Tag: ละเมิดลิขสิทธิ์
-
Big Ass โดนหมายจับทั้งวง ฐานร้องเพลงของวงตัวเอง เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ค่ายเพลงเก่า!!
กลายเป็นเรื่องใหญ่และทำให้ชาวเน็ตหลายคนงงกันไปตามๆ กันเมื่อล่าสุดทางค่ายเพลงอดึตต้นสังกัดวงร็อคชื่อดัง Big Ass ได้ออกหมายจับสมาชิกทุกคนในวงโทษฐานระเมิดลิขสิทธิ์ วันนี้ 20 มีนาคม 2018 ตัวแทนของลิขสิทธิ์ค่ายเพลง ‘เพาเวอร์เทรเซอร์ จำกัด’ หรือ ‘มิวสิคบั๊กส์‘ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสถานีทองหล่อ โดยได้นำหมายจับจากศาลจังหวัดระยอง มายังบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) เพื่อแจ้งความจับวง Big Ass ทั้งวงซึ่งประกอบด้วย นายเดชา โคนาโล (เจ๋ง) นักร้องนำ, นายพูนศักดิ์ จตุระบุล (อ๊อฟ) มือกีตาร์, นายอภิชาติ พรมรักษา (หมู) มือกีตาร์, นายพงศ์พันธ์ พลสิทธิ์ (โอ๊ค) มือเบส และ นายขจรเดช พรมรักษา (แหลมหรือกบ) มือกลอง โดยทั้งหมดนั้นได้นำเพลง ‘ก่อนตาย‘ ซึ่งเป็นเพลงจากอัลบั้มที่ 2 (XL) ของพวกเขาในขณะที่ยังอยู่ในสังกัดของค่ามิวสิกบั๊กส์ แต่ปัจจุบันวงนั้นได้สังกัดอยู่ในค่าย…
-
แนะนำหนึ่งในวิธีตรวจสอบของก๊อปใน Amazon เพราะจะซื้อของออนไลน์ที่ไหนก็ต้องระวังให้ดี
เคยเป็นไหม ซื้อของใน Amazon แล้วได้ของไม่ดี จะส่งไปเปลี่ยนเขาก็ไม่รับ บอกว่าที่เราซื้อมามันเป็นแค่ของก๊อป แต่ว่าตอนเราซื้อมาเราก็ดูดีแล้วนะว่ามันเป็นของจริง ถ้าเคยล่ะก็ครั้งต่อไปที่คุณจะซื้อผลิตภัณฑ์ใน Amazon โปรดอย่าลืมให้ความสนใจกับตัวพิมพ์เล็กๆ ด้านล่างคำว่า “In Stock” ดูนะ เอาล่ะ เห็นอะไรแปลกๆ จากในภาพนี้รึเปล่า ช่องเสียบหูฟังใต้โต๊ะที่เรียกว่า “The Anchor” ชิ้นนี้นั้นถูกผลิตและจัดจำหน่ายโดย Elevation Labs จากเมืองพอร์ตแลนด์ รัฐออริกอน สหรัฐอเมริกา และไม่ได้มีการขายลิขสิทธิ์ให้ใครเลยนอกจาก Apple คราวนี้มาดูกันให้ชัดๆ กันอีกทีดีกว่า อย่างที่บอกไปว่า Elevation Labs นั้นไม่ได้ขายลิขสิทธิ์สินค้าชิ้นนี้ให้ใครเลย ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่บริษัท Suiningdonghanjiaju Co Ltd จะเป็นผู้ที่จัดจำหน่ายสินค้าสินนี้ได้ แน่นอนว่าถ้ามีคนหลงกดเข้าไปซื้อสินค้าเหล่านี้แล้วล่ะก็ พวกเขาก็จะได้ของก๊อปไปในทันที แล้วไอ้เจ้าสินค้าของ Elevation Labs หายไปอยู่ที่ไหนกันล่ะ ก่อนอื่นขอบอกก่อนว่าสินค้าของ Elevation Labs นั้นไม่ได้หายไปไหนหรอก มันก็ยังอยู่ในหน้าเดียว กันนั่นล่ะเพียงแต่ลงไปอยู่ในส่วนผู้ค้ารายอื่นก็เท่านั้น ตรงวงข้างล่างนั่นล่ะ แต่ถ้าอย่างนั้นแล้ว ทำไมสินค้าของ Suiningdonghanjiaju…
-
สมาคมนักวาดมังงะเผยว่า เว็บอ่านการ์ตูนเถื่อนอาจจะเป็นต้นเหตุที่ทำให้วัฒนธรรมญี่ปุ่นล่มสลาย!?
ปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์นั้นถือว่าเป็นปัญหาที่ใหญ่ในระดับโลก โดยเฉพาะปัญหาการอ่านการ์ตูนเถื่อนที่เริ่มจะสร้างความเดือดร้อนให้กับนักวาดและสำนักพิมพ์ทั่วโลก จนตอนนี้ทางญี่ปุ่นเองก็เริ่มได้รับผลกระทบหนักขึ้น และถึงกับต้องออกมาเตือนนักอ่าน ปัญหาการอ่านการ์ตูนเถื่อนในปัจจุบันนั้นเกิดขึ้นจากสาเหตุหลักๆ เลยก็คือการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและค่านิยมของนักอ่านที่เปลี่ยนไป เนื่องจากการอ่านบนเว็บนั้นรวดเร็วกว่าการรอซื้อจากร้านหนังสือ ที่สำคัญคือมันฟรี ทางสมาคมนักวาดมังงะหรือ JCA (Japan Cartoonists Association) ก็ได้ออกมาพูดถึงผลกระทบที่ตอนนี้ทางนักวาดและผู้ผลิตผลงานประเภทต่างๆ ได้รับว่า “ด้วยเทคโนโลยีอย่างโทรศัพท์มือถือหรือคอมพิวเตอร์นั้น มันเริ่มส่งผลให้นิสัยในการอ่านของผู้คนค่อยๆ เปลี่ยนไป ซึ่งนั่นรวมถึงการเข้าถึงสื่อต่างๆ ด้วย แน่นอนว่าพวกเราเชื่อว่ามันคือสิ่งที่ดีงามมากๆ เพราะมันไม่ได้ช่วยให้แค่เข้าถึงงานของนักวาดมังงะเท่านั้น แต่มันยังช่วยให้คนสร้างผลงานประเภทอื่นๆ ได้เผยแพร่งานตัวเองที่ง่ายขึ้นด้วย ซึ่งนั่นก็จะทำให้ผู้ที่มาเสพงานของเราได้มีความสุขทั้งการอ่าน การฟัง และการดู อย่างไรก็ตามผลมันจะออกมาดีหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับว่าผู้ผลิตและผู้เสพนั้นยังคงเกื้อหนุนกันอย่างถูกต้องตามหลักและทำกันเป็นลูปอยู่แบบนี้ไม่เปลี่ยนแปลง แต่ผลมันดันไม่ออกมาเป็นอย่างที่คิด เพราะปัจจุบันเว็บไซต์เถื่อนต่างๆ เริ่มที่จะทำให้ผู้เสพออกจาลูปที่ว่าและหันมาละเมิดลิขสิทธิ์แทน ซึ่งนั่นถือเป็นการตัดรายได้ที่ตัวผู้สร้างควรจะได้รับไปในทันที และนั่นอาจจะหมายถึงจุดสิ้นสุดของลูปที่ช่วยเกื้อหนุนกันจนทำให้ผู้สร้างสรรค์ผลงานต้องหยุดและเลิกไปในท้ายที่สุด พวกคุณที่เป็นคนเสพผลงานลองคิดมุมกลับดูสิ ไม่ใช่แค่กับมังงะเท่านั้นแต่กับสื่อทุกอย่าง ว่าถ้าเรายังคงพากันออกจากลูปเดิมที่คอยเกื้อหนุนกัน จนสุดท้ายเหล่านักวาดและคนที่สร้างผลงานอื่นๆ ไม่ได้อะไรจากตรงนั้นจนพวกเขาก็พากันออกมาจากลูปที่ว่าเช่นกัน จนถึงวันนั้นมันจะเกิดอะไรขึ้น ถึงตอนนั้นหนึ่งในวัฒนธรรมหลักของญี่ปุ่นอาจจะต้องถึงคราวล่มสลายและสูญหายไปตลอดกาล” เราอาจจะคิดว่าคำพูดของทาง JCA คือการพูดเพื่อให้ดูดี แต่ปัญหานี้มันเกิดขึ้นจริงและเกิดขึ้นกับทุกวงการ ฉะนั้นเราก็คงต้องย้อนกลับมาดูที่ตัวเองแล้วว่า เราพอที่จะกลับเข้าไปอยู่ในลูปที่ว่าได้หรืิอ กลับไปช่วยเหลือกันและกันเหมือนวันเก่าๆ ที่มา rocketnews24
-
Grumpy Cat ชนะคดีลิขสิทธิ์ 22 ล้าน แต่ทำเนียนไม่ยอมมาฟังคำตัดสินซะงั้น!!
เจ้าแมว Tardar Sauce หรือเป็นที่รู้จักกันดีในชื่อ Grumpy Cat เป็นแมวเหมียวที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดตัวหนึ่งของโลก ด้วยหน้าตาบึ้งตึงที่เป็นเอกลักษณ์จึงทำให้มันมัดใจคนทั่วโลกได้อยู่หมัด ในปี 2012 ภาพของเจ้าเหมียวที่ทำหน้าบึ้งอยู่ตลอดเวลาก็กลายเป็นกระแสไวรัลในโลกโซเชียล และมีคนเอาภาพมันไปทำมีมมากมายจนสร้างชื่อเสียงให้กับมันมาก นอกจากนี้มันยังเคยมีหนังสั้นของตัวเองในปี 2014 ที่ชื่อ Grumpy Cat’s Worst Christmas Ever อีกด้วย Tardar Sauce แมวหน้าบึ้งผู้เป็นที่รู้จักในชื่อ Grumpy Cat ล่าสุดเจ้าเหมียวหน้าบึ้งตัวนี้ก็ทำเงินให้กับเจ้าของไป 710,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 22 ล้านบาท) จากการชนะคดีเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์ในการใช้โลโก้หน้าแมวเหมียวบูดบึ้ง ในศาลที่รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา กาแฟ Grumppuccino เรื่องเริ่มต้นขึ้นในปี 2013 ตอนนั้นบริษัทเครื่องดื่ม Grenade Beverage ของนาย Paul Sandford และ Nick ลูกชายของเขา ติดต่อบริษัท Grumpy Cat Limited เพื่อที่จะขออนุญาติใช้โลโก้เจ้าแมวบนกาแฟของเขา พวกเขาจ่ายเงินค่าลิขสิทธิจำนวน 150,000…
-
คู่รักหัวเสียเพลียเพื่อนบ้าน ฟ้องร้องค่าเสียหายกว่า 83 ล้านบาท เพราะบ้านดั๊นเหมือนกันเป๊ะ!!
บ่อยครั้งที่เรามักจะได้ยินข่าวเกี่ยวกับการฟ้องร้องแปลกๆ ในต่างประเทศ ที่บางทีเราอาจจะงงว่าเรื่องแบบนี้ถึงกับต้องขึ้นศาลกันด้วยหรือนี่!? และเรื่องราวของครอบครัวจากเมือง Toronto ครอบครัวนี้ ก็เป็นหนึ่งในการฟ้องร้องแปลกๆ เช่นกัน ครอบครัวของคุณ Barbara Ann และ Eric Kirshenblatt จากเขต Forest Hill เมือง Toronto ประเทศแคนาดา ถูกเพื่อนบ้านของพวกเขาฟ้องศาลเรียกค่าเสียหายกว่า 83 ล้านบาท หลังจากที่แบบบ้านของพวกเขานั้นคล้ายกับแบบบ้านของเพื่อนบ้านคนดังกล่าว สองสามีภรรยาต้องต่อสู้กับคดีความดังกล่าวอยู่นานถึง 3 ปี หลังจากที่ครอบครัวของ Jason กับ Jodi Chapnick เพื่อนบ้านของพวกเขาได้ฟ้องศาลเกี่ยวกับเรื่องการลอกแบบบ้าน ครอบครัว Chapnick อ้างว่าคุณ Barbara Ann นั้นได้จงใจปรับปรุงบ้านให้คล้ายกับบ้านของพวกเขา ทางครอบครัว Chapnick ได้เรียกร้องให้มีการชดเชยค่าเสียหายจำนวน 50 ล้านบาท สำหรับการลอกแบบบ้าน 600,000 บาท และอีก 33 ล้านบาทสำหรับค่าเสียหายเชิงลงโทษ พร้อมกันนี้ทางฝ่ายจำเลยยังต้องมีการแก้ไขแบบบ้านใหม่อีกด้วย ทางครอบครัว Chapnick อ้างว่าพวกเขาได้จ้างให้สถาปนิคทำการออกแบบบ้าน และบ้านหลังดังกล่าวก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และมีชื่อเสียงอย่างมากในย่าน Forest Hill และการสร้างบ้านลอกเลียนแบบก็ทำให้คุณค่าของบ้านพวกเขาลดลงไป เมื่อเปรียบเทียบจากภาพของบ้านทั้งสองหลัง…
-
ห๊ะ… รายงาน EU ระบุว่า การดาวน์โหลดไฟล์ผิดกฎหมาย ไม่ได้ทำให้ยอดขายลดลง
หลายๆ ครั้งเราอาจจะเคยได้ยินกันว่า พวกไฟล์เถื่อนหรือละเมิดลิขสิทธิ์นั้นอาจจะทำให้ยอดขายของซีดี วิดีโอเกม หรือหนังเหล่านั้นลดลง แต่แท้จริงแล้วอาจไม่เป็นเช่นนั้นเมื่อทางสหภาพยุโรปได้เปิดเผยผลการศึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้!! สหภาพยุโรปได้ทุ่มงบกว่า 360,000 ยูโรหรือประมาณ 14 ล้านบาทในการศึกษาถึงผลกระทบของการดาวน์โหลดไฟล์เถื่อนที่มีผลต่อยอดขายของสินค้าที่ถูกลิขสิทธิ์อย่าง เพลง หนัง หนังสือ และวิดีโอเกม ซึ่งผลการศึกษาพบว่าปัจจัยดังกล่าวไม่ใช่สาเหตุหลักที่ส่งผลต่อการลดลงของยอดขายสินค้าเหล่านี้ บริษัท Ecory ผู้รับผิดชอบในการศึกษาวิจัยครั้งนี้ ได้รายงานผลการศึกษาครั้งนี้ออกมาเป็นหนังสือเล่มหนาถึง 304 หน้าซึ่งสรุปได้ว่า “โดยทั่วไปแล้วไม่มีหลักฐานทางสถิติที่สามารถยืนยันได้อย่างชัดเจนว่าการละเมิดลิขสิทธิ์นั้นส่งผลต่อยอดขาย แต่ในความจริงแล้วก็ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น แต่เราแค่ยืนยันไม่ได้จากผลวิเคราะห์ทางสถิติเท่านั้นเอง” นอกจากนี้พวกเขายังพบว่าการจำหน่ายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์และระบบสตรีมมิ่ง จะช่วยเพิ่มยอดขายให้กับสินค้าที่ถูกลิขสิทธิ์อีกด้วย ตามรายงานพบว่าการละเมิดลิขสิทธิ์นั่นส่งผลแค่ในสินค้าประเภทภาพยนตร์เท่านั้น โดยจากการงานกล่าวว่า “ในภาพยนตร์ที่ได้รับความนิยมพบว่า มี 4 ใน 10 เรื่องที่มีการเข้าชมอย่างถูกกฏหมาย” งานวิจัยดังกล่าวถูกเผยแพร่โดยคุณ Julia Reda สมาชิกสภายุโรปซึ่งเป็นตัวแทนจากประเทศเยอรมนี ได้เปิดเผยเอกสารฉบับเต็มในบล็อกส่วนตัวของเธอ หลังจากที่เธอได้สิทธิในการเข้าถึงเอกสารดังกล่าวจากสหภาพยุโรป แต่อย่างไรก็ตามทางองค์กรด้านสิทธิ์ทางดิจิตอลของยุโรปได้ออกมากล่าวว่าเอกสารฉบับเต็มของรายงานดังกล่าวถูกระงับไปแล้ว พร้อมกับกล่าวว่ารายงานเล่มดังกล่าวเป็นบทความของเจ้าหน้าที่ 2 ท่านที่พูดถึงเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์ภาพยนตร์และการลดลงของยอดขายในยุโรป ซึ่งไม่ใช่การศึกษาของ Ecory แต่อย่างใด ที่มา gizmodo
-
คุณแม่อยากสุดเกรียนโพสต์ภาพลูก “โดนเจาะที่แก้ม” ลงเฟซบุ๊ก จนชาวเน็ตด่าเละ!!
กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก หลังจากคุณแม่คนหนึ่งได้โพสต์รูปลูกของเธอที่เจาะแก้มลงบนโซเชียล งานนี้พอชาวเน็ตเห็นก็ไม่พอใจเข้ามาโจมตีกันยกใหญ่… เมื่อหลายสัปดาห์ก่อน Enedina Vance คุณแม่ลูกหนึ่งได้โพสต์ภาพลูกสาวของเธอลงบนโซเชียล แต่ปัญหามันจะไม่มีอะไรเลย ถ้าภาพลูกสาวของเธอไม่ได้มีจุดสายตาบริเวณแก้มที่ถูกเจาะอยู่ พร้อมกับข้อความว่า “น่ารักใช่ไหมล่ะ? เชื่อสิว่าเธอจะต้องชอบมากๆ และขอบคุณฉันอย่างแน่นอนเมื่อเธอโตขึ้น แต่ถ้าเธอไม่ชอบก็แค่เอาออกไม่ยากเลยจริงไหม?” ยังไม่หมดแค่นั้น Enedina ยังบอกอีกว่าเธอเป็นแม่ของเด็ก เธอจะทำอะไรก็ได้ เธอจะติดสินทุกอย่างให้ลูกของเธอจนกว่าลูกจะอายุ 18 และข้อความอีกมากมายเพื่อแสดงว่าเธอเป็นเจ้าชีวิตของลูก คนอื่นไม่มีอำนาจมาตัดสิน!! งานนี้ชาวเน็ตก็โมโหกันยกใหญ่ว่า ถึงจะเป็นพ่อแม่ก็ไม่มีสิทธิไปตัดสินชีวิตเด็กนะเว้ย!! ต้องให้เด็กเลือกอนาคตตัวเอง และอื่นๆ อีกมากมาย เรียกว่าด่ากันยับเลยทีเดียว ทว่าความจริงเกี่ยวกับภาพเด็กดังกล่าวนั้นกลับทำให้ทุกคนต้องช็อค เมื่อจริงๆ แล้วภาพดังกล่าวเป็นภาพปลอม!!? เพราะส่วนที่เจาะแก้มเด็กนั้นเกิดขึ้นจากการโฟโต้ช็อป ไม่ได้เจาะจริงๆ แต่อย่างใด งานนี้คุณแม่คนดังกล่าวเล่นเอาชาวเน็ตเงิบกันเป็นแถบๆ เป้าหมายจริงๆ ที่คุณแม่ชาวเน็ตคนนี้อยากจะสื่อก็คือ ทำไมเธอจะทำแบบในภาพไม่ได้ ในเมื่อพ่อแม่ทั่วไปยังบังคับให้เด็กผู้ชายไปขลิบได้เลย การทำแบบนี้มันก็ไม่ต่างกัน ไม่ก็อาจจะร้ายแรงกว่าด้วยซ้ำ สุดท้าย Enedina ก็ออกมาบอกว่า “ฉันรู้สึกดีที่การโพสต์เกรียนของเธอทำให้หลายคนได้ตระหนักถึงสิทธิของเด็กทารก ว่าพวกเขาควรจะเป็นคนเลือกสิ่งต่างๆ ให้กับตัวเอง รวมถึงการทำอะไรกับอวัยวะเพศของตัวเองก็เช่นกัน”…
-
บทสรุปดราม่าเคสมือถือ เมื่อผลงานแฟนอาร์ตที่วาดเอง ไปอยู่บนเคสที่คนอื่นขาย!?
ทุกวันนี้มีร้านค้าออนไลน์ผุดขึ้นมาในเฟซบุ๊กมากมาย หากร้านค้าของคุณขายสินค้าแฮนด์เมดล่ะก็คงจะสบายไป แต่หากรับมาขายล่ะก็ควรจะเช็กกันดีๆ หน่อยนะ เพราะหากเป็นของที่ไปละเมิดลิขสิทธิ์คนอื่นมาอีกทีล่ะก็คุณอาจจะมีปัญหาแบบร้านขายเคสไอโฟนร้านนี้ได้ล่ะ เมื่อช่วงบ่ายโมงของวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา ผู้ใช้ทวิตเตอร์ @2PIIM ได้โพสต์เล่าเรื่องราวผ่านโลกออนไลน์ว่ามีร้านขายเคสมือถือร้านหนึ่งในโลกออนไลน์ ได้นำเอาภาพวาดการ์ตูนของเธอไปทำเป็นเคสไอโฟนขาย ทั้งๆ ที่เจ้าตัวไม่รู้เรื่องหรือมีส่วนได้ส่วนเสียอะไรเลย จากนั้นเจ้าตัวก็ได้ส่งข้อความไปยังร้านค้าแห่งนั้นเพื่อบอกให้รู้ว่าเธอเป็นเจ้าของภาพดังกล่าว แต่แอดมินเพจกลับบอกว่า “พี่อยู่จีน ที่จีนผลิต ถ้าน้องจะฟ้องก็ตามมาค่ะ พี่เจอมาเยอะแล้วแบบนี้” ทำให้เจ้าของผลงานถึงกับไปไม่เป็นทีเดียว หลังจากนั้นในช่วงค่ำของวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา ทางร้านขายเคสไอโฟนดังกล่าวก็ได้ออกมาพูดเกี่ยวกับประเด็นนี้ว่าทางเจ้าของเพจได้รับทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว จึงได้ทำการลบภาพเคสมือถือดังกล่าวออกจากเพจ และได้มีการให้พนักงานที่ทำหน้าที่เป็นแอดมินเพจออกจากการทำงานไปแล้วเรียบร้อย พร้อมกับชี้แจงอีกว่าเคสทั้งหมดทำในประเทศจีน จึงไม่ทราบว่าภาพต่างๆ ที่นำเอามาทำนั้นเป็นภาพที่ไม่ถูกต้องตามลิขสิทธิ์ ผมในฐานะเจ้าของเพจนะครับ ขออธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด ตามนี้ครับ วันนี้เมื่อวานช่วงเย็น ทางเพจได้มีการลงโฆษณาขายเ… โพสต์โดย Case-Store เคสไอโฟน ขายปลีก-ราคาส่ง บน 28 มีนาคม 2016 หลังจากนั้นกรมทรัพย์สินทางปัญญาก็ได้ฝากการ์ตูนน่ารักๆ มาบอกด้วยว่า… pic.twitter.com/WLGs1fyTdy — กรมทรัพย์สินทางปัญญา…
-
คุณได้ไปต่อ!! ผู้เชี่ยวชาญชี้ ‘ฟอร์เวิร์ดห้ามส่งดอกไม้เป็นเท็จ’ ขุ่นป้าโล่งอกได้ค่ะ ^^
วันนี้เหมียวขอนำเสนอประเด็นเกี่ยวกับเรื่องฮือฮาสำหรับวงสังคมคุณลุงคุณป้าสาวกไลน์วัยกลางคน เนื่องจากเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ ได้มีกระแสเกี่ยวกับกฎหมายลิขสิทธิ์เกี่ยวกับการแชร์ภาพออกมาว่าจะมีการบังคับใช้ในวันที่ 4 ส.ค. 2558 เพื่อการเคารพสิทธิ์ของเจ้าของผลงานต่างๆ ซึ่งงานนี้ก็ทำให้เกิดกระแสข้อความที่ส่งต่อกันในไลน์ของสังคมผู้สูงอายุ ที่พอจะจับใจความได้ว่าให้คุณป้าคุณลุงหยุดส่งภาพดอกไม้ทักทายกันซะ แม้ว่าจะนำมาจากกูเกิลทั้งหมดก็เถอะ และถ้าใครยังเก็บสะสมภาพเก่าๆ ไว้ ก็ให้เก็บไว้ในกรุณาอย่าได้ส่งต่อ เพราะมันคือการละเมิดลิขสิทธิ์เจ้าของภาพ งานนี้ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคุณลุงคุณป้าต้องวิตกอย่างแน่นอน ซึ่งในที่สุดก็เหมือนมีอัศวินขี่ม้าขาวมาช่วยแล้วหละจ้ะ เขาผู้นั้นก็คือนายไพบูลย์ อมรภิญโญเกียรติ ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายลิขสิทธิ์!! ซึ่งฮีโร่ของเราก็ได้ให้บทสรุปของประเด็นนี้ก็คือ ข้อความที่มีการส่งต่อนั้นไม่เป็นความจริง เพราะการส่งต่อข้อความในไลน์ได้รับความคุ้มครอบถือเป็นการใช้ส่วนตัว ไม่ขัดต่อการแสวงหาประโยชน์ และไม่กระทบต่อเจ้าของลิขสิทธิ์แต่อย่างใด ก็ถือว่าโล่งใจไปเนอะ ^^ ที่มา springnews, dmc, mthai