Tag: ลูกตาย
-
พ่อแม่ปล่อยให้ลูก ‘เสียชีวิต’ ทั้งๆ ที่ช่วยเหลือได้ เพราะความเชื่อทางศาสนาผ่านเฟซบุ๊ก
เรื่องของ ‘ความเชื่อ’ เป็นเรื่องส่วนบุคคล และมันสามารถส่งผลกระทบของชีวิตเราได้มากมายเลยทีเดียว เช่นเดียวกันกับเรื่องราวต่อไปนี้ ที่พ่อแม่ยอมปล่อยให้ลูกวัย 10 เดือนเสียชีวิตจากการขาดสารอาหาร และน้ำ เพราะความเชื่อทางศาสนาของตนเอง!! เรื่องมีอยู่ว่านาย Seth Welch และภรรยา Tatiana Fusari ทั้งสองคนอายุ 27 ปี อาศัยอยู่ในเมือง Solon Township เขต Kent County รัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา รายงานระบุว่าทั้งคู่เป็นคนที่เคร่งครัดในหลักคำสอนของศาสนาคริสต์รูปแบบหนึ่ง ซึ่งพวกเขาติดตามผ่านเฟซบุ๊ก และนั่นเองเป็นเหตุที่ทำให้ลูกของพวกเขาต้องเสียชีวิตอย่างน่าเศร้า เนื่องจากว่าก่อนหน้านี้หนูน้อย Mary ลูกสาววัย 10 เดือนของพวกเขามีอาการป่วย แทนที่ทั้งคู่จะพาไปหาหมอ แต่กลับไม่ทำอย่างนั้น ทั้งคู่สังเกตเห็นว่าร่างกายของหนู Mary นั้นซูบผอมลง แต่ก็ไม่ยอมพาลูกไปรักษา เพราะกลัวว่าจะมีการติดต่อหน่วยงานคุ้มครองเด็ก นอกจากนี้ทั้งคู่ยังไม่ยอมรับและไม่เชื่อมั่นในการรักษาทางการแพทย์แผนปัจจุบัน สุดท้าย Mary ก็เสียชีวิตในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการจับกุมสองสามีภรรยาในข้อหาทารุณกรรมเด็กจนถึงแก่ความตาย ภาพของหนูน้อย Mary ก่อนหน้านี้ฝ่ายสามีได้ทำการโพสต์เฟซบุ๊กในวันที่ลูกของตัวเองตายว่า…
-
แม่วาฬเพชฌฆาตอุ้ม ‘ซากลูก’ ของมันนานถึง 7 วัน ราวกับเศร้าใจที่เสียลูกไป
สัตว์โลกทั้งหลายนั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่าพิศวงยิ่งนัก เพราะมันไม่สามารถสื่อสารกับมนุษย์อย่างเราๆ ให้เข้าใจได้… เช่นเดียวกันกับเรื่องราวต่อไปนี้ ที่แม่วาฬเพชฌฆาตอุ้มซากลูกของมันเป็นเวลานานกว่า 7 วัน หลังจากที่เสียชีวิตจากการคลอด ทางด้านผู้เชี่ยวชาญจากพิพิธภันฑ์วาฬในเกาะ San Juan ได้ทำการติดตามและเฝ้าดูพฤติกรรมของเจ้าวาฬตัวนี้ที่รู้จักกันในชื่อ J35 ตั้งแต่วันที่ลูกของมันเสียชีวิต ผู้บอำนวยการพิพิธภัณฑ์ Jenny Atkinson เล่าว่ามันอุ้มซากลูกของมันเป็นเวลานานกว่า 7 วันไม่ยอมห่างไปไหน ราวกับว่ามีอาการเศร้าโศกเสียใจกับการสูญเสียที่เกิดขึ้น หลังจากที่พบกับเหตุการณ์อันน่าสลดใจเจ้าแม่วาฬเพชฌฆาตก็โผล่หัวขึ้นมาเหนือน้ำทะเลแล้วก็ใช้หน้าผากดันซากลูกของมันไม่ให้จมลงสู่ก้นทะเลว่ายวนไปเรื่อยๆ ในอ่าววิคตอเรีย รัฐบริติชโคลัมเบีย ประเทศแคนาดา อย่างไรก็ตามมีการศึกษาจากองค์กรไม่หวังผลกำไรระบุเอาไว้ว่าวาฬ หรือโลมา จะเฝ้าซากของวาฬหรือโลมาที่ตายแล้ว เพื่อไม่ให้ตกเป็นอาหารของเหล่านักล่า แต่อย่างไรก็ตามมันจะเฝ้าเอาไว้เป็นเวลาแค่ไม่กี่วันเท่านั้น แต่สำหรับแม่วาฬเพชฌฆาตตัวนี้ กลับใช้เวลานานมากที่สุด ถ้าให้เราคิด (เอาเอง) ก็อาจจะเป็นเพราะมันกำลังเสียใจที่ลูกของมันเสียชีวิตไปแล้วก็ได้ จากข้อมูลพบว่าปัจจุบันเหล่าวาฬเพชฌฆาตกำลังประสบกับปัญหา ‘ใกล้สูญพันธุ์’ เข้าไปทุกที จนประเทศสหรัฐอเมริกาและแคนาดาประกาศให้เป็นสัตว์สงวนเมื่อสิบปีก่อน บวกกับปัญหาการให้กำเนิดลูกของพวกมันที่มักจะไม่เป็นผลสำเร็จ (คลอดลูกออกมาแล้วตาย) นั่นเป็นเพราะว่าปัญหาเรื่องแหล่งอาหารอย่างปลาแซลแมอนที่ลดน้อยลงไปทุกที จึงทำให้พวกมันรู้สึกเป็นกังวลจนไม่สามารถให้กำเนิดลูกออกมาได้ จากการศึกษาของมหาวิทยาลัยวอชิงตันในช่วงปี 2007 ถึง 2014…
-
ภาพสุดท้าย… พ่อโอบกอดลูกชายที่ป่วยเป็นมะเร็งไว้ เพื่อเติมเต็มความหวังก่อนที่จะจากไป
สิ่งที่พ่อแม่ทุกคนไม่อยากเห็นมากที่สุดคือการเห็นลูกต้องล้มป่วยด้วยโรคร้าย ถ้าเลือกได้พวกเขาก็อยากจะเจ็บแทนเองด้วยซ้ำ แต่พ่อแม่คู่นี้ต้องเจ็บยิ่งกว่านั้น เพราะต้องทนเห็นลูกจากไปในอ้อมกอดของตัวเอง Braiden Prescott เด็กชายวัย 7 ขวบ ป่วยด้วยโรคมะเร็งชนิดนิวโรบลาสโตมา (Neuroblastoma) ได้เสียชีวิตลงหลังแอดมิทเข้าโรงพยาบาลในเดือนกันยายนปี 2016 ได้เพียงแค่ 2 วันเท่านั้น คนที่เจ็บปวดที่สุดจากการเสียชีวิตของเด็กชายก็คงจะเป็นคุณแม่ Steph และคุณพ่อ Wayne Prescott จากเมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ พ่อแม่ได้แชร์ภาพช่วงสุดท้ายของ Braiden ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ทั้งคู่แทบใจสลายไปพร้อมๆ ลูก เพราะต้องเห็นลูกชายที่รักจากไปต่อหน้าต่อตา ในวันที่เด็กชายเสียชีวิต คุณแม่ Steph เล่าว่า “ฉันนอนอยู่ข้างเตียงของลูกตลอดทั้งคืน แล้วตื่นมาตอนตี 3 เพราะได้ยินเสียงลูกสำลัก จึงทำการตามพยาบาลมาทันที” หลังจากที่เข้ามาตรวจสอบอาการสักพัก พยาบาลบอกกับเธอว่า “ใกล้จะถึงเวลาที่เขาจะไปแล้ว” แม้คุณแม่จะรู้อยู่แล้ว แต่เมื่อได้ยินแบบนั้น เข่าของเธอแทบจะทรุดลงไปทันที แต่ก็ยังพยายามฮึดสู้แล้วเดินไปปลุกสามี แม่อยากอุ้มลูกชายไว้เพื่อให้เขาจากไปอย่างสงบในอ้อมกอดของเธอ แต่ไม่อาจทำใจได้ เธอจึงปล่อยให้สามีเป็นคนอุ้มแทน ส่วนเธอก็นั่งจับมือลูกอยู่ข้างๆ สำหรับโรคร้ายที่หนูน้อยต้องเจอนั้น เป็นความผิดปกติเนื่องจากมีเนื้องอกที่ขากรรไกร ทำให้เขาไม่สามารถเปิดปากได้หรือพูดได้ พ่อแม่เลยไม่รู้ว่าลูกชายต้องการอะไรเป็นสิ่งสุดท้าย …
-
หนุ่มมะกันสูญเสียลูกชายไป เลยเปิดศูนย์ช่วยเหลือแมว 300 ตัว เพื่อเยียวยาจิตใจตัวเอง
นี่คือเรื่องราวของนายสถานีรถไฟชาวนิวยอร์กที่ชื่อว่านาย Chris Arsenault ในช่วงปี 2006 เขาได้สูญเสีย Eric ลูกชายอันเป็นที่รักวัย 24 ปีไปเพราะประสบอุบัติเหตุทางมอเตอร์ไซค์ แต่แล้ววันหนึ่ง… เขาก็ได้เดินผ่านรังแมวกว่า 30 ตัว ที่อาศัยรวมกันโดยไม่มีใครเหลียวแลพวกมันเลย เพื่อเป็นการบรรเทาความเศร้าในจิตใจเขาก็ตัดสินใจที่จะเอาแมวจรจัดเหล่านั้นออกมาจากรังแล้วนำมาดูแลให้อาหาร พาไปรักษาโรคและแบ่งพื้นที่ส่วนหนึ่งของบ้านทำเป็นที่อยู่ให้กับพวกมัน นาย Chris ได้เปลี่ยนบ้านของเขาให้กลายเป็นอาณาจักรแมว และเขาก็เริ่มรู้ตัวเองว่าการช่วยเหลือแมวช่วยเยียวยาจิตใจให้กับเขา ต่อมาเขาได้เปิดมูลนิธิช่วยเหลือแมวที่ชื่อว่า Happy Cat Sanctuary ขึ้นมา เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่แมวตัวไหนก็ได้ที่ต้องการความช่วยเหลือ นาย Chris กล่าว “ผมอยากจะทำอะไรสักอย่างที่ดีด้วยขีวิตของผมเอง ศูนย์พักพิงสัตว์คือความทรงจำถึงลูกของผม” เขาค่อยๆ ช่วยเหลือแมวไปเรื่อยๆ ทีละตัวสองตัว จนตอนนี้จำนวนแมวที่อาศัยอยู่กับพวกเขามีมากถึง 300 ตัวแล้ว ซึ่งแต่ละตัวมีที่มาและเรื่องราวที่แตกต่างกันไป “เราได้ช่วยแมวจากเหจุการณ์ที่แลวร้าน จากบ้านที่ไม่รักสัตว์ และแม้แต่แมวที่มาจากแก๊งที่ใช้แมวเป็นเหยื่อล่อเพื่อให้สุนัขสู้กันก็ช่วยเหลือมาแล้ว” Chris กล่าว นาย Chris ได้ริเริ่มโปรเจ็คหลายๆ อย่างเพื่อให้ศูนย์พักพิงสัตว์ของเขาสมบูรณ์ที่สุด มีทั้งคอนโดแมวขนาดใหญ่ที่รองรับแมวได้จำนวนมาก ทางเดินให้ปีนป่าย มีน้ำพุอุ่นๆ กลางแจ้ง หรือแม้แต่บริเวณที่จัดเอาไว้เพื่อให้พวกแมวได้นั่งดูไก่เพื่อความบันเทิงก็ทำไว้เช่นกัน …
-
ความรักของแม่ ลิงกอริลล่าอุ้มร่างไร้วิญญาณของลูกน้อยไปมาเกือบ 1 อาทิตย์ พยายามปลุกทุกเช้าหวังลูกจะตื่น…
เรียกได้ว่าสะเทือนใจจริงๆ สำหรับเรื่องนี้ เกิดเป็นคนเกิดเป็นมนุษย์นะเหมียว ถ้าไม่รักลูกรักเต้าแล้วล่ะก็ อายสัตว์มันนะเออ เช่นเดียวกับกรณีของแม่กอริลล่าตัวนี้ Shira ลิงกอริลล่าแห่งสวนสัตว์ Frankfurt ประเทศเยอรมนี วิ่งไปมาในกรงของมันมาเป็นอาทิตย์ โดยอุ้มลูกของมันไปไหนมาไหนด้วยตลอดเวลา น่าจะไม่ใช่ภาพที่แปลกตาอะไรมากมาย ภาพเหตุการณ์ แต่อนิจจามันหารู้ไม่ว่าลูกของมันได้เสียชีวิตมาแล้วกว่า 1 อาทิตย์ มันได้แต่อุ้มร่างไร้วิญญาณของลูกน้อยไปไหนมาไหน นำศพมานอนให้ไออุ่นบนหน้าอก และพยายามปลุกลูกน้อยของมันให้ตื่นทุกๆ เช้า ผอ. สวนสัตว์ Manfred Niekisch กล่าวว่า ‘สาเหตุการตายของลูกน้อยยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด เพราะว่าเมื่อตอนเย็นวันนั้นเรายังเห็นมีชีวิตอยู่ปกติ แต่พอเช้ามามันก็กลับเสียชีวิตไปซะงั้น แบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยเลยล่ะ’ เป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่าธรรมชาติของแม่กอริลล่าและลูกน้อยจะสนิทกันมาก แน่นอนว่าคงต้องใช้เวลา และให้พื้นที่กับ Shira ซะหน่อย เพื่อให้มันยอมรับความจริงอันโหดร้ายนี้ได้ พอปลอดภัยทางเจ้าพนักงานก็จะเข้าไปในกรง นำร่างลูกน้อยออกมาเพื่อดูสาเหตุการตายของมัน… สะเทือนใจเหมียวจริงๆ เจ้ากอริลล่าน้อยมีอายุได้เพียง 1 อาทิตย์เท่านั้น ก็ต้องจากโลกใบนี้ไปเสียแล้ว เห้อออ โลกใบนี้ช่างโหดร้าย -*- ที่มา: Metro