Tag: ราชินี
-
เรื่องราวของลูกสาวคนที่ 10 ที่ ‘พระราชินีวิกตอเรีย’ ทรงรับมาเลี้ยง และเธอเป็นคนผิวสี..
หลายคนอาจเคยได้ยินชื่อ สมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรีย อดีตราชินีแห่งสหราชอาณาจักร ผู้ได้รับฉายาว่า “สมเด็จย่าแห่งยุโรป” นั่นคือสิ่งที่เราเคยได้ยินมาบ้าง แต่เราเคยทราบกันมั้ยว่าพระองค์ทรงรับเลี้ยงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งเป็นลูกบุญธรรม และเด็กคนนั้นก็ยังเป็นเด็กผิวสีอีกด้วย เรื่องราวนี้เริ่มต้นขึ้นในปี 1848 เมื่อตอนที่ Sarah Forbes Bonetta อายุได้เพียง 5 ขวบ เธอเป็นทาสชาวไนจีเรียที่ถูกราชาแห่งประเทศ Dahomey จับกุมพร้อมกับครอบครัวของเธอ Sarah หญิงสาวผู้ที่ได้รับการเลี้ยงดูจากราชินีวิกตอเรีย สมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรีย อดีตราชินีแห่งสหราชอาณาจักร พ่อแม่ของเด็กสาวถูกฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยม และในขณะที่เธอกำลังจะจากโลกนี้ตามพวกเขาไป ทหารเรือชาวอังกฤษ Frederick Forbes ผู้กำลังทำภารกิจเลิกทาสในประเทศดังกล่าว ได้ยื่นมือเข้าช่วยเหลือเด็กสาวได้ทันเวลาพอดี ทหารหนุ่มตั้งใจที่จะส่งเด็กสาวไปให้ราชินีวิกตอเรีย เพื่อให้พระองค์ทรงรับเลี้ยงต่อไป เขาจึงพา Sarah เดินทางกลับประเทศอังกฤษ ด้วยเรือที่ชื่อว่า HMS Bonetta นั่นจึงกลายเป็นชื่อของเธอในภายหลัง เมื่อองค์ราชินีได้เจอกับเด็กสาวก็รู้สึกถูกชะตาอย่างมาก เธอได้กลายเป็นลูกคนที่ 10 ของพระองค์ และได้รับการเลี้ยงดูไม่ต่างกับพี่น้องคนอื่นๆ เลย เนื่องจากสภาพร่างกายที่อ่อนแอมาตั้งแต่เด็ก Sarah จึงถูกส่งไปเรียนในประเทศเซียร์ราลีโอน เพราะองค์ราชินีทรงคิดว่าสภาพอากาศของที่นั่นน่าจะเหมาะกับเธอมากกว่า และเมื่อเรียนจบเด็กสาวก็กลับมาประเทศอังกฤษอีกครั้งในปี…
-
ชมภาพถ่ายของ “เจ้าหญิงดิสนีย์” ในยามที่พวกเธอกลายเป็น “ราชินี” ที่แม้แก่ตัวแต่ยังสง่างาม
ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เราจะเห็นได้ว่าโลกอินเตอร์เน็ตมักจะเต็มไปด้วยเรื่องราวของเจ้าหญิงดิสนีย์ ไม่ว่าจะเป็น การถูกศิลปินเปลี่ยนให้กลายเป็นตัวการ์ตูนอนิเมชั่นสุดน่ารัก หรือถูกจับแต่งตัวให้อยู่ในยุคสมัยปัจจุบัน และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งผลงานที่น่าสนใจ เมื่อ Tony Ross ช่างภาพ และ Nephi Garcia หรือ “Design Daddy” สไตล์ลิสต์ออกแบบเครื่องแต่งกาย ได้ร่วมมือกันสร้างสรรค์ภาคต่อของเจ้าหญิงดิสนีย์ โดยต้องการแสดงให้เห็นว่าหากพวกเธอแก่ตัวไปกลายเป็นราชินี จะมีรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร? งานนี้ทั้งคู่จึงได้ทำการออกแบบชุดให้กับเหล่าเจ้าหญิงขึ้นมาใหม่ พร้อมแต่งเติมรายละเอียดให้ดูมีความเป็นราชินีผู้ยิ่งใหญ่ลงไป โดยแต่ละชุดล้วนได้รับแรงบันดาลใจมาจากชุดเดิมของเจ้าหญิงทั้งหมด และเพื่อให้ได้ความสมจริง พร้อมกับแสดงให้เห็นถึงพัฒนาการของตัวละคร ดังนั้นพวกเขาจึงได้ใช้นางแบบถึง 2 รุ่นที่เป็นแม่ลูกกันมาถ่ายแบบในครั้งนี้อีกด้วย “ฉันอยากแสดงให้เห็นว่าเจ้าหญิงไม่ได้แต่งตัวสวยงามและอยู่ในวัยสาวเพียงอย่างเดียว เพราะพวกเธอแต่ละคนก็มีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ ฉันต้องการทำให้โลกได้เห็นว่าพวกเธอเป็นอิสระ และโตเป็นผู้ใหญ่” Nephi กล่าว นางแบบแต่ละคนที่ได้เข้ามาร่วมการถ่ายภาพชุดนี้ ล้วนแต่เป็นแม่ลูกกันทั้งนั้น เว้นแต่สโนว์ไวท์ที่ได้ให้แม่สามีของเธอมาเป็นแบบ . ทางด้าน Tony ได้ออกมาเผยว่า “เรามองหาเพื่อน คนรู้จัก และคนในครอบครัวที่สนใจอยากจะมารับบทเป็นเจ้าหญิงแต่ละคนอย่างจริงจัง เพื่อให้ได้ผลงานที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด ทั้งยังเป็นการแสดงความสัมพันธ์ระหว่างคนในครอบครัวอีกด้วย เป้าหมายหลักของโครงการนี้ไม่เพียงแต่เป็นการสร้างความสัมพันธ์ของแม่ลูกเท่านั้น แต่ทุกคนในครอบครัวของพวกเขาก็มักจะชื่นชมเวลาที่ได้อยู่ด้วยกันในแบบที่ไม่เคยทำมาก่อน” …
-
หนุ่มอเมริกัน อ้างว่าเป็นผู้มีสิทธิ์ “ครองบัลลังก์แห่งอังกฤษ” และกำลังมาทวงตำแหน่งคืน!?
กลายเป็นข่าวใหญ่โต (ในทางเฮฮาเล็กน้อย) ของประเทศอังกฤษเลยทีเดียว เพราะเมื่อไม่นานมานี้ได้มีชายปริศนาชาวอเมริกันรายหนึ่งออกมาอ้างว่าตนเองนั้นมีสิทธิ์ขึ้นครองบัลลังก์ของอังกฤษได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย!? เมื่อวันที่ 2 มีนาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Metro ได้รายงานว่านาย Allan. V. Evans แห่งรัฐโคโรลาโด ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ออกมาบอกว่าเขานั้นมีสิทธิ์โดยชอบธรรมที่จะขึ้นครองบัลลังก์แทนควีน อลิสซาเบธองค์ปัจจุบัน นาย Evans ได้ซื้อโฆษณาบนหนังสือพิมพ์ The Times เพื่อเขียนจดหมายอธิบายความจริงต่างๆ และแสดงตนให้ทุกๆ คนรับรู้ว่าเขาต้องการอะไร ในโฆษณาที่เขาอุตส่าห์ลงทุนซื้อดังกล่าว ได้เปิดเผยความลับว่าตัวเองมีสิทธิ์ตั้งแต่กำเนิดที่จะขึ้นครองบัลลังก์หลังจากที่ควีนอลิสซาเบธได้เสียชีวิตลง ในฐานะลูกหลานของสายการปกครองดั้งเดิมที่เกิดขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 3 ในสหราชอาณาจักรและได้ลงทะเบียนใน Royal College of Arms เขาได้ให้คำชี้แจงทางกฎหมายเพื่อเรียกร้องมรดกทางประวัติศาสตร์ของเขาคืน แต่แล้วความอดทนของ Evans ที่รอให้ควีนอลิสซาเบธสวรรคตก็หมดลง เนื่องจากพระองค์ครองราชย์มายาวนานอย่างที่เราทราบกัน และเขาเลยต้องมาลงโฆษณาประกาศ พร้อมเขียนข้อความของเขาว่า “จะติดตามความอยุติธรรมทางประวัติศาสตร์ ด้วยการอ้างสิทธิโดยชอบธรรมกับราชบัลลังก์และมงกุฎราชวงศ์แห่งสหราชอาณาจักรกลับคืนมา ซึ่งความตายในอนาคตของสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธ ที่ 2 นั้นน่าเศร้า และอันที่จริงด้วยความเคารพ พระองค์ทรงมีความยิ่งใหญ่ เพราะพระองค์ไม่เห็นแก่ตัว ทรงเสียสละและปฏิบัติงานเพื่อประเทศชาติและประชาชนมาโดยตลอด” …