Tag: ลาวา
-
เจ้าหน้าที่ไม่ยอมแพ้ ค้นหาหมาหลังเกิดภูเขาไฟระเบิด แม้จะผ่านไปนานกว่า 10 วัน
ตอนต้นเดือนพฤษภาคม 2018 นี้ ได้เกิดเหตุภูเขาไฟระเบิดขึ้นในเขตพูน่า รัฐฮาวาย ประเทศสหรัฐอเมริกา ส่งผลให้มีลาวาไหลเข้าทำลายบ้านเรือนเสียหายจำนวนมาก ด้วยความที่เหตุเกิดขึ้นกลางดึก ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องรีบไปตามบ้านที่อยู่ในพื้นที่เกิดเหตุแล้วปลุกประชาชนให้อพยพออกไปจากพื้นที่เสี่ยงภัยโดยด่วน บ้านของหญิงชรา Hosley กับเจ้าหมา Brus ก็อยู่ในเขตนั้นด้วย เธอรีบตื่นมาเก็บข้าวของที่จำเป็นด้วยความตื่นตระหนก และเจ้าหมาเองก็ตื่นกลัวไม่แพ้เธอเลย แต่ด้วยเหตุผลที่ต่างกันออกไป Brus เคยเป็นหมาจรจัดมาก่อน การหาบ้านให้มันเป็นเรื่องยากมาก เพราะมันหวาดกลัวผู้ชาย ซึ่งน่าจะเป็นเพราะมันเคยโดนโดยผู้ชายทำร้ายมาก่อน ในคืนนั้นเมื่อมีชายแปลกหน้าเข้ามาเตือนภัย เจ้าหมาก็เลยตกใจแล้ววิ่งหนีออกไปทางประตู แม้ว่าข้างนอกจะมีภูเขาไฟระเบิดอยู่ก็ตาม จากนั้นเจ้าหมา Little Dude ที่เป็นเพื่อนมันก็วิ่งตามออกไปด้วยจนหายไปจากระยะสายตาของชายที่มาเตือนภัย และหญิงชราเจ้าของของพวกมันด้วย ในสถานการณ์แบบนี้พวกเขาไม่มีเวลาตามเจ้าหมาออกไป เจ้าหน้าที่กู้ภัยให้ความสำคัญกับการช่วยหญิงชราก่อนเป็นอันดับแรก พวกมันก็เลยหายไปทั้งอย่างนั้น หลังจากที่เหตุการณ์สงบลงบ้างแล้ว Daylynn Kyles จากกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Aloha Ilio Rescue รู้เรื่องของหญิงชรากับเจ้าหมาเข้า เธอรู้ว่าเจ้าหมารอมานานมากกว่าจะเจอเจ้าของที่เข้ากันได้ เธอก็เลยพยายามออกตามหามันแล้วพากลับไปเจอกับเจ้าของ เธอออกตามหามันในแถบชุมชนที่มันเคยอยู่ เหมือนโชคจะเข้าข้างเมื่อเธอเจอรอยเท้าของหมาซึ่งดูจากขนาดแล้วก็น่าจะเป็นของเจ้า Brus เธอเลยค่อนข้างแน่ใจว่ามันยังมีชีวิตอยู่ แต่ก็ไม่เจอตัวมันเลย เธอเลยวางกรงที่ใส่อาหารเอาไว้ให้มัน เผื่อว่ามันหาอะไรกินไม่ได้ก็จะได้ไม่อดตายระหว่างที่รอให้คนไปช่วย Kyles และเพื่อนกลับมาดูที่จุดเดิมอีก หลังจากเวลาผ่านไปกว่า 1…
-
ช่างภาพใช้โดรนเก็บภาพลาวาทางอากาศ เผยให้เห็นความร้อนแรงที่งดงามซะเหลือเกิน
ด้วยอุณหภูมินับพันองศาเซลเซียส ลาวาจากภูเขาไฟจึงเป็นสิ่งที่อันตรายต่อสิ่งมีชีวิตทุกชนิดบนโลก แต่มันก็มีความงดงามอย่างล้ำลึก อย่างไรก็ตามควรมองด้วยตาเท่านั้นอย่าสัมผัสหรือเข้าใกล้เป็นอันขาด เพื่อเผยให้เห็นความงามของลาวาภูเขาไฟ ช่างภาพ Erez Marom จึงเดินทางไปยังฮาวายเมื่อเดือนตุลาคมปี 2017 และใช้เวลาอยู่ที่นั่น 2 สัปดาห์ด้วยกัน Erez กับเพื่อนได้ไปเก็บภาพที่ Big Island เป็นจุดแรก ที่นั่นมีการไหลของลาวาจากภูเขาไฟ Kilauea พวกเขาเห็นสีแดงจากความร้อนและสีดำจากการเผาไหม้ อยู่รวมกันได้อย่างงดงามยิ่ง แต่กว่าจะเห็นลาวาเหล่านี้มันไม่ง่ายเลย พวกเขาต้องเดินทางขึ้นเขาเป็นระยะทางกว่า 8 กิโลเมตร โดยพบว่ามีลาวาบางส่วนที่ไหลออกนอกอุทยานแห่งชาติด้วย ดังนั้นเพื่อให้เห็นลาวาได้ทั่วทุกมุม ช่างภาพจึงใช้กล้องโดรนบินเก็บภาพตามทิศทางต่างๆ รวมทั้งส่วนที่เข้าถึงได้ยาก ช่างภาพบอกว่า “ลาวาไหลลงมาจากเนินเขาอย่างช้าๆ สร้างความประทับใจไม่น้อยเลย เราได้ใช้เวลาในการเก็บภาพประมาณ 3 ชั่วโมง ทั้งตอนกลางวัน ตอนพระอาทิตย์ตก และตอนพลบค่ำ” เมื่อแน่ใจว่าได้ภาพครบทุกมุมตามต้องการแล้ว Erez และเพื่อนๆ จึงได้เดินทางกลับที่พัก และเมื่อเขาเช็คสภาพของโดรนที่ส่งไปถ่ายภาพ เขาก็ถึงกับเซอร์ไพรซ์เลยทีเดียว เพราะความร้อนได้ทำลายส่วนที่เป็นพลาสติกทั้งหมด อย่างไรก็ตาม เมื่อเปิดดูภาพ เขากลับรู้สึกว่ามันคุ้มค่ากับสิ่งที่เสียไป เพราะสิ่งที่ได้คือภาพการไหลของลาวาที่งดงามตระการตายิ่งนัก…
-
หนุ่มชาวอังกฤษสุดโหด พานักท่องเที่ยวไปนอนค้างคืนข้างปล่องภูเขาไฟที่ยังระอุอยู่
หากพูดถึงภูเขาไฟเราก็คงจะนึกถึงความน่ากลัวของลาวา ที่ยังคงปะทุด้วยความร้อนอันมหาศาล โดยเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่า มันจะระเบิดออกมาเมื่อไหร่ แค่คิดอย่างนั้นก็รู้สึกร้อนวูบวาบกันไปหมดแล้ว แต่ว่าสิ่งนั้นก็ไม่ใช้อุปสรรคของช่างภาพและไกด์นำทางที่ชื่อว่า Christopher Horsley เลยแม้แต่น้อย หนุ่มชาวอังกฤษคนนี้ตัดสินใจที่จะพานักปีนเขา ภายใต้การดูแลของตัวเอง ไปนอนค้างคืนกันข้างทะเลสาบลาวา Marum ด้านในภูเขาไฟ Ambrym ประเทศวานูอาตู ซึ่งนับว่าเป็นการกระทำที่บ้าระห่ำเอามากๆ แค่เห็นยังหวาดเสียว อีกทั้งเขาก็ได้เก็บภาพเอาไว้มากมาย ด้วยความที่เป็นช่างกล้องมืออาชีพและนักบังคับโดรน ช่วยให้เราสามารถได้เห็นบรรยากาศของบริเวณนั้นในหลากหลายมุมมอง และสวยงามแบบที่ไม่เคยมีใครเคยเข้าไปถ่ายได้ใกล้ขนาดนี้มาก่อน แน่นอนว่าต้องไม่เคยมีใครทำแบบนี้มาก่อนอย่างแน่นอน เพราะการที่ต้องไปอยู่ข้างใต้ปล่องภูเขาไฟ ที่ล้อมรอบไปด้วยกำแพงหิน และลาวาที่กำลังปะทุอยู่ในพื้นที่ความกว้าง 70 เมตร ไม่ ปล่องภูเขาไฟมีอยู่ด้วยกันสองจุดคือ Marum และ Benbow พวกเขาทั้งหมดอยู่กันในจุดแรก สถานที่ตั้งแคมป์บนพื้นดินที่เต็มไปด้วยขี้เถ้า ผู้ที่ร่วมทางไปกับเขานั้นมีด้วยกันทั้งหมด 3 คน สองคนเป็นนักท่องเที่ยว และอีกหนึ่งคนคือ Geoff Mackley ผู้บุกเบิกการเดินทางในครั้งนี้ สำหรับ Chirstopher ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาเดินทางมาภูเขาไฟแห่งนี้ นี่คือครั้งที่ 3 รวมทั้งหมดเท่ากับว่าเขาใช้เวลามาอยู่บนภูเขาไฟเกือบ 4 เดือนแล้ว สถานที่นี้ทำให้เหมือนกับอยู่บนดาวอังคารได้เลย…
-
ชุดภาพเพอร์เฟคช็อต จากการปะทุของภูเขาไฟ ที่มีฉากหลังเป็นทางช้างเผือกอันแสนงดงาม…
การบันทึกภาพความประทับใจและความสวยงามในธรรมชาตินั้น ต้องอาศัยช่วงเวลาที่เหมาะสม บางเหตุการณ์นั้นอาจเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวในรอบหลายสิบปี หรือบางปรากฎการณ์อาจเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวในชีวิตของช่างภาพคนหนึ่งเลยก็ว่าได้ และวันนี้เราจะขอพาทุกคนไปชมภาพความสวยงามของละอองฝุ่นควันที่เกิดจากการปะทุของภูเขาไฟ ที่มีฉากหลังเป็นทางช้างเผือก ที่ช่างภาพคนหนึ่งสามารถบันทึกเอาไว้ได้ ภาพปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่แสนสวยนี้ ถูกบันทึกโดยช่างภาพหนุ่มชาวดัตช์คุณ Albert Dros โดยเขาได้ทำการตั้งแคมป์ในป่าเพื่อรอคอยภาพเพอร์เฟคช็อตการปะทุของลาวาจากภูเขาไฟ Fuego ในประเทศกัวเตมาลา ช่างภาพหนุ่มวัย 31 ปีกล่าวว่า “ผมถึงกับช็อคเลยทีเดียวเมื่อเห็นภาพของละอองฝุ่นควันที่พุ่งออกมาจากปากปล่องภูเขาไฟ และผสานรวมกับหมู่ดาวบนท้องฟ้า” ภูเขาไฟ Fuego มีความสูงประมาณ 3.7 กิโลเมตร ตั้งอยู่นอกเมือง Antigua ซึ่งเป็นเมืองหลวงเก่าของประเทศ Guatemala ภูเขาไฟแห่งนี้มีการประทุหลายครั้งต่อวัน แต่คุณ Dros บอกว่าช่วงเวลาที่สวยงามที่สุดนั้นจะเป็นช่วงเวลาตอนเย็นและตอนกลางคืน “การแสดงที่แท้จริงของ Fuego จะเกิดขึ้นจริงๆ ตอนกลางคืน มันสวยงามแสดงให้เห็นถึงสิ่งที่น่าอัศจรรย์และความน่าพิศวงของธรรมชาติ ผมประทับใจกับภาพที่ได้เห็นมากๆ “ คุณ Dros กล่าวเสริม และนี่คือภาพผลงานบางส่วนของช่างภาพหนุ่มผู้นี้… การระเบิด: ภาพของลาวาที่พวยพุ่งออกมาจากปากปล่องภูเขาไฟ ที่มีฉากหลังเป็นทางช้างเผือก ช่างภาพหนุ่มต้องตั้งแค้มป์อยู่เป็นเวลานานเพื่อเก็บภาพที่แสนจะสวยงามนี้ ช่างภาพต้องรอวันที่ท้องฟ้าไม่มีเมฆเพื่อให้ได้ภาพที่สวยงามแบบนี้ นอกจากนี้ยังมีภาพที่ถ่ายในเวลาใกล้เช้า ซึ่งทำให้เห็นความสวยงามอีกแบบหนึ่ง ภาพของกลุ่มฝุ่นควันที่เคลือนตัวลงต่ำในเวลากลางวัน…
-
“ลาวาสีแดง” กำลังไหลลงสู่มหาสมุทร ปรากฏเป็นภาพ “รอยยิ้มขนาดยักษ์” พอดิบพอดี!!
เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2559 ทางสำนักข่าว Dailymail ได้เผยภาพถ่ายทางอากาศ พร้อมคลิปวีดีโอที่น่าตื่นตาตื่นใจของ “รอยยิ้มขนาดยักษ์” ที่เกิดจากการปะทุระหว่างภูเขาไฟ Kilauea บนเกาะฮาวาย สหรัฐอเมริกา และลาวาอันร้อนระอุ จนเกิดมาเป็นภาพปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่แสนงดงาม ในขณะเดียวกันก็แฝงไปด้วยความน่ากลัวไม่น้อย โดยภาพดังกล่าว ถูกบันทึกโดยบริษัท “Paradise Helicopters” ในขณะที่ลาวาสีแดงเข้มจากภูเขาไฟ Kilauea ที่ตั้งอยู่ในอุทยานภูเขาไฟแห่งชาติ บนเกาะฮาวาย… กำลังไหลออกจากปล่องภูเขาไฟเป็นระยะทางกว่า 10 กิโลเมตร ลงสู่มหาสมุทรแปซิฟิก ในรูปแบบหน้ายิ้มสุดมหัศจรรย์ เรียกได้ว่าเป็นภาพที่หาชมได้ยากมากๆ เลยนะเนี่ย Kilauea เป็นหนึ่งในภูเขาไฟที่ยังไม่ดับและมีการระเบิดของลาวามากที่สุดในโลก ตั้งแต่ปี 1983 ซึ่งมีความสูงเหนือระดับน้ำทะเลกว่า 4,190 ฟุต หรือราวๆ 1,280 เมตรกันเลยทีเดียว ภาพของลาวาสีแดงสดร้อนระอุจากปากปล่องภูเขาไฟ ที่ตัดกับภาพท้องฟ้าในยามค่ำคืน ดูแล้วช่างน่าสะพรึงเสียจริง . . ความงดงามของธารลาวาสีแดงเดือด ที่กำลังไหลลงสู่มหาสมุทรเบื้องล่าง…
-
กลับมาอีกครั้งกับ Lavapix คราวนี้เอา “ไข่” และ “เบคอน” ไปทอดบนลาวาเดือดๆ !!
ถ้าใครจำได้ สำนักข่าวแมวเหมียวของเรา เคยพาทุกท่านไปชมการนำ “โค้กกระป๋อง” ไปปะทะกับ “ลาวา” เดือดๆ จนกลายเป็นคลิปสุดน่าตื่นเต้นมาแล้ว (ข่าวเก่า) วันนี้กลับมาอีกครั้งกับทีมงาน Lavapix คราวนี้พวกเขาจะนำ “ไข่” และ “เบคอน” หอมๆ ไปทอดบนลาวาเดือดๆ บนภูเขาไฟบนเกาะฮาวาย ไปลุ้นกันดีกว่าว่าจะออกมาหน้าตาอย่างไร เริ่มแรก ง่ายๆ ตอกไข่ลงไปแบบธรรมดาๆ ล่ะกัน ง่ายขึ้นมาอีกนิด ลองทอดทั้งเปลือกดูมั่งดีกว่า ปรากฏว่าแตกโบ้ม สภาพไม่ต่างจากใส่ไข่ทั้งเปลือกเข้าไปในไมโครเวฟจริงๆ แสดงว่ามันไม่เวิร์ก เปลี่ยนมาใส่กระทะแล้วดูดีใช้ได้ งั้นเราไปลองย่างเบคอนกันบ้าง เริ่มเหลืองน่าทาน สุกได้ที่แล้วสิทาน เอาจานมาตักทานได้เลยจ้า สำหรับใครที่อยากรับชมคลิปแบบเต็มๆ นี่เลยครับ… . หลายคนอาจสงสัยว่าเขาทำไปทำไม บอกเลยว่าอย่าสงสัย เอาสะใจล้วนๆ จ้า ฮาาาาา ที่มา lavapix
-
พาไปทำ ‘เต้าหู้ไข่อบชีสลาวา’ เมนูอาหารน่ากิ๊นน่ากิน แถมยังทำไม่ยากเลยครับพี่น้อง….!!!
วันนี้ #เหมียวหง่าว มีเมนูอาหารว่างสุดแสนน่าทานมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกัน ชื่อเมนูว่า ‘เต้าหู้ไข่อบชีสลาวา’ ต้องขอบอกเลยว่าทำง่ายแบบสุดๆ แถมยังน่าทานอีกต่างหาก โดยเจ้าเมนูนี้เป็นสูตรของ C Chanel ที่มีต้นแบบมาจากขนมปังอบไข่ลาวา แต่เปลี่ยนจากโทสขนมปังมาเป็นเต้าหู้ทอดแทน ซึ่งมันก็ให้ความอร่อยหอมนุ่มไปอีกแบบ เอาล่ะ ไม่พูดพร่ำทำเพลงมาก ไปชมวัตถุดิบและวิธีทำพร้อมๆ กันเลยดีกว่า… มาเริ่มที่วัตถุดิบกันก่อน… – เต้าหู้ทอด – ไข่ไก่ – เกลือและพริกไทยดำ – ชีส เอาล่ะต่อไปมาชมวิธีทำกันเลย… เริ่มต้นด้วยการเตรียมเต้าหู้ทอดก่อน จากนั้นก็ใช้ช้อมควักตรงกลางออกมาให้เป็นช่องสี่เหลี่ยม โดยกะขนาดให้พอดีกับปริมาณไข่ที่จะตอกลงไป โรยเกลือและพริกไทยตามใจชอบ จากนั้นก็ตอกไข่ (ใช้ไม้จิ้มฟันจิ้มไข่แดงซัก 2-3 ครั้ง เพื่อไม่ให้มันแตกขณะเอาเข้าไมโครเวฟ) นำเข้าไมโครเวฟ (ขนาด 600W) ใช้ไฟแรงสุด 2-3 นาที ติ๊ง!! นำออกมาจากไมโครเวฟวางชีสแผ่นลงไป แล้วก็โรยด้วยพริกไทยดำ จากนั้นก็เอาไปเข้าไมโครเวฟต่อ ใช้ไฟกลางประมาณ 1-2 นาทีเพื่อให้ชีสละลาย…
-
เค้กช็อกโกแลตลาวา ราดซอสช็อกโกแลตฉ่ำๆ ทานคู่กับชาร้อนๆ ฟินกว่านี้ไม่มีอีกแล้ววววววว
เดือนนี้ถือเป็นเดือนแห่งความรัก เหมียวขี้อ้อนก็เลยอยากจะนำเสนอเมนูหว๊านหวาน ให้เพื่อนๆ ได้ไปลองทำกัน ซึ่งคราวนี้เป็นเมนู ‘เค้กช็อกโกแลตลาวา’ แบบเบสิก ที่ทานคู่กับไอศกรีมเย็นๆ หรือชาอุ่นๆ บอกเลยว่าฟินกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว อยากรู้ไหมว่าทำยังไง งั้นก็ตามมาดูเลย ส่วนผสมมีดังนี้ -ดาร์กช็อกโกแลต 1/4 ถ้วย -เนยจืด 1/4 ถ้วย – น้ำตาลไอซิ่ง 1/2 ถ้วย -ไข่ไก่ 1 ฟอง -ไข่แดง 1 ฟอง -แป้งสาลีอเนกประสงค์ 3 ช้อนโต๊ะ -ผงกาแฟเอสเพรสโซ่ 1 ช้อนชา -ไอศกรีม รสชาติใดก็ได้ตามชอบเลยฮะ -ซอสช็อกโกแลต (สำหรับราดหน้า) วิธีทำ 1.เริ่มจากเตรียมเตาอบที่อุณหภูมิ 425 องศาฟาเรนไฮต์ หรือประมาณ 218 องศาเซลเชียส จากนั้นฉีดสเปรย์น้ำมันมะกอกลงในถ้วยทนความร้อน 2 ใบ เตรียมไว้ 2.ต่อไปใส่ดาร์กช็อกโกแลตกับเนยจืดลงไปในถ้วย แล้วนำเข้าไมโครเวฟใช้ไฟปานกลางประมาณ…
-
นักวิทย์เผยเห็ดประหลาดบนเกาะฮาวาย สามารถทำให้คุณผู้หญิงถึงจุดสุดยอดได้เพียงแค่ ‘ดม’
เหมียวไม่ได้จะทะลึ่งตึงตังอะไรหรอกนะ แต่คิดว่ามันเป็นอะไรที่น่าสนใจมากๆ เลยล่ะ กับสิ่งที่เราไม่เคยรู้มาก่อนว่า’ เห็ด’ เนี่ยมันสามารถทำอะไรมากกว่าการเป็นอาหารของมนุษย์ เพราะมันสามารถช่วยกระตุ้นอารมณ์ทางเพศของผู้หญิงได้เพียงแค่สูดดมกลิ่นของมันเท่านั้น!! โดยผู้ค้นพบก็คือ John Halliday และ Noah Soule สองนักวิทยาศาสตร์ที่ค้นพบความมหัศจรรย์ของเจ้าเชื้อราที่มากับเห็ดสีส้มปริศนาที่ว่านี้จากเกาะฮาวาย บรึ้มมมมมมมมมมมม!! อ่าห์ ซึ่งนำมาศึกษาและทดลองกับอาสาสมัครหลายราย และได้รับการตีพิมพ์อยู่ในวารสาร International Journal of Medicinal Mushrooms โดยผลการทดลองนั้นเผยให้เห็นว่า เหล่าอาสาสมัครผู้หญิงที่สูดดมกลิ่นเห็ดสีส้มที่ว่าเข้าไปปุ๊บก็จะเกิดอาการถึงจุดสุดยอดได้ทันที ซึ่งก็สรุปผลการทดลองได้ว่า ‘สารคล้ายฮอร์โมนมนุษย์ที่อยู่ในความผันผวนของสปอร์ ทำหน้าที่เป็นสารสื่อกับประสาทของมนุษย์ ก่อให้เกิดอาการดังกล่าว’ อย่างไรก็ตามเจ้าเห็ดที่ว่านี้ จะผุดขึ้นมาในกระแสลาวาเท่านั้น ซึ่งจะต้องเป็นช่วงเวลาที่เกิดภูเขาไฟปะทุ แถมยังมีเฉพาะที่เกาะฮาวายด้วย หายากสุดๆ แต่น่าแปลกตรงที่ว่าถ้าผู้ชายดมแล้วจะรู้สึกเหม็นและขยะแขยงอย่างบอกไม่ถูก เอ๊ะ!? มันยังไงกันล่ะเนี่ย ที่มา : thechive, iflscience
-
อย่างนี้นี่เอง!! เผยเรื่องราวสุดซึ้งของคู่รัก ผู้อยู่เบื้องหลังหนังสั้น Lava
หากใครที่ได้ไปดูภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่อง Inside Out มาแล้ว ก็น่าจะได้ชมหนังสั้นที่ฉายปะหน้าก่อนหนังจะเริ่มอย่าง Lava กันแล้วใช่ไหมล่ะ ซึ่งหลายๆคนพูดเป็นเสียงเดียวกันเลยว่าประทับใจมากๆ แม้จะใช้เวลาเล่าเพียง 4-5 นาที แต่ก็กินใจ จนทำให้เพลง Lava กลายเป็นเพลงที่มีคนแชร์ในโลกออนไลน์อยู่ในขณะนี้เลย และเหล่าแฟนๆก็คงอยากจะรู้กันใช่ไหมล่ะว่าเรื่องราวจริงๆที่อยู่เบื้องหลังมันเป็นยังไง วันนี้แอดเหมียวจะมาเล่าให้ฟังเอง เมื่อวันที่ 15 กันยายนที่ผ่านมา เฟซบุ๊คเพจ Life FM ได้เผยแพร่เรื่องราวของนักร้องชาวฮาวาย อิสราเอล คามาคาวิโวโอเล และแฟนสาว มาร์ลีน คามาคาวิโวโอเล ทั้งสองเป็นคู่รักที่อยู่เบื้องหลังเรื่องราวสุดน่ารักของหนังสั้น Lava นั่นเอง นายอิสราเอล เป็นนักดนตรีร่างใหญ่ โดยเขามีน้ำหนักมากถึง 343 กิโลกรัมเลยทีเดียว แถมเขายังเล่นดนตรีเป็นอูคูเลเลตัวเล็ก และร้องเพลงด้วยเสียงทุ้มนุ่มเป็นเอกลักษณ์อีกด้วย แต่ด้วยน้ำหนักที่มาก ทำให้นายอิสราเอลมีปัญหาด้านสุขภาพหลายอย่าง และเสียชีวิตจากอาการหัวใจวาย ด้วยวัยเพียง 38 ปีเท่านั้น และหลังเสียชีวิต เขาก็ได้รับการเชิดชูเกียรติจากทางการรัฐฮาวาย โดยมีการประกาศลดธงครึ่งเสาเพื่อไว้อาลัยและตั้งหีบศพไว้ ณ ที่ทำการของรัฐเพื่อให้ประชาชนเข้าเคารพศพด้วย… แม้นายอิสราเอลจะมีร่างกายที่มหึมาเหมือนกับภูเขาลาวาในแอนิเมชั่นที่พวกเราได้ดูกันไป แต่มันก็ไม่อาจขัดขวางความรักของทั้งคู่ได้เลย เหมียวล่ะซึ้งในความรักของพวกเขาจริงๆ ที่มา Life FM , wikipedia
-
ฝรั่งทดลองเอา ‘โค้กกระป๋อง’ ไปท้าชนกับ ‘ลาวา’ ผลสรุปว่าซู่ๆซ่าๆกันเลยงานนี้
การทดลองบางอย่างอาจไม่ได้สร้างประโยชน์อะไรให้กับมวลมนุษยชาติ แต่อย่างน้อยมันก็สามารถตอบข้อสงสัยที่เรามีต่อสิ่งต่างๆได้ นั่นอาจเป็นจุดเริ่มต้นของบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่ก็เป็นได้ อย่างที่หลายๆคนสงสัยถึงพลังอำนาจในการทำลายล้างของลาวา หินหนืดพันองศาจากใต้โลกนี้ จะเป็นอย่างไรบ้าง หากมันไปโดนสิ่งของในชีวิตประจำวันของเรา แน่นอนใครก็คงไม่อยากให้มันได้โดนจริงๆหรอก เราจึงต้องมีการทดลองแบบนี้ไง ทาง lavapix จึงทำการทดลอง หากโค้กกระป๋องสัมผัสกับลาวาโดยตรง จะเป็นอย่างไร? มันจะละลายใช่หรือไม่? หรือว่ามันจะระเบิด หรือว่ามันจะไม่เป็นอะไรเลย?!?! อย่างนี้เราไปชมกันเลยดีกว่า ว่าจะเป็นอย่างไร โอ้โห มันเป็นแบบนี้เองเหรอเนี่ย เห็นแบบนี้แล้วใครอย่าเอาไปทดลองเองที่บ้านนะ..ว่าแต่บ้านใครมีลาวาบ้างละเนี่ย ที่มา lavapix