจ๋งแล้วอัดคลิปลงใน YouTube กันทั้งนั้น เริ่มตั้งแต่ยูทูบเปิดตัวเมื่อปี 2005 มันก็กลายเป็นพื้นที่แสดงออกให้กับคนทั่วโลกได้ชื่นชมกัน และแน่นอนว่าใครทำคลิปดังๆ จนกลายเป็นเซเลป ก็จะมีผู้สนับสนุนมากมายให้เงินทุนมาพัฒนาและเป็นสปอนเซอร์ให้อย่างแน่นอน อย่างบ้านเราก็มีมากมายที่ได้ดิบได้ดีจากการเป็นคนดังในยูทูบ นิตยสาร Forbes จึงได้จัดอันดับ YouTuber ที่ร่ำรวยจากรายรับที่ได้จากค่าโฆษณา รีวิว และสปอนเซอร์ต่างๆ ซึ่งหลายคนอาจจะคุ้นหน้าบ้างแหละ จะมีใครบ้าง ตามเหมียวมาเลย 8. (ร่วม) Rosanna Pansino “Rosanna Pansino“ รายได้ 90 ล้านบาท เธอเป็นคนทำขนมที่น่ากินมากๆคนหนึ่งในบรรดาเหล่า YouTuber เนื่องด้วยไอเดียขนมของเธอแต่ละอัน และวิธีทำที่แสนจะง่ายนั้น ทำให้คนติดตามเธอมากมายในแชแนล “Nerdy Nummies” 8. (ร่วม) Roman Atwood “RomanAtwood“ รายได้ 90 ล้านบาท ถ้าใครติดตามเหมียวบ่อยๆก็คงจะคุ้นหน้าเขาเป็นอย่างดี เพราะเขาชอบทำคลิปแกล้งคนอยู่เป็นประจำ โดยเฉพาะแฟนของเขานี่ อย่างล่าสุดก็แกล้งระเบิดรถที่ลูกนั่งอยู่จนโด่งดังไปทั่ว 8. (ร่วม) Lilly Singh “IISuperwomanII“ รายได้ 90 ล้านบาท เธอเป็นเจ้าของแชแนลโด่งดังอย่าง IISuperwomanII ซึ่งเป็นแชแนลที่เธอออกมาพูดนู่นนั่นนี่ตามสไตล์ผู้หญิงตลกโปกฮา ถ้าคุณเป็นผู้หญิงควรสับตะไคร้ไว้เลย 7. Michelle Phan “Michelle…
-
ลูกเศรษฐีทุ่มเงิน 1,000,000 บาทเพื่อเผา Ferrari 458 Italia เหตุเพราะอยากได้รุ่นที่ใหม่กว่า!?
การเลี้ยงลูกของคนเรานั้นไม่เหมือนกัน บางรายก็ไม่ค่อยจะตามใจลูกตัวเองซักเท่าไหร่ แต่บางรายก็ตามใจลูกจนมากเกินไป อยากได้อะไรก็ให้ เรียกได้ว่าสปอยล์ลูกแทบทุกอย่าง!! อย่างเช่นกรณีของลูกเศรษฐีชาวสวิสรายหนึ่งมีรถยนต์ Ferrari 458 Italia ปี 2012 ซื้อมาเมื่อ 3 ปีที่แล้วในราคาประมาณ 8,700,000 บาท (245,000 ดอลลาร์ และอยากได้รุ่นใหม่ปี 2015 ซึ่งราคาขายรุ่นเก่านั้นไม่พอที่จะสามารถซื้อรุ่นใหม่ได้ ในการนี้ลูกชายเศรษฐีก็เลยวางแผนพร้อมกับเพื่อนอีก 3 คน จ่ายเงินค่าแรงประมาณ 1,000,000 บาท (30,000 ดอลลาร์) ทำการเผารถคันเก่านี้ทิ้งเพื่อที่จะได้คันใหม่มาใช้!! แต่แล้วเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดถูกกล้องวงจรปิดในบริเวณนั้นบันทึกเอาไว้ เจ้าหน้าที่ทำการติดตามและจับกุมลูกชายเศรษฐีและผู้สมรู้ร่วมคิดทั้งหมดในข้อหาฉ้อโกงประกันภัย!! ถึงแม้จะเสียรถหรูไป 1 คัน ลูกเศรษฐีรายนี้ยังมีเหลืออีกตั้ง 14 คันแหนะ ถ้าอยากได้คันใหม่อีก 14 คันไม่เผามันหมดเลยเหรอเนี่ย!? ที่มา : fooyoh
-
หนุ่มฮ่องกงใจป๋า ใช้เงินราว 1.8 ล้านบาท จ้างเครื่องบินขอแต่งงานแฟน
กลายเป็นเรื่องราวฮือฮาในเกาะฮ่องกงพอสมควรเลย เพราะเมื่อวันที่ 4 ส.ค. ที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้เผยแพร่เรื่องราวของชายหนุ่มชาวฮ่องกงที่ชื่อว่า Victor Tang วัย 37 ปี ได้ลงทุนกว่า 400,000 ดอลลาร์ฮ่องกง หรือประมาณ 1.8 ล้านบาท เพื่อจ้างเครื่องบินให้ติดป้ายขอแต่งงานแฟนสาว เนื่องจากแฟนสาวของ Victor นั้น เป็นคนที่ไม่ชอบอะไรแบบธรรมดาๆ เขาเลยต้องคิดหาวิธีที่พิเศษๆเพื่อขอแต่งงาน Victor ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่าเขาใช้เวลาในการวางแผนมานานกว่าเดือน ในการเตรียมเช่าเครื่องบินและจองร้านอาหารบนตึกระฟ้า เพื่อให้แฟนของเขาได้เห็นข้อความจากเครื่องบินชัดๆ ทั้งนี้ Victor ได้แจกแจงต่อสื่อว่าเสียเงินให้กับอะไรไปบ้าง เริ่มตั้งแต่หาซื้อแหวนเพชร 1.5 กะรัต ในราคาประมาณ 905,910 แสนบาท ค่าเช่าร้านอาหารสุดหรูบนตึกระฟ้า 117.000 บาท ค่าเช่าเครื่องบินอีก 679,000 บาท โดยมีข้อความว่า “I love you! Stephanie BB, will you marry me?” ติดอยู่ที่ท้ายเครื่อง สาเหตุที่นาย Victor สามารถทำแบบนี้ได้ เพราะเขานั้นทำงานอยู่ในบริษัท…
-
ช่างภาพชาวอังกฤษเดินทางไปยังที่ต่างๆ เพื่อถ่ายภาพ ‘ห้องนอน’ ของเด็กๆ จากทั่วโลก
ภาพที่เพื่อนๆ เห็นกันอยู่นี้ เป็นภาพที่ถูกถ่ายโดยช่างภาพชาวอังกฤษที่ชื่อว่า James Mollison ซึ่งเขาได้ออกเดินทางไปรอบโลก และได้ถ่ายภาพความแตกต่างระหว่างการใช้ชีวิตของเด็กๆ จากทั่วทุกมุมโลก และที่สำคัญภาพที่เขาได้ถ่ายมานั้น เป็นภาพห้องนอนของเด็กๆ ที่แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างของที่อยู่อาศัยที่ไม่เหมือนกันในประเทศต่างๆ ถ้าอย่างนั้นเรามาดูกันเลยว่าชีวิตของพวกเขาจะแตกต่างกันขนาดไหน 1. เด็กชายไม่ทราบชื่อ อายุ 9 ปี จาก Ivory Coast . 2.Dong อายุ 9 ปี จาก Yunnan, China . 3.Indira อายุ 7 ปี จาก Kathmandu, Nepal . 4.Ahkohxet อายุ 8 ปี จาก Amazonia, Brazil . 5.Bikram อายุ 9 ปี จาก…