Tag: ร้านอาหาร
-
ผับอังกฤษหลายแห่งถูกตรวจพบ แบคทีเรียชนิดเดียวกับ “อุจจาระ” ในก้อนน้ำแข็ง
หลังจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ บาร์ชื่อดังของประเทศอังกฤษหลายแห่งถูกพบว่ามีการเสิร์ฟเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของ Faecal Bacteria แบคทีเรียชนิดเดียวกับที่มีในอุจจาระ ผู้รายงานข่าวรายหนึ่งจาก BBC ทำการทดสอบเครื่องดื่มจากบาร์และผับชื่อดังของประเทศอังกฤษหลายๆ ร้านผ่านรายการ Watchdog ร้านดังกล่าวได้แก่ ร้าน Waterspoon, Slug and Lettuce, Harvester, Hungry Horse และร้าน Two For One ผลปรากฏว่าในเมนูเครื่องดื่มของทุกๆ ร้านมีร่องรอยของอุจจาระปนเปื้อน กระทั่ง สถาบันสุขภาพสิ่งแวดล้อม ออกมาเตือนว่าอาจส่งผลต่อสุขภาพของผู้บริโภค Tony Lewis จากสถาบันสุขภาพสิ่งแวดล้อมได้ออกมากล่าวถึงผลการวิเคราะห์ว่า ระดับมาตรฐานความสะอาดของบาร์หลายแห่งนั้นต่ำลงมาก ซึ่งมันอาจส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันของผู้บริโภคต่ำลง “หากก้อนน้ำแข็งเต็มไปด้วยเชื้อแบคทีเรียที่ผิดประเภท มันจะทำให้พวกเราป่วยได้” ขณะเดียวกันบาร์และผับหลายแห่งที่ถูกตรวจสอบก็ออกมาแจ้งว่าได้ดำเนินการควบคุมความสะอาดอย่างเข้มงวดแล้ว ยกเว้นร้าน Harvester ที่มีข้อกังขาในกระบวนการตรวจสอบแบคทีเรียของรายการ Watchdog ตัวแทนของร้าน Harvester ยืนยันว่าทางร้านมีการตรวจสอบความสะอาดที่จริงจัง โดยกล่าวว่า “ความสะอาดและสุขอนามัยเป็นสิ่งสำคัญที่สุดของร้านเรา เพราะนั่นคือสวัสดิภาพของลูกค้าและพนักงานของเราด้วย” บางครั้งเราไม่อาจรู้ได้ถึงที่มาของอาหารหรือเครื่องดื่มที่เราบริโภค ซึ่งมันก็อาจทำให้เราต้องป่วยโดยที่ไม่รู้สาเหตุนั่นเอง ที่มา: ladbible และ thesun
-
ร้านอาหารมาเลย์ เตือน “ราคาอาหารผันตามนิสัยลูกค้า” ใครขี้กร่างคิดเงินเพิ่ม เข้มมาก!!
ปกติเมื่อเราไปยังร้านอาหารต่างๆ เราก็จะพบการต้อนรับที่ดี หรือบางร้านอาจจะไม่ดีนักแต่ก็คงไม่ถึงกับขัดใจลูกค้าอย่างแน่นอน กลับกัน ร้านอาหารแห่งหนึ่งในประเทศมาเลเซียไม่ได้มีวิธีเช่นนั้น ทางร้านมีป้ายเตือนต่างๆ แปะเต็มไปหมดโดยเฉพาะ ป้ายที่บอกว่าจะ คิดเงินเพิ่ม หากลูกค้าทำตัวยะโสโอหัง ร้านอาหารดังกล่าวมีขื่อว่า Piao Xing Claypot Chicken Rice ตั้งอยู่ในเมืองโจโฮร์บะฮ์รู เป็นร้านที่ลบล้างคำพูดที่ว่า “ลูกค้าคือพระเจ้า” ได้อย่างหมดจด เพราะว่าทางร้านจะคิดเงินเพิ่ม 10 ริงกิตมาเลเซีย (เกือบ 80 บาท) หากลูกค้าประพฤติตนไม่เหมาะสมหรือแสดงพฤติกรรมไม่ดีต่อหน้าพนักงานในร้าน “ถ้าคุณเป็นคนหยิ่ง ทะนงตน อารมณ์ร้าย หรือชอบกร่าง ทางเราจะขอคิดเงินเพิ่ม 10 ริงกิตมาเลเซียเป็นค่าเสียหาย” นอกจากนี้ทางร้านยังไม่สนับสนุนลูกค้าที่ชอบมอบเงินให้กับขอทานอีกด้วย พร้อมเผยว่าหากใครมีทัศนคติไม่ตรงกับทางร้าน ราคาอาหารก็อาจมีการเปลี่ยนแปลง “ราคาอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามทัศนคติของลูกค้า” “ให้เงินขอทานไม่ได้เป็นการแสดงความเมตตา แต่เป็นการแสดงออกถึงลักษณะของคนที่ถูกหลอกได้ง่าย” “คนธรรมดาจะบริจาคเงินด้วยเหตุทางการกุศล แต่คนโง่จะบริจาคเงินให้ขอทาน เพื่อให้มีขอทานเพิ่มมากขึ้น แล้วพวกคุณล่ะเป็นคนธรรมดาหรือเปล่า?” หลังจากภาพของร้านนี้ถูกนำไปเผยแพร่บนโลกออนไลน์ ชาวเน็ตก็แห่มาให้ความสนใจกันเพียบ ลองไปชมตัวอย่างความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้กัน… “ชอบจัง เจ๋งมาก!”…
-
คลิปไวรัล พนักงานร้านอาหาร ‘ถ่มน้ำลายใส่พิซซ่า’ ของลูกค้า ก่อนราดซอสทับลงไป…
ยามที่เราไปรับประทานอาหาร ณ ร้านอาหารต่างๆ เราไม่อาจรู้ได้เลยว่าภายในห้องครัวหลังร้านนั้น มีการเตรียมอาหารกันอย่างไรบ้าง อย่างเช่นตัวอย่างจากวิดีโอหนึ่งที่กำลังโด่งดังบนโลกออนไลน์ ที่หนุ่มทำพิซซ่าคนหนึ่งมีการ ถ่มน้ำลาย ลงบนแป้งพิซซ่าก่อนจะราดซอสปิดทับลงไป Jaylon Kerley หนุ่มพนักงานในร้านอาหารแห่งหนึ่งในเมืองดีทรอยต์ รัฐมิชิแกน ขณะที่เขากำลังเตรียมพิซซ่าให้กับลูกค้า วิดีโอก็ถ่ายติดจังหวะที่เขากำลังถ่มน้ำลายลงไปบนแป้งพิซซ่าถอดหนึ่งที่เขากำลังเตรียม เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ 21 กันยายน 2018 และเขาก็ถูกไล่ออกจากงานพร้อมกับถูกจับกุมหลังจากที่พฤติกรรมของเขาครั้งนี้ถูกเผยแพร่ออกไป Quinelle May เพื่อนร่วมงานที่ถ่ายวิดีโอนี้และนำไปโพสต์ลงอินเทอร์เน็ตก็ถูกไล่ออกเช่นเดียวกัน คลิปวิดีโอ May เพื่อนร่วมงานของ Kerley กล่าวว่าวันนั้นเป็นวันที่แย่ของ Kerley จริงๆ เขาก็เลยถ่มน้ำลายใส่พิซซ่าแบบนั้น ซ้ำยังกล่าวต่ออีกว่า การกระทำครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก Kerley เคยถ่มน้ำลายใส่พิซซ่ามาก่อนหน้านี้แล้ว May บอกว่าที่นำวิดีโอมาเผยแพร่เพราะคิดว่าควรทำสิ่งที่ถูกต้อง แต่ทางเจ้านายของเขากลับพยายามไม่ให้นำไปเผยแพร่ Quinelle May โพสต์วิดีโอดังกล่าวลงบน อินสตาแกรม ของตัวเองพร้อมเล่าประกอบว่า วันที่เกิดเหตุเขาถูกไล่กลับบ้านเนื่องจากไม่ได้สวมเสื้อตามที่ทางร้านกำหนดมา และเขาใช้ห้องน้ำนานเกินไป จากนั้นเขาก็คิดว่าลูกค้าควรรู้ว่าในพิซซ่าของพวกเขามีน้ำลายอยู่ เพราะไม่มีลูกค้าคนไหนสมควรได้รับสิ่งที่น่าขยะแขยงแบบนี้ สุดท้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่าจากการกระทำครั้งนี้ Kerley…
-
สวรรค์กลางกรุง~ ร้าน Maidreamin “คาเฟ่สาวใช้สุดโมเอะ” คอยบริการนายท่านอยู่นะคะ…
จากการทำงานที่แสนเหนื่อยและน่าเบื่อ เชื่อว่าทุกท่านต้องการที่พักผ่อนเพื่อเติมความสดใสให้ชีวิตใช่ไหมล่ะ? โดยเฉพาะหนุ่มๆ ทั้งหลายที่เมื่อรู้สึกเหนื่อยหน่ายมันก็ต้องการคนมาคอยเอาใจดูแลกันบ้างจริงมั้ย!? ถ้างั้นลองมาชมและรู้จักกับ เมดคาเฟ่ กิจการร้านอาหารแนวใหม่สำหรับคนไทย ที่ต้องบอกเลยว่าตอบโจทย์หนุ่มๆ ที่ต้องการเติมความสดใสให้กับชีวิตอย่างแท้จริงเลยล่ะ วันนี้ร้านที่เราจะแนะนำให้รู้จักก็คือ ร้าน Maidreamin ตั้งอยู่ ณ ห้างสรรพสินค้า MBK Center ชั้น 7 ร้านนี้เป็นเมดคาเฟ่ส่งตรงมาจากจากประเทศญี่ปุ่นเลยทีเดียว แถมเปิดตัวในไทยมาตั้งแต่ปี 2013 แล้วด้วย ว่ากันว่าใครที่เข้าไปยังร้านนี้ก็เหมือนได้เข้าไปอยู่ในดินแดนแห่งความฝันเลยล่ะ! ร้าน Maidreamin ร้านเมดคาเฟ่จะต่างจากคาเฟ่ทั่วไปตรงที่ นอกจากจะมีอาหารและเครื่องดื่มมากมายให้เลือกแล้ว ภายในร้านยังมีพนักงานที่เป็นสาวๆ น่ารักคาวาอี้แต่งกายด้วยชุดสาวรับใช้สไตล์ยุโรปที่เรียกกันว่า เมด (Maid) คอยบริการลูกค้าอย่างใกล้ชิดอีกด้วย ส่วน จุดเด่น ของกิจการร้านสไตล์เมดคาเฟ่ ก็คือผู้ใช้บริการจะได้รับการดูแลราวกับว่า เขาเป็นเจ้าของบ้านที่มีเหล่าสาวใช้สุดโมเอะคอยบริการ โดยลูกค้าทุกคนจะถูกเรียกว่า “นายท่าน” และ “คุณหนู” ด้วยล่ะ สำหรับร้าน Maidreamin นั้นเรียกได้ว่าครบสูตรของความเป็นเมดคาเฟ่เลยทีเดียว เพราะนอกจากจะเป็นสาขาย่อยมาจากประเทศญี่ปุ่นแล้ว ทางร้านยังจัดกิจกรรมมอบความสุขสนุกสนานให้กับลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ เรียกได้ว่า ใครที่ชอบน้องๆ เมดที่มีความน่ารักสดใสสไตล์ญี่ปุ่นล่ะก็คงจะไม่ผิดหวังเลยล่ะ บรรยากาศภายในร้าน น้องๆ…
-
ร้านอาหารเกาหลีในซิดนีย์ ถูกปรับ 5 หมื่น หลังนำตัวสาวเมาไป “ทิ้ง” ข้างถนน!!
สำหรับร้านอาหารที่จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้นใช่จะเป็นกิจการที่ดำเนินได้ง่ายดายเสมอไป บางครั้งทางร้านก็ต้องดูแลและรับผิดชอบพฤติกรรมของลูกค้าให้เหมาะสม มิฉะนั้นอาจมีความผิดตามกฎหมายที่คาดไม่ถึง อย่างเช่นเหตุการณ์นี้ที่ร้านอาหารปิ้งย่างสไตล์เกาหลีแห่งหนึ่งในซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ต้องถูกดำเนินโทษตามกฎหมายหลังจากหญิงสาว 2 รายเข้ามาใช้บริการในร้าน ก่อนจะดื่มจนเมา และถูกนำตัวออกไป “ทิ้งไว้ข้างถนน” หน่วยงานว่าด้วยเครื่องดื่มมึนเมาและเกม ได้กล่าวว่า “นี่เป็นการละเมิดกฎหมายเครื่องดื่มมึนเมาที่แย่ที่สุดที่รอบหลายปีเลยทีเดียว” เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2017 หญิงสาว 3 คนได้เข้ามายังร้านปิ้งย่างเกาหลีชื่อว่า Gangnam Station Sydney ใน Sussex Street แล้วได้กระดกเหล้า “โซจู” ไป 16 ช็อตภายใน 40 นาที หลังจากผ่านไปได้ 8 ช็อตหญิงสาว 2 ใน 3 คนเริ่มไม่ได้สติ ซึ่งภาพจากกล้องวงจรปิดของร้านเองก็แสดงให้เห็นว่าหญิงสาวคนหนึ่งที่เมาจนไม่ได้สตินั้นฟุบลงกับพื้นก่อนชายคนหนึ่งจะเข้ามาช่วยพยุงขึ้น จากนั้นพนักงานในร้านจึงช่วยกันพยุงตัวหญิงสาวคนดังกล่าวออกมายังด้านนอกของร้าน หญิงสาวคนหนึ่งยังมีการอาเจียนออกมาขณะถูกพยุงตัวอีกด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ผ่านมาพบ เมื่อเห็นผู้คนยืนมุงดูหญิงสาวข้างถนน จึงช่วยเรียกรถพยาบาลมารับตัวหญิงสาวไปยังโรงพยาบาล และได้ทำการกล่าวโทษนาย Sunhwa Kim ว่าถือเป็นความผิดครั้งแรก นาย Sunhwa Kim ผู้ที่ได้รับใบอนุญาตเปิดกิจการนั้น ในใบอนุญาตจะระบุว่าสามารถถูกกล่าวโทษและกระทำผิดระเบียบได้เพียง 3 ครั้งเท่านั้น…
-
ลุงปริศนาราดน้ำมัน “จุดไฟเผา” ร้านอาหาร นักแสดงตลกเกาหลีชื่อดัง เสียชีวิตคาที่…
เคราะห์ร้ายเกิดขึ้นได้อย่างไม่มีใครคาดคิด ใครจะรู้ว่าร้านอาหารที่เราเข้าไปรับประทานมื้อเย็นแสนสุข จะเกิดโศกนาฏกรรมขึ้นได้ เช่นเดียวกับเหตุการณ์ล่าสุดในเมืองกุนซัน จังหวัดชอลลาเหนือ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2018 ได้เกิดเหตุการณ์วางเพลิงร้านอาหารแห่งหนึ่งจนทำให้มีผู้เสียชีวิต และหนึ่งในนั้นคือ ดาราตลกชื่อดังในเกาหลี คิมแทโฮ (Kim Tae Ho) จากรายงาน คิมแทโฮ (Kim Tae Ho) นักแสดงตลกของประเทศเกาหลีได้เดินทางไปเล่นกีฬากอล์ฟการกุศลในเมืองกุนซัน หลังจากนั้นเขาจึงแวะเข้าร้านอาหารเพื่อดื่มสังสรรค์กับคนรู้จัก แต่ไม่นานก็พบว่ามีชายสูงวัยราว 50 ปี เดินเข้ามายังร้านด้วยอาการโวยวายพร้อมมีปากเสียงกับเจ้าของร้านอย่างหนักเรื่องบิลค่าใช้จ่ายบางอย่างที่ยังตกลงกันไม่ได้ จากเหตุทะเลาะวิวาทครั้งนี้ทำให้ชายสูงวัยคนดังกล่าวเกิดอารมณ์โมโหรุนแรง หยิบน้ำมันราดร้านอาหารและจุดไฟเผา ทำให้ลูกค้าต่างวิ่งหนีกันอลหม่าน คลิปวิดีโอเหตุวางเพลิงร้านอาหารดังกล่าว จากเหตุการณ์นี้ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 30 ราย และเสียชีวิตอีก 3 ราย หนึ่งในผู้เสียชีวิตก็คือนักแสดงตลกชื่อคิมแทโฮ ที่ถูกพบร่างหลังเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้าไปคลี่คลายสถานการณ์ ขณะนี้ยังไม่มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุวางเพลิงได้แล้วหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ความสูญเสียที่เกิดขึ้นได้สร้างความสะเทือนใจให้กับวงการบันเทิงของประเทศเกาหลีเป็นอย่างมาก คิมแทโฮ (Kim Tae Ho) คิมแทโฮนั้นมีชื่อเสียงมากในประเทศเกาหลี…
-
ชาวเน็ตดราม่ารัว ร้านผัดไทยชื่อดังเก็บค่า “แก้วน้ำกระดาษ 2 บาท” แค่นี้ก็ยังจะเอาอีกเหรอ!?
ไม่รู้ว่าเป็นปกติทั่วไปอยู่แล้วหรือไม่ สำหรับร้านอาหารที่เปิดให้บริการในประเทศไทยส่วนใหญ่ ย้ำว่าส่วนใหญ่ มักจะให้บริการแก้วพร้อมน้ำแข็งที่ไม่มีการคิดค่าบริการเพิ่มเติม ในส่วนของน้ำดื่มน้ำอาจจะมีให้บริการฟรี หรืออาจจะขายเป็นรูปแบบขวดแทน ซึ่งสำหรับร้านผัดไทยเจ้าหนึ่งที่มีชื่อเสียงพอสมควรในย่านพุทธมณฑลสาย 4 มีการติดป้ายประกาศชัดเจนว่า “แก้วใส่น้ำแข็งใบละ 2 บาท” และ “แก้วเปล่าใบละ 2 บาท” เช่นเดียวกัน โดยสภาพของแก้วก็คือแก้วกระดาษธรรมดา… เรื่องมันเริ่มแดงขึ้นเมื่อมีทวีตหนึ่งเปิดประเด็น พร้อมกับรูปภาพป้ายและแก้วกระดาษจากร้านดังกล่าว โดยมีใจความไว้ว่า “คิดยังไงกับร้านผัดไทยชื่อดัง ที่เก็บแก้วเปล่าใบละ 2 บาท มากินตั้งนานเพิ่งสังเกต” จากทวีตวันที่ 12 มิถุนายน จนกระทั่งวันที่ 13 มิถุนายน ชาวเน็ตเริ่มออกมาแสดงความคิดเห็นในเชิงไม่เห็นด้วย เพราะบางอย่างก็ไม่ควรชาร์จเพิ่ม… เปรียบได้เหมือนกับการปล้นลูกค้าทางอ้อม? . . บางส่วนคิดว่าเป็นการรณรงค์ให้พกแก้วไปเอง? แต่การใช้แก้วกระดาษลดภาระล้างแก้วของทางร้าน จะเป็นการสร้างขยะเพิ่มแทน? จนมากก็กินอยู่บ้าน… 2 บาทซื้อความสบายใจ? ใครจะซื้อก็ซื้อ ใครไม่ซื้อก็ไม่ต้อง… อย่างไรก็ตาม…
-
ญี่ปุ่นช็อก สั่งอาหารไปนานผิดปกติ ปรากฏว่าพนักงาน “นอนแอ้งแม้ง” อยู่หลังร้าน!!
เรื่องราวในวันนี้เป็นอุทาหรณ์สอนใจผู้เปิดร้านอาหารหรือทำงานด้านบริการได้เป็นอย่างดีว่าเมื่อเลือกที่จะทำธุรกิจให้บริการลูกค้าแล้วนั้น ควรหยุกพักความสนุกส่วนตัว เช่น การตั้งวงดื่มสุราเอาไว้ให้ถึงเวลาเลิกงานเสียก่อน เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2018 ที่ผ่านมา ในร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อร้านว่า Redang ในย่านโอซากะ ได้เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ลูกค้าต้องไม่พอใจขึ้น เมื่อราวๆ เวลา 6 โมงเย็นลูกค้าต่างพากันเข้ามาสั่งอาหารที่ร้านนี้ ด้วยเมนูขึ้นชื่อ อาหารขึ้นชื่อก็จะหน้าตาประมาณนี้ แต่ลูกค้าก็ต้องงุนงงกับการบริการที่ล่าช้าเป็นอย่างมาก สั่งอาหารไปแล้วทำไมถึงยังไม่ได้อาหารสักที จนรู้สึกได้ถึงความผิดปกติ ลูกค้าบางคนจึงแอบเข้าไปส่องดูภายในครัวของร้านอาหารดังกล่าว สิ่งที่พบกลับทำให้พวกเขาถึงกับตกใจ เขาพบเจ้าของร้านอาหารและลูกจ้างอีก 3 คนกำลังนอนกลิ้งเกลือกอยู่บนพื้นครัวราวกับว่าจะขาดใจตาย แต่พอสังเกตดีๆ มันกลับทำให้ลูกค้าทั้งหลายต้องอารมณ์เสียกันเป็นแถบเพราะว่า ทั้งเจ้าของร้านและลูกจ้างนั้นมีสภาพที่ “เมาเหล้า” อย่างหนัก จนต้องเรียกรถพยาบาลมาช่วยเหลือ ที่สำคัญคือ หนึ่งในลูกจ้างมีเด็กหนุ่มวัย 18 ปีรวมอยู่ด้วยทั้งๆ ที่กฎหมายของประเทศญี่ปุ่นนั้นห้ามไม่ให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีดื่มของมึนเมา เมื่อเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบพบว่าชายทั้ง 4 คนได้มีการดื่นสุราจนมึนเมามาตั้งแต่ก่อนเปิดร้านแล้ว ส่วนเจ้าของร้านอาหารดังกล่าววัย 48 ปีเองก็มีอาการบาดเจ็บสาหัสจากพิษสุราที่เขาดื่มอีกด้วย แต่รายละเอียดอื่นๆ ยังไม่เผยออกมาให้ทราบ นึกภาพไม่ออกจริงๆ…
-
เสิร์ฟแบบนี้ก็ได้หรอ? 20 ภาพภาชนะอาหารสุดแปลกที่มีอยู่จริงๆ ที่ร้านอาหารที่ใดที่หนึ่ง
เราคงจะเคยได้ยินข่าวเรื่องที่มีร้านอาหารแห่งหนึ่งทำอาหารแล้วเสิร์ฟในภาชนะต่างๆ ที่ลูกค้าต้องเป็นฝ่ายมานั่งลุ้นว่าจะถูกเสิร์ฟมาในภาชนะไหน มีทั้งจาน กะละมัง แจกัน หรือแม้กระทั่งหม้อ ให้ลูกค้าได้ตื่นเต้นและสร้างอรรถรสใหม่ในการทานอาหาร ทางฝั่งต่างประเทศก็ไม่น้อยหน้าเช่นกัน ขอส่งประกวดรูปภาพภาชนะอาหารสุดแปลกที่มีอยู่จริงๆ ในร้านอาหารจากทั่วโลก คำว่าสร้างสรรค์กับคำว่าไร้สาระมีเพียงแค่เส้นบางๆ กั้นเท่านั้น 1. เสิร์ฟมาในกับดักหนูแบบนี้ก็ต้องเสี่ยงกันหน่อย หวังว่ามันคงจะเป็นของใหม่ที่ยังไม่เคยผ่านการใช้งานมาก่อนนะ 2. ไก่ย่างกับท่าทางนั่งอาบแดดนั้น น่าหมั่นไส้เหลือเกิน 3. ปลาสดๆ เสิร์ฟบนกระป๋องเบียร์และที่เขี่ยบุหรี่ 4. หอมทอดบนคอยีราฟ ครีเอทสุดๆ 5. มันบดเสิร์ฟมาบนแก้วมาร์ตินี่ เอาไงดี ยกดื่มเลยไหมล่ะ 6. อาหารทะเลในกล่องเครื่องมือช่าง 7. เนื้อปลาสไลด์เสิร์ฟบนแผ่นกระเบื้อง 8. นี่สิ เค้าเรียกว่ากุ้งถังของจริง 9. อันนี้เสิร์ฟด้วยกระดูกของตัวอะไรสักอย่างที่ไม่สามารถระบุได้ 10. จะมีใครกล้ากินไหมเนี่ย 11. ทำเลียนแบบราวตากผ้าไปเลย 12. ร้านชาบูเค้าก็หันมาเอาใจสาวๆ…
-
ลูกค้าเดือดเถียงพนักงานไฟแล่บ ดูแววท่าจะแพ้ ‘ล้างลำไส้’ กลางร้าน ปาอาวุธชีวภาพใส่!!
บ่อยครั้งภายในร้านค้าหรือร้านอาหารต้องให้บริการลูกค้ามากหน้าหลายตา อารมณ์ของลูกค้าแต่ละคนก็มีขีดจำกัดไม่เท่ากัน ยิ่งเป็นในต่างประเทศ หากเกิดความไม่พอใจ อาจมีการต่อว่าตำหนิอย่างรุนแรงตามมา… เหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นที่ประเทศแคนาดา ภายในร้านอาหาร Tim Hortons เป็นการฉะหน้ากันระหว่างลูกค้าขี้โมโหกับพนักงานแคชเชียร์หน้าร้าน ซึ่งโดยเบื้องต้นแล้วยังไม่ทราบถึงสาเหตุของการปะทะครั้งนี้ แต่ภาพเหตุการณ์ที่ถูกบันทึกเอาไว้ได้ กลายมาเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงในสังคมออนไลน์อย่างกว้างขวาง หลังจากที่ลูกค้ารายนี้ชี้หน้าด่าพนักงานด้วยความไม่พอ แถมดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่ยอม และตัวเองกำลังจะแพ้… เถียงยังไม่ทันขาดคำ เธอตัดสินใจล้างลำไส้ตัวเอง ถกกางเกงลงกลางร้านพร้อมดำเนินการ ‘ล้างลำไส้’ ภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว อาวุธชีวภาพที่ซ่อนอยู่ภายในร่างกายของเธอ ถูกคว้าขึ้นมาจากพื้นและปาใส่หน้าพนักงานทันที!! ก่อนที่จะคว้ากระดาษเช็ดมือมาเช็ดทำความสะอาดสิ่งสกปรก และปาใส่พนักงานซ้ำอีกรอบ ภายหลังจากเกิดเรื่องไปแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก Royal Canadian Mounted Police ที่รับผิดชอบในท้องที่ ยืนยันว่าได้ทำการจับกุมและปล่อยตัวลูกค้าคนดังกล่าวไปเป็นการชั่วคราวแล้ว เพราะต้องทำการสอบสวนอย่างละเอียดเพื่อพิจารณาการตั้งข้อหาเสียก่อน คลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายในร้าน สำหรับประเทศแคนาดา หากประชาชนกระทำอนาจารในที่สาธารณะ ด้วยเหตุจงใจเหยียดหยามหรือรุกรานผู้อื่น อาจถูกตัดสินมีความผิดตามข้อกฎหมาย มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ที่มา: barstoolsports, dailymail
-
ร้านอาหารจีนจัดโปรโมชั่น ‘ลอดช่องกรงได้ส่วนลด’ ยิ่งช่องเล็กได้กินอาหาร + เบียร์ฟรี!!
‘การทำธุรกิจ’ ส่วนใหญ่แล้วมีเป้าหมายหลักในการแสวงหาผลกำไร แต่ก็มีบางธุรกิจที่ไม่ได้มองแค่ผลกำไรเป็นหลักแต่ยังใส่ใจผู้บริโภคอีกด้วย เช่นเดียวกันกับร้านอาหารแห่งนี้ ที่มีโปรโมชั่นลดราคาให้กับลูกค้าที่สามารถลอดช่องเล็กในระดับที่แตกต่างกัน และยิ่งลอดช่องได้เล็กเท่าไหร่ก็จะได้รับส่วนลดมากขึ้นตามไปด้วย ร้านอาหารแห่งนี้อยู่ในเมืองจี่หนาน ตั้งอยู่ทางตะวันออกของประเทศจีน โดยมีนาย Zhao Long เป็นเจ้าของร้าน และเขาเล่าถึงจุดประสงค์ที่ทำแบบนี้ก็เพื่อทำให้ลูกค้าตระหนักถึงความสำคัญของการไดเอทแบบสนุกสนาน และรางวัลใหญ่ที่สุดก็คือ หากลูกค้าท่านใดสามารถลอดช่องที่เล็กที่สุดที่มีความแคบ 15 เซนติเมตรไปได้ จะได้ทานอาหารและเครื่องดื่มฟรี! คุณ Zhao เล่าว่า “หลายคนเคยบอกผมว่า พวกเขาต้องล้มเลิกแผนการลดน้ำหนักไป เพราะแค่พวกเขาไม่สามารถเลิกดื่มเบียร์ได้ เพราะฉันนั้น การทำแบบนี้อาจจะช่วยเตือนให้พวกเขากลับมาตั้งใจลดน้ำหนักต่อไปก็ได้” และนี่คือระบบการให้คะแนนของร้าน ช่องที่แคบที่สุดมีความกว้าง 15 เซนติเมตร หากผ่านไปได้ทานทั้งอาหารและเบียร์ฟรี!! ระดับต่อมามีความกว้าง 18 เซนติเมตร หากลอดผ่านไปได้ ได้เบียร์ฟรี 5 แก้ว ระดับที่ 3 มีความกว้าง 25 เซนติเมตร หากผ่านได้ ได้เบียร์ฟรี 1 แก้ว และสุดท้ายกว้าง 30…
-
หมาขนยุ่งเดินไปร้านอาหารตามลำพังเพื่อขอข้าวกิน แต่มันมีเหตุผลที่ลึกซึ้งมากกว่าความหิว
เจ้าตูบ Dongchul เป็นหมาขนปุยที่อาศัยอยู่ในโรงงาน มันมีสภาพมอมแมม ขนรุงรังสกปรก เหมือนไม่ได้รับการดูแลมาสักพักแล้ว มันไม่ยอมกินข้าวที่คนในโรงงานเตรียมไว้ให้เลย เจ้าหมาจะเดินไปข้างนอกแล้วไปกินข้าวตามร้านค้าเป็นประจำ แต่ไม่ใช่เพราะร้านค้าให้ข้าวดีกว่าหรอกนะ มันมีเหตุผลแอบแฝงอยู่ต่างหาก … นี่คือเจ้าหมา Dongchul มันเป็นหมาที่อาศัยอยู่ในโรงงานแห่งหนึ่ง แต่มันไม่ยอมกินอาหารที่คนในโรงงานเอาให้เลย ถึงจะป้อนกับมือก็ยังไม่ยอมกิน มันชอบแอบหนีออกไปข้างนอกโรงงาน เพื่อไปยังร้านอาหารร้านประจำ แล้วมันก็จะกินข้าวที่เจ้าของร้านเอามาป้อนให้ ซึ่งเจ้าหมาจะไปร้านประจำแค่ 7 ร้านเท่านั้น เจ้าของร้านแห่งหนึ่งบอกว่ามันเคยมากับเจ้าของ แต่ช่วงนี้เห็นมันแค่ตัวเดียว เจ้าของร้านอีกแห่งก็บอกแบบนั้นเหมือนกัน พอถามจากคนที่โรงงานดูก็เลยรู้ว่ามันเคยมีเจ้าของอีกคนหนึ่ง ซึ่งก็คือหัวหน้างานของเขา หัวหน้าเป็นคนเริ่มรับ Dongchul มาเลี้ยง และดูแลด้วยตัวเอง แต่น่าเสียดายที่เขาตายจากไปด้วยโรคร้ายแล้ว เจ้าหมาก็เลยถูกทิ้งให้อยู่อย่างโดดเดี่ยว ร้านอาหารที่มันไปแต่ละแห่งเป็นร้านโปรดของเจ้านายทั้งนั้น คนในโรงงานบอกว่าการที่มันยังไปร้านเหล่านี้อยู่ น่าจะเป็นเพราะมันยังคิดถึงช่วงเวลาดีๆ ที่ได้ใช้ร่วมกับหัวหน้า พอเห็นมันยึดติดกับอดีตแบบนี้ คนในโรงงานก็เลยตั้งใจว่าจะดูแลมันอย่างดี…
-
มาแน่!! ภัตตาคารใต้น้ำแห่งแรกในยุโรป เตรียมสร้างและเปิดให้บริการในนอร์เวย์
หลายคนคงเคยวาดฝันอยากจะมีบ้านอยู่ใต้ทะเล หรือไปรับประทานมื้อค่ำหรูๆ ใต้น้ำกันมาก่อนใช่ไหม มาวันนี้ความฝันนั้นใกล้เป็นจริงแล้ว เมื่อมีคนออกแบบภัตตาคารดีไซน์สุดเจ๋ง แถมยังอยู่ใต้น้ำด้วยขึ้นแล้ว ที่สำคัญจะเปิดในปี 2019 ที่จะถึงนี้แล้ว ภัตตาคารดังกล่าวมีชื่อว่า Under ซึ่งได้รับการออกแบบโดย Snøhetta ทีมสถาปนิกชาวนอร์เวย์ที่เคยฝากผลงานไว้กับ Norwegian National Opera & Ballet ในนอร์เวย์และ Bibliotheca Alexandrina ในอียิปต์ โดย Under นั้นถือเป็นงานที่ต้องสร้างใต้น้ำชิ้นแรกของทีมงานดังกล่าว ซึ่งถือเป็นความท้าทายใหม่สุดๆ ซึ่งทีมงานได้วางแผนไว้ว่าภัตตาคารแห่งนี้จะอยู่ลึกลงไป 5.5 เมตรจากระดับผิวน้ำ ซึ่งถือเป็นระดับน้ำที่ลึกพอสมควรเลยทีเดียว ตัวโครงสร้างที่วาดไว้นั้นทางทีมงานจะใช้คอนกรีดหนาเป็นวัสดุหลัก และภายในจะประกอบด้วยห้องอาหาร 3 ชั้นด้วยกัน ซึ่งสามารถที่จะจุคนได้สูงสุด 100 คนด้วยกัน ในส่วนรายละเอียดของชั้นทั้ง 3 นั้นจะประกอบด้วยชั้นแรก ที่นับจากทางเข้าลงมา ซึ่งชั้นดังกล่าวนั้นจะเป็นส่วนของบาร์และห้องรับรองระหว่างหาดและใต้ทะเล ต่อมาชั้น 2 จะเป็นส่วนของห้องอาหารที่สามารถมองเห็นข้างนอกได้ โซนนี้นั้นจะเป็นจุดที่สามารถจุคนได้มากที่สุด และในชั้นที่ 3 จะเป็นโซนพิเศษที่ลูกค้าสามารถมองเห็นใต้ทะเลได้ผ่านหน้าต่างขนาดใหญ่และมีโต๊ะอาหารเพียง 14…
-
กลุ่มวีแกนประท้วงเต็มหน้าร้านสเต็ก เจ้าของหาแคร์ไม่ คว้าขากวางหั่น นั่งกินโชว์หน้าร้าน…
ทางเลือกในการรับประทานนั้นมีหลากหลาย แล้วแต่รสนิยม ทัศนคติ และความเชื่อของแต่ละคน แต่ไม่วายก็ยังคงมีปัญหาเกิดขึ้นเป็นประจำกับกรณีระหว่างผู้เลือกทานพืชผัก กับผู้ที่ยังเลือกทานเนื้อสัตว์อยู่เสมอ… เหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นในเมืองโทรอนโต ประเทศแคนาดา เมื่อมีกลุ่มวีแกนคนกินผักได้ออกมาประท้วง ต่อต้านการทานเนื้อ และได้เดินทางมายังร้านสเต็ก Antler ของนาย Michael Hunter ผู้เป็นเจ้าของร้านพร้อมฉายา The Hunter Chef ทางกลุ่มวีแกนได้พยายามเข้าถึงนาย Michael พร้อมกับร้องขอให้เขาเพิ่มเมนูสเต็กสำหรับชาววีแกน เขียนไว้บนกระดานดำที่ตั้งไว้หน้าร้านบนทางเท้า แต่กลับถูกนาย Michael แสดงทีท่ายั่วยุตอบโต้ พร้อมกับป้ายที่เขียนว่า ‘กวางก็คือผักเคลชนิดใหม่’ Marni Ugar ตัวแทนผู้นำกลุ่มประท้วงได้ออกมากล่าวว่า “ที่ฉันเลือกร้าน Antler เพราะว่าลูกค้าส่วนใหญ่ยังคงรู้สึกดีกับการรับประทานอาหารแบบนี้ ฉันเชื่อว่า ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ชนิดไหนถูกเลี้ยงมาอย่างไร นั่นเป็นชีวิตของพวกมัน และพวกมันไม่อยากตายหรอก… พวกเราถูกโจมตีจากการประท้วงกลุ่มกิจการที่มีทางเลือกให้กับชาววีแกนอันน้อยนิด เมื่อตอนที่นาย Michael เดินมาหน้ากระจกร้าน พร้อมคว้ามีดมาหั่นขากวาง เขาดูเหมือนคนคลั่งต่อหน้าพวกเรา ปลุกปั่นยั่วยุกลุ่มคนที่ทำเพื่อสวัสดิภาพของสัตว์” ทางด้าน Len Goldberg ผู้เก็บภาพของกลุ่มเคลื่อนไหวดังกล่าว…
-
พาตะลุยญี่ปุ่นกับร้าน Pokémon Cafe ร้านอาหารธีม ‘โปเกมอน’ แห่งแรกในโลก!!
ข่าวดีสำหรับผู้ที่เป็นสาวกการ์ตูนและเกมจากญี่ปุ่นสุดโด่งดัง Pokémon (โปเกมอน) มาถึงแล้ว เพราะว่าที่ประเทศญี่ปุ่นได้เปิดร้านอาหารสุดน่ารักเอาใจสาวกโปเกมอนชื่อร้านว่า Pokémon Cafe ขึ้นมาเป็นที่เรียบร้อย ในย่าน นิฮงบะชิ แห่งกรุง โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ได้เกิดร้านอาหารโปเกมอนแบบถาวรขึ้นมาเป็นที่แรก ร้าน Pokémon Cafe นี้นอกจากจะมีการตกแต่งร้านสุดน่ารักที่มาในสไตล์โปเกมอนแล้ว ยังมีเมนูอาหารดีไซน์โปเกมอน พร้อมทั้งของสินค้าเกี่ยวกับโปเกมอนที่ไม่อาจหาได้จากที่ไหนๆ ในโลก . ร้าน Pokémon Cafe นี้ตั้งอยู่ที่ ชั้น 5 ด้านตะวันออกของห้างสรรพสินค้า Takashimaya สาขานิฮงบะชิ เมื่อคุณไปถึง คุณจะทราบทันทีว่ามาถูกที่แล้ว เพราะที่หน้าลิฟต์ที่ใช้ขึ้นไปยังร้าน จะมีภาพของเหล่าตัวการ์ตูนจากโปเกมอนเต็มไปหมดเลย . ไม่ต้องกลัวว่าเมื่อมาถึงชั้น 5 แล้วจะหาร้านไม่เจอ เมื่อประตูลิฟต์เปิดออก คุณก็จะเห็นเจ้า คาบิกอน นั่งอ้วนอยู่ด้านหน้าเลยนั่นเอง ภายในร้านก็มีลักษณะค่อนข้างโมเดิร์น โดยกลางโต๊ะก็จะมีเจ้าพวกโปเกมอนตัวป่วนอยู่มากมาย เช่น ปิกาจู ฟุจิกิดาเนะ ฮิโตคาเงะ เซนิกาเมะ และอีวุย เป็นต้น . . . ภายในร้านคุณจะพบสัญลักษณ์โปเกบอลได้แทบทุกที่ โดยเฉพาะอันใหญ่ๆ…
-
นักออกแบบรับงานตกแต่งห้องน้ำใหม่ แต่ไม่ให้เปลี่ยน ‘กระเบื้อง’ กลายเป็นผลงานสุดเจ๋ง!
งานของเหล่านักออกแบบทั้งหลายถือเป็นเรื่องที่หนักหนาเอาการอยู่เหมือนกัน เพราะคำขอของลูกค้าบางทีก็โหดหินเอาซะเหลือเกิน เช่นเดียวกันร้านอาหาร Galeria Urbana ที่ตั้งอยู่ในเมืองเคานัส ประเทศลิทัวเนีย ได้ทำการจ้างบริษัทออกแบบ Gyva Grafika ที่อยู่ในเมืองเดียวกันมาทำการตกแต่งห้องน้ำที่ร้านใหม่ โดยมีข้อแม้ว่าแต่งให้ออกมาดูสวยงาม แต่ห้ามเปลี่ยนกระเบื้องของทางร้านออก เอาล่ะสิครับ งานนี้ใครเจอก็คงไปไม่เป็น แต่สำหรับยอดนักออกแบบจากสตูดิโอ Gyva Grafika กลับทำมันออกมาได้อย่างงดงาม ทีมงานนักออกแบบได้ทำการเดินทางไปถ่ายภาพตามมุมต่างๆ ในเมืองเคานัสแล้วก็ปริ้นต์ออกมาเป็นสติกเกอร์ โดยไอเดียของงานชิ้นนี้ทางด้าน Gyva Grafika เล่าวว่า “ที่ลิทัวเนีย พวกเรามักจะละเลยในเรื่องของสถานที่สาธารณะ ผู้คนมากมายอาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์ที่สะอาด” “แต่เมื่อพวกเขาเดินออกมาจากบ้านก็จะพบว่าสถานที่ที่อยู่ข้างนอก ทั้งบันได สนามหญ้า และสวนสาธารณะต่างๆ ทั้งหมดถูกปล่อยปละละเลย และด้วยเหตุผลนี้เองพวกเราก็เลยอยากสร้างความสมดุลขึ้นมา ด้วยการนำสิ่งของที่อยู่ภายนอกมาไว้ภายในซะเลย ด้วยเหตุนี้เองสถาปัตยกรรมสำหรับห้องน้ำจึงได้ถือกำเนิดขึ้น!!” ซึ่งในระหว่างการถ่ายภาพตามที่ต่างๆ ก็เกิดปัญหาขึ้นเล็กน้อย “มีผู้คนมากมายต่างก็เข้าผิดคิดว่าเราเป็นปาปารัซซี่ มาแอบถ่ายภาพพวกเขา บางคนก็พยายามปิดหน้าต่างบ้านหนี บางคนก็ถึงกับเดินออกมาเพื่อถามถึงสาเหตุว่าทำไมถึงถ่ายภาพ?” “แต่พอพวกเราบอกว่าจะเอาไปทำเป็นงานศิลปะ พวกเขาก็ยินดีที่จะให้เราถ่าย และกลับเข้าอพาร์ตเมนต์ไป” . . . . . . . .…
-
ร้านอาหารที่ ‘โอบาม่า’ เคยไปเยือน จัดคอมโบเซตแบบที่เขากิน พร้อมจัดโต๊ะใส่ตู้กระจก!!
หลายคนคงจะเห็นข่าวช่วงปี 2016 ปีที่ Barack Obama อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ ได้เดินทางไปเยือนประเทศเวียดนาม ในช่วงที่เขากำลังจะหมดวาระจากการเป็นประธานาธิบดี ซึ่งเขาได้ไปนั่งกินข้าวชิลๆ กับ Anthony Bourdain เชฟมากฝีมือ ที่ร้าน Bún Chả Hương Liên ร้านอาหารเล็กๆ แห่งหนึ่งในกรุงฮานอย ที่ไม่ได้มีชื่อเสียงโด่งดังอะไรมากนักในตอนนั้น ภาพบรรยากาศในช่วงนั้น กำลังนั่งจิบเบียร์พูดคุยกันสบายๆ ทั้งคู่สั่งอาหารขึ้นชื่อของร้านอย่าง ‘บู๊นจ๋า‘ ขนมจีนเวียดนามเลื่องชื่อมากิน พร้อมกับพูดคุยกันสบายๆ จนภาพของทั้งสองถูกเผยแพร่ออกไปก็กลายเป็นไวรัลและถูกพูดถึงกันอย่างกว้างขวางสุดๆ อย่างไรก็ตามนับจากตอนนั้นมาจนถึงปัจจุบันก็ผ่านมาเกือบ 2 ปีแล้ว หลายคนอาจจะคิดว่ามันคงเป็นแค่เหตุการณ์เล็กๆ เท่านั้น แต่สำหรับทางร้านไม่เป็นอย่างนั้นเลย เพราะทางร้านได้คิดค้นชุดคอมโบเซตที่ชื่อว่า ‘โอบาม่า คอมโบเซต’ ขึ้นมา ซึ่งจะเป็นชุดอาหารแบบเดียวกับที่เขากินในวันนั้นเป๊ะๆ ชุดคอมโบเซตที่ว่า ราคาไม่แรงแถมของกินยังจุดชุดใหญ่อีก ซึ่งทั้งชุดนั้นมีราอยู่ 85,000 ดองหรือประมาณ 120 บาทไทย ที่เด็ดไปกว่านั้นคือ นอกจากชุดคอมโบที่จัดมาให้แล้ว ทางร้านยังได้เก็บรักษาจาน โต๊ะ…
-
ร้านอาหารเสนอส่วนลด 25% ให้กับลูกค้าที่ยอมฝาก ‘โทรศัพท์มือถือ’ ไว้ที่หน้าร้าน
ปัจจุบันดูเหมือนว่าโทรศัพท์นั้นจะได้กลายมาเป็นอวัยวะชิ้นที่ 33 ของมนุษย์เราไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และหลายๆ คนก็แทบจะห่างจากเจ้าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิคชิ้นนี้ไม่ได้เลยใช่ไหมล่ะ!! แต่ถ้าหากว่าคุณอยากจะได้ค่าอาหารที่ถูกลงถึง 25 เปอร์เซ็นต์ล่ะก็ งานนี้คุณอาจจะต้องทำใจบอกลากับโทรศัพท์เครื่องโปรดสักครู่หนึ่งแล้วล่ะนะ ไอเดียเจ๋งๆ นี้เกิดขึ้นที่ร้าน The Fat Boar ร้านอาหารจากเมือง Wrexham สหราชอาณาจักร โดยพวกเขาได้จัดโปรโมชั่นส่วนลดค่าอาหาร 25 เปอร์เซ็นต์ สำหรับลูกค้าที่เพลิดเพลินกับมื้ออาหารโดยที่ไม่พกโทรศัพท์เข้าร้าน จุดเริ่มต้นของโปรโมชั่นนี้เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่างคุณ Rich Watkin เจ้าของร้านและพนักงานของเขา และดูเหมือนว่าโปรโมชั่นดังกล่าวจะได้รับกระแสตอบรับจากลูกค้าอย่างล้นหลามเลยทีเดียว หลังจากที่พวกเขาได้ประกาศผ่านโซเชียลมีเดียเพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมง คลิปวิดีโอที่ถูกโพสต์บนหน้าแฟนเพจของร้าน อธิบายถึงเงื่อนไขของโปรโมชั่นดังกล่าวว่า ลูกค้าสามารถล็อกโทรศัพท์และฝากไว้ที่ล็อกเกอร์หน้าร้านได้ คุณ Rich ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า “ผมต้องขอยอมรับก่อนว่าผมเองก็เป็นหนึ่งในคนที่ติดโทรศัพท์เอามากๆ และเรามักจะยุ่งอยู่กับมันตลอดเวลา และผมคิดว่ามันคงจะเป็นเรื่องดีที่กระตุ้นให้ลูกค้าของเรา ห่างจากมันสักครู่ อย่างน้อยๆ ก็ในช่วงมื้อค่ำ เราอยากให้ลูกค้าเพลิดเพลินกับดนตรีและบรรยากาศในร้าน” ส่วนทางด้านคุณ Jade Darlington ผู้จัดการร้านเองก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับโครงการของร้าน พร้อมกับบอกว่าเขาคิดว่าโปรโมชั่นดังกล่าวจะช่วยให้ลูกค้าพูดคุยกันระหว่างนั่งรออาหารมากขึ้น “ผมคิดว่ามันเป็นช่วงเวลาที่น่าอึดอัดมากที่ทุกคนเอาแต่เช็กอีเมล และโซเชียลมีเดียตลอดเวลา สิ่งที่เราทำคือการกระตุ้นให้พวกเขาออกห่างจากโทรศัพท์ และสนุกกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าแทน” ผู้จัดการร้านให้สัมภาษณ์ ขณะนี้โปรโมชั่นดังกล่าวได้ถูกนำมาทดลองใช้ที่ร้าน The Fat Boar เป็นที่แรก และถ้าหากว่ามันได้รับเสียงตอบรับที่ดี พวกเขามีแผนที่จะนำไปใช้ในร้านสาขาที่ถนน Chester…
-
อาหารแพงเป็นเหตุ นักท่องเที่ยวจีนก่อเหตุทะเลาะวิวาทกับพนักงานหลังเห็นค่าอาหารเกินราคา
ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดใช้ สวัสดีปีใหม่จีนนะครับทุกคน เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2018 ที่ผ่านมานนี้เป็นวันตรุษจีน หลายครอบครัวก็รวมญาติฉลองกันอย่างรื่นเริง ส่วนเด็กๆ ก็ได้ค่าขนมไปใช้กัน มีความสุขถ้วนหน้า ทว่าในวันมงคลแบบนี้ ที่ประเทศจีนกลับเกิดเรื่องชกต่อยรุนแรงขึ้นเสียอย่างนั้น โดยเหตุเกิดขึ้นในภัตตาคารแห่งหนึ่ง ต้นเหตุของการต่อยตีกันนี้ก็ไม่ใช่ว่าเมาแล้วควบคุมตัวเองไม่ได้หรอก แต่เป็นเรื่องค่าอาหารต่างหาก เหตุเกิดขึ้นในร้านอาหารแห่งหนึ่งในเมือง Huai’an มณฑลเจียงซู ประเทศจีน มีเหตุต่อยตีกันใหญ่โตที่บริเวณเคาน์เตอร์ซึ่งอยู่ใกล้กับทางเข้าภัตตาคาร ภาพเหตุการณ์นี้มีคนใช้กล้องโทรศัพท์มือถือบันทึกไว้ได้จากชั้นบนของร้านอาหาร ในตอนต้นจะเห็นว่าลูกค้ามีปากเสียงกับพนักงานอยู่ แล้วก็เริ่มเปิดฉากต่อยกันทันที คลิปวิดีโอ พอเริ่มชกต่อยกันแล้วหญิงสาวที่สวมเสื้อสีชมพูก็พยายามใช้ของบางอย่างโยนใส่พนักงานของภัตตาคาร พอพนักงานที่สวมเสื้อสีดำเห็นแบบนั้นก็เลยจับตัวเธอยกขึ้นสูง แล้วทุ่มลงกับพื้นอย่างรุนแรงจนหญิงสาวนอนนิ่งไป หลังจากนั้นชายอีกคนหนึ่งก็พยายามจะวิ่งหนีออกไปทางประตูด้านหน้า คนจำนวนมากจึงช่วยกันจับตัวเขาเอาไว้ไม่ให้หนีออกไปได้สำเร็จ ต้นเหตุนั้นทราบว่าเริ่มจากกลุ่มลูกค้าบอกว่าทางร้านคิดเงินค่าอาหารพวกเขาเกินไป 100 หยวน (ประมาณเกือบ 500 บาท) แต่ทางร้านบอกว่าพวกเขาคิดเงินถูกต้องแล้ว พอไม่สามารถตกลงกันได้จึงชกต่อยกันอย่างที่ได้เห็นในคลิปวิดีโอ อย่างไรก็ตามยังไม่มีบทสรุปออกมาว่าฝ่ายใดถูก ฝ่ายใดผิด ตอนนี้ตำรวจได้รับทราบเรื่องแล้ว และกำลังสืบสวนหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่ ที่มา: Shanghaiist
-
ฝรั่งรีวิวภัตตาคารในไทย #7 ของโลก ราคาต่อคน 9,300 บาท จะได้อาหารแบบไหนบ้างนะ!?
เพื่อนๆ เคยดูหนังหรือการ์ตูนที่เกี่ยวกับร้านอาหารหรูๆ บ้างไหม อาหารในร้านพวกนั้นมักจะมีรูปแบบที่แปลกไม่ซ้ำใครออกมาให้เราเห็นอยู่เสมอๆ บางครั้งถึงกับทำให้เราต้องมาดูแล้วดูอีกว่าตกลงไอ้ที่ร้านทำมาให้นั้นมันเป็นอาหารจริงๆ หรือแค่ของประดับจานเท่านั้น เรื่องราวในครั้งนี้เป็นเรื่องราวของคู่รักคู่หนึ่งที่ยอมจ่ายเงินถึง 600 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 18,600 บาท) หรือราวๆ คนละ 9,300 บาท เพื่ออาหารหนึ่งมื้อจากร้านอาหาร Gaggan ร้านอาหารอันดับที่ 7 ของโลกซึ่งตั้งอยู่ในกรุงเทพมหานครนั่นเอง พวกเขาบอกว่ามันช่างเหมือน “การเดินทางผ่านอาหารอินเดียยุคใหม่ ด้วยอีโมจิ 25 ตัว” ฟังแล้วไม่ค่อยเข้าใจใช่ไหมล่ะ เพราะอย่างนั้นเราไปดูภาพกันดีกว่า ภาพอีโมจิ 25 ตัวที่เป็นสัญลักษณ์แทนอาหารแต่ละจาน สัญลักษณ์แต่ละอันแบบใกล้ๆ ส่วนรอยปากกาคือช่วงที่จะมีการเสิร์ฟไวน์นั่นเอง . คู่รักเล่าว่าพวกเขาเคยมาที่นี่หนึ่งครั้งเมื่อ 4 ปีก่อน ตอนนั้นพวกเขาสั่งเมนูอาหาร 2 รูปแบบและของหวานในราคา 70 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 2,200 บาท) และชอบที่นี่มากจนต้องกลับมาอีกครั้ง พวกเขาบอกอีกว่าตัวร้านเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนพอสมควรเลย เชฟ Gaggan Anand พ่อครัวคนสำคัญประจำร้านแห่งนี้ ดูลีลาการทำอาหารเสียก่อน …
-
คุณแม่ไม่พอใจร้านอาหารตั้งชื่อเมนู ‘เบอร์เกอร์รุมโทรม’ เพราะมันส่อไปในเรื่องเพศ!!
เนื่องจากในปัจจุบันมีการแข่งขันกันอย่างสูงขึ้น ทำให้ร้านอาหารหลายแห่งต้องหาความเป็น ‘ซิกเนเจอร์’ ให้กับร้านของตัวเองอย่าง การสร้างเมนูแปลกๆ หรือการจัดบรรยากาศร้านให้แตกต่างจากร้านอื่นออกไป ซึ่งวิธีเหล่านี้ก็สามารถดึงดูดลูกค้าได้เป็นอย่างดีทีเดียว- แต่ก็ยังมีอีกวิธีหนึ่งที่สามารถเรียกเสียงฮือฮาจากลูกค้าได้เช่นเดียวกัน นั่นก็คือการคิดชื่อเมนูแปลกๆ ที่ใครได้ฟังอาจจำต้องขำ หรืออึ้งกับความคิดของเจ้าของร้าน แต่ว่ามีเมนูแปลกๆ เมนูหนึ่งที่ไปทำให้คุณแม่คนหนึ่งโกรธอย่างเป็นฟืนเป็นไฟ เพราะเธอคิดว่านั่นคือคำพูดที่ส่อไปในทางที่ไม่ดีต่อผู้ที่พบเห็นนั่นเอง ร้านอาหารต้นเรื่อง โดยผู้ที่มีความไม่พอใจต่อชื่อเมนูนี้ก็คือคุณแม่ชื่อว่า Anita Robinson ซึ่งเธอบอกเอาไว้ว่าชื่อเมนู ‘เบอร์เกอร์รุมโทรม'(Gangbang Burger) ที่ขายภายในร้าน Khan Pizza เมืองฮัลล์ ประเทศอังกฤษ มันช่างเป็นชื่อที่เสมือนกับต้องการจะบอกว่าความรุนแรงทางเพศเป็นเรื่องที่สามารถยอมรับได้อย่างปกติอย่างไงอย่างงั้น และเธอก็ขอให้ทางร้านนี้เปลี่ยนชื่อเมนูนี้ซะเถอะ สำหรับเมนู ‘เบอร์เกอร์รุมโทรม’ นี้มีส่วนประกอบหลักๆ ก็คือ ไก่จำนวน 4 ชิ้นประกบกับ หัวหอม เห็ด ไข่และตบท้ายบนสุดด้วยชีส แต่ในขณะนี้เมนูนี้ได้ถูกเอาออกจากป้ายของร้านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ป้ายปิดประกาศเมนูนี้ ขณะเดียวกัน Asfand Khan ผู้จัดการร้านอาหารแห่งนี้ก็ยืนยันว่า ชื่อดังกล่าวเป็นชื่อเล่นที่ทางร้านตั้งให้เพื่อความตลกเท่านั้น และไม่ได้ตั้งใจที่จะส่อไปในทางที่ไม่ดีแต่อย่างใด “ฉันคิดว่ามันเป็นสิทธิของพวกเขานะที่จะตั้งชื่อเมนูอย่างนั้น แต่ฉันก็ไม่อยากที่จะต้องมาอธิบายแก่เด็กๆ ว่าคำว่า ‘รุมโทรม’ มันคืออะไรตอนที่พวกเขาเห็นมันเด่นหราอยู่บนป้ายเมนู” “ดังนั้นฉันจึงต้องเดินหน้าเรื่องนี้ต่อไป เพราะว่ามันไม่มีภาพไปในทางที่บวกแต่อย่างใดในคำพูดนี้ ซึ่งถ้ามันถูกเรียกว่า ‘เบอร์เกอร์ทรีซั่ม’ มันก็คงจะแตกต่างกันออกไป แต่มันก็ไม่ใช่อย่างนั้น” Robinson…
-
20 สิ่งที่คุณอาจจะไม่นึกว่าสิ่งเหล่านี้ จะทำให้เด็กเสิร์ฟรู้สึกหงุดหงิดเป็นอย่างมาก
คำว่า ลูกค้าคือพระเจ้า คือคำพูดปลุกใจสำหรับเหล่าผู้ที่ต้องทำงานเกี่ยวกับการบริการ แต่ในการทำงานร่วมกับลูกค้าร้อยพ่อพันแม่นั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ดูแล้วเหนื่อยสุดๆ เพราะอย่างนั้นเหล่าผู้บริการกลุ่มนี้จึงมักจะต้องพบเจอกับปัญหาที่ทำให้ตัวเองต้องหงุดหงิดบ่อยครั้ง งานบริการที่เราคุ้นเคยกันมากที่สุดส่วนมากจะเป็นพวกร้านอาหาร ซึ่งเราทราบกันดีว่าเหล่าพนักงานเสิร์ฟที่ต้องคอยมาบริการให้กับเรานั้นจะต้องพบเจอกับลูกค้าหลากหลายแบบ ทำให้บางครั้งพนักงานเสิร์ฟก็มีบางอย่างที่อยากจะบอกกับเราสักเล็กน้อย 1. พวกเครื่องเคียง น้ำจิ้มทั้งหลายนี้มันไม่ได้มาฟรีๆ นะ บางคนสั่งอย่างกับจะกินยันชาติหน้า 2. เหล่าบรรดาลูกค้าที่ชอบฉีกทิชชู่เล่น แนะนำว่าหากหยุดพฤติกรรมเหล่านี้ไม่ได้ขอให้ช่วยทำความสะอาดด้วย 3. คุณสามารถบอกว่าคุณประทับใจในการบริการนี้ได้ด้วยการให้ทิปหลังจบมื้ออาหาร 4. คู่รักทั้งหลายมักจะย้ายมานั่งข้างๆ กันแล้วปล่อยให้ที่ตรงหน้าว่าง จริงๆ แล้วมาเดตกันก็ต้องนั่งตรงข้ามกันเพื่อจะได้มองหน้าชัดๆ ไม่ใช่หรอ 5. การสั่งแบบพิเศษของคุณลูกค้าบางครั้งมันก็น่าปวดหัวเหลือเกิน 6. ส่งอาหารคืนเพียงเพราะว่ามันไม่อร่อยสำหรับคุณ นี่มันไม่ใช่ความผิดของเชฟนะที่ทำอาหารไม่ถูกปากคุณลูกค้า 7. ลูกค้าที่บอกว่าแพ้กลูเตน ปฏิเสธขนมปังเพียงเพราะเธอไม่อยากกินมัน แต่สั่งเบียร์มาดื่ม นี่เบียร์มันมีกลูเตนนะรู้ยัง? 8.ให้ทิปน้อยเพราะไม่พอใจเกี่ยวกับอาหาร 9. คุณลูกค้ามักขอให้เอาของที่ไม่ชอบออกไปจากจาน นั่นก็ไม่เอา นี่ก็ไม่เอา 10. นั่งแช่ยาวๆ หลังจากอิ่มแล้ว 11. พวกลูกค้าที่มักจะมา…
-
หนุ่มเปิดแชมเปญราคาล้านกว่าบาท เตรียมฉลอง แต่ดั๊นนนนตกแตกซะก่อน อดเบย T T
แชมเปญ เครื่องดื่มที่มักจะถูกนำมาใช้ในการเฉลิมฉลองอยู่บ่อยครั้ง อย่างที่เราเคยเห็นกันในการแข่งจักรยานทางไกล หรือการแข่งรถสูตร 1 นั่นเอง และอย่างที่เราพอจะทราบกันดีว่า ราคาของเจ้าเครื่องดื่มแห่งชัยชนะและการเฉลิมฉลองนี้ก็ไม่ได้มีราคาถูกๆ เลย บางขวดอาจมีราคาสูงถึง 1.3 ล้านบาทเลยก็ได้!! เพราะฉะนั้นล่ะก็ ถ้าคุณเกิดทำมันตกแตกอาจจะเกิดอาการเหวอ แบบหนุ่มคนนี้ก็ได้นะ นี่คือที่มาของคำว่า “ลาบคว่ำ” คลิปวิดีโอความยาวประมาณ 14 วินาทีเผยให้เห็นหายนะของหนุ่มชุดสูท ที่กำลังจะเปิดแชมเปญราคาเกือบล้านเพื่อฉลองในผับดังแห่งหนึ่ง ผู้คนมากมายต่างจับจ้องไปที่เขาพร้อมกับยกโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อเป็นสักขีพยานในจังหวะที่ฟองของเจ้าแชมเปญขวดนี้โพยพุ่งออกมา สาวๆ หลายคนที่กำลังรอคอยจะได้ชิมเครื่องดื่มราคาแพงขวดนี้ต่างพากันส่งเสียงเชียร์ดังก้องยิ่งกว่าตอนที่พวกเธอเจอดาราหนุ่มในดวงใจ แต่ทว่า…. เอาล่ะน้าาา ผมจะเปิดแล้วนะสาวๆ !! งานนนี้ไม่รู้ว่าพ่อหนุ่มหน้ามนคนมีหนวดของเราแก่มากเกินไป หรือว่าเพิ่งเคยเปิดแชมเปญขวดใหญ่เป็นครั้งแรก เขากลับทำความฝันความหวังของแฟนคลับที่ตั้งตารอมากว่า 10 วิหล่นลงกับพื้นซะนี่ เจ้าจุกก๊อกที่อุดปากขวดแชมเปญดูเหมือนจะไม่เป็นใจกับชายหนุ่ม เขาพยายามงัดและดึงอยู่นาน จนในที่สุด… ของเหลวในขวดที่มีราคาล้านกว่าบาทก็หล่นลงกระทบกับพื้นร้านตามแรงโน้มถ่วงของโลก ทึ้งให้พี่เคราดกของเราได้แต่อ้าปากค้าง 1… 2… โพล๊ะ!! ช่างเป็นเรื่องที่น่าเศร้าไม่น้อยเลยทีเดียวสำหรับชายคนนี้ และนี่อาจจะเป็นค่ำคืนที่น่าจดจำสำหรับเขาไม่น้อย ไปชมวินาทีแห่งความหายนะได้กันที่ด้านล่างนี้เลย… ที่มา indy100
-
คนญี่ปุ่นโวย โดนร้านสเต๊กในอิตาลีชาร์จเงินกว่า 44,000 บาท จากการกินสเต๊ก 3 ปลาทอด 1
สำหรับคนที่เคยไปเที่ยวต่างประเทศอาจจะเคยโดนมาบ้าง กับการที่เข้าไปทานร้านอาหารแล้วงงกับค่าใช้จ่ายที่แพงแบบแพงเวอร์ ซึ่งบางทีก็อาจจะอยู่ในระดับที่พอรับได้ บางท่านจึงไม่คิดอะไร คิดเสียว่าเป็นอาหารบ้านเขา นานๆ กินครั้งคงจะไม่เป็นอะไร แต่สำหรับนักเรียนญี่ปุ่น 4 คนนี้ ไม่สามารถคิดแบบนั้นได้จริงๆ เนื่องจากพวกเขาเข้าไปทานอาหารในร้านแล้วโดนคิดค่าอาหารแพงจนแทบอยากจะร้องไห้ การที่ร้านอาหารจะคิดค่าบริการเกินจริงกับชาวต่างชาตินั้นเขาเรียกกันว่า “Tourist Traps“ แปลตรงๆ ก็คือ “กับดักนักท่องเที่ยว” นั่นเอง เรื่องพวกนี้จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะชาวต่างชาติเข้ามาทานอาหารแบบไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ดูท่าแล้วจะไม่ค่อยสังเกตรายละเอียดอะไร จึงเผยให้เห็นช่องโหว่ให้ทางร้านสามารถคิดค่านู่นค่านี่ได้แพงหูฉี่เลยทีเดียว ผู้เคราะห์ร้ายในครั้งนี้ เป็นกลุ่มนักศึกษาญี่ปุ่น 4 คน จากมหาวิทยาลัยโบโลญญา เมืองเวนิซ ประเทศอิตาลี โดยทั้ง 4 คนได้เข้าไปรับประทานอาหารที่ร้าน Osteria Da Luca ที่อยู่ใกล้ๆ กับ St. Mark’s Square พวกเขาสั่งแค่เพียงสเต๊ก 3 ชิ้น และปลาทอดหนึ่งชิ้น พร้อมน้ำดื่มเท่านั้น แต่ทั้ง 4 คนก็ต้องถึงกับหน้าซีดเมื่อเห็นราคาบนใบเสร็จที่ออกมาอยู่ที่ประมาณ 44,500 บาท! นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาถูกขูดรีด เพราะ 3…
-
‘รู้สึกผิดและแย่’ บริกรแชร์คำขอโทษจากกลุ่มเด็ก รู้สึกผิดที่ให้ทิปน้อยและกลับมาจ่ายคืนให้
เมื่อพูดถึงธรรมเนียมการปฏิบัติในบางรัฐของประเทศสหรัฐอเมริกา กับการออกไปรับประทานอาหารนอกบ้านตามภัคตาคารต่างๆ จะต้องมีการให้ทิปกับพนักงานผู้ให้บริการด้วย เพราะถือเป็นสินน้ำใจเล็กน้อยในงานบริการ บวกกับทิปเหล่านี้จะถูกนับรวมเป็นค่าแรงขั้นต่ำด้วย ทั้งนี้จำนวนเงินทิปขั้นต่ำก็ขึ้นอยู่กับภัคตาคารจะเป็นผู้กำหนด โดยส่วนใหญ่แล้วจะกำหนดอยู่ที่ 15-20% ของราคาอาหารในมื้อนั้นๆ กระดาษโน้ตคำขอโทษ 1 แผ่นจากตัวแทนของกลุ่มเด็กหญิง แต่ทว่าเมื่อกลุ่มเด็กหญิง 4 คน อายุประมาณ 13 ปี กลุ่มหนึ่งในเมือง Los Angeles กลับให้ทิปบริกรในจำนวนเพียงแค่ 3.28 ดอลลาร์ (ประมาณ 104 บาท) จากมูลค่าราคาอาหารที่สั่งไปเกือบ 100 ดอลลาร์ (ประมาณ 3,100 บาท) ถึงแม้จะได้รับคำขอบคุณจากกลุ่มเด็กหญิงแล้ว มันก็ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกชื่นใจขึ้นมาได้ แถมยังทำให้รู้สึกหัวเสียอีกต่างหาก แต่เขากลับมารู้ในภายหลังว่า พวกเธอไม่ได้ตั้งใจที่จะทำแบบนี้กับเขา แต่เป็นเพราะว่าพวกเธอเพิ่งจะเคยออกมาทานอาหารด้วยตัวเองเป็นครั้งแรก และไม่รู้ถึงธรรมเนียมการให้ทิป ใจความของการขอโทษรวมกันเป็น 2 หน้ากระดาษ Seminole ชายผู้ใช้นามแฝงในเว็บไซต์ Imgur ได้โพสต์ภาพกระดาษโน้ตคำขอโทษจากกลุ่มเด็กหญิง โดยได้รับภายหลังจากเกิดเรื่องไปแล้วประมาณ 1 สัปดาห์ด้วยใจความดังต่อไปนี้… …
-
ร้านตอบกลับแบบจัดเต็ม หลังลูกค้าคอมเพลนเรื่องราคาฟิชแอนด์ชิพที่แพงเกิ๊นนน
ร้านอาหารแทบทุกร้านต้องเคยเจอกับคำวิพากษ์วิจารณ์ของลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ ทั้งคำชมและการกล่าวถึงข้อบกพร่อง เหมือนอย่างร้านอาหารในเมืองเบอร์เคนเฮด ประเทศอังกฤษ ที่มีลูกค้ารายหนึ่งเข้ามาต่อว่าเกี่ยวกับราคาอาหารที่ดูเหมือนจะแพงจนเกินไป และนั่นจึงทำให้ทางร้านไม่อาจนิ่งเฉยกับคำพูดของเธอได้ ร้านอาหารดังกล่าวมีชื่อว่า Oxton Bar and Kitchen ซึ่งถูกลูกค้ารายหนึ่งเข้ามาเขียนรีวิวเอาไว้ในเพจเฟซบุ๊ก เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2018 ทางร้านจึงทำการตอบกลับไป และอธิบายเกี่ยวกับสิ่งที่หญิงสาวคนนั้นไม่พอใจ รีวิวนั้นเขียนไว้ว่า “อาหารอร่อย พนักงานบริการเยี่ยมมาก แต่ฉันไม่เข้าใจเลยว่าคุณนำเสนอราคาอาหารแบบนี้ได้ไง ฟิชแอนด์ชิพจานเล็กราคา 8 ปอนด์ (ประมาณ 350 บาท) ได้อยู่หน่อยเดียวเนี่ยนะ?” เฟซบุ๊กที่ชื่อว่า Debbie Davies ได้เขียนรีวิวลงไปบนหน้าเพจร้าน เมื่อเห็นว่าเป็นอย่างนั้น ทางร้านจึงตอบกลับไปในคอมเมนต์เกี่ยวกับราคาสินค้า มองว่ามันก็เป็นราคาที่น่าจะยอมรับได้ และอธิบายว่าทำไมมันถึงมีราคาเท่านั้น พวกเขาเริ่มจากการอธิบายเกี่ยวกับราคาของอาหารจานดังกล่าวว่า ที่มันราคา 8 ปอนด์ เพราะบวกภาษีของรัฐบาลไป 20 เปอร์เซ็นต์ ทำให้ทางร้านได้มาจริงๆ แค่ 6.66 ปอนด์ (ประมาณ 291 บาท) และจากที่เราได้มา จะเป็นค่าวัตถุดิบต่างๆ…
-
ไม่มีเงินจ่าย ไม่มีปัญหา… ร้านอาหารญี่ปุ่นไอเดียดี ใช้แรง 50 นาที ก็แลกกับความอร่อยได้
จะเป็นอย่างไรถ้าเราเดินผ่านร้านอาหารแสนน่ากินที่มีกินหอมหวนโชยมาตลอดเวลา แต่ว่าในกระเป๋าไม่มีเงินแม้แต่แดงเดียว นั่นมันคงทำให้เราเข้าใจถึงอารมณ์ผู้ที่ไม่มีเงินซื้อของกินหรือคนไร้บ้านได้เป็นอย่างดี ทว่ามีร้านอาหารแห่งหนึ่งที่เข้าใจถึงความลำบากของผู้คนเหล่านี้ จึงได้เปิดร้านอาหารที่สามารถให้ลูกค้าสามารถทำงานแลกกับค่าอาหารได้ และที่สำคัญคือใช้เวลาเพียงแค่ 50 นาทีเท่านั้น.. ร้านอาหารที่ว่านี้มีชื่อว่า Mirai Shokudo ตั้งอยู่ที่เขตชิโยะดะ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเจ้าของไอเดียสุดเจิดจรัสนี้ก็คือ Sekai Kobayashi อดีตวิศวกรวัย 33 ปีเจ้าของร้านอาหารแห่งนี้นั่นเอง “ที่ฉันเลือกที่จะใช้ระบบนี้ก็เพราะว่า ฉันอยากจะช่วยเหลือผู้คนหิวโหย ที่ไม่มีเงินแม้แต่จะเข้าร้านอาหาร” Kobayashi กล่าว สำหรับงานที่เจ้าของร้านแห่งนี้บอกว่าจะทำให้ทำเป็นเวลา 50 นาทีเพื่อแลกกับอาหารนั้น ก็เป็นงานง่ายๆ ที่ใครๆ ก็สามารถทำได้อย่างเช่น เสริฟอาหาร จัดเก็บโต๊ะเมื่อลูกค้าออกไปแล้ว เตรียมโต๊ะอาหารให้พร้อมสำหรับการบริการครั้งต่อไป เป็นต้น เธอบอกว่าร้านอาหารแห่งนี้เปิดมาได้เป็นเวลากว่า 2 ปีแล้ว และเป้าหมายสูงสุดก็คือ จะทำให้ร้านอาหารแห่งนี้เป็นสถานที่ที่ต้อนรับและพร้อมให้บริการทุกคน ซึ่งในตอนแรกก่อนที่เธอจะเปิดร้านนี้ เธอก็บอกว่าเธอเคยทำงานมาหลายอย่างตั้งแต่สมัยยังคงเป็นนักเรียนอยู่ และจุดเปลี่ยนในชีวิตของเธอก็คือการไปทำงานที่บาร์แห่งหนึ่งในย่านโกลเด้นไก หลังจากที่เรียนจบ ซึ่งสถานที่นี้เองที่ทำให้เธอรู้ว่า “มันคงไม่ใช่ประสบการณ์ที่แย่อะไรที่จะออกไปเผชิญโลกภายนอก” หลังจากนั้น Kobayashi ก็ไปทำงานเป็นวิศวกรที่บริษัท IBM และได้ย้ายงานต่อไปที่บริษัท Cookpad ซึ่งเป็นบริษัทที่ดำเนินการเกี่ยวกับเว็บไซต์สูตรทำอาหาร โดยภายในออฟฟิศบริษัทนี้ก็มีห้องครัวที่ให้พนักงานสามารถทำอาหาารได้ด้วยตัวเอง สถานที่นี้จึงกลายมาเป็นสถานที่ฝึกรสมือของเธอเลยก็ว่าได้ “เพื่อนร่วมงานของฉันหลายคน…
-
พ่อค้าเดินทางกว่า 860 กม. เพื่อมาดักทำร้ายหญิงสาว หลังเธอตำหนิที่ร้านที่ส่งของล่าช้า
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับหญิงสาวจากเมืองเจิ้งโจว ในระหว่างที่เธอกำลังยืนรอรับพัสดุที่สั่งซื้อทางอินเตอร์เน็ตอยู่ แต่ทว่าเมื่อพัสดุมาส่งเธอกลับถูกพ่อค้าหนุ่มที่เดินทางมาไกลเกือบ 1,000 กิโลเมตรลงมาทำร้ายอย่างรุนแรง!! เมื่อวันที่ 23 ธันวาคมที่ผ่านมา หญิงสาวที่ใช้นามแฝงของตัวเองว่า Xiao Li ได้ร้องเรียนพ่อค้าคือนาย Zhang หลังจากเสื้อผ้าที่เธอสั่งนั้นไม่ได้ถูกจัดส่งตรงตามเวลาที่ระบุเอาไว้ การทำร้ายร่างกายนี้เกิดขึ้นหลังจากที่นาย Zhang ได้โทรศัพท์และส่งข้อความข่มขู่ลูกค้าของเขา เมื่อวันที่ 27 ธันวาคมหญิงสาวได้รับข้อความระบุว่าพัสดุของเธอนั้นได้เดินมาถึงจุดรับสินค้าเรียบร้อยแล้ว และด้วยความดีใจเธอจึงรีบออกไปรับสินค้า ภาพวิดีโอจากกล้องวงจรปิดด้านนอกของจุดรับสินค้าในเมืองเจิ้งโจว เผยให้เห็นหญิงสาวคนดังกล่าวที่กำลังยืนรอรับสินค้าของเธอ และเมื่อพ่อค้าหนุ่มมาถึงเขาก็วิ่งเข้ามาทำร้ายร่างกายเธอทันที ชายหนุ่มชกเข้าที่หน้าและหน้าอกของหญิงสาวหลายครั้งจนเธอลงไปนอนกับพื้นก่อนที่จะหนีไป คลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดภายนอกจุดรับสินค้า Xiao Li ถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาพยาบาล และระหว่างที่เธอกำลังพักรักษาตัวอยู่นั้น เธอยังได้รับข้อความจากพ่อค้าคนดังกล่าวที่บอกว่าเขายอมเดินทางข้ามวันข้ามคืนกว่า 860 กิโลเมตรจากเมืองซูโจวเพื่อมาทำร้ายเธอเลยทีเดียว ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังทำการสืบสวนเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ ซึ่งเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวนั้นไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศจีน ก่อนหน้านี้ในเดือนกันยายนปี 2017 ที่ผ่านมา หนุ่มส่งอาหารคนหนึ่งได้ทำร้ายร่างกายของลูกค้าสาวในมณฑลไหหลำ เนื่องจากเกรงว่าเธอจะเขียนรีวิวต่อว่าเขาหลังจากที่นำอาหารมาส่งช้า ที่มา medium
-
ดาราสาวเจอ “เมนูประหลาด” ในร้านดัง พอรู้เป็นผ้าเช็ดปาก เกิดเป็นกระแสโคตรฮอตในเน็ต!!
เราอาจเคยเจออาหารที่มาในรูปแบบพิสดาร มีความเป็นศิลปะที่เกิดจากจินตนาการของพ่อครัว กับการจัดจานซะจนเรางงว่า อาหารจานนี้เราต้องกินยังไง? หรือมันเป็นอาหารจริงๆ ใช่มั้ย? ซึ่งนั่นคงเป็นคำถามเดียวกันกับที่นักแสดงสาวคนนี้เกิดความสงสัย เมื่อไปเจอกับร้านอาหารร้านนี้ ดาราสาวชาวอังกฤษ Tracy Ann Oberman และ Rob Cowan สามีของเธอ ทั้งสองได้มีโอกาสไปกินอาหารในร้านที่ได้ดาวมิชลินถึง 3 ดาว จนได้เจอกับความพิสดารของอาหารแต่ละจานที่มาเสิร์ฟให้กับพวกเธอ Tracy Ann Oberman ดาราสาววัย 51 ปี ร้านอาหารแห่งนี้เป็นของเชฟชื่อดังอย่าง Martín Berasategui ผู้มีร้านอาหารกว่า 12 แห่งทั่วประเทศสเปน เม็กซิโก และสาธารณรัฐโดมินิกัน จึงรับรองได้เลยว่าอาหารของที่นี่จะต้องถูกปากอย่างแน่นอน แต่ก่อนที่จะได้ลิ้มรสความอร่อยของอาหาร พวกเธอก็เจอเข้ากับความพิสดารของรูปแบบอาหารแต่ละชนิดเสียก่อน เมื่อจานแรกมาถึง มันคืออาหารที่อยู่บนขอนไม้รูปทรงประหลาด จนอาจทำให้หลายๆ คนคิดว่ามันจะกินได้จริงๆ ใช่มั้ย? รูปแบบของภาชนะที่ดูพิลึกชอบกล สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เธออดใจไม่ไหว ถ่ายรูปโพสต์ลงในทวิตเตอร์ส่วนตัวพร้อมกับแท็กขอความช่วยเหลือจากผู้ใช้ที่ชื่อว่า WeWantPlates เพื่อแสดงให้เห็นว่าเธอคงต้องการให้อาหารใส่จานมามากกว่าที่จะออกมาในรูปแบบนี้ เธอคงจะอยากให้มันใส่จานมาเสิร์ฟมากกว่าอะไรแบบนี้ และมันยังไม่จบแค่นั้น…
-
พนักงานถ่ายภาพเหล่าสัตว์เลี้ยงที่แวะเวียนผ่านไดรฟ์-ทรู น่ารักจริงๆ เลยนะพวกแกเนี่ยย!!
ภาพของเหล่าเจ้าตูบจากคุณ Natasha Jones พนักงานประจำร้านไดร์ฟทรูของ Einstein Bros ร้านขายเบเกิลในรัฐฟลอริดาที่เผยให้เห็นถึงความน่ารักของเหล่าสัตว์เลี้ยงในระหว่างที่เจ้านายของพวกมันขับรถเข้ามาใช้บริการในร้านขนมแห่งนี้ คุณ Natasha Jones เล่าว่าเขาเริ่มทำงานที่ร้านไดร์ฟทรูแห่งนี้เมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2017 และเริ่มต้นถ่ายภาพเหล่าเจ้าตูบและเหล่าสัตว์ในเดือนธันวาคม “ฉันแค่คิดว่าพวกมันน่ารักดีก็เลยถ่ายภาพเหล่านั้น ทุกๆ ครั้งที่ฉันถ่ายรูปพวกมัน ก็จะเอาขนมให้พวกมันด้วย” พนักงานสาวกล่าว ภาพเหล่าสัตว์เลี้ยงที่พนักงานสาวถ่ายนั้นมีหลากหลายสายพันธุ์ไม่ว่าจะเป็นสุนัขพันธุ์ชีวาวา เยอรมันเชพเพิร์ด หรือแม้แต่เจ้าเหมียวเองก็ตาม หวัดดีฮะ ขอเบเกิลชิ้นหนึ่งครับผม!! . ได้เจอเจ้าตูบและเหล่าสัตว์เลี้ยงบ่อยๆ แบบนี้ หลายๆ คนเริ่มอิจฉาแล้วใช่ไหมล่ะ!? . . . มาแบบแพคคู่กันเลยทีเดียว!! . . ขอขนมให้เจ้านายผมหน่อยครับผม!! . . . ส่งอาหารมาพรรคพวกถ้านายไม่อยากเจ็บตัว!! และสำหรับใครที่อยากติดตามความน่ารักของเหล่าเจ้าตูบที่มาซื้อขนมกับเจ้านายที่ร้านนี้ล่ะก็ สามารถเข้าไปติดตามได้ที่อินสตราแกรม ebdogs4096 กันได้เลย… ที่มา boredpanda
-
จดหมายจากผู้สำนึกผิดหลังจากที่ ‘ชักดาบค่าอาหาร’ ส่งเงินกลับมาให้พร้อมคำขอโทษ
แน่นอนว่าการกินแล้วชักดาบคงทำให้เจ้าของร้านอาหารทุกคนรู้สึกไม่พอใจ ที่ตัวเองต้องสูญเสียรายได้ แต่บางครั้งสิ่งที่เกิดขึ้นอาจไม่ได้มาจากความตั้งใจเหมือนอย่างเหตุการณ์นี้ Apollo Apollinaire เจ้าของร้าน Kilimandjaro ในประเทศอังกฤษ ได้เล่าว่าเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2017 เขาได้เจอกับลูกค้าสามคนที่เข้ามากินอาหารในร้านแล้วออกไปโดยไม่ได้จ่ายเงินเลยซักบาท ซึ่งนั่นก็ทำให้เขารู้สึกไม่พอใจอย่างมาก แม้ราคาอาหารมันจะไม่มาก แต่นั่นก็ทำให้เขาคิดว่าบนโลกนี้ยังมีคนเห็นแก่ตัวแบบนี้อยู่จริงๆ แต่ผ่านไปไม่กี่วัน ความคิดนั้นก็เปลี่ยนไป เมื่อมีจดหมายส่งมาที่ร้าน โดยภายในมีเงินและคำขอโทษจากชายสามคนนั้น Apollo เจ้าของร้านอาหารสไตล์แอฟริกัน-แคริบเบียนแห่งนี้ ในจดหมายเล่าว่า ตอนแรกทั้งสามต้องการจ่ายเงินผ่านบัตรแต่ว่าทางร้านรับแต่เงินสดเท่านั้น พวกเขาจึงเดินออกไปหาตู้ ATM ระหว่างนั้นก็คิดกันได้ว่ารถไฟขบวนสุดท้ายที่จะเดินทางไปเมืองบ้านเกิดของพวกเขากำลังจะออกจากสถานีแล้ว ทั้งสามจึงรีบไปขึ้นรถไฟจนลืมกลับมาจ่ายเงิน พวกเขาจึงส่งเงินประมาณ 1,730 บาท สำหรับจ่ายค่าอาหารที่กินไป เพื่อแสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบ และขออภัยที่ไม่สามารถเดินทางจากเมือง Middlesbrough มาขอโทษเจ้าของร้านด้วยตัวเองได้ แต่ถึงจะไม่ได้มาขอโทษต่อหน้า แค่นี้ก็ทำให้ Apollo รู้สึกปลาบปลื้มและประทับใจกับการแสดงความรับผิดชอบ และคำขอโทษของพวกเขา เจ้าของร้านคนนี้จึงถ่ายทอดสิ่งที่เกิดขึ้นลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว และชาวเน็ตก็ได้เข้ามาแสดงความคิดเห็น “เยี่ยมไปเลย เพราะอย่างน้อยพวกเขาก็รับผิดชอบและจ่ายค่าอาหาร ยังคงมีคนดีๆ อยู่บนโลกของเราจริงๆ สินะ” “ไม่บ่อยหรอกนะที่จะมีอะไรแบบนี้เกิดขึ้นในปัจจุบัน สังคมต้องการคนอย่างพวกเขานี่แหละ” …
-
ภัตตาคาร ‘สายเปลือย’ จากฝรั่งเศส ปล่อยให้ลูกค้าล่อนจ้อนทานอาหาร เพิ่มอรรถรสในการชิม
โดยปรกติแล้วการทานอาหารในภัตตาคารหรูๆ คุณอาจจะต้องเตรียมตัวให้พร้อม และอาจจะต้องหาชุดหล่อๆ มาใส่เพื่อเสริมบุคลิกให้กับตัวเอง แต่สำหรับที่ภัตตาคาร O’naturel ในกรุงปารีสนั้นคุณแทบจะไม่ต้องกังวลเรื่องเสื้อผ้าให้ปวดหัวเลย!! ภัตตาคารนู้ดแห่งแรกในฝรั่งเศสนี้ จะทำให้คุณเพลิดเพลินไปกับอาหารท้องถิ่นสุดคลาสสิคที่หาทานได้ยาก และที่สำคัญคุณยังสามารถเอร็ดอร่อยกับอาหารแบบไม่สวมเสื้อผ้าอีกด้วย แต่อย่างไรตามที่นี่ไม่ใช่ร้านภัตตาคารนู้ดแห่งแรกของยุโรป โดยก่อนหน้านี้ในปี 2016 ได้มีการเปิดภัตตาคารแบบนี้ขึ้นในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ และดูเหมือนว่ามันจะประสบความสำเร็จมากๆ อีกด้วย คุณ Mike และคุณ Stephane Saada สองพี่น้องฝาแฝดที่ได้รับแรงบันดาลใจจากภัตตาคารนู้ดจากเกาะอังกฤษ และเริ่มนำมันมาให้ชาวฝรั่งเศสได้สัมผัส และมองเห็นว่าภัตตาคารแบบนี้จะสามารถเติบโตได้ที่ฝรั่งเศสเช่นกัน คุณ Strphane เจ้าของร้านวัย 42 ปีให้สัมภาษณ์ว่า “โดยส่วนมากแล้วผู้คนมักจะเปลือยกายเฉพาะช่วงหน้าร้อน แต่ว่าร้านของเราช่วยให้พวกเขาสนุกกับการเปลือยกายได้ตลอดทั้งปี” ภายในร้าน O’naturel นั้นถูกประดับตกแต่งแบบสไตล์มินิมอล และพร้อมที่บริการอาหารฝรั่งเศสหรูๆ อย่างเช่นล็อบสเตอร์ ตับห่าน และหอยทากกับครีมพาสลีย์ นอกจากนี้ยังมีเมนูสำหรับคนที่เป็นมังสวิรัติอีกด้วย โดยคอร์สอาหารแบบ 3 จานนั้นเริ่มต้นที่ราคา 57.5 เหรียญสหรัฐหรือประมาณ 1,800 บาท ซึ่งก่อนที่จะเข้าไปทานอาหารภายในร้านได้นั้นลูกค้าจะต้องถอดเสื้อผ้ารวมทั้งโทรศัพท์มือถือไว้ด้านนอกห้องก่อน โดยที่พวกเขาสามารถสวมเพียงแค่รองเท้าแตะเข้าไปในร้านได้เท่านั้น “หน้าที่ของเราคือทำให้ลูกค้าพอใจ เมื่อพวกเขาเข้ามาในส่วนของห้องอาหารแล้วหน้าที่ของเราคือทำให้พวกเขาสบายใจ และไม่รู้สึกว่ากำลังถูกแอบมองอยู่” คุณ Stephane กล่าว ร้านอาหารแห่งนี้เปิดให้บริการเฉพาะมื้อเย็นเท่านั้น และจะมีการคัดกรองลูกค้าที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมจากร้านอีกด้วย…
-
เชฟมือดี เผย 5 สิ่งที่คุณไม่เคยรู้มาก่อน เกี่ยวกับการทำงานในร้านอาหารสุดโหด!!!
“เชฟ” อาชีพในฝันของใครหลายๆ คน ที่มีหน้าที่สร้างสรรค์การศิลปะอาหารให้กับผู้ลิ้มรสจากทั่วโลก แต่จะมีสักกี่คนที่จะรู้ว่าการเป็นเชฟนั้นไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด แถมการทำงานอยู่หลังครัวนั้นมีความลับที่ทุกคนยังไม่เคยรู้มาก่อน และในครั้งนี้เชฟชื่อดังจะมาเผยเรื่องลับที่ทุกคนยังไม่เคยรู้ เกี่ยวกับการทำงานสุดหินเบื้องหลังการเสิร์ฟอาหารสุดหรู “งานครัวที่ไม่เคยพัก” เชฟต้องทำงานตลอดเวลาเพื่อให้ทันกับความต้องการของลูกค้า “งานครัวคืองานที่ต้องทำตลอด 24 ชั่วโมง คนอื่นคงไม่รู้หรอกว่าเราต้องเตรียมวัตถุดิบทุกอย่างไว้ก่อนที่จะทำอาหารทั้งหมด” Ashley Davis เชฟฝีมือดีที่ได้รับรางวัลเชฟและหัวหน้าเชฟ Copper Pot Seddon ในเมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย กล่าวเอาไว้ “เราต้องทำอาหารตลอดทั้งคืนเพื่อให้ทันเวลา และเชฟทำงานมากถึง 14 ชั่วโมงต่อวันเลยล่ะ” “การควบคุมและจัดการงานในร้านอาหารเป็นเรื่องยาก” เชฟ Davis อธิบายประสบการณ์ในร้านอาหารว่า แม้ว่าภาพรวมของร้านอาหารจะเป็นความสัมพันธ์ระหว่างลูกค้าและอาหารที่เสิร์ฟออกไป แต่ในความจริงแล้วมีคนที่ทำงานอยู่เบื้องหลังมากมาย “ร้านอาหารคือเรื่องของทุกคน ตั้งแต่คุณลูกค้า พนักงานเสิร์ฟ ซัพพรายเออร์ เกษตรกร การขนส่ง คนขับรถส่งของ และอีกหลายๆ อย่าง” “ดังนั้นการที่จะลงมาจัดการในทุกๆ ขั้นตอนนั้น จึงเป็นเรื่องที่ยากพอสมควรเลยล่ะ” “เมนูอาหารไม่ได้หรูหราแบบนี้พวกคุณเห็น” Kathleen Schaffer อดีตเชฟผู้บริหารและผู้ก่อตั้ง Schaffer อธิบายว่ารายการอาหารบางอย่างในร้านอาหารนั้นคือการ “สร้างกำไร” อาหารจานหนึ่งที่มีราคาไม่แพงมากนัก ถูกจัดแต่งให้ดูหรูหราเพื่อที่จะเพิ่มราคาให้สูงขึ้น “หากอาหารขาดส่วนผสมไปอย่างหนึ่ง จะไม่สามารถจัดเสิร์ฟได้เลย” พวกเราไม่สามารถที่จะใช้ส่วนผสมอื่นแทนส่วนผสมที่ขาดหายไปได้ ดังนั้นคนทำอาหารจะต้องจัดหาส่วนผสมนั้นมาให้ได้…
-
ร้านอาหารเปิดรับ “ขยะพลาสติก” มีค่าเทียบเท่าเงินตราเพราะใช้แลกซื้ออาหารได้
ขยะหลายๆ อย่างเราอาจมองว่ามันไร้ค่าไม่สามารถทำประโยชน์อะไรได้อีก อย่างเช่นพวกผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากพลาสติกที่เมื่อทิ้งไปก็รอให้มันย่อยสลายเพียงอย่างเดียว แต่ว่าในร้านอาหารแห่งนี้กลับมองค่าของมันต่างออกไปเพราะสามารถนำขยะพลาสติกเหล่านั้นมาใช้แทนเงินตราจ่ายค่าอาหารได้ ร้านนี้มีชื่อว่า Methane Gas Canteen เป็นร้านของคู่สามีภรรยา Sarimin และ Suyatmi โดยจุดเด่นของร้านอาหารนี้ก็คือการใช้ปริมาณของขยะพลาสติกที่คุณเก็บมาได้แทนเงินตราเพื่อมาแลกเป็นอาหารหนึ่งจาน Suyatmi (คนซ้าย) และ Sarimin (คนขวา) สองสามีภรรยาเจ้าของร้าน ร้านดังกล่าวตั้งอยู่ในลานที่ทิ้งขยะ Jatibarang เมืองเซอมารัง ประเทศอินโดนีเซีย กลุ่มลูกค้าหลักที่เข้ามาใช้บริการก็คือชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในละแวกนั้น ซึ่งส่วนใหญ่ทำอาชีพเป็นคนเก็บขยะในบริเวณนั้นอยู่ก่อนแล้ว วิธีการนำขยะพลาสติกมาเปลี่ยนเป็นอาหารในลักษณะนี้เป็นไอเดียของนายกเทศมนตรีประจำเมือง Hendrar Prihadi ที่ได้มอบหมายหน้าที่ให้สองสามีภรรยาเมื่อปี 2014 เพื่อช่วยลดจำนวนของขยะพลาสติกในสถานที่แห่งนี้ให้ลดน้อยลง ขยะพลาสติกและขยะที่ย่อยสลายไม่ได้นับเป็น 40 เปอร์เซ็นต์ของขยะ 800 ตันที่ถูกนำมาทิ้งในที่แห่งนี้ทุกๆ วัน และถึงแม้ว่าจำนวนของขยะประเภทนี้มีอยู่เยอะมาก แต่คนส่วนใหญ่ก็เลือกที่จะไม่เก็บไปขายเพราะเงินที่ได้กลับมานั้นถือว่าถูกมากๆ โดยขยะพลาสติกเมื่อชั่งขายจะได้เพียงกิโลกรัมละ 1.3 บาทเท่านั้น เมื่อไม่มีใครเก็บขยะประเภทนี้ไปขาย มันก็จะไหลลงไปในแม่น้ำและสะสมกันอยู่ข้างใต้จนทำให้ระดับน้ำสูงขึ้นและอาจท่วมหมู่บ้านได้ในที่สุด นอกจากนั้นในปี 2014 ก็ได้เกิดเหตุการณ์เพลิงไหม้ที่สร้างความเสียหายโดยรอบไปกว่า 40,000 ตารางเมตร ซึ่งคาดว่าเกิดจากก๊าซมีเทนที่กระจายตัวออกมาจากขยะประเภทนี้ …
-
ชาวเน็ตวิจารณ์ยับ หลังพบร้านอาหารใน ‘อาร์มีเนีย’ ขังหมีไว้ให้ลูกค้าดูเล่น..!?
กลายเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่องค์กรช่วยเหลือสัตว์ทั่วโลกต่างพูดถึง หลังจากที่มีการแพร่ภาพของร้านอาหารแห่งหนึ่งในประเทศอาร์มีเนีย โดยเว็บไซต์ Dailymail ได้นำเสนอภาพของหมีสีน้ำตาลผู้น่าสงสาร ที่ถูกกักขังไว้ภายในกรงเหล็กขนาดเล็ก เพียงเพื่อใช้มันเป็นจุดสนใจสำหรับดึงลูกค้าเข้ามารับประทานอาหาร..!? สภาพของน้องหมีที่ต้องอาศัยอยู่ในพื้นที่คับแคบ และนั่งดูลูกค้ารับประทานอาหาร มุมจากโต๊ะอาหารของลูกค้า จะเห็นได้ว่าหมีสีน้ำตาลถูกขังไว้อย่างน่าสงสาร และพยายามเรียกร้องขอความช่วยเหลือ แม้ว่า ‘อาร์มีเนีย’ จะเป็นประเทศที่มีประเพณีการจับหมีเพื่อเลี้ยงดูมาอย่างช้านาน ทว่าการจับหมีสีน้ำตาลออกมาจากแหล่งอาศัยตามธรรมชาติ และนำมันมาใช้หาผลประโยชน์เช่นนี้ ก็ถูกหลายองค์กรทั่วโลกโจมตีและวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก จากกระแสวิพากษ์วิจารณ์ดังกล่าว ทำให้กลุ่ม IAR จากอังกฤษ ได้ประกาศลดจำนวนหมีที่ถูกนำมาขังในประเทศอาร์มีเนียให้ได้มากที่สุด… “บางตัวถูกขังอยู่ในนั้นมาเกือบทั้งชีวิต ประทังชีวิตอยู่ด้วยเศษอาหารเหลือจนพวกมันมีสภาพร่างกายผอมซูบ” “อีกทั้งพวกมันยังต้องอาศัยอยู่ในน้ำที่ไม่มีการระบาย และเหม็นอับ หลายๆ ตัวพยายามหาวิธีปีนหนีออกมาแต่ก็ไม่สำเร็จ” Alan Knight หัวหน้าองค์กร IAR เล่า ซึ่งตอนนี้ทางองค์กรกำลังวางแผนและระดมเงินทุน หวังปลดปล่อยอิสรภาพให้พี่หมีกว่า 80 ชีวิตทั่วทั้งอาร์มีเนีย การจะช่วยเหลือหมีตัวหนึ่งต้องใช้ค่าใช้จ่ายรวมแล้วสูงถึง 4,000 ยูโร (ราว 150,000 บาท) ไม่ว่าจะค่าขนส่ง ค่ารักษาพยาบาล ค่าที่อยู่พักฟื้น…
-
ชายหนุ่มไปกินข้าวหน้าเป็ดเฉยๆ ดั๊นเจอ “ห่าน” ที่ร้านเตรียมเชือด ได้ไถ่ชีวิตมาเลี้ยงซะเลย
ตลอดเวลาที่ผ่านมา มีเรื่องราวที่สุดแสนจะประทับใจเกี่ยวกับการช่วยเหลือสัตว์เกิดขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเหลือหมาแมวจรจัดจากศูนย์พักพิง ให้กลับมามีชีวิตที่สดใสอีกครั้งในบ้านหลังใหม่ และในครั้งนี้ก็ถึงคิวของ “เจ้าห่าน” ตัวหนึ่ง ที่สุดแสนจะโชคดี หลังจากที่มันได้รับการช่วยเหลือก่อนที่จะถูกส่งไปเชือด เพื่อเป็นอาหารอันโอชะของมนุษย์ ทางด้านคุณ Manuschai Jenkittiwattana ผู้ที่ได้ช่วยเหลือห่านตัวนี้ ได้ออกมาแชร์ภาพพร้อมเรื่องราวของมันในเฟสบุ๊ค โดยระบุว่า.. ในวันที่ 22 กันยายน 2017 ที่ผ่านมา ขณะที่เขากำลังนั่งรับประทานข้าวหน้าเป็ดในร้านอาหารแห่งหนึ่งอยู่นั้น จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงร้องของห่านดังขึ้นมา และนั่นก็ทำให้เขารีบวางช้อน แล้วเดินออกไปดูบริเวณข้างร้านทันที และสิ่งที่เขาได้พบก็คือ เจ้าห่านที่อยู่ในกรงตัวนี้… ภายหลังจากที่พบเจ้าห่าน คุณ Manuschai ก็ได้เข้าไปสอบถามเจ้าของร้าน และพบว่า เจ้าห่านตัวนี้กำลังจะถูกนำไปเชือดขาย “ผมจะเข้าไปลูบหัวมัน เพื่อเช็คดูว่ามันดุไหม ซึ่งมันก็ขู่ฟ่อๆ ใส่ทันที จึงทำให้ผมไม่ได้ช่วยมัน(ในตอนแรก) แต่ด้วยความคาใจเลยทำให้ผมต้องขับรถกลับมาดูอีกครั้ง และพบว่ามันยังมีชีวิตอยู่ แต่ถูกมัดขาเอาไว้ พอเข้าไปถามพนักงานในร้านอาหารว่ามันจิกกัดไหม เขาก็ตอบกลับมาว่ามันกัด แต่ผมก็ยังอยากจะช่วยมัน และยอมเจ็บ เลยตัดสินใจดึงเชือกเข้ามา แล้วค่อยๆ ลูบหัวจากด้านหลัง ซึ่งมันก็ไม่ได้จิกกัดผม แถมยังให้ผมลูบหัว…
-
ร้านแมคโดนัลด์สาขาที่สาม หนึ่งในสาขาที่เก่าแก่ที่สุด เปิดมาตั้งแต่ปี 1953 จนถึงปัจจุบัน…
แมคโดนัลด์เป็นหนึ่งในร้านอาหารที่ผู้คนใช้บริการมาเป็นเวลานาน โดยมีสาขาใหม่เกิดขึ้นเรื่อยๆ ทั่วโลก แล้วเราเคยสงสัยมั้ยว่าสาขาที่เก่าแก่ที่สุดเปิดมาตั้งแต่ปีอะไร ปัจจุบันยังอยู่มั้ย และมันตั้งอยู่ที่ไหน? เว็บไซต์ Thevintagenews ได้เปิดเผยว่าหนึ่งในร้านแมคโดนัลด์สาขาที่เก่าแก่ที่สุด ตั้งอยู่ที่ 10207 Lakewood Boulevard ใน Florence Avenue รัฐแคลิฟอร์เนีย เป็นสาขาที่ 3 เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 1953 สำหรับตำนานร้านอาหารแมคโดนัลด์นั้น เริ่มก่อตั้งเมื่อปี 1937 โดยสองพี่น้อง Richard และ Maurice McDonald เปิดร้านอาหารที่ชื่อว่า Airdrome ก่อนที่จะย้ายอาคารที่ตั้งในปี 1940 มาที่ 1398 North E Street เป็นรูปแบบอาหารบาร์บีคิวไดรฟ์ทรู ในเมืองแซนเบอร์นาร์ดีโน ซึ่งเป็นเมืองเล็ก ๆ ในรัฐแคลิฟอร์เนีย และพบว่ากำไรจากการขายอาหารส่วนใหญ่นั้นมาจากเมนู ‘แฮมเบอร์เกอร์’ จากนั้นในปี 1948 ทางร้านก็ได้ปิดให้บริการเป็นเวลา 3 เดือน ก่อนจะกลับมาเปิดอีกครั้งในเดือนธันวาคมในรูปแบบเพิงขายมีที่นั่งด้านนอกแบบชั่วคราวเพียงเล็กน้อย โดยมาพร้อมเมนูใหม่คือ แฮมเบอร์เกอร์ มันฝรั่งทอด และน้ำส้ม และภายปีต่อมาได้เพิ่มเฟรนซ์ฟราย…
-
ร้านอาหารในคอสตาริกา แปลงโฉม “เครื่องบินจากสงครามเย็น” ให้กลายเป็นร้านอาหารหรู
การได้ทานอาหารดีๆ ในร้านที่มีบรรยากาศสวยๆ คงจะเป็นหนึ่งในสิ่งที่หลายๆ คนปรารถนา และวันนี้เราก็มีร้านอาหารสวยๆ มาให้ทุกคนได้ชมกัน ซึ่งขอบอกเลยว่าโครงสร้างของร้านนั้นไม่ซ้ำใครแน่นอน เพราะร้านแห่งนี้สร้างมาจากเครื่องบินรบ!! ร้าน El Avion จากประเทศคอสตาริกานี้ถูกสร้างมาจากเครื่องบินทหารของสหรัฐอเมริกา C-123 Fairchild ซึ่งเป็นเครื่องบินที่ถูกใช้ในช่วงสงครามเย็น โดยเครื่องบิน C-123 ลำนี้ถูกทิ้งร้างไว้ในฐานทัพอากาศ San José ก่อนที่จะถูกเจ้าของร้านซื้อมาเมื่อปี 2000 และนี่คือโฉมหน้าของร้าน El Avion แห่งนี้ “ตอนนี้เครื่องบิน C-123 ที่เปรียบเหมือนของที่ระลึกจากสงครามเย็นของเราได้ปลดประจำการแล้ว และมันกำลังทำหน้าที่เป็นร้านอาหาร ยินดีต้อนรับสู่บริการอาหารภายในปีกเครื่องบิน ดื่มด่ำกับเครื่องดื่มในห้องเครื่อง และสนุกกันในห้องกัปตัน” เจ้าของร้านอาหารแห่งนี้กล่าว ห้องนักบินที่ถูกตกแต่งให้กลายเป็นผับ และนี่คือส่วนของห้องโดยสารที่ถูกแปลงโฉมเป็นบาร์ ส่วนชั้นบนนั้นเป็นระเบียงที่ยื่นออกไปให้คุณสำผัสกับวิวที่แสนสวยงามตรงหน้าผา . . . แหม่… บรรยากาศช่วงเย็นมันช่างสวยงามจริงจริ๊ง ส่วนใครที่อยากจะลองไปสัมผัสความสวยงามของร้านนี้ ก็ลองเข้าไปอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ El Avion กันได้เลย ที่มา sobadsogood
-
หญิงสาวสั่งอาหารในร้านที่บอกว่ารองรับ ‘มังสวิรัติ’ แต่พอเสิร์ฟกลับเหมือนโดนกวนใส่ซะอย่างนั้น!!?
ในยุคสมัยนี้ คนมากมายเริ่มที่จะเปลี่ยนใจจากการเป็นคนกินอาหารปกติสู่วิถีของการเป็น ‘วีแกน’ หรือคนที่กินแต่ผักแทน ซึ่งบางครั้งการออกไปตามหาร้านอาหารประเภทนี้มันช่างหายากซะเหลือเกิน Georgina Jarvis วัย 19 ปี ก็เป็นหญิงสาวอีกคนหนึ่งที่ประสบปัญหานี้เช่นกัน แน่นอนว่าเธอก็เป็นวีแกนคนหนึ่ง และเธอได้ไปพักผ่อนกับครอบครัวที่เมืองโกสตาเดลซอล ประเทศสเปน ซึ่งทั้งหมดได้แวะร้านอาหารที่มีป้ายบอกว่ารองรับวีแกน พอเห็นแบบนั้น Georgina ก็เลยจัดการสั่งพิซซ่าสำหรับวีแกนมากิน แต่เวลาผ่านไปเมื่อถึงช่วงที่อาหารมาเสิร์ฟจริงๆ ในตัวพิซซ่ากลับมาไข่เป็นส่วนผสมอยู่ แน่นอนว่าวีแกนก็ไม่กินไข่ ทางร้านจึงคิดว่าเธอเรื่องเยอะก็เลยทำการนำอาหารมาเปลี่ยน แต่อาหารที่ว่ากลับเป็นจานที่มีแต่หอมหัวใหญ่และมะเขือเทศเท่านั้น แน่นอนว่านี้มันเป็นเหมือนการหยามกัน แต่เธอก็ไม่ได้เอาผิดอะไรเห็นว่าเออมันตลกดี ด้านน้องสาวของเธอก็เลยทำการถ่ายภาพพร้อมแชร์เรื่องราวลงโซเชียล งานนี้คนก็ให้กระแสตอบรับมากมายเลยล่ะ แน่นอนว่าหลายคนคงอยากรู้ว่าอาหารจานดังกล่าวมันราคาเท่าไหร่ Georgina ก็บอกว่า ราคามันน่าจะอยู่ที่ราวๆ 270 บาท ถึง 330 บาทเนี่ยแหละ เธอไม่แน่ใจเหมือนกัน ซึ่งมันแพงมากเลยนะ!! ส่วนถ้าใครสงสัยว่า อ้าวงี้แล้ว Georgina ได้กินพิซซ่าไหม คำตอบคือได้…เพราะหลังจากกินอาหารร้านนี้เสร็จ เธอก็ไปตามหาร้านอาหารที่รองรับวีแกนร้านอื่น และร้านนั้นก็เสิร์ฟพิซซ่าวีแกนจริงๆ และมันก็อร่อยมากเลยล่ะ ที่มา dailymail
-
ร้านอาหารในออสเตรเลีย “เก็บภาษีลูกค้าผู้ชาย” เพิ่ม 18% เพื่อนำเงินมาบริจาคให้องค์กรช่วยเหลือผู้หญิง
เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2560 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศมีรายงานว่า ร้านอาหารมังสวิรัติ Handsome Her ในเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ได้เรียกเก็บภาษีลูกค้าที่เป็นผู้ชายเพิ่ม 18% ทั้งนี้ เพื่อที่จะนำเงินที่ได้มาสมทบทุนองค์กรช่วยเหลือผู้หญิง ซึ่งภายหลังจากที่ร้านอาหารแห่งนี้ได้ออกกฎใหม่ในเรื่องค่าใช้จ่ายที่ไม่เท่าเทียมกัน ก็มีการถกเถียงกันบนโลกออนไลน์เป็นจำนวนมาก ทางด้าน Alex O’Brien นักสตรีนิยม เจ้าของร้านอาหารดังกล่าวได้ออกมาเผยว่า “ฉันต้องการให้ผู้คนนึกถึงเรื่องนี้ เพราะเราได้ขัดแย้งกันมาหลายทศวรรษแล้ว เรากำลังนำมันไปสู่ระดับแนวหน้าของจิตใจผู้คน ฉันอยากทำให้ผู้ชายหยุด และตั้งคำถามถึงสิทธิพิเศษของพวกเขา… หนึ่งในเพื่อนของฉันที่ทำงานในองค์กรการกุศลด้านสวัสดิการของผู้หญิง กำลังพูดถึงช่องว่างในการจ่ายเงิน และฉันคิดว่ามันเป็นความคิดที่ดี ดังนั้นเราจึงตัดสินใจว่าในหนึ่งสัปดาห์ของแต่ละเดือน เราจะคิดค่าภาษีลูกค้าผู้ชาย 18% เพื่อนำเงินที่ได้ไปบริจาค” ไม่ใช่ทุกคนที่จะเห็นด้วยกับวิธีการของร้านอาหารแห่งนี้ เพราะมีผู้ใช้ทวิตเตอร์หลายคนได้ออกมาแสดงความเห็นถึงความไม่เสมอภาคว่า “อย่างน้อยที่สุดพวกเขาก็บอกให้โลกรู้ว่าพวกเขารังเกียจผู้ชายมากแค่ไหน” ในขณะที่อีกคนหนึ่งกล่าวได้ออกมากล่าวเพิ่มเติมว่า “ตอนนี้เราให้ความสำคัญกับการรับรู้และการถกเถียงกันในเรื่องของการเลือกปฏิบัติต่อผู้ชาย แต่เราก็ต้องให้ความเท่าเทียมกันกับผู้ชายด้วย” อย่างไรก็ตาม Alex O’Brien ก็ได้ออกมาโต้เถียงว่า ผู้ชายที่เข้ามาทานอาหารที่ร้านของเธอ ก็ยอมรับในกฎนี้ดี อีกทั้งยังมีชายรายหนึ่งได้บริจาคเงินจำนวน 50 เหรียญ (1,600…
-
ก็บังเอิญเกิ๊น… ร้านอาหารในอเมริกา เปิดสาขารอบเมือง จนโยงเป็นสัญลักษณ์ซาตานได้!?
หากเรารู้จักทฤษฎีสมคบคิดก็จะรู้ได้ว่าเราแทบทุกคนนั้นจะมีทักษะในเรื่องนี้ที่ดีมาก จากเหตุการณ์หลายอย่างเราจะปะติดปะต่อแต่ละส่วนเพื่อมาแย้งกับสิ่งที่เกิดขึ้น คล้ายกับการจับผิดนั่นเอง อย่างที่เราเคยได้ยินเช่น การขึ้นไปเหยียบดวงจันทร์ของอเมริกานั้นไม่ใช่เรื่องจริง เพราะมีการสังเกตจากทิศทางของธง แล้วก็มาถึงเรื่องนี้อีกเช่นกัน เมื่อร้านอาหารในอเมริกาอย่างร้าน Outback Steakhouse ที่มีอยู่มากมายหลากหลายสาขาซะเหลือเกิน ขายอาหารทุกอย่างที่คุณพอคิดได้ในร้านประเภทนี้ เพราะมีตั้งแต่สเต็กไปจนถึงหอมทอด ในตอนนี้ได้เกิดกระแสขึ้นมาหลังจากที่มีคนเอารูปแผนที่ที่ตั้งร้านแต่ละสาขาในนิวยอร์กมาเชื่อมโยงกันจนกลายเป็นรูปดาวห้าแฉกที่เป็นสัญลักษณ์ของซาตาน พร้อมกับคำถามที่ว่า “คุณพระ !! ร้านนี้เขาวางแผนจะทำอะไรกันเนี่ย” จนภาพการโยงสัญลักษณ์รูปดาวบนแผนที่เหล่านี้แพร่กระจายไปในทวิตเตอร์อย่างรวดเร็ว ไม่เพียงแค่นั้นเมื่อต่อมความช่างสังเกตของทุกคนได้ถูกกระตุ้นให้ทำงาน จนต้องไปค้นหากับเมืองอื่นๆ ดู ก็พบว่าที่ตั้งสาขาของร้านในหลายเมืองก็สามารถวาดเชื่อมออกมาได้ในลักษณะเดียวกัน นี่กะจะเรียกมาหมดขุมนรกเลยเร๊อะ!? แน่นอนว่าทางร้านไม่ปล่อยให้เรื่องสนุกนี้หลุดมือไปแน่นอน โดยได้ตอบกลับไปยังคำถามแรกด้วยรูปภาพของทอดบนแผนที่ พร้อมทั้งบอกอีกว่า “ร้านไม่มีแผนอะไร นอกจากการเสิร์ฟสเต็กชิ้นหนา และหัวหอมทอดให้กับลูกค้าของเรา” อย่างไรก็ตามจากเหตุการณ์นี้ก็ทำให้ร้านนี้ได้มีชื่อเสียงมากยิ่งขึ้นจากในตอนแรก โดยที่หลายคนมองข้ามเรื่องนี้ เพราะว่ารสชาติอาหารของร้านนี้ก็ยังคงถูกปากใครอีกมากมาย ทั้งนี้ทั้งนั้นมันก็แล้วแต่คนละเนอะ แหม๊!? ก็ช่างจะคิดไปได้ ที่มา: ladbible
-
หวยอาหารจากญี่ปุ่น เสี่ยงดวงผ่านตู้กาชาปองหยอดเหรียญ เหมาะสำหรับคนคิดเมนูไม่ออก!!
หลายๆ ครั้งที่เราไปร้านอาหารแล้วเกิดการลังเลไม่รู้ว่าจะสั่งอะไรดี ญี่ปุ่นเลยเสนอทางเลือกใหม่ ให้คุณไม่ต้องเสียเวลากับการนั่งคิดเมนูนานๆ แต่ต้องลุ้นเอานะว่าจะได้ทานอะไรแทน!? ก็อย่างที่รู้ว่าในญี่ปุ่นมีกาชาปองหลายรูปแบบมาก ล่าสุดก็มีการนำกาชาปองมาใช้ในร้านอาหารแล้ว เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับคนที่ไม่รู้จะทานอะไรดี Nishiki Service Area Orisen เป็นร้านอาหารในเขตจังหวัดเฮียวโงะ ได้มีการนำตู้กาชาปองมาตั้งในร้าน แล้วให้ลูกค้าหยอดเหรียญเพื่อจะได้เมนูอาหารในมื้อนั้นออกมาเป็นแบบสุ่ม ในตู้กดกาชาปองนั้นจะประกอบไปด้วยเมนูอาหารของทางร้านกว่า 20 เมนู โดยจะมีตู้กด 2 ประเภทให้เลือก คือ Gacha Meshi ราคา 150 บาท และ Gacha Meshi Mini ราคา 90 บาท ไม่ว่าจะได้เมนูอะไรก็ตาม ลูกค้าจะได้จ่ายน้อยกว่าราคาปกติ เพราะเสียค่าหยอดเหรียญไปแล้ว อย่างเช่นชุดอาหาร Tajima Beef Zukushi ที่มีราคาสูงถึง 600 บาท แต่ว่าเมื่อลูกค้าหมุนเครื่องไปแล้วจะไม่สามารถเปลี่ยนเมนูหรือขอคืนเงินได้ คุณต้องทานสิ่งที่ได้เท่านั้น หรือเลือกที่จะหยอดใหม่แทน แต่ก็มีข้อยกเว้นสำหรับคนที่แพ้อาหารที่สุ่มได้มา สามารถขอเปลี่ยนเป็นเมนูอื่นได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับการเสี่ยงดวงล้วนๆ เลย…
-
“แดนนี เทรโฮ” ดาราขาบู้หน้าโหด หันมาเปิดกิจการขายโดนัท ขายดีจนหมดภายในวันเดียว!!
ถ้าพูดดาราที่เปิดธุรกิจร้านอาหารเป็นของตัวเองนั้น ก็เรียกว่ามีมากมายเลยทีเดียว แต่ส่วนใหญ่ร้านอาหารหรือสินค้าต่างๆ ที่เหล่าดาราไปเปิดกิจการส่วนใหญ่ ก็จะเป็นไปตามคาแลคเตอร์ของตัวเอง ทว่าสำหรับดาราขาบู๊ผู้รับบทตัวร้ายอยู่บ่อยๆ อย่าง “แดนนี เทรโฮ” ใครจะคิดกันเล่าว่าหน้าโหดแบบเขาจะหันมาเปิดร้านโดนัท แถมยังใช้หน้าอันโหดเหี้ยมของตัวเองเป็นโลโก้ของแบรนด์อีกต่างหาก ร้านของเขานั้นตั้งอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งถ้าใครคิดว่าร้านของเขาจะยิ่งใหญ่สมกับดาราฮอลลีวูดแล้วล่ะก็ พวกคุณจะต้องคิดผิดอย่างแน่นอน เพราะตัวร้านของเขามีขนาดเล็กกว่าที่คิด ขนาดเท่าๆ กับร้านอาหารทั่วไป แถมยังมีสีชมพูแปร๊ดอีกต่างหาก แน่นอนว่าด้วยความที่เป็นคนดัง มันก็ย่อมจะขายดีเป็นธรรมดา ซึ่งจากรายงานก็บอกว่าโดนัทของเขาขายหมดเกลี้ยงไม่นานหลังจากเปิดร้านวันแรก!? นอกจากนั้นร้านโดนัทนี้ยังไม่ใช่ธุรกิจแรกของเขาอีกด้วย ก่อนหน้านี้แดนนีเคยเปิดร้านทาโก้กับอาหารเม็กซิกันมาแล้ว แถมเหมือนตาแดนนีก็จะไม่หยุดแค่นี้… เขากำลังวางแผนที่จะขยายกิจการร้านอาหารของเขาในอเมริกาเพิ่มขึ้นไปอีก แต่ว่าจะเป็นร้านอะไรเราก็คงต้องติดตามกันต่อไป แต่ที่คงจะคาดเดาได้ก็คือ โลโก้ร้านอาหารของเขาจะต้องมีหน้าของเขาติดอยู่อย่างแน่นอน!! ที่มา unilad
-
ร้านข้าวแกงกะหรี่ญี่ปุ่นขอท้า ถ้าหากพิชิตเมนูขนาดยักษ์ได้ เอาเงินไปเลย 30,000 บาท!!
อย่างที่รู้กันดีว่าประเทศญี่ปุ่นนั้นเป็นประเทศที่มีความขึ้นชื่อในเรื่องของอาหารการกิน ทำให้มีร้านอาหารอยู่เต็มไปหมด ฉะนั้นการจัดโปรโมชั่นแตกต่างกันออกไปเพื่อเรียกลูกค้าจึงเป็นเรื่องที่ไม่น่าแปลกใจเลยแต่อย่างใด เช่นเดียวกันกับร้านข้าวแกงกะหรี่ Gold Curry ที่ตั้งอยู่ในจังหวัด Ishikawa ก็ได้ทำการโปรโมทร้านของตัวเองด้วยการประกาศท้าเหล่านักกินจุ หากใครพิชิตข้าวแกงกะหรี่จานพิเศษที่พวกเขาทำขึ้นมาได้ภายในระยะเวลาที่กำหนดก็รับรางวัลรวมมูลค่ากว่า 30,000 บาทไปได้เลย นอกจากนี้ทางร้านยังมีการแข่งขันให้เลือกหลากหลายระดับ แบบแรกก็คือทานข้าวแกงกะหรี่ขนาด 2 กิโลกรัมให้หมดภายใน 15 นาที ก็จะได้กินจานนั้นไปแบบฟรีๆ ไม่ต้องเสียเงิน 600 บาท (ที่เป็นค่าข้าว) แบบที่สองคือทานข้าวแกงกะหรี่ขนาด 4 กิโลกรัมกินให้หมดภายใน 30 นาที หากกินไม่หมดตามที่กำหนดไว้ก็ต้องจ่ายเงินค่าข้าวแกงกะหรี่เป็นจำนวน 1,000 บาท แบบที่สามกินข้าวแกงกะหรี่ขนาด 6 กิโลกรัม ภายในระยะเวลา 30 นาที และตั้งแต่ระดับนี้ชึ้นไปหากทำได้ก็จะได้รับเงินรางวัลเป็นจำนวน 9,200 บาท แต่หากทานไม่หมดก็ต้องจ่ายเงินค่าข้าวแกงกะหรี่เป็นจำนวน 2,000 บาท แบบสุดท้ายเป็นรางวัลใหญ่สุดหากผู้เข้าแข่งขันกินข้าวแกงกะหรี่ขนาด 8 กิโลกรัมให้หมดได้ภายในครึ่งชั่วโมงก็รับรางวัลไปได้เลย 15,000 บาท แต่หากทานไม่หมดในระยะเวลาที่กำหนดก็ต้องจ่ายเงินค่าข้าวแกงกะหรี่จำนวน 2,500 บาท …
-
พาทัวร์ “20 ร้านอาหาร-คาเฟ่” แบบแปลกๆ รอบโลก เปิดประสบการณ์ใหม่ให้กับการเที่ยวของคุณ!!
หากคุณเบื่อกับการไปทานอาหารในที่เดิมๆ อยากหาประสบการณ์ใหม่ๆ ของการทานอาหาร ลองมาดูร้านอาหารทั้ง 20 แห่งทั่วโลกที่เราจะพาไปชมในครั้งนี้สิ จะทำให้คุณไม่เบื่อที่จะทานอาหาร แถมยังสนุกไปกับสไตล์ของร้านที่แตกต่างกันออกไป มาดูกันว่าร้านไหนจะตรงใจคุณที่สุด 1. Calico Cat Café คาเฟ่แมว ที่ติดเข้ามาเพราะร้านนี้เป็นร้านคาเฟ่แมวแห่งแรกๆ ที่ตั้งอยู่ในกรุงโตเกียว ร้านอาหารนี้ไม่ได้มีอาหารสำหรับแมวแต่อย่างใด แต่มันคือร้านสำหรับคนรักแมวที่สามารถเข้าไปรับประทานอาหาร จิบชา กินขนม โดยมีน้องแมวมาให้เล่นด้วยนั้นเอง ใครที่เป็นทาสแมวพลาดไม่ได้เลยที่จะไปคาเฟ่แบบนี้ ซึ่งในไทยก็มีคาเฟ่แมวแบบนี้เกิดในหลายจังหวัดแล้วเหมือนกัน . 2. Devil Island Prison Restaurant ร้านอาหารเรือนจำ ร้านอาหารในธีมเรือนจำนี้ตั้งอยุ่ที่ประเทศจีน โดยมีวัตถุประสงค์ที่อยากให้ผู้คนภายนอกได้เห็นชีวิตที่ลำบากของเหล่านักโทษที่อยู่ในเรือนจำ คุณจะได้ทานอาหารท่ามกลางกรงเหล็กและบริกรที่สวมชุดผู้คุม และชุดนักโทษลายทางขาวดำ . 3. Ice Restaurant ร้านอาหารที่ทุกอย่างเป็นน้ำแข็ง ที่เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ร้านอาหารนี้เป็นร้านอาหารที่ทุกอย่างเป็นน้ำแข็งไม่ว่าจะเป็นโต๊ะ เก้าอี้ หรือแก้วที่สลักจากน้ำแข็ง ร้านอาหารนี้เป็นของบริษัท Sharaf ในประเทศดูไบ ซึ่งการดูแลเรื่องเทคนิคต่างๆ ที่เกี่ยวกับน้ำแข็งมาจากบริษัทในแคนาดาที่มีชื่อว่า Iceculture Inc, 4. A380 In-Flight Kitchen ร้านอาหารเครื่องบิน…
-
วัยรุ่นเพื่อนรัก ‘ตีเนียนขอแต่งงานปลอมๆ’ ในร้านอาหาร เพื่อที่จะได้ทานของหวานฟรีๆ!?
เรื่องมีอยู่ว่าเด็กวัยรุ่นสองคนจากรัฐเท็กซัส ได้ทำการขอแต่งงานกันแบบปลอมๆ ในร้านอาหารแบบแฟนซี เพราะทางร้านมีโปรโมชั่นแจกของหวานแบบฟรีๆ หากคู่รักคู่ไหนมาขอแต่งงานที่ร้าน นาย Alex Nagle วัย 17 ปี และเพื่อนสาวคนสนิทของตัวเองวัย 19 ปี Cati Domitrovich ได้ชวนกันไปดินเนอร์กันที่ร้านอาหารแบบแฟนซี เพื่อเติมพลังให้กับตัวเองหลังจากที่ต้องเจอเรื่องร้ายๆ มาทั้งสัปดาห์ แต่พอไปถึงที่ร้านก็ปรากฏว่ามีโปรโมชั่น หากคู่รักคู่ใดขอแต่งงานกันจะได้รับของหวานไปทานแบบฟรีๆ ทั้งคู่จึงคิดเรื่องสนุกๆ ขึ้นมาด้วยการขอแต่งงานกันแบบปลอมๆ หลังจากนั้น Cati ก็นำภาพขณะขอแต่งงานไปอัพลงบนทวิตเตอร์ของเธอ พร้อมกับแคปชั่นบอกว่า “พวกเราขอแต่งงานกันแบบปลอมๆ เพื่อของหวานฟรี” โพสต์ดังกล่าวมีชาวเน็ตให้ความสนใจกันมากมายจนคนแห่เข้ามากดไลค์มากถึง 57,000 คน และรีทวีตไปอีกกว่า 30,000 ครั้ง เลยทีเดียว “จริงๆ แล้วพวกเราก็ทำเหมือนเป็นคู่รักกันอยู่ตลอดเลยนะ” Cati เล่า ขณะที่ Cati เดินไปเข้าห้องน้ำ Alex ก็บอกกับพนักงานเสิร์ฟว่าเขาจะขอแฟนสาวแต่งงาน และขอให้พนักงานถ่ายรูปให้ หลังจากที่การขอแต่งงานเกิดขึ้น แขกทุกคนที่อยู่ในร้านต่างก็แสดงความยินดีโห่ร้อง พร้อมกันปรบมืออย่างเสียงดัง …
-
ร้านอาหารไต้หวันออกอาวุธ ให้พนักงานเสิร์ฟสวมชุดบิกินี่ โปรโมทวันแรกดึงดูดลูกค้า!!
ทุกวันนี้มีร้านอาหารเปิดใหม่มากมาย ทำให้แต่ละร้านต่างพยายามชูจุดขายอะไรบางอย่างเพื่อให้เหนือกว่าคู่แข่ง บ้างอาจใช้รสชาติเป็นจุดเด่น บางร้านอาจเป็นบรรยากาศอันแสนผ่อนคลายและจรรโลงใจ แต่ร้านอาหารจากไต้หวันร้านนี้ใช้วิธีการที่แตกต่าง ด้วยการใช้พนักงานเสิร์ฟสวมชุดบิกินี่ เพื่อดึงดูดลูกค้า!! ร้านอาหารแห่งนี้มีชื่อว่า “Fresh Feast” ตั้งอยู่ในเขตซงซาน ในกรุงไทเป ประเทศไต้หวัน เจ้าของร้านได้จ้างนางแบบสาวสวยระดับห้าดาว มาสวมชุดบิกินี่แล้วเดินเสิร์ฟอาหาร เพื่อเป็นการโปรโมทงานเปิดร้านวันแรก และดูเหมือนว่าแผนการตลาดครั้งนี้จะประสบผลสำเร็จด้วย เพราะเพียงสองวันที่มีการจ้างพนักงานสาวสวยมาเดินเสิร์ฟ ก็มีชาวเน็ตนับหมื่นร่วมแชร์ภาพและคลิปของบรรยากาศภายในร้าน จนทำให้ร้านโด่งดังไปทั่วประเทศ รวมทั้งในต่างประเทศด้วยเช่นกัน มีชาวเน็ตท่านหนึ่งคอมเมนต์ว่า “ผมไม่เคยไปไต้หวันมาก่อน สงสัยจะต้องออกผจญภัยแล้วล่ะ” ส่วนชาวเน็ตอีกท่านกล่าวว่า “อยากได้แบบนี้บ้าง ใครสักคนช่วยเปิดร้านอาหารแบบนี้บ้างเถอะ” . . ลองไปชมคลิปบรรยากาศกันดีกว่า ถ้า #เหมียวอ๊อดโด้ ไปร้านนี้นะ รับรองว่าไม่ได้สนใจอาหารแน่นอน เพราะมัวแต่มองอย่างอื่น ฮาาา ที่มา odditycentral
-
ร้านอาหารจัดโปรสุดเจ๋ง ส่วนลดพิเศษสำหรับครอบครัวที่ “ควบคุมบุตรหลาน” ได้อยู่หมัด
เคยไหมเวลาที่เราออกไปกินข้าวข้างนอก แล้วเราจะต้องเจอกับครอบครัวที่พาลูกๆ เด็กๆ มากินด้วย แต่แล้วเด็กพวกนี้เนี่ย กลับก่อความวุ่นวาย ส่งเสียงดังไปทั่วทั้งร้าน จนเราไม่อยากจะออกไปกินข้าวตามร้านอาหารเลย แต่ทว่าปัญหานี้จะหมดไป เมื่อร้านอาหารแห่งหนึ่งที่ชื่อว่า Antonio Ferrari แห่งนี้ เขาได้มองเห็นถึงปัญหานี้และตั้งโปรโมชั่นใหม่ขึ้นมาว่า “ถ้าลูกๆ ของคุณทำตัวเป็นเด็กดีไม่รบกวนคนอื่น คุณจะได้รับส่วนลด 5% ทันที” เจ้าของร้านคือคุณ Antonio Ferrari ชื่อเดียวกับร้านอาหารเลยนั่นและ เขากล่าวก่อนว่า “ผมเคยเห็นเด็กวัย 5 ขวบเอาเท้าวางไว้ที่โต๊ะ และเด็กวัย 4 ขวบปีนขึ้นไปยื่นอยู่บนโต๊ะและเก้าอี้ในร้าน พ่อแม่ของเด็กพวกนั้น เขาไม่ทำอะไรเลยด้วยซ้ำ” “ที่สำคัญหลังจากผมไปบอกพ่อแม่ของเด็กพวกเขากลับตอบมาว่า ลูกๆ ของพวกเราจะทำอะไรก็ได้ที่พวกเขาอยากทำ” ด้วยเหตุดังกล่าว เขาเลยตั้งกฎขึ้นมาเป็นพิเศษ นอกจากจะเป็นการช่วยเตือนใจกลุ่มพ่อแม่ที่พาลูกๆ มาทานในร้านให้รบกวนคนอื่นน้อยลง ยังทำให้ทุกคนที่ทำตามกฎได้ส่วนลดดีๆ ไปด้วย Antonio ยังพูดเสริมถึงจำนวนลูกค้าที่ได้รับการลดราคานั่นมีเพียงแค่ 3 ครอบครัวเพียงเท่านั้น นับตั้งแต่เขาเริ่มจัดโปรโมชั่นนี้ขึ้นมา ซึ่งเขาบอกว่ามันหาได้ยากมากๆ ที่จะเจอเด็กกับครอบครัวที่วางตัวดีๆ สักครอบครัวหนึ่ง ท้ายที่สุดเขายังคงหวังว่าจะเจอกับเด็กๆ…
-
ร้านอาหารใจบุญ ฉายา ‘โรบินฮู๊ด’ นำกำไรในแต่ละวันแบ่งปันเป็นมื้อเย็น ให้คนไร้บ้านทานฟรี!!
หลายคนคงเคยได้ยินเรื่องตำนานของโจรชื่อดัง ‘โรบินฮู๊ด’ ที่คอยดักปล้นเงินจากคนรวย แล้วนำมาแจกจ่ายให้กลุ่มคนยากจนกันมาบ้างแล้ว แต่คราวนี้เหตุการณ์ก็คล้ายๆ กับเรื่องราวในตำนาน เพียงแต่พวกเขาไม่ได้ไปปล้น หรือทำร้ายใคร ที่ประเทศสเปน มีร้านอาหารแห่งหนึ่งที่ชื่อว่า ‘โรบินฮู๊ด’ ดูผิวเผินก็เหมือนจะเป็นร้านอาหารธรรมดาทั่วไป แต่ความพิเศษอยู่ตรงที่ ทุกเย็นหลังขายอาหารรอบเช้า ร้านจะทำนำกำไรทั้งหมด มาทำอาหารและแจกจ่ายให้ผู้ที่ประสบปัญหาไร้ที่อยู่ เข้ามารับประทานกันได้ฟรี!! ร้านอาหารแห่งนี้เป็นของบาทหลวง Ángel García Rodríguez วัย 79 ปี ผู้ทุ่มเทเวลาตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา เพื่อทำการช่วยเหลือกลุ่มคนยากไร้ในสังคม หรือในนาม ‘นักลงทุนผู้ไม่แสวงหากำไร’ ซึ่งก่อนหน้านี้ผลงานของเขาเคยเปลี่ยนโบสถ์ร้างให้กลายเป็นศูนย์พักพิงอาศัยสำหรับคนไร้บ้าน ที่มีทุกอย่างไม่ว่าจะเป็น อาหาร ที่นอน อินเตอร์เน็ต หรือแม้แต่การปฐมพยาบาลเบื้องต้น ‘โรบินฮู๊ด’ คืออีกหนึ่งผลงานล่าสุดของเขา ในช่วงเวลาทำการปกติตอนเช้า ที่นี่จะขายอาหารในราคาที่ไม่แพงมากนัก และในช่วงตอนเย็น ร้านอาหารแห่งนี้ยินดีต้อนรับกลุ่มคนไร้บ้านทุกคน ให้เข้ามาทานอาหารกันได้ฟรีๆ อีกทั้งยังได้รับการบริการจากพนักงานทุกคนเป็นอย่างดีอีกด้วย “การที่ทำให้พวกเขาได้ทานอาหารในร้านที่มีพนักงานเสิร์ฟใส่ยูนิฟอร์มที่ดูดี ได้ทานอาหารดีๆ แทนที่จะเป็นการใช้ช้อนส้อมพลาสติก ผมคิดว่านี่เป็นการให้เกียรติซึ่งกันและกันทางสังคมอย่างหนึ่ง” เจ้าของให้สัมภาษณ์กับ NY Times Giani Parlafes…
-
ผงะ!! ลูกค้าโพสโวยร้านอาหารไทยกลางห้างหรู เจอตะกั่วชิ้นเบ่อเริ่มในหัวกุ้ง
กลายเป็นประเด็นเดือดเลยทีเดียว เมื่อชาวเน็ตท่านหนึ่ง บังเอิญพบตะกั่วชิ้นเป้งในหัวกุ้งแม่น้ำขณะรับประทานอาหารที่อยู่ร้านอาหารไทยกลางห้างหรู ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้นกับร้านอาหารระดับนี้ เรื่องราวดังกล่าวเป็นของ คุณ สมาชิกหมายเลข 1784847 จากเว็บไซต์พันทิปดอทคอม เธอได้เล่าว่าเธอไปทานอาหารที่ร้านอาหารไทยแห่งหนึ่งกลางห้างดังกับครอบครัว และได้สั่งผัดไทกุ้งแม่น้ำหนึ่งจานซึ่งมีมูลค่าประมาณ 1,000 บาท แต่ด้วยความที่พวกเธอไม่สามารถทานได้หมด เธอจึงสั่งให้พนักงานห่อผัดไทกุ้งแม่น้ำดังกล่าวกลับบ้าน วันต่อมาขณะที่พ่อของเธอได้นำผัดไทที่ห่อนั้นไปอุ่น แล้วก็พบว่าในหัวกุ้งมีตะกั่วขนาดใหญ่อยู่ภายใน เมื่อเห็นดังนั้น พ่อของเธอจึงนำเรื่องดังกล่าวไปร้องเรียนกับร้านอาหารดังกล่าว ทางร้านก็ได้ชี้แจงว่ากุ้งดังกล่าวนำเข้ามาจากประเทศเมียร์ม่าซึ่งตอนนี้ทางร้านกำลังฟ้องร้องกับผู้ค้ารายนั้นอยู่ นอกจากนี้ทางร้านได้ทำการชดใช้ด้วยการคืนเงินค่าผัดไทให้ แต่ทางเจ้าของกระทู้ไม่ได้รับเงินส่วนนั้นกลับมาแต่อย่างได้ ซึ่งทางเจ้าของกระทู้ไม่พอใจเป็นอย่างมาก ที่ร้านไม่กระตือรือร้นจะรับผิดชอบลูกค้า เพราะตะกั่วนั้นเป็นสารอันตราย และอาจส่งผลต่อสุขภาพของครอบครัวของเธอได้ ล่าสุด ตอนนี้เจ้าของกระทู้ได้บอกว่าจะทำการร้องเรียนไปยังสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) แล้ว และเตรียมนำหลักฐานไปแจ้งกับทางห้าง พร้อมทั้งปรึกษาทนายว่าจะสามารถทำอย่างไรกับเหตุการณ์นี้ได้บ้าง เห็นแล้วช็อคจริงๆ ตะกั่วชิ้นเป้งเลย ถ้าเพื่อนๆ เจอเหตุการณ์แบบนี้แล้วไม่รู้จะทำยังไง #เหมียวอ๊อดโด้ ขอแนะนำให้เก็บหลักฐานทั้งหมดไว้ และส่งเรื่องไปยัง สคบ. โทร. 1166 หรือ ร้องเรียนออนไลน์ได้ที่เว็บไซต์ http://www.ocpb.go.th/ อย่าลืมรักษาสิทธิ์ของตัวเองกันด้วยนะเพื่อนๆ ^^ ที่มา ก้อนตะกั่วโผล่ในหัวกุ้งร้านดังในเอ็มควอเทียร์!!!@พันทิป
-
ย้อนชม 14 ภาพร้านฟาสต์ฟู้ดชื่อดังจากอดีตถึงปัจจุบัน ก่อนจะเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก!!
ในปัจจุบันธุรกิจแฟรนไชส์ ได้เติบโตขึ้นมาก อย่างเช่น ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดชื่อดังที่เรารู้จัก ไม่ว่าจะเป็น Pizza, KFC และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งกว่าจะมาเป็นร้านดัง จะกลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก มันได้เริ่มต้น และพัฒนามาจากร้านเล็กๆ ที่ไม่มีใครรู้จักมาก่อนเลยด้วยซ้ำ ครั้งนี้เราจึงได้นำภาพเปรียบเทียบอดีต-ปัจจุบัน ของร้านอาหารในยุคแรกมาให้ชม เพื่อที่คุณจะได้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น และจะได้เห็นว่าแบรนด์ดังเหล่านั้นมาไกลแค่ไหน สาขาแรกของร้าน Wendy เป็นร้าน Fast Food ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1969 ในโคลัมบัส รัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา ปัจจุบันได้ขยายกิจการไปแล้วกว่า 6,500 สาขา Subway ร้านอาหารชื่อดังในอเมริกา เดิมมีชื่อว่า Pete’s Super Submarines และได้กำเนิดขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 1968 ในตอนนี้ได้ขยายกิจการไปทั่วโลกกว่า 40,000 แห่ง Starbucks สาขาแรกเริ่มก่อตั้งในปี 1971 ในย่านตลาด Pike Place เมืองซีแอตเทิล สหรัฐอเมริกา …
-
ไปส่องกันว่านักโทษใน ‘เรือนจำญี่ปุ่น’ กินอะไร ผ่านร้านอาหารเรือนจำ ที่คุณก็ลองกินได้…
เมื่อคนเรากระทำความผิด เราก็จะถูกนำตัวเข้าสู่งกระบวนทางกฎหมายและส่งไปยังเรือนจำ ที่นั่นคุณจะได้ใช้ชีวิตแบบไร้อิสระ แทบไม่มีความสะดวกสบาย แถมยังต้องกินอาหารที่ทางเจ้าหน้าที่จัดเตรียมเอาไว้อีกด้วย แต่หากว่าคุณเป็นคนดีที่ใช้ชีวิตแบบสุจริต แล้วดันอยากลองชิมอาหารแบบในเรือนจำ คุณเองก็สามารถหากินได้นะ แม้จะไม่เคยเข้าคุกเข้าตารางมาก่อนเลยก็ตาม ร้านอาหารที่#เหมียวฟิ้นจะพาทุกคนไปชมร้านอาหาร Prison Cafeteria ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดฮอกไกโด ความแหวกแนวของร้านอาหารแห่งนี้อยู่ตรงที่พวเขาจะนำเอาส่วนผสมและวัตถุดิบแบบเดียวกับที่ใช้ทำอาหารให้กับนักโทษในเรือนจำมาทำเป็นเมนูอาหารให้ลูกค้าได้กินกัน อย่างเช่นเมนู้ที่ทุกคนได้เห็นต่อไปนี้ เป็น Set A ราคา 800 เยน (ประมาณ 270 บาท) จะประกอบไปด้วยซุปมิโซะ ปลาแม็คเคอเรลทอด หัวไชเท้าสไลส์ ฮารุซาเมะ (บะหมี่สลัด) ข้าวเปล่า ส่วน Set B ประกอบไปด้วยซุปมิโซะ มันเทศจีน ผัดผักญี่ปุ่น ปลาแม็คเคอเรลทอด ข้าวเปล่า แม้จะเป็นอาหารของผู้ต้องขัง แต่ทางญี่ปุ่นเองก็คำนึงถึงเรื่องสารอาหารที่ครบถ้วนเช่นกัน . . . . หากใครอยากจะลองชิมอาหารแบบเรือนจำสไตล์ญี่ปุ่นล่ะก็ ตามไปได้ที่ร้าน Prison Cafeteria (หรือ Kangoku…
-
‘โครงการขนมปังฝาก’ ไอเดียดีๆ ให้ลูกค้าซื้อขนมปังราคาพิเศษ เพื่อมอบให้คนจรจัด
ถือว่าน้ำใจเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับสังคมยุคปัจจุบัน การจะทำให้สังคมน่าอยู่ต้องมีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ซึ่งกันและกัน หากมีสิ่งไหนที่พอจะช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ได้ แม้เป็นเพียงสิ่งเล็กน้อยก็เป็นที่น่ายกย่องชื่นชม อย่างเช่นร้านขนมปังร้านนี้ ได้ติดป้ายประกาศ ให้สตรีมีครรภ์กินฟรี วันละ 3 ชิ้น จนถึงวันคลอด นอกจากนี้ยังมีโครงการบริจาคขนมปัง โดยมีชื่อว่า “โครงการขนมปังฝาก” มีขนมปังแจกให้กับผู้ที่มีรายได้น้อย คนยากไร้และคนจรจัด คนละ 2 ชิ้น ซึ่งได้สร้างความประทับใจให้แก่ผู้ที่มาพบเห็นอย่างมาก และโพสต์นี้ถูกเผยแพร่ขึ้นโดย ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Pat Sangtum ชาวเน็ตได้นำไปแชร์ต่อกันเป็นจำนวนมาก “ขนมปังนุ่ม กินแล้วสุขใจ ไม่ใช่กินฟรีเพราะมีครรภ์ – รถถีบขายขนมปังเจ้านี้ ขายขนมปังมีไส้ ชิ้นละ 7 บาท หรือ 3 ชิ้น 20 บาท… จากเงิน 7 บาท ก็จะหักไว้ทำบุญ 2 บาท เพื่อจัดเป็นขนมปังให้ ผู้หญิงท้องและคนจรจัด… ถ้าเราอยากจะสมทบร่วมด้วยเท่าไหร่ ก็มอบเงินไป แล้วพี่เขาก็จะไปแก้จำนวน ขนมปัง ที่มีแจกฟรีวันนี้ให้กับผู้หญิงท้องและคนจรจัด… คอยเฝ้าดูอยู่ ทุกครั้งที่คนมาซื้อ แกก็จะไปเปลี่ยนตัวเลขตามเงินที่ขายได้ #ขนมปังก็นุ่มอร่อยทีแรกว่าจะร่วมบริจาคเฉยๆ 555”…
-
17 ไอเดียธุรกิจที่ปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว เพื่อตอบรับกับกระแส Pokemon Go ฟีเวอร์!!
ช่วงนี้กระแสเกมส์ Pokemon Go มาแรงมากจริงๆ ถึงแม้ว่าจะยังไม่เปิดตัวอย่างเป็นทางการในบ้านเราก็ตาม แต่ที่เมืองนอกกลับมีผู้ให้ความสนใจอย่างล้นหลามอย่างมากมายเลยทีเดียว ในเมื่อตัวเกมส์มาแรงจนหยุดไม่อยู่ขนาดนี้ก็เกิดเหล่าพ่อค้าหัวใสทั้งหลายที่ออกมาจัดโปรโมชั่นหรือทำธุรกิจที่รองรับเหล่าโปเกม่อนเทรนเนอร์ตามมา งานนี้เราไปดูภาพของเหล่าธุรกิจที่รู้จักปรับตัวไวให้ทันกับกระแสเกมส์ที่กำลังมาแรงกันเลยดีกว่า 1. ร้านพิซซ่าที่โฆษณาออกตัวเลยว่า ร้านของเราอยู่ใกล้ๆ Pokestop 2 จุดนะจ๊ะ 2. ป้ายจากร้านขายน้ำแห่งหนึ่ง “ถึงเหล่าเทรนเนอร์ทั้งหลาย ถ้าใครใช้ Lure Module ในละแวกนี้รับไปเลย เบียร์ Bud Light ในราคาแค่ 1$ หรือ Smoothie ในราคาเพียง 2$” 3. แม่สาวหัวคิดไวมายืนขายแบตเตอรี่สำรองในจุดจับโปเกม่อนงานนี้ขายดีแน่ๆ 4. ร้านขายเสื้อผ้าแห่งหนึ่งที่มีทั้ง PokeBall และ PokeStop อยู่ข้างใน 5. ร้านอาหารผู้สนับสนุน Pokemon Go หากลูกค้าคนไหนวาง Lure Module ไว้ในจุด PokeStop ใกล้ๆ กับร้าน รับส่วนลดทันที…
-
ลองไหม!? ญี่ปุ่นเปิด ‘ร้านอาหารเปลือย’ แห่งแรก ใครอ้วน-อายุเกิน ก็เข้าไม่ได้นะ….
การที่เราจะตัดสินใจออกไปทานร้านอาหารนอกบ้านนั้นมีด้วยหันหลายปัจจัย เช่นการกินอาหารรสชาติใหม่ๆ อาหารที่เราอาจจะทำไม่เป็น หรือต้องการบรรยากาศใหม่ๆ ที่แตกต่างจากการทานอาหารอยู่กับบ้าน หากคุณเป็นคนประเภทหลังล่ะก็ คุณน่าจะชอบร้านอาหารแห่งนี้… เมื่อวันที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้รายงานว่าที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ได้เตรียมที่จะเปิดตัวร้านอาหารร้านใหม่ ที่ออกจะมีกฎระเบียบอยู่สักเล็กน้อยคือทุกคนจะต้องแก้ผ้าให้หมด และหากใครที่มีพุงหรือตุ้ยนุ้ยเกินไปจะถูกเชิญออกจากร้านทันที (บร๊ะ) ตามรายงานบอกว่าร้านนี้มีชื่อว่า The Amrita (ภาษาสันสกฤตแปลว่าอมตะ) เคยเปิดสาขามาแล้ว 2 แห่งนั่นก็คือที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ และที่ออสเตรเลีย โดยพวกเขายังมีข้อจำกัดในเรื่องของอายุด้วย ว่าจะต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี และไม่เกิน 60 ปี แต่ใช่ว่าทางร้านจะให้คุณโป๊เปลือยเสียทีเดียว เพราะหลังจากที่พวกเขาให้คุณถอดเสื้อผ้าออกหมดแล้ว พวกเขาก็จะให้คุณสวมใส่ชุดชั้นในกระดาษที่ทางร้านจัดเตรียมไว้ให้ แถมยังตรวจสอบด้วยว่าคุณมีน้ำหนักที่เกินจากมาตรฐานส่วนสูงหรือเปล่า? หากน้ำเกินมาตรฐานไป 15 คุณก็จะไม่มีสิทธิ์เข้าไปนั่งในร้านแน่นอน ร้านอาหารคอนเซ็ปต์แปลกแห่งนี้จะเปิดให้บริการในวันที่ 29 กรกฎาคมนี้ หากใครจะลองล่ะก็ ต้องจองโต๊ะผ่านทางหน้าเว็บไซต์และชำระเงินผ่านระบบออนไลน์เท่านั้น จะไม่มีการคืนเงินในทุกกรณี นอกจากนี้ยังมีกฎยิบๆ ย่อยๆ…
-
ประเด็นร้อนๆ ดราม่าพาลูกไปกินข้าว โดนร้านอาหารไล่เพราะเด็กชิ้งฉ่อง-อ้วกในร้าน
เมื่อพูดถึงการไปทานอาหารนอกบ้าน ลูกค้าทั้งหลายก็ย่อมต้องนึกถึงคุณภาพของร้านและการบริการที่ดีจากทางร้านเพื่อให้เหมาะสมกับเงินที่เสียไป แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าเมื่อเสียเงินแล้วลูกค้าจะสามารถทำอะไรในร้านก็ได้… อย่างเช่นเหตุการณ์ที่ #เหมียวหง่าว จะนำมาเล่าให้เพื่อนๆ ฟังต่อไปนี้… เรื่องมีอยู่ว่ามีกลุ่มเน็ตไอดอลกลุ่มหนึ่งไปใช้บริการที่ร้านอาหาร และจู่ๆ เจ้าของร้านก็ไล่ให้เช็คบิลออกไปหน้าตาเฉยเลย ทั้งๆ ที่พวกเธอยังทานอาหารไม่เสร็จ ซึ่งขณะนั้นพวกเธอก็ได้ทำการอัดวิดีโอถ่ายทอดสด หรือเฟสบุ๊คไลฟ์ ไปด้วย แต่จริงๆ แล้วมันมีสาเหตุมาจากว่าพวกเธอพาลูกไปที่ร้านอาหารด้วย และเด็กส่งเสียงดังมาก วิ่งเล่นไปทั่วร้าน และที่สำคัญเด็กน้อยเหล่านั้นก็ได้ทำการทิ้งตอปิโดไว้เป็นกองที่พื้นร้าน แถมยังอ้วกเรี่ยราดอีกด้วย จากการที่เจ้าของร้านไล่ให้เหล่าเน็ตไอดอลทั้งหลายเช็คบิลออกไปจากร้าน พวกเธอก็แสดงความไม่พอใจเป็นอย่างมาก จึงได้มีปากเสียงกับทางเจ้าของร้านพร้อมกับตำหนิทางร้านให้กับคนที่ชมเฟสบุ๊คไลฟ์รัวๆ แถมเข้าไปรีวิวให้ทางร้านอีกด้วย… ลองไปชมคลิปเหตุการณ์กันที่ข้างล่างนี้ได้เลย.. หลังจากที่เหตุการณ์นี้ถูกเผยแพร่ออกไปทั่วโลกโซเชียลก็มีชาวเน็ตมากมายเข้ามาแสดงความคิดเห็นในเชิงตำหนิ…แต่ไม่ได้ตำหนิทางร้านนะ กรุ๊ปเน็ตไอดอลโดนไปเต็มๆ!! . . . . . เพิ่มเติม ล่าสุดทางฝ่ายเน็ตไอดอลก็ได้ออกมาทำการขอโทษในเรื่องที่เกิดขึ้นเรียบร้อยแล้ว . แล้วชาวเหมียวมีความคิดเห็นอย่างไรกันบ้างกับเรื่องนี้ เชิญคอมเม้นท์กันเข้ามาได้เลยนะจ้าา ที่มา : เรื่องเหล้าเช้านี้
-
ลูกค้าโวย!! ไปเที่ยวผับย่านบางแสน แต่ถูกเจ้าของร้านรุมกระทืบ เย็บหน้าไป 16 เข็ม!?
เป็นประเด็นร้อนที่ชาวเน็ตให้ความสนใจอยู่ในขณะนี้เลย สำหรับเรื่องราวของนักท่องเที่ยวกลุ่มหนึ่ง ที่เดินทางไปเที่ยวผับดังย่านบางแสน แต่กลับถูกเจ้าของร้านพาลูกน้องมารุมกระทืบ จนต้องเข้าโรงพยาบาลเย็บที่หน้าไปกว่า 16 เข็ม!? เมื่อช่วงบ่าย 2 ของวันที่ 25 เมษายน ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Tong Pigg โพสต์เล่าว่าเธอได้ไปเที่ยวที่ผับดังแห่งหนึ่งย่านบางแสนกับกลุ่มเพื่อนๆ ในเวลาประมาณ 4 ทุ่ม แต่ดันไปเจอเข้ากับพนักงานหญิงคนหนึ่งที่ไม่ถูกกับกลุ่มของพวกเธอ ทำให้พวกเขาเกิดมีปากเสียงกัน ในระหว่างนั้นเจ้าของร้านได้ออกมาช่วยเคลียร์ปัญหา แต่กลับวุ่นวายกว่าเดิมเพราะเจ้าของร้านเข้าข้างพนักงานของตนเอง และบอกว่าจะตบกับลูกค้ากลุ่มดังกล่าว โชคดีที่มีคนห้ามเอาไว้ จากนั้นทางเจ้าของร้านได้พูดจาด้วยคำหยาบคายพร้อมกับบอกว่าตนเองเป็นเจ้าถิ่นของที่นั่น ต่อมาในเวลาตี 1 กลุ่มนักท่องเที่ยวได้พยายามจะเดินออกมาจากร้าน แต่เจ้าของร้านกลับวิ่งเข้ามาต่อยหนึ่งในกลุ่มนักท่องเที่ยวแบบไม่ทันได้ตั้งตัว จากนั้นก็พาลูกน้องในร้านอีก 6-7 คนมารุมกระทืบต่อจนนักท่องเที่ยวได้รับบาดเจ็บไปทั่วร่างกายและที่ใบหน้าจนต้องเย็บแผลไปกว่า 16 เข็มทีเดียว อ่านเรื่องราวเต็มๆ ได้ที่ด้านล่างเลย ต่อมา ผู้ที่ใช้ชื่อเฟซบุ๊กว่าคุณ Patinyapirom Pop ก็ได้โพสต์ชี้แจงความจริงอีกฝั่งหนึ่งว่าอยากให้ฟังความทั้ง 2 ฝ่าย โดยบอกว่าก่อนหน้าที่เหตุการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้นฝั่งนักท่องเที่ยวได้ไปหาเรื่องกับทางร้านก่อนด้วย …
-
ร้านอาหารจีนมาแปลก ทำโปรโมชั่นเปิดร้านใหม่ ใครอ้วนถึงเกณฑ์ทานอาหารฟรีไปเลย!!
ปกติร้านอาหารเวลาเปิดทำการใหม่ๆ มักจะทำโปรโมชั่นออกมาดึงลูกค้า บางร้านอาจทำโปรลดราคาพิเศษ บางร้านอาจจะแถมอาหารบางอย่างให้ฟรี หรืออื่นๆ อีกมากมาย แต่สำหรับร้านอาหารจีนแห่งนี้ต้องบอกเลยว่ามาแปลกจริงๆ เพราะพวกเขาจะให้ลูกค้าสามารถทานอาหารฟรีๆ ไปเลย หากอ้วนถึงเกณฑ์ที่ร้านกำหนดไว้?!?! โดยทางร้านได้ตั้งเกณฑ์เอาไว้ว่า หากผู้ใช้บริการมีน้ำหนักตัวมากกว่า 130 กิโลกรัม ก็จะได้ทานอาหารเย็นกันฟรีๆ เลยทีเดียว ซึ่งเมื่อกิจกรรมดังกล่าวได้รับการประกาศออกไป ก็มีผู้ที่ให้ความสนใจมากมาย แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะคิดว่าตัวเองหนักว่าความเป็นจริงนะ อย่างไรก็ตาม ก็มีหลายฝ่ายเป็นห่วงว่า นี่จะเป็นโปรโมชั่นที่ทำร้ายสุขภาพคนจีนหรือไม่ เพราะจากรายงานล่าสุด ประเทศจีนคือประเทศที่มีคนอ้วนมากที่สุดในโลก คือประมาณ 89.6 ล้านคน และยิ่งมีโปรโมชั่นนี้อีก จะเป็นการส่งเสริมให้คนอ้วน อ้วนยิ่งขึ้นกว่าเดิมหรือเปล่า แหม แบบนี้ก็มีด้วย หวังว่าคงไม่มีใครทำน้ำหนักเพื่อจะไปกินร้านนี้ฟรีๆ หรอกนะ บอกเลยว่าไม่คุ้มกับสุขภาพที่เสียไปแน่นอน ฮาาา ที่มา Shanghaiist
-
เปิดมิติใหม่ที่ ‘ภัตตาคารห้องส้วม’ ในไต้หวัน เพราะใช้เครื่องสุขภัณฑ์เป็นภาชนะใส่อาหาร!?
เมื่อกล่าวถึงร้านอาหารแล้วพวกเรามักจะนึกถึงความน่าทานของอาหารมาเป็นอันดับหนึ่ง จากนั้นก็แล้วแต่รสนิยมของแต่ละคนว่ามีความชอบไปในทิศทางไหน เช่น บางคนก็ชอบความสะอาด บางคนก็ชอบแนวการตกแต่งร้านที่ดูแนวๆ อยู่กับธรรมชาติ เป็นต้น ซึ่งปัจจุบันก็มีร้านอาหารครีเอทออกมามากมาย เช่น ใส่ภาชนะแบบแปลกๆ มาให้เราทาน บางครั้งก็มีการคิดชื่อเมนูแปลกๆ จนทำให้เราสงสัยว่ามันคืออะไรจนทำให้ต้องสั่งมาลองทาน แต่!! #เหมียวหง่าว จะพาเพื่อนๆ ไปชมร้านอาหารที่เรียกได้เลยว่าแปลก แบบขั้นสุด แปลกเพราะว่าเขาใช้เครื่องสุขภัณฑ์มาใช้เป็นภาชนะในการเสิร์ฟอาหารให้กับลูกค้ายังไงล่ะ!!??…ไม่เชื่อใช่มั้ยล่ะ ลองไปชมภาพพร้อมๆ กันได้เลย ร้านอาหารนี้ชื่อว่าร้าน Modern Toilet Restaurant หรือ ภัตตาคารห้องส้วม ตั้งอยู่ในเมือง Kaohsiung ประเทศไต้หวัน เป็นร้านอาหารที่มีความใจกล้าโดยการใช้เครื่องสุขภัณฑ์เป็นภาชนะในการใส่อาหารมาให้กับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นต้ม ผัด แกง ทอด หรือเมนูเส้น ก็จะถูกจัดเสิร์ฟมาในโถส้วม หรือ โถฉี่เกือบจะทั้งหมด!! โดยจะมีการตกแต่งร้านด้วยกระจก โถฉี่และโถส้วม เพื่อให้บรรยากาศเหมือนอยู่ในห้องน้ำจริงๆ ฮร่า แต่จริงๆ แล้วนอกจากรูปร่างที่ดูแปลกๆ แล้วแต่อย่างอื่นก็ปกติดีนะจ๊ะ โดยเฉพาะเรื่องความสะอาดนี่ไว้ใจได้เลย เป็นอย่างไรกันบ้างจ๊ะเพื่อนๆ…
-
เบื่อคาเฟ่หมาแมวแล้ว? ลองไปเที่ยวคาเฟ่ “เพนกวิน” สุดน่ารักในโตเกียวกันเถอะ!!
ช่วงเราไปทางไหน ก็จะเห็นคาเฟ่ร้านกาแฟหมาแมว (หรือกระต่าย) อยู่เต็มไปหมด ซึ่งแรกๆ เราก็ตื่นเต้นอยู่หรอก แต่พอนานๆ ก็กร่อย ถ้าใครเริ่มเบื่อคาเฟ่หมาแมวแล้ว วันนี้ #เหมียวอ๊อดโด้ จะพาเพื่อนๆ ไปชม “คาเฟ่เพนกวิน” ในประเทศญี่ปุ่นกัน รับรองว่าน่ารักไม่แพ้หมาแมวอย่างแน่นอน จะเป็นยังไง ไปชมกันเลย!!! คาเฟ่เพนกวินแห่งนี้ตั้งอยู่ในย่านอิเคะบุคุโระ ในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งในร้านมีอาหารและเครื่องดื่มจำหน่ายรวมถึงเพนกวินอีกนับสิบให้เราได้ชมกัน หลายคนอาจเป็นกังวลว่า หากมีผู้ใช้บริการเมาแล้วอาละวาด เหล่าเพนกวินน้อยจะได้รับอันตรายหรือไม่ ขอบอกเลยว่าไม่ต้องห่วง เพราะเหล่าเพนกวินจะมีกระจกกั้นระหว่างพวกมันกับลูกค้า ทำให้ไม่ต้องห่วงเรื่องการบาดเจ็บหรือทำร้ายเพนกวินไปได้เลย เจ้าของร้านเล่าว่า เขาสร้างคาเฟ่เพนกวินขึ้นมา เพราะอยากให้ลูกค้าได้รู้สึกสบายเวลามาทานอาหารที่นี่ ลองนึกภาพกินข้าวไปดูเพนกวินไปสิ จะมีความสุขขนาดไหน ยิ่งไปกว่านั้น หากลูกค้ามาใช้บริการในช่วงเวลาที่ร้านกำลังให้อาหารเพนกวินอยู่ พวกเขาก็สามารถร่วมให้อาหารเพนกวินได้ด้วยตนเอง นอกจากนี้ทางร้านยังเปิดให้เช่าพื้นที่ร้านเป็นสถานที่จัดงานแต่งงาน หากคู่รักคู่ไหนต้องให้มีเพนกวินอยู่ในงานด้วย อร๊ายยยย น่าร๊ากกกก ใครไปเที่ยวญี่ปุ่นก็อย่าลืมไปแวะคาเฟ่เพนกวินแห่งนี้ล่ะ ลองไปเล่นกับเพนกวิน คงจะน่าสนุกไม่เบาเลยจริงๆ อิอิ ที่มา Metro
-
3 ร้านอาหารในประเทศจีนที่ใช้หุ่นยนต์ในการบริการลูกค้า กำลังประกาศยกเลิกการใช้เสียแล้ว…
หลายๆ คนที่มีข่าวคราวเกี่ยวกับเรื่องที่หุ่นยนต์จะเข้ามาทำงานแทนงานของตัวเองก็คงจะรู้สึกโล่งใจกันบ้าง เพราะล่าสุดนี้ร้านอาหารในประเทศจีนจำนวน 3 ร้านที่ทดสอบโดยการนำหุ่นยนต์ไปทำงานกำลังมีแผนที่จะปลดเจ้าหุ่นเหล่านี้ออกจากงานแล้วล่ะ เพราะว่าหุ่นยนต์นั้นไม่สามารถคิดวิเคราะห์ได้แบบมนุษย์ ในการบริการลูกค้ากันได้แบบเต็มที่ จากร้านอาหารในกว่างโจวที่ใช้หุ่นยนต์บริการ 3 ร้าน ตอนนี้เหลือเพียงร้านเดียว และใช้เพียงตัวเดียวแล้วเท่านั้น… จากการรายงานที่ว่าทั้ง 3 ร้านเคยใช้หุ่นยนต์ 10 ตัว เพื่อบริการแขกก็พบว่า มีผลดีในระยะสั้นๆ มากๆ เพราะว่าสามารถดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาในร้านได้อย่างน่าประหลาดใจ หุ่นยนต์บริการเสิร์ฟอาหารในจีน แต่พอเวลาผ่านไปก็มีเสียงคอมเพลนจากเหล่าลูกค้าว่า ‘อาหารไม่อร่อย’ และในทางเดียวกันหุ่นยนต์ก็ไม่สามารถเทเครื่องดื่มให้กับลูกค้าหรือรับออเดอร์พิเศษต่างๆ ได้อย่างถูกต้อง หลังจากเหตุการณ์นี้ส่วนธุรกิจก็ได้ออกมาวิเคราะห์ว่า เหล่าหุ่นยนต์นั้นเหมาะสมกับงานที่ต้องทำซ้ำๆ เปลี่ยนแปลงน้อยๆ เสียมากกว่า การที่จะให้รับงานคิดวิเคราะห์อะไรต่างๆ นั้นอาจจะยากเกินไปสำหรับพวกมัน เร็วๆ นี้เราคงไม่ได้เห็นหุ่นพวกนี้มาแทนที่มนุษย์หรอก หลักๆ แล้วต้องพัฒนาในด้านระบบความคิดของเหล่า A.I. นั่นแหละ เพื่อให้สามารถคิดวิเคราะห์พลิกแพลงและแก้ปัญหาสถานการณ์เฉพาะหน้าได้ แต่ #จ่าสิบเหมียว คิดว่าในอนาคตเราได้เห็นกันอย่างแน่นอนเลยล่ะ ที่มา: BusinessInsider
-
ไอเดียเจ๋ง!! ร้านอาหารในอินเดียตั้งตู้เย็นไว้ข้างถนน ให้คนไร้บ้านสามารถหยิบของกินได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ในอินเดียมีจำนวนคนไร้บ้านมากถึง 1.7 ล้านคน ส่วนมากพวกเขาจะใช้ชีวิตอยู่ในเมืองใหญ่ๆ ทำให้ต้องพยายามคุ้ยหาเศษอาหารตามถังขยะเพื่อประทังชีวิตไปวันๆ แต่ด้วยความสงสารและอยากจะให้พวกเขาเหล่านั้นมีอาหารกิน ร้านอาหารแห่งหนึ่งในอินเดียจึงคิดหาวิธีที่จะให้พวกเขาได้กินอาหารสะอาดๆ ดูบ้าง ร้านอาหารที่#เหมียวฟิ้นกำลังพูดถึงอยู่นี้มีชื่อว่า Pappadavada ในเมืองโคจิ ประเทศอินเดีย พวกเขาได้นำเอาตู้เย็นออกมาตั้งไว้ด้านนอกร้าน เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้านำอาหารที่เหลือมาใส่ไว้ในตู้เย็น และให้คนไร้บ้านสามารถมาหยิบกินได้ตลอดเวลา เจ้าของร้านและไอเดียที่ว่านี้มีชื่อว่านาง Minu Pauline เธอตั้งชื่อเล่นให้กับตู้เย็นนี้ว่า “nanma maram” ในภาษาอินเดียแปลว่า “ต้นไม้แห่งคุณธรรม” คนไร้บ้านสามารถหยิบอาหารอะไรจากตู้เย็นนี้กินได้ตลอดเวลา โดยไม่ต้องมีเหตุผลใดๆ หรือขออนุญาตใครก่อนเลย เจ้าตู้เย็นนี้สามารถเปิดได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทุกวันและไม่เคยล็อคเลย อีกทั้งบนอาหารจะมีการเขียนวันที่ใส่อาหารลงไปด้วย ผู้คนที่มาหยิบไปกินจะได้รู้ว่ามันถูกแช่ไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ Pauline บอกว่าเธอเริ่มปิ๊งไอเดียนี้ขึ้นมา หลังจากที่ได้เห็นหญิงสาวกำลังคุ้ยหาอาหารในถังขยะที่ร้านของเธอตอนกลางคืน ทำให้เธอรู้ว่าร้านอาหารมีอาหารเหลือในแต่ละวันมากแค่ไหน ต้องยอมรับเลยว่าหญิงสาวอย่าง Pauline เป็นคนใจบุญจริงๆ หากร้านอาหารร้านไหนอยากจะลองเอาไอเดียนี้ไปใช้ก็ลองทำดูได้นะ ที่มา distractify
-
น่ารักมาก ร้านอาหารในสหรัฐเปิดให้บริการแก่ “คนไร้บ้าน” พร้อมสโลแกน “อิ่มอย่างมีเกียรติ”
บางครั้งการเห็นเหล่าคนไร้บ้านต้องนอนหิวโหยตามข้างถนน อาจทำให้จิตใจของคนบางคนเป็นกังวลและอยากจะเข้าไปช่วยเหลือพวกเขา นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นของร้านอาหารแห่งหนึ่งในสหรัฐ ที่มีไว้เพื่อคอยบริการเหล่าคนไร้บ้านโดยเฉพาะยังไงล่ะ เมื่อไม่นานมานี้ เว็บไซต์ Huffingtonpost ได้เผยแพร่เรื่องราวดีๆ ของร้านอาหารที่ชื่อว่า Kansas City Community Kitchen ที่ตั้งอยู่ในรัฐแคนซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ร้านอาหารแห่งนี้เกิดขึ้นจากความร่วมมือขององค์กรการกุศล ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อให้ความช่วยเหลือแก่เหล่าคนไร้บ้านมานานกว่า 30 ปี โดยมีสโลแกนว่า “อิ่มอย่างมีเกียรติ” โดยจะเริ่มให้บริการในช่วงเวลาประมาณ 11.00 – 14.00 น. ของทุกๆ วัน เหล่าคนไร้บ้านจะถูกบริการอย่างดีประหนึ่งเป็นลูกค้าทั่วๆ ไป ตั้งแต่ทักทาย พาไปนั่งที่โต๊ะ รับออร์เดอร์ ชวนคุย เสิร์ฟอาหาร นาย Brian Oglesby หนึ่งในคนไร้บ้านที่เข้ารับบริการที่ร้านแห่งนี้กล่าวว่า “มันแตกต่างเหลือเกิน พวกเขาปฏิบัติต่อผมอย่างดี เหมือนกับว่าพวกเขาไม่ได้รู้เลยว่าผมเป็นคนไร้บ้าน” เมนูหลายๆ อย่างในร้านแห่งนี้ถูกปรุงแต่งและควบคุมโดยเชฟ Michael Curry เจ้าของร้าน…
-
เหมียวนี่ขนลุกเลย!! ลูกค้าโวย เจอแมลงสาบโผล่บนโซบะในร้านอาหารดังย่านลาดพร้าว
สิ่งหนึ่งที่#เหมียวฟิ้นมักจะมองเป็นอันดับแรกๆ เวลาไปร้านอาหารเลยก็คือเรื่องของความสะอาดนี่แหละ เพราะถึงแม้อาหารจะรสชาติธรรมดาๆ แต่หากร้านสะอาดมันก็น่านั่งใช่ไหมล่ะ ถ้าหากร้านไหนไม่มีมาตรฐานตรงนี้คงจะเสียลูกค้าไปเยอะทีเดียว เหมือนอย่างกรณีที่เหมียวจะเล่าต่อไปนี้ เมื่อวันที่ 3 มีนาคมที่ผ่านมา สมาชิกเว็บไซต์พันทิปที่ใช้นามแฝงว่าคุณ nattanonkun ได้เข้ามาเล่าประสบการณ์สุดขนลุกที่เขาได้เจอมาจากร้านอาหารแห่งหนึ่งย่านลาดพร้าว เจ้าของกระทู้ได้เล่าว่าเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 3 มีนาคม ตัวเองและแฟนได้ไปนั่งทานอาหารญี่ปุ่นที่ห้างสรรพสินค้าย่านลาดพร้าว เมื่อไปถึงร้านก็ได้สั่งบะหมี่เย็นมานั่งทานกัน แต่ในระหว่างที่กำลังโซ้ยเข้าปากอยู่นั้นเอง พวกเขาก็สังเกตเห็นแมลงตัวเล็กน่ารักตัวหนึ่ง ใช่แล้ว มันคือแมลงสาบ!! เมื่อเห็นดังนั้นทั้งคู่เลยเรียกพนักงานร้านให้เข้ามาช่วยดู ทางร้านจึงเสนอลดราคาอาหารให้ 50% พร้อมกับการขอโทษขอโพยกันไป นี่แสดงให้เห็นแล้วว่า แม้จะเป็นร้านอาหารที่อยู่บนห้างใหญ่ ก็มีโอกาศที่จะเจอสิ่งแปลกปลอมแบบนี้ได้ ทางที่ดีเราควรเช็คอาหารก่อนทานด้วย ก็น่าจะเพิ่มการป้องกันให้กับตัวคุณเองได้นะ ที่มา pantip
-
ก็แล้วแต่!? ร้านอาหารหลังม. ขอนแก่น ‘แล้วแต่เลย’ กับสารพัดภาชนะที่จะใส่ให้ลูกค้า
เพื่อความอยู่รอดของเรา เราก็ต้องกินใช่มั้ย หิวก็ต้องกิน อย่าปล่อยให้ท้องอด และมักจะเป็นประจำสำหรับผู้ที่ไม่มีครัวหรือขี้เกียจทำอาหาร ทางออกที่ดีที่สุดสำหรับการฝากท้องก็คือการไปร้านอาหารตามสั่ง และโดยปกติในช่วงนี้ในยุคที่อะไรๆ ก็แพง อาหารที่ได้จากร้านอาหารตามสั่งก็ดูน้อยนิดเมื่อเทียบกับราคา แต่สถานการณ์นี้ใช้ไม่ได้กับร้านตามสั่ง ‘แล้วแต่ Food&Drink Bar’ ที่ตั้งอยู่บริเวณหลังมหาวิทยาลัยขอนแก่นแห่งนี้ คือแบบมาร้านนี้มาแหวกแนวมาก ทั้งแล้วแต่จะสั่ง แล้วแต่จะกิน แล้วแต่จะใส่ แล้วแต่จะจ่าย คงคอนเซ็ปต์แล้วแต่อย่างหนักแน่น สารพัดภาชนะที่จะใส่ให้ลูกค้าได้รับประทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อย สวยงามตามท้องเรื่อง#จานแปลก#แล้วแต่ #กะเพราแท้ #ระดับโลกเฮ้ย Posted by แล้วแต่ Food&Drink Bar on Friday, February 19, 2016 #เหมียวเลเซอร์ รู้สึกว่าบางอย่างมันก็ดูล้นซะเหลือเกิน พอเจอแบบหม้อเข้าไปดูน้อยยังไงก็ไม่รู้ ที่ฮาหนักมากก็คือเอาตาชั่งมาราดข้าวนี่แหละ เออ!! ก็คิดได้เนอะ ปล. ทางร้านบอกว่า ไม่มีการเสิร์ฟจานพิสดารแบบนี้สุ่มสี่สุ่มห้านะจ๊ะ ใครอยากลองต้องรีเควส ทางร้านถึงจะจัดให้เป็นพิเศษชนิดที่ว่าทำให้ทุกคนต้องอึ้ง!! ที่มา : แล้วแต่…
-
กล้ากินไหม!! ร้านอาหารในญี่ปุ่นให้บริการเฉพาะ ‘เมนูพิสดาร’ สำหรับบรรดานักชิมที่ชอบกินของแปลก
นอกจากญี่ปุ่น จะเป็นประเทศที่มีไอเดียการทำอาหารให้ออกมาสร้างสรรค์ และมีหน้าตาที่น่ารับประทานแล้ว ในเรื่องของความแปลก ญี่ปุ่น ก็ไม่เป็นสองรองใครเช่นกัน อย่างเช่นร้านอาหารที่ชื่อว่า Chinju-ya นี้ เรียกได้ว่าเป็นร้านอาหารที่ให้บริการเฉพาะเมนูแปลกๆ เท่านั้น ซึ่งทางพ่อครัวก็มักจะทำเมนูเปิบพิสดารขึ้นมา สำหรับบรรดานักชิมใจกล้า ที่ชื่นชอบความแปลกแหวกแนวโดยเฉพาะเลยละ ซึ่งแต่ละเมนูนั้นบอกเลยว่าคนธรรมดาๆ อย่างเราไม่กล้ากินกันอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็น… พวกแมลงเอย หนอน ตุ๊กแกก็มีนะ จระเข้มาทั้งขากันเลยทีเดียว แมงป่อง และเมนูนี้ใครไม่กล้าจริง กินไม่ได้นะจ๊ะสำหรับเมนู ซาลาแมนเดอร์ทอด จริงๆ แล้วพวกแมลง หรือพวกหนอนทอด บ้านเราก็นิยมทานกันอยู่ไม่น้อย แต่สำหรับบางเมนูก็ทำเอาคนดูขนลุกไปตามๆ กัน เพราะสัตว์ที่นำมาทำเป็นอาหารนั้น คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยนิยมรับประทานกันสักเท่าไหร่ แต่ก็เอาเถอะในเมื่อทำออกมาแล้ว คนชอบกินแปลกก็ต้องไปลองชิมดูสักครั้งแล้วละเมี๊ยว ที่มา : viralnova
-
ชาวเน็ตอึ้ง นำเค้กไปเซอร์ไพรซ์วันเกิดในร้านอาหาร เจอร้านชาร์จค่าเค้กวันเกิดหัวละ 100!?!?
กลายเป็นประเด็นร้อนบนอินเตอร์เน็ตเลยทีเดียว สำหรับการชาร์จราคาแบบไม่สมเหตุสมผลของร้านอาหาร หลังจากมีการไปเลี้ยงฉลองวันเกิดในร้านอาหารชื่อดังแห่งหนึ่ง เมื่อเช็คบิลกลับมาค่าธรรมเนียมการนำเค้กเข้ามาทานกว่าหกร้อยบาท โดยเรื่องราวเป็นของคุณ Anne Rattinand ได้เล่าว่าเธอได้ไปทานอาหาร ณ ร้านอาหารชื่อดังแห่งหนึ่ง และมีการนำเค้กจากภายนอกเข้าไปเซอร์ไพรซ์วันเกิดภายในร้าน เมื่อเช็คบิลมา ปรากฎว่ามีค่าปรับในการนำเค้กเข้ามาถึง 600 บาท โดยเธอเล่าว่า เธอได้ถามพนักงานแล้วว่า การนำเค้กเข้ามาต้องเสียค่าปรับเท่าไหร่ พนักงานได้บอกเธอว่า 100 บาท แต่ไม่ได้บอกว่าเป็นการคิด “ต่อหัว” ซึ่งพวกเธอมากันหกคนจึงเสียรวม 600 บาท เธอจึงต้องการความชัดเจนในนโยบายของร้าน ว่าที่จริงแล้วเป็นยังไงกันแน่ ชาวเน็ตเมื่อเห็นดังนั้น ก็เข้ามาวิพากษ์วิจารณ์มากมาย สุดท้ายแล้วทางร้านก็กลับมาจี้แจงให้กับเจ้าทุกข์ว่า ต้องทานอาหารเกิน 20,000 บาทเท่านั้น ถึงจะไม่มีค่าปรับ เห็นราคาแล้วโหดจริงๆ ปรับกันเกือบจะได้ราคาเค้กอยู่แล้วนะเนี่ย ทีหลังใครจะไปร้านอาหารที่ไหน ถามข้อห้ามกฎระเบียบเอาไว้ให้ดีนะเหมียว ไม่งั้นอาจเจอเหตุการณ์แบบนี้ได้ ที่มา Anne Rattinand
-
ร้านอาหารไต้หวันงัดกลยุทธ์เด็ด จัดคู่หนุ่มสาว ใส่ชุดเปลือยให้ดูเหมือนกำลังแก้ผ้าเดินทั่วเมือง
ถ้าหากว่าใครที่ได้เห็นภาพของหนุ่มสาวชาวไต้หวันคู่นี้ เชื่อว่าคุณจะต้องตะลึง และเกิดความสงสัยกันอย่างแน่นอน ว่าทำไมทั้งคู่ถึงได้มาเดินแก้ผ้าเปลือยกายอล่างฉ่างกลางเมื่อแบบนี้ แต่ความจริงแล้วถ้าหากคุณได้เดินเข้าไปดูใกล้ๆ จะพบว่า พวกเขาไม่ได้ลงทุนเปลือยกายเดินไปทั่วเมืองแต่อย่างใด เพียงแต่ใส่ชุดชั้นใน และกางเกงในสีเนื้อเท่านั้น โดยทางด้านเว็บไซต์ต่างประเทศได้รายงานว่า สาเหตุที่หนุ่มสาวคู่นี้ ใส่ชุดเปลือยให้ดูเหมือนกำลังแก้ผ้าเดินทั่วเมืองนั้น เป็นเพราะว่าพวกเขากำลังทำการโปรโมทร้านอาหารนั่นเอง โอ้ววว นี่มันเป็นกลยุทธ์ดึงดูดลูกค้าชัดๆ แม้ว่าทั้งคู่จะไม่ได้เปลือยกายจริงๆ แต่ก็สร้างความไม่พอใจให้กับผู้ที่ได้พบเห็นเป็นอย่างมาก เพราะถือว่าพวกเขาได้สร้างภาพอนาจารในที่สาธารณะไปแล้ว ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อได้รับข้อมูลก็เตรียมเข้าสอบสวนเจ้าของร้าน ว่าทำไมถึงใช้วิธีนี้โปรโมทร้านได้ ที่มา : shanghaiist
-
ไปให้สุดทาง!! มิติใหม่แห่งการกิน “บุฟเฟ่ต์ลูกเทพ อิ่มไม่อั้น!!” คิดค่าบริการเท่าอัตราเด็กเล็ก
กำลังได้รับความนิยมจากชาวไทยหลายๆ คนเลยทีเดียว สำหรับตุ๊กตาแนวใหม่ที่เรียกกันว่า “ตุ๊กตาลูกเทพ” ที่นำเอาตุ๊กตาธรรมดาๆ ไปปลุกเสกเพื่อเรียกเทวดาให้มาสิงอยู่ในร่างของตุ๊กตา ซึ่งหากใครที่นำเอาตุ๊กตาตัวนี้มาเลี้ยง จะต้องปฏิบัติกับตุ๊กตาประหนึ่งว่าเป็นเด็กคนนึงเลยทีเดียว จนเมื่อวันที่ 23 มกราคมที่ผ่านมามีข่าวออกมาว่าสายการบินไทยสมายล์ เปิดให้ประชาชนจองตั๋วเครื่องบินสำหรับตุ๊กตาลูกเทพได้แล้ว ซึ่งก็ทำเอาชาวไทยหลายๆ คนถึงกับอึ้งเลย เพราะแค่ตุ๊กตาตัวเล็กๆ ตัวเดียวถึงกับต้องซื้อที่นั่งอีกหนึ่งที่ให้นั่งเลยหรือ? และหากคุณคิดว่าการที่ตุ๊กตาลูกเทพมีที่นั่งบนเครื่องบินเป็นอะไรที่แปลกแล้ว วันนี้แอดเหมียวจะพาไปดูอะไรที่แปลกแหวกแนว อเมซิ่งไทยแลนด์ยิ่งกว่า เพราะตอนนี้มีร้านบุฟเฟ่ต์แห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ เสนอโปรโมชั่นใหม่ ที่ให้คุณสามารถนำลูกเทพไปนั่งกินอาหารได้อย่างสบายใจแล้ว!! ร้านบุฟเฟ่ต์ที่แอดเหมียวพูดถึงนี้มีชื่อว่าร้าน Neta Grill ทางร้านได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กเพจ โดยระบุว่าตลอดระยะเวลา 1 เดือนที่ผ่านมา มีคนนำตุ๊กตาลูกเทพไปนั่งทานอาหารแล้วกว่า 30 ราย ทางร้านจึงเสนอให้นำลูกเทพมานั่งทานอาหารในร้านได้ โดยทางร้านจะคิดค่าบริการเท่าเด็กเล็ก 1 คน แต่มีข้อแม้ว่าต้องทานให้หมด หลังจากที่ภาพโปรโมชั่นของทางร้าน Neta Grill ถูกแชร์ออกไป ก็มีเสียงตอบรับหลากหลายรูปแบบตามมา โดยมีชาวเน็ตบางส่วนที่เชื่อและเลี้ยงตุ๊กตาลูกเทพเอาไว้ แสดงความเห็นว่าโปรโมชั่นนี้น่าสนใจและจะพาตุ๊กตาลูกเทพของตนเองไปนั่งทานอาหารแน่นอน ในขณะที่ชาวเน็ตอีกส่วนหนึ่งมองว่าการทำโปรโมชั่นครั้งนี้ของทางร้าน ไม่ได้เป็นการส่งเสริมหรือเห็นด้วยกับการเลี้ยงตุ๊กตาลูกเทพแต่อย่างใด…
-
15 ภาพบ้านขนาดเล็ก ที่ถูกสร้างขึ้นมาให้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ทั้งสวยงาม และน่าอยู่ฝุดๆ
หลายคนอาจจะใฝ่ฝันว่าอยากจะมีบ้านหลังเล็กๆ อยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันสวยงาม ร่มรื่น และเงียบสงบ เพราะในปัจจุบันไม่ว่าเราจะมองไปทางไหนก็มีแต่ตึกราบ้านช่องเต็มไปหมด และนี่คือ 15 ภาพของบ้านหลังเล็กๆ ที่ถูกสร้างขึ้นมาให้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันสวยงาม แถมยังดูกลมกลืนไปกับธรรมชาติมากๆ อีกด้วย รับรองว่าถ้าคุณได้เห็นจะต้องอยากมีสักหลังแน่นอน 1.ร้านอาหาร The Rock Restaurant ในแทนซาเนีย 2.บ้านฮอบบิทในนิวซีแลนด์ 3.บ้านโดมจากไม้ ในฝรั่งเศส 4.กระท่อม Luka Vuerich บนภูเขาในอิตาลีและสโลเวเนีย 5.บ้านจากหินในโปรตุเกส 6.บ้านต้นไม้ 7.โรงแรม Rogner Bad Blumau ในออสเตรีย 8.Kandovan ในอิหร่าน 9.บ้านฮอบบิท ในเวลส์และสหราชอาณาจักร 10.บ้านที่สร้างภายในถ้ำ ประเทศฝรั่งเศส 11.บ้านจากดินในอริโซนา สหรัฐอเมริกา 12.บ้านที่ถูกปกคลุมไปด้วยหญ้าในโปแลนด์ 13.บ้านใกล้ริมน้พใน Bosnia…
-
ชมร้านอาหารในประเทศอิตาลี ที่ตั้งอยู่ “ภายใน” ถ้ำสุดอลังการ เห็นแล้วอยากไปเยือนซักครั้ง!!
การเลือกร้านอาหารดีๆ ซักร้านเพื่อรับประทานอาหารกับคนที่คุณรัก ถือว่าเป็นเรื่องอันแสนอภิรมย์อย่างหนึ่ง ลองนึกภาพทานข้าวใต้แสงเทียน ในบรรยากาศหรูหราดูสิ จะมีความสุขขนาดไหน แต่ถ้าร้านอาหารห้าดาวบนตึกสูงยังไม่น่าตื่นตาพอสำหรับคุณล่ะก็ วันนี้เหมียวจะพาเพื่อนๆ ไปชมร้านอาหารสุดหรูที่ตั้งอยู่ในถ้ำ ที่รับรองว่าเห็นแล้วเพื่อนๆ จะต้องตะลึงอย่างแน่นอน จะเป็นยังไง ไปชมกันเลย ร้านอาหารแห่งนี้เป็นร้านอาหารของโรงแรม Grotta Palazzese โรงแรมสี่ดาวแห่งนี้ตั้งอยู่ที่เมือง Polignano ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศอิตาลี โดยพวกเขาได้เปลี่ยนถ้ำหินปูนโบราณตรงนี้ ให้กลายเป็นร้านอาหารสุดหรู ภายในร้าน ผู้ใช้บริการสามารถมองเห็นวิวทะเล Adriatic ได้จากโต๊ะเลยทีเดียว งดงามใช่มั้ยละ ราคาของโรงแรมนี้ก็ไม่ได้แพงมาก โดยเริ่มต้นที่ประมาณ 3,500 บาทถึง 5,000 บาทต่อคืนเท่านั้นเอง เห็นแล้วอยากจะไปเยือนซักครั้งจริงๆ สวยงามอลังการมากๆ ใครที่มีแผนไปเที่ยวอิตาลี ก็ลองไปเที่ยวซักครั้งนะ แล้วอย่าลืมมาเล่าให้เหมียวฟังบ้างล่ะ อิอิ ที่มา Boredpanda
-
แบบนี้ก็ได้เหรอ? รวม 18 ภาชนะสุดแปลก ที่ร้านอาหารต่างๆ นำมาใช้เสิร์ฟอาหาร
ทุกวันนี้ ธุรกิจร้านอาหารเริ่มมีเทคนิคใหม่ๆ ในการดึงดูดลูกค้ามากกว่าแค่เรื่องรสชาติซะแล้วล่ะ เพราะตอนนี้เขาหันมาแข่งขันในเรื่องหน้าตา การเสิร์ฟและภาชนะกันแล้ว อย่างในบ้านเราเองก็มีทั้งไอศกรีมหม้อไฟ, ส้มตำถาด หรือกุ้งถัง ในต่างประเทศเองก็มีอะไรแบบนี้เหมือนกันนะ แถมดูจะมีสีสันมากกว่าบ้านเราด้วย เพราะพวกเขานำเอาสิ่งของประหลาดๆ มาเป็นภาชนะได้แบบที่เราเองก็คาดไม่ถึงเหมือนกัน จะเป็นยังไงลองไปชมกันดูนะ 1. เครื่องดื่ม พร้อมแปรงสีฟัน!? 2. พลั่วก็ใช้ได้? 3. ยกมาทั้งโต๊ะ 4. ใส่ตะกร้ามาเลย 5. เหมือนเลย นี่เหมือนเลย!! 6. มาเป็นชั้นๆ 7. มาแบบรถเข็นเลย 8. ไม้ปิงปอง!? 9. ได้อารมณ์เกษตรกรตัวจริง 10. กินจากหอยเลย 11. วางโล่งๆ แบบนี้ 12. รถเข็นห้างก็ใช้ได้ 13.…
-
ชาวเน็ตโวยร้านซีฟู๊ดมหาโหด ค่าอาหารนับหมื่น ไข่เจียวหมูสับจานละ 300 แถมคิด Vat 7% !?!?
แม้ประเทศเราจะขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองแห่งการท่องเที่ยว แต่ก็ยังมีข่าวการหลอกลวงขูดรีดนักท่องเที่ยวอยู่เป็นประจำ โดยเฉพาะกับร้านอาหาร ที่คิดราคาดุจซื้อวัตถุดิบมาจากขั้วโลกเหนือ!! อย่างเช่นที่สมาชิคเว็บไซต์พันทิป Richeorang คนนี้ไปเจอมา เธอได้ไปกินอาหารที่ร้านอาหารซีฟู๊ดแห่งหนึ่ง ย่านซอยเพรชบุรี 19 เมื่อรับประทาน เธอก็เรียกคิดเงิน ปรากฏว่าบิลออกมาถึง 12,000 บาท ทั้งๆที่เธอกินอาหารแค่ไม่กี่อย่าง!?!? โดยในบิลได้เขียนค่าอาหารอันน่าตกใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็น คะน้าน้ำมันหอย 2 จาน 600 บาท ไข่เจียวหมูสับ 2 จาน 600 บาท ปลากระพงนึ่งมะนาวจานละ 3,400 บาท และที่สำคัญมีการคิดเงินค่าบริการ 10% เป็นเงิน 1,129 บาท และค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7 เปอร์เซ็นอีก 739 บาทอีกด้วย เมื่อสมาชิคท่านอื่นๆได้เห็นบิลอันน่าตกใจอันนี้ ก็เข้ามาแสดงความเห็นกันอย่างมากมาย และแนะนำให้เจ้าของกระทู้ นำเรื่องไปแจ้งต่อกรมการค้าภายในและกรมสรรพกรเพื่อดำเนินการต่อไป คิดราคาขนาดนี้ เอาปืนมาจี้กันเถอะฮะ หวังว่าเจ้าหน้าที่รัฐจะเข้าไปจัดการโดยเร็วนะฮะ แบบนี้มันไม่ถูกต้องแล้ว ที่มา Richeorang
-
ลูกค้าโวย ภัตตาคารจีนคิดค่า “อากาศดี” ในบิลค่าอาหาร อ้างรู้เท่าไม่ถึงการณ์?!?!
ประเทศจีนนี่มีอะไรมาให้เราได้เงิบอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ขนาดไหน พวกเขาก็พร้อมจะทำให้เป็นข่าวดังได้ อย่างเช่นเรื่องราวของร้านอาหารสุดเคี่ยวแห่งนี้ เรื่องมีอยู่มีลูกค้าท่านหนึ่งไปทานอาหารในร้านอาหารแห่งหนึ่งในเมือง Zhangjiagang มลฑล Jiangsu ประเทศจีน ปรากฏว่าตอนเรียกเก็บเงิน ในบิลค่าอาหารดันมีค่า “ฟอกอากาศ” ด้วย ซึ่งร้านอาหารคิดค่าฟอกอากาศ 1 หยวนต่อคน โดยทางภัตตาคารอ้างว่า พวกเขาเพิ่งซื้อเครื่องฟอกอากาศอย่างดีมาใหม่ จึงต้องมีการเรียกเก็บค่าบริการซักนิดหนึ่ง ทางลูกค้าได้ยินแบบนี้ จึงร้องเรียนไปยังกรมคุ้มครองผู้บริโภคในทันที กรมคุ้มครองผู้บริโภคจึงเข้ามาจัดการร้านค้าดังกล่าวพร้อมบอกว่า อากาศในร้านถือว่าเป็นความรับผิดชอบของร้าน ไม่สามารถผลักภาระไปที่ผู้บริโภคได้ และการค้าขาย “อากาศ” ถือว่าเป็นเรื่องผิดกฎหมายอีกด้วย โดยตอนนี้ในเมือง Zhangjiagang กำลังประสบกับปัญหาฝุ่นควันอย่างรุนแรง ในทุกวันจะมีฝุ่นหนาจนสามารถมองเห็นได้เพียงในระยะ 100 เมตรเท่านั้น แบบนี้ก็โหดเกินไปเนอะ อีกหน่อยคงต้องเรียกเก็บค่าเก้าอี้ ค่าโต๊ะ อะไรแบบนี้แล้วล่ะ ฮาาาา ที่มา Shanghaiist
-
เด็ดสุด!! ร้านอาหารในโตเกียว ให้หนุ่มล่ำก้ามปูมาบริการเสิร์ฟ พร้อมเต้นให้ลูกค้าดูเป็นอาหารตา
เรียกได้ว่างานนี้สาวๆ ทั้งหลายได้ทั้งอิ่มท้อง และอิ่มอกอิ่มเอมใจกันแบบเต็มๆ แน่นอน เมื่อร้านอาหารแห่งหนึ่งในกรุงโตเตียว ได้ผุดกลยุทธ์การตลาดสุดเด็ด โดยการจ้างหนุ่มหุ่นล่ำกล้ามเป็นมัดๆ มาเป็นพนักงานเสิร์ฟถึง 11 คน มาคอยดูแลและบริการลูกค้ากันแบบอิ่มหนำสำราญกันเลยทีเดียว โอ้ววว เชื่อว่าสาวน้อยสาวใหญ่รวมไปถึงเก้งกวางทั้งหลาย จะต้องน้ำลายไหลกันเป็นแถวแน่ๆ เมื่อได้เห็นภาพของหนุ่มนักกล้ามพนักงานเสิร์ฟเหล่านี้ เท่านั้นยังไม่พอ เพราะนอกจากพวกเขาจะมาบริการเสิร์ฟอาหารให้กับคุณแล้ว คุณยังจะได้เห็นหนุ่มๆ เหล่านี้มาโชว์การเต้นอันเซ็กซี่ และเร่าร้อนฝุดๆ อีกด้วย สำหรับค่าบริการคุณสามารถเลือกจ่ายได้ถึง 2 รูปแบบด้วยกัน โดยชุดอาหารเย็นแสนอร่อย พร้อมกับพูดคุยกับพนักงานหุ่นล่ำ คุณจะได้จ่ายเพียง 145 บาทเท่านั้น แต่ถ้าอยากฟินขึ้นมาอีกนิดโดยรับบริการทั้งเสิร์ฟทั้งดูโชว์เต้นอย่างสำราญใจ คุณจะต้องจ่ายในราคา 970 บาท ป้าดดดด คราวนี้ได้ทั้งอิ่มท้อง และอิ่มใจกันเป็นแถวแน่ๆ ส่วนเพื่อนๆ คนไหนที่อยากจะลองใช้บริการร้านอาหารแห่งนี้สักครั้งในชีวิต ก็รีบตีตั๋วบินไปญี่ปุ่นกันเลยยยยย ที่มา : dailymail
-
ชาวโลกสรรเสริญ ร้านอาหารเสนอโปรลดครึ่งราคา ถ้าชาว ‘อาหรับ’ และ ‘ยิว’ มาทานข้าวด้วยกัน!!!
ถ้าเพื่อนๆ รู้เรื่องราวเกี่ยวกับชาวอาหรับและชาวอิสราเอล (ชาวยิว) แล้วล่ะก็ ก็จะรู้ว่าพวกเขามีความขัดแย้งกันมานมนาน เรียกได้ว่าแทบจำไม่ได้เลยล่ะว่าเริ่มตั้งแต่ตอนไหน สาเหตุหลักก็คงจะเพราะว่าในส่วนของความขัดแย้งกันเรื่องดินแดนนั่นเอง ทำให้สองเชื้อชาตินี้ต่อสู้รบราฆ่าฟันและเป็นศัตรูกันมานมนาน แต่เหมียวก็ดีใจในส่วนที่ว่าเริ่มมีคนผลักดันให้เกิดเรื่องดีๆ ขึ้นแล้วล่ะ ถึงจะเล็กน้อยมากก็ตาม โดยที่ร้านอาหาร Kobi Tzafrir ในตะวันออกกลาง ได้จัดโปรโมชั่นสุดพิเศษให้คนทั้งสองชนชาติ สำหรับชาวอาหรับ ที่เข้ามากินข้าว สั่งอาหารทานกับชาวยิวแล้วล่ะก็ จะได้รับส่วนลดไปเลย ครึ่งราคา ย้ำ ครึ่งราคา!!! ในทุกๆ เมนูเลยล่ะ และข่าวดีกว่านั้นก็คือ ทางร้านได้ออกมากล่าวกับ Times of Israel ว่า ตั้งแต่จัดโปรโมชั่นนี้ ก็มีลูกค้าหลายคนเลยล่ะ ที่เป็นอาหรับ และยิว มาร่วมโต๊ะทานอาหารด้วยกัน น่าชื่นใจจริงๆ ถึงเป็นความพยายามเล็กๆ แต่น่าชื่นชมมากๆ และไม่ใช่ว่าแค่ผู้คนในละแวก ในประเทศเท่านั้น ผู้คนรอบโลกเลยล่ะ สรรเสริญการกระทำอันดีงามของร้านนี้ เป็นเรื่องราวที่ดีมากๆ ทำให้เหมียวข้ามไปไม่ได้เลย ความพยายามเล็กๆ ก็เหมือนหยดน้ำหยดหนึ่ง แต่แน่นอน…
-
ร้านอาหารชื่อดังในจีน จัดพิธีให้พนักงานกราบไหว้เจ้านาย เพื่อสำนึกบุญคุณที่ให้งานทำ!!
การสำนึกบุญคุณแก่ผู้มีพระคุณนั้นเป็นสิ่งที่ดี แต่ทั้งนี้ต้องเกิดขึ้นมาจากจิตใต้สำนึกของแต่ละบุคคล ไม่ใช่เป็นการบังคับแบบนี้ ซึ่งเหตุการณ์ที่ว่าก็เกิดขึ้นในประเทศจีน โดยที่ร้านอาหารแนวหม้อไฟชาบู ได้จัดพิธีให้พนักงานร้านกราบไหว้ผู้บริหารในที่สาธารณะ เกิดเป็นกระแสวิพากย์วิจารณ์อย่างหนัก โดยพิธีการดังกล่าวนั้นจะให้เหล่าพนักงานมานั่งคุกเข่ากลางจัตุรัสในพื้นที่สาธารณะ และให้โค้งตัวก้มลงกราบลงพื้นพร้อมกับกล่าวคำขอบคุณเจ้านายที่ทำให้พวกเขามีงานทำ โดยมีพนักงานอีกกลุ่มคอยยินถือธงและป้ายยืนล้อมพื้นที่ และมีการบันทึกภาพพิธีการทั้งหมดเอาไว้ด้วย โดยที่ทางร้านอาหารสาขานี้ หวังว่าพิธีการที่จัดขึ้นนั้นจะนำไปใช้เป็นต้นแบบให้สาขาอื่นๆ ทำตามในอนาคตด้วย แต่ทว่ากลับได้รับเสียงตอบรับในแง่ลบจากสังคมจีนเป็นจำนวนมาก นักจิตวิทยาก็ได้วิเคราะห์ไว้ว่าพิธีการแบบนี้จะทำให้พนักงานรู้สึกอาย กลัว และกระวนกระวายในที่ทำงาน อีกทั้งยังเป็นการละเมิดสิทธิของลูกจ้างด้วย ส่วนทางด้านชาวเน็ตในประเทศจีนต่างแสดงความเห็นในเชิงลบประมาณว่า ‘แล้วใครอยากจะไปใช้บริการร้านอาหารที่มีทัศนะคติงี่เง่าแบบนี้!?’ อย่างไรก็ตามกรณีที่เจ้านายหรือผู้บริหารใช้อำนาจของตนกดขี่ข่มเหงลูกน้องในประเทศจีนนั้นเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง ใช้อำนาจของตัวเองลงโทษพนักงานจนเกินขอบเขต สร้างความอึดอัดให้กับพนักงานชั้นผู้น้อยเป็นอย่างมาก ที่มา : shanghaiist
-
แม่ค้าโวย เจอลูกค้าสั่ง “เยอะ” สั่ง “ละเอียดยิบ” ยิ่งกว่าภัตตาคาร!!
บางครั้งการทำอาชีพอะไรก็ตามที่ต้องรับคำสั่งจากคนอื่นอีกที มันก็มีความกดดันเหมือนกันนะ แม้ว่าอาชีพนั้นจะเป็นอาชีพแม่ค้าขายอาหารตามสั่ง แต่เชื่อหรือไม่ว่าพวกเขาก็ต้องอยู่กับความกดดันของลูกค้าตลอดเวลาเช่นกัน ล่าสุดแอดเหมียวไปเจอเข้ากับกระทู้ระบายความในใจของแม่ค้าอาหารตามสั่งในพันทิป ที่ตั้งโดยสมาชิกหมายเลข 1937996 ที่เป็นการบอกเล่าเรื่องราวของลูกค้าผู้จู้จี้จุกจิก สั่งอาหารตามสั่งง่ายๆ แต่กลับใส่รายละเอียดเข้ามามากมาย ประหนึ่งว่าสั่งอาหารกับภัตตาคารหรูเลยทีเดียว โดยเนื้อหาในกระทู้บอกไว้ว่า “ร้านอาหารตามสั่งทั่วไปๆเค้าก็มีเมนูที่เค้าเขียนไว้ให้ แต่มันก็มีมนุษย์อยู่กลุ่มหนึ่งที่ชอบความพิเศษ มีกี่อย่างก็จะสั่งทั้งหมดรวมอยู่ในจานเดียวกัน เราก็ทำตามที่เค้าเขียนน่ะไม่ใช่ไม่ทำ” “แต่เมื่อมาถึงจุดๆหนึ่ง ความอดทนก็หมดลงเมื่อเจอกระดาษที่เขียนมา (ราคาร้านเราก็ขายราคาพนักงาน ถ้าหมูก็30 เนื้อ/ทะเล 35 ไข่ดาว5 ไข่เจียว7) แต่ดูสิ่งที่เค้าเขียนมา หาราคานี้ได้ที่ไหนสมัยนี้ แถมยังมาบอกว่าแค่พูดติดตลก ใครๆเห็นก็บอกว่าไม่ตลกน่ะ มันเสียความรู้สึกอ่ะ” เอ่อ จากที่อ่านมาแล้ว เหมียวว่าคุณลูกค้าก็น่าจะเห็นใจแม่ค้านิดนึงนะจ๊ะ แม้ว่าเราจะสั่งเขาได้จริงๆ แต่ก็ต้องเห็นใจกันด้วยเนาะ ที่มา pantip
-
แบบนี้ก็มีด้วย!! มาดู 12 ชื่อร้านโคตรแปลก ที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาโดยความคิดของคนไทยล้วนๆ
ร้านอาหาร หรือร้านค้าบางร้าน นอกจากมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่จะทำให้ร้านเหล่านั้นดูโดดเด่น และน่าสนใจ เหมียวคิดว่าคงจะเป็น ‘ชื่อร้าน’ นี่แหละ ซึ่งร้านบางร้านก็ตั้งชื่อขึ้นมาแปลกๆ ในแบบที่หลายคนเห็นแล้วจะต้องพูดออกมาเป็นเสียงเดียวกันว่า ‘คิดได้ยังไงเนี่ย’ แถมชื่อร้านแปลกๆ เหล่านั้น ขอบอกเลยว่ามันสามารถเรียกความสนใจให้คุณอยากเข้าไปสัมผัสความแปลกด้วยตัวเองแน่นอน และในวันนี้เราได้นำ 12 ภาพชื่อร้านโคตรแปลกที่ดูไม่ธรรมดา และถูกครีเอทขึ้นมาโดยความคิดของคนไทยล้วนๆ เหมียวเชื่อว่าหลายคนที่ได้เห็นคงจะต้องขำหนักมากแน่ๆ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 เห็นแบบนี้แล้วใครที่บอกว่าคนไทยไม่มีความคิดสร้างสรรค์ ดูเหมือนว่าคุณอาจจะต้องเปลี่ยนความคิดซะแล้ว เพราะดูจากชื่อร้านที่ตั้ง ดูเหมือนคนไทยจะมีความคิดสร้างสรรค์กว่าใครๆ ในโลกในก็ว่าได้ ฮ่าๆ ที่มา : ทีวีพูล TVPool Buffet
-
แม่เจ้า!!! “คาเฟ่ซอมบี้” ในประเทศญี่ปุ่น แค่เห็นผมก็หลอนแว้วววว
ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ทำให้เราตื่นตาตื่นใจได้ตลอด เมื่อหลายวันเกิดเหมียวยังเสนอเรื่อง ที่เอาหนุ่มกล้ามมาดแมนมาเป็นพนักงานเสิร์ฟเอาใจสาวๆอยู่เลย และในวันนี้ที่ญี่ปุ่นเขามีคาเฟ่แปลกใหม่เกิดขึ้นอีกแล้วจ้าาาา คาเฟ่ซอมบี้นี้มีชื่อร้านว่า “Akihabara Culture Café” ตั้งอยู่ในเมืองชิโยดะ กรุงโตเกียว โดยคาเฟ่ซอมบี้นี้จะมีเฉพาะในช่วงวันที่26-28 เดือนตุลาคม ก่อนวันฮาโลวีน สาวพนักงานเสิร์ฟของร้านก็จะกลายร่างเป็นซอมบี้ และเมนูอาหารของทางร้านก็จะคิดขึ้นพิเศษเพื่อเข้ากับธีมวันฮาโลวีน ซึ่งในวันปกติพนักงานเสิร์ฟของร้านก็จะใส่ชุดฟอร์มแบบปกติต้อนรับ บริการลูกค้าด้วยหน้าตาที่สดใส หน้าร้าน “Akihabara culture café” พนักงานเสิร์ฟในวันปกติ พอใกล้ฮาโลวีนเท่านั้นแหล่ะ แปลงร่างเป็นซอมบี้….. หลอนได้อีก อาหารเมนูพิเศษ เครื่องดื่มนี้มีชื่อว่า “Sangeria” หรือ “Zombi 2” ที่มาพร้อมกับลูกตาเสียบไม้ไผ่ เมนูนี้มีชื่อว่า “The Beyond” เค้กช็อคโกแลต ราสด้วยซอสราสเบอร์รี่ ให้ความรู้สึกเหมือนเลือดกระฉูด เมนู “Let Sleeping Corpses Lie” ข้าวไข่เจียวที่แต่งด้วยไส้กรอก ทำคล้ายๆเหมือนโดนตัดนิ้วมือ อาหารก็ไม่สยองเท่าไรนะ มันสยองตรงพนักงานแต่งตัวเป็นผีนี่แหล่ะ บรึยส์…
-
เอาใจลูกค้าสาวๆ ร้านอาหารในญี่ปุ่น จัดเด็กเสิร์ฟหุ่นแซ่บ!!! มาบริการให้ถึงที่
ตอนนี้เทรนหุ่นดี กล้ามโต โชว์ซิกแพคกำลังมา หนุ่มๆสาวๆจึงพากันออกกำลังกายเพื่อที่จะได้มีหุ่นดี มีกล้ามที่สวยงาม คนญี่ปุ่นก็เช่นเดียวกัน ร้าน “ทาเคโอะคาเฟ่” ในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นจึงเกิดไอเดียดี เอาหนุ่มนักกล้ามหน้าตาดีมาเป็นเด็กเสิร์ฟเพื่อดึงดูดลูกค้าสาวๆ บางคนก็เป็นถึงนักเพาะกายเชียวนะ นอกจากหนุ่มกล้ามจะทำหน้าที่เสิร์ฟอาหารแล้ว ลูกค้าที่มาใช้บริการยังสามารถเชิญพวกเขามาพูดคุยที่โต๊ะได้เป็นเวลา 15 นาที เมนูขายดีของทางร้านก็คือ แพนเค้ก เพราะจะมีหนุ่มๆนักกล้ามมาโชว์ลีลาบีบครีมลงในแพนเค้กให้กรี๊ดกันถึงโต๊ะ มาดูสิว่าจะน่ากินขนาดไหน (หมายถึงแพนเค้กนะ) คนต่อคิวยาวมากกกกก ลูกค้าสามารถเลือกเด็กเสิร์ฟมาบริการส่วนตัวได้ แน่นมาก เสิร์ฟแพนเค้กแล้วบีบครีมโชว์เลยค่ะ บีบกระป๋องเบียร์ให้เป็นของที่ระลึกด้วย ใหญ่มากกกกกก หมายถึงกล้าม กรี๊ด!!! ฉันอยากไปอยู่ตรงนั้น หิวเลย!! หิวข้าว แต่น่าเสียดายที่ร้านนี้ไม่ได้เปิดให้บริการทุกวัน เพราะเขาเปิดเฉพาะโอกาสพิเศษวันพิเศษเท่านั้นจ้ะ ที่มา ettoday
-
เด็กชายผู้ลี้ภัยยืนขายทิชชู่เพื่อประทังชีวิต แต่กลับถูกเจ้าของร้านอาหารทุบตีไม่ยั้งมือ!!
กลายเป็นประเด็นอันน่าสลดใจไปทั่วโลกออนไลน์อีกครั้ง เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันกับ Ahmed Hamdo Abeyd เด็กชายผู้ลี้ภัยชาวซีเรียที่เข้าอยู่ในนครอิซมีร์ของประเทศตุรกี โดยที่เขาพยายามทำทุกอย่างเพื่อหาเงินประทังชีวิต อย่างเช่นการขายกระดาษทิชชู่อยู่บริเวณหน้าร้านอาหารแห่งหนึ่ง แต่แล้วเจ้าของร้านผู้เหี้ยมโหดก็ตรงเข้ามาทำร้ายเด็กชายคนดังกล่าวอย่างรุนแรง เนื่องจากเกรงว่าจะเข้ามารบกวนลูกค้าภายในร้าน ถึงแม้ว่าจะมีคนมาห้ามปรามแล้วก็ตาม แต่เด็กชายก็ถูกกระหน่ำตีไม่ยั้ง Ahmed ก็กล่าวเอาไว้ว่า “ผมแค่ยืนขายทิชชู่อยู่ดีๆ และในตอนนั้นผมกำลังจะขายให้กับผู้หญิงท่านหนึ่ง แล้วจู่ๆ พวกเขาก็ลากผมออกไปแล้วก็ทำร้ายผม” โดยหลังจากที่ภาพของเด็กชายเพียงคนเดียวที่ไร้ทางสู้ถูกเผยแพร่ออกไป ทำให้ชาวเน็ตและชาวเมืองหลายคนทนกับพฤติกรรมของเจ้าของร้านอาหารไม่ได้ แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถช่วยเหลือ Ahmed ได้ไปมากกว่าการให้กำลังใจเพื่อสู้ชีวิตต่อไป และหวังว่าเจ้าของร้านผู้เหี้ยมโหดจะได้รับโทษอย่างสาสมต่อไป ที่มา : dailymail
-
ไอเดียเก๋!! จีนเปิดตัว ‘ร้านหนังสือซื่อสัตย์’ ไม่ต้องมีพนักงานขาย ใช้ความซื่อสัตย์ล้วนๆ
เมื่อวันที่ 29 ก.ค. เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่ามีการเปิดตัว ‘ร้านหนังสือซื่อสัตย์’ ร้านหนังสือแนวใหม่ที่ไม่ต้องมีโต๊ะคิดเงิน หรือพนักงานคอยเฝ้าแม้แต่คนเดียว เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ในเมืองนานจิงมณฑลเจียงซู สาธารณรัฐประชาชนจีน นโยบายของร้านนี้มีเพียงข้อความสั้นๆว่า “จ่ายได้เท่าที่คุณจะจ่าย” ร้านหนังสือซื่อสัตย์ตั้งอยู่บนถนน Xinjiekou โดยตัวร้านจะมีขนาดเล็กและมีชั้นวางหนังสือเพียง 4 ชั้นเท่านั้น ตัวร้านหนังสือ ทำงานด้วย “ความไว้วางใจ” โดยไม่มีพนักงานแม้แต่คนเดียว หากใครต้องการซื้อหนังสือสักเล่ม คุณก็แค่เดินไปหยอดเงินลงไปกล่องที่จัดเตรียมไว้ให้ ตามแต่ความต้องการของคุณเอง จะจ่ายเยอะหรือน้อยก็ไม่มีใครว่า นอกจากนี้ยังมีรายงานด้วยว่า ผู้จัดงานร้านหนังสือดังกล่าว สามารถขายหนังสือไปได้กว่า 300 เล่ม ในวันเปิดร้าน และเงินทั้งหมดก็ถูกใส่ไว้ในกล่องที่เตรียมไว้ ดูเหมือนเป็นเรื่องง่ายเอามากๆ หลังจากข่าวดังกล่าวถูกเผยแพร่ในจีน ทำให้ได้รับเสียงตอบรับอย่างมากมาย ซึ่งดูแล้วจะให้ผลตอบรับด้านบวกเสียมากกว่า แต่ใช่ว่านโยบาย “จ่ายได้เท่าที่คุณจะจ่าย” จะประสบความสำเร็จเสมอไป เพราะก่อนหน้านี้เมื่อปี 2013 ได้มีนักธุรกิจในจีนเปิดร้านอาหารที่มีนโยบายคล้ายคลึงกันนี้ แต่กลับขาดทุนกว่า 10,000 หยวน ในเดือนแรกที่เปิดกิจการ ที่มา shanghaiist
-
ชมร้านอาหารใต้บาดาล Subsix สุดหรู ชีวิตนี้ซักครั้งต้องไปเยือน!!
จะมีอะไรยอดเยี่ยมไปกว่าการได้นั่งทานอาหารอร่อยๆ ในร้านอาหารหรูๆ ดื่มด่ำไปกับบรรยากาศอันงดงามที่เราไม่อาจหาได้ในชีวิตประจำวัน ถ้าเพื่อนๆกำลังฝันแบบนั้นอยู่ล่ะก็ เหมียวขอแนะนำร้านอาหารแห่งนี้เลย ร้านอาหารแห่งนี้มีชื่อว่า Subsix ตั้งอยู่ในรีสอร์ท PER AQUUM Niyama บนเกาะแห่งสรวงสวรรค์ Maldive อันงดงาม พื้นที่บริเวณนี้เคยใช้เป็นไนท์คลับมาก่อน แต่ตอนนี้มันถูกดัดแปลงเป็นภัตตาคารหรู ที่ตั้งอยู่ลึกลง 6 เมตรจากผิวน้ำ การตกแต่งของร้านได้รับแรงบันดาลใจมาจากท้องทะเลอย่างแน่นอน การจะมาที่ร้านนี้ได้ แขกต้องนั่งเรือออกมา 500 เมตรจากฝั่ง แล้วลงบันไดอีกสามชั้น เพื่อมาถึงที่แห่งนี้ แสงไฟบริเวณบาร์ ก็ใช้โทนสีน้ำทะเล พนังของร้านเป็นกระจกนิรภัยอย่างดี ทำให้สามารถมองเห็นสัตว์น้ำนานาชนิดได้ ใครอยากไปสัมผัสบรรยากาศดีๆ ก็ลองไปพักกันได้ โดยค่าห้องของรีสอร์ทนี้อยู่ที่ประมาณ 25,000 บาทต่อคืน (ไม่รวมค่าเดินทางไปร้านอาหารนะจ๊ะ) ส่วนเหมียวขอนอนชมภาพสวยๆทางอินเตอร์เน็ตก็พอแล้วล่ะ ที่มา Lifebuzz
-
เตือนสติหนุ่มๆ เวลาเรียกเก็บเงินตามร้านอาหาร ระวังโดนเก็บค่า “จับJim” นะ
เป็นเรื่องปกติที่เวลาหนุ่มๆไปนั่งดื่มตามร้านอาหารหรือบาร์ต่างๆจะมีสาวๆมานั่งดื่มเป็นเพื่อนเราด้วย แต่ระวังนิดนึงนะเพราะคุณอาจโดนเรียกเก็บเงินในรูปแบบแปลกๆก็ได้ เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 9 ก.ค. เฟซบุ๊คเพจ เรารักด่านตรวจ ได้เผยแพร่ภาพของบิลจากร้านอาหารแห่งหนึ่ง พร้อมกับข้อความว่า “เตือนหนุ่มๆเวลาเช็คบิล ตรวจและนับดูให้ดีว่าครบหรือเกินไหม” ภานในบิลอาหารมีรายการอาหารและเครื่องดื่มตามปกติ แต่มาสะดุดเอาใน 2 รายการสุดท้ายนี่แหละ ที่เขียนไว้ว่า “ค่าจับนมครั้งละ 20 บาท” และ “ค่าจับ Jim ครั้งละ 50 บาท” ซึ่งก็ไม่รู้ว่างานนี้ลูกค้ารายนี้ได้จับไปจริงๆหรือเปล่า และที่สำคัญ คนโดนจับนับได้ไงอะ!? แต่หลังจากรวมค่าใช้จ่ายแล้วลูกค้ารายนี้ก็โดนเรียกเก็บเงินไปทั้งสิ้น 4,808 บาทเลยทีเดียว!! เอ่อ ก็ได้แต่เตือนหนุ่มๆล่ะนะว่าอย่าไปทำเรื่องแบบนี้ที่ไหนเข้าล่ะ ไม่งั้นโดนเรียกเก็บเงินแบบหมดตัวไม่รู้ด้วยนะ ที่มา เรารักด่านตรวจ
-
เยี่ยมไปเลย ร้านอาหารสุดโหด หักเงินพนักงานกว่าครึ่ง ด้วยเรื่องที่โคตรจะหยุมหยิม
ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า แต่ถ้าเป็นเรื่องจริงก็เรียกได้ว่าน่าเห็นอกเห็นใจคนที่โดนหักเงินพอสมควรเลยล่ะ อะไรกัน ทำงานทั้งเดือนโดนหักไปกว่าครึ่ง!!! งานนี้ก็เป็นที่จับตามองกันในโลกออนไลน์เลยทีเดียว เมื่อทางเพจ โหดสัส V2 ได้มีการแชร์ภาพของการหักเงินของร้านอาหารแห่งหนึ่งในจังหวัดสุรินทร์ ทำได้เดือนเดียวผู้เคราะห์ร้ายก็ต้องออกจากงาน เพราะอะไรน่ะเหรอ ภาพของการหักเงิน มีเป็นลายลักษณ์อักษรกันเลยทีเดียว คือแบบนี้เหมียวก็คิดว่ามันเกินไปหรือเปล่า ทั้งเรื่องไม่ถอดปลั๊ก 20 บาทเอย ไม่ปิดตู้ไอติม 40 บาทเอย ให้เบอร์เจ้าของร้านโดยมิได้รับอนุญาตก็ 500 บาทเอย และโดยเฉพาะติดต่อป้าต๋อมเรื่องปัญหาเงินเนี่ย เค้าก็อยากได้คำชี้แจงป่าวว้าาา โดนหักอีก 500 บาท!!! อะไรกัน โถๆๆๆ -*- ใครรู้เรื่องกฎหมายรู้เรื่องอะไรทางสิทธิแรงงานก็ช่วยแนะนำเขาหน่อยนะจ๊ะ เพราะบางเรื่องแค่ตักเตือนก็ได้ ไม่รู้ว่าน้องเขาไปทำอะไรให้ขุ่นหมองใจหรือไม่ชอบรึเปล่า สังคมเดี๋ยวนี้ก็น่ากลัวเหมือนกันนะเนี่ย เอารัดเอาเปรียบคนที่ทำงาน เก็บเล็กเก็บน้อยขนาดนี้ ไม่รวยให้มันรู้ไป…แต่ กลางคืนน่ะ นอนหลับได้เต็มตื่นรึเปล่า!!? ที่มา: โหดสัส V2
-
แม่ค้าออกโปรโมชั่นเด็ด เป่ายิ้งฉุบชนะรับซุปฟรี แต่โดนจวกว่าขายร่างกายซะงั้น!?
ทุกวันนี้การแข่งขันสูงซะเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็นวงการไหนๆ ก็ตาม ร้านค้าต่างๆ ก็เช่นกัน เดี๋ยวนี้ก็มักจะมีกระแสแม่ค้าสวย แม่ค้าหุ่นแซ่บออกมาให้เห็นกันเรื่อยๆ จะว่าไปก็เริ่มเกลื่อนแล้วล่ะ แต่มันอยู่ที่ว่าใครจะมีอะไรเป็นจุดขายที่น่าสนใจมากกว่ากัน!! คราวนี้มากันที่ประเทศไต้หวัน โดยที่แม่ค้าร้านอาหารรายนี้ได้ทำการออกโปรโมชั่นสุดเร้าใจลูกค้า โดยที่ใครเป่ายิ้งฉุบชนะแม่ค้า ก็จะได้รับซุปเผ็ดจัดจ้านไปแบบให้ฟรีไม่คิดเงินแม้แต่แดงเดียว แต่เอาเข้าจริงๆ คนจะสนใจตัวแม่ค้าซะมากกว่า!? โดยที่หลังจากลงคลิปโปรโมตไปเพียงไม่นาน เธอก็กลายมาเป็นคนดังข้ามคืน ต่างเป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศไต้หวันกันเลยทีเดียว มีคนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก แต่ก็ไม่พ้น “ชาวเน็ต” ที่มาแสดงความคิดเห็นว่าแผนการโปรโมตนี้ไม่ได้เน้นที่ซุปฟรี แต่เป็นการใช้ร่างกายของเธอโปรโมตร้านต่างหาก!! ไม่แน่ใจว่าคนทั่วไปเข้าใจจุดประสงค์ของเธอผิดหรือเปล่า เธอเองก็อาจจะมีเจตนาแอบแฝงมาด้วยอยู่แล้วก็เป็นได้ หรือไม่ก็ผิดเองที่แม่ค้าสวยเซ็กซี่เกินไปจนคนอื่นอิจฉา อันนี้เหมียวก็ไม่รู้นะ ฮ่าฮ่า!! ที่มา : rocketnews24
-
มาดูกันว่า วิธีการทำอาหารปลอมเพื่อเอาไว้โชว์หน้าร้านของญี่ปุ่น เขาทำกันอย่างไร
เมื่อเราเดินผ่านหน้าร้านอาหารญี่ปุ่น แน่นอนว่าร้านอาหารญี่ปุ่นเกือบทุกร้าน ก็ย่อมมีอาหารญี่ปุ่นปลอมโชว์อยู่หน้าร้านใช่ไหมล่ะ แถมอาหารปลอมเหล่านั้นก็ดูมีสีสัน และหน้าตาน่าทาน แถมเหมือนจริงสุดๆ จนบางครั้งอาจนึกว่าอาหารที่ใช้โชว์เหล่านั้นเป็นของจริงเสียอีก แต่เพื่อนๆ รู้บ้างหรือไม่ว่า อาหารปลอมเหล่านั้นเขามีวิธีการทำอย่างไร และเหมียวเชื่อว่ายังมีอีกหลายคนที่ไม่เคยรู้กระบวนการผลิตมาก่อนแน่นอน ถ้าอย่างนั้นเรามาชมคลิปวีดีโอ วิธีการทำอาหารปลอมของญี่ปุ่นกันเลยจ้า ที่มา : nickmid23