Tag: รักแท้
-
โมเมนต์บอกลาครั้งสุดท้าย “ผมรู้คุณไม่ได้ยินผมแล้ว แต่ผมรักคุณนะ” ปิดฉากรัก 60 ปี
“รักแท้” มีรูปร่างหน้าตาและความรู้สึกเป็นอย่างไร หากจะให้นิยามเป็นรูปแบบที่ตายตัวคงจะไม่ได้ เพราะทุกคนต่างผ่านเส้นทางความรักที่แตกต่างกันไป ยกตัวอย่างจากเรื่องราวของคุณตา Bobby Moore โดยบอกเล่าผ่านภาพถ่ายของช่างภาพสายข่าว April Yurcevic Shepperd ด้วยการเป็นพยานประจักษ์ถึงตำนานความรักแท้ในครั้งนี้ “ในวันนี้ฉันได้เจอกับชายคนหนึ่ง ชายผู้แหลกสลาย ยืนอยู่ตรงหน้าสิ่งที่ล้ำค่าที่สุดในชีวิต และนี่ก็คือความรักที่มีตัวตนของเขา เมื่อเขาเดินเข้ามาในห้อง การย่างเท้าของเขาไม่มั่นคง แต่ความตั้งใจของเขายังแน่วแน่ ดวงตาจ้องมองมาที่ปลายทางใจกลางห้อง โลงศพเหล็กสีเทาวางอยู่ตรงนั้นภายใต้แสงสีนวลตา ครึ่งหนึ่งของโลกถูกเปิดเอาไว้ ตกแต่งไปด้วยโบและดอกไม้หลากสีสัน พร้อมกับเขียนคำว่า “ภรรยา” และ “แม่” เมื่อมาถึงปลายทางที่เขาตั้งใจ เขาก้มตัวและจูบริมฝีปากของเธอ ร่างกายอันอ่อนแอก็ยิ่งสั่นคลอน จนกระทั่งคำพูดอันสุภาพและอ่อนน้อมได้หลุดออกมาจากปากของเขา เขาพูดเพื่อให้เธอได้ยินเพียงคนเดียว และถูกพูดนับครั้งไม่ถ้วนในห้วงเวลาอันแสนสั้น แต่ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาจะได้พูดกับเธอ… “ผมรู้ว่าคุณไม่ได้ยินผมอีกแล้ว แต่ผมรักคุณนะ” สิ้นสุดคำพูดของคุณตา น้ำตาก็เอ่อล้นไหลรินออกมา ตลอด 60 ปีที่ผ่านมา คุณยายอยู่เคียงข้างคุณตามาโดยตลอด แต่มันก็ยังไม่เพียงพอ ยังไม่ใกล้เคียงเสียด้วยซ้ำ คุณตาจึงคว้าเก้าอี้มานั่งอยู่ข้างๆ โลง ในขณะที่ไม้ค้ำอยู่ทางด้านขวา และร่างของภรรยาอยู่ทางด้านซ้าย เขานั่งอยู่ตรงนั้นเป็นเวลานานเกือบชั่วโมง เขาคว้ามือของภรรยาและลูบเบาๆ คล้ายกับว่าเขากำลังปลอบโยนเธออยู่…
-
หนุ่มขายทุกอย่างที่มี ซื้อจักรยานปั่น 9,600 กม. มาหารักแท้ ได้ครองรักกันนาน 40 ปี!!
‘คุณเชื่อในรักแท้หรือไม่?’ อาจเป็นคำถามที่หลายๆ คนเคยได้ยิน และแต่ละคนก็คงมีคำตอบอยู่แล้วในใจ เช่นเดียวกับเรื่องราวความรักของสองคนนี้ที่แม้ตัวจะอยู่ห่างกันคนละซีกโลก แต่สุดท้ายด้วยพลังแห่งความรัก ทั้งคู่ก็ได้มาเจอกันและครองรักกันมาจนถึงทุกวันนี้ได้ Pradyumma Kumar Mahanandia เป็นหนุ่มชาวอินเดีย เขาเกิดในหมู่บ้านอันห่างไกลความเจริญในปี 1949 ชะตาชีวิตของเขาถูกพยากรณ์เอาไว้ว่าจะได้แต่งงานกับหญิงสาวที่เป็นนักดนตรี และเจ้าของสวนต้นไม้ เกิดราศีพฤษก อาศัยอยู่ในประเทศที่อยู่แสนไกล “ผมเชื่อในคำพยากรณ์นั้น ทุกอย่างบนโลกใบนี้ได้ถูกกำหนดเอาไว้แล้ว” Kumar กล่าว เรื่องราวความรักของทั้งสองเริ่มต้นขึ้นเมื่อ 40 ปีก่อน ในวันที่ 17 ธันวาคม ปี 1975 ตอนนั้น Kumar เป็นศิลปินข้างถนน เขาได้พบกับสาวแสนสวยคนหนึ่ง มีผมสีบลอนด์ ดวงตาสีฟ้า ชื่อว่า Charlotte Von Schedvin เธอมาขอให้เขาช่วยวาดภาพเหมือนให้ “ตอนที่เธอเดินมาหาผม ผมรู้สึกตัวเบามาก ตาของเธอเป็นสีฟ้า กลมโต ตอนจ้องไปในตาของเธอมันรู้สึกเหมือนกับว่าผมถูกมองลึกเข้าไปข้างในถึงจิตวิญญาณ เหมือนกับเครื่อง X-ray เลยทีเดียว” …
-
เพื่อความรักที่แท้ทรู… หนุ่มอินเดียปั่นจักรยานข้ามทวีปเพื่อไปหาสาวคู่ชีวิตกว่า 3,500 กม.
มีคนเขาว่ากันว่า เพื่อรักแท้แล้ว มนุษย์ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มา ซึ่งก็น่าจะจริงตามที่ว่ากันไว้เพราะความรักเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถออกแบบมันได้ เราไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร เพราะฉะนั้นหากคิดว่าเจอกับรักแท้แล้วจึงต้องพยายามอย่างที่สุดเพื่อไขว่คว้ามันมา เหมือนอย่างเรื่องของชายคนนี้ ที่ได้ปั่นจักรยานข้ามทวีปเพื่อเดินทางไปหาหญิงอันเป็นที่รัก ซึ่งไม่ว่าลำบากลำบนขนาดไหน เขาก็ไม่คิดที่จะย่อท้อ นี่สิรักแท้ที่แท้ทรู ชายคนนี้ชื่อว่า PK Mahanandia ชายผู้โชคร้ายเกิดมาภายในวรรณะจัณฑาลในประเทศอินเดีย ตัวตนของเขาเป็นเหมือนกับสิ่งที่ไม่สมควรมีอยู่ ถูกรังเกียจ เหยียดหยามและกดขี่ ที่แม้แต่จะเข้าห้องเรียนยังทำไม่ได้ เขาเล่าว่าตัวของเขามีฐานะต่ำกว่าหมาและวัวอีกด้วยซ้ำ เวลาที่เขาไปใกล้กับวัดผู้คนก็จะกว้างก้อนหินใส่เขา เวลาที่เขาจากจะเรียนรู้อะไรต่างๆ ก็ทำได้แค่นั่งฟังอยู่นอกห้องเรียนเท่านั้น จนกระทั่งวันหนึ่ง จากการมาของผู้เยี่ยมชมโรงเรียน มันได้เปลี่ยนชีวิตเขาไปตลอดกาล นั่นคือมีเด็กสาวชาวยุโรปพร้อมกับผู้ตรวจสอบโรงเรียนชาวอังกฤษมาเยี่ยมโรงเรียน ผู้ตรวจสอบมอบพวงมาลัยให้กับเด็กสาว แต่แทนที่เด็กสาวจะนำพวงมาลัยคล้องคอตัวเอง เธอกลับนำมันไปให้กับ Mahanandia พร้อมยังลูบหัวและบอกอีกว่า “ผมหยิกของเธอน่ารักดีนะ” แน่นอนว่า Mahanandia มีความสุขมากและก็เป็นเวลาเดียวกับที่น้ำตาไหล มันเหมือนกับเสียงสว่างเพียงนิดเดียวที่ส่องเข้ามาในชีวิตอันมืดมน เขารีบกลับบ้านไปบอกแม่ว่าเขาตกหลุมรักผู้หญิงผิวขาว อะไรก็ตามที่เธอบอกกับเขาในวันนั้นมันจะอยู่กับเขาตลอดไป เมื่อได้ยินดังนั้น แม่ของเขาจึงได้ทำนายชะตากรรมจากลายมือของเขาและได้ผลว่าเขาจะได้แต่งงานกับผู้หญิงผิวขาว มาจากแผ่นดินไกล ซึ่งเธอจะมีราศีพฤษภ มีความเกี่ยวข้องกับเสียงดนตรีและเป็นเจ้าของป่าอีกด้วย ต่อมาในปี 1975 Mahanandia ได้กลายเป็นนักเรียนศิลปะ แต่ด้วยฐานะยากจนทำให้เขาต้องนอนหลับตามตู้โทรศัพท์ ป้ายรถเมล์เป็นส่วนมาก…
-
จริงหรือไม่? จุมพิตจากเจ้าชายสามารถช่วยสโนว์ไวท์ได้หรือ? มาวิเคราะห์กันเถอะ
สำหรับใครหลายๆ คนนั้น ชีวิตเจ้าหญิงดิสนีย์ที่ได้แต่งงานกับเจ้าชายรูปงามก็คงเป็นความฝันที่มีมาตั้งแต่เด็กๆ แต่สำหรับใครบางคนนั้น (รวมไปถึง #เหมียวฝึกหัด) การได้ทำลายความฝันในวัยเด็กถือว่าเป็นเรื่องที่สนุกมากเลยทีเดียว อุว่ะฮ่าฮ่าฮร่า.. (หัวเราะอย่างชั่วร้าย) และเรื่องที่เราจะมาพูดถึงในวันนี้ก็คือการ์ตูนอนิเมชันที่เก่าแก่ที่สุดของทางดิสนีย์อย่างเรื่อง Snow White and the Seven Dwarfs ที่ฉายครั้งแรกเมื่อปี 1937 เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับหญิงสาวที่ถูกวางยาพิษด้วยแอปเปิลต้องสาป ทำให้กลายเป็นเจ้าหญิงนิทราเป็นเวลานาน จนกระทั่งคำสาปนั้นถูกทำลายโดยการจุมพิตจากเจ้าชาย ซึ่งคำถามที่น่าสนใจในเรื่องนี้ก็คือ เป็นไปได้ไหมที่จะทำยาพิษที่ออกฤทธิ์ในลักษณะเดียวกันกับที่เราเห็นในการ์ตูน? และ การจุมพิตนั้นสามารถช่วยให้คำสาปจากยาพิษหายไปได้อย่างไร? อย่างที่เราได้เห็นในการ์ตูนก็พบว่ายาพิษนั้นได้เคลือบอยู่ที่ผิวของแอปเปิล เมื่อสโนว์ไวท์กัดเข้าไป เธอก็พูดออกมาว่ารู้สึกแปลกๆ และหลังจากนั้นเธอก็ล้มลงไปและเข้าสู่อาการโคม่า ซึ่งก็ไม่ได้บอกอาการที่แน่ชัดมากมายนัก ทำให้ยากที่จะวินิจฉัยยาพิษที่ใช้ได้ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นไปไม่ได้ . จากการวิเคราะห์ระยะเวลาว่าสโนว์ไวท์หมดสติเร็วขนาดไหน ยาพิษผู้ต้องสงสัยตัวแรกก็คือ Cyanide ซึ่งเป็นสารพิษที่เข้มข้นมาก หากใช้เพียงแค่ขนาดเท่ายาพาราครึ่งเม็ดก็สามารถฆ่าคนที่มีน้ำหนัก 90 กิโลกรัมได้สบายๆ เป็นยาพิษยอดนิยมสำหรับเหล่าสายลับในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยปกติแล้วสาร Cyanide สามารถพบได้ทั่วไปตามธรรมชาติ อย่างเช่นในเม็ดถั่วอัลมอนด์ หรือในเมล็ดของแอปเปิล แต่การที่จะสกัดสาร Cyanide ออกมานั้นจะต้องใช้กระบวนการทางเคมี ซึ่งในยุคของสโนว์ไวท์เป็นยุคก่อนที่จะมีกระแสไฟฟ้าใช้เสียอีก…
-
สาวโพสต์ครบรอบ 3 ปี คบกับแฟนหนุ่มที่ป่วยเป็น ‘มะเร็งตา’ ยังรักเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยนแปลง
เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2018 ผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อว่า Atittaya Chumkeaw ได้โพสต์ภาพที่ทำให้หลายๆ คนถึงกับต้องหลั่งน้ำตาและอิ่มเอมหัวใจไปในเวลาเดียวกัน เธอได้โพสต์ภาพรูปของตัวเองถ่ายคู่กับแฟนหนุ่มที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งตา จนทำให้ใบหน้าบวมออกมาอย่างชัดเจน โพสต์ดังกล่าวของเธอ เด็กหนุ่มผู้ป่วยเป็นโรคร้ายคนนี้มีชื่อว่า โชคชัย คงแก้ว ชื่อเล่นว่า โพ วัย 21 ปี ก่อนหน้านี้เขาได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ว่าป่วยเป็นโรคมะเร็งตาและมันจะทำให้เขามีชีวิตอยู่ต่อไปได้อีกไม่นาน จากเด็กหนุ่มที่ร่าเริงสดใสในวัยเรียนกลับต้องเจอกับสถานการณ์ที่พลิกทุกอย่างในชีวิตให้กลับตาลปัตร ตอนแรกที่ป่วย เขายังสามารถที่จะมองเห็นได้ปกติ เพียงแต่มีอาการเจ็บเล็กน้อยจึงตัดสินใจเข้ารับการรักษา ภาพจากตอนที่เขาเข้ารับการรักษาในช่วงแรก แต่พอเวลาผ่านไปอาการของเขาก็มีแต่จะแย่ลงเรื่อยๆ มะเร็งลามไปทั่วใบหน้า เขาแทบจะอ้าปากไม่ได้เลยซักนิด แทบจะไม่ได้ยินสิ่งใด และไม่สามารถมองเห็นได้อีกแล้ว การรักษาที่แพทย์บอกว่าพอจะมีความเป็นไปได้ก็คือการฉายแสง ซึ่งมีความเป็นไปได้ทั้งทำให้เด็กหนุ่มมีอาการที่ดีขึ้นหรือไม่อย่างนั้นเขาอาจต้องจากโลกนี้ไปเลย ความเป็นไปได้ของทั้งสองกรณีมีเท่าๆ กัน แต่ที่แน่ๆ คือถ้าปล่อยไว้แบบนี้ แพทย์บอกว่าเขาจะมีอายุอยู่ได้แค่ 6 เดือนเท่านั้น เด็กหนุ่มจึงตัดสินใจปฏิเสธการรักษาตามแบบแผนปัจจุบัน และกลับมาพักฟื้นอยู่ที่บ้านของตัวเองในอำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา ในขณะที่พ่อแม่ของเขาช่วยดูแลอยู่ไม่ห่าง พ่อแม่ที่คอยดูแลเขาอยู่ไม่ห่าง แม้คำพูดของหมอจะบอกว่าเด็กหนุ่มจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้อีกไม่นาน แต่ด้วยแรงกายแรงใจ…
-
หนุ่มญี่ปุ่นรอว่าที่เจ้าสาวป่วยโคม่ากว่า 8 ปี ในที่สุดเธอก็ตื่นมาราวปาฏิหาริย์ และได้แต่งงานกัน
ในโลกนี้มีคู่รักหลายคู่ที่ต้องพรากจากกันไปด้วยโรคร้าย ในหลายกรณีก็ไม่ได้ถึงกับตายจากกันไปเสียทีเดียว แต่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งก็นอนเป็นเจ้าชายหรือเจ้าหญิงนิทราไม่สามารถพูดคุยกันต่อไปได้ ชายญี่ปุ่นคนนี้ได้พิสูจน์แล้วว่าความรักของเขานั้นเป็นสิ่งที่มั่นคง ด้วยการรอคอยแฟนสาวที่นอนโคม่าอยู่นานถึง 8 ปีเต็ม ฟ้าคงจะเห็นถึงความรักแท้จริงของชายหนุ่มจึงได้สร้างปาฏิหาริย์ให้หญิงสาวหายดีดังเดิม จนในที่สุดทั้งคู่ได้แต่งงานกันตามที่ตั้งใจไว้ Nashiji Hisashi และแฟนสาว Makahara Mai Nakashiji Hisashi และ Nakahara Mai รู้จักกันเมื่อปี 2005 พวกเขาคบกันในฐานะคู่รักและรักกันดีเรื่อยมา พอคบกันได้ 2 ปีทั้งคู่ก็มั่นใจแล้วว่านี่แหละคือคู่ชีวิตของตัวเอง จึงได้วางแผนแต่งงานในเดือนมีนาคม 2007 ทว่า 3 เดือนก่อนงานแต่ง Mai ก็เริ่มมีอาการเจ็บป่วยอย่างรุนแรง แฟนหนุ่มจึงพาเธอไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลทันที แต่รักษาตัวได้เพียงแค่ 3 วันอาการของเธอก็ทรุดหนักอย่างเห็นได้ชัด หลังจากนั้นเธอก็เกิดอาการหัวใจวาย ทางโรงพยาบาลรีบส่งตัวเธอไปรักษายังโรงพยาบาลใหญ่อีกแห่งทันที แม้ว่าแพทย์จะช่วยชีวิตของเธอเอาไว้ได้ แต่เธอก็กลายเป็นเจ้าหญิงนิทราไป แม้ว่าหญิงสาวจะไม่สามารถขยับร่างกายได้แล้ว มันก็ไม่ได้มีผลต่อความรักของชายหนุ่มที่มีต่อเธอเลยแม้แต่น้อย เขายังคงเข้ามาเยี่ยมเธอทุกวัน วันละ 3 ชั่วโมงก่อนไปทำงาน และก็ใช้เวลาทั้งวันหยุดอยู่เป็นกำลังใจให้เธอด้วย…
-
แม่เจ้าสาวขุดรูปเก่าขึ้นมา ก่อนที่จะรู้ว่าลูกเขยนั้น เคยมีอดีตแสนสุขร่วมกับลูกสาวเธอมาก่อนแล้ว…
คู่รักบางคู่ไม่ได้รอให้พรหมลิขิตมาช่วยกำหนดให้พวกเขาเจอกัน ฝ่ายชายอาจจะต้องทุ่มเทแรงกายแรงใจจนสามารถมัดใจฝ่ายหญิงเอาไว้ได้ในที่สุด เรียกว่าเป็นความรักจากน้ำพักน้ำแรงล้วนๆ แต่สำหรับ Heidi และ Ed Savitt คงต้องบอกว่าเป็นพรหมลิขิตจริงๆ เพราะนอกจากจะรู้สึกถูกใจกันตั้งแต่แรกพบแล้ว ทั้งคู่ยังเคยพบและมีใจให้กันในวัยเด็กด้วยแม้จะจำไม่ได้เลยก็ตาม บอกได้เต็มปากเลยว่าคู่กันแล้วย่อมไม่แคล้วกันจริงๆ Heidi และ Ed Savitt หนุ่มและสาวคู่นี้พบกันครั้งแรกเมื่อปี 2011 การพบกันของทั้งคู่นั้นช่างเหมือนกับฟ้าลิขิตเลย ในตอนนั้นหนุ่ม Ed เพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านพักของมหาวิทยาลัยนิวคาสเซิลในประเทศอังกฤษ แต่เขาไม่รู้วิธีใช้เครื่องปั่นผ้าในนั้นจึงจะขอคำปรึกษาจากคนที่เคยอยู่ที่นั่นมาก่อน พอลองค้นหารายชื่อคนที่เคยอยู่ดูก็บังเอิญไปเจอชื่อ Heidi เข้าพอดีเขาจึงขอให้เธอมาช่วยสอนใช้เครื่องปั่นผ้าเสียเลย เมื่อทั้งคู่เจอกันก็ตกหลุมรักกันในทันที เหมือนกับว่าทั้งคู่รู้จักกันมานานแล้วอย่างไรอย่างนั้น จึงเริ่มทำความรู้จักและตัดสินใจคบกันในเวลาไม่นาน คบกัน 4 ปีแล้วแต่ยังรักไม่เปลี่ยนแปลง พอคบกันมาได้ 4 ปีทั้งคู่ก็ยังคงรักกันหวานชื่นอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง ก็เลยตัดสินใจว่าถึงเวลาที่ควรจะพาคู่ของตัวเองไปแนะนำให้ครอบครัวได้รู้จักสักที ทั้งคู่จึงนัดครอบครัวของแต่ละฝ่ายมาทานอาหารเย็นด้วยกันที่ร้านอาหารในกรุงลอนดอน เมื่อทั้งสองครอบครัวได้เจอหน้ากัน Fiona คุณแม่ของฝ่ายชายและ Kay คุณแม่ของฝ่ายหญิงก็รู้สึกว่าทั้งคู่ชอบอะไรหลายๆ อย่างเหมือนกัน ทั้งชอบไปล่องเรือ ชอบไปท่องเที่ยว ดูเหมือนทั้งคู่จะเข้าขากันได้ดีทีเดียว เราพาครอบครัวไปรู้จักกันดีกว่าเนอะ จะได้สานสัมพันธ์กันให้มากขึ้น พวกเธอแลกเปลี่ยนเรื่องราวของครอบครัวตัวเองให้อีกฝ่ายฟัง จน Kay เล่าเรื่องในอดีตเมื่อครั้งที่…
-
หนุ่มแสดงความรักมั่น ขอสาวผู้ป่วยมะเร็งเต้านมแต่งงานในโรงพยาบาล ก่อนเธอเสียชีวิต
โรคมะเร็งเป็นโรคร้ายชนิดหนึ่ง ผู้ป่วยเป็นโรคมะเร็งจะมีการแบ่งเซลล์ผิดปกติ จนเกิดเป็นเนื้องอกร้ายในร่างกาย และอาจลุกลามไปยังส่วนต่างๆ จึงถือว่าเป็นโรคที่น่ากลัวที่สุดโรคหนึ่ง ที่พรากชีวิตคนจำนวนไม่น้อยไปจากโลกใบนี้ หากป่วยเป็นมะเร็งระยะร้ายแรงแล้ว ผู้ป่วยมักจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นานนัก แต่ถ้าได้รับกำลังใจที่ดีพอ อาจจะเป็นแรงผลักดันให้ผู้ป่วยมีชีวิตรอดได้นานราวกับปาฏิหาริย์ก็ได้ เจ้าบ่าวและเจ้าสาวคู่นี้ อาจจะเป็นตัวอย่างที่ดีของเหตุการณ์ดังกล่าว David และ Heather Mosher เจ้าสาว Heather Mosher ป่วยเป็นโรคมะเร็งเต้านมชนิดทริปเปิ้ลเนกาทีฟ แต่เธอมีชีวิตรอดได้ยาวนานกว่าที่หมอคาดการณ์ไว้ เนื่องจากเธอได้รับกำลังใจอันล้นหลามจากคนรัก David Mosher ทั้งคู่พบกันในชั้นเรียนสวิงแดนซ์เมื่อเดือนพฤษภาคม 2015 หลังจากนั้นทั้งสองก็หลงรักกันหัวปักหัวปำ กลายเป็นคู่รักที่ตัวติดกันตลอดเวลาเลยทีเดียว ดังที่ David เล่าว่า “หลังจากเราพบกันแล้ว ก็เหมือนว่าเราแยกจากกันไม่ได้เลย” แต่เรื่องราวรักหวานชื่นของทั้งคู่ก็ดำเนินมาได้ไม่นาน เพราะเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2016 แพทย์ก็ได้แจ้งข่าวร้ายกับพวกเขาว่า แฟนสาวป่วยเป็นโรคมะเร็งเต้านม ถึงแม้จะรู้ว่าแฟนสาวป่วยเป็นโรคมะเร็ง แต่ชายหนุ่มก็ไม่คิดจะปล่อยให้เธอต่อสู้กับโรคนี้เพียงลำพัง เขาตัดสินใจขอหมั้นเธอในวันเดียวกันที่เธอรู้ข่าวว่าเป็นมะเร็งเลย เขาเล่าว่า “เธอไม่รู้มาก่อนว่าผมจะขอหมั้นคืนนั้น แต่ผมอยากให้เธอรู้ว่า เธอจะไม่ต้องต่อสู้กับโรคนี้คนเดียว” จากนั้นเขาจึงขอเธอแต่งงานอย่างโรแมนติกบนรถม้าดังที่ชายหนุ่มเล่าว่า “ผมจัดเตรียมรถม้าไว้สำหรับเราสองคนแล้ว ในคืนนั้นระหว่างที่เรากำลังนั่งรถม้าไปในถนนที่มีเพียงแสงไฟ ผมก็ขอเธอหมั้นทันทีเลย” ทว่าข่าวร้ายเรื่องโรคมะเร็งเต้านมยังไม่จบสิ้น ห้าวันหลังจากเขาขอเธอหมั้นแล้ว…
-
สาวโพสต์ขอบคุณแฟนหนุ่ม ที่อยู่ข้างกันเสมอแม้เธอจะอ้วน และจะเคียงข้างเธอตลอดไป
Lexi สาวพลัสไซส์ผู้ที่เคยมีน้ำหนักมากกว่า 219 กิโลกรัมได้ออกมาเปิดเผยชีวิตเรื่องราวความรักของเธอกับชายที่ชื่อว่า Danny คนที่รักเธอมากที่สุดในโลกไม่ว่าเธอจะเป็นแบบไหนก็ตาม ทั้งคู่คบหาดูใจกันมานานและได้เข้าพิธีวิวาห์เมื่อเดือนตุลาคม ปี 2015 ทั้งคู่ได้วางแผนที่จะมีลูกน้อยคนหนึ่งแต่ก็ต้องล้มเลิกโครงการไปเพราะว่าเนื่องจากร่างกายนั้นอ้วนเกินไปจนอาจจะทำให้เด็กเป็นอันตรายได้ การใช้ชีวิตช่วงแรกๆ Lexi เธอชื่นชอบอาหารจานด่วนและไม่ค่อยจะชอบออกกำลังกายเนื่องจากว่าเธอคุ้นชินกับความสะดวกสบายและขาดแรงจูงใจในการลดน้ำหนัก ก็เลยปล่อยให้ตัวเองอ้วนขึ้นๆ ด้วยการกินอาหารที่ไม่มีประโยชน์เหล่านั้นซึ่งมันทำให้ร่างกายของเธอแย่ลงๆ แต่พอเริ่มมาใช้ชีวิตคู่เธอก็เริ่มตระหนักได้ว่าเธอจะต้องเริ่มดูแลสุขภาพเพื่อที่จะได้มีอีกหนึ่งชีวิตมาเติมเต็มสิ่งที่ขาดหายให้กับเธอและสามี เธอจึงได้เริ่มหันกลับมาดูแลตัวเองโดยได้ฤกษ์เริ่มต้นในวันแรกของปี 2016 เธอได้บันทึกรูปภาพและวิธีการการลดน้ำหนักของเธอลงในอินตาแกรมที่ใช้ชื่อว่า Fatgirlfedup ที่มีผู้ติดตามมากกว่า 477,000 คน และยังกลายเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้ติดตามได้หันมาดูแลสุขภาพแบบง่ายๆ ไปพร้อมกับเธอ วิธีการดูแลสุขภาพของเธอคือการเปลี่ยนพฤติกรรมการกินจากอาหารจานด่วนมาเป็นผักและโปรตีนจากเนื้อสัตว์ ควบคุมปริมาณคาร์โบไฮเดรต อีกทั้งออกกำลังกายแบบเบาๆ แบบค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป เธอได้บอกว่าเธออยากจะขอบคุณสามีของเธอที่คอยอยู่เคียงข้างกันเสมอ เขาคอยออกกำลังกายเป็นเพื่อนเธออยู่ตลอด การลดน้ำหนักทำให้ความสัมพันธ์ของเธอกับสามีแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ทั้งนี้ที่คู่สองต่อสู้ก็เพื่อลูกน้อยที่พวกเขารอคอย “ไม่มีเป้าหมายไหนที่มันจะเป็นไปไม่ได้ เราไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง แต่จะทำเพื่อชีวิตที่จะเจริญเติบโตไปด้วยกัน โชคดีที่มีคู่ชีวิตที่คอยจะซัพพอร์ตทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตไม่ว่าจะใหญ่หรือเล็ก สิ่งนี้ช่วยให้ความสัมพันธ์ของเราดียิ่งขึ้นและน่าสนใจ มันทำให้เราได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น ฉันอยากจะขอบคุณที่เขาอยู่เคียงข้างฉันมาตลอด” Lexi โพสต์บนอินสตาแกรม …
-
คู่รักเมกัน-ปินส์ ห่างไกลกว่า 12,800 กิโล นัดเจอกันครึ่งทางตลอด 3 ปี ในที่สุดก็ลงเอยซักที
เคยได้ยินเค้าพูดกันว่า “รักแท้แพ้ระยะทาง” มันก็อาจจะจริงสำหรับบางคู่นะ แต่ก็มีอีกหลายคู่เหมือนกันที่ระยะไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อของความรักของพวกเขา เหมือนกับ Rob และ Joli ที่อยู่ห่างไกลกันกว่า 12,800 กิโลเมตร แต่ด้วยพลังแห่งรัก ทำให้พวกเขาหากันจนเจอในที่สุด โดยมีเบื้องหลังของความรักที่น่าสนใจมากๆ มิลาน ประเทศอิตาลี Rob อยู่ในอเมริกา ส่วน Joli มาจากประเทศฟิลิปปินส์ ทั้งคู่เป็นคนที่รักการเดินทาง และพวกเขาก็เจอกันครั้งแรกตอนเดินทางนี่แหละ การเจอกันครั้งแรก แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่ทั้งคู่ก็มีความรู้สึกดีๆ ให้กัน และหลังจากที่แยกย้ายกัน พวกเขาก็คุยกันผ่านเฟซบุ๊กมาตลอด อุทยานแห่งชาติ Joshua Tree National Park รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา การคุยกันสม่ำเสมอ ทำให้ความสัมพันธ์ของ Rob กับ Joli พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุดพวกเขาจึงตัดสินใจที่จะนัดพบกันอีกครั้ง ด้วยความที่พวกเขาอยู่ไกลกันและรักการเดินทางเหมือนกัน Rob กับ Joli จึงตกลงที่จะมาเจอกันครึ่งทางในประเทศต่างๆ ทั่วโลก ช็อกโกแลตฮิลส์ เกาะโบฮอล ประเทศฟิลิปปินส์ ในช่วงที่ได้มาเจอกัน เป็นช่วงเวลาที่มีแต่ความสุข พวกเขาจะใช้เวลาอยู่ด้วยกันให้นานที่สุด ที่สำคัญคือทั้งคู่จะถ่ายรูปจูบกันท่ามกลางสถานที่ท่องเที่ยวเสมอ…
-
สาวโยนลูกบอลเขียนข้อความลงไปทะเลหวังหารักแท้ จน 6 ปีต่อมามีคนทักมาหาจริงๆ!!
คุณผู้อ่านเชื่อเรื่องพรหมลิขิตหรือไม่ แล้วเคยคาดหวังไหมว่าวันหนึ่งจะได้เจอกับรักที่แท้จริงในสักวัน แค่คิดก็ฟินแล้วววว (เอ้า ตื่นได้แล้ว!!) เชื่อว่าตอนนี้หลายๆ คนก็กำลังตามหาความรักกันอยู่ ต่างคนต่างก็มีวิธีที่แตกต่างกันไป บางคนอาจจะตามหารักแท้ในโลกออนไลน์ หรือบางคนอาจจะคิดว่ารักแท้นั้นอาจจะเป็นเพื่อนใกล้ตัวที่ไม่ต้องเสียเวลาไปตามหา แต่ผู้หญิงที่ชื่อว่า Hayley Robbins ได้ใช้วิธีการหารักแท้แบบที่เราเคยคิดกันตอนเด็กๆ ซึ่งมันก็ไม่น่าเชื่อว่าสิ่งที่เธอทำในอดีต จะส่งผลบางอย่างในอีก 6 ปีต่อมา เมื่อ Hayley อายุได้ 12 ขวบเธอได้เดินทางไปเที่ยวกับครอบครัวที่ชายหาด Myrtle Beach ในรัฐเซาท์โคโรไลน่า ประเทศสหรัฐอเมริกา เธอมีความคิดที่จะเขียนข้อความใส่ขวดและลอยลงไปในทะเลเผื่อว่าจะมีผู้พบเห็นในวันหนึ่ง แต่ว่าเธอกลับไม่สามารถหาขวดได้ในเวลานั้น เธอเลยตัดสินใจใช้สิ่งของใกล้ตัวอย่างลูกซอฟต์บอลเล็กๆ แทน โดยเธอเขียนข้อความ ชื่อ และเบอร์โทรของเธอลงไปในลูกบอลลูกนั้น แล้วโยนมันลงไปในทะเล 6 ปีต่อมา จากเด็กหญิง Hayley ก็กลายมาเป็นสาวอายุ 18 ปีที่จัดว่าสวยมากๆ คนหนึ่ง และเธอได้มาเผยแพร่เรื่องราวของเธอที่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นในทวิตเตอร์ส่วนตัวของเธอว่า เมื่อประมาณหนึ่งสัปดาห์ก่อนเธอได้รับข้อความจากคนคนหนึ่งด้วยข้อความที่ว่า ฉันอยากเป็นซูเปอร์ฮีโร่ ซึ่งก็ทำเอาสาว Hayley เกิดอาการงงเล็กน้อย คนแปลกหน้าก็เริ่มทักทายเธอในข้อความต่อมาว่าเขาชื่อ Adam…
-
25 ภาพคู่รักจากวันนั้นจนถึงวันนี้ก็ยังอยู่เคียงข้างกันเหมือนเดิม แสดงให้เห็นว่ารักแท้มีอยู่จริง
เชื่อมั้ยว่าในโลกนี้จะมีคนอยู่คนหนึ่งที่ทำให้เราใจเต้นแรงตลอดเวลา ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน และเขาคือคนที่เราอยากใช้ชีวิตด้วยตลอดชีวิต เหมือนกับคู่รักเหล่านี้ที่ครองรักกันมาอย่างยาวนาน แม้ต้องเจอความลำบาก อุปสรรคมากมายแค่ไหนแต่พวกเขาก็ไม่เคยปล่อยมือจากกัน นั่นแหละคือรักแท้ที่หลายคนใฝ่หา 1. หญิงสาวที่รอดจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์และทหารที่ช่วยชีวิตเธอเอา ใช้ชีวิตร่วมกันมากกว่า 70 ปี 2. คู่รักเกย์ที่โดนดูถูกว่าเป็นแค่ความลุ่มหลงชั่วคราว แต่จนถึงตอนนี้พวกเขารักกันมา 25 ปีแล้ว 3. คู่รักที่อยู่บนปกอัลบั้ม The Woodstock(เทศกาลดนตรี) ยังคงอยู่ด้วยกันแม้จะผ่านมาแล้วถึง 46 ปี 4. หนุ่มที่หมายปองเพื่อนสาวตั้งแต่เด็ก ในที่สุดก็ได้แต่งงานกันจริงๆ 5. พ่อแม่ที่แต่งงานกันมา 60 ปีแล้ว แต่รักยังหวานชื่นอยู่เสมอ 6. คู่รักที่จัดงานแต่งขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากอยู่ด้วยกันมาถึง 70 ปี 7. คู่รักเลสเบี้ยนที่คบกันตั้งแต่ปี 1970 ในที่สุดพวกเขาก็ได้แต่งงานกันในวันครบรอบ 44 ปี 8. เพื่อนสาวที่เคยเต้นรำด้วยสมัยเด็กๆ วันนี้เธอกลายเป็นเจ้าสาวในชีวิตจริงของเขา 9.…
-
รวมภาพของ 12 คู่รัก ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ที่เผยให้เห็นว่าความรักนิรันดร์มีอยู่จริง
คุณยังจำครั้งแรกที่ตกหลุมรักคนรักของคุณที่ีอยู่ข้างๆ ตอนนี้ได้ไหม? ความรู้สึกตอนนั้นมันอาจจะเลือนลางลงไปแล้ว แต่สิ่งที่ยังคงเพิ่มขึ้นทุกวันคือความรักและความผูกพันที่คอยเชื่อมต่อให้ความสัมพันธ์ของคนสองคนแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น คงจะดีถ้าหากคนรักที่อยู่ข้างๆ คุณตอนนี้เป็นรักแท้ที่จะคอยอยู่เคียงคู่กันไปตลอดกาล ส่วนคนที่ยังโสดก็ขอให้เจอรักแท้ในเร็ววัน เอาเป็นว่าเรามาดูรูปภาพแห่งรักแท้กันดีกว่า เผื่อว่าสักวันเราจะมีแบบนี้บ้าง… คู่รักสมัยวัยรุ่น และอีก 40 ปีต่อมา คุณปู่คุณย่า 58 ปีที่แล้วและปัจจุบัน ความสัมพันธ์ 28 ปี ดูความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นสิ พ่อแม่ในปี 1983 และปี 2013 70 ปี ที่ Milton Esteves และ Elza Falcone แต่งงานกัน 10 ปีที่เปลี่ยนจากเพื่อนร่วมชั้นกลายมาเป็นคู่ชีวิต 28 ปีของการแต่งงาน ทั้งคู่ยังรักกันเหมือนวันแรกไม่มีผิด 10 ปีที่แล้วผู้ชายคนนี้ได้ขอผู้หญิงคนนึงเป็นแฟน จนกระทั่งทั่งคู่กลายมาเป็นสามีภรรยากันในปัจจุบัน สามีภรรยาชวนกันถ่ายรูปเหมือนวันแรกที่เจอกัน งานพรอม 9 ปีที่แล้ว…
-
หญิงคนหนึ่งรอคอยกว่า 40 ปี เพื่อจะได้แต่งงานกับคนรัก หลังถูกคุณพ่อกีดกันในวัยรุ่น
เชื่อว่าใครหลายๆ คนต่างก็ต้องมีคนที่เรารักแบบสุดหัวใจ แต่ด้วยเหตุผลบางประการที่ทำให้ความรักไม่สมหวัง ทำให้ความรักครั้งนั้นต้องจบลง แต่คนคนนั้นก็ยังคงวนเวียนอยู่ในหัวใจของเราอยู่ตลอดเวลา ขึ้นชื่อว่าความรัก ก็ต้องมีทั้งสมหวังและผิดหวัง อยู่ที่ว่าเราจะมีความอดทนและรอคอยให้โชคชะตานำพามาพบกันอีกครั้งหรือเปล่า Madeleine Coburn และ Bill Brookman เข้าพิธีวิวาห์หลังจากที่รอคอยกันมาถึง 40 ปี ท่ามกลางความยินดีของแขกที่มาร่วมงานกว่า 300 คน ที่มาร่วมเป็นสักขีพยานกับความรักสุดทรหดของทั้งคู่ เรื่องราวของทั้งคู่เริ่มต้นในเมือง Loughborough ประเทศอังกฤษ เมื่อปี 1978 นาย Bill หนุ่มหล่อวัย 23 ปี ได้พบรักกับ Madeleine อายุ 16 ปีที่โรงเรียนมัธยม เขาจึงรวบรวมความกล้าแล้วชวนแม่สาวน้อยไปเดท ซึ่งเธอได้ตอบตกลง Bill Brookman Madeleine Coburn แต่พอถึงเวลานัด Madeleine ไม่ได้ไปตามนัด เพราะว่าพ่อของเธอไม่อนุญาตให้ไปเดท เพราะว่าดูท่าทางเจ้าหนุ่ม Bill จะดูเจ้าชู้ไม่ใช่น้อย ทั้งสองได้นัดเดทกันหลายต่อหลายครั้ง แต่คุณพ่อของฝ่ายหญิงก็ไม่เป็นใจ จนเขาต้องยอมแพ้และถอยออกมาอยู่ห่างๆ …
-
คุณตาที่มักจะไปนั่งทานข้าวกับ ‘รูปถ่าย’ ของภรรยาที่จากไป รักแท้มันช่างงดงามเหลือเกิน
เรื่องราวนี้เริ่มต้นจากทั้งสองพบกันเมื่อปี 1948 ในตอนนั้นคุณตา Clarence Purvis นั้นอายุ 24 ปี ในขณะที่ภรรยาของเขาอายุเพียงแค่ 16 ปีเท่านั้น และถึงแม้ว่าจะมีอายุต่างกันมากถึง 8 ปี แต่ทั้งสองก็สามารถใช้ชีวิตคู่ร่วมกันได้ และอยู่ด้วยกันมานานถึง 60 ปี ทั้งสองชอบทานอาหารที่ร้าน Smith’s Restaurant ที่บ้านเกิดของพวกเขาในรัฐจอร์เจียอย่างมาก และถึงแม้ว่าภรรยาของคุณตาจะจากไปตั้งแต่เมื่อ 3 ปีที่แล้ว แต่ทุกวันนี้คุณ Clarence ก็ยังคงมาทานอาหารเที่ยงที่ร้านนี้พร้อมกับรูปภาพของภรรยาอยู่เป็นประจำ “เธอยังคงอยู่กับผมตลอดเวลาที่ผมยังมีชีวิตอยู่ และตอนนี้เธอก็ยังคงอยู่ข้างๆ ผม” ชายวัย 93 ปีกล่าว คุณตานั่งทานอาหารโดยมีภาพของภรรยาเขาอยู่ตรงด้านข้าง กรอบภาพแบบตั้งโต๊ะของเธอนั้นช่วยทำให้เขารู้สึกว่าเธอยังคงอยู่กับเขาตลอดเวลา คุณยาย Carolyn Purvis นั้นจากไปเมื่อช่วงเดือนตุลาคมในปี 2013 แต่ถึงแม้ว่าเธอจะจากคุณตาไปแต่สามีของเธอก็ยังคงไม่ลืมเธอ ในทุกๆ วันคุณ Clarence จะเดินทางไปเยี่ยมหลุมศพของเธอวันละ 4 ครั้ง ซึ่งถือเป็นหนึ่งในกิจวัตรประจำวันของเขา ถึงแม้จะมีหลายคนที่แนะนำให้คุณตาหาเพื่อนไว้ดูแลและช่วยให้คลายเหงาสักคน แต่ชายชรากลับปฏิเสธ และเขาก็ยังคงคิดถึงภรรยาอยู่ และความรักอย่างซื่อสัตย์ของเขานั้นก็เป็นสิ่งหนึ่งที่เขายอมมอบให้ภรรยาสุดที่รักของเขาอย่างเต็มใจ ภาพถ่ายที่ได้รับการดูแลอย่างดีจากสามีของเธอ ชมเรื่องราวความรักของคุณตาเพิ่มเติมได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย… …
-
ยิ่งกว่ารักแท้… หนุ่มขอเพื่อนสาวที่เคยชอบสมัยมัธยมแต่งงาน แม้เธอจะเสียโฉมไปแล้วก็ตาม
อีกหนึ่งเรื่องราวที่อาจพูดได้ว่า เป็นความรักอันบริสุทธิ์ที่ไม่ได้มีเรื่องของรูปพรรณภายนอกเข้ามาเกี่ยวข้องเลยแม้แต่น้อย หากแต่มันคือความรักที่เกิดจากความเป็นห่วง และความอยากดูแลเอาใจใส่… โดยทั้งหมดนี้คือเรื่องราวความรักสุดซึ้งของอดีตเพื่อนสมัยมัธยมชาวอินเดียระหว่าง Jayaprakash และ Sunitha ที่แม้ว่ากาลเวลาจะผ่านไป แต่ความทรงจำดีๆ ยังคอยย้ำเตือนให้เค้าอยู่ดูแลเธอมาเสมอ Jayaprakash เล่าว่า ครั้งแรกสุดที่เขาได้รู้จักกับ Sunitha ก็เมื่อปี 2004 ซึ่งในตอนนั้นทั้งคู่มีโอกาสได้ร่วมเรียนชั้นเดียวกัน และวินาทีแรกที่ได้สบตากับฝ่ายหญิง เขาก็รู้สึกได้ทันทีว่านี่อาจเป็นรักแท้ที่เฝ้าตามหา “ผมยังจำวันแรกที่เธอเป็นนักเรียนใหม่ย้ายเข้ามาได้.. ผมไม่สามารถหยุดมองเธอได้เลย จากนั้นเวลาก็ทำให้เราทั้งสองคนเป็นเพื่อนกัน แต่หัวใจผมก็รู้สึกเจ็บปวดทุกครั้งที่เห็นเธอไปกับเพื่อนผู้ชายคนอื่นในตอนนั้น วันหนึ่งผมก็ได้ตัดสินใจที่จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเธออีก” นับจากวันที่เรียนจบ พวกเขาทั้งคู่ก็ไม่ได้พบกันอีกเลย.. กระทั่งวันหนึ่ง Sunitha ก็ได้ติดต่อมาหาฝ่ายชาย ทั้งสองพูดคุยถามไถ่สารทุกข์สุขดิบซึ่งกันและกัน และนั่นก็ทำให้ Jayaprakash รู้สึกตกหลุมรักเธออีกครั้ง ในเดือนพฤศจิกายน ปี 2011 ฝ่ายชายได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนเก่าและได้รู้ว่า Sunitha ประสบอุบัติเหตุจากรถยนต์ อาการบาดเจ็บของเธออยู่ในขั้นสาหัสถึงขั้นทำให้หน้าตาของเธอเสียโฉม “ครั้งแรกที่ผมไปเยี่ยมเธอที่โรงพยาบาล ผมเห็นภาพของผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่มีเส้นผม ไม่มีจมูก ไม่มีปาก ไม่มีฟัน เหมือนคนอายุ 90 ได้ ตอนนั้นผมตกใจและช็อคมาก” จากนั้นความรู้สึกบางอย่างก็ได้บันดาลขึ้นมาจากก้นบึ้งจิตใจของฝ่ายชาย..…
-
สาวเหยื่อถูก “น้ำกรด” สาดจนเสียโฉม พบรักแท้ อยู่กับชายผู้รับทุกอย่างที่เป็นเธอได้
เชื่อว่ารักแท้คงเปรียบได้ดั่งความฝันของใครหลายคน เพราะท้ายที่สุดแล้วในชีวิตเราต่างก็อยากจะมีใครซักคนที่คอยดูแลซึ่งกันและกัน แม้แต่ Turia Pitt วัย 30 ปี เอง ก็เคยเชื่อว่าครั้งหนึ่งเธอได้เจอกับรักที่ดี กระทั่งวันหนึ่งเธอกลับถูกน้ำกรดสาดจนเสียโฉมทั้งใบหน้า ซึ่งในตอนนั้นเธอก็แทบจะไม่เชื่อตัวเองว่า จะมีโอกาสได้รับความรักจากคนอื่นอีกครั้ง Turia Pitt 6 ปีก่อนเธอต้องประสบปัญหาจากการถูกน้ำกรดสาด ทำให้ผิวหนังกว่า 65% ของเธอเต็มไปด้วยบาดแผลพุพอง และเธอก็มักจะถ่ายภาพตัวเองลงอินสตาแกรม เพื่อทำให้โลกได้รู้ว่า เธอไม่เคยมีความสุขกับสิ่งที่ตัวเองต้องเผชิญ “ลึกๆ แล้วมันเป็นเรื่องที่เราพยายามจะลืมมัน ถึงแม้มันจะผ่านมา 6 ปีแล้วก็ตาม แต่ทุกความรู้สึกและความทรงจำแห่งความเจ็บปวดยังคงอยู่ในใจเราเสมอ” เรื่องราวของเธอก็ได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้สาวๆ ทั่วโลก หลังจากที่เธอประกาศพบชายผู้เป็นรักแท้ เธอแทบไม่เชื่อมาก่อนว่าเธอจะมีโอกาสได้เจอรักแท้ และได้พบกับชายผู้มีหัวใจที่อยากจะดูแลเอาใจใส่เธอจริงๆ ซึ่งหลังจากที่เธอแต่งงานกับ Michael Hoskin ทั้งคู่ก็ได้มีทายาทตัวน้อยถือกำเนิดขึ้นมาในท้องคุณแม่ “มันเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากมาก เราสูญเสียทุกอย่างทั้งความเป็นตัวเองและสภาพจิตใจ แต่ขอฝากสาวๆ ทุกคนว่า เราจงอย่าได้เอาตัวเองไปจมอยู่กับอะไรที่มันแย่ และอย่าสูญสิ้นความหวังให้กับอนาคต” ทันทีที่คุณแม่มือใหม่โพสต์ภาพลูกน้อย เรื่องราวของเธอก็ได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้หญิงสาวอีกหลายคนที่กำลังถูกกดขี่อยู่ ตอนนี้ทั้ง Turia และ Michael…
-
คุณตาคุณยายที่รักกันนานกว่า 77 ปี สิ้นใจพร้อมกัน แถมยังถูกฝังในโลงเดียวกันด้วย…
คู่สามีภรรยาชาวรัฐมิซซูรี ผู้สร้างตำนานรักอมตะแต่งงานกันมา 77 ปี ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันจนถึงวันสุดท้าย และตลอดไป… เรื่องราวความรักของ คุณยาย Velva Breuer และ คุณตา Raymond เริ่มตั้งแต่คุณตาศึกษาอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนใน Dawson Township ด้วยความไร้เดียงสา Raymond ผลัก Velva ติดกับเตาผิงและไม่รู้ว่ามันร้อน จนทำให้เธอมีแผลเป็นมาตลอดชีวิต แต่หลังจากนั้นมาคุณตาก็ตกหลุมรักคุณยายและคอยตามจีบเธออยุ่เรื่อยมา จนกระทั่งคุณตาและคุณยายได้แต่งงานกันในปี 1940 มีลูกทั้งหมด 6 คน คุณตาและคุณยาย อยู่เคียงข้างกันมาตลอด 77 ปี ถึงแม้ว่าจะต้องเปลี่ยนที่อยู่บ่อยเนื่องจากการทำงานของ Raymond เขาทำงานให้บริษัทรถยนต์และมีหน้าที่ซึ่งต้องย้ายไปทั่วประเทศ แต่ทั้งคู่ไม่เคยทิ้งกันเลย หลังจากที่เกษียณในปี 1978 คุณตาก็อุทิศตัวเองให้กับการเผยแพร่ศาสนาและการศึกษาพระคัมภีร์ ถึงจะอยู่ด้วยกันมานานแต่ก็มีทะเลาะกันตลอดเรื่องคุณยายชอบแต่งหน้าก่อนนอน แม้จะรักกันเพียงใด แต่สุดท้ายพวกเขาก็หนีสิ่งที่เรียกว่าความตายไม่พ้น ด้วยอายุที่มากขึ้นทำให้โรคภัยเริ่มถามหา คุณตาป่วยหนักและคุณยายก็เช่นเดียวกัน ทั้งสองเข้าโรงพยาบาลด้วยกันทั้งคู่ จนกระทั่งวาระสุดท้ายของชีวิตมาถึง คุณตา Raymond เสียชีวิตในวันที่ 4 สิงหาคม ซึ่งอีก 30 ชั่วโมงต่อมาคุณยาย Velva…
-
ชายผู้หนุ่มเป็น “เนื้องอกในสมอง” แม้พูดไม่ได้ แต่ก็ตั้งใจขอแฟนแต่งงาน เพื่อคนที่เขารัก
หนึ่งในความฝันสูงสุดของชีวิตคนเรานั่นก็คือ การแต่งงาน การมีครอบครัวและลูกๆ ซึ่ง Sam Hensman ก็เป็นอีกหนึ่งคนที่คิดแบบนั้นเช่นกัน เพียงแต่ว่าโชคชะตากลับไม่เข้าข้างสักเท่าไหร่นั่นเอง Sam เป็นชายหนุ่มวัย 25 ปี ซึ่งเขาอยากจะแต่งงานกับแฟนสาวของเขา แต่ว่าเขาต้องต่อสู้กับโรคร้ายตั้งแต่อายุ 23 ปี ซึ่งแพทย์วินิจฉัยว่าเขาป่วยเป็นโรคเนื้องอกในสมอง ซึ่งมันร้ายแรงมากๆ และยังส่งผลให้เขาไม่สามารถพูดได้ แต่ถึงอย่างนั้นรักแท้ก็ยังมีอยู่จริง เพราะแม้ Tess Delony แฟนสาวของเขาจะรู้ว่า Sam ป่วย เธอก็ยังคงไม่ทิ้งเขาไปไหนและอยู่ข้างกายเขาตลอดเวลากว่า 10 เดือนที่เขาอยู่ในโรงพยาบาล และเมื่อไม่นานมานี้เขาก็ได้ตัดสินใจครั้งยิ่งใหญ่ เมื่อเขาส่งยิ้มให้แม่ของแฟนสาวที่เฝ้าอยู่ข้างกาย แน่นอนว่าเหมือนเธอจะรู้ว่าเขาต้องการอะไร คุณแม่จึงหยิบแหวนเพรชออกมาให้กับลูกสาว วินาทีนั้นเธอรู้ทันทีว่าเขาต้องการอะไร เพราะเขาไม่สามารถจะพูดว่าแต่งงานกับผมนะได้ แต่เธอก็พอจะรู้ว่าเขาต้องการแต่งงานกับเธอ ซึ่งมันแสดงออกมาผ่านรอยยิ้มบนสีหน้าของเขา แน่นอนว่า Tess ตอบตกลงคำขอของ Sam เธอตัดสินใจเปิดกล่องแหวนพร้อมสวมทันที พร้อมกับสวมกอดกันและกัน พร้อมกับน้ำตาแห่งความยินดีที่ไหลรินออกมา สุดท้ายแล้วแม้ตัว Sam ยังไม่สามารถพูดได้ แต่เวลาผ่านไปเขาค่อยๆ ดีขึ้นตามระยะและทำกายภาพบำบัดจนตอนนี้เขาสามารถเดินได้บ้างแล้ว แต่สุดท้ายเขาก็ยังพูดไม่ได้อยู่ดี แต่เชื่อเถอะว่าการมีคนรักข้างกายแบบนี้…
-
หญิงสาวผู้มีความผิดปกติบนใบหน้า ได้พบรักแท้อีกครั้ง หลังทนกับการดูถูกมาแสนนาน…
เรื่องความผิดปกติของรูปร่าง หลายครั้งทำให้เกิดเป็นปมด้อยและถูกกีดกันจากสังคม คนที่มีร่างกายผิดปกติมักจะถูกรังแกและล้อเลียนอยู่บ่อยๆ เหมือนเช่น Sophia Walker หญิงสาววัย 22 ปี ผู้ที่มีใบหน้าผิดปกติ แต่ถึงแม้จะถูกล้อและรังแกยังไง แต่ก็ยังมีคนที่มองเห็นความดีและตกหลุมรักเธออยู่นะ…วันนี้ #เหมียวเวจจี้ ได้นำเรื่องราวความรักของเธอมาฝากกัน จะสุดแสนโรแมนติกส์ขนาดไหน เป็นเวลากว่าครึ่งชีวิตของ Sophia Walker หญิงสาววัย 22 ปีผู้ที่มักจะถูกเพื่อนแกล้ง เธอต้องอดทนต่อคำดูถูกเหยีดหยามจากความผิดปกติของใบหน้าเธอ ซึ่งเป็นผลมาจากการทำงานที่ผิดพลาดของระบบประสาทส่วนกลางทำให้เกิดเนื้องอกที่บริเวณใบหน้าเธอ แต่เมื่อไม่นานมานี้เธอได้พบรักกับเพื่อนเก่าของเธอ Christian Dibden ชายหนุ่มวัย 22 ปี ที่เรียนคณะเดียวกับเธอ Sophia Walker และแฟนหนุ่มของเธอ เธอบอกว่า “หลังจาที่โดนดูถูกอย่างมากและเจอประสบการณ์เดทที่ไม่ค่อยดี ฉันไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะเจอผู้ชายดีๆ กับเค้าบ้าง” “ผู้ชายที่ฉันเคยคบมักจะไม่พาฉันออกไปพบปะกับใคร และเขามักจะทำให้ฉันอับอาย แต่วันนี้ฉันได้พบกับใครคนหนึ่ง ที่ทำให้ฉันรู้สึกว่าฉันมีคุณค่า และรักที่ฉันเป็นตัวของตัวเอง” Sophia Walker กล่าว ปัจจุบันทั้งคู่คบกันมา 5 เดือนแล้ว เขาทั้งสองเคยพบกันก่อนหน้านี้แล้วเมื่อตอน อายุ 16 ปีแต่ต้องแยกกันตอนเรียนมหาวิทยาลัย แต่เมื่อเดือนกันยาที่แล้วทั้งคู่ก็ได้พบกันอีกและรื้อฟื้นความหลังเกี่ยวกับความสัมพันธ์เมื่ออดีต Christian Dibden แฟนหนุ่มผู้ที่เข้ามาเติมเต็มความมั่นใจให้กับเธออีกครั้ง …
-
8 สามีคนดังตัวอย่าง ที่ครองรักกับภรรยามาอย่างเนิ่นนาน ทั้งๆ ที่หลายคู่คบกันได้แค่ชั่วคราว
เราอาจเห็นเหล่าดาราที่มีชื่อเสียงหลายคนต้องประสบความล้มเหลวในชีวิตคู่ จนต้องหย่ากันหลังจากแต่งงานได้ไม่นาน แต่ละคู่ก็อาจมีเหตุผลในการแยกทางต่างกันออกไป บางคนอาจเรื่องงาน บางคนอาจเรื่องชู้สาว หรืออาจเป็นเรื่องของทัศนคติที่ไม่ตรงกัน แต่ถึงกระนั้น ก็ยังมีดาราอีกหลายคู่ที่ครองรักกันอย่างยาวนาน โดยไม่มีสิ่งใดมาพรากพวกเขาจากกันได้ อย่างเช่น 8 คู่รักดาราที่เรานำมาให้ชมวันนี้ รับรองว่าเพื่อนๆ จะรู้ทันทีว่า รักแท้ยังมีอยู่จริงบนโลก Denzel และ Paulette Washington พระเอกหนุ่มนักบู๊คนนี้แต่งงานกับภรรยามาแล้วกว่า 33 ปี พวกเขาต้องผ่านอุปสรรค์และความยากลำบากมากมาย แต่ความรักของพวกเขาก็ยังมั่นคงไม่เปลี่ยนแปลง ซึ่งทาง Paulette กล่าวว่า “ความรักไม่ได้หมายถึงเซ็กส์หรือความหลงไหลเท่านั้น แต่มันหมายถึงว่าคุณจะเป็นอย่างไร หากคุณเจอเรื่องราวยากลำบากต่างหาก” Goldie Hawn และ Kurt Russell นับตั้งแต่แสดงด้วยกันในหนังเรื่อง Swing Shift เมื่อปี 1983 พวกเขาก็อยู่ด้วยกันมาตลอดและยังรักกันเหมือนเดิม “พวกเราไม่ได้แต่งงานกัน เราไม่ได้สนใจขนบธรรมเนียมอะไรเท่าไหร่ แต่เราแค่เคารพซึ่งกันและกัน ทำให้ตลอด 33 ปีที่ผ่านมา มีเพียง 2 เปอร์เซ็นเท่านั้นที่แย่ ส่วนที่เหลือน่ะ มีแค่ความสุขเท่านั้น” Kurt กล่าว Oprah…
-
คุณตาทุ่มเททั้งชีวิต เพื่อดูแลภรรยาผู้เป็นอัมพาตตลอด 56 ปี เพราะรักแท้ยังมีอยู่จริง…
รักแท้นั้น แม้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน ต่อให้ต้องเจออุปสรรคอีกมากมาย แต่คนสองก็จะไม่ทิ้งกันไปไหน อีกทั้งพวกเขาก็พร้อมที่จะฝ่าฟันมันไปด้วยกันเสมอ เช่นเดียวกับคุณตาท่านนี้ที่คอยดูแลภรรยามาตลอด 56 ปี แม้ว่าเธอจะป่วยเป็นอัมพาตก็ตาม แต่คุณตาก็ยังดูแลเป็นอย่างดีและยังรักเธอเหมือนเดิมเสมอ ไม่มีน้อยลงไปเลย คุณตา Du Yuanfa เป็นชาวนาจากประเทศจีน มีภรรยาชื่อ Zhou Yu’ai ทั้งคู่แต่งงานกันในปี 1959 แต่หลังแต่งงานเพียง 5 เดือน พวกเขาก็ต้องเจอกันชะตากรรมอันโหดร้าย เพราะภรรยาป่วยด้วยโรคแปลกๆ ในวัย 20 ปี ส่งผลให้เธอกลายเป็นอัมพาตตั้งแต่นั้นมา ในขณะที่ Du กำลังทำงานอยู่ในเหมืองถ่านหิน ที่อยู่เมืองใกล้เคียงกัน Du ได้รับข่าวร้ายนี้เมื่อครอบครัวได้เขียนจดหมายถึงเขา เกี่ยวกับอาการของภรรยา และตอนนี้เธอต้องนอนอยู่บนเตียงตลอดเวลา ที่สำคัญคือไม่สามารถดูแลตัวเองได้เลย เขาตกใจมาก จึงตัดสินใจลางานและกลับบ้านทันที เพราะอาการป่วยของ Zhou หนักมาก เธอไม่สามารถถือจับอะไรได้เลย และไม่มีแพทย์คนไหนที่รักษาได้ด้วย สถานการณ์เช่นนี้ เพื่อนๆ ของ Du ต่างก็แนะนำให้หย่ากับภรรยาแล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่ซะ!! แต่เขาไม่ทำเช่นนั้น และยังได้บอกกับภรรยาอีกว่า “ไม่ต้องห่วงนะ ผมจะดูแลคุณตลอดไป” ซึ่งเขาก็รักษาคำพูดเสมอมา …
-
เส้นทางนักสู้ของ Conor McGregor ที่ไม่ได้มาด้วยโชคชะตา แต่มาด้วยใจที่มุ่งมั่น!!
เมื่อกล่าวถึงสังเวียนการต่อสู้ที่เรียกได้ว่าเข้มข้น และมันถึงพริกถึงขิงของเหล่านักสู้แล้วก็คงไม่มีใครที่ไม่รู้จักกับสังเวียน UFC อย่างแน่นอน เพราะในสังเวียนแห่งนี้เป็นสถานที่ที่นักสู้ทุกคนสามารถใช้ศิลปะการต่อสู้ชนิดใดแบบใดก็ได้เข้ามาใช้เพื่อเอาชนะคู่ต่อสู้อีกฝั่ง ทั้งหมัด มวย การปล้ำ การล็อค ศอก เข่า ลูกเตะ หัวโหม่ง ทุกอย่างนี้ล้วนแล้วแต่สามารถนำมาใช้บนสังเวียนได้ทั้งสิ้น และในวันนี้ #เหมียวหง่าว ก็มีเรื่องราวของคนที่ได้ชื่อว่ายืนอยู่บนจุดสูงสุดของสังเวียนนี้มาเล่าให้เพื่อนๆ ฟัง Conor McGregor หรือ “The Notorious” เพิ่งจะได้เป็นนักสู้คนแรกและคนเดียวที่ได้ครองเข็มขัดแชมป์ถึงสองเส้นในของสังเวียน UFC ในรุ่น Feather Weight และ รุ่น Welterweight แต่กว่าที่เขาจะมาถึงจุดนี้ได้นั้น ขอบอกว่ามันไม่ง่ายเลย…Conor McGregor เกิดเมื่อปี 1988 ที่เมือง Dublin ประเทศ Ireland โดยก่อนหน้าที่เขาจะมีความชื่นชอบในเรื่องของศิลปะการต่อสู้ เขาเคยเป็นนักฟุตบอลมาก่อน (แถมยังเป็นแฟนตัวยงของผีแดงแมนยูฯ อีกด้วยนะ) Conor เป็นเด็กที่เกเร พลังเยอะ ชื่นชอบความรุนแรง ชอบคิดถึงแต่เรื่องต่อสู้ ใจร้อนกว่าวัยรุ่นทั่วๆ ไปจึงทำให้เขามีปัญหาเกี่ยวกับการจัดการกับอารมณ์ของตัวเอง ใช้ความรุนแรงในการแก้ไขปัญหามาโดยตลอด จึงทำให้เขามีความสนใจเกี่ยวกับเรื่องชกต่อยเป็นพิเศษ…
-
คู่รักชะตาลิขิต พบกันตอนป่วยเป็นโรคปอดเรื้อรัง พร้อมที่จะฝ่าฟันอุปสรรคไปด้วยกันจนถึงที่สุด
เชื่อว่าหลายคนคงเคยชมภาพยนตร์เรื่อง Fault in Our Stars ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับความรักของพระเอกนางเอกที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งกันมาแล้ว ซึ่งทั้งคู่ก็พร้อมที่จะฝ่าฟันอุปสรรคและต่อสู้ไปด้วยกันจนถึงวินาทีสุดท้าย แต่ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเรื่องราวสุดเศร้าจากภาพยนตร์ จะบังเอิญไปเกิดขึ้นในชีวิตจริงของ Katie และ Dalton Prager คู่รักที่พบกันขณะที่ต่อสู้กับโรคปอดเรื้อรัง แต่ถึงกระนั้น พวกเขาก็พร้อมที่จะฝ่าฟันอุปสรรคไปด้วยกันจนถึงที่สุด เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2559 ทางเว็บไซต์ Dailymail ได้เผยเรื่องราวความรักที่น่าเศร้าของพวกเขา โดย Katie ในวัย 26 ปี ได้เข้ารักษาตัวอยู่ที่ศูนย์ดูแลผู้ป่วยในรัฐเคนทักกี หลังจากที่เธอได้รับการปลูกถ่ายปอด แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ ด้านแพทย์ได้ออกมาเผยว่า ไม่มีทางใดที่จะสามารถรักษาเธอได้อีกแล้ว ฝ่าย Dalton ชายหนุ่มวัย 25 ปี ก็พยายามต่อสู้กับโรคปวดบวมที่เป็นอยู่อย่างเต็มที่ เพื่อที่เขาจะได้มาอยู่ใกล้ๆ กับภรรยา แต่ทว่าสุขภาพร่างกายกลับแย่ลงเรื่อยๆ และนั่นก็ทำให้เขาไม่สามารถออกจากโรงพยาบาลเพื่อมาอยู่เขียงข้างกับภรรยาสาวได้ สำหรับเรื่องราวความรักของทั้งคู่เกิดขึ้นหลังจากที่ Katie ได้ยินเรื่องราวของ Dalton และเธอก็พร้อมที่จะช่วยเหลือเขา อีกทั้งยังได้ส่งข้อความไปหา…
-
‘รักแท้มีอยู่จริง’ แมวหนุ่มย่องบนกำแพง เต็มไปด้วยหนามยางแหลม เพื่อไปหาหวานใจ
หากว่าความรักเป็นเรื่องที่ยากเกินกว่าจะเข้าใจ รักเค้าแต่เค้าไม่รักตอบ หรือ มีคนมารักแต่ก็ดันไม่ชอบเค้าไปซะได้นี่ เอ้อ กลายเป็นว่ามาตัดพ้อน้อยใจ ‘เมื่อไหร่จะเจอรักแท้ หรือว่ามันไม่มีอยู่จริง’ อะไรปานนั้น ฮร่าาาา แต่ก็อย่างว่าแหละเพราะเรายังไม่เจอคนที่ใช่ ถ้าเจอเมื่อไหร่ต่อให้ระหว่างทางรักนั้นอันตรายแค่ไหน มีอุปสรรคยังไง ก็จะฝ่าไปหาให้ได้ อย่างเช่นภาพการไปหาหวานใจของเจ้าแมวหนุ่มตัวนี้แหละ เฮ้ย!! ระวังนะไอ้หนุ่ม หนามยางแหลมเปี๊ยบอยู่บนกำแพงเพียบเลยนะนั่น อ่าห์!! ลงได้แล้ว ย่องไปเรื่อยๆ ไม่กลัวหนามยางแหลมแม้แต่นิดเดียว อ๊ะ!! ถึงแล้ว ว่าไงจ๊ะ ที่รัก คิดถึงจังเลย (มาหาสาวข้างบ้านนี่เอง) เอ็งกล้าหาญมากเจ้าแมวหนุ่ม ต่อให้อันตรายแค่ไหนก็ฝ่าไปเพื่อหาหวานใจให้ได้ นี่สินะที่เค้าเรียกว่า ‘รักแท้’ แต่ #เหมียวเลเซอร์ ยังหาไม่เจอเลย เสียใจจจจจจจจ T^T ที่มา : brightside, designyoutrust
-
โลกออนไลน์แชร์ภาพคุณตาพาคุณยายใส่ล้อเข็นไปโรงพยาบาล 4-5 กิโลเมตร วอนคนเมตตาช่วยเหลือหน่อย
ความรักที่ดี ไม่ใช่ความรักที่มีพรั่งพร้อมไปทุกอย่าง แต่อาจจะเป็นความรักที่คนสองคนอยู่เคียงคู่กันไปจนวันสุดท้ายของชีวิตแบบเรื่องที่เหมียวจะเล่าต่อไปนี้ก็ได้นะ เรื่องราวต่อไปนี้ถูกเผยแพร่ผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อว่า Lalana Kanviseth เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 29 มกราคมที่ผ่านมา เป็นเรื่องราวของคุณตา จำปา องอาจ ที่พาคุณยายใส่ล้อเข็นเพื่อพาไปยังโรงพยาบาลที่ไกลออกไปกว่า 4-5 กิโลเมตร แต่ในระหว่างที่คุณตากำลังเข็นรถไฟยังโรงพยาบาล ก็มีหญิงสาวขับรถผ่านมาพอดี จึงจอดรถและลงมาสอบถามคุณตาว่าจะเดินทางไปไหน ถึงได้ทราบว่าคุณตากำลังจะพาคุณยายที่ป่วยไปโรงพยาบาล หนำซ้ำสายตาของคุณตาก็แย่มากแล้ว เธอจึงให้คุณตาและคุณยายติดรถไปโรงพยาบาลเธอด้วย อ่านโพสต์เต็มๆ ได้ที่ด้านล่างเลย วันนี้มาทำงานแถวนี้ขับจะไปดูงานบังเอิญเจอตากะยายคู่แท้ดูแลกันดีค่ะกำลังไปหาหมอยายป่วยมากตาเข็นมาไกลตั้ง4-5กิโลเมตรเลยช่ว… Posted by Lalana Kanviseth on 28 มกราคม 2016 ความรักของคุณตาและคุณยายช่างยิ่งใหญ่เหลือเกิน หวังว่าจะมีคนใจดีช่วยเหลือพวกเขามั่งนะ ที่มา Lalana Kanviseth
-
15 คู่รักคนดังระดับโลก ที่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมานานหลายสิบปี จนพิสูจน์ให้เห็นว่า ‘รักแท้มีอยู่จริง’
บนเส้นทางแห่งชีวิตคู่ของบรรดาเซเลปคนดัง เราจะเห็นได้ว่ามีหลายต่อหลายคู่ที่คบกันแล้วเลิกรากันไป แต่ก็ยังมีอีกหลายคู่ที่รักกัน และแต่งงานใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันมาเป็นเวลานานหลายสิบปี เหมือนดังเช่น 15 คู่รักเซเลปคนดังระดังโลกเหล่านี้ ที่สามารถพิสูจน์ให้เราได้เห็นว่า ‘รักแท้มีอยู่จริง’ เพราะแต่ละคู่นั้นสามารถรักษาความรักของพวกเขาให้ยาวนาน บางคู่ก็อยู่ด้วยกันมากว่า 20 ปีกันเลยทีเดียว เราไปดูกันดีกว่าว่าจะมีใครกันบ้าง 1.Adriano Celentano และ Claudia Mori ใชีชีวิตด้วยกันมานานกว่า 51 ปี 2.Keith Richards และ Patti Hansen ใช้ชีวิตด้วยกันมานานกว่า 37 ปี 3.Ozzy Osbourne และ Sharon Osbourne ใช้ชีวิตด้วยกันมานานกว่า 37 ปี 4.Samuel L. Jackson และ LaTanya Richardson ใช้ชีวิตด้วยกันมานานกว่า 36 ปี 5.Sting และ Trudie…
-
ชายพิการดูแลภรรยาอัมพาตเพียงลำพังมานานกว่า 11 ปี ด้านชาวเน็ตแห่ซาบซึ้งในพลังแห่งรักแท้
เรื่องราวของชายชราชาวจีนขาพิการ กับภรรยาอัมพาตครึ่งท่อนล่าง ดูเหมือนจะทำให้ชาวเน็ตจากประเทศจีนซาบซึ้งใจในรักแท้ของทั้งคู่กันเป็นแถว เพราะเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2558 ทางสำนักข่าวต่างประเทศ ได้เปิดเผยเรื่องราวของ Sheng Bingzhi ชายชราขาพิการวัย 72 ปี จากมณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน ที่ได้ดูแลเอาใจใส่ภรรยา Xu Biqiu ที่ป่วยอัมพาตครึ่งท่อนล่างด้วยตัวคนเดียวมาตลอด โดยสาเหตุที่ทำให้นาย Sheng ต้องพิการสูญเสียขาขวาไปนั้น ก็เพราะว่าเขาเคยประสบอุบัติเหตุในโรงงานเมื่อเขาอายุได้เพียง 17 ปียังไงละเหมียว และเมื่อเขาได้มาพบรักกับนาง Xu ทั้งคู่ก็ได้แต่งงาน และอยู่กินกันมาเป็นเวลากว่า 30 ปี ก่อนที่ฝ่ายภรรยาจะโชคร้ายถูกรถชน จนทำให้เป็นอัมพาตครึ่งท่อนล่าง หลังจากที่ภรรยาถูกรถชนจนเป็นอัมพาต ฝ่ายสามีผู้ที่ไม่เคยยอมแพ้ต่อโชคชะตา ก็ไม่ได้ทิ้งภรรยาไปไหน เพราะความรักที่เขามีต่อเธอ ทำให้เขาดูแลเอาใจใส่ภรรยาเป็นอย่างดี เพื่อเป็นการตอบแทนความรักนาง Xu มีให้เขามาโดยตลอด ด้านชาวเน็ตจีนเมื่อได้ทราบเรื่องราวของทั้งคู่ ต่างก็พากันซาบซึ้งในรักแท้กันอย่างมากมาย แถมยังมีชาวเน็ตบางรายเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าช่วยเหลือนาย Sheng และภรรยา…