Tag: รอดชีวิต
-
หนุ่มซิ่งรถ 170 กม./ชม. เสียหลักพุ่งชนตกจากทางด่วน รอดมาได้ราวปาฏิหาริย์
สำหรับคนที่ชอบขับรถเร็วๆ แล้วล่ะก็ หากได้อ่านเรื่องราวต่อไปนี้ ชีวิตของคุณอาจจะเปลี่ยนไปเลยก็เป็นได้… นี่คือเรื่องราวการรอดชีวิตมาได้อย่างปาฎิหาริย์ของชายหนุ่ม ที่ประสบอุบัติเหตุเพราะขับรถเร็วกว่า 170 กิโลเมตรต่อชั่วโมง!! อุบัติเหตุดังกล่าวถูกบันทึกไว้ได้โดยกล้องวงจรปิด เผยให้เห็นถึงความรุนแรงที่ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคนที่อยู่ในรถจะรอดชีวิตมาได้!? เหตุเกิดขึ้นใน กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา นาย Patricio Avila วัย 19 ปี ขับรถ Volkswagen Voyage คันสีขาวไปบนทางด่วน General Paz ด้วยความเร็วสูงราวๆ 170 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่แล้วจู่ๆ ขณะกำลังจะเลี้ยงเข้าทางแยกลงจากทางด่วน รถของเขาก็เสียหลักพุ่งชนเข้ากับที่กั้นข้างทางอย่างรุนแรง ก่อนที่จะกระเด็นตกลงไปยังถนนข้างล่าง ความรุนแรงของการกระแทกทำให้ชิ้นส่วนของรถกระจัดกระจายไปทั่วทุกที่!! รถที่ขับตามมาก็ต้องหยุดเพื่อไม่ให้ถูกเศษชิ้นส่วนรถยนต์กระเด็นใส่ จากรายงานระบุว่ารถคันดังกล่าวนั้นเป็นของพ่อเลี้ยงของนาย Patricio จากการช่วยเหลือของทีมกู้ภัยทำให้เขาถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลได้ทันเวลา แต่พอถึงโรงพยาบาลแล้วทุกคนก็ถึงกับอึ้งไปตามๆ กันเพราะพี่แกรอดชีวิตมาได้ราวกับปาฏิหาริย์ แถมยังไม่ได้รับบาดเจ็บหนักเลยแม้แต่น้อย!? เขาได้รับบาดเจ็บที่หน้าอก กระดูกสะโพกร้าว กระดูกข้อเท้าร้าวเท่านั้น แต่ขณะเดียวกันแพทย์ก็ยังไม่นิ่งนอนใจ เฝ้าดูอาการเลือดออกในสมองที่อาจเกิดได้จากการกระแทกรุนแรงอย่างใกล้ชิด ทางด้านพยานผู้เห็นเหตุการณ์คุณ Veronica กล่าวถึงอุบัติเหตุดังกล่าวว่า “ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาจะรอดมาได้ เพราะการชนมันรุนแรงมากจริงๆ”…
-
กระรอกน้อยรอดตายจากไฟป่าอย่างปาฏิหาริย์ ได้มนุษย์ช่วยเหลือไว้จนอยู่สบาย
ไฟป่าเป็นภัยธรรมชาติอย่างหนึ่งที่สร้างความเสียหายอย่างรุนแรง เมื่อเกิดไฟป่าขึ้น ป่าจะสูญเสียพื้นที่สีเขียวไปมาก และยังคร่าชีวิตสัตว์ป่าที่อาศัยอยู่ที่บริเวณนั้นอย่างไร้ความปราณีด้วย ท่ามกลางความโหดร้ายจากไฟป่านั้น ยังมีกระรอกน้อยตัวหนึ่งที่รอดชีวิตออกมาได้ราวกับปาฏิหาริย์ แม้ว่ามันจะสูญเสียครอบครัวไปหมด แต่ก็ไม่ได้อยู่เดียวดายเลย ทุกวันนี้มันอาศัยอยู่กับมนุษย์ที่ช่วยเหลือมันไว้อย่างมีความสุข ไปฟังเรื่องราวของมันกันครับ ที่ประเทศเกาหลีมีกระรอกตัวหนึ่งชื่อว่า Jang Pyeong มันอาศัยอยู่กับกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ ในตอนแรกมันก็เป็นสัตว์ป่านี่แหละ แต่บริเวณที่มันอาศัยอยู่เกิดไฟป่าขึ้นทำให้มันได้รับบาดเจ็บ หลังจากไฟป่าเกิดขึ้นได้ 2 วัน ทีมสำรวจก็เข้าไปในพื้นที่และพบเจ้ากระรอกนอนอยู่บนพื้น พวกเขาไม่อยากเชื่อเลยว่ามันจะรอดชีวิตจากอุณหภูมิอันร้อนระอุได้ หลังจากนั้นพวกเขาก็เลยเอามันมาดูแลที่สำนักงาน แม้ว่าเจ้ากระรอกจะหายดีแล้ว แต่บางครั้งมันก็จ้องมองไปยังนอกหน้าต่างเหมือนรอคอยอะไรสักอย่างอยู่ ปกติแล้วกระรอกจะคลอดลูกคอกละประมาณ 5 ตัว การที่เจอมันอยู่ตัวเดียวจึงอาจตีความได้ว่ายังมีพี่น้องของมันเหลือรอดอยู่ และมันอยากกลับไปหาครอบครัวก็เป็นได้ ทีมสำรวจจึงได้กลับไปยังพื้นที่ที่เจอ Jang Pyeong อีกครั้ง เพื่อตามหาครอบครัวให้มัน เจ้ากระรอกก็ตามไปด้วยเหมือนกัน พวกเขาสำรวจบริเวณรอบๆ อย่างละเอียด จนพบกับรูซึ่งน่าจะเป็นที่อยู่อาศัยของกระรอก จึงลองขุดเข้าไปดู ก็เลยเจอกระรอกครอบครัวหนึ่งซึ่งเสียชีวิตจากไฟป่าไปหมดแล้ว น่าจะเป็นครอบครัวของเจ้า Jang Pyeong…
-
15 ภาพผู้เกือบข้ามเส้นแบ่งความเป็นความตาย พวกเขาก็เคยตกใจเพราะเกือบตาย แต่ก็ไม่ตาย
อยากรู้กันรึเปล่าว่าไอ้ที่เรียกว่าดวงเนี่ยมันเป็นอย่างไร แม้ว่าหากมองในอีกมุมหนึ่งแล้ว อาจจะต้องบอกว่าคนที่จะเฉียดตายได้นั้นคงเรียกว่าดวงดีไม่ได้เท่าไหร่ แต่จะบอกว่าคนเหล่านั้นไม่มีดวงเลยก็คงไม่ได้ เพราะถ้าเป็นแบบนั้นจริง ตอนนี้พวกเขาก็คงจะลงไปนอนในโลงกันแล้ว อย่างน้อยก็ต้องบอกว่าดวงดีในระดับหนึ่งล่ะนะ เรื่องราวในครั้งนี้เป็นการรวบรวมคนที่มี “ดวง” แบบที่กล่าวไปข้างต้น พวกเขาคือเหล่าผู้คนที่เกือบได้ข้ามเส้นแบ่งความเป็นความตาย แต่ก็ยังโชคดีที่สามารถกลับมาเล่าเหตุการณ์ที่เขาพบเจอได้ รอดเพราะเหรียญ “คุณทวดของฉันถูกยิงที่หน้าอกโดยทหารเยอรมันในช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง โชคดีที่เหรียญในกระเป๋าเสื้อของเขาขวางกระสุนเอาไว้ และช่วยชีวิตเขา คุณอาจจะพูดได้ว่าเขาไม่ต้องการเงินมากเท่าไหร่…เพื่อความอยู่รอด” ขวานบิน ก็ตามที่เห็นในภาพ มีคนบนรถคันหน้าเก็บขวานไม่ดี มันปลิวลงมาใส่รถอีกคัน โชคดีทีคอนโซลหน้ารถ บังร่างคนนั่งไว้พอดี เฉียดหัวไปหน่อยเดียว ต้องบอกว่าโชคดีมากๆ ที่ไม่มีใครนั่งอยู่ที่ข้างคนขับในตอนนั้น รูปร่างนำโชค ต้นไม้ตกลงมาใส่รถแต่โชคดีที่ต้นไม้ที่ว่านั้นไม่ได้เติบโตขึ้นมาตรงๆ เห็นสนิมของตะปูนั่นไหม ตะปูเสียบเข้าไปแค่ในหนังกำพร้า เกือบได้เป็นบาดทะยักแล้วไหม ฉลามกัด รู้หรือไม่ว่าบางครั้งฉลามก็จะมีการ “ลองกัด” เพื่อทดสอบว่ามันจะสามารถกินเหยื่อตัวนั้นๆ ได้หรือไม่ ดูเหมือนคำตอบสำหรับหญิงสาวคนนี้จะเป็น “ไม่” เกือบไปแล้วเจ้าเหมียว คราวนี้ไม่ใช่คนแต่เป็นแมว เรื่องราวนี้เกิดขึ้นเมื่อเจ้าแมวนั้นสีกลมกลืนกับเตาไฟมากจนเจ้าของเกือบจุดไฟเผาแมวตัวเอง ปลอดภัยไว้ก่อน แว่นตานิรภัยป้องกันดวงตาของชายคนนี้จากใบหินขัดที่กระเด็นออกมาจากเครื่องขัดได้อย่างเฉียดฉิว เกือบไปแล้ว ก้อนหินขนาดใหญ่เฉียดผ่านบริเวณที่พักอาศัยของบ้านไร่ในอิตาลี เกือบเป็นอาหารปลา…
-
เด็กน้อยผู้รอดชีวิตมาได้อย่างปาฏิหาริย์ หลังจากที่เกิดมามีสมองอยู่ข้างนอก
เราอาจเคยได้ยินกันมาก่อนว่าเด็กที่คลอดออกมาไม่ได้หมายความว่าจะสามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ทุกคน เพราะยังมีบางคนที่อาจเกิดมาแล้วต้องเสียชีวิตไปจากความผิดปกติของร่างกาย ซึ่งเด็กคนนี้ก็เกือบจะได้เป็นหนึ่งในนั้น แต่เขาก็สามารถรอดชีวิตมาได้อย่างปาฏิหาริย์และโตขึ้นมาอย่างมีความสุข เด็กน้อยคนนี้มีชื่อว่า Jamie Daniel จากเมือง Nuneaton เขตวาร์วิคเชอร์ ประเทศอังกฤษ เขาเกิดเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2008 แต่ในวันเดียวกันนั้นก็เกือบจะเป็นวันตายของเขา เพราะความผิดปกติที่ติดตัวมาเกือบทำให้เขาต้องตายในเวลาเพียง 1 ชั่วโมง Jamie เด็กที่เกิดมามีความผิดปกติ และเกือบต้องเสียชีวิตในเวลาเพียง 1 ชั่วโมงหลังคลอด Jamie คลอดออกมาพร้อมกับพี่สาวฝาแฝด Lucy หญิงสาวที่เกิดมาพร้อมร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ ครบ 32 ประการ แต่ในขณะเดียวกัน Jamie กลับเกิดมามีน้ำหนักตัวแค่ประมาณ 1 กิโลกรัมเท่านั้นเอง แต่ทว่าสิ่งที่ทำให้เขาเกือบเสียชีวิตลงตั้งแต่วันแรกที่ลืมตาดูโลกก็คือ ความผิดปกติที่เรียกว่า Encephalocele ทำให้สมองของเด็กน้อยออกมาอยู่ด้านนอกกะโหลกศีรษะ แพทย์ที่ทำคลอดทำใจไว้แล้วว่าเด็กคนนี้คงไม่มีโอกาสรอดแน่ๆ Leanne Daniel แม่ของเด็กน้อยเล่าว่ามีการพบความผิดปกติของ Jamie ตั้งแต่ตอนที่ไปตรวจครรภ์ในสัปดาห์ที่ 31 ซึ่งตอนนั้นหมอบอกว่าเด็กอาจจะเกิดมาแล้วตายเลย หรือไม่อย่างนั้นก็อาจมีความผิดปกติที่ร้ายแรงมากๆ และแนะนำให้เธอทำแท้งเอาเด็กคนนี้ออก แต่ทว่าน้ำคร่ำของเธอไหลออกมาก่อนเวลาที่กำหนด…
-
แม้จะตัวเล็กแต่ใจสู้ยิ่งใหญ่ เจ้ามิ้วน้อยเกิดมาไม่สมบูรณ์แต่ก็สู้ตายจนรอด ตอนนี้เหรอ อ้วนตั้บ!!
ถ้าลูกแมวเกิดมาตัวเล็กมากนั่นหมายความว่ามันมีร่างกายที่อ่อนแอมากเช่นกัน หลายครั้งที่มีลูกแมวตัวเล็กเกิดออกมาหากไม่ได้รับการดูแลที่ดีพอมันก็จะตายเอาง่ายๆ แต่ถึงจะตัวเล็กถ้าใจสู้ไม่ถอยเหมือนน้องเหมียวตัวนี้ก็หายห่วง สาว Joan Bowell อาศัยอยู่บนเกาะเล็กๆ แห่งหนึ่งในประเทศกรีซ เธอรักแมวมากจึงมักจะให้ความช่วยเหลือแมวจรจัดอยู่เสมอ เจ้าแมวจิ๋ว Chili ตอนเจอครั้งแรกนั้นตามันติดเชื้อจนลืมตาไม่ขึ้นเลย วันหนึ่งขณะที่เธอให้อาหารแมวที่บ้านอยู่ เธอก็ได้ยินเสียงลูกแมวร้องอยู่ใกล้ๆ แต่เธอก็ไม่เห็นแม่แมวหรือลูกแมวที่ไหนเลย ด้วยความเป็นห่วงเธอจึงตัดสินใจเดินออกตามหาต้นตอของเสียงดู เมื่อเธอเดินเข้าไปในป่าไผ่ใกล้บ้านก็พบกับลูกแมวมอมแมม 2 ตัว ตัวแรกนั้นขาดใจตายไปแล้วแต่โชคดีที่อีกตัวยังมีชีวิตอยู่แม้มันจะติดเชื้อและมีเห็บหมัดเต็มตัว เธอคิดว่าแม่แมวคงทิ้งมันไปแล้วเลยรีบเอามันกลับไปรักษาที่บ้านทันที หนูกินนมไม่ไหว ป้อนหน่อย เธอตั้งชื่อเจ้าแมวน้อยว่า Chili หลังจากที่ให้ยาและล้างตัวให้มันอย่างทะนุถนอม เธอก็รีบป้อนนมให้มันทันที เพราะดูแล้วคงไม่มีอาหารตกถึงท้องมันมาหลายวันแน่ๆ จากนั้นเธอจึงรีบนำมันไปไว้ในที่อุ่นๆ เพื่อให้อุณภูมิร่างกายที่เย็นเจี๊ยบของมันมันกลับสู่ปกติ แม้ร่างกายมันดูจะไม่สู้เท่าไหร่แต่เจ้าเหมียวก็ยังฮึดสู้จนรอดพ้นคืนนั้นมาได้ ผมเคยถูกทิ้งให้ท้องว่างอยู่หลายวัน แต่ก็ไม่ตาย หลังจากที่มันดูแข็งแรงขึ้นบ้างแล้ว Joan ก็เลยพามันไปอยู่กับ Kaneli และ Vanilla แมวที่เธอเก็บมาอีก 2 ตัว โดยเธอหวังว่าพวกมันจะทำหน้าที่เป็นพี่สาวให้กับเจ้าแมวน้อยและมอบความอบอุ่นให้มันได้ เหมียวน้อยน่าสงสาร มาให้พี่กอดนี่มา เธอเล่าว่า “พี่สาวของมันจะให้คอยนอนอยู่ใกล้ๆ ให้ความอบอุ่นทางกายกับมัน…
-
เจ้าเหมียวกำลังจะตาบอด ใครๆ ต่างก็คิดว่า ‘มันไม่รอดแน่ๆ’ แต่หญิงคนหนึ่งไม่ยอมตัดใจ จนมันหายดี!!
การเก็บแมวจรจัดมาดูแล ต้องเผื่อใจไว้ส่วนหนึ่งว่ามันอาจจะมีสุขภาพไม่ดี หรือมีโรคร้ายแรงติดตัวมาด้วย ซึ่งถึงจะพาไปหาสัตวแพทย์แล้ว บางทีสัตวแพทย์เองยังถอดใจยอมแพ้เลย แต่ถ้าคุณมีความรักและมุ่งมั่นที่จะช่วยมันมากพอ บางทีอาจจะมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นก็ได้ Kimmie Seely เป็นสาวนักธุรกิจ เธอเป็นเจ้าของร้านตัดผม Kalon Hair Lab ในเมืองมิชาวากา รัฐอิเดียน่า ประเทศสหรัฐอเมริกา แต่อีกมุมหนึ่งเธอก็เป็นผู้ช่วยเหลือแมวที่เป็นที่รู้จักกันดี ที่บ้านของเธอนั้นมีห้องที่ทำไว้สำหรับดูแลแมวโดยเฉพาะ มีครบพร้อมทั้งของเล่น แผ่นทำความร้อน และขวดนมป้อนอาหารลูกแมวเลยทีเดียว เหมียวน้อยตาบอด Lenus อยู่มาวันหนึ่ง มีคนแท็กเธอในโพสต์เฟสบุ๊ก ทำให้เธอรู้ว่ามีลูกแมวจรจัดตัวหนึ่งต้องการความช่วยเหลือ และแม้ว่าตอนนั้นจะดึกมากแล้ว เธอก็ไม่ลังเลเลยที่จะขับรถออกไปช่วยมันทันที พอไปถึงตรงจุดที่ลูกแมวอยู่ เธอก็พบว่ามันนอนร่อแร่เหมือนจะหมดลมหายใจแล้ว เธอเล่าว่า “มันอยู่ตรงมุมหนึ่งของสวน … ตอนฉันเจอ คิดว่ามันตายไปแล้วซะอีก” จากนั้นเธอจึงนำมันกลับไปที่บ้านเพื่ออาบน้ำและกำจัดเห็บหมัดกว่า 40 ตัวทิ้งไป เธอตั้งชื่อเจ้าแมวว่า Lenus มันลืมตาไม่ขึ้น และก็ไม่มีแรงจะขยับด้วย เธอเฝ้าดูมันทั้งคืนและจะพามันไปหาสัตวแพทย์ในตอนเช้า ขยับไม่ไหวแล้ว เมื่อเธอนำมันไปหาสัตวแพทย์ พวกเขาก็พบว่าเจ้าแมวมีปรสิตที่ชื่อว่า cuterebra ซึ่งเป็นปรสิตจากแมลงวันฝังอยู่ที่หน้าอกของมัน และเจ้าแมวก็ดูอ่อนแรงเกินกว่าจะสู้กับปรสิตตัวนี้ไหวด้วย นอกจากนี้ตาของมันก็ดูเหมือนจะมืดบอด…
-
พบกับ Roo ลูกหมาที่มีชีวิตรอดออกมาจาก ‘โรงงานผลิตลูกสุนัข’ และได้เริ่มชีวิตใหม่อีกครั้ง!!
ใครหลายคนอาจจะเคยไปเดินตลาด แล้วก็พบลูกหมาน่ารักๆ วางขายอยู่ ซึ่งแต่ละตัวก็จะมีความน่ารักน่าหยิกที่แตกต่างกันออกไป ทว่ารู้หรือไม่ว่าจริงๆ แล้วลูกหมาเหล่านั้นอาจจะมาจากสถานที่ที่เรียกว่า ‘โรงงานผลิตลูกสุนัข’ ก็เป็นไปได้ โรงงานผลิตลูกสุนัขเป็นสถานที่เพาะพันธุ์สุนัขโดยไม่มีการวางแผน ไม่มีการคัดเลือกสายพันธุ์ใดๆ ทั้งสิ้น นอกจากนี้สภาพแวดล้อมความเป็นอยู่ของสัตว์ต่างก็ไร้ซึ่งความสะอาด หรือถูกสุขอนามัยแม้แต่น้อย สัตว์ที่อยู่ในสถานที่แห่งนี้จึงต้องทนทุกข์ทรมานจากความสกปรก และอัดแน่นอยู่ในกรงที่บางกรงต้องอัดกันเข้าไปอยู่ถึง 3-4 ตัว ดูความน่ารักของเจ้า Roo ซะก่อน สภาพของหมาแต่ละตัวที่อยู่ที่นี่มักจะมีสภาพที่ไม่ค่อยดีนักจากสภาพความเป็นอยู่ดังกล่าว ซึ่ง Roo ก็เป็นหมาอีกตัวเช่นกันที่อยู่ที่นี่ แต่เมื่อเร็วๆ นี้มันก็ได้รับการช่วยเหลือออกมาจากโรงงานผลิตสุนัขในประเทศฮ่องกง และตอนนี้เหมือนกับว่ามันได้มีชีวิตใหม่แล้ว Roo ถูกช่วยเหลือหมาตอนที่ยังเป็นหมาน้อยอยู่ และในขณะที่ได้รับการช่วยเหลือออกมา หูข้างซ้ายของมันติดเชื้ออย่างรุนแรง สัตวแพทย์จึงจำเป็นต้องตัดหูซ้ายของมันออก เพื่อป้องกันเชื้อจะลุกลามไปยังส่วนอื่นของร่างกาย นอกจากนี้ฟันของมันก็หายไปจนหมดไม่เหลือแม้แต่ซี่เดียว หน้าตาสดใสแตกต่างจากในอดีตเยอะ ทว่าในตอนนี้เจ้าหมาน้อยน่าสงสารตัวนี้ ได้มีผู้ใจดีรับไปเลี้ยงที่ดูแลมันเป็นอย่างดี แต่ด้วยลักษณะของมันที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ ทำให้เจ้าของใหม่ของมัน มักจะโพสต์ภาพลงในอินสตาแกรมระหว่างเดินทางท่องเที่ยวไปด้วยกันเสมอๆ ในเวลาไม่นาน เจ้า Roo ก็ได้เป็นดาวเด่นในโลกออนไลน์ โดยในตอนนี้อินสตาแกรมของเจ้า Roo มีผู้ติดตามแล้วกว่าหมื่นคน ซึ่งหากอยากรู้ว่าหมาน้อยตัวนี้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอย่างไร ก็ตามไปดูกันดีกว่า ด้วยในอดีตมันได้รับประสบการณ์ที่โหดร้าย ทำให้สุขภาพของมันไม่ค่อยดีนัก …
-
หญิงผู้รอดชีวิตจากการปลิดชีพตัวเอง เผยความรู้สึกกับการต้องมีชีวิตอยู่อีกครั้ง…
ไม่ใช่ทุกครั้งที่การตัดสินใจของเราจะต้องถูกเสมอไป เพราะในบางครั้งเราอาจได้มารู้ทีหลังว่าที่เราทำลงไปนั้นคือการตัดสินใจที่ผิดพลาด แต่อย่างน้อยมันก็อาจเป็นบทเรียนให้กับชีวิตเราในการก้าวเดินต่อไปข้างหน้าได้เหมือนอย่างหญิงสาวคนนี้.. นี่คือเรื่องราวของ Christen McGinnes วัย 46 ปีจากรัฐเวอร์จิเนีย สหรัฐอเมริกา ผู้ที่พยายามฆ่าตัวตายด้วยการยิงปืนเข้าปากตัวเอง จนทำให้สูญเสียกรามขวา ลิ้น ฟันหลายซี่ ปากล่างและตาข้างขวาของเธอไป แต่อย่างน้อยเธอก็รอดมาได้จนพบกับการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิต เธอเล่าว่า ในปี 2009 เธอใช้ชีวิตทุกอย่างไปได้อย่างราบรื่น มีเพื่อนมากมาย รักงานที่ทำและเธอก็ยังสนิทกับคุณย่าของตัวเองเอามากๆ แต่พอเวลาผ่านไปไม่นานทุกอย่างก็กลับพินาศลงไปในพริบตา เธอตกงาน คุณย่าตายจากเธอไป พอเธอได้คบกับผู้ชายแสนดีคนหนึ่ง เขาคนนั้นกลับทิ้งเธอไปอีก เธอสูญเสียทุกอย่างแม้แต่เงินเก็บของเธอทั้งหมด ทำให้เริ่มกินเหล้าอย่างหนักและเกิดความคิดว่า ถ้าเป็นอย่างนี้เธอขอตายซะยังจะดีกว่า ในปีต่อมา หญิงสาวจัดห้องตัวเองให้สะอาดสะอ้าน ก่อนที่จะออกไปตรงระเบียงเตรียมจะยิงตัวตาย วินาทีนั้นเธอไม่ได้กลัวความตายเลย แต่สิ่งที่เธอกลัวคือ กลัวว่ากระสุนจะพุ่งไปห้องข้างๆ จนทำให้คนอื่นได้รับบาดเจ็บ เธอเล่าว่า “ฉันรู้สึกสงบเป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือน ตอนนั้นฉันไม่กลัวตายเลย จากนั้นฉันจึงเหนี่ยวไกเข้าที่ศีรษะของฉัน” ในตอนนั้นเธอไม่รู้เลยว่าเพื่อนร่วมห้องของเธอก็อยู่ในห้องด้วย เมื่อเสียงปืนดังลั่น เพื่อนคนนั้นจึงรีบวิ่งมาดู ก่อนที่จะนำตัวเธอส่งโรงพยาบาล หญิงสาวอยู่ในอาการโคม่านานกว่า 3 สัปดาห์ สิ่งที่เธอจำได้เป็นอย่างแรกในตอนที่ตื่นขึ้นมาคือ…
-
แมวน้อยซุกซน วิ่งเล่นจนหัวไปติดอยู่ใน “ล้อรถ” สัตวแพทย์เร่งช่วยกันวุ่นวาย…
นอกจากโลกใบนี้จะเต็มไปด้วยสถานที่ที่น่าสนใจแล้ว มันยังเป็นเหมือนกับสนามเด็กเล่นของลูกแมวตัวน้อย ที่พร้อมจะเริ่มต้นชีวิตในโลกอันแสนกว้างใหญ่ที่เต็มไปด้วยกลิ่น และวัตถุแปลกประหลาดมากมาย เพื่อให้พวกมันได้ทำการออกสำรวจ แต่น่าเสียดายที่เจ้าเหมียวตัวน้อยชื่อ Cookie กลับได้พบกับอุปสรรคครั้งใหญ่ นั่นเป็นเพราะความอยากรู้อยากเห็นมากเกินไป เลยทำให้มันต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก เมื่อไม่นานมานี้ Cookie ลูกแมววัยเพียง 4 เดือน ได้ออกมาเล่นอยู่ภายในโรงจอดรถของครอบครัว จนได้พบกับล้อรถยนต์สำรองที่ถูกจัดเก็บเอาไว้ในนั้น และนั่นก็ทำให้มันเริ่มเกิดความสนใจในสิ่งที่พบเจอทันที เจ้าเหมียวได้เข้าไปตรวจสอบวัตถุประหลาดที่มันไม่เคยพบเห็นอย่างละเอียด แถมยังตัดสินใจเอาหัวมุดเข้าไปบริเวณรูตรงกลางของล้อรถ โดยที่ไม่รู้เลยว่าผลลัพธ์ที่ตามมาจะเป็นอย่างไร และในที่สุดปัญหาก็เกิดขึ้นกับเจ้า Cookie จนได้ เพราะหัวของมันดันไปติดที่รูตรงกลางของล้อรถยนต์จนได้ งานนี้ทำให้มันถึงกับตกใจเพราะไม่ว่าจะทำอย่างไรหัวก็ไม่สามารถหลุดออกจากล้อรถได้เลย ทางด้านผู้เป็นเจ้าของก็พยายามตามหาแมวแสนรักที่หายตัวไป จนสุดท้ายพวกเขาก็สามารถค้นหาตัวของมันพบ พร้อมกับรีบนำตัว Cookie ไปยังคลินิกสัตวแพทย์ Pieper Memorial Middletown ในรัฐคอนเนตทิคัต สหรัฐฯ ทันที “เรารู้ว่ามีแมวติดอยู่ในล้อรถยนต์ แต่เราไม่รู้ว่ามันเข้าไปติดได้อย่างไร ล้อมีขนาดใหญ่แค่ไหน มันเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจมากเมื่อพวกเขาเดินเข้าไปในล็อบบี้พร้อมกับถือยางรถยนต์ขนาดใหญ่มาด้วย และเมื่อได้เห็นหัวของเจ้าเหมียวติดอยู่ที่ยาง ฉันก็ได้บอกพวกเขาว่ามันไม่ได้น่ากลัวอะไรเลย เจ้าเหมียวไม่ได้เจ็บปวด เพราะหัวของมันก็แค่ติดอยู่ในล้อรถเท่านั้น” Jesse Ferguson ผู้จัดการฝ่ายการตลาดกล่าว …
-
สองสาวเล่าประสบการณ์ ติดอยู่กลางทะเล 5 เดือน ที่สุดท้ายก็รอดมาได้อย่างปาฏิหาริย์
จะเป็นอย่างไรหากเราจำเป็นต้องเอาชีวิตรอดอยู่กลางทะเลโดยไม่สามารถเดินทางกลับชายฝั่งได้ด้วยตัวเอง เหมือนกับเหตุการณ์ที่ผู้หญิงสองคนนี้ต้องเจอ ทั้งสองมีชื่อว่า Jennifer Appel และ Tasha Fuiava หญิงสาวจากนครโฮโนลูลู ในรัฐฮาวาย สหรัฐอเมริกา พวกเธอได้บอกเล่าเรื่องราวการเดินทางไปยังเกาะตาฮิตี ที่ตั้งอยู่บนมหาสมุทรแปซิฟิกใต้ ซึ่งระหว่างการเดินทางครั้งนี้กลับเกิดปัญหาที่เหนือความคาดหมาย จนทำให้พวกเธอต้องติดอยู่กลางทะลนานกว่า 5 เดือน!! Tasha (คนซ้าย) และ Jennifer (คนขวา) พวกเธอออกทะเลกันไปตั้งแต่วันที่ 4 พฤษภาคม พอผ่านไปเป็นเวลาเกือบเดือน ด้วยสภาพอากาศที่แปรปรวนจึงทำให้เรือของพวกเธอสูญเสียพลังงานจนไม่สามารถเดินทางต่อได้และต้องติดอยู่กลางทะเล เรื่องที่น่าเศร้ากว่านั้นก็คือโทรศัพท์มือถือของเธอที่มีกันอยู่เครื่องเดียวจมลงไปในทะเลตั้งแต่วันแรกที่ออกเดินทาง การเอาชีวิตรอดของพวกเธอจึงเริ่มต้นขึ้นและต้องเจอกับอุปสรรคอีกมาก เครื่องกรองน้ำที่มีอยู่บนเรือใช้การไม่ได้จนทำให้พวกเธอเกือบต้องตายเพราะว่าขาดน้ำ แต่โชคดีที่ Jennifer สามารถซ่อมมันได้ ในคืนหนึ่งมีฝูงฉลามเข้าโจมตีเรือลำน้อยของพวกเธอ สร้างความหวาดผวาให้กับสองสาวเป็นอย่างมาก พวกเธอบอกว่า “ฉันรู้สึกหวาดกลัวและรีบพาน้องหมาที่พามาด้วยลงไปใต้ท้องเรือ ทำตัวให้เงียบที่สุดเพื่อไม่ให้ฉลามได้ยินเสียงหรือได้กลิ่นพวกเรา” คืนนั้นพวกเธอสามารถรอดตายมาได้เพราะความแข็งแรงของเรือทำให้ฉลามไม่สามารถจมเรือพวกเธอลงได้ แต่ในวันรุ่งขึ้นเธอก็บอกว่ามีฉลามอยู่ตัวหนึ่งว่ายกลับมาหา ภาพของ Zeus หนึ่งในน้องหมาที่พวกเธอพามาด้วย ตลอดช่วงเวลาที่ต้องใช้ชีวิตอยู่บนเรือนานถึง 98 วัน พวกเธอพยายามส่งสัญญาณขอความช่วยเหลืออยู่ตลอด แต่เพราะระยะทางที่ไกลจากฝั่งมากเกินไป รวมถึงคนที่แล่นผ่านไปมาก็ไม่อาจสังเกตเห็นได้เลย ความรู้สึกตอนนั้นพวกเธอบอกว่า…
-
พิตบูลถูกคนใจร้ายเอามีดฟันหน้า แล้วยัดใส่กระเป๋าเอาไปทิ้งที่ตึกร้าง โชคดีที่มีคนช่วยไว้ได้
(เนื้อหามีภาพที่รุนแรง) บ่อยครั้งที่เรามักจะเห็นภาพเหตุการณ์รุนแรงที่เกิดกับสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นสุนัข แมว หรือแม้แต่สัตว์ป่า พวกมันล้วนตกเป็นเหยื่ออารมณ์ของมนุษย์อยู่บ่อยครั้งไป… เจ้าหมาพิตบูลในครั้งนี้ก็เช่นกัน ด้วยสภาพของมันหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจฟลอริด้าไปเจอเข้า ต้องบอกเลยว่ามันโชคดีมากๆ ถ้าพวกเขาเจอมันช้ากว่านี้เจ้าตูบคงได้จากโลกใบนี้ไปเรียบร้อยแล้ว เหตุการณ์ดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลาตี 1 ของวันอังคารที่ 10 ตุลาคม 2017 ซึ่งเจ้าหน้าที่จากรัฐฟลอริด้ากำลังลาดตระเวนอยู่และบังเอิญได้ยินเสียงอะไรบางอย่างกำลังร้องไห้ พวกเขาจึงเข้าไปตรวจสอบดูก็พบว่าเสียงนั้นมาจากกระเป๋าเดินทางสีฟ้าใบใหญ่ และเมื่อเปิดออกมาพวกเขาก็ต้องถึงกับช็อค ข้างในเป็นสุนัขพิตบูลที่สภาพอาบไปด้วยเลือด พร้อมกับมีแผลเหมือนถูกฟันบริเวณหน้าของมัน ซึ่งแผลดังกล่าวนั้นลึกมากๆ พวกเขาไม่รอช้ารีบพาเจ้าตูบไปยังโรงพยาบาลสัตว์ทันที . ทีมแพทย์ต่างพากันช่วยเหลือพวกมันอย่างเต็มที่และเจ้าหน้าที่ก็ตั้งชื่อให้เจ้าตูบว่า Ollie พร้อมกับเป็นกำลังใจให้กับมันเพื่อสู้ต่อ หลังจากการรักษาเสร็จสิ้นทีมแพทย์ต่างพากันชื่นชมเพื่อนสี่ขาว่ามันมีสปิริตแรงกล้า แม้ในสภาพแบบนั้นมันก็ยังไม่ยอมแพ้กระดิกหางรับตลอดเวลา . . หลังจากการรักษาเสร็จทางเจ้าหน้าที่ได้เปิดระดมทุนเพื่อหาเงินและหาบ้านหลังใหม่ให้กับเจ้า Ollie ผ่านทาง GoFundMe เพียงแค่วันเดียวก็มีคนร่วมระดมทุนแล้วมากกว่า 660,000 บาท สุดท้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงไม่ยอมแพ้ และรับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเจ้า Ollie พวกเขายังคงตามหาตัวการที่ทำร้ายเจ้าตูบต่อไป… อัพเดตล่าสุด หลังจากการรักษาได้สองวัน เจ้า Ollie ก็ทนพิษบาดแผลที่สาหัสไม่ไหว และได้จากโลกนี้ไปอย่างสงบ ขอแสดงความเสียใจต่อกสนจากไปของเจ้าตูบผู้โชคร้ายด้วยนะครับ…
-
เพราะขาดแคลนอาหาร “ลูกเพนกวิ้น”นับหมื่นพากันอดตาย ผู้รอดชีวิตคือเจ้า 2 ตัวเท่านั้น…
ความอยู่รอดของ “เพนกวินอาเดลี” ที่อยู่อาศัยทางตะวันออกของทวีปแอนตาร์กติกาหรือบริเวณขั้วโลกใต้ ดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงไม่น้อย หลังจากที่ได้ประสบกับปัญหาขาดอาหารในช่วงฤดูผสมพันธุ์ จนเป็นเหตุให้เพนกวินตัวน้อยที่น่าสงสารนับ 10,000 ตัว ไม่สามารถเอาชีวิตรอดจากสถานการณ์อันเลวร้ายได้ วันที่ 13 ตุลาคม 2560 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศมีรายงานว่า ในช่วงฤดูกาลผสมพันธุ์นี้ มีลูกเพนกวินอาเดลีได้ตายจากการขาดอาหารไปหลายหมื่นตัว และเหลือเพียงแค่ 2 ตัวเท่านั้นที่รอดชีวิต โดยสาเหตุหลักมาจากปริมาณน้ำแข็งที่สูงขึ้นผิดปกติ นั่นจึงทำให้พ่อแม่เพนกวินต้องออกเดินทางข้ามแอนตาร์กติกาในระยะทางไกลที่ขึ้น เพื่อไปหาอาหาร และด้วยเวลาที่นานขึ้นทำให้ลูกเพนกวินตัวน้อยๆ รอคอยอาหารไม่ไหว และพากันอดตาย นับได้ว่าเป็นฤดูกาลแพร่พันธุ์ที่เลวร้ายที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจากเมื่อปี 2015 ซึ่งเพนกวินที่ได้รับผลกระทบจากปัญหานี้ไม่สามารถเอาชีวิตรอดได้เลยแม้แต่ตัวเดียว เหตุการณ์อันร้ายแรงที่เกิดขึ้นนี้ ทำให้ทางกลุ่มอนุรักษ์จำนวนมาก ได้ออกมาเรียกร้องให้มีมาตรการจัดตั้งพื้นที่คุ้มครองทางทะเลทางตะวันออกของทวีปแอนตาร์กติกาอย่างเร่งด่วน เพื่อเป็นการป้องกันอาณาจักรเพนกวินที่มีจำนวนประชากรราว 36,000 ตัวนั่นเอง “เพนกวินอาเดลี เป็นหนึ่งในสัตว์ที่น่ารักที่สุดและน่าอัศจรรย์ที่สุดในโลก ความเสี่ยงในการเปิดอุตสาหกรรมประมงจะยิ่งเป็นการคุกคามและกระทบต่อการขยายพันธุ์ของสัตว์ในพื้นที่แอนตาร์กติกา และถ้าหากมีการห้ามจับสัตว์ทะเลในพื้นที่ดังกล่าว ก็จะเป็นการช่วยลดการแข่งขันในการหาอาหารของเพนกวินหลายสายพันธุ์ รวมถึงสัตว์ชนิดอื่นๆ ให้ยังคงมีชีวิตอยู่รอดได้” Rod Downie หัวหน้าโครงการ World Wide Fund…
-
ชายผู้คิดว่าสูญเสียทุกสิ่งไปจากเหตุไฟป่า แต่ยังคงมี ‘เจ้าแมว’ รอดชีวิตท่ามกลางความสิ้นหวัง
ในตอนที่เราต้องสูญเสียทุกอย่างไปความรู้สึกตอนนั้นมันคงจะสิ้นหวังอย่างบอกไม่ถูกแน่นอน เช่นเดียวกับชายคนนี้ที่ต้องรู้สึกว่าชีวิตของเขานั้นไม่เหลืออะไรอีกแล้วจนกระทั่งแสงแห่งความหวังได้เกิดขึ้น ชายหนุ่มคนดังกล่าวชื่อว่า Ed Ratliff วัย 68 ปีที่ต้องสูญเสียบ้านและทุกอย่างไปจากเหตุไฟป่าในรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2017 ที่ผ่านมา ชายผู้ต้องสูญเสียบ้านไปเพราะไฟป่า เขาเล่าว่าในตอนตี 2 ของวันนั้นเกิดเหตุการณ์ไฟป่าขึ้นในบริเวณบ้านของเขา ในช่วงเวลาคับขันนั้นเจ้าเหมียวของเขา Milo ได้รีบวิ่งหนีหายไป ส่วนตัวของเขาเองก็ทำได้เพียงขับรถหนีออกไปเท่านั้น ไฟป่าที่ลุกลามมาอย่างหนักทำให้บ้านของเขาต้องวอดไปจนหมดและเขาก็รู้สึกสิ้นหวังกับทุกสิ่งรวมถึงเจ้าแมวที่ไม่รู้ว่าจะเป็นตายร้ายดีอย่างไรบ้าง วันต่อมาเจ้าหน้าที่จากสำนักงานนายอำเภอเมือง Sonoma ได้เข้าไปค้นหาพื้นที่ในบริเวณบ้านของเขาหลังจากที่ได้ยินเสียง “เมี้ยววว” แหน่ะ!! เจอซักทีนะเจ้าเหมียว ตอนแรกมันก็ยังคงไม่ไว้ใจเจ้าหน้าที่และไม่ยอมออกมา แต่พอเริ่มเอาอาหารมาล่อมันก็รู้สึกไว้วางใจมากขึ้น หลังจากนั้นพวกเขาก็ได้โพสต์คลิปเจ้าหน้าที่กำลังช่วยเหลือเจ้าแมว Milo ให้ออกมาจากใต้ท้องรถพร้อมข้อความว่า “ผู้ควบคุมกฎหมายพร้อมบริการความช่วยเหลือให้กับทุกวิกฤตในชุมชน” เมื่อเจ้าเหมียวออกมาพวกเขาก็รีบพามันไปที่โรงพยาบาลสัตว์ของเมืองทันที เมื่อไปถึงทางโรงพยาบาลก็ได้โพสต์รูปภาพของเจ้าเหมียวลงในโซเชียลมีเดียจนทำให้ Ratiff ที่ไปพักอยู่ทางใต้ของรัฐในตอนนั้นรีบมาหามันอย่างเร็วไว ในที่สุดก็ออกมาและพบว่ามันมีแผลไหม้ที่อุ้งเท้า พวกเขาจึงรีบพามันไปโรงบาล คลิปเจ้าหน้าที่พยายามช่วยเหลือเจ้าเหมียวออกมาจากใต้ท้องรถ ในที่สุดเพื่อนซี้ทั้งสองก็ได้กลับมาเจอกัน เจ้าเหมียวได้ทำใหเขากลับมามีความหวังในการใช้ชีวิตอีกครั้ง เขาบอกว่าจริงๆ ไม่ได้เป็นคนชอบแมวเลย ชอบหมามากกว่า…
-
ชายหนุ่มถูกลูกฉลามกัดเข้าที่พุงไม่ยอมปล่อย สุดท้ายเขาต้องตัดสินใจปลิดชีวิตมันในท้ายที่สุด…
(บางภาพมีเนื้อหาที่รุนแรง ไม่เหมาะสำหรับคนที่กลัวเลือด) เหตุการณ์สุดสยอง เมื่อ Ervin Maccarty นักดำน้ำจากรัฐฟลอริด้าได้ถูกลูกฉลามกัดเข้าที่พุงอย่างจัง หลังจากลงไปเล่นน้ำกับเพื่อนๆ งานนี้เล่นเอาวุ่นวายกันสุดๆ วินาทีที่ Ervin ถูกช่วยขึ้นมาบนเรือพร้อมกับลูกฉลามตัวน้อยที่เกาะติดอยู่ที่พุงของเขา มันกัดพุงของเขาแน่นราวกับมันกำลังต่อสู้กับเหยื่อที่ตัวใหญ่กว่าอย่างไม่เกรงกลัว ด้านพุงของชายหนุ่มก็เริ่มมีเลือดที่อาบลงมาเต็มไปหมด ภาพเหตุการณ์นั้นถูกบันทึกไว้โดยเพื่อนของเขาเอง ซึ่งมันแสดงให้เห็นถึงความทรมานของ Ervin สุดๆ แต่ถึงจะเจ็บยังไงในช่วงแรกนั้นดูเหมือนพวกเขาพยายามจะทำให้เจ้าลูกฉลามยอมปล่อยแต่โดยดี โดยไม่ทำอันตรายกับมัน แต่ลูกฉลามก็ต่อสู้สุดใจเพื่อชีวิตของมัน ในวินาทีสุดท้ายพวกเขาตัดสินใจจะจบชีวิตเจ้าฉลามลงซะด้วยการใช้มีดปาดเข้าไปในตัวของมัน จนมันสิ้นใจลงและยอมปล่อยในที่สุด . . Ervin ได้เล่าถึงวินาทีชีวิตของเขาว่า ตอนที่โดนฉลามกันนั้นมันพึ่งมากัดแรงมาก เขาหายใจไม่ออกจนต้องกลับเรือ แต่วินาทีที่ต้องว่ายน้ำกลับเรือนั้นเขาไม่มีแรงแม้แต่จะว่ายน้ำด้วยซ้ำ แต่สุดท้ายทุกอย่างก็จบลงและเขาก็ปลอดภัยในท้ายที่สุด ลองรับชมคลิปเหตุการณ์ดังกล่าวได้ข้างล่างเลย ที่มา dailymail
-
ชายใจดีช่วยชีวิตนกฮัมมิ่งเบิร์ด ให้รอดพ้นจากใยกับดัก ก่อนจะเป็นอาหารของแมงมุม!!
บนโลกของเราเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตน้อยใหญ่มากมาย และพวกเราซึ่งอยู่ในฐานะมนุษย์ ก็จะต้องช่วยกันดูแล และปกป้องสัตว์ตัวน้อยๆ เมื่อเห็นว่าพวกมันกำลังได้รับอันตราย และไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ และในครั้งนี้ #เหมียวขี้อ้อน จะขอนำเสนอเรื่องราวสุดอบอุ่นหัวใจ เมื่อเจ้านกฮัมมิ่งเบิร์ดตัวหนึ่งต้องการความช่วยหลังจากที่มันดันไปติดกับแมงมุม งานนี้เลยทำให้ Steve Hill ชายผู้ใจดีไม่รอช้า รีบเข้าไปช่วยชีวิตมันทันที ในช่วงเช้าของวันที่แสนธรรมดาวันหนึ่ง ณ เมือง Lilburn ในรัฐจอร์เจีย ประเทศสหรัฐอเมริกา Steve ได้เดินออกไปข้างนอกบ้าน และจู่ๆ เขาก็ได้เห็นบางสิ่งบางอย่างเข้า ใช่!! นั่นคือเจ้านกฮัมมิ่งเบิร์ดตัวเล็กๆ ที่กำลังถูกแขวนอยู่กลางอากาศ นั่นทำให้ Steve ได้รีบเดินเข้าไปใกล้ๆ มันเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมมันถึงดูนิ่ง และไม่ขยับตัวเลย พอเขาได้เข้าไปใกล้มัน ก็เห็นว่าเจ้านกตัวดังกล่าวได้ติดกับแมงมุมเข้าซะแล้ว ด้วยเหตุนี้ Steve จึงรีบเข้าช่วยเหลือมันอย่างรวดเร็ว โดยนำร่างของเจ้านกน้อยออกมาจากกับดักของแมงมุม ร่างกายของเจ้านกฮัมมิงเบิร์ดถูกปกคลุมไปด้วยใยแมงมุมเหนียวๆ ที่แมงมุมทิ้งไว้สำหรับผู้ที่ตกเป็นเหยื่อ และทำให้มันไม่สามารถบินได้ งานนี้เลยทำให้ Steve ได้นำตัวของมันเข้าไปในบ้าน เพื่อทำความสะอาด เขาได้นำเจ้านกน้อยไปยังอ่างล้างจน และค่อยๆ…
-
Violet Jessop พยาบาลสาวดวงแข็ง ผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์เรือล่ม ได้ถึง 3 ครั้ง 3 ครา!?
ความโชคดีที่เราได้เจอในนการใช้ชีวิตนั้นคุณเคยรู้สึกอย่างนั้นกันมากี่ครั้งแล้ว ? แต่สำหรับเรื่องราวของเธอคนนี้นั้นเธอมีความโชคดีที่สูงมาก มากซะจนทำให้เธอรอดตายจากอุบัติเหตุครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นถึง 3 ครั้งเลยทีเดียว หากคุณกำลังคิดว่าอุบัติเหตุนั้นมันจะใหญ่สักแค่ไหน บอกได้ว่ามี 1 เหตุการณ์ที่ดังกระฉ่อนไปทั่วโลกด้วย แต่ก่อนที่จะไปถึงเรื่องนั้น เราลองมาทำความรู้จักกับหญิงสาวที่มีชื่อว่า Violet Jessop กันเสียก่อน Violet Jessop เกิดในปี 1887 ประเทศอาร์เจนตินา ซึ่งเกิดมาเธอก็ได้ท้าทายความตายเป็นครั้งแรกกับการที่เธอป่วยเป็นวัณโรค แต่ถึงแม้ว่าแพทย์จะคิดว่าคงไม่สามารถช่วยเธอไว้ได้ แต่สุดท้ายเธอก็รอดมาใช้ชีวิดได้ตามปกติ หลังจากที่พ่อเธอเสียชีวิตตอนที่เธออายุได้ 16 ปี เธอและครอบครัวก็ได้ย้ายไปอยู่ประเทศอังกฤษ เธอต้องเรียนและดูแลน้องไปด้วยเพราะแม่ของเธอได้ขึ้นไปทำงานบนเรือ จึงทำให้มีเวลาอยู่ด้วยกันได้น้อยเพราะต้องเดินทางตลอด จนเมื่อแม่เธอป่วยจึงต้องออกโรงเรียนมาทำงานบนเรือแทนแม่ ซึ่งในตอนนั้นเธออยู่บริษัท Royal Mail Steam Packet และถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้แต่งตัวดีๆ แต่งหน้าแต่งตา แต่เธอก็ได้รับการขอแต่งงานถึง 3 ครั้งในตอนที่ทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟอยู่บนเรือ แม้ว่าจะสนุกกับงานที่ทำแต่ด้วยเงินเดือนอันน้อยนิด เธอก็ได้ย้ายไปทำให้กับบริษัท White Star Line ในปี 1910 และนั่นคือจุดเริ่มต้นของความโชคดีที่ทำให้เธอรอดตายมาได้ถึง 3 ครั้งจากการทำงานในบริษัทนี้ ภาพความเสียหายของเรือ Olympic…
-
เด็กชายวัย 4 ขวบหายตัวไปในป่า ที่เต็มไปด้วยหมีและหมาป่านานถึง 5 วัน และรอดชีวิตมาได้!!
กลายมาเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้ผู้คนรู้สึกช็อคไปตามๆ กัน เมื่อพ่อแม่ชาวรัสเซียพาลูกชายวัย 4 ขวบ ออกไปตั้งแคมป์กันในป่า แต่แล้วอยู่ดีๆ ลูกของพวกเขาก็หายตัวไปท่ามกลางป่าที่เต็มไปด้วยหมีและฝูงหมาป่า… Dima Peskov เด็กชายชาวรัสเซียวัย 4 ขวบ ที่หายตัวไปในป่าใกล้ๆ กับบริเวณอ่างเก็บน้ำ Reftinskoye ขณะที่กำลังไปทริปตั้งแคม์ปกับครอบครัวในเขต Urals ของประเทศรัสเซีย ทางด้านครอบครัวของเด็กชายเมื่อรู้ว่าตัวว่าลูกหายไป พวกเขาก็รีบไปแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที ทางเจ้าหน้าที่เมื่อได้รู้ข่าวเข้าก็ส่งทีมอาสาสมัครมากกว่า 500 คน เพื่อออกตามหาเด็กชายผู้สูญหายทั่วบริเวณป่าในเทือกเขา Urals ทางทิศตะวันตกของประเทศรัสเซีย จนการออกตามหาล่วงเลยเวลาไปจนเข้าวันที่ 5 พวก ทีมค้นหาก็ยังไม่พบร่องรอยของเด็กชายเลย แต่แล้วปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้น เมื่ออาสาสมัครคนหนึ่งสังเกตเห็นเนินบางอย่างอยู่ใต้ต้นไม้ จึงไปตรวจสอบดูและก็พบว่าเนินที่ว่าก็คือเด็กชายที่กำลังนอนซมอยู่นั่นเอง Dima Peskov เด็กชายผู้หายตัวไปในป่าที่เต็มไปด้วยหมีและหมาป่า ยังคงอยู่รอดมาได้จนถึงวันที่ 5 ด้วยตัวเองเพียงลำพัง ตอนแรกอาสาคนนั้นคิดว่า Dima ได้เสียชีวิตไปแล้ว แต่ทว่าเขายังหายใจและขยับได้อยู่ ด้วยเหตุนี้เจ้าหน้าที่จึงรีบพาเด็กชายส่งโรงพยาบาลทันที ทีมแพทย์ก็ได้รายงานว่าเด็กชายมีอาการที่ช็อคและยังไม่พูดอะไรไม่ได้มาก ทำได้แค่เพียงร้องโอดครวญกับพยักหัวตอบคำถามจากพ่อแม่และพยาบาล ด้านสุขภาพของเด็กชายนั้นประสบกับปัญหาภาวะขาดน้ำ และป่วยเป็นปอดบวมทำให้ทีมแพทย์จึงต้องดูแลอย่างใกล้ชิด ทางเจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อสันนิษฐานถึงสาเหตุที่ Dima…
-
ภารกิจช่วย ‘จิงโจ้น้อย’ ที่แม่ของมันถูกคนใจร้ายชนแล้วหนี ถูกทิ้งเดียวดายในกระเป๋าหน้าท้อง!!
เจ้าจิงโจ้แม่ลูกอ่อนถูกคนใจร้ายขับรถชนแล้วหนีไป ก่อนที่มีพลเมืองดีมาเห็นพร้อมกับโทรขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ หลังจากที่ Melanie Fraser หนึ่งในเจ้าหน้าที่จากศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่า Macedon Ranges Wildlife Network และ Wildlife Victoria ในประเทศออสเตรเลียมาถึงก็พบว่าแม่จิงโจ้ได้จากไปเรียบร้อยแล้ว แต่ลูกของมันยังมีชีวิตอยู่!! และค่อยๆ คลานออกจากกระเป๋าหน้าท้องของแม่ ลูกจิงโจ้กำพร้าแม่ที่คุณ Fraser ตั้งชื่อเอาไว้ว่าเจ้า Dawson ได้ถูกช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว “หากเราทิ้งมันไว้ที่นั่น ทั้งมด และสภาพแวดล้อมรอบตัว อาจจะฆ่ามันได้อย่างรวดเร็ว” เธอเล่า คุณ Fraser ไม่รอช้ารีบหยิบผ้าขนหนูหนาๆ มาห่อตัวมันไว้ แล้วก็อุ้มมันไปส่งยังศูนย์พักฟื้น จนในที่สุดมันก็ได้มาอยู่ในการดูแลของเจ้าหน้าที่ Christine Gilmore ที่ประจำการอยู่ที่นั่น คุณ Glimore ได้ทำการป้อนอาหาร ทำความสะอาดร่างกาย และมอบความอบอุ่นให้กับเจ้า Dawson เป็นอย่างดี “ตอนนี้ฉันกลายเป็นแม่คนใหม่ของมันแล้วล่ะ” คุณ Glimore กล่าว ซึ่งจากการสำรวจเบื้องต้นก็พบว่ามันมีอายุเพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น นอกจากนี้คุณ Gilmore ยังจับเจ้า Dawson ไปจับคู่กับเจ้าทารกจิงโจ้อีกตัวที่มีชื่อว่า Nelson ที่แม่ของมันเองก็ถูกรถชนจนเสียชีวิตเช่นเดียวกัน เพื่อให้พวกมันสองตัวมอบความอบอุ่นให้แก่กัน…
-
ลิงช่วยชีวิตนักท่องเที่ยวชิลี ให้รอดพ้นออกมาจากป่าอเมซอน หลังหลงอยู่ในนั้นมาเกือบ 10 วัน
เมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา Maykool Coroseo Acuña หนุ่มชิลีวัย 25 ปี ได้ซื้อทัวร์ของบริษัท Max Adventures เพื่อเข้าสัมผัสบรรยากาศธรรมชาติในอุทยานแห่งชาติ Madidi ของประเทศโบลิเวียร์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของป่าอเมซอน ในวันแรกทางไกด์นำทางได้พาเขาเข้าไปชมบรรยากาศในป่า พบปะกับธรรมชาติ และเหล่าสิงสาราสัตว์ต่างๆ พอถึงตอนเย็น ไกด์ก็พาเขาไปเข้าร่วมพิธีกรรมของชนเผ่าพื้นเมืองเพื่อขอบคุณ Pachamama เทพเจ้าแห่งป่าที่คอยปกปักรักษาพวกเขาเอาไว้ แต่ Acuña กลับปฏิเสธไม่เข้าร่วมพิธี และปล่อยให้คณะทัวร์ทั้งหมดประกอบพิธีกรรมกันไป เมื่อทุกคนเสร็จพิธี พวกเขาก็พบว่า Acuña หายไปอย่างไร้ร่องรอย พวกเขาจึงแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่อุทยาน เพื่อออกค้นหาในทันที หลังจากพยายามค้นหาอยู่นาน พวกเขาก็ต้องพบกับความผิดหวัง เนื่องจากไม่พบร่องรอยของของ Acuña แม้แต่น้อย ทางเจ้าหน้าที่บอกว่าที่เขาหายไป เพราะไม่ยอมเข้าร่วมพิธีกรรม Pachamama จนทำให้ปิศาจร้ายลักพาตัวเขาไป ทางเจ้าหน้าที่พยายามค้นหาอีกหลายวัน พร้อมทั้งทำพิธีกรรมขอให้เจ้าป่า Pachamama ช่วย จนกระทั่งเวลาผ่านไปเก้าวัน ไม่มีใครคิดว่าเขาจะยังมีชีวิตรอด จู่ๆ ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ยินเสียงคนตะโกนมาจากบริเวณแม่น้ำแห่งหนึ่งใกล้ๆ เมื่อไปถึงแถวนั้น เขาก็ได้พบกับ Acuña ในสภาพอิดโรยแถมยังมีแผลเต็มตัว เขาเล่าว่าจู่ๆ เขาก็รู้สึกอยากวิ่งเข้าไปในป่าโดยไม่พกโทรศัพท์หรือข้าวของติดตัวไป กว่าจะรู้ตัวอีกทีเขาก็หลงป่าซะแล้ว ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาบอกว่า เขาใช้ชีวิตด้วยการตามฝูงลิงฝูงหนึ่ง ซึ่งพวกมันจะคอยทิ้งผลไม้และอาหารเอาไว้ให้…
-
คนขับรถชน “แม่แพะท้องแก่” จนตาย แต่ลูกในท้องกลับรอด เติบโตมาได้อย่างปาฏิหาริย์
กลายเป็นเรื่องราวสุดประทับใจเลยทีเดียว หลังจากแม่แพะท้องแก่ตัวหนึ่ง โชคร้ายถูกรถคันหนึ่งชนจนตายคาที่ โชคดีปาฏิหาริย์ เมื่อลูกของมันในท้องกลับรอดชีวิตอย่างไม่น่าเชื่อ รายงานข่าวจากทางเว็บไซต์ Scmp เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ระบุเรื่องราวเกิดขึ้นบนทางหลวงแห่งหนึ่งในมณฑลเจียงซี ประเทศจีน เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งว่ามีแพะตัวหนึ่งถูกรถชนจนตายอยู่กลางถนน เมื่อได้รับแจ้งดังนั้น พวกเขาจึงรุดไปยังที่เกิดเหตุทันที และพบว่ามีซากแพะตัวหนึ่งนอนอยู่ แต่ที่ทำให้พวกเขาเซอร์ไพรส์ก็คือข้างๆ มีลูกแพะตัวน้อยนอนอยู่ ลำตัวของมันยังมีรกติดอยู่ด้วย เมื่อเห็นสภาพของแม่แพะที่ถูกชนจนตายคาที่ ทางตำรวจคิดว่าลูกแพะตัวนั้นก็คงไม่รอดเป็นแน่แท้ แต่เมื่อเข้าไปสำรวจใกล้ๆ พวกเขาก็ตกใจเมื่อลูกแพะตัวน้อยยังมีชีวิตอยู่และท่าทางจะไม่เป็นอะไรมากซะด้วย เมื่อเห็นดังนั้นพวกเขาคิดว่าคงจะต้องช่วยชีวิตมัน พวกเขาจึงเก็บลูกแพะตัวนั้นกลับไปยังสถานีตำรวจ ทางตำรวจได้ทำการให้นม และเชิญสัตวแพทย์มาตรวจอาการของเจ้าแพะน้อยตัวนี้ ซึ่งโชคดีมากที่มันไม่ได้รับบาดเจ็บหรือมีแผลรุนแรงแม้แต่นิดเดียว และหลังจากดื่มนมได้ไม่นาน มันก็สามารถลุกขึ้นยืนได้ด้วยขาของตนเอง สร้างความประทับใจให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นอย่างมาก ทางสัตวแพทย์คาดการณ์ว่า แม่แพะคงจะท้องแก่มากและจะคลอดลูกน้อยตัวนั้นพอดี แต่มันถูกรถชนตายอย่างน่าใจหายเสียก่อน พอดีกับแรงกระแทกก็ผลักลูกแพะออกมาจากท้องของมัน และรกที่ฉีกขาดไปทำให้มันหายใจได้ทันที ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประกาศหาเจ้าของ เพื่อทำการคืนแพะตัวนี้กลับไป แต่ระหว่างนี้ ทางเจ้าหน้าที่จะช่วยดูแลเจ้าแพะตัวนี้ไปก่อนจนกว่าจะมีคนไหน หรือสถานดูแลยื่นมือเข้ามาขอรับไปเลี้ยง แม้หนึ่งชีวิตจะจบลงไป แต่อย่างน้อยก็ยังมีอีกชีวิตได้ถือกำเนิดขึ้นมาเนอะ ที่มา scmp
-
ม้าแก่ไม่มีใครต้องการกำลังถูกส่งไปฆ่า แต่เผลอสบตากับมนุษย์คนหนึ่ง จนเขาตกหลุมรักช่วยไว้…
ปกติแล้วเวลาม้าหรือลาที่แก่เกินใช้งาน หรือ เจ้าของเสียชีวิต หรือ เจ้าของไม่อยากเลี้ยงแล้ว จะถูกส่งไปยังตลาดประมูลสัตว์เพื่อให้คนอื่นที่สนใจประมูลไปดูแล แต่ถ้าเจ้าม้าหรือลาตัวเหล่านั้นไม่มีใครสนใจเลย เมื่อการประมูลจบลง พวกมันจะถูกส่งไปยังโรงฆ่าสัตว์ สำหรับเจ้า Bubbles ตัวนี้ก็เช่นกัน ด้วยอายุที่มากแล้ว ทำให้เจ้าของเก่ามันตัดสินใจนำมันมาเข้าร่วมการประมูล ด้วยความแก่รวมทั้งหน้าตาที่ไม่ได้หล่อเหลาอะไรนัก ทำให้จุดจบของมันคงไม่พ้นโรงฆ่าสัตว์เป็นแน่แท้ ในการประมูลวันนั้น องค์กรการกุศล Becky’s Hope Horse Rescue ที่คอยช่วยเหลือม้าและลาไม่ให้ถูกฆ่า ก็เข้าร่วมการประมูลเช่นกัน ด้วยงบประมาณที่จำกัด พวกเขาตั้งใจจะช่วยลาน้อยตัวหนึ่งเท่านั้น แต่เจ้า Bubbles เหมือนรู้ว่านั่นคือทางรอดชีวิตเดียวของมัน มันจึงเดินเข้าไปหาเจ้าหน้าที่จาก BHHR เหล่านั้นและทำหน้าอ้อนวอนสุดฤทธิ์! “เขารู้ว่านี่คือทางเดียวที่จะพาเขาออกไปจากที่นี่ได้” BHHR กล่าวผ่านเฟสบุ๊กอย่างเป็นทางการขององค์กร สุดท้ายเหล่าเจ้าหน้าที่ก็ใจอ่อน (และมีเงินเหลือพอ) พวกเขาจึงประมูลเจ้า Bubble ออกมาได้สำเร็จ “ไม่มีทางเลยที่เราจะทิ้งมันไว้ข้างหลัง” อาสาสมัครจาก BHHR กล่าว BHHR กล่าวอีกว่า “Bubbles น่ารักและฉลาดมาก แถมมันยังสุภาพด้วย” ภายหลัง BHHR ได้โพสเรื่องราวของเจ้าม้าลงบนเฟสบุ๊ก จนมีชาวเน็ตหลายคนบริจาคเงินรวมทั้งข้าวของต่างๆ มาให้เจ้าม้าตัวนี้เป็นจำนวนมาก…
-
ชายหนุ่มช่วยชีวิตเจ้านกกระจอกน้อย ที่ติดรั้วเหล็กเย็นเฉียบ ด้วยลมหายใจอุ่นๆ ของเขา
ไม่ว่าจะเป็นคนหรือสัตว์ ต่างก็อยากได้รับการช่วยเหลือเมื่อได้รับความเดือดร้อนกันทั้งนั้น ก็เหมือนกับเจ้านกกระจอกน้อยตัวนี้ ที่นิ้วเท้าของมันดันไปติดอยู่กับน้ำแข็งบนเหล็กที่มันเกาะ แต่โชคดีที่มันสามารถรอดชีวิตมาได้เพราะการช่วยเหลือของชายคนหนึ่ง… เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2560 ทางเว็บ Boredpanda ได้เผยภาพว่า Nelson Miller หนุ่มจากรัฐไอดาโฮ ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้พบกับนกกระจอกตัวน้อยที่กำลังเกาะนิ่งๆ อยู่บนน้ำแข็ง จนทำให้มันไม่สามารถขยับตัวไปไหนได้เลย ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เรารีบเข้าไปช่วยชีวิตมันทันที “ในเช้าของวันปีใหม่ ผมสังเกตเห็นนกกระจอกที่อยู่อย่างโดดเดี่ยวตัวหนึ่ง เกาะอยู่บนรั้วเหล็กใกล้กับถังน้ำ ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับนกที่จะดื่มน้ำจากถังน้ำอุ่น และเห็นได้ชัดเลยว่าเจ้านกตัวนี้โชคร้าย เพราะเท้าของมันเปียก และถูกแช่แข็งติดกับรั้วเหล็ก” Nelson กล่าว ในตอนแรกเขาพยายามที่จะทำให้เท้าของมันอุ่น แต่เจ้านกดันตกใจกลัว แต่ Nelson ก็ได้พยายามทำให้ที่ที่มันเกาะอยู่อุ่นขึ้นด้วยลมหายใจของเขา จนในที่สุดน้ำแข็งก็ค่อยๆ ละลาย และทำให้เท้าของมันหลุดออกจากที่บริเวณนั้น เจ้านกได้กลายเป็นอิสระ และสามารถบินกลับคืนสู่ธรรมชาติอีกครั้ง และเรื่องราวนี้ก็ทำให้เราได้เห็นว่า หนึ่งชีวิตเล็กๆ มีค่าเสมอ มาชมคลิปวีดีโอวินาทีขณะช่วยชีวิตเจ้านกน้อยกันเลย งานนี้ต้องขอยกนิ้วให้กับชายใจดีเลยนะเนี่ย ที่ช่วยชีวิตเจ้านกน้อยเอาไว้ ไม่อย่างนั้นป่านนี้ไม่รู้ว่ามันต้องเผชิญชะตากรรมอะไรบ้าง…
-
น้องหมาผู้น่าสงสาร ถูกธนูเสียบทะลุลำตัว หลังถูกล่าไปขาย โชคยังดีที่รอดชีวิตมาได้!!
เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2559 ทางสำนักข่าวต่างประเทศ ได้เผยภาพของน้องหมาที่น่าสงสารตัวหนึ่ง ในสภาพที่บาดเจ็บสาหัส หลังถูกพ่อค้าสุนัขตามล่าอยู่ในเมืองเฉิงตู ประเทศจีน จากภาพเราจะเห็นได้ว่า เจ้าหมาถูกลูกธนูเสียบทะลุบริเวณช่วงไหล่ และลำคอของมัน จนทำให้ขนสีขาวเต็มไปด้วยเลือดเกือบทั่วทั้งลำตัว เมื่อทางศูนย์คุ้มครองสัตว์ ได้ทราบข่าวของเจ้าหมาตัวดังกล่าว พวกเขาก็รีบเข้ามาช่วยเหลือมันทันที พร้อมกับนำตัวของมันไปรักษา แม้ว่าในตอนแรกมันจะวิ่งหนีเพราะความหวาดกลัว แต่สุดท้ายทางเจ้าหน้าที่ก็สามารถจับตัวมันกลับไปรักษาอย่างปลอดภัย และทำให้มันพ้นขีดอันตรายไปในที่สุด หลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่จากศูนย์คุ้มครองสัตว์ได้นำภาพของเจ้าหมาไปโพสต์ลงในเฟสบุ๊ค ก็สร้างความไม่พอใจให้กับกลุ่มผู้คุ้มครองสัตว์จากทั่วโลกเป็นอย่างมาก ด้าน Rose Gardiner หนึ่งในผู้ใช้เฟสบุ๊คได้เข้ามาแสดงความเห็นว่า “ฉันรู้สึกดีใจที่เจ้าหน้าได้รับการช่วยเหลือ แต่ภาพของมันทำให้ฉันใจสลายเพราะยังมีสุนัขอีกหลายล้านตัว ที่อาจจะเจอกับเหตุการณ์แบบนี้” นอกจากนี้ ยังมีผู้ใช้เฟสบุ๊คคนอื่นๆ อย่าง Charlotte Roberts ก็ได้เข้ามาแสดงความเห็นเช่นกัน “นี่ถือเป็นเรื่องที่ร้ายแรงมาก แต่โชคดีที่สุดท้ายเรื่องราวจบลงอย่างมีความสุข” ส่วนทางเฟสบุ๊คจากกลุ่มคุ้มครองสัตว์ในจีน ก็ได้ออกมาเผยว่า “เจ้าหมาตัวนี้ถูกลูกธนูยิงเข้าบริเวณไหล่ และคอของมัน แต่โชคดีเหลือเกินที่ Qiao Wei ผู้ใจบุญได้เข้ามาช่วยเหลือมันไว้ และรีบส่งตัวมันไปโรงพยาบาล” และที่น่ายินดีไปกว่านั้นคือ ลูกธนูไม่ได้ทำให้กล้ามเนื้อ และอวัยวะภายในของมันได้รับบาดเจ็บรุนแรง…
-
แม้จะผ่านไป 2 สัปดาห์ เจ้าเหมียว 2 ตัวก็ยังถูกช่วยเหลือ จากใต้ซากแผ่นดินไหวในอิตาลี!!
จากเมื่ออาทิตย์ก่อนที่ #เหมียวหง่าว ได้นำเสนอเรื่องราวของ เจ้าเหมียว Giga ที่ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่อิตาลีนานกว่า 5 วัน มาแล้ว จนมาถึงตอนนี้ก็ผ่านมากว่า 2 สัปดาห์แล้วที่เกิดเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงมากจนทำให้บ้านเมืองที่เคยสวยงามกลายเป็นซากปรักหักพังในพริบตา และทำให้มีผู้คนได้รับผลกระทบเป็นจำนวนมาก รวมไปถึงเหล่าสัตว์ทั้งหลายด้วย แต่กระนั้น… เหล่าเจ้าหน้าที่กู้ภัยก็ยังคงดำเนินการช่วยเหลือผู้คนและเหล่าสัตว์ต่อไป เผื่อว่ายังมีใครที่รอดชีวิตอยู่ใต้ซากปรักหักพังอีก และล่าสุดพวกเขาก็ได้ทำการช่วยเหลือเจ้าเหมียวเพิ่มอีก 2 ตัว!! เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาเจ้าเหมียวที่ชื่อว่า Pietro ถูกช่วยเหลือขึ้นมาจากซากปรักหักพังในเมือง Amatrice หลังจากที่ติดอยู่ข้างใต้ซากมาเป็นเวลานานถึง 15 วันเลยทีเดียว!! ก็ต้องขอขอบคุณมนุษย์ที่เลี้ยงดูเจ้า Pietro นี่แหละที่ไม่ยอมแพ้ ไปขอร้องอ้อนวอนให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยตามหามัน แม้จะผ่านมาแล้วถึง 15 วันก็ตาม และในที่สุดพวกเขาก็พบเจอหลังจากที่ลองขุดดูตรงที่บ้านที่เขาเคยอยู่นี่เอง… ประมวลภาพการขุดและค้นเจอเจ้าเหมียว . หลังจากนั้น มันก็ถูกพาไปยังโรงพยาบาลสัตว์ด้วยสภาพที่ดูย่ำแย่ แต่ถึงอย่างไรก็ตามมันก็จะถูกดูแลรักษาเป็นอย่างดีจนกลับมาหายเป็นปกติได้อีกครั้งอย่างแน่นอน หน่วยกู้ภัยเชื่อว่าที่มันสามารถรอดมาได้นั้น คงเป็นเพราะมันอาศัยการดื่มน้ำฝนที่หยดลอดผ่านช่องว่างของซากปรักหักพัง ลองไปชมคลิปเหตุการณ์ตอนช่วยเหลือเจ้าเหมียว Pietro ที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า… และไม่กี่วันก่อนหน้านั้นทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยเองก็ได้ทำการช่วยเหลือเจ้าเหมียวที่ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังจากเมือง Accumuli ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวด้วยเช่นกัน โดยเจ้าเหมียวตัวนี้ได้ส่งเสียงร้องเพื่อขอความช่วยเหลือจากคนที่เดินผ่านไปมา และพอเจ้าหน้าที่มาถึงมันก็ร้องต่อไปเรื่อยๆ เหมือนกับจะบอกว่า…
-
จำเจ้าหมู Koa ได้มั้ย? ชีวิตใหม่ในวันนี้ของมันช่างสดใส กินดีอยู่ดี น่าอิจฉาสุดๆ
หมูน้อยเป็นสัตว์น่ารัก ทั้งตัวอ้วนกลม มีขาสั้น ชอบวิ่งดุ๊กดิ๊กๆ ไปมา พร้อมเสียงร้องอู๊ดๆ และที่สำคัญเป็นสัตว์ที่กินเก่งสุดๆ อีกต่างหาก และนี่คือเรื่องราวของเจ้าหมู Koa ผู้รอดชีวิตจากการถูกทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัสได้สำเร็จ ซึ่งไม่มีใครรู้ว่ามันต้องไปเจอกับอะไรมาบ้าง ถึงได้วิ่งหนีดิ้นรนเข้ามาในป่า นับว่าเป็นความโชคดีของเจ้าหมูน้อยที่มีคนเข้าไปพบ และพามันไปรักษาตัวที่ โรงพยาบาลสัตว์เล็กของมหาวิทยาลัยโอไฮโอ เจ้าหมูน้อยบาดเจ็บสาหัสมาก ลำตัวของมันเต็มไปด้วยรอยแผลจากการถูกฟัน ตาเกือบบอด หูข้างหนึ่งแหว่ง และมันต้องใช้ระยะเวลาพักฟื้นในโรงพยาบาลค่อนข้างนาน มันบาดเจ็บจนแพทย์จำเป็นที่จะต้องตัดหูข้างที่แหว่งของมันออก เพื่อรักษาชีวิตของมันไว้ และนับว่าเป็นโชคดีของ Koa เพราะหลังจากที่รักษาตัวจนหายดีแล้ว ก็มีครอบครัวหนึ่งจากเมือง Madina รัฐโอไฮโอ พร้อมที่จะเลี้ยงดูและเอาใจใส่มันอย่างดี ราวกับว่ามันคือสมาชิกอีกคนหนึ่งของครอบครัว ซึ่งชื่อ Koa ของเจ้าหมูน้อยเป็นภาษาฮาวาย มีความหมายว่านักรบ ที่มันได้ชื่อนี้มาเพราะมันต้องเจอกับเรื่องแย่ๆ มากมาย และสามารถเอาตัวรอดมาได้ มันช่างเป็นหมูที่แข็งแกร่งดั่งนักรบจริงๆ เมื่อย้ายมาอยู่กับครอบครัวนี้ มันก็ได้รับอิสระภาพของตัวเองซักที ไม่ว่าจะเดิน เล่น กิน หรือ นอน ต่อจากนี้มันก็ไม่ต้องรู้สึกแย่กับกรงขังเล็กๆ อีกต่อไปแล้ว และมันยังได้ที่นอนอุ่นๆ…
-
เจ้าเหมียวเกือบถูก ‘การุณยฆาต’ แต่ถูกช่วยไว้ โตมาเป็นแมวหน้าก๊วนทีนเหลือเกิ๊น!!!
เจ้า Gozer เป็นแมวเหมียวที่ถูกเจ้าทาสคนเก่านำมาให้สัตวแพทย์ทำการการุณยฆาตมัน ด้วยเหตุผลเพียงเพราะว่ามันมีอาการติดเชื้อที่ตา “มีคนเอามันไปทิ้งให้สัตวแพทย์ทำการุณฆาต เพียงเพราะแค่มันมีอาการติดเชื้อที่ตา…ฉันคิดว่ามันน่าจะมีอายุประมาณ 3 สัปดาห์ ลองเดาจากรูปร่าง และขนาดตัวของมัน” ชาวเน็ตเว็บไซต์ Reddit ชื่อว่า sup3rnint3ndo (ผู้ที่รับเจ้า Gozer กลับมาเลี้ยง) กล่าว ทางสัตวแพทย์ปฏิเสธที่จะทำการการุณยฆาตให้กับเจ้าเหมียวน้อย และเมื่อพวกเขาได้เห็นใบหน้าที่เศร้าสร้อยของมันแล้วอดสงสารไม่ได้ ก็เลยตัดสินใจรับมันมาเลี้ยงซะเลย พร้อมกับตั้งชื่อให้ว่าเจ้า Gozer “เจ้าเหมียวของแฟนฉันเพิ่งหายตัวไปได้ไม่นาน และฉันคิดว่าน่าจะหาเจ้านายตัวใหม่ให้กับเขา” คุณ sup3rnint3ndo กล่าว จากการติดเชื้อที่ตาของมัน ส่งผลให้เจ้า Gozer นั้นเป็นโรคหวัดเรื้อรัง แถมยังมีผิวหนังบางส่วนที่ถูกเชื้อรากัดกินจนขนของมันหายไปอีกด้วย พวกเขาพามันไปทำการรักษาและในที่สุดก็หายดี ผ่านไป 2 ปีเจ้า Gozer กลายเป็นแมวเหมียวที่มีร่างกายแข็งแรง และใช้ชีวิตอย่างมีความสุขร่วมกับเจ้าทาสคู่รักทั้งสองคน โดยผลจากอาการติดเชื้อเรื้องรังนั้นทำให้ดวงตาของมันมีลักษณะแปลกๆ ซึ่งก็ทำให้มันดูน่ารักไม่เบาเลยนะเนี่ย ฮร่า แถมยังชอบทำหน้ากวนโอ๊ยอยู่ตลอดเวลาอีกต่างหาก เงิบมั้ยล่ะ 555+ เวลาอยู่ใกล้ๆ กับของกิน ต้องขอบอกเลยว่าพวกเขาคิดไม่ผิดเลยที่รับเจ้า Gozer…
-
หัวใจนายน่ากราบ… ทหารหนุ่มผู้รักพวกพ้อง กระโจนเข้ารับแรงระเบิดช่วยเพื่อนทหารให้รอดชีวิต!!
เราคงเคยชมภาพยนตร์แอคชั่นเกี่ยวกับทหารหรือสงครามกันอยู่บ่อยๆ และพบเห็นฉากที่พระเอกหรือตัวละครอื่นๆ เสียสละชีวิตตัวเองช่วยเหลือเพื่อนหรือลูกน้องในกองด้วยการกระโดดเอาตัวไปรับระเบิด วันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปชมเรื่องราวของฉากสุดฮิตในภาพยนตร์นี้ที่เกิดขึ้นจริงๆ กัน… พ่อหนุ่ม William Kyle Carpenter เข้าร่วมกับนาวิกโยธินตั้งแต่อายุ 19 ปี จนกระทั่งอายุ 21 ปีเขาถูกส่งไปอยู่ที่อัฟกานิสถาน เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายนของปีนั้น เขาได้เสียสละตัวเองกระโดดเข้าบังแรงระเบิดจากระเบิดมือเพื่อช่วยเหลือเพื่อนทหารของเขา โดยร่างกายด้านซ้ายของเราได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก ทั้งกระดูกโครงหน้า ดวงตา แขน และปอด แต่เขากับรอดมาได้อย่างปาฏิหาริย์ เขาจึงได้รับมอบเหรียญกล้าหาญจา่กทางการของสหรัฐ (มอบโดยประธานาธิบดีเองเลย) เพื่อแสดงถึงความกล้าหาญ และความเสียสละอันยิ่งใหญ่ของเขาเพื่อประเทศชาติ 2 ปีครึ่งที่เขาต้องใช้ชีวิตอยู่ในโรงพยาบาล และผ่านการผ่าตัดศัลยกรรมกว่า 40 ครั้ง ตอนนี้เขาพร้อมแล้วที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่ ในช่วงแรกเขาก็ยังคิดไม่ออกว่าจะทำอย่างไรกับชีวิตที่เหลืออยู่นี้ดี และเขาก็ตัดสินใจ ที่จะทำหน้าที่ในการช่วยเหลือผู้คนที่สูญเสียครอบครัว คนรัก หรือครอบครัว ไปในสงคราม ทำให้เขาเดินสายไปทั่วอเมริกา ทำเรื่องต่างๆ มากมาย เพราะตอนนี้เขากลายเป็นคนมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วแล้ว วิ่งมาราธอนร่วมกับเหล่าทหารผ่านศึก …
-
รอดปาฏิหาริย์ คุณตาวัย 72 ถูกดึงออกมาจากซากปรักหักพัง หลังเหตุการณ์แผ่นดินไหวกว่า 2 สัปดาห์เต็ม!!!
อื้อหือออ เรียกได้ว่ารอดปาฏิหาริย์มาก สำหรับคุณตาวัย 72 ปี ผู้ประสบภัยจากเหตุแผ่นดินไหวในประเทศเอกวาดอร์ ติดอยู่ในซากปรักหักพังกว่า 2 อาทิตย์เต็ม!!! Manuel Vasquez คุณตาวัย 72 ปี ผู้มีปัญหาเกี่ยวกับโรคไต ถูกพบนอนอิดโรย บาดเจ็บ และอ่อนแรง อยู่ในซากปรักหักพัง 2 อาทิตย์หลังจากเหตุแผ่นดินไหวในเมือง Jaramijó ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อมากๆ เหล่าอาสาสมัครก็ไม่คิดว่าจะเจอใครที่รอดชีวิตอยู่ ณ ตอนนั้น ประธานาธิบดีประเทศโบลิเวียและเอกวาดอร์เยี่ยมผู้ประสบภัย หลังจากถูกช่วยเหลือ คุณตาดายฮาร์ดของเราได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วนที่สุดทันที มีอาการไตวาย ขาดน้ำ-สารอาหารอย่างรุนแรง มีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินปัสสาวะ และมีอาการฟกช้ำและบาดแผลหลายจุดจากของที่ตกใส่แกตอนแผ่นดินไหว สำหรับแผ่นดินไหวครั้งนี้ก็นับได้ว่ารุนแรงมากกว่า 7.8 ริกเตอร์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อยกว่า 569 ราย และอีกกว่า 29,000 รายต้องกลายเป็นคนไร้บ้านเพราะที่อยู่พังถล่มไปจนหมด เจ้าหน้าที่กำลังค้นหาซากแผ่นดินไหว จุดเกิดแผ่นดินไหว สำหรับเหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้ประธานาธิบดีได้คาดการณ์ความเสียหายไว้ราวๆ 3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 105,000 ล้านบาท…
-
เรื่องราวของหนุ่มน้อยดวงแข็ง ที่รอดชีวิตจากการก่อการร้ายถึง 3 ครั้ง ทั้งบอสตัน ปารีส และล่าสุดบรัสเซลส์!!!
ก็ต้องบอกว่าเป็นเด็กหนุ่มที่ดวงแข็งมากๆ เลยทีเดียว นอกจากจะไปอยู่ในสถานที่เสี่ยงภัยมาตลอดๆ แล้ว ยังเป็นสถานการณ์ที่รุนแรง และรอดชีวิตจากสถานการณ์อันเลวร้ายมาแล้วถึง 3 ครั้งด้วยกัน!!! Mason Wells คือเด็กหนุ่ม 19 ที่ทำงานเกี่ยวกับศาสนา เป็นมิชชันนารีที่ต้องเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ทั่วโลก ทั้งบอสตัน ปารีส และล่าสุดบรัสเซลส์ ที่พึ่งเกิดเหตุการณ์ระเบิดคร่าชีวิตคนไปกว่า 14 คน สดๆ ร้อนๆ ที่ผ่านมา Mason Wells สำหรับครั้งล่าสุดนี้ที่บรัสเซลล์ เขาอยู่ในที่เกิดเหตุระเบิดห่างออกไปเพียงไม่มาก จนสะเก็ดระเบิดกระเด็นมาโดนที่ส้นเท้าของเขาเป็นแผลไหม้ ซึ่งตอนนี้เขากำลังพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล… ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขารอดชีวิตจากเหตุการณ์ร้ายๆ เหล่านี้ นี่ก็ปาเข้าไปเป็นครั้งที่ 3 เรียบร้อยแล้วล่ะ หลังจากที่เขารอดชีวิตจากเหตุการณ์ระเบิดในบอสตันมาราธอน และล่าสุดที่ผ่านมากับการก่อการร้ายในปารีส!!! เหตุการณ์ระเบิดในสนามบินบรัสเซลส์ ในปี 2013 Mason ได้อยู่ในเหตุการณ์ระเบิดในบอสตันมาราธอน ขณะที่เขาไปดูแลแม่ของเขา Kymberley Wells ที่เข้าร่วมในการวิ่ง ซึ่งหลังเหตุการณ์ระเบิดพ่อแม่ของ Mason ก็ได้รับการติดต่อจากโรงพยาบาลว่าลูกชายของพวกเขาพักรักษาตัวอยู่ที่นั้น ‘ประสบการณ์นั้นคือครั้งแรกของเขา และช่วยให้เขาสามารถรับมือและประคองสติเมื่อเจอสถานการณ์นั้นๆ…
-
เหมียวดวงแข็ง รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงไม่กี่วินาที ก่อนจะโดนเครื่องบดอัดขยะทุบแหลก!!!
มีสำนวนหลายๆ ประเทศบอกว่าเหมียวน่ะมี 9 ชีวิต แต่เหมียวอาจจะมองกลับมาด้วยสายตาอันน่าสงสารแล้วคิดในใจว่า ‘นี่ชีวิตที่ 9 ของตรูแล้ว…’ ก็เป็นได้ ฮร่าๆๆๆ เหมือนเจ้าเหมียวน้อยตัวนี้ ที่ถูกช่วยชีวิตมาได้แบบหวุดหวิด ขณะที่กำลังจะโดนเครื่องบดขยะมหาประลัยจัดการ ก็มีเจ้าหน้าที่สังเกตเห็นและช่วยมันออกมาได้เสียก่อน!!! เจ้าเหมียวดวงแข็ง สำหรับเจ้าหน้าที่ ที่อยู่กะตอนนั้นคือ Tony Miranda เขาเล่าว่า ‘ระหว่างที่ผมควบคุมการบดและอัดขยะอยู่ ผมก็เห็นลูกแมวตัวหนึ่งอยู่ระหว่างเศษขยะชิ้นใหญ่สองชิ้น’ และแน่นอน ด้วยความเร็ว เขาหยุดการทำงานของเครื่อง และไปอุ้มเจ้าเหมียวน้อยขึ้นมา ‘แต่ละวันเราต้องทำงานกับขยะมากมาย ซึ่งโชคดีมากๆ ที่ผมไปสังเกตเห็นเจ้าเหมียวเข้า’ เขากล่าวเสริม ไม่มีใครรู้ว่าเจ้าเหมียวเข้ามาในกองขยะได้ยังไง อาจจะติดมากับกองขยะ แล้วถูกรถขยะขนขึ้นมาแล้วนำมาทิ้งที่นี่ก็เป็นได้ ใครจะไปรู้… แต่อย่างไรก็ตามตอนนี้มันรอดชีวิตแล้วล่ะดวงแข็งสุดๆ ไปเลย ‘มันทำให้วันนี้ของผมเป็นวันพิเศษเลยล่ะ เยี่ยมจริงๆ ‘ Tony Miranda แถมเจ้าเหมียวยังเป็นที่รัก ที่ชื่นชอบของ Heather Garcia หัวหน้าหน่วยงานของเขาอีกต่างหากแน่ะ พอเธอรู้ข่าว เธอก็รีบวิ่งมาเช็คทันทีว่าเหมียวปลอดภัยดีไหม แหม๊…เธอคนนี้น่าจะเป็นคนรักแมว อิอิ …
-
เสียงจาก ‘ตัวประกันผู้รอดชีวิต’ เผย ISIS ไม่ได้กลัวการโจมตีทางอากาศ แต่กลัวเรา ‘สามัคคีกัน’
ถือเป็นเรื่องราวอันน่าเศร้าของโลกเลยก็ว่าได้เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา กลุ่มก่อการร้าย ISIS ได้เข้าโจมตีปารีส ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากมาย จนสุดท้ายฝรั่งเศสก็ประกาศภาวะสงคราม เข้าถล่มซีเรีย ได้มีอดีตตัวประกันที่สามารถรอดชีวิตกลับมาได้ชื่อว่า Nicolas Hénin ชาวฝรั่งเศส ผู้ถูกจับตัวไปนานกว่า 10 เดือน อีกทั้งยังได้พบเจอคนที่อยู่เบื้องหลังกลุ่มก่อการร้ายนี้ รวมทั้ง Jihadi John ที่ Nicolas ตั้งชื่อให้เขาว่า “หัวล้าน” (baldy) จากรายงานของสำนักข่าว The Guardian นักข่าวอิสระ Nicolas ได้รายงานว่าสิ่งที่เราเห็นนั้นเป็นเพียงโฆษณาชวนเชื่อที่ทางอีกฝั่งสร้างขึ้นมาเพื่อให้เกิดความน่าสงสารขึ้น เขากล่าวว่า “พวกเขาพยายามที่จะนำเสนอตัวเองให้เป็นเหมือนฮีโร่ในสายตาประชาชน แต่พออยู่หลังกล้อง ยังมีเรื่องที่น่าสลดอีกมากมาย เช่นเด็กข้างถนนที่ถูกมัวเมาด้วยอุดมการณ์และอำนาจ ในฝรั่งเศสอาจจะบอกว่าเป็นพวกเขลาอย่างปีศาจ แต่ผมพบว่ามันเขลายิ่งกว่าปีศาจเสียอีก ซึ่งผมยังไม่ได้พูดถึงเรื่องการฆ่าอย่างโง่งมงายอีกด้วย” เขายังบอกอีกว่าผู้คุมนักโทษมักจะเล่นเกมกับนักโทษบ่อยๆ เช่นการทรมาน หรือการบอกว่าพรุ่งนี้จะปล่อยตัวแล้ว แต่สุดท้ายก็นำไปประหารชีวิตแทน Nicolas เล่าว่า ISIS จะทำการโจมตีแบบนี้ไปเรื่อยๆเพื่อให้ผู้คนได้แตกหักกัน และทำให้ประเทศในยุโรปเกลียดกัน เขาต้องการให้เกิดภาวะ “เรา สู้กับ เขา” โดยให้ชาวมุสลิมเป็นสาเหตุในเรื่องดังกล่าว ISIS พยายามใช้ช่องทางโซเชียลมีเดียในการติดตามปั่นป่วน ซึ่งตอนนี้ทางผู้ก่อการร้ายอาจจะคิดว่าพวกเขาชนะแล้ว เนื่องจากผู้คนอาจจะคิดต่างแบบสุดโต่งเกินไป และบางคนก็อาจจะคิดในแง่ของความแตกต่างของการได้เปรียบทางการรบ…
-
หนุ่มฝรั่งเศสรอดชีวิตปาฏิหาริย์ หลังมือถือรับกระสุนที่คนร้ายยิงใส่หัวของเขาได้อย่างหวุดหวิด!!!
นับเป็นหนึ่งในเรื่องที่โชคดีสุดๆ เลยก็ว่าได้ เรื่องราวของชายคนนี้ ที่รอดชีวิตอย่างหวุดหวิดจากเหตุการณ์การก่อการร้าย กราดยิงกระสุนใส่ฝูงชนในกรุงปารีส โดยมีรายงานถึงข่าวคราวของผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ 100 กว่ารายเลยทีเดียว แต่หนุ่มฝรั่งเศสกลับดวงแข็งสุดขีด เขามีชื่อว่า Sylvestre และได้ไปที่ France’s national Stadium หรือสนามกีฬาแห่งชาติฝรั่งเศส สถานที่เกิดเหตุโศกนาฏกรรมนี้ และได้รอดชีวิตราวปาฏิหาริย์ เพราะว่ามือถือได้ช่วยชีวิตเขาไว้!!! เขาได้กล่าวกับนักข่าวว่า ‘หัวของผมอาจจะระเบิดเป็นเสี่ยงๆ แล้วล่ะ ถ้าไม่ได้มือถือมารับแรงกระแทกของกระสุนนัดนั้นที่ผู้ก่อการร้ายยิงมาใส่ผม’ จะเห็นได้ว่าเป็นมือถือของค่าย Samsung ซึ่งทางสำนักข่าวเมโทรได้รายงานว่า เขาถูกยิงเข้าที่เท้าและชายโครง แต่เคราะห์ดีที่กระสุนสุดท้าย ที่วิถีตรงเข้าสู่หัวของเขาถูกรับไว้โดยโทรศัพท์ ส่วนสภาพของมือถือนั้นข้างหลังเป็นรอยอัดกระแทกชัดเจนโดยกระสุน และหน้าจอก็แตกไปเป็นที่เรียบร้อย คลิปวิดีโอของชายหนุ่ม อื้อหือออ เหมียวบอกเลยว่า ดวงแกเฮงสุดๆ ไปเลยพ่อหนุ่ม แต่เหมียวขอเถอะ เหตุการณ์นี้ในอนาคตอย่าเอาไปทำโฆษณามือถือเลยนะเมี๊ยวว ให้เกียรติผู้เสียชีวิตและญาติๆ ของเขากันหน่อยเนาะ ที่มา: Metro
-
เจ้าเหมียวถูกยิงถึงสองครั้ง และมันก็รอดทั้งสองครั้ง จึงได้ฉายาเป็น ‘เหมียวเหล็ก’ !!
เรื่องราวอันน่าทึ่งของชีวิตน้องเหมียวน้อยตัวหนึ่งที่ได้ชื่อว่า Arnold Schwarzenegger ชื่อเหมือนกับดาราดังที่รับบทเป็นคนเหล็กแทบทั้งชีวิต ก็ลุง Arnold ของเรานั่นไง เหตุที่ทำให้มันได้ชื่อนี้มาก็เป็นเพราะว่าน้องเหมียวตัวนี้ ถูกยิงสองครั้ง และมันก็รอดชีวิตมาได้ทั้งสองครั้ง!! โดยที่เจ้าเหมียวเหล็กนั้นถูกยิงครั้งที่สองด้วยปืนไรเฟิล มันมีร่างกายที่อึดมากๆ ถึงแม้จะโดนยิงมาก็ยังสามารถพาตัวเองกลับมาที่บ้านได้อย่างน่าเหลือเชื่อ ซึ่งจากบาดแผลที่ถูกยิงนั้นส่งผลทำให้ไหล่แตก และทำให้ขาหนึ่งข้างได้รับความเสียหายจนต้องตัดทิ้ง ซึ่งหลังจากที่คุณ Leah และแฟนหนุ่มของเธอ Allen Elphick กลับมาจากการท่องเที่ยวในวันหยุด ก็พบกับเจ้าเหมียวเหล็กนอนหมดสภาพบนเก้าอี้ในบ้านเนื่องจากถูกยิง จึงรีบนำไปพบสัตวแพทย์เป็นการด่วนที่สุด พบว่ากระสุนเจาะผ่านหน้าอกของมัน ทะลุไหล่ และฝังตัวอยู่ในขาของมัน ซึ่งสองปีที่แล้วน้องเหมียวเหล็กเคยโดนยิงมาแล้ว และในครั้งนี้มันก็โดนยิงอีกครั้ง และรอดตายได้อย่างอศัจรรย์ คุณ Leah ถึงกับต้องพูดออกมาว่า ‘เราไม่รู้ว่ามันเป็นแมวที่โชคร้ายที่สุดในโลก หรือเป็นแมวที่โชคดีที่สุดในโลกที่โดนยิงและรอดตายมาได้ถึงสอง’ เธอจึงได้ตั้งชื่อให้เจ้าเหมียวว่า Arnold เพราะมันทั้งอึดและทนทานสุดๆ แต่ก็ยังคงกังวลกับการที่มันโดนยิงอยู่ เพราะไม่รู้ว่าคนที่ทำนั้นมีเจตนายิงหรือว่าเป็นเพราะอุบัติเหตุกันแน่ โดยที่ตำรวจก็พยายามที่จะให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ เนื่องจากพยานหลักฐานนั้นมีน้อยนิดเหลือเกิน แต่ก็ถือว่าอย่างน้อยเจ้า Arnold ก็ยังรอดมาได้เนอะ นี่มันแมวเก้าชีวิตผสมกับแมวเหล็กเลยนี่หว่า!! ที่มา :…
-
เกิดเหตุเพลิงไหม้จนบ้านวอดทั้งหลัง แมวน้อยโชคดีรอดชีวิตปาฏิหาริย์แม้อยู่ท่ามกลางกองเพลิง!!!
ในระหว่างที่ครอบครัวนี้กำลังหนีออกจากบ้านที่ถูกไฟไหม้อย่างรุนแรงในเมือง Hayfork รัฐ California เจ้าแมวจอมซนของบ้าน Ruthie Rosemary กลับกระโดดออกหน้าต่างรถ และถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง ภาพสุดท้ายที่พวกเขาได้เห็นคือ เพลิงไหม้กำลังลามมาหาเจ้าแมวอย่างรวดเร็ว และพวกเขาไม่มีเวลาที่จะกลับไปรับมัน พวกเขาคิดว่าคงต้องเสียมันไปเป็นแน่แท้ ห้าวันหลังจากนั้น พวกเขาได้กลับมาที่ที่เคยเป็นบ้านของพวกเขา แต่ตอนนี้มันกลับเป็นแค่ซากปรักหักพัง ขณะที่พวกเขากำลังสำรวจความเสียหาย พวกเขาได้ยินเสียงประหลาดบางอย่างดังมาจากซากรถกระบะของเขาอีกคันที่ถูกไฟไหม้ เสียงนั้นนคือเจ้าแมวสุดที่รักของพวกเขานั่นเอง แม้ว่ารถกระบะคันนั้นจะถูกไฟไหม้จนอลูมิเนียมละลาย แต่เจ้า Ruthie Rosemary กลับแทบไม่มีแผลเลย นอกจากหนวดที่บิดๆเบี้ยวๆเนื่องจากความร้อนเท่านั้น สุดท้ายพวกเขาก็ได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง โอ้โห เห็นสภาพบ้านแล้ว ไม่น่ารอดได้เลย โชคดีขนาดนี้…หรือว่าจริงๆแล้วมันมีเก้าชีวิตกันแน่นะ.. ที่มา Viralnova
-
เจ้าตูบรอดปาฏิหาริย์หลังกระโจนออกจากหน้าต่างชั้น 3 เพราะได้ ‘หู’ ช่วยชีวิต!!!
เป็นอุทาหรณ์ให้เหล่ามะหมาเลยนะ ว่าอย่ามาแหยมกับเหมียวอีก!!! ดีนะที่แกไม่เป็นอะไรมาก หึหึ กล้ามาท้าทายเหมียวก็ต้องโดนแบบนี้แหละ… เมื่อเจ้าหมาตัวนี้ กำลังนั่งอยู่ชิวๆ บนบ้านของมันที่ห้องใต้หลังคา จะนับไปก็อยู่ชั้น 3 พอดิบพอดี แต่ขณะที่มันนั่งอยู่ริมขอบหน้าต่างนั้น มันก็ได้สังเกตเห็นเจ้าเหมียวบอบบางตัวนึง เดินอยู่ที่ถนนหน้าบ้าน และเจ้าตูบก็ได้ทำเรื่องสุดบ้าระห่ำ นั่นก็คือกระโดดลงไปเพื่อไปไล่แมวตัวนั้น โดยเจ้าของของเจ้าตูบได้กล่าวว่า “มันกระโจนออกจากหน้าต่างชั้น 3 มาเฉย จากคำบอกเล่าของเพื่อนบ้านขณะที่เราไม่อยู่ โดยพวกเขาได้พามันไปส่งโรงพยาบาลสัตว์ทันทีหลังจากที่เกิดเหตุ ซึ่งพอแพทย์ตรวจแล้วก็ไม่มีอาการบาดเจ็บมากมายอะไร กระดูกก็ไม่หักด้วยล่ะ ปาฏิหาริย์จริงๆ ” “ฉันก็ไม่ทราบได้ว่ามันพยายามจะร่อนลงมารึเปล่า หรืออะไรยังไง หรือการที่หูที่ยาวใหญ่ยักษ์ของมันช่วยชีวิตมันเอาไว้ ฉันก็ได้แต่อ้ำอึ้ง และก็ต้องเรียกได้ว่ามันเป็นปาฏิหาริย์จริงๆ ” เธอกล่าวเสริม ภาพสถานที่เกิดเหตุ ซึ่งเพียงอีกหนึ่งวันต่อมา คุณหมอก็อนุญาตให้เจ้าตูบกลับบ้านได้แล้วล่ะ เพราะมีอาการบาดเจ็บเล็กน้อยมากๆ อื้อหือออ แต่จะว่าไปแล้วเดี๋ยวนี้พวกเจ้าตูบมันก็พัฒนานะเนี่ย หรือว่าพวกมันตั้งใจจะมาไล่ล่าเหล่าเหมียวอย่างพวกเรา แง๊วววววว!!! ที่มา: Metro
-
มาดูกันซิว่าคุณจะรอดชีวิตรึเปล่า ถ้าเจอเหล่านักล่าที่อยู่ตามธรรมชาติ!!?
เพื่อนๆ เคยจินตนาการกันมั้ยล่ะว่า ถ้าเราต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องไปพบกับเหล่านักล่า ในป่าลึกหรือเขตภูเขาจะเป็นยังไง เราจะรอดชีวิตรึเปล่า เอ…อันนี้มันก็น่าคิดอยู่นะ แต่ส่วนมากแล้วสัตว์เหล่านี้จะไม่ค่อยกล้ามาทำร้ายมาตอแยมนุษย์ซักเท่าไหร่ นอกจากว่ามันหิวจริงๆ !!! และนี่เป็นบททดสอบว่า คุณจะสามารถเห็นเสือดาวหิมะ ที่ปลอมตัวกลมกลืนกับสภาพแวดล้อมในภาพได้รึเปล่า!!? คุณมีเวลาเพียง 5 วินาทีเท่านั้น อ่ะให้อีกนิด เห็นรึยัง!!? โอกาสสุดท้ายแล้วนะ!!! อ่ะ เฉลยก็ได้ อยู่ตรงนั้นแหละ… คือไม่เป็นไรหรอกนะ เป็นใครก็ไม่เห็นหรอก ก็เพราะเสือดาวหิมะเป็นสุดยอดปรมาจารย์แห่งการปลอมตัวนั่นเอง แนบเนียน กลมกลืนซะอย่างนั้น พวกแพะภูเขายังไม่รู้เลยมั้งเนี่ย งานนี้ก็พากันไปเป็นอาหารเสือทุกคนเลยเนี่ย ฮ่าๆๆ ที่มา: Distractify