Tag: ลึกลับ
-
ชาวเน็ตงง เจอป้ายประกาศหาคนหายในญี่ปุ่น ใบหน้าดูแปลกๆ แถมมีส่วนสูงตั้ง 620 ซม.!?
ประเทศญี่ปุ่นนั้นมักจะมีภาพหรือเหตุการณ์เล็กๆ น้อยๆ ที่ชวนให้เรารู้สึกประหลาดใจอยู่เสมอ เช่นเดียวกับครั้งนี้ที่ใครบางคนติดป้ายประกาศหาคนหาย แต่ใบหน้าของคนในรูปนั้นกลับดูแปลกประหลาด ดวงตาดูไร้ชีวิตชีวาจนเข้าขั้นน่ากลัวเลยทีเดียว ชาวทวิตเตอร์นามว่า @zhetto64 ได้นำภาพดังกล่าวมาโพสต์ลงบนทวิตเตอร์ของตัวเอง ภาพป้ายประกาศดังกล่าวเขาพบเจอในย่านอาซางายะของกรุงโตเกียว และจะหาคนหน้าตาแบบนี้เจอได้ยังไงกันล่ะเนี่ย!? ข้อความในป้ายประกาศเขียนไว้ว่า… “อายุ: 11 ขวบ (ณ ตอนถ่ายภาพ) ส่วนสูง: ระหว่าง 130-620 เซนติเมตร น้ำหนัก: ไม่ทราบ (แต่หนักกว่าที่คิดก็แล้วกัน) ลักษณะส่วนบุคคล: มักสวมหมวกและเสื้อผ้าสีเหลือง ผมสั้น ไม่มีผมหน้าม้า ไม่พูดคุย แววตาดูเหมืองมองไปยังที่ห่างไกล หายตัวไปหลังจากการเดินขบวนเพื่ออนาคตและสันติภาพ” งานนี้ชาวเน็ตพากันงง รวมถึงตัวผู้เขียนเองก็ต้องของงด้วยอีกคน ใครมันจะไปสูงได้ถึง 620 เซนติเมตรได้ล่ะเนี่ย!? แต่จากนั้นไม่นานชาวเน็ตนามว่า @yuyu7654321 ก็ได้เข้ามาเสนอว่า คนที่หายตัวไปอาจจะเป็น “มาสคอต” ของการรณรงค์ความปลอดภัยทางจราจรของญี่ปุ่นก็เป็นได้ เจ้าตัวนี้หรือเปล่านะ? แต่พอมองดูดีๆ เจ้าตัวมาสคอตจราจรมันไม่มีผมหน้าม้านี่นา ก็เลยคิดว่าไม่น่าจะใช่ ชาวเน็ตอีกรายนามว่า @mukaitaki_T ก็เลยเสนอว่ามันอาจจะเป็นหนึ่งในรูปปั้น บุตรแห่งพระอาทิตย์ ทั้งสามก็เป็นได้ รูปปั้นนี้ถูกตั้งวางขึ้นหลายแห่งในประเทศญี่ปุ่น ไม่มีหน้าม้า แถมแววตายังดูเหมือนมองออกไปยังพื้นที่ห่างไกลอีกด้วย และที่สำคัญรูปปั้นนี้ในเมืองฟูกูชิมะ…
-
คดีปริศนาของ Hazel เด็กหญิงวัย 13 ปีที่ “ละเมอ” ไปแขวนคอตัวเองตายในตู้เสื้อผ้า
กลายเป็นคดีปริศนาไปเลยทีเดียวเมื่อเด็กหญิงวัย 13 ปี เสียชีวิตหลัง “ละเมอ” เดินไปยังตู้เสื้อผ้าเพื่อแขวนคอตัวเอง Hazel Georgina Bradley เด็กหญิงชาวเวลส์วัย 13 ปีที่มีภาวะความ กลัวตู้เสื้อผ้า มาตั้งแต่เด็ก ซึ่งเป็นผลมาจากการที่เธอได้ดูการ์ตูนเรื่อง Monster Inc. คืนหนึ่ง Hazel ก็เข้านอนตามปกติ แต่เช้ารุ่งขึ้นเธอกลับถูกพบว่าแขวนคอเสียชีวิตอยู่ในตู้เสื้อผ้า พร้อมสวมเครื่องแต่งกายเป็นชุดนักเรียน Hazel Georgina Bradley วัย 13 ปี จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พ่อแม่ของ Hazel ยืนยันอย่างมั่นใจว่าลูกสาวของพวกเขาเกิดการ “เดินละเมอ” อย่างแน่นอน Rebecca วัย 43 ปีผู้เป็นแม่กล่าวว่าก่อนเข้านอนในคืนเกิดเหตุ เธอยังกอดและจูบเพื่อบอกราตรีสวัสดิ์กับลูกสาว ก่อนจะแยกย้ายกันไปนอนในช่วงเวลา 21.20 น. ของคืนวันที่ 23 พฤษภาคม 2018 แต่เมื่อเวลา 6.45 น. ของเช้าวันถัดมา Graham วัย 44 ปีผู้เป็นพ่อก็พบร่างลูกสาวตัวเองในชุดนักเรียน “แขวนคอ”…
-
20 ผลงานภาพวาดแนว “สยองขวัญ” ของศิลปินชาวออสเตรีย Stefan Koidl!
ศิลปินผู้สร้างผลงานภาพนั้นก็จะมีแนวทางเป็นของตัวเอง บ้างชอบวาดภาพเสมือนจริง บ้างก็ชอบภาพนามธรรม แต่ศิลปินบางคนก็ชอบวาดภาพ “ชวนสยอง” เอามากๆ เลยล่ะ อย่างเช่น Stefan Koidl ศิลปินชาวออสเตรียที่ทุ่มเทความสามารถเพื่อการสร้างผลงานภาพให้ออกมาดูลึกลับน่ากลัว จนกลายเป็นภาพหลอนฝังจิตใจผู้คน ถ้าใครคิดว่าไม่ใช่คนขวัญอ่อน เตรียมตัวให้พร้อมแล้วไปชมผลงานภาพวาดแนวสยองขวัญของ Stefan กันเลย! #1 #2 #3 #4 #5 #6 #7 #8 #9 #10 #11 #12 #13 #14 #15 #16 #17 #18 #19 #20…
-
สาวปริศนาไล่ “กดกริ่ง” บ้านคนอื่นกลางดึก เจ้าหน้าที่พยายามตามหาตัวแต่ ‘ไร้ร่องรอย’
ในเมืองมอนต์โกเมอรี รัฐเท็กซัสได้มีเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้น เมื่อพบเห็นหญิงสาวปริศนาในกล้องวงจรปิด เดินไปกดกริ่งของบ้าน 5 หลังในเวลาราวตีสามโดยไม่ทราบสาเหตุ และจากนั้นก็ไม่มีใครหาหญิงคนนี้ได้พบ จากภาพวงจรปิด เห็นได้ว่าหญิงคนดังกล่าวใส่เพียงเสื้อตัวยาวๆ ไม่สวมรองเท้า และที่ข้อมือขวามีเครื่องประดับเป็นสายผูกข้อมือที่ห้อยยาวลงมา สาวปริศนากดกริ่งบ้านคนอื่น ผู้อาศัยคนหนึ่งออกมาเล่ากับ ABC News ว่าเพื่อนบ้านของเขาบางคนก็เดินออกมาเปิดประตูขณะที่สาวคนนี้มากดกริ่ง แต่กลับไม่พบใคร เพราะเธอได้หายตัวไปก่อนแล้ว Branson Golson ผู้อาศัยอีกรายก็ออกมากล่าวว่า “ผมมีลูกสาวอายุ 9 ขวบอยู่ในบ้าน สิ่งที่เกิดขึ้นนี้มันทำให้ผมกังวลอย่างมาก” ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกสืบสวนแต่ละบ้านในละแวก และพยายามอย่างมากในการแกะรอยสาวปริศนาจนกว่าจะพบตัว ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจสอบ “ภาพคนหาย” ที่พลเมืองส่งแจ้งเข้ามา แต่ก็ไม่พบใครจะมีใครที่มีลักษณะใกล้เคียงกับสาวปริศนาในกล้องวงจรปิดเลย ร้อยโท Frank Spencer จึงออกมาเตือนชาวเมืองว่าพยายามระมัดระวังตนเองให้ดี หากมีคนมากดกริ่ง เจ้าของบ้านสามารถตอบรับผู้ที่มากดกริ่งได้ แต่ให้พูดจากอีกฝั่งของประตูก่อนที่จะเปิดประตูออกไป หมู่บ้านที่เกิดเหตุ ในเมืองมอนต์โกเมอรี รัฐเท็กซัส ชมภาพวิดีโอสาวปริศนาจากกล้องวงจรปิด เป็นเหตุการณ์ประหลาดๆ ที่แม้ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะพยายามสืบสวนแล้วแต่ปัจจุบันก็ยังไม่พบตัวของ “หญิงสาวปริศนา” ดังกล่าว ที่มา: thesun, facebook, shared…
-
ชมคลิป “พลังงานลึกลับ” ที่ปรากฏขึ้นบนร่างไร้ชีวิตของชายชาวจีน มันคืออะไรกันแน่!?
โลกเรานั้นเต็มไปด้วยปริศนาและความลึกลับที่ยังอธิบายไม่ได้ในเชิงวิทยาศาสตร์ หลายสิ่งก็เป็นเพียงคำร่ำลือแต่หลายสิ่งก็มีผู้คนเคยพบเห็นกันมาแล้ว เรื่องราวในวันนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับวัตถุ (หรือสิ่งมีชีวิต) ปริศนา ซึ่งมีผู้ถ่ายวิดีโอมาได้ ต้องขอเตือนเอาไว้ก่อนเลยว่า ภาพที่ทุกท่านจะได้รับชมต่อไปนี้ อาจก่อให้เกิด ความกลัว ได้ ภาพนี้ถูกถ่ายขึ้นในบริเวณริมถนนแห่งหนึ่งของประเทศจีน ที่มีร่างผู้ชายนอนไร้สติอยู่ริมถนน ชายคนนี้ดูเหมือนได้รับบาดเจ็บจนนอนแน่นิ่ง แต่จู่ๆ ก็มีวัตถุหรือสิ่งมีชีวิตคล้ายควันและเงาสีดำปรากฏขึ้นมาจากตัวของเขา วัตถุหรือสิ่งมีชีวิตลึกลับนี้ดูเหมือนพยายามเข้ามาสัมผัสร่างกายของชายที่นอนไร้สติ ไม่มีใครทราบว่ามันคืออะไร มาจากไหน และมาเพื่ออะไรกันแน่ ชมคลิปวิดีโอ เมื่อภาพและคลิปวิดีโอถูกเผยแพร่ลงบนอินเทอร์เน็ต ชาวเน็ตที่พบเห็นก็เข้ามาคอมเมนต์กันอย่างคับคั่ง เช่น… “พระเจ้า มันเหมือนจริงมากๆ” “โอ้ พระเจ้า อ้ากกกก” “มันหิวหรือเปล่า?” “พูดง่ายๆ มันก็คือยมทูต” “นี่อาจจะเป็นหลักฐานการปรากฏตัวของปิศาจ” ไม่มีใครรู้ว่าคลิปวิดีโอนี้เป็นภาพจริงหรือตัดต่อ สิ่งที่รู้มีเพียงแค่ว่า มันสมจริงมากและชวนขนหัวลุกสุดๆ ที่มา: ck101 และ liveleak
-
รู้จักกับ 9 สถานที่ ‘ต้องห้าม’ บนโลกใบนี้ ที่ทั้งลึกลับและน่ากลัว อย่าเข้าไปเชียวล่ะ…
บนโลกของเรานั้นมี สถานที่ต้องห้าม อยู่ไม่น้อยเลยล่ะ สถานที่เหล่านั้นพวกเราไม่มีวันได้เข้าไปเยือนแน่นอน นอกเสียจากว่าเราจะเป็นคนพิเศษเพียงไม่กี่คนที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น ก่อนหน้านี้ #เหมียวโลลิ ได้นำเสนอ 10 สถานที่ต้องห้าม ไปเรียบร้อยแล้ว แต่บอกเลยว่าบนโลกเรามันไม่ได้มีสถานที่ต้องห้ามแค่ 10 แห่งหรอกนะ มันมีมากกว่านั้นอีก… วันนี้เราจึงจะพาทุกท่านไปรู้จักกับ สถานที่ต้องห้ามแสนลึกลับ จากประเทศต่างๆ รอบโลกอีก 9 แห่ง จะมีสถานที่ไหน ณ ประเทศอะไรบ้าง เราไปชมพร้อมๆ กันเลย 1. Ploutonion At Hierapolis (ประตูแห่งเทพพลูโต), ประเทศตุรกี สถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่ที่นครโบราณเฮียราโพลีส ประเทศตุรกี เป็นที่ซึ่งเคยอุทิศให้กับเทพความตายแห่งโรมันนามว่า พลูโต ความลึกลับของสถานที่แห่งนี้ก็คือ “สิ่งมีชีวิตใดที่ผ่านประตูแห่งนี้จะพบกับความตายทันที” นักประวัติศาสตร์โบราณเคยทดลองด้วยการปล่อยนกให้บินเข้าไป ผลปรากฏว่านกตัวนั้นก็ตายลง จากนั้นในปี 1965 จึงมีการทดลองทางวิทยศาสตร์แล้วคำอธิบายก็คือ ภายในมีการรวมตัวของก๊าซ CO2 ที่ผิดปกติที่สามารถดับลมหายใจสิ่งมีชีวิตได้ภายในไม่กี่นาที การเข้าไปเยี่ยมชมใกล้ๆ สำหรับมนุษย์นั้นถือว่าไม่มีอันตรายใดๆ แต่หากต้องการผ่านประตูเข้าไปด้านใน เป็นสิ่งที่สถานที่แห่งนี้ “ห้าม” เป็นอันขาด 2. Vatican Secret Archives (หอเอกสารลับนครวาติกัน), นครวาติกัน โบสถ์คาทอลิกในนครวาติกันถือว่าเป็นสิ่งลึกลับพอสมควร…
-
ปริศนาหลอน ครอบครัวอินเดีย “ผูกคอตาย” ยกบ้าน 11 ศพ เชื่อเกี่ยวข้องกับลัทธิลึกลับ
ล่าสุดบนทวิตเตอร์ ได้มีการเผยแพร่ข่าวการตายอย่างลึกลับของชาวอินเดีย เมื่อครอบครัวหนึ่งกลายเป็นศพหมดทั้งครอบครัวรวม 11 ชีวิต เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าเป็น การฆาตกรรมและการฆ่าตัวตายหมู่ในครอบครัว หลายสำนักข่าวของอินเดียได้เผยแพร่โศกนาฏกรรมปริศนานี้ออกมาทั่วโลกอินเทอร์เน็ต ขณะเดียวกันผู้ใช้ทวิตเตอร์ชาวไทยชื่อว่า @washimarou ก็ได้นำเรื่องราวการตายอย่างลึกลับนี้มาเล่าต่อ โพสต์เล่าเรื่องการตายหมู่ของครอบครัว Bhatia ในอินเดีย เริ่มต้นวันที่ 1 กรกฎาคม 2018 รูปภาพศพขณะที่เจ้าหน้าที่พบเจอ ดูได้ที่นี่ (แต่ไม่แนะนำให้เข้าไปดู) ตำรวจสงสัยทั้งครอบครัวกำลังนับถือในลัทธิลึกลับ และได้ประกอบพิธีกรรมล้างบาป . ในบันทึกที่พบ มีการเขียนกล่าวถึงการล้างบาปด้วยพิธี Baar Puja (บูชาต้นไทร) เป็นการแขวนคอ ปิดตา ปิดหู ปิดปาก มือไพล่หลัง ห้อยลงมาในลักษณะเหมือนรากไทร ลูกชายที่ชื่อว่า Lalit ฝันเห็นพ่อผู้ล่วงลับ ทำให้เชื่อว่าประกอบพิธีกรรมนี้แล้ว “พ่อ” จะมาช่วย และเชื่อว่าพิธีกรรมนี้ทำให้ครอบครัวมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น จากบันทึกที่พบ ทำให้ทราบว่าพิธีกรรมนี้ต้องทำต่อเนื่อง 7 วัน หมายความว่าพวกเขาเริ่มทำพิธีกรรมมาตั้งแต่ วันที่ 23-30 มิถุนายน…
-
ส่องเกาะลับแห่งมหาสมุทรอินเดีย “เซนทิเนล” ที่อาศัยของชนเผ่าดุร้าย ใครอยากลองดี เชิญ!!
มนุษย์นักสำรวจจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียวที่ชื่นชอบการสำรวจพื้นที่ที่ยังไม่มีใครเคยไป เช่น ป่าเขาลึก เกาะร้าง หรือพื้นที่ทุรกันดาร เป็นต้น หากคุณเป็นหนึ่งในผู้ที่ชื่นชอบการสำรวจลักษณะนี้ล่ะก็ เราขอแนะนำให้คุณรู้จักกับ เกาะเซนทิเนลเหนือ หนึ่งในหมู่เกาะอันดามันแห่งมหาสมุทรอินเดีย เกาะแห่งนี้ ถือเป็นเกาะต้องห้าม เพราะบนเกาะเป็นที่อยู่อาศัยของ ชนเผ่าเซนทิเนล ที่ว่ากันว่าดุร้าย ไม่เป็นมิตร และปิดกั้นตัวเองจากคนนอก หากใครฝ่าฝืนเข้าไปใกล้ หรือเข้าไปข้างในเกาะ จะถูกโจมตีใส่ในทันที บนเกาะไม่มีชนกลุ่มอื่นเลย นอกจากเผ่าเซนทิเนล ทั้งนี้ด้วยความเป็นห่วงเรื่องสุขภาพและปัญหาทางธรรมชาติ รัฐบาลอินเดียจึงพยายามติดต่อกับชนเผ่านี้ให้ได้ ครั้งหนึ่งเคยส่งฑูตนามว่า T.N. Pandit เข้าไปยังเกาะ เพื่อสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจเขานำมะพร้าวและของใช้ต่างๆ เข้าไปมอบให้กับชนเผ่า ในครั้งแรก ชาวเผ่าเซนทิเนลก็ต้อนรับเขาโดยไม่มีการคำนับหรือการทักทายใดๆ แต่ T.N. Pandit ก็พบว่าชาวเผ่านั้นมีสุขภาพและชีวิตการเป็นอยู่ที่ดี เติบโตได้โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งความช่วยเหลือจากภายนอก ภารกิจนี้จึงหยุดลง เกาะเซนทิเนลเป็นหนึ่งในหมู่เกาะอันดามัน ตั้งอยู่กลางมหาสมุทรอินเดีย เกาะเซนทิเนล เป็นเกาะต้องห้ามเนื่องจากเป็นที่อาศัยของชนเผ่าดุร้ายไม่เป็นมิตร เผ่าเซนทิเนล ปฏิเสธการติดต่อกับโลกภายนอก และจะโจมตีอย่างไม่ยั้งมือ กับทุกคนที่กล้ารุกล้ำเขตแดนของเกาะ เพราะฉะนั้นอย่าอยากรู้อยากเห็นแล้วพยายามเฉียดเข้าไปใกล้จะดีกว่า การติดต่อกับโลกภายนอก อาจทำให้พวกเขาได้รับเชื้อโรคจากมนุษย์ภายนอก และนั่นอาจทำให้…
-
ชมภาพการ์ตูนแสดงถึง “ความลึก” ของมหาสมุทรอันยิ่งใหญ่ เอาให้โรคกลัวทะเลกำเริบกันไปเลย!!
ทะเลและมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ไพศาลนั้นเต็มไปด้วยสิ่งลี้ลับมากมาย ถึงแม้ว่าปัจจุบันจะมีการค้นพบสิ่งต่างๆ จากห้วงทะเลลึกให้เห็นกันบ้างแล้ว แต่เชื่อหรือไม่ว่า ยังเหลือพื้นที่ในทะเลที่ยังไม่ถูกสำรวจอีกตั้ง 95 เปอร์เซ็นต์ของทั้งหมด และด้วยความลี้ลับของมหาสมุทรนั้นเอง ทำให้หลายๆ คนคิดว่ามันจะมีสัตว์ประหลาดอยู่ใต้ก้นมหาสมุทร จนเป็นโรคกลัวทะเลกันไปเลยทีเดียว (หากอยากรู้ว่าตัวเองเป็นโรคกลัวทะเลหรือเปล่า มาเช็กได้ที่นี่เลย) ฉะนั้น คุณ Randall Munroe จึงได้พยายามออกมาให้ความรู้เกี่ยวกับห้วงทะเล เท่าที่มนุษย์จะสามารถหาข้อมูลมาได้ ผ่านการวาดออกมาเป็นภาพการ์ตูนเจ๋งๆ โดยใช้ชื่อเรื่องว่า “Lakes and Oceans” นี่คือภาพเต็มๆ ภาพอาจจะเล็กไปสักนิด ชมภาพใหญ่ๆ ได้ที่นี่ ภาพนี้แสดงความลึกของทะเลสาบต่างๆ ยังลึกไม่ถึง 1,000 เมตรเลย เรือบางลำที่ว่ากันว่าอับปางอยู่ใต้ทะเลลึก เมื่อมองเป็นภาพใหญ่ๆ แบบนี้แล้ว มันดูตื้นไปเลย เรือไททานิกที่เรารู้จัก อับปางในปี 1912 แน่นิ่งเป็นสองท่อนอยู่ใต้มหาสมุทรลึกราวๆ 3,784 เมตร รูปลูกศรคือจุดที่วาฬสเปิร์มสามารถดำลงไปได้ และกลับขึ้นมาพร้อมบาดแผลเต็มตัว สันนิษฐานว่าใต้ล่างน่าจะมีปลาหมึกยักษ์ ซึ่งมนุษย์ก็ยังมิอาจค้นพบได้ จุดที่ลึกที่ในโลกตอนนี้คือ Challenger Deep…
-
อดีตรมว. กระทรวงกลาโหมของแคนาดา ออกมาบอกว่า ‘อิลลูมินาตี’ มีอยู่จริง!!
เชื่อว่าหลายท่านคงเคยได้ยินผ่านหูกันมาบ้างกับคำว่า องค์กรลับอิลลูมินาตี (Illuminati) เพราะเคยปรากฏอยู่ในภาพยนตร์หรือวรรณกรรมต่างๆ ที่บอกว่าองค์กรนี้เป็นผู้ที่บังคับบัญชาและบงการทุกอย่างอยู่เบื้องหลัง อีกทั้งยังพยายามที่จะจัดระเบียบโลกขึ้นมาใหม่ …แล้วองค์กรที่ว่านี้มันมีอยู่จริงๆ หรือไม่? ก่อนอื่น มันมีสมมติฐานหลายอย่างเกี่ยวกับองค์กรที่เชื่อว่าอยู่เบื้องหลังการเมืองการปกครองนี้ อาจจะใช้เวลาเป็นวันหากต้องการอ่านบทบาทขององค์กรอิลลูมินาตีระหว่างช่วงสงคราม เช่น วินาศกรรม 11 กันยายน 2001 หรือสงครามอื่นๆ และเราก็อาจจะจบลงที่รู้สึกถึงความวิตกกังวลและหวาดระแวง กับเรื่องที่ไม่รู้ว่าจริงแท้แค่ไหน แต่ขณะนี้ ความรู้สึกวิตกกังวลและหวาดระแวงดังกล่าวได้เกิดขึ้นจริงๆ เมื่อ Paul Hellyer อดีตรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของแคนาดา ผู้ที่เคยกำกับการกองกำลังป้องกันประเทศในช่วงปี 1960 ได้ออกมากล่าวว่า องค์กรอิลลูมินาตีนั้นมีตัวตนจริงและกำลังควบคุมโลกใบนี้อยู่ ซึ่งทำให้ตัวเขาถึงกับต้องออกมาแจ้งเรื่องนี้ด้วยตัวเอง Hellyer กล่าวว่าการทำโครงการ Lazarus Effect เป็นเทคโนโลยีที่สามารถเปลี่ยนแปลงผลกระทบจากภาวะโลกร้อนได้ แต่โครงการต้องถูกระงับเอาไว้เนื่องจากองค์กรอิลลูมินาตีต้องการช่วยเหลืออุตสาหกรรมปิโตรเลียม เขาบอกอีกว่าสมาชิกหลายคนในองค์กรอิลลูมินาตีมีส่วนได้ส่วนเสียกับอุตสาหกรรมเชื้อเพลิงและน้ำมัน จึงต้องการให้แหล่งอุตสาหกรรมเหล่านี้มีผลการผลิตที่ดีที่สุด “คุณกำลังอยู่ในแผนการลับที่ควบคุมโลกนี้อยู่” Hellyer กล่าว “และพวกเขาก็ได้ระงับเทคโนโลยีนี้เอาไว้จนกว่าอุตสาหกรรมน้ำมันจะทำกำไรให้พวกเขาได้เป็นหมื่นหรือแสนล้าน” “มันจะเป็นแบบนี้ไปตลอดจนกว่าคนจำนวนร้อยหรือพันจะรวมกลุ่มกันแล้วออกมาเรียกร้องว่า ‘พวกแกต้องแสดงความบริสุทธิ์ บอกมาว่าเกิดอะไรขึ้น และเปลี่ยนจุดประสงค์หลักของพวกแกซะ แทนที่จะก่อสงคราม ก็เปลี่ยนเป็นการปกป้องโลกไว้ให้คนรุ่นหลัง’” ด้วยความที่ Hellyer เป็นบุคคลระดับสูงทางการเมือง มันอาจทำให้คุณสงสัยว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นเป็นความจริงมากหรือน้อยเพียงใด ครั้งก่อนเขาเคยอ้างว่า…
-
23 ภาพถ่าย “แมวดำ” ความสง่างามที่แฝงไปด้วยความลึกลับ
หากพูดถึง “แมวดำ” ตามความเชื่อของหลายๆ คนแล้วล่ะก็ มันคงจะเป็นสัตว์ที่มาพร้อมความน่าสะพรึงกลัว เป็นตัวแทนของชีวิตและความตาย แต่ความเชื่อของผู้คนก็แตกต่างกันออกไปตามแต่ละประเทศ บางแห่งก็เชื่อว่าแมวดำเป็นสัตว์มงคลซึ่งจะนำโชคมาให้ ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ความเชื่อเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่า แมวดำนั้นต้องเป็นสัตว์ที่ไม่ธรรมดาแน่นอน มันอาจทำให้ใครบางคนรู้สึกกลัว ขณะเดียวกัน มันก็อาจจะทำให้ใครบางคนหลงใหลในความงดงามของมันได้เช่นกัน ภาพถ่ายจะนำมาให้รับชมกันต่อไปนี้จะแสดงถึงทั้งความงามและความลึกลับของ “แมวดำ” ให้ท่านผู้ชมได้รับชมกัน เชิญไปเพลิดเพลินกับความน่าอัศจรรย์ของมันกันเลยดีกว่า #1 #2 #3 #4 #5 #6 #7 #8 #9 #10 #11 #12 #13 #14 #15 #16 #17 #18 #19…
-
15 เรื่องราวเกี่ยวกับ ‘Jack The Ripper’ ที่พิสูจน์ว่าเขาคือฆาตกรที่แสนโหดเหี้ยมและลึกลับ
[บทความต่อไปนี้อาจมีภาพที่ต้องใช้วิจารณญาณในการรับชม] หากพูดถึงฆาตกรต่อเนื่องที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปไกลทั่วโลก คงจะหนีไม่พ้นกับชื่อของ Jack The Ripper ฆาตกรผู้สังหารคนไปเป็นจำนวนมากในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 สร้างความหวาดผวาให้กับประชาชนในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เป็นอย่างมาก ชื่อเสียงของเขานั้นไม่ได้ขึ้นชื่อแค่ในเรื่องความโหดเหี้ยมอำมหิต แต่ความลึกลับก็ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่โดดเด่นอย่างมาก และวันนี้ #เหมียวตะปู เลยชวนให้เพื่อนๆ มารู้จักกับ 15 เรื่องราวที่น่าสนใจของฆาตกรที่เป็นปริศนาคนนี้กัน มีอะไรบ้าง ลองไปดูกันเลย 1. วันที่ 31 สิงหาคม 1888 มีชายสองคนบังเอิญไปพบร่างของ Mary Ann Nichols เหยื่อคนแรกที่ถูกปาดคอไปหลายต่อหลายครั้ง 2. วันที่ 8 กันยายน 1888 มีชายแก่ไปเจอศพของ Annie Chapman ที่ถูกปาดคอและถูกฆาตกรตัดเอามดลูกของเธอไป เหยื่อรายนี้ทำให้มีการสันนิษฐานว่า ฆาตกรมีความรู้เกี่ยวกับเรื่องของกายวิภาค เมื่อดูจากลักษณะการตัดเอามดลูกของเหยื่อสาวออกไปแล้ว 3. วันที่ 27 กันยายน 1888 ฆาตกรส่งจดหมายมาหาตำรวจ ซึ่งภายหลังรู้จักกันในชื่อ “จดหมายถึงเจ้านายผู้เป็นที่รัก”…
-
คุณลุงเก็บของขวัญวันคริสต์มาสที่ได้จากแฟนเก่า ไว้ที่เดิมและไม่เคยเปิดมันมาตลอด เกือบ 50 ปี
ในช่วงคริสต์มาสที่ผ่านมาหลายคนคงจะได้มอบของขวัญให้กับคนพิเศษ หรือได้รับของขวัญจากใครสักคน แน่นอนว่าทุกครั้งที่เราให้ไป โดยเฉพาะเวลาเราเป็นคนได้รับ เราคงจะอดใจไม่ไหวที่จะแกะของขวัญออกมาดูให้ไวที่สุด แต่กับคุณลุง Adrian Pearce ชาวแคนาดากลับไม่ทำแบบนั้น เขายังคงเก็บของขวัญจากแฟนสาวที่ได้รับเมื่อปี 1970 ไว้อย่างดีโดยไม่ได้แกะมันออกมาดูเลย ซึ่งนับตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงปัจจุบันก็เป็นเวลากว่า 47 ปีแล้วนั่นเอง และแน่นอนว่าการทำแบบนี้นั้นย่อมมีสาเหตุและเรื่องราวตามมาเสมอ แต่ที่น่าแปลกใจคือมันกลับไม่ใช่เรื่องราวดีๆ ของขวัญดังกล่าวที่คุณลุง Adrian ได้มานั้น มันมาจากแฟนสาวที่เขาตั้งใจจะคบอย่างจริงจังเป็นคนแรก ซึ่งเธอมีชื่อว่า Vicki เชื่อไหมว่าวันที่เขาได้รับของขวัญจากเธอ มันคือวันเดียวกับที่เธอตัดสินใจทิ้งเขาไป Adrian ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า “เธอให้ของขวัญผมจากนั้นเธอก็ขอเลิกกับผม ซึ่งผมช็อกมากๆ แต่ผมก็เดินกลับบ้านมาพร้อมกับของขวัญของเธอ ระหว่างทางที่ผมเดินกลับนั้นผมทั้งหัวเสียและโกรธเธอมากๆ แน่นอนว่านั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อมีคนขอเลิกกับคุณ” “วันนั้นเป็นวันคริสต์มาส ซึ่งของขวัญทุกชิ้นในครอบครัวก็จะถูกนำมากองรวมๆ กันและแกะมันออกเพื่อแบ่งปันความสุข แต่จนแล้วจนรอดของขวัญของเธอก็กลายเป็นของขวัญชิ้นสุดท้ายในบ้านผมที่ไม่ได้แกะออกในวันนั้น ผมบอกกับครอบครัวว่าผมจะไม่แกะมันเด็ดขาด” และก็อย่างที่ทราบกันเวลาผ่านไป 47 ปี อย่างรวดเร็ว แต่เขาก็ยังห้ามใจไม่แกะมันได้ ซึ่งในความเป็นจริงเขาเล่าว่าเขาเคยเกือบจะแกะมันหลายต่อหลายครั้งแล้ว โดยเฉพาะตอนที่เขาอ่อนแอ ยิ่งไปกว่านั้นเขายังเล่าว่ามีช่วงหนึ่งน้องสาวของ Vicki เคยติดต่อมาหาเขาด้วย โดยเธอเล่าว่าพี่สาวของเธออยากจะกลับมาคุยกับเขาอีกครั้ง แต่วินาทีนั้น Adrian รู้ว่าเขาไม่อยากกลับไปคบกับเธออีก เพราะเขารู้ได้ว่าเขาน่าจะถูกทิ้งอีกครั้งแน่ๆ ซึ่งตัวเขาไม่อยากรับความรู้สึกแบบนั้นอีกแล้ว… อย่างไรก็ตาม Adrian บอกว่าเขาตื่นเต้นเหมือนกันนะว่ามันคืออะไร…
-
“บ้านแม่มดแห่งซาเล็ม” สิ่งก่อสร้างเดียวที่หลงเหลืออยู่ จากเหตุการณ์ล่าแม่มดในปี 1692
หลายๆ คนคงจะเคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับคดีล่าแม่มดแห่งเมืองซาเล็ม ที่เคยเกิดขึ้นในอเมริกาในปี 1692 ซึ่งโด่งดังมากในยุคสมัยนั้น และในครั้งนี้ #เหมียวขี้อ้อน จะขอพาเพื่อนๆ มารับชม “บ้านแม่มดแห่งซาเล็ม” สิ่งก่อสร้างเดียวที่ยังหลงเหลืออยู่จากเหตุการณ์ล่าแม่มดนั่นเอง สำหรับบ้านหลังนี้ ถือเป็นบ้านที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในเมืองซาเล็ม รัฐแมสซาชูเซตส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ผู้เป็นเจ้าของคือ ผู้พิพากษาจอมแขวนคอนามว่า Jonathan Corwin โดยบ้านหลังดังกล่าวได้ถูกสร้างขึ้นในระหว่างปี 1620 และ 1642 จนกระทั่ง Jonathan ในวัย 35 มาซื้อในปี 1672 ซึ่งเขาก็ได้เป็นผู้ครอบครองบ้านหลังนี้มานานถึง 4 ทศวรรษเลยทีเดียว โดยในช่วงเวลานั้น Jonathan Corwin ได้ทำการพิพากษาคดีล่าแม่มดภายในบ้านหลังนี้ และระหว่างการไต่สวนผู้ถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มด เด็กหญิงหลายคนเกิดอาการเป็นลมหน้ามืดขึ้นมาอย่างรุนแรง ทำให้คนที่เฝ้าดูอยู่ ต่างพากันเชื่อว่านี่คือการกระทำของแม่มด และยิ่งเวลาผ่านไป การกล่าวหาและตามล่าแม่มดก็ยิ่งเข้มข้นขึ้น หลากหลายชีวิตต้องถูกสังเวยจากการไต่สวนที่ไม่เป็นธรรม จนกระทั่งในที่สุดแล้วศาลพิเศษนี้ก็ถูกล้มเลิกไป เนื่องจากการพิจารณาคดีนั้นมีหลักฐานที่ไม่เพียงพอ บ้านแม่มดแห่งซาเล็ม เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมของสถาปัตยกรรมสไตล์นิวอิงแลนด์ ภายในจะประกอบไปด้วยห้อง 2…
-
หนุ่มหายตัวอย่างลึกลับไปเมื่อ 13 ปีก่อน ครอบครัวเชื่อเขาอาจยังมีชีวิตอยู่ในเกาหลีเหนือ
วันที่ 3 กันยายน 2560 เว็บไซต์ Viralnova ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวของ David Sneddon ชายหนุ่มวัย 24 ปี นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยบริคแฮม เขาหายตัวไปอย่างลึกลับตั้งแต่ปี 2004 ภายหลังจากที่เขาได้เดินทางไปทริปมิชชันนารีที่ประเทศเกาหลีใต้ และช่องเขาเสือกระโจน (Tiger Leaping Gorge) ในมณฑลยูนนาน ประเทศจีน อย่างไรก็ตาม David ได้หายตัวไปหลังจากเดินออกจากร้านอาหารเกาหลีในจีน และนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาก็ไม่มีใครพบเจอเขาอีกเลย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ของจีน ก็ได้มีการสันนิษฐานเอาไว้ว่า เขาอาจจะเสียชีวิตไปแล้ว เนื่องจากได้ออกตามหาแต่กลับไม่พบตัวของ David เลย ในขณะที่ทางครอบครัวก็ยังคงเชื่อว่าเขายังคงมีชีวิตอยู่ จากการรายงานระบุว่า David สามารถพูดภาษาเกาหลีได้อย่างคล่องแคล่ว และด้วยเหตุผลนี้จึงทำให้ทางครอบครัวเชื่อว่าเขาอาจจะตกเป็นเป้าหมายที่ถูกลักพาตัวในจีนโดยเจ้าหน้าที่ชาวเกาหลีเหนือ และถูกนำตัวไปยังกรุงเปียงยางในฐานะครูสอนภาษาอังกฤษของ Kim Jong Un ทางด้าน Choi Sung-yong หัวหน้ากลุ่ม Abductees’ Family Union ได้ออกมาเผยว่า…
-
Korowai ชนเผ่าลึกลับในอินโดนีเซีย กับหลักฐานภาพถ่าย ที่ยืนยันการมีตัวตนอยู่บนโลก…
ทุกวันนี้ โลกของเราได้ก้าวหน้าไปมาก เนื่องด้วยมีเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามามีบทบาทในชีวิตมนุษย์มากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกคนที่จะไหลตามไปกับสิ่งต่างๆ เหล่านี้ เพราะยังคงมีการปรากฏตัวของชนเผ่าโบราณ ที่ยังคงปฏิบัติตามธรรมเนียมของบรรพบุรุษ และรักษาตัวตนฉบับดั้งเดิมของพวกเขาเอาไว้ แม้ว่าโลกใบนี้จะเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาแล้วก็ตาม ในขณะที่เรากำลังจมอยู่กับกิจวัตรประจำวันของชีวิตที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยี ความโกลาหน และความวุ่นวาย หลายคนอาจจะนึกไม่ถึงว่า มีชนเผ่าแห่งหนึ่งที่แทบจะไม่รู้จักโลกภายนอก อาศัยอยู่ร่วมกับเราบนโลกใบนี้ด้วย เพราะเมื่อไม่นานมานี้ ทางเว็บไซต์ Labible ได้เปิดเผยภาพถ่ายของ Korowai ชนเผ่าลึกลับจากประเทศอินโดนีเซีย ที่เพิ่งจะได้รับการยืนยันว่าพวกเขามีตัวตนอยู่จริงๆ สำหรับชาว Korowai หรือที่เรียกว่า Kolufo เป็นชนเผ่าที่มีสมาชิกอยู่ทั้งหมดประมาณ 3,000 คน พวกเขาอาศัยอยู่ในบ้านต้นไม้ขนาดยักษ์บนเกาะนิวกินีฝั่งตะวันตก ในประเทศอินโดนีเซีย นอกจากนี้ ทางด้านนักมานุษยวิทยายังได้ออกมาชี้ว่า ชนเผ่าดังกล่าวอาจไม่รู้เลยว่านอกเหนือจากพวกเขาแล้ว จะมีคนอื่นๆ อาศัยอยู่บนโลกใบนี้ด้วย จนกระทั่งพวกเขาก็ได้รับการติดต่อจากบุคคลภายนอกในช่วงปี 1970 จากการรายงานระบุว่า ชนเผ่า Korowai เป็นชนเผ่านักล่าสัตว์ ที่มีทักษะในการล่าสัตว์และการตกปลาที่ดีเยี่ยม นอกเหนือจากนี้ พวกเขายังปลูกผักไว้ทานเองอีกด้วย อย่างไรก็ตาม มีหลักฐานปรากฏให้เห็นว่า Peter…
-
เร่งสืบสาวปริศนา ตระเวนร้องไห้หน้าประตูบ้านคนอื่น ชาวลิเวอร์พูลขวัญผวาไปทั้งบาง…
นอกจากจะไม่ได้แชมป์พรีเมียร์ลีกแล้วล่ะก็ นี่อาจจะเป็นอีกเรื่องที่ทำให้ชาวลิเวอร์พูลขวัญผวามากที่สุด… เรื่องราวประหลาดนี้เกิดขึ้นบนถนนสายเล็กๆ แห่งหนึ่งในเมืองลิเวอร์พูล เมื่อมีหญิงสาวลึกลับคนหนึ่งที่ตระเวนไปเปิดช่องรับจดหมายหน้าประตูบ้านผู้อื่นแล้วร้องไห้ออกมา สร้างความหวาดกลัวให้กับผู้คนละแวกนั้นเป็นอย่างมาก ทางด้านตำรวจได้รับแจ้งจากชาวเมืองจำนวนมาก ว่าพวกเขาถูกหญิงสาวลึกลับคนหนึ่งเปิดช่องรับจดหมายที่ประตูและส่งเสียงเข้ามาในบ้าน ในช่วงเวลาประมาณตี 2 ถึงช่วงตี 5 ของวันที่ 15 กรกฎาคมที่ผ่านมา หนึ่งในผู้ได้รับความเดือดร้อนบอกว่าพวกเขามีความกังวลกับเรื่องนี้มาก เพราะถ้าหากเปิดประตูให้เธอเขามา พวกเขาอาจจะได้รับอันตรายก็ได้ ขณะที่บางคนบอกว่าหญิงสาวลึกลับคนนี้เหมือนกำลังขอร้องอะไรบางอย่างและเธอกำลังต้องการที่ปลอดภัย “มีใครบางคนมาเคาะที่ประตูบ้านฉัน และฉันก็ไม่ได้สนใจ แต่เมื่อตื่นมาฉันกลับพบว่าประตูหลังบ้านถูกเปิดออกอีกด้วย” คุณ Bec Edmunds ชาวเมืองผู้หนึ่งกล่าว “ผู้หญิงที่อยู๋ตรงข้ามบ้านนี้ก็โดนเหมือนกัน เธอบอกว่ามีหญิงสาวมาร้องไห้หน้าบ้านและบอกว่าเธอไม่มีเงิน มันเป็นเรื่องที่น่ากลัวมาก ฉันรู้สึกเหมือนว่าเธอเดินเข้ามาในบ้านและเดินออกทางประตูหลัง” คุณ Bec Edmunds กล่าวเสริม นอกจากนี้ยังมีหญิงสาวอีกคนที่เจอเรื่องประหลาดนี้เช่นกัน เธอเล่าเรื่องดังกล่าวผ่านทางเฟซบุ๊กของเธอว่า “ตอนประมาณตี 2 ของวันศุกร์ ฉันได้ยินเสียงประหลาดที่หน้าประตู ฉันกลัวมากและไม่กล้าลงไปดูเลย” เมื่อสอบถามไปทางคุณตำรวจจากสถานี Merseyside กล่าวว่า “เราได้รับโทรศัพท์จากหญิงสาวผู้หนึ่งบอกว่าแม่ของเธอที่อาศัยอยู่ในเมือง Kirkby ได้ยินเสียงแปลกๆ ในช่วงเช้าตรู่ หญิงสาวเจ้าของเสียงประหลาดนั้น บอกกับแม่ของเธอว่า ช่วยฉันด้วย ให้ฉันเข้าไปหน่อย!! แต่แม่ของเธอก็ไม่ได้เปิดให้หญฺิงคนดังกล่าวเข้ามา”…
-
ช่างภาพบังเอิญเจอ “บ้านร้างลึกลับ” ที่ภายในยังดูหรูหรา ราวกับว่าจู่ๆ เจ้าของก็หายไป!!?
เรื่องราวสุดลึกลับ เมื่อช่างภาพคนหนึ่งผู้ใช้ชื่อว่า Vacant Photography ได้บังเอฺิญไปเจอเข้ากับบ้านร้างหลังหนึ่งที่สภาพข้างนอกก็ดูโทรมเหมือนบ้านร้างทั่วไป แต่พอเขาเข้าไปทุกอย่างกลับทำให้ช่างภาพคนนี้ต้องตะลึง!!? Vacant ได้บอกว่าเขาเจอบ้านหลังนี้ที่เขตชนบทแห่งหนึ่งในประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเมื่อเข้าไปสำรวจตัวบ้าน เขาก็พบว่าภายในมันดูดีเกินกว่าจะเป็นบ้านร้างธรรมดาๆ ข้างในก็ดูดีจริงๆ นะ พอเขาเห็นแบบนี้ เขาจึงได้ไปสอบถามและขุดคุ้ยหาประวัติของตัวบ้าน แต่ว่าหาเท่าไหร่ก็ไม่เจอสักที ยิ่งแบ่งปันเรื่องนี้ให้กับชาวเน็ตผ่านเพจของเขา ก็ไม่มีใครหาเจอ… ตัวบ้านทั้งหลังนั้นยังอยู่ในสภาพที่หลายจุดดูดีมากๆ ราวกับว่าเพิ่งจะมีคนใช้ไม่นานและราวกับว่าอยู่ดีๆ คนที่อาศัยอยู่ก็หายตัวไปซะอย่างนั้น ไม่เชื่อลองมาดูกัน… ห้องนั่งเล่นที่ดูหรูหราและสีก็ยังสดอยู่พอสมควร ห้องครัวที่ข้าวของเครื่องใช้ยังอยู่ดี ห้องนอนที่ให้ความรู้สึกเหมือนมีคนเพิ่งนั่งอยู่ตรงเก้าอี้ตัวนั้น ห้องนอนอีกห้องที่ราวกับว่าคนกำลังจัดของ แต่อยู่ดีๆ เขาก็หายตัวไปกระทันหัน บันไดที่ดูผุพังและดูแล้วยังใช้งานได้ดี ห้องน้ำที่ยังดูสะอาดสะอ้านพอสมควร และยังมีรองเท้าที่วางไว้เพื่อยืนยันอีกว่าอยู่ดีๆ พวกเขาก็หายไป . ยิ่งภาพนี้ยิ่งดูใหม่สุดๆ ดูบริเวณห้องครัวชัดๆ กันอีกสักที ห้องครัวอีกห้องหนึ่ง ดูดีไม่แพ้กัน . . บันไดอีกจุดชั้นหนึ่งที่ดูดียิ่งกว่าอันก่อนเสียอีก . พอดูๆ…
-
พบกับ “ห้องสมุดแห่งความลับ” สถานที่อ่านหนังสืออันเงียบสงบ สวรรค์ชั้น 7 ของนักอ่าน
โดยปกติแล้ว เวลาที่เราจะหาสถานที่ในการพักผ่อนหย่อนใจ หรืออ่านหนังสือ แน่นอนว่าคนส่วนใหญ่คงต้องการสถานที่ที่เงียบสงบ ยิ่งถ้าอยู่กลางป่าแถมมีบรรยากาศดีๆ คงต้องร้องดังๆ ว่า โอ้โห!! นี่มันสวรรค์ชัดๆ เลย และสถานที่เหล่านั้น มันอาจไม่ได้อยู่ในจินตนาการของเราเสมอไป เพราะในโลกแห่งความเป็นจริงมีสถานที่เหล่านั้นอยู่ด้วยนะ และนี่คือ ห้องสมุดที่ตั้งอยู่กลางป่า สร้างขึ้นมาเพื่อเอาใจคนรักสงบโดยเฉพาะ สำหรับห้องสมุดอันเงียบสงบแห่งนี้ ตั้งอยู่ในนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ถูกออกแบบขึ้นมาโดยบริษัท US firm Studio Padron โดยมีชื่อว่า “The Hemmelig Rom” ซึ่งในภาษานอร์เวย์แปลว่า “ห้องแห่งความลับ” นั่นเอง ใครที่ต้องการสถานที่อันเงียบสงบในการอ่านหนังสือ บอกเลยว่าห้องสมุดแห่งนี้สามารถตอบโจทย์ให้คุณได้ เพราะนอกจากจะเงียบสงบแล้ว บรรยากาศนั่งน่ารื่นรมย์ เหมาะแก่การอ่านหนังสือ และจิบกาแฟเบาๆ ไปพร้อมกัน ในขณะที่ภายในถูกสร้างขึ้นมาให้ดูอบอุ่น ในทางกลับกันโครงสร้างภายนอกกลับถูกออกแบบขึ้นมาให้มีลักษณะคล้ายกับกล่องธรรมดาๆ สร้างโดยใช้ไม้โอ๊ค ซึ่งจะมีเพียงหน้าต่าง 2 บานใหญ่ และประตูเท่านั้น แต่บอกเลยว่ามันดูทันสมัย และเรียบง่ายเป็นอย่างมาก เรียกได้ว่าเป็นห้องสมุดที่สร้างขึ้นมาได้อย่างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากจริงๆ…
-
พาชมป่า Crooked ในโปแลนด์ ต้นไม้โค้งหน้าตาประหลาด และทฤษฎีที่อาจเป็นไปได้
โลกของเรายังคงมีสิ่งที่วิทยาศาสตร์ให้คำตอบไม่ได้อยู่มากมาย และครั้งนี้ #เหมียวหง่าว ก็จะพาทุกท่านไปพบกับป่าแห่งหนึ่งในประเทศโปแลนด์ ซึ่งป่าแห่งนี้มีต้นไม้ที่มีรูปร่างประหลาดแตกต่างจากต้นไม้ทั่วๆ ไปที่เราเคยรู้จัก ความจริงแล้วต้นไม้ชนิดนี้คือต้นสนที่ขึ้นอยู่ในป่าบริเวณ West Pomerania ทางตะวันตกเฉียงเหนือของโปแลนด์ แต่ด้วยความประหลาดที่ว่าลำต้นมีลักษณะบิดงอ ก่อนที่ยาวขึ้นไป ทำให้เป็นที่สนใจต่อผู้คนจำนวนมาก เพราะมันมีมากถึง 400 ต้นที่เป็นแบบนี้ เดิมทีต้นไม้พวกนี้ถูกปลูกมาตั้งแต่ปี 1930 โดยที่มันมีลักษณะเมื่อพ้นจากพื้นดินแล้ว ลำต้นจะหักเป็นมุม 90 องศา ก่อนที่จะโค้งขึ้นไปข้างบนเป็นต้นไม้ปกติ ถือเป็นความแปลกจากธรรมชาติที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน ตอนนี้ก็ยังไม่มีใครสามารถอธิบายได้ว่าต้นไม้เหล่านี้ทำไมมันถึงมีรูปร่างประหลาด ซึ่งหลายคนก็ต่างตั้งสมมติฐานไปต่างๆ นานา ทฤษฎีแรกคิดว่าต้นสนเหล่านี้ ได้รับความเสียหายจากรถถังในช่วงสงครามโลก โดยคาดว่าบริเวณนี้เป็นเส้นทางผ่านของรถถังมาก่อน ซึ่งเจ้าต้นสนที่ยังเป็นต้นอ่อนอยู่อาจจะถูกทับให้จมลงไปในดิน และค่อยๆ เติบโตขึ้นมาอีกครั้งจนทำให้มีรูปร่างแบบที่เห็นในปัจจุบัน นักวิทยาศาสตร์หลายๆ คนก็มีความเห็นไปในทิศทางเดียวกันนี้ บ้างก็เปลี่ยนจากถูกรถถังทับ เป็นโดนหิมะทับแทน ทฤษฎีต่อมาเป็นทฤษฎีที่ไม่ค่อยน่าเชื่อถือเท่าไหร่นัก เพราะเชื่อว่าพื้นที่ตรงนี้เป็นจุดที่มีแรงดึงดูดสูง จนทำให้ต้นไม้มีลักษณะแบบที่เห็น บ้างก็คิดว่าเป็นฝีมือของสิ่งมีชีวิตจากนอกโลก!? ทฤษฎีสุดท้ายที่น่าจะมีความเป็นไปได้มากที่สุด โดยเชื่อว่าเป็นฝีมือของช่างตัดไม้ในท้องถิ่น ที่เป็นคนจัดการให้ต้นไม้เติบโตขึ้นมามีลักษณะโค้งงอตอนที่ยังเป็นต้นอ่อน…
-
เผยภาพถ่ายชนเผ่าผู้ห่างไกล ปฏิเสธโลกภายนอกสิ้นเชิง พร้อมจะปลิดชีพได้ทุกเมื่อ!!
ในยุคที่โลกของเราเต็มไปด้วยเทคโนโลยีอันล้ำสมัยแบบนี้ แทบไม่น่าเชื่อว่าจะยังหลงเหลืออารยธรรมของชนเผ่าหนึ่ง ผู้ซึ่งปฏิเสธความศิวิไลซ์จากโลกภายนอก Sentinelese คือชนเผ่าดั้งเดิมที่อาศัยอยู่กับธรรมชาติอย่างสันโดษ บนหมู่เกาะ North Sentinel คาบมหาสมุทรอินเดีย และไม่ว่าใครก็ตามที่พยายามจะเข้าไปสำรวจเกาะแห่งนี้ มักจะถูกพวกเขาโจมตีขับไล่ออกมาตลอด! ภาพฟุตเทจจากทีมที่พยายามเข้าไปสำรวจ แต่ไม่สำเร็จ อ้างอิงข้อมูลจาก LoveBiteProduction คาดว่าชนเผ่าดังกล่าว อาจเป็นมนุษย์ที่สืบเชื้อสายโดยตรงจากชนเผ่าดั้งเดิมในแอฟริกา ซึ่งพวกเขาอยู่อาศัยบนเกาะนี้มาแล้วกว่า 60,000 ปี พื้นที่ทั้งหมดของเกาะมีขนาดเท่ากับเกาะแมนฮัตตัน แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่มีทีมสำรวจใด จะสามารถบอกจำนวนประชากรจากชนเผ่านี้ได้อย่างแน่ชัด ซึ่งปัจจุบันคาดว่าน่าจะอยู่ที่ราวๆ 40 – 500 คน ‘ไม่สำคัญว่าคุณจะมาผูกมิตร หรือเป็นศัตรู เพราะพวกเขาจะต้อนรับคุณด้วยลูกธนู และหอก นับไม่ถ้วน’ ทีมสำรวจกล่าว ภาพของเด็ก และผู้ใหญ่ จากฟุตเทจของทีมสำรวจ ย้อนกลับไปเมื่อปี 2004 เกิดสึนามิขึ้นเป็นวงกว้างในแถบมหาสมุทรอินเดีย รัฐบาลอินเดียได้ส่งทีมกู้ภัยเข้ามาช่วยเหลือชนเผ่า Sentinelese แต่พวกเขากลับถูกต้อนรับด้วยลูกธนูแทน ภาพชนเผ่ากำลังยิงธนูใส่เฮลิคอปเตอร์ ที่เข้ามาช่วยเหลือจากรัฐบาลอินเดีย บริเวณที่ตั้งของหมู่เกาะดังกล่าว เมื่อปี 1967 รัฐบาลอินเดียเคยพยามที่จะสร้างสัมพันธไมตรีกับชนเผ่านี้…
-
เรื่องราวของ ‘ประตูนางฟ้า’ ในตำนาน ที่โผล่ขึ้นมาทั่วเมือง Ann Bor อย่างปริศนา
เมือง Ann Arbor ที่ตั้งอยู่ในรัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกานั้นถือได้ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่แปลกกว่าที่อื่นๆ และน่าสนใจไม่น้อย เท่านั้นยังไม่พอ ที่แห่งนี้ยังมีเรื่องราวเร้นลับที่ดูน่าค้นหา ปรากฏให้เห็นอยู่ทั่วเมืองเป็นที่รู้จักกันดีว่าคือ ‘ประตูนางฟ้า’ Jonathan B. Wright ชายผู้ทำการศึกษาเกี่ยวกับเบื้องหลังของประตูนางฟ้าเหล่านี้ เป็นคนพบมันครั้งแรกเมื่อปี 1993 ที่จู่ๆ ก็โผล่มาที่บ้านของเขา คุณ Jonathan เล่าว่า “ข้างหลังประตูเล็กนี้ยังมีบันไดที่เชื่อมขึ้นไปสู่ประตูอีกบานด้วย และมันจะล็อคทุกครั้งที่ผมเข้าไปทำการตรวจสอบ” จนมาถึงในช่วงปี 2005 ประตูนางฟ้าก็โผล่ขึ้นมาอีกครั้งในร้านคอฟฟี่ช็อปแห่งหนึ่งชื่อว่า ร้าน Sweetwaters Coffee and Tea จากนั้นไม่นานประตูนางฟ้าก็ค่อยๆ ปรากฏขึ้นทั่วเมืองเต็มไปหมด ไม่มีใครทราบที่มาที่ไปว่าประตูเหล่านั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร จนมาถึงปัจจุบัน เราสามารถพบประตูนางฟ้าได้ทั่วเมือง Ann Arbor ตั้งแต่คอนเสิร์ตฮอลล์ ร้านเฟอร์นิเจอร์ กิ๊ฟต์ช็อป รวมไปถึงพิพิธภัณฑ์ศิลปะ คุณ Jonathan จึงตัดสินใจที่จะเขียนหนังสือเกี่ยวกับเจ้าประตูนางฟ้าเหล่านี้ขึ้นมา โดยใช้ชื่อว่า ‘Who’s Behind the…
-
ตากล้องบังเอิญค้นพบ “ชนเผ่าลึกลับ” เผ่าใหม่ กลางป่าอเมซอน ที่ไม่เคยมีใครเห็นมาก่อน..
แม้ว่าโลกของเราจะพัฒนาไปมากทั้งทางด้านเทคโนโลยีและวัฒนธรรม แต่ดูเหมือนว่ายังมีชนเผ่าลึกลับอีกมากมาย ใช้ชีวิตอยู่ดินแดนที่มนุษย์ไม่เคยเข้าไปย่างกราย และหลายๆ ชนเผ่านั้น ยังคงใช้ชีวิตเหมือนที่บรรพบุรษของพวกเขาเคยใช้เมื่อหลายพันหรือหลายหมื่นปีก่อน อย่างเช่นล่าสุด ตากล้องชาวบราซิล Ricardo Stuckert ได้สร้างความตื่นตะลึงให้กับโลก หลังสามารถเก็บภาพชนเผ่าลึกลับในป่าอเมซอน ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในไม่กี่ชนเผ่าบนโลก ที่ยังไม่เคยมีการติดต่อกับโลกภายนอก ภาพชนเผ่าที่เขาถ่ายภาพได้นี้ ยังไม่มีการตั้งชื่อ เพราะไม่ได้มีการสำรวจในพื้นที่ตรงจุดนี้มาก่อน Ricardo เล่าว่าเขากำลังเดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์เพื่อไปยังชนเผ่าชนเผ่าหนึ่งทางตะวันตกเฉียงเหนือของรัฐอากรี ประเทศบราซิล แต่บังเอิญเกิดฝนฟ้าคะนอง ทำให้พวกเขาต้องเปลี่ยนเส้นทางการบินหลบพายุแบบฉับพลัน และขณะที่บินอยู่นั้นเอง พวกเขาก็สังเกตเห็นถิ่นที่อยู่ของชนเผ่านี้ บริเวณป่าอะเมซอนของประเทศบราซิล เปรู โบลิเวีย และโคลัมเบีย คาดว่าจะมีชนเผ่าลักษณะนี้อยู่มากกว่า 100 เผ่า เมื่อชนเผ่าดังกล่าวเห็นเฮลิค็อปเตอร์บินต่ำลงมา พวกเขาก็พยายามจับอาวุธเช่น ธนู หอก และมีดขึ้นมาโจมตี แต่แน่นอนว่าอาวุธโบราณเหล่านั้น ย่อมไม่อาจทำอันตรายนกเหล็กยักษ์ที่บินอยู่บนท้องฟ้าได้ “แค่ลองนึกดูว่าในศตวรรษที่ 21 แบบนี้ ยังมีผู้คนที่ไม่เคยติดต่อกับโลกภายนอก และยังคงใช้ชีวิตเหมือนบรรพบุรุษเมื่อ 20,000 ปีก่อน มันช่างเป็นเรื่องที่น่าตกใจและน่าตื่นเต้นมากจริงๆ” Ricardo กล่าว ไม่มีใครทราบว่าพวกเขาพูดภาษาอะไร…
-
ชาวเน็ตร่วมกันแชร์ 15 สิ่งของ ‘แปลกประหลาดชวนหลอน’ ที่ค้นพบภายในบ้านพวกเขาเอง…
ในวัยเด็ก หลายๆ คนมักจะเกิดอาการหวาดกลัวห้องใต้หลังคาหรือห้องใต้ดิน นั่นก็เพราะว่ามันเป็นพื้นที่ที่เราไม่คุ้นเคย ทั้งมืดและอับ และยิ่งหากเราเจอกับสิ่งของประหลาดๆ เข้า ความมืดก็กลายเป็นเรื่องเด็กๆ ไปเลย ชาวเน็ตในเว็บบอรืดออนไลน์ชื่อดัง Reddit ได้ช่วยกันแชร์ภาพของแปลกๆ ที่พวกเค้าไม่คิดว่าจะไปเจอในบ้านของตัวเอง ซึ่งตกทอดมาจากเจ้าของเก่า หรืออาจจะมีใครมาลืมไว้โดยไม่ได้ตั้งใจ จินตนาการไม่ออกเลยว่าผู้อยู่อาศัยคนก่อนเป็นคนยังไงกันแน่? 1. ตุ๊กตาที่ผุพังไปตามกาลเวลา หน้าตาน่ากลัวอะไรขนาดนี้ 2. ดูไม่ออกเลยว่ามันเคยเป็นตัวอะไรมาก่อน 3. ชุดยมทูต!? 4. อันนี้คงจะน่ากลัวที่สุดแล้ว เพราะมันคือ รังตัวต่อยักษ์ โดนรุมต่อยถึงขั้นตายได้ 5. หนังสือการ์ตูนของ Marvel ที่มีพระสันตะปาปาเป็นตัวละครหลัก!? 6. Cocaine Hydrochloride (โคเคนสมัยก่อน) 7. ต้นฉบับสงสัยว่านี่เป็นตราประทับนาซีเหรอ!? 8. ภาพเด็กทารกสุดหลอน 9. ซากนกตาย 10. หุ่นประหลาดรูปร่างน่ากลัว 11. อาวุธปืน…
-
6 สถานที่ลึกลับบนโลกที่ไม่สามารถสอดส่องผ่าน Google Earth ได้ เราไม่ดีพอหรือเธอไม่ชัดเจน!?
เทคโนโลยีสมัยใหม่ก้าวหน้ามากขึ้น ตั้งแต่การทำแผนที่บนอินเทอร์เน็ต การฉายภาพพื้นผิวโลกที่ถูกถ่ายจากดาวเทียมบนอวกาศ ทำให้เราสามารถเดินทางไปดูสถานที่ต่างๆ บนโลกได้จากหน้าจอคอมพิวเตอร์เพียงแค่ใช้ปลายนิ้วสัมผัส อยากจะไปดู 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ก็ค้นหาได้ทันที หรือจะเป็นต่างประเทศที่เราใฝ่ฝันว่าซักวันหนึ่งจะเดินทางไปชมที่นั่นด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนก็ตามเราสามารถสอดส่องได้ทุกที่ แต่มันก็ไม่ใช่เสมอไป เพราะบางสถานที่ก็ถูกปิดบังเอาไว้ เก็บงำความลับอะไรบางอย่างอยู่ เช่น 8 สถานที่ดังต่อไปนี้ที่ถูกเบลอภาพและซ่อนเอาไว้บน Google Earth Pacific Northwest, USA HAARP (High Frequency Active Auroral Research Program) ตั้งอยู่ในบริเวณใกล้ๆ กับชายแดนของรัฐ Washington-Oregon เป็นสถาบันวิจัยเกี่ยวกับการควบคุมพลังงานบนชั้นบรรยากาศไอโอโนสเฟียร์ ซึ่งถูกสั่งปิดโดยกองทัพอากาศของสหรัฐฯ ตั้งแต่ปี 2014 เป็นต้นมา ว่ากันว่าที่นี่ทำการวิจัยเพื่อควบคุมสภาพอากาศและปรากฏการณ์ธรรมชาติ บางคนก็ว่าเป็นสถานีทดลองจานบิน UFO เมืองลึกลับในประเทศรัสเซีย หากลองเข้าไปดูลึกๆ ภายในความหนาวเหน็บของแถบไซบีเรียก็จะพบว่ามีสถานที่แห่งหนึ่งถูกเบลอภาพเอาไว้ใน Google Earth และไม่มีใครรู้เลยว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ หลายๆ คนก็คิดว่าน่าจะเป็นเมืองที่ใช้เป็นสถานที่ตั้งของค่ายทหารเพื่อใช้ในการทดลองและวิจัยอาวุธ ซึ่งต้องใช้พื้นที่และความเป็นอิสระสูงพอตัว…
-
สาวกมนุษย์ต่างดาวฮือฮา เมื่อ CIA โพสต์ทวีตภาพยานบินลึกลับ ที่ถูกถ่ายได้ในปี 1952 !!!
เรื่องนี้ก็เป็นข่าวใหญ่ของวงการ UFO และแฟนๆ ของเหล่าผู้ที่ชื่นชอบเรื่องราวลี้ลับจากนอกโลกเลยทีเดียว เมื่อองค์กร CIA แห่งประเทศสหรัฐอเมริกาได้เปิดเผยภาพที่พวกเขาอ้างว่าเป็นของ UFO และผู้มาเยือนจากนอกโลก!!! จากการรายงานของสำนักข่าวเมโทรประเทศอังกฤษ ภาพที่ว่าถูกถ่ายไว้เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม ย้อนกลับไปในปี 1952 เลยทีเดียว จนถึงกระทั่งตอนนี้ก็ยังไม่สามารถอธิบายสิ่งที่อยู่ในภาพได้ และทาง CIA ก็ชี้แจงว่ายังคงจะมีมาตรการเฝ้าระวังในเรื่องนี้ต่อไป… ภาพดังกล่าว แถมทาง CIA ยังได้กล่าวอีกว่า ‘เราเชื่อว่าภาพและข้อมูลที่เรานำมาเปิดเผยเหล่านี้ คงจะเป็นที่สนใจแก่กลุ่มคนหลายๆ ฝ่ายอย่างแน่นอน’ แถมยังมีการพูดถึงเรื่องนี้ในทวิตเตอร์ของหน่วยงานด้วย #CIA Web Site Now Talking About #UFO‘s – YouTube https://t.co/k1RoLvJA24 — Lee (@leewright42) 25 มกราคม 2016 ทวีตรูปภาพต้นทาง Take…
-
ชมประติมากรรม ‘หญิงเปลือยกาย’ ที่สร้างจากดินกว่า 1.5 ล้านตัน ดูสวยงามและมีมิติเป็นอย่างมาก
การสร้างผลงานประติมากรรมขึ้นมาสักชิ้น จะต้องมีความหมาย มีที่มาที่ไป และมีความสนใจน่าค้นหา ซึ่งเพื่อนๆ ก็คงจะเคยเห็นผลงานประติมากรรมสวยๆ มาแล้วมากมาย ในวันนี้เราก็จะพาเพื่อนๆ มาชมผลงานประติมากรรมสุดอลังการงานสร้าง ที่ถูกเนรมิตขึ้นมาโดยศิลปินภูมิทัศน์ชาวอเมริกันนามว่า Charles Jencks นั่นเอง และภาพที่กำลังได้รับชมกันนี้ เรียกได้ว่าเป็นผลงานศิลปะขนาดใหญ่ ที่มีลักษณะเป็นรูป ‘หญิงเปลือยกาย’ ซึ่งตั้งอยู่ในเมือง Cramlington ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศอังกฤษ ซึ่งงานศิลปะหญิงเปลือยกายนี้ เพื่อนๆ รู้หรือไม่ว่ามันทำมาจากหิน และดินกว่า 1.5 ล้านตัน ซึ่งเป็นดินเหลือทิ้งจากเหมือง เพราะในสมัยก่อนเมืองแห่งนี้เคยเป็นเหมืองถ่านหินมาก่อนยังไงละ นอกจากนี้มันยังมีความสูงกว่า 100 ฟุต และยาวกว่า 1 ใน 4 ไมล์เลยทีเดียว ถ้าหากเพื่อนๆ ลองมองจากมุมมองด้านบน ก็จะเห็นเป็นรูปผู้หญิงกำลังนอนได้อย่างชัดเจน กว่าจะออกมาเป็นงานประติมากรรมสุดอลังการงานสร้างนี้ ศิลปินต้องใช้เวลาในการก่อสร้างนานถึง 2 ปีเลยทีเดียว และในตอนนี้มันก็ได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ที่ขึ้นชื่อว่าเป็น ‘ประติมากรรมมนุษย์จากดินที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก’ ไปแล้ว…
-
หลุดภาพถ่ายของมนุษย์แพะ ชาวเน็ตต่างถกเถียงกัน เป็นแค่เรื่องหลอกหรือมีอยู่จริง!?
ในความเป็นไปได้ในโลกของความเป็นจริง จากตำนานเรื่องเล่าลึกลับต่างๆ ในอดีต โอกาสที่จะเกิดขึ้นหรือพบเจอจริงๆ นั้นถือว่ามีน้อยมากๆ แต่ในเรื่องของสัตว์ประหลาดที่มีร่างกายเป็นครึ่งมนุษย์ ครึ่งสัตว์มีความเป็นไปได้อยู่บ้าง (รึเปล่า) เรื่องเล่าที่สืบต่อกันมาในอเมริกา กับตำนานของ ‘มนุษย์แพะ’ สัตว์ประหลาดครึ่งคน ครึ่งแพะเป็นที่ล่ำลือกันมานานมากๆ ตั้งแต่ในช่วงปีค.ศ. 1957 เป็นต้นมา อาศัยอยู่ในป่าลึกห่างไกลผู้คนและมักจะปรากฏกายในช่วงกลางคืน เดินด้วยสองเท้าเหมือนมนุษย์ และเดินสี่เท้าเหมือนแพะ มีเขาและขนปกคลุมร่างกาย การค้นพบครั้งแรกนั้นเกิดขึ้นในรัฐ Maryland แต่ก็ไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นมนุษย์แพะจริงๆ หรือไม่ เพราะหลักฐานภาพถ่ายที่ได้มานั้นเบลอจนแทบมองไม่ออก โดยสุดท้ายแล้วความเป็นไปได้ก็คือการกลั่นแกล้งใส่ชุดเป็นมนุษย์แพะ ไม่น่าจะต้องใส่ใจอะไรมาก แต่สำหรับบางคนกลับจริงจังกับเรื่องแบบนี้ Nathan Couch นักล่าท้าผี ก็ได้ทำการเขียนหนังสือ Goatman: Flesh or Folklore? (มนุษย์แพะ: มีจริงหรือแค่นิทาน?) เขาได้ทำการสืบค้นและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับมนุษย์แพะที่มีตำนานมาร่วมกว่า 60 ปี ซึ่งก็กล่าวกันว่ามนุษย์แพะนั้นเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็ว ปรากฏตัวในหลายๆ รัฐด้วย จนกระทั่งมีการพบเห็นมนุษย์แพะในเวลากลางวันแสกๆ ใกล้ๆ บริเวณภูเขา Wasatch…
-
มีจริงหรือหลอกลวง!? ตำนานหลอนหมายเลข 666 บน YouTube มีแต่ภาพแหวะๆ กับเลข 6
มันเป็นเรื่องที่กล่าวขานกันมาอย่างยาวนานกับตำนานของผู้ใช้ที่ชื่อว่า 666 หมายเลขแห่งปีศาจซาตาน จากเว็บไซต์วิดีโอชื่อดังอย่าง YouTube ในสมัยก่อนนู้น ในช่วงที่ Google กำลังจะกลายมาเป็นเจ้าของเว็บไซต์ดังกล่าว โดยต้นกำเนิดของเรื่องชวนขนลุกปนสยองสู่สายตานี้มันเกิดขึ้นเมื่อปีค.ศ. 2006 เมื่อมีการเล่าแบบปากต่อปากว่า หากคุณค้นหาช่อง 666 หรือผู้ใช้ 666 นี้ จะพบกับความว่างเปล่า บัญชีนี้ถูกระงับ แต่ถ้าหากว่าลองรีเฟรชหน้านั้นเรื่อยๆ ความสยองก็จะปรากฏอยู่ตรงหน้า ตัวอักษรทุกตัวจะกลายเป็นเลข 6 และแชแนลลึกลับจะเผยตัวออกมา พร้อมกับวิดีโอชวนแหวะ หน้าจอก็จะกลายเป็นสีเลือด อีกทั้งเมื่อทำการรับชมวิดีโอภายในแชแนลนี้แล้ว จะไม่มีทางสามารถหยุดได้เลย ปิดก็ไม่ได้ วิดีโอจะเล่นอย่างต่อเนื่อง มีแต่เลือดสีแดงพร้อมกับท่วงทำนองเพลงประหลาดๆ ราวกับว่าโดนไวรัสหรือโดนแฮกยังไงยังงั้นเลย แถมด้วยสมัยนั้นยังมีเพียงแค่ Internet Explorer สุดอืดอาดและความปลอดภัยต่ำให้ใช้ จนในที่สุดก็ต้องกดปุ่มชัตดาวน์ปิดเครื่องไป สืบเนื่องจากความลึกลับแบบนี้ คาดว่าเป็นการกระทำของศิลปินทัศนศิลป์ชาวญี่ปุ่นที่ชื่อว่า Piropito หรืออีกชื่อหนึ่งใน YouTube – nana825763 โดยวิดีโอที่จัดทำขึ้นมานั้นเป็นภาพยนตร์รูปแบบ Flash สำหรับเทศกาลภาพยนตร์ (ในสมัยนี้เป็นยุครุ่งเรืองของ Flash…