Tag: ล่าสัตว์
-
นักโทษคดี ‘ฆ่ากวาง’ ถูกสั่งจำคุกและบังคับให้ดูการ์ตูนเรื่อง “Bambi” ซ้ำๆ เป็นการลงโทษ
การล่าสัตว์เพื่อเอาอวัยวะหรือเพื่อความสนุกนั้นเป็นการกระทำที่ทั่วโลกไม่ให้การยอมรับ โดยเฉพาะการลักลอบล่าสัตว์จากพื้นที่ส่วนบุคคลของผู้อื่นและเขตสงวน งานนี้ นักโทษคนหนึ่งที่ถูกจับกุมตัวเพราะฆ่า กวาง ไปหลายร้อยตัว จึงถูกตัดสินให้จำคุกหนึ่งปี และที่ยิ่งกว่านั้น เขาถูกบังคับให้ดูภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่อง Bambi จากดิสนีย์ซ้ำไปมาเป็นการลงโทษ David Berry Jr. นักโทษคดีล่ากวาง นอกจากจะถูกศาลสั่งจำคุกหนึ่งปีแล้ว เขายังต้องดูการ์ตูนเรื่อง Bambi ซึ่งตัวละครหลักเป็นกวางน้อยแสนน่ารัก ซ้ำๆ เพื่อให้เขาสำนึกได้ว่าตัวเองทำอะไรผิดไป David Berry Jr. ในวันเกิดเหตุ David ได้ออกไปล่าสัตว์กับสมาชิกในครอบครัวอีก 3 คน และวันนั้นเองเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำการสืบสวนการลักลอบล่าสัตว์มายาวนาน ก็พบคนร้ายในที่สุด ก่อนหน้านี้ David และพ่อของเขาถูกถอนสิทธิ์การล่าสัตว์ ดักสัตว์ และตกปลา โดยกรมการอนุรักษ์แห่งมิสซูรี และขณะที่พวกเขาอยู่ในระยะควบคุมความประพฤติ ก็ถูกจับกุมข้อหาลักลอบล่ากวาง ล่าสุดในวันที่ 6 ธันวาคมศาลกล่าวว่า David นั้นต้องรับชมการ์ตูนเรื่อง Bambi ครั้งแรกในวันที่ 23 ธันวาคมหรืออาจก่อนหน้านั้น หลังจากนั้นอาจจะมีการรับชมซ้ำทุกๆ เดือน เดือนละหนึ่งครั้ง Bambi…
-
สิงโตหน้าเหมือน Mufasa ในแอฟริกาใต้ ถูกลักลอบวางยาฆ่า ตัดแขน/หน้า อย่างทารุณ!!
*คำเตือน : บทความนี้มีภาพที่รุนแรง ฉะนั้นขอให้ไตร่ตรองดูดีๆ ก่อนจะเลื่อนลงไปรับชมนะครับ ปัญหา ‘การลักลอบล่าสัตว์ป่า’ ถือเป็นหนึ่งในปัญหาหลักที่เกิดขึ้นในประเทศแอฟริกาใต้ แม้ว่าจะมีบทลงโทษที่หนักหนาสาหัสเพียงใด แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่สามารถหยุดยั้งเหล่าบุคลลที่ทำผิดกฎหมายได้เลย เช่นเดียวกันกับเหตุการณ์ต่อไปนี้ ที่กลุ่มลักลอบล่าสัตว์ที่ได้ทำการ แอบเข้าไปในพื้นที่สวนสัตว์ Akwaaba Predator Park ในเมือง Limpopo ประเทศแอฟริกาใต้ ก่อนที่จะทำการ ‘วางยา’ สิงโต ทั้งตัวเมียและตัวผู้ เป็นเหตุให้พวกมันเสียชีวิตไปถึง 5 ตัวด้วยกัน!! นอกจากนี้จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่แล้วพบว่า มีสิงโตตัวหนึ่ง ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวและเจ้าหน้าที่ เพราะหน้าตาของมันเหมือนกับ Mufasa จากเรื่อง The Lion King ก็เป็นหนึ่งในเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายด้วย แต่สภาพศพของมันหนักกว่าตัวอื่นๆ เพราะถูกตัดเอา ‘เท้า’ และ ‘ใบหน้า’ ออกไป ซึ่งเจ้าหน้าที่คาดว่า น่าจะเป็นการจ้างวานจากเหล่า ‘โทรฟี ฮันเตอร์’ หรือถูกนำไปขายเพื่อใช้ประกอบการทำพิธีเวทมนตร์ดำ ทางด้านนาย…
-
ซูเปอร์สตาร์แห่ง Bollywood ถูกตัดสินจำคุก 5 ปี หลังคร่าชีวิตสัตว์ป่าสงวนในประเทศอินเดีย
บนโลกของเรามีสัตว์สงวนอยู่หลากหลายชนิด ซึ่งเหตุผลที่ต้องมีการขึ้นทะเบียนสัตว์สงวน ก็เพื่อจะอนุรักษ์เผ่าพันธุ์ของสัตว์เหล่านั้นเอาไว้ เพราะฉะนั้นหากใครที่ทำผิดกฎหมายดังกล่าว เข่นฆ่าสัตว์เหล่านั้นไปโดยไร้เหตุผล คนคนนั้นก็สมควรที่จะได้รับโทษเฉกเช่นเดียวกับนักแสดงหนุ่มคนนี้ Salman Khan วัย 52 ปีดาราบอลลีวูดชื่อดังจากประเทศอินเดีย เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2018 เขาถูกตัดสินให้จำคุกนาน 5 ปี หลังจากที่เขานั้นเคยพรากชีวิตของ Blackbuck หนึ่งในสัตว์ป่าสงวนของประเทศอินเดียในปี 1998 Salman นักแสดงที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากในอินเดีย ชายคนนี้คือนักแสดง นักร้อง และพิธีกรรายการทีวีซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังอย่างมากในประเทศอินเดีย หนังที่เขาเคยเล่นนั้นทำเงินได้เป็นหลายพันล้านบาท แต่ในปี 1998 เขาได้กระทำความผิดเอาไว้ในตอนที่เดินทางไปถ่ายหนังเรื่อง Hum Saath-Saath Hain บริเวณรัฐราชสถาน ประเทศอินเดีย ใกล้กับพื้นที่คุ้มครองสัตว์ป่า จากการรายงานในชั้นศาลบอกว่า ตอนนั้นเขาพักอยู่ใกล้กับหมู่บ้าน Bishnois พื้นที่ที่ชาวบ้านนับถือสิ่งมีชีวิตทุกชนิด และสัตว์ในบริเวณนั้นเป็นสัตว์สงวนที่ได้รับการคุ้มครอง แต่เมื่อ Salman เห็นฝูง Blackbuck เขากลับคว้าปืนยิงพวกมันตายไปสองตัว ชาวบ้านที่เป็นพยานทั้ง 28 คนเล่าว่า พวกเขารีบวิ่งออกไปจากกระท่อมทันทีหลังจากที่ได้ยินเสียงปืน…
-
พรานหนุ่มไปล่าสัตว์แต่โดนจิงโจ้ ‘เฮดบัต’ จนกรามร้าว เล่นกับใครไม่เล่นซะแล้วไอ้นี่!!
ด้วยความที่จิงโจ้เป็นสัตว์ที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไปในประเทศออสเตรเลีย ทำให้บ่อยครั้งที่พวกมันมักจะถูกล่าเป็นอาหาร แต่ว่ามีอยู่เหตุกาณณ์หนึ่งที่มันไม่ยอมตกเป็นฝ่ายถูกกระทำอีกต่อไป แถมยังทำสิ่งตรงกันข้ามนั่นก็โจมตีนายพรานคนหนึ่งที่ไปล่าพวกของมันด้วยการ ‘เฮดบัต’ จนกรามของนายพรานคนนั้นร้าวเลยทีเดียว โดยเหตุการณ์ระทึกขวัญครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อคืนวันอังคารที่ 13 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เมื่อหนุ่มนามว่า Joshua Hayden ได้ออกไปเดินทางล่าสัตว์กับพี่น้องของเขาที่รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ประเทศออสเตรเลีย เจอกันได้นะเจ้ามนุษย์ หนุ่มวัย 19 ปีคนนี้เล่าให้ฟังว่า ในตอนแรกเขาได้สังเกตเห็นกลุ่มจิงโจ้ที่อยู่ด้วยกัน 3 ตัว แต่ด้วยเหตุการณ์บางอย่างก็ทำให้มีจิงโจ้ตัวหนึ่งได้อันตรธานหายไปจากสายตาของเขาอย่างไร้ร่องรอย แต่เขาก็ไม่ได้เอะใจอะไรคิดว่ามันคงหนีเข้าป่าไปยังทิศทางอื่น ต่อมาเมื่อ Joshua เห็นว่ายังมีจิงโจ้เหลืออีกตั้ง 2 ตัวรอให้เอาไปเป็นอาหาร เขาจึงเบี่ยงตัวออกนอกหน้าต่างรถเพื่อหวังจะยิงจิงโจ้สองตัวนั้นให้แน่นิ่งให้จงได้ แต่ทันใดนั้นเองเขาก็ได้พบกับจิงโจ้ตัวที่หายไปอีกครั้ง และคราวนี้เห็นเต็มสองตาเลย เพราะว่ามันพุ่งเข้าใส่รถของพวกเขา แม้ว่ากำลังจะวิ่งอยู่ก็ตาม โดนซะหนักเลยนะคุณพี่ “มันพุ่งเข้าชนที่ด้านข้างรถของพวกเรา จากนั้นมันก็ทุบกระจกหน้าของรถเราจนแตก แล้วมันก็เด้งกลับมาโจมตีผมด้วยการเฮดบัตเข้าเต็มๆ กรามเลย” “ตอนนั้นผมสลบไปประมาณ 30 วินาที พอผมตื่นขึ้นมาพี่น้องของผมก็เล่าสิ่งที่เกิดขึ้นให้ฟัง” Joshua กล่าว เมื่อเห็นการโจมตีดังกล่าวได้ทำร้าย Joshua จนสลบ พวกพี่น้องจึงพาเขาไปรักษาที่โรงพยาบาล Kellerberrin Memorial จากนั้นเขาก็ถูกส่งตรงไปที่แผนกฉุกเฉินเป็นการด่วนเลย โดนซะแล้วล่ะ ตูมใหญ่เลยด้วย…
-
นักล่าถูกสิงโตเข้าขย้ำอย่างไร้ปราณี ร่างถูกกลืนกินแทบทั้งหมด พ่ายแพ้ต่อทิฐิตัวเอง!!
เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2018 ที่ผ่านมา สื่อต่างประเทศได้รายงานเหตุการณ์สะเทือนขวัญขึ้นที่สถานอนุรักษ์สัตว์เอกชน Ingwelala ที่ประเทศแอฟริกาใต้ หลังจากที่ชายรายหนึ่ง ถูกสิงโตทำร้ายและกัดกินร่างจนเหลือเพียงแค่ส่วนหัว ในตอนแรกที่พบชิ้นส่วนอวัยวะของชายคนดังกล่าว เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าเขาอาจจะเป็นคนขับรถของเขตอนุรักษ์ แต่หลังจากที่พบปืนไรเฟิลตกอยู่ใกล้ๆ กองเลือด ก็ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถยืนยันได้ว่าชายคนดังกล่าวคือนักล่าสัตว์ แต่อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่พบสิ่งที่ระบุเกี่ยวกับข้อมูลส่วนตัวของชายคนนี้ “ตอนนี้เรากำลังเริ่มขั้นตอนการตรวจสอบตัวตนของชายคนนี้ โดยเริ่มจากชิ้นส่วนของเขาที่เราพบ” เจ้าหน้าที่ Moatshe Ngoepe ให้สัมภาษณ์ อย่างไรขณะนี้ทางด้านเจ้าของเขตอนุรักษ์สัตว์ Josh ยังไม่ได้รับอนุญาติให้สัมภาษณ์กับสื่อ เนื่องจากคดีดังกล่าวยังอยู่ในขั้นตอนของการตรวจสอบ ชาวบ้านในพื้นที่รายหนึ่งได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า เขาได้ยินเสียงกรีดร้องของเหยื่อ เสียงคำรามของสิงโต และเสียงปืนดังขึ้นพร้อมๆ กัน แต่เขาไม่สามารถช่วยเหลือชายคนดังกล่าวได้ เนื่องจากสิงโตเริ่มกินร่างชายคนนั้นแล้ว สถานอนุรักษ์สัตว์เอกชน Ingwelala ประเทศแอฟริกาใต้ คุณ Charlie Lynham ช่างภาพสัตว์ป่าชาวอังกฤษวัย 59 ปี ได้มาถึงที่เกิดเหตุทันทีหลังจากที่ทราบเรื่องราวดังกล่าว ช่างภาพวัย 59 ปีให้สัมภาษณ์ว่าขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันว่าชายคนดังกล่าวถูกสิงโตฆ่าตายในพื้นที่ของเขตอนุรักษ์หรือไม่ “มันเกิดขึ้นใกล้ๆ กับพื้นที่ของเขตอนุรักษ์พันธ์ุสัตว์ Umbabat มีการพบปืนไรเฟิลขนาด .456 จำนวน 2 กระบอกตกอยู่ใกล้ๆ นั้น ซึ่งปืนดังกล่าวเป็นอาวุธที่ใช้ล่าสัตว์ใหญ่อย่างพวกช้างหรือแรด” ช่างภาพชาวอังกฤษให้สัมภาษณ์ นอกจากนี้ช่างภาพชาวอังกฤษยังกล่าวอีกว่า เหตุกาณ์ในครั้งนี้อาจจะมีนักล่าคนอื่นนอกจากชายหนุ่มผู้เคราะห์ร้ายคนนี้ก็ได้ เนื่องจากมีการพบรอยเท้าที่กำลังวิ่งหนีจากที่เกิดเหตุ อย่างไรก็ตามคาดว่าสาเหตุที่กลุ่มนักล่าสามารถลักลอบเข้าไปในพื้นที่เขตอนุรักษ์ได้นั้น…
-
เปิด 4 ผลงานปิดทองหลังพระ ของ “วิเชียร ชิณวงษ์” หัวหน้าทีมบุกจับเปรมชัยล่าเสือดำ
สืบเนื่องจากข่าว ประธานบริษัทอิตาเลียนไทยล่าสัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ที่เป็นที่พูดถึงกันไปทั่วเนื่องจากการเข้าไปล่าและถลกหนังเสือดำในเขตหวงห้าม อย่างไรก็ตาม ทันทีที่เจ้าหน้าที่ทราบเรื่อง ก็รีบจัดการนำทีมเข้าไปบุกจับผู้บุกรุกทันที จนทำให้สามารถจับกุมผู้ฝ่าฝืนบุกรุกเข้าไปล่าสัตว์ได้ รวมไปถึงตัวของประธานบริษัทอิตาเลียนไทยเองด้วย ซึ่งเป็นเรื่องน่าเสียดายที่ไม่ค่อยมีใครพูดถึงเจ้าหน้าที่ดังกล่าวที่ปฏิบัติงานอย่างเที่ยงธรรมโดยการบุกเข้าไปจับผู้กระทำผิดโดยที่ไม่คำนึงถึงว่าอีกฝ่ายจะเป็นใคร วันนี้เรามาพูดถึงหัวหน้าทีมบุกจับคนนี้กันดีกว่า ว่าเขามีผลงานอะไรบ้าง และวีรกรรมการปกป้องผืนป่าของเขามีอะไรบ้าง 25 ตุลาคม 2556 นายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ภูสีฐาน บุกจับขบวนการค้าไม้พะยูงส่งนายทุนข้ามชาติ ติดสินบนเจ้าหน้าที่ สุดท้ายถูกซ้อนแผนรวบยกแก๊ง 5 ราย ได้ของกลางเป็นไม้พะยูง 28 ท่อน 14 กันยายน 2557 นายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูสีฐาน รวบนักการเมืองท้องถิ่น ส.อบจ.มุกดาหาร พร้อมอาสาสมัคร อปพร. พาพวก ลอบล่าสัตว์ เห็นเต็มตากำลังเล็งยิงกระรอก อ้างไปทำอาหาร ส่วนอีก 5 คนหนีไปได้ ยึดปืนได้ 3 กระบอก 8 กันยายน 2560 พญาเสือร่วมเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฯ นายวิเชียร ชิณวงษ์…
-
เจ้าหน้าที่บุกจับ ประธาน บ.อิตาเลียนไทย ล่าสัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร พบซากเสือดำคาแคมป์!!
ตามที่มีการแชร์กันในโลกโซเชียล ถึงข่าวที่มี “ประธานบริษัทรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่” เข้าไปตั้งแคมป์ล่าสัตว์ในเขตสงวน ทั้งนี้ ทางแคทดั๊มบ์ขออนุญาติคัดลอกเนื้อหาจากเพจ คนอนุรักษ์ มาโดยมีรายละเอียดดังนี้ “คดีทุ่งใหญ่ฯ 2 จับประธานอิตาเลี่ยนไทย ล่าสัตว์ทุ่งใหญ่ฯ วันที่ 4 กุมภาพันธ์ เวลา 14.00 น จนท ทุ่งใหญ่ตะวันตกได้รับแจ้งว่าพบนักท่องเที่ยวกลุ่มนึง ตั้งแคมป์พักในบริเวณจุดห้ามตั้ง จนทได้เข้าตรวจสอบ พบว่า นักท่องเที่ยวหนึ่งในกลุ่มนี้ คือ นายเปรมชัย กรรณสูตร ประธานบริหารอิตาเลี่ยนไทยบริษัทมหาชน จนท จึงเข้าทำการตรวจสอบบริเวณเต๊นพัก พบซากสัตว์ป่าคุ้มครอง คือ ไก่ฟ้าหลังเทา ซากเนื้อเก้ง จึงได้ทำการขยายพื้นที่ตรวจสอบพบอาวุธปืนลูกกรดติดลำกล้อง 1 กระบอก ปืนไรเฟิลติดลำกล้อง 1 กระบอก และ ปืนลูกซองแฝด 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนอีกมาก ใกล้กับที่พบอาวุธปืนที่ซ่อนอยู่ จนทเข้าตรวจสอบพื้นที่เพิ่มเติม พบ ซากเสือดำ ถูกชำแหละ และ ถลกหนัง บริเวณใกล้เคียงพบเครื่องกระสุนปืนเพิ่มอีกมาก จึงทำการจับกุมเพื่อส่งคดี สภอ.ทองผาภูมิ” …
-
นักล่าสัตว์ถูกยิงเสียชีวิตอย่างเป็นปริศนา ขณะกำลังออกล่าสิงโตในแอฟริกา
กีฬาล่าสัตว์นั้นเป็นกีฬาที่แพร่หลายในทวีปยุโรปที่ให้เหล่านักล่าได้ใช้อาวุธปืนเพื่อล่าสัตว์เพื่อนำมาเป็นรางวัล แต่จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อนักล่าเหล่านี้กลับกลายเป็นผู้ถูกล่าซะเอง เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ 27 มกราคม 2018 ในขณะที่นักล่าสัตว์ชาวโครเอเชีย Pero Jelinic วัย 75 ได้ฆ่าสิงโตไปแล้ว 1 ตัวและกำลังเล็งปืนไปที่สิงโตอีกตัว ก็ได้มีกระสุนปริศนายิงใส่เขาจนได้รับบาดเจ็บ เขาได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลโดยเฮลิคอปเตอร์ แต่โชคไม่ดีที่แพทย์ไม่สามารถช่วยชีวิตเขาได้ทันเวลา Slavko Pernar เพื่อนนักล่าของ Pero กล่าวว่าเพื่อนของเขาเป็นนักล่าที่หลงใหลในการล่าสัตว์มากๆ เขาได้เดินทางไปแอฟริกาใต้เพื่อล่าสิงโตเป็นรางวัลเสริมบารมีของเขา และเขายังเป็นเจ้าของโรงแรมที่เปลี่ยนโรงแรมของเขาให้กลายเป็นที่เก็บรางวัลเพื่อเติมเต็มความฝันในชีวิตเขาด้วย Pernar กล่าวว่า “Pero นั้นชอบล่าทั้งสัตว์เล็กและสัตว์ใหญ่ เขามักจะเดินทางไปยังที่ต่างๆ รอบโลกเพื่อทำตามความฝันของเขาโดยการล่าสัตว์ แต่โชคไม่ดีที่เขาเสียชีวิตขณะทำสิ่งที่เขารักมากที่สุด ห้องทำงานของเขาเต็มไปด้วยรางวัลที่เขาล่ามาได้ทั้งหมดในประเทศโครเอเชียและในทวีปยุโรป” สถานที่เกิดเหตุที่ Pero ถูกยิงเสียชีวิตนั้นได้เปิดเป็นสถานที่สำหรับการล่าเพื่อกีฬาโดยเฉพาะ และมีสิงโตไว้ให้นักล่าได้ล่ากันอย่างสนุกสนาน ซึ่งตอนนี้กำลังเป็นที่ประณามของสังคมเนื่องจากกีฬานี้เป็นกีฬาที่รุนแรงและถูกมองว่าเป็นการทารุณกรรม Dr. Gideon Engelbrecht เจ้าของสถานที่แห่งนี้ได้ให้สัมภาษณ์ว่าเขาไม่ได้อยู่ที่นั่นในขณะที่เกิดเหตุ เขากล่าวว่า “ผมอยู่ที่ห้องผ่าตัดในขณะที่ผมได้รับโทรศัพท์แจ้งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และผมได้จัดเฮลิคอปเตอร์ไปส่งผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาล นี่คือคำตอบทั้งหมดที่ผมสามารถตอบได้ในขณะนี้ เพราะคดีนี้ยังอยู่ภายใต้การสืบสวนอยู่” การเป็นเจ้าของสถานที่ที่เปิดให้ล่าสัตว์นั้นถูกกฎหมายและทำรายได้ดีในแอฟริกาใต้ แต่ก็ยังเป็นที่ถกเถียงกันอย่างมากเนื่องจากสิงโตที่ถูกล่านั้นถูกจับมาจากธรรมชาติและนำมาให้นักล่าได้ล่ากันในสถานที่ปิดที่มันไม่สามารถหนีได้ ในช่วงพฤษจิกายน 2015 องค์กร…
-
พรานหนุ่มโรมาเนียถูกยิงเสียชีวิตในป่า หลังเพื่อนเข้าใจผิด คิดว่าเป็นหมูป่า!?
ในวันคริสต์มาสอีฟปี 2017 อาจเป็นวันที่ใครหลายๆ คนได้เฉลิมฉลองกับเพื่อนหรือครอบครัวกันอย่างมีความสุข แต่มันกลับกลายเป็นวันที่น่าเศร้าสำหรับของชายคนหนึ่งในประเทศโรมาเนียที่มีชื่อว่า Victor Dinca วัย 31 ปี ในช่วงเทศกาลวันหยุด Victor ต้องการกลับบ้านไปฉลองช่วงคริสต์มาสกับครอบครัวและเพื่อนๆ ในบ้านเกิดที่พ่อของเขาเป็นนายกเทศมนตรีอยู่ แต่แทนที่จะจัดงานเลี้ยงกันเพื่อความสนุกสนานเฮฮา กลายเป็นว่าต้องจัดงานศพให้กับชายคนนี้เสียแทน Victor อาจารย์สอนบัญชีที่มหาลัยเอกชนแห่งหนึ่งในเมือง Bucharest เรื่องราวมีอยู่ว่าในเช้าวันคริสต์มาสอีฟ Victor และเพื่อนอีก 7 คน ตัดสินใจเข้าป่าไปล่าสัตว์ในเขต Dambovita ทางตอนใต้ของประเทศโรมาเนีย ในวันนั้นเขาและเพื่อนตั้งใจจะไปล่าหมูป่ากัน แต่ขณะที่กำลังล่ากันอยู่นั้นเอง เพื่อนวัย 41 ปีคนหนึ่ง ซึ่งเป็นพี่ชายนอกสายเลือดของ Victor ยิงปืนออกไปหมายจะเอาชีวิตหมูป่าที่อยู่ห่างประมาณ 30 เมตร เมื่อวิ่งตามไปดู ศพที่เจอกลับไม่ใช่หมูป่าอย่างที่เขาคิด แต่เป็นร่างของ Victor ที่ถูกกระสุนขนาด 12 มิลลิเมตร พุ่งทะลุหัวใจนอนตายคาที่ จากการเข้าใจผิดของเพื่อน ทำให้นักบัญชีหนุ่มต้องเสียชีวิตลง สร้างความเสียใจให้กับคนในครอบครัวและเพื่อนๆ เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะภรรยาของเขา ซึ่งทั้งสองวางแผนกันเอาไว้ในตอนแรกว่าจะทำพิธีล้างบาปให้กับลูกสาววัย 2…
-
พรานโพสต์ภาพคู่กับสิงโตภูเขาตัวใหญ่ แม้นักอนุรักษ์สัตว์จะออกมาเตือน แต่ก็ไม่แคร์
ปัจจุบันนี้ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร หรืออยู่ส่วนไหนของโลก เมื่อคุณลงมือทำร้ายสัตว์เพียงเล็กน้อย จะทำให้คุณถูกประณามจากผู้คนมากมายทันที แต่สำหรับ Steve Ecklund จากอัลเบอร์ต้า ประเทศแคนาดา กลับภาคภูมิใจที่ได้ฆ่าสิงโตภูเขาในบ้านเกิดของเขา แถมยังโพสต์อวดในเฟซบุ๊กด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ที่ผ่านมา Steve และภรรยาของเขา Alison Ecklund ล่าสัตว์ป่านับไม่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นหมูป่า สิงโต หมีดำ และสิงโตในแคนาดาและอเมริกาเหนือ โดยมักจะโพสต์อวดในโซเชียลเสมอ การกระทำของ Steve ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก โดยกลุ่มรณรงค์ที่ใช้ชื่อว่า Hunt Saboteurs Association จากสหราชอาณาจักรเองก็ได้ออกมาประณามว่ามันเป็นกีฬาที่เลวทรามและไร้ศีลธรรมสิ้นดี แต่ดูเหมือนเขาจะไม่รู้สึกอะไรกับการวิพากษ์วิจารณ์เหล่านี้ สังเกตได้จากการที่เขายังคงโพสต์ภาพล่าสัตว์อยู่ แถมยังมีชาวเน็ตที่เป็นนักล่าสัตว์เหมือนกันออกมาปกป้องเขาตลอดด้วย ในเว็บไซต์ The EDGE ระบุว่า ‘Steve ล่าสัตว์อย่างเป็นธรรม นั่นหมายความว่าสัตว์ที่เขาฆ่าทุกตัวนั้นถูกต้องตามหลักจริยธรรม เพราะสัตว์ทุกตัวถูกฆ่าตอนที่พวกมันสามารถวิ่งหนีได้อย่างอิสระ ไม่ได้ถูกฆ่าตอนถูกขังแต่อย่างใด’ ทั้งนี้ในอัลเบอร์ต้า ประเทศแคนาดานั้น นักล่าต้องมีใบอนุญาตสำหรับการล่าสัตว์เพื่อการสันทนาการ โดยในกฎหมายระบุว่าการล่าสัตว์จะผิดกฎหมายก็ต่อเมื่อคุณยิงสัตว์ป่าขณะว่ายน้ำ หรือให้สุนัขเข้าร่วมการล่าในช่วงฤดูล่าสัตว์ในหน้าหนาว ทางกลุ่มสิทธิสัตว์ PETA ออกมาบอกว่า Steve มีความเชื่อผิดๆ…
-
ชายผู้เสียโฉมเพราะถูกหมีข่วน ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการทีวี แต่ผู้ชมกลับบอกว่า ‘สมควรแล้ว’
หลายคนอาจรู้สึกสงสารกับการที่ชายคนหนึ่งถูกหมีทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส แต่ผลตอบรับจากเรื่องเล่าของเขาคนนั้นกลับออกมาในทิศทางตรงกันข้าม เพราะชาวเน็ตกลับรู้สึกไม่พอใจเขาอย่างมาก สิ่งนี้เกิดขึ้นในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2017 เมื่อรายการ This Morning ในสหรัฐอเมริกา ได้ทำการสัมภาษณ์ Lee Brooke ผู้เคราะห์ร้ายวัย 60 ปี ที่ถูกหมีทำร้ายจนทำให้ใบหน้าของเขาเกือบจะหายไปทั้งแถบ Lee ชายผู้ถูกหมีทำร้ายจนใบหน้าของเขาต้องใช้อุปกรณ์ในการแพทย์แทนที่จมูกและริมฝีปากบน เขาต้องเข้ารับการผ่าตัดเป็นจำนวนมากเนื่องจากอาการที่สาหัสบริเวณใบหน้า รวมถึงอาการบาดเจ็บอื่นๆ ทั่วร่างกาย เขาต้องใช้ชีวิตอยู่ในโรงพยาบาลนานหลายเดือนจนกระทั่งผิวหนังบนใบหน้าถูกแทนที่ด้วยผิวหนังส่วนขาของเขา รวมถึงการผ่าตัดฝังเหล็กดามเอาไว้บริเวณศีรษะ และยังคงต้องเข้ารับการรักษาอีกในระยะยาว Lee ได้เล่าเรื่องราวของเหตุการณ์นั้นผ่านการสัมภาษณ์ว่า ตอนนั้นเขาเดินขึ้นเขาในรัฐไวโอมิง เพื่อไปล่ากวางเอลก์ เมื่อเขาฆ่าได้ตัวนึงและกำลังจะเดินไปเก็บซากของเหยื่อตัวนั้น ก็ได้เจอกับแม่หมีวัย 30 ปีและลูกๆ ของมัน แม่หมีตัวนั้นต้องการเหยื่อที่เขาล่าได้ เมื่อเขาเห็นอย่างนั้นจึงหันหลังกลับเพื่อหนีออกไปจากสายตาของมัน แต่เจ้าหมีก็ได้เดินเข้ามากระชากกระเป๋าของเขา ตะปบหน้าจนเขาตกลงไปด้านล่างภูเขาที่ลึงลงไปกว่า 45 เมตร การตกลงมาจากที่สูงทำให้เขาสลบไป ก่อนที่จะตื่นขึ้นมาหลังจากที่เจ้าหมีตัวนั้นเดินเข้ามาดมแก้มของเขา และเขาเผลอสะดุ้งตื่นเข้ามาจนทำให้เจ้าหมีกัดลงไปบนแขนของเขา Lee พยายามล้วงเข้าไปในคอหอยของมันเพื่อให้มันปล่อยแขนของเขา อีกทั้งยังตีเข้าไปที่หัวของหมีอีกหลายครั้ง นั่นจึงทำให้เขาสามารถรอดมาได้ ก่อนที่เพื่อนที่มาด้วยกันก็มาช่วยเหลือและพาไปโรงพยาบาลในทันที…
-
หญิงสาวเลิกซื้อเนื้อจากซุปเปอร์มาเก็ต หันมาล่าสัตว์ป่าแทน จนเกิดเป็นกระแสโต้เถียง!!
การล่าสัตว์เพื่อความอยู่รอดนั้น ถือเป็นหนึ่งสิ่งที่มนุษย์อย่างเราๆ หรือแม้แต่สัตว์กินเนื้ออื่นๆ ก็ทำกันมาเป็นเวลาช้านาน เพียงแต่สำหรับมนุษย์เราเปลี่ยนจากการล่ามาเป็นการทำปศุสัตว์แทน Lisa Taylor คุณแม่ลูกหนึ่งผู้ที่ปฏิเสธการซื้อเนื้อจากซุปเปอร์มาเก็ต แล้วหันมาล่าทุกอย่างด้วยตัวเองพร้อมกับเปิดแฟนเพจ Lisa’s Shooting & Hunting Experience ขึ้นมา และยังมีผู้ติดตามมากกว่า 15,000 คน ภายในแฟนเพจของเธอก็จะประกอบด้วยเรื่องราวและภาพของตัวเธอเอง ที่ถ่ายคู่กับเหล่าสัตว์ป่าต่างๆ ที่เธอไปล่ามา รวมถึงรูปอาวุธที่ใช้ล่า บางครั้งก็จะมีคลิปในช่วงที่เธอกำลังออกล่า เธอได้ให้สัมภาษณ์กับทาง UNILAD ว่า “ตัวฉันเริ่มออกล่าเมื่อ 3 ปีก่อน ซึ่งในช่วงเวลานั้นฉันได้ลิ่มรสชาติของเนื้อแปลกๆ รวมถึงได้เรียนรู้ถึงความสามารถในการล่า จนตอนนี้ฉันรู้ถึงวิธีในการล่าเป็นอย่างดี แต่ฉันก็ไม่ได้ล่าเพื่อความสนุก ฉันล่าสัตว์เพื่อใช้เป็นอาหารแก่ครอบครัวเท่านั้น” ส่วนสาเหตุการมาล่านั้น เธอให้เหตุผลว่าเธอรู้สึกว่าการซื้อเนื้อจากซุปเปอร์มาร์เก็ตการซึ่งเป็นเนื้อที่มาจากฟาร์มนั้น มันดูมีมนุษยธรรมน้อยกว่าการออกไปล่าเอง เพราะมันทำให้เธอรู้สึกเหมือนเป็นการสนับสนุนให้สัตว์มีชีวิตที่วนเวียนอยู่แต่ในโรงฆ่าเท่านั้น นอกจากนั้นเธอยังบอกว่า บางครั้งเธอก็ล่าสัตว์อื่นๆ อย่างหมาป่าหรือจิ้งจอกที่พยายามจะมาทำร้ายสัตว์ในฟาร์มอื่นๆ แน่นอนว่าเธอไม่ปล่อยให้พวกมันตายเฉยๆ เธอนำมันมาทำอาหารทุกครั้งและไม่ปล่อยให้ส่วนไหนของพวกมันสูญเปล่า นอกจากนั้นเธอยังล่ากระต่ายป่าเพื่อให้เหยียวของเธอกินอีกด้วย สุดท้ายแล้วแม้เธอจะบอกว่าการล่าของเธอไม่ได้เกิดขึ้นเพื่อความสนุก แต่เพื่อความอยู่รอด ก็ยังมีกระแสสังคมโจมตีเธอพอสมควร ว่าทำไมจะต้องไปทำร้ายสัตว์ที่มีชีวิตดีๆ ของมัน ซึ่งเธอก็ตอบโต้ว่ามนุษยชาติหรือสัตว์กินเนื้อก็ทำแบบนี้กันมาเนิ่นนานแล้ว…
-
ภาพเหตุการณ์ล่าฝูงวาฬ “Pilot Whales” ในเทศกาลประจำปีของหมู่เกาะแฟโร
หลังจากที่การเริ่มต้นของฤดูอพยพของพวกวาฬ Pilot Whales น้ำทะเลที่ชายหาดของหมู่เกาะแฟโร นั้นจะเต็มไปด้วยสีแดงสดของเลือด เหล่าวาฬสายพันธุ์ดังกล่าวที่ถูกล่าโดยชาวประมงถ้องถิ่นของที่นี่ ซึ่งพวกเขาทำกันมาอย่างยาวนาน ในทุกๆ ปี พวกวาฬจะถูกต้อนให้ว่ายเข้ามาใกล้ๆ กับหมู่เกาะในเขตปกครองตนเองภายใต้ประเทศเดนมาร์กแห่งนี้ และที่นั่นจะมีชาวประมงท้องคอยต้อนรับพวกมันด้วยเรือลากอวนและเรือบดต่างๆ เพื่อใช้ในการล่าเหล่าวาฬ ภาพของชายหาดในหมู่เกาะ Faroe ที่เต็มไปด้วยเลือดของวาฬ Pilot Whales หลังจากที่ถูกต้อนมาที่ชายฝั่ง เหล่าชาวประมงจะลงไปจัดการกับฝูงวาฬในทะเล จากนั้นจึงพวกมันขึ้นมาบนฝั่งเพื่อรอการชำแหละต่อไป ปัจจุบันนี้ประชาการของวาฬสายพันดังกล่าวนี้เหลือน้อยลงไปทุกทีแล้ว โดย Pilot whales พันธุ์ครีบยาวนั้นเหลือเพียง 1 ล้านตัว ส่วนพันธุ์ครีบสั้นนั้นเหลือแค่ 2 แสนตัวเท่านั้น ชายหนุ่ม 2 คนนี้กำลังอยู่ในทะเลที่เต็มไปด้วยฝูงวาฬและน้ำทะเลสีแดง ในช่วงฤดูร้อนของทุกๆ ปี ที่นี่จะมีการจัดเทศกาลล่าวาฬนำร่อง (เป็นชื่อสายพันธุ์ของวาฬชนิดนี้) ต่อเนื่องกันมานานกว่า 100 ปีแล้ว โดยในแต่ละปีจะมีวาฬว่ายเข้ามาในเขตชายฝั่งประมาณ 800 ตัว ชาวประมงและชาวบ้านก็จะเข้ามารุมล้อมและจับเอาวาฬเหล่านั้นไปทำเป็นอาหาร แม้ว่าการล่าวาฬจะเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายในฝั่งยุโรปก็ตาม แต่ชาวบ้านท้องถิ่นบางส่วนก็ยังต่อสู้เพื่อไม่ให้ประเพณีที่สืบต่อกันมานานต้องหายไป กลุ่มของชาวประมงกำลังช่วยกันลากซากวาฬที่พวกเขาเพิ่งจัดการเสร็จขึ้นไปบนฝั่ง ผู้คนนับร้อยมารวมตัวกันที่ตรงชายฝั่งเพื่อเป็นพยานในงานเทศกาลประจำปีของพวกเขา ทะเลกลายเป็นสีแดงของเลือด หลังจากที่พวกวาฬถูกล้อมด้วยเรือ และถูกฆ่าทีละตัวอย่างที่พวกเขาเคยทำ… ที่มา dailymail
-
สิงโตที่ถูกช่วยจากคณะละครสัตว์ ต้องพบจุดจบอันโหดร้าย จากผู้บุกรุกเขตอนุรักษ์สัตว์…
เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา ได้เกิดเรื่องราวอันน่สสะเทือนขวัญนี้ขึ้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า Emoya เมื่อมีผู้บุกรุกเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์และได้ฆ่าเจ้าสิงโต 2 ตัวที่กำลังฟื้นฟูสภาพจิตใจและร่างกายอยู่ในนั้น จากการรายงานของสำนักข่าว Netwerk 21 บอกว่าคนร้ายได้ตัดหัว ขา และถลกหนังของสิงโตออกไป และทิ้งร่างที่ไร้วิญญาณของพวกมันเอาไว้ จนกระทั่งถูกพบในเช้าวันจันทร์ที่ 30 พฤษภาคม 2017 สำหรับจุดประสงค์ในการล่าครั้งนี้ยังไม่ทราบแน่ชัด บางทีอาจจะเป็นแค่การล่าเพื่อการแข่งขัน หรือพวกเขาอาจจะต้องการนำกระดูกของมันไปขายสำหรับทำยาก็เป็นได้ ทางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า Emoya ได้กล่าวว่าตอนนี้พวกเขากำลังสืบตัวผู้กระทำความผิด และเพิ่มมาตรการในการดูแลความปลอดภัยให้เข้มงวดมากยิ่งขึ้น “ตอนนี้สภาพจิตใจของพวกเราเริ่มดีขึ้นแล้ว ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจอย่างมาก เราได้เพิ่มความเข้มงวดในการรักษาความปลอดภัยตลอดทั้ง 24 ชั่วโมง และกำลังพยายามอย่างเต็มที่ที่จะตามหาตัวคนผิด” เขตรักษาพันธุ์สัตว์ดังกล่าวเขียนโพสต์ของพวกเขาผ่านทางเฟสบุ๊กเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2017 การลักลอบเข้าไปในพื้นที่ช่วยเหลือสัตว์นี้ไม่ใช่ครั้งแรก แต่ก่อนหน้านี้เคยมีเหตุการณ์ที่สะเทือนขวัญในลักษณะนี้เกิดขึ้นมาแล้วอย่างการลักลอบเข้าไปในเขตอนุรักษ์แรดเพื่อลูกแรดสองตัว จนทางศูนย์ต้องปิดตัวลงเนื่องจากกลัวว่าจะถูกโจมตีอีก ตอนนี้สัตว์ป่าในแอฟริกากำลังตกเป็นเป้าของกลุ่มนักล่าสัตว์อย่างมาก สัตว์ที่บาดเจ็บจากการถูกล่าจะถูกส่งตัวมารักษายังเขตรักษาพันธุ์สัตว์แห่งนี้ ดังนั้นการการคร่าชีวิตเจ้าสิงโต 2 ตัวนี้จึงเป็นเรื่องที่สะเทือนใจอย่างมาก José และ Liso สิงโตทั้งสองที่ถูกฆ่านั้นได้รับการช่วยเหลือมาจากกลุ่มละครสัตว์ผิดกฎหมายในประเทศเปรู และโคลัมเบีย เมื่อปี 2014 โดยหน่วยงาน Animal Defenders International…
-
เมื่อนายพรานออกไปล่าสัตว์ แต่กลับโดน ‘หมีดำ’ ไล่ล่าคืน จนเกือบเอาชีวิตไม่รอด!!
Richard Wesley วิศวกรหัวรถจักรจากเมือง Hearst รัฐ Onratio ประเทศแคนาดาได้ออกไปล่าสัตว์ในช่วงฤดูใบไม้ผลิด้วยธนูไม้ตัวโปรดของเขา แต่จู่ๆ เขาก็ต้องตกใจเมื่อได้พบกับเจ้าหมีสีดำตัวใหญ่กำลังเดินใกล้เข้ามา ในตอนแรก Richard ดูใจเย็นมาก ยืนอยู่นิ่งๆ เพื่อปล่อยให้เจ้าหมีเดินผ่านไป แต่อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าเจ้าหมีจะไม่ยอมทำตามที่เขาคิดไว้มันเริ่มเดินตรงเข้ามาทางที่เขายืนอยู่ Richard พยายามตะโกนเสียงดังเพื่อขู่ให้มันกลัว แต่กลับไม่เป็นผล เจ้าหมีกระโจนเข้าใส่เขา และที่ Richard ตอบโต้ก็คือใช้ธนูไม้นั้นปัดป้องการโจมตีของมัน การโจมตีของเจ้าหมีรุนแรงจนกล้องของเขาตกลงไปบนพื้น เหตุการณ์แห่งความเป็นความตายของนายพรานได้ดำเนินต่อไปอีกไม่นานก่อนที่เขาจะหนีพ้นจากมัน และรีบหยิบกล้องวิ่งหนีออกไปยังจุดที่ปลอดภัย ลองไปชมคลิปเหตุการณ์กันแบบเต็มๆ ที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า แหม่ เกือบไปแล้วมั้ยล่ะ แทนที่จะได้ไปล่าสัตว์กลับกลายเป็นโดนล่าซะเองเลย ที่มา : ladbible
-
นายพรานแอฟริกาเสียชีวิตคาที่ โดย “ช้าง” ตัวเดียวกับที่เขาเพิ่งจะล่าและยิงมันตายไป…
กิจกรรมล่าสัตว์ ยังคงเป็นอะไรที่นิยมและเกิดขึ้นอยู่เรื่อยๆ โดยเฉพาะในแถบแอฟริกา ซึ่งบางประเทศถือว่าเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวและสร้างรายได้ให้กับประเทศอย่างงาม แม้จะมีกลุ่มต้อต้านหรือกระแสสังคมออกมายังไง กิจกรรมดังกล่าวก็ยังคงดำเนินต่อไป แต่กิจกรรมดังกล่าวก็ไม่ได้มีแต่ความสนุกสนาน เพราะยังมีความเสี่ยง หลายครั้งที่เราเห็นข่าวการเสียชีวิตและสูญเสียเกิดขึ้น โดยคราวนี้ Simukai Nyash เจ้าหน้าที่ของ Zimparks ได้เล่าถึงเหตุการณ์เมื่อวันศุกร์ที่ 20 พฤษภาคม 2017 ว่า… Theunis Botha ชายชาวแอฟริกาใต้วัย 51 ปี ผู้นำกลุ่มนักล่าสัตว์ในประเทศซิมบับเว เขาได้เดินทางไปล่าช้างกันตามปกติ ระหว่างนั้นพวกเขาก็เจอกับช้าง 4 ตัว แน่นอนว่าพวกเขาก็ตั้งใจจะล่าพวกมันทั้งหมด แต่แล้วเมื่อพวกเขาเข้าไปยิงมันในระยะหวังผลพวกช้างกลับไม่เป็นอะไรแล้วหันมาเล่นงานพวกเขาแทน ในขณะที่พวกเขากำลังวุ่นๆ กับการยิงช้าง 3 ตัวที่เหลือ ช้างอีกตัวก็หายไปจากสายตาของ Theunis แต่ในเวลาไม่นานนักช้างก็โผล่ออกมาจากทางด้านข้างที่เป็นมุมอับสายตาพุ่งชนเขาเข้าอย่างจัง จากนั้นก็ยกตัวเขาขึ้นด้วยงวง Theunis จึงตัดสินใจใช้ปืนในมือยิงเข้าไปที่ช้างตัวดังกล่าวทันที และช้างตัวนั้นก้ต้องเสียชีวิตลง แต่นั่นกลับทำให้ช้างตัวดังกล่าวกลับล้มลงมาแล้วด้วยน้ำหนักของช้างมันจึงทับเขาอย่างจัง ด้วยเหตุนั้นเขาจึงเสียชีวิตในทันที และท้ายที่สุดศพของเขาก็ถูกส่งกลับไปยังโรงพยาบาล Hwange Colliery ในท้องถิ่นนั่นเอง เขาคือคนที่มีชื่อเสียงในกลุ่มนายพราน และผู้ชอบกิจกรรมล่าสัตว์ นอกจากช้างแล้ว กลุ่มของเขายังคงใช้สุนัขล่าเนื้อในการล่ากวางและเสือดาวอีกด้วย เขายังเป็นหนึ่งในผู้สร้างบริษัทที่เปิดบริการพานักท่องเที่ยวมาล่าสัตว์ด้วยรูปแบบ Monteira hunts หรือการใช้สุนัขล่าเนื้อต้อนสัตว์เข้ามาในเส้นทางที่ต้องการ…
-
นายพรานชาวแอฟริกาใต้ หายตัวอย่างลึกลับระหว่างล่าสัตว์ คาดว่าถูกจระเข้เขมือบแล้ว!?
การล่าสัตว์ถือว่าเป็นหนึ่งในกิจกรรมยอดฮิตของประเทศซิมบับแว่ ซึ่งผู้คนที่เดินทางไปส่วนใหญ่ก็เลือกที่จะทำกิจกรรมนี้กันบ่อยๆ ที่สำคัญทางการยังมีการออกใบอนุญาติและจัดพื้นที่ล่าให้อย่างถูกกฏหมายอีกด้วย Scott Van Zyl ชายวัย 44 ปีผู้มีลูกสองคนและภรรยาแสนสวย พร้อมกับเปิดกิจการพานักท่องเที่ยวออกไปล่าสัตว์ในแอฟริกาใต้ ที่อยู่ดีๆ วันหนึ่งเขาก็หายตัวไปอย่างน่าสงสัย เรื่องมันเริ่มจากวันหนึ่งเขาและคนแกะรอยได้ลงจากรถและเดินเข้าไปในพุ่มไม้ในทิศทางที่ต่างไปจากเส้นทางล่าสัตว์ปกติ แล้ววันต่อมาสุนัขของเขาก็กลับมาที่แคม์ปแต่ตัว Scott ไม่ได้กลับมาด้วย จะมีก็แต่ปืนไรเฟิลของเขาที่วางทิ้งไว้บนรถเท่านั้น หลังจากที่ทุกคนทราบว่า Scott หายตัวไปทีมกู้ภัยจึงรีบออกตามหาเขาทันที ไม่ว่าจะด้วยเฮลิคอปเตอร์ รถยนต์ รวมถึงทีมแกะรอย ทั้งหมดต่างพากันช่วยตามหาตัว Scott ในบริเวณอุทยานที่คาดว่าเขาหายไป ส่วนเพื่อนๆ ของเขาก็ช่วยกันนำโปสเตอร์ประกาศคนหายไปติดตามหมู่บ้านต่างๆ Scott มีลูกชาย 2 คน ซึ่งเขามาลูกๆ มาเที่ยวในซิมบับเว แต่เขากลับหายไปอย่างไม่น่าเชื่อ หลังจากการออกตามหาดำเนินการไปได้ระยะหนึ่ง ก็มีคนพบเข้ากับรอยเท้าของ Scott ซึ่งมันนำไปสู่แม่น้ำลิมโปโป และเมื่อตามรอยเท้าไปจนสุดสายพวกเขาก็พบเข้ากับกระเป๋าของเขาที่วางอยู่ใกล้ๆ กับรอยเท้า Sakkie Louwrens หนึ่งในทีมค้นหาบอกว่า ทางตำรวจสงสัยว่าเขาอาจจะถูกจระเข้กินไปแล้วก็เป็นได้ “พวกเราได้บังเอิญเจอเข้ากับซากศพของมนุษย์ในร่างของจระเข้สองตัวที่พวกเราจับมาได้” บริเวณแม่น้ำที่เขาหายตัวไปอย่างลึกลับ สุดท้ายชิ้นส่วนของศพที่ถูกพบในจระเข้ ก็กำลังถูกส่งไปตรวจเพื่อพิสูจน์หาหลักฐานกันต่อไป แต่จะใช้ร่างของเขาหรือไม่ ซึ่งมันต้องใช้เวลาพอสมควร…